ABOUT THE SPEAKER
Uri Hasson - Neuroscientist
Why do great thoughts and stories resonate so strongly with so many people, and how do we communicate them? Using fMRI experiments, Uri Hasson is looking for the answers.

Why you should listen

Rather than purging real-world complexity from his experiments, Uri Hasson and his Princeton lab collaborators use messy, real-life stimuli to study how our brains communicate with other brains.

Using fMRI to peer into his subjects’ brain activity, Hasson has discovered that a great storyteller literally causes the neurons of an audience to closely sync with the storyteller’s brain -- a finding that has far-reaching implications for communicators, teachers, performers, and scientists alike.

More profile about the speaker
Uri Hasson | Speaker | TED.com
TED2016

Uri Hasson: This is your brain on communication

ยูริ แฮสสัน (Uri Hasson): นี่คือสมองของคุณตอนกำลังสื่อสาร

Filmed:
2,688,957 views

นักประสาทวิทยาศาสตร์ ยูริ แฮสสัน วิจัยพื้นฐานการสื่อสารของมนุษย์ และทำการทดลองจากห้องทดลองของเขาเปิดเผยว่าสมองของเราแสดงถึงกิจกรรมที่คล้ายกันแม้ว่าจะต่างใช้ภาษาที่ต่างกัน หรือมัน "เทียบเคียงกัน" เมื่อเราได้ยินแนวคิดหรือเรื่องราวเดียวกัน กลไกธรรมชาติที่น่าทึ่งนี้ทำให้เราสามารถส่งต่อรูปแบบสมองพื้นฐาน แบ่งปันความคิดและความรู้กันได้ "เราสามารถสื่อสารได้เพราะว่าเรามีรหัสร่วมกันที่แสดงความหมาย" แฮสสันกล่าว
- Neuroscientist
Why do great thoughts and stories resonate so strongly with so many people, and how do we communicate them? Using fMRI experiments, Uri Hasson is looking for the answers. Full bio

Double-click the English transcript below to play the video.

00:12
Imagineจินตนาการ that you inventedคิดค้น a deviceเครื่อง
0
806
2075
ลองนึกว่าคุณประดิษฐ์อุปกรณ์สักอย่าง
00:14
that can recordบันทึก my memoriesความทรงจำ,
1
2905
1672
ที่สามารถบันทึกความทรงจำของผม
00:16
my dreamsความฝัน, my ideasความคิด,
2
4601
2037
ความฝันของผม ความคิดของผม
00:18
and transmitส่งผ่าน them to your brainสมอง.
3
6662
1663
และส่งมันไปยังสมองของคุณ
00:20
That would be a game-changingเปลี่ยนเกม
technologyเทคโนโลยี, right?
4
8755
3075
นั่นมันคงจะเป็นเทคโนโลยีที่แปลกใหม่มาก
ใช่ไหมครับ
00:23
But in factความจริง, we alreadyแล้ว
possessมี this deviceเครื่อง,
5
11854
3038
แต่อันที่จริง เรามีอุปกรณ์นี้อยู่แล้ว
00:26
and it's calledเรียกว่า humanเป็นมนุษย์ communicationการสื่อสาร systemระบบ
6
14916
2644
และมันถูกเรียกว่า ระบบการสื่อสารของมนุษย์
00:29
and effectiveมีประสิทธิภาพ storytellingการเล่านิยาย.
7
17584
1848
และการเล่าเรื่องอย่างมีประสิทธิภาพ
00:31
To understandเข้าใจ how this deviceเครื่อง worksโรงงาน,
8
19874
2460
เพื่อที่จะทำความเข้าใจว่า
อุปกรณ์นี้ทำงานได้อย่างไร
00:34
we have to look into our brainsสมอง.
9
22358
2415
เราต้องมองเข้าไปในสมองของเรา
00:36
And we have to formulateกำหนด the questionคำถาม
in a slightlyเล็กน้อย differentต่าง mannerลักษณะ.
10
24797
3586
และเราต้องตั้งคำถาม
ในแบบที่ต่างไปจากปกติ
00:40
Now we have to askถาม
11
28407
1463
ทีนี้ เราต้องถามว่า
00:42
how these neuronเซลล์ประสาท patternsรูปแบบ in my brainสมอง
12
30309
2616
รูปแบบเซลล์ประสาทในสมองของผมเหล่านี้
00:44
that are associatedที่เกี่ยวข้อง
with my memoriesความทรงจำ and ideasความคิด
13
32949
3202
ที่เกี่ยวข้องกับความทรงจำ
และความคิดของผม
00:48
are transmittedส่ง into your brainsสมอง.
14
36175
2519
ถูกส่งต่อไปยังสมองของคุณได้อย่างไร
00:51
And we think there are two factorsปัจจัย
that enableทำให้สามารถ us to communicateสื่อสาร.
15
39702
3368
และเราคิดว่า มันมีสองปัจจัย
ที่ทำให้เราสามารถสื่อสารกันได้
00:55
First, your brainสมอง is now
physicallyทางร่างกาย coupledควบคู่ to the soundเสียง waveคลื่น
16
43094
4055
ประการแรก สมองของคุณตอนนี้
กำลังจับคู่ในทางกายภาพกับคลื่นเสียง
00:59
that I'm transmittingส่ง to your brainสมอง.
17
47173
2475
ที่ผมกำลังส่งออกไปยังสมองของคุณ
01:01
And secondที่สอง, we developedพัฒนา
a commonร่วมกัน neuralประสาท protocolโปรโตคอล
18
49672
3378
และประการที่สอง เราพัฒนา
วิธีการทางประสาทพื้นฐาน
01:05
that enabledเปิดการใช้งาน us to communicateสื่อสาร.
19
53074
1758
ที่สามารถทำให้เราสื่อสารกันได้
01:07
So how do we know that?
20
55459
1262
แล้วเรารู้ได้อย่างไรล่ะ
01:09
In my labห้องปฏิบัติการ in Princetonพรินซ์ตัน,
21
57292
1893
ในห้องทดลองของผมในพรินส์ตัน
01:11
we bringนำมาซึ่ง people to the fMRIfMRI scannerสแกนเนอร์
and we scanการสแกน theirของพวกเขา brainsสมอง
22
59209
3505
ผมนำคนเข้าเครื่อง fMRI
และเราถ่ายภาพสมอง
01:14
while they are eitherทั้ง tellingบอก
or listeningการฟัง to real-lifeชีวิตจริง storiesเรื่องราว.
23
62738
3900
ในขณะที่พวกเขากำลังเล่าเรื่อง
หรือฟังเรื่องราวในชีวิตจริงอยู่
01:18
And to give you a senseความรู้สึก
of the stimulusแรงบันดาลใจ we are usingการใช้,
24
66662
2624
และเพื่อให้คุณเข้าใจถึงสิ่งกระตุ้นที่เราใช้
01:21
let me playเล่น 20 secondsวินาที
from a storyเรื่องราว that we used,
25
69310
3984
ให้ผมฉายเรื่องราวที่เราใช้
เป็นเวลา 20 วินาที
01:25
told by a very talentedมีความสามารถ storytellerผู้เล่า,
26
73318
2324
ซึ่งเรื่องนี้ถูกเล่า
โดยนักเล่าเรื่องที่มีพรสวรรค์มาก
01:27
Jimจิม O'Gradyเกรดี้.
27
75666
1151
จิม โอ กราดี
01:30
(Audioเสียง) Jimจิม O'Gradyเกรดี้: So I'm bangingการต่อสู้ out
my storyเรื่องราว and I know it's good,
28
78244
3333
(เสียง) จิม โอ กราดี: ผมนำเรื่องของผมมา
และผมก็รู้ว่ามันดูดี
01:33
and then I startเริ่มต้น to make it better --
29
81601
2290
และจากนั้นผมก็ทำให้มันดีขึ้น --
01:35
(Laughterเสียงหัวเราะ)
30
83915
2484
(เสียงหัวเราะ)
01:38
by addingเพิ่ม an elementธาตุ of embellishmentการจัดแต่ง.
31
86423
2335
โดยการเพิ่มเติมเสริมแต่ง
01:41
Reportersผู้สื่อข่าว call this "makingการทำ shitอึ up."
32
89502
3308
นักข่าวเรียกสิ่งนี้ว่า "การใส่สีตีไข่"
01:44
(Laughterเสียงหัวเราะ)
33
92834
2271
(เสียงหัวเราะ)
01:47
And they recommendแนะนำ
againstต่อต้าน crossingที่ข้าม that lineเส้น.
34
95735
3116
และพวกเขาแนะนำว่าอย่าข้ามเส้น
01:52
But I had just seenเห็น the lineเส้น crossedข้าม
betweenระหว่าง a high-poweredสูงขับเคลื่อน deanคณบดี
35
100208
4604
แต่ผมก็ได้เห็นมาข้ามเส้น
ระหว่างผู้อาวุโสที่มีตำแหน่งสูง
01:56
and assaultโจมตี with a pastryขนมปิ้ง.
36
104836
1426
และก่อกวนหยอก ๆ
01:58
And I kindaครับ likedชอบ it."
37
106286
1492
และผมก็ค่อนข้างชอบมันน่ะครับ"
01:59
Uriยูริ HassonHasson: OK, so now
let's look into your brainสมอง
38
107802
2374
ยูริ แฮสสัน: ครับ
ตอนนี้ลองมาดูสมองของคุณ
02:02
and see what's happeningสิ่งที่เกิดขึ้น
when you listen to these kindsชนิด of storiesเรื่องราว.
39
110200
3228
และมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น
เมื่อคุณฟังเรื่องพวกนี้
02:05
And let's startเริ่มต้น simpleง่าย -- let's startเริ่มต้น
with one listenerผู้ฟัง and one brainสมอง areaพื้นที่:
40
113452
4044
และลองมาเริ่มกับอะไรง่าย ๆ ก่อน --
ลองมาเริ่มจากผู้ฟังคนหนึ่งและสมองบริเวณหนึ่ง
02:09
the auditoryห้องประชุม cortexเยื่อหุ้มสมอง that processesกระบวนการ
the soundsเสียง that come from the earหู.
41
117520
3489
คอร์เท็กซ์ส่วนการฟังที่เกี่ยวข้องกับ
เสียงที่รับมาทางหู
02:13
And as you can see,
in this particularโดยเฉพาะ brainสมอง areaพื้นที่,
42
121033
2444
และอย่างที่คุณเห็นในบางส่วนของสมอง
02:15
the responsesการตอบสนอง are going up and down
as the storyเรื่องราว is unfoldingการแฉ.
43
123501
3492
การตอบสนองเพิ่มขึ้นและลดลง
เมื่อเรื่องราวถูกเปิดเผยมากขึ้น
02:19
Now we can take these responsesการตอบสนอง
44
127017
1593
ทีนี้ คุณสามารถนำการตอบสนองนี้
02:20
and compareเปรียบเทียบ them to the responsesการตอบสนอง
in other listenersฟัง
45
128634
2801
ไปเปรียบเทียบกับการตอบสนอง
ที่ได้จากผู้ฟังคนอื่น ๆ
02:23
in the sameเหมือนกัน brainสมอง areaพื้นที่.
46
131459
1475
ในสมองบริเวณเดียวกัน
02:24
And we can askถาม:
47
132958
1167
และเราสามารถถามได้ว่า
02:26
How similarคล้ายคลึงกัน are the responsesการตอบสนอง
acrossข้าม all listenersฟัง?
48
134149
3235
การตอบสนองของผู้ฟังทั้งหมด
มีความคล้ายคลึงกันมากแค่ไหน
02:30
So here you can see fiveห้า listenersฟัง.
49
138018
2362
ตรงนี้คุณได้เห็นผู้ฟังห้าคน
02:32
And we startเริ่มต้น to scanการสแกน theirของพวกเขา brainsสมอง
before the storyเรื่องราว startsเริ่มต้น,
50
140983
3453
และเราเริ่มสแกนด์สมองของพวกเขา
ก่อนที่จะเริ่มเล่าเรื่อง
02:36
when they're simplyง่ายดาย lyingโกหก in the darkมืด
and waitingที่รอ for the storyเรื่องราว to beginเริ่ม.
51
144460
3539
เมื่อพวกเขานอนนิ่ง ๆ อยู่ในความมืด
และรอให้เริ่มต้นขึ้น
02:40
As you can see,
52
148023
1154
อย่างที่คุณเห็น
02:41
the brainสมอง areaพื้นที่ is going up and down
in eachแต่ละ one of them,
53
149201
2758
บริเวณสมองกำลังตอบสนองมากขึ้น
และน้อยลงในแต่ละส่วน
02:43
but the responsesการตอบสนอง are very differentต่าง,
54
151983
1775
แต่การตอบสนองเหล่านี้
มีความแตกต่างกันมาก
02:45
and not in syncซิงค์.
55
153782
1667
และไม่ได้เกิดขึ้นไปพร้อมกัน
02:47
Howeverอย่างไรก็ตาม, immediatelyทันที
as the storyเรื่องราว is startingที่เริ่มต้น,
56
155473
2706
อย่างไรก็ดี ในทันทีที่เริ่มเรื่อง
02:50
something amazingน่าอัศจรรย์ is happeningสิ่งที่เกิดขึ้น.
57
158203
1686
อะไรบางอย่างที่น่าอัศจรรย์
ก็เกิดขึ้น
02:52
(Audioเสียง) JOJO: So I'm bangingการต่อสู้ out my storyเรื่องราว
and I know it's good,
58
160857
2929
(เสียง) จิม: ผมก็เลยเล่าเรื่องออกมา
และผมก็รู้ว่ามันเป็นเรื่องที่ดี
02:55
and then I startเริ่มต้น to make it --
59
163810
1528
และจากนั้น ผมเริ่มที่จะทำให้มัน --
02:57
UH: Suddenlyทันใดนั้น, you can see
that the responsesการตอบสนอง in all of the subjectsอาสาสมัคร
60
165362
3297
ยูริ: ทันใดนั้นเอง คุณสามารถเห็นได้ว่า
การตอบสนองในกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด
03:00
lockล็อค to the storyเรื่องราว,
61
168683
1152
จดจ่ออยู่กับเรื่องราว
03:01
and now they are going up and down
in a very similarคล้ายคลึงกัน way
62
169859
3429
และตอนนี้พวกมันก็เพิ่มขึ้นและลดลง
ในแบบที่คล้ายกัน
03:05
acrossข้าม all listenersฟัง.
63
173312
1554
ในผู้ฟังทั้งหมด
03:06
And in factความจริง, this is exactlyอย่างแน่นอน
what is happeningสิ่งที่เกิดขึ้น now in your brainsสมอง
64
174890
3049
และอันที่จริง มันเป็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
ในสมองของคุณตอนนี้
03:09
when you listen to my soundเสียง speakingการพูด.
65
177963
2873
เมื่อคุณกำลังฟังเสียงพูดของผม
03:12
We call this effectผล "neuralประสาท entrainmentการขึ้นรถไฟ."
66
180860
3008
เราเรียกผลนี้ว่า
"การเข้าผสมทางธรรมชาติ"
03:16
And to explainอธิบาย to you
what is neuralประสาท entrainmentการขึ้นรถไฟ,
67
184374
2312
และเพื่อที่จะอธิบายกับคุณ
ว่าการเข้าผสมธรรมชาตินี้คืออะไร
03:18
let me first explainอธิบาย
what is physicalกายภาพ entrainmentการขึ้นรถไฟ.
68
186710
2610
ให้ผมได้อธิบายก่อนว่า
การเข้าผสมทางกายภาพคืออะไร
03:22
So, we'llดี look and see fiveห้า metronomesmetronomes.
69
190076
2750
เราจะเห็นเครื่องทำจังหวะห้าเครื่อง
03:24
Think of these fiveห้า metronomesmetronomes
as fiveห้า brainsสมอง.
70
192850
2996
คิดซะว่าเจ้าห้าเครื่องนี้
เป็นสมองห้าก้อน
03:27
And similarคล้ายคลึงกัน to the listenersฟัง
before the storyเรื่องราว startsเริ่มต้น,
71
195870
2750
และคล้ายกับผู้ฟังก่อนเริ่มเรื่อง
03:30
these metronomesmetronomes are going to clickคลิก,
72
198644
1813
เครื่องทำจังหวะเหล่านี้กำลังที่จะเคาะ
03:32
but they're going to clickคลิก out of phaseระยะ.
73
200481
2159
แต่พวกมันจะไม่เคาะพร้อมกัน
03:35
(Clickingคลิกที่)
74
203059
4396
(เสียงเคาะ)
03:39
Now see what will happenเกิดขึ้น
when I connectต่อ them togetherด้วยกัน
75
207479
3001
เอาล่ะครับ ตอนนี้ดูว่าเกิดอะไรขึ้น
เมื่อผมเชื่อมต่อพวกมัน
03:42
by placingการวาง them on these two cylindersถัง.
76
210504
2141
โดยนำพวกมันวางไว้บนทรงกระบอก
03:45
(Clickingคลิกที่)
77
213880
3221
(เสียงเคาะ)
03:49
Now these two cylindersถัง startเริ่มต้น to rotateหมุน.
78
217125
2612
ตอนนี้ ทรงกระบอกสองอันนี้
เริ่มที่จะกลิ้ง
03:51
This rotationการหมุน vibrationการสั่นสะเทือน
is going throughตลอด the woodเนื้อไม้
79
219761
3129
การสั่นของการกลิ้งนี้
เคลื่อนไปตามแผ่นไม้
03:54
and is going to coupleคู่
all the metronomesmetronomes togetherด้วยกัน.
80
222914
3005
และมันจะจับคู่
เครื่องเข้าจังหวะทั้งหมดนี้เข้าด้วยกัน
03:57
And now listen to the clickคลิก.
81
225943
1612
และตอนนี้ลองฟังเสียงเคาะสิครับ
03:59
(SynchronizedSynchronized clickingคลิกที่)
82
227579
4667
(เสียงเคาะพร้อมกัน)
04:09
This is what you call
physicalกายภาพ entrainmentการขึ้นรถไฟ.
83
237834
2624
นี่คือสิ่งที่คุณเรียกว่า
การเข้าผสมทางกายภาพ
04:12
Now let's go back to the brainสมอง and askถาม:
84
240482
2243
ทีนี้ กลับไปยังสมอง
และลองถามคำถามที่ว่า
04:14
What's drivingการขับขี่ this neuralประสาท entrainmentการขึ้นรถไฟ?
85
242749
2144
อะไรกันที่ขับเคลื่อน
การเข้าผสมธรรมชาติ
04:16
Is it simplyง่ายดาย the soundsเสียง
that the speakerผู้พูด is producingการผลิต?
86
244917
2785
มันเป็นแค่เสียง
ที่ผู้พูดผลิตออกมาหรือเปล่า
04:19
Or maybe it's the wordsคำ.
87
247726
1323
หรือบางทีอาจเป็นคำ
04:21
Or maybe it's the meaningความหมาย
that the speakerผู้พูด is tryingพยายาม to conveyสื่อ.
88
249073
3646
หรือบางทีมันเป็นความหมาย
ที่ผู้พูดพยายามที่จะสื่อสาร
04:24
So to testทดสอบ it, we did
the followingดังต่อไปนี้ experimentการทดลอง.
89
252743
2760
เพื่อที่จะทดสอบ
เราทำการทดลองดังต่อไปนี้
04:27
First, we tookเอา the storyเรื่องราว
and playedเล่น it backwardsย้อนกลับ.
90
255527
3201
ประการแรก เรานำเรื่องราวมา
และเล่ามันย้อนกลับ
04:30
And that preservedดอง manyจำนวนมาก
of the originalเป็นต้นฉบับ auditoryห้องประชุม featuresคุณสมบัติ,
91
258752
3126
และนั่นเป็นการคงโครงสร้างเสียงดั้งเดิม
เอาไว้หลายส่วน
04:33
but removedลบออก the meaningความหมาย.
92
261902
2013
แต่เป็นการเอาความหมายออกไป
04:35
And it soundsเสียง something like that.
93
263939
1671
และมันฟังดูเป็นแบบนี้ครับ
04:37
(Audioเสียง) JOJO: (Unintelligibleอ่านไม่ออก)
94
265634
5138
(เสียง) จิม: (ข้อความที่ไม่ฟังไม่รู้เรื่อง)
04:43
And we flashedประกาย colorsสี in the two brainsสมอง
95
271296
2352
และเราให้สีกับสมองทั้งสอง
04:45
to indicateแสดง brainสมอง areasพื้นที่ that respondตอบสนอง
very similarlyเหมือนกับ acrossข้าม people.
96
273672
3912
เพื่อบ่งบอกบริเวณของสมอง
ที่ตอบสนองอย่างคล้ายกัน
04:49
And as you can see,
97
277608
1154
และดังที่คุณได้เห็น
04:50
this incomingขาเข้า soundเสียง inducedที่ชักนำ entrainmentการขึ้นรถไฟ
or alignmentการวางแนว in all of the brainsสมอง
98
278786
3768
เสียงที่เข้ามานี้เหนี่ยวนำการเข้าผสม
หรือการเทียบเคียงกันของสมองทั้งหมด
04:54
in auditoryห้องประชุม corticescortices
that processกระบวนการ the soundsเสียง,
99
282578
2732
ในสมองส่วนการฟัง
ที่จัดการกับเสียงที่เข้ามา
04:57
but it didn't spreadกระจาย
deeperลึก into the brainสมอง.
100
285334
2224
แต่มันไม่ได้แผ่ขยายลึกเข้าไปในสมอง
05:00
Now we can take these soundsเสียง
and buildสร้าง wordsคำ out of it.
101
288051
3404
ทีนี้ เราสามารถนำเอาเสียงเหล่านี้
และสร้างคำขึ้นมา
05:03
So if we take Jimจิม O'Gradyเกรดี้
and scrambleการแย่งชิง the wordsคำ,
102
291479
2656
ถ้าเราเอาจิม โอกราดี มา
และสลับคำพวกนั้น
05:06
we'llดี get a listรายการ of wordsคำ.
103
294159
1240
เราจะได้รายการคำ
05:07
(Audioเสียง) JOJO: ... an animalสัตว์ ...
assortedสารพัน factsข้อเท็จจริง ...
104
295423
2262
(เสียง) จิม: ... สัตว์...
ข้อเท็จจริงที่หลากหลาย ...
05:09
and right on ... pieพาย man ...
potentiallyที่อาจเกิดขึ้น ... my storiesเรื่องราว
105
297709
2892
และตรงนั้น ... ไพน์แมน ...
อย่างมีศักยภาพ ... เรื่องราวของผม
05:12
UH: And you can see that these wordsคำ
startเริ่มต้น to induceชักจูง alignmentการวางแนว
106
300625
2942
ยูริ: และคุณเห็นได้ว่าคำเหล่านี้
เริ่มที่จะเหนี่ยวนำการเทียบเคียง
05:15
in earlyตอนต้น languageภาษา areasพื้นที่,
but not more than that.
107
303591
2605
ในส่วนภาษาส่วนแรก
แต่ไม่มีอะไรไปมากกว่านั้น
05:18
Now we can take the wordsคำ
and startเริ่มต้น to buildสร้าง sentencesประโยค out of them.
108
306220
3817
ทีนี้ เราสามารถเอาคำเหล่านี้มา
และเริ่มสร้างประโยคจากพวกมัน
05:23
(Audioเสียง) JOJO: And they recommendแนะนำ
againstต่อต้าน crossingที่ข้าม that lineเส้น.
109
311561
3000
(เสียง) จิม: และพวกเขาก็แนะนำว่า
อย่างข้ามเส้น
05:28
He saysกล่าวว่า: "Dearที่รัก Jimจิม,
Good storyเรื่องราว. Niceดี detailsรายละเอียด.
110
316021
3642
เขาบอกว่า "จิมที่รัก
นั่นเป็นเรื่องที่ดี รายละเอียดก็งาม
05:32
Didn't she only know
about him throughตลอด me?"
111
320369
2152
เธอไม่ได้รู้เรื่องเขาผ่านผมหรอกหรือ"
05:34
UH: Now you can see that the responsesการตอบสนอง
in all the languageภาษา areasพื้นที่
112
322545
3135
ยูริ: ตอนนี้คุณสามารถเห็นได้
ถึงการตอบสนองในส่วนภาษาทั้งหมด
05:37
that processกระบวนการ the incomingขาเข้า languageภาษา
113
325704
1691
ที่จัดการกับภาษาที่เข้ามา
05:39
becomeกลายเป็น alignedแนวราบ or similarคล้ายคลึงกัน
acrossข้าม all listenersฟัง.
114
327419
2379
ว่าพวกมันถูกเทียบเคียงและ
มีความใกล้เคียงกันในผู้ฟังทั้งหมด
05:42
Howeverอย่างไรก็ตาม, only when we use
the fullเต็ม, engagingน่ารัก, coherentเชื่อมโยงกัน storyเรื่องราว
115
330218
4677
อย่างไรก็ดี เมื่อพวกเราใช้เรื่องราวที่
สมบูรณ์ เข้าถึง และสอดคล้องกันเท่านั้น
05:46
do the responsesการตอบสนอง spreadกระจาย
deeperลึก into the brainสมอง
116
334919
2225
ที่การตอบสนองจะแพร่กระจาย
ลึกลงไปในสมอง
05:49
into higher-orderการสั่งซื้อสินค้าที่สูงขึ้น areasพื้นที่,
117
337168
1531
เข้าไปยังบริเวณ
ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น
05:50
whichที่ includeประกอบด้วย the frontalหน้าผาก cortexเยื่อหุ้มสมอง
and the parietalขม่อม cortexเยื่อหุ้มสมอง,
118
338723
3101
ซึ่งรวมถึงคอร์เทกซ์ส่วนหน้า
และคอร์เทกซ์ส่วนนอก
05:53
and make all of them
respondตอบสนอง very similarlyเหมือนกับ.
119
341848
2588
และทำให้พวกมันตอบสนอง
อย่างคล้ายคลึงกัน
05:56
And we believe that these responsesการตอบสนอง
in higher-orderการสั่งซื้อสินค้าที่สูงขึ้น areasพื้นที่ are inducedที่ชักนำ
120
344460
3269
และเราเชื่อว่าการตอบสนองเหล่านี้
ในบริเวณที่ซับซ้อนกว่าก็เกิดขึ้น
05:59
or becomeกลายเป็น similarคล้ายคลึงกัน acrossข้าม listenersฟัง
121
347753
2126
และมีความคล้ายคลึงกันในบรรดาผู้ฟัง
06:01
because of the meaningความหมาย
conveyedลำเลียง by the speakerผู้พูด,
122
349903
2740
เพราะว่าความหมายถูกสื่อโดยผู้พูด
06:04
and not by wordsคำ or soundเสียง.
123
352667
1601
ไม่ใช่โดยคำพูดหรือเสียง
06:06
And if we are right,
there's a strongแข็งแรง predictionคาดการณ์ over here
124
354635
2715
และถ้าเรามาถูกทาง
การคาดคะแนที่น่าจะเป็นไปได้สูงก็คือ
06:09
if I tell you the exactแน่นอน sameเหมือนกัน ideasความคิด
125
357374
2362
ถ้าผมบอกคุณถึงแนวคิดเดียวกัน
06:11
usingการใช้ two very differentต่าง setsชุด of wordsคำ,
126
359760
2644
โดยใช้คำสองชุดที่ต่างกันมาก ๆ
06:14
your brainสมอง responsesการตอบสนอง
will still be similarคล้ายคลึงกัน.
127
362428
2551
การตอบสมองของสมองของคุณ
จะยังคล้ายกัน
06:17
And to testทดสอบ it, we did
the followingดังต่อไปนี้ experimentการทดลอง in my labห้องปฏิบัติการ.
128
365499
3014
และเพื่อทำการทดสอบ
เราทำการทดลองดังต่อไปนี้
06:21
We tookเอา the Englishอังกฤษ storyเรื่องราว
129
369142
1808
เรานำเรื่องราวภาษาอังกฤษ
06:22
and translatedแปล it to Russianรัสเซีย.
130
370974
2136
และแปลมันเป็นภาษารัสเซีย
06:25
Now you have two differentต่าง soundsเสียง
and linguisticภาษาศาสตร์ systemsระบบ
131
373134
4224
ตอนนี้ คุณมีสองเสียงและระบบภาษา
ที่แตกต่างกัน
06:29
that conveyสื่อ the exactแน่นอน sameเหมือนกัน meaningความหมาย.
132
377382
2294
ที่สื่อถึงความหมายอย่างเดียวกัน
06:31
And you playเล่น the Englishอังกฤษ storyเรื่องราว
to the Englishอังกฤษ listenersฟัง
133
379700
3648
และคุณเล่าเรื่องภาษาอังกฤษ
ให้กับผู้ฟังอังกฤษ
06:35
and the Russianรัสเซีย storyเรื่องราว
to the Russianรัสเซีย listenersฟัง,
134
383372
2352
และเล่าเรื่องภาษารัสเซีย
ให้กับผู้ฟังรัสเซีย
06:37
and we can compareเปรียบเทียบ theirของพวกเขา responsesการตอบสนอง
acrossข้าม the groupsกลุ่ม.
135
385748
3045
และเราสามารถเปรียบเทียบ
การตอบสนองของพวกเขาในกลุ่มได้
06:40
And when we did that, we didn't see
responsesการตอบสนอง that are similarคล้ายคลึงกัน
136
388817
3571
และเมื่อเราทำอย่างนั้น
เราไม่เห็นการตอบสนองที่คล้ายกัน
06:44
in auditoryห้องประชุม corticescortices in languageภาษา,
137
392412
2281
ในสมองส่วนการฟังในภาษา
06:46
because the languageภาษา
and soundเสียง are very differentต่าง.
138
394717
2378
เพราะว่าภาษาและเสียง
มีความแตกต่างกันอย่างมาก
06:49
Howeverอย่างไรก็ตาม, you can see
that the responsesการตอบสนอง in high-orderสูงใบสั่ง areasพื้นที่
139
397119
2768
อย่างไรก็ดี คุณเห็นได้ว่า
การตอบสนองในบริเวณที่ซับซ้อนกว่า
06:51
were still similarคล้ายคลึงกัน
acrossข้าม these two groupsกลุ่ม.
140
399921
2494
ยังคงคล้ายกันในคนทั้งสองกลุ่ม
06:55
We believe this is because they understoodเข้าใจ
the storyเรื่องราว in a very similarคล้ายคลึงกัน way,
141
403068
4092
เราเชื่อว่า นี่เป็นเพราะพวกเขา
เข้าใจเรื่องราวในแบบที่คล้ายกันมาก
06:59
as we confirmedได้รับการยืนยัน, usingการใช้ a testทดสอบ
after the storyเรื่องราว endedสิ้นสุดวันที่.
142
407184
4026
ดังที่เรายืนยันได้ โดยการทดสอบ
หลังจากจบเรื่อง
07:04
And we think that this alignmentการวางแนว
is necessaryจำเป็น for communicationการสื่อสาร.
143
412321
3687
และเราคิดว่า การเทียบเคียงนี้
มีความสำคัญสำหรับการสื่อสาร
07:08
For exampleตัวอย่าง, as you can tell,
144
416032
2626
ยกตัวอย่างเช่น อย่างที่คุณก็รู้ว่า
07:10
I am not a nativeพื้นเมือง Englishอังกฤษ speakerผู้พูด.
145
418682
2027
ภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาแม่ของผม
07:12
I grewเติบโต up with anotherอื่น languageภาษา,
146
420733
1881
ผมโตขึ้นมาโดยมีภาษาอื่นเป็นภาษาแม่
07:14
and the sameเหมือนกัน mightอาจ be for manyจำนวนมาก
of you in the audienceผู้ชม.
147
422638
2654
และเช่นเดียวกันกับพวกคุณหลายคน
ในกลุ่มผู้ฟังนี้
07:17
And still, we can communicateสื่อสาร.
148
425316
1999
ถึงกระนั้น เรายังสามารถสื่อสารกันได้
07:19
How come?
149
427339
1151
มันเป็นไปได้อย่างไรกัน
07:20
We think we can communicateสื่อสาร
because we have this commonร่วมกัน codeรหัส
150
428514
3079
เราคิดว่าเราสามารถสื่อสารกันได้
เพราะเรามีรหัสพื้นฐานนี้
07:23
that presentsของขวัญ meaningความหมาย.
151
431617
1427
ที่แสดงความหมาย
07:25
So farห่างไกล, I've only talkedพูดคุย about
what's happeningสิ่งที่เกิดขึ้น in the listener'sฟัง brainสมอง,
152
433921
3446
ถึงตอนนี้ เราเพียงพูดถึง
ว่ามันเกิดอะไรขึ้นในสมองของผู้ฟัง
07:29
in your brainสมอง, when
you're listeningการฟัง to talksการเจรจา.
153
437391
2247
ในสมองของคุณ
เมื่อคุณกำลังฟังการบรรยายนี้
07:31
But what's happeningสิ่งที่เกิดขึ้น
in the speaker'sลำโพง brainสมอง, in my brainสมอง,
154
439662
2699
แต่มันเกิดอะไรขึ้น
ในสมองของผู้พูด ในสมองของผม
07:34
when I'm speakingการพูด to you?
155
442385
1807
เมื่อผมกำลังพูดกับคุณ
07:36
To look in the speaker'sลำโพง brainสมอง,
156
444216
1857
เพื่อที่จะดูในสมองของผู้พูด
07:38
we askedถาม the speakerผู้พูด
to go into the scannerสแกนเนอร์,
157
446097
3096
เราขอให้ผู้พูดเข้าไป
ยังเครื่องถ่ายภาพสมอง
07:41
we scanการสแกน his brainสมอง
158
449217
1602
เราถ่ายภาพสมองของเขา
07:42
and then compareเปรียบเทียบ his brainสมอง responsesการตอบสนอง
to the brainสมอง responsesการตอบสนอง of the listenersฟัง
159
450843
4007
และจากนั้นเปรียบเทียบการตอบสนอง
ของสมองของเขากับของผู้ฟัง
07:46
listeningการฟัง to the storyเรื่องราว.
160
454874
1802
ที่กำลังฟังเรื่องราวนั้น
07:48
You have to rememberจำ that producingการผลิต speechการพูด
and comprehendingทำความเข้าใจ speechการพูด
161
456700
4210
คุณต้องจำว่าการบรรยาย
และการเข้าใจการบรรยายนั้น
07:52
are very differentต่าง processesกระบวนการ.
162
460934
1723
เป็นกระบวนการที่แตกต่างกันมาก
07:54
Here we're askingถาม: How similarคล้ายคลึงกัน are they?
163
462681
2244
ถึงตรงนี้ เราถามว่า
แล้วมันคล้ายกันแค่ไหนล่ะ
07:58
To our surpriseแปลกใจ,
164
466164
1407
เราแปลกใจมาก
07:59
we saw that all these complexซับซ้อน
patternsรูปแบบ withinภายใน the listenersฟัง
165
467595
4871
ที่เราเห็นว่ารูปแบบที่ซับซ้อนเหล่านี้
ในผู้ฟัง
08:04
actuallyแท้จริง cameมา from the speakerผู้พูด brainสมอง.
166
472490
2707
อันที่จริงแล้วมาจากสมองของผู้พูด
08:07
So productionการผลิต and comprehensionความเข้าใจ
relyวางใจ on very similarคล้ายคลึงกัน processesกระบวนการ.
167
475221
3685
ฉะนั้นการผลิตและการเข้าใจ
ขึ้นอยู่กับกระบวนการที่คล้ายกันมาก
08:10
And we alsoด้วย foundพบ
168
478930
1572
และเรายังพบอีกว่า
08:12
the strongerแข็งแกร่ง the similarityความคล้ายคลึงกัน
betweenระหว่าง the listener'sฟัง brainสมอง
169
480526
3706
ยิ่งมีความคล้ายกันมากเท่าไร
ระหว่างสมองของผู้ฟัง
08:16
and the speaker'sลำโพง brainสมอง,
170
484256
1499
และสมองของผู้พูด
08:17
the better the communicationการสื่อสาร.
171
485779
1905
การสื่อสารก็ยิ่งดีขึ้นเท่านั้น
08:19
So I know that if you
are completelyอย่างสมบูรณ์ confusedสับสน now,
172
487708
3965
ฉะนั้น ผมรู้ว่า
ถ้าคุณสับสนมาก ๆ ในตอนนี้
08:23
and I do hopeหวัง that this is not the caseกรณี,
173
491697
2021
แต่ผมหวังว่าคุณจะไม่สับสนนะครับ
08:25
your brainสมอง responsesการตอบสนอง
are very differentต่าง than mineเหมือง.
174
493742
2393
การตอบสนองของสมองของคุณ
จะแตกต่างจากของผมมาก
08:28
But I alsoด้วย know that if you really
understandเข้าใจ me now,
175
496159
3107
แต่ผมยังรู้อีกว่า
ถ้าคุณเข้าใจผมจริง ๆ ในตอนนี้
08:31
then your brainสมอง ... and your brainสมอง
... and your brainสมอง
176
499290
2891
สมองของคุณ ... และของคุณ
... และของคุณ
08:34
are really similarคล้ายคลึงกัน to mineเหมือง.
177
502205
1728
จะคล้ายกับของผมมาก
08:37
Now, let's take all
this informationข้อมูล togetherด้วยกัน and askถาม:
178
505793
3095
ทีนี้ ลองนำข้อมูลทั้งหมดนี้
มาประกอบเข้าด้วยกัน และถามว่า
08:40
How can we use it to transmitส่งผ่าน
a memoryหน่วยความจำ that I have
179
508912
3337
เราจะใช้มันในการส่งต่อ
ความทรงจำที่เรามี
08:44
from my brainสมอง to your brainsสมอง?
180
512273
2186
จากสมองของผม
ไปยังสมองของคุณได้อย่างไร
08:47
So we did the followingดังต่อไปนี้ experimentการทดลอง.
181
515037
2118
เราทำการทดลองดังต่อไปนี้ครับ
08:49
We let people watch,
for the first time in theirของพวกเขา life,
182
517648
2573
เราให้คนชมสิ่งนี้เป็นครั้งแรก
ระหว่างที่เราถ่ายภาพสมอง
08:52
a TVโทรทัศน์ episodeตอน from the BBCบีบีซี seriesชุด
"Sherlockเชอร์ล็อก," while we scannedสแกน theirของพวกเขา brainsสมอง.
183
520245
4134
มันคือเรื่อง "เชอร์ล๊อค" ตอนหนึ่ง
จากรายการของ BBC
08:56
And then we askedถาม them
to go back to the scannerสแกนเนอร์
184
524403
2801
และจากนั้นเราก็ขอให้พวกเขา
กลับไปยังเครื่องถ่ายภาพสมอง
08:59
and tell the storyเรื่องราว to anotherอื่น personคน
that never watchedดู the movieหนัง.
185
527228
3899
และเล่าเรื่องนั้นให้กับอีกคนหนึ่ง
ที่ยังไม่เคยดูหนังเรื่องนั้นมาก่อน
09:03
So let's be specificโดยเฉพาะ.
186
531151
1660
เอาให้ชัด ๆ ก็คือ
09:04
Think about this exactแน่นอน sceneฉาก,
187
532835
2047
ลองนึกถึงฉากนี้
09:06
when Sherlockเชอร์ล็อก is enteringป้อน
the cabแท็กซี่ in Londonกรุงลอนดอน
188
534906
2584
เมื่อเชอร์ล๊อคกำลังเข้าไปในรถแท็กซี่
ในลอนดอน
09:09
drivenขับเคลื่อน by the murdererฆาตกร he is looking for.
189
537514
2296
ที่ผู้ขับคือฆาตรกรที่เขากำลังตามหา
09:12
With me, as a viewerผู้ชม,
190
540398
2496
สำหรับผมในฐานะผู้ชม
09:14
there is a specificโดยเฉพาะ brainสมอง patternแบบแผน
in my brainสมอง when I watch it.
191
542918
3500
นี่เป็นรูปแบบสมองจำเพาะ
ในสมองของผมตอนที่ชมเรื่องนี้
09:19
Now, the exactแน่นอน sameเหมือนกัน patternแบบแผน,
I can reactivateฟื้นฟู in my brainสมอง again
192
547179
3772
ทีนี้ รูปแบบเดียวกันนี้ ผมสามารถ
เรียกมันขึ้นมาในสมองอีกครั้ง
09:22
by tellingบอก the worldโลก:
Sherlockเชอร์ล็อก, Londonกรุงลอนดอน, murdererฆาตกร.
193
550975
3656
โดยการเล่าเรื่องให้คนอื่นฟัง
ถึง เชอร์ล๊อค ลอนดอน ฆาตรกร
09:27
And when I'm transmittingส่ง
these wordsคำ to your brainsสมอง now,
194
555369
3110
และเมื่อผมส่งต่อคำเหล่านี้
ไปยังสมองของคุณในตอนนี้
09:30
you have to reconstructบูรณะ it in your mindใจ.
195
558503
2485
คุณจะต้องสร้างมันขึ้นมาใหม่
ในความคิดของคุณ
09:33
In factความจริง, we see that patternแบบแผน
emergingฉุกเฉิน now in your brainsสมอง.
196
561012
4549
อันที่จริง เราเห็นรูปแบบนี้
กำลังเกิดขึ้นในสมองของคุณตอนนี้
09:37
And we were really surprisedประหลาดใจ to see
197
565585
2515
และเราก็แปลกใจมากที่ได้เห็นว่า
09:40
that the patternแบบแผน you have
now in your brainsสมอง
198
568124
2255
รูปแบบดังกล่าวที่คุณมีอยู่
ในสมองของคุณตอนนี้
09:42
when I'm describingอธิบาย to you these scenesฉาก
199
570403
1912
เมื่อผมอธิบายถึงฉากเหล่านี้
ให้คุณฟัง
09:44
would be very similarคล้ายคลึงกัน to the patternแบบแผน
I had when I watchedดู this movieหนัง
200
572339
3822
จะมีความคล้ายมากกับรูปแบบ
ที่ผมมีเมื่อผมชมหนังเรื่องนี้
09:48
a fewน้อย monthsเดือน agoมาแล้ว in the scannerสแกนเนอร์.
201
576185
2138
เมื่อหลายเดือนก่อน
ในเครื่องถ่ายภาพสมอง
09:50
This startsเริ่มต้น to tell you
about the mechanismกลไก
202
578347
2104
มันเริ่มที่จะบอกคุณเกี่ยวกับกลไก
09:52
by whichที่ we can tell storiesเรื่องราว
and transmitส่งผ่าน informationข้อมูล.
203
580475
2742
ที่ซึ่งเราสามารถเล่าเรื่องราว
และส่งต่อข้อมูล
09:55
Because, for exampleตัวอย่าง,
204
583733
1876
เพราะว่า ยกตัวอย่างเช่น
09:57
now you're listeningการฟัง really hardยาก
and tryingพยายาม to understandเข้าใจ what I'm sayingคำพูด.
205
585633
3512
ตอนนี้คุณกำลังตั้งใจฟังและ
พยายามเข้าใจว่าผมพูดอะไรอยู่
10:01
And I know that it's not easyง่าย.
206
589169
1550
และผมรู้ว่ามันไม่ได้ง่ายเลย
10:02
But I hopeหวัง that at one pointจุด
in the talk we clickedคลิก, and you got me.
207
590743
4036
แต่ผมหวังว่า ณ จุดหนึ่งในการบรรยายนี้
เราเข้าใจซึ่งกันและกัน และคุณเข้าใจผม
10:06
And I think that in a fewน้อย hoursชั่วโมง,
a fewน้อย daysวัน, a fewน้อย monthsเดือน,
208
594803
3898
และผมคิดว่าในไม่กี่ชั่วโมง
ไม่กี่วัน ไม่กี่เดือน
10:10
you're going to meetพบกัน someoneบางคน at a partyพรรค,
209
598725
2144
คุณจะพบกับใครสักคนที่งานเลี้ยง
10:12
and you're going to tell him
about this lectureคำบรรยาย,
210
600893
3548
และจะเล่าเรื่องนี้ให้เขาฟัง
10:16
and suddenlyทันใดนั้น it will be as if
he is standingจุดยืน now here with us.
211
604465
3638
และทันในนั้นเอง มันจะราวกับว่า
เขาคนนั้นมายืนอยู่ตรงนี้ที่นี่กับเรา
10:20
Now you can see
how we can take this mechanismกลไก
212
608127
2850
ตอนนี้ คุณเห็นได้ว่า
เราจะสามารถนำเอากลไกนี้
10:23
and try to transmitส่งผ่าน memoriesความทรงจำ
and knowledgeความรู้ acrossข้าม people,
213
611001
3931
ไปใช้ในการส่งต่อความทรงจำ
และความรู้ไปสู่อีกคนได้อย่างไร
10:26
whichที่ is wonderfulยอดเยี่ยม, right?
214
614956
2047
ซึ่งมันน่าจะดีมากเลยใช่ไหมครับ
10:29
But our abilityความสามารถ to communicateสื่อสาร
reliesอาศัย on our abilityความสามารถ
215
617027
3167
แต่ความสามารถในการสื่อสารของเรา
ขึ้นอยู่กับความสามารถของเรา
10:32
to have commonร่วมกัน groundพื้น.
216
620218
2566
ในการมีพื้นฐานร่วมกัน
10:34
Because, for exampleตัวอย่าง,
217
622808
1205
เพราะว่า ยกตัวอย่างเช่น
10:36
if I'm going to use the Britishอังกฤษ synonymคำพ้องความหมาย
218
624037
3767
ถ้าหากผมกำลังใช้คำพ้องภาษาอังกฤษ
10:39
"hackneyรถแท๊กซี่ carriageการขนส่ง" insteadแทน of "cabแท็กซี่,"
219
627828
2378
"พาหนะเช่า" แทนคำว่า "แท๊กซี่"
10:42
I know that I'm going to be misalignedmisaligned
with mostมากที่สุด of you in the audienceผู้ชม.
220
630230
4039
ผมรู้ว่าผมกำลังจะไม่ไปในทิศทางเดียว
กับผู้ฟังส่วนใหญ่ของผม
10:46
This alignmentการวางแนว dependsขึ้นอยู่กับ
not only on our abilityความสามารถ
221
634720
2191
การเทียบเคียงนี้ไม่เพียงแต่
จะขึ้นอยู่กับความสามารถของเรา
10:48
to understandเข้าใจ the basicขั้นพื้นฐาน conceptแนวคิด;
222
636935
2034
ในการทำความเข้าใจแนวคิดพื้นฐาน
10:50
it alsoด้วย dependsขึ้นอยู่กับ on our abilityความสามารถ to developพัฒนา
commonร่วมกัน groundพื้น and understandingความเข้าใจ
223
638993
4795
มันยังขึ้นอยู่กับความสามารถของเรา
ในการพัฒนาพื้นฐานและความเข้าใจร่วมกัน
10:55
and sharedที่ใช้ร่วมกัน beliefความเชื่อ systemsระบบ.
224
643812
1787
และมีระบบความเชื่อร่วมกัน
10:57
Because we know that in manyจำนวนมาก casesกรณี,
225
645623
1834
เพราะว่าเรารู้ว่าในหลาย ๆ กรณี
10:59
people understandเข้าใจ the exactแน่นอน
sameเหมือนกัน storyเรื่องราว in very differentต่าง waysวิธี.
226
647481
4043
คนเข้าใจเรื่องราวเดียวกัน
ในรูปแบบที่แตกต่างกัน
11:04
So to testทดสอบ it in the labห้องปฏิบัติการ,
we did the followingดังต่อไปนี้ experimentการทดลอง.
227
652460
3041
ฉะนั้น เพื่อทดสองสิ่งนี้ในห้องทดลอง
ผมทำการทดลองดังต่อไปนี้
11:08
We tookเอา a storyเรื่องราว by J.D. Salingerซาลิงเกอร์,
228
656089
2931
เราใช้เรื่องราวของ เจ. ดี. ซาลินเจอร์
11:11
in whichที่ a husbandสามี lostสูญหาย trackลู่
of his wifeภรรยา in the middleกลาง of a partyพรรค,
229
659044
4335
ที่ซึ่งสามีหลงกับภรรยากลางงานเลี้ยง
11:15
and he's callingการเรียกร้อง his bestดีที่สุด friendเพื่อน, askingถาม,
"Did you see my wifeภรรยา?"
230
663403
3687
และเขาเรียกเพื่อนรักของเขามา
เพื่อถามว่า "เห็นภรรยาของผมไหม"
11:19
For halfครึ่ง of the subjectsอาสาสมัคร,
231
667836
1207
กลุ่มทดลองครึ่งหนึ่ง
11:21
we said that the wifeภรรยา was havingมี
an affairเรื่อง with the bestดีที่สุด friendเพื่อน.
232
669067
4141
เราบอกว่า ภรรยามีสัมพันธ์
กับเพื่อนรักคนนั้น
11:25
For the other halfครึ่ง,
233
673232
1151
อีกครึ่งหนึ่ง
11:26
we said that the wifeภรรยา is loyalซื่อสัตย์
and the husbandสามี is very jealousอิจฉา.
234
674407
5105
เราบอกว่า ภรรยาเป็นคนที่ซื่อสัตย์
แต่สามีเป็นคนขึ้หึงมาก
11:32
This one sentenceประโยค before the storyเรื่องราว startedเริ่มต้น
235
680127
2688
เพียงประโยคเดียวนี้ก่อนเริ่มเรื่อง
11:34
was enoughพอ to make the brainสมอง responsesการตอบสนอง
236
682839
2301
ก็เพียงพอแล้ว
ที่จะทำให้การตอบสนองของสมอง
11:37
of all the people that believedเชื่อว่า
the wifeภรรยา was havingมี an affairเรื่อง
237
685164
3044
ของทุกคนที่เชื่อว่าภรรยามีชู้
11:40
be very similarคล้ายคลึงกัน in these high-orderสูงใบสั่ง areasพื้นที่
238
688232
2437
มีความคล้ายคลึงกันในส่วนที่ซับซ้อน
11:42
and differentต่าง than the other groupกลุ่ม.
239
690693
2222
และแตกต่างจากอีกกลุ่มหนึ่ง
11:44
And if one sentenceประโยค is enoughพอ
to make your brainสมอง similarคล้ายคลึงกัน
240
692939
3673
และถ้าเพียงประโยคเดียวนั้นเพียงพอ
ที่จะทำให้สมองของคุณมีความคล้ายกัน
11:48
to people that think like you
241
696636
1603
กับคนที่คิดเหมือนกับคุณ
11:50
and very differentต่าง than people
that think differentlyต่างกัน than you,
242
698263
2953
และแตกต่างกับคนที่คิดต่างกับคุณแล้ว
11:53
think how this effectผล is going
to be amplifiedขยาย in realจริง life,
243
701240
3477
ลองคิดดูสิครับว่าผลนี้ จะถูกขยาย
ออกไปมากแค่ไหนในชีวิตประจำวัน
11:56
when we are all listeningการฟัง
to the exactแน่นอน sameเหมือนกัน newsข่าว itemชิ้น
244
704741
2892
เมื่อเราทุกคนกำลังฟังข่าวเดียวกัน
11:59
after beingกำลัง exposedที่เปิดเผย
day after day after day
245
707657
3748
หลังจากที่ทุก ๆ วัน
12:03
to differentต่าง mediaสื่อ channelsช่อง,
like Foxจิ้งจอก Newsข่าว or The Newใหม่ Yorkนิวยอร์ก Timesไทม์ส,
246
711429
3812
เราเผชิญกับช่องทางสื่อที่แตกต่างกัน
เช่น ข่าวช่อง ฟ๊อกซ์ หรือ นิวยอร์ค ไทม์
12:07
that give us very differentต่าง
perspectivesมุมมอง on realityความจริง.
247
715265
3113
ที่ให้ทัศนคติต่อความจริงกับเรา
ในแบบที่แตกต่างกัน
12:11
So let me summarizeสรุป.
248
719556
1353
ฉะนั้น ให้ผมสรุปนะครับ
12:13
If everything workedทำงาน as plannedวางแผน tonightคืนนี้,
249
721529
2089
ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนในคืนนี้
12:15
I used my abilityความสามารถ to vocalizeเปล่งเสียง soundเสียง
to be coupledควบคู่ to your brainsสมอง.
250
723642
4299
ผมใช้ความสามารถของผมผลิตเสียง
เพื่อเข้าคู่กับสมองของคุณ
12:19
And I used this couplingการแต่งงานกัน
251
727965
1503
และผมใช้การเข้าคู่นี้
12:21
to transmitส่งผ่าน my brainสมอง patternsรูปแบบ associatedที่เกี่ยวข้อง
with my memoriesความทรงจำ and ideasความคิด
252
729492
3841
เพื่อส่งต่อรูปแบบสมองของผม
ที่เกี่ยวข้องกับความทรงจำและความคิดของผม
12:25
into your brainsสมอง.
253
733357
1316
เข้าไปยังสมองของคุณ
12:27
In this, I startเริ่มต้น to revealเปิดเผย
the hiddenซ่อนเร้น neuralประสาท mechanismกลไก
254
735201
3798
ด้วยสิ่งนี้ ผมเริ่มที่จะเผย
กลไกธรรมชาติที่ถูกซ่อนอยู่
12:31
by whichที่ we communicateสื่อสาร.
255
739023
1635
ที่เราใช้ในการสื่อสาร
12:32
And we know that in the futureอนาคต
it will enableทำให้สามารถ us to improveปรับปรุง
256
740682
2967
และเรารู้ว่าในอนาคต
มันจะสามารถทำให้เราปรับปรุง
12:35
and facilitateอำนวยความสะดวก communicationการสื่อสาร.
257
743673
1990
และทำให้การสื่อสารง่ายขึ้น
12:38
But these studiesการศึกษา alsoด้วย revealเปิดเผย
258
746111
1694
แต่การศึกษานี้ ยังได้เปิดเผย
12:40
that communicationการสื่อสาร reliesอาศัย
on a commonร่วมกัน groundพื้น.
259
748535
3286
ว่าการสื่อสารขึ้นอยู่กับพื้นฐานร่วม
12:43
And we have to be
really worriedกลุ้มใจ as a societyสังคม
260
751845
2462
และพวกเราในสังคม
จะต้องตระหนักให้ดี
12:46
if we loseสูญเสีย this commonร่วมกัน groundพื้น
and our abilityความสามารถ to speakพูด with people
261
754331
4036
ว่าหากเราสูญเสียพื้นฐานร่วมนี้
และความสามารถในการพูดกับคนอื่น
12:50
that are slightlyเล็กน้อย differentต่าง than us
262
758391
2117
ที่แตกต่างจากเราไปเล็กน้อย
12:52
because we let a fewน้อย very strongแข็งแรง
mediaสื่อ channelsช่อง
263
760532
3388
เพราะว่าเรายอมให้ช่องสื่อไม่กี่ช่อง
ที่มีอิทธิพล
12:55
take controlควบคุม of the micไมค์,
264
763944
1541
เข้ามาควบคุมกระบอกเสียงนี้
12:57
and manipulateจัดการ and controlควบคุม
the way we all think.
265
765509
3775
และกำกับ ควบคุม
แนวคิดที่เราทุกคนคิดอ่าน
13:01
And I'm not sure how to fixแก้ไขปัญหา it
because I'm only a scientistนักวิทยาศาสตร์.
266
769308
2901
และผมก็ไม่แน่ใจว่าจะแก้ไขมันอย่างไร
เพราะผมก็เป็นแค่นักวิทยาศาสตร์
13:04
But maybe one way to do it
267
772233
2460
แต่บางที ทางหนึ่งที่เราจะทำได้
13:06
is to go back to the more
naturalโดยธรรมชาติ way of communicationการสื่อสาร,
268
774717
2647
คือกลับไปยังวิธีการสื่อสาร
ที่เป็นธรรมชาติมากกว่า
13:09
whichที่ is a dialogueบทสนทนา,
269
777388
1602
ซึ่งก็คือการสนทนา
13:11
in whichที่ it's not only me
speakingการพูด to you now,
270
779014
2507
ที่ไม่ใช่เพียงแค่การที่ผม
พูดอยู่กับพวกคุณในตอนนี้
13:13
but a more naturalโดยธรรมชาติ way of talkingการพูด,
271
781994
2216
แต่เป็นวิธีการพูด
ที่เป็นธรรมชาติมากกว่านี้
13:16
in whichที่ I am speakingการพูด and I am listeningการฟัง,
272
784234
3277
ที่ซึ่งผมกำลังพูด
และผมกำลังฟัง
13:19
and togetherด้วยกัน we are tryingพยายาม to come
to a commonร่วมกัน groundพื้น and newใหม่ ideasความคิด.
273
787535
4720
และการที่เราพยายามจะมีพื้นฐานร่วม
และแนวคิดใหม่ด้วยกัน
13:24
Because after all,
274
792279
1158
เพราะว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม
13:25
the people we are coupledควบคู่ to
defineกำหนด who we are.
275
793461
3664
คนที่เราเข้าคู่ด้วย
เป็นตัวกำหนดว่าเราเป็นอย่างไร
13:29
And our desireปรารถนา to be coupledควบคู่
to anotherอื่น brainสมอง
276
797149
2389
และความต้องการของเรา
ที่จะถูกเข้าคู่ด้วยกับอีกสมองหนึ่ง
13:31
is something very basicขั้นพื้นฐาน
that startsเริ่มต้น at a very earlyตอนต้น ageอายุ.
277
799562
4517
เป็นอะไรบางอย่างที่เป็นพื้นฐาน
ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่อายุยังน้อย
13:36
So let me finishเสร็จสิ้น with an exampleตัวอย่าง
from my ownด้วยตัวเอง privateเอกชน life
278
804103
4187
ฉะนั้น ให้ผมจบการบรรยายนี้
ด้วยตัวอย่างจากชีวิตส่วนตัวของผม
13:41
that I think is a good exampleตัวอย่าง
of how couplingการแต่งงานกัน to other people
279
809044
4311
ที่ผมคิดว่ามันเป็นตัวอย่างที่ดี
ที่ว่าการเข้าคู่กับคนอื่น
13:45
is really going to defineกำหนด who we are.
280
813379
2274
เป็นการกำหนดว่าเราเป็นอย่างไรจริง ๆ
13:48
This my sonบุตรชาย Jonathanโจนาธาน at a very earlyตอนต้น ageอายุ.
281
816294
3074
นี่คือลูกชายขของผม
โจนาธาน ตอนที่ยังเด็ก
13:51
See how he developedพัฒนา
a vocalเกี่ยวกับเสียงพูด gameเกม togetherด้วยกัน with my wifeภรรยา,
282
819392
4150
ดูสิครับว่าเราพัฒนาเกมส์เสียง
กับภรรยาของผมด้วยกัน
13:55
only from the desireปรารถนา and pureบริสุทธิ์ joyความปิติยินดี
of beingกำลัง coupledควบคู่ to anotherอื่น humanเป็นมนุษย์ beingกำลัง.
283
823566
5231
จากความต้องการและความสุข
ที่จะได้เข้าคู่กับมนุษย์อีกคนหนึ่ง
14:01
(Bothทั้งสอง vocalizingเปล่ง)
284
829556
4917
(เสียงของทั้งสองคน)
14:14
(Laughterเสียงหัวเราะ)
285
842915
2328
(เสียงหัวเราะ)
14:17
Now, think how the abilityความสามารถ of my sonบุตรชาย
286
845267
3797
ทีนี้ ลองคิดดูครับ
ว่าความสามารถของลูกชายของผม
14:21
to be coupledควบคู่ to us
and other people in his life
287
849088
2762
ที่จะเข้าคู่กับเรา
และคนอื่น ๆ ในชีวิตของเขา
14:23
is going to shapeรูปร่าง the man
he is going to becomeกลายเป็น.
288
851874
2858
กำลังที่จะปั้นให้เขา
เป็นอย่างที่เขากำลังจะเป็นได้อย่างไร
14:26
And think how you changeเปลี่ยนแปลง on a dailyประจำวัน basisรากฐาน
289
854756
2415
และคิดดูครับว่าคุณอย่างไรบ้าง
ในชีวิตประจำวัน
14:29
from the interactionปฏิสัมพันธ์ and couplingการแต่งงานกัน
to other people in your life.
290
857195
4323
จากการมีปฏิสัมพันธ์และเข้าคู่
กับคนอื่น ๆ ในชีวิต
14:34
So keep beingกำลัง coupledควบคู่ to other people.
291
862562
2103
ฉะนั้น เข้าคู่กับคนอื่น ๆ เสมอ
14:37
Keep spreadingการแพร่กระจาย your ideasความคิด,
292
865157
1549
เผยแผ่ความคิดของคุณออกไป
14:38
because the sumรวม of all of us
togetherด้วยกัน, coupledควบคู่,
293
866730
3244
เพราะว่า ผลรวมของเราทุกคน
ผนวกรวมเข้าคู่กัน
14:41
is greaterมากขึ้น than our partsชิ้นส่วน.
294
869998
1594
ยิ่งใหญ่กว่าแค่ส่วนหนึ่งของเราเอง
14:43
Thank you.
295
871616
1166
ขอบคุณครับ
14:44
(Applauseการปรบมือ)
296
872806
5662
(เสียงปรบมือ)

▲Back to top

ABOUT THE SPEAKER
Uri Hasson - Neuroscientist
Why do great thoughts and stories resonate so strongly with so many people, and how do we communicate them? Using fMRI experiments, Uri Hasson is looking for the answers.

Why you should listen

Rather than purging real-world complexity from his experiments, Uri Hasson and his Princeton lab collaborators use messy, real-life stimuli to study how our brains communicate with other brains.

Using fMRI to peer into his subjects’ brain activity, Hasson has discovered that a great storyteller literally causes the neurons of an audience to closely sync with the storyteller’s brain -- a finding that has far-reaching implications for communicators, teachers, performers, and scientists alike.

More profile about the speaker
Uri Hasson | Speaker | TED.com