ABOUT THE SPEAKER
Kevin B. Jones - Cancer researcher
Kevin B. Jones is a life-long student of human nature, fascinated most by the decision-making capacity intrinsic to each of us.

Why you should listen

Kevin B. Jones diagnoses and performs surgeries to remove rare cancers called sarcomas from the limbs of children and adults. Counseling patients -- especially teenagers with bone cancers -- about the decisions they must make with regard to their bodies has brought the uncertainties of medicine into keen focus for him. How does a person decipher what medicine has told her? How can a person choose among options given very limited understanding of the implications of each? Intrigued by these riddles and conundrums that patient-physician communication frequently creates, Jones wrote a book, What Doctors Cannot Tell You: Clarity, Confidence and Uncertainty in Medicine.

Jones also runs a scientific research laboratory focused on the biology of sarcomas. Here, his team studies the decisions cells make on the way to becoming a cancer. Again the complexities and uncertainties inherent to these decisions are in full relief.

Jones sees patients and does surgery as an associate professor at the University of Utah in the Department of Orthopaedics, working at both Primary Children's Hospital and the Huntsman Cancer Institute. His laboratory is in the Huntsman Cancer Institute, where he is an adjunct faculty member in the Department of Oncological Sciences.

Jones studied English literature at Harvard, medicine at Johns Hopkins, orthopedic surgery at the University of Iowa, and musculoskeletal oncology at the University of Toronto. He lives in Salt Lake City with his wife and four children.

More profile about the speaker
Kevin B. Jones | Speaker | TED.com
TEDxSaltLakeCity

Kevin B. Jones: Why curiosity is the key to science and medicine

เควิน โจนส์ (Kevin Jones): ทำไมความสงสัยใคร่รู้จึงเป็นกุญแจสำคัญของวิทยาศาสตร์และการแพทย์

Filmed:
979,652 views

วิทยาศาสตร์คือกระบวนการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้องกับการทำการทดลอง ความล้มเหลว และการแก้ไขปรับปรุง และศาสตร์แห่งการแพทย์นั้นก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น นักวิจัยด้านมะเร็ง เควิน บี. โจนส์ เผชิญหน้ากับปริศนาดำมืดของการผ่าตัดและการรักษาพยาบาลด้วยคำตอบง่าย ๆ ซึ่งก็คือ ความซื่อสัตย์ ในการบรรยายที่ชวนคิดเกี่ยวกับธรรมชาติของความรู้ โจนส์แสดงให้เห็นว่าวิทยาศาสตร์จะก่อให้เกิดผลที่ดีที่สุดเมื่อนักวิทยาศาสตร์ต่างยอมรับอย่างไม่ทะนงตัวว่าพวกเขาไม่เข้าใจเรื่องอะไรบ้าง
- Cancer researcher
Kevin B. Jones is a life-long student of human nature, fascinated most by the decision-making capacity intrinsic to each of us. Full bio

Double-click the English transcript below to play the video.

00:12
Scienceวิทยาศาสตร์.
0
840
1200
วิทยาศาสตร์
00:14
The very wordคำ for manyจำนวนมาก of you conjuresเสก
unhappyไม่มีความสุข memoriesความทรงจำ of boredomความเบื่อ
1
2760
3416
คำที่ทำให้พวกคุณหลายคน
นึกถึงความทรงจำอันน่าเบื่อ
00:18
in highสูง schoolโรงเรียน biologyชีววิทยา or physicsฟิสิกส์ classชั้น.
2
6200
2896
ในวิชาชีววิทยาหรือฟิสิกส์ตอนมัธยม
00:21
But let me assureรับประกัน that what you did there
3
9120
3096
แต่ผมขอยืนยันนะครับ
ว่าสิ่งที่คุณได้เรียนมาในตอนนั้น
00:24
had very little to do with scienceวิทยาศาสตร์.
4
12240
2176
แทบจะไม่ได้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์เลย
00:26
That was really the "what" of scienceวิทยาศาสตร์.
5
14440
2296
สิ่งเหล่านั้นบอกคุณว่า
วิทยาศาสตร์มี "อะไร"
00:28
It was the historyประวัติศาสตร์
of what other people had discoveredค้นพบ.
6
16760
2720
มันเป็นประวัติศาสตร์
ของสิ่งที่คนอื่น ๆ ได้ค้นพบ
00:32
What I'm mostมากที่สุด interestedสนใจ in as a scientistนักวิทยาศาสตร์
7
20720
2336
สิ่งที่ผมสนใจที่สุดในฐานะนักวิทยาศาสตร์
00:35
is the "how" of scienceวิทยาศาสตร์.
8
23080
2136
ก็คือว่าวิทยาศาสตร์นั้นเป็น "อย่างไร"
00:37
Because scienceวิทยาศาสตร์ is knowledgeความรู้ in processกระบวนการ.
9
25240
3816
เพราะว่าวิทยาศาสตร์
คือความรู้ที่ยังอยู่ในกระบวนการ
00:41
We make an observationการสังเกต,
guessเดา an explanationคำอธิบาย for that observationการสังเกต,
10
29080
3456
เราทำการสังเกต คาดเดาคำอธิบาย
ต่อสิ่งที่เราได้สังเกตนั้น
00:44
and then make a predictionคาดการณ์
that we can testทดสอบ
11
32560
2056
และจากนั้นก็ทำการคาดคะเน
ที่เราตรวจสอบได้
00:46
with an experimentการทดลอง or other observationการสังเกต.
12
34640
1920
ด้วยการทดลองหรือการสังเกตอื่น ๆ
00:49
A coupleคู่ of examplesตัวอย่าง.
13
37080
1336
ยกตัวอย่างนะครับ
00:50
First of all, people noticedสังเกตเห็น
that the Earthโลก was belowด้านล่าง, the skyท้องฟ้า aboveข้างบน,
14
38440
3576
อย่างแรก คนเราเคยมองว่า
โลกอยู่ด้านล่าง และท้องฟ้าอยู่ด้านบน
00:54
and bothทั้งสอง the Sunดวงอาทิตย์ and the Moonดวงจันทร์
seemedดูเหมือน to go around them.
15
42040
3880
และทั้งดวงอาทิตย์และดวงจันทร์
ก็ดูเหมือนจะโคจรไปรอบ ๆ พวกเขา
00:58
Theirของพวกเขา guessedเดา explanationคำอธิบาย
16
46720
1536
คำอธิบายจากการเดาของพวกเขา
01:00
was that the Earthโลก mustต้อง be
the centerศูนย์ of the universeจักรวาล.
17
48280
3080
ก็คือ โลกจะต้องเป็นศูนย์กลางของจักรวาลแน่ ๆ
01:04
The predictionคาดการณ์: everything
should circleวงกลม around the Earthโลก.
18
52240
3200
การคาดคะเนก็คือ
ทุก ๆ อย่างควรที่จะโคจรรอบโลก
01:08
This was first really testedการทดสอบ
19
56120
1656
มันได้รับการพิสูจน์จริง ๆ เป็นครั้งแรก
01:09
when Galileoกาลิเลโอ got his handsมือ
on one of the first telescopesกล้องโทรทรรศน์,
20
57800
2816
เมื่อกาลิเลโอได้ใช้กล้องโทรทัศน์
หนึ่งในตัวแรก ๆ
01:12
and as he gazedจ้อง into the night skyท้องฟ้า,
21
60640
2376
และในขณะที่เขามองดู
ท้องฟ้าในยามค่ำคืนอยู่นั้น
01:15
what he foundพบ there was a planetดาวเคราะห์, Jupiterดาวพฤหัสบดี,
22
63040
3696
สิ่งที่เขาพบก็คือดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง
นามว่าดาวพฤหัส
01:18
with fourสี่ moonsดวงจันทร์ circlingการเดินทางรอบ around it.
23
66760
4000
ที่มีดวงจันทร์สี่ดวงโคจรอยู่รอบมัน
01:23
He then used those moonsดวงจันทร์
to followปฏิบัติตาม the pathเส้นทาง of Jupiterดาวพฤหัสบดี
24
71760
4376
จากนั้นเขาก็ใช้ดวงจันทร์เหล่านั้น
เพื่อติดตามเส้นทางการโคจรของดาวพฤหัส
01:28
and foundพบ that Jupiterดาวพฤหัสบดี
alsoด้วย was not going around the Earthโลก
25
76160
3736
และพบว่าดาวพฤหัสเองก็ไม่ได้โคจรรอบโลก
01:31
but around the Sunดวงอาทิตย์.
26
79920
1960
แต่โคจรรอบดวงอาทิตย์
01:35
So the predictionคาดการณ์ testทดสอบ failedล้มเหลว.
27
83160
2280
ฉะนั้น การคาดคะเนนั้นก็ผิด
01:38
And this led to
the discardingการทิ้ง of the theoryทฤษฎี
28
86400
2096
และสิ่งนี้ก็นำไปสู่การล้มล้างทฤษฎี
01:40
that the Earthโลก was the centerศูนย์
of the universeจักรวาล.
29
88520
2176
ที่ว่าโลกเป็นศูนย์กลางของจักรวาล
01:42
Anotherอื่น exampleตัวอย่าง: Sirท่าน Isaacไอแซก Newtonนิวตัน
noticedสังเกตเห็น that things fallตก to the Earthโลก.
30
90720
4096
อีกตัวอย่างหนึ่ง เซอร์ ไอแซค นิวตัน
สังเกตเห็นว่าสิ่งต่าง ๆ หล่นลงสู่พื้นโลก
01:46
The guessedเดา explanationคำอธิบาย was gravityแรงดึงดูด,
31
94840
2920
คำอธิบายจากการคาดเดานี้คือแรงโน้มถ่วง
01:50
the predictionคาดการณ์ that everything
should fallตก to the Earthโลก.
32
98520
3136
ซึ่งเป็นการคาดคะเนว่า
ทุกอย่างควรจะตกลงสู่พื้นโลก
01:53
But of courseหลักสูตร, not everything
does fallตก to the Earthโลก.
33
101680
3560
แต่แน่ล่ะ ไม่ใช่ทุกอย่างจะตกลงสู่พื้นโลก
01:58
So did we discardทิ้ง gravityแรงดึงดูด?
34
106200
1560
แล้วเราทิ้งทฤษฎีแรงโน้มถ่วงไปอย่างนั้นหรือ
02:00
No. We revisedแก้ไข the theoryทฤษฎี and said,
gravityแรงดึงดูด pullsดึง things to the Earthโลก
35
108920
4416
ไม่ครับ เราแก้ไขทฤษฎีนั้น และบอกว่า
แรงโน้มถ่วงดึงสิ่งต่าง ๆ ลงสู่โลก
02:05
unlessเว้นแต่ there is an equalเท่ากัน
and oppositeตรงข้าม forceบังคับ in the other directionทิศทาง.
36
113360
4200
เว้นเสียแต่ว่า
มีแรงในทิศทางตรงข้ามที่เท่ากัน
02:10
This led us to learnเรียน something newใหม่.
37
118160
2160
นั่นนำเราไปสู่การเรียนรู้สิ่งใหม่
02:12
We beganเริ่ม to payจ่ายเงิน more attentionความสนใจ
to the birdนก and the bird'sนก wingsปีก,
38
120920
3256
เราเริ่มที่จะให้ความสนใจมากขึ้น
กับนกและปีกของนก
02:16
and just think of all the discoveriesการค้นพบ
39
124200
2376
และคุณลองนึกถึงการค้นพบทั้งหลาย
02:18
that have flownบิน
from that lineเส้น of thinkingคิด.
40
126600
2039
ที่พรั่งพรูออกมา
จากแนวความคิดนั้นดูสิครับ
02:21
So the testทดสอบ failuresความล้มเหลว,
the exceptionsข้อยกเว้น, the outliersค่าผิดปกติ
41
129639
5137
ฉะนั้นการทดสอบที่ผิดพลาด ข้อยกเว้น
และค่าที่แปลกแยกต่าง ๆ
02:26
teachสอน us what we don't know
and leadนำ us to something newใหม่.
42
134800
4560
สอนเราในสิ่งที่เราไม่รู้
และนำเราไปสู่สิ่งใหม่
02:32
This is how scienceวิทยาศาสตร์ movesการเคลื่อนไหว forwardข้างหน้า.
This is how scienceวิทยาศาสตร์ learnsเรียนรู้.
43
140000
3200
นี่คือวิธีที่วิทยาศาสตร์รุดไปข้างหน้า
นี่คือวิธีที่วิทยาศาสตร์เรียนรู้
02:35
Sometimesบางครั้ง in the mediaสื่อ,
and even more rarelyไม่ค่อยมี,
44
143840
2256
บางครั้งตามสื่อ
หรือที่อาจเกิดได้ยากยิ่งกว่า
02:38
but sometimesบางครั้ง even scientistsนักวิทยาศาสตร์ will say
45
146120
2416
ก็คือในบางครั้ง
แม้แต่นักวิทยาศาสตร์เองก็ยังพูด
02:40
that something or other
has been scientificallyทางวิทยาศาสตร์ provenพิสูจน์แล้วว่า.
46
148560
2760
ว่าบางสิ่งบางอย่าง
ได้ถูกพิสูจน์แล้วในทางวิทยาศาสตร์
02:43
But I hopeหวัง that you understandเข้าใจ
that scienceวิทยาศาสตร์ never provesพิสูจน์ anything
47
151880
4576
แต่ผมหวังว่าคุณจะเข้าใจ
ว่าวิทยาศาสตร์ไม่เคยพิสูจน์อะไร
02:48
definitivelyแตกหัก foreverตลอดไป.
48
156480
1880
ที่เป็นจริงไปตลอดกาล
02:51
Hopefullyหวังว่า scienceวิทยาศาสตร์ remainsซากศพ curiousอยากรู้อยากเห็น enoughพอ
49
159520
3816
หวังว่า วิทยาศาสตร์จะยังคงสงสัยใคร่รู้มากพอ
02:55
to look for
50
163360
1416
ที่จะมองหาสิ่งใหม่ ๆ
02:56
and humbleอ่อนน้อมถ่อมตน enoughพอ to recognizeรับรู้
51
164800
1976
และถ่อมตนพอที่จะยอมรับ
02:58
when we have foundพบ
52
166800
1496
เมื่อเราพบกับ
03:00
the nextต่อไป outlierค่าผิดปกติ,
53
168320
1696
ค่าแปลกแยกใหม่
03:02
the nextต่อไป exceptionข้อยกเว้น,
54
170040
1496
ข้อยกเว้นใหม่
03:03
whichที่, like Jupiter'sของดาวพฤหัสบดี moonsดวงจันทร์,
55
171560
2296
ซึ่ง เช่นเดียวกับดวงจันทร์ของดาวพฤหัส
03:05
teachesสอน us what we don't actuallyแท้จริง know.
56
173880
2600
สอนเราในสิ่งที่เราไม่รู้จริง
03:09
We're going to changeเปลี่ยนแปลง gearsเกียร์
here for a secondที่สอง.
57
177160
2536
ทีนี้เราจะมาเปลี่ยนเกียร์กันสักหน่อย
03:11
The caduceusCaduceus, or the symbolสัญลักษณ์ of medicineยา,
58
179720
1936
คทางูไขว้ หรือสัญลักษณ์ทางการแพทย์
03:13
meansวิธี a lot of differentต่าง things
to differentต่าง people,
59
181680
2456
มีความหมายที่แตกต่างกันไปมากมาย
ตามแต่ละบุคคล
03:16
but mostมากที่สุด of our
publicสาธารณะ discourseสนทนา on medicineยา
60
184160
2256
แต่ในความหมายสาธารณะส่วนใหญ่
ในทางการแพทย์นั้น
03:18
really turnsผลัดกัน it into
an engineeringวิศวกรรม problemปัญหา.
61
186440
2776
ได้ทำให้มันกลายเป็นปัญหาทางวิศวกรรม
03:21
We have the hallwaysทางเดิน of Congressคองเกรส,
62
189240
1736
เรามีการประชุมมากมายในสภาคองเกรส
03:23
and the boardroomsห้องประชุมคณะกรรมการ of insuranceประกันภัย companiesบริษัท
that try to figureรูป out how to payจ่ายเงิน for it.
63
191000
4000
และคณะกรรมการบริษัทประกันต่าง ๆ
ที่ประชุมเพื่อหาทางว่าจะจ่ายเงินค่ารักษาอย่างไร
03:27
The ethicistsจริยศาสตร์ and epidemiologistsระบาดวิทยา
64
195680
1616
ทั้งนักศีลธรรมและนักระบาดวิทยา
03:29
try to figureรูป out
how bestดีที่สุด to distributeกระจาย medicineยา,
65
197320
2696
ต่างพยายามหาทางว่า
จะกระจายการแพทย์ออกไปให้ดีที่สุดได้อย่างไร
03:32
and the hospitalsโรงพยาบาล and physiciansแพทย์
are absolutelyอย่างแน่นอน obsessedหมกมุ่น
66
200040
2656
และทั้งโรงพยาบาล
และบุคลากรทางการแพทย์นั้น
03:34
with theirของพวกเขา protocolsโปรโตคอล and checklistsรายการตรวจสอบ,
67
202720
1936
ต่างก็จดจ่ออยู่กับระเบียบการ
และสิ่งที่ต้องทำกันแบบโงหัวไม่ขึ้น
03:36
tryingพยายาม to figureรูป out
how bestดีที่สุด to safelyอย่างปลอดภัย applyใช้ medicineยา.
68
204680
3536
เพื่อพยายามหาทางว่า
จะใช้การรักษาแบบไหนจึงจะปลอดภัยที่สุด
03:40
These are all good things.
69
208240
2120
ทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นสิ่งที่ดีครับ
03:42
Howeverอย่างไรก็ตาม, they alsoด้วย all assumeสมมติ
70
210960
2736
อย่างไรก็ดี พวกเขาเองต่างก็เหมาเอาว่า
03:45
at some levelชั้น
71
213720
1976
ตำราทางการแพทย์นั้น
03:47
that the textbookตำราเรียน of medicineยา is closedปิด.
72
215720
2520
สมบูรณ์แล้วในระดับหนึ่ง
03:51
We startเริ่มต้น to measureวัด
the qualityคุณภาพ of our healthสุขภาพ careการดูแล
73
219160
2496
เราเริ่มที่จะวัดคุณภาพ
ของระบบสาธารณสุขของเรา
03:53
by how quicklyอย่างรวดเร็ว we can accessทางเข้า it.
74
221680
2536
จากความสะดวกรวดเร็วในการเข้าถึง
03:56
It doesn't surpriseแปลกใจ me
that in this climateภูมิอากาศ,
75
224240
2096
ผมจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไม ในสภาวะเช่นนี้
03:58
manyจำนวนมาก of our institutionsสถาบันการศึกษา
for the provisionบทบัญญัติ of healthสุขภาพ careการดูแล
76
226360
2816
สถาบันต่าง ๆ ของเรา
ที่ออกข้อกำหนดด้านการสาธารณสุข
04:01
startเริ่มต้น to look a heckแฮก of a lot
like Jiffyระยะเวลาอันสั้น Lubeสารหล่อลื่น.
77
229200
2496
ถึงเริ่มมีหน้าตาเหมือน
ร้านบริการล้างรถเข้าไปทุกที
04:03
(Laughterเสียงหัวเราะ)
78
231720
2576
(เสียงหัวเราะ)
04:06
The only problemปัญหา is that
when I graduatedจบการศึกษา from medicalทางการแพทย์ schoolโรงเรียน,
79
234320
3936
ปัญหาเพียงอย่างเดียวก็คือ
เมื่อผมจบการศึกษาจากวิทยาลัยแพทย์
04:10
I didn't get one of those
little doohickeysdoohickeys
80
238280
2056
ผมไม่ได้รับอุปกรณ์เล็ก ๆ นั่น
04:12
that your mechanicช่าง
has to plugปลั๊ก into your carรถ
81
240360
2376
ที่ช่างใช้ต่อเข้าไปในรถของคุณ
04:14
and find out exactlyอย่างแน่นอน what's wrongไม่ถูกต้อง with it,
82
242760
2376
แล้วก็รู้เลยว่ารถคุณมีปัญหาบกพร่องอะไร
04:17
because the textbookตำราเรียน of medicineยา
83
245160
2096
เพราะว่าจริง ๆ แล้วตำราทางการแพทย์
04:19
is not closedปิด.
84
247280
1520
ไม่ได้เบ็ดเสร็จสมบูรณ์เช่นนั้น
04:21
Medicineยา is scienceวิทยาศาสตร์.
85
249320
1840
การแพทย์คือวิทยาศาสตร์
04:23
Medicineยา is knowledgeความรู้ in processกระบวนการ.
86
251560
2680
การแพทย์คือความรู้ที่ยังอยู่ในกระบวนการ
04:27
We make an observationการสังเกต,
87
255280
1376
เราทำการสังเกต
04:28
we guessเดา an explanationคำอธิบาย
of that observationการสังเกต,
88
256680
2135
เราคาดเดาถึงคำอธิบายต่อผลการสังเกตนั้น
04:30
and then we make a predictionคาดการณ์
that we can testทดสอบ.
89
258839
2617
และจากนั้นเราก็ทำการคาดคะเน
ที่เราสามารถทดสอบได้
04:33
Now, the testingการทดสอบ groundพื้น
of mostมากที่สุด predictionsการคาดการณ์ in medicineยา
90
261480
3576
ที่นี้ พื้นที่ในการทดสอบการคาดคะเน
ทางการแพทย์ส่วนใหญ่
04:37
is populationsประชากร.
91
265080
1536
คือกลุ่มประชากร
04:38
And you mayอาจ rememberจำ
from those boringน่าเบื่อ daysวัน in biologyชีววิทยา classชั้น
92
266640
3576
และคุณอาจจำได้จาก
ตอนเรียนวิชาชีววิทยาที่แสนน่าเบื่อ
04:42
that populationsประชากร tendมีแนวโน้ม to distributeกระจาย
93
270240
2176
ว่ากลุ่มประชากรมักจะมีการแจกแจง
04:44
around a mean
94
272440
1216
ไปรอบ ๆ ค่าเฉลี่ย
04:45
as a Gaussianเสียน or a normalปกติ curveเส้นโค้ง.
95
273680
1856
แบบเกาส์เซียน หรือโค้งปกติ
04:47
Thereforeดังนั้น, in medicineยา,
96
275560
1656
ดังนั้น ในทางการแพทย์
04:49
after we make a predictionคาดการณ์
from a guessedเดา explanationคำอธิบาย,
97
277240
3216
หลังจากที่เราทำการคาดคะเน
จากคำอธิบายที่ได้มาจากการคาดเดาแล้ว
04:52
we testทดสอบ it in a populationประชากร.
98
280480
1880
เราก็จะทดสอบมันในกลุ่มประชากร
04:55
That meansวิธี that what we know in medicineยา,
99
283320
2936
นั่นหมายความว่าสิ่งที่เรารู้ในทางการแพทย์
04:58
our knowledgeความรู้ and our know-howความรู้,
100
286280
2256
ความรู้ของเรา และทักษะวิธีการต่าง ๆ ของเรา
05:00
comesมา from populationsประชากร
101
288560
2256
มาจากกลุ่มประชากร
05:02
but extendsขยาย only as farห่างไกล
102
290840
2776
แต่เราสามารถนำมันไปใช้ได้
05:05
as the nextต่อไป outlierค่าผิดปกติ,
103
293640
1736
ถึงแค่ของเขต ค่าแปลกแยกใหม่
05:07
the nextต่อไป exceptionข้อยกเว้น,
104
295400
1216
ข้อจำกัดใหม่
05:08
whichที่, like Jupiter'sของดาวพฤหัสบดี moonsดวงจันทร์,
105
296640
1736
ซึ่ง เช่นเดียวกับดวงจันทร์ของดาวพฤหัส
05:10
will teachสอน us what we don't actuallyแท้จริง know.
106
298400
2400
ที่สอนให้เรารู้ในสิ่งที่เรายังไม่รู้จริง
05:14
Now, I am a surgeonศัลยแพทย์
107
302080
1336
ทีนี้ ผมเป็นหมอผ่าตัด
05:15
who looksรูปลักษณ์ after patientsผู้ป่วย with sarcomaเนื้องอก.
108
303440
2416
ที่ดูแลผู้ป่วยมะเร็งซาร์โคมา
05:17
Sarcomasarcoma is a very rareหายาก formฟอร์ม of cancerโรคมะเร็ง.
109
305880
2200
มะเร็งซาร์โคมาเป็น
มะเร็งที่พบได้ยากมาก
05:20
It's the cancerโรคมะเร็ง of fleshเนื้อ and bonesอัฐิ.
110
308720
2040
มันเป็นมะเร็งที่พบได้ในเนื้อและกระดูก
05:23
And I would tell you that everyทุกๆ one
of my patientsผู้ป่วย is an outlierค่าผิดปกติ,
111
311240
4336
และผมขอบอกคุณเลยว่า
ผู้ป่วยของผมทุกคนนั้นคือค่าที่แปลกแยก
05:27
is an exceptionข้อยกเว้น.
112
315600
1200
คือข้อยกเว้น
05:30
There is no surgeryศัลยกรรม I have ever performedดำเนินการ
for a sarcomaเนื้องอก patientผู้ป่วย
113
318000
3216
ไม่มีการผ่าตัดผู้ป่วย
มะเร็งซาร์โคมาครั้งไหน
05:33
that has ever been guidedแนะนำ
by a randomizedสุ่ม controlledถูกควบคุม clinicalทางคลินิก trialการทดลอง,
114
321240
4256
ที่ผมได้รับการชี้แนะโดย
การทดลองทางคลินิกที่ถูกควบคุมเชิงสุ่ม
05:37
what we considerพิจารณา the bestดีที่สุด kindชนิด
of population-basedประชากรตาม evidenceหลักฐาน in medicineยา.
115
325520
3720
ซึ่งเรามองว่าเป็นหลักฐานจากกลุ่มประชากร
ที่ดีที่สุดในทางการแพทย์
05:42
People talk about thinkingคิด
outsideด้านนอก the boxกล่อง,
116
330400
2296
ผู้คนต่างพูดถึงการคิดนอกกรอบ
05:44
but we don't even have a boxกล่อง in sarcomaเนื้องอก.
117
332720
2736
แต่ว่าเราไม่มีกรอบ
ในเรื่องมะเร็งซาร์โคมาด้วยซ้ำ
05:47
What we do have as we take
a bathการอาบน้ำ in the uncertaintyความไม่แน่นอน
118
335480
3336
สิ่งที่เรามีในขณะที่เราแหวกว่าย
ไปในบ่อเลนแห่งความไม่แน่นอน
05:50
and unknownsราชวงศ์ and exceptionsข้อยกเว้น
and outliersค่าผิดปกติ that surroundรอบทิศทาง us in sarcomaเนื้องอก
119
338840
4136
ความไม่รู้ ข้อยกเว้น และค่าแปลกแยกต่าง ๆ
ที่รายล้อมเราอยู่ในเรื่องมะเร็งซาร์โคมานั้น
05:55
is easyง่าย accessทางเข้า to what I think
are those two mostมากที่สุด importantสำคัญ valuesค่า
120
343000
4536
คือทางลัดไปสู่คุณค่าสองอย่าง
ที่ผมคิดว่ามีความสำคัญมากที่สุด
05:59
for any scienceวิทยาศาสตร์:
121
347560
1536
ในทุก ๆ ศาสตร์ซึ่งก็คือ
06:01
humilityความนอบน้อม and curiosityความอยากรู้.
122
349120
2200
ความถ่อมตนและความสงสัยใคร่รู้
06:04
Because if I am humbleอ่อนน้อมถ่อมตน and curiousอยากรู้อยากเห็น,
123
352000
2296
เพราะว่า หากผมถ่อมตนและสงสัยใคร่รู้แล้ว
06:06
when a patientผู้ป่วย asksถาม me a questionคำถาม,
124
354320
2296
เมื่อผู้ป่วยสักคนถามคำถามกับผม
06:08
and I don't know the answerตอบ,
125
356640
1440
และผมไม่รู้คำตอบ
06:10
I'll askถาม a colleagueเพื่อนร่วมงาน
126
358920
1216
ผมจะถามเพื่อนร่วมงาน
06:12
who mayอาจ have a similarคล้ายคลึงกัน
albeitแม้ว่า distinctแตกต่าง patientผู้ป่วย with sarcomaเนื้องอก.
127
360160
3016
ที่อาจกำลังดูแลผู้ป่วยมะเร็งซาร์โคมา
อีกคนหนึ่งที่มีอาการคล้าย ๆ กัน
06:15
We'llดี even establishสร้าง
internationalระหว่างประเทศ collaborationsความร่วมมือ.
128
363200
2696
เราอาจจะทำให้เกิดความร่วมมือ
ในระดับนานาชาติด้วยซ้ำ
06:17
Those patientsผู้ป่วย will startเริ่มต้น
to talk to eachแต่ละ other throughตลอด chatพูดคุย roomsห้องพัก
129
365920
3136
ผู้ป่วยเหล่านั้นจะเริ่มพูดคุยกัน
ผ่านช่องทางการสนทนาต่าง ๆ
06:21
and supportสนับสนุน groupsกลุ่ม.
130
369080
1200
และกลุ่มสนับสนุน (support groups)
06:22
It's throughตลอด this kindชนิด
of humblyเจียม curiousอยากรู้อยากเห็น communicationการสื่อสาร
131
370800
3576
เพราะการสื่อสารอย่างใคร่รู้
และถ่อมตนแบบนี้นี่เอง
06:26
that we beginเริ่ม to try and learnเรียน newใหม่ things.
132
374400
3560
ที่ทำให้เราได้เริ่มใช้ความพยายาม
และเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ
06:31
As an exampleตัวอย่าง, this is a patientผู้ป่วย of mineเหมือง
133
379240
2056
อย่างเช่น คน ๆ นี้
คือคนไข้รายหนึ่งของผม
06:33
who had a cancerโรคมะเร็ง nearใกล้ his kneeเข่า.
134
381320
1680
ที่เป็นมะเร็งใกล้กับบริเวณเข่า
06:35
Because of humblyเจียม curiousอยากรู้อยากเห็น communicationการสื่อสาร
135
383480
2376
เพราะการสื่อสารอย่างใคร่รู้และถ่อมตน
06:37
in internationalระหว่างประเทศ collaborationsความร่วมมือ,
136
385880
2096
ในความร่วมมือระดับนานาชาตินี่เอง
06:40
we have learnedได้เรียนรู้ that we can repurposeปรับเปลี่ยน
the ankleข้อเท้า to serveบริการ as the kneeเข่า
137
388000
4536
เราจึงได้เรียนรู้ว่า
เราสามารถนำข้อเท้ามาปรับเป็นเข่าได้
06:44
when we have to removeเอาออก the kneeเข่า
with the cancerโรคมะเร็ง.
138
392560
2256
เมื่อเราต้องผ่าตัดเอาเข่าที่เป็นมะเร็งออกไป
06:46
He can then wearสวมใส่ a prostheticเทียม
and runวิ่ง and jumpกระโดด and playเล่น.
139
394840
2840
จากนั้นเขาก็สามารถใส่ขาเทียม
แล้ววิ่ง กระโดด และเล่นได้
06:50
This opportunityโอกาส was availableใช้ได้ to him
140
398360
3016
เขามีโอกาสนี้ได้
06:53
because of internationalระหว่างประเทศ collaborationsความร่วมมือ.
141
401400
2776
ก็เพราะความร่วมมือระดับนานาชาติ
06:56
It was desirableน่าพอใจ to him
142
404200
1696
เขาพึงพอใจกับมันมาก
06:57
because he had contactedติดต่อ other patientsผู้ป่วย
who had experiencedมีประสบการณ์ it.
143
405920
2960
เพราะก่อนหน้านั้นเขาได้ติดต่อ
ผู้ป่วยคนอื่น ๆ ที่เผชิญกับสิ่งเดียวกัน
07:01
And so exceptionsข้อยกเว้น and outliersค่าผิดปกติ in medicineยา
144
409920
4056
ฉะนั้น ข้อยกเว้นและค่าแปลกแยก
ในทางการแพทย์นั้น
07:06
teachสอน us what we don't know,
but alsoด้วย leadนำ us to newใหม่ thinkingคิด.
145
414000
3960
ไม่เพียงแต่สอนให้เรารู้ในสิ่งที่เราไม่รู้
แต่ยังนำเราไปสู่แนวคิดใหม่ ๆ ด้วย
07:11
Now, very importantlyที่สำคัญ,
146
419080
1856
ทีนี้ ตรงนี้สำคัญมากนะครับ
07:12
all the newใหม่ thinkingคิด that outliersค่าผิดปกติ
and exceptionsข้อยกเว้น leadนำ us to in medicineยา
147
420960
3856
แนวคิดใหม่ ๆ ทั้งหลาย ที่เกิดขึ้นมา
จากค่าแปลกแยกและข้อยกเว้นทางการแพทย์
07:16
does not only applyใช้
to the outliersค่าผิดปกติ and exceptionsข้อยกเว้น.
148
424840
3360
ไม่ได้ใช้ได้แค่กับ
ค่าแปลกแยกและข้อยกเว้นเท่านั้น
07:20
It is not that we only learnเรียน
from sarcomaเนื้องอก patientsผู้ป่วย
149
428920
3176
เราไม่ได้เรียนรู้แค่วิธีการดูแล
ผู้ป่วยมะเร็งซาร์โคมา
07:24
waysวิธี to manageจัดการ sarcomaเนื้องอก patientsผู้ป่วย.
150
432120
1960
จากผู้ป่วยมะเร็งซาร์โคมาเท่านั้น
07:26
Sometimesบางครั้ง, the outliersค่าผิดปกติ
151
434920
2056
บางครั้ง ค่าแปลกแยก
07:29
and the exceptionsข้อยกเว้น
152
437000
1696
และข้อยกเว้น
07:30
teachสอน us things that matterเรื่อง quiteทีเดียว a lot
to the generalทั่วไป populationประชากร.
153
438720
3240
ก็สอนเราถึงสิ่งที่ค่อนข้างเป็นประโยชน์มาก
ต่อกลุ่มประชากรทั่วไป
07:35
Like a treeต้นไม้ standingจุดยืน outsideด้านนอก a forestป่า,
154
443360
1856
เช่นเดียวกับต้นไม้ที่อยู่นอกป่า
07:37
the outliersค่าผิดปกติ and the exceptionsข้อยกเว้น
drawวาด our attentionความสนใจ
155
445240
4016
ค่าแปลกแยกและข้อยกเว้น
ต่างดึงความสนใจของเรา
07:41
and leadนำ us into a much greaterมากขึ้น senseความรู้สึก
of perhapsบางที what a treeต้นไม้ is.
156
449280
4336
และอาจนำเราไปสู่ความเข้าใจ
ที่มากกว่าเดิมว่าต้นไม้คืออะไร
07:45
We oftenบ่อยครั้ง talk about
losingแพ้ the forestsป่า for the treesต้นไม้,
157
453640
2496
เรามักมองแต่เรื่องใหญ่ ๆ
อย่างป่าไม้ที่หายไป
07:48
but one alsoด้วย losesสูญเสีย a treeต้นไม้
158
456160
1816
แต่กลับลืมมองเรื่องเล็ก ๆ
07:50
withinภายใน a forestป่า.
159
458000
1520
อย่างต้นไม้สักต้นที่หายไปจากป่า
07:53
But the treeต้นไม้ that standsยืน out by itselfตัวเอง
160
461000
1856
แต่ต้นไม้ที่อยู่อย่างโดด ๆ นั้น
07:54
makesยี่ห้อ those relationshipsสัมพันธ์
that defineกำหนด a treeต้นไม้,
161
462880
2896
ทำให้ความสัมพันธ์ต่าง ๆ
ที่กำหนดนิยามว่าต้นไม้คืออะไร
07:57
the relationshipsสัมพันธ์ betweenระหว่าง trunkลำต้น
and rootsราก and branchesสาขา,
162
465800
3816
รวมถึงความสัมพันธ์ต่าง ๆ
ระหว่างลำต้น รากและกิ่ง
08:01
much more apparentเห็นได้ชัด.
163
469640
1240
ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
08:03
Even if that treeต้นไม้ is crookedหลังค่อม
164
471360
1696
ถึงแม้ว่าต้นไม้นั้น
อาจจะแปลกประหลาดไปบ้าง
08:05
or even if that treeต้นไม้
has very unusualผิดปกติ relationshipsสัมพันธ์
165
473080
2976
หรือแม้ว่ามันจะมีความสัมพันธ์
ระหว่างลำต้น ราก และกิ่ง
08:08
betweenระหว่าง trunkลำต้น and rootsราก and branchesสาขา,
166
476080
2296
ในแบบที่ไม่ปกติ
08:10
it nonethelessกระนั้น drawsดึง our attentionความสนใจ
167
478400
2696
อย่างไรเสีย มันก็ดึงความสนใจของเรา
08:13
and allowsช่วยให้ us to make observationsข้อสังเกต
168
481120
1896
และสามารถทำให้เราทำการสังเกต
08:15
that we can then testทดสอบ
in the generalทั่วไป populationประชากร.
169
483040
2240
ที่เราจะสามารถทดสอบต่อไปได้
กับกลุ่มประชากรทั่วไป
08:18
I told you that sarcomasมะเร็ง are rareหายาก.
170
486000
1976
ผมบอกคุณว่ามะเร็งซาร์โคมานั้น
เป็นมะเร็งที่พบได้ยาก
08:20
They make up about one percentเปอร์เซ็นต์
of all cancersการเกิดโรคมะเร็ง.
171
488000
2640
พวกมันคิดเป็นเพียงหนึ่งเปอร์เซ็นต์
ของมะเร็งทั้งหมด
08:23
You alsoด้วย probablyอาจ know that cancerโรคมะเร็ง
is consideredการพิจารณา a geneticทางพันธุกรรม diseaseโรค.
172
491280
3960
คุณอาจยังรู้อีกว่ามะเร็งนั้น
จัดเป็นโรคทางพันธุกรรมอย่างหนึ่ง
08:27
By geneticทางพันธุกรรม diseaseโรค we mean
that cancerโรคมะเร็ง is causedก่อให้เกิดความ by oncogenesoncogenes
173
495840
3336
ตามนิยามของโรคทางพันธุกรรม
มะเร็งเกิดจากออนโคยีน (oncogenes)
08:31
that are turnedหัน on in cancerโรคมะเร็ง
174
499200
1376
ที่ถูกกระตุ้นให้ทำงานในมะเร็ง
08:32
and tumorเนื้องอก suppressorต้าน genesยีน
that are turnedหัน off to causeสาเหตุ cancerโรคมะเร็ง.
175
500600
3040
และยีนกดการเจริญของเนื้องอก
ที่ถูกปิดการทำงานซึ่งทำให้เกิดมะเร็ง
08:36
You mightอาจ think
that we learnedได้เรียนรู้ about oncogenesoncogenes
176
504160
2416
คุณอาจคิดว่า
เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับออนโคยีน
08:38
and tumorเนื้องอก suppressorต้าน genesยีน
from commonร่วมกัน cancersการเกิดโรคมะเร็ง
177
506600
2216
และยีนกดการเจริญของเนื้องอก
จากมะเร็งทั่ว ๆ ไป
08:40
like breastเต้านม cancerโรคมะเร็ง and prostateต่อมลูกหมาก cancerโรคมะเร็ง
178
508840
1976
อย่างมะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก
08:42
and lungปอด cancerโรคมะเร็ง,
179
510840
1496
และมะเร็งปอด
08:44
but you'dคุณควรที่จะ be wrongไม่ถูกต้อง.
180
512360
1199
แต่คุณอาจคิดผิด
08:46
We learnedได้เรียนรู้ about oncogenesoncogenes
and tumorเนื้องอก suppressorต้าน genesยีน
181
514000
2895
เรารู้จักออนโคยีน
และยีนกดการเจริญของเนื้องอก
08:48
for the first time
182
516919
1216
เป็นครั้งแรก
08:50
in that itty-bittyItty-Bitty little one percentเปอร์เซ็นต์
of cancersการเกิดโรคมะเร็ง calledเรียกว่า sarcomaเนื้องอก.
183
518159
3441
จากมะเร็งที่มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยนิด
เพียงแค่หนึ่งเปอร์เซ็น ที่เรียกว่าซาร์โคมา
08:54
In 1966, Peytonเพย์ตัน RousRous got the Nobelโนเบล Prizeรางวัล
184
522760
2576
ในปี ค.ศ. 1966 เพย์ตัน รูว์
ได้รับรางวัลโนเบล
08:57
for realizingตระหนักถึง that chickensไก่
185
525360
2016
จากการค้นพบว่าไก่
08:59
had a transmissibleถ่ายทอด formฟอร์ม of sarcomaเนื้องอก.
186
527400
3120
มีมะเร็งซาร์โคมาในรูปแบบที่ติดต่อได้
09:03
Thirtyสามสิบ yearsปี laterต่อมา, Haroldแฮโรลด์ VarmusVarmus
and Mikeไมค์ Bishopโคน discoveredค้นพบ
187
531260
2836
สามสิบปีต่อมา แฮโรลด์ เวอร์มุส
และไมค์ บิชอป ได้ค้นพบ
09:06
what that transmissibleถ่ายทอด elementธาตุ was.
188
534120
2536
ว่าส่วนที่สามารถแพร่ต่อไปได้นั้นคืออะไร
09:08
It was a virusไวรัส
189
536680
1576
มันคือไวรัสชนิดหนึ่ง
09:10
carryingการปฏิบัติ a geneยีน,
190
538280
1416
ที่มียีน
09:11
the srcsrc oncogeneอองโคยีน.
191
539720
1440
ที่เรียกว่า ซาร์โคมา ออนโคยีน
(src oncogene)
09:13
Now, I will not tell you
that srcsrc is the mostมากที่สุด importantสำคัญ oncogeneอองโคยีน.
192
541880
3656
ทีนี้ ผมไม่ได้บอกคุณว่า src เป็น
ออนโคยีนที่สำคัญที่สุด
09:17
I will not tell you
193
545560
1216
ผมไม่ได้บอกคุณว่า
09:18
that srcsrc is the mostมากที่สุด frequentlyบ่อยๆ
turnedหัน on oncogeneอองโคยีน in all of cancerโรคมะเร็ง.
194
546800
3496
ว่า src เป็นยีนที่ถูกเปิดการทำงาน
บ่อยที่สุดในมะเร็งทุกชนิด
09:22
But it was the first oncogeneอองโคยีน.
195
550320
2440
แต่ว่ามันเป็นออนโคยีนตัวแรก
09:25
The exceptionข้อยกเว้น, the outlierค่าผิดปกติ
196
553960
2336
ข้อยกเว้นและค่าแปลกแยก
09:28
drewDrew our attentionความสนใจ and led us to something
197
556320
2520
ดึงความสนใจของเราและนำเราไปสู่บางสิ่ง
09:31
that taughtสอน us very importantสำคัญ things
about the restส่วนที่เหลือ of biologyชีววิทยา.
198
559520
4040
ที่สอนเราถึงสิ่งสำคัญอื่น ๆ มากมาย
เกี่ยวกับชีววิทยาเรื่องอื่น ๆ
09:36
Now, TPTP53 is the mostมากที่สุด importantสำคัญ
tumorเนื้องอก suppressorต้าน geneยีน.
199
564880
4096
ทีนี้ TP53
คือยีนกดการเจริญเนื้องอกที่สำคัญที่สุด
09:41
It is the mostมากที่สุด frequentlyบ่อยๆ turnedหัน off
tumorเนื้องอก suppressorต้าน geneยีน
200
569000
2736
มันเป็นยีนกดการเจริญเนื้องอก
ที่ถูกปิดการทำงานบ่อยที่สุด
09:43
in almostเกือบจะ everyทุกๆ kindชนิด of cancerโรคมะเร็ง.
201
571760
1800
ในมะเร็งเกือบทุกชนิด
09:46
But we didn't learnเรียน about it
from commonร่วมกัน cancersการเกิดโรคมะเร็ง.
202
574360
2296
แต่เราไม่ได้รู้จักมันจากมะเร็งทั่ว ๆ ไป
09:48
We learnedได้เรียนรู้ about it
when doctorsแพทย์ Liลี้ and FraumeniFraumeni
203
576680
2416
เรารู้จักมันตอนที่ นายแพทย์ลี และฟราเมนี
09:51
were looking at familiesครอบครัว,
204
579120
1576
มองไปที่ครอบครัวต่าง ๆ
09:52
and they realizedตระหนัก that these familiesครอบครัว
205
580720
2016
แล้วสะกิดใจว่าครอบครัวเหล่านี้
09:54
had way too manyจำนวนมาก sarcomasมะเร็ง.
206
582760
2520
มีคนที่เป็นมะเร็งซาร์โคมามากเกินไป
09:57
I told you that sarcomaเนื้องอก is rareหายาก.
207
585920
1776
ผมบอกคุณไปว่า
มะเร็งซาร์โคมานั้นพบได้ยาก
09:59
Rememberจำ that a one
in a millionล้าน diagnosisการวินิจฉัยโรค,
208
587720
3176
จำได้ไหมครับว่าโอกาสมีแค่หนึ่งในล้าน
10:02
if it happensที่เกิดขึ้น twiceสองครั้ง in one familyครอบครัว,
209
590920
2136
ถ้ามันเกิดขึ้นถึงสองครั้ง
ในครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง
10:05
is way too commonร่วมกัน in that familyครอบครัว.
210
593080
2400
มันก็เหมือนจะเกิดขึ้นง่ายเกินไปแล้ว
ในครอบครัวนั้น ๆ
10:08
The very factความจริง that these are rareหายาก
211
596640
2696
เหตุผลที่ว่ามันพบได้ยากนั้น
10:11
drawsดึง our attentionความสนใจ
212
599360
1440
ทำให้เราหันมาสนใจ
10:13
and leadsโอกาสในการขาย us to newใหม่ kindsชนิด of thinkingคิด.
213
601760
2240
และนำเราไปสู่แนวคิดใหม่
10:17
Now, manyจำนวนมาก of you mayอาจ say,
214
605480
1456
ทีนี้ พวกคุณหลายคนอาจบอกว่า
10:18
and mayอาจ rightlyอย่างถูกต้อง say,
215
606960
1536
และอาจพูดถูกว่า
10:20
that yeah, Kevinเควิน, that's great,
216
608520
1896
อืม นั่นมันก็เจ๋งอยู่นะ เคลวิน
10:22
but you're not talkingการพูด
about a bird'sนก wingปีก.
217
610440
2056
แต่คุณไม่ได้กำลังพูดถึงปีกของนกนะ
10:24
You're not talkingการพูด about moonsดวงจันทร์
floatingที่ลอย around some planetดาวเคราะห์ Jupiterดาวพฤหัสบดี.
218
612520
3480
คุณไม่ได้กำลังพูดถึงดวงจันทร์
ที่ลอยอยู่รอบ ๆ ดาวเคราะห์ที่ชื่อว่าพฤหัส
10:28
This is a personคน.
219
616520
1536
นี่คือมนุษย์คนหนึ่งเลยนะ
10:30
This outlierค่าผิดปกติ, this exceptionข้อยกเว้น,
mayอาจ leadนำ to the advancementความก้าวหน้า of scienceวิทยาศาสตร์,
220
618080
3256
ค่าแปลกแยกและข้อยกเว้นนี้ อาจนำเรา
ไปสู่ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ก็จริงอยู่
10:33
but this is a personคน.
221
621360
1200
แต่นี่มันคนนะ
10:36
And all I can say
222
624280
1616
และผมก็พูดได้แต่เพียงว่า
10:37
is that I know that all too well.
223
625920
2360
ผมรู้เรื่องนั้นดีอยู่แก่ใจ
10:41
I have conversationsการสนทนา with these patientsผู้ป่วย
with rareหายาก and deadlyมฤตยู diseasesโรค.
224
629760
3400
ผมได้สนทนากับผู้ป่วยที่เป็นโรคที่พบได้ยาก
และเป็นอันตรายถึงชีวิตเหล่านี้
10:45
I writeเขียน about these conversationsการสนทนา.
225
633800
1936
ผมเขียนเกี่ยวกับการสนทนาเหล่านี้
10:47
These conversationsการสนทนา are terriblyชะมัด fraughtเต็มไป.
226
635760
2296
การสนทนาเหล่านี้เต็มไปด้วยเรื่องเลวร้าย
10:50
They're fraughtเต็มไป with horribleน่ากลัว phrasesวลี
227
638080
1816
พวกมันเต็มไปด้วยคำที่น่ากลัวมากมาย
10:51
like "I have badไม่ดี newsข่าว"
or "There's nothing more we can do."
228
639920
3240
อย่างเช่น "ผมมีข่าวร้าย"
หรือ "เราทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว"
10:55
Sometimesบางครั้ง these conversationsการสนทนา
turnกลับ on a singleเดียว wordคำ:
229
643760
3200
ในบางครั้ง การสนทนาเหล่านี้
ก็ทำให้คำคำหนึ่งหลุดออกมา
10:59
"terminalสถานีปลายทาง."
230
647760
1200
"ระยะสุดท้าย"
11:04
Silenceความเงียบ can alsoด้วย be ratherค่อนข้าง uncomfortableอึดอัด.
231
652920
2920
ความเงียบอาจทำให้เรารู้สึกอึดอัดนิดหน่อย
11:09
Where the blanksช่องว่าง are in medicineยา
232
657360
2576
ในขณะที่การเว้นวรรคในวงการแพทย์นั้น
11:11
can be just as importantสำคัญ
233
659960
1856
อาจมีความสำคัญ
11:13
as the wordsคำ that we use
in these conversationsการสนทนา.
234
661840
2240
เท่า ๆ กับคำที่เราใช้ในการสนทนาเหล่านี้
11:17
What are the unknownsราชวงศ์?
235
665080
1536
สิ่งที่เราไม่รู้คืออะไร
11:18
What are the experimentsการทดลอง
that are beingกำลัง doneเสร็จแล้ว?
236
666640
2200
การทดลองที่กำลังเกิดขึ้นอยู่มีอะไรบ้าง
11:21
Do this little exerciseการออกกำลังกาย with me.
237
669680
1696
มาลองทำอะไรง่าย ๆ ด้วยกันหน่อยครับ
11:23
Up there on the screenจอภาพ,
you see this phraseวลี, "no where."
238
671400
3216
บนจอภาพนี้ เราเห็นคำว่า "ไม่มีทาง"
11:26
Noticeแจ้งให้ทราบ where the blankว่างเปล่า is.
239
674640
1280
สังเกตการเว้นวรรคให้ดี ๆ นะครับ
11:28
If we moveย้าย that blankว่างเปล่า one spaceช่องว่าง over
240
676680
3200
ถ้าเราลองเลื่อนการเว้นวรรคนั้นไปเล็กน้อย
11:32
"no where"
241
680640
1576
"ไม่มีทาง"
11:34
becomesกลายเป็น "now here,"
242
682240
2696
จะกลายเป็น "ไม่ [มัน]มีทาง"
11:36
the exactแน่นอน oppositeตรงข้าม meaningความหมาย,
243
684960
1896
ซึ่งมีความหมายตรงข้ามโดยสิ้นเชิง
11:38
just by shiftingการขยับ the blankว่างเปล่า one spaceช่องว่าง over.
244
686880
2200
แค่เพียงการเว้นวรรคใหม่แค่วรรคเดียว
11:43
I'll never forgetลืม the night
245
691680
1576
ผมจะไม่มีวันลืมคืนนั้นเลย
11:45
that I walkedเดิน into
one of my patients'ผู้ป่วย roomsห้องพัก.
246
693280
2240
ที่ผมเดินเข้าไปในห้องของผู้ป่วยคนหนึ่ง
11:48
I had been operatingการดำเนินงาน long that day
247
696280
1656
ผมได้ทำการผ่าตัดอย่างยาวนานในวันนั้น
11:49
but I still wanted to come and see him.
248
697960
2016
แต่ผมก็ยังอยากที่จะไปพบเขา
11:52
He was a boyเด็กผู้ชาย I had diagnosedการวินิจฉัย
with a boneกระดูก cancerโรคมะเร็ง a fewน้อย daysวัน before.
249
700000
3200
เขาเป็นเด็กชายที่ได้รับการวินิจฉัยว่า
เป็นมะเร็งกระดูกเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านั้น
11:55
He and his motherแม่ had been meetingการประชุม
with the chemotherapyยาเคมีบำบัด doctorsแพทย์
250
703840
3056
ผมและแม่ของเขาได้เข้าพบ
แพทย์ด้านเคมีบำบัดหลายคน
11:58
earlierก่อน that day,
251
706920
1216
ก่อนหน้านั้นในวันนั้น
12:00
and he had been admittedที่ยอมรับ
to the hospitalโรงพยาบาล to beginเริ่ม chemotherapyยาเคมีบำบัด.
252
708160
2976
และเขาได้ถูกส่งไปยังโรงพยาบาล
เพื่อเริ่มรักษามะเร็งด้วยเคมีบำบัด
12:03
It was almostเกือบจะ midnightเที่ยงคืน
when I got to his roomห้อง.
253
711160
2176
ตอนที่ผมไปถึงห้องของเขา
ก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว
12:05
He was asleepนอนหลับ, but I foundพบ his motherแม่
254
713360
2176
เขาหลับอยู่ แต่ผมเห็นแม่ของเขา
12:07
readingการอ่าน by flashlightไฟฉาย
255
715560
1576
กำลังอ่านหนังสือใต้แสงไฟฉาย
12:09
nextต่อไป to his bedเตียง.
256
717160
1456
ข้าง ๆ เตียงของเขา
12:10
She cameมา out in the hallห้องโถง
to chatพูดคุย with me for a fewน้อย minutesนาที.
257
718640
2800
เธอออกมาที่ทางเดินข้างนอก
เพื่อคุยกับผมเป็นเวลาสองสามนาที
12:14
It turnedหัน out that
what she had been readingการอ่าน
258
722280
2096
ปรากฏว่าสิ่งที่เธอกำลังอ่านอยู่นั้น
12:16
was the protocolโปรโตคอล
that the chemotherapyยาเคมีบำบัด doctorsแพทย์
259
724400
2176
คือวิธีการรักษาที่แพทย์เคมีบำบัดเหล่านั้น
12:18
had givenรับ her that day.
260
726600
1240
ได้ให้กับเธอในวันนั้น
12:20
She had memorizedจดจำ it.
261
728200
1240
เธอจดจำมันเรียบร้อยแล้ว
12:23
She said, "Drดร. Jonesโจนส์, you told me
262
731200
3536
เธอบอกว่า "คุณหมอโจนส์คะ
คุณบอกฉัน
12:26
that we don't always winชนะ
263
734760
2176
ว่าเราไม่ได้เอาชนะ
12:28
with this typeชนิด of cancerโรคมะเร็ง,
264
736960
1280
มะเร็งประเภทนี้ได้เสมอไป
12:31
but I've been studyingการศึกษา this protocolโปรโตคอล,
and I think I can do it.
265
739680
3480
แต่ฉันได้ศึกษาวิธีการรักษานี้แล้ว
และฉันคิดว่าฉันทำได้
12:35
I think I can complyปฏิบัติตาม
with these very difficultยาก treatmentsการรักษา.
266
743960
3576
ฉันคิดว่าฉันรับได้
กับการบำบัดที่ยากลำบากมาก ๆ เหล่านี้
12:39
I'm going to quitเลิก my jobงาน.
I'm going to moveย้าย in with my parentsพ่อแม่.
267
747560
2976
ฉันจะลาออกจากงาน
ฉันจะย้ายไปอยู่กับพ่อแม่
12:42
I'm going to keep my babyทารก safeปลอดภัย."
268
750560
1960
ฉันจะทำให้ลูกของฉันปลอดภัย"
12:47
I didn't tell her.
269
755320
1200
ผมไม่ได้บอกเธอ
12:49
I didn't stop to correctแก้ไข her thinkingคิด.
270
757840
2920
ผมไม่ได้หยุดเธอเพื่อเปลี่ยนความคิดของเธอ
12:53
She was trustingไว้วางใจ in a protocolโปรโตคอล
271
761680
2256
เธอกำลังปักใจเชื่อในวิธีการนี้
12:55
that even if compliedได้มาตรฐานตาม with,
272
763960
3216
ที่ถึงแม้ว่าจะปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดแล้วก็ตาม
12:59
wouldn'tจะไม่ necessarilyจำเป็นต้อง saveประหยัด her sonบุตรชาย.
273
767200
2400
ก็อาจช่วยชีวิตลูกชายของเธอไว้ไม่ได้
13:03
I didn't tell her.
274
771960
1200
ผมไม่ได้บอกเธอ
13:06
I didn't fillใส่ in that blankว่างเปล่า.
275
774360
1400
ผมไม่ได้เติมคำลงไปในช่วงที่เว้นวรรคนั้น
13:09
But a yearปี and a halfครึ่ง laterต่อมา
276
777080
1976
แต่หนึ่งปีครึ่งหลังจากนั้น
13:11
her boyเด็กผู้ชาย nonethelessกระนั้น diedเสียชีวิต of his cancerโรคมะเร็ง.
277
779080
2720
ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ตาม
ลูกชายของเธอก็เสียชีวิตด้วยมะเร็ง
13:15
Should I have told her?
278
783400
1320
ผมควรที่จะบอกเธอไหมในตอนนั้น
13:17
Now, manyจำนวนมาก of you mayอาจ say, "So what?
279
785360
2256
ทีนี้ พวกคุณหลาย ๆ คนอาจบอกว่า
"แล้วไงล่ะ"
13:19
I don't have sarcomaเนื้องอก.
280
787640
1256
ฉันไม่ได้เป็นมะเร็งซาร์โคมาซะหน่อย
13:20
No one in my familyครอบครัว has sarcomaเนื้องอก.
281
788920
1896
ครอบครัวฉันก็ไม่มีใครเป็นมะเร็งซาร์โคมา
13:22
And this is all fine and well,
282
790840
1456
และทั้งหมดนี้มันก็ดีอยู่หรอกนะ
13:24
but it probablyอาจ doesn't
matterเรื่อง in my life."
283
792320
2696
แต่มันอาจไม่เกี่ยวข้องกับชีวิตของฉันสักเท่าไร"
13:27
And you're probablyอาจ right.
284
795040
1256
และคุณอาจพูดถูก
13:28
Sarcomasarcoma mayอาจ not matterเรื่อง
a wholeทั้งหมด lot in your life.
285
796320
2680
มะเร็งซาร์โคมา
อาจไม่ได้มีผลอะไรกับชีวิตคุณมากนัก
13:33
But where the blanksช่องว่าง are in medicineยา
286
801040
2336
แต่การเว้นวรรคการพูดในทางการแพทย์นั้น
13:35
does matterเรื่อง in your life.
287
803400
1320
สำคัญต่อชีวิตของคุณ
13:38
I didn't tell you one dirtyสกปรก little secretลับ.
288
806520
2296
ผมไม่ได้บอกคุณถึงความลับแย่ ๆ อย่างหนึ่ง
13:40
I told you that in medicineยา,
we testทดสอบ predictionsการคาดการณ์ in populationsประชากร,
289
808840
4376
ผมบอกคุณว่าในทางการแพทย์
เราทดสอบการคาดคาดคะเนในกลุ่มประชากร
13:45
but I didn't tell you,
290
813240
1256
แต่ผมไม่ได้บอกคุณ
13:46
and so oftenบ่อยครั้ง medicineยา never tellsบอก you
291
814520
2216
และบ่อยครั้งคนในวงการแพทย์จะไม่บอกคุณ
13:48
that everyทุกๆ time an individualรายบุคคล
292
816760
2856
ว่าทุกครั้งที่แต่ละคน
13:51
encountersการเผชิญหน้า medicineยา,
293
819640
2096
เข้ารับการบริการทางการแพทย์
13:53
even if that individualรายบุคคล is firmlyแน่นหนา
embeddedที่ฝัง in the generalทั่วไป populationประชากร,
294
821760
4040
แม้ว่าคนคนนั้นจะอยู่
ในกลุ่มประชากรทั่วไปอย่างแท้จริงก็ตาม
13:59
neitherค่า the individualรายบุคคล
norไม่ the physicianแพทย์ knowsรู้
295
827360
2376
ทั้งเจ้าตัวและแพทย์จะไม่รู้เลย
14:01
where in that populationประชากร
the individualรายบุคคล will landที่ดิน.
296
829760
2680
ว่าคนคนนั้นจะตกไปอยู่ในประชากรกลุ่มไหน
14:05
Thereforeดังนั้น, everyทุกๆ encounterพบ with medicineยา
297
833040
2696
ฉะนั้น การเข้ารับบริการทางการแพทย์ทุกครั้ง
14:07
is an experimentการทดลอง.
298
835760
1440
ก็คือการทดลองอย่างหนึ่ง
14:09
You will be a subjectเรื่อง
299
837920
2016
คุณจะกลายเป็นตัวทดลอง
14:11
in an experimentการทดลอง.
300
839960
1680
ในการทดลองสักอย่างหนึ่ง
14:14
And the outcomeผล will be eitherทั้ง
a better or a worseแย่ลง resultผล for you.
301
842560
4840
และผลลัพธ์ที่ออกมาจะเป็นผลที่ดีกว่า
หรือไม่ก็แย่กว่าสำหรับคุณ
14:20
As long as medicineยา worksโรงงาน well,
302
848320
2016
ตราบใดที่การรักษานั้นยังใช้ได้ดี
14:22
we're fine with fastรวดเร็ว serviceบริการ,
303
850360
3016
เราก็จะยังคงพึงพอใจกับบริการอันรวดเร็ว
14:25
bravadoความองอาจ, brimminglybrimmingly
confidentมั่นใจ conversationsการสนทนา.
304
853400
3440
และคุยฟุ้งอวดเก่งได้อย่างมั่นใจเต็มเปี่ยม
14:29
But when things don't work well,
305
857720
1656
แต่เมื่อสิ่งต่าง ๆ ไม่ได้ผล
14:31
sometimesบางครั้ง we want something differentต่าง.
306
859400
1840
บางครั้ง เราก็อยากได้ทางเลือกใหม่
14:34
A colleagueเพื่อนร่วมงาน of mineเหมือง
removedลบออก a tumorเนื้องอก from a patient'sของผู้ป่วย limbกิ่ง.
307
862520
3280
เพื่อนร่วมงานของผมผ่าเนื้องอก
ออกจากแขนขาของผู้ป่วยรายหนึ่ง
14:38
He was concernedเกี่ยวข้อง about this tumorเนื้องอก.
308
866920
1816
เขาเป็นกังวลกับเนื้องอกนี้
14:40
In our physicianแพทย์ conferencesการประชุม,
he talkedพูดคุย about his concernกังวล
309
868760
3016
ในงานสัมมนาทางการแพทย์ของเรา
เขาพูดถึงความกังวลของเขา
14:43
that this was a typeชนิด of tumorเนื้องอก
310
871800
1416
ว่าเนื้องอกนี้เป็นเนื้องอก
14:45
that had a highสูง riskอันตราย
for comingมา back in the sameเหมือนกัน limbกิ่ง.
311
873240
2560
ประเภทที่มีโอกาสสูง
ที่จะเกิดขึ้นซ้ำในแขนขาข้างเดิม
14:48
But his conversationsการสนทนา with the patientผู้ป่วย
312
876680
1976
แต่สิ่งที่เขาคุยกับผู้ป่วยคนนั้น
14:50
were exactlyอย่างแน่นอน what a patientผู้ป่วย mightอาจ want:
313
878680
2096
คือสิ่งที่ผู้ป่วยต้องการ นั่นก็คือ
14:52
brimmingเต็มไป with confidenceความมั่นใจ.
314
880800
1256
ความมั่นใจที่เต็มเปี่ยม
14:54
He said, "I got it all
and you're good to go."
315
882080
3016
เขาบอกว่า "ผมรับมือกับมันได้แล้ว
และคุณก็หายขาดแล้วด้วย"
14:57
She and her husbandสามี were thrilledน่าตื่นตาตื่นใจ.
316
885120
1736
เธอและสามีของเธอตื่นเต้นมาก
14:58
They wentไป out, celebratedโด่งดัง, fancyแฟนซี dinnerอาหารเย็น,
openedเปิด a bottleขวด of champagneแชมเปญ.
317
886880
4080
พวกเขาออกไปฉลองงานเลี้ยงอาหารค่ำ
สุดเลิศหรู เปิดขวดแชมเปญ
15:04
The only problemปัญหา was a fewน้อย weeksสัปดาห์ที่ผ่านมา laterต่อมา,
318
892040
2296
ปัญหาเดียวก็คือไม่กี่สัปดาห์ต่อมา
15:06
she startedเริ่มต้น to noticeแจ้งให้ทราบ
anotherอื่น noduleโหนก in the sameเหมือนกัน areaพื้นที่.
319
894360
3096
เธอเริ่มสังเกตเห็นปุ่มเล็ก ๆ
ปุ่มใหม่ที่บริเวณเดิม
15:09
It turnedหัน out he hadn'tไม่ได้ gottenอากาศ it all,
and she wasn'tก็ไม่ได้ good to go.
320
897480
4136
กลายเป็นว่าเขาไม่ได้รับมือกับมันได้จริง
และเธอก็ไม่ได้หายขาดจริง ๆ
15:13
But what happenedที่เกิดขึ้น at this junctureจุดเชื่อมต่อ
absolutelyอย่างแน่นอน fascinatesfascinates me.
321
901640
2840
แต่สิ่งที่เกิดขึ้น ณ จุด ๆ นี้เอง
ที่ทำให้ผมสนใจมาก
15:17
My colleagueเพื่อนร่วมงาน cameมา to me and said,
322
905200
1616
เพื่อนร่วมงานของผม
เข้ามาหาผมแล้วก็บอกว่า
15:18
"Kevinเควิน, would you mindใจ
looking after this patientผู้ป่วย for me?"
323
906840
2720
"เคลวิน จะเป็นอะไรไหมถ้าผม
อยากให้คุณดูแลผู้ป่วยคนนี้แทนผม"
15:22
I said, "Why, you know the right thing
to do as well as I do.
324
910240
3216
ผมบอกว่า "ทำไมล่ะ
คุณก็รู้ดีพอ ๆ กับผมนี่นา
15:25
You haven'tยังไม่ได้ doneเสร็จแล้ว anything wrongไม่ถูกต้อง."
325
913480
1616
คุณไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะ"
15:27
He said, "Please, just look
after this patientผู้ป่วย for me."
326
915120
4480
เขาบอกว่า "ขอร้องล่ะ
ดูแลผู้ป่วยคนนี้ให้ผมเถอะนะ"
15:33
He was embarrassedอึดอัดใจ --
327
921200
1536
เขารู้สึกอับอาย
15:34
not by what he had doneเสร็จแล้ว,
328
922760
1400
ไม่ใช่เพราะสิ่งที่เขาได้ทำลงไป
15:37
but by the conversationการสนทนา that he had had,
329
925154
1926
แต่เพราะสิ่งที่เขาได้พูดไว้
15:39
by the overconfidenceความเชื่อมั่น.
330
927760
1440
เพราะความมั่นใจที่มากเกินไป
15:42
So I performedดำเนินการ
a much more invasiveที่รุกราน surgeryศัลยกรรม
331
930600
2616
ดังนั้น ผมก็เลยลงมือผ่าตัดในแบบที่
ผู้ป่วยอาจได้รับผลกระทบมากกว่า
15:45
and had a very differentต่าง conversationการสนทนา
with the patientผู้ป่วย afterwardsภายหลัง.
332
933240
3136
และพูดคุยกับผู้ป่วยคนนั้น
ในแบบที่แตกต่างออกไปมากหลังจากนั้น
15:48
I said, "Mostมากที่สุด likelyน่าจะ I've gottenอากาศ it all
333
936400
2336
ผมบอกว่า "เป็นไปได้สูงว่า
ผมจัดการกับมันได้เรียบร้อยแล้ว
15:50
and you're mostมากที่สุด likelyน่าจะ good to go,
334
938760
2416
และก็เป็นไปได้สูงว่าคุณหายขาดแล้ว
15:53
but this is the experimentการทดลอง
that we're doing.
335
941200
3160
แต่ว่านี่คือการทดลองที่เรากำลังทำอยู่
15:57
This is what you're going to watch for.
336
945040
2016
นี่คือสิ่งที่คุณจะต้องจับตามอง
15:59
This is what I'm going to watch for.
337
947080
1896
นี่คือสิ่งที่ผมจะต้องจับตามอง
16:01
And we're going to work togetherด้วยกัน
to find out if this surgeryศัลยกรรม will work
338
949000
3936
และเราก็จะต้องร่วมมือกัน
เพื่อหาคำตอบว่าการผ่าตัดครั้งนี้
16:04
to get ridกำจัด of your cancerโรคมะเร็ง."
339
952960
1320
จะกำจัดมะเร็งของคุณได้หรือไม่"
16:06
I can guaranteeรับประกัน you, she and her husbandสามี
340
954920
1936
ผมบอกคุณได้เลยว่า ทั้งเธอและสามีของเธอ
16:08
did not crackร้าว anotherอื่น bottleขวด of champagneแชมเปญ
after talkingการพูด to me.
341
956880
2920
ไม่ได้วิ่งไปเปิดแชมเปญฉลอง
เป็นครั้งที่สองหลังจากที่พูดคุยกับผม
16:13
But she was now a scientistนักวิทยาศาสตร์,
342
961600
2856
แต่ในตอนนี้ เธอได้กลายเป็น
นักวิทยาศาสตร์ไปแล้ว
16:16
not only a subjectเรื่อง in her experimentการทดลอง.
343
964480
3360
ไม่ใช่เพียงแค่ตัวทดลองในการทดลองของเธอ
16:21
And so I encourageส่งเสริม you
344
969960
1616
และดังนั้น ผมขอสนับสนุนให้คุณ
16:23
to seekแสวงหา humilityความนอบน้อม and curiosityความอยากรู้
345
971600
3456
มองหาความถ่อมตนและความสงสัยใคร่รู้
16:27
in your physiciansแพทย์.
346
975080
1200
ในตัวแพทย์ของคุณ
16:28
Almostเกือบจะ 20 billionพันล้าน timesครั้ง eachแต่ละ yearปี,
347
976760
2976
เกือบ 2 หมื่นล้านครั้งในแต่ละปี
16:31
a personคน walksเดิน into a doctor'sแพทย์ officeสำนักงาน,
348
979760
3936
ที่จะมีสักคนเดินเข้าไปยังห้องทำงานของหมอ
16:35
and that personคน becomesกลายเป็น a patientผู้ป่วย.
349
983720
2280
แล้วคนคนนั้นก็กลายเป็นผู้ป่วย
16:39
You or someoneบางคน you love
will be that patientผู้ป่วย sometimeบางครั้ง very soonในไม่ช้า.
350
987320
3520
คุณหรือใครสักคนที่คุณรัก
จะกลายเป็นผู้ป่วยคนนั้นในไม่ช้า
16:43
How will you talk to your doctorsแพทย์?
351
991840
1640
คุณจะพูดกับหมอของคุณอย่างไร
16:46
What will you tell them?
352
994640
1200
คุณจะบอกอะไรกับพวกเขา
16:48
What will they tell you?
353
996760
1520
พวกเขาจะบอกอะไรกับคุณ
16:52
They cannotไม่ได้ tell you
354
1000600
2216
พวกเขาไม่สามารถบอกสิ่งที่พวกเขาไม่รู้
16:54
what they do not know,
355
1002840
1520
ให้คุณทราบได้
16:57
but they can tell you when they don't know
356
1005560
3560
แต่พวกเขาบอกคุณได้ว่าพวกเขาไม่รู้เมื่อใด
17:02
if only you'llคุณจะ askถาม.
357
1010280
1360
เพียงแค่คุณเอ่ยปากถาม
17:04
So please, joinร่วม the conversationการสนทนา.
358
1012160
2840
ฉะนั้น ได้โปรดเถอะครับ มาร่วมพูดคุยกัน
17:08
Thank you.
359
1016200
1216
ขอบคุณครับ
17:09
(Applauseการปรบมือ)
360
1017440
2868
(เสียงปรบมือ)

▲Back to top

ABOUT THE SPEAKER
Kevin B. Jones - Cancer researcher
Kevin B. Jones is a life-long student of human nature, fascinated most by the decision-making capacity intrinsic to each of us.

Why you should listen

Kevin B. Jones diagnoses and performs surgeries to remove rare cancers called sarcomas from the limbs of children and adults. Counseling patients -- especially teenagers with bone cancers -- about the decisions they must make with regard to their bodies has brought the uncertainties of medicine into keen focus for him. How does a person decipher what medicine has told her? How can a person choose among options given very limited understanding of the implications of each? Intrigued by these riddles and conundrums that patient-physician communication frequently creates, Jones wrote a book, What Doctors Cannot Tell You: Clarity, Confidence and Uncertainty in Medicine.

Jones also runs a scientific research laboratory focused on the biology of sarcomas. Here, his team studies the decisions cells make on the way to becoming a cancer. Again the complexities and uncertainties inherent to these decisions are in full relief.

Jones sees patients and does surgery as an associate professor at the University of Utah in the Department of Orthopaedics, working at both Primary Children's Hospital and the Huntsman Cancer Institute. His laboratory is in the Huntsman Cancer Institute, where he is an adjunct faculty member in the Department of Oncological Sciences.

Jones studied English literature at Harvard, medicine at Johns Hopkins, orthopedic surgery at the University of Iowa, and musculoskeletal oncology at the University of Toronto. He lives in Salt Lake City with his wife and four children.

More profile about the speaker
Kevin B. Jones | Speaker | TED.com