ABOUT THE SPEAKER
Honor Harger - Artist
Honor Harger explores the sounds of the sky, using art to connect her audience to the universe.

Why you should listen

Honor Harger is a New Zealand-born artist and curator who has a particular interest in artistic uses of technologies. She's the director of Lighthouse, an arts agency in Brighton, UK. Her artistic practice is produced under the name r a d i o q u a l i a together with collaborator Adam Hyde. One of their main projects is Radio Astronomy , a radio station broadcasting sounds from space.

From a great interview with Harger from Lift '11:

What does it mean to listen to space?

Whilst our project uses what we describe as "sounds from space", it is important to understand that stars and planets are not directly audible. Sound waves can not propagate in the vacuum of space. However, it is possible for radio waves emitted from celestial bodies, such as Jupiter and the Sun, to be heard by using radio technology. In our galaxy, the Sun is the strongest source of radio waves - so it's the most powerful transmitter in the radio sky. Jupiter also sends us strong radio signals.

What we hear is very curiously linked with our experience of radio here on earth -- the sounds are a bit like the sound of static between the stations.

Photo: Matt Locke / Flickr CC

More profile about the speaker
Honor Harger | Speaker | TED.com
TEDSalon London Spring 2011

Honor Harger: A history of the universe in sound

ออเนอร์ ฮาร์เกอร์: ประวัติของเสียงในจัรวาล

Filmed:
996,156 views

ออเนอร์ ฮาร์เกอร์ เกียรติยศศิลปินเทคโนโลยี-ฟังเสียงแปลกและมหัศจรรย์ของดาว ดาวเคราะห์ และพอลซ่า ในการทำงานของเธอ เธอติดตามคลื่นวิทยุที่ปล่อยออกมาจากดวงอาทิตย์ ดาวเคราะห์อายุมาก ๆ บนท้องฟ้า และเปลี่ยนไปเป็นเสียง รวมทั้ง "เพลงที่เก่าแก่ที่สุดที่คุณเคยจะได้ยิน" เสียงของรังสีคอสมิก ที่เหลือจากบิ๊กแบง
- Artist
Honor Harger explores the sounds of the sky, using art to connect her audience to the universe. Full bio

Double-click the English transcript below to play the video.

00:21
Spaceช่องว่าง,
0
6000
2000
อวกาศ...
00:23
we all know what it looksรูปลักษณ์ like.
1
8000
2000
เราต่างรู้ หน้าตามันเป็นอย่างไร
00:25
We'veเราได้ been surroundedล้อมรอบ by imagesภาพ of spaceช่องว่าง
2
10000
2000
เราถูกห่อหุ้มไว้
00:27
our wholeทั้งหมด livesชีวิต,
3
12000
2000
ด้วยภาพของอวกาศมาตลอดชีวิต
00:29
from the speculativeเกี่ยวกับการพิจารณา imagesภาพ
4
14000
2000
จากภาพจินตนาการใน
00:31
of scienceวิทยาศาสตร์ fictionเรื่องอ่านเล่น
5
16000
2000
นวนิยายวิทยาศาสตร์
00:33
to the inspirationalที่เร้าใจ visionsวิสัยทัศน์ of artistsศิลปิน
6
18000
3000
สู่ภาพวาดที่ศิลปินสรรค์สร้าง
00:36
to the increasinglyขึ้น beautifulสวย picturesภาพ
7
21000
3000
และในที่สุด จนมาเป็นภาพที่ยิ่งสวยงามมากขึ้น
00:39
madeทำ possibleเป็นไปได้ by complexซับซ้อน technologiesเทคโนโลยี.
8
24000
3000
โดยการนำเทคโนโลยีที่ซับซ้อนเข้ามาช่วย
00:42
But whilstในขณะที่ we have
9
27000
2000
แต่ในขณะที่เรามี
00:44
an overwhelminglyนำโด่ง vividสดใส
10
29000
2000
ความเข้าใจอย่างท่วมท้นและชัดเจน
00:46
visualภาพ understandingความเข้าใจ of spaceช่องว่าง,
11
31000
2000
ในเรื่องของ ภาพของอวกาศ
00:48
we have no senseความรู้สึก of what spaceช่องว่าง soundsเสียง like.
12
33000
3000
เรากลับไม่เคยได้รับรู้เกี่ยวกับ เสียงของอวกาศเลย
00:51
And indeedจริง, mostมากที่สุด people associateภาคี spaceช่องว่าง with silenceความเงียบ.
13
36000
4000
และที่จริงแล้ว
ความส่วนมากก็มักเชื่อมโยง อวกาศเข้ากับความเงียบด้วยซ้ำ
00:55
But the storyเรื่องราว of how
14
40000
2000
แต่สิ่งที่จะทำให้เรา
00:57
we cameมา to understandเข้าใจ the universeจักรวาล
15
42000
2000
เข้าใจความเป็นไปของจักรวาลได้นั้น
00:59
is just as much a storyเรื่องราว of listeningการฟัง
16
44000
2000
การฟังเสียงของมัน ก็มีความสำคัญ
01:01
as it is by looking.
17
46000
3000
พอๆ กับการมองดูมัน
01:04
And yetยัง despiteแม้จะมี this,
18
49000
2000
และทั้งๆ ที่เป็นเช่นนี้
01:06
hardlyแทบจะไม่ any of us have ever heardได้ยิน spaceช่องว่าง.
19
51000
3000
พวกเราก็แทบจะไม่เคยมีใครได้ยินเสียงอวกาศมาก่อน
01:09
How manyจำนวนมาก of you here
20
54000
2000
ในที่นี้ จะมีกี่คน
01:11
could describeอธิบาย the soundเสียง
21
56000
2000
ที่สามารถเล่าเรื่องราว จากการฟังเสียง
01:13
of a singleเดียว planetดาวเคราะห์ or starดาว?
22
58000
2000
ของดาวเคราะห์ หรือดาวฤกษ์หนึ่ง ๆ ได้?
01:15
Well in caseกรณี you've ever wonderedสงสัย,
23
60000
2000
เอาหล่ะ สำหรับบางคนที่สงสัย
01:17
this is what the Sunดวงอาทิตย์ soundsเสียง like.
24
62000
2000
นี่คือเสียงของดวงอาทิตย์
01:19
(Staticคงที่)
25
64000
14000
(เสียงไฟฟ้าสถิต)
01:33
(Cracklingเสียงแตก)
26
78000
4000
(เสียงแตก ๆ)
01:37
(Staticคงที่)
27
82000
6000
(เสียงไฟฟ้าสถิต)
01:43
(Cracklingเสียงแตก)
28
88000
4000
(เสียงแตก ๆ)
01:47
This is the planetดาวเคราะห์ Jupiterดาวพฤหัสบดี.
29
92000
3000
นี่คือเสียงของดาวพฤหัสบดี
01:50
(Softอ่อนนุ่ม cracklingการประทุ)
30
95000
20000
(เสียงแตกเปราะๆแบบเบาๆ)
02:10
And this is the spaceช่องว่าง probeการสอบสวน Cassiniแคสสินี
31
115000
3000
และนี่คือเสียงของยานอวกาศแคสนินี
02:13
pirouettingpirouetting throughตลอด the iceน้ำแข็ง ringsแหวน of Saturnดาวเสาร์.
32
118000
4000
ที่ถูกส่งออกไปเพื่อศึกษาดาวเสาร์
และวงแหวนที่เย็นเฉียบของมัน
02:17
(Cracklingเสียงแตก)
33
122000
20000
(เสียงแตกๆ)
02:37
This is a a highlyอย่างมาก condensedย่อ clumpกอ
34
142000
3000
นี่คือเสียงของกลุ่มก๊าซที่มีความหนาแน่นสูง
02:40
of neutralเป็นกลาง matterเรื่อง,
35
145000
2000
ในขณะที่ยังมีสถานะเป็นกลาง
02:42
spinningการปั่นด้าย in the distantไกล universeจักรวาล.
36
147000
4000
กลุ่มก๊าซนี้หมุนรอบตัวเองอยู่ ในจัรวาลที่ห่างไกล
02:46
(Tappingกรีด)
37
151000
18000
(เสียงเคาะเบาๆ)
03:04
So my artisticศิลปะ practiceการปฏิบัติ
38
169000
2000
ดังนั้น งานศิลปะของฉัน
03:06
is all about listeningการฟัง
39
171000
2000
จะเกี่ยวกับการฟังเสียง
03:08
to the weirdแปลก and wonderfulยอดเยี่ยม noisesเสียง
40
173000
3000
ที่ประหลาดแต่สวยงามเหล่านี้
03:11
emittedที่ปล่อยออกมา by the magnificentงดงาม celestialเกี่ยวกับท้องฟ้า objectsวัตถุ
41
176000
3000
เสียงถูกปลดปล่อยมจากวัตถุท้องฟ้าอันอลังการ
03:14
that make up our universeจักรวาล.
42
179000
3000
ที่ประกอบกันเป็นจักรวาลของเรา
03:17
And you mayอาจ wonderน่าแปลกใจ,
43
182000
2000
และคุณอาจสงสัยว่า
03:19
how do we know what these soundsเสียง are?
44
184000
2000
เราจะรู้ว่าเสียงพวกนี้ได้อย่างไร?
03:21
How can we tell the differenceข้อแตกต่าง
45
186000
2000
เราจะสามารถบอกความแตกต่าง
03:23
betweenระหว่าง the soundเสียง of the Sunดวงอาทิตย์
46
188000
2000
ระหว่างเสียงของดวงอาทิตย์
03:25
and the soundเสียง of a pulsarพูลสาร์?
47
190000
2000
และเสียงของพัลซาร์ ได้อย่างไร ?
03:27
Well the answerตอบ
48
192000
2000
เอาหล่ะค่ะ คำตอบก็คือ
03:29
is the scienceวิทยาศาสตร์ of radioวิทยุ astronomyดาราศาสตร์.
49
194000
2000
ความรู้ทางดาราศาสตร์วิทยุ นั่นเอง
03:31
Radioวิทยุ astronomersนักดาราศาสตร์
50
196000
2000
นักดาราศาสตร์วิทยุ
03:33
studyศึกษา radioวิทยุ wavesคลื่น from spaceช่องว่าง
51
198000
2000
จะศึกษาคลื่นวิทยุที่แผ่มาจากอวกาศ
03:35
usingการใช้ sensitiveรู้สึกไว antennasเสาอากาศ and receiversรับ,
52
200000
3000
โดยการใช้ เสาอากาศและตัวรับสัญญาณ
03:38
whichที่ give them preciseแม่นยำ informationข้อมูล
53
203000
2000
ที่จะแปลข้อมูลที่แม่นยำ
03:40
about what an astronomicalเกี่ยวกับดาราศาสตร์ objectวัตถุ is
54
205000
3000
เกี่ยวกับชนิดของวัตถุนั้นว่าคืออะไร
03:43
and where it is in our night skyท้องฟ้า.
55
208000
2000
และตำแหน่งของมันว่าอยู่ตรงไหนบนท้องฟ้า
03:45
And just like the signalsสัญญาณ
56
210000
2000
และก็เหมือนกันกับกรณีของสัญญาณ
03:47
that we sendส่ง and receiveรับ here on Earthโลก,
57
212000
3000
ที่เราใช้สื่อสาร ทั้งส่งและรับ กันบนโลก
03:50
we can convertแปลง these transmissionsการส่งสัญญาณ into soundเสียง
58
215000
3000
โดยเราสามารถถ่ายทอดสัญญาณที่ได้รับ
ออกมาในรูปแบบของสัญญาณเสียง
03:53
usingการใช้ simpleง่าย analogอนาล็อก techniquesเทคนิค.
59
218000
3000
โดยผ่านเทคนิคแอนะล็อก อย่างง่าย
03:56
And thereforeดังนั้น, it's throughตลอด listeningการฟัง
60
221000
3000
ดังนั้น จากการรับฟังเสียงนี้
03:59
that we'veเราได้ come to uncoverเปิดเผย
61
224000
2000
เราได้ค้นพบ
04:01
some of the universe'sเอกภพ mostมากที่สุด importantสำคัญ secretsความลับ --
62
226000
3000
ความลับที่สำคัญบางอย่างของจักรวาล
04:04
its scaleขนาด, what it's madeทำ of
63
229000
3000
ได้แก่ ขนาดของมัน มันประกอบขึ้นมาจากอะไร
04:07
and even how oldเก่า it is.
64
232000
2000
และแม้กระทั่ง มันอายุเท่าไร
04:09
So todayในวันนี้, I'm going to tell you a shortสั้น storyเรื่องราว
65
234000
3000
ดังนั้น ในวันนี้ ฉันจะเล่าให้คุณฟังถึง
04:12
of the historyประวัติศาสตร์ of the universeจักรวาล throughตลอด listeningการฟัง.
66
237000
3000
ประวัติศาสตร์ของจักรวาล ผ่านการฟังเสียงของมัน แบบย่อๆ
04:15
It's punctuatedคั่น
67
240000
2000
อาจแบ่งออกเป็น
04:17
by threeสาม quickรวดเร็ว anecdotesเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย,
68
242000
2000
สามช่วงสั้นๆ
04:19
whichที่ showแสดง how accidentalโดยบังเอิญ encountersการเผชิญหน้า
69
244000
2000
เรื่องเล่านี้จะช่วยอธิบายว่าโดยความบังเอิญ
04:21
with strangeแปลก noisesเสียง
70
246000
2000
การค้นพบเสียงประหลาดเหล่านี้
04:23
gaveให้ us some of the mostมากที่สุด importantสำคัญ informationข้อมูล
71
248000
3000
เสียงที่ได้ให้ความรู้ที่สำคัญ
04:26
we have about spaceช่องว่าง.
72
251000
2000
เกี่ยวกับอวกาศให้กับเรา
04:28
Now this storyเรื่องราว doesn't startเริ่มต้น
73
253000
2000
แต่เรื่องนี้ไม่ได้ถูกค้นพบโดยผ่าน
04:30
with vastกว้างใหญ่ telescopesกล้องโทรทรรศน์
74
255000
2000
กล้องโทรทรรศน์ขนาดมหึมา
04:32
or futuristicมากมาย spacecraftยานอวกาศ,
75
257000
3000
หรือยานอวกาศล้ำยุคแต่อย่างใด
04:35
but a ratherค่อนข้าง more humbleอ่อนน้อมถ่อมตน technologyเทคโนโลยี --
76
260000
3000
แต่ถูกพบโดยผ่านเทคโนโลยีที่เรียบง่ายกว่านั้นมาก--
04:38
and in factความจริง, the very mediumกลาง
77
263000
2000
จริง ๆ แล้ว มันก็คือสื่อ
04:40
whichที่ gaveให้ us the telecommunicationsโทรคมนาคม revolutionการปฏิวัติ
78
265000
3000
การปฏิวัติทางโทรคมนาคม
04:43
that we're all partส่วนหนึ่ง of todayในวันนี้:
79
268000
2000
ที่เราทุกคนล้วนเป็นส่วนหนึ่งของมันในวันนี้
04:45
the telephoneโทรศัพท์.
80
270000
2000
-- มันคือ โทรศัพท์
04:47
It's 1876, it's in Bostonเมืองบอสตัน,
81
272000
3000
ในปีค.ศ. 1876 ณ เมืองบอสตัน
04:50
and this is Alexanderอเล็กซานเด Grahamทำจากแป้งที่ยังไม่ได้ร่อน Bellกระดิ่ง
82
275000
2000
นี่คือ อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์
04:52
who was workingการทำงาน with Thomasโทมัส Watsonวัตสัน
83
277000
2000
ที่ขณะนั้น ทำงานร่วมกันกับ โธมัส วัทสัน
04:54
on the inventionการประดิษฐ์ of the telephoneโทรศัพท์.
84
279000
3000
เพื่อที่จะคิดค้นประดิษฐ์โทรศัพท์ขึ้น
04:57
A keyสำคัญ partส่วนหนึ่ง of theirของพวกเขา technicalวิชาการ setชุด up
85
282000
3000
หัวใจของสิ่งประดิษฐ์ของพวกเขา
05:00
was a half-mileครึ่งไมล์ long lengthความยาว of wireลวด,
86
285000
2000
คือ สายไฟยาวครึ่งไมล์
05:02
whichที่ was thrownโยน acrossข้าม the rooftopsหลังคา
87
287000
2000
ที่วางพาดผ่านหลังคาบ้าน
05:04
of severalหลาย housesบ้าน in Bostonเมืองบอสตัน.
88
289000
3000
หลายหลังในเมืองบอสตัน
05:07
The lineเส้น carriedดำเนินการ the telephoneโทรศัพท์ signalsสัญญาณ
89
292000
3000
สายไฟนี้ ภายในบรรจุสัญญาณโทรศัพท์
05:10
that would laterต่อมา make Bellกระดิ่ง a householdครัวเรือน nameชื่อ.
90
295000
3000
ที่ต่อมาจะทำให้ชื่อเบลล์กลายเป็นชื่อเรียกเครื่องใช้ในบ้านไป
05:13
But like any long lengthความยาว of chargedการเรียกเก็บเงิน wireลวด,
91
298000
3000
และเป็นธรรมดาที่ สายไฟยาวภายในมีประจุไฟฟ้า
05:16
it alsoด้วย inadvertentlyโดยไม่ตั้งใจ becameกลายเป็น
92
301000
2000
จากไม่ได้ตั้งใจกลายเป็น
05:18
an antennaเสาอากาศ.
93
303000
2000
เสาอากาศได้ โดยไม่เจตนา
05:20
Thomasโทมัส Watsonวัตสัน
94
305000
2000
ดังนั้น โธมัส วัทสัน
05:22
spentการใช้จ่าย hoursชั่วโมง listeningการฟัง
95
307000
2000
จึงใช้เวลาหลายชั่วโมง
05:24
to the strangeแปลก cracklescrackles and hissesขู่ฟ่อ
96
309000
2000
ฟังเสียงประหลาด ที่มีลักษณะแตก ๆ
05:26
and chirpsเป็นต้น and whistlesนกหวีด
97
311000
3000
เสียงร้องเจี๋ยบ ๆ และเสียงหวีดหวิว
05:29
that his accidentalโดยบังเอิญ antennaเสาอากาศ detectedตรวจพบ.
98
314000
3000
ที่เสาอากาศของเราจับได้
05:32
Now you have to rememberจำ,
99
317000
2000
ขอให้จำไว้เสมอว่า
05:34
this is 10 yearsปี before
100
319000
2000
นั้นคือ 10 ปี ก่อนที่
05:36
Heinrichเฮ็น Hertzเฮิรตซ์ provedได้รับการพิสูจน์ the existenceการดำรงอยู่ of radioวิทยุ wavesคลื่น --
101
321000
4000
ไฮนริค เฮิร์ซ จะพิสูจน์ว่า คลื่นวิทยุ มีอยู่จริง
05:40
15 yearsปี before Nikolaนิโคลา Tesla'sเทสลา four-tunedสี่ปรับ circuitวงจรไฟฟ้า --
102
325000
3000
นั่นคือ 15 ปี ก่อนที่ นิโคลา เทสลา
จะสร้างวงจรแบบสี่ขั้ว สำเร็จ
05:43
nearlyเกือบ 20 yearsปี before Marconi'sมาร์โคนี first broadcastออกอากาศ.
103
328000
4000
และเกือบจะ 20 ปี ก่อนที่บริษัทมาร์โคนี
จะการทำการออกอากาศทางวิทยุเป็นครั้งแรก
05:47
So Thomasโทมัส Watsonวัตสัน wasn'tก็ไม่ได้ listeningการฟัง to us.
104
332000
3000
นั่นคือ โธมัส วัทสัน ไม่ได้กำลังฟังเสียงของพวกเรากันเองอยู่
05:50
We didn't have the technologyเทคโนโลยี
105
335000
2000
เพราะเรายังไม่มีเทคโนโลยี
05:52
to transmitส่งผ่าน.
106
337000
2000
ในการถ่ายทอดสัญญาณเหล่านั้น
05:54
So what were these strangeแปลก noisesเสียง?
107
339000
3000
แล้วเสียงประหลาดพวกนี้คืออะไรกัน?
05:58
Watsonวัตสัน was in factความจริง listeningการฟัง
108
343000
2000
วัทสัน กำลังฟังเสียงของ
06:00
to very low-frequencyความถี่ต่ำ radioวิทยุ emissionsปล่อยก๊าซเรือนกระจก
109
345000
2000
คลื่นวิทยุที่มีความถี่ต่ำ
06:02
causedก่อให้เกิดความ by natureธรรมชาติ.
110
347000
2000
ที่กำเนิดโดยธรรมชาติ
06:04
Some of the cracklescrackles and popsปรากฏ were lightningฟ้าแลบ,
111
349000
3000
บางส่วนของเสียงแตกๆ และเสียงดังเปาะ ๆ คือเสียงของฟ้าผ่า
06:07
but the eerieน่าขนลุก whistlesนกหวีด
112
352000
3000
แต่เสียงหวีดหวิวอันลึกลับ
06:10
and curiouslyซอกแซก melodiousไพเราะ chirpsเป็นต้น
113
355000
3000
และเสียงเพราะแปลกดัง เจี๊ยบ ๆ
06:13
had a ratherค่อนข้าง more exoticแปลกใหม่ originที่มา.
114
358000
3000
กลับมีจุดกำเนิดที่ผิดธรรมดากว่านั้น
06:16
Usingการใช้ the very first telephoneโทรศัพท์,
115
361000
2000
การการใช้โทรศัพท์เครื่องแรกที่พวกเขาประดิษฐ์ขึ้น
06:18
Watsonวัตสัน was in factความจริง
116
363000
2000
ในความเป็นจริง วัตสัน
06:20
dialedโทรออก into the heavensสวรรค์.
117
365000
2000
ได้โทรไปถึงสวรรค์แล้ว
06:22
As he correctlyได้อย่างถูกต้อง guessedเดา,
118
367000
2000
เขาได้เดาถูกในบางประการ
06:24
some of these soundsเสียง were causedก่อให้เกิดความ
119
369000
2000
ว่าเสียงเหล่านี้มีต้นกำเนิดจาก
06:26
by activityกิจกรรม on the surfaceพื้นผิว of the Sunดวงอาทิตย์.
120
371000
3000
ปฏิกิริยาบนพื้นผิวของดวงอาทิตย์
06:29
It was a solarแสงอาทิตย์ windลม
121
374000
2000
ซึ่งแท้จริงแล้ว มันคือเสียงของลมสุริยะ
06:31
interactingการมีปฏิสัมพันธ์ with our ionosphereบรรยากาศรอบนอกโลก
122
376000
2000
ที่ทำปฏิกิริยากับบรรยากาศโลกชั้นไอโอโนสเฟียร์
06:33
that he was listeningการฟัง to --
123
378000
2000
นั่นคือสิ่งที่เขาได้ยินขณะนั้น --
06:35
a phenomenaปรากฏการณ์ whichที่ we can see
124
380000
2000
ปรากฏการณ์ที่เรามองเห็นได้
06:37
at the extremeสุดขีด northernภาคเหนือ and southernทางใต้ latitudesรุ้ง of our planetดาวเคราะห์
125
382000
3000
ที่ขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ บนโลกเรา
06:40
as the auroraแสงเงินแสงทอง.
126
385000
2000
ที่เรียกว่าแสงเงินแสงทอง
06:42
So whilstในขณะที่ inventingประดิษฐ์ the technologyเทคโนโลยี
127
387000
3000
ดังนั้น ขณะที่พวกเขากำลังสร้างสรรค์เทคโนโลยี
06:45
that would usherนำ in the telecommunicationsโทรคมนาคม revolutionการปฏิวัติ,
128
390000
4000
ที่ได้นำพาเรามาสู่การปฏิวัติทางโทรคมนาคม อยู่นั้น
06:49
Watsonวัตสัน had discoveredค้นพบ
129
394000
2000
วัทสันก็ได้ค้นพบว่า
06:51
that the starดาว at the centerศูนย์ of our solarแสงอาทิตย์ systemระบบ
130
396000
3000
ดาวฤกษ์ที่อยู่ ณ ใจกลางระบบสุริยะของเรา
06:54
emittedที่ปล่อยออกมา powerfulมีอำนาจ radioวิทยุ wavesคลื่น.
131
399000
3000
มีการแผ่คลื่นวิทยุที่ทรงพลังออกมาด้วย
06:57
He had accidentallyโดยไม่ตั้งใจ been the first personคน
132
402000
3000
เขาได้กลายเป็นคนแรก
07:00
to tuneทำนองเพลง in to them.
133
405000
2000
ที่ค้นพบมันได้โดยบังเอิญ
07:02
Fast-forwardข้างหน้าอย่างรวดเร็ว 50 yearsปี,
134
407000
2000
หลังจากนั้นอีก 50 ปี
07:04
and Bellกระดิ่ง and Watson'sวัตสัน technologyเทคโนโลยี
135
409000
3000
เมื่อบริษัทของเบลล์และวัทสัน
07:07
has completelyอย่างสมบูรณ์ transformedเปลี่ยน
136
412000
2000
ได้ทำการแปลงรูป
07:09
globalทั่วโลก communicationsคมนาคม.
137
414000
2000
โทรคมนาคมของโลกได้สำเร็จ
07:11
But going from slingingslinging some wireลวด
138
416000
2000
จากการคล้องสายไฟยาว
07:13
acrossข้าม rooftopsหลังคา in Bostonเมืองบอสตัน
139
418000
2000
ข้ามหลังคาบ้านผู้คนในเมืองบอสตัน
07:15
to layingการวาง thousandsพัน and thousandsพัน of milesไมล์ of cableสายเคเบิล
140
420000
3000
สู่การวางระบบสาวเคเบิลเป็นระยะทางพัน ๆ ไมล์
07:18
on the Atlanticมหาสมุทรแอตแลนติก Oceanมหาสมุทร seabedก้นทะเล
141
423000
2000
ลอดได้พื้นมหาสมุทรแอตแลนติค
07:20
is no easyง่าย matterเรื่อง.
142
425000
2000
ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ
07:22
And so before long,
143
427000
2000
และไม่ช้าหลังจากนั้น
07:24
Bellกระดิ่ง were looking to newใหม่ technologiesเทคโนโลยี
144
429000
2000
เบลล์ก็มองหาเทคโนโลยีใหม่ ๆ
07:26
to optimizeเพิ่มประสิทธิภาพ theirของพวกเขา revolutionการปฏิวัติ.
145
431000
3000
ที่จะทำให้ประสิทธิภาพของการเปลี่ยนแปลง
07:29
Radioวิทยุ could carryพกพา soundเสียง withoutไม่มี wiresสายไฟ.
146
434000
3000
คลื่นวิทยุสามารถพาสัญญาณเสียงไปกับตัวมันได้
โดยไม่ต้องใช้สายไฟ
07:32
But the mediumกลาง is lossyสูญเสีย --
147
437000
2000
แต่คลื่นวิทยุ มีข้อเสียคือสามารถเพี้ยนไปได้
07:34
it's subjectเรื่อง to a lot of noiseสัญญาณรบกวน and interferenceการรบกวน.
148
439000
4000
เพราะมีสัญญาณรบกวนและสิ่งอื่นเข้าแทรกแซง
07:38
So Bellกระดิ่ง employedลูกจ้าง an engineerวิศวกร
149
443000
2000
ดังนั้น เบลล์จึงจ้างวิศวกรผู้หนึ่ง
07:40
to studyศึกษา those noisesเสียง,
150
445000
2000
เพื่อให้ศึกษาที่มาของสัญญาณรบกวน
07:42
to try and find out where they cameมา from,
151
447000
2000
เพื่อที่จะพยายามหาว่ามันมาจากไหน
07:44
with a viewดู towardsไปทาง buildingอาคาร
152
449000
2000
พร้อมกับความคิดที่จะสร้าง
07:46
the perfectสมบูรณ์ hardwareฮาร์ดแวร์ codecตัวแปลงสัญญาณ, whichที่ would get ridกำจัด of them
153
451000
3000
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่จะถอดรหัส
และขจัดสัญญาณรบกวนเหล่านั้นออกไป
07:49
so they could think about usingการใช้ radioวิทยุ
154
454000
2000
ดังนั้น พวกเขาจึงคิดที่จะใช้คลื่นวิทยุ
07:51
for the purposesวัตถุประสงค์ of telephonyโทรศัพท์.
155
456000
3000
ในการวางระบบโทรศัพท์
07:54
Mostมากที่สุด of the noisesเสียง
156
459000
2000
สัญญาณรบกวนส่วนใหญ่
07:56
that the engineerวิศวกร, Karlคาร์ล JanskyJansky, investigatedการตรวจสอบ
157
461000
3000
ที่วิศวกร คาร์ล แจงสกี หาสาเหตุอยู่
07:59
were fairlyอย่างเป็นธรรม prosaicน่าเบื่อ in originที่มา.
158
464000
2000
ค่อนข้างมีต้นกำเหนิดที่ธรรมดา ๆ
08:01
They turnedหัน out to be lightningฟ้าแลบ
159
466000
2000
นั่นก็คือ ฟ้าผ่า
08:03
or sourcesแหล่งที่มา of electricalไฟฟ้า powerอำนาจ.
160
468000
3000
หรือไม่ ก็เป็นแหล่งกำเนิดพลังงานไฟฟ้าสักอย่าง
08:06
But there was one persistentหมั่น noiseสัญญาณรบกวน
161
471000
3000
แต่ส่วนน้อยของสัญญาณรบกวนนั้น
08:09
that JanskyJansky couldn'tไม่สามารถ identifyแยกแยะ,
162
474000
2000
ที่แจนสกี ไม่สามารถระบุ ที่มาที่ไปได้
08:11
and it seemedดูเหมือน to appearปรากฏ
163
476000
2000
และสัญญาณนี้ยังรับฟังได้
08:13
in his radioวิทยุ headsetชุดหูฟัง
164
478000
2000
ผ่านหูฟังของเขา
08:15
fourสี่ minutesนาที earlierก่อน eachแต่ละ day.
165
480000
3000
เป็นเวลาสี่นาทีก่อนหน้านั้นเสมอ ในทุก ๆ วัน
08:18
Now any astronomerนักดาราศาสตร์ will tell you,
166
483000
2000
ปัจจุบันนี้ นักดาราศาสตร์จะบอกคุณได้ว่า
08:20
this is the telltaleปากโป้ง signสัญญาณ
167
485000
2000
นี่คือสัญญาณที่จะเผยความลับ
08:22
of something that doesn't originateมาจาก from Earthโลก.
168
487000
3000
ของบางสิ่งที่ไม่ได้กำเนิดมาจากโลก
08:25
JanskyJansky had madeทำ a historicประวัติศาสตร์ discoveryการค้นพบ,
169
490000
4000
แจนสกีได้ทำการค้นพบแห่งประวัติศาสตร์เข้าให้แล้ว
08:29
that celestialเกี่ยวกับท้องฟ้า objectsวัตถุ could emitปล่อยออกมา radioวิทยุ wavesคลื่น
170
494000
3000
ว่าวัตถุท้องฟ้าสามารถแผ่คลื่นวิทยุได้
08:32
as well as lightเบา wavesคลื่น.
171
497000
2000
พอ ๆ กับที่มันแผ่คลื่นแสงได้
08:34
Fiftyห้าสิบ yearsปี on
172
499000
2000
หลังจากห้าสิบปี
08:36
from Watson'sวัตสัน accidentalโดยบังเอิญ encounterพบ with the Sunดวงอาทิตย์,
173
501000
3000
วัทสันพบโดยบังเอิญ ว่าดวงอาทิตย์ก็เกิดทำเสียงสิ่งเดียวกันนี้
08:39
Jansky'sJansky ของ carefulระมัดระวัง listeningการฟัง
174
504000
2000
การฟังเสียงอย่างระมัดระวังของแจนสกี
08:41
usheredushered in a newใหม่ ageอายุ of spaceช่องว่าง explorationการสำรวจ:
175
506000
3000
ได้นำไปสู่ยุคใหม่ของการสำรวจอวกาศ:
08:44
the radioวิทยุ astronomyดาราศาสตร์ ageอายุ.
176
509000
2000
ยุคของดาราศาสตร์วิทยุ
08:46
Over the nextต่อไป fewน้อย yearsปี,
177
511000
2000
หลังจากนั้นเพียงไม่กี่ปี
08:48
astronomersนักดาราศาสตร์ connectedเกี่ยวข้อง up theirของพวกเขา antennasเสาอากาศ to loudspeakersลำโพง
178
513000
4000
นักดาราศาสตร์ต่างติดตั้งเสาอากาศ
เข้ากับเครื่องกระจายเสียง
08:52
and learnedได้เรียนรู้ about our radioวิทยุ skyท้องฟ้า,
179
517000
2000
และเรียนรู้เกี่ยวกับท้องฟ้าแห่งคลื่นวิทยุผืนนี้
08:54
about Jupiterดาวพฤหัสบดี and the Sunดวงอาทิตย์,
180
519000
2000
เกี่ยวกับ ดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์
08:56
by listeningการฟัง.
181
521000
2000
ด้วยการฟังเสียง
08:58
Let's jumpกระโดด aheadล่วงหน้า again.
182
523000
2000
เรามาก้าวกระโดดอีกครั้ง
09:00
It's 1964,
183
525000
2000
สู่ปี ค.ศ. 1964
09:02
and we're back at Bellกระดิ่ง LabsLabs.
184
527000
2000
และเรากำลังอยู่ในห้องแลปของเบลล์
09:04
And onceครั้งหนึ่ง again,
185
529000
2000
แล้วก็เป็นอีกครั้งหนึ่ง
09:06
two scientistsนักวิทยาศาสตร์ have got a problemปัญหา with noiseสัญญาณรบกวน.
186
531000
3000
ที่นักวิทยาศาสตร์สองคน พบปัญหาเกี่ยวกับเสียงรบกวน
09:09
Arnoอาร์โน PenziasPenzias and Robertโรเบิร์ต Wilsonวิลสัน
187
534000
3000
อาร์โน เพนเซียส
และโรเบิร์ต วิลสัน
09:12
were usingการใช้ the hornเขา antennaเสาอากาศ
188
537000
2000
ที่กำลังใช้เสาอากาศปล่องรับเสียง
09:14
at Bell'sเบลล์ Holmdelโฮล์ม laboratoryห้องปฏิบัติการ
189
539000
2000
อยู่ที่ห้องแล็ปของเบลล์ในเมืองโฮล์มเดล
09:16
to studyศึกษา the Milkyซีด Way
190
541000
2000
เพื่อศึกษาทางช้างเผือก
09:18
with extraordinaryวิสามัญ precisionความแม่นยำ.
191
543000
2000
ด้วยความแม่นยำที่สูงมาก
09:20
They were really listeningการฟัง
192
545000
2000
พวกเขาได้ฟังเสียงจากกาแล็กซี
09:22
to the galaxyกาแล็กซี in highสูง fidelityความจงรักภักดี.
193
547000
2000
ผ่านระบบการรับส่งสัญญาณที่ชัดและมีเสียงรบกวนน้อย
09:24
There was a glitchความผิดพลาด in theirของพวกเขา soundtrackร่องเสียง.
194
549000
3000
แม้กระนั้น ก็ยังมีเสียงแทรกอยู่เสมอ
09:27
A mysteriousลึกลับ persistentหมั่น noiseสัญญาณรบกวน
195
552000
3000
เป็นเสียงรบกวนที่มีอยู่เสมอมา
09:30
was disruptingกระทบ theirของพวกเขา researchการวิจัย.
196
555000
2000
มันเข้าแทรกแซงงานวิจัยของพวกเขา
09:32
It was in the microwaveไมโครเวฟ rangeพิสัย,
197
557000
2000
มันเป็นพลังงานในช่วงคลื่นไมโครเวฟ
09:34
and it appearedปรากฏ to be comingมา
198
559000
2000
และดูเหมือนจะพุ่งมาจากทุกทิศทาง
09:36
from all directionsคำสั่ง simultaneouslyพร้อมกัน.
199
561000
2000
อย่างพร้อมเพรียงกัน
09:38
Now this didn't make any senseความรู้สึก,
200
563000
2000
นี่มันดูไม่มีเหตุผลเลย
09:40
and like any reasonableเหมาะสม engineerวิศวกร or scientistนักวิทยาศาสตร์,
201
565000
3000
และเช่นเดียวกันกับ วิศวกรหรือนักวิทยาศาสตร์
ผู้ยึดถือหลักแห่งเหตุผลคนอื่นๆ
09:43
they assumedสันนิษฐาน that the problemปัญหา mustต้อง be the technologyเทคโนโลยี itselfตัวเอง,
202
568000
3000
พวกเขาจึงคิดว่าสัญญาณรบกวนนี้
มันจะเกิดจากเทคโนโลยีที่ทำขึ้น
09:46
it mustต้อง be the dishจาน.
203
571000
2000
มันน่าจะเกิดจากจานรับสัญญาณรึเปล่า
09:48
There were pigeonsนกพิราบ roostingเกาะ in the dishจาน.
204
573000
3000
เพราะมีนกพิราบทำรังอยู่บนจาน
09:51
And so perhapsบางที onceครั้งหนึ่ง they cleanedการทำความสะอาด up the pigeonนกพิราบ droppingsมูลสัตว์,
205
576000
3000
เมื่อทำความสะอาดจานเอารังนกออกไป
09:54
get the diskดิสก์ kindชนิด of operationalการดำเนินงาน again,
206
579000
2000
และเริ่มการทดลองอีกครั้ง
09:56
normalปกติ operationsการดำเนินงาน would resumeประวัติย่อ.
207
581000
3000
ผลคงจะดีขึ้น
09:59
But the noiseสัญญาณรบกวน didn't disappearหายไป.
208
584000
3000
แต่ปรากฎว่าเสียงรบกวนนั้น ก็ยังไม่หายไปไหน
10:02
The mysteriousลึกลับ noiseสัญญาณรบกวน
209
587000
2000
เสียงลึกลับนี้
10:04
that PenziasPenzias and Wilsonวิลสัน were listeningการฟัง to
210
589000
3000
ที่เพนเซียสและวิลสันกำลังฟังอยู่นั้น
10:07
turnedหัน out to be the oldestเก่าแก่ที่สุด and mostมากที่สุด significantสำคัญ soundเสียง
211
592000
3000
กลับกลายเป็นเสียงที่เก่าแก่ที่สุดและมีความหมายที่สุด
10:10
that anyoneใคร ๆ had ever heardได้ยิน.
212
595000
2000
เท่าที่มนุษย์เคยได้ยินมา
10:12
It was cosmicเกี่ยวกับจักรวาล radiationการแผ่รังสี
213
597000
2000
มันคือเสียงของการแผ่รังสีคอสมิก
10:14
left over from the very birthกำเนิด of the universeจักรวาล.
214
599000
4000
ที่หลงเหลือทิ้งไว้ เมื่อครั้งจักรวาลถือกำเนิด
10:18
This was the first experimentalการทดลอง evidenceหลักฐาน
215
603000
3000
นี่คือการทดลองครั้งแรก
10:21
that the Bigใหญ่ Bangปัง existedมีอยู่
216
606000
2000
ที่พิสูจน์ได้ว่าการระเบิดครั้งยิ่งใหญ่
หรือบิ๊กแบง เคยเกิดจริง
10:23
and the universeจักรวาล was bornโดยกำเนิด at a preciseแม่นยำ momentขณะ
217
608000
3000
และจักรวาลได้เกิดขั้น ณ ขณะเวลาหนึ่ง
10:26
some 14.7 billionพันล้าน yearsปี agoมาแล้ว.
218
611000
4000
ใน 14.7 พันล้านปีก่อน
10:31
So our storyเรื่องราว endsปลาย
219
616000
2000
นั่นคือ เรื่องเล่าของเราวันนี้จบลง
10:33
at the beginningการเริ่มต้น --
220
618000
2000
ณ จุดเริ่มต้น--
10:35
the beginningการเริ่มต้น of all things, the Bigใหญ่ Bangปัง.
221
620000
3000
จุดเริ่มต้นของทุก ๆ สิ่ง -- บิ๊กแบง
10:38
This is the noiseสัญญาณรบกวน that PenziasPenzias and Wilsonวิลสัน heardได้ยิน --
222
623000
3000
นี่คือเสียงที่เพนเซียส และวิลสันได้ยิน
10:41
the oldestเก่าแก่ที่สุด soundเสียง that you're ever going to hearได้ยิน,
223
626000
3000
เสียงที่เก่าแก่ที่สุดที่มนุษย์จะได้ยิน
10:44
the cosmicเกี่ยวกับจักรวาล microwaveไมโครเวฟ backgroundพื้นหลัง radiationการแผ่รังสี
224
629000
3000
เสียงของ การแผ่รังสีคอสมิคไมโครเวฟพื้นหลัง
10:47
left over from the Bigใหญ่ Bangปัง.
225
632000
2000
ที่หลงเหลือไว้หลังจากบิ๊กแบง
10:49
(Fuzzฝอย)
226
634000
15000
(เสียงซ่าสั่นที่คงเส้นคงวา)
11:04
Thanksขอบคุณ.
227
649000
2000
ขอบคุณค่ะ
11:06
(Applauseการปรบมือ)
228
651000
4000
(ปรบมือ)
Translated by Farung Surina
Reviewed by Chana Chananukul

▲Back to top

ABOUT THE SPEAKER
Honor Harger - Artist
Honor Harger explores the sounds of the sky, using art to connect her audience to the universe.

Why you should listen

Honor Harger is a New Zealand-born artist and curator who has a particular interest in artistic uses of technologies. She's the director of Lighthouse, an arts agency in Brighton, UK. Her artistic practice is produced under the name r a d i o q u a l i a together with collaborator Adam Hyde. One of their main projects is Radio Astronomy , a radio station broadcasting sounds from space.

From a great interview with Harger from Lift '11:

What does it mean to listen to space?

Whilst our project uses what we describe as "sounds from space", it is important to understand that stars and planets are not directly audible. Sound waves can not propagate in the vacuum of space. However, it is possible for radio waves emitted from celestial bodies, such as Jupiter and the Sun, to be heard by using radio technology. In our galaxy, the Sun is the strongest source of radio waves - so it's the most powerful transmitter in the radio sky. Jupiter also sends us strong radio signals.

What we hear is very curiously linked with our experience of radio here on earth -- the sounds are a bit like the sound of static between the stations.

Photo: Matt Locke / Flickr CC

More profile about the speaker
Honor Harger | Speaker | TED.com