ABOUT THE SPEAKER
David Brooks - Op-ed columnist
Writer and thinker David Brooks has covered business, crime and politics over a long career in journalism.

Why you should listen

David Brooks became an Op-Ed columnist for The New York Times in September 2003. He is currently a commentator on "The PBS Newshour," NPR’s "All Things Considered" and NBC's "Meet the Press."

He is the author of Bobos in Paradise and The Social Animal. In April 2015, he released with his fourth book, The Road to Character, which was a #1 New York Times bestseller.

Brooks also teaches at Yale University, and is a member of the American Academy of Arts & Sciences.

Born on August 11, 1961 in Toronto, Canada, Brooks graduated a bachelor of history from the University of Chicago in 1983. He became a police reporter for the City News Bureau, a wire service owned jointly by the Chicago Tribune and Sun-Times.

He worked at The Washington Times and then The Wall Street Journal for nine years. His last post at the Journal was as Op-ed Editor. Prior to that, he was posted in Brussels, covering Russia, the Middle East, South Africa and European affairs. His first post at the Journal was as editor of the book review section, and he filled in as the Journal's movie critic.

He also served as a senior editor at The Weekly Standard for 9 years, as well as contributing editor for The Atlantic and Newsweek.

More profile about the speaker
David Brooks | Speaker | TED.com
TED2011

David Brooks: The social animal

เดวิด บรู๊คส์: สัตว์สังคม

Filmed:
1,363,457 views

จากการค้นพบในหนังสือเล่มล่าสุดของเขา นักเขียนคอลัมน์ของนิวยอร์คไทม์ เดวิด บรู๊คส์ (David Brooks) เปิดประตูสู่ความเข้าใจใหม่ๆเกี่ยวกับธรรมชาติของมนุษย์ ผ่านทางศาสตร์เกี่ยวกับระบบการเรียนรู้ -- เป็นความเข้าใจที่จะส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์ การเมือง และรวมไปถึงความเข้าใจถึงตัวตนของเราด้วย ในการบรรยายที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขัน เดวิดแสดงให้เห็นว่า มุมมองการศึกษามนุษย์เป็นหน่วยบุคคลที่ตัดสินใจทำอะไรๆตามเหตุผลนั้น ไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด
- Op-ed columnist
Writer and thinker David Brooks has covered business, crime and politics over a long career in journalism. Full bio

Double-click the English transcript below to play the video.

00:15
When I got my currentปัจจุบัน jobงาน, I was givenรับ a good pieceชิ้น of adviceคำแนะนำ,
0
0
3000
ตอนที่ผมตอบรับงานปัจจุบัน มีคนให้คำแนะนำไว้ว่า
00:18
whichที่ was to interviewสัมภาษณ์ threeสาม politiciansนักการเมือง everyทุกๆ day.
1
3000
3000
ผมควรสัมภาษณ์นักการเมืองวันละ 3 คน
00:21
And from that much contactติดต่อ with politiciansนักการเมือง,
2
6000
2000
และเพราะผมได้เจอกับนักการเมืองมากขนาดนั้น
00:23
I can tell you they're all emotionalอารมณ์ freaksประหลาด of one sortประเภท or anotherอื่น.
3
8000
3000
ผมบอกคุณได้ว่า เขาเป็นโรคจิตวิตถารกันหมด
00:27
They have what I calledเรียกว่า "logorrheaLogorrhea dementiaการเป็นบ้า,"
4
12000
2000
เป็นพวกที่ผมเรียกว่า 'พวกวาจาไหลย้อนเข้าจิต' (logorrhea dementia)
00:29
whichที่ is they talk so much they driveขับรถ themselvesตัวเอง insaneบ้า.
5
14000
3000
ซึ่งแปลว่า เขาพูดมากจนทำให้ตัวเองเป็นบ้า
00:32
(Laughterเสียงหัวเราะ)
6
17000
2000
(หัวเราะ)
00:34
But what they do have is incredibleเหลือเชื่อ socialสังคม skillsทักษะ.
7
19000
3000
แต่สิ่งที่พวกเขามี คือทักษะทางสังคมที่ดีมาก
00:37
When you meetพบกัน them, they lockล็อค into you,
8
22000
2000
เวลาที่คุณเจอเขา เขาจะเข้ามาประกบ
00:39
they look you in the eyeตา,
9
24000
2000
มองตาคุณ
00:41
they invadeบุก your personalส่วนบุคคล spaceช่องว่าง,
10
26000
2000
บุกรุกพื้นที่ส่วนตัวของคุณ
00:43
they massageนวด the back of your headหัว.
11
28000
2000
พวกเขานวดท้ายทอยให้คุณ
00:45
I had dinnerอาหารเย็น with a Republicanรีพับลิกัน senatorวุฒิสมาชิก severalหลาย monthsเดือน agoมาแล้ว
12
30000
2000
ผมทานข้าวกับ ส.ว. พรรครีพับลิกัน (Republican) เมื่อ 2-3 เดือนก่อน
00:47
who keptเก็บไว้ his handมือ on my innerภายใน thighต้นขา
13
32000
2000
เขาวางมือไว้บนขาอ่อนผม
00:49
throughoutตลอด the wholeทั้งหมด mealอาหาร -- squeezingแรงดัน it.
14
34000
3000
ตลอดมื้ออาหารเลยครับ -- บีบนวดไปเรื่อย
00:52
I onceครั้งหนึ่ง -- this was yearsปี agoมาแล้ว --
15
37000
2000
มีอยู่ครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน
00:54
I saw Tedเท็ด Kennedyเคนเนดี้ and Danแดน Quayleเควล meetพบกัน in the well of the Senateวุฒิสภา.
16
39000
2000
ผมเห็น เท็ด เคนนาดี้ (Ted Kennedy) กับ แดน เควล์ (Dan Quayle) เจอกันที่ห้องสภาสูง
00:56
And they were friendsเพื่อน, and they huggedกอด eachแต่ละ other
17
41000
2000
เขาเป็นเพื่อนกัน ก็เลยกอดกัน
00:58
and they were laughingที่หัวเราะ, and theirของพวกเขา facesใบหน้า were like this farห่างไกล apartต่างหาก.
18
43000
3000
แล้วก็หัวเราะกัน หน้าเขาสองคนใกล้กันเท่านี้
01:01
And they were movingการเคลื่อนย้าย and grindingที่บด
19
46000
2000
เขาโยกย้ายไปมา ถูไถกัน
01:03
and movingการเคลื่อนย้าย theirของพวกเขา armsอาวุธ up and down eachแต่ละ other.
20
48000
2000
และเอามือลูบคลำไปทั่ว
01:05
And I was like, "Get a roomห้อง. I don't want to see this."
21
50000
3000
จนผมคิดในใจว่า"ไปหาห้องไป๊ ผมไม่อยากเห็น"
01:08
But they have those socialสังคม skillsทักษะ.
22
53000
2000
แต่พวกเขามีทักษะทางสังคม
01:10
Anotherอื่น caseกรณี:
23
55000
2000
อีกตัวอย่างนึง
01:12
Last electionการเลือกตั้ง cycleวงจร,
24
57000
2000
การเลือกตั้งครั้งที่แล้ว
01:14
I was followingดังต่อไปนี้ Mittนวม Romneyรอมนีย์ around Newใหม่ Hampshireนิวแฮมป์เชียร์,
25
59000
2000
ผมตาม มิตต์ รอมนี่ (Mitt Romney) ไปทั่วรัฐนิวแฮมพ์เชอร์
01:16
and he was campaigningการรณรงค์ with his fiveห้า perfectสมบูรณ์ sonsบุตรชาย:
26
61000
3000
เขากำลังหาเสียงพร้อมๆกับลูกชายผู้สมบูรณ์แบบทั้ง 5
01:19
BipBip, Chipชิป, Ripฉีก, Zipซิป, Lipฝีปาก and Dipจุ่ม.
27
64000
2000
บิ๊พ ชิพ ริพ ซิพ ลิพ และ ดิ๊พ
01:21
(Laughterเสียงหัวเราะ)
28
66000
2000
(หัวเราะ)
01:23
And he's going into a dinerเหลา.
29
68000
2000
พอทีนี้เขากำลังจะเข้าไปในร้านอาหาร
01:25
And he goesไป into the dinerเหลา, introducesแนะนำ himselfตัวเขาเอง to a familyครอบครัว
30
70000
3000
พอเขาเข้าไปในร้าน เขาก็เข้าไปแนะนำตัวกับครอบครัวนึง
01:28
and saysกล่าวว่า, "What villageหมู่บ้าน are you from in Newใหม่ Hampshireนิวแฮมป์เชียร์?"
31
73000
2000
แล้วถามว่า "คุณมาจากหมู่บ้านไหนในนิวแฮมพ์เชอร์"
01:30
And then he describesอธิบาย the home he ownedเป็นเจ้าของ in theirของพวกเขา villageหมู่บ้าน.
32
75000
3000
แล้วเขาก็พูดถึงบ้านของเขาในหมู่บ้านนั้น
01:34
And so he goesไป around the roomห้อง,
33
79000
3000
เขาทำอย่างนั้นไปทั่วร้าน
01:37
and then as he's leavingการออกจาก the dinerเหลา,
34
82000
2000
และก่อนที่เขาจะออกจากร้าน
01:39
he first-namesชื่อจริง almostเกือบจะ everybodyทุกคน he's just metพบ.
35
84000
3000
เขาเรียกชื่อคนเกือบทุกคนที่เพิ่งเจอได้หมด
01:42
I was like, "Okay, that's socialสังคม skillความสามารถ."
36
87000
2000
ผมก็เลยแบบว่า "โอเค นั่นแหละ ทักษะทางสังคมของแท้"
01:44
But the paradoxบุคคลที่ผิดธรรมดา is,
37
89000
2000
แต่สิ่งที่น่าแปลกคือ
01:46
when a lot of these people slipลื่น into the policy-makingการกำหนดนโยบาย modeโหมด,
38
91000
4000
เมื่อพวกเขาเหล่านี้ต้องไปวางแผนทำนโยบาย
01:50
that socialสังคม awarenessความตระหนัก vanishesหายตัวไป
39
95000
2000
ความเข้าใจด้านสังคมหายหมด
01:52
and they startเริ่มต้น talkingการพูด like accountantsบัญชี.
40
97000
2000
พวกเขาพูดจากันเหมือนนักบัญชี
01:54
So in the courseหลักสูตร of my careerอาชีพ,
41
99000
2000
ดังนั้น ในช่วงการทำงานของผม
01:56
I have coveredปกคลุม a seriesชุด of failuresความล้มเหลว.
42
101000
2000
ก็ได้เขียนถึงความล้มเหลวหลายอย่าง
01:58
We sentส่ง economistsนักเศรษฐศาสตร์ in the Sovietโซเวียต Unionสหภาพ
43
103000
2000
เราส่งนักเศรษฐศาสตร์ไปโซเวียต
02:00
with privatizationการแปรรูป plansแผน when it brokeยากจน up,
44
105000
2000
เพื่อส่งเสริมแผนแปรรูปรัฐวิสาหกิจหลังสหภาพล่มสลาย
02:02
and what they really lackedขาด was socialสังคม trustวางใจ.
45
107000
3000
แต่สิ่งที่พวกเขาขาด คือความไว้วางใจต่อสังคม
02:05
We invadedบุกเข้ามา Iraqอิรัก with a militaryทหาร
46
110000
2000
เราบุกรุกอิรักด้วยกองทัพ
02:07
obliviousลบเลือน to the culturalด้านวัฒนธรรม and psychologicalจิตวิทยา realitiesสภาพที่แท้จริง.
47
112000
3000
โดยไม่รู้ถึงความเป็นจริงทางวัฒนธรรมและสภาพจิตวิทยา
02:10
We had a financialการเงิน regulatoryกฎระเบียบ regimeระบบการปกครอง
48
115000
2000
เรามีนโยบายกำกับการเงินการธนาคาร
02:12
basedซึ่งเป็นรากฐาน on the assumptionsสมมติฐาน
49
117000
2000
บนสมมติฐานที่ว่า
02:14
that tradersผู้ประกอบการค้า were rationalมีเหตุผล creaturesสิ่งมีชีวิต
50
119000
2000
นักลงทุนใช้ตรรกะใช้เหตุผล
02:16
who wouldn'tจะไม่ do anything stupidโง่.
51
121000
2000
พอที่จะไม่ทำอะไรโง่ๆ
02:18
For 30 yearsปี, I've been coveringครอบคลุม schoolโรงเรียน reformปฏิรูป
52
123000
3000
30 ปี ที่ผมตามข่าวการปฏิรูประบบการศึกษาพื้นฐาน
02:21
and we'veเราได้ basicallyเป็นพื้น reorganizedการปรับโครงสร้างองค์กร the bureaucraticของข้าราชการ boxesกล่อง --
53
126000
3000
สิ่งที่เราทำ ก็แค่เอาระบบราชการแบบเดิมๆมาปะแป้งแต่งตัวใหม่ --
02:24
chartersเทอร์, privateเอกชน schoolsโรงเรียน, vouchersบัตรกำนัล --
54
129000
3000
ให้เป็นโรงเรียนในกำกับของรัฐ โรงเรียนเอกชน โรงเรียนในการรับรองของรัฐ --
02:27
but we'veเราได้ had disappointingที่น่าผิดหวัง resultsผล yearปี after yearปี.
55
132000
4000
ผลก็ออกมาทำให้ผิดหวังทุกปี
02:31
And the factความจริง is, people learnเรียน from people they love.
56
136000
3000
ความจริงแล้ว คนเราเรียนรู้จากคนที่เรารัก
02:34
And if you're not talkingการพูด about the individualรายบุคคล relationshipความสัมพันธ์
57
139000
2000
และคุณไม่ได้พูดถึงความสัมพันธ์ระหว่าง
02:36
betweenระหว่าง a teacherครู and a studentนักเรียน,
58
141000
2000
ครูกับนักเรียนแต่ละคนแล้ว
02:38
you're not talkingการพูด about that realityความจริง.
59
143000
2000
คุณไม่ได้พูดถึงความเป็นจริง
02:40
But that realityความจริง is expungedลบออก
60
145000
2000
ความจริงถูกลบออกไป
02:42
from our policy-makingการกำหนดนโยบาย processกระบวนการ.
61
147000
2000
จากกระบวนการทางการทำนโยบายของเรา
02:44
And so that's led to a questionคำถาม for me:
62
149000
3000
นี่คือจุดเริ่มต้นของคำถามของผม
02:47
Why are the mostมากที่สุด socially-attunedสังคมสนิทสนมระหว่าง people on earthโลก
63
152000
3000
ทำไมกลุ่มคนที่ชำนาญด้านสังคมที่สุดในโลก
02:50
completelyอย่างสมบูรณ์ dehumanizeddehumanized
64
155000
2000
ถึงไร้ความเป็นมนุษย์
02:52
when they think about policyนโยบาย?
65
157000
3000
เมื่อพวกเขาพูดถึงนโยบาย
02:55
And I cameมา to the conclusionข้อสรุป,
66
160000
2000
และผมก็สรุปได้ว่า
02:57
this is a symptomอาการ of a largerที่มีขนาดใหญ่ problemปัญหา.
67
162000
3000
นี่เป็นแค่ส่วนนึงของปัญหาที่ใหญ่กว่านี้
03:00
That, for centuriesมานานหลายศตวรรษ, we'veเราได้ inheritedรับการถ่ายทอด a viewดู of humanเป็นมนุษย์ natureธรรมชาติ
68
165000
3000
ซึ่งก็คือ มุมมองที่เรามีต่อธรรมชาติของมนุษย์
03:03
basedซึ่งเป็นรากฐาน on the notionความคิด
69
168000
2000
บนพื้นฐานที่ว่า
03:05
that we're dividedแบ่งแยกออกจากกัน selvesตัว,
70
170000
2000
เราแต่ละคนแยกจากกัน
03:07
that reasonเหตุผล is separatedแยกออกจากกัน from the emotionsอารมณ์
71
172000
3000
ว่าเหตุผลแยกจากอารมณ์
03:10
and that societyสังคม progressesความคืบหน้า
72
175000
2000
และว่าสังคมพัฒนา
03:12
to the extentขอบเขต that reasonเหตุผล can suppressปราบปราม the passionsกิเลสตัณหา.
73
177000
3000
จนถึงขั้นที่เหตุผลกดข่มความรู้สึก
03:15
And it's led to a viewดู of humanเป็นมนุษย์ natureธรรมชาติ
74
180000
3000
ซึ่งนำมาซึ่งมุมมองถึงธรรมชาติมนุษย์
03:18
that we're rationalมีเหตุผล individualsบุคคล
75
183000
2000
ว่ามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีตรรกะเหตุผล
03:20
who respondตอบสนอง in straightforwardซื่อตรง waysวิธี to incentivesแรงจูงใจ,
76
185000
3000
ตอบสนองกับแรงจูงใจอย่างตรงไปตรงมา
03:23
and it's led to waysวิธี of seeingเห็น the worldโลก
77
188000
3000
และสร้างวิธีการมองโลก
03:26
where people try to use the assumptionsสมมติฐาน of physicsฟิสิกส์
78
191000
3000
ที่มีคนพยายามใช้กฏเกณฑ์ทางฟิสิกส์
03:29
to measureวัด how humanเป็นมนุษย์ behaviorพฤติกรรม is.
79
194000
4000
เพื่อวัดพฤติกรรมมนุษย์
03:34
And it's producedผลิต a great amputationการตัดแขนขา,
80
199000
2000
นี่คือความสูญเสียครั้งใหญ่
03:36
a shallowตื้น viewดู of humanเป็นมนุษย์ natureธรรมชาติ.
81
201000
3000
เป็นมุมมองอันตื้นเขินต่อธรรมชาติของมนุษย์
03:39
We're really good at talkingการพูด about materialวัสดุ things,
82
204000
2000
พวกเราเก่งเรื่องการพูดถึงเรื่องทางวัตถุ
03:41
but we're really badไม่ดี at talkingการพูด about emotionsอารมณ์.
83
206000
3000
แต่ไม่ได้เรื่องเลยในการพูดถึงอารมณ์
03:44
We're really good at talkingการพูด about skillsทักษะ
84
209000
2000
เราเก่งเรื่องการพูดถึงทักษะ
03:46
and safetyความปลอดภัย and healthสุขภาพ;
85
211000
2000
ความปลอดภัย และสุขภาพ
03:48
we're really badไม่ดี at talkingการพูด about characterตัวละคร.
86
213000
3000
แต่พูดถึงคุณลักษณะไม่เป็นเอาเสียเลย
03:51
AlasdairAlasdair MacIntyreMacIntyre, the famousมีชื่อเสียง philosopherนักปรัชญา,
87
216000
3000
แอลอัสแดร์ แม็คอินไทร์ (Alasdair MacIntyre) นักปราชญ์ชื่อดัง
03:54
said that, "We have the conceptsแนวคิด of the ancientโบราณ moralityศีลธรรม
88
219000
3000
กล่าวว่า "เรารู้จักหลักจรรยาบรรณเก่าแก่
03:57
of virtueคุณธรรม, honorเกียรติ, goodnessความดี,
89
222000
2000
ว่าด้วยคุณธรรม เกียรติยศ คุณความดี
03:59
but we no longerอีกต่อไป have a systemระบบ
90
224000
2000
แต่เราไม่มีระบบ
04:01
by whichที่ to connectต่อ them."
91
226000
2000
ที่เชื่อมต่อมันแล้ว"
04:03
And so this has led to a shallowตื้น pathเส้นทาง in politicsการเมือง,
92
228000
3000
นี่คือต้นเหตุของแนวทางตื้นๆทางการเมือง
04:06
but alsoด้วย in a wholeทั้งหมด rangeพิสัย of humanเป็นมนุษย์ endeavorsความพยายาม.
93
231000
4000
และในสาขาอื่นๆของมนุษย์ด้วย
04:10
You can see it in the way we raiseยก our youngหนุ่มสาว kidsเด็ก.
94
235000
3000
มองเห็นได้ในวิธีการเลี้ยงเด็กเล็กๆ
04:13
You go to an elementaryเบื้องต้น schoolโรงเรียน at threeสาม in the afternoonตอนบ่าย
95
238000
3000
ถ้าคุณไปโรงเรียนประถมตอนบ่าย 3
04:16
and you watch the kidsเด็ก come out,
96
241000
2000
แล้วดูเด็กที่เพิ่งเลิกเรียนออกมา
04:18
and they're wearingการสวมใส่ these 80-pound-ปอนด์ backpacksเป้สะพายหลัง.
97
243000
3000
พวกเขาแบกเป้หนัก 80ปอนด์ (36 กิโลกรัม) กันทั้งนั้น
04:21
If the windลม blowsพัด them over, they're like beetlesด้วง stuckติดอยู่ there on the groundพื้น.
98
246000
4000
ถ้าถูกลมพัดล้ม พวกเขาก็เป็นเหมือนตัวด้วงหงายท้อง
04:25
You see these carsรถ that driveขับรถ up --
99
250000
2000
คุณจะเห็นรถที่มารับ
04:27
usuallyมักจะ it's SaabsSaabs and Audisออดี้ and Volvosรถวอลโว่,
100
252000
3000
ซึ่งมักจะเป็นยี่ห้อซาบ ออดี้ และวอลโว่
04:30
because in certainบาง neighborhoodsละแวกใกล้เคียง it's sociallyสังคม acceptableยอมรับได้ to have a luxuryหรูหรา carรถ,
101
255000
3000
เพราะบางย่านนั้น การมีรถหรูๆเป็นที่ยอมรับทางสังคม
04:33
so long as it comesมา from a countryประเทศ hostileไม่เป็นมิตร to U.S. foreignต่างประเทศ policyนโยบาย --
102
258000
3000
ถ้าหากว่านำเข้ามาจากประเทศที่เป็นปรปักษ์กับนโยบายต่างประเทศของเรา
04:36
that's fine.
103
261000
2000
ก็โอเค
04:38
They get pickedหยิบ up by these creaturesสิ่งมีชีวิต I've calledเรียกว่า uber-momsUber คุณแม่,
104
263000
3000
ผมเรียกคนที่มารับเด็กๆว่า ซูเปอร์แม่
04:41
who are highlyอย่างมาก successfulที่ประสบความสำเร็จ careerอาชีพ womenผู้หญิง
105
266000
2000
ซึ่งเป็นผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จทางการงานมากๆ
04:43
who have takenยึด time off to make sure all theirของพวกเขา kidsเด็ก get into Harvardฮาร์วาร์.
106
268000
3000
แต่ตอนนี้ออกจากงาน เพื่อมาเลี้ยงลูกให้ได้เข้าเรียนที่ฮาร์วาร์ดให้ได้
04:46
And you can usuallyมักจะ tell the uber-momsUber คุณแม่
107
271000
2000
คุณดูรู้ว่าใครเป็น ซูเปอร์แม่
04:48
because they actuallyแท้จริง weighชั่งน้ำหนัก lessน้อยกว่า than theirของพวกเขา ownด้วยตัวเอง childrenเด็ก ๆ.
108
273000
2000
เพราะพวกเธอน้ำหนักน้อยกว่าลูกๆของตัวเอง
04:50
(Laughterเสียงหัวเราะ)
109
275000
2000
(หัวเราะ)
04:52
So at the momentขณะ of conceptionความคิด,
110
277000
2000
ในตอนแรก
04:54
they're doing little buttชน exercisesการออกกำลังกาย.
111
279000
2000
พวกเธอออกกำลังกายบั้นท้ายนิดหน่อย
04:56
Babiesทารก flopปัด out,
112
281000
2000
แล้วเด็กก็ร่วงออกมา
04:58
they're flashingแวบวับ Mandarinภาษาจีนกลาง flashcardsบัตรคำศัพท์ at the things.
113
283000
3000
พวกเธอพกแผ่นคำศัพท์ภาษาจีนกลางติดตัวไปทั่ว
05:01
Drivingการขับรถ them home, and they want them to be enlightenedพุทธะ,
114
286000
3000
ตอนขับรถกลับบ้าน พวกเธออยากให้ลูกมีความสุขสดชื่น
05:04
so they take them to Benเบน & Jerry'sเจอร์รี่ iceน้ำแข็ง creamครีม companyบริษัท
115
289000
2000
ก็เลยพาไปบริษัทไอติม เบ็น แอนด์ แจรี่ (ฺBen & Jerry's)
05:06
with its ownด้วยตัวเอง foreignต่างประเทศ policyนโยบาย.
116
291000
2000
ที่มีนโยบายต่างประเทศของตัวเอง
05:08
In one of my booksหนังสือ,
117
293000
2000
ในหนังสือเล่มนึงของผม
05:10
I jokeเรื่องตลก that Benเบน & Jerry'sเจอร์รี่ should make a pacifistผู้รักความสงบ toothpasteยาสีฟัน --
118
295000
2000
ผมล้อ เบ็น แอนด์ แจรี่ ว่าน่าจะผลิตยาสีฟันเพื่อสันติ
05:12
doesn't killฆ่า germsเชื้อโรค, just asksถาม them to leaveออกจาก.
119
297000
2000
ที่ไม่ฆ่าพวกเชื้อโรค แต่ขอร้องให้มันออกไปแทน
05:14
It would be a bigใหญ่ sellerผู้ขาย.
120
299000
2000
คงขายดีพิลึก
05:16
(Laughterเสียงหัวเราะ)
121
301000
2000
(หัวเราะ)
05:18
And they go to Wholeทั้งหมด Foodsฟู้ดส์ to get theirของพวกเขา babyทารก formulaสูตร,
122
303000
3000
แล้วพวกเธอก็ไปร้านโฮล์ฟู้ดส์เพื่อซื้ออาหารเด็ก
05:21
and Wholeทั้งหมด Foodsฟู้ดส์ is one of those progressiveความก้าวหน้า groceryร้านขายของชำ storesร้านค้า
123
306000
2000
และโฮล์ฟู้ดส์ก็เป็นหนึ่งในร้านขายของชำก้าวหน้า
05:23
where all the cashiersพนักงานเก็บเงิน look like they're on loanเงินกู้ from Amnestyนิรโทษกรรม Internationalระหว่างประเทศ.
124
308000
3000
ที่เหมือนว่ายืมพนักงานมาจากองค์กรแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นเนล (Amnesty International)
05:26
(Laughterเสียงหัวเราะ)
125
311000
2000
(หัวเราะ)
05:28
They buyซื้อ these seaweed-basedสาหร่ายตาม snacksอาหารว่าง there
126
313000
2000
พวกเธอซื้อขนมที่ทำมาจากสาหร่าย
05:30
calledเรียกว่า VeggieVeggie BootyBooty with Kaleผักคะน้า,
127
315000
2000
เรียกว่า เวจี้ บู้ตี้ (Veggie Booty) แบบใบกระหล่ำเคล (kale)
05:32
whichที่ is for kidsเด็ก who come home and say,
128
317000
2000
เพื่อที่จะให้เด็กๆกลับมาบ้านแล้วบอกว่า
05:34
"Momแม่, momแม่, I want a snackขนมขบเคี้ยว that'llที่จะ help preventป้องกัน colon-rectalลำไส้ใหญ่ทวารหนัก cancerโรคมะเร็ง."
129
319000
3000
"แม่ๆ อยากกินขนมที่ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักน่ะ"
05:37
(Laughterเสียงหัวเราะ)
130
322000
2000
(หัวเราะ)
05:39
And so the kidsเด็ก are raisedยก in a certainบาง way,
131
324000
2000
เด็กๆพวกนี้ถูกเลี้ยงมาในรูปแบบนึง
05:41
jumpingที่กระโดด throughตลอด achievementความสำเร็จ hoopsห่วง of the things we can measureวัด --
132
326000
3000
ผ่านกระบวนการคัดเลือกด้วยสิ่งที่เราวัดได้
05:44
SATกกท. prepเป็นการเตรียมการ, oboeปี่โอโบ, soccerฟุตบอล practiceการปฏิบัติ.
133
329000
3000
เรียนเตรียมสอบเอสเอที (SAT) เป่าปี่โอโบ ซ้อมฟุตบอล
05:47
They get into competitiveการแข่งขัน collegesวิทยาลัย, they get good jobsงาน,
134
332000
3000
พวกเขาเข้ามหาวิทยาลัยยากๆได้ ได้งานดี
05:50
and sometimesบางครั้ง they make a successความสำเร็จ of themselvesตัวเอง
135
335000
2000
และบางครั้งก็ประสบความสำเร็จในชีวิต
05:52
in a superficialเพียงผิวเผิน mannerลักษณะ, and they make a tonตัน of moneyเงิน.
136
337000
3000
ในแบบผิวเผิน และได้เงินเยอะ
05:55
And sometimesบางครั้ง you can see them at vacationวันหยุด placesสถานที่
137
340000
2000
บางทีก็เห็นพวกเขาในที่พักตากอากาศ
05:57
like Jacksonแจ็คสัน Holeรู or Aspenต้นไม้แอซป์.
138
342000
2000
อย่างแจ็คสัน โฮล์ (Jackson Hole) หรือ แอสเพ็น (Aspen)
05:59
And they'veพวกเขาได้ becomeกลายเป็น elegantสง่า and slenderผอมบาง --
139
344000
2000
พวกเขาจะดูสง่าระหง
06:01
they don't really have thighsเพลา;
140
346000
2000
จนเรียกว่าไม่มีต้นขา
06:03
they just have one elegantสง่า calveคลอดลูก on topด้านบน of anotherอื่น.
141
348000
3000
พวกเขามีน่องงามๆซ้อนกัน
06:06
(Laughterเสียงหัวเราะ)
142
351000
2000
(หัวเราะ)
06:08
They have kidsเด็ก of theirของพวกเขา ownด้วยตัวเอง,
143
353000
2000
พวกเขามีลูกๆของตัวเอง
06:10
and they'veพวกเขาได้ achievedประสบความสำเร็จ a geneticทางพันธุกรรม miracleปาฏิหาริย์ by marryingแต่งงาน beautifulสวย people,
144
355000
3000
พวกเขาสร้างปาฏิหาริย์ทางพันธุกรรม ด้วยการแต่งงานกับคนที่หน้าตาดี
06:13
so theirของพวกเขา grandmomsgrandmoms look like Gertrudeเกอร์ทรูด Steinเหยือกเบียร์,
145
358000
3000
ย่ายายหน้าตาเหมือนเกอร์ทรูด สไตน์ (Gertrude Stein)
06:16
theirของพวกเขา daughtersลูกสาว looksรูปลักษณ์ like Halleฮัลลี Berryผลไม้เล็ก ๆ -- I don't know how they'veพวกเขาได้ doneเสร็จแล้ว that.
146
361000
3000
แต่ลูกๆหน้าเหมือนเฮลลี่ แบรี่ (Halle Berry) -- ไม่รู้ว่าทำได้ไง
06:19
They get there and they realizeตระหนักถึง
147
364000
3000
พวกเขามาถึงจุดนี้แล้วจึงรู้ว่า
06:22
it's fashionableทันสมัย now to have dogsสุนัข a thirdที่สาม as tallสูง as your ceilingเพดาน heightsความสูง.
148
367000
4000
การเลี้ยงหมาที่สูง 1 ใน 3 ของเพดานบ้าน เป็นสิ่งที่ทันสมัย
06:26
So they'veพวกเขาได้ got these furryมีขนยาว 160-pound-ปอนด์ dogsสุนัข --
149
371000
3000
พวกเขาก็เลยมีหมาที่หนัก 160 ปอนด์
06:29
all look like velociraptorsvelociraptors,
150
374000
3000
รูปร่างเหมือนไดโนเสาร์พันธุ์เวโลซีแรปเตอร์
06:32
all namedชื่อ after Janeเจน Austenออสเตน charactersตัวละคร.
151
377000
3000
ที่ตั้งชื่อตามตัวละครจากนิยายของเจน ออสติน (Jane Austen)
06:35
And then when they get oldเก่า, they haven'tยังไม่ได้ really developedพัฒนา a philosophyปรัชญา of life,
152
380000
3000
และเมื่อพวกเขาแก่ พวกเขาก็ยังจะไม่เข้าใจปรัชญาของชีวิต
06:38
but they'veพวกเขาได้ decidedตัดสินใจ, "I've been successfulที่ประสบความสำเร็จ at everything;
153
383000
2000
แต่เขาก็ตัดสินเองว่า "ชั้นประสบความสำเร็จในทุกเรื่อง
06:40
I'm just not going to dieตาย."
154
385000
2000
แล้วชั้นก็จะไม่ยอมตายหรอก"
06:42
And so they hireจ้าง personalส่วนบุคคล trainersการฝึกอบรม;
155
387000
3000
พวกเขาก็เลยจ้างครูฝึกออกกำลังกาย
06:45
they're poppingpopping Cialiscialis like breathลมหายใจ mintsมินต์.
156
390000
2000
กินยาเสริมสมรรถภาพทางเพศเป็นว่าเล่นอย่างกับอมลูกอมงั้น
06:47
You see them on the mountainsภูเขา up there.
157
392000
2000
คุณจะพบพวกนี้ได้บนยอดเขา
06:49
They're cross-countryข้ามประเทศ skiingการเล่นสกี up the mountainภูเขา
158
394000
2000
สกีวิบากขึ้นเขากัน
06:51
with these grimน่ากลัว expressionsการแสดงออก
159
396000
2000
หน้าตาซีเรียส
06:53
that make Dickกระเจี๊ยว Cheneyเชนีย์ look like Jerryเจอร์รี่ Lewisลูอิส.
160
398000
2000
จนทำให้ ดิ๊ก เชนี่ (Dick Cheney) ดูเหมือนตลกอย่าง เจรี่ ลูวิส (Jerry Lewis)
06:55
(Laughterเสียงหัวเราะ)
161
400000
2000
(หัวเราะ)
06:57
And as they whizเสียงหวือ by you,
162
402000
2000
พวกเขาสกีฉิวผ่านคุณไป
06:59
it's like beingกำลัง passedผ่าน by a little ironเหล็ก RaisinetRaisinet
163
404000
2000
ดูเหมือนลูกเกดเคลือบช็อคโกแล็ตยี่ห้อเรซิเน็ตอันแข็งแกร่ง
07:01
going up the hillเนินเขา.
164
406000
2000
ขึ้นไปบนเขา
07:03
(Laughterเสียงหัวเราะ)
165
408000
2000
(หัวเราะ)
07:05
And so this is partส่วนหนึ่ง of what life is,
166
410000
3000
นี่คือส่วนนึงของชีวิต
07:08
but it's not all of what life is.
167
413000
3000
แต่ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต
07:11
And over the pastอดีต fewน้อย yearsปี,
168
416000
2000
ตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา
07:13
I think we'veเราได้ been givenรับ a deeperลึก viewดู of humanเป็นมนุษย์ natureธรรมชาติ
169
418000
4000
ผมคิดว่าเราได้เห็นมุมมองที่ลึกซึ้งขึ้นของธรรมชาติมนุษย์
07:17
and a deeperลึก viewดู of who we are.
170
422000
2000
มุมมองที่ลึกซึ้งขึ้นของตัวเราเอง
07:19
And it's not basedซึ่งเป็นรากฐาน on theologyเทววิทยา or philosophyปรัชญา,
171
424000
2000
ที่ไม่ได้มาจากศาสตร์ทางศาสนาหรือปรัชญาอะไร
07:21
it's in the studyศึกษา of the mindใจ,
172
426000
2000
แต่เป็นการศึกษาเกี่ยวกับจิตใจ
07:23
acrossข้าม all these spheresทรงกลม of researchการวิจัย,
173
428000
2000
ในงานวิจัยหลากหลายสาขา
07:25
from neuroscienceประสาท to the cognitiveองค์ความรู้ scientistsนักวิทยาศาสตร์,
174
430000
2000
ทั้ง วิทยาศาสตร์ทางประสาท ไปจนถึง วิทยาศาสตร์ทางปัญญา
07:27
behavioralเกี่ยวกับพฤติกรรม economistsนักเศรษฐศาสตร์, psychologistsนักจิตวิทยา,
175
432000
2000
เศรษฐศาสตร์เชิงพฤติกรรม จิตวิทยา
07:29
sociologyสังคมวิทยา,
176
434000
2000
สังคมศาสตร์
07:31
we're developingที่กำลังพัฒนา a revolutionการปฏิวัติ in consciousnessสติ.
177
436000
3000
เรากำลังสร้างการปฏิวัติด้านจิตสำนึก
07:34
And when you synthesizeสังเคราะห์ it all,
178
439000
2000
และเมื่อเราสังเคราะห์ความรู้พวกนี้แล้ว
07:36
it's givingให้ us a newใหม่ viewดู of humanเป็นมนุษย์ natureธรรมชาติ.
179
441000
2000
ก็จะทำให้เรามีมุมมองใหม่ๆเกี่ยวกับธรรมชาติมนุษย์
07:38
And farห่างไกล from beingกำลัง a coldlyหนาว materialisticเป็นรูปธรรม viewดู of natureธรรมชาติ,
180
443000
3000
ที่ห่างไกลจากมุมมองทางวัตถุนิยมที่เย็นชาต่อธรรมชาติ
07:41
it's a newใหม่ humanismความเห็นอกเห็นใจ, it's a newใหม่ enchantmentเสน่ห์.
181
446000
3000
มันคือมานุษยวิทยาแบบใหม่ที่น่าหลงใหล
07:44
And I think when you synthesizeสังเคราะห์ this researchการวิจัย,
182
449000
2000
ผมคิดว่าเมื่อคุณสังเคราะห์งานวิจัยพวกนี้
07:46
you startเริ่มต้น with threeสาม keyสำคัญ insightsข้อมูลเชิงลึก.
183
451000
2000
คุณจะได้ความเข้าใจอย่างลึกซึ่ง 3 อย่าง
07:48
The first insightข้อมูลเชิงลึก is
184
453000
2000
อย่างแรกคือ
07:50
that while the consciousมีสติอยู่ mindใจ writesเขียน the autobiographyอัตชีวประวัติ of our speciesสายพันธุ์,
185
455000
3000
ระหว่างการที่จิตสำนึกเขียนประวัติศาสตร์ของสายพันธุ์ของเรา
07:53
the unconsciousไม่ได้สติ mindใจ does mostมากที่สุด of the work.
186
458000
4000
จิตใต้สำนึกเป็นฝ่ายทำงานหนักกว่า
07:57
And so one way to formulateกำหนด that is
187
462000
2000
หรือพูดอีกอย่างได้ว่า
07:59
the humanเป็นมนุษย์ mindใจ can take in millionsล้าน of piecesชิ้น of informationข้อมูล a minuteนาที,
188
464000
3000
เราสามารถรับข้อมูลเป็นล้านๆชิ้นต่อนาที
08:02
of whichที่ it can be consciouslyมีสติ awareทราบ of about 40.
189
467000
3000
แต่เรารู้สึกเหมือนแค่รับไปสัก 40 ชิ้นเท่านั้น
08:05
And this leadsโอกาสในการขาย to odditiesแปลกประหลาด.
190
470000
2000
และสิ่งนี้ก็ส่งผลที่น่าประหลาด
08:07
One of my favoriteที่ชื่นชอบ is that people namedชื่อ Dennisเดนนิส
191
472000
2000
ตัวอย่างนึงที่ผมชอบมากๆ คือคนชื่อ เดนนิส (Dennis)
08:09
are disproportionatelyหงส์ likelyน่าจะ to becomeกลายเป็น dentistsทันตแพทย์,
192
474000
3000
เป็นทันตแพทย์(หมอฟัน)กันมากกว่าคนชื่ออื่น
08:12
people namedชื่อ Lawrenceอเรนซ์ becomeกลายเป็น lawyersทนายความ,
193
477000
2000
ส่วนคนชื่อลอว์เร้นซ์ (Lawrence) ก็เหมือนจะพากันไปเป็นนักกฏหมาย
08:14
because unconsciouslyโดยไม่รู้ตัว we gravitateไหล towardไปทาง things
194
479000
2000
เพราะแรงดึงดูดใต้สำนึกที่ทำให้พวกเขา
08:16
that soundเสียง familiarคุ้นเคย,
195
481000
2000
เข้าหาสิ่งที่ฟังดูคุ้นเคย
08:18
whichที่ is why I namedชื่อ my daughterลูกสาว Presidentประธาน of the Unitedปึกแผ่น Statesสหรัฐอเมริกา Brooksบรูคส์.
196
483000
3000
ผมเลยตั้งชื่อลูกสาวว่า "ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา บรู๊คส์"
08:21
(Laughterเสียงหัวเราะ)
197
486000
3000
(หัวเราะ)
08:24
Anotherอื่น findingคำวินิจฉัย is that the unconsciousไม่ได้สติ,
198
489000
3000
สิ่งที่ค้นพบอีกอย่าง คือจิตใต้สำนึก
08:27
farห่างไกล from beingกำลัง dumbโง่ and sexualizedทางเพศ,
199
492000
2000
ไม่ได้โง่หรือลามก
08:29
is actuallyแท้จริง quiteทีเดียว smartฉลาด.
200
494000
2000
แต่จริงๆแล้วค่อนข้างฉลาด
08:31
So one of the mostมากที่สุด cognitivelyรับรู้ demandingเรียกร้อง things we do is buyซื้อ furnitureเฟอร์นิเจอร์.
201
496000
3000
หนึ่งในสิ่งที่ท้าทายภูมิปัญญาของเรามากที่สุด คือการซื้อเฟอร์นิเจอร์
08:34
It's really hardยาก to imagineจินตนาการ a sofaโซฟา, how it's going to look in your houseบ้าน.
202
499000
3000
การจินตนาการว่า โซฟาตัวนี้ จะดูเป็นยังไงในบ้านคุณ
08:37
And the way you should do that
203
502000
2000
และวิธีที่คุณควรใช้คือ
08:39
is studyศึกษา the furnitureเฟอร์นิเจอร์,
204
504000
2000
การศึกษาเฟอร์นิเจอร์นั้นๆ
08:41
let it marinateแช่ในน้ำส้มให้นุ่ม in your mindใจ, distractกวนใจ yourselfด้วยตัวคุณเอง,
205
506000
2000
อย่าตั้งใจคิดถึงมัน แต่ให้มันอยู่ในจิตใต้สำนึกของคุณ
08:43
and then a fewน้อย daysวัน laterต่อมา, go with your gutไส้ใน,
206
508000
2000
แล้วอีก 2-3 วันค่อยตัดสินใจตามความรู้สึก
08:45
because unconsciouslyโดยไม่รู้ตัว you've figuredคิด it out.
207
510000
2000
เพราะจิตใต้สำนึกของคุณรู้คำตอบแล้ว
08:47
The secondที่สอง insightข้อมูลเชิงลึก
208
512000
2000
ความเข้าใจลึกซึ้งอย่างที่สอง
08:49
is that emotionsอารมณ์ are at the centerศูนย์ of our thinkingคิด.
209
514000
3000
คือ อารมณ์เป็นศูนย์กลางทางความคิดของคน
08:52
People with strokesจังหวะ and lesionsแผล
210
517000
2000
คนที่เคยมีเส้นเลือดอุดตันหรือมีบาดแผลในสมอง
08:54
in the emotion-processingอารมณ์ความรู้สึกในการประมวลผล partsชิ้นส่วน of the brainสมอง
211
519000
2000
ในส่วนที่รับหน้าที่เกี่ยวกับอารมณ์
08:56
are not superซุปเปอร์ smartฉลาด,
212
521000
2000
มักจะไม่ฉลาดนัก
08:58
they're actuallyแท้จริง sometimesบางครั้ง quiteทีเดียว helplessทำอะไรไม่ถูก.
213
523000
2000
ส่วนใหญ่แล้ว ถึงกับช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำ
09:00
And the "giantยักษ์" in the fieldสนาม is in the roomห้อง tonightคืนนี้
214
525000
2000
และผู้เชี่ยวชาญสาขานี้ก็อยู่ในห้องกับพวกเราด้วย
09:02
and is speakingการพูด tomorrowวันพรุ่งนี้ morningตอนเช้า -- Antonioอันโตนิโอ DamasioDamasio.
215
527000
3000
เขาจะบรรยายพรุ่งนี้เช้า -- อันโตนิโอ้ ดามาสิโอ้ (Antonio Damasio)
09:05
And one of the things he's really shownแสดงให้เห็นว่า us
216
530000
2000
สิ่งนึงที่เขาจะแสดงให้เราเห็น
09:07
is that emotionsอารมณ์ are not separateแยก from reasonเหตุผล,
217
532000
3000
คือ อารมณ์ไม่ได้แยกจากเหตุผล
09:10
but they are the foundationมูลนิธิ of reasonเหตุผล
218
535000
2000
แต่อารมณ์พื้นฐานของเหตุผลต่างหาก
09:12
because they tell us what to valueความคุ้มค่า.
219
537000
2000
เพราะอารมณ์บอกเราว่าอะไรสำคัญ
09:14
And so readingการอ่าน and educatingการให้ความรู้ your emotionsอารมณ์
220
539000
2000
ดังนั้น การศึกษาเข้าใจอารมณ์ของเรานั้น
09:16
is one of the centralศูนย์กลาง activitiesกิจกรรม of wisdomความฉลาด.
221
541000
3000
จึงเป็นหนึ่งวิธีหลักของการสร้างปัญญา
09:19
Now I'm a middle-agedวัยกลางคน guy.
222
544000
2000
ผมน่ะเป็นชายวัยกลางคน
09:21
I'm not exactlyอย่างแน่นอน comfortableสบาย with emotionsอารมณ์.
223
546000
2000
ที่ไม่ชอบพูดถึงเรื่องอารมณ์เท่าไหร่
09:23
One of my favoriteที่ชื่นชอบ brainสมอง storiesเรื่องราว describedอธิบาย these middle-agedวัยกลางคน guys.
224
548000
3000
เรื่องเล่าที่ผมชอบมากเรื่องนึง เล่าถึงพวกผู้ชายวัยกลางคน
09:26
They put them into a brainสมอง scanการสแกน machineเครื่อง --
225
551000
3000
ที่ถูกส่งไปตรวจสมอง
09:29
this is apocryphalไม่มีลักฐาน by the way, but I don't careการดูแล --
226
554000
3000
นี่เป็นเรื่องแต่งนะครับ แต่ผมก็ยังชอบ
09:32
and they had them watch a horrorความน่ากลัว movieหนัง,
227
557000
3000
ระหว่างที่สแกนสมอง ตอนแรกก็ให้พวกเขาดูหนังสยองก่อน
09:35
and then they had them describeอธิบาย theirของพวกเขา feelingsความรู้สึก towardไปทาง theirของพวกเขา wivesภรรยา.
228
560000
4000
เสร็จแล้วก็ให้พวกเขาบรรยายความรู้สึกถึงเมียของตัวเองต่อ
09:39
And the brainสมอง scansสแกน were identicalเหมือนกัน in bothทั้งสอง activitiesกิจกรรม.
229
564000
3000
ปรากฏว่าผลออกมาเหมือนกันเปี๊ยบ
09:42
It was just sheerเลี่ยง terrorความหวาดกลัว.
230
567000
2000
คือเป็นความหวาดกลัวครับ
09:44
So me talkingการพูด about emotionอารมณ์
231
569000
2000
ดังนั้น การที่ผมพูดถึงอารมณ์
09:46
is like Gandhiคานธี talkingการพูด about gluttonyการกินและดื่มมากเกินไป,
232
571000
2000
ก็เหมือนท่านมหาตมะคานธีพูดถึงความตะกละ
09:48
but it is the centralศูนย์กลาง organizingการจัดระเบียบ processกระบวนการ
233
573000
2000
แต่อารมณ์นี่แหละ คือหัวใจสำคัญ
09:50
of the way we think.
234
575000
2000
ของวิธีคิดของเราๆ
09:52
It tellsบอก us what to imprintประทับ.
235
577000
2000
มันบอกเราว่าอะไรควรจดจำ
09:54
The brainสมอง is the recordบันทึก of the feelingsความรู้สึก of a life.
236
579000
2000
สมองคือที่บันทึกของความรู้สึกต่างๆในชีวิต
09:56
And the thirdที่สาม insightข้อมูลเชิงลึก
237
581000
2000
และความเข้าใจลึกซึ้งอย่างที่สาม
09:58
is that we're not primarilyส่วนใหญ่ self-containedอยู่ในตัวเอง individualsบุคคล.
238
583000
4000
คือ เราแต่ละคนไม่ได้อยู่โดยลำพัง
10:02
We're socialสังคม animalsสัตว์, not rationalมีเหตุผล animalsสัตว์.
239
587000
3000
เราเป็นสัตว์สังคม ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตแห่งตรรกะเหตุผล
10:05
We emergeออกมา out of relationshipsสัมพันธ์,
240
590000
2000
เราเกิดมาจากความสัมพันธ์ของมนุษย์
10:07
and we are deeplyลึก interpenetratedinterpenetrated, one with anotherอื่น.
241
592000
3000
และเราทุกคนก็เกี่ยวโยงกันในเครือข่ายซับซ้อน
10:10
And so when we see anotherอื่น personคน,
242
595000
2000
เมื่อเราเห็นคนอื่น
10:12
we reenactซ้ำ in our ownด้วยตัวเอง mindsจิตใจ
243
597000
2000
เราจินตนาการในหัว
10:14
what we see in theirของพวกเขา mindsจิตใจ.
244
599000
2000
ว่าเขาคิดเห็นอะไรอยู่
10:16
When we watch a carรถ chaseการไล่ล่า in a movieหนัง,
245
601000
2000
เมื่อเราเห็นฉากขับรถไล่ล่ากันในหนัง
10:18
it's almostเกือบจะ as if we are subtlyอย่างละเอียด havingมี a carรถ chaseการไล่ล่า.
246
603000
3000
มันคล้ายกับว่าเราเองก็ไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นเองด้วย
10:21
When we watch pornographyสื่อลามก,
247
606000
2000
เมื่อเราดูหนังโป๊
10:23
it's a little like havingมี sexเพศ,
248
608000
2000
ก็เหมือนกับการมีเซ็กส์
10:25
thoughแม้ probablyอาจ not as good.
249
610000
2000
แต่อาจจะไม่ดีเท่า
10:27
And we see this when loversคนรัก walkเดิน down the streetถนน,
250
612000
3000
และเมื่อเห็นคู่รักเดินบนถนน
10:30
when a crowdฝูงชน in Egyptอียิปต์ or Tunisiaตูนิเซีย
251
615000
2000
เมื่อกลุ่มคนในอียิปต์ หรือ ตูนีเซีย
10:32
getsได้รับ caughtจับ up in an emotionalอารมณ์ contagionการแพร่กระจาย,
252
617000
2000
อยู่กลางการแพร่กระจายทางอารมณ์
10:34
the deepลึก interpenetrationแทรกซึม.
253
619000
2000
เป็นการเกี่ยวพันที่ล้ำลึก
10:36
And this revolutionการปฏิวัติ in who we are
254
621000
3000
เป็นการปฏิวัติการมองตัวเราใหม่
10:39
givesจะช่วยให้ us a differentต่าง way of seeingเห็น, I think, politicsการเมือง,
255
624000
3000
ผมว่า ทำให้เราเห็นการเมือง
10:42
a differentต่าง way, mostมากที่สุด importantlyที่สำคัญ,
256
627000
2000
ในแบบที่ต่างไป และที่สำคัญที่สุด
10:44
of seeingเห็น humanเป็นมนุษย์ capitalเมืองหลวง.
257
629000
2000
เห็นค่าเพื่อนมนุษย์มากขึ้นด้วย
10:46
We are now childrenเด็ก ๆ of the Frenchฝรั่งเศส Enlightenmentการตรัสรู้.
258
631000
4000
ตอนนี้เราเป็นสาวกของสำนักรู้แจ้งแห่งฝรั่งเศส (French Enlightenment)
10:50
We believe that reasonเหตุผล is the highestสูงสุด of the facultiesปัญญา.
259
635000
3000
ที่เชื่อว่าตรรกะอยู่เหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด
10:53
But I think this researchการวิจัย showsแสดงให้เห็นว่า
260
638000
2000
แต่ผมคิดว่าผลการวิจัยนี้
10:55
that the Britishอังกฤษ Enlightenmentการตรัสรู้, or the Scottishสก็อต Enlightenmentการตรัสรู้,
261
640000
2000
แสดงให้เห็นว่า แนวคิดการรู้แจ้งแบบอังกฤษหรือสก็อต
10:57
with Davidเดวิด Humeฮูม, Adamอาดัม Smithช่างเหล็ก,
262
642000
2000
ของ เดวิด ฮูม (David Hume) และ อดัม สมิธ (Adam Smith)
10:59
actuallyแท้จริง had a better handleจัดการ on who we are --
263
644000
3000
ตรงกับความจริงของตัวตนมนุษย์มากกว่า
11:02
that reasonเหตุผล is oftenบ่อยครั้ง weakอ่อนแอ, our sentimentsความรู้สึก are strongแข็งแรง,
264
647000
3000
ที่ว่าเหตุผลมักจะแพ้อารมณ์
11:05
and our sentimentsความรู้สึก are oftenบ่อยครั้ง trustworthyเชื่อถือได้.
265
650000
3000
และความรู้สึกของเรามักจะเชื่อถึอได้
11:08
And this work correctsแก้ไข that biasอคติ in our cultureวัฒนธรรม,
266
653000
3000
ผลงานชิ้นนี้แก้ไขอคติ
11:11
that dehumanizingทวน biasอคติ.
267
656000
2000
ที่หยั่งรากลึกในสังคมของเรา
11:13
It givesจะช่วยให้ us a deeperลึก senseความรู้สึก
268
658000
2000
มันทำให้เราเข้าใจ
11:15
of what it actuallyแท้จริง takes
269
660000
2000
ถึงปัจจัยที่แท้จริง
11:17
for us to thriveเจริญเติบโต in this life.
270
662000
2000
ในการที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต
11:19
When we think about humanเป็นมนุษย์ capitalเมืองหลวง
271
664000
2000
เวลาที่เราพูดถึงคุณภาพของคน
11:21
we think about the things we can measureวัด easilyอย่างง่ายดาย --
272
666000
3000
เรามักจะคิดถึงสิ่งที่วัดได้ง่ายๆ
11:24
things like gradesเกรด, SAT'sของ SAT, degreesองศา,
273
669000
3000
อย่างเช่น เกรด คะแนนSAT ปริญญา
11:27
the numberจำนวน of yearsปี in schoolingการฝึกหัด.
274
672000
2000
จำนวนปีที่ได้รับการศึกษา
11:29
What it really takes to do well, to leadนำ a meaningfulมีความหมาย life,
275
674000
3000
แต่สิ่งที่สำคัญจริงๆ ในการมีชีวิตที่ดีและมีความหมาย
11:32
are things that are deeperลึก,
276
677000
2000
เป็นสิ่งที่ล้ำลึกกว่านั้น
11:34
things we don't really even have wordsคำ for.
277
679000
3000
สิ่งที่เราไม่มีคำพูดบรรยาย
11:37
And so let me listรายการ just a coupleคู่ of the things
278
682000
2000
ผมจึงอยากยกตัวอย่างซัก 2-3 อัน
11:39
I think this researchการวิจัย pointsจุด us towardไปทาง tryingพยายาม to understandเข้าใจ.
279
684000
4000
ที่ผมคิดว่างานวิจัยชิ้นนี้ ชี้นำให้เราพยายามทำความเข้าใจ
11:43
The first giftของขวัญ, or talentความสามารถพิเศษ, is mindsightMindSight --
280
688000
3000
พรสวรรค์หรือความสามารถอย่างแรก คือทัศนะทางจิต
11:46
the abilityความสามารถ to enterเข้าสู่ into other people'sของผู้คน mindsจิตใจ
281
691000
4000
ทักษะการเข้าถึงจิตใจคนอื่น
11:50
and learnเรียน what they have to offerเสนอ.
282
695000
2000
และเรียนรู้ในสิ่งที่เขามีให้
11:52
Babiesทารก come with this abilityความสามารถ.
283
697000
2000
เด็กทารกเกิดมาพร้อมกับทักษะนี้
11:54
MeltzoffMeltzoff, who'sใคร at the Universityมหาวิทยาลัย of Washingtonวอชิงตัน,
284
699000
2000
เมล์ทซอฟฟ์ (Meltzoff) จาก มหาวิทยาลัยวอชิงตั้น
11:56
leanedโน้มตัว over a babyทารก who was 43 minutesนาที oldเก่า.
285
701000
3000
ก้มดูเด็กทารกอายุ 43 นาที
11:59
He waggedกระดิก his tongueลิ้น at the babyทารก.
286
704000
2000
เขาแลบลิ้นใส่เด็ก
12:01
The babyทารก waggedกระดิก her tongueลิ้น back.
287
706000
3000
เด็กก็แลบลิ้นตอบ
12:04
Babiesทารก are bornโดยกำเนิด to interpenetrateinterpenetrate into Mom'sแม่ mindใจ
288
709000
3000
เด็กทารกเกิดมาเพื่อเข้าถึงจิตใจของแม่
12:07
and to downloadดาวน์โหลด what they find --
289
712000
2000
แล้วเก็บเกี่ยวสิ่งที่ค้นพบ
12:09
theirของพวกเขา modelsรุ่น of how to understandเข้าใจ realityความจริง.
290
714000
2000
มาใช้ในกระบวนการเรียนรู้ความเป็นจริง
12:11
In the Unitedปึกแผ่น Statesสหรัฐอเมริกา, 55 percentเปอร์เซ็นต์ of babiesทารก
291
716000
3000
ในอเมริกา เด็กทารกร้อยละ 55
12:14
have a deepลึก two-wayสองทาง conversationการสนทนา with Momแม่
292
719000
2000
สื่อสารลึกซึ้งได้ระหว่างแม่เค้ากับตัวเค้า
12:16
and they learnเรียน modelsรุ่น to how to relateสัมพันธ์ to other people.
293
721000
3000
ซึ่งทำให้พวกเขาเรียนรู้วิธีสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ
12:19
And those people who have modelsรุ่น of how to relateสัมพันธ์
294
724000
2000
และคนที่มีแม่เป็นตัวอย่าง
12:21
have a hugeใหญ่ headหัว startเริ่มต้น in life.
295
726000
2000
ได้เปรียบกว่าคนอื่นๆในชีวิตมาก
12:23
Scientistsนักวิทยาศาสตร์ at the Universityมหาวิทยาลัย of Minnesotaมินนิโซตา did a studyศึกษา
296
728000
2000
นักวิทยาศาตร์ ณ มหาวิทยาลัยมินเนโซต้าได้ทำวิจัย
12:25
in whichที่ they could predictทำนาย
297
730000
2000
ที่ทำให้พวกเขาสามารถพยากรณ์ได้
12:27
with 77 percentเปอร์เซ็นต์ accuracyความถูกต้อง, at ageอายุ 18 monthsเดือน,
298
732000
3000
ด้วยอัตราความสำเร็จร้อยละ 77 ว่าในเด็กอายุ 18 เดือน
12:30
who was going to graduateจบการศึกษา from highสูง schoolโรงเรียน,
299
735000
2000
ใครจะเรียนจบมัธยมปลายบ้าง
12:32
basedซึ่งเป็นรากฐาน on who had good attachmentความผูกพัน with momแม่.
300
737000
3000
โดยดูจากความผูกพันระหว่างแม่กับเด็ก
12:35
Twentyยี่สิบ percentเปอร์เซ็นต์ of kidsเด็ก do not have those relationshipsสัมพันธ์.
301
740000
3000
มีเด็กร้อยละ 20 ที่ไม่มีความสัมพันธ์แบบนี้
12:38
They are what we call avoidantlyavoidantly attachedแนบมาด้วย.
302
743000
2000
เราเรียกว่า ความสัมพันธ์ที่ไม่ได้รับการตอบสนอง
12:40
They have troubleปัญหา relatingที่เกี่ยวข้อง to other people.
303
745000
2000
พวกเขามีปัญหาในการสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่น
12:42
They go throughตลอด life
304
747000
2000
เขามีชีวิต
12:44
like sailboatsเรือใบ tackingการตรึง into the windลม --
305
749000
2000
เหมือนเรือใบที่พยายามต้านลม
12:46
wantingบกพร่อง to get closeปิด to people,
306
751000
2000
อยากจะใกล้ชิดกับคนอื่น
12:48
but not really havingมี the modelsรุ่น of how to do that.
307
753000
3000
แต่ไม่เคยเห็นตัวอย่างว่าต้องทำยังไง
12:51
And so this is one skillความสามารถ
308
756000
2000
ดังนั้น นี่คือทักษะนึง
12:53
of how to hooverเครื่องดูดฝุ่น up knowledgeความรู้, one from anotherอื่น.
309
758000
2000
ของการดูดซับความรู้ จากคนนึงสู่อีกคน
12:55
A secondที่สอง skillความสามารถ is equalเท่ากัน poiseชั่ง,
310
760000
3000
ทักษะที่ 2 ก็สำคัญไม่แพ้กัน
12:58
the abilityความสามารถ to have the serenityความสงบเงียบ
311
763000
2000
คือความสามารถในการมองเห็น
13:00
to readอ่าน the biasesอคติ and failuresความล้มเหลว in your ownด้วยตัวเอง mindใจ.
312
765000
3000
อคติและความล้มเหลวของตัวเองอย่างมีแท้จริง
13:03
So for exampleตัวอย่าง, we are overconfidenceความเชื่อมั่น machinesเครื่อง.
313
768000
3000
เพราะพวกเราเป็นเครื่องจักรที่ทะนงตน
13:06
Ninety-fiveเก้าสิบห้า percentเปอร์เซ็นต์ of our professorsอาจารย์ reportรายงาน
314
771000
3000
อาจารย์มหาวิทยาลัยร้อยละ 95 บอกว่า
13:09
that they are above-averageเหนือค่าเฉลี่ย teachersครู.
315
774000
2000
ตัวเองเป็นอาจารย์ที่ดีกว่าเกณฑ์เฉลี่ย
13:11
Ninety-sixเก้าสิบหก percentเปอร์เซ็นต์ of collegeวิทยาลัย studentsนักเรียน
316
776000
2000
นักศึกษาปริญญาตรีร้อยละ 96
13:13
say they have above-averageเหนือค่าเฉลี่ย socialสังคม skillsทักษะ.
317
778000
3000
บอกว่าตนมีทักษะทางสังคมที่ดีกว่าเกณฑ์เฉลี่ย
13:16
Time magazineนิตยสาร askedถาม Americansชาวอเมริกัน, "Are you in the topด้านบน one percentเปอร์เซ็นต์ of earnersรายได้จุนเจือครอบครัว?"
318
781000
3000
นิตยสารไทม์ถามชาวอเมริกันว่า "คุณมีรายได้สูงสุดในกลุ่ม1% ของประเทศรึเปล่า"
13:19
Nineteenสิบเก้า percentเปอร์เซ็นต์ of Americansชาวอเมริกัน are in the topด้านบน one percentเปอร์เซ็นต์ of earnersรายได้จุนเจือครอบครัว.
319
784000
3000
ร้อยละ 19 ตอบว่า ตัวเองอยู่ใน1%ที่รวยที่สุด
13:22
(Laughterเสียงหัวเราะ)
320
787000
2000
(หัวเราะ)
13:24
This is a gender-linkedเพศที่เชื่อมโยง traitลักษณะนิสัย, by the way.
321
789000
2000
แต่นิสัยนี้ขึ้นอยู่กับเพศด้วย
13:26
Menผู้ชาย drownจมน้ำตาย at twiceสองครั้ง the rateอัตรา of womenผู้หญิง,
322
791000
2000
ผู้ชายจมน้ำบ่อยกว่าผู้หญิง 2 เท่า
13:28
because menผู้ชาย think they can swimการว่ายน้ำ acrossข้าม that lakeทะเลสาป.
323
793000
3000
เพราะผู้ชายคิดว่าตัวเองว่ายน้ำข้ามทะเลสาปได้
13:31
But some people have the abilityความสามารถ and awarenessความตระหนัก
324
796000
3000
แต่คนบางคนมีความสามารถและความเข้าใจ
13:34
of theirของพวกเขา ownด้วยตัวเอง biasesอคติ, theirของพวกเขา ownด้วยตัวเอง overconfidenceความเชื่อมั่น.
325
799000
3000
ถึงความลำเอียงและความทะนงตนของตัวเอง
13:37
They have epistemologicalญาณวิทยา modestyความพอประมาณ.
326
802000
2000
พวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความถ่อมตน
13:39
They are open-mindedเปิดใจ in the faceใบหน้า of ambiguityความคลุมเครือ.
327
804000
3000
พวกเขายอมรับฟังในภาวะที่คลุมเครือ
13:42
They are ableสามารถ to adjustปรับ strengthความแข็งแรง of the conclusionsข้อสรุป
328
807000
2000
พวกเขาสามารถปรับระดับความมั่นใจในการตัดสินใจ
13:44
to the strengthความแข็งแรง of theirของพวกเขา evidenceหลักฐาน.
329
809000
2000
ให้เหมาะกับความน่าเชื่อถือของหลักฐาน
13:46
They are curiousอยากรู้อยากเห็น.
330
811000
2000
พวกเขามีนิสัยอยากรู้อยากเห็น
13:48
And these traitsลักษณะ are oftenบ่อยครั้ง unrelatedไม่เกี่ยวข้องกับ and uncorrelateduncorrelated with IQไอคิว.
331
813000
3000
ซึ่งมักจะไม่เกี่ยวข้องกับไอคิว (IQ)
13:51
The thirdที่สาม traitลักษณะนิสัย is metisMetis,
332
816000
2000
และนิสัยอีกอย่างนึงคือ 'มิดิส'
13:53
what we mightอาจ call streetถนน smartsกึ๋น -- it's a Greekกรีก wordคำ.
333
818000
3000
ซึ่งเป็นภาษากรีก แปลว่า มีไหวพริบ
13:56
It's a sensitivityความไว to the physicalกายภาพ environmentสิ่งแวดล้อม,
334
821000
2000
เป็นความไวต่อสภาพแวดล้อม
13:58
the abilityความสามารถ to pickเลือก out patternsรูปแบบ in an environmentสิ่งแวดล้อม --
335
823000
2000
ความสามารถในการมองเห็นแบบแผนในสภาพแวดล้อม
14:00
deriveได้รับมา a gistส่วนสำคัญ.
336
825000
2000
หาแก่นสำคัญ
14:02
One of my colleaguesเพื่อนร่วมงาน at the Timesไทม์ส
337
827000
2000
เพื่อนร่วมงานของผมที่ไทม์คนนึง
14:04
did a great storyเรื่องราว about soldiersทหาร in Iraqอิรัก
338
829000
2000
เขียนบทความเกี่ยวกับทหารในอิรัก
14:06
who could look down a streetถนน and detectตรวจจับ somehowอย่างใด
339
831000
3000
ที่แค่มองถนนก็รู้
14:09
whetherว่า there was an IEDIED, a landmineระเบิด, in the streetถนน.
340
834000
2000
ว่ามี ไออีดี (IED) หรือกับระเบิด ฝังอยู่รึเปล่า
14:11
They couldn'tไม่สามารถ tell you how they did it,
341
836000
2000
พวกเขาเองก็ไม่รู้ว่าทำได้ยังไง
14:13
but they could feel coldหนาว, they feltรู้สึกว่า a coldnessความเย็น,
342
838000
3000
แต่พวกเขารู้สึกถึงไอเย็น รู้สึกหนาว
14:16
and they were more oftenบ่อยครั้ง right than wrongไม่ถูกต้อง.
343
841000
3000
และการคาดเดาของพวกเขาก็ค่อนข้างแม่นยำ
14:19
The thirdที่สาม is what you mightอาจ call sympathyความเห็นอกเห็นใจ,
344
844000
2000
ทักษะสำคัญอย่างที่ 3 คือความเห็นอกเห็นใจ
14:21
the abilityความสามารถ to work withinภายใน groupsกลุ่ม.
345
846000
3000
ความสามารถในการทำงานเป็นกลุ่ม
14:24
And that comesมา in tremendouslyเป็นอันมาก handyมีประโยชน์,
346
849000
3000
ซึ่งมีประโยชน์มาก
14:27
because groupsกลุ่ม are smarterอย่างชาญฉลาด than individualsบุคคล.
347
852000
2000
เพราะคนเป็นกลุ่มรวมกันฉลาดกว่าคนๆเดียว
14:29
And face-to-faceตัวต่อตัว groupsกลุ่ม are much smarterอย่างชาญฉลาด
348
854000
2000
และกลุ่มคนที่เจอกันในชีวิตจริงก็ฉลาดกว่า
14:31
than groupsกลุ่ม that communicateสื่อสาร electronicallyด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์,
349
856000
3000
กลุ่มคนที่สื่อสารกันด้วยเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์
14:34
because 90 percentเปอร์เซ็นต์ of our communicationการสื่อสาร is non-verbalไม่ใช่คำพูด.
350
859000
3000
เพราะ การสื่อสารของมนุษย์ร้อยละ 90 ไม่ผ่านทางภาษา
14:37
And the effectivenessประสิทธิผล of a groupกลุ่ม
351
862000
2000
และประสิทธิภาพของกลุ่ม
14:39
is not determinedแน่นอน by the IQไอคิว of the groupกลุ่ม;
352
864000
3000
ไม่ได้ขึ้นอยู่กับไอคิว
14:42
it's determinedแน่นอน by how well they communicateสื่อสาร,
353
867000
3000
แต่ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาสื่อสารกันได้ดีแค่ไหน
14:45
how oftenบ่อยครั้ง they take turnsผลัดกัน in conversationการสนทนา.
354
870000
3000
เขาแบ่งกันพูดโดยทั่วถึงรึเปล่า
14:48
Then you could talk about a traitลักษณะนิสัย like blendingการผสม.
355
873000
3000
คุณอาจจะพูดถึงความสามารถ เช่น การกลมกลืน
14:51
Any childเด็ก can say, "I'm a tigerเสือ," pretendแกล้งทำ to be a tigerเสือ.
356
876000
3000
เด็กๆสามารถบอกว่า "ชั้นเป็นเสือ" แล้วทำท่าเป็นเสือกันได้ทั้งนั้น
14:54
It seemsดูเหมือนว่า so elementaryเบื้องต้น.
357
879000
2000
มันอาจจะดูง่าย
14:56
But in factความจริง, it's phenomenallyเปรอะเปื้อน complicatedซับซ้อน
358
881000
2000
แต่ที่จริงๆแล้วมันเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน
14:58
to take a conceptแนวคิด "I" and a conceptแนวคิด "tigerเสือ"
359
883000
2000
ซึ่งเอานิยามของ"ชั้น"กับ"เสือ"
15:00
and blendการผสมผสาน them togetherด้วยกัน.
360
885000
2000
มาผสมเข้าด้วยกัน
15:02
But this is the sourceแหล่ง of innovationนวัตกรรม.
361
887000
2000
แต่นี่คือที่มาของนวัตกรรม
15:04
What Picassoปิกัสโซ did, for exampleตัวอย่าง,
362
889000
2000
อย่างสิ่งที่ปิกัสโซ่ (Picasso) ทำ
15:06
was take the conceptแนวคิด "Westernตะวันตก artศิลปะ"
363
891000
2000
เป็นการเอานิยามของศิลปะทางตะวันตก
15:08
and the conceptแนวคิด "Africanแอฟริกัน masksมาสก์"
364
893000
2000
มาผสมกับหน้ากากแบบอัฟริกา
15:10
and blendการผสมผสาน them togetherด้วยกัน --
365
895000
2000
แล้วหลอมรวมกัน
15:12
not only the geometryเรขาคณิต,
366
897000
2000
ไม่ใช่แค่ทางรูปทรงเท่านั้น
15:14
but the moralคุณธรรม systemsระบบ entailedยก in them.
367
899000
2000
แต่รวมถึงระบบศีลธรรมของมันด้วย
15:16
And these are skillsทักษะ, again, we can't countนับ and measureวัด.
368
901000
2000
ทักษะเหล่านี้ เราไม่สามารถนับหรือวัดได้
15:18
And then the finalสุดท้าย thing I'll mentionกล่าวถึง
369
903000
2000
และสิ่งสุดท้ายที่ผมจะเสริม
15:20
is something you mightอาจ call limerenceLimerence.
370
905000
2000
คือสิ่งที่คุณอาจเรียกว่าการตกหลุมรัก
15:22
And this is not an abilityความสามารถ;
371
907000
2000
นี่ไม่ใช่ทักษะ
15:24
it's a driveขับรถ and a motivationแรงจูงใจ.
372
909000
3000
แต่เป็นแรงกระตุ้นใจ
15:27
The consciousมีสติอยู่ mindใจ hungersหิวโหย for successความสำเร็จ and prestigeศักดิ์ศรี.
373
912000
3000
จิตสำนึกโหยหาความสำเร็จและเกียรติยศ
15:30
The unconsciousไม่ได้สติ mindใจ hungersหิวโหย
374
915000
2000
จิตใต้สำนึกต้องการ
15:32
for those momentsช่วงเวลา of transcendenceวิชชา,
375
917000
2000
ช่วงเวลาของการหลุดพ้น
15:34
when the skullกะโหลกศีรษะ lineเส้น disappearsหายไป
376
919000
2000
ที่เส้นแบ่งตัวตนของเราหายไป
15:36
and we are lostสูญหาย in a challengeท้าทาย or a taskงาน --
377
921000
3000
ทำให้เราอยู่ในงานหรือสิ่งท้าทายอย่างเต็มตัว
15:39
when a craftsmanช่างฝีมือ feelsรู้สึก lostสูญหาย in his craftงานฝีมือ,
378
924000
3000
เมื่อช่างรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งในงานฝีมือ
15:42
when a naturalistนักธรรมชาติวิทยา feelsรู้สึก at one with natureธรรมชาติ,
379
927000
3000
เมื่อนักชีววิทยาเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ
15:45
when a believerผู้ศรัทธา feelsรู้สึก at one with God'sของพระเจ้า love.
380
930000
3000
เมื่อผู้นับถือกลายเป็นส่วนหนึ่งของความรักของพระเจ้า
15:48
That is what the unconsciousไม่ได้สติ mindใจ hungersหิวโหย for.
381
933000
3000
นี่คือสิ่งที่จิตใต้สำนึกกระหาย
15:51
And manyจำนวนมาก of us feel it in love
382
936000
2000
และพวกเราหลายคนรู้สึกถึงสิ่งนี้ในความรัก
15:53
when loversคนรัก feel fusedเป็นหลอม.
383
938000
2000
เวลาที่คู่รักรู้สึกเป็นหนึ่งเดียว
15:55
And one of the mostมากที่สุด beautifulสวย descriptionsรายละเอียด
384
940000
2000
และหนึ่งในคำบรรยายที่สวยงามที่สุด
15:57
I've come acrossข้าม in this researchการวิจัย
385
942000
3000
ที่ผมเจอในงานวิจัยชิ้นนี้
16:00
of how mindsจิตใจ interpenetrateinterpenetrate
386
945000
2000
เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของจิตใจ
16:02
was writtenเขียน by a great theoristนักทฤษฎี and scientistนักวิทยาศาสตร์
387
947000
2000
เป็นผลงานเขียนของนักทฤษฎีและนักวิทยาศาสตร์ชื่อดัง
16:04
namedชื่อ Douglasดักลาส HofstadterHofstadter at the Universityมหาวิทยาลัย of Indianaอินดีแอนา.
388
949000
3000
ชื่อ ดักลาส ฮอฟแสตดเตอร์ (Douglas Hofstadter) จากมหาวิทยาลัยอินเดียน่า
16:07
He was marriedแต่งงาน to a womanหญิง namedชื่อ Carolเพลงสดุดี,
389
952000
2000
เขาแต่งงานกับผู้หญิงชื่อแครอล
16:09
and they had a wonderfulยอดเยี่ยม relationshipความสัมพันธ์.
390
954000
2000
พวกเขารักกันมาก
16:11
When theirของพวกเขา kidsเด็ก were fiveห้า and two,
391
956000
2000
เมื่อลูกของพวกเขา คนนึงอายุได้ 5 ขวบและอีกคน 2 ขวบ
16:13
Carolเพลงสดุดี had a strokeลากเส้น and a brainสมอง tumorเนื้องอก and diedเสียชีวิต suddenlyทันใดนั้น.
392
958000
4000
แครอลก็เกิดเส้นเลือดอุดตันและเนื้องอกในสมอง เสียชีวิตกระทันหัน
16:17
And HofstadterHofstadter wroteเขียน a bookหนังสือ
393
962000
2000
ฮอฟแสตดเตอร์ จึงเขียนหนังสือ
16:19
calledเรียกว่า "I Am a Strangeแปลก Loopห่วง."
394
964000
2000
ชื่อว่า "ผมเป็นวงแหวนอันแสนประหลาด (I Am a Strange Loop)"
16:21
In the courseหลักสูตร of that bookหนังสือ, he describesอธิบาย a momentขณะ --
395
966000
2000
ในหนังสือเล่มนั้น เขาบรรยายถึงเหตุการณ์นึง
16:23
just monthsเดือน after Carolเพลงสดุดี has diedเสียชีวิต --
396
968000
3000
หลังจากที่ภรรยาเสียไปเมื่อไม่กี่เดือน
16:26
he comesมา acrossข้าม her pictureภาพ on the mantelหิ้ง,
397
971000
2000
เขาเห็นรูปเธอเหนือเตาผิง
16:28
or on a bureauที่ทำการ in his bedroomห้องนอน.
398
973000
2000
หรือที่โต๊ะข้างเตียง
16:30
And here'sนี่คือ what he wroteเขียน:
399
975000
2000
และนี่คือสิ่งที่เขาเขียน
16:32
"I lookedมอง at her faceใบหน้า,
400
977000
2000
"ผมมองหน้าเธอ
16:34
and I lookedมอง so deeplyลึก
401
979000
2000
มองลึกลงไปมากๆ
16:36
that I feltรู้สึกว่า I was behindหลัง her eyesตา.
402
981000
2000
จนผมรู้สึกว่าผมอยู่ในตาของเธอ
16:38
And all at onceครั้งหนึ่ง I foundพบ myselfตนเอง sayingคำพูด
403
983000
2000
แล้วอยู่ๆผมก็พูดออกมา
16:40
as tearsน้ำตา flowedไหล,
404
985000
2000
พร้อมกับน้ำตาที่ไหล
16:42
'That's me. That's me.'
405
987000
2000
'นั่นผมเอง ผมเอง'
16:44
And those simpleง่าย wordsคำ
406
989000
2000
และคำพูดเพียงเท่านั้น
16:46
broughtนำ back manyจำนวนมาก thoughtsความคิด that I had had before,
407
991000
2000
ทำให้ผมคิดถึงความเชื่อมากมายที่ผมมีมาก่อน
16:48
about the fusionการผสม of our soulsจิตวิญญาณ
408
993000
2000
เกี่ยวกับการผสมผสานทางวิญญาณของเรา
16:50
into one higher-levelระดับที่สูงขึ้น entityเอกลักษณ์,
409
995000
2000
จนเป็นหนึ่งเดียวกันที่ดีกว่า
16:52
about the factความจริง that at the coreแกน of bothทั้งสอง our soulsจิตวิญญาณ
410
997000
3000
เกี่ยวกับความจริงที่ว่า แกนกลางของเราทั้งคู่
16:55
layปู our identicalเหมือนกัน hopesความหวัง and dreamsความฝัน for our childrenเด็ก ๆ,
411
1000000
4000
มีความหวังและความฝันเดียวกันสำหรับลูกๆ
16:59
about the notionความคิด that those hopesความหวัง
412
1004000
2000
เกี่ยวกับความที่ว่าความหวังนั้น
17:01
were not separateแยก or distinctแตกต่าง hopesความหวัง,
413
1006000
2000
ไม่ได้แตกต่างกัน หรือเป็นคนละอย่าง
17:03
but were just one hopeหวัง,
414
1008000
2000
แต่เป็นความหวังเดียว
17:05
one clearชัดเจน thing that definedที่กำหนดไว้ us bothทั้งสอง,
415
1010000
2000
สิ่งเดียวที่ให้นิยามเราทั้งคู่
17:07
that weldedรอย us into a unitหน่วย --
416
1012000
2000
ที่หลอมให้เราเป็นหนึ่งเดียว
17:09
the kindชนิด of unitหน่วย I had but dimlyราง imaginedจินตนาการ
417
1014000
3000
ความเป็นหนึ่งเดียวที่ผมเคยแต่จินตนาการลางๆ
17:12
before beingกำลัง marriedแต่งงาน and havingมี childrenเด็ก ๆ.
418
1017000
3000
ก่อนที่จะแต่งงานแล้วมีลูก
17:15
I realizedตระหนัก that, thoughแม้ Carolเพลงสดุดี had diedเสียชีวิต,
419
1020000
2000
ผมเข้าใจแล้วว่า ถึงแม้แครอลจะตายไปแล้ว
17:17
that coreแกน pieceชิ้น of her had not diedเสียชีวิต at all,
420
1022000
3000
แก่นแท้ของเธอยังไม่จากไปไหน
17:20
but had livedอาศัยอยู่ on very determinedlyแน่วแน่ in my brainสมอง."
421
1025000
4000
ยังมีชีวิตอยู่ดีในสมองของผมนั่นเอง"
17:24
The Greeksชาวกรีก say we sufferประสบ our way to wisdomความฉลาด.
422
1029000
3000
ชาวกรีกบอกว่า เราต้องทุกข์เพื่อเรียนรู้
17:27
Throughตลอด his sufferingความทุกข์ทรมาน, HofstadterHofstadter understoodเข้าใจ
423
1032000
2000
จากความสูญเสีย ฮอฟแสตดเตอร์จึงเข้าใจ
17:29
how deeplyลึก interpenetratedinterpenetrated we are.
424
1034000
3000
ว่าคนเราผูกพันกันแค่ไหน
17:32
Throughตลอด the policyนโยบาย failuresความล้มเหลว of the last 30 yearsปี,
425
1037000
3000
หากมองดูความล้มเหลวทางการเมืองตลอด 30 ปีที่ผ่านมา
17:35
we have come to acknowledgeรับทราบ, I think,
426
1040000
3000
ผมว่า เราก็คงต้องยอมรับแล้ว
17:38
how shallowตื้น our viewดู of humanเป็นมนุษย์ natureธรรมชาติ has been.
427
1043000
3000
ว่ามุมมองที่เรามีเกี่ยวธรรมชาติของมนุษย์มันตื้นเขินแค่ไหน
17:41
And now as we confrontเผชิญหน้า that shallownessความตื้น
428
1046000
3000
เวลานี้ ที่เราได้มาเผชิญกับความตื้นเขิน
17:44
and the failuresความล้มเหลว that deriveได้รับมา from our inabilityการไร้ความสามารถ
429
1049000
2000
และความล้มเหลวที่เกิดจากการขาดความสามารถ
17:46
to get the depthsระดับความลึก of who we are,
430
1051000
2000
ในการทำความเข้าใจถึงตัวตนที่แท้จริงของเรา
17:48
comesมา this revolutionการปฏิวัติ in consciousnessสติ --
431
1053000
2000
ได้นำมาสู่การปฏิวัติด้านจิตสำนึก
17:50
these people in so manyจำนวนมาก fieldsสาขา
432
1055000
3000
ผู้คนในหลากหลายสาขาวิชา
17:53
exploringการสำรวจ the depthความลึก of our natureธรรมชาติ
433
1058000
2000
ที่ศึกษาธรรมชาติมนุษย์
17:55
and comingมา away with this enchantedหลงเสน่ห์,
434
1060000
2000
และได้ค้นพบถึงความมหัศจรรย์
17:57
this newใหม่ humanismความเห็นอกเห็นใจ.
435
1062000
2000
ของธรรมชาติมนุษย์แบบใหม่
17:59
And when Freudฟรอยด์ discoveredค้นพบ his senseความรู้สึก of the unconsciousไม่ได้สติ,
436
1064000
2000
เมื่อสมัยที่ฟรอยด์ (Freud) ค้นพบแนวคิดด้านจิตใต้สำนึกของเขา
18:01
it had a vastกว้างใหญ่ effectผล on the climateภูมิอากาศ of the timesครั้ง.
437
1066000
3000
มันส่งผลกระทบต่อสังคมในเวลานั้นอย่างมาก
18:04
Now we are discoveringการค้นพบ a more accurateถูกต้อง visionวิสัยทัศน์
438
1069000
3000
ตอนนี้เราค้นพบแนวคิดที่ใกล้เคียงความจริงมากขึ้น
18:07
of the unconsciousไม่ได้สติ, of who we are deepลึก insideภายใน,
439
1072000
3000
เกี่ยวกับจิตใต้สำนึก เกี่ยวตัวตนลึกๆของเรา
18:10
and it's going to have a wonderfulยอดเยี่ยม and profoundลึกซึ้ง
440
1075000
2000
มันจะก่อให้เกิดอิทธิพลที่พิเศษลึกซึ้ง
18:12
and humanizingมนุษย effectผล on our cultureวัฒนธรรม.
441
1077000
2000
และสร้างความเป็นมนุษย์ในสังคมของเรา
18:14
Thank you.
442
1079000
2000
ขอบคุณครับ
18:16
(Applauseการปรบมือ)
443
1081000
20000
(ปรบมือ)
Translated by Paninya Masrangsan
Reviewed by Heartfelt Grace

▲Back to top

ABOUT THE SPEAKER
David Brooks - Op-ed columnist
Writer and thinker David Brooks has covered business, crime and politics over a long career in journalism.

Why you should listen

David Brooks became an Op-Ed columnist for The New York Times in September 2003. He is currently a commentator on "The PBS Newshour," NPR’s "All Things Considered" and NBC's "Meet the Press."

He is the author of Bobos in Paradise and The Social Animal. In April 2015, he released with his fourth book, The Road to Character, which was a #1 New York Times bestseller.

Brooks also teaches at Yale University, and is a member of the American Academy of Arts & Sciences.

Born on August 11, 1961 in Toronto, Canada, Brooks graduated a bachelor of history from the University of Chicago in 1983. He became a police reporter for the City News Bureau, a wire service owned jointly by the Chicago Tribune and Sun-Times.

He worked at The Washington Times and then The Wall Street Journal for nine years. His last post at the Journal was as Op-ed Editor. Prior to that, he was posted in Brussels, covering Russia, the Middle East, South Africa and European affairs. His first post at the Journal was as editor of the book review section, and he filled in as the Journal's movie critic.

He also served as a senior editor at The Weekly Standard for 9 years, as well as contributing editor for The Atlantic and Newsweek.

More profile about the speaker
David Brooks | Speaker | TED.com