ABOUT THE SPEAKER
Maria Bezaitis - Computer engineer
A principal engineer at Intel, Maria Bezaitis focuses on how constellations of personal data can form new business models.

Why you should listen

Maria Bezaitis examines the social and cultural landscape, charting new directions for technology innovation within it. At Intel, her work focuses on personal data and how it develops relationally – and what this will mean in terms of new business models, the development of new devices and interfaces, and the creation of better security technologies.

Maria joined Intel in June 2006 to direct the People and Practices Research Group. She also played a leadership role at the cutting-edge social research and design organizations, E-Lab and Sapient Corporation. A longtime literature student, Bezaitis finished her Ph.D at Duke University in French Literature.

More profile about the speaker
Maria Bezaitis | Speaker | TED.com
TED@Intel

Maria Bezaitis: Why we need strangeness

มาเรีย เบเซติส (Maria Bezaitis): "ความแปลกหน้า" ที่จำเป็นอย่างน่าประหลาดใจ

Filmed:
1,213,949 views

ในโลกดิจิตอลของเรา ความสัมพันธ์ทางสังคมกลายมาขึ้นอยู่กับข้อมูล ปราศจากการรับรู้มัน เราก็ได้กีดกันตัวเองออกจากความแปลกหน้า ผู้คนและความคิดที่ไม่เข้ากับแบบแผนของคนที่เรารู้จักอยู่แล้ว สิ่งที่เราชอบอยู่แล้ว และสถานที่ที่เราไปมาแล้ว นี่คือการเรียกร้องให้เทคโนโลยีพาเราไปเจอสิ่งและคนที่เราต้องการ ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่คุ้นเคยก็ตามแต่ (ถ่ายทำที่ TED@Intel)
- Computer engineer
A principal engineer at Intel, Maria Bezaitis focuses on how constellations of personal data can form new business models. Full bio

Double-click the English transcript below to play the video.

00:12
"Don't talk to strangersคนแปลกหน้า."
0
892
3288
"อย่าคุยกับคนแปลกหน้า"
00:16
You have heardได้ยิน that phraseวลี utteredพูด
1
4180
2039
คุณได้ยินประโยคนี้ที่บอกต่อๆกันมา
00:18
by your friendsเพื่อน, familyครอบครัว, schoolsโรงเรียน and the mediaสื่อ for decadesทศวรรษที่ผ่านมา.
2
6219
4313
โดยเพื่อนของคุณ ครอบครัว โรงเรียน
และสื่อต่างๆ มาหลายสิบปี
00:22
It's a normบรรทัดฐาน. It's a socialสังคม normบรรทัดฐาน.
3
10532
2912
มันเป็นบรรทัดฐาน มันเป็นบรรทัดฐานทางสังคม
00:25
But it's a specialพิเศษ kindชนิด of socialสังคม normบรรทัดฐาน,
4
13444
2358
แต่มันเป็นบรรทัดฐานทางสังคมชนิดพิเศษ
00:27
because it's a socialสังคม normบรรทัดฐาน that wants to tell us
5
15802
2530
เพราะมันเป็นบรรทัดฐานทางสังคมที่ต้องการจะบอกเราว่า
00:30
who we can relateสัมพันธ์ to and who we shouldn'tไม่ควร relateสัมพันธ์ to.
6
18332
4464
ใครที่เราต้องมีความสัมพันธ์ด้วย
และใครที่เราไม่ควรมี
00:34
"Don't talk to strangersคนแปลกหน้า" saysกล่าวว่า,
7
22796
2504
"อย่าคุยกับคนแปลกหน้า" เขาว่ากัน
00:37
"Stayพักอยู่ from anyoneใคร ๆ who'sใคร not familiarคุ้นเคย to you.
8
25300
4176
"อยู่ให้ห่างจากใครก็ตามที่คุณไม่คุ้นเคย
00:41
Stickติด with the people you know.
9
29476
2415
เกาะติดกับคนที่คุณรู้จักไว้
00:43
Stickติด with people like you."
10
31891
2974
เกาะติดกับคนที่เหมือนคุณ"
00:46
How appealingอุทธรณ์ is that?
11
34865
2352
น่าเชื่อจริงๆใช่มั้ยคะ
00:49
It's not really what we do, is it, when we're at our bestดีที่สุด?
12
37217
3225
(แต่) มันไม่ใช่สิ่งที่เราทำตอนที่เราทำอะไรสักอย่างได้ดีที่สุด
ใช่ไหม
00:52
When we're at our bestดีที่สุด, we reachมาถึง out to people
13
40442
2784
ตอนที่เราทำได้ดีที่สุด เรากลับเข้าถึงผู้คน
00:55
who are not like us,
14
43226
1618
ที่ไม่เหมือนเรา
00:56
because when we do that, we learnเรียน from people
15
44844
2867
เพราะเมื่อเราทำแบบนั้น เราเรียนรู้จากคนอื่น
00:59
who are not like us.
16
47711
2269
ที่ไม่เหมือนเรา
01:01
My phraseวลี for this valueความคุ้มค่า of beingกำลัง with "not like us"
17
49980
4101
วลีของฉันสำหรับสิ่งนี้ คือการ "ไม่เหมือนพวกเรา"
01:06
is "strangenessความไม่ชอบมาพากล,"
18
54081
1872
คือคำว่า "ความแปลกหน้า"
01:07
and my pointจุด is that in today'sของวันนี้ digitallyดิจิทัล intensiveเข้ม worldโลก,
19
55953
3900
และจุดสำคัญก็คือว่า
ในโลกที่เต็มไปด้วยระบบดิจิตอลทุกวันนี้
01:11
strangersคนแปลกหน้า are quiteทีเดียว franklyตรงไปตรงมา not the pointจุด.
20
59853
3366
เอาเข้าจริงๆคนแปลกหน้ากลับไม่ใช่สาระสำคัญ
01:15
The pointจุด that we should be worriedกลุ้มใจ about is,
21
63219
2183
สาระสำคัญที่เราควรจะกังวลก็คือ
01:17
how much strangenessความไม่ชอบมาพากล are we gettingได้รับ?
22
65402
2887
ความแปลกหน้ามากแค่ไหนที่เรากำลังจะได้เจอ
01:20
Why strangenessความไม่ชอบมาพากล? Because our socialสังคม relationsความสัมพันธ์
23
68289
3006
ทำไมต้องพูดถึงความแปลกหน้า
เพราะความสัมพันธ์ทางสังคมของเรา
01:23
are increasinglyขึ้น mediatedผู้ไกล่เกลี่ย by dataข้อมูล,
24
71295
2794
ต้องอาศัยข้อมูลมากขึ้นเรื่อยๆ
01:26
and dataข้อมูล turnsผลัดกัน our socialสังคม relationsความสัมพันธ์ into digitalดิจิตอล relationsความสัมพันธ์,
25
74089
4557
และข้อมูลได้เปลี่ยนความสัมพันธ์ทางสังคมของเรา
ไปเป็นความสัมพันธ์แบบดิจิตอล
01:30
and that meansวิธี that our digitalดิจิตอล relationsความสัมพันธ์
26
78646
2349
และนั่นหมายความว่าความสัมพันธ์แบบดิจิตอลของเรา
01:32
now dependขึ้นอยู่กับ extraordinarilyพิเศษ on technologyเทคโนโลยี
27
80995
3802
ตอนนี้ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีมากเป็นพิเศษ
01:36
to bringนำมาซึ่ง to them a senseความรู้สึก of robustnessความแข็งแรง,
28
84797
2918
ในการที่จะนำมันไปสู่ความมั่นคง
01:39
a senseความรู้สึก of discoveryการค้นพบ,
29
87715
1587
การค้นพบ
01:41
a senseความรู้สึก of surpriseแปลกใจ and unpredictabilityความไม่แน่นอน.
30
89302
3270
ความประหลาดใจและการคาดการณ์ไม่ได้
01:44
Why not strangersคนแปลกหน้า?
31
92572
1767
ทำไมต้องคนแปลกหน้าล่ะ
01:46
Because strangersคนแปลกหน้า are partส่วนหนึ่ง of a worldโลก
32
94339
2294
เพราะคนแปลกหน้าเป็นส่วนหนึ่งของโลก
01:48
of really rigidเข้มงวด boundariesขอบเขต.
33
96633
2265
ที่เต็มไปด้วยเส้นแบ่งมากมาย
01:50
They belongเป็นของ to a worldโลก of people I know
34
98898
2952
พวกเขาตกอยู่ในโลกของผู้คนที่ฉันรู้จัก
01:53
versusกับ people I don't know,
35
101850
2514
กับผู้คนที่ฉันไม่รู้จัก
01:56
and in the contextบริบท of my digitalดิจิตอล relationsความสัมพันธ์,
36
104364
2479
และในบริบทของความสัมพันธ์แบบดิจิตอลของฉันนั้น
01:58
I'm alreadyแล้ว doing things with people I don't know.
37
106843
4021
ฉันได้ทำสิ่งต่างๆกับผู้คนที่ฉันไม่รู้จักไปเรียบร้อยแล้ว
02:02
The questionคำถาม isn't whetherว่า or not I know you.
38
110864
3218
คำถามไม่ใช่ว่าฉันรู้จักคุณหรือไม่
02:06
The questionคำถาม is, what can I do with you?
39
114082
2504
คำถามคือ ฉันจะทำอะไรร่วมกับคุณได้บ้าง
02:08
What can I learnเรียน with you?
40
116586
2609
ฉันเรียนรู้อะไรร่วมกับคุณได้บ้าง
02:11
What can we do togetherด้วยกัน that benefitsผลประโยชน์ us bothทั้งสอง?
41
119195
4301
เราจะทำอะไรด้วยกันได้บ้างที่จะเป็นประโยชน์ต่อเราทั้งคู่
02:15
I spendใช้จ่าย a lot of time thinkingคิด about
42
123496
2362
ฉันใช้เวลามากมายคิดเกี่ยวกับว่า
02:17
how the socialสังคม landscapeภูมิประเทศ is changingเปลี่ยนแปลง,
43
125858
2760
ภูมิทัศน์ทางสังคมมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง
02:20
how newใหม่ technologiesเทคโนโลยี createสร้าง newใหม่ constraintsข้อ จำกัด
44
128618
2472
เทคโนโลยีใหม่ๆได้สร้างข้อจำกัดใหม่
02:23
and newใหม่ opportunitiesโอกาส for people.
45
131090
2790
และโอกาสใหม่ให้กับผู้คนอย่างไรบ้าง
02:25
The mostมากที่สุด importantสำคัญ changesการเปลี่ยนแปลง facingเผชิญ us todayในวันนี้
46
133880
2651
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดที่เรากำลังเผชิญอยู่วันนี้
02:28
have to do with dataข้อมูล and what dataข้อมูล is doing
47
136531
2806
ต้องเกี่ยวข้องกับข้อมูลและสิ่งที่ข้อมูลกำลังทำอยู่
02:31
to shapeรูปร่าง the kindsชนิด of digitalดิจิตอล relationsความสัมพันธ์
48
139337
2105
เพื่อสร้างความสัมพันธ์แบบดิจิตอล
02:33
that will be possibleเป็นไปได้ for us in the futureอนาคต.
49
141442
2464
ที่เป็นไปได้สำหรับพวกเราในอนาคต
02:35
The economiesเศรษฐกิจ of the futureอนาคต dependขึ้นอยู่กับ on that.
50
143906
2233
ระบบเศรษฐกิจแห่งอนาคตขึ้นอยู่กับสิ่งนั้น
02:38
Our socialสังคม livesชีวิต in the futureอนาคต dependขึ้นอยู่กับ on that.
51
146139
2919
ชีวิตในสังคมของเราในอนาคตขึ้นอยู่กับสิ่งนั้น
02:41
The threatการคุกคาม to worryกังวล about isn't strangersคนแปลกหน้า.
52
149058
3032
สิ่งคุกคามที่น่ากังวลไม่ใช่คนแปลกหน้า
02:44
The threatการคุกคาม to worryกังวล about is whetherว่า or not
53
152090
2112
สิ่งคุกคามที่น่ากังวลคือ
02:46
we're gettingได้รับ our fairธรรม shareหุ้น of strangenessความไม่ชอบมาพากล.
54
154202
2992
พวกเราจะจะได้พบเจอสัดส่วนความแปลกหน้า
ที่เพียงพอหรือไม่ต่างหาก
02:49
Now, 20th-centuryศตวรรษ TH psychologistsนักจิตวิทยา and sociologistsนักสังคมวิทยา
55
157194
2592
ตอนนี้ นักจิตวิทยาและนักสังคมวิทยาแห่งศตวรรษที่ 20
02:51
were thinkingคิด about strangersคนแปลกหน้า,
56
159786
2153
กำลังคิดเรื่องคนแปลกหน้า
02:53
but they weren'tเขาไม่ได้ thinkingคิด so dynamicallyแบบไดนามิก about humanเป็นมนุษย์ relationsความสัมพันธ์,
57
161939
2737
แต่พวกเขาไม่ได้คิดเรื่อง
ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์เท่าไหร่นัก
02:56
and they were thinkingคิด about strangersคนแปลกหน้า
58
164676
1369
และพวกเขาคิดเรื่องคนแปลกหน้า
02:58
in the contextบริบท of influencingที่มีอิทธิพลต่อ practicesการปฏิบัติ.
59
166045
2954
ท่ามกลางบริบทของการกระทำที่มีอิทธิพล
03:00
Stanleyสแตนเลย์ MilgramMilgram from the '60s and '70s,
60
168999
2748
สแตนลีย์ มิลแกรม (Stanley Milgram)
จากยุค 60 และ 70
03:03
the creatorผู้สร้าง of the small-worldโลกใบเล็ก experimentsการทดลอง,
61
171747
1986
ผู้สร้างการทดลองโลกใบเล็ก
03:05
whichที่ becameกลายเป็น laterต่อมา popularizedความนิยม as sixหก degreesองศา of separationการแยก,
62
173733
2954
ที่ได้โด่งดังเป็นที่รู้จักในนาม หกระดับของการแบ่งแยก
03:08
madeทำ the pointจุด that any two arbitrarilyโดยพลการ selectedเลือก people
63
176687
3512
เขาบอกว่า คนสองคนที่ถูกเลือกแบบสุ่ม
03:12
were likelyน่าจะ connectedเกี่ยวข้อง from betweenระหว่าง fiveห้า to sevenเจ็ด intermediaryตัวกลาง stepsขั้นตอน.
64
180199
3722
มีแนวโน้มที่จะเชื่อมถึงกันได้ ด้วยขั้นตอนสื่อกลาง 5-7 ขั้น
03:15
His pointจุด was that strangersคนแปลกหน้า are out there.
65
183921
3030
ประเด็นของเขาก็คือ สำหรับคนแปลกหน้าที่อยู่ข้างนอกนั่น
03:18
We can reachมาถึง them. There are pathsเส้นทาง
66
186951
1572
เราสามารถเข้าถึงพวกเขาได้
มันมีหนทางต่างๆ
03:20
that enableทำให้สามารถ us to reachมาถึง them.
67
188523
2686
ที่ทำให้เราเข้าถึงพวกเขาได้
03:23
Markเครื่องหมาย GranovetterGranovetter, StanfordStanford sociologistนักสังคมวิทยา, in 1973
68
191209
3769
มาร์ก กราโนเวตเตอร์ (Mark Granovetter)
นักสังคมวิทยาจากสแตนฟอร์ด
03:26
in his seminalเป็นเชื้อ essayเรียงความ "The Strengthความแข็งแรง of Weakอ่อนแอ Tiesความสัมพันธ์,"
69
194978
2798
ในงานชิ้นสำคัญของเขาเมื่อปี 1973
บทความชื่อ "ความแข็งแกร่งของความสัมพันธ์แบบหลวมๆ"
(The Strength of Weak Ties)
03:29
madeทำ the pointจุด that these weakอ่อนแอ tiesความสัมพันธ์
70
197776
2826
ได้ระบุว่า ความสัมพันธ์แบบหลวมๆเหล่านี้
03:32
that are a partส่วนหนึ่ง of our networksเครือข่าย, these strangersคนแปลกหน้า,
71
200602
2487
เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายของพวกเรา
คนแปลกหน้าเหล่านี้
03:35
are actuallyแท้จริง more effectiveมีประสิทธิภาพ at diffusingฟุ้งกระจาย informationข้อมูล to us
72
203089
2992
จริงๆแล้ว มีประสิทธิภาพ
ในการกระจายข้อมูลให้กับเรามากกว่า
03:38
than are our strongแข็งแรง tiesความสัมพันธ์, the people closestที่อยู่ใกล้ที่สุด to us.
73
206081
4536
ความสัมพันธ์แบบสนิทชิดเชื้อของเรา
ซึ่งก็คือคนที่ใกล้ชิดกับเราที่สุด เสียอีก
03:42
He makesยี่ห้อ an additionalเพิ่มเติม indictmentคำฟ้อง of our strongแข็งแรง tiesความสัมพันธ์
74
210617
3497
เขาได้ระบุเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสัมพันธ์แบบแนบแน่นของเรา
03:46
when he saysกล่าวว่า that these people who are so closeปิด to us,
75
214114
2629
คนเหล่านี้ที่สนิทกับเราเหลือเกิน
03:48
these strongแข็งแรง tiesความสัมพันธ์ in our livesชีวิต,
76
216743
1933
ความสัมพันธ์แนบแน่นเหล่านี้ในชีวิตเรา
03:50
actuallyแท้จริง have a homogenizingการผสมยาง effectผล on us.
77
218676
3427
จริงๆแล้วมีผลลัพธ์เชิงหลอมรวมต่อเรา
03:54
They produceก่อ samenessความเหมือนกัน.
78
222103
2835
พวกเขาสร้างความเหมือน
03:56
My colleaguesเพื่อนร่วมงาน and I at Intelอินเทล have spentการใช้จ่าย the last fewน้อย yearsปี
79
224938
2839
เพื่อนร่วมงานของฉันและตัวฉันเองที่อินเทล
ได้ใช้เวลาช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
03:59
looking at the waysวิธี in whichที่ digitalดิจิตอล platformsแพลตฟอร์ม
80
227777
2616
ดูว่ามีทางไหนบ้างที่ช่องทางดิจิตอล (digital platforms)
04:02
are reshapingการก่อร่างใหม่ our everydayทุกวัน livesชีวิต,
81
230393
1871
จะเปลี่ยนแปลงชีวิตประจำวันของพวกเรา
04:04
what kindsชนิด of newใหม่ routinesกิจวัตร are possibleเป็นไปได้.
82
232264
2617
แบบแผนชีวิตใหม้แบบไหนที่เป็นไปได้
04:06
We'veเราได้ been looking specificallyเฉพาะ at the kindsชนิด
83
234881
1296
เราเฝ้าดูดิจิตอลแพลตฟอร์มต่างๆ
04:08
of digitalดิจิตอล platformsแพลตฟอร์ม that have enabledเปิดการใช้งาน us
84
236177
2711
ที่สามารถทำให้เรา
04:10
to take our possessionsดินแดน, those things that used to be
85
238888
3135
นำของๆเรา สิ่งเหล่านั้นที่เคย
04:14
very restrictedจำกัด to us and to our friendsเพื่อน in our housesบ้าน,
86
242023
3122
ถูกจำกัดอยู่กับพวกเราและเพื่อนของเราในบ้านของเรา
04:17
and to make them availableใช้ได้ to people we don't know.
87
245145
3822
และทำให้มันถูกเข้าถึงได้ โดยคนที่เราไม่รู้จัก
04:20
Whetherว่า it's our clothesเสื้อผ้า, whetherว่า it's our carsรถ,
88
248967
2723
ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าของเรา รถของเรา
04:23
whetherว่า it's our bikesจักรยาน, whetherว่า it's our booksหนังสือ or musicเพลง,
89
251690
2623
จักรยานของเรา หนังสือหรือดนตรีของเรา
04:26
we are ableสามารถ to take our possessionsดินแดน now
90
254313
2993
ตอนนี้ เราสามารถเอาของต่างๆของเรา
04:29
and make them availableใช้ได้ to people we'veเราได้ never metพบ.
91
257306
3431
มาทำให้มันถูกเข้าถึงได้โดยผู้ที่เราไม่เคยเจอมาก่อน
04:32
And we concludedสรุป a very importantสำคัญ insightข้อมูลเชิงลึก,
92
260737
2811
แล้วพวกเราก็สรุปข้อคิดที่สำคัญมาก
04:35
whichที่ was that as people'sของผู้คน relationshipsสัมพันธ์
93
263548
1788
ซึ่งก็คือว่า ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างคน
04:37
to the things in theirของพวกเขา livesชีวิต changeเปลี่ยนแปลง,
94
265336
2541
กับสิ่งของในชีวิตของพวกเขาเปลี่ยนไป
04:39
so do theirของพวกเขา relationsความสัมพันธ์ with other people.
95
267877
3444
ดังนั้น ความสัมพันธ์ของพวกเขากับคนอื่นๆก็เช่นเดียวกัน
04:43
And yetยัง recommendationข้อเสนอแนะ systemระบบ
96
271321
1408
แต่เจ้าระบบแนะนำ
04:44
after recommendationข้อเสนอแนะ systemระบบ continuesอย่างต่อเนื่อง to missนางสาว the boatเรือ.
97
272729
4275
ระบบแล้วระบบเล่าต่างก็พลาดไป
04:49
It continuesอย่างต่อเนื่อง to try to predictทำนาย what I need
98
277004
2549
มันยังคงพยายามทำนายสิ่งที่ฉันต้องการ
04:51
basedซึ่งเป็นรากฐาน on some pastอดีต characterizationการอธิบายลักษณะ of who I am,
99
279553
3240
จากบุคลิกลักษณะในอดีตของฉัน
04:54
of what I've alreadyแล้ว doneเสร็จแล้ว.
100
282793
2296
และสิ่งที่ฉันทำไปแล้ว
04:57
Securityความปลอดภัย technologyเทคโนโลยี after securityความปลอดภัย technologyเทคโนโลยี
101
285089
2504
เทคโนโลยีความปลอดภัย ซ้ำแล้วซ้ำอีก
04:59
continuesอย่างต่อเนื่อง to designออกแบบ dataข้อมูล protectionการป้องกัน
102
287593
2176
ยังคงออกแบบการป้องกันข้อมูล
05:01
in termsเงื่อนไข of threatsภัยคุกคาม and attacksการโจมตี,
103
289769
2405
ในแง่ของภัยคุกคามและการโจมตี
05:04
keepingการเก็บรักษา me lockedล็อค into really rigidเข้มงวด kindsชนิด of relationsความสัมพันธ์.
104
292174
3595
กักขังฉันไว้ให้อยู่ในความสัมพันธ์ที่รัดตรึงมากๆ
05:07
Categoriesหมวดหมู่ like "friendsเพื่อน" and "familyครอบครัว"
105
295769
2496
การแบ่งประเภทอย่าง "เพื่อน" และ "ครอบครัว"
05:10
and "contactsรายชื่อผู้ติดต่อ" and "colleaguesเพื่อนร่วมงาน"
106
298265
2477
และ "ผู้ติดต่อ" และ "เพื่อนร่วมงาน"
05:12
don't tell me anything about my actualที่จริง relationsความสัมพันธ์.
107
300742
3787
ไม่ได้บอกอะไรเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของฉันจริงๆ
05:16
A more effectiveมีประสิทธิภาพ way to think about my relationsความสัมพันธ์
108
304529
2244
วิธีที่มีประสิทธิภาพมากกว่า
ในการคิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของฉัน
05:18
mightอาจ be in termsเงื่อนไข of closenessความสนิทสนม and distanceระยะทาง,
109
306773
2692
อาจจะเป็นในเชิงความใกล้ชิดและความห่างไกล
05:21
where at any givenรับ pointจุด in time, with any singleเดียว personคน,
110
309465
3820
ที่ซึ่ง ณ บางจุดบางเวลา กับใครสักคนหนึ่ง
05:25
I am bothทั้งสอง closeปิด and distantไกล from that individualรายบุคคล,
111
313285
3491
ฉันทั้งสนิทและเหินห่างกับคนๆนั้น
05:28
all as a functionฟังก์ชัน of what I need to do right now.
112
316776
4508
ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ฉันต้องทำตอนนี้
05:33
People aren'tไม่ได้ closeปิด or distantไกล.
113
321284
2638
ผู้คนไม่ได้สนิทสนมหรือเหินห่าง
05:35
People are always a combinationการรวมกัน of the two,
114
323922
3061
ผู้คนมีส่วนผสมของทั้งสองอย่างอยู่เสมอ
05:38
and that combinationการรวมกัน is constantlyนิจศีล changingเปลี่ยนแปลง.
115
326983
3720
และส่วนผสมนั้นก็เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด
05:42
What if technologiesเทคโนโลยี could interveneแทรกแซง
116
330703
2440
ถ้าหากเทคโนโลยีสามารถเข้ามาก้าวก่าย
05:45
to disruptทำลาย the balanceสมดุล of certainบาง kindsชนิด of relationshipsสัมพันธ์?
117
333143
3977
เพื่อทำลายสมดุลของความสัมพันธ์บางประเภทได้ล่ะ?
05:49
What if technologiesเทคโนโลยี could interveneแทรกแซง
118
337120
1961
ถ้าหากเทคโนโลยีสามารถแทรกแซง
05:51
to help me find the personคน that I need right now?
119
339081
4411
เพื่อช่วยฉันในการหาใครสักคนที่ฉันต้องการเดี๋ยวนี้ได้ล่ะ
05:55
Strangenessความไม่ชอบมาพากล is that calibrationการสอบเทียบ
120
343492
2424
ความแปลกหน้าคือ การวัดเชิงเปรียบเทียบ
05:57
of closenessความสนิทสนม and distanceระยะทาง
121
345916
2219
ระหว่างความสนิทกับความห่าง
06:00
that enablesช่วยให้ me to find the people that I need right now,
122
348135
3903
ที่ทำให้ฉันได้เจอผู้คนที่ฉันต้องการเดี๋ยวนี้
06:04
that enablesช่วยให้ me to find the sourcesแหล่งที่มา of intimacyความใกล้ชิด,
123
352038
2990
ที่ทำให้ฉันได้เจอกับแหล่งของความชิดเชื้อ
06:07
of discoveryการค้นพบ, and of inspirationแรงบันดาลใจ that I need right now.
124
355028
4648
ของการค้นพบ และของแรงบันดาลใจที่ฉันต้องการตอนนี้
06:11
Strangenessความไม่ชอบมาพากล is not about meetingการประชุม strangersคนแปลกหน้า.
125
359676
2309
ความแปลกหน้าไม่ใช่เรื่องของการพบคนแปลกหน้า
06:13
It simplyง่ายดาย makesยี่ห้อ the pointจุด that we need
126
361985
2195
ง่ายๆเลย มันเป็นเรื่องของการที่เราต้อง
06:16
to disruptทำลาย our zonesโซน of familiarityความคุ้นเคย.
127
364180
3282
ทำลายพื้นที่ความคุ้นเคยของเรา
06:19
So joggingวิ่งออกกำลังกาย those zonesโซน of familiarityความคุ้นเคย is one way to think about strangenessความไม่ชอบมาพากล,
128
367462
3657
ดังนั้น การเขย่าพื้นที่ความคุ้นเคยเหล่านั้นเบาๆ
เป็นหนทางหนึ่งในการคิดถึงความแปลกหน้า
06:23
and it's a problemปัญหา facedต้องเผชิญกับ not just by individualsบุคคล todayในวันนี้,
129
371119
2704
และมันเป็นปัญหาที่พบเจอ
ไม่ใช่เฉพาะกับคนแต่ละคนทุกวันนี้
06:25
but alsoด้วย by organizationsองค์กร,
130
373823
2230
แต่รวมไปถึงองค์กรต่างๆด้วย
06:28
organizationsองค์กร that are tryingพยายาม to embraceโอบกอด massivelyอย่างหนาแน่น newใหม่ opportunitiesโอกาส.
131
376053
4523
องค์กรที่พยายามแสวงหาโอกาสใหม่ๆมากมาย
06:32
Whetherว่า you're a politicalในทางการเมือง partyพรรค
132
380576
2106
ไม่ว่าคุณจะเป็นพรรคการเมือง
06:34
insistingยืนยัน to your detrimentความเสียหาย on a very rigidเข้มงวด notionความคิด
133
382682
2868
ยืนกรานต่อความเสียหายจากการแบ่งชัด
06:37
of who belongsเป็น and who does not,
134
385550
2388
ระหว่างใครพวกเรา ใครไม่ใช่
06:39
whetherว่า you're the governmentรัฐบาล
135
387938
1493
ไม่ว่าคุณจะเป็นรัฐบาล
06:41
protectingการปกป้อง socialสังคม institutionsสถาบันการศึกษา like marriageการแต่งงาน
136
389431
2698
ที่กำลังปกป้องสถาบันทางสังคมอย่างการแต่งงาน
06:44
and restrictingจำกัด accessทางเข้า of those institutionsสถาบันการศึกษา to the fewน้อย,
137
392129
3893
และจำกัดการเข้าถึงของสถาบันเหล่านั้นให้แก่คนบางกลุ่ม
06:48
whetherว่า you're a teenagerวัยโจ๋ in her bedroomห้องนอน
138
396022
2408
ไม่ว่าคุณจะเป็นสาวน้อยในห้องนอนของเธอ
06:50
who'sใคร tryingพยายาม to jostleกระแทก her relationsความสัมพันธ์ with her parentsพ่อแม่,
139
398430
3188
ที่กำลังกระทบกระทั่งกับพ่อแม่ของเธออยู่
06:53
strangenessความไม่ชอบมาพากล is a way to think about how we paveปู the way
140
401618
3162
ความแปลกหน้าเป็นทางหนึ่งที่จะคิด
06:56
to newใหม่ kindsชนิด of relationsความสัมพันธ์.
141
404780
2474
ว่าเราจะสร้างหนทางไปสู่ความสัมพันธ์แบบใหม่ได้อย่างไร
06:59
We have to changeเปลี่ยนแปลง the normsบรรทัดฐาน.
142
407254
3358
เราต้องเปลี่ยนบรรทัดฐานทางสังคม
07:02
We have to changeเปลี่ยนแปลง the normsบรรทัดฐาน in orderใบสั่ง to enableทำให้สามารถ
143
410612
3030
เราต้องเปลี่ยนบรรทัดฐานเพื่อทำให้
07:05
newใหม่ kindsชนิด of technologiesเทคโนโลยี
144
413642
1938
เทคโนโลยีรูปแบบใหม่
07:07
as a basisรากฐาน for newใหม่ kindsชนิด of businessesธุรกิจ.
145
415580
2789
ได้เป็นพื้นฐานของการทำธุรกิจแบบใหม่
07:10
What interestingน่าสนใจ questionsคำถาม lieโกหก aheadล่วงหน้า for us
146
418369
3733
แล้วคำถามที่น่าสนใจที่อยู่ตรงหน้าเรา
07:14
in this worldโลก of no strangersคนแปลกหน้า?
147
422102
2671
ในโลกที่ไม่มีคนแปลกหน้าคืออะไร
07:16
How mightอาจ we think differentlyต่างกัน about our relationsความสัมพันธ์ with people?
148
424773
3806
เราจะคิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเรากับผู้คน
ให้ต่างไปจากเดิมได้อย่างไร
07:20
How mightอาจ we think differentlyต่างกัน about our relationsความสัมพันธ์
149
428579
3121
เราจะคิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเรากับ
กลุ่มคนกระจัดกระจาย
07:23
with distributedกระจาย groupsกลุ่ม of people?
150
431700
2092
ให้ต่างไปจากเดิมได้อย่างไร
07:25
How mightอาจ we think differentlyต่างกัน about our relationsความสัมพันธ์ with technologiesเทคโนโลยี,
151
433792
4441
เราจะคิดถึงความสัมพันธ์ของเรากับเทคโนโลยี
07:30
things that effectivelyมีประสิทธิภาพ becomeกลายเป็น socialสังคม participantsผู้เข้าร่วม
152
438233
3006
สิ่งที่ได้กลายมาเป็นผู้มีส่วนร่วมทางสังคมตามสิทธิของมัน
07:33
in theirของพวกเขา ownด้วยตัวเอง right?
153
441239
2074
ให้แตกต่างไปจากเดิมได้อย่างไร
07:35
The rangeพิสัย of digitalดิจิตอล relationsความสัมพันธ์ is extraordinaryวิสามัญ.
154
443313
3813
ช่วงของความสัมพันธ์ทางดิจิตอลนั้นน่าทึ่งมาก
07:39
In the contextบริบท of this broadกว้าง rangeพิสัย of digitalดิจิตอล relationsความสัมพันธ์,
155
447126
4557
ท่ามกลางบริบทของความสัมพันธ์ดิจิตอลนี้
07:43
safelyอย่างปลอดภัย seekingที่กำลังมองหา strangenessความไม่ชอบมาพากล mightอาจ very well be
156
451683
2974
การค้นหาความแปลกหน้าอย่างปลอดภัยอาจจะ
07:46
a newใหม่ basisรากฐาน for that innovationนวัตกรรม.
157
454657
2271
เป็นพื้นฐานใหม่สำหรับนวัตกรรมก็เป็นได้
07:48
Thank you.
158
456928
1470
ขอบคุณค่ะ
07:50
(Applauseการปรบมือ)
159
458398
4893
(เสียงปรบมือ)
Translated by Chatthip Chaichakan
Reviewed by Paravee Asava-Anan

▲Back to top

ABOUT THE SPEAKER
Maria Bezaitis - Computer engineer
A principal engineer at Intel, Maria Bezaitis focuses on how constellations of personal data can form new business models.

Why you should listen

Maria Bezaitis examines the social and cultural landscape, charting new directions for technology innovation within it. At Intel, her work focuses on personal data and how it develops relationally – and what this will mean in terms of new business models, the development of new devices and interfaces, and the creation of better security technologies.

Maria joined Intel in June 2006 to direct the People and Practices Research Group. She also played a leadership role at the cutting-edge social research and design organizations, E-Lab and Sapient Corporation. A longtime literature student, Bezaitis finished her Ph.D at Duke University in French Literature.

More profile about the speaker
Maria Bezaitis | Speaker | TED.com