TED2015
David Eagleman: Can we create new senses for humans?
เดวิด อีเกอร์แมน (David Eagleman): เป็นไปได้หรือไม่ที่เราสามารถสร้างการรับสัมผัสใหม่ให้กับคนได้
Filmed:
Readability: 4.1
2,933,070 views
มนุษย์เรารับคลื่นแสงได้น้อยกว่าหนึ่งในสิบล้านล้านของคลื่นแสงทั้งหมด เดวิด อีเกอร์แมน ผู้เป็นนักประสาทวิทยากล่าวว่า "ประสบการณ์ความเป็นจริงของเรานั้นจำกัดโดยระบบชีวภาพของเรา" เขาต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงข้อจำกัดนั้น งานวิจัยของเขาเรื่องกระบวนการของสมองได้นำเขาไปสู่การสร้างระบบต่อประสานใหม่ -เช่น เสื้อกั๊กตรวจรับสัมผัส- เพื่อจะรับข้อมูลโลกรอบ ๆ ตัวเราที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยปรากฏ
David Eagleman - Neuroscientist
David Eagleman decodes the mysteries of the tangled web of neurons and electricity that make our minds tick -- and also make us human. Full bio
David Eagleman decodes the mysteries of the tangled web of neurons and electricity that make our minds tick -- and also make us human. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:12
We are built out of very small stuff,
0
973
4543
เราถูกสร้างขึ้นจากสิ่งเล็กๆ
00:17
and we are embedded in
a very large cosmos,
a very large cosmos,
1
5516
2515
แล้วฝังตัวลงในจักรวาลอันยิ่งใหญ่
00:20
and the fact is that we are not
very good at understanding reality
very good at understanding reality
2
8031
4551
และความจริงก็คือเราไม่ได้มีความเข้าใจที่ดี
ต่อความเป็นจริง
ต่อความเป็นจริง
00:24
at either of those scales,
3
12582
1579
ในทั้งสองระดับนั้น
00:26
and that's because our brains
4
14161
1602
และนั่นก็เป็นเพราะว่าสมองของเรา
00:27
haven't evolved to understand
the world at that scale.
the world at that scale.
5
15763
4394
ไม่ได้มีวิวัฒนาการมาให้เข้าใจโลก
ในระดับนั้น
ในระดับนั้น
00:32
Instead, we're trapped on this
very thin slice of perception
very thin slice of perception
6
20157
4220
แต่ว่า เราถูกกักเอาไว้ในมุมมอง
เพียงเสี้ยวบาง ๆ
เพียงเสี้ยวบาง ๆ
00:36
right in the middle.
7
24377
1766
ที่อยู่ตรงกลาง
00:38
But it gets strange, because even at
that slice of reality that we call home,
that slice of reality that we call home,
8
26723
4468
แต่ว่ามันก็ประหลาด เพราะแม้แต่
เสี้ยวบาง ๆ ที่เราเรียกว่าเป็นบ้านนั้น
เสี้ยวบาง ๆ ที่เราเรียกว่าเป็นบ้านนั้น
00:43
we're not seeing most
of the action that's going on.
of the action that's going on.
9
31191
2985
เราก็ยังไม่เห็นสิ่ง
ที่กำลังเกิดขึ้นเป็นส่วนใหญ่
ที่กำลังเกิดขึ้นเป็นส่วนใหญ่
00:46
So take the colors of our world.
10
34176
3390
เช่น ลองดูสีสันของโลกของเรา
00:49
This is light waves, electromagnetic
radiation that bounces off objects
radiation that bounces off objects
11
37566
4713
ซึ่งเป็นคลื่นแสง เป็นรังสีแม่เหล็กไฟฟ้า
ที่สะท้อนออกจากวัตถุ
ที่สะท้อนออกจากวัตถุ
00:54
and it hits specialized receptors
in the back of our eyes.
in the back of our eyes.
12
42279
3437
แล้วชนเข้ากับตัวรับพิเศษ
ทางด้านหลังตาของเรา
ทางด้านหลังตาของเรา
00:57
But we're not seeing
all the waves out there.
all the waves out there.
13
45716
3645
แต่เราไม่ได้เห็นคลื่นแสงทั้งหมดที่มีอยู่
01:01
In fact, what we see
14
49361
1695
อันที่จริง สิ่งที่เราเห็น
01:03
is less than a 10 trillionth
of what's out there.
of what's out there.
15
51056
4063
น้อยกว่าหนึ่งใน 10 ล้านล้าน
ของที่มีทั้งหมด
ของที่มีทั้งหมด
01:07
So you have radio waves and microwaves
16
55119
3367
ดังนั้น มีคลื่นวิทยุและไมโครเวฟ
01:10
and X-rays and gamma rays
passing through your body right now
passing through your body right now
17
58486
3297
และเอ็กซ์เรย์ และแกมม่าเรย์
ผ่านร่างกายของคุณอยู่ตอนนี้
ผ่านร่างกายของคุณอยู่ตอนนี้
01:13
and you're completely unaware of it,
18
61783
2949
และคุณก็ไม่ได้รู้สึกถึงมันเลย
01:16
because you don't come with
the proper biological receptors
the proper biological receptors
19
64732
3181
เพราะว่าคุณไม่ได้มาพร้อมกับตัวรับทางชีวภาพ
ที่มีความเหมาะสม
ที่มีความเหมาะสม
01:19
for picking it up.
20
67913
1208
สำหรับตรวจจับมัน
01:21
There are thousands
of cell phone conversations
of cell phone conversations
21
69631
2567
มีการสื่อสารทางโทรศัพท์มือถือเป็นพัน ๆ
01:24
passing through you right now,
22
72198
1556
กำลังผ่านตัวคุณไปตอนนี้
01:25
and you're utterly blind to it.
23
73754
2301
และคุณก็บอดต่อสัญญาณเหล่านั้น
01:28
Now, it's not that these things
are inherently unseeable.
are inherently unseeable.
24
76055
3898
ทีนี้ มันไม่ใช่ว่า
สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถเห็นได้โดยธรรมชาติ
สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถเห็นได้โดยธรรมชาติ
01:31
Snakes include some infrared
in their reality,
in their reality,
25
79953
4899
งู สามารถรวมเอารังสีอินฟาเรดเข้ามา
ในโลกความเป็นจริงของมัน
ในโลกความเป็นจริงของมัน
01:36
and honeybees include ultraviolet
in their view of the world,
in their view of the world,
26
84852
3878
และผึ้งก็รวมเอารังสีอัลตราไวโอเลต
เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการมองโลกใบนี้
เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการมองโลกใบนี้
01:40
and of course we build machines
in the dashboards of our cars
in the dashboards of our cars
27
88730
2925
และแน่นอนว่าเราก็สร้างอุปกรณ์
ในแผงหน้าปัดรถของเรา
ในแผงหน้าปัดรถของเรา
01:43
to pick up on signals
in the radio frequency range,
in the radio frequency range,
28
91655
3228
ให้จับสัญญาณช่วงความถี่วิทยุ
01:46
and we built machines in hospitals
to pick up on the X-ray range.
to pick up on the X-ray range.
29
94883
3692
และก็สร้างเครื่องมือในโรงพยาบาล
ให้จับช่วงของรังสีเอ็กส์
ให้จับช่วงของรังสีเอ็กส์
01:50
But you can't sense
any of those by yourself,
any of those by yourself,
30
98575
3390
แต่คุณไม่สามารถรับสัมผัสสิ่งเหล่านี้
ได้ด้วยตัวเอง
ได้ด้วยตัวเอง
01:53
at least not yet,
31
101965
1509
อย่างน้อยตอนนี้ก็ยังไม่ได้
01:55
because you don't come equipped
with the proper sensors.
with the proper sensors.
32
103474
3947
เพราะว่าคุณไม่ได้ประกอบด้วยตัวรับที่เหมาะสม
01:59
Now, what this means is that
our experience of reality
our experience of reality
33
107421
4481
ทีนี้ มันหมายความว่า
ประสบการณ์รับรู้ความเป็นจริงของเรา
ประสบการณ์รับรู้ความเป็นจริงของเรา
02:03
is constrained by our biology,
34
111902
3460
ถูกจำกัดด้วยชีวภาพของเราเอง
02:07
and that goes against
the common sense notion
the common sense notion
35
115362
2554
และนั่นขัดต่อสามัญสำนึก
02:09
that our eyes and our ears
and our fingertips
and our fingertips
36
117916
2263
ว่าตาของเรา หูของเรา และปลายนิ้วของเรา
02:12
are just picking up
the objective reality that's out there.
the objective reality that's out there.
37
120179
4215
ตรวจจับความเป็นจริงข้างนอกนั่นได้
02:16
Instead, our brains are sampling
just a little bit of the world.
just a little bit of the world.
38
124394
5619
แต่จริง ๆ แล้ว สมองของเรา
เก็บตัวอย่างเพียงบางส่วนของโลกเท่านั้น
เก็บตัวอย่างเพียงบางส่วนของโลกเท่านั้น
02:22
Now, across the animal kingdom,
39
130013
2067
ทีนี้ ในทั่วทั้งอาณาจักรสัตว์
02:24
different animals pick up
on different parts of reality.
on different parts of reality.
40
132080
3320
สรรพสัตว์รับความเป็นจริงในส่วนที่แตกต่างกัน
02:27
So in the blind
and deaf world of the tick,
and deaf world of the tick,
41
135400
2949
ดังนั้น ในโลกที่มืดบอด และไร้เสียง
ของพวกเห็บไร
ของพวกเห็บไร
02:30
the important signals
are temperature and butyric acid;
are temperature and butyric acid;
42
138349
4481
สัญญาณที่สำคัญก็คือ อุณหภูมิ
และกรดบิวทีริค
และกรดบิวทีริค
02:34
in the world of the black ghost knifefish,
43
142830
2926
ในโลกของปลากรายแอฟริกา โกสต์
(ghost knifefish) สีดำ
(ghost knifefish) สีดำ
02:37
its sensory world is lavishly colored
by electrical fields;
by electrical fields;
44
145756
4899
โลกแห่งการรับสัมผัสของมัน
เต็มไปด้วยสีมากมายจากสนามไฟฟ้า
เต็มไปด้วยสีมากมายจากสนามไฟฟ้า
02:42
and for the echolocating bat,
45
150655
2461
และสำหรับค้างคาวที่ใช้เสียงสะท้อน
02:45
its reality is constructed
out of air compression waves.
out of air compression waves.
46
153116
4040
ความเป็นจริงของมันสร้างขึ้นจาก
คลื่นการอัดอากาศ
คลื่นการอัดอากาศ
02:49
That's the slice of their ecosystem
that they can pick up on,
that they can pick up on,
47
157156
4365
นั่นเป็นเสี้ยวหนึ่งของนิเวศวิทยาของมัน
ที่พวกมันสามารถรับรู้ได้
ที่พวกมันสามารถรับรู้ได้
02:53
and we have a word for this in science.
48
161521
1858
และทางวิทยาศาสตร์
เรามีคำเรียกปรากฏการณ์นี้
เรามีคำเรียกปรากฏการณ์นี้
02:55
It's called the umwelt,
49
163403
1508
เรียกว่า อูมเวลท์ (umwelt)
02:56
which is the German word
for the surrounding world.
for the surrounding world.
50
164911
3692
ซึ่งเป็นภาษาเยอรมันสำหรับโลกรอบตัว
03:00
Now, presumably, every animal assumes
51
168603
2995
ทีนี้ สมมติว่า สัตว์ทุกตัวเข้าใจว่า
03:03
that its umwelt is the entire
objective reality out there,
objective reality out there,
52
171598
4389
อูมเวลท์ของมันเป็นความจริงเชิงวัตถุทั้งหมด
03:07
because why would you ever stop to imagine
53
175987
2294
เพราะว่า ทำไมคุณจะต้องมาหยุดนึกสงสัย
03:10
that there's something beyond
what we can sense.
what we can sense.
54
178281
2521
ว่ามันยังจะมีอะไรมากกว่าที่เราสัมผัสได้อีกล่ะ
03:13
Instead, what we all do
is we accept reality
is we accept reality
55
181412
2714
แต่ทว่า ที่เราทุกคนเป็น
ก็คือเรายอมรับความเป็นจริง
ก็คือเรายอมรับความเป็นจริง
03:16
as it's presented to us.
56
184126
2646
อย่างที่มีการแสดงให้เราเห็น
03:19
Let's do a consciousness-raiser on this.
57
187222
2495
ลองมากระตุ้นความคิดเรื่องนี้กันหน่อยนะครับ
03:21
Imagine that you are a bloodhound dog.
58
189717
2656
ลองนึกดูว่าคุณเป็นสุนัขล่าเนื้อบลัดฮาวด์
03:24
Your whole world is about smelling.
59
192973
2205
โลกทั้งใบของคุณเป็นเรื่องการดมกลิ่น
03:27
You've got a long snout that has
200 million scent receptors in it,
200 million scent receptors in it,
60
195178
4412
คุณมีโพรงจมูกยาวๆ
ที่มีตัวรับกลิ่น 200 ล้านตัวในนั้น
ที่มีตัวรับกลิ่น 200 ล้านตัวในนั้น
03:31
and you have wet nostrils
that attract and trap scent molecules,
that attract and trap scent molecules,
61
199590
4504
และคุณมีจมูกที่เปียก
ที่จับและกักโมเลกุลกลิ่น
ที่จับและกักโมเลกุลกลิ่น
03:36
and your nostrils even have slits
so you can take big nosefuls of air.
so you can take big nosefuls of air.
62
204094
3994
และจมูกของคุณยังจะมีร่อง
เพื่อที่คุณจะรับกลิ่นจากอากาศได้มาก ๆ
เพื่อที่คุณจะรับกลิ่นจากอากาศได้มาก ๆ
03:40
Everything is about smell for you.
63
208088
3274
การดมกลิ่นเป็นทุกอย่างสำหรับคุณ
03:43
So one day, you stop in your tracks
with a revelation.
with a revelation.
64
211362
3901
ดังนั้น วันหนึ่ง
คุณหยุดอยู่บนหนทางสู่การปฏิวัติ
คุณหยุดอยู่บนหนทางสู่การปฏิวัติ
03:47
You look at your human owner
and you think,
and you think,
65
215263
3320
คุณมองนายมนุษย์ของคุณและคิดว่า
03:50
"What is it like to have the pitiful,
impoverished nose of a human?
impoverished nose of a human?
66
218583
4810
"มันจะเป็นอย่างไรนะ
ที่จะมีจมูกห่วย ๆ อย่างมนุษย์
ที่จะมีจมูกห่วย ๆ อย่างมนุษย์
03:55
(Laughter)
67
223393
1690
(เสียงหัวเราะ)
03:57
What is it like when you take
a feeble little noseful of air?
a feeble little noseful of air?
68
225083
3252
เป็นอย่างไร เมื่อคุณสูดอากาศไร้ประสิทธิภาพ
04:00
How can you not know that there's
a cat 100 yards away,
a cat 100 yards away,
69
228335
4049
คุณไม่รู้ได้ยังไงว่ามีแมวห่างออกไป 100 หลา
04:04
or that your neighbor was on
this very spot six hours ago?"
this very spot six hours ago?"
70
232384
3334
หรือเพื่อนบ้านของคุณอยู่ตรงนี้
เมื่อหกชั่วโมงก่อน"
เมื่อหกชั่วโมงก่อน"
04:07
(Laughter)
71
235718
2740
(เสียงหัวเราะ)
04:10
So because we're humans,
72
238458
2299
นั่นเป็นเพราะเราเป็นมนุษย์
04:12
we've never experienced
that world of smell,
that world of smell,
73
240757
2647
เราไม่เคยมีประสบการณ์ถึงโลกแห่งกลิ่น
04:15
so we don't miss it,
74
243404
2679
เราจึงไม่คิดถึงมัน
04:18
because we are firmly settled
into our umwelt.
into our umwelt.
75
246083
4031
เพราะว่าเราว่าใจอูมเวลท์ของเราเต็มที่
04:22
But the question is,
do we have to be stuck there?
do we have to be stuck there?
76
250114
3663
แต่คำถามก็คือ
เราต้องกักตัวเองอยู่ที่อย่างนั้นหรือ
เราต้องกักตัวเองอยู่ที่อย่างนั้นหรือ
04:26
So as a neuroscientist, I'm interested
in the way that technology
in the way that technology
77
254317
4528
เฉกเช่นนักประสาทวิทยา ผมมีความสนใจ
ถึงหนทางที่เทคโนโลยี
ถึงหนทางที่เทคโนโลยี
04:30
might expand our umwelt,
78
258845
2623
อาจจะขยายอูมเวลท์ของเราได้
04:33
and how that's going to change
the experience of being human.
the experience of being human.
79
261468
3640
และการที่มันจะเปลี่ยนประสบการณ์มนุษย์เรา
04:38
So we already know that we can marry
our technology to our biology,
our technology to our biology,
80
266228
3553
ครับ เรารู้แล้วว่า เราสามารถจับคู่เทคโนโลยี
เข้ากับชีวภาพของเรา
เข้ากับชีวภาพของเรา
04:41
because there are hundreds of thousands
of people walking around
of people walking around
81
269781
3784
เพราะมันมีคนเป็นแสน ๆ
04:45
with artificial hearing
and artificial vision.
and artificial vision.
82
273565
3599
ที่มีการฟังและการมองเห็นแบบประดิษฐ์
04:49
So the way this works is, you take
a microphone and you digitize the signal,
a microphone and you digitize the signal,
83
277164
4389
ครับ การทำงานของมันก็คือ คุณใช้ไมโครโฟน
และแปลงเป็นสัญญาณแบบดิจิตัล
และแปลงเป็นสัญญาณแบบดิจิตัล
04:53
and you put an electrode strip
directly into the inner ear.
directly into the inner ear.
84
281553
3738
และนำแท่งขั้วไฟฟ้าไปไว้ในหูชั้นใน
04:57
Or, with the retinal implant,
you take a camera
you take a camera
85
285291
2299
หรือสำหรับเรตินาประดิษฐ์
คุณใช้กล้อง
คุณใช้กล้อง
04:59
and you digitize the signal,
and then you plug an electrode grid
and then you plug an electrode grid
86
287590
3274
และแปลงสัญญาณเป็นดิจิตัล
และจากนั้นเสียบแผงขั้วไฟฟ้า
และจากนั้นเสียบแผงขั้วไฟฟ้า
05:02
directly into the optic nerve.
87
290864
3018
ไปที่ประสาทตาโดยตรง
05:05
And as recently as 15 years ago,
88
293882
3924
และเร็ว ๆ นี้ เมื่อ 15 ปีมานี้เอง
05:09
there were a lot of scientists who thought
these technologies wouldn't work.
these technologies wouldn't work.
89
297806
3738
มีนักวิทยาศาสตร์มากมายที่ยังคิดว่า
เทคโนโลยีเหล่านี้คงไม่ประสบความสำเร็จ
เทคโนโลยีเหล่านี้คงไม่ประสบความสำเร็จ
05:13
Why? It's because these technologies
speak the language of Silicon Valley,
speak the language of Silicon Valley,
90
301544
5179
ทำไมน่ะหรือ ก็เพราะว่าเทคโนโลยีพวกนี้
พูดภาษาของซิลิคอนแวลลีย์
พูดภาษาของซิลิคอนแวลลีย์
05:18
and it's not exactly the same dialect
as our natural biological sense organs.
as our natural biological sense organs.
91
306723
5572
และมันก็ไม่ใช่ภาษาเดียวกันกับที่ใช้โดย
อวัยวะรับสัมผัสชีวภาพตามธรรมชาติของเรา
อวัยวะรับสัมผัสชีวภาพตามธรรมชาติของเรา
05:24
But the fact is that it works;
92
312295
2415
แต่ความจริง มันสามารถใช้การได้เหมือนกัน
05:26
the brain figures out
how to use the signals just fine.
how to use the signals just fine.
93
314710
4589
สมองพบวิธี ที่จะใช้สัญญาณดังกล่าวได้ดี
05:31
Now, how do we understand that?
94
319719
1514
ทีนี้ เราจะเข้าใจมันได้อย่างไร
05:33
Well, here's the big secret:
95
321763
1695
ครับ นี่คือความลับใหญ่เลย
05:35
Your brain is not hearing
or seeing any of this.
or seeing any of this.
96
323458
5270
สมองของคุณไม่ได้ฟังหรือมองเห็นอะไรเลย
05:40
Your brain is locked in a vault of silence
and darkness inside your skull.
and darkness inside your skull.
97
328728
6455
สมองของคุณถูกขังอยู่ในห้องแห่งความเงียบ
และความมืด ภายในกระโหลกของคุณ
และความมืด ภายในกระโหลกของคุณ
05:47
All it ever sees are
electrochemical signals
electrochemical signals
98
335183
3808
ทั้งหมดที่มันได้เห็นก็คือ
สัญญาณเคมีไฟฟ้า
สัญญาณเคมีไฟฟ้า
05:50
that come in along different data cables,
99
338991
2549
ที่เข้ามาตามสายข้อมูลต่างๆ กัน
05:53
and this is all it has to work with,
and nothing more.
and nothing more.
100
341540
4452
และนั่นคือข้อมูลทั้งหมดที่มันต้องทำการ
ไม่มีอะไรมากกว่านี้
ไม่มีอะไรมากกว่านี้
05:58
Now, amazingly,
101
346672
2252
เอาล่ะ น่าสนใจครับ
06:00
the brain is really good
at taking in these signals
at taking in these signals
102
348924
2763
ที่สมองของเรารับสัญญาณเหล่านี้
ได้ดีทีเดียว
ได้ดีทีเดียว
06:03
and extracting patterns
and assigning meaning,
and assigning meaning,
103
351687
3551
และสกัดเอารูปแบบ
และความหมายของสัญญาณ
และความหมายของสัญญาณ
06:07
so that it takes this inner cosmos
and puts together a story
and puts together a story
104
355238
4054
ดังนั้นมันนำเอาจักรวาลภายในนี้
และนำมาประกอบเข้าเป็นเรื่องราว
และนำมาประกอบเข้าเป็นเรื่องราว
06:11
of this, your subjective world.
105
359292
4887
เป็นสิ่งนี้ เป็นโลกทางนามธรรมของคุณ
06:16
But here's the key point:
106
364179
1950
แต่นี่คือจุดสำคัญครับ
06:18
Your brain doesn't know,
and it doesn't care,
and it doesn't care,
107
366129
3390
สมองของคุณไม่ได้รู้ และไม่ได้สนใจ
06:21
where it gets the data from.
108
369519
3042
ว่ามันได้ข้อมูลมาจากไหน
06:24
Whatever information comes in,
it just figures out what to do with it.
it just figures out what to do with it.
109
372561
4853
ไม่ว่าข้อมูลใดเข้ามา
มันก็แค่หาทางจัดการกับมัน
มันก็แค่หาทางจัดการกับมัน
06:29
And this is a very efficient
kind of machine.
kind of machine.
110
377414
2438
และนี่ก็เป็นเหมือนกับเครื่องจักร
ที่ทรงประสิทธิภาพ
ที่ทรงประสิทธิภาพ
06:31
It's essentially a general purpose
computing device,
computing device,
111
379852
4156
เป็นเหมือนกับคอมพิวเตอร์
ที่ทำหน้าที่ได้ทั่วไป
ที่ทำหน้าที่ได้ทั่วไป
06:36
and it just takes in everything
112
384008
2415
และมันก็แค่นำเข้าข้อมูลทุกอย่าง
06:38
and figures out
what it's going to do with it,
what it's going to do with it,
113
386423
2600
และพยายามค้นหา
ว่ามันจะต้องทำอะไร
ว่ามันจะต้องทำอะไร
06:41
and that, I think, frees up Mother Nature
114
389023
3646
และวิธีนี้ ผมคิดว่า เป็นการปลดปล่อย
พระแม่แห่งธรรมชาติ
พระแม่แห่งธรรมชาติ
06:44
to tinker around with different
sorts of input channels.
sorts of input channels.
115
392669
4783
ให้สามารถดัดแปลงช่องข้อมูลหลายรูปแบบ
06:49
So I call this the P.H.
model of evolution,
model of evolution,
116
397452
2832
ผมจึงขอเรียกมันว่าแบบจำลอง พี. เอช.
ของวิวัฒนาการ
ของวิวัฒนาการ
06:52
and I don't want to get
too technical here,
too technical here,
117
400284
2044
และผมไม่อยากที่จะลงลึกเกินไป
06:54
but P.H. stands for Potato Head,
118
402328
3041
แต่ พี. เอช. ย่อมาจาก
โพเตโต้ เฮด [หัวมัน]
โพเตโต้ เฮด [หัวมัน]
06:57
and I use this name to emphasize
that all these sensors
that all these sensors
119
405369
3831
และผมใช้ชื่อนี้ เพื่อเน้นย้ำว่า
ตัวรับสัมผัสเหล่านี้
ตัวรับสัมผัสเหล่านี้
07:01
that we know and love, like our eyes
and our ears and our fingertips,
and our ears and our fingertips,
120
409200
3251
ที่เรารู้จักและรัก
เช่นตา หู และปลายนิ้วของเรา
เช่นตา หู และปลายนิ้วของเรา
07:04
these are merely peripheral
plug-and-play devices:
plug-and-play devices:
121
412451
4319
นี่มันเป็นเหมือนอุปกรณ์รอบข้างทั่วไป
ที่พร้อมใช้งาน
ที่พร้อมใช้งาน
07:08
You stick them in, and you're good to go.
122
416770
3274
คุณต่อมันเข้า และมันก็พร้อมใช้งานเลย
07:12
The brain figures out what to do
with the data that comes in.
with the data that comes in.
123
420044
5109
สมองของคุณจะตัดสินว่าต้องทำอย่างไร
กับข้อมูลที่เข้ามา
กับข้อมูลที่เข้ามา
07:18
And when you look across
the animal kingdom,
the animal kingdom,
124
426243
2206
และเมื่อคุณมองไปรอบๆ ในอาณาจักรสัตว์
07:20
you find lots of peripheral devices.
125
428449
2647
คุณจะพบอุปกรณ์รอบข้างมากมาย
07:23
So snakes have heat pits
with which to detect infrared,
with which to detect infrared,
126
431096
4110
เช่น งูมีอวัยวะรับความร้อน
ซึ่งตรวจจับอินฟาเรด
ซึ่งตรวจจับอินฟาเรด
07:27
and the ghost knifefish has
electroreceptors,
electroreceptors,
127
435206
3250
และปลากรายแอฟริกา โกสต์ก็มีตัวรับไฟฟ้า
07:30
and the star-nosed mole has this appendage
128
438456
2601
และตัวตุ่นจมูกดาวก็มีส่วนที่ยื่นยาว
07:33
with 22 fingers on it
129
441057
2647
ที่มีนิ้วถึง 22 นิ้ว
07:35
with which it feels around and constructs
a 3D model of the world,
a 3D model of the world,
130
443704
3669
ที่ใช้สัมผัสสิ่งรอบ ๆ ตัว
แล้วสร้างภาพโลกสามมิติ
แล้วสร้างภาพโลกสามมิติ
07:39
and many birds have magnetite
so they can orient
so they can orient
131
447373
3924
และนกหลายชนิดมีแม่เหล็ก
ฉะนั้นพวกมันจึงสามารถตอบสนองต่อทิศทาง
ฉะนั้นพวกมันจึงสามารถตอบสนองต่อทิศทาง
07:43
to the magnetic field of the planet.
132
451297
2495
ตามสนามแม่เหล็กของโลกได้
07:45
So what this means is that
nature doesn't have to continually
nature doesn't have to continually
133
453792
3872
นี่ก็หมายความว่า
ธรรมชาติไม่จำเป็นต้องออกแบบสมอง
ธรรมชาติไม่จำเป็นต้องออกแบบสมอง
07:49
redesign the brain.
134
457664
2415
เรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง
07:52
Instead, with the principles
of brain operation established,
of brain operation established,
135
460079
4481
แต่ว่า เมื่อได้ตั้งการทำงานของสมอง
เป็นหลักเป็นพื้นฐานแล้ว
เป็นหลักเป็นพื้นฐานแล้ว
07:56
all nature has to worry about
is designing new peripherals.
is designing new peripherals.
136
464560
4679
ธรรมชาติก็เหลือแต่
จะต้องทำการออกแบบอุปกรณ์รอบข้าง
จะต้องทำการออกแบบอุปกรณ์รอบข้าง
08:01
Okay. So what this means is this:
137
469239
2925
เอาล่ะ มันหมายถึงอย่างนี้ครับ
08:04
The lesson that surfaces
138
472164
2020
บทเรียนที่เกิดขึ้นก็คือ
08:06
is that there's nothing
really special or fundamental
really special or fundamental
139
474184
3669
ไม่มีอะไรพิเศษ หรือเป็นรากฐาน
08:09
about the biology that we
come to the table with.
come to the table with.
140
477853
2995
เกี่ยวกับระบบชีวภาพ
ที่มาเกิดมาพร้อมกับมัน
ที่มาเกิดมาพร้อมกับมัน
08:12
It's just what we have inherited
141
480848
2067
มันเป็นเพียงสิ่งที่เราได้รับตกทอดมา
08:14
from a complex road of evolution.
142
482915
3227
จากวิถีแห่งวิวัฒนาการอันซับซ้อน
08:18
But it's not what we have to stick with,
143
486142
3529
แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่เราจะต้อง
ติดอยู่กับมันตลอดไป
ติดอยู่กับมันตลอดไป
08:21
and our best proof of principle of this
144
489671
2044
และการพิสูจน์ที่ดีที่สุดของหลักการนี้
08:23
comes from what's called
sensory substitution.
sensory substitution.
145
491715
2600
ก็มาจากสิ่งที่เรียกว่า
การแทนที่ของระบบสัมผัส
การแทนที่ของระบบสัมผัส
08:26
And that refers to feeding
information into the brain
information into the brain
146
494315
3228
ซึ่งหมายถึงการป้อนข้อมูล
เข้าไปในสมอง
เข้าไปในสมอง
08:29
via unusual sensory channels,
147
497543
2786
ผ่านช่องทางสัมผัสที่ไม่ปกติ
08:32
and the brain just figures out
what to do with it.
what to do with it.
148
500329
2879
และสมองก็แค่หาทางว่ามันควรทำอย่างไร
08:35
Now, that might sound speculative,
149
503208
2461
ทีนี้ นั่นอาจฟังดูเลื่อนลอย
08:37
but the first paper demonstrating this was
published in the journal Nature in 1969.
published in the journal Nature in 1969.
150
505669
4952
แต่งานตีพิมพ์แรกที่แสดงสิ่งนี้
ได้ตีพิมพ์ในวารสาร เนเจอร์ ในปีค.ศ. 1969
ได้ตีพิมพ์ในวารสาร เนเจอร์ ในปีค.ศ. 1969
08:43
So a scientist named Paul Bach-y-Rita
151
511985
2368
นักวิทยาศาสตร์นามว่า
พอล บาร์ก-อี-ริตา
พอล บาร์ก-อี-ริตา
08:46
put blind people
in a modified dental chair,
in a modified dental chair,
152
514353
3228
นำคนตาบอดมานั่ง
บนเก้าอี้หมอฟันแบบดัดแปลง
บนเก้าอี้หมอฟันแบบดัดแปลง
08:49
and he set up a video feed,
153
517581
2345
และจัดการให้ข้อมูลในรูปแบบวีดีโอ
08:51
and he put something
in front of the camera,
in front of the camera,
154
519926
2252
และเอาอะไรบางอย่างวางไว้หน้ากล้อง
08:54
and then you would feel that
155
522178
2461
และจากนั้นคุณก็จะรู้สึกว่า
08:56
poked into your back
with a grid of solenoids.
with a grid of solenoids.
156
524639
2926
ถูกจิ้มที่ด้านหลังด้วยร่องขดลวด
08:59
So if you wiggle a coffee cup
in front of the camera,
in front of the camera,
157
527565
2484
ถ้าคุณขยับแก้วกาแฟหน้ากล้อง
09:02
you're feeling that in your back,
158
530049
2345
คุณก็จะรู้สึกบนหลังคุณ
09:04
and amazingly, blind people
got pretty good
got pretty good
159
532394
3088
และเป็นเรื่องน่าทึ่งที่ว่า
คนตาบอดค่อนข้างเก่ง
คนตาบอดค่อนข้างเก่ง
09:07
at being able to determine
what was in front of the camera
what was in front of the camera
160
535482
3553
ในการตัดสินใจว่าอะไรอยู่หน้ากล้อง
09:11
just by feeling it
in the small of their back.
in the small of their back.
161
539035
3785
แค่เพียงสัมผัสมันผ่านหลังของพวกเขา
09:14
Now, there have been many
modern incarnations of this.
modern incarnations of this.
162
542820
3506
เอาล่ะ มันมีตัวอย่างมากมาย
จากเรื่องตัวอย่างคล้าย ๆ กันนี้
จากเรื่องตัวอย่างคล้าย ๆ กันนี้
09:18
The sonic glasses take a video feed
right in front of you
right in front of you
163
546326
3274
เช่น แว่นตาโซนิกที่นำผลวีดีโอ
ที่แสดงต่อหน้าคุณ
ที่แสดงต่อหน้าคุณ
09:21
and turn that into a sonic landscape,
164
549600
2855
และเปลี่ยนเป็นแผนที่เสียง
09:24
so as things move around,
and get closer and farther,
and get closer and farther,
165
552455
2477
ฉะนั้นเมื่อสิ่งต่างๆ ขยับ
หรือเข้ามาใกล้ หรือห่างออกไป
หรือเข้ามาใกล้ หรือห่างออกไป
09:26
it sounds like "Bzz, bzz, bzz."
166
554956
2074
มันจะมีเสียง "หึ่ง หึ่ง หึ่ง"
09:29
It sounds like a cacophony,
167
557030
1973
เหมือนกับเสียงที่ไม่ประสานกัน
09:31
but after several weeks, blind people
start getting pretty good
start getting pretty good
168
559003
3994
แต่หลังจากสองสามสัปดาห์
คนตาบอดก็เริ่มจะเก่ง
คนตาบอดก็เริ่มจะเก่ง
09:34
at understanding what's in front of them
169
562997
2322
ในการทำความเข้าใจ
ว่าอะไรอยู่ตรงหน้าพวกเขา
ว่าอะไรอยู่ตรงหน้าพวกเขา
09:37
just based on what they're hearing.
170
565319
2647
จากแค่ที่พวกเขาได้ยิน
09:39
And it doesn't have to be
through the ears:
through the ears:
171
567966
2000
และมันไม่จำเป็นจะต้องเป็นข้อมูลผ่านหู
09:41
this system uses an electrotactile grid
on the forehead,
on the forehead,
172
569990
3364
ระบบนี้ใช้แผงการสัมผัสเชิงไฟฟ้า
ที่วางไว้บนหน้าผาก
ที่วางไว้บนหน้าผาก
09:45
so whatever's in front of the video feed,
you're feeling it on your forehead.
you're feeling it on your forehead.
173
573354
3690
ฉะนั้นไม่ว่าอะไรอยู่หน้ากล้อง
คุณก็จะรู้สึกมันได้ที่หน้าผาก
คุณก็จะรู้สึกมันได้ที่หน้าผาก
09:49
Why the forehead? Because you're not
using it for much else.
using it for much else.
174
577044
2853
ทำไมต้องเป็นหน้าผากน่ะหรือครับ
เพราะว่าคุณไม่ได้ใช้มันมากนัก
เพราะว่าคุณไม่ได้ใช้มันมากนัก
09:51
The most modern incarnation
is called the brainport,
is called the brainport,
175
579897
4206
ตัวอย่างใหม่ล่าสุด เรียกว่า "เบรนพอร์ท"
09:56
and this is a little electrogrid
that sits on your tongue,
that sits on your tongue,
176
584103
3749
และนี่คือแผงไฟฟ้าที่อยู่บนลิ้น
09:59
and the video feed gets turned into
these little electrotactile signals,
these little electrotactile signals,
177
587852
4116
และข้อมูลวีดีโอที่ป้อนเข้ามาก็แปลงเป็น
สัญญาณการสัมผัสเชิงไฟฟ้า
สัญญาณการสัมผัสเชิงไฟฟ้า
10:03
and blind people get so good at using this
that they can throw a ball into a basket,
that they can throw a ball into a basket,
178
591968
6487
และคนตาบอดก็เชี่ยวชาญในการใช้มัน
จนเขาสามารถขว้างบอลลงตะกร้าได้เลย
จนเขาสามารถขว้างบอลลงตะกร้าได้เลย
10:10
or they can navigate
complex obstacle courses.
complex obstacle courses.
179
598455
4016
หรือพวกเขาสามารถนำร่องผ่านสิ่งกีดขวาง
ที่ค่อนข้างซับซ้อนได้
ที่ค่อนข้างซับซ้อนได้
10:15
They can come to see through their tongue.
180
603311
4214
พวกเขาสามารถมองเห็นได้ผ่านลิ้น
10:19
Now, that sounds completely insane, right?
181
607525
2206
ทีนี้ มันฟังดูเหลือเชื่อมากเลยใช่ไหมครับ
10:21
But remember, all vision ever is
182
609731
2809
แต่จำไว้นะครับว่า ภาพทุกอย่างที่มีนั้น
10:24
is electrochemical signals
coursing around in your brain.
coursing around in your brain.
183
612540
4017
เป็นสัญญาณเคมีไฟฟ้า
ที่วิ่งไปรอบ ๆ สมองของคุณ
ที่วิ่งไปรอบ ๆ สมองของคุณ
10:28
Your brain doesn't know
where the signals come from.
where the signals come from.
184
616557
2694
สมองของคุณไม่รู้หรอกว่าสัญญาณมาจากไหน
10:31
It just figures out what to do with them.
185
619251
3436
มันแค่เข้าใจว่าต้องทำอย่างไร
กับสัญญาณพวกนั้น
กับสัญญาณพวกนั้น
10:34
So my interest in my lab
is sensory substitution for the deaf,
is sensory substitution for the deaf,
186
622687
5806
ฉะนั้น สิ่งที่กลุ่มวิจัยของผมสนใจ
ก็คือการแทนที่สัมผัสสำหรับคนหูหนวก
ก็คือการแทนที่สัมผัสสำหรับคนหูหนวก
10:40
and this is a project I've undertaken
187
628493
2739
และโครงการนี้ก็กำลังดำเนินการอยู่
10:43
with a graduate student
in my lab, Scott Novich,
in my lab, Scott Novich,
188
631232
2995
โดยมีนักศึกษาบัณฑิตศึกษาในกลุ่มวิจัยของผม
สก๊อต โนวิกช์
สก๊อต โนวิกช์
10:46
who is spearheading this for his thesis.
189
634227
2299
ผู้เป็นแกนนำทำวิทยานิพนธ์ของเขา
10:48
And here is what we wanted to do:
190
636526
1996
และนี่คือสิ่งที่เราต้องการทำ
10:50
we wanted to make it so that
sound from the world gets converted
sound from the world gets converted
191
638522
3994
เราต้องการที่จะแปลงเสียงที่มีในโลกนี้
10:54
in some way so that a deaf person
can understand what is being said.
can understand what is being said.
192
642516
4876
ไปเป็นสิ่งที่คนหูหนวกสามารถเข้าใจได้
10:59
And we wanted to do this, given the power
and ubiquity of portable computing,
and ubiquity of portable computing,
193
647392
4528
เราต้องการทำสิ่งนี้ เพื่อให้ประสิทธิภาพ
และการเข้าถึงกับระบบคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่
และการเข้าถึงกับระบบคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่
11:03
we wanted to make sure that this
would run on cell phones and tablets,
would run on cell phones and tablets,
194
651920
4876
เราต้องการความมั่นใจว่า
ระบบจะทำงานได้บนโทรศัพท์มือถือและแท๊บเล็ต
ระบบจะทำงานได้บนโทรศัพท์มือถือและแท๊บเล็ต
11:08
and also we wanted
to make this a wearable,
to make this a wearable,
195
656796
2298
และเรายังต้องการทำให้มันสวมใส่ได้
11:11
something that you could wear
under your clothing.
under your clothing.
196
659094
3042
เป็นอะไรที่คุณสามารถใส่ไว้ใต้เสื้อผ้า
11:14
So here's the concept.
197
662136
1680
นี่เป็นแนวความคิดครับ
11:17
So as I'm speaking, my sound
is getting captured by the tablet,
is getting captured by the tablet,
198
665326
5076
และขณะที่ผมพูดนี้ เสียงของผมจะถูกจับ
โดยแท็บเล็ต
โดยแท็บเล็ต
11:22
and then it's getting mapped onto a vest
that's covered in vibratory motors,
that's covered in vibratory motors,
199
670402
5758
และจากนั้นมันก็ส่งข้อมูลไปยังเสื้อกั๊ก
ที่เต็มไปด้วยมอเตอร์สั่น
ที่เต็มไปด้วยมอเตอร์สั่น
11:28
just like the motors in your cell phone.
200
676160
3437
เหมือนกับมอเตอร์ในโทรศัพท์มือถือคุณ
11:31
So as I'm speaking,
201
679597
2391
ระหว่างที่ผมกำลังพูดอยู่นี้
11:33
the sound is getting translated
to a pattern of vibration on the vest.
to a pattern of vibration on the vest.
202
681988
6339
เสียงกำลังแปลงเป็น
รูปแบบการสั่นบนเสื้อกั๊ก
รูปแบบการสั่นบนเสื้อกั๊ก
11:40
Now, this is not just conceptual:
203
688327
1579
ทีนี้มันไม่ได้เป็นเพียงแค่แนวคิด
11:41
this tablet is transmitting Bluetooth,
and I'm wearing the vest right now.
and I'm wearing the vest right now.
204
689906
5108
แท๊บเล็ตนี้กำลังส่งสัญญาณบลูทูท
และผมก็กำลังใส่เสื้อกั๊กนั้นอยู่
และผมก็กำลังใส่เสื้อกั๊กนั้นอยู่
11:47
So as I'm speaking -- (Applause) --
205
695014
2309
ดังนั้น ในขณะที่ผมพูดอยู่นี้
(เสียงปรบมือ)
(เสียงปรบมือ)
11:50
the sound is getting translated
into dynamic patterns of vibration.
into dynamic patterns of vibration.
206
698033
5933
เสียงกำลังแปลงเป็นรูปแบบการสั่นแบบพลวัต
11:55
I'm feeling the sonic world around me.
207
703966
5374
ผมรู้สึกได้ถึงโลกแห่งเสียงรอบ ๆ ตัว
12:01
So, we've been testing this
with deaf people now,
with deaf people now,
208
709340
4064
เราได้ทำการทดสอบกับคนตาบอดแล้วตอนนี้
12:05
and it turns out that after
just a little bit of time,
just a little bit of time,
209
713404
3506
และเราก็พบว่า ไม่นาน
12:08
people can start feeling,
they can start understanding
they can start understanding
210
716910
3390
คนจะเริ่มรู้สึกได้ พวกเขาจะเริ่มเข้าใจ
12:12
the language of the vest.
211
720300
2670
ภาษาของเสื้อกั๊ก
12:14
So this is Jonathan. He's 37 years old.
He has a master's degree.
He has a master's degree.
212
722970
4783
นี่คือ โจนาธาน
เขาอายุ 37 ปี และมีวุฒิปริญญาโท
เขาอายุ 37 ปี และมีวุฒิปริญญาโท
12:19
He was born profoundly deaf,
213
727753
2345
เขาเกิดมาหูหนวกสนิท
12:22
which means that there's a part
of his umwelt that's unavailable to him.
of his umwelt that's unavailable to him.
214
730098
4110
ซึ่งหมายความว่าเขาไม่มี อูมเวลท์ บางส่วน
12:26
So we had Jonathan train with the vest
for four days, two hours a day,
for four days, two hours a day,
215
734208
4388
ฉะนั้น โจนาธาน ฝึกซ้อมกับเสื้อกั๊กนี้
เป็นเวลาสี่วัน วันละสองชั่วโมง
เป็นเวลาสี่วัน วันละสองชั่วโมง
12:30
and here he is on the fifth day.
216
738596
3280
และตอนนี้ เขามาถึงวันที่ห้า
12:33
Scott Novich: You.
217
741876
2136
สก๊อต โนวิกช์: คุณ
12:36
David Eagleman: So Scott says a word,
Jonathan feels it on the vest,
Jonathan feels it on the vest,
218
744012
3214
เดวิด อีเกอร์แมน: เมื่อสก๊อตกล่าวคำ
โจนาธานจะรู้สึกได้จากเสื้อกั๊ก
โจนาธานจะรู้สึกได้จากเสื้อกั๊ก
12:39
and he writes it on the board.
219
747226
3056
และเขาจะเขียนคำไว้บนกระดาน
12:42
SN: Where. Where.
220
750282
3886
สก๊อต: ที่ไหน ที่ไหน
12:46
DE: Jonathan is able to translate
this complicated pattern of vibrations
this complicated pattern of vibrations
221
754168
3637
เดวิด: โจนาธานสามารถที่จะแปลรูปแบบที่ซับซ้อน
ของการสั่น
ของการสั่น
12:49
into an understanding
of what's being said.
of what's being said.
222
757805
2879
ไปเป็นความเข้าใจในคำที่พูด
12:52
SN: Touch. Touch.
223
760684
3599
สก๊อต: แตะ แตะ
12:56
DE: Now, he's not doing this --
224
764283
4440
เดวิด: เอาล่ะ เขาไม่ได้ทำ --
13:00
(Applause) --
225
768723
6061
(เสียงปรบมือ) --
13:07
Jonathan is not doing this consciously,
because the patterns are too complicated,
because the patterns are too complicated,
226
775944
4086
โจนาธานไม่ได้ทำการนี้โดยตั้งใจ
เพราะว่ารูปแบบข้อมูลซับซ้อนเกินไป
เพราะว่ารูปแบบข้อมูลซับซ้อนเกินไป
13:12
but his brain is starting to unlock
the pattern that allows it to figure out
the pattern that allows it to figure out
227
780030
5480
แต่สมองของเขาเริ่มที่จะถอดรูปแบบ
ที่สามารถทำให้มันเข้าใจได้
ที่สามารถทำให้มันเข้าใจได้
13:17
what the data mean,
228
785510
2276
ว่าข้อมูลนั้นคืออะไร
13:19
and our expectation is that,
after wearing this for about three months,
after wearing this for about three months,
229
787786
4202
และความคาดหวังของเราก็คือ
หลังจากที่สวมสิ่งนี้เป็นเวลาประมาณ 3 เดือน
หลังจากที่สวมสิ่งนี้เป็นเวลาประมาณ 3 เดือน
13:23
he will have a direct
perceptual experience of hearing
perceptual experience of hearing
230
791988
4598
เขาจะมีประสบการณ์สัมผัสตรงของการได้ยิน
13:28
in the same way that when a blind person
passes a finger over braille,
passes a finger over braille,
231
796586
4179
ในแบบเดียวกับที่เมื่อคนตาบอด
ลูบไปตามอักษรเบล
ลูบไปตามอักษรเบล
13:32
the meaning comes directly off the page
without any conscious intervention at all.
without any conscious intervention at all.
232
800765
5597
ความหมายผุดขึ้นมาจากหน้ากระดาษ
โดยไม่ต้องใช้ความคิดใดๆ ช่วยเหลืออีก
โดยไม่ต้องใช้ความคิดใดๆ ช่วยเหลืออีก
13:38
Now, this technology has the potential
to be a game-changer,
to be a game-changer,
233
806941
3553
ครับ เทคโนโลยีนี้มีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลง
13:42
because the only other solution
for deafness is a cochlear implant,
for deafness is a cochlear implant,
234
810494
3784
เพราะว่าการแก้ปัญหาหูหนวกอื่นมีอย่างเดียว
คือการปลูกถ่ายคลอเคลียร์ (cochlear)
คือการปลูกถ่ายคลอเคลียร์ (cochlear)
13:46
and that requires an invasive surgery.
235
814278
2903
และนั่นต้องอาศัยการผ่าตัด
13:49
And this can be built for 40 times cheaper
than a cochlear implant,
than a cochlear implant,
236
817181
5154
และระบบนี้สามารถผลิตได้ถูกกว่า
ถึง 40 เท่าของของการปลูกถ่ายคลอเคลียร์
ถึง 40 เท่าของของการปลูกถ่ายคลอเคลียร์
13:54
which opens up this technology globally,
even for the poorest countries.
even for the poorest countries.
237
822335
4899
ซึ่งเปิดโอกาสให้เทคโนโลยีนี้ในระดับสากล
แม้กระทั่งกับประเทศที่จนที่สุด
แม้กระทั่งกับประเทศที่จนที่สุด
14:00
Now, we've been very encouraged
by our results with sensory substitution,
by our results with sensory substitution,
238
828052
5119
ทีนี้ เราได้รับแรงสนับสนุนอย่างมาก
จากผลของการแทนที่สัมผัสนี้
จากผลของการแทนที่สัมผัสนี้
14:05
but what we've been thinking a lot about
is sensory addition.
is sensory addition.
239
833171
4203
แต่สิ่งที่เราคิดกันเยอะมากก็คือ
การเพิ่มสัมผัส
การเพิ่มสัมผัส
14:09
How could we use a technology like this
to add a completely new kind of sense,
to add a completely new kind of sense,
240
837374
5429
คือเราจะใช้เทคโนโลยีแบบนี้
เพื่อเพิ่มสัมผัสแบบใหม่ได้อย่างไร
เพื่อเพิ่มสัมผัสแบบใหม่ได้อย่างไร
14:14
to expand the human umvelt?
241
842803
3134
เพื่อที่จะขยาย อูมเวลท์ ของคน
14:17
For example, could we feed
real-time data from the Internet
real-time data from the Internet
242
845937
4249
ยกตัวอย่างเช่น เราจะสามารถป้อนข้อมูล
ตามเวลาจริงจากอินเทอร์เน็จ
ตามเวลาจริงจากอินเทอร์เน็จ
14:22
directly into somebody's brain,
243
850186
1881
ตรงเข้าสมองใครสักคน
14:24
and can they develop a direct
perceptual experience?
perceptual experience?
244
852067
3878
และเขาคนนั้นยังสามารถพัฒนา
ประสบการณ์สัมผัสได้โดยตรงหรือไม่
ประสบการณ์สัมผัสได้โดยตรงหรือไม่
14:27
So here's an experiment
we're doing in the lab.
we're doing in the lab.
245
855945
2537
นี่คือการทดลองที่เราทำกัน
14:30
A subject is feeling a real-time
streaming feed from the Net of data
streaming feed from the Net of data
246
858482
3894
คนที่รับการทดลองรู้สึกถึงการผ่านกระแสข้อมูล
ที่มาจากอินเตอร์เน็ตได้ตามเวลาจริง
ที่มาจากอินเตอร์เน็ตได้ตามเวลาจริง
14:34
for five seconds.
247
862376
1811
เป็นเวลาห้าวินาที
14:36
Then, two buttons appear,
and he has to make a choice.
and he has to make a choice.
248
864187
3269
จากนั้น จะมีปุ่มสองปุ่มปรากฏขึ้น
และเขาก็ต้องตัดสินใจ
และเขาก็ต้องตัดสินใจ
14:39
He doesn't know what's going on.
249
867456
1689
เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
14:41
He makes a choice,
and he gets feedback after one second.
and he gets feedback after one second.
250
869145
2696
เขาตัดสินใจและได้รับผลตอบรับ
ในอีกหนึ่งวินาทีต่อมา
ในอีกหนึ่งวินาทีต่อมา
14:43
Now, here's the thing:
251
871841
1205
ทีนี้นะครับ
14:45
The subject has no idea
what all the patterns mean,
what all the patterns mean,
252
873046
2644
ผู้รับการทดลองของเรา
ไม่รู้เลยว่ารูปแบบเหล่านั้นคืออะไร
ไม่รู้เลยว่ารูปแบบเหล่านั้นคืออะไร
14:47
but we're seeing if he gets better
at figuring out which button to press.
at figuring out which button to press.
253
875690
3671
แต่พวกเราจะเห็นว่าเขาจะทำได้ดีขึ้นหรือไม่
ว่าจะตัดสินใจกดปุ่มไหน
ว่าจะตัดสินใจกดปุ่มไหน
14:51
He doesn't know that what we're feeding
254
879361
2067
เขาไม่รู้ว่าเราป้อน
14:53
is real-time data from the stock market,
255
881428
3181
ข้อมูลตามเวลาจริง จากตลาดหุ้น
14:56
and he's making buy and sell decisions.
256
884609
2507
และเขากำลังตัดสินใจซื้อและขาย
14:59
(Laughter)
257
887116
1754
(เสียงหัวเราะ)
15:01
And the feedback is telling him
whether he did the right thing or not.
whether he did the right thing or not.
258
889490
3302
และการตอบสนองบอกเขาว่าเขาได้ทำถูกหรือไม่
15:04
And what we're seeing is,
can we expand the human umvelt
can we expand the human umvelt
259
892792
2869
และสิ่งที่เราดูก็คือ
เราจะสามารถขยาย อูมเวลท์ ของมนุษย์
เราจะสามารถขยาย อูมเวลท์ ของมนุษย์
15:07
so that he comes to have,
after several weeks,
after several weeks,
260
895661
2995
เพื่อที่ว่าหลังจากสองสามสัปดาห์
เขาจะมีประสบการณ์ตรง
เขาจะมีประสบการณ์ตรง
15:10
a direct perceptual experience
of the economic movements of the planet.
of the economic movements of the planet.
261
898656
6107
ถึงการเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจโลก
ได้หรือไม่
ได้หรือไม่
15:16
So we'll report on that later
to see how well this goes.
to see how well this goes.
262
904763
3366
เราจะรายงานต่อภายหลังนะครับ
ว่านี่ได้ผลหรือไม่
ว่านี่ได้ผลหรือไม่
15:20
(Laughter)
263
908129
1821
(เสียงหัวเราะ)
15:22
Here's another thing we're doing:
264
910730
2090
นี่คืออีกอย่างที่เราทำ
15:24
During the talks this morning,
we've been automatically scraping Twitter
we've been automatically scraping Twitter
265
912820
4597
ระหว่างการบรรยายเช้านี้
พวกเราดึงเอาข้อมูลจากทวิตเตอร์
พวกเราดึงเอาข้อมูลจากทวิตเตอร์
15:29
for the TED2015 hashtag,
266
917417
2438
ที่มี TED2015 แฮชแท๊ค
15:31
and we've been doing
an automated sentiment analysis,
an automated sentiment analysis,
267
919855
2693
และเราก็ได้ทำการวิเคราะห์อารมณ์
โดยอัตโนมัติ
โดยอัตโนมัติ
15:34
which means, are people using positive
words or negative words or neutral?
words or negative words or neutral?
268
922548
4575
ซึ่งหมายถึงว่า คนใช้คำพูดเชิงบวก
เชิงลบ หรือแบบกลาง ๆ
เชิงลบ หรือแบบกลาง ๆ
15:39
And while this has been going on,
269
927123
2444
และในขณะที่มันเกิดขึ้น
15:41
I have been feeling this,
270
929567
2995
ผมรู้สึกมันได้
15:44
and so I am plugged in
to the aggregate emotion
to the aggregate emotion
271
932562
4273
และผมก็เชื่อมต่อ
เพื่อจับกลุ่มอารมณ์
เพื่อจับกลุ่มอารมณ์
15:48
of thousands of people in real time,
272
936835
4156
ของคนเป็นพัน ๆ ในเวลาจริง
15:52
and that's a new kind of human experience,
because now I can know
because now I can know
273
940991
3738
และนี่เป็นประสบการณ์แบบใหม่สำหรับคน
เพราะว่าตอนนี้ผมรับรู้ได้
เพราะว่าตอนนี้ผมรับรู้ได้
15:56
how everyone's doing
and how much you're loving this.
and how much you're loving this.
274
944729
3297
ว่าทุกคนเป็นอย่างไร
และคุณชอบมันแค่ไหน
และคุณชอบมันแค่ไหน
16:00
(Laughter) (Applause)
275
948026
5133
(เสียงหัวเราะ) (เสียงปรบมือ)
16:06
It's a bigger experience
than a human can normally have.
than a human can normally have.
276
954899
4356
มันเป็นประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่
กว่าที่มนุษย์จะมีได้ตามปกติ
กว่าที่มนุษย์จะมีได้ตามปกติ
16:11
We're also expanding the umvelt of pilots.
277
959845
2693
นอกจากนั้น เรายังขยาย อูมเวลท์
ของคนขับเครื่องบิน
ของคนขับเครื่องบิน
16:14
So in this case, the vest is streaming
nine different measures
nine different measures
278
962538
4086
ในกรณีนี้ เสื้อกั๊กจะส่งกระแส
ค่าวัดต่าง ๆ เก้าค่า
ค่าวัดต่าง ๆ เก้าค่า
16:18
from this quadcopter,
279
966624
1626
จากควอดคอปเตอร์นี้
16:20
so pitch and yaw and roll
and orientation and heading,
and orientation and heading,
280
968250
3367
รวมทั้งการเอียง หัน หมุน
ปรับองศา และเบนส่วนหัว
ปรับองศา และเบนส่วนหัว
16:23
and that improves
this pilot's ability to fly it.
this pilot's ability to fly it.
281
971617
4086
และนั่นเพิ่มความสามารถในการบิน
ใหักับคนขับ
ใหักับคนขับ
16:27
It's essentially like he's extending
his skin up there, far away.
his skin up there, far away.
282
975703
5295
มันก็เหมือนกับเขามีผิวหนังที่ใหญ่ขึ้น
ที่ข้างบนนั้น
ที่ข้างบนนั้น
16:32
And that's just the beginning.
283
980998
1555
และนั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้น
16:34
What we're envisioning is taking
a modern cockpit full of gauges
a modern cockpit full of gauges
284
982553
5804
สิ่งที่เราได้จินตนาการก็คือ
การนำห้องคนขับที่เต็มไปด้วยมาตรวัด
การนำห้องคนขับที่เต็มไปด้วยมาตรวัด
16:40
and instead of trying
to read the whole thing, you feel it.
to read the whole thing, you feel it.
285
988357
4551
และแทนที่จะพยายามอ่านทุกอย่าง
คุณก็เพียงแค่รู้สึกถึงมัน
คุณก็เพียงแค่รู้สึกถึงมัน
16:44
We live in a world of information now,
286
992908
2485
เราอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยข้อมูล
16:47
and there is a difference
between accessing big data
between accessing big data
287
995393
3808
และมันก็มีความแตกต่าง
ระหว่างการเข้าถึงข้อมูลจำนวนมาก
ระหว่างการเข้าถึงข้อมูลจำนวนมาก
16:51
and experiencing it.
288
999201
3088
และการรู้สึกได้ถึงมัน
16:54
So I think there's really no end
to the possibilities
to the possibilities
289
1002289
3825
ฉะนั้น ผมคิดว่าความเป็นไปได้
ในการขยายสำหรับมนุษย์
ในการขยายสำหรับมนุษย์
16:58
on the horizon for human expansion.
290
1006114
2322
ไม่ได้มีขอบเขตอยู่ที่เพียงเส้นขอบฟ้า
17:00
Just imagine an astronaut
being able to feel
being able to feel
291
1008436
4922
ลองคิดถึงนักบินอวกาศที่สามารถรู้สึกได้
17:05
the overall health
of the International Space Station,
of the International Space Station,
292
1013358
3321
ถึงสภาพโดยรวมของสถานีอวกาศนานาชาติ
17:08
or, for that matter, having you feel
the invisible states of your own health,
the invisible states of your own health,
293
1016679
4876
หรือ ในเรื่องนั้น มีความรู้สึกถึง
ภาวะที่มองไม่เห็นเกี่ยวกับสุขภาพคุณ
ภาวะที่มองไม่เห็นเกี่ยวกับสุขภาพคุณ
17:13
like your blood sugar
and the state of your microbiome,
and the state of your microbiome,
294
1021555
3939
เช่น ระดับน้ำตาลในเลือด และภาวะของจุลนิเวศ
17:17
or having 360-degree vision
or seeing in infrared or ultraviolet.
or seeing in infrared or ultraviolet.
295
1025494
5627
หรือมีการมองเห็นแบบ 360 องศา
หรือเห็นอินฟราเรด หรืออัลตราไวโอเล็ต
หรือเห็นอินฟราเรด หรืออัลตราไวโอเล็ต
17:23
So the key is this:
As we move into the future,
As we move into the future,
296
1031121
3495
ฉะนั้น สิ่งสำคัญคือ
ในอนาคตที่ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ
ในอนาคตที่ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ
17:26
we're going to increasingly be able
to choose our own peripheral devices.
to choose our own peripheral devices.
297
1034616
4899
เราจะสามารถเลือกอุปกรณ์รอบข้างของเรา
ได้มากขึ้นเรื่อย ๆ
ได้มากขึ้นเรื่อย ๆ
17:31
We no longer have to wait
for Mother Nature's sensory gifts
for Mother Nature's sensory gifts
298
1039515
3854
เราไม่ต้องรอของขวัญการรับสัมผัส
จากพระแม่แห่งธรรมชาติ
จากพระแม่แห่งธรรมชาติ
17:35
on her timescales,
299
1043369
1858
ในช่วงเวลาที่นางเป็นคนกำหนด
17:37
but instead, like any good parent,
she's given us the tools that we need
she's given us the tools that we need
300
1045227
4272
เช่นเดียวกับมารดาที่แสนดี
เธอได้มอบอุปกรณ์ที่เราต้องการ
เธอได้มอบอุปกรณ์ที่เราต้องการ
17:41
to go out and define our own trajectory.
301
1049499
4133
เพื่อที่จะก้าวออกไป
และกำหนดทิศทางของเราเอง
และกำหนดทิศทางของเราเอง
17:45
So the question now is,
302
1053632
1741
ฉะนั้น คำถามก็คือ
17:47
how do you want to go out
and experience your universe?
and experience your universe?
303
1055373
5225
คุณต้องการที่จะก้าวออกไป
แล้วประสบสัมผัสกับจักรวาลของคุณอย่างไร
แล้วประสบสัมผัสกับจักรวาลของคุณอย่างไร
17:52
Thank you.
304
1060598
2043
ขอบคุณครับ
17:54
(Applause)
305
1062641
8336
(เสียงปรบมือ)
18:11
Chris Anderson: Can you feel it?
DE: Yeah.
DE: Yeah.
306
1079365
2188
คริส แอนเดอร์สัน: คุณรู้สึกได้เลยใช่ไหมครับ
เดวิด: ครับ
เดวิด: ครับ
18:13
Actually, this was the first time
I felt applause on the vest.
I felt applause on the vest.
307
1081553
3390
อันที่จริง นี่เป็นครั้งแรก
ที่ผมรู้สึกถึงการปรบมือผ่านเสื้อกั๊กนี้
ที่ผมรู้สึกถึงการปรบมือผ่านเสื้อกั๊กนี้
18:16
It's nice. It's like a massage. (Laughter)
308
1084943
2159
มันก็ดีครับ เหมือนนวดเลย (เสียงหัวเราะ)
18:19
CA: Twitter's going crazy.
Twitter's going mad.
Twitter's going mad.
309
1087102
3645
คริส: ทวิตเตอร์กำลังคลั่งกันเลยครับ
18:22
So that stock market experiment.
310
1090747
2293
แล้วการทดลองกับตลาดหุ้น
18:25
This could be the first experiment
that secures its funding forevermore,
that secures its funding forevermore,
311
1093040
4528
นี่อาจเป็นการทดลองแรก
ที่จะเป็นหลักประกันเงินทุนให้กับมันไปตลอด
ที่จะเป็นหลักประกันเงินทุนให้กับมันไปตลอด
18:29
right, if successful?
312
1097568
1995
ใช่ไหมครับ ถ้ามันสำเร็จ
18:31
DE: Well, that's right, I wouldn't
have to write to NIH anymore.
have to write to NIH anymore.
313
1099563
3152
เดวิด: ครับ ใช่เลย
ผมจะได้ไม่ต้องเขียนขอทุนไปที่ NIH อีกแล้ว
ผมจะได้ไม่ต้องเขียนขอทุนไปที่ NIH อีกแล้ว
18:34
CA: Well look, just to be
skeptical for a minute,
skeptical for a minute,
314
1102715
2817
คริส: เอาล่ะ ผมขอถามอะไรหน่อยนะ
18:37
I mean, this is amazing,
but isn't most of the evidence so far
but isn't most of the evidence so far
315
1105532
3170
คือผมว่า มันเจ๋งมากเลย
แต่ว่าหลักฐานส่วนใหญ่ที่มีจนถึงตอนนี้
แต่ว่าหลักฐานส่วนใหญ่ที่มีจนถึงตอนนี้
18:40
that sensory substitution works,
316
1108702
2347
บอกว่าการทดแทนการรับสัมผัสนั้นทำงานได้
18:43
not necessarily
that sensory addition works?
that sensory addition works?
317
1111049
2107
แต่ไม่จำเป็นว่าการรับสัมผัสเพิ่มนั้น
จะทำงานได้ใช่ไหมครับ
จะทำงานได้ใช่ไหมครับ
18:45
I mean, isn't it possible that the
blind person can see through their tongue
blind person can see through their tongue
318
1113156
3637
ผมหมายถึงว่า มันเป็นไปได้ไหมว่า
คนตาบอดจะสามารถเห็นผ่านลิ้นเขาได้
คนตาบอดจะสามารถเห็นผ่านลิ้นเขาได้
18:48
because the visual cortex is still there,
ready to process,
ready to process,
319
1116793
5178
เพราะว่าคอร์เท็กซ์การมองยังมีอยู่
และพร้อมที่จะทำงาน
และพร้อมที่จะทำงาน
18:53
and that that is needed as part of it?
320
1121971
1819
และนั่นก็เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งด้วย
18:55
DE: That's a great question.
We actually have no idea
We actually have no idea
321
1123790
2644
เดวิด: เป็นคำถามที่ดีครับ
อันที่จริงเราไม่รู้เลยครับ
อันที่จริงเราไม่รู้เลยครับ
18:58
what the theoretical limits are of what
kind of data the brain can take in.
kind of data the brain can take in.
322
1126434
3896
ว่าข้อจำกัดทางทฤษฎีของข้อมูลที่สมองรับได้
คืออะไร
คืออะไร
19:02
The general story, though,
is that it's extraordinarily flexible.
is that it's extraordinarily flexible.
323
1130330
3048
แต่เรื่องพื้นฐานเลยก็คือ มันปรับตัวได้อย่างน่าทึ่ง
19:05
So when a person goes blind,
what we used to call their visual cortex
what we used to call their visual cortex
324
1133402
3805
ดังนั้น เมื่อกลายเป็นคนตาบอด
สิ่งที่เราเคยเรียกว่าคอร์เท็กซ์การมอง
สิ่งที่เราเคยเรียกว่าคอร์เท็กซ์การมอง
19:09
gets taken over by other things,
by touch, by hearing, by vocabulary.
by touch, by hearing, by vocabulary.
325
1137207
5058
ก็จะโดนสิ่งอื่นๆ เข้าแทนที่
เช่นการสัมผัส การได้ยิน โดยคำศัพท์
เช่นการสัมผัส การได้ยิน โดยคำศัพท์
19:14
So what that tells us is that
the cortex is kind of a one-trick pony.
the cortex is kind of a one-trick pony.
326
1142265
4062
ฉะนั้นมันบอกเราว่า
คอร์เท็กส์ก็เป็นเหมือนหลักสากล
คอร์เท็กส์ก็เป็นเหมือนหลักสากล
19:18
It just runs certain kinds
of computations on things.
of computations on things.
327
1146327
2648
คือมันแค่ทำการคำนวณกับข้อมูลต่าง ๆ
19:20
And when we look around
at things like braille, for example,
at things like braille, for example,
328
1148975
3101
และเมื่อเรามองไปยังเช่น อักษรเบล
19:24
people are getting information
through bumps on their fingers.
through bumps on their fingers.
329
1152076
3089
คนรับข้อมูลผ่านปุ่มที่นิ้วสัมผัส
19:27
So I don't thing we have any reason
to think there's a theoretical limit
to think there's a theoretical limit
330
1155165
3655
ฉะนั้นผมไม่คิดว่าเรามีเหตุผลใด
ที่จะคิดว่ามันมีข้อจำกัดทางทฤษฎี
ที่จะคิดว่ามันมีข้อจำกัดทางทฤษฎี
19:30
that we know the edge of.
331
1158820
1514
ที่เรารู้ขอบเขต
19:33
CA: If this checks out,
you're going to be deluged.
you're going to be deluged.
332
1161244
3264
คริส: ถ้าสิ่งนี้ออกมาเมื่อไร
คุณคงโดนรุมจีบแน่
คุณคงโดนรุมจีบแน่
19:36
There are so many
possible applications for this.
possible applications for this.
333
1164508
3251
มันมีศักยภาพที่จะได้อะไรได้มากมายเหลือเกิน
19:39
Are you ready for this? What are you most
excited about, the direction it might go?
excited about, the direction it might go?
334
1167759
3931
คุณพร้อมหรือยังครับ
อะไรที่คุณตื่นเต้นที่สุด สำหรับสิ่งที่อาจเกิดขึ้น
อะไรที่คุณตื่นเต้นที่สุด สำหรับสิ่งที่อาจเกิดขึ้น
19:43
DE: I mean, I think there's
a lot of applications here.
a lot of applications here.
335
1171690
2577
เดวิด: ผมคิดว่า
มันมีการนำไปใช้ประโยชน์มากมาย
มันมีการนำไปใช้ประโยชน์มากมาย
19:46
In terms of beyond sensory substitution,
the things I started mentioning
the things I started mentioning
336
1174267
3448
ในส่วนที่มากกว่าการแทนที่สัมผัส
สิ่งที่ผมได้กล่าวไว้
สิ่งที่ผมได้กล่าวไว้
19:49
about astronauts on the space station,
they spend a lot of their time
they spend a lot of their time
337
1177715
4370
เกี่ยวกับนักบินอวกาศในสถานีอวกาศ
พวกเขาใช้เวลาส่วนใหญ่
พวกเขาใช้เวลาส่วนใหญ่
19:54
monitoring things, and they could instead
just get what's going on,
just get what's going on,
338
1182085
3219
ติดตามสิ่งต่าง ๆ และพวกเขาอาจจะได้เข้าใจ
ว่ามันกำลังเกิดอะไรขึ้นจริง ๆ
ว่ามันกำลังเกิดอะไรขึ้นจริง ๆ
19:57
because what this is really good for
is multidimensional data.
is multidimensional data.
339
1185304
3460
เพราะสิ่งที่มันจัดการได้ดีคือ
ข้อมูลหลายมิติ
ข้อมูลหลายมิติ
20:00
The key is this: Our visual systems
are good at detecting blobs and edges,
are good at detecting blobs and edges,
340
1188764
4783
หัวใจสำคัญคือ ระบบการมองเห็น
มีประสิทธิภาพในการตรวจจับขอบและส่วนนูน
มีประสิทธิภาพในการตรวจจับขอบและส่วนนูน
20:05
but they're really bad
at what our world has become,
at what our world has become,
341
1193547
2448
แต่พวกมันแย่มากกับการสิ่งที่โลกของเราเป็น
20:07
which is screens
with lots and lots of data.
with lots and lots of data.
342
1195995
2187
ซึ่งก็คือจอแบน ๆ ที่เต็มไปด้วยข้อมูล
20:10
We have to crawl that
with our attentional systems.
with our attentional systems.
343
1198182
2403
พวกเราจึงต้องตะกายหามัน
ด้วยระบบที่เราต้องเพ่งความสนใจ
ด้วยระบบที่เราต้องเพ่งความสนใจ
20:12
So this is a way of just
feeling the state of something,
feeling the state of something,
344
1200585
2670
ดังนั้น นี่เป็นเพียงวิธีที่จะรู้สึก
ถึงภาวะของอะไรบางอย่าง
ถึงภาวะของอะไรบางอย่าง
20:15
just like the way you know the state
of your body as you're standing around.
of your body as you're standing around.
345
1203255
3594
เหมือนกับวิธีที่คุณรู้ถึงภาวะของร่างกาย
อย่างที่คุณยืนอยู่ตอนนี้
อย่างที่คุณยืนอยู่ตอนนี้
20:18
So I think heavy machinery, safety,
feeling the state of a factory,
feeling the state of a factory,
346
1206849
3179
ฉะนั้นผมคิดถึงเครื่องยนต์หนัก ความปลอดภัย
การรู้สึกได้ถึงภาวะโรงงาน
การรู้สึกได้ถึงภาวะโรงงาน
20:22
of your equipment, that's one place
it'll go right away.
it'll go right away.
347
1210028
3064
รู้สึกได้ถึงเครื่องมือของคุณ
ที่เมื่อติดตั้งแล้ว จะทำงานได้ทันที
ที่เมื่อติดตั้งแล้ว จะทำงานได้ทันที
20:25
CA: David Eagleman, that was one
mind-blowing talk. Thank you very much.
mind-blowing talk. Thank you very much.
348
1213092
3705
คริส: เดวิด อีเกอร์แมน นั่นมันเป็นการบรรยาย
ที่เหนือความคาดหมายมาก ขอบคุณมากครับ
ที่เหนือความคาดหมายมาก ขอบคุณมากครับ
20:28
DE: Thank you, Chris.
(Applause)
(Applause)
349
1216797
4779
เดวิด: ของคุณครับคริส
(เสียงปรบมือ)
(เสียงปรบมือ)
ABOUT THE SPEAKER
David Eagleman - NeuroscientistDavid Eagleman decodes the mysteries of the tangled web of neurons and electricity that make our minds tick -- and also make us human.
Why you should listen
As the creator of stacks of compelling research, books and now the 6-part PBS series The Brain, grey matter expert David Eagleman is our most visible evangelist for neuroscience. He has helmed ground-breaking studies on time perception, brain plasticity and neurolaw. His latest research explores technology that bypasses sensory impairment -- such as a smartphone-controlled vest that translates sound into patterns of vibration for the deaf.
Eagleman is also the author of Sum, an internationally bestselling short story collection speculating on life, death and what it means to be human. Translated into 28 languages, Sum has been turned into two separate operas at the Sydney Opera House and the Royal Opera House in London.
David Eagleman | Speaker | TED.com