TEDMED 2013
Peter Attia: Is the obesity crisis hiding a bigger problem?
พีเตอร์ แอทเทีย (Peter Attia): ถ้าเราผิดในเรื่องของโรคเบาหวาน
Filmed:
Readability: 4.6
4,258,278 views
ในฐานะแพทย์ผ่าตัดหนุ่ม พีเตอร์ แอทเทีย รู้สึกดูถูกคนไข้ที่เป็นโรคเบาหวานคนหนึ่ง เขาคิดว่า เธอนํ้าหนักตัวมากเกินไป ดังนั้นจึงต้องรับผิดชอบกับความเป็นจริงที่ว่า เธอต้องถูกตัดเท้าทิ้ง แต่หลายปีหลังจากนั้น แอทเทียได้รับเรื่องแปลกใจทางการแพทย์ที่ไม่น่าสบายใจ ซึ่งได้นำเขาไปสู่ความฉงนสงสัยว่า
ความเข้าใจเรื่องโรคเบาหวานของเรานั้นถูกต้องแล้วหรือ
ลางบอกสาเหตุของโรคเบาหวานคือโรคอ้วนใช่หรือ และไม่ใช่ในทางกลับกันหรือ
มาดูกันว่า สมมติฐานที่มีอยู่อาจจะนำเราไปสู่การทำสงครามทางการแพทย์ที่ผิดๆได้อย่างไร
Peter Attia - Surgeon
Both a surgeon and a self-experimenter, Peter Attia hopes to ease the diabetes epidemic by challenging what we think we know and improving the scientific rigor in nutrition and obesity research. Full bio
Both a surgeon and a self-experimenter, Peter Attia hopes to ease the diabetes epidemic by challenging what we think we know and improving the scientific rigor in nutrition and obesity research. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:12
I'll never forget that day
0
146
1678
ผมจะไม่ลืมวันนั้นเลย
00:13
back in the spring of 2006.
1
1824
3899
ย้อนหลังไปในฤดูใบไม้ผลิปี 2006
00:17
I was a surgical resident
2
5723
1579
ตอนนั้นผมเป็นแพทย์ศัลยกรรมฝึกหัด
00:19
at The Johns Hopkins Hospital,
3
7302
2431
ที่โรงพยาบาลจอห์นส์ ฮอพกินส์
(Johns Hopkins)
(Johns Hopkins)
00:21
taking emergency call.
4
9733
1777
คอยรับคนไข้ฉุกเฉิน
00:23
I got paged by the E.R. around 2 in the morning
5
11510
3363
ผมถูกเรียกมาที่ห้องฉุกเฉินตอนประมาณตีสอง
00:26
to come and see a woman with a diabetic ulcer
6
14873
2027
ให้มาดูหญิงคนหนึ่งที่มีแผลเน่าเปื่อย
จากโรคเบาหวาน
จากโรคเบาหวาน
00:28
on her foot.
7
16900
1794
ที่เท้าของเธอ
00:30
I can still remember sort of that smell of rotting flesh
8
18694
3701
ผมยังคงจำ แบบว่ากลิ่นของเนื้อที่เน่านั้น
00:34
as I pulled the curtain back to see her.
9
22395
3627
เมื่อผมดึงม่านออก เพื่อดูเธอ
00:38
And everybody there agreed this woman was very sick
10
26022
2345
และทุกๆคนที่นั่นก็เห็นพ้องกันว่าหญิงคนนี้ป่วยมาก
00:40
and she needed to be in the hospital.
11
28367
1352
และเธอจำเป็นต้องอยู่โรงพยาบาล
00:41
That wasn't being asked.
12
29719
1600
แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่จะต้องถาม
00:43
The question that was being asked of me was a different one,
13
31319
2142
คำถามที่ผมจะถามนั้นต่างออกไป
00:45
which was, did she also need an amputation?
14
33461
3929
ซึ่งก็คือ จำเป็นต้องตัดขาเธอด้วยหรือไม่
00:49
Now, looking back on that night,
15
37390
2967
เมื่อมองย้อนกลับไปในคืนนั้น
00:52
I'd love so desperately to believe that I treated that woman
16
40357
5165
ผมอยากเหลือเกินที่จะเชื่อว่า
ผมให้การรักษาผู้หญิงคนนั้น
ผมให้การรักษาผู้หญิงคนนั้น
00:57
on that night with the same empathy and compassion
17
45522
3136
ในคืนนั้น ด้วยความรู้สึกเข้าใจและเห็นใจ
01:00
I'd shown the 27-year-old newlywed
18
48658
4235
เหมือนเช่น ที่ผมได้แสดงต่อหญิงสาวอายุ 27 ปี
ที่เพิ่งจะแต่งงาน
ที่เพิ่งจะแต่งงาน
01:04
who came to the E.R. three nights earlier
19
52893
1945
ซึ่งมาที่ห้องฉุกเฉิน เมื่อสามคืนก่อนหน้านั้น
01:06
with lower back pain
20
54838
1614
ด้วยอาการเจ็บโคนหลัง
01:08
that turned out to be advanced pancreatic cancer.
21
56452
4249
ซึ่งพบว่ามันเป็นโรคมะเร็งตับอ่อน ที่ลุกลามไปมากแล้ว
01:12
In her case, I knew there was nothing I could do
22
60701
2163
ในกรณีเธอ ผมรู้ว่าผมไม่สามารถทำอะไรได้เลย
01:14
that was actually going to save her life.
23
62864
1768
จะช่วยชีวิตเธอไว้ได้จริงๆ
01:16
The cancer was too advanced.
24
64632
2049
มะเร็งนั้นได้ลุกลามมากเกินไปแล้ว
01:18
But I was committed to making sure that
25
66681
2680
แต่ผมก็มุ่งมั่นที่จะให้แน่ใจได้ว่า
01:21
I could do anything possible to make her stay
26
69361
2423
ผมจะทำทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อให้เธออยู่รอด
01:23
more comfortable. I brought her a warm blanket
27
71784
2423
อย่างสบายกว่านี้ ผมนำผ้าห่มอุ่นมาให้เธอ
01:26
and a cup of a coffee.
28
74207
2720
และกาแฟหนึ่งถ้วย
01:28
I brought some for her parents.
29
76927
2185
ผมนำกาแฟมาให้พ่อแม่เธอด้วย
01:31
But more importantly, see, I passed no judgment on her,
30
79112
3146
แต่ที่สำคัญกว่านะครับ
ผมไม่ได้ด่วนตัดสินประณามเธอ
ผมไม่ได้ด่วนตัดสินประณามเธอ
01:34
because obviously she had done nothing
31
82258
1897
เพราะว่าเห็นได้ชัดว่า เธอไม่ได้ทำอะไรผิด
01:36
to bring this on herself.
32
84155
2174
ที่เอาโรคนี้มาสู่ตัวเธอเอง
01:38
So why was it that, just a few nights later,
33
86329
2813
ดังนั้น ทำไม เพียงแค่สองสามคืนหลังจากนั้น
01:41
as I stood in that same E.R. and determined
34
89142
3158
ขณะที่ผมยืนอยู่ในห้องฉุกเฉินเดิม และตัดสินใจ
01:44
that my diabetic patient did indeed need an amputation,
35
92300
3411
ว่าคนไข้เบาหวานของผม จำเป็นต้องตัดขา
01:47
why did I hold her in such bitter contempt?
36
95711
3904
ทำไมผมจึงดูถูกดูแคลนเธออย่างขมขื่่นแบบนั้น
01:51
You see, unlike the woman the night before,
37
99615
2465
ไม่เหมือนดั่งเช่นกับผู้หญิงเมื่อคืนก่อนนั้น
01:54
this woman had type 2 diabetes.
38
102080
2399
หญิงคนนี้เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2
01:56
She was fat.
39
104479
1552
เธออ้วน
01:58
And we all know that's from eating too much
40
106031
1913
และเราทุกคนรู้ว่า นั่นมาจากการกินมากจนเกินไป
01:59
and not exercising enough, right?
41
107944
2355
และไม่ได้ออกกำลังกายอย่างเพียงพอ ใช่ไหมครับ
02:02
I mean, how hard can it be?
42
110299
2684
ผมหมายถึงว่า มันจะยากขนาดไหนกันเชียว
02:04
As I looked down at her in the bed, I thought to myself,
43
112983
2361
เมื่อผมก้มลงมองเธอบนเตียง ผมก็คิดในใจว่า
02:07
if you just tried caring even a little bit,
44
115344
2888
ถ้าคุณแค่พยายามเอาใจใส่ แม้เพียงนิดเดียว
02:10
you wouldn't be in this situation at this moment
45
118232
2990
คุณก็จะไม่ตกอยู่ในสภาพนี้ ในขณะนี้
02:13
with some doctor you've never met
46
121222
1777
แพทย์ที่คุณไม่เคยพบเห็นมาก่อน
02:14
about to amputate your foot.
47
122999
3815
กำลังจะตัดเท้าคุณทิ้ง
02:18
Why did I feel justified in judging her?
48
126814
3642
ทำไมผมจึงรู้สึกว่าถูกต้องแล้ว ที่ตัดสินเธออย่างนั้น
02:22
I'd like to say I don't know.
49
130456
2569
ผมอยากจะบอกว่า ผมก็ไม่ทราบ
02:25
But I actually do.
50
133025
2036
แต่จริงๆแล้ว ผมรู้
02:27
You see, in the hubris of my youth,
51
135061
2331
ด้วยความอวดดีของคนหนุ่ม
02:29
I thought I had her all figured out.
52
137392
3104
ผมจึงคิดว่า ผมรู้จักเธอทะลุปรุโปร่ง
02:32
She ate too much. She got unlucky.
53
140496
1830
เธอกินมากเกินไป และเธอก็โชคไม่ดี
02:34
She got diabetes. Case closed.
54
142326
3369
เธอก็เป็นโรคเบาหวาน จบเรื่อง
02:37
Ironically, at that time in my life,
55
145695
1403
ถ้าพูดอย่างประชดประชันแล้ว ช่วงเวลานั้น
02:39
I was also doing cancer research,
56
147098
2398
ผมกำลังทำวิจัยโรคมะเร็งอยู่ด้วย
02:41
immune-based therapies for melanoma, to be specific,
57
149496
2343
เรื่อง การรักษามะเร็งผิวหนัง (melanoma)
โดยใช้รากฐานภูมิคุ้มกัน
โดยใช้รากฐานภูมิคุ้มกัน
02:43
and in that world I was actually taught to question everything,
58
151839
3973
และในโลกวิจัยนั้น
ผมถูกสอนให้ตั้งคำถามกับทุกๆสิ่ง
ผมถูกสอนให้ตั้งคำถามกับทุกๆสิ่ง
02:47
to challenge all assumptions
59
155812
2036
ให้ท้าทายกับสมมติฐานทั้งหมด
02:49
and hold them to the highest possible scientific standards.
60
157848
3810
และรักษามันไว้ ให้ได้มาตรฐานวิทยาศาสตร์
สูงสุดเท่าที่จะเป็นได้
สูงสุดเท่าที่จะเป็นได้
02:53
Yet when it came to a disease like diabetes
61
161658
3376
แต่เมื่อมาถึงเรื่องโรค เช่น โรคเบาหวาน
02:57
that kills Americans eight times more frequently than melanoma,
62
165034
3549
ที่ฆ่าคนอเมริกันไปมากกว่ามะเร็งผิวหนังถึงแปดเท่า
03:00
I never once questioned the conventional wisdom.
63
168583
3428
ผมไม่เคยข้องใจแม้แต่สักครั้งเดียว ในความรู้เดิมๆ
03:04
I actually just assmed the pathologic sequence of events
64
172011
3046
แท้จริงแล้ว ผมแค่ทึกทักเอาเอง
ว่าลำดับพยาธิวิทยาของโรคนั้น [ลำดับอาการ]
ว่าลำดับพยาธิวิทยาของโรคนั้น [ลำดับอาการ]
03:07
was settled science.
65
175057
2585
เป็นศาสตร์ที่คงที่ ไม่เปลี่ยนแปลง
03:09
Three years later, I found out how wrong I was.
66
177642
3400
สามปีต่อจากนั้น ผมก็พบว่าผมผิดไปมากมายเพียงใด
03:13
But this time, I was the patient.
67
181042
2600
แต่ครั้งนี้ ผมเป็นผู้ป่วยซะเอง
03:15
Despite exercising three or four hours every single day,
68
183642
3831
แม้จะออกกำลังกายสามหรือสี่ชั่วโมงต่อวัน
03:19
and following the food pyramid to the letter,
69
187473
2565
และแม้จะรับประทานอาหาร
ตามที่กำหนดไว้ในพีระมิดอาหาร ทุกประการ
ตามที่กำหนดไว้ในพีระมิดอาหาร ทุกประการ
03:22
I'd gained a lot of weight and developed something
70
190038
2157
นํ้าหนักตัวผมก็เพิ่มขึ้น และพัฒนาเป็นบางอย่าง
03:24
called metabolic syndrome.
71
192195
2285
ที่เรียกว่า โรคอ้วนลงพุง (metabolic syndrome)
03:26
Some of you may have heard of this.
72
194480
1984
บางท่านอาจจะเคยได้ยินได้ฟังเรื่องนี้มาแล้ว
03:28
I had become insulin-resistant.
73
196464
3445
ผมกลายเป็นโรคภาวะดื้อต่ออินซูลิน (insulin-resistant)
03:31
You can think of insulin as this master hormone
74
199909
2449
คุณสามารถคิดถึงอินซูลินได้ว่า เป็นฮอร์โมนตัวสำคัญ
03:34
that controls what our body does with the foods we eat,
75
202358
4063
ซึ่งควบคุมว่าร่างกายเรา
จะจัดการกับอาหารที่เรากินเข้าไปอย่างไร
จะจัดการกับอาหารที่เรากินเข้าไปอย่างไร
03:38
whether we burn it or store it.
76
206421
2114
ว่าเราจะเผาผลาญมันไป หรือจะเก็บสะสมมันไว้
03:40
This is called fuel partitioning in the lingo.
77
208535
2814
สิ่งนี้ศัพท์เฉพาะเรียกกันว่า การแบ่งสันปันส่วนพลังงาน
(fuel partitioning)
(fuel partitioning)
03:43
Now failure to produce enough insulin is incompatible with life.
78
211349
3176
ทีนี้ ความล้มเหลวที่จะผลิตอินซูลินให้ได้เพียงพอ
นั้นขัดต่อการดำรงชีวิต
นั้นขัดต่อการดำรงชีวิต
03:46
And insulin resistance, as its name suggests,
79
214525
2656
และ อย่างที่ชื่อของมันบอก ภาวะดื้อต่ออินซูลิน
03:49
is when your cells get increasingly resistant
80
217181
2680
ก็คือ เมื่อเซลล์ของคุณต้านทานมากขึ้นเรื่อยๆ
03:51
to the effect of insulin trying to do its job.
81
219861
3513
ต่ออิทธิพลของอินซูลิน
03:55
Once you're insulin-resistant,
82
223374
2176
ทันทีที่คุณเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน
03:57
you're on your way to getting diabetes,
83
225550
1375
คุณก็กำลังดำเนินไปสู่การเป็นโรคเบาหวาน
03:58
which is what happens when your pancreas
84
226925
2064
ซึ่งก็คือ สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อตับอ่อนของคุณ
04:00
can't keep up with the resistance and make enough insulin.
85
228989
3323
ทำงานไม่ทันกับความต้านทานนั้น
และสร้างอินซูลินได้ไม่พอเพียง
และสร้างอินซูลินได้ไม่พอเพียง
04:04
Now your blood sugar levels start to rise,
86
232312
2628
ทีนี้ ระดับนํ้าตาลในเลือดของคุณก็จะเริ่มสูงขึ้น
04:06
and an entire cascade of pathologic events
87
234940
2632
และบรรดาอากัปอาการทั้งหลายก็พรั่งพรูเข้ามา
04:09
sort of spirals out of control that can lead to heart disease,
88
237572
3701
ชนิดที่ว่าหมุนหลุดการควบคุม และนำไปสู่การเกิดโรคหัวใจ
04:13
cancer, even Alzheimer's disease,
89
241273
3609
มะเร็ง หรือแม้โรคสมองเสื่อม (Alzheimer)
04:16
and amputations, just like that woman a few years earlier.
90
244882
4882
และการตัดอวัยวะ เหมือนกับผู้หญิงคนนั้น
เมื่อสองสามปีก่อน
เมื่อสองสามปีก่อน
04:21
With that scare, I got busy changing my diet radically,
91
249764
2961
ด้วยความกลัว ผมจึงวุ่นอยู่กับ
การเปลี่ยนแปลงอาหารที่ผมทานอย่างสุดๆ
การเปลี่ยนแปลงอาหารที่ผมทานอย่างสุดๆ
04:24
adding and subtracting things most of you would find
92
252725
2177
โดยการเพิ่มและตัด สิ่งที่ถ้าพวกคุณส่วนใหญ่เห็นแล้ว
04:26
almost assuredly shocking.
93
254902
3080
จะแทบช็อกแน่ๆ
04:29
I did this and lost 40 pounds, weirdly while exercising less.
94
257982
3879
ผมทำเช่นนั้นและลดนํ้าหนักไป 40 ปอนด์
น่าแปลกนะครับ ในขณะที่ออกกำลังกายน้อยลง
น่าแปลกนะครับ ในขณะที่ออกกำลังกายน้อยลง
04:33
I, as you can see, I guess I'm not overweight anymore.
95
261861
3041
อย่างที่คุณเห็น ผมคิดว่าผมไม่อ้วนแล้ว
04:36
More importantly, I don't have insulin resistance.
96
264902
2167
แต่ที่สำคัญมากกว่านี้ ผมไม่มีอาการภาวะดื้อต่ออินซูลิน
04:39
But most important, I was left
97
267069
2044
แต่ที่สำคัญที่สุดนั้น ผมยังคงถูกทิ้งไว้กับ
04:41
with these three burning questions that wouldn't go away:
98
269113
3849
คำถามสามข้อที่แผดเผาผมอยู่
แบบไม่มอดดับไปไหน
แบบไม่มอดดับไปไหน
04:44
How did this happen to me if I was supposedly
99
272962
2449
สิ่งนี้เกิดกับผมได้อย่างไร ในเมื่อดูเหมือนว่าผม
04:47
doing everything right?
100
275411
2697
ได้ทำทุกสิ่งอย่างถูกต้องแล้ว
04:50
If the conventional wisdom about nutrition had failed me,
101
278108
3035
ถ้าความรู้เดิมๆเกี่ยวกับโภชนาการ
ทำให้ผมผิดพลาด
ทำให้ผมผิดพลาด
04:53
was it possible it was failing someone else?
102
281143
3787
จะเป็นไปได้หรือไม่ ที่มันก็ทำให้คนอื่นผิดพลาดมาเช่นกัน
04:56
And underlying these questions,
103
284930
1900
และด้วยพื้นฐานสำคัญที่ซ่อนอยู่ในคำถามเหล่านี้
04:58
I became almost maniacally obsessed
104
286830
3246
ผมเกือบที่จะหมกมุ่นกับมันอย่างบ้าคลั่ง
05:02
in trying to understand the real relationship
105
290076
2727
ในความพยายามที่จะเข้าใจ ความสัมพันธ์ที่แท้จริง
05:04
between obesity and insulin resistance.
106
292803
3630
ระหว่างโรคอ้วน กับภาวะดื้อต่ออินซูลิน
05:08
Now, most researchers believe obesity
107
296433
2816
ปัจจุบัน นักวิจัยส่วนมากเชื่่อว่าโรคอ้วน
05:11
is the cause of insulin resistance.
108
299249
3392
เป็นสาเหตุของภาวะดื้อต่ออินซูลิน
05:14
Logically, then, if you want to treat insulin resistance,
109
302641
2115
โดยตรรกะแล้ว ถ้าคุณต้องการรักษาภาวะดื้อต่ออินซูลิน
05:16
you get people to lose weight, right?
110
304756
1892
คุณก็ให้คนลดนํ้าหนัก ใช่หรือไม่ครับ
05:18
You treat the obesity.
111
306648
2764
คุณรักษาโรคอ้วน
05:21
But what if we have it backwards?
112
309412
2706
ถ้าเราทำมันย้อนกลับล่ะ
05:24
What if obesity isn't the cause of insulin resistance at all?
113
312118
3371
แล้วถ้าโรคอ้วน
ไม่ได้เป็นสาเหตุของภาวะดื้อต่ออินซูลินเลย
ไม่ได้เป็นสาเหตุของภาวะดื้อต่ออินซูลินเลย
05:27
In fact, what if it's a symptom of a much deeper problem,
114
315489
3920
แต่ที่จริงแล้ว ถ้ามันเป็นอาการหนึ่ง
ของปัญหาที่อยู่ลึกลงไปมากกว่านั้น
ของปัญหาที่อยู่ลึกลงไปมากกว่านั้น
05:31
the tip of a proverbial iceberg?
115
319409
2822
เป็นดั่ง แค่ปลายยอดของภูเขานํ้าแข็งล่ะ
05:34
I know it sounds crazy because we're obviously in the midst
116
322231
2643
ผมก็รู้ว่า ฟังดูมันไม่เข้าท่า
เพราะเป็นที่ชัดเจนว่าเราอยู่ท่ามกลาง
เพราะเป็นที่ชัดเจนว่าเราอยู่ท่ามกลาง
05:36
of an obesity epidemic, but hear me out.
117
324874
3219
การระบาดของโรคอ้วน แต่ฟังผมก่อนนะครับ
05:40
What if obesity is a coping mechanism
118
328093
3214
แล้วถ้าโรคอ้วนเป็นกลไกเพื่อรับมือ
05:43
for a far more sinister problem going on
119
331307
3602
กับปัญหาที่ร้ายแรงมากกว่าสิ่งที่กำลังเป็นอยู่
05:46
underneath the cell?
120
334909
1482
ภายในเซลล์นั้นล่ะ
05:48
I'm not suggesting that obesity is benign,
121
336391
2366
ผมไม่ได้แนะว่าโรคอ้วนนั้นไม่เป็นอันตราย
05:50
but what I am suggesting is it may be the lesser
122
338757
2303
แต่สิ่งที่ผมกำลังเสนอแนะอยู่ขณะนี้ก็คือ
มันอาจจะร้ายแรงน้อยกว่า
มันอาจจะร้ายแรงน้อยกว่า
05:53
of two metabolic evils.
123
341060
2711
เมื่อเทียบกับการเผาผลาญอาหารที่ผิดปกตินั้น
05:55
You can think of insulin resistance as the reduced capacity
124
343771
3019
คุณอาจคิดถึงภาวะดื้อต่ออินซูลินได้ว่า
เหมือนกับความสามารถที่ลดลง
เหมือนกับความสามารถที่ลดลง
05:58
of ourselves to partition fuel,
125
346790
1987
ของตัวเราเองในการแบ่งเชื้อพลังงาน
06:00
as I alluded to a moment ago,
126
348777
2291
ตามที่ได้พูดเป็นนัยไว้แล้วเมื่อครู่นี้
06:03
taking those calories that we take in
127
351068
1922
เอาพลังงานจากที่เรารับประทานเข้าไป
06:04
and burning some appropriately and storing some appropriately.
128
352990
3439
เผาผลาญไปบ้างอย่างพอเหมาะ
และเก็บเอาไว้บ้างอย่างพอเหมาะ
และเก็บเอาไว้บ้างอย่างพอเหมาะ
06:08
When we become insulin-resistant,
129
356429
1642
แต่เมื่อเราเป็นโรคภาวะดื้อต่ออินซูลิน
06:10
the homeostasis in that balance deviates from this state.
130
358071
3367
ความสมดุลย์ในร่างกายเบี่ยงเบนไปจากภาวะธำรงดุลย์
(homeostasis)
(homeostasis)
06:13
So now, when insulin says to a cell,
131
361438
2128
ดังนั้น เมื่ออินซูลินบอกกับเซลล์ว่า
06:15
I want you to burn more energy
132
363566
2045
ฉันต้องการให้คุณเผาผลาญพลังงานให้มากขึ้น
06:17
than the cell considers safe, the cell, in effect, says,
133
365611
2435
มากกว่าที่เซลล์นั้นพิจารณาว่าปลอดภัย
เซลล์ตัวนั้นก็ต้องบอกว่า
เซลล์ตัวนั้นก็ต้องบอกว่า
06:20
"No thanks, I'd actually rather store this energy."
134
368046
4432
"ไม่ได้ครับ จริงๆผมควรจะสะสมพลังงานนี้ไว้มากกว่า"
06:24
And because fat cells are actually missing most of
135
372478
1902
และเพราะว่า จริงๆแล้วเซลล์ไขมัน (fat cell) จะขาด
06:26
the complex cellular machinery found in other cells,
136
374380
2802
กลไกเซลล์ที่ซับซ้อนส่วนใหญ่ที่พบได้ในเซลล์อื่นๆ
06:29
it's probably the safest place to store it.
137
377182
2771
มันจึงน่าจะเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุด ที่จะเก็บสะสมพลังงานไว้
06:31
So for many of us, about 75 million Americans,
138
379953
4969
ดังนั้น สำหรับพวกเราจำนวนมาก
คนอเมริกันประมาณ 75 ล้านคน
คนอเมริกันประมาณ 75 ล้านคน
06:36
the appropriate response to insulin resistance
139
384922
3615
การตอบรับที่เหมาะสม ต่อภาวะดื้อต่ออินซูลิน
06:40
may actually be to store it as fat, not the reverse,
140
388537
4929
ที่่จริงแล้ว อาจเป็นการเก็บสะสมพลังงานไว้
ในรูปไขมัน ไม่ใช่ในทางกลับกัน
ในรูปไขมัน ไม่ใช่ในทางกลับกัน
06:45
getting insulin resistance in response to getting fat.
141
393466
5344
กล่าวคือ การเป็นโรคภาวะดื้อต่ออินซูลิน
เพื่อตอบสนองต่ออาการอ้วนขึ้น
เพื่อตอบสนองต่ออาการอ้วนขึ้น
06:50
This is a really subtle distinction,
142
398810
2175
สิ่งนี้เป็น ที่จริงแล้วไม่ได้ชัดเจนนัก
06:52
but the implication could be profound.
143
400985
3367
แต่ผลจากมันอาจเป็นอะไรที่ลึกซึ้ง
06:56
Consider the following analogy:
144
404352
2498
ลองพิจารณาการเปรียบเทียบต่อไปนี้ดู
06:58
Think of the bruise you get on your shin
145
406850
2969
คิดถึงรอยฟกชํ้าที่หน้าแข้งของคุณ
07:01
when you inadvertently bang your leg into the coffee table.
146
409819
3592
เมื่อคุณเลินเล่อเอาขาไปกระแทกกับโต๊ะกาแฟ
07:05
Sure, the bruise hurts like hell, and you almost certainly
147
413411
2887
แน่นอน รอยฟกชํ้านั้นเจ็บปวดนัก
และค่อนข้างจะแน่ใจได้ว่า
และค่อนข้างจะแน่ใจได้ว่า
07:08
don't like the discolored look, but we all know
148
416298
2981
คุณคงไม่ชอบสีที่เปลี่ยนไปนั้น แต่เราทุกคนรู้ว่า
07:11
the bruise per se is not the problem.
149
419279
3453
รอยฟกชํ้าโดยตัวของมันเองแล้ว ไม่ใช่ปัญหา
07:14
In fact, it's the opposite. It's a healthy response to the trauma,
150
422732
3742
ความจริง มันตรงกันข้าม
มันเป็นการตอบรับที่ดีต่ออาการบาดเจ็บ
มันเป็นการตอบรับที่ดีต่ออาการบาดเจ็บ
07:18
all of those immune cells rushing to the site of the injury
151
426474
2761
เซลล์ภูมิคุ้มกันทั้งหลายนั้น
รีบเร่งไปยังที่ที่ได้รับบาดเจ็บ
รีบเร่งไปยังที่ที่ได้รับบาดเจ็บ
07:21
to salvage cellular debris and prevent the spread
152
429235
2984
เพื่อกอบกู้เศษชิ้นส่วนของเซลล์
และป้องกันการแพร่กระจาย
และป้องกันการแพร่กระจาย
07:24
of infection to elsewhere in the body.
153
432219
2698
ของการอักเสบไปยังส่วนอื่นของร่างกาย
07:26
Now, imagine we thought bruises were the problem,
154
434917
3722
เอาละ ลองจินตนาการดูว่า
ถ้าเราคิดว่ารอยฟกชํ้าเป็นปัญหา
ถ้าเราคิดว่ารอยฟกชํ้าเป็นปัญหา
07:30
and we evolved a giant medical establishment
155
438639
2868
และเราได้พัฒนาสถาบันทางการแพทย์ที่ยิ่งใหญ่
07:33
and a culture around treating bruises:
156
441507
3140
และแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการรักษาโรคฟกชํ้า ซึ่งได้แก่
07:36
masking creams, painkillers, you name it,
157
444647
3283
การพอกด้วยครีม ทานยาแก้ปวด และอื่นๆ
07:39
all the while ignoring the fact that people
158
447930
2226
ในขณะที่ไม่สนใจกับข้อเท็จจริงที่ว่า ผู้คนนั้น
07:42
are still banging their shins into coffee tables.
159
450156
3620
ก็ยังคงเอาหน้าแข้งไปกระแทกกับโต๊ะกาแฟ
อยู่เหมือนเดิม
อยู่เหมือนเดิม
07:45
How much better would we be if we treated the cause --
160
453776
3203
มันดีกว่าเพียงใด ถ้าเรารักษาที่ต้นเหตุ--
07:48
telling people to pay attention
161
456979
1565
ด้วยการบอกผู้คนให้เอาใจใส่
07:50
when they walk through the living room --
162
458544
1603
เมื่อพวกเขาเดินอยู่ในห้องนั่งเล่น--
07:52
rather than the effect?
163
460147
3273
มากกว่าจะสนใจแผลฟกช้ำที่เกิดนั้น
07:55
Getting the cause and the effect right
164
463420
1877
การได้มาซึ่งสาเหตุและผลที่ถูกต้อง
07:57
makes all the difference in the world.
165
465297
2479
ทำให้เกิดความแตกต่างขึ้นในโลกนี้
07:59
Getting it wrong, and the pharmaceutical industry
166
467776
3079
ถ้ามันไม่ถูกต้อง อุตสาหกรรมยา
08:02
can still do very well for its shareholders
167
470855
2680
ก็ยังคงทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำให้กับผู้ถือหุ้นในบริษัท
08:05
but nothing improves for the people with bruised shins.
168
473535
3916
แต่สำหรับคนที่หน้าแข้งฟกชํ้าแล้ว มันไม่มีอะไรดีขึ้นเลย
08:09
Cause and effect.
169
477451
2844
เหตุและผล
08:12
So what I'm suggesting is
170
480295
1837
ดังนั้นสิ่งที่ผมกำลังจะแนะก็คือ
08:14
maybe we have the cause and effect wrong
171
482132
2757
มันอาจเป็นไปได้ว่า เราได้มาซึ่งเหตุและผลที่ไม่ถูกต้อง
08:16
on obesity and insulin resistance.
172
484889
2634
ในเรื่องโรคอ้วนและโรคภาวะดื้อต่ออินซูลิน
08:19
Maybe we should be asking ourselves,
173
487523
1777
บางที่ เราควรจะถามตัวเองว่า
08:21
is it possible that insulin resistance causes weight gain
174
489300
3885
เป็นไปได้หรือไม่ที่ ภาวะดื้อต่ออินซูลิน
ทำให้เกิดนํ้าหนักตัวเพิ่มขึ้น
ทำให้เกิดนํ้าหนักตัวเพิ่มขึ้น
08:25
and the diseases associated with obesity,
175
493185
2066
และทำให้เกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วน
08:27
at least in most people?
176
495251
1530
อย่างน้อยที่สุดก็กับผู้คนส่วนมาก
08:28
What if being obese is just a metabolic response
177
496781
3000
ถ้าหากการเป็นโรคอ้วนนั้น
เป็นเพียงการเผาผลาญในร่างกายที่ตอบรับ
เป็นเพียงการเผาผลาญในร่างกายที่ตอบรับ
08:31
to something much more threatening,
178
499781
2221
ต่อบางสิ่งบางอย่างที่มีผลคุกคามกว่านั้นมาก
08:34
an underlying epidemic,
179
502002
2211
โรคระบาดที่ซ่อนอยู่
08:36
the one we ought to be worried about?
180
504213
2557
ที่เราควรจะปริวิตกกับมัน
08:38
Let's look at some suggestive facts.
181
506770
1472
เราลองมาดูข้อเท็จจริงเชิงเสนอแนะบางข้อ
08:40
We know that 30 million obese Americans
182
508242
2486
เราทราบว่า ในสหรัฐอเมริกา
08:42
in the United States don't have insulin resistance.
183
510728
2973
คนอเมริกัน30 ล้านคนที่อ้วน ไม่ได้เป็นโรคภาวะดื้อต่ออินซูลิน
08:45
And by the way, they don't appear to be at any
184
513701
1937
และอีกอย่าง พวกเขานั้น ดูเหมือนจะไม่ได้มี
08:47
greater risk of disease than lean people.
185
515638
3080
ความเสี่ยงต่อโรคอะไรไปมากกว่าคนที่ผอมเลย
08:50
Conversely, we know that six million lean people
186
518718
2884
ในทางกลับกัน เราทราบว่าคนผอมหกล้านคน
08:53
in the United States are insulin-resistant,
187
521602
3437
ในสหรัฐอเมริกา เป็นโรคภาวะดื้อต่ออินซูลิน
08:57
and by the way, they appear to be at even greater risk
188
525039
3067
และ พวกเขาดูเหมือนจะมีความเสี่ยง
09:00
for those metabolic disease I mentioned a moment ago
189
528106
2155
กับโรคเกี่ยวกับการเผาผลาญพวกนั้น
ที่ผมได้กล่าวถึงเมื่อสักครู่นี้
ที่ผมได้กล่าวถึงเมื่อสักครู่นี้
09:02
than their obese counterparts.
190
530261
1822
ยิ่งกว่าเพื่อนๆที่อ้วนของเขาเสียอีก
09:04
Now I don't know why, but it might be because,
191
532083
2237
ขณะนี้ ผมไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร แต่อาจเป็นเพราะว่า
09:06
in their case, their cells haven't actually figured out
192
534320
2690
ในกรณีของเขาเหล่านั้น เซลล์ของเขา จริงๆมิอาจรู้
09:09
the right thing to do with that excess energy.
193
537010
3285
ว่าจะปฎิบัติให้ถูกต้องอย่างไรกับพลังงานที่มากเกินไปนั้น
09:12
So if you can be obese and not have insulin resistance,
194
540295
3319
ดังนั้น ถ้าคุณอ้วน
โดยไม่เป็นโรคภาวะดื้อต่ออินซูลิน
โดยไม่เป็นโรคภาวะดื้อต่ออินซูลิน
09:15
and you can be lean and have it,
195
543614
1871
และคุณผอมแต่เป็นโรคนั้น
09:17
this suggests that obesity may just be a proxy
196
545485
4433
สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่า โรคอ้วนอาจจะเป็นแค่เพียงตัวแทน
ที่ทำให้เห็น
ที่ทำให้เห็น
09:21
for what's going on.
197
549918
3024
ว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นอยู่
09:24
So what if we're fighting the wrong war,
198
552942
2415
ดังนั้น เป็นไปได้ไหมที่เรากำลังทำสงครามผิดเป้าหมาย
09:27
fighting obesity rather than insulin resistance?
199
555357
3800
ต่อสู้โรมรันกับโรคอ้วน
แทนที่จะไปต่อสู้กับภาวะดื้อต่ออินซูลิน
แทนที่จะไปต่อสู้กับภาวะดื้อต่ออินซูลิน
09:31
Even worse, what if blaming the obese
200
559157
3243
ที่แย่ไปกว่านั้น
ถ้าการกล่าวโทษความอ้วน
ถ้าการกล่าวโทษความอ้วน
09:34
means we're blaming the victims?
201
562400
2725
คือการที่เรากำลังกล่าวโทษเหยื่อที่เป็นโรคนั้นล่ะ
09:37
What if some of our fundamental ideas about obesity
202
565125
3719
ถ้าแนวคิดพื้นฐานของเราเรื่องโรคอ้วนนั้น
09:40
are just wrong?
203
568844
1858
มันเป็นเพียงความผิดพลาดล่ะ
09:42
Personally, I can't afford the luxury of arrogance anymore,
204
570702
4123
โดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่สามารถ
ที่จะมีความหยิ่งยะโสอย่างสุดโต่งได้อีกต่อไปแล้ว
ที่จะมีความหยิ่งยะโสอย่างสุดโต่งได้อีกต่อไปแล้ว
09:46
let alone the luxury of certainty.
205
574825
2583
อย่าว่าแต่ความความแน่ใจอันสุดโต่งเลย
09:49
I have my own ideas about what could be at the heart of this,
206
577408
2846
ผมมีแนวคิดของตัวเอง เกี่ยวกับสิ่งที่อาจเป็น
หัวใจสำคัญของเรื่องนี้
หัวใจสำคัญของเรื่องนี้
09:52
but I'm wide open to others.
207
580254
1912
แต่ผมก็เปิดกว้างต่อความคิดอื่นๆด้วย
09:54
Now, my hypothesis, because everybody always asks me,
208
582166
2719
เพราะว่าทุกๆคนถามผมอยู่เสมอ
สมมติฐานของผม
สมมติฐานของผม
09:56
is this.
209
584885
1617
ก็คือ
09:58
If you ask yourself, what's a cell trying to protect itself from
210
586502
3129
ถ้าคุณถามตัวเองว่า เซลล์พยายามจะปกป้องตัวมันเองจากอะไร
10:01
when it becomes insulin resistant,
211
589631
1727
เมื่อมันเป็นโรคภาวะดื้อต่ออินซูลิน
10:03
the answer probably isn't too much food.
212
591358
2675
คำตอบไม่น่าจะเป็น อาหารที่มากเกินไป
10:06
It's more likely too much glucose: blood sugar.
213
594033
3650
น่าจะเป็น กลูโคสที่มากเกินไป เช่น นํ้าตาลในเลือด
10:09
Now, we know that refined grains and starches
214
597683
2294
ทีนี้ เราทราบว่าข้าวที่สีจนขาว และแป้ง
10:11
elevate your blood sugar in the short run,
215
599977
2056
ทำให้นํ้าตาลในเลือดสูงขึ้นในเวลาสั้นๆ
10:14
and there's even reason to believe that sugar
216
602033
1908
และมีเหตุผลที่จะเชื่อได้เสียด้วยว่า นํ้าตาล
10:15
may lead to insulin resistance directly.
217
603941
2801
อาจจะนำไปสู่ภาวะดื้อต่ออินซูลินโดยตรง
10:18
So if you put these physiological processes to work,
218
606742
4095
ดังนั้น ถ้าให้กระบวนการสรีรวิทยาพวกนี้ทำหน้าที่
10:22
I'd hypothesize that it might be our increased intake
219
610837
3473
ผมก็จะตั้งสมมติฐานว่า อาจเป็นการบริโภคที่เพิ่มขึ้น
10:26
of refined grains, sugars and starches that's driving
220
614310
2863
ในอาหารจำพวก เมล็ดพืชที่ขัดจนขาว นํ้าตาลและแป้ง
ที่ผลักดันให้เกิด
ที่ผลักดันให้เกิด
10:29
this epidemic of obesity and diabetes,
221
617173
4651
การระบาดของโรคอ้วน และโรคเบาหวาน
10:33
but through insulin resistance,
222
621824
1838
แต่โดยผ่านทางภาวะดื้อต่ออินซูลิน
10:35
you see, and not necessarily through just overeating and under-exercising.
223
623662
3912
ครับ และไม่จำเป็นต้อง แค่โดยการกินมากเกินไป
และออกกำลังกายน้อยเกินไป
และออกกำลังกายน้อยเกินไป
10:39
When I lost my 40 pounds a few years ago,
224
627574
2585
ตอนที่ผมนํ้าหนักลดลงไป 40 ปอนด์
เมื่อสองสามปีก่อนนั้น
เมื่อสองสามปีก่อนนั้น
10:42
I did it simply by restricting those things,
225
630159
2600
ผมทำเพียงแค่จำกัดสิ่งเหล่านั้น
10:44
which admittedly suggests I have a bias
226
632759
3456
ซึ่งเป็นนัยให้ยอมรับว่า ผมมีอคติ
10:48
based on my personal experience.
227
636215
2361
จากพื้นฐานประสบการณ์ส่วนตัวของผม
10:50
But that doesn't mean my bias is wrong,
228
638576
2655
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า อคติของผมนั้นผิด
10:53
and most important, all of this can be tested scientifically.
229
641231
3953
และที่สำคัญที่สุด ทุกอย่างนี้สามารถทดสอบได้
ทางวิทยาศาสตร์
ทางวิทยาศาสตร์
10:57
But step one is accepting the possibility
230
645184
3107
แต่ขั้นแรกคือ การยอมรับความเป็นไปได้
11:00
that our current beliefs about obesity,
231
648291
2372
ว่าความเชื่อในปัจจุบันของเราเรื่องโรคอ้วน
11:02
diabetes and insulin resistance could be wrong
232
650663
3006
โรคเบาหวาน และภาวะดื้อต่ออินซูลิน อาจจะผิดก็ได้
11:05
and therefore must be tested.
233
653669
2875
ด้วยเหตุนี้ จึงต้องมีการทดสอบ
11:08
I'm betting my career on this.
234
656544
2391
ผมขอเอาอาชีพของผมเป็นเดิมพัน
11:10
Today, I devote all of my time to working on this problem,
235
658935
4125
ทุกวันนี้ ผมอุทิศเวลาทั้งหมดของผม
ในการทำงานแก้ปัญหานี้
ในการทำงานแก้ปัญหานี้
11:15
and I'll go wherever the science takes me.
236
663060
3173
และผมจะย่างไม่ว่าที่ใดก็ตามที่วิทยาศาสตร์พาผมไป
11:18
I've decided that what I can't and won't do anymore
237
666233
3531
ผมได้ตัดสินใจแล้วว่า สิ่งที่ผมทำไม่ได้
และจะไม่ทำอีกต่อไปนั้น
และจะไม่ทำอีกต่อไปนั้น
11:21
is pretend I have the answers when I don't.
238
669764
3044
คือ แสร้งทำเป็นว่าผมมีคำตอบ
ในขณะที่ผมไม่มี
ในขณะที่ผมไม่มี
11:24
I've been humbled enough by all I don't know.
239
672808
4108
ผมได้ถูกทำให้อ่อนน้อมถ่อมตัวเพียงพอแล้ว
โดยทุกๆคนที่ผมไม่รู้จัก
โดยทุกๆคนที่ผมไม่รู้จัก
11:28
For the past year, I've been fortunate enough
240
676916
2157
ในปีที่แล้ว ผมโชคดีเพียงพอ
11:31
to work on this problem with the most amazing team
241
679073
3413
ที่ได้ทำงานแก้ปัญหานี้ กับกลุ่มวิจัยที่น่าทึ่งที่สุดในประเทศ
11:34
of diabetes and obesity researchers in the country,
242
682486
3404
เรื่องโรคเบาหวานและโรคอ้วน
11:37
and the best part is,
243
685890
1305
และส่วนที่ดีที่สุดก็คือ
11:39
just like Abraham Lincoln surrounded himself with a team of rivals,
244
687195
3899
เหมือนกับอับราฮัม ลินคอล์น
ที่ล้อมรอบตัวเองด้วยทีมคู่แข่ง
ที่ล้อมรอบตัวเองด้วยทีมคู่แข่ง
11:43
we've done the same thing.
245
691094
1496
เราก็ได้ทำสิ่งเดียวกันนั้น
11:44
We've recruited a team of scientific rivals,
246
692590
3263
เรารับกลุ่มคู่แข่งทางวิทยาศาสตร์ เข้ามาทำงาน
11:47
the best and brightest who all have different hypotheses
247
695853
3445
คนที่ดีที่สุดและฉลาดที่สุด
ซึ่งทั้งหมดมีสมมติฐานที่แตกต่างกัน
ซึ่งทั้งหมดมีสมมติฐานที่แตกต่างกัน
11:51
for what's at the heart of this epidemic.
248
699298
1614
ต่อเรื่องที่เป็นหัวใจสำคัญของโรคระบาดนี้
11:52
Some think it's too many calories consumed.
249
700912
2381
บางคนคิดว่า มันเป็นการบริโภคแคลอรี่มากเกินไป
11:55
Others think it's too much dietary fat.
250
703293
2379
คนอื่นๆคิดว่า มันเป็นไขมันในอาหารที่มากเกินไป
11:57
Others think it's too many refined grains and starches.
251
705672
3470
คนอื่นๆคิดว่า เป็นเมล็ดพืชที่ขัดจนขาวและแป้งที่มากเกินไป
12:01
But this team of multi-disciplinary,
252
709142
2608
แต่กลุ่มที่มาจากหลากหลายสาขาวิชา
12:03
highly skeptical and exceedingly talented researchers
253
711750
2984
นักวิจัยที่ช่างสงสัย
และมีพรสวรรค์มากเหลือเกินนี้
และมีพรสวรรค์มากเหลือเกินนี้
12:06
do agree on two things.
254
714734
2288
เห็นตรงกันได้ในสองเรื่อง
12:09
First, this problem is just simply too important
255
717022
3649
ประการแรก ปัญหานี้สำคัญเกินกว่า
12:12
to continue ignoring because we think we know the answer.
256
720671
2743
จะเพิกเฉยต่อไปอีก เพราะว่าเราคิดว่าเรารู้คำตอบแล้ว
12:15
And two, if we're willing to be wrong,
257
723414
2784
ประการที่สอง ถ้าเราเต็มใจยอมรับว่ามันผิด
12:18
if we're willing to challenge the conventional wisdom
258
726198
2537
ถ้าเราเต็มใจที่จะท้าทายความรู้แบบเดิมๆนั้น
12:20
with the best experiments science can offer,
259
728735
3063
ด้วยการทดลองที่ดีที่สุด ที่วิทยาศาตร์นั้นจะมีให้
12:23
we can solve this problem.
260
731798
2305
เราก็จะสามารถแก้ปัญหานี้ได้
12:26
I know it's tempting to want an answer right now,
261
734103
3055
ผมทราบว่า มันเย้ายวนใจที่เอาคำตอบในตอนนี้
12:29
some form of action or policy, some dietary prescription --
262
737158
4497
ในรูปแบบของการปฏิบัติหรือนโยบาย
คำสั่งควบคุมอาหารจากแพทย์ บางอย่าง เช่น
คำสั่งควบคุมอาหารจากแพทย์ บางอย่าง เช่น
12:33
eat this, not that —
263
741655
1729
กินนี่สิ นั่นกินไม่ได้
12:35
but if we want to get it right,
264
743384
1680
แต่ถ้าเราต้องการที่จะได้คำตอบที่ถูกต้อง
12:37
we're going to have to do much more rigorous science
265
745064
2234
เราจะต้องทำงานวิทยาศาสตร์ที่เคร่งครัดยิ่งกว่านี้มาก
12:39
before we can write that prescription.
266
747298
2853
ก่อนที่เราจะสามารถเขียนใบสั่งยาได้
12:42
Briefly, to address this, our research program
267
750151
2599
โดนสรุป เพื่อจัดการปัญหานี้ โครงการวิจัยของเรา
12:44
is focused around three meta-themes, or questions.
268
752750
3243
จึงเน้นไปยังแนวคิดหลัก หรือคำถามสามข้อ
12:47
First, how do the various foods we consume
269
755993
2895
ข้อแรก อาหารต่างๆที่เราบริโภคเข้าไป
12:50
impact our metabolism, hormones and enzymes,
270
758888
2801
ส่งผลกระทบต่อการเผาผลาญ ฮอร์โมนและเอ็นไซม์ อย่างไร
12:53
and through what nuanced molecular mechanisms?
271
761689
2818
และผ่านทางกลไกระดับโมเลกุลแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
12:56
Second, based on these insights,
272
764507
2250
ข้อสอง จากพื้นฐานความเข้าใจอย่างถ่องแท้เหล่านี้
12:58
can people make the necessary changes in their diets
273
766757
2959
ผู้คนจะสามารถทำการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ
ในเรื่องอาหารที่รับประทาน
ในเรื่องอาหารที่รับประทาน
13:01
in a way that's safe and practical to implement?
274
769716
3731
ในวิธีการที่ปลอดภัยและนำไปปฏิบัติได้จริงหรือไม่
13:05
And finally, once we identify what safe
275
773447
3009
และข้อสุดท้าย ทันทีที่เราระบุได้ว่า
อะไรที่ปลอดภัย
อะไรที่ปลอดภัย
13:08
and practical changes people can make to their diet,
276
776456
3028
และสามารถนำไปใช้
ในการควบคุมอาหารของตนได้แล้ว
ในการควบคุมอาหารของตนได้แล้ว
13:11
how can we move their behavior in that direction
277
779484
3675
เราจะทำอย่างไรจึงจะเปลี่ยนพฤติกรรมของพวกเขา
ให้ไปในทิศทางนั้นได้
ให้ไปในทิศทางนั้นได้
13:15
so that it becomes more the default
278
783159
2253
เพื่อที่มันจะได้เป็นมาตราฐาน
13:17
rather than the exception?
279
785412
1856
มากกว่าที่จะเป็นข้อยกเว้น
13:19
Just because you know what to do doesn't mean
280
787268
2420
เพียงแค่เพราะว่าคุณรู้ว่าจะทำอะไร
ไม่ได้หมายความว่า
ไม่ได้หมายความว่า
13:21
you're always going to do it.
281
789688
1509
คุณจะทำสิ่งนั้นอยู่เสมอๆ
13:23
Sometimes we have to put cues around people
282
791197
2128
บางครั้งเราต้องเอาสิ่งกระตุ้นทั้งหลายไว้รอบๆผู้คน
13:25
to make it easier, and believe it or not,
283
793325
2303
เพื่อให้ง่ายขึ้น และเชื่่อหรือไม่ครับ
13:27
that can be studied scientifically.
284
795628
3641
ว่าสิ่งนั้นสามารถศึกษาได้ในเชิงวิทยาศาสตร์
13:31
I don't know how this journey is going to end,
285
799269
2584
ผมไม่รู้ว่า การเดินทางครั้งนี้จะสิ้นสุดลงอย่างไร
13:33
but this much seems clear to me, at least:
286
801853
4213
แต่สิ่งนี้ อย่างน้อยที่สุดก็
ดูจะชัดเจนอย่างมากสำหรับผม
ดูจะชัดเจนอย่างมากสำหรับผม
13:38
We can't keep blaming our overweight and diabetic patients
287
806066
4996
เราจะกล่าวโทษคนไข้ของเรา ที่อ้วนเกินไป
และเป็นเบาหวานไม่ได้อีกต่อไป
และเป็นเบาหวานไม่ได้อีกต่อไป
13:43
like I did.
288
811062
2912
เหมือนที่ผมเคยทำมาแล้ว
13:45
Most of them actually want to do the right thing,
289
813974
2279
จริงๆแล้ว พวกเขาส่วนมากต้องการทำในสิ่งที่ถูกต้อง
13:48
but they have to know what that is,
290
816253
3369
แต่พวกเขาต้องรู้ว่า สิ่งนั้นคืออะไร
13:51
and it's got to work.
291
819622
3046
และมันจะต้องใช้ได้ผล
13:54
I dream of a day when our patients can
292
822668
4696
ผมฝันว่า สักวันหนึ่งเมื่อคนไข้ของเราสามารถ
13:59
shed their excess pounds
293
827364
1735
สลัดนํ้าหนักที่มากเกินไปของเขาทิ้งไป
14:01
and cure themselves of insulin resistance,
294
829099
2813
และรักษาตัวเองจากภาวะดื้อต่ออินซูลินได้
14:03
because as medical professionals,
295
831912
2730
เพราะว่า ในฐานะที่เป็นผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์
14:06
we've shed our excess mental baggage
296
834642
1970
เราได้สลัดความเชื่อและทัศนคติในอดึต
ที่มากเกินของเราทิ้งไปแล้ว
ที่มากเกินของเราทิ้งไปแล้ว
14:08
and cured ourselves of new idea resistance sufficiently
297
836612
3326
และรักษาตัวเราเองจากการต่อต้านความคิดใหม่ๆ
ได้อย่างพอเพียงแล้ว
ได้อย่างพอเพียงแล้ว
14:11
to go back to our original ideals:
298
839938
3090
เพื่อที่จะกลับไปยังอุดมการณ์ดั้งเดิมของเรา ซึ่งก็คือ
14:15
open minds, the courage to throw out yesterday's ideas
299
843028
4417
ใจที่เปิดกว้าง มีความกล้าที่จะโยนทิ้งความคิดเก่าๆ
ของวันวานไปเสีย
ของวันวานไปเสีย
14:19
when they don't appear to be working,
300
847445
3328
เมื่อสิ่งเหล่านั้นดูจะใช้การไม่ได้แล้ว
14:22
and the understanding that scientific truth isn't final,
301
850773
3119
และความเข้าใจที่ว่าความถูกต้องทางวิทยาศาสตร์นั้น
ไม่ได้เป็นจุดสิ้นสุด
ไม่ได้เป็นจุดสิ้นสุด
14:25
but constantly evolving.
302
853892
2748
แต่มันค่อยๆเปลี่ยนไปตลอดเวลา
14:28
Staying true to that path will be better for our patients
303
856640
3292
การคงไว้ซึ่งความเชื่อมั่นในแนวทางนี้
จะเป็นประโยชน์กว่าต่อคนไข้ของเรา
จะเป็นประโยชน์กว่าต่อคนไข้ของเรา
14:31
and better for science.
304
859932
3248
และต่อวิทยาศาสตร์
14:35
If obesity is nothing more than a proxy
305
863180
2994
ถ้าโรคอ้วนไม่ใช่อะไรที่มากไปกว่า เป็นตัวแทนของอาการ
14:38
for metabolic illness,
306
866174
1926
เจ็บป่วยเกี่ยวกับการเผาผลาญของร่างกาย
14:40
what good does it do us to punish those with the proxy?
307
868100
5297
มันจะดีอย่างไร ที่จะไปลงโทษ
คนที่มีอาการนั้น
คนที่มีอาการนั้น
14:45
Sometimes I think back to that night in the E.R.
308
873397
4544
บางครั้ง ผมก็คิดย้อนกลับไปในคืนนั้น ในห้องฉุกเฉิน
14:49
seven years ago.
309
877941
2313
เมื่อเจ็ดปีที่แล้ว
14:52
I wish I could speak with that woman again.
310
880254
3624
ผมหวังว่าจะได้พูดกับผู้หญิงคนนั้นอีก
14:55
I'd like to tell her how sorry I am.
311
883878
3255
ผมอยากจะบอกเธอให้รู้ว่า ผมเสียใจเพียงใด
14:59
I'd say, as a doctor, I delivered
312
887133
2887
ในฐานะที่เป็นแพทย์ ผมอยากจะพูดว่า ผมได้ให้
15:02
the best clinical care I could,
313
890020
3660
การรักษาในสถานพยาบาลอย่างดีที่สุด
เท่าที่ผมจะทำได้
เท่าที่ผมจะทำได้
15:05
but as a human being,
314
893680
3897
แต่ในฐานะที่เป็นมนุษย์
15:09
I let you down.
315
897577
2408
ผมทำให้คุณผิดหวัง
15:11
You didn't need my judgment and my contempt.
316
899985
4245
คุณไม่ต้องการการตัดสิน และการดูแคลนจากผม
15:16
You needed my empathy and compassion,
317
904230
4498
คุณต้องการความเข้าใจ และความเห็นอกเห็นใจจากผม
15:20
and above all else, you needed a doctor
318
908728
1995
และเหนือสิ่งอื่นใด คุณต้องการแพทย์
15:22
who was willing to consider
319
910723
2629
ที่เต็มใจที่จะพิจารณาว่า
15:25
maybe you didn't let the system down.
320
913352
3064
บางทีคุณไม่ได้ทำให้ระบบนั้นผิดหวัง
15:28
Maybe the system, of which I was a part,
321
916416
3218
บางทีระบบนั้น ซึ่งผมเป็นส่วนหนึ่ง
15:31
was letting you down.
322
919634
2439
ทำให้คุณผิดหวัง
15:34
If you're watching this now,
323
922073
2801
ถ้าคุณกำลังดูอยู่ในขณะนี้
15:36
I hope you can forgive me.
324
924874
4238
ผมหวังว่าคุณจะยกโทษให้ผมนะครับ
15:41
(Applause)
325
929112
4000
(เสียงปรบมือ)
ABOUT THE SPEAKER
Peter Attia - SurgeonBoth a surgeon and a self-experimenter, Peter Attia hopes to ease the diabetes epidemic by challenging what we think we know and improving the scientific rigor in nutrition and obesity research.
Why you should listen
Peter Attia has dedicated his medical career to investigating the relationship between nutrition, obesity and diabetes. A surgeon who developed metabolic syndrome himself despite the fact that he ate well and exercised often, Attia realized that our understanding of these important health issues may not actually be correct. From 2012-2015, he devoted himself to using vigorous scientific inquiry to test both our assumptions and new hypotheses through the Nutrition Science Initiative, the nonprofit he co-founded with journalist Gary Taubes. Now in private practice, Attia writes the blog Eating Academy, which charts his own adventures in nutrition and examines scientific evidence surrounding food, weight loss and disease risk. Overall, he hopes to convince others that sharp increases in the rates of obesity and diabetes -- despite the fact that we are more culturally aware of these problems than ever -- might be a result of people being given the wrong information.
Attia came to this calling through an unusual path. While he was studying mechanical engineering as an undergrad, a personal experience led him to discover his passion for medicine. He enrolled at Stanford Medical School, and went on to a residency in general surgery at Johns Hopkins Hospital and a post-doctoral fellowship at the National Cancer Institute. After his residency, he joined the consulting firm McKinsey & Company, where he worked on healthcare and financial system problems. The most valuable skill he learned along the way: to ask bold questions about medical assumptions.
Peter Attia | Speaker | TED.com