ABOUT THE SPEAKER
Jason Fried - Software entrepreneur
Jason Fried thinks deeply about collaboration, productivity and the nature of work. He's the co-founder of 37signals, makers of Basecamp and other web-based collaboration tools, and co-author of "Rework."

Why you should listen

Jason Fried is the co-founder and president of 37signals , a Chicago-based company that builds web-based productivity tools that, in their words, "do less than the competition -- intentionally." 37signals' simple but powerful collaboration tools include Basecamp, Highrise, Backpack, Campfire, Ta-da List, and Writeboard. 37signals also developed and open-sourced the Ruby on Rails programming framework.

Fried is the co-author, with David Heinemeier Hansson, of the book Rework, about new ways to conceptualize working and creating. Salon's Scott Rosenberg called it "a minimalist manifesto that's profoundly practical. In a world where we all keep getting asked to do more with less, the authors show us how to do less and create more."

More profile about the speaker
Jason Fried | Speaker | TED.com
TEDxMidwest

Jason Fried: Why work doesn't happen at work

เจสัน ฟรายด์ : เหตุผลที่งานไม่ออกในที่ทำงาน

Filmed:
5,877,382 views

เจสัน ฟรายด์ มีทฤษฎีสุดขั้วเกี่ยวกับการทำงาน - ที่ทำงานไม่ใช่สถานที่ที่เหมาะสมสำหรัีบการทำงาน ใน TEDxMidwest เขาชี้ให้เห็นถึงปัญหาหลัก(ปัญหา เอ็มแอนด์เอ็ม) และสามข้อเสนอว่างานจะเป็นงานได้อย่างไร
- Software entrepreneur
Jason Fried thinks deeply about collaboration, productivity and the nature of work. He's the co-founder of 37signals, makers of Basecamp and other web-based collaboration tools, and co-author of "Rework." Full bio

Double-click the English transcript below to play the video.

00:15
So I'm going to talk about work,
0
0
2000
ผมกำลังจะพูดถึงเรื่อง "งาน" ครับ
00:17
specificallyเฉพาะ why people can't seemดูเหมือน
1
2000
2000
โดยเฉพาะประเด็นที่ว่า ทำไมคนเรา
00:19
to get work doneเสร็จแล้ว at work,
2
4000
2000
ถึงมีแนวโน้มทำงานให้เสร็จในที่ทำงานไม่ได้
00:21
whichที่ is a problemปัญหา we all kindชนิด of have.
3
6000
3000
ซึ่งก็เป็นปัญหาที่เราทุกคนมีเหมือนกัน
00:24
But let's, sortประเภท of, startเริ่มต้น at the beginningการเริ่มต้น.
4
9000
2000
ผมมาเริ่มพูดตั้งแต่ต้นเลยดีกว่า
00:26
So we have companiesบริษัท and non-profitsไม่หวังผลกำไร and charitiesองค์กรการกุศล
5
11000
3000
เรามีบริษัท องค์กรไม่แสวงกำไร และองค์กรการกุศล
00:29
and all these groupsกลุ่ม
6
14000
2000
กลุ่มเหล่านี้ล้วน
00:31
that have employeesพนักงาน
7
16000
2000
มีลูกจ้าง
00:33
or volunteersอาสาสมัคร of some sortประเภท.
8
18000
2000
อาสาสมัคร หรืออะไรทำนองนี้
00:35
And they expectคาดหวัง these people who work for them
9
20000
3000
เจ้าขององค์กรเหล่านี้ต่างคาดหวังว่าบุคคลเหล่านี้
00:38
to do great work --
10
23000
2000
จะทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม
00:40
I would hopeหวัง, at leastน้อยที่สุด.
11
25000
2000
ในความเห็นผมนะ อย่างน้อยๆ
00:42
At leastน้อยที่สุด good work, hopefullyหวังว่า, at leastน้อยที่สุด it's good work --
12
27000
2000
งานที่มอบหมายให้ควรจะออกมา
00:44
hopefullyหวังว่า great work.
13
29000
2000
ได้ดีในระดับหนึ่ง
00:46
And so what they typicallyเป็นปกติ do is they decideตัดสิน
14
31000
2000
ทีนี้สิ่งที่องค์กรเหล่านี้ทำ คือตัดสินใจว่า
00:48
that all these people need to come togetherด้วยกัน in one placeสถานที่
15
33000
2000
พนักงานและอาสาสมัครทั้งหมดต้องมาอยู่รวมกันในที่ที่เดียว
00:50
to do that work.
16
35000
2000
เพื่อทำงานที่ว่า
00:52
So a companyบริษัท, or a charityการกุศล, or an organizationองค์กร of any kindชนิด,
17
37000
3000
ดังนั้นบริษัท หรือองค์กรการกุศล หรือองค์กรประเภทไหนก็ตาม
00:55
they typicallyเป็นปกติ -- unlessเว้นแต่ you're workingการทำงาน in Africaแอฟริกา,
18
40000
2000
ปกติพวกเขา คือยกเว้นว่าคุณจะทำงานในแอฟริกา
00:57
if you're really luckyโชคดี to do that --
19
42000
2000
ถ้าคุณโชคดีมากที่จะทำงานที่นั่น
00:59
mostมากที่สุด people have to go to an officeสำนักงาน everyทุกๆ day.
20
44000
2000
พวกเขาจะบังคับให้ลูกจ้างไปสำนักงานทุกวัน
01:01
And so these companiesบริษัท,
21
46000
2000
เลยเป็นเหตุให้บริษัทเหล่านี้
01:03
they buildสร้าง officesสำนักงาน.
22
48000
2000
จัดการสร้างสำนักงาน
01:05
They go out and they buyซื้อ a buildingอาคาร, or they rentให้เช่า a buildingอาคาร,
23
50000
3000
ซื้อหรือทำสัญญาเช่าตึกต่างๆ
01:08
or they leaseเช่า some spaceช่องว่าง,
24
53000
2000
ไม่ก็เช่าเพียงพื้นที่บางส่วน
01:10
and they fillใส่ the spaceช่องว่าง with stuffสิ่ง.
25
55000
3000
แล้วก็เติมเต็มไปด้วยสิ่งของต่่างๆ
01:13
They fillใส่ it with tablesตาราง, or desksโต๊ะทำงาน,
26
58000
3000
ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะหนังสือ โต๊ะทำงาน
01:16
chairsเก้าอี้, computerคอมพิวเตอร์ equipmentอุปกรณ์,
27
61000
2000
เก้าอี้ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
01:18
softwareซอฟต์แวร์,
28
63000
2000
ซอฟต์แวร์
01:20
Internetอินเทอร์เน็ต accessทางเข้า,
29
65000
2000
อุปกรณ์เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
01:22
maybe a fridgeตู้เย็น, maybe a fewน้อย other things,
30
67000
3000
หรืออาจจะเป็นตู้เย็น หรืออะไรอีกหลายๆอย่าง
01:25
and they expectคาดหวัง theirของพวกเขา employeesพนักงาน, or theirของพวกเขา volunteersอาสาสมัคร,
31
70000
2000
เสร็จแล้วก็คาดหวังว่าพนักงานหรืออาสาสมัครของพวกเขา
01:27
to come to that locationที่ตั้ง everyทุกๆ day to do great work.
32
72000
3000
จะมาสถานที่นั้นๆทุกวัน เพื่อทำงานออกมาได้ยอดเยี่ยม
01:30
It seemsดูเหมือนว่า like it's perfectlyอย่างสมบูรณ์ reasonableเหมาะสม to askถาม that.
33
75000
3000
ฟังดูเป็นข้อเรียกร้องที่มีเหตุมีผลเต็มเปี่ยม
01:33
Howeverอย่างไรก็ตาม, if you actuallyแท้จริง talk to people
34
78000
2000
อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณได้ลองถามคนเหล่านั้น
01:35
and even questionคำถาม yourselfด้วยตัวคุณเอง,
35
80000
2000
หรือแม้แต่ตั้งคำถาม
01:37
and you askถาม yourselfด้วยตัวคุณเอง,
36
82000
2000
กับตัวคุณเองว่า
01:39
where do you really want to go when you really need to get something doneเสร็จแล้ว?
37
84000
3000
เมื่อคุณต้องทำบางสิ่งให้เสร็จจริงๆ คุณอยากไปที่ไหน
01:42
You'llคุณจะ find out that people don't say
38
87000
2000
คุณจะพบว่าคำตอบของคนเหล่านี้
01:44
what businessesธุรกิจ think they would say.
39
89000
2000
ไม่ได้เหมือนกับที่เจ้าขององค์กรทั้งหลายคิดไว้
01:46
If you askถาม people the questionคำถาม: where do you really need to go
40
91000
2000
ถ้าคุณถามพวกเขาว่า : "คุณต้องไปที่ไหน
01:48
when you need to get something doneเสร็จแล้ว?
41
93000
2000
เวลาที่คุณต้องการทำสิ่งใดๆให้เสร็จ?"
01:50
Typicallyเป็นปกติ you get threeสาม differentต่าง kindsชนิด of answersคำตอบ.
42
95000
2000
โดยทั่วไป คุณจะได้คำตอบหนึ่งในสามแบบ ดังนี้
01:52
One is kindชนิด of a placeสถานที่ or a locationที่ตั้ง or a roomห้อง.
43
97000
3000
แบบแรก คือประเภทของสถานที่หรือห้อง
01:55
Anotherอื่น one is a movingการเคลื่อนย้าย objectวัตถุ
44
100000
2000
แบบที่สอง คือสิ่งใดๆที่เคลื่อนที่ได้
01:57
and a thirdที่สาม is a time.
45
102000
2000
แบบที่สาม คือ ช่วงเวลาต่างๆ
01:59
So here'sนี่คือ some examplesตัวอย่าง.
46
104000
2000
ทีนี้มาดูตัวอย่างกัน
02:01
When I askถาม people -- and I've been askingถาม people this questionคำถาม for about 10 yearsปี --
47
106000
3000
เวลาที่ผมถามผู้คน ซึ่งผมถามคำถามนี้มาประมาณ 10 ปีแล้ว
02:04
I askถาม them, "Where do you go when you really need to get something doneเสร็จแล้ว?"
48
109000
2000
ผมถามว่า "คุณไปที่ไหนเวลาที่คุณต้องการทำอะไรให้เสร็จ?"
02:06
I'll hearได้ยิน things like, the porchระเบียง, the deckสำรับ,
49
111000
3000
ผมจะได้คำตอบจากคนกลุ่มหนึ่งว่า ระเบียง ดาดฟ้า
02:09
the kitchenครัว.
50
114000
2000
ห้องครัว
02:11
I'll hearได้ยิน things like an extraพิเศษ roomห้อง in the houseบ้าน,
51
116000
2000
ห้องเสริมในบ้าน
02:13
the basementชั้นใต้ดิน,
52
118000
2000
ห้องใต้ดิน
02:15
the coffeeกาแฟ shopร้านขายของ, the libraryห้องสมุด.
53
120000
3000
ร้านกาแฟ ห้องสมุด
02:18
And then you'llคุณจะ hearได้ยิน things like the trainรถไฟ,
54
123000
3000
แล้วก็มีคนอีกประเภทที่ตอบว่า ในรถไฟ
02:21
a planeเครื่องบิน, a carรถ -- so, the commuteทด.
55
126000
3000
เครื่องบิน รถยนต์ ยานพาหนะต่างๆ
02:24
And then you'llคุณจะ hearได้ยิน people say,
56
129000
2000
หรือประเภทสุดท้ายที่ตอบว่า
02:26
"Well, it doesn't really matterเรื่อง where I am,
57
131000
2000
"อืม... ที่จริงมันไม่สำคัญหรอกว่าผมอยู่ที่ไหน
02:28
as long as it's really earlyตอนต้น in the morningตอนเช้า or really lateสาย at night or on the weekendsวันหยุดสุดสัปดาห์."
58
133000
3000
ขอแค่เป็นช่วงเช้าตรู่ หรือกลางดึก ไม่ก็เป็นเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ก็โอเคแล้ว"
02:31
You almostเกือบจะ never hearได้ยิน someoneบางคน say the officeสำนักงาน.
59
136000
3000
คุณแทบจะไม่ได้ยินใครตอบว่า อยากทำงานให้เสร็จที่ "สำนักงาน"
02:34
But businessesธุรกิจ are spendingการใช้จ่าย all this moneyเงิน on this placeสถานที่ calledเรียกว่า the officeสำนักงาน,
60
139000
3000
แต่แล้วธุรกิจก็หมดเงินไปมากมายกับสถานที่ที่เรียกว่า "สำนักงาน"
02:37
and they're makingการทำ people go to it all the time,
61
142000
2000
ที่ๆทุกคนถูกบังคับให้ไปตลอดเวลา
02:39
yetยัง people don't do work in the officeสำนักงาน.
62
144000
3000
ทั้งๆที่พวกเขาก็ไม่ได้ทำงานในสำนักงาน
02:42
What is that about?
63
147000
2000
นี่มันเรื่องอะไรกัน?
02:44
Why is that?
64
149000
2000
ทำไมถึงเป็นแบบนี้?
02:46
Why is that happeningสิ่งที่เกิดขึ้น?
65
151000
3000
ทำไมถึงเกิดเรื่องนี้ขึ้น?
02:49
And what you find out is that, if you digขุด a little bitบิต deeperลึก,
66
154000
2000
ยิ่งผมขุดเรื่องนี้ลึกเท่าไหร่
02:51
you find out that people --
67
156000
2000
ก็ยิ่งพบว่าผู้คน
02:53
this is what happensที่เกิดขึ้น --
68
158000
2000
ขอบอกว่านี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริง
02:55
people go to work,
69
160000
2000
การที่ผู้คนไปทำงาน
02:57
and they're basicallyเป็นพื้น tradingการค้าขาย in theirของพวกเขา workdayวันทำงาน
70
162000
2000
จริงๆแล้ว ก็เพื่อเอา "วันทำงาน"
02:59
for a seriesชุด of "work momentsช่วงเวลา."
71
164000
2000
ไปแลกกับ "ชั่วขณะการทำงาน" ที่ติดกันเป็นช่วงๆ
03:01
That's what happensที่เกิดขึ้น at the officeสำนักงาน.
72
166000
2000
นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในที่ทำงาน
03:03
You don't have a workdayวันทำงาน anymoreอีกต่อไป. You have work momentsช่วงเวลา.
73
168000
2000
คุณไม่ได้มี "วันทำงาน" เต็มๆ มีแต่ "ชั่วขณะ" การทำงาน
03:05
It's like the frontด้านหน้า doorประตู of the officeสำนักงาน is like a CuisinartCuisinart,
74
170000
3000
ราวกับว่าประตูเข้าสำนักงานคือปากทางเข้าเครื่องบด
03:08
and you walkเดิน in and your day is shreddedหย็อง to bitsเกร็ด,
75
173000
2000
เมื่อคุณเดินเข้าไป 1 วันของคุณก็ถูกหั่นออกเป็นเสี่ยงๆ
03:10
because you have 15 minutesนาที here and 30 minutesนาที there,
76
175000
3000
มี 15 นาทีสำหรับตรงนี้ อีก 30 สำหรับตรงนั้น
03:13
and then something elseอื่น happensที่เกิดขึ้น and you're pulledดึง off your work,
77
178000
2000
เสร็จแล้วก็มีอะไรมาขัดจังหวะ คุณถูกดึงออกจากงาน
03:15
and you've got to do something elseอื่น, then you have 20 minutesนาที, then it's lunchอาหารกลางวัน.
78
180000
3000
แล้วก็ต้องไปทำอะไรอย่างอื่น เหลือ 20 นาที แล้วต่อด้วยพักเที่ยง
03:18
Then you have something elseอื่น to do.
79
183000
2000
พักเสร็จก็มีอย่างอื่นที่ต้องทำ
03:20
Then you've got 15 minutesนาที, and someoneบางคน pullsดึง you asideกัน and asksถาม you this questionคำถาม,
80
185000
3000
เสร็จแล้วก็ไปทำงานต่ออีก 15 นาที แล้วก็มีคนดึงตัวไปถามคำถาม
03:23
and before you know it, it's 5 p.m.,
81
188000
3000
เผลอแป๊ปเดียว ก็ 5 โมงเย็นแล้ว
03:26
and you look back on the day,
82
191000
2000
เมื่อคุณทบทวนการใช้เวลาวันนี้
03:28
and you realizeตระหนักถึง that you didn't get anything doneเสร็จแล้ว.
83
193000
2000
ก็เพิ่งมารู้ตัวว่ายังทำอะไรไม่เสร็จสักอย่าง
03:30
I mean, we'veเราได้ all been throughตลอด this.
84
195000
2000
พวกเราทุกคนมีประสบการณ์แบบนี้กันทั้งนั้น
03:32
We probablyอาจ wentไป throughตลอด it yesterdayเมื่อวาน,
85
197000
2000
เราอาจจะเพิ่งเจอสดๆ ร้อนๆ เมื่อวานนี้
03:34
or the day before, or the day before that.
86
199000
2000
หรือวานซืน หรือวันก่อนหน้านั้น
03:36
You look back on your day, and you're like, I got nothing doneเสร็จแล้ว todayในวันนี้.
87
201000
3000
คุณมองย้อนกลับไปแล้วบ่นกับตัวเองว่า "เซ็งจริง...วันนี้ทำอะไรไม่เสร็จเลย"
03:39
I was at work.
88
204000
2000
ผมเคยอยู่ที่ทำงาน
03:41
I satกกท. at my deskเคาน์เตอร์. I used my expensiveแพง computerคอมพิวเตอร์.
89
206000
3000
นั่งอยู่ที่โต๊ะ ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ราคาแพง
03:44
I used the softwareซอฟต์แวร์ they told me to use.
90
209000
2000
ใช้ซอฟต์แวร์ที่บริษัทบอกให้ผมใช้
03:46
I wentไป to these meetingsการประชุม I was askedถาม to go to.
91
211000
3000
เข้าประชุมตามที่เจ้านายสั่ง
03:49
I did these conferenceการประชุม callsโทร. I did all this stuffสิ่ง.
92
214000
2000
ผมประชุมผ่านโทรศัพท์ทางไกล ผมทำเรื่องพวกนี้มาหมดแล้ว
03:51
But I didn't actuallyแท้จริง do anything.
93
216000
3000
ในขณะที่ผมไม่ได้ทำอะไรเสร็จเป็นชิ้นเป็นอันเลย
03:54
I just did tasksงาน.
94
219000
2000
ผมแค่ทำสิ่งที่ต้องทำ
03:56
I didn't actuallyแท้จริง get meaningfulมีความหมาย work doneเสร็จแล้ว.
95
221000
2000
แต่ทำงานที่มีความหมายจริงๆ ไม่เสร็จเลย
03:58
And what you find is that, especiallyโดยเฉพาะอย่างยิ่ง with creativeความคิดสร้างสรรค์ people --
96
223000
3000
ทีนี้ สิ่งที่คุณจะพบ โดยเฉพาะสำหรับคนที่มีหัวคิดสร้างสรรค์
04:01
designersนักออกแบบ, programmersโปรแกรมเมอร์,
97
226000
2000
นักออกแบบ นักเขียนโปรแกรม
04:03
writersนักเขียน, engineersวิศวกร,
98
228000
2000
นักเขียน วิศวกร
04:05
thinkersนักคิด --
99
230000
2000
หรือนักคิด
04:07
that people really need
100
232000
2000
ก็คือคนเหล่านี้ต้องการ
04:09
long stretchesเหยียด of uninterruptedไม่ขาดสาย time to get something doneเสร็จแล้ว.
101
234000
3000
ช่วงเวลานานๆที่ไม่มีอะไรมาขัดจังหวะ เพื่อทำงานให้เสร็จสมบูรณ์
04:12
You cannotไม่ได้ askถาม somebodyบางคน to be creativeความคิดสร้างสรรค์ in 15 minutesนาที
102
237000
3000
เป็นไปไม่ได้ที่คุณขอจะให้ใครสร้างสรรค์ความคิดภายใน 15 นาที
04:15
and really think about a problemปัญหา.
103
240000
2000
เพราะเวลาแค่นั้นไม่พอให้คิดจริงจังเกี่ยวกับปัญหาด้วยซ้ำ
04:17
You mightอาจ have a quickรวดเร็ว ideaความคิด,
104
242000
2000
จริงอยู่ คุณอาจจะมีวาบความคิด
04:19
but to be in deepลึก thought about a problemปัญหา and really considerพิจารณา a problemปัญหา carefullyรอบคอบ,
105
244000
3000
แต่การที่จะครุ่นคิดอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับปัญหา และมองมันอย่างรอบคอบจริงๆ
04:22
you need long stretchesเหยียด of uninterruptedไม่ขาดสาย time.
106
247000
3000
คุณต้องใช้ช่วงเวลายาวๆ ที่ไม่มีอะไรมารบกวน
04:25
And even thoughแม้ the workdayวันทำงาน is typicallyเป็นปกติ eightแปด hoursชั่วโมง,
107
250000
3000
ถึงแม้ว่าวันทำงานปกติต่อวันมีแปดชั่วโมง
04:28
how manyจำนวนมาก people here have ever had eightแปด hoursชั่วโมง to themselvesตัวเอง at the officeสำนักงาน?
108
253000
3000
ในที่นี้ มีใครบ้างครับที่มีเวลาแปดชั่วโมงเป็นของตัวเองในที่ทำงาน?
04:31
How about sevenเจ็ด hoursชั่วโมง?
109
256000
2000
เจ็ดชั่วโมงมีไหมครับ?
04:33
Sixหก? Fiveห้า? Fourสี่?
110
258000
3000
หก? ห้า? สี่?
04:36
When'sเมื่อของ the last time you had threeสาม hoursชั่วโมง to yourselfด้วยตัวคุณเอง at the officeสำนักงาน?
111
261000
3000
ครั้งสุดท้ายที่คุณมีเวลาสามชั่วโมงเป็นของตัวเองที่ทำงานคือเมื่อไหร่?
04:39
Two hoursชั่วโมง? One, maybe?
112
264000
2000
สองชั่วโมง? บางทีคุณอาจมีแค่ชั่วโมงเดียว
04:41
Very, very fewน้อย people actuallyแท้จริง have
113
266000
2000
มีคนจำนวนน้อยมากๆ ที่จะมี
04:43
long stretchesเหยียด of uninterruptedไม่ขาดสาย time at an officeสำนักงาน.
114
268000
3000
ช่วงเวลายาวๆ ที่ไม่ถูกขัดจังหวะในที่ทำงาน
04:46
And this is why people chooseเลือก to do work at home,
115
271000
3000
นี่คือเหตุผลที่ผู้คนเลือกที่จะทำงานที่บ้าน
04:49
or they mightอาจ go to the officeสำนักงาน,
116
274000
2000
หรือพวกเขาอาจเลือกไปสำนักงานก็ได้
04:51
but they mightอาจ go to the officeสำนักงาน really earlyตอนต้น in the day,
117
276000
2000
แต่จะต้องไปถึงตั้งแต่ตอนเช้ามืด
04:53
or lateสาย at night when no one'sหนึ่งคือ around,
118
278000
2000
หรือดึกดื่น ตอนที่ไม่มีใึครอยู่
04:55
or they stickติด around after everyone'sทุกคน left, or they go in on the weekendsวันหยุดสุดสัปดาห์,
119
280000
3000
หรือทำงานต่อหลังจากที่ทุกคนกลับไปแล้ว หรือไปทำงานวันหยุดสุดสัปดาห์
04:58
or they get work doneเสร็จแล้ว on the planeเครื่องบิน,
120
283000
2000
ไม่ก็ทำงานบนเครื่องบิน
05:00
or they get work doneเสร็จแล้ว in the carรถ or in the trainรถไฟ
121
285000
2000
ทำงานเสร็จในรถ หรือบนรถไฟ
05:02
because there are no distractionsรบกวน.
122
287000
2000
เพราะไม่มีใครมาทำให้เสียสมาธิ
05:04
Now, there are differentต่าง kindsชนิด of distractionsรบกวน,
123
289000
2000
ปัจจุบันสิ่งที่เบี่ยงเบนความสนใจมีหลายประเภท
05:06
but there aren'tไม่ได้ the really badไม่ดี kindsชนิด of distractionsรบกวน
124
291000
2000
ซึ่งที่ผมกำลังจะพูดต่อไปนี้
05:08
that I'll talk about in just a minuteนาที.
125
293000
2000
ยังไม่ใช่ประเภทที่แย่มากๆ
05:10
And this sortประเภท of wholeทั้งหมด phenomenonปรากฏการณ์
126
295000
2000
กิจกรรมทำนองนี้
05:12
of havingมี shortสั้น burstsระเบิด of time to get things doneเสร็จแล้ว
127
297000
2000
ที่เรามีเวลาเพียงช่วงสั้นๆ ที่จะทำอะไรให้เสร็จ
05:14
remindsแจ้งเตือน me of anotherอื่น thing
128
299000
2000
ทำให้ผมนึกถึงกิจกรรมอีกอย่างหนึ่ง
05:16
that doesn't work when you're interruptedขัดจังหวะ,
129
301000
2000
ที่จะไม่ได้มีผลถ้าเพียงคุณถูกรบกวน
05:18
and that is sleepนอน.
130
303000
2000
นั่นคือ "การนอน"
05:20
I think that sleepนอน and work are very closelyอย่างใกล้ชิด relatedที่เกี่ยวข้อง,
131
305000
2000
ผมคิดว่า การนอนกับการทำงานนั้นใกล้เคียงกันมาก
05:22
and it's not just that you can work while you're sleepingนอนหลับ
132
307000
2000
ไม่ใช่เพราะว่าคุณทำงานตอนหลับได้
05:24
and you can sleepนอน while you're workingการทำงาน.
133
309000
2000
หรือหลับตอนทำงานได้
05:26
That's not really what I mean.
134
311000
2000
ไม่ใช่อย่างงั้นนะครับ
05:28
I'm talkingการพูด specificallyเฉพาะ about the factความจริง
135
313000
2000
ผมกำลังพูดถึงข้อเท็จจริงที่ว่า
05:30
that sleepนอน and work
136
315000
2000
การนอนกับการทำงานนั้น
05:32
are phased-basedจะค่อย ๆ ตาม,
137
317000
2000
เป็นกิจกรรมที่ต้องใช้ห้วงเวลา
05:34
or stage-basedตามขั้นตอน, eventsเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น.
138
319000
2000
หรือช่วงเวลาเป็นหลัก
05:37
So sleepนอน is about sleepนอน phasesขั้นตอน, or stagesขั้นตอน --
139
322000
3000
การนอนหลับเป็นเรื่องของช่วงหรือระยะเวลา
05:40
some people call them differentต่าง things.
140
325000
2000
อาจเรียกไม่เหมือนกัน
05:42
There's fiveห้า of them,
141
327000
2000
นั่นคือ ช่วงการนอนมีห้าช่วง
05:44
and in orderใบสั่ง to get to the really deepลึก onesคน, the really meaningfulมีความหมาย onesคน,
142
329000
3000
การจะไปให้ถึงระยะที่หลับลึกที่สุด ระยะที่มีประโยชน์จริงๆ
05:47
you have to go throughตลอด the earlyตอนต้น onesคน.
143
332000
2000
คุณก็จะต้องผ่านช่วงแรกๆ ไปให้ได้ก่อน
05:49
And if you're interruptedขัดจังหวะ while you're going throughตลอด the earlyตอนต้น onesคน --
144
334000
2000
ถ้าคุณถูกขัดจังหวะในขณะที่กำลังอยู่ในระยะแรกๆ
05:51
if someoneบางคน bumpsกระแทก you in bedเตียง,
145
336000
2000
สมมติถ้ามีใครกลิ้งมาโดนคุณตอนนอน
05:53
or if there's a soundเสียง, or whateverอะไรก็ตาม happensที่เกิดขึ้น --
146
338000
3000
หรือมีเสียงรบกวน หรืออะไรก็ตามแต่
05:56
you don't just pickเลือก up where you left off.
147
341000
2000
คุณจะหลับต่อจากจุดเดิมไม่ได้
05:58
If you're interruptedขัดจังหวะ and wokenตื่น up,
148
343000
2000
ถ้าคุณถูกขัดจังหวะจนตื่น
06:00
you have to startเริ่มต้น again.
149
345000
2000
คุณก็จะต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่
06:02
So you have to go back a fewน้อย phasesขั้นตอน and startเริ่มต้น again.
150
347000
3000
ถอยไปหลายช่วงและเริ่มต้นใหม่
06:05
And what endsปลาย up happeningสิ่งที่เกิดขึ้น -- sometimesบางครั้ง you mightอาจ have daysวัน like this
151
350000
2000
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือ บางทีคุณเจอเหตุการณ์แบบนี้
06:07
where you wakeปลุก up at eightแปด in the morningตอนเช้า, or sevenเจ็ด in the morningตอนเช้า,
152
352000
2000
แล้วตื่นเช้ามาตอน 7-8 โมง
06:09
or wheneverเมื่อไรก็ตาม you get up,
153
354000
2000
หรือสายกว่านั้น
06:11
and you're like, man, I didn't really sleepนอน very well.
154
356000
2000
แล้วรู้สึกว่า "โหย...เมื่อคืนนอนไม่เต็มอิ่มเลย"
06:13
I did the sleepนอน thing -- I wentไป to bedเตียง, I laidได้ปล่อยแล้ว down --
155
358000
3000
ฉันพยายามหลับ พยายามข่มตานอน
06:16
but I didn't really sleepนอน.
156
361000
2000
แต่ไม่ได้นอนหลับจริงๆ
06:18
People say you go to sleepนอน,
157
363000
3000
เราใช้คำว่า ไปหลับ
06:21
but you really don't go to sleepนอน, you go towardsไปทาง sleepนอน.
158
366000
2000
แต่เราไม่ได้หลับในทันที เรากำลังเดินทางไปยังจุดนั้น
06:23
It just takes a while. You've got to go throughตลอด these phasesขั้นตอน and stuffสิ่ง,
159
368000
3000
การหลับต้องใช้เวลา คุณต้องผ่านช่วงต่างๆ
06:26
and if you're interruptedขัดจังหวะ, you don't sleepนอน well.
160
371000
2000
และถ้าคุณถูกขัดจังหวะ คุณก็จะนอนไม่พอ
06:28
So how do we expectคาดหวัง -- does anyoneใคร ๆ here expectคาดหวัง someoneบางคน to sleepนอน well
161
373000
2000
ทีนี้เราจะคาดหวังอะไรได้ มีใครไหมครับที่คิดว่าคนที่ถูกขัดจังหวะ
06:30
if they're interruptedขัดจังหวะ all night?
162
375000
2000
ตลอดทั้งคืนจะหลับดีได้? มีมั้ยครับ?
06:32
I don't think anyoneใคร ๆ would say yes.
163
377000
2000
ผมไม่คิดว่าใครจะตอบว่า "ได้" ใช่มั้ยครับ
06:34
Why do we expectคาดหวัง people to work well
164
379000
2000
แล้วทำไมเราถึงไปคาดหวังว่าคนที่ถูกขัดจังหวะ
06:36
if they're beingกำลัง interruptedขัดจังหวะ all day at the officeสำนักงาน?
165
381000
2000
ตลอดทั้งวันในที่ทำงานจะทำงานออกมาได้ดี?
06:38
How can we possiblyอาจ expectคาดหวัง people to do theirของพวกเขา jobงาน
166
383000
3000
เราจะคาดหวังให้คนทำงานของตัวเองได้อย่างไร
06:41
if they're going to the officeสำนักงาน to be interruptedขัดจังหวะ?
167
386000
2000
ถ้าพวกเขาไปสำนักงานเพื่อถูกขัดจังหวะ?
06:43
That doesn't really seemดูเหมือน like it makesยี่ห้อ a lot of senseความรู้สึก to me.
168
388000
3000
ผมรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ค่อยมีเหตุมีผลเลย
06:46
So what are these interruptionsการหยุดชะงัก that happenเกิดขึ้น at the officeสำนักงาน
169
391000
2000
ทีนี้ มีการขัดจังหวะแบบไหนบ้างที่เกิดขึ้นในที่ทำงาน
06:48
that don't happenเกิดขึ้น at other placesสถานที่?
170
393000
2000
แต่ไม่เกิดที่อื่น?
06:50
Because in other placesสถานที่, you can have interruptionsการหยุดชะงัก,
171
395000
2000
เพราะที่อื่น สิ่งที่สามารถก่อกวนคุณจะเป็นพวก
06:52
like, you can have the TVโทรทัศน์,
172
397000
2000
ทีวีที่เปิดอยู่
06:54
or you could go for a walkเดิน,
173
399000
2000
การทีี่คุณอยากออกไปเดินเล่น
06:56
or there's a fridgeตู้เย็น downstairsข้างล่าง,
174
401000
2000
หรือการมีตู้เย็นอยู่ชั้นล่าง
06:58
or you've got your ownด้วยตัวเอง couchที่นอน, or whateverอะไรก็ตาม you want to do.
175
403000
3000
อยากนอนบนโซฟานุ่มๆ หรืออะไรก็ตามที่คุณอยากทำ
07:01
And if you talk to certainบาง managersผู้จัดการ,
176
406000
2000
และถ้าคุณได้คุยเรื่องนี้กับผู้จัดการบางคน
07:03
they'llพวกเขาจะ tell you that they don't want theirของพวกเขา employeesพนักงาน to work at home
177
408000
3000
พวกเขาจะบอกว่าเหตุผลที่ไม่อยากให้พนักงานทำงานที่บ้าน
07:06
because of these distractionsรบกวน.
178
411000
2000
ก็เพราะกลัวสิ่งขัดจังหวะเหล่านี้
07:08
They'llพวกเขาจะ alsoด้วย say --
179
413000
2000
หรือบางที
07:10
sometimesบางครั้ง they'llพวกเขาจะ alsoด้วย say,
180
415000
2000
พวกเขาอาจจะแย้งว่า
07:12
"Well, if I can't see the personคน, how do I know they're workingการทำงาน?"
181
417000
2000
"แหม...ถ้าผมมองไม่เห็นพนักงาน ผมจะรู้ได้ยังไงว่าพวกเขาทำงานอยู่?"
07:14
whichที่ is ridiculousไร้สาระ, of courseหลักสูตร, but that's one of the excusesข้อแก้ตัว that managersผู้จัดการ give.
182
419000
3000
ซึ่งแน่นอนครับว่าไร้สาระ แต่นี่คือข้ออ้างข้อหนึ่งที่ผู้จัดการเขาใช้กัน
07:17
And I'm one of these managersผู้จัดการ.
183
422000
2000
ผมก็เป็นหนึ่งในผู้จัดการแบบนั้นเหมือนกัน
07:19
I understandเข้าใจ. I know how this goesไป.
184
424000
2000
ผมเข้าใจดี ผมเข้าใจหัวอกผู้จัดการ
07:21
We all have to improveปรับปรุง on this sortประเภท of thing.
185
426000
2000
พวกเราทุกคนต้องปรับปรุงเหตุการณ์แบบนี้
07:23
But oftentimesอาจเกิด they'llพวกเขาจะ citeอ้างอิง distractionsรบกวน.
186
428000
2000
แต่ผู้จัดการมักจะยกสิ่งขัดจังหวะเป็นข้ออ้าง
07:25
"I can't let someoneบางคน work at home.
187
430000
2000
"ผมปล่อยให้ลูกจ้างทำงานที่บ้านไม่ได้หรอก
07:27
They'llพวกเขาจะ watch TVโทรทัศน์. They'llพวกเขาจะ do this other thing."
188
432000
2000
ไม่งั้น พวกเขาคงจะดูทีวี หรือทำอย่างอื่นไปด้วย"
07:29
It turnsผลัดกัน out that those aren'tไม่ได้ the things that are really distractingซึ่งทำให้วอกแวก.
189
434000
3000
แต่เอาเข้าจริง สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่ขัดจังหวะเราหรอก
07:32
Because those are voluntaryสมัครใจ distractionsรบกวน.
190
437000
2000
เพราะมันเป็นสิ่งที่พวกเรา "สมัครใจ" ให้ขัดจังหวะ
07:34
You decideตัดสิน when you want to be distractedวอกแวก by the TVโทรทัศน์.
191
439000
2000
คุณตัดสินใจเอาเองว่าจะอยากให้ทีวีขัดจังหวะตอนไหน
07:36
You decideตัดสิน when you want to turnกลับ something on.
192
441000
2000
ตัดสินใจเองว่าจะเปิดอะไรเมื่อไหร่
07:38
You decideตัดสิน when you want to go downstairsข้างล่าง or go for a walkเดิน.
193
443000
3000
ตัดสินใจว่าจะลงไปข้างล่างหรือไปเดินเล่นกี่โมง
07:41
At the officeสำนักงาน, mostมากที่สุด of the interruptionsการหยุดชะงัก and distractionsรบกวน
194
446000
2000
แต่ที่ทำงาน สิ่งที่ขัดจังหวะและเบี่ยงเบนความสนใจส่วนใหญ่
07:43
that really causeสาเหตุ people not to get work doneเสร็จแล้ว
195
448000
2000
ตัวการที่ทำให้คนทำงานไม่เสร็จจริงๆ
07:45
are involuntaryไม่ได้ตั้งใจ.
196
450000
2000
ล้วนไม่ได้เกิดขึ้นโดยสมัครใจ
07:47
So let's go throughตลอด a coupleคู่ of those.
197
452000
3000
ลองมาดูตัวอย่างสองสามเรื่องกันนะครับ
07:50
Now, managersผู้จัดการ and bossesผู้บังคับบัญชา
198
455000
2000
เรื่องแรก ผู้จัดการและเจ้านายทั้งหลาย
07:52
will oftenบ่อยครั้ง have you think that the realจริง distractionsรบกวน at work
199
457000
3000
มักจะทำให้คุณเชื่อว่าสิ่งที่ขัดจังหวะจริงๆ ณ ที่ทำงาน
07:55
are things like FacebookFacebook and Twitterพูดเบาและรวดเร็ว
200
460000
3000
คือ การเล่นเฟซบุค ทวิตเตอร์
07:58
and YouTubeYouTube and other websitesเว็บไซต์,
201
463000
3000
วีดีโอยูทูป และเว็บไซต์อื่นๆ
08:01
and in factความจริง, they'llพวกเขาจะ go so farห่างไกล
202
466000
2000
ซึ่งพวกเขาลงมือจัดการเป็นเรื่องเป็นราว
08:03
as to actuallyแท้จริง banห้าม these sitesเว็บไซต์ at work.
203
468000
2000
ถึงขนาดสั่งแบนเว็บเหล่านี้ในสำนักงาน
08:05
Some of you mayอาจ work at placesสถานที่ where you can't get to these certainบาง sitesเว็บไซต์.
204
470000
3000
พวกคุณบางคนอาจทำงานในองค์กรที่เข้าเว็บเหล่านี้ไม่ได้
08:08
I mean, is this Chinaประเทศจีน? What the hellนรก is going on here?
205
473000
3000
โทษนะ เราอยู่เมืองจีนกันเหรอครับ? เป็นบ้าอะไรกันนี่?
08:11
You can't go to a websiteเว็บไซต์ at work,
206
476000
2000
คุณเข้าเว็บไซต์ที่ทำงานไม่ได้
08:13
and that's the problemปัญหา, that's why people aren'tไม่ได้ gettingได้รับ work doneเสร็จแล้ว,
207
478000
2000
และนั่นถูกมองว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้คนทำงานไม่เสร็จเหรอ?
08:15
because they're going to FacebookFacebook and they're going to Twitterพูดเบาและรวดเร็ว?
208
480000
2000
เพราะพวกเขาเล่นเฟซบุคกับทวิตเตอร์เนี่ยนะ?
08:17
That's kindชนิด of ridiculousไร้สาระ. It's a totalทั้งหมด decoyล่อ.
209
482000
3000
ค่อนข้างไร้สาระนะครับ พวกนี้จริงๆเป็นแค่นกต่อเท่านั้น
08:22
And today'sของวันนี้ FacebookFacebook and Twitterพูดเบาและรวดเร็ว and YouTubeYouTube,
210
487000
2000
ทุกวันนี้เฟซบุค ทวิตเตอร์ และยูทูบ
08:24
these things are just modern-dayสมัยใหม่ smokeควัน breaksแบ่ง.
211
489000
3000
เปรียบได้กับการพักสูบบุหรี่สมัยใหม่
08:27
No one caredได้รับการดูแล about lettingการปล่อย people take a smokeควัน breakหยุด for 15 minutesนาที
212
492000
2000
ถ้าเป็นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ไม่มีใครสนใจเรื่องพนักงาน
08:29
10 yearsปี agoมาแล้ว,
213
494000
2000
ขอพัก 15 นาทีเพื่อไปสูบบุหรี่หรอก
08:31
so why does everyoneทุกคน careการดูแล about someoneบางคน going to FacebookFacebook here and there,
214
496000
2000
แล้วทำไมเราถึงต้องใส่ใจล่ะครับว่ามีใครเข้าใช้เฟซบุค
08:33
or Twitterพูดเบาและรวดเร็ว here and there, or YouTubeYouTube here and there?
215
498000
2000
เล่นทวิตเตอร์ หรือดูวีดีโอยูทูบเป็นระยะๆ
08:35
Those aren'tไม่ได้ the realจริง problemsปัญหาที่เกิดขึ้น in the officeสำนักงาน.
216
500000
3000
พฤติกรรมเหล่านี้ไม่ใช่ปัญหาที่แท้จริงในสำนักงาน
08:38
The realจริง problemsปัญหาที่เกิดขึ้น are what I like to call
217
503000
2000
ปัญหาที่แท้จริงคือสิ่งที่ผมเรียกว่า
08:40
the M&Msนางสาว,
218
505000
2000
ปัญหาเอ็มแอนด์เอ็ม
08:42
the Managersผู้จัดการ and the Meetingsการประชุม.
219
507000
2000
นั่นก็คือ ผู้จัดการ (แมเนเจอร์) และการประชุม (มีตติ้ง)
08:44
Those are the realจริง problemsปัญหาที่เกิดขึ้น in the modernทันสมัย officeสำนักงาน todayในวันนี้.
220
509000
3000
สองอย่างนี้ต่างหากที่เป็นปัญหาที่แท้จริงในสำนักงานสมัยนี้
08:47
And this is why things don't get doneเสร็จแล้ว at work --
221
512000
3000
เป็นตัวการหลักที่ทำให้ผู้คนทำงานไม่เสร็จในที่ทำงาน
08:50
it's because of the M&Msนางสาว.
222
515000
2000
ทั้งหมดก็คือ เอ็มแอนด์เอ็มเนี่ยแหละ
08:52
Now what's interestingน่าสนใจ is,
223
517000
2000
ที่น่าสนใจคือ
08:54
if you listen to all the placesสถานที่ that people talk about doing work --
224
519000
3000
ถ้าคุณฟังที่หลายๆคนพูดถึงสถานที่ที่ทำงานๆได้ดี
08:57
like at home, or in a carรถ, or on a planeเครื่องบิน,
225
522000
2000
อย่างที่บ้าน ในรถ หรือบนเครื่องบิน
08:59
or lateสาย at night, or earlyตอนต้น in the morningตอนเช้า --
226
524000
2000
กลางดึก หรือเช้ามืด
09:01
you don't find managersผู้จัดการ and meetingsการประชุม.
227
526000
2000
จะเห็นได้ว่า เหล่านั้นคือที่ที่ไม่มีผู้จัดการ และไม่มีการประชุม
09:03
You find a lot of other distractionsรบกวน, but you don't find managersผู้จัดการ and meetingsการประชุม.
228
528000
3000
มีสิ่งที่สามารถขัดจังหวะหลายอย่าง แต่ไม่มีผู้จัดการและการประชุม
09:06
So these are the things that you don't find elsewhereที่อื่น ๆ,
229
531000
3000
ฉะนั้น สองสิ่งนี้คือสิ่งที่คุณไม่พบเจอที่ไหนเลย
09:09
but you do find at the officeสำนักงาน.
230
534000
3000
เว้นแต่ในที่ทำงาน
09:12
And managersผู้จัดการ are basicallyเป็นพื้น people
231
537000
2000
ที่จริงผู้จัดการคือคนที่
09:14
whoseใคร jobงาน it is to interruptขัดขวาง people.
232
539000
2000
มีหน้าที่ขัดจังหวะลูกน้อง
09:16
That's prettyน่ารัก much what managersผู้จัดการ are for. They're for interruptingขัดจังหวะ people.
233
541000
3000
การขัดจังหวะผู้อื่นคืองานหลักของผู้จัดการ
09:19
They don't really do the work,
234
544000
2000
พวกเขาไม่ได้ลงมือทำงานเอง
09:21
so they have to make sure everyoneทุกคน elseอื่น is doing the work, whichที่ is an interruptionการหยุดชะงัก.
235
546000
3000
ฉะนั้นพวกเขาจึงต้องมั่นใจให้ได้ว่าคนอื่นกำลังทำงาน นั่นก็คือ การเข้าไปขัดจังหวะ
09:24
And we have a lot of managersผู้จัดการ in the worldโลก now,
236
549000
2000
ตอนนี้โลกเราก็มีผู้จัดการเยอะมาก
09:26
and there's a lot of people in the worldโลก now,
237
551000
2000
และผู้คนก็เยอะมากเช่นกัน
09:28
and there's a lot of interruptionsการหยุดชะงัก in the worldโลก now because of these managersผู้จัดการ.
238
553000
2000
มีการขัดจังหวะเกิดขึ้นเยอะมากในโลกเพราะผู้จัดการพวกนี้
09:30
They have to checkตรวจสอบ in: "Hey, how'sวิธีการคือ it going?
239
555000
2000
พวกเขาต้องคอยมาถามว่า "ว่าไง เป็นยังไงบ้าง?
09:32
Showแสดง me what's up," and this sortประเภท of thing
240
557000
2000
ขอดูหน่อยว่าทำถึงไหนแล้ว" และอื่นๆ ทำนองนี้
09:34
and they keep interruptingขัดจังหวะ you at the wrongไม่ถูกต้อง time,
241
559000
2000
พวกเขาชอบขัดคุณในจังหวะที่ผิด
09:36
while you're actuallyแท้จริง tryingพยายาม to do something they're payingการจ่ายเงิน you to do,
242
561000
3000
พวกเขาก็จะมาขัดจังหวะเวลาที่คุณกำลังพยายามทำอะไรสักอย่าง
09:39
they tendมีแนวโน้ม to interruptขัดขวาง you.
243
564000
2000
ที่พวกเขาจ้างคุณทำ
09:41
That's kindชนิด of badไม่ดี.
244
566000
2000
ค่อนข้างแย่นะครับ
09:43
But what's even worseแย่ลง is the thing that managersผู้จัดการ do mostมากที่สุด of all,
245
568000
3000
แต่ที่แย่กว่านั้นอีกคือ สิ่งที่ผู้จัดการทำมาตลอด
09:46
whichที่ is call meetingsการประชุม.
246
571000
2000
นั่นคือ การเรียกประชุม
09:48
And meetingsการประชุม are just toxicเป็นพิษ,
247
573000
2000
การประชุมเป็นของมีพิษ
09:50
terribleน่ากลัว, poisonousเป็นพิษ things
248
575000
3000
ของที่แย่มากและปล่อยพิษ
09:53
duringในระหว่าง the day at work.
249
578000
2000
ระหว่างวันทำงาน
09:55
We all know this to be trueจริง,
250
580000
3000
เราทุกคนรู้ว่านี่คือเรื่องจริง
09:58
and you would never see a spontaneousโดยธรรมชาติ meetingการประชุม calledเรียกว่า by employeesพนักงาน.
251
583000
2000
ไม่มีวันหรอกที่คุณจะเห็นพนักงานเรียกประชุมด่วน
10:00
It doesn't work that way.
252
585000
2000
พนักงานไม่ได้มีอำนาจนั้น
10:02
The managerผู้จัดการ callsโทร the meetingการประชุม
253
587000
2000
ผู้จัดการคือคนที่เรียก
10:04
so the employeesพนักงาน can all come togetherด้วยกัน,
254
589000
2000
เพื่อให้พนักงานมารวมตัวกัน
10:06
and it's an incrediblyเหลือเชื่อ disruptiveซึ่งทำให้ยุ่ง thing to do to people --
255
591000
2000
และสิ่งที่ขัดจังหวะคนที่ทำงานอยู่อย่างรุนแรง
10:08
is to say, "Hey look,
256
593000
2000
คือการประกาศว่า "เอาล่ะ
10:10
we're going to bringนำมาซึ่ง 10 people togetherด้วยกัน right now and have a meetingการประชุม.
257
595000
3000
เรียกคนมาให้ครบ 10 คน เพื่อประชุมกันเดี๋ยวนี้...
10:13
I don't careการดูแล what you're doing.
258
598000
2000
ผมไม่สนใจว่าพวกคุณกำลังทำอะไรอยู่
10:15
Just, you've got to stop doing what you're doing, so you can have this meetingการประชุม."
259
600000
3000
แต่คุณต้องหยุดสิ่งที่คุณกำลังทำ เราจะได้ประชุมหารือกัน"
10:18
I mean, what are the chancesโอกาส that all 10 people are readyพร้อมแล้ว to stop?
260
603000
3000
มีแนวโน้มแค่ไหนครับว่าคน 10 คนนั้นพร้อมแล้วที่จะหยุด?
10:21
What if they're thinkingคิด about something importantสำคัญ?
261
606000
2000
ถ้าหากพวกเขากำลังคิดเรื่องที่สำคัญจริงๆ อยู่ล่ะ?
10:23
What if they're doing importantสำคัญ work?
262
608000
2000
หรือกำลังทำงานที่สำคัญอยู่ล่ะ?
10:25
All of a suddenฉับพลัน you're tellingบอก them that they have to stop doing that
263
610000
2000
อยู่ๆ คุณก็บอกพวกเขาว่าต้องหยุดทำทันที
10:27
to do something elseอื่น.
264
612000
2000
เพื่อไปทำอย่างอื่น
10:29
So they go into a meetingการประชุม roomห้อง, they get togetherด้วยกัน,
265
614000
3000
ไปรวมตัวกันที่ห้องประชุม
10:32
and they talk about stuffสิ่ง that doesn't really matterเรื่อง usuallyมักจะ.
266
617000
3000
คุยเรื่องอะไรก็ตาม ที่ไม่ค่อยสลักสำคัญเท่าไหร่
10:35
Because meetingsการประชุม aren'tไม่ได้ work.
267
620000
2000
เพราะการประชุมไม่ใช่งานที่ทำอยู่
10:37
Meetingsการประชุม are placesสถานที่ to go to talk about things you're supposedควร to be doing laterต่อมา.
268
622000
3000
การประชุมคือการพูดคุยเรื่องที่คุณควรจะทำหลังจากนั้น
10:40
But meetingsการประชุม alsoด้วย procreateให้กำเนิด.
269
625000
2000
อีกทั้ง การประชุมมักจะเป็นต้นธาร
10:42
So one meetingการประชุม tendsมีแนวโน้มที่ to leadนำ to anotherอื่น meetingการประชุม
270
627000
2000
ของการประชุมอื่นๆ ที่จะตามมา
10:44
and tendsมีแนวโน้มที่ to leadนำ to anotherอื่น meetingการประชุม.
271
629000
2000
และมักจะก่อให้เกิดการประชุมต่อไปไม่รู้จบ
10:46
There's oftenบ่อยครั้ง too manyจำนวนมาก people in the meetingsการประชุม,
272
631000
2000
จำนวนคนที่มาร่วมประชุมมักจะมากเกินจำเป็น
10:48
and they're very, very expensiveแพง to the organizationองค์กร.
273
633000
3000
และการประชุมก็มีค่าใช้จ่ายสูงมากสำหรับองค์กร
10:51
Companiesบริษัท oftenบ่อยครั้ง think of a one-hourหนึ่งชั่วโมง meetingการประชุม as a one-hourหนึ่งชั่วโมง meetingการประชุม,
274
636000
3000
บริษัทต่างๆ มักจะคิดว่าการประชุมหนึ่งชั่วโมงก็คือการประชุมหนึ่งชั่วโมง
10:54
but that's not trueจริง, unlessเว้นแต่ there's only one personคน in that meetingการประชุม.
275
639000
3000
แต่ความจริงไม่ใช่ เว้นเสียแต่ว่ามีผู้เข้าร่วมประชุมเพียงคนเดียว
10:57
If there are 10 people in the meetingการประชุม, it's a 10-hour-ชั่วโมง meetingการประชุม; it's not a one-hourหนึ่งชั่วโมง meetingการประชุม.
276
642000
3000
ถ้ามีคน 10 คนในที่ประชุม มันก็จะเป็นการประชุม 10 ชั่วโมง ไม่ใช่หนึ่งชั่วโมง
11:00
It's 10 hoursชั่วโมง of productivityผลผลิต takenยึด from the restส่วนที่เหลือ of the organizationองค์กร
277
645000
3000
นั่นคือ 10 ชั่วโมงของผลิตภาพที่ถูกดึงออกไปจากองค์กร
11:03
to have this one one-hourหนึ่งชั่วโมง meetingการประชุม,
278
648000
2000
เพื่อมาประชุมหนึ่งชั่วโมงนี่
11:05
whichที่ probablyอาจ should have been handledจัดการ by two or threeสาม people
279
650000
3000
ซึ่งน่าจะใช้คนสองสามคนก็พอ
11:08
talkingการพูด for a fewน้อย minutesนาที.
280
653000
2000
คุยกันไม่กี่นาที
11:10
But insteadแทน, there's a long scheduledที่กำหนดไว้ meetingการประชุม,
281
655000
2000
แต่ไม่ มันกลายเป็นการประชุมที่ต้องนัดหมาย
11:12
because meetingsการประชุม are scheduledที่กำหนดไว้ the way softwareซอฟต์แวร์ worksโรงงาน,
282
657000
3000
เพราะการนัดประชุมทำงานแบบเดียวกันกับซอฟต์แวร์
11:15
whichที่ is in incrementsเพิ่มขึ้น of 15 minutesนาที, or 30 minutesนาที, or an hourชั่วโมง.
283
660000
3000
คือมีช่วงเวลา 15 นาที 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมง
11:18
You don't scheduleตารางเวลา an eight-hourแปดชั่วโมง meetingการประชุม with Outlookภาพ.
284
663000
2000
คุณไม่นัดประชุมยาว 8 ชั่วโมงในโปรแกรมเอาท์ลุค
11:20
You can't. I don't even know if you can.
285
665000
2000
คุณทำไม่ได้ ผมไม่รู้ว่ามันให้คุณทำหรือเปล่า
11:22
You can go 15 minutesนาที or 30 minutesนาที or 45 minutesนาที or an hourชั่วโมง.
286
667000
3000
คุณนัดทีละ 15 นาที 30 นาที 45 นาที หรือ 1 ชั่วโมงได้
11:25
And so we tendมีแนวโน้ม to fillใส่ these timesครั้ง up
287
670000
2000
แล้วเราก็มักจะประชุมให้เต็มช่วงเวลาเหล่านั้น
11:27
when things should really go really quicklyอย่างรวดเร็ว.
288
672000
2000
ถึงแม้ว่าการสนทนาควรจะจบเร็วกว่าก็ตาม
11:29
So meetingsการประชุม and managersผู้จัดการ are two majorสำคัญ problemsปัญหาที่เกิดขึ้น in businessesธุรกิจ todayในวันนี้,
289
674000
3000
คงเห็นแล้วนะครับว่าการประชุมกับผู้จัดการเป็นปัญหาใหญ่ในโลกธุรกิจทุกวันนี้
11:32
especiallyโดยเฉพาะอย่างยิ่ง to officesสำนักงาน.
290
677000
2000
โดยเฉพาะในที่ทำงาน
11:34
These things don't existมีอยู่ outsideด้านนอก of the officeสำนักงาน.
291
679000
3000
นอกสำนักงานไม่มีสองอย่างนี้หรอกครับ
11:37
So I have some suggestionsข้อเสนอแนะ
292
682000
2000
ผมก็เลยมีข้อเสนอบางประการ
11:39
to remedyวิธีการรักษา the situationสถานการณ์.
293
684000
3000
ที่จะแก้ไขสถานการณ์นี้
11:42
What can managersผู้จัดการ do --
294
687000
2000
สิ่งที่ผู้จัดการทำได้ --
11:44
enlightenedพุทธะ managersผู้จัดการ, hopefullyหวังว่า --
295
689000
2000
หวังว่าจะเป็นผู้จัดการทีปราดเปรื่องหน่อย --
11:46
what can they do to make the officeสำนักงาน a better placeสถานที่ for people to work,
296
691000
3000
สิ่งที่พวกเขาทำได้เพื่อปรับที่ทำงานให้เป็นที่ที่พนักงานทำงานได้ดีขึ้น
11:49
so it's not the last resortรีสอร์ท, but it's the first resortรีสอร์ท?
297
694000
3000
ไม่ใช่เป็นที่สุดท้ายที่พนักงานเลือก แต่เป็นที่แรก
11:52
It's that people startเริ่มต้น to say,
298
697000
2000
ทำอะไรได้บ้างเพื่อให้คนเริ่มพูดว่า
11:54
"When I really want to get stuffสิ่ง doneเสร็จแล้ว, I go to the officeสำนักงาน."
299
699000
2000
"เวลาที่ฉันอยากทำอะไรๆ ให้เสร็จ ฉันจะเข้าไปที่สำนักงาน"
11:56
Because the officesสำนักงาน are well equippedมีอุปกรณ์ครบครัน,
300
701000
2000
เพราะที่ทำงานมีอุปกรณ์ครบครัน
11:58
everything should be there for them to do theirของพวกเขา work,
301
703000
2000
ควรมีทุกอย่างให้พวกเขาทำงานได้
12:00
but they don't want to go there right now, so how do we changeเปลี่ยนแปลง that?
302
705000
3000
แต่ตอนนี้พวกเขาไม่อยากไปที่ทำงาน ฉะนั้นเราจะทำยังไงดี?
12:03
I have threeสาม suggestionsข้อเสนอแนะ I'll shareหุ้น with you guys.
303
708000
2000
ผมมีข้อเสนอสามประการที่อยากแลกเปลี่ยนครับ
12:05
I have about threeสาม minutesนาที, so that'llที่จะ fitพอดี perfectlyอย่างสมบูรณ์.
304
710000
3000
ผมมีเวลาเหลือประมาณ 3 นาที ก็น่าจะพอดี
12:08
We'veเราได้ all heardได้ยิน of the casualไม่เป็นทางการ Fridayวันศุกร์ thing.
305
713000
3000
เราทุกคนเคยได้ยินเรื่องวันศุกร์ชิลๆ คือให้คนแต่งตัวตามสบาย
12:11
I don't know if people still do that.
306
716000
2000
ผมไม่รู้ว่ายังมีคนทำแบบนี้อยู่หรือเปล่า
12:13
But how about "no-talkห้ามพูด Thursdaysวันพฤหัสบดี?"
307
718000
3000
ทำไมไม่ลอง "วันพฤหัสไม่พูด" ดูล่ะครับ
12:16
How about --
308
721000
2000
คือสมมติว่า
12:18
pickเลือก one Thursdayวันพฤหัสบดี onceครั้งหนึ่ง a monthเดือน
309
723000
2000
ลองเลือกวันพฤหัสขึ้นมาหนึ่งวัน แค่เดือนละวัน
12:20
and cutตัด that day in halfครึ่ง and just say the afternoonตอนบ่าย -- I'll make it really easyง่าย for you.
310
725000
3000
ครึ่งวันก็ได้ สมมติว่าเอาแค่ช่วงบ่ายก็พอ -- ผมจะอธิบายง่ายๆ
12:23
So just the afternoonตอนบ่าย, one Thursdayวันพฤหัสบดี.
311
728000
2000
แค่ช่วงบ่ายของวันพฤหัสหนึ่งวัน
12:25
The first Thursdayวันพฤหัสบดี of the monthเดือน -- just the afternoonตอนบ่าย --
312
730000
2000
บ่ายวันพฤหัสแรกของเดือน
12:27
nobodyไม่มีใคร in the officeสำนักงาน can talk to eachแต่ละ other.
313
732000
2000
ทุกคนในที่ทำงานต้องไม่คุยกัน
12:29
Just silenceความเงียบ, that's it.
314
734000
2000
มีแต่ความเงียบเท่านั้น
12:31
And what you'llคุณจะ find
315
736000
2000
สิ่งที่คุณจะพบก็คือ
12:33
is that a tremendousมหึมา amountจำนวน of work actuallyแท้จริง getsได้รับ doneเสร็จแล้ว
316
738000
2000
พวกเขาจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิผล
12:35
when no one talksการเจรจา to eachแต่ละ other.
317
740000
2000
เมื่อไม่มีใครคุยกัน
12:37
This is when people actuallyแท้จริง get stuffสิ่ง doneเสร็จแล้ว,
318
742000
2000
นี่คือเวลาที่ทำให้คนทำงานเสร็จจริงๆ
12:39
is when no one'sหนึ่งคือ botheringรบกวน them, when no one'sหนึ่งคือ interruptingขัดจังหวะ them.
319
744000
2000
เวลาที่ไม่มีใครรบกวน ไม่มีใครมาขัดจังหวะ
12:41
And you can give someoneบางคน -- givingให้ someoneบางคน fourสี่ hoursชั่วโมง of uninterruptedไม่ขาดสาย time
320
746000
3000
และถ้าคุณให้สิ่งนี้ได้ -- ให้เวลา 4 ชั่วโมงติดกันที่ไม่มีการขัดจังหวะ
12:44
is the bestดีที่สุด giftของขวัญ you can give anybodyใคร ๆ at work.
321
749000
2000
มันก็จะเป็นของขวัญที่ดีที่สุดที่คุณให้คนที่ทำงานได้
12:46
It's better than a computerคอมพิวเตอร์.
322
751000
2000
ดีกว่าให้คอมพิวเตอร์อีกครับ
12:48
It's better than a newใหม่ monitorหน้าจอ. It's better than newใหม่ softwareซอฟต์แวร์,
323
753000
3000
ดีกว่าจอใหม่ ดีกว่าซอฟต์แวร์ตัวใหม่
12:51
or whateverอะไรก็ตาม people typicallyเป็นปกติ use.
324
756000
2000
หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ปกติคนใช้กัน
12:53
Givingให้ them fourสี่ hoursชั่วโมง of quietเงียบ time at the officeสำนักงาน
325
758000
2000
การให้เวลา 4 ชั่วโมงแห่งความเงียบสงบที่ทำงาน
12:55
is going to be incrediblyเหลือเชื่อ valuableมีคุณค่า.
326
760000
2000
เป็นสิ่งที่จะมีมูลค่าสูงอย่างเหลือเชื่อ
12:57
And if you try that, I think you'llคุณจะ find that you agreeตกลง.
327
762000
2000
ถ้าคุณลองทำแบบนี้ดู ผมคิดว่าคุณจะเห็นด้วยกับผม
12:59
And maybe, hopefullyหวังว่า you can do it more oftenบ่อยครั้ง.
328
764000
2000
และบางที ถ้าคุณทำแบบนี้ได้บ่อยๆ
13:01
So maybe it's everyทุกๆ other weekสัปดาห์,
329
766000
2000
อาจจะเป็นทุกๆสองสัปดาห์
13:03
or everyทุกๆ weekสัปดาห์, onceครั้งหนึ่ง a weekสัปดาห์,
330
768000
2000
ทุกสัปดาห์ หรือสัปดาห์ละครั้ง
13:05
afternoonsช่วงบ่าย no one can talk to eachแต่ละ other.
331
770000
2000
ให้เป็นช่วงบ่ายที่ไม่มีใครพูดกับใครเลย
13:07
That's something that you'llคุณจะ find will really, really work.
332
772000
3000
คุณจะพบว่ามันใช้ได้ผลจริงๆ
13:10
Anotherอื่น thing you can try
333
775000
2000
อีกอย่างหนึ่งที่คุณสามารถลองได้
13:12
is switchingสลับ from activeคล่องแคล่ว
334
777000
2000
ก็คือเปลี่ยนรูปแบบการสื่อสาร
13:14
communicationการสื่อสาร and collaborationการร่วมมือ,
335
779000
2000
จากการสื่อสารและประสานงานเชิงรุก
13:16
whichที่ is like face-to-faceตัวต่อตัว stuffสิ่ง,
336
781000
2000
คือพวกที่ต้องมาเจอหน้ากัน
13:18
tappingแตะ people on the shoulderไหล่, sayingคำพูด hiสวัสดี to them, havingมี meetingsการประชุม,
337
783000
3000
การสะกิดคน ทักทายคน นัดประชุม
13:21
and replaceแทนที่ that with more passiveอยู่เฉยๆ modelsรุ่น of communicationการสื่อสาร,
338
786000
2000
ลองเปลี่ยนเรื่องพวกนี้มาเป็นการสื่อสารเชิงตั้งรับดู
13:23
usingการใช้ things like emailอีเมล and instantด่วน messagingการส่งข้อความ,
339
788000
3000
นั่นคือการส่งอีเมลและเมสเสจ
13:26
or collaborationการร่วมมือ productsผลิตภัณฑ์ -- things like that.
340
791000
3000
หรือผลิตภัณฑ์ที่ให้ทำงานด้วยกัน ของแบบนี้
13:29
Now some people mightอาจ say emailอีเมล is really distractingซึ่งทำให้วอกแวก
341
794000
3000
บางคนอาจบอกว่าอีเมลทำให้เสียสมาธิมากๆ
13:32
and I.M. is really distractingซึ่งทำให้วอกแวก,
342
797000
2000
และเมสเสจแบบไอเอ็มก็รบกวนสมาธิ
13:34
and these other things are really distractingซึ่งทำให้วอกแวก,
343
799000
2000
โปรแกรมพวกนี้ทำให้เสียสมาธิสุดๆ
13:36
but they're distractingซึ่งทำให้วอกแวก at a time of your ownด้วยตัวเอง choiceทางเลือก and your ownด้วยตัวเอง choosingเลือก.
344
801000
3000
แต่อย่าลืมว่ามันจะขัดจังหวะได้ เฉพาะในเวลาที่คุณเลือกเอง
13:39
You can quitเลิก the emailอีเมล appแอป; you can't quitเลิก your bossนาย.
345
804000
3000
คุณปิดโปรแกรมอีเมลได้ แค่คุณปิดเจ้านายคุณไม่ได้
13:42
You can quitเลิก I.M.;
346
807000
2000
คุณออกจากไอเอ็มได้
13:44
you can't hideปิดบัง your managerผู้จัดการ.
347
809000
2000
คุณซ่อนสถานะผู้จัดการคุณไม่ได้
13:46
You can put these things away,
348
811000
2000
คุณออกจากของเหล่านี้ได้
13:48
and then you can be interruptedขัดจังหวะ on your ownด้วยตัวเอง scheduleตารางเวลา, at your ownด้วยตัวเอง time,
349
813000
3000
เลือกเองได้ว่าจะโดนขัดจังหวะตอนไหนและเมื่อไหร่
13:51
when you're availableใช้ได้, when you're readyพร้อมแล้ว to go again.
350
816000
2000
เมื่อไหร่ที่คุณว่าง เมื่อไหร่ที่พร้อมทำงานใหม่
13:53
Because work, like sleepนอน, happensที่เกิดขึ้น in phasesขั้นตอน.
351
818000
3000
เพราะงานก็เหมือนกับการนอนหลับ คือมันเกิดขึ้นเป็นช่วงๆ
13:56
So you're going to be kindชนิด of going up and doing some work,
352
821000
2000
ดังนั้นคุณจะมุ่งมั่นมีสมาธิกับงาน
13:58
and then you're going to come down from that work,
353
823000
2000
แล้วก็ค่อยๆ ปล่อยผ่านอารมณ์นั้นไป
14:00
and then maybe it's time to checkตรวจสอบ that emailอีเมล, or checkตรวจสอบ that I.M.
354
825000
2000
ณ จุดๆหนึ่ง คุณอาจจะอยากเช็คอีเมล หรือไอเอ็ม
14:02
And there are very, very fewน้อย things that are that urgentด่วน
355
827000
3000
มีไม่กี่เรื่องหรอกครับ ที่จะเร่งด่วนจริงๆ
14:05
that need to happenเกิดขึ้น, that need to be answeredตอบ right this secondที่สอง.
356
830000
3000
ขนาดที่้ต้องจัดการทันทีหรือต้องตอบเมลในวินาทีนี้
14:08
So if you're a managerผู้จัดการ,
357
833000
2000
ดังนั้นถ้าผู้จัดการของคุณ
14:10
startเริ่มต้น encouragingให้กำลังใจ people to use more things like I.M. and emailอีเมล
358
835000
2000
เริ่มส่งเสริมให้หนักงานใช้ไอเอ็มหรืออีเมล
14:12
and other things that someoneบางคน elseอื่น can put away
359
837000
2000
และสิ่งอื่นๆ ที่สามารถปิดกันเอง
14:14
and then get back to you on theirของพวกเขา ownด้วยตัวเอง scheduleตารางเวลา.
360
839000
2000
พวกเขาก็จะแวะมาคุยกับคุณตามตารางของเขาได้
14:16
And the last suggestionข้อเสนอแนะ I have
361
841000
3000
ข้อเสนอข้อสุดท้ายของผมคือ
14:19
is that, if you do have a meetingการประชุม comingมา up,
362
844000
3000
ถ้าคุณกำลังจะต้องไปประชุม
14:22
if you have the powerอำนาจ,
363
847000
2000
ถ้าคุณมีอำนาจพอ
14:24
just cancelยกเลิก. Just cancelยกเลิก that nextต่อไป meetingการประชุม.
364
849000
3000
ก็ยกเลิกไปเถอะครับ ประชุมที่ว่านี่
14:28
Today'sของวันนี้ Fridayวันศุกร์ -- so Mondayวันจันทร์, usuallyมักจะ people have meetingsการประชุม on Mondayวันจันทร์.
365
853000
2000
วันนี้เป็นวันศุกร์ -- ปกติแล้ว บริษัทจะนัดประชุมในวันจันทร์
14:30
Just don't have it.
366
855000
2000
อย่ามีมันเลยครับ
14:32
I don't mean moveย้าย it;
367
857000
2000
ผมไม่ได้แนะให้เลื่อนมันไปเฉยๆ
14:34
I mean just eraseลบออก it from memoryหน่วยความจำ, it's goneที่ไปแล้ว.
368
859000
2000
ผมหมายความว่าให้ลบมันออกจากความจำของคุณ
14:36
And you'llคุณจะ find out that everything will be just fine.
369
861000
3000
แล้วคุณจะพบว่า ทุกอย่างยังดำเนินไปได้ด้วยดี
14:39
All these discussionsการอภิปราย and decisionsการตัดสินใจ you thought you had to make
370
864000
2000
การหารือหรือการตัดสินใจทั้งหมดที่คุณคิดว่าต้องทำ
14:41
at this one time at 9 a.m. on Mondayวันจันทร์,
371
866000
2000
ณ เวลา 9.00 น. ของวันจันทร์
14:43
just forgetลืม about them, and things will be just fine.
372
868000
2000
ลืมทั้งหมดนั้นไปเลยครับ และสิ่งต่างๆ จะยังโอเค
14:45
People have a more openเปิด morningตอนเช้า, they can actuallyแท้จริง think,
373
870000
3000
เพราะผู้คนจะมีช่วงเช้าที่เป็นอิสระกว่าเดิม คิดอะไรๆ ได้
14:48
and you'llคุณจะ find out that maybe all these things you thought you had to do,
374
873000
2000
และคุณจะพบว่าบางที ทุกอย่างที่คุณคิดว่าคุณต้องทำ
14:50
you don't actuallyแท้จริง have to do.
375
875000
2000
คุณไม่ได้ต้องทำจริงๆ หรอก
14:52
So those are just threeสาม quickรวดเร็ว suggestionsข้อเสนอแนะ I wanted to give you guys
376
877000
2000
และทั้งหมดนั้นก็เป็นข้อเสนอสามข้อที่ผมอยากมอบให้กับทุกท่าน
14:54
to think about this.
377
879000
2000
ขอให้ลองเอาไปคิดดู
14:56
And I hopeหวัง that some of these ideasความคิด
378
881000
2000
ผมหวังว่าความคิดบางอย่าง
14:58
were at leastน้อยที่สุด provocativeเร้าใจ enoughพอ
379
883000
2000
จะมีอิทธิพลพอที่จะกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
15:00
for managersผู้จัดการ and bossesผู้บังคับบัญชา and businessธุรกิจ ownersเจ้าของ
380
885000
2000
สำหรับผู้จัดการ เจ้านาย เจ้าของธุรกิจ
15:02
and organizersการจัดงาน and people who are in chargeค่าธรรมเนียม of other people
381
887000
3000
ออร์แกไนเซอร์ และคนที่มีหน้าที่บริหารจัดการบุคคล
15:05
to think about layingการวาง off a little bitบิต
382
890000
2000
คิดที่จะให้พวกเขาปล่อยวางบ้าง
15:07
and givingให้ people some more time to get some work doneเสร็จแล้ว.
383
892000
2000
ปล่อยให้คนอื่นมีเวลาที่จะทำงานให้เสร็จ
15:09
And I think it'llมันจะ all payจ่ายเงิน off in the endปลาย.
384
894000
2000
ผมคิดว่าทั้งหมดนี้จะคุ้มค่าในที่สุด
15:11
So thanksขอบคุณ for listeningการฟัง.
385
896000
2000
ขอบคุณที่รับฟังครับ
15:13
(Applauseการปรบมือ)
386
898000
2000
(เสียงปรบมือ)
Translated by Sarinee Achavanuntakul
Reviewed by Phatra Sae-ting

▲Back to top

ABOUT THE SPEAKER
Jason Fried - Software entrepreneur
Jason Fried thinks deeply about collaboration, productivity and the nature of work. He's the co-founder of 37signals, makers of Basecamp and other web-based collaboration tools, and co-author of "Rework."

Why you should listen

Jason Fried is the co-founder and president of 37signals , a Chicago-based company that builds web-based productivity tools that, in their words, "do less than the competition -- intentionally." 37signals' simple but powerful collaboration tools include Basecamp, Highrise, Backpack, Campfire, Ta-da List, and Writeboard. 37signals also developed and open-sourced the Ruby on Rails programming framework.

Fried is the co-author, with David Heinemeier Hansson, of the book Rework, about new ways to conceptualize working and creating. Salon's Scott Rosenberg called it "a minimalist manifesto that's profoundly practical. In a world where we all keep getting asked to do more with less, the authors show us how to do less and create more."

More profile about the speaker
Jason Fried | Speaker | TED.com