ABOUT THE SPEAKER
Jonathan Haidt - Social psychologist
Jonathan Haidt studies how -- and why -- we evolved to be moral and political creatures.

Why you should listen

By understanding more about our moral psychology and its biases, Jonathan Haidt says we can design better institutions (including companies, universities and democracy itself), and we can learn to be more civil and open-minded toward those who are not on our team.

Haidt is a social psychologist whose research on morality across cultures led to his 2008 TED Talk on the psychological roots of the American culture war, and his 2013 TED Talk on how "common threats can make common ground." In both of those talks he asks, "Can't we all disagree more constructively?" Haidt's 2012 TED Talk explored the intersection of his work on morality with his work on happiness to talk about "hive psychology" -- the ability that humans have to lose themselves in groups pursuing larger projects, almost like bees in a hive. This hivish ability is crucial, he argues, for understanding the origins of morality, politics, and religion. These are ideas that Haidt develops at greater length in his book, The Righteous Mind: Why Good People are Divided by Politics and Religion.

Haidt joined New York University Stern School of Business in July 2011. He is the Thomas Cooley Professor of Ethical Leadership, based in the Business and Society Program. Before coming to Stern, Professor Haidt taught for 16 years at the University of Virginia in the department of psychology.

Haidt's writings appear frequently in the New York Times and The Wall Street Journal. He was named one of the top global thinkers by Foreign Policy magazine and by Prospect magazine. Haidt received a B.A. in Philosophy from Yale University, and an M.A. and Ph.D. in Psychology from the University of Pennsylvania.

More profile about the speaker
Jonathan Haidt | Speaker | TED.com
TED2012

Jonathan Haidt: Religion, evolution, and the ecstasy of self-transcendence

โจนาธาน ไฮด์ท์ (Jonathan Haidt): ศาสนา วิวัฒนาการ และความปีติแห่งการข้ามพ้นตัวตน

Filmed:
1,335,755 views

นักจิตวิทยา โจนาธาน ไฮด์ท์ ถามคำถามง่ายๆแต่ตอบยาก - ทำไมเราจึงค้นหาวิธีข้ามพ้นตัวตน เราอยากสูญเสียตัวตนเพื่ออะไร เขาเสนอคำตอบที่น่าครุ่นคิด ผ่านการพาเราทัวร์วิทยาศาสตร์วิวัฒนาการโดยการคัดเลือกของกลุ่ม
- Social psychologist
Jonathan Haidt studies how -- and why -- we evolved to be moral and political creatures. Full bio

Double-click the English transcript below to play the video.

00:15
I have a questionคำถาม for you:
0
0
3000
ผมมีคำถามหนึ่งครับ
00:18
Are you religiousเคร่งศาสนา?
1
3000
2000
คุณนับถือศาสนาหรือเปล่า
00:20
Please raiseยก your handมือ right now
2
5000
2000
ขอให้ยกมือตอนนี้เลยครับ
00:22
if you think of yourselfด้วยตัวคุณเอง as a religiousเคร่งศาสนา personคน.
3
7000
3000
ถ้าคุณคิดว่าตัวเองนับถือศาสนา
00:25
Let's see, I'd say about threeสาม or fourสี่ percentเปอร์เซ็นต์.
4
10000
3000
โอเค ผมว่ามีประมาณสามหรือสี่เปอร์เซ็นต์
00:28
I had no ideaความคิด there were so manyจำนวนมาก believersศรัทธา at a TEDTED Conferenceการประชุม.
5
13000
3000
ผมไม่รู้เลยนะว่ามีงาน TED มีผู้ศรัทธาศาสนาเยอะขนาดนี้
00:31
(Laughterเสียงหัวเราะ)
6
16000
2000
(เสียงหัวเราะ)
00:33
Okay, here'sนี่คือ anotherอื่น questionคำถาม:
7
18000
2000
โอเค ทีนี้อีกคำถามหนึ่งครับ
00:35
Do you think of yourselfด้วยตัวคุณเอง as spiritualมโนมัย
8
20000
2000
คุณคิดว่าตัวเองสนใจจิตวิญญาณ
00:37
in any way, shapeรูปร่าง or formฟอร์ม? Raiseยก your handมือ.
9
22000
2000
ไม่ว่าจะโดยรูปแบบหรือวิธีอะไรก็ตาม
ยกมือหน่อยครับ
00:39
Okay, that's the majorityส่วนใหญ่.
10
24000
3000
โอเค นั่นคือเสียงข้างมาก
00:42
My Talk todayในวันนี้
11
27000
2000
วันนี้ผมจะพูดถึง
00:44
is about the mainหลัก reasonเหตุผล, or one of the mainหลัก reasonsเหตุผล,
12
29000
2000
เหตุผลหลัก หรือหนึ่งในเหตุผลหลัก
00:46
why mostมากที่สุด people considerพิจารณา themselvesตัวเอง
13
31000
2000
ที่คนเราส่วนใหญ่คิดว่าตัวเอง
00:48
to be spiritualมโนมัย in some way, shapeรูปร่าง or formฟอร์ม.
14
33000
2000
สนใจเรื่องจิตวิญญาณ ไม่ว่าจะอยู่ในรูปไหน
00:50
My Talk todayในวันนี้ is about self-transcendenceตนเองมีชัย.
15
35000
3000
วันนี้ผมจะพูดถึงการข้ามพ้นตัวตน
00:53
It's just a basicขั้นพื้นฐาน factความจริง about beingกำลัง humanเป็นมนุษย์
16
38000
3000
มันแค่เป็นข้อเท็จจริงพื้นฐานของการเป็นมนุษย์
00:56
that sometimesบางครั้ง the selfตนเอง seemsดูเหมือนว่า to just meltละลาย away.
17
41000
3000
ที่ว่าบางทีตัวเราดูจะมลายหายไป
00:59
And when that happensที่เกิดขึ้น,
18
44000
2000
และเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
01:01
the feelingความรู้สึก is ecstaticซึ่งปีติยินดี
19
46000
3000
เราก็รู้สึกถึงความปีติ
01:04
and we reachมาถึง for metaphorsอุปมาอุปมัย of up and down
20
49000
2000
และเราก็ควานหาอุปมาอุปไมยทั่วทุกทิศ
01:06
to explainอธิบาย these feelingsความรู้สึก.
21
51000
2000
เพื่ออธิบายความรู้สึกนี้
01:08
We talk about beingกำลัง upliftedเพิ่มขึ้น
22
53000
2000
เราพูดว่า ใจเราสูงขึ้น
01:10
or elevatedสูง.
23
55000
2000
หรือลิงโลดใจ
01:12
Now it's really hardยาก to think about anything abstractนามธรรม like this
24
57000
3000
ทีนี้ ยากมากๆ ครับที่จะคิดเรื่องนามธรรมแบบนี้
01:15
withoutไม่มี a good concreteคอนกรีต metaphorคำอุปมา.
25
60000
2000
โดยไม่ใช้อุปมาที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม
01:17
So here'sนี่คือ the metaphorคำอุปมา I'm offeringการเสนอ todayในวันนี้.
26
62000
3000
ดังนั้นวันนี้ผมจะใช้อุปมาเรื่องหนึ่ง
01:20
Think about the mindใจ as beingกำลัง like a houseบ้าน with manyจำนวนมาก roomsห้องพัก,
27
65000
3000
ลองคิดถึงจิตใจของเรา
ว่าเปรียบเสมือนบ้านที่มีหลายห้อง
01:23
mostมากที่สุด of whichที่ we're very familiarคุ้นเคย with.
28
68000
3000
เราไม่คุ้นเคยเลยกับห้องส่วนใหญ่ในบ้าน
01:26
But sometimesบางครั้ง it's as thoughแม้ a doorwayทางเข้าประตู appearsปรากฏ
29
71000
3000
แต่บางทีมันก็เหมือนกับว่า อยู่ดีๆ ประตูก็โผล่ขึ้นมา
01:29
from out of nowhereไม่มีที่ไหนเลย
30
74000
2000
จากที่ไหนก็ไม่รู้
01:31
and it opensเปิด ontoไปยัง a staircaseบันได.
31
76000
3000
มันเปิดไปสู่บันได
01:34
We climbไต่ the staircaseบันได
32
79000
2000
เราปีนบันไดขึ้นไป
01:36
and experienceประสบการณ์ a stateสถานะ of alteredการเปลี่ยนแปลง consciousnessสติ.
33
81000
4000
แล้วก็เข้าสู่ภวังค์ที่ต่างจากการรู้ตัวปกติ
01:40
In 1902,
34
85000
2000
ในปี 1902
01:42
the great Americanอเมริกัน psychologistนักจิตวิทยา Williamวิลเลียม Jamesเจมส์
35
87000
2000
วิลเลียม เจมส์ นักจิตวิทยาชาวอเมริกันผู้ยิ่งใหญ่
01:44
wroteเขียน about the manyจำนวนมาก varietiesพันธุ์ of religiousเคร่งศาสนา experienceประสบการณ์.
36
89000
3000
เขียนถึงประสบการณ์ทางศาสนา
ว่ามีมากมายหลายรูปแบบ
01:47
He collectedเก็บรวบรวม all kindsชนิด of caseกรณี studiesการศึกษา.
37
92000
2000
เขาสะสมกรณีศึกษาทุกประเภท
01:49
He quotedที่ยกมา the wordsคำ of all kindsชนิด of people
38
94000
2000
อ้างอิงปากคำของคนหลายแบบ
01:51
who'dที่ต้องการ had a varietyความหลากหลาย of these experiencesประสบการณ์.
39
96000
2000
ที่มีประสบการณ์แตกต่างกัน
01:53
One of the mostมากที่สุด excitingน่าตื่นเต้น to me
40
98000
2000
คนคนหนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นที่สุด
01:55
is this youngหนุ่มสาว man, Stephenสตีเฟ่น Bradleyแบรดลีย์,
41
100000
2000
คือชายหนุ่มคนนี้ เขาชื่อ สตีเฟน แบรดลีย์
01:57
had an encounterพบ, he thought, with Jesusพระเยซู in 1820.
42
102000
3000
ซึ่งคิดว่าเขาได้พบเจอพระเยซูในปี 1820
02:00
And here'sนี่คือ what Bradleyแบรดลีย์ said about it.
43
105000
3000
แบรดลีย์เล่าถึงประสบการณ์ว่าอย่างนี้ครับ
02:06
(Musicเพลง)
44
111000
2000
(เสียงดนตรี)
02:09
(Videoวีดีโอ) Stephenสตีเฟ่น Bradleyแบรดลีย์: I thought I saw the saviorผู้กอบกู้ in humanเป็นมนุษย์ shapeรูปร่าง
45
114000
3000
(คลิปวีดีโอ) สตีเฟน แบรดลีย์: ผมคิดว่ามองเห็นพระเยซู
02:12
for about one secondที่สอง in the roomห้อง,
46
117000
2000
ปรากฏกายประมาณหนึ่งวินาทีในห้อง
02:14
with armsอาวุธ extendedขยาย,
47
119000
2000
ท่านยื่นแขนสองข้าง
02:16
appearingปรากฏ to say to me, "Come."
48
121000
3000
ดูเหมือนจะบอกผมว่า "มาสิ"
02:19
The nextต่อไป day I rejoicedเปรมปรีดิ์ with tremblingการสั่นสะเทือน.
49
124000
3000
วันต่อมาผมปลื้มปีติจนตัวสั่น
02:22
My happinessความสุข was so great that I said I wanted to dieตาย.
50
127000
3000
ปรีดาปราโมทย์เสียจนเอ่ยว่าผมอยากตาย
02:25
This worldโลก had no placeสถานที่ in my affectionsความรัก.
51
130000
3000
โลกนี้ไม่มีที่ทางอีกแล้วในเสน่หาของผม
02:28
Previousก่อน to this time,
52
133000
2000
ก่อนหน้านี้
02:30
I was very selfishเห็นแก่ตัว and self-righteousอหังการ.
53
135000
2000
ผมเป็นคนเห็นแก่ตัวและเต็มไปด้วยทิฐิมานะ
02:32
But now I desiredต้องการ the welfareสวัสดิการ of all mankindมนุษยชาติ
54
137000
3000
แต่ตอนนี้ผมอยากให้มนุษยชาติมีสวัสดิภาพ
02:35
and could, with a feelingความรู้สึก heartหัวใจ,
55
140000
2000
และรู้สึกถึงก้นบึ้งของจิตใจว่า
02:37
forgiveยกโทษให้ my worstแย่ที่สุด enemiesศัตรู.
56
142000
3000
ให้อภัยศัตรูตัวร้ายที่สุดของผมได้
02:41
JHJH: So noteบันทึก
57
146000
2000
โจนาธาน ไฮด์ท์: ดังนั้นสังเกตนะครับว่า
02:43
how Bradley'sแบรดลีย์ pettyจิ๊บจ๊อย, moralisticที่สอนศีลธรรม selfตนเอง
58
148000
2000
ตัวตนที่คิดเล็กคิดน้อย ยึดมั่นในศีลธรรมของแบรดลีย์
02:45
just diesตาย on the way up the staircaseบันได.
59
150000
2000
ตายจากไประหว่างปีนบันไดทางจิตวิญญาณ
02:47
And on this higherสูงกว่า levelชั้น
60
152000
2000
และในระดับที่สูงกว่านี้
02:49
he becomesกลายเป็น lovingด้วยความรัก and forgivingยกโทษให้.
61
154000
3000
เขากลายเป็นคนเปี่ยมความรักและให้อภัย
02:53
The world'sโลก manyจำนวนมาก religionsศาสนา have foundพบ so manyจำนวนมาก waysวิธี
62
158000
2000
ศาสนาต่างๆ ในโลกนี้ได้ค้นพบวิธีมากมาย
02:55
to help people climbไต่ the staircaseบันได.
63
160000
2000
ที่จะช่วยให้ผู้คนปีนบันได
02:57
Some shutปิด down the selfตนเอง usingการใช้ meditationการทำสมาธิ.
64
162000
2000
บางคนระงับอัตตาด้วยการนั่งสมาธิ
02:59
Othersคนอื่น ๆ use psychedelicซึ่งทำให้เคลิบเคลิ้ม drugsยาเสพติด.
65
164000
2000
บางคนใช้ยาหลอนประสาท
03:01
This is from a 16thTH centuryศตวรรษ Aztecแอซเท็ก scrollเลื่อน
66
166000
4000
ภาพนี้มาจากม้วนหนังแอซเทค
สมัยศตวรรษที่ 16
03:05
showingการแสดง a man about to eatกิน a psilocybinแอลเอส mushroomเห็ด
67
170000
3000
แสดงภาพชายผู้หนึ่งกำลังจะกินเห็ดขี้ควาย
03:08
and at the sameเหมือนกัน momentขณะ get yankedกระชาก up the staircaseบันได by a god.
68
173000
4000
ขณะเดียวกันเขาถูกพระเจ้ากระชากขึ้นบันได
03:12
Othersคนอื่น ๆ use dancingการเต้นรำ, spinningการปั่นด้าย and circlingการเดินทางรอบ
69
177000
2000
คนอื่นใช้วิธีเต้นระบำ หมุนตัวและเดินจงกรม
03:14
to promoteส่งเสริม self-transcendenceตนเองมีชัย.
70
179000
2000
เพื่อหนุนเสริมการก้าวข้ามตัวตน
03:16
But you don't need a religionศาสนา to get you throughตลอด the staircaseบันได.
71
181000
3000
แต่คุณไม่ต้องอาศัยศาสนาก็ปีนบันไดได้
03:19
Lots of people find self-transcendenceตนเองมีชัย in natureธรรมชาติ.
72
184000
3000
หลายคนค้นพบการก้าวข้ามตัวตนในธรรมชาติ
03:22
Othersคนอื่น ๆ overcomeเอาชนะ theirของพวกเขา selfตนเอง at ravesหลงใหล.
73
187000
3000
คนอื่นก้าวข้ามตัวตนในงานปาร์ตี้สุดเหวี่ยง
03:25
But here'sนี่คือ the weirdestแปลกประหลาด placeสถานที่ of all:
74
190000
3000
แต่ที่ที่ประหลาดที่สุดคือที่นี่ครับ --
03:28
warสงคราม.
75
193000
2000
สงคราม
03:30
So manyจำนวนมาก booksหนังสือ about warสงคราม say the sameเหมือนกัน thing,
76
195000
2000
หนังสือสงครามหลายเล่มพูดเรื่องเดียวกันเลย
03:32
that nothing bringsนำ people togetherด้วยกัน
77
197000
2000
บอกว่าไม่มีอะไรที่ทำให้คนมาร่วมแรงร่วมใจกัน
03:34
like warสงคราม.
78
199000
2000
ได้ทัดเทียมสงคราม
03:36
And that bringingการนำ them togetherด้วยกัน opensเปิด up the possibilityความเป็นไปได้
79
201000
3000
และการนำพวกเขามารวมกันก็เปิดโอกาส
03:39
of extraordinaryวิสามัญ self-transcendentตัวเองพ้น experiencesประสบการณ์.
80
204000
3000
ให้คนมีประสบการณ์ก้าวข้ามตัวตนชนิดวิเศษ
03:42
I'm going to playเล่น for you an excerptสิ่งที่สกัดมา
81
207000
2000
ผมจะเปิดให้คุณฟังเนื้อหาบางส่วน
03:44
from this bookหนังสือ by Glennเกล็น Grayสีเทา.
82
209000
2000
จากหนังสือเล่มหนึ่งโดย เกล็น เกรย์
03:46
Grayสีเทา was a soldierทหาร in the Americanอเมริกัน armyกองทัพบก in Worldโลก Warสงคราม IIครั้งที่สอง.
83
211000
3000
เกรย์เป็นทหารในกองทัพอเมริกัน
ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
03:49
And after the warสงคราม he interviewedสัมภาษณ์ a lot of other soldiersทหาร
84
214000
3000
หลังสงครามสิ้นสุดลง
เขาไปสัมภาษณ์ทหารอื่นจำนวนมาก
03:52
and wroteเขียน about the experienceประสบการณ์ of menผู้ชาย in battleการต่อสู้.
85
217000
2000
เขียนถึงประสบการณ์ของคนที่ผ่านสนามรบ
03:54
Here'sต่อไปนี้คือ a keyสำคัญ passageทางเดิน
86
219000
2000
ย่อหน้าหลักว่าอย่างนี้ครับ
03:56
where he basicallyเป็นพื้น describesอธิบาย the staircaseบันได.
87
221000
3000
เขาอธิบายบันไดไว้อย่างนี้
04:01
(Videoวีดีโอ) Glennเกล็น Grayสีเทา: Manyจำนวนมาก veteransทหารผ่านศึก will admitยอมรับ
88
226000
2000
(คลิปวีดีโอ) เกล็น เกรย์: ทหารผ่านศึกหลายคนจะยอมรับ
04:03
that the experienceประสบการณ์ of communalชุมชน effortความพยายาม in battleการต่อสู้
89
228000
3000
ว่าประสบการณ์การออกแรงร่วมกันในสนามรบ
04:06
has been the highสูง pointจุด of theirของพวกเขา livesชีวิต.
90
231000
3000
คือจุดสุดยอดในชีวิตของพวกเขา
04:09
"I" passesผ่าน insensiblyinsensibly into a "we,"
91
234000
3000
"ผม" แปรเปลี่ยนเป็น "เรา" โดยไม่รู้สึกตัว
04:12
"my" becomesกลายเป็น "our"
92
237000
2000
"ของผม" กลายเป็น "ของเรา"
04:14
and individualรายบุคคล faithความเชื่อ
93
239000
2000
และศรัทธาของปัจเจก
04:16
losesสูญเสีย its centralศูนย์กลาง importanceความสำคัญ.
94
241000
3000
ก็สูญเสียความสำคัญหลักไป
04:19
I believe that it is nothing lessน้อยกว่า
95
244000
2000
ผมเชื่อว่านี่ไม่ใช่อะไรด้อยไปกว่า
04:21
than the assuranceความมั่นใจ of immortalityความอมตะ
96
246000
3000
คำมั่นสัญญาแห่งความเป็นนิรันดร์
04:24
that makesยี่ห้อ self-sacrificeการเสียสละ at these momentsช่วงเวลา
97
249000
3000
ซึ่งทำให้การเสียสละตัวตนในเวลาแบบนี้
04:27
so relativelyสัมพัทธ์ easyง่าย.
98
252000
3000
ง่ายดายเหลือเกิน
04:30
I mayอาจ fallตก, but I do not dieตาย,
99
255000
3000
ผมอาจล้มลง แต่ผมไม่ตาย
04:33
for that whichที่ is realจริง in me goesไป forwardข้างหน้า
100
258000
3000
เพราะสิ่งที่เป็นจริงในตัวผมแล่นต่อไปข้างหน้า
04:36
and livesชีวิต on in the comradesสหาย
101
261000
2000
ดำรงอยู่ต่อไปในสหาย
04:38
for whomใคร I gaveให้ up my life.
102
263000
2000
ที่ผมอุทิศชีวิตให้
04:42
JHJH: So what all of these casesกรณี have in commonร่วมกัน
103
267000
3000
โจนาธาน ไฮด์ท์: ฉะนั้นจุดร่วมของกรณีเหล่านี้
04:45
is that the selfตนเอง seemsดูเหมือนว่า to thinผอม out, or meltละลาย away,
104
270000
3000
คือดูเหมือนอัตตาจะเบาบางลง หรือมลายหายไป
04:48
and it feelsรู้สึก good, it feelsรู้สึก really good,
105
273000
2000
และมันก็ทำให้เรารู้สึกดี รู้สึกดีมากจริงๆ
04:50
in a way totallyโดยสิ้นเชิง unlikeแตกต่าง anything we feel in our normalปกติ livesชีวิต.
106
275000
3000
ในทางที่แตกต่างจากความรู้สึกอื่นๆ
ในชีวิตปกติของเราอย่างสิ้นเชิง
04:53
It feelsรู้สึก somehowอย่างใด upliftingสูง.
107
278000
3000
รู้สึกตัวเบาเหมือนลอยสู่ฟ้า
04:56
This ideaความคิด that we moveย้าย up was centralศูนย์กลาง in the writingการเขียน
108
281000
3000
ความคิดที่ว่าเราเคลื่อนตัวสูงขึ้นนั้น
เป็นหัวใจในข้อเขียน
04:59
of the great Frenchฝรั่งเศส sociologistนักสังคมวิทยา Emileเอมิ DurkheimDurkheim.
109
284000
3000
ของ เอมิล เดิร์กไฮม์ นักสังคมวิทยาผู้ยิ่งใหญ่
05:02
DurkheimDurkheim even calledเรียกว่า us Homoตุ๊ด duplexคู่,
110
287000
2000
เดิร์กไฮม์เรียกเราว่า "โฮโม ดูเพล็กซ์" ด้วยซ้ำ
05:04
or two-levelสองระดับ man.
111
289000
2000
แปลว่ามนุษย์สองระดับ
05:06
The lowerลดลง levelชั้น he calledเรียกว่า the levelชั้น of the profaneดูหมิ่น.
112
291000
3000
เขาเรียกระดับล่างว่า ระดับโลกียะ (profane)
05:09
Now profaneดูหมิ่น is the oppositeตรงข้าม of sacredศักดิ์สิทธิ์.
113
294000
3000
โลกียะคือขั้วตรงข้ามของศักดิ์สิทธิ์ (sacred)
05:12
It just meansวิธี ordinaryสามัญ or commonร่วมกัน.
114
297000
2000
แปลว่าปกติหรือธรรมดา
05:14
And in our ordinaryสามัญ livesชีวิต we existมีอยู่ as individualsบุคคล.
115
299000
3000
และในชีวิตธรรมดาของเรา
เราก็ดำรงอยู่ในฐานะปัจเจก
05:17
We want to satisfyพอใจ our individualรายบุคคล desiresความปรารถนา.
116
302000
3000
เราอยากตอบสนองต่อความต้องการส่วนตัว
05:20
We pursueไล่ตาม our individualรายบุคคล goalsเป้าหมาย.
117
305000
2000
พยายามบรรลุเป้าหมายส่วนตัว
05:22
But sometimesบางครั้ง something happensที่เกิดขึ้น
118
307000
2000
แต่บางครั้งก็เกิดเหตุไม่ปกติ
05:24
that triggersทริกเกอร์ a phaseระยะ changeเปลี่ยนแปลง.
119
309000
2000
ที่จุดชนวนให้เราเปลี่ยนแปลง
05:26
Individualsบุคคล uniteรวมกัน
120
311000
2000
ปัจเจกชนมารวมตัวกัน
05:28
into a teamทีม, a movementการเคลื่อนไหว or a nationประเทศชาติ,
121
313000
3000
เป็นทีม ขบวนการ หรือชาติ
05:31
whichที่ is farห่างไกล more than the sumรวม of its partsชิ้นส่วน.
122
316000
3000
ซึ่งเป็นมากกว่าผลรวมขององค์ประกอบมาก
05:34
DurkheimDurkheim calledเรียกว่า this levelชั้น the levelชั้น of the sacredศักดิ์สิทธิ์
123
319000
3000
เดิร์กไฮม์เรียกระดับนี้ว่า ระดับศักดิ์สิทธิ์
05:37
because he believedเชื่อว่า that the functionฟังก์ชัน of religionศาสนา
124
322000
2000
เพราะเขาเชื่อว่าฟังก์ชั่นของศาสนา
05:39
was to uniteรวมกัน people into a groupกลุ่ม,
125
324000
2000
คือการทำให้คนมารวมตัวกันเป็นกลุ่ม
05:41
into a moralคุณธรรม communityชุมชน.
126
326000
3000
เป็นชุมชนศีลธรรม
05:44
DurkheimDurkheim believedเชื่อว่า that anything that unitesUnites us
127
329000
3000
เดิร์กไฮม์เชื่อว่าอะไรก็ตามที่ทำให้เราสามัคคีกัน
05:47
takes on an airอากาศ of sacrednessความเป็นที่สักการะ.
128
332000
2000
ล้วนมีกลิ่นอายของความศักดิ์สิทธิ์
05:49
And onceครั้งหนึ่ง people circleวงกลม around
129
334000
2000
และเมื่อผู้คนมาล้อมวง
05:51
some sacredศักดิ์สิทธิ์ objectวัตถุ or valueความคุ้มค่า,
130
336000
2000
รอบวัตถุหรือคุณค่าศักดิ์สิทธิ์
05:53
they'llพวกเขาจะ then work as a teamทีม and fightสู้ to defendแก้ต่าง it.
131
338000
3000
พวกเขาจะทำงานเป็นทีม และต่อสู้เพื่อปกป้องมัน
05:56
DurkheimDurkheim wroteเขียน
132
341000
2000
เดิร์กไฮม์เขียนถึง
05:58
about a setชุด of intenseเข้มข้น collectiveโดยรวม emotionsอารมณ์
133
343000
2000
อารมณ์ร่วมชุดหนึ่งที่เข้มข้นมาก
06:00
that accomplishทำให้สำเร็จ this miracleปาฏิหาริย์ of E pluribusพลุ unumUnum,
134
345000
3000
ซึ่งก่อให้เกิดปาฏิหาริย์แห่ง "จากหลากหลายกลายเป็นหนึ่ง"
06:03
of makingการทำ a groupกลุ่ม out of individualsบุคคล.
135
348000
2000
ทำให้ปัจเจกมารวมกันเป็นกลุ่มก้อน
06:05
Think of the collectiveโดยรวม joyความปิติยินดี in Britainสหราชอาณาจักร
136
350000
3000
ลองนึกถึงอารมณ์เบิกบานรวมหมู่
ในสหราชอาณาจักร
06:08
on the day Worldโลก Warสงคราม IIครั้งที่สอง endedสิ้นสุดวันที่.
137
353000
3000
ในวันที่สงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง
06:11
Think of the collectiveโดยรวม angerความโกรธ in TahrirTahrir Squareสี่เหลี่ยม,
138
356000
3000
นึกถึงความโกรธแค้นร่วมในจัตุรัสตาฮีร์
06:14
whichที่ broughtนำ down a dictatorเผด็จการ.
139
359000
3000
ที่โค่นเผด็จการลงได้
06:17
And think of the collectiveโดยรวม griefความเศร้าโศก
140
362000
2000
และนึกถึงความโศกเศร้ารวมหมู่
06:19
in the Unitedปึกแผ่น Statesสหรัฐอเมริกา
141
364000
2000
ในสหรัฐอเมริกา
06:21
that we all feltรู้สึกว่า, that broughtนำ us all togetherด้วยกัน,
142
366000
3000
ที่เราทุกคนรู้สึก และทำให้เราทุกคนสามัคคีกัน
06:24
after 9/11.
143
369000
3000
หลัง 9/11
06:27
So let me summarizeสรุป where we are.
144
372000
3000
ทีนี้ ผมจะสรุปว่าเราอยู่ตรงไหน
06:30
I'm sayingคำพูด that the capacityความจุ for self-transcendenceตนเองมีชัย
145
375000
2000
ผมกำลังบอกว่า ศักยภาพที่จะข้ามพ้นตัวตนนี้
06:32
is just a basicขั้นพื้นฐาน partส่วนหนึ่ง of beingกำลัง humanเป็นมนุษย์.
146
377000
3000
เป็นเพียงลักษณะพื้นฐานของการเป็นมนุษย์
06:35
I'm offeringการเสนอ the metaphorคำอุปมา
147
380000
2000
ผมอยากยกอุปมาเรื่อง
06:37
of a staircaseบันได in the mindใจ.
148
382000
2000
บันไดวนในจิตของเรา
06:39
I'm sayingคำพูด we are Homoตุ๊ด duplexคู่
149
384000
2000
ผมกำลังบอกว่า เราคือ โฮโม ดูเพล็กซ์
06:41
and this staircaseบันได takes us up from the profaneดูหมิ่น levelชั้น
150
386000
3000
และบันไดวนอันนี้ก็พาเราขึ้นจากระดับโลกียะ
06:44
to the levelชั้น of the sacredศักดิ์สิทธิ์.
151
389000
2000
ไปสู่ระดับศักดิ์สิทธิ์
06:46
When we climbไต่ that staircaseบันได,
152
391000
2000
เมื่อเราปีนบันไดอันนี้
06:48
self-interestประโยชน์ของตนเอง fadesจางหายไป away,
153
393000
2000
ความเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนก็มลายหายไป
06:50
we becomeกลายเป็น just much lessน้อยกว่า self-interestedตัวเองสนใจ,
154
395000
2000
เราเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนน้อยลงมาก
06:52
and we feel as thoughแม้ we are better, noblerสูงส่ง
155
397000
2000
และรู้สึกเสมือนว่าเราดีกว่าเก่า มีคุณธรรมกว่าเก่า
06:54
and somehowอย่างใด upliftedเพิ่มขึ้น.
156
399000
3000
ใจสูงกว่าเดิม
06:57
So here'sนี่คือ the million-dollarล้านดอลลาร์ questionคำถาม
157
402000
3000
ฉะนั้น คำถามมูลค่าล้านเหรียญ
07:00
for socialสังคม scientistsนักวิทยาศาสตร์ like me:
158
405000
2000
สำหรับนักวิทยาศาสตร์สังคมอย่างผมคือ
07:02
Is the staircaseบันได
159
407000
2000
บันไดวนที่ว่านี้
07:04
a featureลักษณะ of our evolutionaryวิวัฒนาการ designออกแบบ?
160
409000
3000
เป็นส่วนหนึ่งในวิวัฒนาการของมนุษย์หรือไม่?
07:07
Is it a productสินค้า of naturalโดยธรรมชาติ selectionการเลือก,
161
412000
3000
มันเป็นผลผลิตของกระบวนการคัดเลือกโดยธรรมชาติ
07:10
like our handsมือ?
162
415000
2000
เหมือนกับที่มือของเราวิวัฒน์มา
07:12
Or is it a bugแมลง, a mistakeผิดพลาด in the systemระบบ --
163
417000
3000
หรือว่ามันเป็นบั๊ก เป็นข้อผิดพลาดในระบบ --
07:15
this religiousเคร่งศาสนา stuffสิ่ง is just something
164
420000
2000
เรื่องศาสนาทั้งหมดนี่เป็นแค่อะไรสักอย่าง
07:17
that happensที่เกิดขึ้น when the wiresสายไฟ crossข้าม in the brainสมอง --
165
422000
3000
ที่เกิดเมื่อเส้นประสาทสมองบังเอิญแล่นทับกัน --
07:20
Jillจิลล์ has a strokeลากเส้น and she has this religiousเคร่งศาสนา experienceประสบการณ์,
166
425000
2000
เส้นเลือดในสมองของจิลอุตตันกะทันหัน
แล้วเธอก็มีประสบการณ์ทางศาสนา
07:22
it's just a mistakeผิดพลาด?
167
427000
2000
มันเป็นแค่ข้อผิดพลาดหรือเปล่า?
07:24
Well manyจำนวนมาก scientistsนักวิทยาศาสตร์ who studyศึกษา religionศาสนา take this viewดู.
168
429000
4000
นักวิทยาศาสตร์หลายคนที่ศึกษาศาสนาเชื่อเช่นนั้น
07:28
The Newใหม่ Atheistsพระเจ้า, for exampleตัวอย่าง,
169
433000
2000
ยกตัวอย่างเช่น ลัทธิใหม่ของผู้ไม่เชื่อว่าพระเจ้ามีจริง
(New Atheists)
07:30
argueเถียง that religionศาสนา is a setชุด of memesมส์,
170
435000
2000
เถียงว่าศาสนาคือชุดอนุสรณ์ (มีม, meme)
07:32
sortประเภท of parasiticเหมือนกาฝาก memesมส์,
171
437000
2000
เป็นมีมแบบพยาธิ
07:34
that get insideภายใน our mindsจิตใจ
172
439000
2000
ที่คืบคลานบุกรุกเข้าไปในจิตของเรา
07:36
and make us do all kindsชนิด of crazyบ้า religiousเคร่งศาสนา stuffสิ่ง,
173
441000
3000
ทำให้เราทำอะไรเพี้ยนๆ ทางศาสนาทุกรูปแบบ
07:39
self-destructiveทำลายตนเอง stuffสิ่ง, like suicideการฆ่าตัวตาย bombingระเบิด.
174
444000
2000
เรื่องที่ทำลายล้างตัวเอง อย่างเช่นระเบิดพลีชีพ
07:41
And after all,
175
446000
2000
เพราะจะว่าไป
07:43
how could it ever be good for us
176
448000
2000
มันจะดีต่อเราได้อย่างไร
07:45
to loseสูญเสีย ourselvesตัวเรา?
177
450000
2000
ไอ้การสูญเสียตัวตนนี่?
07:47
How could it ever be adaptiveปรับได้
178
452000
2000
มันจะเป็นการปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมได้อย่างไร
07:49
for any organismสิ่งมีชีวิต
179
454000
2000
ถ้าให้สิ่งมีชีวิตใดก็ตาม
07:51
to overcomeเอาชนะ self-interestประโยชน์ของตนเอง?
180
456000
3000
ข้ามพ้นประโยชน์ส่วนตัว?
07:54
Well let me showแสดง you.
181
459000
2000
โอเค ผมจะแสดงให้ดูครับ
07:56
In "The Descentโคตร of Man,"
182
461000
2000
ในหนังสือเรื่อง "การลงมาของมนุษย์"
07:58
Charlesชาร์ลส์ Darwinดาร์วิน wroteเขียน a great dealจัดการ
183
463000
2000
ชาร์ลส์ ดาร์วิน เขียนไว้มากมาย
08:00
about the evolutionวิวัฒนาการ of moralityศีลธรรม --
184
465000
2000
ถึงวิวัฒนาการของศีลธรรม --
08:02
where did it come from, why do we have it.
185
467000
3000
มันมาจากไหน ทำไมเราถึงมี
08:05
Darwinดาร์วิน notedข้อสังเกต that manyจำนวนมาก of our virtuesคุณธรรม
186
470000
2000
ดาร์วินตั้งข้อสังเกตว่า คุณธรรมของเราหลายข้อ
08:07
are of very little use to ourselvesตัวเรา,
187
472000
2000
มีประโยชน์น้อยมากต่อตัวเราเอง
08:09
but they're of great use to our groupsกลุ่ม.
188
474000
2000
แต่มีประโยชน์มหาศาลต่อกลุ่มของเรา
08:11
He wroteเขียน about the scenarioสถานการณ์
189
476000
2000
เขาเขียนถึงกรณีที่
08:13
in whichที่ two tribesชนเผ่า of earlyตอนต้น humansมนุษย์
190
478000
2000
มนุษย์ดึกดำบรรพ์สองเผ่า
08:15
would have come in contactติดต่อ and competitionการแข่งขัน.
191
480000
2000
มาพบปะและแข่งขันกัน
08:17
He said, "If the one tribeเผ่า includedที่รวมอยู่
192
482000
3000
ดาร์วินบอกว่า "ถ้าหากเผ่าหนึ่งมี
08:20
a great numberจำนวน of courageousกล้าหาญ, sympatheticสงสาร
193
485000
2000
สมาชิกจำนวนมากที่กล้าหาญ เห็นอกเห็นใจผู้อื่น
08:22
and faithfulซื่อสัตย์ membersสมาชิก
194
487000
2000
และซื่อสัตย์ต่อเผ่า
08:24
who are always readyพร้อมแล้ว to aidช่วยเหลือ and defendแก้ต่าง eachแต่ละ other,
195
489000
2000
คนที่พร้อมช่วยเหลือและปกป้องสมาชิกอื่นตลอดเวลา
08:26
this tribeเผ่า would succeedประสบความสำเร็จ better
196
491000
2000
เผ่านี้จะประสบความสำเร็จมากกว่า
08:28
and conquerพิชิต the other."
197
493000
2000
และพิชิตอีกเผ่าได้"
08:30
He wentไป on to say that "Selfishเห็นแก่ตัว and contentiousที่ถกเถียงกัน people
198
495000
2000
เขาเขียนต่อไปว่า "คนที่เห็นแก่ตัวและชอบทะเลาะวิวาท
08:32
will not cohereสอดคล้องกัน,
199
497000
2000
จะไม่มารวมตัวกัน
08:34
and withoutไม่มี coherenceการเชื่อมโยงกัน
200
499000
2000
และถ้าปราศจากการรวมตัวกัน
08:36
nothing can be effectedได้รับผลกระทบ."
201
501000
2000
ก็จะทำอะไรๆ ไม่ได้ผล"
08:38
In other wordsคำ,
202
503000
2000
พูดอีกอย่างคือ
08:40
Charlesชาร์ลส์ Darwinดาร์วิน believedเชื่อว่า
203
505000
2000
ชาร์ลส์ ดาร์วิน เชื่อใน
08:42
in groupกลุ่ม selectionการเลือก.
204
507000
2000
การคัดเลือกแบบกลุ่ม
08:44
Now this ideaความคิด has been very controversialที่เถียงกัน for the last 40 yearsปี,
205
509000
3000
ความคิดนี้ถูกโต้เถียงกันอย่างร้อนแรงตลอด 40 ปีที่ผ่านมา
08:47
but it's about to make a majorสำคัญ comebackกลับมา this yearปี,
206
512000
3000
แต่ปีนี้มันจะกลับมาใหม่อย่างยิ่งใหญ่
08:50
especiallyโดยเฉพาะอย่างยิ่ง after E.O. Wilson'sวิลสัน bookหนังสือ comesมา out in Aprilเมษายน,
207
515000
3000
โดยเฉพาะหลังจากที่หนังสือใหม่ของ อี.โอ. วิลสัน
ออกเดือนเมษายนนี้
08:53
makingการทำ a very strongแข็งแรง caseกรณี
208
518000
2000
นำเสนอด้วยหลักฐานแน่นหนาว่า
08:55
that we, and severalหลาย other speciesสายพันธุ์,
209
520000
2000
เรา และสัตว์พันธุ์อื่นอีกบางชนิด
08:57
are productsผลิตภัณฑ์ of groupกลุ่ม selectionการเลือก.
210
522000
2000
เป็นผลผลิตของการคัดเลือกแบบกลุ่ม
08:59
But really the way to think about this
211
524000
2000
แต่ที่จริงเราควรคิดถึงเรื่องนี้
09:01
is as multilevelหลายระดับ selectionการเลือก.
212
526000
2000
ว่าเป็นการคัดเลือกหลายระดับมากกว่า
09:03
So look at it this way:
213
528000
2000
ลองมองอย่างนี้ครับว่า
09:05
You've got competitionการแข่งขัน going on withinภายใน groupsกลุ่ม and acrossข้าม groupsกลุ่ม.
214
530000
3000
ภายในกลุ่มมีการแข่งขัน ระหว่างกลุ่มก็แข่งขัน
09:08
So here'sนี่คือ a groupกลุ่ม of guys on a collegeวิทยาลัย crewพวกลูกเรือ teamทีม.
215
533000
3000
นี่คือผู้ชายกลุ่มหนึ่ง ในทีมแข่งพายเรือของมหาวิทยาลัย
09:11
Withinภายใน this teamทีม
216
536000
2000
ภายในทีมนี้
09:13
there's competitionการแข่งขัน.
217
538000
2000
มีการแข่งขัน
09:15
There are guys competingการแข่งขัน with eachแต่ละ other.
218
540000
2000
ผู้ชายบางคนแข่งกันเอง
09:17
The slowestช้าที่สุด rowersฝีพาย, the weakestกำจัดจุดอ่อน rowersฝีพาย, are going to get cutตัด from the teamทีม.
219
542000
3000
ฝีพายที่ช้าที่สุด อ่อนแอที่สุด จะถูกให้ออกจากทีม
09:20
And only a fewน้อย of these guys are going to go on in the sportกีฬา.
220
545000
2000
และมีฝีพายไม่กี่คนที่จะเล่นกีฬานี้ต่อไป
09:22
Maybe one of them will make it to the Olympicsการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก.
221
547000
3000
บางทีหนึ่งในนั้นอาจไปแข่งโอลิมปิกก็ได้
09:25
So withinภายใน the teamทีม,
222
550000
2000
ฉะนั้นภายในทีม
09:27
theirของพวกเขา interestsความสนใจ are actuallyแท้จริง pittedเป็นหลุม againstต่อต้าน eachแต่ละ other.
223
552000
3000
ผลประโยชน์ของแต่ละคนขัดแย้งกัน
09:30
And sometimesบางครั้ง it would be advantageousได้เปรียบ
224
555000
2000
และบางทีอาจมีประโยชน์ก็ได้
09:32
for one of these guys
225
557000
2000
ที่สมาชิกคนหนึ่ง
09:34
to try to sabotageการก่อวินาศกรรม the other guys.
226
559000
2000
จะพยายามแกล้งคนอื่น
09:36
Maybe he'llนรก badmouthbadmouth his chiefหัวหน้า rivalคู่แข่ง
227
561000
2000
บางทีเขาอาจใส่ร้ายคู่แข่งคนสำคัญ
09:38
to the coachโค้ช.
228
563000
2000
ไปเป่าหูโค้ช
09:40
But while that competitionการแข่งขัน is going on
229
565000
2000
แต่ในขณะที่การแข่งขันดำเนินไป
09:42
withinภายใน the boatเรือ,
230
567000
2000
ภายในเรือลำเดียวกัน
09:44
this competitionการแข่งขัน is going on acrossข้าม boatsเรือ.
231
569000
3000
การแข่งขันนี้ก็เกิดขึ้นระหว่างเรือเช่นกัน
09:47
And onceครั้งหนึ่ง you put these guys in a boatเรือ competingการแข่งขัน with anotherอื่น boatเรือ,
232
572000
3000
เมื่อคุณเอาฝีพายในเรือลำหนึ่งไปแข่งกับอีกลำหนึ่ง
09:50
now they'veพวกเขาได้ got no choiceทางเลือก but to cooperateร่วมมือกัน
233
575000
2000
ทีนี้พวกเขาก็ไม่มีทางเลือก นอกจากร่วมมือกัน
09:52
because they're all in the sameเหมือนกัน boatเรือ.
234
577000
3000
เพราะพวกเขาอยู่ในเรือลำเดียวกัน
09:55
They can only winชนะ
235
580000
2000
พวกเขาจะคว้าชัยชนะได้
09:57
if they all pullดึง togetherด้วยกัน as a teamทีม.
236
582000
2000
ก็ต่อเมื่อร่วมแรงร่วมใจกันเป็นทีม
09:59
I mean, these things soundเสียง triteซ้ำซาก,
237
584000
2000
ทั้งหมดนี้อาจฟังดูซ้ำซากจำเจ
10:01
but they are deepลึก evolutionaryวิวัฒนาการ truthsความจริง.
238
586000
2000
แต่มันก็เป็นสัจธรรมของวิวัฒนาการที่ลึกซึ้ง
10:03
The mainหลัก argumentการโต้เถียง againstต่อต้าน groupกลุ่ม selectionการเลือก
239
588000
2000
ข้อโต้แย้งหลักต่อทฤษฎีการคัดเลือกแบบกลุ่ม
10:05
has always been
240
590000
2000
ที่ผ่านมาคือ
10:07
that, well sure, it would be niceดี to have a groupกลุ่ม of cooperatorscooperators,
241
592000
3000
การอ้างว่า แน่ละ มีประโยชน์ที่คนบางคนร่วมมือกัน
10:10
but as soonในไม่ช้า as you have a groupกลุ่ม of cooperatorscooperators,
242
595000
2000
แต่ทันทีที่เกิดกลุ่มคนที่ร่วมมือกัน
10:12
they're just going to get takenยึด over by free-ridersฟรีผู้ขับขี่,
243
597000
3000
พวกเขาก็จะถูกครอบงำด้วยพวกตีตั๋วฟรี
10:15
individualsบุคคล that are going to exploitเอาเปรียบ the hardยาก work of the othersคนอื่น ๆ.
244
600000
3000
คนที่ฉวยโอกาสจากงานหนักของคนอื่น
10:18
Let me illustrateแสดง this for you.
245
603000
2000
ผมจะสาธิตให้ดูนะครับ
10:20
Supposeสมมติ we'veเราได้ got a groupกลุ่ม of little organismsสิ่งมีชีวิต --
246
605000
3000
สมมุติว่าเรามีสิ่งมีชีวิตจิ๋วกลุ่มหนึ่ง
10:23
they can be bacteriaแบคทีเรีย, they can be hamstersแฮมสเตอร์; it doesn't matterเรื่อง what --
247
608000
3000
มันอาจเป็นแบคทีเรีย หนูถีบจักร
ไม่สำคัญว่าเป็นอะไร --
10:26
and let's supposeสมมติ that this little groupกลุ่ม here, they evolvedการพัฒนา to be cooperativeสหกรณ์.
248
611000
3000
สมมุติต่อไปว่ากลุ่มเล็กๆ นี้วิวัฒนาการมาร่วมมือกัน
10:29
Well that's great. They grazeกินหญ้า, they defendแก้ต่าง eachแต่ละ other,
249
614000
2000
สุดยอดเลย พวกเขาหากิน ปกป้องซึ่งกันและกัน
10:31
they work togetherด้วยกัน, they generateผลิต wealthความมั่งคั่ง.
250
616000
3000
ทำงานร่วมกัน สร้างความมั่งคั่ง
10:34
And as you'llคุณจะ see in this simulationจำลอง,
251
619000
2000
คุณจะเห็นว่าในแบบจำลองนี้
10:36
as they interactปฏิสัมพันธ์ they gainได้รับ pointsจุด, as it were, they growเจริญ,
252
621000
3000
ยิ่งพวกเขามีปฏิสัมพันธ์ก็ยิ่งสะสมแต้ม ยิ่งขยายใหญ่
10:39
and when they'veพวกเขาได้ doubledสองเท่า in sizeขนาด, you'llคุณจะ see them splitแยก,
253
624000
2000
และเมื่อขยายได้ถึงสองเท่า
คุณจะเห็นว่าพวกเขาแบ่งตัวออก
10:41
and that's how they reproduceสืบพันธุ์ and the populationประชากร growsเติบโต.
254
626000
2000
นี่คือจุดที่เริ่มผสมพันธุ์ ประชากรก็เพิ่มขึ้น
10:43
But supposeสมมติ then that one of them mutatesการแปรรูป.
255
628000
3000
แต่ทีนี้สมมุติว่าหนึ่งในนั้นกลายพันธุ์
10:46
There's a mutationการกลายพันธุ์ in the geneยีน
256
631000
2000
ยีนเกิดกลายพันธุ์ขึ้นมา
10:48
and one of them mutatesการแปรรูป to followปฏิบัติตาม a selfishเห็นแก่ตัว strategyกลยุทธ์.
257
633000
2000
ทำให้ตัวหนึ่งเปลี่ยนไปใช้กลยุทธ์เห็นแก่ตัว
10:50
It takes advantageความได้เปรียบ of the othersคนอื่น ๆ.
258
635000
2000
ฉวยโอกาสจากตัวอื่น
10:52
And so when a greenสีเขียว interactsปฏิสัมพันธ์ with a blueสีน้ำเงิน,
259
637000
3000
ทีนี้เมื่อสีเขียวมาปฏิสังสรรค์กับสีฟ้า
10:55
you'llคุณจะ see the greenสีเขียว getsได้รับ largerที่มีขนาดใหญ่ and the blueสีน้ำเงิน getsได้รับ smallerที่มีขนาดเล็ก.
260
640000
2000
คุณจะเห็นว่าตัวสีเขียวขยายใหญ่ สีฟ้าหดเล็กลง
10:57
So here'sนี่คือ how things playเล่น out.
261
642000
2000
ทีนี้นี่่คือสิ่งที่เกิดขึ้น
10:59
We startเริ่มต้น with just one greenสีเขียว,
262
644000
2000
เราเริ่มจากสีเขียวตัวเดียว
11:01
and as it interactsปฏิสัมพันธ์
263
646000
2000
และขณะที่มันมีปฏิสัมพันธ์
11:03
it gainsกำไร wealthความมั่งคั่ง or pointsจุด or foodอาหาร.
264
648000
3000
มันก็จะได้ความมั่งคั่งหรือแต้มหรืออาหาร
11:06
And in shortสั้น orderใบสั่ง, the cooperatorscooperators are doneเสร็จแล้ว for.
265
651000
3000
ไม่นานพวกที่สามัคคีกันก็ถูกกวาดล้างจนหมด
11:09
The free-ridersฟรีผู้ขับขี่ have takenยึด over.
266
654000
3000
พวกตีตั๋วฟรีเป็นใหญ่แทน
11:12
If a groupกลุ่ม cannotไม่ได้ solveแก้ the free-riderฟรีไรเดอร์ problemปัญหา
267
657000
3000
ถ้าหากกลุ่มแก้ปัญหาพวกตีตั๋วฟรีไม่ได้
11:15
then it cannotไม่ได้ reapเก็บเกี่ยว the benefitsผลประโยชน์ of cooperationความร่วมมือ
268
660000
3000
กลุ่มก็ไม่อาจได้ประโยชน์จากการร่วมมือกันได้
11:18
and groupกลุ่ม selectionการเลือก cannotไม่ได้ get startedเริ่มต้น.
269
663000
3000
และกระบวนการคัดเลือกแบบกลุ่มก็เริ่มต้นไม่ได้
11:21
But there are solutionsการแก้ปัญหา to the free-riderฟรีไรเดอร์ problemปัญหา.
270
666000
2000
แต่ปัญหาพวกตีตั๋วฟรีมีวิธีแก้ครับ
11:23
It's not that hardยาก a problemปัญหา.
271
668000
2000
มันไม่ได้เป็นปัญหาที่ยากเย็นขนาดนั้น
11:25
In factความจริง, natureธรรมชาติ has solvedแก้ไข it manyจำนวนมาก, manyจำนวนมาก timesครั้ง.
272
670000
3000
ที่จริงธรรมชาติก็แก้ได้มาหลายครั้งหลายหนแล้ว
11:28
And nature'sธรรมชาติ favoriteที่ชื่นชอบ solutionวิธีการแก้
273
673000
2000
วิธีแก้ที่ธรรมชาติชอบใช้ที่สุด
11:30
is to put everyoneทุกคน in the sameเหมือนกัน boatเรือ.
274
675000
3000
คือจับทุกคนใส่เรือลำเดียวกัน
11:33
For exampleตัวอย่าง,
275
678000
2000
ยกตัวอย่างเช่น
11:35
why is it that the mitochondriamitochondria in everyทุกๆ cellเซลล์
276
680000
3000
ทำไมไมโตคอนเดรียในเซลล์ทุกเซลล์
11:38
has its ownด้วยตัวเอง DNAดีเอ็นเอ,
277
683000
2000
ถึงได้มีรหัสพันธุกรรมของตัวเอง
11:40
totallyโดยสิ้นเชิง separateแยก from the DNAดีเอ็นเอ in the nucleusนิวเคลียส?
278
685000
3000
แยกต่างหากจากรหัสพันธุกรรมในนิวเคลียส?
11:43
It's because they used to be
279
688000
2000
คำตอบคือมันเคยเป็น
11:45
separateแยก free-livingฟรีนั่งเล่น bacteriaแบคทีเรีย
280
690000
2000
แบคทีเรียที่อยู่อย่างเป็นเอกเทศ
11:47
and they cameมา togetherด้วยกัน
281
692000
2000
มันมารวมตัวกัน
11:49
and becameกลายเป็น a superorganismอัคร.
282
694000
2000
กลายเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่
11:51
Somehowอย่างใด or other -- maybe one swallowedกลืนกิน anotherอื่น; we'llดี never know exactlyอย่างแน่นอน why --
283
696000
3000
ด้วยวิธีอะไรสักอย่าง อาจจะกินกันและกัน เราไม่มีวันรู้สาเหตุที่แท้จริง
11:54
but onceครั้งหนึ่ง they got a membraneเยื่อหุ้มเซลล์ around them,
284
699000
2000
แต่เมื่อพวกมันมีเยื่อหุ้มเซลล์รอบตัว
11:56
they were all in the sameเหมือนกัน membraneเยื่อหุ้มเซลล์,
285
701000
2000
พวกมันอยู่ใต้เยื่อหุ้มเซลล์แผ่นเดียวกัน
11:58
now all the wealth-createdมากมายที่สร้างขึ้น divisionแผนก of laborแรงงาน,
286
703000
3000
ก็แปลว่าความมั่งคั่งที่เกิดจากการแบ่งงานกันทำ
12:01
all the greatnessความยิ่งใหญ่ createdสร้าง by cooperationความร่วมมือ,
287
706000
2000
ความยิ่งใหญ่ทั้งหมดที่สร้างจากการร่วมมือกัน
12:03
staysการเข้าพัก lockedล็อค insideภายใน the membraneเยื่อหุ้มเซลล์
288
708000
2000
ทั้งหมดนั้นถูกล็อคไว้ภายในเยื่อนี้
12:05
and we'veเราได้ got a superorganismอัคร.
289
710000
3000
ทำให้เกิดสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ที่เก่งกว่าเดิม
12:08
And now let's rerunวิ่งใหม่ the simulationจำลอง
290
713000
2000
ทีนี้ลองเดินแบบจำลองใหม่
12:10
puttingวาง one of these superorganismssuperorganisms
291
715000
2000
เอาเจ้าสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่นี้
12:12
into a populationประชากร of free-ridersฟรีผู้ขับขี่, of defectorsdefectors, of cheatersขี้โกง
292
717000
3000
ลงไปในประชากรที่มีแต่พวกตีตั๋วฟรี
หรือทรยศ หรือคดโกง
12:15
and look what happensที่เกิดขึ้น.
293
720000
3000
แล้วดูนะครับว่าเกิดอะไรขึ้น
12:18
A superorganismอัคร can basicallyเป็นพื้น take what it wants.
294
723000
2000
สิ่งมีชีวิตสุดเจ๋งนี้จะเอาอะไรก็ได้เลย
12:20
It's so bigใหญ่ and powerfulมีอำนาจ and efficientที่มีประสิทธิภาพ
295
725000
3000
เพราะมันใหญ่และทรงพลังและมีประสิทธิภาพ
12:23
that it can take resourcesทรัพยากร
296
728000
2000
แย่งเอาทรัพยากร
12:25
from the greensผักใบเขียว, from the defectorsdefectors, the cheatersขี้โกง.
297
730000
4000
ไปจากตัวสีเขียว พวกทรยศคดโกง
12:29
And prettyน่ารัก soonในไม่ช้า the wholeทั้งหมด populationประชากร
298
734000
2000
ไม่นานประชากรทั้งหมด
12:31
is actuallyแท้จริง composedใจเย็น of these newใหม่ superorganismssuperorganisms.
299
736000
3000
ก็จะมีแต่สิ่งมีชีวิตชนิดใหม่นี้
12:34
What I've shownแสดงให้เห็นว่า you here
300
739000
2000
สิ่งที่ผมแสดงให้ดูไปนั้น
12:36
is sometimesบางครั้ง calledเรียกว่า a majorสำคัญ transitionการเปลี่ยนแปลง
301
741000
2000
บางครั้งถูกเรียกว่า การเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ
12:38
in evolutionaryวิวัฒนาการ historyประวัติศาสตร์.
302
743000
3000
ในประวัติศาสตร์วิวัฒนาการ
12:41
Darwin'sดาร์วิน lawsกฎหมาย don't changeเปลี่ยนแปลง,
303
746000
2000
กฏของดาร์วินไม่เปลี่ยนแปลง
12:43
but now there's a newใหม่ kindชนิด of playerผู้เล่น on the fieldสนาม
304
748000
3000
แต่ตอนนี้มีผู้เล่นแบบใหม่ลงสนาม
12:46
and things beginเริ่ม to look very differentต่าง.
305
751000
3000
และสถานการณ์ก็แตกต่างไปจากเดิมมาก
12:49
Now this transitionการเปลี่ยนแปลง was not a one-timeครั้งหนึ่ง freakความประหลาด of natureธรรมชาติ
306
754000
2000
ทีนี้ การเปลี่ยนผ่านนี้ไม่ใช่เหตุบังเอิญครั้งเดียวในธรรมชาติ
12:51
that just happenedที่เกิดขึ้น with some bacteriaแบคทีเรีย.
307
756000
2000
ที่บังเอิญเกิดกับแบคทีเรียบางตัว
12:53
It happenedที่เกิดขึ้น again
308
758000
2000
มันเกิดขึ้นอีกครั้ง
12:55
about 120 or a 140 millionล้าน yearsปี agoมาแล้ว
309
760000
2000
ประมาณ 120 หรือ 140 ล้านปีที่แล้ว
12:57
when some solitaryโดดเดี่ยว waspsแตน
310
762000
3000
เมื่อตัวต่อรักสันโดษบางตัว
13:00
beganเริ่ม creatingการสร้าง little simpleง่าย, primitiveดั้งเดิม
311
765000
2000
เริ่มสร้างรังที่เรียบง่าย
13:02
nestsรัง, or hivesอาการโรคลมพิษ.
312
767000
3000
และพื้นฐานมาก
13:05
Onceครั้งหนึ่ง severalหลาย waspsแตน were all togetherด้วยกัน in the sameเหมือนกัน hiveรัง,
313
770000
3000
เมื่อตัวต่อหลายตัวมาอยู่ในรังเดียวกัน
13:08
they had no choiceทางเลือก but to cooperateร่วมมือกัน,
314
773000
2000
มันก็ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากจะร่วมมือกัน
13:10
because prettyน่ารัก soonในไม่ช้า they were lockedล็อค into competitionการแข่งขัน
315
775000
2000
เพราะไม่นานมันก็ถูกสถานการณ์บังคับให้แข่งขัน
13:12
with other hivesอาการโรคลมพิษ.
316
777000
2000
กับรังอื่นๆ
13:14
And the mostมากที่สุด cohesiveเหนียว hivesอาการโรคลมพิษ wonวอน,
317
779000
2000
รังที่สามัคคีกันที่สุดคือผู้ชนะ
13:16
just as Darwinดาร์วิน said.
318
781000
2000
ตรงตามที่ดาร์วินพูด
13:18
These earlyตอนต้น waspsแตน
319
783000
2000
ตัวต่อโบราณเหล่านี้
13:20
gaveให้ riseลุกขึ้น to the beesผึ้ง and the antsมด
320
785000
2000
เป็นบรรพบุรุษของผึ้งและมด
13:22
that have coveredปกคลุม the worldโลก
321
787000
2000
ที่ต่อมาขยายพันธุ์ไปทั่วโลก
13:24
and changedการเปลี่ยนแปลง the biosphereชีววง.
322
789000
2000
และเปลี่ยนแปลงชีวมณฑลของโลก
13:26
And it happenedที่เกิดขึ้น again,
323
791000
2000
มันเกิดขึ้นอีกครั้ง
13:28
even more spectacularlyไม่ยี่หระ,
324
793000
2000
อย่างน่าทึ่งกว่านี้อีก
13:30
in the last half-millionครึ่งล้าน yearsปี
325
795000
2000
ในช่วงห้าแสนปีที่ผ่านมา
13:32
when our ownด้วยตัวเอง ancestorsบรรพบุรุษ
326
797000
2000
เมื่อบรรพบุรุษของเราเอง
13:34
becameกลายเป็น culturalด้านวัฒนธรรม creaturesสิ่งมีชีวิต,
327
799000
2000
กลายเป็นสัตว์วัฒนธรรม
13:36
they cameมา togetherด้วยกัน around a hearthครอบครัว or a campfireแคมป์ไฟ,
328
801000
3000
มารวมตัวกันรอบเตาผิงหรือกองไฟ
13:39
they dividedแบ่งแยกออกจากกัน laborแรงงาน,
329
804000
2000
พวกเขาแบ่งงานกันทำ
13:41
they beganเริ่ม paintingจิตรกรรม theirของพวกเขา bodiesร่างกาย, they spokeพูด theirของพวกเขา ownด้วยตัวเอง dialectsภาษาถิ่น,
330
806000
3000
เริ่มระบายสีร่างกาย พูดภาษาถิ่นของตัวเอง
13:44
and eventuallyในที่สุด they worshipedบูชา theirของพวกเขา ownด้วยตัวเอง godsพระเจ้า.
331
809000
3000
สุดท้ายก็บูชาพระเจ้าของตัวเอง
13:47
Onceครั้งหนึ่ง they were all in the sameเหมือนกัน tribeเผ่า,
332
812000
2000
เมื่อพวกเขามาอยู่ในเผ่าเดียวกัน
13:49
they could keep the benefitsผลประโยชน์ of cooperationความร่วมมือ lockedล็อค insideภายใน.
333
814000
3000
ก็สามารถปิดล็อกประโยชน์จากการร่วมมือกันไว้ภายใน
13:52
And they unlockedปลดล็อค the mostมากที่สุด powerfulมีอำนาจ forceบังคับ
334
817000
2000
และเปิดล็อกพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
13:54
ever knownที่รู้จักกัน on this planetดาวเคราะห์,
335
819000
2000
ที่ดาวเคราะห์ดวงนี้ได้รับรู้
13:56
whichที่ is humanเป็นมนุษย์ cooperationความร่วมมือ --
336
821000
2000
นั่นคือ พลังความร่วมมือกันของมนุษย์ --
13:58
a forceบังคับ for constructionการก่อสร้าง
337
823000
2000
พลังแห่งการสรรค์สร้าง
14:00
and destructionการทำลาย.
338
825000
3000
และทำลายล้าง
14:03
Of courseหลักสูตร, humanเป็นมนุษย์ groupsกลุ่ม are nowhereไม่มีที่ไหนเลย nearใกล้ as cohesiveเหนียว
339
828000
2000
แน่นอนครับ กลุ่มของมนุษย์สามัคคีกันเหนียวแน่น
14:05
as beehivesรังผึ้ง.
340
830000
2000
น้อยกว่ารังผึ้งคนละโยชน์
14:07
Humanเป็นมนุษย์ groupsกลุ่ม mayอาจ look like hivesอาการโรคลมพิษ for briefสั้น momentsช่วงเวลา,
341
832000
3000
กลุ่มของมนุษย์อาจดูเหมือนรังผึ้งชั่วคราว
14:10
but they tendมีแนวโน้ม to then breakหยุด apartต่างหาก.
342
835000
2000
แต่มักจะแตกสลายซ่านเซ็น
14:12
We're not lockedล็อค into cooperationความร่วมมือ the way beesผึ้ง and antsมด are.
343
837000
3000
พวกเราไม่ถูกบีบบังคับให้ร่วมมือกันเหมือนกับผึ้งและมด
14:15
In factความจริง, oftenบ่อยครั้ง,
344
840000
2000
ที่จริง บ่อยครั้ง
14:17
as we'veเราได้ seenเห็น happenเกิดขึ้น in a lot of the Arabอาหรับ Springฤดูใบไม้ผลิ revoltsปฏิวัติ,
345
842000
2000
ดังที่เราได้เห็นในการปฏิวัติโลกอาหรับเมื่อไม่นานมานี้
14:19
oftenบ่อยครั้ง those divisionsหน่วยงาน are alongตาม religiousเคร่งศาสนา linesเส้น.
346
844000
4000
ว่าความแตกแยกมักจะแล่นตามเส้นศาสนา
14:23
Nonethelessกระนั้น, when people do come togetherด้วยกัน
347
848000
3000
อย่างไรก็ตาม เมื่อใดที่คนมารวมตัวกันได้
14:26
and put themselvesตัวเอง all into the sameเหมือนกัน movementการเคลื่อนไหว,
348
851000
2000
มารวมพลังเคลื่อนไหวในขบวนการเดียวกัน
14:28
they can moveย้าย mountainsภูเขา.
349
853000
3000
พวกเขาก็เขยื้อนภูเขาได้
14:31
Look at the people in these photosภาพถ่าย I've been showingการแสดง you.
350
856000
3000
ลองดูคนในรูปที่ผมกำลังฉายให้ดูสิครับ
14:34
Do you think they're there
351
859000
2000
คุณคิดว่าพวกเขาไปที่นั่น
14:36
pursuingการใฝ่หา theirของพวกเขา self-interestประโยชน์ของตนเอง?
352
861000
2000
เพื่อบรรลุประโยชน์ส่วนตัวหรือเปล่า?
14:38
Or are they pursuingการใฝ่หา communalชุมชน interestดอกเบี้ย,
353
863000
3000
หรือว่าอยากบรรลุประโยชน์ส่วนรวม
14:41
whichที่ requiresต้องมี them to loseสูญเสีย themselvesตัวเอง
354
866000
3000
ซึ่งเรียกร้องให้พวกเขาสูญเสียตัวตน
14:44
and becomeกลายเป็น simplyง่ายดาย a partส่วนหนึ่ง of a wholeทั้งหมด?
355
869000
4000
กลายเป็นแค่ส่วนหนึ่งขององค์รวม?
14:49
Okay, so that was my Talk
356
874000
2000
โอเค ที่ผ่านไปนั้นคือบทบรรยายของผม
14:51
deliveredส่ง in the standardมาตรฐาน TEDTED way.
357
876000
2000
นำเสนอแบบมาตรฐาน TED
14:53
And now I'm going to give the wholeทั้งหมด Talk over again
358
878000
2000
ทีนี้ ผมจะบรรยายทั้งหมดนั้นอีกรอบ
14:55
in threeสาม minutesนาที
359
880000
2000
ในสามนาที
14:57
in a more full-spectrumเต็มสเปกตรัม sortประเภท of way.
360
882000
3000
ด้วยวิถีทางที่ครอบคลุมสมบูรณ์กว่า
15:00
(Musicเพลง)
361
885000
2000
(เสียงดนตรี)
15:02
(Videoวีดีโอ) Jonathanโจนาธาน HaidtHaidt: We humansมนุษย์ have manyจำนวนมาก varietiesพันธุ์
362
887000
2000
(คลิปวีดีโอ)
โจนาธาน ไฮด์ท์: มนุษย์เรามีประสบการณ์ทางศาสนา
15:04
of religiousเคร่งศาสนา experienceประสบการณ์,
363
889000
2000
มากมายหลายรูปแบบ
15:06
as Williamวิลเลียม Jamesเจมส์ explainedอธิบาย.
364
891000
2000
ดังที่ วิลเลียม เจมส์ อธิบาย
15:08
One of the mostมากที่สุด commonร่วมกัน is climbingปีนเขา the secretลับ staircaseบันได
365
893000
3000
รูปแบบหนึ่งที่พบบ่อยคือการปีนบันไดลับ
15:11
and losingแพ้ ourselvesตัวเรา.
366
896000
2000
และสูญเสียตัวตน
15:13
The staircaseบันได takes us
367
898000
2000
บันไดนั้นนำเรา
15:15
from the experienceประสบการณ์ of life as profaneดูหมิ่น or ordinaryสามัญ
368
900000
3000
ออกจากประสบการณ์ชีวิตที่เป็นโลกียะ เรื่องปกติ
15:18
upwardsสูงกว่า to the experienceประสบการณ์ of life as sacredศักดิ์สิทธิ์,
369
903000
2000
ขึ้นสูงไปสู่ประสบการณ์ว่าชีวิตนั้นศักดิ์สิทธิ์
15:20
or deeplyลึก interconnectedที่เชื่อมต่อกัน.
370
905000
2000
หรือเกี่ยวพันกับชีวิตอื่นอย่างลึกซึ้ง
15:22
We are Homoตุ๊ด duplexคู่,
371
907000
2000
เราเป็น โฮโม ดูเพล็กซ์
15:24
as DurkheimDurkheim explainedอธิบาย.
372
909000
2000
ดังที่เดิร์กไฮม์อธิบาย
15:26
And we are Homoตุ๊ด duplexคู่
373
911000
2000
และเราก็เป็น โฮโม ดูเพล็กซ์
15:28
because we evolvedการพัฒนา by multilevelหลายระดับ selectionการเลือก,
374
913000
2000
เพราะเราวิวัฒนาการผ่านการคัดเลือกหลายระดับ
15:30
as Darwinดาร์วิน explainedอธิบาย.
375
915000
3000
ดังที่ดาร์วินอธิบาย
15:33
I can't be certainบาง if the staircaseบันได is an adaptationการปรับตัว
376
918000
2000
ผมมั่นใจไม่ได้ว่าบันไดนี้คือการปรับตัว
15:35
ratherค่อนข้าง than a bugแมลง,
377
920000
2000
ไม่ใช่บั๊กในระบบ
15:37
but if it is an adaptationการปรับตัว,
378
922000
2000
แต่ถ้ามันคือการปรับตัว
15:39
then the implicationsผลกระทบ are profoundลึกซึ้ง.
379
924000
2000
นัยของมันก็กว้างขวางลึกล้ำ
15:41
If it is an adaptationการปรับตัว,
380
926000
2000
ถ้าหากมันคือการปรับตัว
15:43
then we evolvedการพัฒนา to be religiousเคร่งศาสนา.
381
928000
3000
ก็แปลว่าเราวิวัฒนาการมานับถือศาสนา
15:46
I don't mean that we evolvedการพัฒนา
382
931000
2000
ผมไม่ได้หมายความว่าเราวิวัฒนาการมา
15:48
to joinร่วม giganticมโหฬาร organizedจัด religionsศาสนา.
383
933000
2000
เพื่อสังกัดศาสนาขนาดใหญ่ในระบบ
15:50
Those things cameมา alongตาม too recentlyเมื่อเร็ว ๆ นี้.
384
935000
2000
องค์กรศาสนาถือกำเนิดไม่นานมานี้เอง
15:52
I mean that we evolvedการพัฒนา
385
937000
2000
ผมหมายความว่าเราวิวัฒนาการ
15:54
to see sacrednessความเป็นที่สักการะ all around us
386
939000
2000
มาเพื่อมองเห็นความศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่รายรอบตัว
15:56
and to joinร่วม with othersคนอื่น ๆ into teamsทีม
387
941000
2000
และเพื่อร่วมมือกับคนอื่น ทำงานเป็นทีม
15:58
and circleวงกลม around sacredศักดิ์สิทธิ์ objectsวัตถุ,
388
943000
2000
ล้อมวงรอบวัตถุศักดิ์สิทธิ์
16:00
people and ideasความคิด.
389
945000
2000
คนศักดิ์สิทธิ์ และความคิดศักดิ์สิทธิ์
16:02
This is why politicsการเมือง is so tribalเกี่ยวกับเผ่า.
390
947000
3000
นี่คือสาเหตุที่การเมืองเป็นเรื่องของเผ่า
16:05
Politicsการเมือง is partlyเป็นบางส่วน profaneดูหมิ่น, it's partlyเป็นบางส่วน about self-interestประโยชน์ของตนเอง,
391
950000
3000
การเมืองส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของโลกียะ
ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องประโยชน์ส่วนตน
16:08
but politicsการเมือง is alsoด้วย about sacrednessความเป็นที่สักการะ.
392
953000
3000
แต่การเมืองก็เป็นเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน
16:11
It's about joiningการร่วม with othersคนอื่น ๆ
393
956000
2000
เป็นเรื่องของการร่วมมือกับคนอื่น
16:13
to pursueไล่ตาม moralคุณธรรม ideasความคิด.
394
958000
2000
ทำตามความคิดทางศีลธรรม
16:15
It's about the eternalนิรันดร struggleการต่อสู้ betweenระหว่าง good and evilชั่วร้าย,
395
960000
3000
เป็นเรื่องของการต่อสู้ชั่วนิรันดร์
ระหว่างธรรมะกับอธรรม
16:18
and we all believe we're on the good teamทีม.
396
963000
3000
และเราทุกคนก็เชื่อว่าเราอยู่ข้างธรรมะ
16:21
And mostมากที่สุด importantlyที่สำคัญ,
397
966000
2000
ที่สำคัญที่สุดคือ
16:23
if the staircaseบันได is realจริง,
398
968000
2000
ถ้าหากบันไดนี้มีจริง
16:25
it explainsอธิบาย the persistentหมั่น undercurrentคลื่นใต้น้ำ
399
970000
2000
มันก็อธิบายได้ว่าทำไมคนเรา
16:27
of dissatisfactionความไม่พอใจ in modernทันสมัย life.
400
972000
2000
ถึงได้รู้สึกไม่พอใจเรื้อรังกับชีวิตสมัยใหม่
16:29
Because humanเป็นมนุษย์ beingsสิ่งมีชีวิต are, to some extentขอบเขต,
401
974000
3000
เพราะมนุษย์เราในบางระดับ
16:32
hivishhivish creaturesสิ่งมีชีวิต like beesผึ้ง.
402
977000
2000
เป็นสัตว์รวมหมู่เหมือนผึ้ง
16:34
We're beesผึ้ง. We bustedจับ out of the hiveรัง duringในระหว่าง the Enlightenmentการตรัสรู้.
403
979000
3000
เราคือผึ้ง เราแหวกรังผึ้งออกมาในยุคแสงสว่าง
16:37
We brokeยากจน down the oldเก่า institutionsสถาบันการศึกษา
404
982000
3000
เราทำลายสถาบันเก่าแก่ลง
16:40
and broughtนำ libertyเสรีภาพ to the oppressedถูกกดขี่.
405
985000
2000
มอบอิสรภาพให้กับผู้ที่ถูกกดขี่
16:42
We unleashedปลดปล่อย Earth-changingโลกที่เปลี่ยนแปลง creativityความคิดสร้างสรรค์
406
987000
2000
เราปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ที่เปลี่ยนโลก
16:44
and generatedสร้าง vastกว้างใหญ่ wealthความมั่งคั่ง and comfortความสะดวกสบาย.
407
989000
3000
สร้างความมั่งคั่งและสะดวกสบายมหาศาล
16:47
Nowadaysในปัจจุบันนี้ we flyบิน around
408
992000
2000
ทุกวันนี้เราบินไปมา
16:49
like individualรายบุคคล beesผึ้ง exultingexulting in our freedomเสรีภาพ.
409
994000
2000
เหมือนผึ้งปัจเจกที่ลิงโลดกับอิสรภาพ
16:51
But sometimesบางครั้ง we wonderน่าแปลกใจ:
410
996000
2000
แต่บางครั้งเราก็สงสัยว่า
16:53
Is this all there is?
411
998000
2000
มีแค่นี้หรือ?
16:55
What should I do with my life?
412
1000000
2000
ฉันควรจะทำอะไรดีกับชีวิต?
16:57
What's missingหายไป?
413
1002000
2000
อะไรนะที่ขาดหายไป?
16:59
What's missingหายไป is that we are Homoตุ๊ด duplexคู่,
414
1004000
2000
สิ่งที่ขาดหายคือ เราเป็น โฮโม ดูเพล็กซ์
17:01
but modernทันสมัย, secularฆราวาส societyสังคม was builtสร้างขึ้น
415
1006000
3000
แต่สังคมฆราวาสสมัยใหม่ถูกสร้างขึ้น
17:04
to satisfyพอใจ our lowerลดลง, profaneดูหมิ่น selvesตัว.
416
1009000
3000
เพื่อตอบสนองตัวตนโลกียะที่ต่ำกว่าด้านเดียว
17:07
It's really comfortableสบาย down here on the lowerลดลง levelชั้น.
417
1012000
3000
ชั้นล่างนั่นสะดวกสบายมากจริงๆ
17:10
Come, have a seatที่นั่ง in my home entertainmentการบันเทิง centerศูนย์.
418
1015000
3000
มาสิ มานั่งในศูนย์บันเทิงในบ้านของฉัน
17:13
One great challengeท้าทาย of modernทันสมัย life
419
1018000
2000
ความท้าทายประการสำคัญของชีวิตสมัยใหม่
17:15
is to find the staircaseบันได amidท่ามกลาง all the clutterถ่วง
420
1020000
3000
คือการหาบันไดให้เจอท่ามกลางความยุ่งเหยิง
17:18
and then to do something good and nobleชั้นสูง
421
1023000
3000
แล้วก็ทำอะไรสักอย่างที่ดีงาม
17:21
onceครั้งหนึ่ง you climbไต่ to the topด้านบน.
422
1026000
3000
เมื่อคุณปีนขึ้นไปถึงชั้นบนสุด
17:24
I see this desireปรารถนา in my studentsนักเรียน at the Universityมหาวิทยาลัย of Virginiaเวอร์จิเนีย.
423
1029000
3000
ผมมองเห็นความปรารถนานี้ในลูกศิษย์ของผม
ที่มหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย
17:27
They all want to find a causeสาเหตุ or callingการเรียกร้อง
424
1032000
2000
พวกเขาทุกคนอยากทำอะไรดีๆ หรือพบงานที่เกิดมาทำ
17:29
that they can throwโยน themselvesตัวเอง into.
425
1034000
2000
งานที่พวกเขาจะโยนตัวเองลงไปในนั้นได้
17:31
They're all searchingค้นหา for theirของพวกเขา staircaseบันได.
426
1036000
3000
พวกเขาทุกคนล้วนตามหาบันไดวนของตัวเอง
17:34
And that givesจะช่วยให้ me hopeหวัง
427
1039000
2000
นั่นทำให้ผมมีความหวัง
17:36
because people are not purelyหมดจด selfishเห็นแก่ตัว.
428
1041000
2000
เพราะคนเราไม่ได้เห็นแก่ตัวอย่างเดียว
17:38
Mostมากที่สุด people long to overcomeเอาชนะ pettinessใจแคบ
429
1043000
2000
คนส่วนใหญ่อยากเลิกคิดเล็กคิดน้อย
17:40
and becomeกลายเป็น partส่วนหนึ่ง of something largerที่มีขนาดใหญ่.
430
1045000
2000
อยากเป็นส่วนหนึ่งของอะไรที่ใหญ่กว่าตัวเอง
17:42
And this explainsอธิบาย the extraordinaryวิสามัญ resonanceเสียงสะท้อน
431
1047000
3000
ข้อนี้อธิบายว่าทำไมคนปัจจุบันถึงยังรู้สึกกระทบใจ
17:45
of this simpleง่าย metaphorคำอุปมา
432
1050000
2000
เมื่อได้ยินอุปมาเรียบง่าย
17:47
conjuredเสก up nearlyเกือบ 400 yearsปี agoมาแล้ว.
433
1052000
3000
ที่คิดขึ้นกว่า 400 ปีที่แล้ว --
17:50
"No man is an islandเกาะ
434
1055000
2000
"ไม่มีใครเป็นเกาะ
17:52
entireทั้งหมด of itselfตัวเอง.
435
1057000
2000
เฉพาะของตัวเอง
17:54
Everyทุกๆ man is a pieceชิ้น of the continentทวีป,
436
1059000
3000
มนุษย์ทุกผู้นามคือส่วนหนึ่งของทวีป
17:57
a partส่วนหนึ่ง of the mainหลัก."
437
1062000
3000
ส่วนหนึ่งของแผ่นดินใหญ่"
18:00
JHJH: Thank you.
438
1065000
2000
โจนาธาน ไฮด์ท์: ขอบคุณครับ
18:02
(Applauseการปรบมือ)
439
1067000
8000
(เสียงปรบมือ)

▲Back to top

ABOUT THE SPEAKER
Jonathan Haidt - Social psychologist
Jonathan Haidt studies how -- and why -- we evolved to be moral and political creatures.

Why you should listen

By understanding more about our moral psychology and its biases, Jonathan Haidt says we can design better institutions (including companies, universities and democracy itself), and we can learn to be more civil and open-minded toward those who are not on our team.

Haidt is a social psychologist whose research on morality across cultures led to his 2008 TED Talk on the psychological roots of the American culture war, and his 2013 TED Talk on how "common threats can make common ground." In both of those talks he asks, "Can't we all disagree more constructively?" Haidt's 2012 TED Talk explored the intersection of his work on morality with his work on happiness to talk about "hive psychology" -- the ability that humans have to lose themselves in groups pursuing larger projects, almost like bees in a hive. This hivish ability is crucial, he argues, for understanding the origins of morality, politics, and religion. These are ideas that Haidt develops at greater length in his book, The Righteous Mind: Why Good People are Divided by Politics and Religion.

Haidt joined New York University Stern School of Business in July 2011. He is the Thomas Cooley Professor of Ethical Leadership, based in the Business and Society Program. Before coming to Stern, Professor Haidt taught for 16 years at the University of Virginia in the department of psychology.

Haidt's writings appear frequently in the New York Times and The Wall Street Journal. He was named one of the top global thinkers by Foreign Policy magazine and by Prospect magazine. Haidt received a B.A. in Philosophy from Yale University, and an M.A. and Ph.D. in Psychology from the University of Pennsylvania.

More profile about the speaker
Jonathan Haidt | Speaker | TED.com