ABOUT THE SPEAKER
Charles Limb - Researcher
Charles Limb is a doctor and a musician who researches the way musical creativity works in the brain.

Why you should listen

Charles Limb is the Francis A. Sooy, MD Professor and Chief of Otology/Neurotology and Skull Base Surgery at the University of California, San Francisco, and he's a Faculty Member at the Peabody Conservatory of Music. He combines his two passions to study the way the brain creates and perceives music. He's a hearing specialist and surgeon at Johns Hopkins who performs cochlear implantations on patients who have lost their hearing. And he plays sax, piano and bass.

In search of a better understanding of how the mind perceives complex auditory stimuli such as music, he's been working with Allen Braun to look at the brains of improvising musicians and study what parts of the brain are involved in the kind of deep creativity that happens when a musician is really in the groove.

Read our Q&A about hip-hop studies with Charles Limb on the TED Blog >>

Plus our quick catchup Q&A at TEDMED 2011 -- including his top 5 songs of all time >>

Read the 2014 paper "Neural Substrates of Interactive Musical Improvisation: An fMRI Study of ‘Trading Fours’ in Jazz" >>

More profile about the speaker
Charles Limb | Speaker | TED.com
TEDMED 2011

Charles Limb: Building the musical muscle

ชาลส์ ลิมบ์ (Charles Limb): การสร้างเสริมกล้ามเนื้อสำคัญของศาสตร์แห่งดนตรี ♫

Filmed:
718,820 views

คุณหมอ ชาลส์ ลิมบ์ ผ่าตัดปลูกคอลเคลียร์ (cochlear) ซึ่งเป็นการรักษาให้กับผู้ที่มีสูญเสียการได้ยินและสามารถฟื้นฟูความสามารถในการได้ยินเสียงพูดได้ แต่ในฐานนะที่เป็นนักดนตรีด้วย คุณหมอลิมบ์ยังเล็งเห็นข้อจำกัดของการปลูกถ่ายนี้ กล่าวคือ การรักษาด้วยวิธีนี้ยังไม่สามารถทำให้คนไข้รับรู้ถึงอรรถรสของดนตรีได้อย่างแท้จริง คุณหมอกล่าวสรุปถึงวิธีการรักษาที่ทันสมัยและแนวทางรักษารักษาในอนาคต ณ TEDMED
- Researcher
Charles Limb is a doctor and a musician who researches the way musical creativity works in the brain. Full bio

Double-click the English transcript below to play the video.

00:15
Now when we think of our sensesความรู้สึก,
0
0
5000
เมื่อเรานึกถึงประสาทสัมผัส (senses) ของเรา
00:20
we don't usuallyมักจะ think of the reasonsเหตุผล
1
5000
2000
เรามักไม่ค่อยนึกถึงเหตุผลว่า
00:22
why they probablyอาจ evolvedการพัฒนา, from a biologicalชีวภาพ perspectiveมุมมอง.
2
7000
2000
ทำไมพวกมันพัฒนาขึ้น จากมุมมองทางชีวภาพ
00:24
We don't really think of the evolutionaryวิวัฒนาการ need
3
9000
3000
เราไม่ได้คิดถึงความจำเป็นที่ว่า วิวัฒนาการ
00:27
to be protectedมีการป้องกัน by our sensesความรู้สึก,
4
12000
2000
ถูกปกป้องโดยประสาทสัมผัสของเรา
00:29
but that's probablyอาจ why our sensesความรู้สึก really evolvedการพัฒนา --
5
14000
2000
แต่นั่นอาจเป็นสาเหตุว่า
ทำไมประสาทสัมผัสของเราจึงพัฒนาขึ้น
00:31
to keep us safeปลอดภัย, to allowอนุญาต us to liveมีชีวิต.
6
16000
3000
ก็เพื่อที่จะทำให้เราปลอดภัย
เพื่อทำให้เราสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้
00:34
Really when we think of our sensesความรู้สึก,
7
19000
2000
จริงๆ แล้ว เมื่อเราคิดถึงประสาทสัมผัส
00:36
or when we think of the lossการสูญเสีย of the senseความรู้สึก,
8
21000
2000
หรือเมื่อเราคิดถึงการสูญเสียประสาทสัมผัส
00:38
we really think about something more like this:
9
23000
2000
เรามักคิดว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ที่เป็น
00:40
the abilityความสามารถ to touchแตะ something luxuriousหรูหรา, to tasteลิ้มรส something deliciousอร่อย,
10
25000
3000
ความสามารถในการสัมผัสสิ่งที่นุ่มลื่น
การลิ้มรสอาหารที่อร่อยล้ำ
00:43
to smellกลิ่น something fragrantหอม,
11
28000
2000
การที่ได้ดมกลิ่นที่หอมหวล
00:45
to see something beautifulสวย.
12
30000
2000
หรือการมองเห็นสิ่งที่สวยงาม
00:47
This is what we want out of our sensesความรู้สึก.
13
32000
2000
นี้คือสิ่งที่เราอยากได้จากประสาทสัมผัสของเรา
00:49
We want beautyความงาม; we don't just want functionฟังก์ชัน.
14
34000
3000
เราต้องการความสวยงาม
มิใช่ต้องการเพียงแค่สิ่งที่ทำงานได้
00:52
And when it comesมา to sensoryประสาทสัมผัส restorationการบูรณะ,
15
37000
2000
และเมื่อพูดถึงการฟื้นฟูประสาทสัมผัส
00:54
we're still very farห่างไกล away from beingกำลัง ableสามารถ to provideให้ beautyความงาม.
16
39000
3000
เรายังอยู่ไกลจากความสามารถ
ที่จะทำให้มันเอื้อให้เกิดความงดงามได้
00:57
And that's what I'd like to talk to you a little bitบิต about todayในวันนี้.
17
42000
3000
และนั่นคือสิ่งที่ผมอยากจะพูดให้คุณฟังซักเล็กน้อยในวันนี้
01:00
Likewiseในทำนองเดียวกัน for hearingการได้ยิน.
18
45000
2000
เช่นเดียวกับการได้ยิน
01:02
When we think about why we hearได้ยิน,
19
47000
2000
เมื่อเราคิดว่าทำไมเราถึงได้ยิน
01:04
we don't oftenบ่อยครั้ง think about the abilityความสามารถ to hearได้ยิน an alarmสัญญาณเตือนภัย or a sirenไซเรน,
20
49000
3000
เราคงไม่คิดแค่ความสามารถในการได้ยินเสียงเตือนภัยแน่ๆ
01:07
althoughแม้ว่า clearlyอย่างเห็นได้ชัด that's an importantสำคัญ thing.
21
52000
2000
แม้ว่าจริงๆ แล้วมันมีความสำคัญมากๆ
01:09
Really what we want to hearได้ยิน is musicเพลง.
22
54000
3000
แต่สิ่งที่เราต้องการได้ยินก็คือเสียงดนตรี
01:12
(Musicเพลง)
23
57000
15000
(เสียงดนตรี)
01:27
So manyจำนวนมาก of you know that that's Beethoven'sเบโธเฟน Seventhที่เจ็ด Symphonyซิมโฟนี.
24
72000
2000
พวกคุณส่วนใหญ่รู้จักว่านี่คือ
ซิมโฟนีหมายเลข 7 ของเบโธเฟน
01:29
Manyจำนวนมาก of you know that he was deafหูหนวก, or nearใกล้ profoundlyอย่างสุดซึ้ง deafหูหนวก,
25
74000
3000
หลายคนคงรู้ว่าเขาหูหนวกหรือเกือบหูหนวก
01:32
when he wroteเขียน that.
26
77000
2000
ขณะที่เขากำลังแต่งเพลงนี้
01:34
Now I'd like to impressประทับใจ uponเมื่อ you
27
79000
2000
ตอนนี้ ผมอยากสร้างความประทับใจให้พวกคุณ
01:36
how unusualผิดปกติ it is that we can hearได้ยิน musicเพลง.
28
81000
3000
ถึงความพิเศษที่พวกเราได้ยินเสียงดนตรี
01:39
Musicเพลง is just one of the strangestที่แปลกประหลาด things that there is.
29
84000
3000
ดนตรีเป็นสิ่งที่แปลกประหลาดสิ่งหนึ่ง
01:42
It's acousticอะคูสติก vibrationsการสั่นสะเทือน in the airอากาศ,
30
87000
3000
มันเป็นการสั่นของเสียงในอากาศ
01:45
little wavesคลื่น of energyพลังงาน in the airอากาศ that tickleจี้ our eardrumแก้วหู.
31
90000
3000
ซึ่งเป็นคลื่นเล็กๆ ของพลังงานในอากาศ ที่กระตุ้นแก้วหูของเรา
01:48
Somehowอย่างใด in ticklingการกระตุ้น our eardrumแก้วหู
32
93000
2000
การกระตุ้นแก้วหูทำให้เกิด
01:50
that transmits energyพลังงาน down our hearingการได้ยิน bonesอัฐิ,
33
95000
2000
การส่งผ่านพลังงานไปยังกระดูกที่เกี่ยวข้องกับการได้ยิน
01:52
whichที่ get convertedแปลง to a fluidของเหลว impulseแรงกระตุ้น insideภายใน the cochleaอวัยวะรูปหอยโข่ง
34
97000
3000
ที่เปลี่ยนพลังงานดังกล่าว
ให้เป็นคลื่นดล (impulse) ของเหลว
ภายในคอเคลีย (cochlea)
01:55
and then somehowอย่างใด convertedแปลง into an electricalไฟฟ้า signalสัญญาณ in our auditoryห้องประชุม nervesเส้นประสาท
35
100000
3000
จากนั้น กระบวนการบางอย่างได้เปลี่ยนคลื่นดล
ให้เป็นสัญญาณไฟฟ้าในเส้นประสาทรับเสียง
01:58
that somehowอย่างใด windลม up in our brainsสมอง
36
103000
3000
ที่ถูกส่งต่อไปยังสมอง
02:01
as a perceptionความเข้าใจ of a songเพลง or a beautifulสวย pieceชิ้น of musicเพลง.
37
106000
3000
ก่อให้เกิดการรับรู้เสียงเพลง
หรือความไพเราะของเสียงดนตรีได้
02:04
That processกระบวนการ is entirelyอย่างสิ้นเชิง abstractนามธรรม and very, very unusualผิดปกติ.
38
109000
3000
กระบวนการดังกล่าวจับต้องไม่ได้
และแปลกมากๆ
02:07
And we could discussสนทนา that topicหัวข้อเรื่อง aloneคนเดียว for daysวัน
39
112000
3000
เราสามารถถกเถียงเกี่ยวกับเรื่องนี้เพียงเรื่องเดียว
ได้เป็นวันๆ
02:10
to really try to figureรูป out, how is it that we hearได้ยิน something that's emotionalอารมณ์
40
115000
4000
เพือที่จะพยายามคิดให้ออกว่า
เราได้ยินเสียงทีก่อให้เกิดอารมณ์
02:14
from something that startsเริ่มต้น out as a vibrationการสั่นสะเทือน in the airอากาศ?
41
119000
3000
จากสิ่งที่เริ่มมาจากการสั่นของอากาศได้อย่างไร
02:17
Turnsย้อนกลับ out that if you have hearingการได้ยิน lossการสูญเสีย,
42
122000
2000
ถ้าคุณสูญเสียการได้ยิน
02:19
mostมากที่สุด people that loseสูญเสีย theirของพวกเขา hearingการได้ยิน
43
124000
2000
ซึ่งคนส่วนใหญ่ที่สูญเสียการได้ยิน
02:21
loseสูญเสีย it at what's calledเรียกว่า the cochleaอวัยวะรูปหอยโข่ง, the innerภายใน earหู.
44
126000
3000
มักเกิดจากความผิดปกติของคอเคลีย
ซึ่งอยู่ในส่วนหูชั้นใน
02:24
And it's at the hairผม cellเซลล์ levelชั้น that they do this.
45
129000
3000
และเกิดในระดับของเซลล์ขน (hair cell)
02:27
Now if you had to pickเลือก a senseความรู้สึก to loseสูญเสีย,
46
132000
2000
ทีนี้ ถ้าคุณต้องเลือกที่จะสูญเสียประสาทสัมผัสหนึ่งใด
02:29
I have to be very honestซื่อสัตย์ with you
47
134000
2000
ผมคงต้องบอกกับคุณตรงๆ เลยว่า
02:31
and say, we're better at restoringการเรียกคืน hearingการได้ยิน
48
136000
2000
เราชำนาญการฟื้นฟูการได้ยินมากกว่า
02:33
than we are at restoringการเรียกคืน any senseความรู้สึก that there is.
49
138000
2000
การฟื้นฟูประสาทสัมผัสแบบอื่นๆ
02:35
In factความจริง, nothing even actuallyแท้จริง comesมา closeปิด
50
140000
2000
ความจริง ไม่มีการฟื้นฟูใดๆ ที่เทียบเคียงกับ
02:37
to our abilityความสามารถ to restoreฟื้นฟู hearingการได้ยิน.
51
142000
2000
ความสามารถในการฟื้นฟูการได้ยินของเราได้เลย
02:39
And as a physicianแพทย์ and a surgeonศัลยแพทย์, I can confidentlyมั่นใจ tell my patientsผู้ป่วย
52
144000
3000
และฐานะของศัลยแพทย์
ผมมั่นใจที่จะบอกกับผู้ป่วยของผมว่า
02:42
that if you had to pickเลือก a senseความรู้สึก to loseสูญเสีย,
53
147000
2000
ถ้าคุณต้องเลือกที่จะสูญเสียประสาทสัมผัสอย่างหนึ่งอย่างใด
02:44
we are the furthestไกลที่สุด alongตาม medicallyในทางการแพทย์ and surgicallyผ่าตัด with hearingการได้ยิน.
54
149000
4000
เรามีความก้าวหน้าในการผ่าตัดระบบการได้ยินเป็นอันมาก
02:48
As a musicianนักดนตรี, I can tell you
55
153000
2000
ในฐานะนักดนตรี ผมบอกคุณได้เลยว่า
02:50
that if I had to have a cochlearประสาทหูเทียม implantสอดใส่,
56
155000
2000
ถ้าผมจะต้องปลูกถ่ายคอเคลีย
02:52
I'd be heartbrokenอกหัก. I'd just be plainlyชัดถ้อยชัดคำ heartbrokenอกหัก,
57
157000
2000
ผมคงจะทำให้ทุกๆ ท่านผิดหวัง
02:54
because I know that musicเพลง would never soundเสียง the sameเหมือนกัน to me.
58
159000
4000
เพราะผมรู้ว่าเสียงดนตรีที่ได้ยิน
อาจจะไม่ใช่เสียงเดิมอีกต่อไป
02:58
Now this is a videoวีดีโอ that I'm going to showแสดง you
59
163000
3000
นี้คือวิดีโอที่ผมจะแสดงให้คุณชมเกี่ยวกับ
03:01
of a girlสาว who'sใคร bornโดยกำเนิด deafหูหนวก.
60
166000
2000
เด็กหญิงที่หูพิการมาตั้งแต่เกิด
03:03
She's in a very supportiveอุปถัมภ์ environmentสิ่งแวดล้อม.
61
168000
2000
เธออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ได้รับการเอาได้เอาใจใส่
03:05
Her mother'sแม่ doing everything she can.
62
170000
2000
แม่ของเธอทำทุกอย่างเท่าที่เธอจะทำได้
03:07
Okay, playเล่น that videoวีดีโอ please.
63
172000
2000
ครับ ช่วยเล่นวิดีโอด้วยครับ
03:09
(Videoวีดีโอ) Motherแม่: That's an owlนกฮูก.
64
174000
2000
แม่: นั่นนกฮูก (owl)
03:11
Owlนกฮูก, yeah.
65
176000
3000
นกฮูก
03:18
Owlนกฮูก. Owlนกฮูก.
66
183000
3000
นกฮูก นกฮูก
03:21
Yeah.
67
186000
2000
ใช่
03:28
Babyทารก. Babyทารก.
68
193000
3000
เด็กทารก ทารก
03:31
You want it?
69
196000
3000
ลูกจะเอาไหม
03:34
(Kissจูบ)
70
199000
3000
จู๊บ
03:37
Charlesชาร์ลส์ Limbกิ่ง: Now despiteแม้จะมี everything going for this childเด็ก
71
202000
2000
ชาร์ลส์ ลิ้มบ์: ครับ แต่ถึงอย่างนั้น ทุกอย่างที่ให้เด็กคนนี้
03:39
in termsเงื่อนไข of familyครอบครัว supportสนับสนุน
72
204000
2000
ในแง่ของการสนับสนุนจากครอบครัว
03:41
and simpleง่าย infusedInfused learningการเรียนรู้,
73
206000
2000
และการเรียนรู้ที่ซึมซับได้อย่างง่ายๆ
03:43
there is a limitationการ จำกัด to what a childเด็ก who'sใคร deafหูหนวก, an infantทารก who was bornโดยกำเนิด deafหูหนวก,
74
208000
3000
ก็ยังคงมีข้อจำกัด
สำหรับเด็กที่มีปัญหาด้านการได้ยินมาตั้งแต่เกิด
03:46
has in this worldโลก
75
211000
2000
ในโลกใบนี้
03:48
in termsเงื่อนไข of socialสังคม, educationalทางการศึกษา, vocationalอาชีวศึกษา opportunitiesโอกาส.
76
213000
3000
ในแง่ของสังคม การศึกษา โอกาสในการทำงาน
03:51
I'm not sayingคำพูด that they can't liveมีชีวิต a beautifulสวย, wonderfulยอดเยี่ยม life.
77
216000
3000
ผมไม่ได้ว่า พวกเขาจะใช้ชีวิตอยู่อย่างสวยงาม
และยอดเยี่ยมไม่ได้
03:54
I'm sayingคำพูด that they're going to faceใบหน้า obstaclesอุปสรรค
78
219000
2000
แต่ผมว่า พวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรค
03:56
that mostมากที่สุด people who have normalปกติ hearingการได้ยิน will not have to faceใบหน้า.
79
221000
3000
ซึ่งคนส่วนใหญ่ที่ได้ยินปกติ ไม่ต้องเผชิญ
03:59
Now hearingการได้ยิน lossการสูญเสีย and the treatmentการรักษา for hearingการได้ยิน lossการสูญเสีย
80
224000
2000
เอาล่ะครับ การสูญเสียการได้ยินและการรักษา
04:01
has really evolvedการพัฒนา in the pastอดีต 200 yearsปี.
81
226000
2000
มีพัฒนาการย้อนกลับไปถึง 200 ปี นับจากอดีต
04:03
I mean literallyอย่างแท้จริง,
82
228000
2000
ผมหมายถึงตั้งแต่
04:05
they used to do things like stickติด ear-shapedหูรูป objectsวัตถุ ontoไปยัง your earsหู
83
230000
3000
การใช้พวกอุปกรณ์ที่มีรูปร่างคล้ายหูใส่เข้าไปในหู
04:08
and stickติด funnelsช่องทาง in.
84
233000
2000
รวมถึงการใช้ท่อรูปกรวยแหย่เข้าไป
04:10
And that was the bestดีที่สุด you could do for hearingการได้ยิน lossการสูญเสีย.
85
235000
2000
และนั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณสามารถทำได้
เมื่อสูญเสียการได้ยิน
04:12
Back then you couldn'tไม่สามารถ even look at the eardrumแก้วหู.
86
237000
2000
เมื่อมองย้อนกลับไป
คุณไม่ได้พิจารณาที่เยื่อแก้วหูเลยด้วยซ้ำ
04:14
So it's not too surprisingน่าแปลกใจ
87
239000
2000
จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า
04:16
that there were no good treatmentsการรักษา for hearingการได้ยิน lossการสูญเสีย.
88
241000
2000
ทำไม การรักษาการสูญเสียการได้ยิน จึงยังไม่ดี
04:18
And now todayในวันนี้ we have the modernทันสมัย multi-channelหลายช่องทาง cochlearประสาทหูเทียม implantสอดใส่,
89
243000
2000
ปัจจุบัน เรามีการปลูกถ่าย
คอเคลียเทียมแบบหลายช่อง (multi-channel cochlear)
04:20
whichที่ is an outpatientคนไข้นอก procedureขั้นตอน.
90
245000
2000
ซึ่งเป็นขั้นตอนที่บริการกับผู้ป่วยนอก
04:22
It's surgicallyผ่าตัด placedวางไว้ insideภายใน the innerภายใน earหู.
91
247000
2000
โดยผ่าตัดฝังอุปกรณ์ดังกล่าวเข้าไปในหูชั้นใน
04:24
It takes about an hourชั่วโมง and a halfครึ่ง to two hoursชั่วโมง, dependingทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ on where it's doneเสร็จแล้ว,
92
249000
2000
ซึ่งจะใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่งถึงสองชั่วโมง
ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำงานผ่าตัด
04:26
underภายใต้ generalทั่วไป anesthesiaการระงับความรู้สึก.
93
251000
2000
ภายใต้การใช้ยาสลบ
04:28
And in the endปลาย, you achieveบรรลุ something like this
94
253000
2000
และสุดท้าย คุณจะได้อุปกรณ์ที่มีลักษณะเช่นนี้
04:30
where an electrodeขั้วไฟฟ้า arrayแถว is insertedแทรก insideภายใน the cochleaอวัยวะรูปหอยโข่ง.
95
255000
3000
กล่าวคือ ชุดของอิเล็กโทรด (electrode array)
จะถูกสอดใส่ไว้ในคอเคลีย
04:33
Now actuallyแท้จริง, this is quiteทีเดียว crudeหยาบ
96
258000
2000
ที่จริง การตอบสนองต่อเสียงนี้จะค่อนข้างหยาบ
04:35
in comparisonการเปรียบเทียบ to our regularปกติ innerภายใน earหู.
97
260000
2000
เมื่อเปรียบเทียบกับหูชั้นในที่ปกติของเรา
04:37
But here is that sameเหมือนกัน girlสาว who is implantedปลูกฝัง now.
98
262000
3000
แต่นี่คือเด็กหญิงคนเดียวกันที่ได้ทำศัลยกรรมแล้ว
04:40
This is her 10 yearsปี laterต่อมา.
99
265000
2000
นี้คือเธอหลังจาก 10 ปีผ่านไป
04:42
And this is a videoวีดีโอ that was takenยึด
100
267000
2000
และนี่คือวิดีโอที่ถ่ายทำขึ้น
04:44
by my surgicalการผ่าตัด mentorที่ปรึกษา, Drดร. Johnจอห์น NiparkoNiparko, who implantedปลูกฝัง her.
101
269000
2000
โดย ดร. จอห์น นิพาร์โค (Dr. John Niparko)
ศัลยแพทย์ผู้ให้คำปรึกษาของผม
และเป็นผู้ที่ทำการศัลยกรรมให้เธอ
04:46
If we could playเล่น this videoวีดีโอ please.
102
271000
2000
ช่วยเปิดวิดีโอนี้ด้วยครับ
04:49
(Videoวีดีโอ) Johnจอห์น NiparkoNiparko: So you've writtenเขียน two booksหนังสือ?
103
274000
2000
ดร. จอห์น นิพาร์โค: อืม หนูเขียนหนังสือสองเล่มแล้วหรือ
04:51
Girlสาว: I have writtenเขียน two booksหนังสือ. (Motherแม่: Was the other one a bookหนังสือ or a journalวารสาร entryการเข้า?)
104
276000
3000
เด็กหญิง: หนูเขียนหนังสือได้สองเล่มแล้วค่ะ
แม่: อีกเล่มหนึ่งเป็นหนังสือหรือบันทึกคะ
04:54
Girlสาว: No, the other one was a bookหนังสือ. (Motherแม่: Oh, okay.)
105
279000
3000
เด็กหญิง: ไม่ค่ะ อีกเล่มหนึ่งเป็นหนังสือ
แม่:. อ้อ จ๊ะ
04:58
JNJN: Well this bookหนังสือ has sevenเจ็ด chaptersบท,
106
283000
3000
ดร. จอห์น: หนังสือเล่มนี้มีเจ็ดบท
05:01
and the last chapterบท
107
286000
3000
และบทสุดท้าย
05:04
is entitledสิทธิ "The Good Things About Beingกำลัง Deafหูหนวก."
108
289000
4000
มีชื่อบทว่า "ข้อดีเกี่ยวกับการเป็นคนหูหนวก"
05:08
Do you rememberจำ writingการเขียน that chapterบท?
109
293000
3000
หนูจำเนื้อเรื้องที่เขียนในบทนี้ได้ไหม
05:11
Girlสาว: Yes I do. I rememberจำ writingการเขียน everyทุกๆ chapterบท.
110
296000
3000
เด็กหญิง: หนูจำได้ หนูจำได้ทุกบทที่เขียนเลยค่ะ
05:14
JNJN: Yeah.
111
299000
2000
ดร. จอห์น: ว๊าววว
05:16
Girlสาว: Well sometimesบางครั้ง my sisterน้องสาว can be kindชนิด of annoyingน่ารำคาญ.
112
301000
4000
เด็กหญิง: บางที น้องสาวหนูก็น่ารำคาญ
05:20
So it comesมา in handyมีประโยชน์ to not be annoyedรำคาญ by her.
113
305000
4000
ซึ่งมันก็ดีเหมือนกันนะ ที่ไม่ต้องมารำคาญเพราะเธอ
05:24
JNJN: I see. And who is that?
114
309000
3000
ดร. จอห์น: อ๋อ เหรอ แล้วนั่นใครหล่ะ
05:27
Girlสาว: Hollyต้นฮอลลี. (JNJN: Okay.)
115
312000
2000
เด็กหญิงl: ฮอลลี
ดร จอหฺน: โอเค
05:29
Motherแม่: Her sisterน้องสาว. (JNJN: Her sisterน้องสาว.) Girlสาว: My sisterน้องสาว.
116
314000
2000
แม่: น้องสาวของเธอค่ะ
ดร จอห์น: น้องสาวของหนูซินะ
เด็กหญิง: น้องสาวของหนู
05:31
JNJN: And how can you avoidหลีกเลี่ยง beingกำลัง annoyedรำคาญ by her?
117
316000
3000
ดร จอห์น: แล้วหนูเลี่ยงให้ไม่รำคาญน้องได้อย่างไรล่ะ
05:34
Girlสาว: I just take off my CICI, and I don't hearได้ยิน anything.
118
319000
3000
เด็กหญิง: หนูก็ถอดเครื่องช่วยฟัง (CI) ออก
เท่านี้หนูก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรแล้ว
05:37
(Laughterเสียงหัวเราะ)
119
322000
2000
(หัวเราะ)
05:39
It comesมา in handyมีประโยชน์.
120
324000
2000
มันมีประโยชน์มากนะ
05:41
JNJN: So you don't want to hearได้ยิน everything that's out there?
121
326000
3000
ดร จอห์น: แล้วหนูไม่ต้องการได้ยินเสียงอื่นๆ ด้วยหรือ
05:44
Girlสาว: No.
122
329000
2000
เด็กหญิง: ไม่ค่ะ
05:46
CLCL: And so she's phenomenalมหัศจรรย์.
123
331000
2000
ชาร์ลสฺ์: เธอช่างน่าทึ่งเสียจริงๆ
05:48
And there's no way that you can't look at that as an overwhelmingล้นหลาม successความสำเร็จ.
124
333000
3000
และไม่มีทาง ที่คุณจะมองว่า
นั่นไม่ใช่เป็นความสำเร็จอย่างท่วมท้น
05:51
It is. It's a hugeใหญ่ successความสำเร็จ storyเรื่องราว in modernทันสมัย medicineยา.
125
336000
3000
มันประสบความสำเร็จอย่างมากในด้านการแพทย์สมัยใหม่
05:54
Howeverอย่างไรก็ตาม, despiteแม้จะมี this incredibleเหลือเชื่อ facilityสิ่งอำนวยความสะดวก
126
339000
3000
แม้จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหลือเชื่อนี้
05:57
that some cochlearประสาทหูเทียม implantสอดใส่ usersผู้ใช้ displayแสดง with languageภาษา,
127
342000
2000
ที่ทำให้คนไข้ที่ฝังคอเคลียเทียมบางคน
แสดงออกทางภาษาพูดได้
05:59
you turnกลับ on the radioวิทยุ and all of a suddenฉับพลัน they can't hearได้ยิน musicเพลง almostเกือบจะ at all.
128
344000
4000
แต่เมื่อคุณเปิดวิทยุ ทันใดนั้น
พวกเขาแทบไม่สามารถได้ยินเสียงดนตรีเลย
06:03
In factความจริง, mostมากที่สุด implantสอดใส่ usersผู้ใช้ really struggleการต่อสู้
129
348000
2000
ความจริง ผู้ใช้ประสาทหูเทียมส่วนใหญ่ ยังคงมีปัญหา
06:05
and dislikeไม่ชอบ musicเพลง because it soundsเสียง so badไม่ดี.
130
350000
3000
และไม่ชอบเสียงดนตรี เพราะเสียงมันแย่มาก
06:08
And so when it comesมา to this ideaความคิด
131
353000
2000
และเมื่อมาถึงความคิดที่ว่า
06:10
of restoringการเรียกคืน beautyความงาม to somebody'sใครสักคนที่เป็น life,
132
355000
2000
จะฟื้นฟูความระรื่นให้กับชีวิตของใครบางคน
06:12
we have a long way to go when it comesมา to auditionการได้ยิน.
133
357000
2000
เราคงยังต้องเดินทางอีกยาวไกล เมื่อมันเป็นเรื่องการรับฟังเสียง
06:14
Now there are a lot of reasonsเหตุผล for that.
134
359000
2000
ตอนนี้ มันมีเหตุผลหลายอย่างครับ
06:16
I mentionedกล่าวถึง earlierก่อน the factความจริง
135
361000
2000
ผมกล่าวถึงก่อนหน้านี้ถึงความเป็นจริง
06:18
that musicเพลง is a differentต่าง capacityความจุ because it's abstractนามธรรม.
136
363000
2000
ที่ว่า เสียงดนตรีมีคุณลักษณะที่แตกต่างกัน เนื่องจากมันเป็นนามธรรม
06:20
Languageภาษา is very differentต่าง. Languageภาษา is very preciseแม่นยำ.
137
365000
2000
ภาษาพูดนั้นแตกต่างจากเสียงดนตรีมาก ภาษาพูดมีลักษณะที่เฉพาะมากๆ
06:22
In factความจริง, the wholeทั้งหมด reasonเหตุผล we use it
138
367000
2000
ความจริง เหตุผลทั้งหมดที่เราใช้ภาษาพูด
06:24
is because it has semantic-specificityความหมายจำเพาะ.
139
369000
2000
เพราะมันมีลักษณะที่จำเพาะเจาะจง (semantic-specificity)
06:26
When you say a wordคำ,
140
371000
2000
เมื่อคุณพูดคำคำหนึ่ง
06:28
what you careการดูแล is that wordคำ was perceivedที่รับรู้ correctlyได้อย่างถูกต้อง.
141
373000
2000
ที่คุณสนใจคือคุณรับคำนั้นมาได้ถูกต้องหรือไม่
06:30
You don't careการดูแล that the wordคำ soundedฟัง prettyน่ารัก
142
375000
2000
คุณไม่สนว่าคำที่คุณพูด
06:32
when it was spokenพูด.
143
377000
2000
จะฟังไพเราะหรือไม่
06:34
Musicเพลง is entirelyอย่างสิ้นเชิง differentต่าง.
144
379000
2000
เสียงดนตรีนั้นแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง
06:36
When you hearได้ยิน musicเพลง, if it doesn't soundเสียง good, what's the pointจุด?
145
381000
2000
เมื่อคุณได้ยินเสียงดนตรี
ถ้าเสียงไม่เพราะ แล้วคุณจะฟังไปเพื่ออะไรกัน
06:38
There's really very little pointจุด in listeningการฟัง to musicเพลง
146
383000
2000
มันมีเหตุผลน้อยมากที่คุณจะฟังเสียงดนตรี
06:40
when it doesn't soundเสียง good to you.
147
385000
2000
ถ้าคุณฟังแล้วคุณว่ามันไม่เพราะเลย
06:42
The acousticsเสียงสะท้อน of musicเพลง are much harderยาก than those of languageภาษา.
148
387000
3000
ศาสตร์ของเสียงดนตรีนั้นมีความยากกว่าศาสตร์ของภาษาพูดมาก
06:45
And you can see on this figureรูป,
149
390000
2000
คุณจะเห็นได้จากรูปนี้
06:47
that the frequencyความถี่ rangeพิสัย
150
392000
2000
ที่ช่วงความถี่
06:49
and the decibelหน่วยเดซิเดล rangeพิสัย, the dynamicพลวัต rangeพิสัย of musicเพลง
151
394000
2000
และช่วงความเข้มเสียงแบบไดนามิกของดนตรี ในหน่วยเดซิเบล
06:51
is farห่างไกล more heterogeneousต่างกัน.
152
396000
2000
มีความหลากหลายมาก
06:53
So if we had to designออกแบบ a perfectสมบูรณ์ cochlearประสาทหูเทียม implantสอดใส่,
153
398000
2000
ดังนั้นหากเราต้องออกแบบประสาทหูเทียมที่สมบูรณ์แบบ
06:55
what we would try to do
154
400000
2000
เป้าหมายที่เราควรต้องพยายามทำก็คือ
06:57
is targetเป้า it to be ableสามารถ to allowอนุญาต musicเพลง transmissionการส่งผ่าน.
155
402000
3000
การทำให้มันสามารถส่งผ่านลักษณะของเสียงดนตรีได้
07:00
Because I always viewดู musicเพลง as the pinnacleจุดสุดยอด of hearingการได้ยิน.
156
405000
3000
เพราะผมเห็นว่าดนตรีเป็นสุดยอดของการได้ยิน
07:03
If you can hearได้ยิน musicเพลง,
157
408000
2000
หากคุณสามารถได้ยินเสียงดนตรี
07:05
you should be ableสามารถ to hearได้ยิน anything.
158
410000
2000
คุณควรสามารถได้ยินเสียงต่างๆ ได้
07:07
Now the problemsปัญหาที่เกิดขึ้น beginเริ่ม first with pitchขว้าง perceptionความเข้าใจ.
159
412000
3000
ตอนนี้ปัญหาเริ่มแรกด้วยการรับรู้ระดับเสียง (pitch perception)
07:10
I mean, mostมากที่สุด of us know that pitchขว้าง is a fundamentalพื้นฐาน buildingอาคาร blockกลุ่ม of musicเพลง.
160
415000
3000
ผมหมายถึง พวกเราส่วนใหญ่รู้ว่าระดับเสียง (pitch)
เป็นพื้นฐานของเสียงดนตรี
07:13
And withoutไม่มี the abilityความสามารถ to perceiveเข้าใจ pitchขว้าง well,
161
418000
2000
และถ้าไม่มีความสามารถในการรับรู้ระดับเสียงที่ดี
07:15
musicเพลง and melodyเพลง is a very difficultยาก thing to do --
162
420000
3000
เพลงและทำนองก็เป็นสิ่งยากมากที่จะทำ -
07:18
forgetลืม about a harmonyความสามัคคี and things like that.
163
423000
2000
ไม่ต้องพูดถึงเสียงประสาน (harmony) และอะไรทำนองนั้นเลยครับ
07:20
Now this is a MIDIMIDI arrangementการจัดการ of Rachmaninoff'sนินอฟของ Preludeโหมโรง.
164
425000
3000
นี้เป็นมิดิ(MIDI) เพลงของ รัคมานินอฟ พรีรุท
(Rachmaninoff's Prelude)
07:23
Now if we could just playเล่น this.
165
428000
2000
ตอนนี้เราจะเล่นเพลงนี้
07:25
(Musicเพลง)
166
430000
24000
(เสียงดนตรี)
07:49
Okay, now if we considerพิจารณา
167
454000
3000
เอาล่ะ ตอนนี้ถ้าเราพิจารณา
07:52
that in a cochlearประสาทหูเทียม implantสอดใส่ patientผู้ป่วย
168
457000
2000
ในผู้ป่วยที่ศัลยกรรมประสาทหู
07:54
pitchขว้าง perceptionความเข้าใจ could be off as much as two octavesเลอะเลือน,
169
459000
3000
การรับรู้ระดับเสียงอาจจะเพี้ยนไปที่สองระดับของ
เสียงคู่แปด (octave)
07:57
let's see what happensที่เกิดขึ้น here
170
462000
2000
ไปดูสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่
07:59
when we randomizeสุ่ม this to withinภายใน one semitoneดนตรี.
171
464000
2000
เมื่อเราทำการสุ่มขึ้นมาในกึ่งโทนเสียง (semitone)
08:01
We would be thrilledน่าตื่นตาตื่นใจ if we had one semitoneดนตรี pitchขว้าง perceptionความเข้าใจ in cochlearประสาทหูเทียม implantสอดใส่ usersผู้ใช้.
172
466000
3000
เราตื่นเต้นเมื่อผู้ใช้ประสาทหูเทียม
มีการรับรู้ระดับเสียงได้ในระดับกึ่งโทนเสียง
08:04
Go aheadล่วงหน้า and playเล่น this one.
173
469000
2000
โปรดเล่นเพลงนี้ต่อทีครับ
08:06
(Musicเพลง)
174
471000
23000
(เสียงดนตรี)
08:29
Now my goalเป้าหมาย in showingการแสดง you that
175
494000
2000
ตอนนี้เป้าหมายของผม
08:31
is to showแสดง you that musicเพลง is not robustแข็งแรง to degradationการปลด.
176
496000
2000
คือการแสดงให้คุณทราบว่า
ดนตรีทนต่อการลดระดับเสียงไม่ได้
08:33
You distortบิดเบือน it a little bitบิต, especiallyโดยเฉพาะอย่างยิ่ง in termsเงื่อนไข of pitchขว้าง, and you've changedการเปลี่ยนแปลง it.
177
498000
4000
คุณทำมันระดับเสียงมันผิดเพี้ยนเพียงเล็กน้อย
คุณก็เปลี่ยนมันไปแล้ว
08:37
And it mightอาจ be that you kindชนิด of like that.
178
502000
2000
และมันอาจเป็นไปได้ว่าคุณชอบ
08:39
That's kindชนิด of hypnoticถูกสะกดจิต.
179
504000
2000
มันเป็นการสะกดจิตอย่างหนึ่ง
08:41
But it certainlyอย่างแน่นอน wasn'tก็ไม่ได้ the way the musicเพลง was intendedตั้งใจว่า.
180
506000
2000
แต่แน่นอนว่า นี่ไม่ใช่แบบที่ดนตรีควรจะเป็น
08:43
And you're not hearingการได้ยิน the sameเหมือนกัน thing
181
508000
2000
และคุณก็จะไม่ได้ยินในสิ่งเดียว
08:45
that mostมากที่สุด people who have normalปกติ hearingการได้ยิน are hearingการได้ยิน.
182
510000
2000
กับที่คนส่วนใหญ่ที่มีการได้ยินปกติจะได้ยิน
08:47
Now the other issueปัญหา comesมา with,
183
512000
2000
ตอนนี้ อีกปัญหาหนึ่งก็คือ
08:49
not just the abilityความสามารถ to tell pitchesโหมโรง apartต่างหาก,
184
514000
2000
ไม่เพียงแต่ความสามารถในการที่จะบอกความแตกต่างของระดับเสียงเท่านั้น
08:51
but the abilityความสามารถ to tell soundsเสียง apartต่างหาก.
185
516000
2000
แต่ยังต้องสามารถบอกชนิดของเสียงที่แตกต่างกันได้ด้วย
08:53
Mostมากที่สุด cochlearประสาทหูเทียม implantสอดใส่ usersผู้ใช้ cannotไม่ได้ tell the differenceข้อแตกต่าง betweenระหว่าง an instrumentตราสาร.
186
518000
3000
ผู้ทำศัลยกรรมประสาทหูส่วนใหญ่
ไม่สามารถบอกความแตกต่างของเสียงที่ใช้เครื่องดนตรีต่างชนิดได้
08:56
If we could playเล่น these two soundเสียง clipsคลิป in successionการสืบมรดก.
187
521000
2000
ถ้าเราเล่นทั้งสองคลิปเสียงต่อกัน
08:58
(Trumpetแตรลำโพง)
188
523000
2000
(เสียงทรัมเป็ต)
09:00
The trumpetแตรลำโพง.
189
525000
2000
ทรัมเป็ต
09:02
And the secondที่สอง one.
190
527000
2000
และอีกเสียงหนึ่ง
09:04
(Violinไวโอลิน)
191
529000
1000
(เสียงไวโอลิน)
09:05
That's a violinไวโอลิน.
192
530000
2000
นั่นคือเสียงไวโอลิน
09:07
These have similarคล้ายคลึงกัน waveคลื่น formsรูปแบบ. They're bothทั้งสอง sustainedอย่างยั่งยืน instrumentsเครื่องมือ.
193
532000
2000
รูปคลื่นของเสียงทั้งสองมีลักษณะคล้ายกัน
เครื่องดนตรีทั้งสองให้โน๊ตที่ยาวต่อเนื่อง (sustained instrument)
09:09
Cochlearประสาทหู implantสอดใส่ usersผู้ใช้ cannotไม่ได้ tell the differenceข้อแตกต่าง
194
534000
2000
ผู้ใช้ประสาทหูเทียมไม่สามารถบอกความแตกต่าง
09:11
betweenระหว่าง these instrumentsเครื่องมือ.
195
536000
2000
ระหว่างเครื่องดนตรีเหล่านี้ได้
09:13
The soundเสียง qualityคุณภาพ, or the soundเสียง of the soundเสียง
196
538000
2000
คุณภาพเสียง (sound quality) หรือเสียงของเสียง
09:15
is how I like to describeอธิบาย timbreลักษณะของเสียงร้องหรือเสียงจากเครื่องดนตรี, toneโทน colorสี --
197
540000
2000
ซึ่งผมชอบที่จะอธิบายด้วยลักษณะของน้ำเสียง โทนสีเสียง
09:17
they cannotไม่ได้ tell these things whatsoeverใด ๆ.
198
542000
2000
พวกเขาไม่สามารถบอกสิ่งเหล่านี้ได้ แต่อย่างใด
09:19
This implantสอดใส่ is not transmittingส่ง
199
544000
3000
ประสาทหูเทียมนี้ไม่ได้ส่งผ่าน
09:22
the qualityคุณภาพ of musicเพลง that usuallyมักจะ providesให้ things like warmthความอบอุ่น.
200
547000
3000
คุณภาพของเสียงดนตรี ที่มักจะให้ความระรื่นหู
09:25
Now if you look at the brainสมอง of an individualรายบุคคล who has a cochlearประสาทหูเทียม implantสอดใส่
201
550000
3000
ตอนนี้ถ้าคุณพิจารณาที่สมองของบุคคลที่มีประสาทหูเทียมแต่ละคน
09:28
and you have them listen to speechการพูด,
202
553000
2000
และคุณให้พวกเขาฟังเสียงพูด
09:30
have them listen to rhythmจังหวะ and have them listen to melodyเพลง,
203
555000
2000
ฟังจังหวะ และฟังทำนองเพลง
09:32
what you find is that the auditoryห้องประชุม cortexเยื่อหุ้มสมอง
204
557000
2000
สิ่งที่คุณพบคือสมองส่วนที่ทำหน้าที่รับรู้การได้ยิน (auditory cortex)
09:34
is the mostมากที่สุด activeคล่องแคล่ว duringในระหว่าง speechการพูด.
205
559000
2000
จะเป็นส่วนที่ใช้งานมากระหว่างการฟังเสียงพูด
09:36
You would think that because these implantsรากฟันเทียม are optimizedการเพิ่มประสิทธิภาพ for speechการพูด,
206
561000
2000
คุณควรคิดได้ว่าเพราะประสาทหูเทียมเหล่านี้
เหมาะสำหรับการฟังเสียงพูดที่สุด
09:38
they were designedได้รับการออกแบบ for speechการพูด.
207
563000
2000
เนื่องจากพวกมันได้รับการออกแบบสำหรับการฟังเสียงพูด
09:40
But actuallyแท้จริง if you look at melodyเพลง,
208
565000
2000
แต่ที่จริงแล้วถ้าคุณพิจารณาไปที่ทำนองเพลง
09:42
what you find is that there's very little corticalเกี่ยวกับเปลือกนอก activityกิจกรรม
209
567000
2000
สิ่งที่คุณพบคือสมองส่วนนี้จะตอบสนองน้อยมาก
09:44
in implantสอดใส่ usersผู้ใช้ comparedเมื่อเทียบกับ with normalปกติ hearingการได้ยิน controlsการควบคุม.
210
569000
3000
ในผู้ใช้ประสาทหูเทียม เมื่อเปรียบเทียบกับ
การควบคุมการได้ยินปกติ
09:47
So for whateverอะไรก็ตาม reasonเหตุผล,
211
572000
2000
ดังนั้นไม่ว่าด้วยเหตุผลใด
09:49
this implantสอดใส่ is not successfullyประสบความสำเร็จ stimulatingที่กระตุ้น auditoryห้องประชุม corticescortices
212
574000
3000
ประสาทหูเทียมนี้ไม่ได้ประสบความสำเร็จ
ในการกระตุ้นการได้ยิน
09:52
duringในระหว่าง melodyเพลง perceptionความเข้าใจ.
213
577000
3000
ในขณะที่มีการรับรู้ทำนองเพลง
09:55
Now the nextต่อไป questionคำถาม is,
214
580000
2000
คำถามต่อไปคือ
09:57
well how does it really soundเสียง?
215
582000
2000
เสียงจริงๆ มันเป็นอย่างไรกัน
09:59
Now we'veเราได้ been doing some studiesการศึกษา
216
584000
2000
ตอนนี้เราได้รับการทำการศึกษา
10:01
to really get a senseความรู้สึก of what soundเสียง qualityคุณภาพ is like for these implantสอดใส่ usersผู้ใช้.
217
586000
3000
เพื่อที่จะได้ทราบถึงคุณภาพเสียงที่
ผู้ใช้ประสาทหูเทียมได้รับจริงๆ
10:04
I'm going to playเล่น you two clipsคลิป of Usherนำ,
218
589000
2000
ฉันจะเล่นคลิปของ Usher สองคลิปให้พวกคุณฟัง
10:06
one whichที่ is normalปกติ
219
591000
2000
คลิปหนึ่งเป็นแบบปกติ
10:08
and one whichที่ has almostเกือบจะ no highสูง frequenciesความถี่, almostเกือบจะ no lowต่ำ frequenciesความถี่
220
593000
2000
และอีกคลิปหนึ่งเป็นแบบที่เกือบไม่มีทั้งความถี่สูงและความถี่ต่ำ
10:10
and not even that manyจำนวนมาก midปานกลาง frequenciesความถี่.
221
595000
2000
และไม่แม้แต่มีความถี่กลางมากนัก
10:12
Go aheadล่วงหน้า and playเล่น that.
222
597000
2000
เล่นเลยครับ
10:14
(Musicเพลง)
223
599000
4000
(เสียงดนตรี)
10:18
(Limitedถูก จำกัด Frequencyความถี่ Musicเพลง)
224
603000
6000
(เสียงเพลงความถี่จำกัด )
10:24
I had patientsผู้ป่วย tell me that those soundเสียง the sameเหมือนกัน.
225
609000
3000
ผู้ป่วยบอกผมว่าเสียงเหล่านี้เหมือนกันหมด
10:27
They cannotไม่ได้ differentiateแยก soundเสียง qualityคุณภาพ differencesความแตกต่าง
226
612000
3000
พวกเขาไม่สามารถแยกความแตกต่างคุณภาพเสียง
10:30
betweenระหว่าง those two clipsคลิป.
227
615000
2000
ระหว่างทั้งสองคลิปได้
10:32
Again, we are very, very farห่างไกล away in just gettingได้รับ to where we want to get to.
228
617000
3000
ย้ำอีกครั้ง เรายังอยู่ไกลจากเป้าหมายที่เราต้องการมากๆ
10:35
Now the questionคำถาม comesมา to mindใจ: Is there any hopeหวัง?
229
620000
3000
ตอนนี้มาถึงคำถามที่อยู่ในใจคือ เราจะมีความหวังไหม
10:38
And yes, there is hopeหวัง.
230
623000
2000
มีความหวังครับ
10:40
Now I don't know if anybodyใคร ๆ knowsรู้ who this is.
231
625000
2000
ตอนนี้ผมไม่ทราบว่าใครรู้มั่งว่านี่คือใคร
10:42
This is ... does somebodyบางคน know?
232
627000
2000
นี่คือ ... ใครทราบไหมครับ
10:44
This is Beethovenเบโธเฟน.
233
629000
3000
นี่คือเบโธเฟน
10:47
Now why would we know what Beethoven'sเบโธเฟน skullกะโหลกศีรษะ looksรูปลักษณ์ like?
234
632000
3000
ทำไมเราว่า
กะโหลกศีรษะเบโธเฟนหน้าตาเป็นอย่างไร
10:50
Because his graveหลุมฝังศพ was exhumedขุดขึ้นมา.
235
635000
2000
เพราะหลุมฝังศพของเขาถูกขุดขึ้นมา
10:52
And it turnsผลัดกัน out that his temporalชั่วขณะ bonesอัฐิ were harvestedการเก็บเกี่ยว when he diedเสียชีวิต
236
637000
3000
และมันกลายเป็นว่ากระดูกขมับของเขาถูกเอาไป
เมื่อเขาเสียชีวิต
10:55
to try to look at the causeสาเหตุ of his deafnessอาการหูหนวก,
237
640000
2000
เพื่อพยายามที่จะหาสาเหตุของอาการหูหนวกของเขา
10:57
whichที่ is why he has moldingการปั้น clayดินเหนียว
238
642000
2000
ซึ่งเป็นเหตุผลที่เขามีดินปั้น
10:59
and his skullกะโหลกศีรษะ is bulgingปูด out on the sideด้าน there.
239
644000
2000
และกะโหลกศีรษะของเขาโป่งออกมาที่ด้านนั้น
11:01
But Beethovenเบโธเฟน composedใจเย็น musicเพลง
240
646000
2000
แต่เบโธเฟนแต่งเพลง
11:03
long after he lostสูญหาย his hearingการได้ยิน.
241
648000
2000
เป็นเวลานานหลังจากที่เขาสูญเสียการได้ยินของเขา
11:05
What that suggestsแสดงให้เห็น is that, even in the caseกรณี of hearingการได้ยิน lossการสูญเสีย,
242
650000
3000
สิ่งที่แสดงให้เห็นก็คือว่า แม้ในกรณีที่สูญเสียการได้ยิน
11:08
the capacityความจุ for musicเพลง remainsซากศพ.
243
653000
2000
ความจำที่บรรจุเพลงยังคงเหลืออยู่
11:10
The brainsสมอง remainยังคง hardwiredเดินสาย for musicเพลง.
244
655000
4000
สมองยังคงมีเส้นทางเดินสำหรับเพลง
11:14
I've been very luckyโชคดี to work with Drดร. Davidเดวิด RyugoRyugo
245
659000
2000
ผมโชคดีมากที่ได้ทำงานกับ
ดร. เดวิด รีอุโก (Dr. David Ryugo)
11:16
where I've been workingการทำงาน on deafหูหนวก catsแมว that are whiteขาว
246
661000
3000
ที่ผมเคยทำงานเกี่ยวกับแมวหูหนวก สีขาว
11:19
and tryingพยายาม to figureรูป out what happensที่เกิดขึ้น when we give them cochlearประสาทหูเทียม implantsรากฟันเทียม.
247
664000
3000
และพยายามที่จะศึกษาว่าเกิดอะไรขึ้น
เมื่อเราให้พวกเขามีประสาทหูเทียม
11:22
This is a catแมว that's been trainedผ่านการฝึกอบรม to respondตอบสนอง to a trumpetแตรลำโพง for foodอาหาร.
248
667000
4000
นี้เป็นแมวที่ได้รับการฝึก
เพื่อตอบสนองต่อเสียงทรัมเป็ตสำหรับอาหาร
11:27
(Musicเพลง)
249
672000
12000
(เสียงดนตรี)
11:41
Textข้อความ: Beethovenเบโธเฟน doesn't exciteตื่นเต้น her.
250
686000
2000
ข้อความ: เบโธเฟนไม่ได้กระตุ้นมันให้สนใจ
11:44
(Musicเพลง)
251
689000
11000
(เสียงดนตรี)
11:56
The "1812 Overtureการทาบทาม" isn't worthคุ้มค่า wakingที่ทำให้ตื่น for.
252
701000
2000
"1812 Overture" ไม่สำคัญพอที่จะทำให้มันตื่น
12:01
(Trumpetแตรลำโพง)
253
706000
9000
(เสียงทรัมเป็ต)
12:11
But she jumpsกระโดด to actionการกระทำ when calledเรียกว่า to dutyหน้าที่!
254
716000
3000
แต่มันกระโดด และตอบสนองเมื่อมีการเรียกไปกินอาหาร
12:14
(Trumpetแตรลำโพง)
255
719000
4000
(เสียงทรัมเป็ต)
12:18
CLCL: Now I'm not suggestingบอกเป็นนัย ๆ
256
723000
2000
CL: ผมไม่ได้จะบอกว่า
12:20
that the catแมว is hearingการได้ยิน that trumpetแตรลำโพง the way we're hearingการได้ยิน it.
257
725000
3000
แมวจะได้ยินเสียงทรัมเป็ดเหมือนที่เราได้ยินมัน
12:23
I'm suggestingบอกเป็นนัย ๆ that with trainingการอบรม
258
728000
2000
แต่ผมจะบอกว่าด้วยการฝึก
12:25
you can imbueย้อมสี a musicalดนตรี soundเสียง with significanceความสำคัญ,
259
730000
3000
คุณสามารถซึมซับเสียงดนตรีอย่างมีนัยสำคัญ
12:28
even in a catแมว.
260
733000
2000
แม้แต่ในแมว
12:30
If we were to directโดยตรง effortsความพยายาม
261
735000
2000
ถ้าเราพยายาม
12:32
towardsไปทาง trainingการอบรม cochlearประสาทหูเทียม implantสอดใส่ usersผู้ใช้ to hearได้ยิน musicเพลง --
262
737000
3000
ฝึกผู้ใช้ประสาทหูเทียมให้ได้ยินเสียงดนตรีตรงๆ -
12:35
because right now there's virtuallyจวน no effortความพยายาม put towardsไปทาง that,
263
740000
3000
เพราะตอนนี้ยังไม่มีความพยายามใดๆ
ที่จะทำให้เป้าหมายนั้นเป็นจริงได้
12:38
no rehabilitativeฟื้นฟู strategiesกลยุทธ์,
264
743000
2000
ไม่มีกลยุทธ์การฟื้นฟู
12:40
very little in the way of technologicalเทคโนโลยี advancesความก้าวหน้า to actuallyแท้จริง improveปรับปรุง musicเพลง --
265
745000
3000
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
ที่จะพัฒนาการได้ยินเสียงดนตรีมีอยู่น้อยมาก
12:43
we would come a long way.
266
748000
2000
แม้ว่าเรามาได้ไกลแล้ว
12:45
Now I want to showแสดง you one last videoวีดีโอ.
267
750000
3000
ตอนนี้ผมต้องการแสดงวิดีโอล่าสุดคลิปหนึ่งให้คุณชม
12:48
And this is of a studentนักเรียน of mineเหมือง namedชื่อ Josephโจเซฟ
268
753000
2000
และนี่คือของนักเรียนของผมที่ชื่อโจเซฟ
12:50
who I had the good fortuneโชคลาภ to work with for threeสาม yearsปี in my labห้องปฏิบัติการ.
269
755000
3000
ผู้ซึ่งผมโชคดีที่มีโอกาสร่วมงานด้วย
เป็นเวลาสามปีในห้องทดลองของผม
12:53
He's deafหูหนวก, and he learnedได้เรียนรู้ to playเล่น the pianoเปียโน
270
758000
3000
เขาหูหนวกและเขาได้เรียนการเล่นเปียโน
12:56
after he receivedที่ได้รับ the cochlearประสาทหูเทียม implantสอดใส่.
271
761000
2000
หลังจากที่เขาได้รับประสาทหูเทียม
12:58
And here'sนี่คือ a videoวีดีโอ of Josephโจเซฟ.
272
763000
3000
และนี่คือวิดีโอของโจเซฟ
13:01
(Musicเพลง)
273
766000
14000
(เสียงดนตรี )
13:45
(Videoวีดีโอ) Josephโจเซฟ: I was bornโดยกำเนิด in 1986.
274
810000
3000
โจเซฟ: ผมเกิดในปี 1986
13:48
And at about fourสี่ monthsเดือน oldเก่า,
275
813000
2000
พออายุประมาณสี่เดือน
13:50
I was diagnosedการวินิจฉัย with profoundlyอย่างสุดซึ้ง severeรุนแรง hearingการได้ยิน lossการสูญเสีย.
276
815000
2000
หมอก็วินิจฉัยว่า ผมสูญเสียการได้ยินอย่างรุนแรง
13:52
Not long after,
277
817000
2000
ไม่นานหลังจากนั้น
13:54
I was fittedติดตั้ง with hearingการได้ยิน aidsเอดส์.
278
819000
2000
ผมก็ติดเครื่องช่วยฟัง
13:56
But althoughแม้ว่า these hearingการได้ยิน aidsเอดส์
279
821000
2000
แต่ถึงแม้ว่าเครื่องช่วยฟังเหล่านี้
13:58
were the mostมากที่สุด powerfulมีอำนาจ hearingการได้ยิน aidsเอดส์ on the marketตลาด at the time,
280
823000
2000
มีประสิทธิภาพมากที่สุดในท้องตลาด ณ เวลานั้น
14:00
they weren'tเขาไม่ได้ very helpfulเป็นประโยชน์.
281
825000
2000
แต่พวกมันก็ช่วยผมได้ไม่มากนัก
14:02
So as a resultผล, I had to relyวางใจ on lipฝีปาก readingการอ่าน a lot,
282
827000
5000
ด้วยเหตุนี้ ผมจึงต้องพึ่งการอ่านริมฝีปากมาก
14:07
and I couldn'tไม่สามารถ really hearได้ยิน what people were sayingคำพูด.
283
832000
2000
และผมก็ไม่สามารถได้ยินสิ่งที่คนพูดจริงๆ
14:09
When I was 12 yearsปี oldเก่า,
284
834000
2000
เมื่อตอนที่ผมอายุ 12 ปี
14:11
I was one of the first fewน้อย people in Singaporeสิงคโปร์
285
836000
3000
ผมเป็นหนึ่งในไม่กี่คนแรกของสิงคโปร์
14:14
who underwentขนาน cochlearประสาทหูเทียม implantationการฝัง.
286
839000
3000
ที่เข้ารับการปลูกถ่ายประสาทหูเทียม
14:17
And not long after I got my cochlearประสาทหูเทียม implantสอดใส่,
287
842000
4000
และไม่นานหลังจากที่ผมได้ประสาทหูเทียม
14:21
I startedเริ่มต้น learningการเรียนรู้ how to playเล่น pianoเปียโน.
288
846000
2000
ผมก็เริ่มเรียนรู้วิธีการเล่นเปียโน
14:23
And it was absolutelyอย่างแน่นอน wonderfulยอดเยี่ยม.
289
848000
2000
มันน่าอัศจรรย์มาก
14:25
Sinceตั้งแต่ then, I've never lookedมอง back.
290
850000
2000
ตั้งแต่นั้นมาผมก็ลืมเครื่องช่วยฟังไปเลย
14:27
CLCL: Josephโจเซฟ is phenomenalมหัศจรรย์. He's brilliantสุกใส.
291
852000
2000
ชาร์ลีส์: โจเซฟเป็นเด็กที่พิเศษมาก เขาเป็นเด็กฉลาด
14:29
He is now a medicalทางการแพทย์ studentนักเรียน at Yaleเยล Universityมหาวิทยาลัย,
292
854000
2000
ตอนนี้เขาเป็นนักเรียนแพทย์ที่มหาวิทยาลัยเยล
14:31
and he's contemplatingใคร่ครวญ a surgicalการผ่าตัด careerอาชีพ --
293
856000
2000
และเขาวางแผนจะเป็นศัลยแพทย์ -
14:33
one of the first deafหูหนวก individualsบุคคล to considerพิจารณา a careerอาชีพ in surgeryศัลยกรรม.
294
858000
3000
ซึ่งจะเป็นคนหูหนวกคนแรกที่ต้องการจะเป็นหมอผ่าตัด
14:36
There are almostเกือบจะ no deafหูหนวก surgeonsศัลยแพทย์ anywhereทุกแห่ง.
295
861000
3000
ซึ่งเกือบไม่มีศัลยแพทย์หูหนวกที่ใดเลย
14:39
And this is really unheardไม่เคยได้ยิน of stuffสิ่ง, and this is all because of this technologyเทคโนโลยี.
296
864000
3000
และนี่คือสิ่งที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้เพราะเทคโนโลยีนี้
14:42
And the factความจริง that he can playเล่น the pianoเปียโน like that
297
867000
2000
และการที่เขาสามารถเล่นเปียโนอย่างนั้นได้
14:44
is a testamentพินัยกรรม to his brainสมอง.
298
869000
2000
ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงสมองของเขา
14:46
Truthความจริง of the matterเรื่อง is you can playเล่น the pianoเปียโน withoutไม่มี a cochlearประสาทหูเทียม implantสอดใส่,
299
871000
3000
ความจริงคือคุณสามารถเล่นเปียโนได้โดย
ไม่ต้องฝังประสาทหูเทียม
14:49
because all you have to do is pressกด the keysกุญแจ at the right time.
300
874000
2000
เพราะสิ่งที่คุณต้องทำทั้งหมดก็คือ
การกดแป้นเปียโนให้ถูกจังหวะ
14:51
You don't actuallyแท้จริง have to hearได้ยิน it.
301
876000
2000
คุณไม่จำเป็นต้องได้ยินมันจริงๆ
14:53
I know he doesn't hearได้ยิน well, because I've heardได้ยิน him do Karaokeคาราโอเกะ.
302
878000
3000
ผมรู้ว่าเขาได้ยินเสียงไม่ดีนัก
เพราะผมเคยได้ยินเขาร้องคาราโอเกะ
14:56
(Laughterเสียงหัวเราะ)
303
881000
2000
(หัวเราะ)
14:58
And it's one of the mostมากที่สุด awfulน่ากลัว things --
304
883000
3000
และมันเป็นหนึ่งในสิ่งที่แย่ที่สุดอย่างหนึ่ง -
15:01
heartwarmingอบอุ่นใจ, but awfulน่ากลัว.
305
886000
2000
มันน่าพอใจ แต่ก็ยังแย่อยู่
15:03
(Laughterเสียงหัวเราะ)
306
888000
2000
(หัวเราะ)
15:05
And so there is certainlyอย่างแน่นอน a lot of hopeหวัง,
307
890000
2000
และมันก็ยังมีความหวังอยู่มาก
15:07
but there's a lot more that needsจำเป็น to be doneเสร็จแล้ว.
308
892000
2000
แต่ก็ยังมีอะไรต้องทำอีกเยอะเหมือนกัน
15:09
So I just want to concludeเอาเป็นว่า with the followingดังต่อไปนี้ wordsคำ.
309
894000
2000
ดังนั้นผมต้องการที่จะสรุปว่า
15:11
When it comesมา to restorationการบูรณะ of hearingการได้ยิน,
310
896000
2000
เมื่อกล่าวถึงการฟื้นฟูการได้ยิน
15:13
we have certainlyอย่างแน่นอน come a long way, a remarkablyอย่างน่าทึ่ง long way.
311
898000
3000
เรามาได้ไกล และไกลอย่างมีนัยยะ
15:16
And we have a much longerอีกต่อไป way to go
312
901000
3000
แต่เราก็มีทางอีกไกลที่ต้องเดิน
15:19
when it comesมา to the ideaความคิด of restoringการเรียกคืน perfectสมบูรณ์ hearingการได้ยิน.
313
904000
2000
ไปยังจุดที่มีแนวคิดที่ต้องการจะฟื้นฟูการได้ยินที่สมบูรณ์แบบ
15:21
And let me tell you right now,
314
906000
2000
และให้ผมบอกคุณตอนนี้ได้เลยว่า
15:23
it's fine that we would all be very happyมีความสุข with speechการพูด.
315
908000
2000
มันดีแล้วที่เราทุกคนจะมีความสุขมากกับการได้ยินเสียงพูด
15:25
But I tell you, if we lostสูญหาย our hearingการได้ยิน,
316
910000
2000
ถ้าเราสูญเสียการได้ยินของเรา
15:27
if anyoneใคร ๆ here suddenlyทันใดนั้น lostสูญหาย your hearingการได้ยิน,
317
912000
2000
ถ้าใครซักคนในที่นี่สูญเสียการได้ยินของคุณอย่างกระทันหัน
15:29
you would want perfectสมบูรณ์ hearingการได้ยิน back.
318
914000
2000
คุณคงต้องการได้ยินที่สมบูรณ์แบบกลับมา
15:31
You wouldn'tจะไม่ want decentเหมาะสม hearingการได้ยิน, you would want perfectสมบูรณ์ hearingการได้ยิน.
319
916000
3000
คุณจะไม่ต้องการได้ยินแค่เสียง
แต่คุณคงต้องการการได้ยินที่สมบูรณ์แบบ
15:34
Restorationการบูรณะ of basicขั้นพื้นฐาน sensoryประสาทสัมผัส functionฟังก์ชัน is criticalวิกฤติ.
320
919000
3000
การฟื้นฟูการทำงานของระบบประสาทพื้นฐานเป็นสิ่งสำคัญ
15:37
And I don't mean to understateพูดน้อยไป
321
922000
2000
และผมไม่ได้อยากจะลดค่า
15:39
how importantสำคัญ it is to restoreฟื้นฟู basicขั้นพื้นฐาน functionฟังก์ชัน.
322
924000
2000
ความสำคัญของการฟื้นฟูการทำงานพื้นฐาน
15:41
But it's really restorationการบูรณะ of the abilityความสามารถ to perceiveเข้าใจ beautyความงาม
323
926000
3000
แต่การฟื้นฟูความสามารถ
ในการรับรู้ที่ทำให้เกิดความงดงามของประสาทสัมผัส
15:44
where we can get inspiringที่เร้าใจ.
324
929000
2000
จะทำให้เราเกิดแรงบันดาลใจ
15:46
And I don't think that we should give up on beautyความงาม.
325
931000
2000
และผมไม่คิดว่าเราควรจะยอมพ่ายแพ้ต่อการให้ได้มาซึ่งความงดงามนี้
15:48
And I want to thank you for your time.
326
933000
2000
ผมขอบคุณที่พวกคุณสละเวลาให้ครับ
15:50
(Applauseการปรบมือ)
327
935000
3000
(ปรบมือ)
Translated by Chana Chananukul
Reviewed by Montian Tianprateep

▲Back to top

ABOUT THE SPEAKER
Charles Limb - Researcher
Charles Limb is a doctor and a musician who researches the way musical creativity works in the brain.

Why you should listen

Charles Limb is the Francis A. Sooy, MD Professor and Chief of Otology/Neurotology and Skull Base Surgery at the University of California, San Francisco, and he's a Faculty Member at the Peabody Conservatory of Music. He combines his two passions to study the way the brain creates and perceives music. He's a hearing specialist and surgeon at Johns Hopkins who performs cochlear implantations on patients who have lost their hearing. And he plays sax, piano and bass.

In search of a better understanding of how the mind perceives complex auditory stimuli such as music, he's been working with Allen Braun to look at the brains of improvising musicians and study what parts of the brain are involved in the kind of deep creativity that happens when a musician is really in the groove.

Read our Q&A about hip-hop studies with Charles Limb on the TED Blog >>

Plus our quick catchup Q&A at TEDMED 2011 -- including his top 5 songs of all time >>

Read the 2014 paper "Neural Substrates of Interactive Musical Improvisation: An fMRI Study of ‘Trading Fours’ in Jazz" >>

More profile about the speaker
Charles Limb | Speaker | TED.com