ABOUT THE SPEAKER
Benjamin Zander - Conductor
A leading interpreter of Mahler and Beethoven, Benjamin Zander is known for his charisma and unyielding energy -- and for his brilliant pre-concert talks.

Why you should listen

Since 1979, Benjamin Zander has been the conductor of the Boston Philharmonic. He is known around the world as both a guest conductor and a speaker on leadership -- and he's been known to do both in a single performance. He uses music to help people open their minds and create joyful harmonies that bring out the best in themselves and their colleagues.

His provocative ideas about leadership are rooted in a partnership with Rosamund Stone Zander, with whom he co-wrote The Art of Possibility.

More profile about the speaker
Benjamin Zander | Speaker | TED.com
TED2008

Benjamin Zander: The transformative power of classical music

เบนจามิน แซนเดอร์ ว่าด้วยดนตรีและไฟปรารถนา

Filmed:
13,160,338 views

เบนจามิน แซนเดอร์ มีความหลงใหลที่ส่งผ่านไปยังผู้อื่นได้อยู่สองอย่าง หนึ่งคือดนตรีคลาสสิก และสองคือ การช่วยให้เราทุกคนตระหนักถึงความรักที่เราไม่เคยเข้าถึงมาก่อนต่อดนตรีคลาสสิก -- และที่สืบเนื่องจากนั้นคือ ช่วยให้เราตระหนักถึงความรักที่แฝงอยู่ในตัวเรา ต่อความเป็นไปได้ใหม่ๆ ประสบการณ์ใหม่ๆ และความสัมพันธ์ใหม่ทั้งมวล
- Conductor
A leading interpreter of Mahler and Beethoven, Benjamin Zander is known for his charisma and unyielding energy -- and for his brilliant pre-concert talks. Full bio

Double-click the English transcript below to play the video.

00:12
Probablyอาจ a lot of you know the storyเรื่องราว of the two salesmenพนักงานขาย
0
0
3000
หลายคนในที่นี้อาจเคยได้ยินเรื่องของนักขายสองคน
00:15
who wentไป down to Africaแอฟริกา in the 1900s.
1
3000
3000
ซึ่งเดินทางไปแอฟริกาในช่วง ค.ศ.1900
00:18
They were sentส่ง down to find if there was any opportunityโอกาส
2
6000
2000
ทั้งสองคนถูกส่งตัวไปสำรวจว่ามีโอกาส
00:20
for sellingขาย shoesรองเท้า,
3
8000
2000
สำหรับขายรองเท้าหรือไม่
00:22
and they wroteเขียน telegramsโทรเลข back to Manchesterแมนเชสเตอร์.
4
10000
3000
ทั้งสองส่งโทรเลขกลับไปที่เมืองแมนเชสเตอร์
00:25
And one of them wroteเขียน, "Situationสถานการณ์ hopelessสิ้นหวัง. Stop.
5
13000
4000
คนแรกแจ้งว่า "ดูรูปการณ์แล้วหมดหวัง ไม่ต้องทำอะไรต่อแล้ว
00:29
They don't wearสวมใส่ shoesรองเท้า."
6
17000
1000
คนในประเทศนี้ไม่สวมรองเท้ากัน"
00:30
And the other one wroteเขียน, "Gloriousรุ่งโรจน์ opportunityโอกาส.
7
18000
3000
ส่วนอีกคนรายงานว่า "นี่เป็นโอกาสทอง
00:33
They don't have any shoesรองเท้า yetยัง."
8
21000
2000
เพราะคนในประเทศนี้ยังไม่มีรองเท้าใส่เลย"
00:35
(Laughterเสียงหัวเราะ)
9
23000
1000
(หัวเราะ)
00:36
Now, there's a similarคล้ายคลึงกัน situationสถานการณ์ in the classicalคลาสสิก musicเพลง worldโลก,
10
24000
3000
เวลานี้ สถานการณ์ในโลกของดนตรีคลาสสิกก็คล้ายๆ กัน
00:40
because there are some people who think
11
28000
1000
เพราะมีบางคนที่คิดว่า
00:41
that classicalคลาสสิก musicเพลง is dyingเฮือกสุดท้าย.
12
29000
3000
ดนตรีคลาสสิกกำลังจะตาย
00:45
And there are some of us who think you ain'tไม่ใช่ seenเห็น nothing yetยัง.
13
33000
3000
แต่ก็มีพวกเราบางคนที่คิดว่า คุณยังไม่ได้เห็นอะไรเกี่ยวกับดนตรีคลาสสิกเลย
00:48
And ratherค่อนข้าง than go into statisticsสถิติ and trendsแนวโน้ม,
14
36000
4000
และแทนที่ผมจะสาธยายสถิติตัวเลขและแนวโน้มต่างๆ
00:52
and tell you about all the orchestrasออเคสตร้า that are closingปิด,
15
40000
2000
และเล่าเรื่องวงออเคสตราที่กำลังต้องยุบวงและปิดตัว
00:54
and the recordบันทึก companiesบริษัท that are foldingพับได้,
16
42000
3000
รวมถึงเหล่าบริษัทดนตรีที่กำลังจะเลิกกิจการ
00:57
I thought we should do an experimentการทดลอง tonightคืนนี้ -- an experimentการทดลอง.
17
45000
4000
ผมคิดว่าคืนนี้เราควรมาทดลองอะไรกันสักหน่อย -- ทดลองดู
01:01
Actuallyแท้จริง, it's not really an experimentการทดลอง, because I know the outcomeผล.
18
49000
4000
จริงๆ ก็ไม่เชิงว่าทดลองหรอก เพราะผมรู้ว่าผลลัพธ์จะออกมายังไง
01:06
But it's like an experimentการทดลอง. Now, before we --
19
54000
2000
แต่มันก็ให้อารมณ์คล้ายๆ กับการทดลองนั่นละ เอาละ ก่อนที่เรา --
01:08
(Laughterเสียงหัวเราะ)
20
56000
4000
(หัวเราะ)
01:12
-- before we startเริ่มต้น, I need to do two things.
21
60000
2000
-- ก่อนจะเริ่ม ผมต้องทำสองอย่าง
01:14
One is I want to remindเตือน you of what a seven-year-oldเจ็ดปี childเด็ก
22
62000
4000
อย่างแรกคือ ผมอยากให้คุณเห็นภาพเด็กอายุ 7 ขวบ
01:19
soundsเสียง like when he playsการเล่น the pianoเปียโน.
23
67000
1000
ว่าเขาเล่นเปียโนลักษณะไหน
01:20
Maybe you have this childเด็ก at home.
24
68000
2000
เด็กคนนี้อาจอยู่ที่บ้านคุณก็ได้
01:23
He soundsเสียง something like this.
25
71000
1000
มันจะออกมาทำนองนี้
01:24
(Pianoเปียโน)
26
72000
20000
(เปียโน)
01:44
I see some of you recognizeรับรู้ this childเด็ก.
27
92000
2000
ผมรู้ว่าพวกคุณบางคนจำเด็กคนนี้ได้
01:46
Now, if he practicesการปฏิบัติ for a yearปี and takes lessonsบทเรียน, he's now eightแปด
28
94000
5000
ทีนี้ถ้าเขาฝึกต่ออีกปีและเรียนเปียโนต่อ ตอนนี้เขาจะอายุ 8 ขวบ
01:51
and he soundsเสียง like this.
29
99000
1000
มันก็จะออกมาทำนองนี้
01:52
(Pianoเปียโน)
30
100000
7000
(เปียโน)
01:59
Then he practicesการปฏิบัติ for anotherอื่น yearปี and takes lessonsบทเรียน -- now he's nineเก้า.
31
107000
3000
แล้วถ้าฝึกต่ออีกปีและเรียนสูงขึ้นอีก ตอนนี้เขาอายุ 9 ขวบ
02:02
(Pianoเปียโน)
32
110000
6000
(เปียโน)
02:08
Then he practicesการปฏิบัติ for anotherอื่น and takes lessonsบทเรียน -- now he's 10.
33
116000
3000
แล้วก็ฝึกต่ออีกปีและเรียนสูงขึ้นไปอีก ตอนนี้เขาก็อายุ 10 ขวบ
02:11
(Pianoเปียโน)
34
119000
7000
(เปียโน)
02:18
At that pointจุด, they usuallyมักจะ give up.
35
126000
1000
ถึงตอนนั้นพวกเด็กๆ ก็มักเลิกเล่นไปเอง
02:19
(Laughterเสียงหัวเราะ)
36
127000
2000
(หัวเราะ)
02:21
(Applauseการปรบมือ)
37
129000
2000
(ปรบมือ)
02:23
Now, if you'dคุณควรที่จะ waitedรอ, if you'dคุณควรที่จะ waitedรอ for one more yearปี,
38
131000
2000
ทีนี้ ถ้าคุณรออีกหน่อย ถ้ารออีกหนึ่งปี
02:26
you would have heardได้ยิน this.
39
134000
1000
คุณจะได้ยินเสียงแบบนี้
02:27
(Pianoเปียโน)
40
135000
9000
(เปียโน)
02:36
Now, what happenedที่เกิดขึ้น was not maybe what you thought,
41
144000
3000
สิ่งที่เกิดขึ้นอาจไม่ใช่อย่างที่คุณคิด
02:39
whichที่ is, he suddenlyทันใดนั้น becameกลายเป็น passionateหลงใหล, engagedหมั้น,
42
147000
3000
คือคุณอาจคิดว่า จู่ๆ เขาจะมีไฟกับมัน ใส่ใจจริงจัง
02:42
involvedที่เกี่ยวข้อง, got a newใหม่ teacherครู, he hitตี pubertyวัยแรกรุ่น, or whateverอะไรก็ตาม it is.
43
150000
3000
กระตือรือร้น มีครูคนใหม่ ถึงวัยเจริญพันธุ์ หรืออะไรเทือกนี้
02:45
What actuallyแท้จริง happenedที่เกิดขึ้น was the impulsesแรงกระตุ้น were reducedที่ลดลง.
44
153000
4000
สิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ คือ ความกระแทกกระทั้นจะลดลง
02:50
You see, the first time, he was playingเล่น
45
158000
1000
นึกภาพออกมั้ย ตอนที่เขาเริ่มเล่นครั้งแรก
02:51
with an impulseแรงกระตุ้น on everyทุกๆ noteบันทึก.
46
159000
2000
ที่กระแทกลงไปทุกจังหวะโน้ต
02:54
(Pianoเปียโน)
47
162000
2000
(เปียโน)
02:56
And the secondที่สอง, with an impulseแรงกระตุ้น everyทุกๆ other noteบันทึก.
48
164000
2000
ครั้งที่สองก็ยังกระแทกกระทั้นโน้ตเว้นโน้ต
02:59
(Pianoเปียโน)
49
167000
2000
(เปียโน)
03:01
You can see it by looking at my headหัว.
50
169000
1000
คุณเห็นได้ถ้ามองที่หัวของผม
03:03
(Laughterเสียงหัวเราะ)
51
171000
1000
(หัวเราะ)
03:04
The nine-year-oldเก้าปี
52
172000
2000
เด็ก 9 ขวบ ...9 ขวบ
03:06
put an impulseแรงกระตุ้น on everyทุกๆ fourสี่ notesบันทึก.
53
174000
1000
จะกระแทกลงไปทุกๆ 4 ตัวโน้ต
03:07
(Pianoเปียโน)
54
175000
2000
(เปียโน)
03:10
And the 10-year-old-ปี, on everyทุกๆ eightแปด notesบันทึก.
55
178000
1000
ส่วนเด็ก 10 ขวบจะกระแทกทุกๆ 8 ตัวโน้ต
03:11
(Pianoเปียโน)
56
179000
3000
(เปียโน)
03:14
And the 11-year-old-ปี, one impulseแรงกระตุ้น on the wholeทั้งหมด phraseวลี.
57
182000
2000
เด็ก 11 ขวบจะกระแทกครั้งเดียวตลอดทั้งช่วง
03:16
(Pianoเปียโน)
58
184000
3000
(เปียโน)
03:20
I know -- I don't know how we got into this positionตำแหน่ง.
59
188000
2000
ผมไม่รู้ว่าท่าทางของผมออกมาแบบนี้ได้ยังไง
03:22
(Laughterเสียงหัวเราะ)
60
190000
2000
(หัวเราะ)
03:25
I didn't say, "I'm going to moveย้าย my shoulderไหล่ over, moveย้าย my bodyร่างกาย."
61
193000
2000
ผมไม่ได้บอกให้ตัวเองโยกไหล่ ส่ายตัวไปมา
03:27
No, the musicเพลง pushedผลักดัน me over,
62
195000
2000
เปล่าเลย ดนตรีขับดันให้ผมมีท่าทางแบบนี้เอง
03:29
whichที่ is why I call it one-buttockหนึ่งสะโพก playingเล่น.
63
197000
2000
ผมถึงเรียกว่าเป็นการเล่นแบบบั้นท้ายข้างเดียว
03:31
(Pianoเปียโน)
64
199000
2000
(เปียโน)
03:33
It can be the other buttockสะโพก.
65
201000
1000
หรือจะเป็นบั้นท้ายอีกข้างก็ได้
03:34
(Pianoเปียโน)
66
202000
4000
(เปียโน)
03:38
You know, a gentlemanสุภาพบุรุษ was onceครั้งหนึ่ง watchingการเฝ้าดู a presentationการเสนอ I was doing,
67
206000
3000
คุณรู้มั้ย ครั้งนึงมีชายคนนึงได้ชมการบรรยายของผม
03:41
when I was workingการทำงาน with a youngหนุ่มสาว pianistนักเปียโน.
68
209000
1000
ตอนที่ผมกำลังสอนนักเปียโนรุ่นเยาว์คนนึง
03:43
He was the presidentประธาน of a corporationบริษัท in Ohioโอไฮโอ.
69
211000
2000
ชายคนนั้นเป็นประธานบริษัทที่โอไฮโอ
03:45
And I was workingการทำงาน with this youngหนุ่มสาว pianistนักเปียโน
70
213000
2000
ส่วนผมก็ง่วนอยู่กับนักเปียโนวัยกระเตาะคนนี้
03:48
and I said, "The troubleปัญหา with you is you're a two-buttockสองสะโพก playerผู้เล่น.
71
216000
2000
ผมพูดว่า "ปัญหาของเธอคือ เธอเป็นนักเปียโนสองบั้นท้าย
03:50
You should be a one-buttockหนึ่งสะโพก playerผู้เล่น."
72
218000
2000
เธอควรเป็นนักเปียโนบั้นท้ายเดียวรู้มั้ย"
03:52
And I movedย้าย his bodyร่างกาย like that, while he was playingเล่น.
73
220000
2000
และผมจับตัวเขาให้อยู่ในท่าทางแบบนั้นขณะที่เขาเล่น
03:54
And suddenlyทันใดนั้น, the musicเพลง tookเอา off. It tookเอา flightเที่ยวบิน.
74
222000
2000
แล้วเสียงดนตรีที่ออกมาก็พลิ้วไหวมีชีวิตขึ้นมาทันที มันโลดแล่นออกมาเอง
03:57
There was a gaspอ้าปากค้าง in the audienceผู้ชม when they heardได้ยิน the differenceข้อแตกต่าง.
75
225000
2000
ผู้ชมถึงกับครางฮือตอนที่ได้ยินความแตกต่าง
03:59
And then I got a letterจดหมาย from this gentlemanสุภาพบุรุษ.
76
227000
2000
ต่อมาผมได้รับจดหมายจากผู้ชายคนนี้
04:01
He said, "I was so movedย้าย.
77
229000
1000
เขาเขียนว่า "ผมรู้สึกตื้นตันใจมาก
04:02
I wentไป back and I transformedเปลี่ยน my entireทั้งหมด companyบริษัท
78
230000
2000
ผมกลับไปเปลี่ยนแนวทางบริษัทของผมใหม่หมด
04:05
into a one-buttockหนึ่งสะโพก companyบริษัท."
79
233000
1000
ให้กลายเป็นบริษัทบั้นท้ายเดียว"
04:06
(Laughterเสียงหัวเราะ)
80
234000
3000
(หัวเราะ)
04:10
Now, the other thing I wanted to do is to tell you about you.
81
238000
2000
ตอนนี้ อีกเรื่องที่ผมอยากทำคือ บอกบางสิ่งเกี่ยวกับตัวคุณให้คุณฟัง
04:12
There are 1,600 people, I believe.
82
240000
3000
เชื่อว่าคงมีราวๆ 1,600 คน
04:15
My estimationการประเมิน is that probablyอาจ 45 of you
83
243000
3000
คำนวณคร่าวๆ ว่าอาจมีพวกคุณ 45 คน
04:18
are absolutelyอย่างแน่นอน passionateหลงใหล about classicalคลาสสิก musicเพลง.
84
246000
2000
ที่หลงใหลดนตรีคลาสสิกเป็นชีวิตจิตใจ
04:21
You adoreรัก classicalคลาสสิก musicเพลง. Your FMเอฟเอ็ม is always on that classicalคลาสสิก dialหมุน.
85
249000
5000
คุณเทิดทูนดนตรีคลาสสิก เวลาฟังวิทยุก็เปิดแต่คลื่นดนตรีคลาสสิก
04:26
And you have CDsซีดี in your carรถ, and you go to the symphonyซิมโฟนี.
86
254000
3000
ในรถก็ยังมีซีดีดนตรีคลาสสิก แถมยังไปดูคอนเสิร์ตวงซิมโฟนี
04:29
And your childrenเด็ก ๆ are playingเล่น instrumentsเครื่องมือ.
87
257000
1000
ลูกๆ ก็เล่นเครื่องดนตรีคลาสสิก
04:30
You can't imagineจินตนาการ your life withoutไม่มี classicalคลาสสิก musicเพลง.
88
258000
2000
คุณนึกภาพไม่ออกว่าชีวิตจะขาดดนตรีคลาสสิกได้อย่างไร
04:33
That's the first groupกลุ่ม; it's quiteทีเดียว a smallเล็ก groupกลุ่ม.
89
261000
2000
นั่นคือกลุ่มแรก เป็นกลุ่มค่อนข้างเล็ก
04:35
Then there's anotherอื่น groupกลุ่ม, biggerที่ใหญ่กว่า groupกลุ่ม.
90
263000
2000
แล้วก็มีอีกกลุ่มหนึ่ง ...เป็นกลุ่มใหญ่ขึ้น
04:37
These are the people who don't mindใจ classicalคลาสสิก musicเพลง.
91
265000
2000
คนกลุ่มนี้ไม่รังเกียจดนตรีคลาสสิก
04:39
(Laughterเสียงหัวเราะ)
92
267000
1000
(หัวเราะ)
04:40
You know, you've come home from a long day,
93
268000
2000
นึกภาพว่า คุณกลับมาถึงบ้านหลังจากตรากตรำมาทั้งวัน
04:42
and you take a glassกระจก of wineไวน์, and you put your feetฟุต up.
94
270000
2000
แล้วก็ไปรินไวน์มาแก้วนึง และนั่งยกขาพาด
04:45
A little VivaldiVivaldi in the backgroundพื้นหลัง doesn't do any harmอันตราย.
95
273000
2000
เสียงไวโอลินของวิวัลดีคลออยู่ใกล้ๆ ไม่ทำร้ายใครนี่นา
04:47
(Laughterเสียงหัวเราะ)
96
275000
1000
(หัวเราะ)
04:48
That's the secondที่สอง groupกลุ่ม.
97
276000
1000
คนพวกนี้อยู่กลุ่มที่สอง
04:49
Now comesมา the thirdที่สาม groupกลุ่ม.
98
277000
1000
ทีนี้มาถึงกลุ่มที่สาม
04:50
These are the people who never listen to classicalคลาสสิก musicเพลง.
99
278000
2000
เป็นพวกที่ไม่เคยฟังดนตรีคลาสสิกมาก่อน
04:52
It's just simplyง่ายดาย not partส่วนหนึ่ง of your life.
100
280000
2000
มันไม่ใช่ส่วนหนึ่งของชีวิตคุณเลย
04:55
You mightอาจ hearได้ยิน it like second-handมือสอง smokeควัน at the airportสนามบิน, but --
101
283000
2000
คุณอาจได้ยินมันผ่านๆ เหมือนควันบุหรี่ของคนข้างตัวที่สนามบิน
04:57
(Laughterเสียงหัวเราะ)
102
285000
2000
(หัวเราะ)
04:59
-- and maybe a little bitบิต of a marchมีนาคม from "Aidaไอด้า"
103
287000
1000
-- หรืออาจเหมือนฉากสวนสนามของละครเรื่องไอดา
05:00
when you come into the hallห้องโถง. But otherwiseมิฉะนั้น, you never hearได้ยิน it.
104
288000
3000
ตอนเข้าชมการแสดงสด แต่ถ้าไม่นับเหตุบังเอิญเหล่านี้ คุณจะไม่เคยได้ยินมัน
05:04
That's probablyอาจ the largestใหญ่ที่สุด groupกลุ่ม of all.
105
292000
1000
นี่อาจเป็นคนกลุ่มใหญ่สุด
05:05
And then there's a very smallเล็ก groupกลุ่ม.
106
293000
2000
แต่ก็ยังมีกลุ่มที่เล็กมากๆ อีกกลุ่ม
05:07
These are the people who think they're tone-deafโทนหูหนวก.
107
295000
3000
คนกลุ่มนี้คิดว่าตัวเองแยกจังหวะโน้ตไม่เป็น
05:10
Amazingน่าอัศจรรย์ numberจำนวน of people think they're tone-deafโทนหูหนวก.
108
298000
2000
มีคนเยอะมากที่คิดว่าตัวเองเป็นแบบนี้
05:13
Actuallyแท้จริง, I hearได้ยิน a lot, "My husbandสามี is tone-deafโทนหูหนวก."
109
301000
2000
จริงๆ ผมได้ยินคำพูด "สามีฉันแยกจังหวะโน้ตไม่เป็น" บ่อยมาก
05:15
(Laughterเสียงหัวเราะ)
110
303000
1000
(หัวเราะ)
05:16
Actuallyแท้จริง, you cannotไม่ได้ be tone-deafโทนหูหนวก. Nobodyไม่มีใคร is tone-deafโทนหูหนวก.
111
304000
3000
จริงๆ แล้วเป็นไปไม่ได้ที่คุณจะแยกไม่เป็น ไม่มีใครที่แยกจังหวะโน้ตไม่เป็น
05:19
If you were tone-deafโทนหูหนวก, you couldn'tไม่สามารถ changeเปลี่ยนแปลง the gearsเกียร์
112
307000
3000
ถ้าคุณแยกจังหวะโน้ตไม่ได้ คุณก็ต้องเปลี่ยนเกียร์รถไม่ได้ด้วย
05:22
on your carรถ, in a stickติด shiftเปลี่ยน carรถ.
113
310000
2000
รถเกียร์กระปุกน่ะ
05:24
You couldn'tไม่สามารถ tell the differenceข้อแตกต่าง betweenระหว่าง
114
312000
2000
คุณจะแยกความแตกต่างไม่ได้
05:26
somebodyบางคน from Texasเท็กซัส and somebodyบางคน from Romeกรุงโรม.
115
314000
2000
ระหว่างชาวเท็กซัสและชาวโรม
05:28
And the telephoneโทรศัพท์. The telephoneโทรศัพท์. If your motherแม่ callsโทร
116
316000
4000
สำหรับโทรศัพท์ ถ้าคุณแม่ของคุณโทรมาหา
05:33
on the miserableอนาถ telephoneโทรศัพท์, she callsโทร and saysกล่าวว่า, "Helloสวัสดี,"
117
321000
2000
โดยใช้โทรศัพท์คุณภาพแย่มาก โทรมาพูดว่า "ฮัลโหล"
05:35
you not only know who it is, you know what moodอารมณ์ she's in.
118
323000
3000
ไม่ใช่แค่คุณจะจำได้ว่าใครกำลังพูด แต่ยังรู้ว่าเธอกำลังอยู่ในอารมณ์ไหน
05:39
You have a fantasticน่าอัศจรรย์ earหู. Everybodyทุกคน has a fantasticน่าอัศจรรย์ earหู.
119
327000
3000
คุณมีหูที่มีคุณสมบัติเยี่ยมยอด ทุกคนมีหูที่มีคุณสมบัติสุดยอด
05:42
So nobodyไม่มีใคร is tone-deafโทนหูหนวก.
120
330000
2000
ไม่มีใครที่แยกจังหวะโน้ตไม่ได้
05:44
But I tell you what. It doesn't work for me to go on with this thing,
121
332000
4000
แต่ผมอยากบอกว่า ผมจะไม่ยอมทนกับเรื่องนี้
05:48
with suchอย่างเช่น a wideกว้าง gulfอ่าว betweenระหว่าง those who understandเข้าใจ,
122
336000
3000
กับการมีหุบเหวมโหฬารที่กั้นระหว่างคนที่เข้าใจ
05:52
love and [are] passionateหลงใหล about classicalคลาสสิก musicเพลง,
123
340000
2000
หลงรัก และดื่มด่ำเคลิบเคลิ้มกับดนตรีคลาสสิก
05:54
and those who have no relationshipความสัมพันธ์ to it at all.
124
342000
3000
กับคนที่ไม่ข้องแวะใดๆ กับมันเลย
05:57
The tone-deafโทนหูหนวก people, they're no longerอีกต่อไป here.
125
345000
2000
คนที่แยกจังหวะโน้ตไม่ออกนั้น ไม่มีอยู่อีกต่อไป
05:59
But even betweenระหว่าง those threeสาม categoriesประเภท, it's too wideกว้าง a gulfอ่าว.
126
347000
4000
แต่แม้ในหมู่สามกลุ่มที่เหลือ ก็ถือว่ายังมีช่องว่างที่กว้างเกินไปอยู่ดี
06:03
So I'm not going to go on untilจนกระทั่ง everyทุกๆ singleเดียว personคน in this roomห้อง,
127
351000
4000
เพราะฉะนั้น ผมจะไม่รามือจนกว่าทุกคนในห้องนี้
06:07
downstairsข้างล่าง and in Aspenต้นไม้แอซป์, and everybodyทุกคน elseอื่น looking,
128
355000
5000
ทั้งที่อยู่ด้านล่างและในเอสเพ็น รวมถึงทุกคนที่กำลังชม
06:13
will come to love and understandเข้าใจ classicalคลาสสิก musicเพลง.
129
361000
3000
จะหันมารักและเข้าใจดนตรีคลาสสิก
06:16
So that's what we're going to do.
130
364000
2000
นี่คือเรื่องที่พวกเรากำลังจะทำกัน
06:19
Now, you noticeแจ้งให้ทราบ that there is not the slightestน้อยที่สุด doubtสงสัย in my mindใจ
131
367000
5000
คุณอาจสังเกตว่า ผมไม่มีความลังเลสงสัยเลย
06:24
that this is going to work if you look at my faceใบหน้า, right?
132
372000
3000
ว่าผลลัพธ์ต้องออกมาตามนั้น สีหน้าของผมบอกอย่างนั้นใช่มั้ย
06:27
It's one of the characteristicsลักษณะ of a leaderผู้นำ that he not doubtสงสัย
133
375000
4000
คุณสมบัติหนึ่งของผู้นำคือ เขาจะไม่ลังเลสงสัย
06:31
for one momentขณะ the capacityความจุ of the people he's leadingชั้นนำ
134
379000
3000
แม้เสี้ยววินาที ในความสามารถของผู้คนที่เขากำลังนำอยู่
06:35
to realizeตระหนักถึง whateverอะไรก็ตาม he's dreamingการฝัน.
135
383000
2000
ในการบรรลุสิ่งใดก็ตามที่ผู้นำวาดภาพฝันไว้
06:37
Imagineจินตนาการ if Martinนกนางแอ่น Lutherลูเทอร์ Kingกษัตริย์ had said, "I have a dreamฝัน.
136
385000
3000
ลองนึกภาพว่าถ้าหาก มาร์ติน ลูเธอร์ คิง ประกาศว่า "ผมมีความฝัน
06:40
Of courseหลักสูตร, I'm not sure they'llพวกเขาจะ be up to it."
137
388000
2000
แต่ผมไม่มั่นใจหรอกว่า ประชาชนจะทำได้หรือเปล่า"
06:42
(Laughterเสียงหัวเราะ)
138
390000
3000
(หัวเราะ)
06:46
All right. So I'm going to take a pieceชิ้น of Chopinโชแปง.
139
394000
2000
เอาละ ผมกำลังจะเล่นเพลงเพลงนึงของโชแปง
06:48
This is a beautifulสวย preludeโหมโรง by Chopinโชแปง. Some of you will know it.
140
396000
5000
บทโหมโรงที่งดงามไพเราะ ประพันธ์โดยโชแปง พวกคุณบางคนคงรู้จัก
06:54
(Musicเพลง)
141
402000
28000
(ดนตรี)
07:22
Do you know what I think probablyอาจ happenedที่เกิดขึ้น in this roomห้อง?
142
430000
2000
คุณรู้มั๊ยครับว่า เมื่อครู่ผมคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนในห้องนี้
07:25
When I startedเริ่มต้น, you thought, "How beautifulสวย that soundsเสียง."
143
433000
2000
ตอนที่ผมเริ่ม พวกคุณคงคิดว่า "ไพเราะเหลือเกิน"
07:27
(Musicเพลง)
144
435000
13000
(ดนตรี)
07:41
"I don't think we should go to the sameเหมือนกัน placeสถานที่
145
449000
1000
"แต่คิดว่าเราอย่าไปที่เดียวกัน...
07:42
for our summerฤดูร้อน holidaysวันหยุด nextต่อไป yearปี."
146
450000
2000
ในช่วงพักร้อนปีหน้าเลยนะ"
07:44
(Laughterเสียงหัวเราะ)
147
452000
3000
(หัวเราะ)
07:47
It's funnyตลก, isn't it? It's funnyตลก how those thoughtsความคิด
148
455000
3000
ตลกใช่มั้ย มันตลกมากที่ความคิดทำนองนี้
07:50
kindชนิด of waftสะบัด into your headหัว.
149
458000
3000
วนเวียนอยู่ในหัวคุณ
07:53
And of courseหลักสูตร --
150
461000
1000
และก็แน่นอน --
07:54
(Applauseการปรบมือ)
151
462000
3000
(ปรบมือ)
07:57
-- and of courseหลักสูตร, if the pieceชิ้น is long and you've had a long day,
152
465000
2000
-- แน่นอนว่า ถ้าเพลงนั้นยาวมาก และคุณก็เหนื่อยมาทั้งวัน
08:00
you mightอาจ actuallyแท้จริง driftลอยลำ off.
153
468000
1000
คุณก็อาจผลอยหลับไป
08:01
Then your companionสหาย will digขุด you in the ribsซี่โครง
154
469000
2000
แล้วเพื่อนก็จะเอาศอกถองตัวคุณ
08:03
and say, "Wakeปลุก up! It's cultureวัฒนธรรม!" And then you feel even worseแย่ลง.
155
471000
4000
และบอกว่า "ตื่นๆ! นี่มันวัฒนธรรมนะ!" ซึ่งทำให้คุณรู้สึกแย่ขึ้นไปอีก
08:07
But has it ever occurredที่เกิดขึ้น to you that the reasonเหตุผล you feel sleepyง่วงนอน
156
475000
3000
แต่คุณเคยฉุกคิดมั้ยว่า เหตุผลที่คุณรู้สึกง่วง
08:11
in classicalคลาสสิก musicเพลง is not because of you, but because of us?
157
479000
2000
ตอนฟังเพลงคลาสสิกนั้น ไม่ใช่ความผิดของคุณ แต่เป็นของพวกเราเอง
08:13
Did anybodyใคร ๆ think while I was playingเล่น,
158
481000
2000
ขณะที่ผมเล่น มีใครคิดบ้างมั้ยว่า
08:15
"Why is he usingการใช้ so manyจำนวนมาก impulsesแรงกระตุ้น?"
159
483000
2000
"ทำไมหมอนี้ถึงกระแทกกระทั้นหลายจังหวะเหลือเกิน"
08:17
If I'd doneเสร็จแล้ว this with my headหัว you certainlyอย่างแน่นอน would have thought it.
160
485000
3000
ถ้าผมเล่นเพลงนี้ด้วยหัว คุณจะต้องคิดอย่างนั้นแน่ๆ
08:21
(Musicเพลง)
161
489000
5000
(ดนตรี)
08:26
And for the restส่วนที่เหลือ of your life, everyทุกๆ time you hearได้ยิน classicalคลาสสิก musicเพลง,
162
494000
4000
และตลอดชีวิตที่เหลือ ทุกครั้งที่คุณได้ยินดนตรีคลาสสิก
08:30
you'llคุณจะ always be ableสามารถ to know if you hearได้ยิน those impulsesแรงกระตุ้น.
163
498000
4000
คุณจะคิดอย่างนั้นเสมอ เมื่อไหร่ที่คุณได้ยินจังหวะกระแทกกระทั้น
08:34
So let's see what's really going on here.
164
502000
2000
มาดูว่าเรากำลังทำอะไรกันอยู่ตอนนี้
08:36
We have a B. This is a B. The nextต่อไป noteบันทึก is a C.
165
504000
5000
นี่คือโน้ต B ส่วนโน้ตถัดไปก็คือ C
08:41
And the jobงาน of the C is to make the B sadเสียใจ. And it does, doesn't it?
166
509000
3000
และหน้าที่ของโน้ต C ก็คือ ทำให้โน้ต B เศร้า ..ใช่มั้ยครับ
08:44
(Laughterเสียงหัวเราะ)
167
512000
3000
(หัวเราะ)
08:47
Composersคีตกวี know that. If they want sadเสียใจ musicเพลง,
168
515000
2000
นักแต่งเพลงจะรู้ดี ว่าถ้าอยากให้ดนตรีออกมาเศร้าสร้อย
08:49
they just playเล่น those two notesบันทึก.
169
517000
1000
ก็ให้เล่นโน้ต 2 ตัวนี้
08:50
(Musicเพลง)
170
518000
5000
(ดนตรี)
08:55
But basicallyเป็นพื้น, it's just a B, with fourสี่ sadssads.
171
523000
2000
แต่หลักๆ มันมีแค่โน้ต B ตัวเดียว กับความเศร้า 4 แบบ
08:57
(Laughterเสียงหัวเราะ)
172
525000
2000
(หัวเราะ)
09:00
Now, it goesไป down to A. Now to G. And then to F.
173
528000
5000
ทีนี้ มันไปถึงโน้ต A ..สู่โน้ต G ..แล้วก็โน้ต F
09:05
So we have B, A, G, F. And if we have B, A, G, F,
174
533000
4000
ตอนนี้ก็เป็นโน้ต B, A, G, F และถ้าเป็นโน้ต B, A, G, F แล้ว
09:10
what do we expectคาดหวัง nextต่อไป? Oh, that mightอาจ have been a flukeความบังเอิญ.
175
538000
6000
โน้ตตัวไหนจะตามมา? โอ นั่นอาจเป็นเรื่องบังเอิญ
09:16
Let's try it again. Oohโอ, the TEDTED choirคายกคณะ.
176
544000
6000
ลองอีกรอบ กับคณะประสานเสียง TED
09:22
(Laughterเสียงหัวเราะ)
177
550000
3000
(หัวเราะ)
09:25
And you noticeแจ้งให้ทราบ nobodyไม่มีใคร is tone-deafโทนหูหนวก, right? Nobodyไม่มีใคร is.
178
553000
4000
และคุณก็รู้แล้วว่าไม่มีใครที่แยกจังหวะโน้ตไม่เป็น ..ถูกต้องมั้ย
09:29
You know, everyทุกๆ villageหมู่บ้าน in Bangladeshบังคลาเทศ
179
557000
2000
รู้มั้ยว่า ทุกหมู่บ้านในบังกลาเทศ
09:31
and everyทุกๆ hamletหมู่บ้านเล็ก ๆ in Chinaประเทศจีน -- everybodyทุกคน knowsรู้:
180
559000
5000
ทุกหมู่บ้านในเมืองจีน ...ทุกคนรู้หมด
09:37
daดา, daดา, daดา, daดา -- daดา. Everybodyทุกคน knowsรู้, who'sใคร expectingคาดหวังว่า that E.
181
565000
3000
ดา ดา ดา ดา -- ดา ..ทุกคนรู้ว่ามันต้องลงด้วยโน้ต E
09:40
Now, Chopinโชแปง didn't want to reachมาถึง the E there,
182
568000
3000
แต่โชแปงยังไม่อยากไปถึงโน้ต E
09:44
because what will have happenedที่เกิดขึ้น? It will be over, like Hamletหมู่บ้านเล็ก ๆ.
183
572000
2000
เพราะจะเกิดอะไรขึ้น? เพลงมันจะจบน่ะสิ เหมือนกับแฮมเล็ต
09:46
Do you rememberจำ Hamletหมู่บ้านเล็ก ๆ? Actการกระทำ one, sceneฉาก threeสาม,
184
574000
2000
คุณจำแฮมเล็ตได้มั้ย องก์แรก ฉากที่สาม
09:49
he findsพบ out that his uncleลุง killedถูกฆ่าตาย his fatherพ่อ.
185
577000
1000
แฮมเล็ตได้รู้ว่า ลุงของเขาเป็นคนฆ่าพ่อ
09:50
You rememberจำ, he keepsช่วยให้ on going up to his uncleลุง
186
578000
2000
คุณจำได้ว่าเขาเอาแต่ตามล่าหาตัวลุง
09:52
and almostเกือบจะ killingที่ฆ่า him. And then he backsหลัง away,
187
580000
1000
และเกือบจะฆ่าลุงด้วย แต่แล้วก็ถอย
09:53
and he goesไป up to him again and almostเกือบจะ killsฆ่า him.
188
581000
3000
และก็ตามล่าลุงอีก และก็เกือบได้ฆ่าอีก
09:56
And the criticsนักวิจารณ์, all of whomใคร are sittingนั่ง in the back rowแถว there,
189
584000
2000
พวกนักวิจารณ์ ซึ่งทั้งหมดนั่งอยู่แถวหลัง
09:58
they have to have an opinionความคิดเห็น, so they say, "Hamletหมู่บ้านเล็ก ๆ is a procrastinatorprocrastinator."
190
586000
3000
ออกความเห็นว่า "แฮมเล็ตเป็นคนที่ชอบผลัดวันประกันพรุ่ง"
10:01
(Laughterเสียงหัวเราะ)
191
589000
1000
(หัวเราะ)
10:02
Or they say, "Hamletหมู่บ้านเล็ก ๆ has an OedipusOedipus complexซับซ้อน."
192
590000
2000
หรือไม่ก็บอกว่า "แฮมเล็ตมีปมโอดิปุส"
10:05
No, otherwiseมิฉะนั้น the playเล่น would be over, stupidโง่.
193
593000
3000
ไม่ใช่เลย แต่เพราะถ้าทำอย่างนั้นละครจะจบต่างหาก ไอ้พวกโง่
10:08
That's why Shakespeareเช็คสเปียร์ putsทำให้ all that stuffสิ่ง in Hamletหมู่บ้านเล็ก ๆ --
194
596000
2000
นั่นคือเหตุผลที่เชคสเปียร์ใส่รายละเอียดพวกนั้นลงไปในแฮมเล็ต
10:11
you know, Opheliaนางเอก going madบ้า and the playเล่น withinภายใน the playเล่น,
195
599000
2000
มีเรื่องสาวน้อยโอฟิเลียที่กลายเป็นบ้า เป็นเรื่องที่ซ้อนอยู่อีกชั้นนึง
10:13
and Yorick'sYorick ของ skullกะโหลกศีรษะ, and the gravediggersgravediggers.
196
601000
1000
มีเรื่องกะโหลกของโยริค และพวกสัปเหร่อ
10:15
That's in orderใบสั่ง to delayความล่าช้า -- untilจนกระทั่ง actการกระทำ fiveห้า, he can killฆ่า him.
197
603000
3000
ทั้งหมดนี้เพื่อถ่วงเวลาไว้ -- จนถึงองก์ที่ 5 เขาถึงฆ่าลุงได้
10:18
It's the sameเหมือนกัน with the Chopinโชแปง. He's just about to reachมาถึง the E,
198
606000
5000
เพลงของโชแปงก็ไม่ต่างกัน เขาเกือบถึงโน้ต E แล้ว
10:23
and he saysกล่าวว่า, "Oopsอุ่ย, better go back up and do it again."
199
611000
2000
แต่เขาบอกว่า "เดี๋ยวก่อน กลับไปเริ่มใหม่ดีกว่า"
10:25
So he does it again.
200
613000
3000
แล้วเขาก็กลับไปเริ่มใหม่
10:29
Now, he getsได้รับ excitedตื่นเต้น. (Pianoเปียโน) That's excitementความตื่นเต้น,
201
617000
3000
ตอนนี้เขารู้สึกตื่นเต้นแล้ว...นั่นคือการเร้าอารมณ์
10:32
you don't have to worryกังวล about it.
202
620000
1000
คุณไม่ต้องไปกังวลอะไรกับมัน
10:34
Now, he getsได้รับ to F-sharpF-คม, and finallyในที่สุด he goesไป down to E,
203
622000
2000
ตอนนี้ลงมาถึงโน้ต F# และในที่สุดก็ถึงโน้ต E
10:36
but it's the wrongไม่ถูกต้อง chordคอร์ด -- because the chordคอร์ด he's looking for
204
624000
3000
แต่มันผิดคอร์ด เพราะคอร์ดที่เขาต้องการ
10:40
is this one, (Pianoเปียโน) and insteadแทน he does ...
205
628000
3000
คือคอร์ดนี้ แต่เขาก็ยังให้ออกมาแบบนั้น
10:43
(Pianoเปียโน) Now, we call that a deceptiveเทียม cadenceจังหวะ, because it deceivesลวงหลอก us.
206
631000
4000
ซึ่งเราเรียกว่า การไต่ระดับโน้ตลงแบบลวง เพราะว่ามันหลอกเรา
10:48
I always tell my studentsนักเรียน, "If you have a deceptiveเทียม cadenceจังหวะ,
207
636000
2000
ผมบอกนักเรียนเสมอว่า "ถ้าคุณได้ยินการไต่ระดับโน้ตลงมา..
10:50
be sure to raiseยก your eyebrowsขนคิ้ว. Then everybodyทุกคน will know."
208
638000
2000
อย่าลืมยักคิ้วนะ ทุกคนจะได้รู้"
10:52
(Laughterเสียงหัวเราะ)
209
640000
3000
(หัวเราะ)
10:55
(Applauseการปรบมือ)
210
643000
3000
(ปรบมือ)
10:59
Right. So, he getsได้รับ to E, but it's the wrongไม่ถูกต้อง chordคอร์ด.
211
647000
2000
ตอนนี้เขามาถึงโน้ต E แล้ว แต่มันผิดคอร์ด
11:01
Now, he triesพยายาม E again. That chordคอร์ด doesn't work.
212
649000
3000
เขาเล่นโน้ต E อีกรอบ มันก็ยังไม่ใช่อยู่ดี
11:04
Now, he triesพยายาม the E again. That chordคอร์ด doesn't work.
213
652000
3000
แต่ก็ยังเล่นโน้ต E มันก็ยังไม่ใช่อยู่ดี
11:07
Now, he triesพยายาม E again, and that doesn't work.
214
655000
2000
แต่ก็ยังเล่นโน้ต E ต่ออีก มันก็ยังไม่ใช่อีก
11:10
And then finallyในที่สุด ... (Pianoเปียโน)
215
658000
3000
และในที่สุด....
11:13
There was a gentlemanสุภาพบุรุษ in the frontด้านหน้า rowแถว who wentไป, "Mmmอืมมม."
216
661000
4000
มีผู้ชายที่นั่งแถวหน้าส่งเสียง "เฮ่อออ"
11:18
It's the sameเหมือนกัน gestureเชิง he makesยี่ห้อ when he comesมา home
217
666000
2000
เป็นอาการเดียวกับที่เขาทำตอนกลับถึงบ้าน
11:20
after a long day, turnsผลัดกัน off the keyสำคัญ in his carรถ and saysกล่าวว่า,
218
668000
3000
หลังเหนื่อยมาทั้งวัน ดับเครื่องรถยนต์ และพูดว่า
11:24
"Aahแอ๊ะ, I'm home." Because we all know where home is.
219
672000
3000
"อาา ถึงบ้านเสียที" เพราะเราทุกคนรู้ว่าบ้านอยู่ที่ไหน
11:27
So this is a pieceชิ้น whichที่ goesไป from away to home.
220
675000
3000
ดนตรีช่วงนี้จึงเป็นการเดินทางกลับบ้าน
11:30
And I'm going to playเล่น it all the way throughตลอด
221
678000
2000
ซึ่งผมกำลังจะเล่นเพลงนี้ตั้งแต่ต้นจนจบ
11:32
and you're going to followปฏิบัติตาม. B, C, B, C, B, C, B --
222
680000
3000
คุณจะได้ติดตามโน้ต B, C, B, C, B, C, B --
11:35
down to A, down to G, down to F.
223
683000
2000
ไต่ไปถึง A ...ลงไปถึง G และถึง F
11:37
Almostเกือบจะ goesไป to E, but otherwiseมิฉะนั้น the playเล่น would be over.
224
685000
2000
เกือบจะถึงโน้ต E แล้ว แต่นั่นจะทำให้เพลงจบลง
11:40
He goesไป back up to B. He getsได้รับ very excitedตื่นเต้น. GoesGoes to F-sharpF-คม. GoesGoes to E.
225
688000
2000
เขาจึงย้อนกลับไปที่โน้ต B อีก เขาตื่นเต้นมาก ไปที่โน้ต F# แล้วไปที่ E
11:42
It's the wrongไม่ถูกต้อง chordคอร์ด. It's the wrongไม่ถูกต้อง chordคอร์ด. It's the wrongไม่ถูกต้อง chordคอร์ด.
226
690000
2000
ซึ่งเป็นคอร์ดที่ผิด มันผิดคอร์ด ไม่ใช่คอร์ดนี้
11:45
And finallyในที่สุด goesไป to E, and it's home.
227
693000
2000
จนสุดท้ายก็มาถึงโน้ต E ..กลับถึงบ้านเสียที
11:47
And what you're going to see is one-buttockหนึ่งสะโพก playingเล่น.
228
695000
3000
และที่คุณกำลังจะได้ชม คือการเล่นแบบบั้นท้ายเดียว
11:50
(Laughterเสียงหัวเราะ)
229
698000
3000
(หัวเราะ)
11:53
Because for me, to joinร่วม the B to the E,
230
701000
2000
เพราะสำหรับผม การจะดื่มด่ำช่วงโน้ต B ถึง E
11:56
I have to stop thinkingคิด about everyทุกๆ singleเดียว noteบันทึก alongตาม the way,
231
704000
5000
ผมต้องหยุดคิดเรื่องโน้ตทุกๆ ตัวที่ปรากฏระหว่างทาง
12:01
and startเริ่มต้น thinkingคิด about the long, long lineเส้น from B to E.
232
709000
5000
และเริ่มนึกถึงการเดินทางแสนยาวไกลจากโน้ต B ถึง E
12:07
You know, we were just in Southภาคใต้ Africaแอฟริกา, and you can't go to Southภาคใต้ Africaแอฟริกา
233
715000
4000
เราเพิ่งพูดถึงแอฟริกา และคุณก็ไม่อาจไปเยือนประเทศนี้
12:11
withoutไม่มี thinkingคิด of Mandelaแมนเดลา in jailคุก for 27 yearsปี.
234
719000
3000
โดยไม่คิดถึงแมนเดลาที่ต้องถูกจองจำอยู่ถึง 27 ปีได้
12:15
What was he thinkingคิด about? Lunchอาหารกลางวัน?
235
723000
2000
เขาคิดเรื่องอะไรอยู่ในตอนนั้น อาหารเที่ยง?
12:17
No, he was thinkingคิด about the visionวิสัยทัศน์ for Southภาคใต้ Africaแอฟริกา
236
725000
3000
เปล่าเลย เขาคิดเรื่องวิสัยทัศน์สำหรับแอฟริกา
12:21
and for humanเป็นมนุษย์ beingsสิ่งมีชีวิต. That's what keptเก็บไว้ --
237
729000
1000
และสำหรับเพื่อนมนุษย์ นั่นคือสิ่งที่อยู่ในหัวเขา
12:22
this is about visionวิสัยทัศน์. This is about the long lineเส้น.
238
730000
3000
นี่คือเรื่องของวิสัยทัศน์ เรื่องของการเดินทางยาวไกล
12:25
Like the birdนก who fliesแมลงวัน over the fieldสนาม
239
733000
2000
ดุจนกโผบินอยู่เหนือพื้นดิน
12:27
and doesn't careการดูแล about the fencesรั้ว underneathภายใต้, all right?
240
735000
4000
และไม่สนใจแนวรั้วเบื้องล่าง โอเคนะครับ?
12:31
So now, you're going to followปฏิบัติตาม the lineเส้น all the way from B to E.
241
739000
3000
ตอนนี้คุณกำลังจะติดตามการเดินทางจากโน้ต B ถึง E
12:34
And I've one last requestขอร้อง before I playเล่น this pieceชิ้น all the way throughตลอด.
242
742000
4000
แต่ผมอยากขออะไรสักอย่าง ก่อนจะเล่นเพลงนี้ตั้งแต่ต้นจนจบ
12:38
Would you think of somebodyบางคน who you adoreรัก, who'sใคร no longerอีกต่อไป there?
243
746000
5000
อยากให้คุณนึกภาพคนที่คุณรักดั่งดวงใจ ผู้ซึ่งจากคุณไปแล้ว
12:43
A belovedที่รัก grandmotherยาย, a loverคนรัก --
244
751000
3000
คุณยาย คนรัก
12:47
somebodyบางคน in your life who you love with all your heartหัวใจ,
245
755000
3000
คนที่ในชีวิตของคุณนั้น คุณรักเขาหมดใจ
12:50
but that personคน is no longerอีกต่อไป with you.
246
758000
3000
แต่คนๆ นั้นไม่ได้อยู่กับคุณอีกแล้ว
12:54
Bringนำมาซึ่ง that personคน into your mindใจ, and at the sameเหมือนกัน time
247
762000
3000
นำคนๆ นั้นมาแนบใจคุณตอนนี้ และขณะเดียวกัน
12:57
followปฏิบัติตาม the lineเส้น all the way from B to E,
248
765000
4000
ก็ติดตามการเดินทางจากโน้ต B ถึง E
13:01
and you'llคุณจะ hearได้ยิน everything that Chopinโชแปง had to say.
249
769000
8000
และคุณจะได้ยินทุกสิ่งที่โชแปงอยากจะบอก
13:09
(Musicเพลง)
250
777000
111000
(ดนตรี)
15:00
(Applauseการปรบมือ)
251
888000
7000
(ปรบมือ)
15:07
Now, you mayอาจ be wonderingสงสัย,
252
895000
5000
ตอนนี้คุณอาจกำลังสงสัย
15:12
you mayอาจ be wonderingสงสัย why I'm clappingการตบมือ.
253
900000
6000
คุณอาจสงสัยว่าผมปรบมือทำไม
15:18
Well, I did this at a schoolโรงเรียน in Bostonเมืองบอสตัน
254
906000
2000
คือว่า ผมทำแบบนี้ที่โรงเรียนหนึ่งในบอสตัน
15:20
with about 70 seventhที่เจ็ด gradersเกรดเดอร์, 12-year-oldsทุบทุกสถิติเอ๊าะ.
255
908000
4000
กับเด็กชั้นมัธยมหนึ่งประมาณ 70 คน อายุราว 12 ขวบ
15:24
And I did exactlyอย่างแน่นอน what I did with you, and I told them
256
912000
2000
ผมทำเหมือนที่ทำต่อหน้าพวกคุณเปี๊ยบ และก็บอกพวกเด็กๆ
15:26
and explainedอธิบาย them and the wholeทั้งหมด thing.
257
914000
1000
อธิบายให้พวกเขาฟัง เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง
15:27
And at the endปลาย, they wentไป crazyบ้า, clappingการตบมือ. They were clappingการตบมือ.
258
915000
2000
และพอถึงช่วงสุดท้าย พวกเขามีอารมณ์ร่วมมาก พวกเขาปรบมือ
15:30
I was clappingการตบมือ. They were clappingการตบมือ.
259
918000
1000
ผมปรบมือ พวกเด็กๆ ก็ปรบมือ
15:31
Finallyในที่สุด, I said, "Why am I clappingการตบมือ?"
260
919000
2000
สุดท้ายผมก็พูดขึ้นว่า "ผมปรบมือทำไมรู้มั้ย"
15:33
And one of the little kidsเด็ก said, "Because we were listeningการฟัง."
261
921000
1000
มีเด็กคนนึงตอบว่า "เพราะพวกเรากำลังฟังอยู่ไง"
15:34
(Laughterเสียงหัวเราะ)
262
922000
5000
(หัวเราะ)
15:40
Think of it. 1,600 people, busyไม่ว่าง people,
263
928000
2000
คิดดูสิครับ มีอยู่ 1,600 คน ซึ่งมีชีวิตที่ยุ่งวุ่นวาย
15:42
involvedที่เกี่ยวข้อง in all sortsทุกประเภท of differentต่าง things,
264
930000
2000
แต่ละคนก็มีชีวิตในแบบที่แตกต่างกันไปสารพัด
15:45
listeningการฟัง, understandingความเข้าใจ and beingกำลัง movedย้าย by a pieceชิ้น by Chopinโชแปง.
265
933000
6000
ต่างกำลังฟัง เข้าใจ และจิตใจสั่นไหว ไปกับดนตรีของโชแปง
15:51
Now that is something.
266
939000
1000
น่าทึ่งใช่ไหมครับ
15:52
Now, am I sure that everyทุกๆ singleเดียว personคน followedตาม that,
267
940000
3000
ทีนี้ถามว่า ผมมั่นใจหรือเปล่าว่าทุกคนจะเป็นอย่างนั้น
15:55
understoodเข้าใจ it, was movedย้าย by it? Of courseหลักสูตร, I can't be sure.
268
943000
2000
เข้าใจและตื้นตันใจไปกับเสียงดนตรีนั้น แน่นอนว่าผมไม่มั่นใจหรอก
15:58
But I tell you what happenedที่เกิดขึ้น to me.
269
946000
1000
แต่ผมจะบอกคุณว่าเกิดอะไรขึ้นกับผม
15:59
I was in Irelandไอร์แลนด์ duringในระหว่าง the Troublesปัญหา, 10 yearsปี agoมาแล้ว,
270
947000
3000
ผมอยู่ในไอร์แลนด์ช่วงที่บ้านเมืองปั่นป่วนเมื่อ 10 ปีก่อน
16:02
and I was workingการทำงาน with some Catholicคาทอลิก and Protestantโปรเตสแตนต์ kidsเด็ก
271
950000
3000
และกำลังทำงานร่วมกับเด็กๆ ชาวคาทอลิกและโปรเตสแตนท์
16:05
on conflictขัดกัน resolutionความละเอียด. And I did this with them --
272
953000
4000
งานด้านการแก้ปัญหาความขัดแย้ง และผมก็ทำแบบนี้กับพวกเขา
16:10
a riskyเสี่ยง thing to do, because they were streetถนน kidsเด็ก.
273
958000
2000
ถือว่าเสี่ยงเอาการ เพราะเป็นเด็กเร่ร่อนตามท้องถนน
16:12
And one of them cameมา to me the nextต่อไป morningตอนเช้า and he said,
274
960000
3000
มีเด็กคนนึงเข้ามาหาผมตอนเช้าวันรุ่งขึ้น และบอกว่า
16:16
"You know, I've never listenedฟัง to classicalคลาสสิก musicเพลง in my life,
275
964000
3000
"รู้มั้ยครับ ผมไม่เคยฟังเพลงคลาสสิกมาก่อนเลยในชีวิต
16:19
but when you playedเล่น that shoppingช้อปปิ้ง pieceชิ้น ... "
276
967000
1000
แต่ตอนที่คุณเล่นดนตรีช้อปปิ้ง"
16:20
(Laughterเสียงหัวเราะ)
277
968000
3000
(หัวเราะ)
16:23
He said, "My brotherพี่ชาย was shotการถ่ายภาพ last yearปี and I didn't cryร้องไห้ for him.
278
971000
4000
เขาบอกว่า "พี่ชายผมโดนยิงเมื่อปีก่อน และผมก็ไม่เคยร้องไห้ให้กับเขา
16:28
But last night, when you playedเล่น that pieceชิ้น,
279
976000
1000
แต่เมื่อคืนตอนที่คุณเล่นเพลงนั้น
16:29
he was the one I was thinkingคิด about.
280
977000
3000
เขาคือคนที่ผมนึกถึง
16:32
And I feltรู้สึกว่า the tearsน้ำตา streamingสตรีมมิ่ง down my faceใบหน้า.
281
980000
2000
และน้ำตาผมก็ไหลอาบแก้ม
16:34
And you know, it feltรู้สึกว่า really good to cryร้องไห้ for my brotherพี่ชาย."
282
982000
3000
และคุณรู้มั้ยว่า มันรู้สึกดีมากๆ ที่ได้ร้องไห้ให้กับพี่ชายของผม"
16:37
So I madeทำ up my mindใจ at that momentขณะ
283
985000
2000
ผมเลยตั้งปณิธานตั้งแต่เดี๋ยวนั้น
16:39
that classicalคลาสสิก musicเพลง is for everybodyทุกคน. Everybodyทุกคน.
284
987000
7000
ว่าดนตรีคลาสสิกจะต้องมีไว้เพื่อทุกคน ..ทุกๆ คน
16:47
Now, how would you walkเดิน -- because you know,
285
995000
2000
ทีนี้คุณจะใช้ชีวิตยังไง -- เพราะคุณก็รู้
16:49
my professionอาชีพ, the musicเพลง professionอาชีพ doesn't see it that way.
286
997000
4000
อาชีพของผม อาชีพทางด้านดนตรีไม่ได้มองแบบนี้
16:53
They say threeสาม percentเปอร์เซ็นต์ of the populationประชากร likesชอบ classicalคลาสสิก musicเพลง.
287
1001000
3000
พวกเขาบอกว่า มีประชากรราว 3% ที่ชื่นชอบดนตรีคลาสสิก
16:56
If only we could moveย้าย it to fourสี่ percentเปอร์เซ็นต์, our problemsปัญหาที่เกิดขึ้น would be over.
288
1004000
4000
ถ้าเราเพิ่มจำนวนเป็น 4% ได้ ปัญหาของเราก็จบ
17:01
I say, "How would you walkเดิน? How would you talk? How would you be?
289
1009000
3000
ผมบอกว่า "คุณจะทำตัวยังไง จะพูดจาแบบไหน จะเป็นคนแบบไหน
17:04
If you thought, threeสาม percentเปอร์เซ็นต์ of the populationประชากร likesชอบ classicalคลาสสิก musicเพลง,
290
1012000
3000
ถ้าคุณคิดว่ามีประชากร 3% ที่ชอบดนตรีคลาสสิก
17:08
if only we could moveย้าย it to fourสี่ percentเปอร์เซ็นต์. How would you walkเดิน?
291
1016000
2000
และถ้าเราจะเพิ่มเป็น 4% คุณจะทำตัวยังไง
17:10
How would you talk? How would you be?
292
1018000
2000
จะพูดจาแบบไหน จะเป็นคนแบบไหน
17:12
If you thought, everybodyทุกคน lovesรัก classicalคลาสสิก musicเพลง --
293
1020000
2000
ถ้าคุณคิดว่าคนทุกคนหลงรักดนตรีคลาสสิก --
17:14
they just haven'tยังไม่ได้ foundพบ out about it yetยัง."
294
1022000
2000
เพียงแต่พวกเขายังไม่รู้จักมัน"
17:16
(Laughterเสียงหัวเราะ)
295
1024000
1000
(หัวเราะ)
17:17
See, these are totallyโดยสิ้นเชิง differentต่าง worldsโลก.
296
1025000
2000
เห็นมั้ยครับว่า มันเป็นคนละโลกกันเลย
17:20
Now, I had an amazingน่าอัศจรรย์ experienceประสบการณ์. I was 45 yearsปี oldเก่า,
297
1028000
3000
ผมมีประสบการณ์น่าทึ่งอยู่เรื่องนึง ตอนอายุ 45 ปี
17:23
I'd been conductingการดำเนิน for 20 yearsปี, and I suddenlyทันใดนั้น had a realizationการสำนึก.
298
1031000
5000
เวลานั้นผมทำหน้าที่นำวงมา 20 ปีแล้ว และจู่ๆ ผมก็ตระหนักถึงบางสิ่ง
17:29
The conductorตัวนำ of an orchestraวงออเคสตรา doesn't make a soundเสียง.
299
1037000
3000
ว่าผู้นำวงไม่ได้เป็นคนที่ทำให้เสียงดนตรีเกิดขึ้น
17:32
My pictureภาพ appearsปรากฏ on the frontด้านหน้า of the CDซีดี --
300
1040000
2000
มีรูปของผมอยู่ตรงหน้าปกซีดี
17:34
(Laughterเสียงหัวเราะ)
301
1042000
3000
(หัวเราะ)
17:37
-- but the conductorตัวนำ doesn't make a soundเสียง.
302
1045000
2000
-- แต่ผู้นำวงไม่ได้เป็นคนทำให้เกิดเสียงขึ้นมา
17:40
He dependsขึ้นอยู่กับ, for his powerอำนาจ, on his abilityความสามารถ to make other people powerfulมีอำนาจ.
303
1048000
4000
พลังของเขามาจากการที่เขาสามารถทำให้คนอื่นๆ มีพลัง
17:44
And that changedการเปลี่ยนแปลง everything for me. It was totallyโดยสิ้นเชิง life changingเปลี่ยนแปลง.
304
1052000
4000
และนั่นคือประสบการณ์ที่เปลี่ยนชีวิตผม มันเปลี่ยนชีวิตผมไปอย่างสิ้นเชิง
17:49
People in my orchestraวงออเคสตรา cameมา up to me and said,
305
1057000
1000
คนในวงออเคสตราเข้ามาถามว่า
17:50
"Benเบน, what happenedที่เกิดขึ้น?" That's what happenedที่เกิดขึ้น.
306
1058000
2000
"เบน เกิดอะไรขึ้น" นั่นละคือสิ่งที่เกิดขึ้น
17:52
I realizedตระหนัก my jobงาน was to awakenปลุก possibilityความเป็นไปได้ in other people.
307
1060000
5000
ผมตระหนักว่า หน้าที่ของผมคือการปลุกความเป็นไปได้ในตัวคนอื่นๆ
17:57
And of courseหลักสูตร, I wanted to know whetherว่า I was doing that.
308
1065000
3000
แน่นอนครับ ผมอยากรู้ว่าตัวเองกำลังทำหน้าที่นั้นอยู่หรือเปล่า
18:00
And you know how you find out? You look at theirของพวกเขา eyesตา.
309
1068000
3000
คุณจะมีวิธีรู้ได้ยังไงรู้มั้ย คุณก็มองตาพวกเขา
18:03
If theirของพวกเขา eyesตา are shiningส่องแสง, you know you're doing it.
310
1071000
4000
ถ้าดวงตาของพวกเขาเป็นประกาย คุณก็รู้ได้ว่าตัวเองกำลังทำอยู่
18:08
You could lightเบา up a villageหมู่บ้าน with this guy'sคนที่แต่งตัวประหลาด eyesตา.
311
1076000
1000
คุณปลุกชีวิตคนทั้งกลุ่มได้ด้วยดวงตาของผู้ชายคนนี้
18:09
(Laughterเสียงหัวเราะ)
312
1077000
2000
(หัวเราะ)
18:11
Right. So if the eyesตา are shiningส่องแสง, you know you're doing it.
313
1079000
2000
เพราะฉะนั้น ถ้าดวงตาเป็นประกาย แสดงว่าคุณกำลังทำหน้าที่นั้นอยู่
18:13
If the eyesตา are not shiningส่องแสง, you get to askถาม a questionคำถาม.
314
1081000
3000
ถ้าดวงตาไม่เป็นประกาย คุณต้องถามคำถามนึง
18:16
And this is the questionคำถาม:
315
1084000
1000
คำถามนั้นคือ
18:17
who am I beingกำลัง, that my players'ผู้เล่น eyesตา are not shiningส่องแสง?
316
1085000
6000
ฉันกำลังเป็นคนแบบไหน ถึงทำให้ดวงตาพวกเขาไม่เป็นประกาย?
18:24
We can do that with our childrenเด็ก ๆ, too.
317
1092000
1000
คุณทำแบบนี้กับลูกๆ ของคุณก็ได้
18:25
Who am I beingกำลัง, that my children'sเด็ก eyesตา are not shiningส่องแสง?
318
1093000
5000
ฉันกำลังเป็นคนแบบไหน ถึงทำให้ดวงตาพวกเขาไม่เป็นประกาย?
18:31
That's a totallyโดยสิ้นเชิง differentต่าง worldโลก.
319
1099000
2000
นั่นจะเป็นโลกที่ต่างไปอย่างสิ้่นเชิง
18:33
Now, we're all about to endปลาย this magicalขลัง, on-the-mountainบนภูเขา weekสัปดาห์,
320
1101000
5000
ตอนนี้เรากำลังจะจบสัปดาห์อันแสนวิเศษ หนึ่งสัปดาห์บนภูเขา
18:39
and we're going back into the worldโลก.
321
1107000
1000
และกำลังจะหวนคืนสู่โลกปกติ
18:40
And I say, it's appropriateเหมาะสม for us to askถาม the questionคำถาม,
322
1108000
4000
ผมอยากบอกว่า เราสมควรถามคำถามนี้ นั่นคือ
18:44
who are we beingกำลัง as we go back out into the worldโลก?
323
1112000
5000
"เรากำลังเป็นคนแบบไหนในเวลาที่กลับไปใช้ชีวิตในโลก?"
18:49
And you know, I have a definitionคำนิยาม of successความสำเร็จ.
324
1117000
2000
คุณรู้มั้ยว่า ผมมีนิยามของความสำเร็จอยู่อันนึง
18:52
For me, it's very simpleง่าย. It's not about wealthความมั่งคั่ง and fameชื่อเสียง and powerอำนาจ.
325
1120000
2000
สำหรับผมมันเรียบง่ายมาก มันไม่ใช่ความร่ำรวย ชื่อเสียง อำนาจ
18:54
It's about how manyจำนวนมาก shiningส่องแสง eyesตา I have around me.
326
1122000
3000
แต่นิยามนั้นคือ มีดวงตาที่เป็นประกายมากแค่ไหนรอบตัวผม
18:58
So now, I have one last thought, whichที่ is
327
1126000
3000
ทีนี้ผมอยากฝากความคิดสุดท้าย ซึ่งก็คือ
19:01
that it really makesยี่ห้อ a differenceข้อแตกต่าง what we say --
328
1129000
3000
สิ่งที่เราพูดนั้นสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นได้จริงๆ
19:04
the wordsคำ that come out of our mouthปาก.
329
1132000
2000
ถ้อยคำที่ออกมาจากปากของเรา
19:06
I learnedได้เรียนรู้ this from a womanหญิง who survivedรอดชีวิตมาได้ AuschwitzAuschwitz,
330
1134000
4000
ผมเรียนรู้เรื่องนี้จากหญิงที่รอดชีวิตจากค่ายนาซีเอาชวิตซ์
19:10
one of the rareหายาก survivorsผู้รอดชีวิต.
331
1138000
1000
เป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิตไม่กี่ราย
19:11
She wentไป to AuschwitzAuschwitz when she was 15 yearsปี oldเก่า,
332
1139000
4000
ตอนที่ถูกส่งตัวไปที่นั่น เธออายุ 15 ปี
19:16
and her brotherพี่ชาย was eightแปด, and the parentsพ่อแม่ were lostสูญหาย.
333
1144000
7000
เธอมีน้องชายอายุ 8 ขวบ ทั้งคู่พลัดหลงจากพ่อแม่
19:23
And she told me this, she said,
334
1151000
5000
เธอเล่าให้ผมฟังว่า
19:28
"We were in the trainรถไฟ going to AuschwitzAuschwitz, and I lookedมอง down
335
1156000
3000
"เราอยู่ในขบวนรถไฟที่กำลังไปค่ายเอาชวิทซ์ สายตาฉันมองลงต่ำ
19:31
and saw my brother'sพี่ชายของ shoesรองเท้า were missingหายไป.
336
1159000
2000
เห็นว่ารองเท้าของน้องชายหายไป
19:34
And I said, 'Why'ทำไม are you so stupidโง่, can't you keep your things togetherด้วยกัน
337
1162000
3000
ฉันเลยพูดว่า "ทำไมแกถึงซื่อบื้ออย่างนี้ ดูแลข้าวของแค่นี้ทำไม่ได้หรือไง
19:37
for goodness'ความดี sakeเหล้าสาเก?' " The way an elderผู้สูงอายุ sisterน้องสาว
338
1165000
1000
..ให้ตายเถอะว่ะ"
19:38
mightอาจ speakพูด to a youngerที่อายุน้อยกว่า brotherพี่ชาย.
339
1166000
4000
-- พูดแบบที่พี่สาวจะพูดกับน้องชาย
19:42
Unfortunatelyน่าเสียดาย, it was the last thing she ever said to him,
340
1170000
3000
โชคไม่ดีที่นั่นคือคำพูดสุดท้ายที่เธอได้พูดกับน้อง
19:45
because she never saw him again. He did not surviveอยู่รอด.
341
1173000
4000
เพราะเธอไม่มีโอกาสได้พบน้องชายอีก เขาไม่รอดชีวิต
19:49
And so when she cameมา out of AuschwitzAuschwitz, she madeทำ a vowสาบาน.
342
1177000
2000
หลังจากรอดจากค่ายเอาชวิทซ์ได้ เธอให้ปฏิญาณกับตัวเอง
19:52
She told me this. She said, "I walkedเดิน out of AuschwitzAuschwitz into life
343
1180000
4000
เธอเล่าเรื่องนี้ให้ผมฟัง เธอบอกว่า "ฉันออกมาจากค่ายเอาชวิทซ์ กลับคืนสู่ชีวิต
19:56
and I madeทำ a vowสาบาน. And the vowสาบาน was, I will never say anything
344
1184000
5000
และฉันให้ปฏิญาณกับตัวเอง คำปฏิญาณนั้นคือ ฉันจะไม่พูดอะไร..
20:02
that couldn'tไม่สามารถ standยืน as the last thing I ever say."
345
1190000
3000
..ที่ไม่อาจคงอยู่ในฐานะคำพูดสุดท้ายที่ฉันจะพูดออกไป"
20:05
Now, can we do that? No. And we'llดี make ourselvesตัวเรา wrongไม่ถูกต้อง
346
1193000
4000
ที่นี้พวกเราทำอย่างนั้นได้มั้ย ไม่ได้หรอก ไม่งั้นเราจะทำให้ตัวเองต้องเป็นคนผิด
20:10
and othersคนอื่น ๆ wrongไม่ถูกต้อง. But it is a possibilityความเป็นไปได้ to liveมีชีวิต into. Thank you.
347
1198000
7000
และทำให้คนอื่นเป็นฝ่ายผิด แต่มันเป็นความเป็นไปได้ที่เราจะใช้ชีวิตแบบนั้น ขอบคุณครับ
20:17
(Applauseการปรบมือ)
348
1205000
5000
(ปรบมือ)
20:23
Shiningส่องแสง eyesตา, shiningส่องแสง eyesตา.
349
1211000
11000
ตาเป็นประกาย ตาเป็นประกาย
20:34
Thank you, thank you.
350
1222000
3000
ขอบคุณครับ ขอบคุณ
20:38
(Musicเพลง)
351
1226000
5000
(ดนตรี)

▲Back to top

ABOUT THE SPEAKER
Benjamin Zander - Conductor
A leading interpreter of Mahler and Beethoven, Benjamin Zander is known for his charisma and unyielding energy -- and for his brilliant pre-concert talks.

Why you should listen

Since 1979, Benjamin Zander has been the conductor of the Boston Philharmonic. He is known around the world as both a guest conductor and a speaker on leadership -- and he's been known to do both in a single performance. He uses music to help people open their minds and create joyful harmonies that bring out the best in themselves and their colleagues.

His provocative ideas about leadership are rooted in a partnership with Rosamund Stone Zander, with whom he co-wrote The Art of Possibility.

More profile about the speaker
Benjamin Zander | Speaker | TED.com