ABOUT THE SPEAKER
Debra Jarvis - Chaplain + author
Debra Jarvis isn't your typical hospital chaplain. With wry wit, she aims to comfort patients -- and also challenge them.

Why you should listen

For writer, ordained minister and hospital chaplain Debra Jarvis, humor is a powerful balm. She is not afraid to be funny even when doing very serious work with the sick and dying as a hospice chaplain, a pastoral consultant for volunteer groups caring for people with AIDS and MS, and a staff chaplain at the Seattle Cancer Care Alliance. Debra is the author of It’s Not About the Hair: And Other Certainties of Life & Cancer and numerous other books. Currently on sabbatical in Geneva, Debra’s last job was as writer-in-residence for the University Congregational United Church of Christ in Seattle. In her free time, Debra accompanies her Cairn terrier Max in his therapy dog work.

More profile about the speaker
Debra Jarvis | Speaker | TED.com
TEDMED 2014

Debra Jarvis: Yes, I survived cancer. But that doesn't define me

เดบร้า จารวิส: ใช่ค่ะ ดิฉันรอดชีวิตจากโรคมะเร็ง แต่นั่นก็ไม่ได้นิยามตัวตนของดิฉัน

Filmed:
1,110,917 views

เดบร้า จารวิส เป็นอนุศาสนาจารย์ในโรงพยาบาล นานเกือบ 30 ปี เมื่อตอนที่เธอได้รู้ว่าเธอเป็นมะเร็ง และเธอก็ได้เรียนรู้หลายๆอย่างจากการเป็นผู้ป่วย ในทอล์คที่หลักแหลมและท้าทายนี้ เธอพูดถึงเรื่อง ตัวตนของ "การเป็นผู้รอดชีวิต" ว่าให้ความรู้สึกที่ นิ่งเรียบ เธอชวนให้เรานึกถึงประสบการณ์ที่ยากลำบาก ขณะเดียวกัน ก็ให้ช่องว่างให้ตัวเองได้เติบโตและพัฒนา
- Chaplain + author
Debra Jarvis isn't your typical hospital chaplain. With wry wit, she aims to comfort patients -- and also challenge them. Full bio

Double-click the English transcript below to play the video.

00:13
I just metพบ you on a busรถบัส,
0
1364
3273
ดิฉันเพิ่งจะได้พบคุณบนรถบัส
00:16
and we would really like
to get to know eachแต่ละ other,
1
4637
2441
และเราก็อยากรู้จักกันมากๆนะคะ
00:19
but I've got to get off at the nextต่อไป stop,
2
7078
2486
แต่ดิฉันต้องลงป้ายหน้าแล้วล่ะค่ะ
00:21
so you're going to tell me
threeสาม things about yourselfด้วยตัวคุณเอง
3
9564
4767
เช่นนั้นแล้ว
คุณช่วยเล่าเรื่องของคุณ
ให้ดิฉันฟัง
สักสามเรื่องนะคะ
00:26
that just defineกำหนด you as a personคน,
4
14331
3580
เรื่องที่บอก
ถึงตัวตนของคุณ
00:30
threeสาม things about yourselfด้วยตัวคุณเอง
5
17911
1778
สามอย่าง
ที่เกี่ยวกับคุณ
00:31
that will help me understandเข้าใจ who you are,
6
19689
3609
ที่จะช่วยให้ดิฉันเข้าใจ
ว่าคุณเป็นใครอย่างไร
00:35
threeสาม things that just
get to your very essenceแก่นแท้.
7
23298
3994
สามเรื่องที่เป็นตัวตนของคุณจริงๆ
00:39
And what I'm wonderingสงสัย
8
27292
3078
แล้ว ดิฉันก็นึกสงสัยว่า
00:42
is, of those threeสาม things,
9
30370
3289
ในสามเรื่องนั้น
00:45
is any one of them
10
33659
1990
จะมีสักเรื่องหรือเปล่า
00:47
survivingที่รอดตาย some kindชนิด of traumaการบาดเจ็บ?
11
35649
5024
ที่เป็นเรื่องที่คุณรอดชีวิต
จากอุบัติเหตุ
00:52
Cancerโรคมะเร็ง survivorผู้รอดชีวิต, rapeข่มขืน survivorผู้รอดชีวิต,
12
40673
5697
รอดชีวิตจากโรคมะเร็ง
รอดจากการโดนข่มขื่น
00:58
Holocaustความหายนะ survivorผู้รอดชีวิต, incestการร่วมประเวณีระหว่างพี่น้อง survivorผู้รอดชีวิต.
13
46370
5117
รอดชีวิตจากค่ายกักกันฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
รอดจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศ
จากคนในครอบครัว
01:03
Ever noticeแจ้งให้ทราบ how we tendมีแนวโน้ม to identifyแยกแยะ ourselvesตัวเรา
14
51487
3444
เคยสังเกตุกันมั้ยคะว่า
เรามักจะอธิบายตัวตนของเรา
01:07
by our woundsบาดแผล?
15
54931
2531
จากบาดแผลที่เรามี
01:09
And where I have seenเห็น this survivorผู้รอดชีวิต identityเอกลักษณ์
16
57462
4476
และที่ที่ ดิฉันได้เห็น
ความเป็นผู้รอดชีวิตเหล่านี้
01:14
have the mostมากที่สุด consequencesผลที่ตามมา
17
61938
2488
แสดงออกมามากที่สุด
01:16
is in the cancerโรคมะเร็ง communityชุมชน.
18
64426
2553
ก็คือสังคมของผู้ป่วยมะเร็ง
01:19
And I've been around this
communityชุมชน for a long time,
19
66979
2734
ตัวดิฉันเอง
ก็อยู่ในสังคมนี้
มานานนะคะ
01:21
because I've been a hospiceบ้านพักรับรองพระธุดงค์
and a hospitalโรงพยาบาล chaplainอนุศาสนาจารย์
20
69713
3194
เพราะดิฉันเป็น
อนุศาสนาจารย์
ในศูนย์ดูแลผู้ป่วย
ระยะสุดท้าย
และโรงพยาบาล
01:25
for almostเกือบจะ 30 yearsปี.
21
72907
3297
มาเกือบ 30 ปี
01:28
And in 2005, I was workingการทำงาน at a bigใหญ่ cancerโรคมะเร็ง centerศูนย์
22
76204
5733
ในปี 2005
ดิฉันทำงานอยู่ในศูนย์มะเร็งขนาดใหญ่
01:34
when I receivedที่ได้รับ the newsข่าว that
23
81937
2305
ซึ่งนั่น
เป็นตอนที่ดิฉันได้ทราบข่าว
01:36
my motherแม่ had breastเต้านม cancerโรคมะเร็ง.
24
84242
3435
ว่าแม่ของดิฉันเป็นมะเร็งเต้านม
01:39
And then fiveห้า daysวัน laterต่อมา,
25
87677
2182
และ 5 วันต่อมา
01:42
I receivedที่ได้รับ the newsข่าว that I had breastเต้านม cancerโรคมะเร็ง.
26
89859
5467
ดิฉันก็ได้ทราบว่า
ดิฉันก็เป็นมะเร็งเต้านม
01:47
My motherแม่ and I can be competitiveการแข่งขัน
27
95326
2633
ดิฉันกับแม่
เป็นพวกชอบแข่งขันน่ะค่ะ
01:50
(Laughterเสียงหัวเราะ) —
28
97959
1788
(หัวเราะ)
01:51
but I was really not tryingพยายาม to
competeแข่งขัน with her on this one.
29
99747
4432
แต่ดิฉันไม่ได้อยากจะแข่งกับแม่
ในเรื่องนี้เลยจริงๆนะคะ
01:56
And in factความจริง, I thought, well,
30
104179
2025
อันที่จริงแล้ว คือ
ดิฉันคิดว่า
01:58
if you have to have cancerโรคมะเร็ง,
31
106204
1935
ถ้าเกิดจะเป็นมะเร็งขึ้นมา
02:00
it's prettyน่ารัก convenientสะดวกสบาย to be workingการทำงาน
32
108139
1721
ก็สะดวกมากเลย
ที่ได้ทำงาน
02:02
at a placeสถานที่ that treatsถือว่า it.
33
109860
1511
ในที่ที่ใช้รักษามะเร็ง
แต่ที่ดิฉันได้ยินบ่อยๆ
02:03
But this is what I heardได้ยิน from
a lot of outragedที่ได้ข่มขืน people.
34
111371
2697
จากคนที่ไม่ค่อยเข้าใจ คือ
02:06
What?
35
114068
1462
อะไรนะคะ?
คุณเป็นอนุศาสนาจารย์นะคะ
02:07
You're the chaplainอนุศาสนาจารย์.
36
115530
1920
02:09
You should be immuneภูมิคุ้มกัน.
37
117450
2290
คุณน่าจะมีภูมิคุ้มกันสิคะ
02:11
Like, maybe I should have just gottenอากาศ off
38
119740
2077
ถ้าเปรียบกับการขับรถ
02:14
with a warningการเตือน insteadแทน of an actualที่จริง ticketตั๋ว,
39
121817
2295
เหมือนว่า ดิฉันควรจะโดนเรียกตักเตือน
มากกว่าโดนใบสั่ง
02:16
because I'm on the forceบังคับ.
40
124112
3768
เพราะว่าดิฉันเป็นคนในน่ะค่ะ
02:20
So I did get my treatmentการรักษา at the
cancerโรคมะเร็ง centerศูนย์ where I workedทำงาน,
41
127880
2975
แล้วดิฉันก็รักษามะเร็ง
ที่ศูนย์ที่ดิฉันทำงานนั่นล่ะค่ะ
02:23
whichที่ was amazinglyที่น่าอัศจรรย์ใจ convenientสะดวกสบาย,
42
130855
2521
ซี่งสะดวกสบายมากนะคะ
02:25
and I had chemotherapyยาเคมีบำบัด
43
133376
2239
ดิฉันรับยาเคมีบำบัด
02:27
and a mastectomyป่วยมะเร็งเต้านม, and a salineน้ำเกลือ implantสอดใส่ put in,
44
135615
2710
ตัดเต้านม และเสริมเต้านมโดยถุงน้ำเกลือ
02:30
and so before I say anotherอื่น wordคำ,
let me just say right now,
45
138325
2125
และก่อนที่ดิฉัน
จะพูดอะไรต่อไป
ดิฉันขอบอกก่อนเลยนะคะ
02:32
this is the fakeเทียม one. (Laughterเสียงหัวเราะ)
46
140450
4774
ข้างนี้ของปลอมค่ะ (หัวเราะ)
02:37
I have foundพบ that I need to get that out of the way,
47
145224
3213
ดิฉันรู้ว่าดิฉันต้องรีบบอกค่ะ
02:40
because I'll see somebodyบางคน go
48
148437
1774
เพราะดิฉันมักจะได้ยินคนพูดว่า
02:42
"Oh, I know it's this one."
49
150211
2217
โอ้ ฉันรู้ว่าข้างนั้นล่ะ
แล้วดิฉันก็จะขยับ
หรือไม่ก็ทำท่าสักอย่าง
02:44
And then I'll moveย้าย or I'll
gestureเชิง and they'llพวกเขาจะ go,
50
152428
2464
แล้วพวกเขาก็จะ
02:47
"No, it's that one."
51
154892
2553
ไม่ๆ อีกข้างนึงต่างหาก
02:49
So now you know.
52
157445
2171
งั้นตอนนี้คุณรู้แล้วนะคะ
02:51
I learnedได้เรียนรู้ a lot beingกำลัง a patientผู้ป่วย,
53
159616
2137
ดิฉันเรียนรู้เยอะเลยค่ะ
จากตอนที่เป็นคนไข้
02:53
and one of the surprisingน่าแปลกใจ things was
54
161753
1522
และสิ่งที่ทำให้ดิฉันแปลกใจก็คือ
02:55
that only a smallเล็ก partส่วนหนึ่ง of the cancerโรคมะเร็ง experienceประสบการณ์
55
163275
4107
มีประสบการณ์แค่ส่วนน้อยเท่านั้น
ของการเป็นมะเร็ง
02:59
is about medicineยา.
56
167382
2092
ที่เกี่ยวกับการแพทย์
03:01
Mostมากที่สุด of it is about feelingsความรู้สึก and faithความเชื่อ
57
169474
4353
ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของความรู้สึก
และความศรัทธา
03:06
and losingแพ้ and findingคำวินิจฉัย your identityเอกลักษณ์
58
173827
2633
การสูญเสียและการค้นพบ
ตัวตนของคุณ
03:08
and discoveringการค้นพบ strengthความแข็งแรง
59
176460
1578
การค้นพบ ความเข้มแข็ง
03:10
and flexibilityมีความยืดหยุ่น you never even knewรู้ว่า you had.
60
178038
3922
และความสามารถในการปรับตัว
ที่คุณไม่เคยรู้ว่ามี
03:14
It's about realizingตระหนักถึง that
61
181960
2329
ที่ได้ประจักษ์ว่า
03:16
the mostมากที่สุด importantสำคัญ things in life are
62
184289
3070
สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต
03:19
not things at all, but relationshipsสัมพันธ์,
63
187359
3081
ไม่ใช่สิ่งของเลยค่ะ
แต่เป็นความสัมพันธ์ต่างหาก
03:22
and it's about laughingที่หัวเราะ in the faceใบหน้า of uncertaintyความไม่แน่นอน
64
190440
4066
มันเกี่ยวกับการ
หัวเราะใส่หน้าความไม่แน่นอน
03:26
and learningการเรียนรู้ that the way to
get out of almostเกือบจะ anything
65
194506
3439
และเรียนรู้ว่า
วิธีที่ดิฉันจะปลอดโปร่งโล่งใจเกือบที่สุด
03:30
is to say, "I have cancerโรคมะเร็ง."
66
197945
4315
คือการพูดว่า
"ฉันเป็นมะเร็ง"
03:34
So the other thing I learnedได้เรียนรู้ was that
67
202260
2513
และสิ่งที่ดิฉัน
ได้เรียนรู้คือ
03:36
I don't have to take on "cancerโรคมะเร็ง survivorผู้รอดชีวิต"
68
204773
3454
ดิฉันไม่จำเป็นต้องรับเอา
ความเป็น "ผู้รอดชีวิตจากมะเร็ง"
03:40
as my identityเอกลักษณ์,
69
208227
1968
มาเป็นตัวตนของดิฉัน
03:42
but, boyเด็กผู้ชาย, are there powerfulมีอำนาจ forcesกองกำลัง
70
210195
3619
แต่ว่า คุณคะ
มันมีแรงผลักดันมากมาย
03:46
pushingใจเร่งเร้า me to do just that.
71
213814
3546
ที่จะให้ดิฉันรับมา
03:49
Now, don't, please, misunderstandเข้าใจผิด me.
72
217360
4318
พวกคุณอย่าเพิ่งเข้าใจดิฉันผิดนะคะ
03:53
Cancerโรคมะเร็ง organizationsองค์กร
73
221678
1959
องกรณ์มะเร็งทั้งหลาย
03:55
and the driveขับรถ for earlyตอนต้น screeningการฉาย
74
223637
1980
และแรงผลักดันสำหรับ
การคัดกรองโรคมะเร็งในระยะแรกเริ่ม
03:57
and cancerโรคมะเร็ง awarenessความตระหนัก and cancerโรคมะเร็ง researchการวิจัย
75
225617
2654
การรณรงค์เรื่องโรคมะเร็ง
และการวิจัยเรื่องโรคมะเร็ง
04:00
have normalizedปกติ cancerโรคมะเร็ง,
76
228271
2115
ได้ทำให้โรคมะเร็ง
กลายเป็นเรื่องธรรมดา
04:02
and this is a wonderfulยอดเยี่ยม thing.
77
230386
1324
และนี่เป็นสิ่งที่
วิเศษมากนะคะ
04:03
We can now talk about cancerโรคมะเร็ง
78
231710
2084
ปัจจุบันเราสามารถ
พูดถึงโรคมะเร็งได้
04:05
withoutไม่มี whisperingเสียงกระซิบ.
79
233794
1778
โดยที่ไม่ต้องกระซิบกระซาบ
04:07
We can talk about cancerโรคมะเร็ง and
we can supportสนับสนุน one anotherอื่น.
80
235572
4518
เราสามารถคุยเรื่องโรคมะเร็งได้
และเราสามารถช่วยเหลือกันได้
04:12
But sometimesบางครั้ง, it feelsรู้สึก
81
240090
3086
แต่ในบางที ก็รู้สึกว่า
04:15
like people go a little overboardลงน้ำ
82
243176
1398
บางคนก็ เยอะ เกินไปนะคะ
04:16
and they startเริ่มต้น tellingบอก us how we're going to feel.
83
244574
5205
และพวกเขาเริ่มบอกว่า
เราควรจะต้องรู้สึกยังไง
04:21
So about a weekสัปดาห์ after my surgeryศัลยกรรม,
84
249779
3543
ประมาณหนึ่งสัปดาห์
หลังจากการผ่าตัดของดิฉัน
04:25
we had a houseguestแขก.
85
253322
2880
เรามีแขกมาพักที่บ้าน
04:28
That was probablyอาจ our first mistakeผิดพลาด.
86
256202
2748
ซึ่งนั่นน่าจะเป็นความผิดพลาด
ครั้งแรกของเรา
04:31
And keep in mindใจ that
87
258950
1521
อย่าลืมนะคะว่า
04:32
at this pointจุด in my life
88
260471
1670
ณ จุดนี้ของชีิวิตดิฉัน
04:34
I had been a chaplainอนุศาสนาจารย์ for over 20 yearsปี,
89
262141
3622
ดิฉันเป็นอนุศาสนาจารย์ในโรงพยาบาล
มานานกว่า 20 ปี
04:37
and issuesปัญหา like dyingเฮือกสุดท้าย and deathความตาย
90
265763
2323
และเรื่องราวเกี่ยวกับความเป็นความตาย
04:40
and the meaningความหมาย of life,
91
268086
1556
ความหมายของชีวิต
04:41
these are all things I'd been
yakkingyakking about foreverตลอดไป.
92
269642
3178
เป็นเรื่องที่ดิฉันวุ่นวายด้วย
มาตลอดชีวิตเลยนะคะ
04:45
So at dinnerอาหารเย็น that night,
93
272820
2500
และตอนอาหารค่ำคืนนั้น
04:47
our houseguestแขก proceedsเงินที่ได้ to
stretchยืด his armsอาวุธ up over his headหัว,
94
275320
2736
แขกของเราก็ยืดแขนของเขา
ขึ้นเหนือศีรษะ
04:50
and say, "You know, Debหญิงที่เข้าสังคมครั้งแรก,
95
278056
2805
แล้วพูดว่า
"คุณรู้มั้ย, เด๊บ,
04:53
now you're really going to learnเรียน what's importantสำคัญ.
96
280861
4149
ตอนนี้น่ะ คุณกำลังเรียนรู้จริงๆว่า
อะไรสำคัญ
04:57
Yes, you are going to make some bigใหญ่ changesการเปลี่ยนแปลง
97
285010
2697
อื้มม, คุณกำลังจะมี
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
04:59
in your life,
98
287707
1370
ในชีวิตของคุณ,
05:01
and now you're going to startเริ่มต้น
thinkingคิด about your deathความตาย.
99
289077
3648
แล้ว คุณก็จะเริ่มคิดถึง
ความตายของคุณเอง
05:04
Yepอ๋อ, this cancerโรคมะเร็ง is your wakeupตื่นนอน call."
100
292725
4025
ช่าย, ที่คุณเป็นมะเร็งเนี่ย
คือสัญญาณเตือนชั้นเลิศเลยนะ"
05:10
Now, these are goldenทอง wordsคำ
101
298520
2655
ใช่ค่ะ นี่คือเรื่องเดี่ยวไมโครโฟน
ชิ้นโบว์แดง
05:13
comingมา from someoneบางคน who is speakingการพูด about
102
301175
1979
จากคนที่กำลังพูดถึง
05:15
theirของพวกเขา ownด้วยตัวเอง experienceประสบการณ์,
103
303154
2419
ประสบการณ์ของตัวเอง
แต่ว่า ถ้ามีใครบอกมาคุณ
05:17
but when someoneบางคน is tellingบอก you
104
305573
2376
ว่าคุณควรจะรู้สึกว่ายังไงละคะ
05:20
how you are going to feel,
105
307949
2393
05:22
it's instantด่วน crapอึ.
106
310342
2046
มันกลายเป็นความบ้าบอ
ในทันทีทันใดเลยค่ะ
05:24
The only reasonเหตุผล I did not killฆ่า him
107
312388
2904
เหตุผลเดียวที่ดิฉัน
ไม่ได้ฆ่าเขา
05:27
with my bareเปลือย handsมือ
108
315292
1991
ด้วยมือเปล่า
05:29
was because I could not liftยก my right armแขน.
109
317283
4095
เป็นเพราะว่า
ดิฉันยังยกแขนขวาไม่ได้น่ะค่ะ
05:33
But I did say a really badไม่ดี wordคำ to him,
110
321378
4218
แต่ดิฉันก็พูดอะไรไม่น่ารักกับเขาไปนะคะ
05:37
followedตาม by a regularปกติ wordคำ, that —
111
325596
2901
และตามด้วยคำพูดแบบธรรมดาๆ
ที่ทำให้
05:40
(Laughterเสียงหัวเราะ) —
112
328497
1223
(หัวเราะ)
05:41
madeทำ my husbandสามี say, "She's on narcoticsยาเสพติด."
113
329720
3518
สามีดิฉันบอกเขาว่า
"ภรรยาผมเมายาแก้ปวดครับ"
05:45
(Laughterเสียงหัวเราะ)
114
333238
1958
(หัวเราะ)
05:47
And then after my treatmentการรักษา, it just feltรู้สึกว่า like
115
335196
2494
ซึ่งหลังจากที่ดิฉัน
รับการรักษาเรียบร้อยนะคะ
ดูเหมือน
05:49
everyoneทุกคน was tellingบอก me what my
experienceประสบการณ์ was going to mean.
116
337690
3283
ทุกคนจะคอยบอกดิฉันว่าประสบการณ์
ที่ดิฉันได้เจอมาเป็นยังไง
05:53
"Oh, this meansวิธี you're going to be doing the walkเดิน."
117
340973
2792
"โอ้, งั้นแปลว่าคุณจะไปเดินรณรงค์
ด้วยใช่มั้ยครับ"
05:55
"Oh, this meansวิธี you're comingมา to the luncheonอาหารกลางวัน."
118
343765
1624
"โอ้, งั้นแปลว่าคุณจะมาร่วม
งานเลี้ยงอาหารกลางวันใช่มั้ยคะ"
05:57
"This meansวิธี you're going to be wearingการสวมใส่
119
345389
1262
"ถ้าอย่างนั้นคุณจะต้องติด
05:58
the pinkสีชมพู ribbonริบบิ้น and the pinkสีชมพู t-shirtเสื้อยืดคอกลม
120
346651
2391
ริบบิ้นสีชมพู ใส่เสื้อสีชมพู
06:01
and the headbandผ้าพันหัว and the earringsต่างหู
121
349042
1862
มีผ้าคาดหัวชมพู มีต่างหูชมพู
06:03
and the braceletสร้อยข้อมือ and the pantiesกางเกง."
122
350904
3736
สร้อยคอสีชมพู แล้วก็กางเกงในสีชมพูด้วยสิ"
06:06
Pantiesกางเกง. No, seriouslyอย่างจริงจัง, googleGoogle it.
123
354640
3229
กางเกงใน พูดจริงรึเปล่าคะเนี่ย
หาดูในกูเกิ้ลแล้วยังคะ
06:10
(Laughterเสียงหัวเราะ)
124
357869
2051
(หัวเราะ)
06:12
How is that raisingการยก awarenessความตระหนัก?
125
359920
2091
อันนั้นจะช่วยณรงค์เรื่องมะเร็งยังไงคะเนี่ย
06:14
Only my husbandสามี should be seeingเห็น my pantiesกางเกง.
126
362011
2067
สามีเป็นคนเดียวที่น่าจะได้เห็น
กางเกงในของดิฉันนะคะ
06:16
(Laughterเสียงหัวเราะ)
127
364078
1669
(หัวเราะ)
06:17
He's prettyน่ารัก awareทราบ of cancerโรคมะเร็ง alreadyแล้ว.
128
365747
4411
และเขาก็รู้เรื่องโรคมะเร็งพอสมควรแล้วค่ะ
06:22
It was at that pointจุด where I feltรู้สึกว่า like, oh my God,
129
370158
3144
มันเป็นช่วงที่ดิฉันคิดว่า "พระเจ้าเจ้าคะ
06:25
this is just takingการ over my life.
130
373302
3150
เรื่องนี้มันขโมยชีวิตลูกไปเลยนะเจ้าคะ"
06:28
And that's when I told myselfตนเอง,
claimข้อเรียกร้อง your experienceประสบการณ์.
131
376452
4972
และนั่นเป็นตอนที่ดิฉันบอกตัวเองว่า
เธอต้องครอบครองประสบการณ์ของเธอสิ
06:33
Don't let it claimข้อเรียกร้อง you.
132
381424
3662
อย่าให้มันครอบงำเธอ
06:37
We all know that
133
385086
2108
เราทุกคนต่างรู้ดีว่า
06:39
the way to copeรับมือ with traumaการบาดเจ็บ, with lossการสูญเสีย,
134
387194
4122
วิธีที่จะรับมือกับความบาดเจ็บ สูญเสีย
06:43
with any life-changingที่เปลี่ยนแปลงชีวิต experienceประสบการณ์,
135
391316
2425
กับประสบการณ์ต่างๆที่เปลี่ยนชีวิตเรา
06:45
is to find meaningความหมาย.
136
393741
2150
คือการค้นหาความหมาย
06:48
But here'sนี่คือ the thing:
137
395891
2237
แต่ปัญหาก็คือว่า
06:50
No one can tell us
138
398128
1667
ใครก็บอกเราไม่ได้นะคะ
06:51
what our experienceประสบการณ์ meansวิธี.
139
399795
2736
ว่าประสบการณ์ของเรา
ตีความว่าอย่างไร
06:54
We have to decideตัดสิน what it meansวิธี.
140
402531
3289
เราต้องตีความมันเอง
06:58
And it doesn't have to be some giganticมโหฬาร,
141
405820
2132
และมันก็ไม่จำเป็นต้อง
เป็นประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่
07:00
extrovertedเข้าสังคม meaningความหมาย.
142
407952
2007
หรือต้องประกาศให้โลกรู้นะคะ
07:02
We don't all have to startเริ่มต้น a foundationมูลนิธิ
143
409959
2511
เราไม่จำเป็นต้องตั้งมูลนิธิ
07:04
or an organizationองค์กร or writeเขียน a bookหนังสือ
144
412470
2152
หรือองกรณ์ หรือเขียนหนังสือ
07:06
or make a documentaryสารคดี.
145
414622
2880
หรือทำสารคดีก็ได้นะคะ
07:09
Meaningความหมาย can be quietเงียบ
146
417502
2947
ความหมายจะเป็นอะไรเงียบๆก็ได้
07:12
and introvertedเก็บตัว.
147
420449
2171
หรือเป็นเรื่องของเราคนเดียว
07:14
Maybe we make one smallเล็ก decisionการตัดสิน about our livesชีวิต
148
422620
5928
บางที การตัดสินใจเล็กๆ
เกี่ยวกับชีิวิตของเรา
07:20
that can bringนำมาซึ่ง about bigใหญ่ changeเปลี่ยนแปลง.
149
428548
5078
ก็นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่
07:25
Manyจำนวนมาก yearsปี agoมาแล้ว, I had a patientผู้ป่วย,
150
433626
1940
หลายปีก่อน คนไข้ของดิฉัน
07:27
just a wonderfulยอดเยี่ยม youngหนุ่มสาว man
151
435566
2005
หนุ่มน้อยที่น่ารักมาก
07:29
who was lovedรัก by the staffบุคลากร,
152
437571
2735
เขาเป็นที่รักของทีมแพทย์
07:32
and so it was something of a shockช็อก to us to realizeตระหนักถึง
153
440306
2884
และเราก็ตกใจมาก
ที่ได้ทราบว่า
07:35
that he had no friendsเพื่อน.
154
443190
3784
เขาไม่มีเพื่อนเลย
07:39
He livedอาศัยอยู่ by himselfตัวเขาเอง,
155
446974
2306
เขาอยู่คนเดียวนะคะ
07:41
he would come in for chemotherapyยาเคมีบำบัด by himselfตัวเขาเอง,
156
449280
4028
มารับยาเคมีบำบัดคนเดียว
07:45
he would receiveรับ his treatmentการรักษา,
157
453308
1945
เขาจะมารับการรักษา
07:47
and then he'dเขาต้องการ walkเดิน home aloneคนเดียว.
158
455253
3731
และเดินกลับบ้านคนเดียว
07:51
And I even askedถาม him. I said, "Hey,
159
458984
1764
ดิฉันจึงพูดกับเขาว่า "ตัวเธอ
07:52
how come you never bringนำมาซึ่ง a friendเพื่อน with you?"
160
460748
2741
ทำไมถึงไม่เคยพาเพื่อนมาด้วยเลยละจ๊ะ"
07:55
And he said, "I don't really have any friendsเพื่อน."
161
463489
4719
เขาพูดว่า "ผมไม่ค่อยมีเพื่อนหรอกฮะ"
08:00
But he had tonsตัน of friendsเพื่อน on the infusionการแช่ floorชั้น.
162
468208
2261
แต่เขามีเพื่อนเยอะนะคะ
ที่ชั้นให้ยาทางเส้นเลือด
08:02
We all lovedรัก him, and people were going
in and out of his roomห้อง all the time.
163
470469
4376
เรารักเขากันทุกคนค่ะ
มีคนเดินเข้าออกห้องเขาตลอดเวลา
08:07
So at his last chemoคีโม,
164
474845
2959
และ ตอนที่เขามารับ
ยาเคมีบำบัดครั้งสุดท้าย
08:10
we sangร้องเพลง him the songเพลง
165
477804
1327
พวกเราร้องเพลงให้เขา
08:11
and we put the crownมงกุฎ on his
headหัว and we blewพัด the bubblesฟองฟอด,
166
479131
2767
เราสวมมงกุฏให้เขา
เป่าฟองลูกโป่ง
08:14
and then I askedถาม him, I said,
167
481898
2441
และดิฉันก็ถามเขาว่า
08:16
"So what are you going to do now?"
168
484339
4456
"หลังจากนี้ เธอจะทำอะไรต่อล่ะ"
08:20
And he answeredตอบ,
169
488795
1810
และเขาก็ตอบว่า
08:22
"Make friendsเพื่อน."
170
490605
1633
"หาเพื่อนฮะ"
08:24
And he did.
171
492238
2112
และเขาก็ทำได้ค่ะ
08:26
He startedเริ่มต้น volunteeringอาสาสมัคร
and he madeทำ friendsเพื่อน there,
172
494350
3554
เขาเริ่มทำงานอาสาสมัคร
และรู้จักเพื่อนใหม่ที่นั่น
08:30
and he beganเริ่ม going to a churchโบสถ์
and he madeทำ friendsเพื่อน there,
173
497904
2686
เขาเริ่มไปโบสถ์
และมีเพื่อนใหม่ที่โบสถ์
08:32
and at Christmasคริสต์มาส he invitedได้รับเชิญ my husbandสามี
and me to a partyพรรค in his apartmentอพาร์ทเม้น,
174
500590
2960
เขาเชิญดิฉันกับสามีไปงานเลี้ยง
คริสมาสต์ที่อพาร์ตเมนต์
08:35
and the placeสถานที่ was filledเต็มไปด้วย with his friendsเพื่อน.
175
503550
5117
ที่นั่นมีเพื่อนของเขา
อยู่เต็มเลยค่ะ
08:40
Claimข้อเรียกร้อง your experienceประสบการณ์.
176
508667
2243
จงครอบครองประสบการณ์
08:43
Don't let it claimข้อเรียกร้อง you.
177
510910
1649
อย่าให้มันครอบงำคุณ
08:44
He decidedตัดสินใจ that the meaningความหมาย of his experienceประสบการณ์
178
512559
4872
เขาตัดสินใจว่า
ประสบการณ์นี้ของเขา
08:49
was to know the joyความปิติยินดี of friendshipมิตรภาพ,
179
517431
3767
คือการได้เรียนรู้
ความสุขของมิตรไมตรี
08:53
and then learnเรียน to make friendsเพื่อน.
180
521198
4608
และเรียนรู้จะมีเพื่อนใหม่ๆ
08:58
So what about you?
181
525806
3986
แล้วคุณละคะ
09:01
How are you going to find meaningความหมาย
182
529792
2353
คุณจะหาความหมาย
09:04
in your crappyเส็งเคร็ง experienceประสบการณ์?
183
532145
2447
จากประสบการณ์ห่วยแตกของคุณอย่างไร
09:06
It could be a recentเมื่อเร็ว ๆ นี้ one,
184
534592
1891
อาจจะเป็นเรื่องล่าสุดก็ได้
09:08
or it could be one that you've been carryingการปฏิบัติ around
185
536483
1971
หรืออาจจะเป็นเรื่องที่คุณแบกไว้
09:10
for a really long time.
186
538454
3891
มาแสนนาน
09:14
It's never too lateสาย to changeเปลี่ยนแปลง what it meansวิธี,
187
542345
4510
มันไม่สายเกินไปหรอกค่ะ
ที่จะเปลี่ยนความหมาย
09:19
because meaningความหมาย is dynamicพลวัต.
188
546855
2255
เพราะความหมาย
เป็นสิ่งที่ลื่นไหล
09:21
What it meansวิธี todayในวันนี้
189
549110
1661
ความหมายอย่างหนึ่งวันนี้
09:22
mayอาจ not be what it meansวิธี a yearปี from now,
190
550771
1927
ใน 1 ปีให้หลัง อาจไม่เหมือนเดิม
09:24
or 10 yearsปี from now.
191
552698
2843
หรืออีก 10 ปี จากนี้ไป
09:27
It's never too lateสาย to becomeกลายเป็น someoneบางคน other
192
555541
2610
มันไม่สายเกินไปที่จะเป็นอะไรที่มากกว่า
09:30
than simplyง่ายดาย a survivorผู้รอดชีวิต.
193
558151
3521
แค่ ผู้รอดชีวิต
09:33
Hearได้ยิน how staticคงที่ that wordคำ soundsเสียง?
194
561672
3324
ฟังดูสิคะว่าคำนี้มันแน่นิ่งแค่ไหน
09:37
Survivorผู้รอดชีวิต.
195
564996
1917
ผู้รอดชีวิต
09:39
No movementการเคลื่อนไหว, no growthการเจริญเติบโต.
196
566913
4391
ไม่มีการเคลื่อนไหว
ไม่มีการเติบโต
09:43
Claimข้อเรียกร้อง your experienceประสบการณ์.
197
571304
1887
จงครอบครองประสบการณ์
09:45
Don't let it claimข้อเรียกร้อง you, because if you do,
198
573191
2621
อย่าให้มันครอบงำคุณ
เพราะถ้าคุณปล่อยให้เป็นเช่นนั้น
09:48
I believe you will becomeกลายเป็น trappedติดกับดัก,
199
575812
3161
ดิฉันมั่นใจ ว่าคุณจะติดกับดัก
09:51
you will not growเจริญ, you will not evolveคาย.
200
578973
5942
คุณจะไม่เติบโต
ไม่พัฒนา
09:57
But of courseหลักสูตร, sometimesบางครั้ง it's not outsideด้านนอก pressuresแรงกดดัน
201
584915
3478
ใช่ค่ะ ในบางครั้ง
มันก็ไม่ใช่แรงกดดันภายนอกหรอกค่ะ
10:00
that causeสาเหตุ us to take on that identityเอกลักษณ์ of survivorผู้รอดชีวิต.
202
588393
4371
ที่ทำให้เรายอมรับตัวตน
ของการเป็นผู้รอดชีวิต
10:04
Sometimesบางครั้ง we just like the perksperks.
203
592764
3893
บางครั้ง เราก็ชอบที่จะเป็นจุดสนใจ
10:08
Sometimesบางครั้ง there's a payoffผลตอบแทน.
204
596657
3508
บางคราว มันก็เป็นรางวัล
10:12
But then we get stuckติดอยู่.
205
600165
3735
แต่แล้ว เราก็จะติดอยู่ตรงนั้น
10:16
Now, one of the first things I learnedได้เรียนรู้
206
603900
1811
สิ่งแรกๆ ที่ดิฉันได้เรียนรู้
10:17
as a chaplainอนุศาสนาจารย์ internแพทย์ฝึกหัด was the threeสาม C'sซี
207
605711
4106
ตอนเป็นอนุศาสนาจารย์ฝึกหัด คือ
3 อ.
10:22
of the chaplain'sโรงพยาบาลของ jobงาน:
208
609817
2391
ในอาชีพอนุศาสนาจารย์
10:24
Comfortความสะดวกสบาย, clarifyอธิบาย and, when necessaryจำเป็น, confrontเผชิญหน้า
209
612208
6962
(ความ)อบอุ่นใจ (การ)อธิบาย
และถ้าหากจำเป็น
ก็ให้(พูด)อัดไปตรงๆ
10:31
or challengeท้าทาย.
210
619170
2155
หรือให้ท้าทายความคิด
10:33
Now, we all prettyน่ารัก much love the comfortingปลอบโยน
211
621325
1946
เราทุกคนชอบความอุ่นใจ
10:35
and the clarifyingชัดเจน.
212
623271
1857
และการอธิบายนะคะ
10:37
The confrontingปฏิบถ, not so much.
213
625128
4942
แต่ไม่ค่อยชอบ การที่ต้องอัดกันตรงๆ
สักเท่าไหร่
10:42
One of the other things that I lovedรัก
214
630070
1994
อย่างหนึ่งที่ดิฉันชอบมาก
10:44
about beingกำลัง a chaplainอนุศาสนาจารย์ was
215
632064
2458
จากการทำงานเป็นอนุศาสนาจารย์
ก็คือ
10:46
seeingเห็น patientsผู้ป่วย a yearปี, or even severalหลาย yearsปี
216
634522
4473
การได้เจอคนไข้
สักปีหรือหลายๆปี
10:51
after theirของพวกเขา treatmentการรักษา, because
217
638995
1841
หลังจากที่จบการรักษา
นั่นเพราะว่า
10:53
it was just really coolเย็น to see
how they had changedการเปลี่ยนแปลง
218
640836
2700
มันยอดเยี่ยมมากเลยค่ะ
ที่ได้เห็นพวกเขาเปลี่ยนแปลง
10:55
and how theirของพวกเขา livesชีวิต had evolvedการพัฒนา
219
643536
2216
เห็นว่าชีวิตพวกเขา
ดีขึ้นอย่างไร
10:57
and what had happenedที่เกิดขึ้น to them.
220
645752
1890
และได้รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น
กับพวกเขาบ้าง
10:59
So I was thrilledน่าตื่นตาตื่นใจ one day
221
647642
2520
มีวันหนึ่งค่ะ
ที่ดิฉันปลื้มใจมาก
11:02
to get a pageหน้า down into the lobbyล็อบบี้ of the clinicคลินิก
222
650162
2448
มีข้อความแจ้งให้ดิฉันลงไป
ที่ชั้นล็อบบี้ของคลินิก
11:04
from a patientผู้ป่วย who I had seenเห็น the yearปี before,
223
652610
3581
ซึ่งข้อความนี้มาจากคนไข้
ที่ดิฉันเคยพบเมื่อหลายปีก่อน
11:08
and she was there with her two adultผู้ใหญ่ daughtersลูกสาว,
224
656191
2474
เธอมากับลูกสาวสองคน
ที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว
11:10
who I alsoด้วย knewรู้ว่า, for her one yearปี follow-upติดตาม examการสอบ.
225
658665
4259
ซึ่งดิฉันก็รู้จักจากช่วงหนึ่งปีนี้
ที่มาตรวจติดตามการรักษา
11:15
So I got down to the lobbyล็อบบี้, and they were ecstaticซึ่งปีติยินดี
226
662924
3537
ดิฉันก็ลงไปที่ล็อบบี้ค่ะ
ตอนนั้นพวกเขากำลังแฮปปี้มากๆ
11:18
because she had just gottenอากาศ
all of her testทดสอบ resultsผล back
227
666461
2251
เพราะคนไข้เพิ่งได้ทราบ
ผลการตรวจทั้งหมด
11:20
and she was NEDNED: No Evidenceหลักฐาน of Diseaseโรค.
228
668712
6188
และเธอ ม.พ.ห.ร.
ไม่พบหลักฐานของโรค
11:27
Whichที่ I used to think meantความหมาย Not Entirelyอย่างสิ้นเชิง Deadตาย.
229
674900
4757
ซึ่งดิฉันเคยคิดว่าแปลว่า
ไม่ตายพรุ่งนี้หรือมะรืน
11:31
So they were ecstaticซึ่งปีติยินดี, we satกกท. down to visitเยือน,
230
679657
5493
คือพวกเขาก็แฮปปี้มากค่ะ
เราเลยนั่งคุยกัน
11:37
and it was so weirdแปลก, because
231
685150
2807
และมันก็แปลกมากนะคะ
เพราะว่า
11:40
withinภายใน two minutesนาที, she
startedเริ่มต้น retellingความอ่อนน้อมถ่อมตน me the storyเรื่องราว
232
687957
3882
ใน 2 นาทีที่เราเริ่มคุยกัน
คนไข้ก็เริ่มเล่าเรื่องเก่าๆให้ดิฉันฟัง
11:44
of her diagnosisการวินิจฉัยโรค and her
surgeryศัลยกรรม and her chemoคีโม,
233
691839
4530
ว่าเธอรู้ว่าเธอเป็นมะเร็งได้อย่างไร
การผ่าตัดและยาเคมีบำบัดเป็นอย่างไร
11:48
even thoughแม้, as her chaplainอนุศาสนาจารย์,
I saw her everyทุกๆ weekสัปดาห์,
234
696369
3468
ทั้งๆที่ดิฉันเป็นอนุศาสนาจารย์
ที่เจอเธอทุกสัปดาห์
11:52
and so I knewรู้ว่า this storyเรื่องราว.
235
699837
2891
ทั้งๆที่ดิฉันก็รู้เรื่องนี้นะคะ
11:54
And she was usingการใช้ wordsคำ like sufferingความทุกข์ทรมาน,
236
702728
3042
และเธอเลือกใช้คำเช่นว่า
ทนทุกข์ทรมาน
11:57
agonyความทุกข์ทรมาน, struggleการต่อสู้.
237
705770
3995
สุดแสนเศร้าหมอง
ต้องตรากตรำ
12:01
And she endedสิ้นสุดวันที่ her storyเรื่องราว with,
238
709765
2614
และเธอก็ลงท้าย
เรื่องของเธอด้วย
12:04
"I feltรู้สึกว่า crucifiedถูกตรึงกางเขน."
239
712379
4794
"ฉันรู้สึกเหมือนโดนตรึงกางเขน"
12:09
And at that pointจุด, her two
daughtersลูกสาว got up and said,
240
717173
2664
และตอนนั้นเองค่ะ ที่ลูกสาวของเธอ
ลุกขึ้นและบอกว่า
12:12
"We're going to go get coffeeกาแฟ."
241
719837
3912
"ไปซื้อกาแฟก่อนนะคะ"
12:15
And they left.
242
723749
3141
แล้วก็ไปค่ะ
12:19
Tell me threeสาม things about
yourselfด้วยตัวคุณเอง before the nextต่อไป stop.
243
726890
2835
เล่าให้ดิฉันฟังสักสามเรื่อง
ก่อนจะถึงป้ายหน้าสิคะ
12:21
People were leavingการออกจาก the busรถบัส before she even got
244
729725
2756
หลายๆคนลุกออกไปก่อน
ที่เธอจะเล่าถึง
12:24
to numberจำนวน two or numberจำนวน threeสาม.
245
732481
5377
เรื่องที่สอง ที่สาม
12:30
So I handedมือ her a tissueเนื้อเยื่อ,
246
737858
3487
ดิฉันก็เลยยื่นทิชชู่ให้
12:33
and I gaveให้ her a hugกอด,
247
741345
3297
และกอดเธอ
12:36
and then, because I really caredได้รับการดูแล for this womanหญิง,
248
744642
3510
เพราะดิฉันรู้สึกเป็นห่วงเธอมาก
12:40
I said,
249
748152
2086
ดิฉันเลยบอกเธอว่า
12:42
"Get down off your crossข้าม."
250
750238
2306
"ลงมาจากไม้กางเขนสิคะ"
12:44
And she said, "What?"
251
752544
4266
และเธอพูดว่า "ว่าอะไรนะคะ"
12:49
And I repeatedซ้ำแล้วซ้ำอีก, "Get down off your crossข้าม."
252
756810
5414
ดิฉันก็เลยพูดซ้ำ
"ลงมาจากไม้กางเขนเถอะค่ะ"
12:54
And to her creditเครดิต, she could
talk about her reasonsเหตุผล
253
762224
4645
มันเป็นเครดิตของเธอนะคะ
เธอสามารถอ้างเหตุผล
12:59
for embracingกอด and then clingingซึ่งติด to this identityเอกลักษณ์.
254
766869
5119
ที่จะรับเอาตัวตนนี้และยึดมันไว้
13:04
It got her a lot of attentionความสนใจ.
255
771988
2022
เพราะมันทำให้เธอเป็นจุดสนใจ
13:06
People were takingการ careการดูแล of her for a changeเปลี่ยนแปลง.
256
774010
3105
หลายๆคนดูแลเธอเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
13:09
But now, it was havingมี the oppositeตรงข้าม effectผล.
257
777115
3695
แต่ตอนนี้ ผลลัพท์มันตรงกันข้ามค่ะ
13:13
It was pushingใจเร่งเร้า people away.
258
780810
2483
มันเป็นการผลักไสคนอื่นๆออกไป
13:15
People keptเก็บไว้ leavingการออกจาก to get coffeeกาแฟ.
259
783293
3747
หลายๆคนจึงเลือกเดินออกไปซื้อกาแฟ
13:19
She feltรู้สึกว่า crucifiedถูกตรึงกางเขน by her experienceประสบการณ์,
260
787040
3901
เธอรู้สึกว่าเธอโดนตรึงกางเขน
จากประสบการณ์ของเธอ
13:23
but she didn't want to let that crucifiedถูกตรึงกางเขน selfตนเอง dieตาย.
261
790941
6222
แต่เธอไม่ยอมปล่อยให้ตัวเธอ
ที่โดนตรึงกางเขนนั้นตาย
13:29
Now, perhapsบางที you are thinkingคิด
262
797163
2917
ตอนนี้ คุณอาจจะรู้สึกว่า
13:32
I was a little harshรุนแรง with her,
263
800080
2950
ดิฉันอาจจะโหดกับเธอไปสักหน่อย
13:35
so I mustต้อง tell you that
264
803030
2108
ดิฉันขอบอกกับพวกคุณว่า
13:37
I was speakingการพูด out of my ownด้วยตัวเอง experienceประสบการณ์.
265
805138
3692
ดิฉันพูดจากประสบการณ์ตรงค่ะ
13:41
Manyจำนวนมาก, manyจำนวนมาก yearsปี before,
266
808830
2844
หลายปีก่อน
13:43
I had been firedยิง from a jobงาน that I lovedรัก,
267
811674
3326
ดิฉันโดนไล่ออก
จากงานที่ดิฉันรัก
13:47
and I would not stop talkingการพูด about my innocenceความไร้เดียงสา
268
815000
3716
และดิฉันไม่เคยหยุดเล่าถึง
ความบริสุทธิ์ของตัวเอง
13:50
and the injusticeความอยุติธรรม and the betrayalการทรยศ and the deceiptdeceipt,
269
818716
3404
และความอยุติธรรม การหักหลัง
และความหลอกลวง
13:54
untilจนกระทั่ง finallyในที่สุด, just like this womanหญิง,
270
822120
1130
จนในที่สุด
เหมือนเธอคนนี้เลยค่ะ
13:55
people were walkingที่เดิน away from me,
271
823250
2041
หลายๆคนเลือกจะเดินหนีดิฉัน
13:57
untilจนกระทั่ง I finallyในที่สุด realizedตระหนัก
272
825291
3236
จนเมื่อดิฉันคิดได้ว่า
14:00
I wasn'tก็ไม่ได้ just processingการประมวลผล my feelingsความรู้สึก,
273
828527
3872
ดิฉันไม่ได้แค่กำลัง
ประมวลความรู้สึกของตัวเอง
14:04
I was feedingการให้อาหาร them.
274
832399
2708
แต่ดิฉันกำลังให้อาหารพวกมัน
14:07
I didn't want to let that crucifiedถูกตรึงกางเขน selfตนเอง dieตาย.
275
835107
4063
ดิฉันไม่ต้องการให้ตัวดิฉัน
ที่โดนตรึงกางเขนตาย
14:11
But we all know that with any resurrectionการคืนชีพ storyเรื่องราว,
276
839170
5422
เราทุกคนก็คงรู้ว่า
การจะฟื้นคืนชีพได้นั้น
14:16
you have to dieตาย first.
277
844592
2628
เราจำเป็นต้องตายก่อนนะคะ
14:19
The Christianคริสเตียน storyเรื่องราว,
278
847220
1823
เรื่องเล่าของคริสต์ชน
กล่าวว่า
14:21
Jesusพระเยซู was deadตาย a wholeทั้งหมด day in the tombหลุมฝังศพ
279
849043
3272
พระเยซูสิ้นพระชนม์ในสุสาน
อยู่หนึ่งวันเต็มๆ
14:24
before he was resurrectedฟื้นขึ้นมาใหม่.
280
852315
2495
ก่อนที่จะฟื้นคืนพระชนม์
14:27
And I believe that for us,
281
854810
1838
และดิฉันเชื่อว่า
สำหรับเรา
14:28
beingกำลัง in the tombหลุมฝังศพ
282
856648
2132
การอยู่ในสุสาน
14:30
meansวิธี doing our ownด้วยตัวเอง deepลึก innerภายใน work
283
858780
3986
อาจหมายถึงการพิจารณาจิตใจอย่างหนัก
14:34
around our woundsบาดแผล
284
862766
2704
ในเรื่องแผลของเรา
14:37
and allowingการอนุญาต ourselvesตัวเรา to be healedหายเป็นปกติ.
285
865470
4473
และยอมให้ตัวเรา
ได้รับการเยียวยา
14:42
We have to let that crucifiedถูกตรึงกางเขน selfตนเอง dieตาย
286
869943
3057
เราต้องยอมให้ ตัวเรา
ที่โดนตรึงกางเขนนั้น ตายไป
14:45
so that a newใหม่ selfตนเอง, a truerที่แท้จริง selfตนเอง,
287
873000
3604
เพื่อที่ตัวตนใหม่
ตัวตนจริงแท้ของเรา
จะได้ถือกำเนิด
14:48
is bornโดยกำเนิด.
288
876604
2382
14:51
We have to let that oldเก่า storyเรื่องราว go
289
878986
2858
เราต้องยอมปล่อย
เรื่องเก่าๆทิ้งไป
เพื่อให้เรื่องใหม่
เรื่องที่แท้จริงยิ่งกว่า
14:54
so that a newใหม่ storyเรื่องราว, a truerที่แท้จริง storyเรื่องราว,
290
881844
4147
14:58
can be told.
291
885991
3039
ได้ถูกกล่าวถึง
15:01
Claimข้อเรียกร้อง your experienceประสบการณ์. Don't let it claimข้อเรียกร้อง you.
292
889030
5543
จงครอบครองประสบการณ์
อย่าให้มันครอบงำคุณ
ถ้าหาก ไม่มี ผู้รอดชีวิตละคะ
15:06
What if there were no survivorsผู้รอดชีวิต,
293
894573
2581
หมายถึง ถ้าหากหลายๆคน
ตัดสินใจ
15:09
meaningความหมาย, what if people decidedตัดสินใจ
294
897154
2796
ตีความการบาดเจ็บ
เป็นเพียง ประสบการณ์
15:12
to just claimข้อเรียกร้อง theirของพวกเขา traumaการบาดเจ็บ as an experienceประสบการณ์
295
899950
2870
15:15
insteadแทน of takingการ it on as an identityเอกลักษณ์?
296
902820
4170
แทนที่จะให้มันกลายเป็น ตัวตน
15:19
Maybe it would be the endปลาย of beingกำลัง
297
906990
2002
นั่นอาจจะเป็น จุดสิ้นสุด
ของการติดอยู่ในบาดแผลของเรา
15:21
trappedติดกับดัก in our woundsบาดแผล
298
908992
2358
และเป็นการเริ่มต้นที่เยี่ยมยอด
15:23
and the beginningการเริ่มต้น of amazingน่าอัศจรรย์
299
911350
3554
ของการสำรวจตัวเอง การค้นพบ
และการเติบโต
15:27
self-explorationตนเองในการสำรวจ and discoveryการค้นพบ and growthการเจริญเติบโต.
300
914904
3926
มันอาจจะเป็นการเริ่มต้น
การนิยามตัวเรา
15:31
Maybe it would be the startเริ่มต้น of definingการกำหนด ourselvesตัวเรา
301
918830
4795
15:35
by who we have becomeกลายเป็น
302
923625
2580
ด้วยตัวตนเราได้เป็น
15:38
and who we are becomingการกลาย.
303
926205
4170
และตัวตนที่เราจะเป็นได้ในกาลถัดไป
15:42
So perhapsบางที survivorผู้รอดชีวิต was not
304
930375
5771
บางที การเป็นผู้รอดชีวิต
อาจจะไม่ใช่
15:48
one of the threeสาม things that you would tell me.
305
936146
5207
หนึ่งในสามเรื่อง
ที่คุณอยากเล่าให้ดิฉันฟัง
ไม่เป็นไรค่ะ
15:53
No matterเรื่อง.
306
941353
1317
ดิฉันขอบอกกับพวกคุณทุกคนว่า
15:54
I just want you all to know that
307
942670
2240
ดิฉันรู้สึกยินดีมาก
ที่เราได้ขึ้นรถบัสคันเดียวกัน
15:57
I am really gladดีใจ that we are on this busรถบัส togetherด้วยกัน,
308
944910
4313
และดิฉันต้องลงป้ายนี้แล้วล่ะค่ะ
16:01
and this is my stop.
309
949223
3896
16:05
(Applauseการปรบมือ)
310
953119
3705
(ปรบมือ)
Reviewed by Ditt Thamma

▲Back to top

ABOUT THE SPEAKER
Debra Jarvis - Chaplain + author
Debra Jarvis isn't your typical hospital chaplain. With wry wit, she aims to comfort patients -- and also challenge them.

Why you should listen

For writer, ordained minister and hospital chaplain Debra Jarvis, humor is a powerful balm. She is not afraid to be funny even when doing very serious work with the sick and dying as a hospice chaplain, a pastoral consultant for volunteer groups caring for people with AIDS and MS, and a staff chaplain at the Seattle Cancer Care Alliance. Debra is the author of It’s Not About the Hair: And Other Certainties of Life & Cancer and numerous other books. Currently on sabbatical in Geneva, Debra’s last job was as writer-in-residence for the University Congregational United Church of Christ in Seattle. In her free time, Debra accompanies her Cairn terrier Max in his therapy dog work.

More profile about the speaker
Debra Jarvis | Speaker | TED.com