ABOUT THE SPEAKER
Dan Ariely - Behavioral economist
The dismal science of economics is not as firmly grounded in actual behavior as was once supposed. In "Predictably Irrational," Dan Ariely told us why.

Why you should listen

Dan Ariely is a professor of psychology and behavioral economics at Duke University and a founding member of the Center for Advanced Hindsight. He is the author of the bestsellers Predictably IrrationalThe Upside of Irrationality, and The Honest Truth About Dishonesty -- as well as the TED Book Payoff: The Hidden Logic that Shapes Our Motivations.

Through his research and his (often amusing and unorthodox) experiments, he questions the forces that influence human behavior and the irrational ways in which we often all behave.

More profile about the speaker
Dan Ariely | Speaker | TED.com
TED2009

Dan Ariely: Our buggy moral code

แดน อรายลี่ กับ ศีลธรรมที่บกพร่อง

Filmed:
3,509,395 views

นักเศรษฐศาสตร์พฤติกรรม แดน อรายลี่ ศึกษาความบกพร่องในการปฏิบัติตามหลักศีลธรรมของเรา: เขาศึกษาเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการที่เราคิดว่าการโกงหรือขโมยของเล็กๆ น้อยๆ เป็นเรื่องที่ไม่เป็นไร งานศึกษาที่ยอดเยี่ยมเหล่านี้ชี้ว่าคนเราไร้เหตุผลอย่างมีแบบแผนที่คาดเดาได้ -- และเราก็ถูกครอบงำด้วยความไร้เหตุผลเหล่านี้อย่างที่เรานึกไม่ถึง
- Behavioral economist
The dismal science of economics is not as firmly grounded in actual behavior as was once supposed. In "Predictably Irrational," Dan Ariely told us why. Full bio

Double-click the English transcript below to play the video.

00:16
I want to talk to you todayในวันนี้ a little bitบิต
0
1000
2000
วันนี้ ผมอยากจะพูดถึง
00:18
about predictableทายได้ irrationalityความไม่ลงตัว.
1
3000
3000
ความไร้เหตุผลที่คาดการณ์ได้
00:21
And my interestดอกเบี้ย in irrationalไม่มีเหตุผล behaviorพฤติกรรม
2
6000
4000
ความสนใจที่ผมมีต่อความไร้เหตุผลเหล่านี้
00:25
startedเริ่มต้น manyจำนวนมาก yearsปี agoมาแล้ว in the hospitalโรงพยาบาล.
3
10000
3000
เริ่มต้นเมื่อหลายปีก่อนในโรงพยาบาล
00:28
I was burnedเผาไหม้ very badlyไม่ดี.
4
13000
4000
ผมถูกไฟครอกอย่างรุนแรง
00:32
And if you spendใช้จ่าย a lot of time in hospitalโรงพยาบาล,
5
17000
3000
และถ้าคุณต้องอยู่โรงพยาบาลนานๆ
00:35
you'llคุณจะ see a lot of typesประเภท of irrationalitiesไร้เหตุผล.
6
20000
3000
คุณจะเห็นความไร้เหตุผลมากมายหลายอย่าง
00:38
And the one that particularlyโดยเฉพาะ botheredใส่ใจ me in the burnเผา departmentแผนก
7
23000
5000
และสิ่งหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นในแผนกแผลไฟไหม้
00:43
was the processกระบวนการ by whichที่ the nursesพยาบาล tookเอา the bandageผ้าพันแผล off me.
8
28000
4000
ก็คือวิธีที่พยาบาลดึงผ้าพันแผลออกจากตัวผม
00:48
Now, you mustต้อง have all takenยึด a Band-Aidผ้าพันแผล off at some pointจุด,
9
33000
2000
ถ้าวันนึงคุณต้องให้ใครดึงผ้าพันแผลออกจากตัวคุณ
00:50
and you mustต้อง have wonderedสงสัย what's the right approachเข้าใกล้.
10
35000
3000
คุณคงสงสัยว่า วิธีไหนคือวิธีที่ถูกต้อง
00:53
Do you ripฉีก it off quicklyอย่างรวดเร็ว -- shortสั้น durationระยะเวลา but highสูง intensityความรุนแรง --
11
38000
4000
ดึงออกเร็วๆ -- ช่วงเวลาสั้นๆ แต่ความเจ็บปวดรุนแรง --
00:57
or do you take your Band-Aidผ้าพันแผล off slowlyช้า --
12
42000
2000
หรือดึงผ้าพันแผลออกช้าๆ
00:59
you take a long time, but eachแต่ละ secondที่สอง is not as painfulเจ็บปวด --
13
44000
4000
คุณจะเจ็บนาน แต่ไม่รุนแรง
01:03
whichที่ one of those is the right approachเข้าใกล้?
14
48000
3000
แล้ววิธีไหนคือวิธีที่ถูกต้องล่ะ?
01:06
The nursesพยาบาล in my departmentแผนก thought that the right approachเข้าใกล้
15
51000
4000
พยาบาลในแผนกคิดว่าวิธีที่ถูกต้อง
01:10
was the rippingริป one, so they would grabคว้า holdถือ and they would ripฉีก,
16
55000
3000
คือแบบแรก ดังนั้น เขาจึงใช้วิธีจับแน่นๆ แล้วดึง
01:13
and they would grabคว้า holdถือ and they would ripฉีก.
17
58000
2000
แล้วเขาก็จับแน่นๆ แล้วก็ดึงอีก
01:15
And because I had 70 percentเปอร์เซ็นต์ of my bodyร่างกาย burnedเผาไหม้, it would take about an hourชั่วโมง.
18
60000
4000
และเพราะว่ากว่าร้อยละ 70 ของร่างกายผมถูกไฟครอก มันจึงใช้เวลากว่าชั่วโมง
01:19
And as you can imagineจินตนาการ,
19
64000
3000
คุณคงนึกภาพออก
01:22
I hatedเกลียด that momentขณะ of rippingริป with incredibleเหลือเชื่อ intensityความรุนแรง.
20
67000
4000
ผมเกลียดช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัสแบบนี้
01:26
And I would try to reasonเหตุผล with them and say,
21
71000
2000
ผมจึงพยายามใช้เหตุผลบอกพยาบาลว่า
01:28
"Why don't we try something elseอื่น?
22
73000
1000
"ทำไมเราไม่ลองวิธีอื่นบ้างครับ?
01:29
Why don't we take it a little longerอีกต่อไป --
23
74000
2000
ทำไมไม่ลองดึงช้าๆ --
01:31
maybe two hoursชั่วโมง insteadแทน of an hourชั่วโมง -- and have lessน้อยกว่า of this intensityความรุนแรง?"
24
76000
5000
อาจจะใช้เวลาสองชั่วโมงแทนที่จะเป็นชั่วโมงเดียว -- ความเจ็บจะได้ลดลง?
01:36
And the nursesพยาบาล told me two things.
25
81000
2000
คุณพยาบาลบอกผมสองอย่าง
01:38
They told me that they had the right modelแบบ of the patientผู้ป่วย --
26
83000
4000
พวกเขาบอกผมว่า พวกเขารู้วิธีการปฏิบัติต่อคนไข้ที่ถูกต้อง --
01:42
that they knewรู้ว่า what was the right thing to do to minimizeลด my painความเจ็บปวด --
27
87000
3000
ว่านี่คือวิธีที่จะทำให้เจ็บน้อยที่สุด --
01:45
and they alsoด้วย told me that the wordคำ patientผู้ป่วย doesn't mean
28
90000
3000
และยังบอกอีกว่า คำว่า patient (คนไข้ / ความอดทน) ไม่ได้แปลว่า
01:48
to make suggestionsข้อเสนอแนะ or to interfereยุ่ง or ...
29
93000
2000
ให้คำแนะนำหรือก้าวก่าย...
01:50
This is not just in Hebrewชาวอิสราเอล, by the way.
30
95000
3000
อ้อ นี่ไม่ใช่ในภาษาฮีบรูเท่านั้นนะ
01:53
It's in everyทุกๆ languageภาษา I've had experienceประสบการณ์ with so farห่างไกล.
31
98000
3000
มันมีความหมายอย่างนี้ในทุกๆ ภาษา
01:56
And, you know, there's not much -- there wasn'tก็ไม่ได้ much I could do,
32
101000
4000
ดังนั้น คุณคงรู้ว่า ผมทำอะไรมากไม่ได้
02:00
and they keptเก็บไว้ on doing what they were doing.
33
105000
3000
และพวกพยาบาลก็ทำแบบเดิมที่เคยทำต่อไป
02:03
And about threeสาม yearsปี laterต่อมา, when I left the hospitalโรงพยาบาล,
34
108000
2000
สามปีต่อมา เมื่อผมออกจากโรงพยาบาล
02:05
I startedเริ่มต้น studyingการศึกษา at the universityมหาวิทยาลัย.
35
110000
3000
ผมเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย
02:08
And one of the mostมากที่สุด interestingน่าสนใจ lessonsบทเรียน I learnedได้เรียนรู้
36
113000
3000
และหนึ่งในบทเรียนที่น่าสนใจที่สุดเท่าที่ผมเคยเรียนมา
02:11
was that there is an experimentalการทดลอง methodวิธี
37
116000
2000
ก็คือวิธีวิจัยแบบทดลอง
02:13
that if you have a questionคำถาม you can createสร้าง a replicaแบบจำลอง of this questionคำถาม
38
118000
4000
ซึ่งถ้าคุณมีคำถาม คุณสามารถสร้างแบบจำลองของคำถามเหล่านี้
02:17
in some abstractนามธรรม way, and you can try to examineตรวจสอบ this questionคำถาม,
39
122000
4000
ในรูปแบบที่เป็นนามธรรมบางอย่าง จากนั้นก็ศึกษาหาคำตอบต่อคำถามนั้น
02:21
maybe learnเรียน something about the worldโลก.
40
126000
2000
และเราก็จะได้เรียนรู้บางอย่างเกี่ยวกับโลก
02:23
So that's what I did.
41
128000
2000
นั่นล่ะครับคือสิ่งที่ผมทำ
02:25
I was still interestedสนใจ
42
130000
1000
ผมยังคงสนใจ
02:26
in this questionคำถาม of how do you take bandagesผ้าพันแผล off burnเผา patientsผู้ป่วย.
43
131000
2000
ในคำถามเกี่ยวกับการดึงผ้าพันแผลออกจากตัวคนไข้
02:28
So originallyแต่เดิม I didn't have much moneyเงิน,
44
133000
3000
ในช่วงเริ่มต้น ผมไม่ได้มีเงินมากนัก
02:31
so I wentไป to a hardwareฮาร์ดแวร์ storeเก็บ and I boughtซื้อ a carpenter'sช่างไม้ viceรอง.
45
136000
4000
ผมเลยไปที่ร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้าง และซื้อคีมของช่างไม้มา
02:35
And I would bringนำมาซึ่ง people to the labห้องปฏิบัติการ and I would put theirของพวกเขา fingerนิ้ว in it,
46
140000
4000
จากนั้น ผมก็พาคนมาที่แล็บ และเอาคีมหนีบนิ้วของพวกเขา
02:39
and I would crunchกระทืบ it a little bitบิต.
47
144000
2000
ขบนิ้วพวกเขาจนเจ็บ
02:41
(Laughterเสียงหัวเราะ)
48
146000
2000
(เสียงหัวเราะ)
02:43
And I would crunchกระทืบ it for long periodsงวด and shortสั้น periodsงวด,
49
148000
3000
ผมบีบนิ้วผู้ร่วมการทดลองนานบ้าง สั้นบ้าง
02:46
and painความเจ็บปวด that wentไป up and painความเจ็บปวด that wentไป down,
50
151000
2000
ลองบีบให้เจ็บน้อยแล้วค่อยเพิ่มขึ้น แบบที่เจ็บมากก่อนแล้วน้อยลง
02:48
and with breaksแบ่ง and withoutไม่มี breaksแบ่ง -- all kindsชนิด of versionsรุ่น of painความเจ็บปวด.
51
153000
4000
ทั้งมีหยุดพักและไม่หยุด -- มีทุกรูปแบบของความเจ็บ
02:52
And when I finishedเสร็จ hurtingการทำให้เจ็บ people a little bitบิต, I would askถาม them,
52
157000
2000
พอทำให้เขาเจ็บตัวกันแล้ว ผมก็จะถามพวกเขาว่า
02:54
so, how painfulเจ็บปวด was this? Or, how painfulเจ็บปวด was this?
53
159000
2000
เจ็บไหม เจ็บยังไง
02:56
Or, if you had to chooseเลือก betweenระหว่าง the last two,
54
161000
2000
หรือถ้าให้เลือกระหว่างความเจ็บสองอย่างหลังสุด
02:58
whichที่ one would you chooseเลือก?
55
163000
2000
คุณจะเลือกแบบไหน?
03:00
(Laughterเสียงหัวเราะ)
56
165000
3000
(เสียงหัวเราะ)
03:03
I keptเก็บไว้ on doing this for a while.
57
168000
3000
ผมทำแบบนี้อยู่พักหนึ่ง
03:06
(Laughterเสียงหัวเราะ)
58
171000
2000
(เสียงหัวเราะ)
03:08
And then, like all good academicวิชาการ projectsโครงการ, I got more fundingการระดมทุน.
59
173000
4000
แล้วจากนั้น, ก็เหมือนกับโครงการวิชาการดีๆ ทั่วไป, ผมได้เงินสนับสนุนมากขึ้น
03:12
I movedย้าย to soundsเสียง, electricalไฟฟ้า shocksแรงกระแทก --
60
177000
2000
ผมเลยเปลี่ยนไปใช้เสียง เครื่องช็อคไฟฟ้า --
03:14
I even had a painความเจ็บปวด suitสูท that I could get people to feel much more painความเจ็บปวด.
61
179000
5000
ผมทำชุดสร้างความเจ็บปวดที่สามารถสร้างความเจ็บปวดให้คนที่สวมใส่ได้มากขึ้นไปอีก
03:19
But at the endปลาย of this processกระบวนการ,
62
184000
4000
หลังจากทำการทดลองพวกนี้เสร็จ
03:23
what I learnedได้เรียนรู้ was that the nursesพยาบาล were wrongไม่ถูกต้อง.
63
188000
3000
สิ่งที่ผมเรียนรู้คือ พวกพยาบาลคิดผิด
03:26
Here were wonderfulยอดเยี่ยม people with good intentionsความตั้งใจ
64
191000
3000
นี่คือคนที่น่ายกย่องด้วยความตั้งใจที่ดี
03:29
and plentyความอุดมสมบูรณ์ of experienceประสบการณ์, and neverthelessแต่
65
194000
2000
และมีประสบการณ์หลากหลาย แต่กระนั้น
03:31
they were gettingได้รับ things wrongไม่ถูกต้อง predictablyที่คาดการณ์ all the time.
66
196000
4000
พวกเขาเข้าใจผิดอยู่ตลอดเวลา
03:35
It turnsผลัดกัน out that because we don't encodeเปลี่ยนเป็นรหัส durationระยะเวลา
67
200000
3000
เพราะเราไม่ได้รับรู้ระยะเวลา
03:38
in the way that we encodeเปลี่ยนเป็นรหัส intensityความรุนแรง,
68
203000
2000
แบบเดียวกับที่เรารับรู้ความรุนแรงของความเจ็บปวด
03:40
I would have had lessน้อยกว่า painความเจ็บปวด if the durationระยะเวลา would have been longerอีกต่อไป
69
205000
4000
ผมจะเจ็บน้อยลง ถ้าช่วงเวลามันนานขึ้น
03:44
and the intensityความรุนแรง was lowerลดลง.
70
209000
2000
และความเจ็บมันรุนแรงน้อยกว่า
03:46
It turnsผลัดกัน out it would have been better to startเริ่มต้น with my faceใบหน้า,
71
211000
3000
เขาควรจะเริ่มดึงผ้าพันแผลที่หน้าของผมก่อน
03:49
whichที่ was much more painfulเจ็บปวด, and moveย้าย towardไปทาง my legsขา,
72
214000
2000
ซึ่งเป็นที่ที่เจ็บมากที่สุด แล้วค่อยไปแกะที่ขา
03:51
givingให้ me a trendแนวโน้ม of improvementการปรับปรุง over time --
73
216000
3000
ทำให้ผมรู้สึกว่ามันมีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ
03:54
that would have been alsoด้วย lessน้อยกว่า painfulเจ็บปวด.
74
219000
1000
ซึ่งมันจะทำให้ผมรู้สึกเจ็บน้อยลงด้วย
03:55
And it alsoด้วย turnsผลัดกัน out that it would have been good
75
220000
2000
และมันก็จะดีกว่าด้วย
03:57
to give me breaksแบ่ง in the middleกลาง to kindชนิด of recuperateฟื้น from the painความเจ็บปวด.
76
222000
2000
ถ้ามีช่วงพักในช่วงกลางๆ ให้หายเจ็บสักหน่อย
03:59
All of these would have been great things to do,
77
224000
2000
ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ควรทำ
04:01
and my nursesพยาบาล had no ideaความคิด.
78
226000
3000
แต่พยาบาลไม่เคยคิดจะทำ
04:04
And from that pointจุด on I startedเริ่มต้น thinkingคิด,
79
229000
1000
จากจุดนี้ ผมเริ่มคิดว่า
04:05
are the nursesพยาบาล the only people in the worldโลก who get things wrongไม่ถูกต้อง
80
230000
3000
พยาบาลเป็นคนกลุ่มเดียวในโลกหรือเปล่า
04:08
in this particularโดยเฉพาะ decisionการตัดสิน, or is it a more generalทั่วไป caseกรณี?
81
233000
3000
ที่ตัดสินใจอะไรผิดพลาด หรือมันเกิดกับคนทั่วไป?
04:11
And it turnsผลัดกัน out it's a more generalทั่วไป caseกรณี --
82
236000
2000
ที่จริงแล้ว มันเกิดขึ้นกับคนทั่วไปครับ
04:13
there's a lot of mistakesข้อผิดพลาด we do.
83
238000
3000
คนเราตัดสินใจผิดพลาดมากมาย
04:16
And I want to give you one exampleตัวอย่าง of one of these irrationalitiesไร้เหตุผล,
84
241000
5000
ผมอยากจะยกตัวอย่างหนึ่งของความไร้เหตุผลพวกนี้
04:21
and I want to talk to you about cheatingการโกง.
85
246000
3000
นั่นก็คือ การทุจริต
04:24
And the reasonเหตุผล I pickedหยิบ cheatingการโกง is because it's interestingน่าสนใจ,
86
249000
2000
เหตุผลที่ผมยกเอาเรื่องการทุจริตมาพูดก็เพราะมันน่าสนใจ
04:26
but alsoด้วย it tellsบอก us something, I think,
87
251000
2000
แต่ผมว่ามันบอกอะไรเราบางอย่าง
04:28
about the stockหุ้น marketตลาด situationสถานการณ์ we're in.
88
253000
3000
เกี่ยวกับสถานการณ์ตลาดหลักทรัพย์ในปัจจุบัน
04:31
So, my interestดอกเบี้ย in cheatingการโกง startedเริ่มต้น
89
256000
3000
ความสนใจเรื่องการทุจริตของผมเริ่มมาจาก
04:34
when EnronEnron cameมา on the sceneฉาก, explodedระเบิด all of a suddenฉับพลัน,
90
259000
2000
กรณีของเอนรอนที่เป็นข่าวอื้อฉาวอย่างรวดเร็ว
04:36
and I startedเริ่มต้น thinkingคิด about what is happeningสิ่งที่เกิดขึ้น here.
91
261000
3000
ผมเริ่มคิดว่า มันเกิดอะไรขึ้น
04:39
Is it the caseกรณี that there was kindชนิด of
92
264000
1000
นี่มันเป็นเพียงแค่
04:40
a fewน้อย applesแอปเปิ้ล who are capableสามารถ of doing these things,
93
265000
3000
ปลาเน่าตัวเดียว ที่ทำอะไรแย่ๆ แบบนี้
04:43
or are we talkingการพูด a more endemicเฉพาะถิ่น situationสถานการณ์,
94
268000
2000
หรือจริงๆ มันเป็นโรคระบาด
04:45
that manyจำนวนมาก people are actuallyแท้จริง capableสามารถ of behavingพฤติกรรม this way?
95
270000
4000
คนมากมายก็ทำแบบเดียวกันนี้
04:49
So, like we usuallyมักจะ do, I decidedตัดสินใจ to do a simpleง่าย experimentการทดลอง.
96
274000
4000
ผมก็เลยออกแบบการทดลองง่ายๆ
04:53
And here'sนี่คือ how it wentไป.
97
278000
1000
ผมทำอย่างนี้ครับ
04:54
If you were in the experimentการทดลอง, I would passผ่านไป you a sheetแผ่น of paperกระดาษ
98
279000
3000
ถ้าคุณเข้าร่วมการทดลอง ผมจะให้กระดาษคุณหนึ่งแผ่น
04:57
with 20 simpleง่าย mathคณิตศาสตร์ problemsปัญหาที่เกิดขึ้น that everybodyทุกคน could solveแก้,
99
282000
4000
กับโจทย์เลขง่ายๆ 20 ข้อที่คุณแก้ได้แน่นอน
05:01
but I wouldn'tจะไม่ give you enoughพอ time.
100
286000
2000
แต่ผมจะให้เวลาคุณสั้นๆ แบบทำไม่ทัน
05:03
When the fiveห้า minutesนาที were over, I would say,
101
288000
2000
เมื่อห้านาทีหมดลง ผมจะบอกว่า
05:05
"Passผ่าน me the sheetsแผ่น of paperกระดาษ, and I'll payจ่ายเงิน you a dollarดอลลาร์ perต่อ questionคำถาม."
102
290000
3000
"คืนกระดาษให้ผม แล้วผมจะจ่ายคุณข้อละหนึ่งดอลลาร์"
05:08
People did this. I would payจ่ายเงิน people fourสี่ dollarsดอลลาร์ for theirของพวกเขา taskงาน --
103
293000
4000
ทุกคนทำตามนี้ แล้วผมก็จ่ายให้พวกเขาประมาณสี่ดอลลาร์เป็นการตอบแทน
05:12
on averageเฉลี่ย people would solveแก้ fourสี่ problemsปัญหาที่เกิดขึ้น.
104
297000
2000
เฉลี่ยก็คือพวกเขาทำได้สี่ข้อ
05:14
Other people I would temptล่อ to cheatโกง.
105
299000
3000
กับคนอีกกลุ่มหนึ่ง ผมเปิดโอกาสให้เขาโกง
05:17
I would passผ่านไป theirของพวกเขา sheetแผ่น of paperกระดาษ.
106
302000
1000
ผมส่งกระดาษให้ผู้ร่วมการทดลองคนละแผ่น
05:18
When the fiveห้า minutesนาที were over, I would say,
107
303000
2000
เมื่อครบห้านาที ผมจะบอกว่า
05:20
"Please shredฉีก the pieceชิ้น of paperกระดาษ.
108
305000
1000
"ฉีกกระดาษแผ่นนั้น
05:21
Put the little piecesชิ้น in your pocketกระเป๋าเสื้อ or in your backpackกระเป๋าเป้สะพายหลัง,
109
306000
3000
แล้วเก็บมันใส่ในกระเป๋าหรือเป้ของคุณ
05:24
and tell me how manyจำนวนมาก questionsคำถาม you got correctlyได้อย่างถูกต้อง."
110
309000
3000
จากนั้นมาบอกผมว่าคุณทำถูกกี่ข้อ"
05:27
People now solvedแก้ไข sevenเจ็ด questionsคำถาม on averageเฉลี่ย.
111
312000
3000
คราวนี้พวกเขาทำถูกเฉลี่ยเจ็ดข้อแฮะ
05:30
Now, it wasn'tก็ไม่ได้ as if there was a fewน้อย badไม่ดี applesแอปเปิ้ล --
112
315000
5000
นี่แสดงว่ามันไม่ใช่แค่ปลาเน่าไม่กี่ตัว --
05:35
a fewน้อย people cheatedโกง a lot.
113
320000
3000
หรือคนแค่ไม่กี่คนโกงมากๆ
05:38
Insteadแทน, what we saw is a lot of people who cheatโกง a little bitบิต.
114
323000
3000
ในทางกลับกัน มีคนจำนวนมากที่โกงเล็กๆ น้อยๆ ด้วย
05:41
Now, in economicด้านเศรษฐกิจ theoryทฤษฎี,
115
326000
3000
ในทางเศรษฐศาสตร์แล้ว
05:44
cheatingการโกง is a very simpleง่าย cost-benefitต้นทุนและผลประโยชน์ analysisการวิเคราะห์.
116
329000
3000
การโกงคือการวิเคราะห์ต้นทุนและผลตอบแทนแบบง่ายๆ
05:47
You say, what's the probabilityความน่าจะเป็น of beingกำลัง caughtจับ?
117
332000
2000
เราจะคิดว่า โอกาสที่จะถูกจับได้มีมากแค่ไหน?
05:49
How much do I standยืน to gainได้รับ from cheatingการโกง?
118
334000
3000
จะได้ผลตอบแทนเท่าไหร่จากการโกง?
05:52
And how much punishmentการลงโทษ would I get if I get caughtจับ?
119
337000
2000
และถ้าโดนจับได้จะถูกลงโทษอย่างไร?
05:54
And you weighชั่งน้ำหนัก these optionsตัวเลือก out --
120
339000
2000
จากนั้นก็ชั่งน้ำหนักเอา
05:56
you do the simpleง่าย cost-benefitต้นทุนและผลประโยชน์ analysisการวิเคราะห์,
121
341000
2000
คุณแค่วิเคราะห์ต้นทุนและผลตอบแทนแบบง่ายๆ
05:58
and you decideตัดสิน whetherว่า it's worthwhileคุ้มค่า to commitผูกมัด the crimeอาชญากรรม or not.
122
343000
3000
คุณก็ตัดสินใจได้แล้วว่าคุณจะก่ออาชญากรรมหรือไม่
06:01
So, we try to testทดสอบ this.
123
346000
2000
ดังนั้น เราพยายามที่จะทดสอบสิ่งเหล่านี้
06:03
For some people, we variedแตกต่างกัน how much moneyเงิน they could get away with --
124
348000
4000
กับผู้ร่วมการทดลองบางกลุ่ม เราเพิ่มลดจำนวนเงินที่เขามีโอกาสโกงได้
06:07
how much moneyเงิน they could stealขโมย.
125
352000
1000
เพื่อดูว่าเขาจะโกงมากน้อยสักแค่ไหน
06:08
We paidต้องจ่าย them 10 centsเซ็นต์ perต่อ correctแก้ไข questionคำถาม, 50 centsเซ็นต์,
126
353000
3000
เราจ่ายตั้งแต่ 10 เซนต์ต่อข้อ, 50 เซนต์,
06:11
a dollarดอลลาร์, fiveห้า dollarsดอลลาร์, 10 dollarsดอลลาร์ perต่อ correctแก้ไข questionคำถาม.
127
356000
3000
1 ดอลลาร์, 5 ดอลลาร์, 10 ดอลลาร์ต่อข้อที่ทำถูก
06:14
You would expectคาดหวัง that as the amountจำนวน of moneyเงิน on the tableตาราง increasesเพิ่มขึ้น,
128
359000
4000
คุณอาจคิดว่า เมื่อจำนวนเงินมากขึ้น
06:18
people would cheatโกง more, but in factความจริง it wasn'tก็ไม่ได้ the caseกรณี.
129
363000
3000
คนก็น่าจะโกงมากขึ้น แต่ความจริงแล้วไม่ใช่แบบนั้นเสมอไป
06:21
We got a lot of people cheatingการโกง by stealingการขโมย by a little bitบิต.
130
366000
3000
มีคนจำนวนมากที่โกงเฉพาะตอนที่เงินน้อยๆ
06:24
What about the probabilityความน่าจะเป็น of beingกำลัง caughtจับ?
131
369000
3000
แล้วเรื่องโอกาสที่จะโดนจับได้ล่ะ?
06:27
Some people shreddedหย็อง halfครึ่ง the sheetแผ่น of paperกระดาษ,
132
372000
2000
ในบางกลุ่มเราให้ฉีกกระดาษแค่ครึ่งเดียว
06:29
so there was some evidenceหลักฐาน left.
133
374000
1000
แปลว่ายังมีโอกาสโดนจับได้
06:30
Some people shreddedหย็อง the wholeทั้งหมด sheetแผ่น of paperกระดาษ.
134
375000
2000
บางกลุ่มเราให้ฉีกทั้งแผ่น
06:32
Some people shreddedหย็อง everything, wentไป out of the roomห้อง,
135
377000
3000
บางคนฉีกทุกอย่าง เดินออกจากห้อง
06:35
and paidต้องจ่าย themselvesตัวเอง from the bowlขัน of moneyเงิน that had over 100 dollarsดอลลาร์.
136
380000
3000
แล้วไปหยิบเงินเอาเองจากกล่องที่มีเงินอยู่มากกว่า 100 ดอลลาร์
06:38
You would expectคาดหวัง that as the probabilityความน่าจะเป็น of beingกำลัง caughtจับ goesไป down,
137
383000
3000
คุณคงคิดว่า เมื่อโอกาสที่จะถูกจับได้ลดลง
06:41
people would cheatโกง more, but again, this was not the caseกรณี.
138
386000
3000
พวกเขาจะโกงมากขึ้น แต่ก็อีกนั่นแหล่ะ มันไม่ได้เป็นแบบนั้น
06:44
Again, a lot of people cheatedโกง by just by a little bitบิต,
139
389000
3000
คนจำนวนมากโกงแค่เล็กน้อย
06:47
and they were insensitiveตายด้าน to these economicด้านเศรษฐกิจ incentivesแรงจูงใจ.
140
392000
3000
ไม่ได้แปรผันไปตามสิ่งจูงใจทางเศรษฐศาสตร์
06:50
So we said, "If people are not sensitiveรู้สึกไว
141
395000
1000
เราเลยมาคิดว่า "ถ้าคนไม่ตอบสนองต่อสิ่งจูงใจ
06:51
to the economicด้านเศรษฐกิจ rationalมีเหตุผล theoryทฤษฎี explanationsคำอธิบาย, to these forcesกองกำลัง,
142
396000
5000
ตามที่หลักเหตุและผลทางเศรษฐศาสตร์ว่าไว้
06:56
what could be going on?"
143
401000
3000
งั้นมันเกิดอะไรขึ้นล่ะ?"
06:59
And we thought maybe what is happeningสิ่งที่เกิดขึ้น is that there are two forcesกองกำลัง.
144
404000
3000
เราคิดว่ามันน่าจะมีแรงผลักดันสองอย่าง
07:02
At one handมือ, we all want to look at ourselvesตัวเรา in the mirrorกระจกเงา
145
407000
2000
อย่างแรกคือ เราอยากจะกลับบ้านส่องกระจก
07:04
and feel good about ourselvesตัวเรา, so we don't want to cheatโกง.
146
409000
3000
แล้วยังรู้สึกดีกับตัวเองได้อยู่ ดังนั้น เราจึงไม่โกง
07:07
On the other handมือ, we can cheatโกง a little bitบิต,
147
412000
2000
ซึ่งถ้าเราโกงแค่เล็กๆ น้อยๆ
07:09
and still feel good about ourselvesตัวเรา.
148
414000
2000
เราก็ยังรู้สึกดีกับตัวเองได้อยู่
07:11
So, maybe what is happeningสิ่งที่เกิดขึ้น is that
149
416000
1000
ดังนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือว่า
07:12
there's a levelชั้น of cheatingการโกง we can't go over,
150
417000
2000
มันมีขอบเขตการโกงระดับหนึ่งที่เราไม่อยากทำเกินไปกว่านี้
07:14
but we can still benefitประโยชน์ from cheatingการโกง at a lowต่ำ degreeระดับ,
151
419000
4000
คือ เรายังคงเก็บเกี่ยวผลประโยชน์เล็กๆ น้อยๆ จากการโกง
07:18
as long as it doesn't changeเปลี่ยนแปลง our impressionsการแสดงผล about ourselvesตัวเรา.
152
423000
3000
ตราบใดที่มันไม่ไปเปลี่ยนความรู้สึกที่เรามีต่อตัวเราเอง
07:21
We call this like a personalส่วนบุคคล fudgeฟัดจ์ factorปัจจัย.
153
426000
3000
เราเรียกมันว่าระดับการโกงที่ยอมรับได้ของแต่ละคน
07:25
Now, how would you testทดสอบ a personalส่วนบุคคล fudgeฟัดจ์ factorปัจจัย?
154
430000
4000
แล้วเราจะทดสอบระดับการโกงที่ยอมรับได้นี่อย่างไร?
07:29
Initiallyในขั้นต้น we said, what can we do to shrinkหด the fudgeฟัดจ์ factorปัจจัย?
155
434000
4000
ที่จริงเราตั้งคำถามว่า จะลดระดับการโกงที่ยอมรับได้ลงอย่างไร?
07:33
So, we got people to the labห้องปฏิบัติการ, and we said,
156
438000
2000
เราเลยพาคนมาที่ห้องทดลอง แล้วบอกว่า
07:35
"We have two tasksงาน for you todayในวันนี้."
157
440000
2000
"วันนี้เรามีงานสองอย่างให้คุณทำ"
07:37
First, we askedถาม halfครึ่ง the people
158
442000
1000
เราบอกผู้ร่วมการทดลองครึ่งหนึ่งว่า
07:38
to recallจำ eitherทั้ง 10 booksหนังสือ they readอ่าน in highสูง schoolโรงเรียน,
159
443000
2000
อย่างแรก ให้นึกถึงหนังสือสิบเล่มที่เคยอ่านสมัยมัธยมปลาย
07:40
or to recallจำ The Tenสิบ Commandmentsประการ,
160
445000
3000
อีกครึ่งหนึ่ง เราให้นึกถึงบัญญัติสิบประการ (คล้ายๆ กับศีลห้า -- ผู้แปล)
07:43
and then we temptedล่อลวง them with cheatingการโกง.
161
448000
2000
แล้วจากนั้นลองเปิดโอกาสให้เขาโกง
07:45
Turnsย้อนกลับ out the people who triedพยายาม to recallจำ The Tenสิบ Commandmentsประการ --
162
450000
3000
ปรากฏว่าคนที่นึกถึงบัญญัติสิบประการ
07:48
and in our sampleตัวอย่าง nobodyไม่มีใคร could recallจำ all of The Tenสิบ Commandmentsประการ --
163
453000
2000
ซึ่งไม่มีผู้ร่วมการทดลองสักคนที่จำได้ครบทุกข้อ
07:51
but those people who triedพยายาม to recallจำ The Tenสิบ Commandmentsประการ,
164
456000
4000
แต่เราพบว่า คนที่นึกถึงบัญญัติสิบประการ
07:55
givenรับ the opportunityโอกาส to cheatโกง, did not cheatโกง at all.
165
460000
3000
เมื่อมีโอกาสจะโกงแล้ว ไม่มีใครโกงเลยสักคนเดียว
07:58
It wasn'tก็ไม่ได้ that the more religiousเคร่งศาสนา people --
166
463000
2000
มันไม่ใช่เพราะคนที่เคร่งศาสนามากกว่า --
08:00
the people who rememberedจำได้ว่า more of the Commandmentsประการ -- cheatedโกง lessน้อยกว่า,
167
465000
1000
หรือจำบัญญัติสิบประการได้มากกว่า จะโกงน้อยกว่า
08:01
and the lessน้อยกว่า religiousเคร่งศาสนา people --
168
466000
2000
และคนที่ไม่เคร่งศาสนา --
08:03
the people who couldn'tไม่สามารถ rememberจำ almostเกือบจะ any Commandmentsประการ --
169
468000
1000
หรือคนที่แทบจะจำบัญญัติสิบประการไม่ได้ --
08:04
cheatedโกง more.
170
469000
2000
จะโกงมากกว่า
08:06
The momentขณะ people thought about tryingพยายาม to recallจำ The Tenสิบ Commandmentsประการ,
171
471000
4000
แค่พยายามจะนึกถึงบัญญัติสิบประการเท่านั้น
08:10
they stoppedหยุด cheatingการโกง.
172
475000
1000
เขาก็หยุดโกง
08:11
In factความจริง, even when we gaveให้ self-declaredตนเองประกาศ atheistsไม่เชื่อในพระเจ้า
173
476000
2000
ที่จริง แม้แต่คนที่ประกาศตัวว่าไม่ได้นับถือพระเจ้า
08:13
the taskงาน of swearingการสาบาน on the Bibleคัมภีร์ไบเบิล and we give them a chanceโอกาส to cheatโกง,
174
478000
4000
การให้พวกเขาสาบานต่อพระคัมภีร์ แล้วให้โอกาสที่จะโกง
08:17
they don't cheatโกง at all.
175
482000
2000
พวกเขาก็จะไม่โกง
08:21
Now, Tenสิบ Commandmentsประการ is something that is hardยาก
176
486000
2000
ทีนี้ บัญญัติสิบประการนั้น
08:23
to bringนำมาซึ่ง into the educationการศึกษา systemระบบ, so we said,
177
488000
2000
ยากที่จะนำไปผนวกกับระบบการศึกษา เราเลยคิดว่า
08:25
"Why don't we get people to signสัญญาณ the honorเกียรติ codeรหัส?"
178
490000
2000
"แล้วทำไมเราไม่ให้พวกเขาเซ็นชื่อในบัญญัติเกียรติภูมิล่ะ?"
08:27
So, we got people to signสัญญาณ,
179
492000
2000
เราก็เลยให้คนลงชื่อใต้ประโยคว่า
08:29
"I understandเข้าใจ that this shortสั้น surveyสำรวจ fallsน้ำตก underภายใต้ the MITเอ็มไอที Honorเกียรติ Codeรหัส."
180
494000
4000
"ฉันเข้าใจว่าการตอบแบบสำรวจนี้จะอยู่ภายใต้เกียรติภูมิของ MIT"
08:33
Then they shreddedหย็อง it. No cheatingการโกง whatsoeverใด ๆ.
181
498000
3000
เมื่อพวกเขาฉีกกระดาษแล้ว พบว่าไม่มีการโกงใดใดทั้งสิ้น
08:36
And this is particularlyโดยเฉพาะ interestingน่าสนใจ,
182
501000
1000
เรื่องนี้น่าสนใจมากเลยครับ
08:37
because MITเอ็มไอที doesn't have an honorเกียรติ codeรหัส.
183
502000
2000
เพราะที่จริง MIT ไม่มีบัญญัติเกียรติภูมิ
08:39
(Laughterเสียงหัวเราะ)
184
504000
5000
(เสียงหัวเราะ)
08:44
So, all this was about decreasingลดลง the fudgeฟัดจ์ factorปัจจัย.
185
509000
4000
เอาล่ะ นั่นคือการลดระดับการโกงที่ยอมรับได้
08:48
What about increasingที่เพิ่มขึ้น the fudgeฟัดจ์ factorปัจจัย?
186
513000
3000
แล้วอะไรล่ะที่ทำให้ระดับการโกงที่ยอมรับได้เพิ่มขึ้น?
08:51
The first experimentการทดลอง -- I walkedเดิน around MITเอ็มไอที
187
516000
2000
การทดลองแรก -- ผมเดินไปรอบๆ MIT
08:53
and I distributedกระจาย six-packsกล้ามหน้าท้อง of Cokesโค้ก in the refrigeratorsตู้เย็น --
188
518000
3000
เอาโค้กจำนวนหกแพ็คใส่ไว้ในตู้เย็น --
08:56
these were commonร่วมกัน refrigeratorsตู้เย็น for the undergradsนักศึกษาระดับปริญญาตรี.
189
521000
2000
หมายถึงตู้เย็นรวมของนักศึกษาปริญญาตรี
08:58
And I cameมา back to measureวัด what we technicallyในทางเทคนิค call
190
523000
3000
แล้วผมก็กลับมาวัดสิ่งที่เรียกว่า
09:01
the half-lifetimeครึ่งชีวิต of Cokeโคก -- how long does it last in the refrigeratorsตู้เย็น?
191
526000
4000
ช่วงอายุของโค้ก -- มันอยู่ในตู้เย็นได้นานแค่ไหน?
09:05
As you can expectคาดหวัง it doesn't last very long; people take it.
192
530000
3000
อย่างที่คุณคาด มันอยู่ได้ไม่นานก็มีคนหยิบไป
09:08
In contrastความแตกต่าง, I tookเอา a plateจาน with sixหก one-dollarหนึ่งดอลลาร์ billsธนบัตร,
193
533000
4000
ทีนี้ ผมเอาธนบัตรหกดอลลาร์ใส่จาน
09:12
and I left those platesแผ่น in the sameเหมือนกัน refrigeratorsตู้เย็น.
194
537000
3000
แล้วก็ทิ้งจานนั้นไว้ในตู้เย็นแบบเดียวกัน
09:15
No billบิล ever disappearedหายไป.
195
540000
1000
ธนบัตรกลับไม่หายไป
09:16
Now, this is not a good socialสังคม scienceวิทยาศาสตร์ experimentการทดลอง,
196
541000
3000
นี่อาจไม่ใช่การทดลองทางสังคมศาสตร์ที่ถูกหลักการนัก
09:19
so to do it better I did the sameเหมือนกัน experimentการทดลอง
197
544000
3000
เพื่อให้ได้ผลที่เชื่อถือได้มากขึ้น ผมเลยทำการทดลองแบบเดิม
09:22
as I describedอธิบาย to you before.
198
547000
2000
อย่างที่ผมได้อธิบายไว้ก่อนหน้านี้
09:24
A thirdที่สาม of the people we passedผ่าน the sheetแผ่น, they gaveให้ it back to us.
199
549000
3000
หนึ่งในสามของผู้ร่วมการทดลอง เราให้เขาส่งกระดาษคำตอบคืนเรา
09:27
A thirdที่สาม of the people we passedผ่าน it to, they shreddedหย็อง it,
200
552000
3000
อีกหนึ่งในสามให้ฉีกกระดาษทิ้งไป
09:30
they cameมา to us and said,
201
555000
1000
ให้เขามาหาเราแล้วพูดว่า
09:31
"Mrนาย. Experimenterทดลอง, I solvedแก้ไข X problemsปัญหาที่เกิดขึ้น. Give me X dollarsดอลลาร์."
202
556000
3000
"คุณนักวิจัยครับ ผมแก้โจทย์ได้ X ข้อ จ่ายผมมา X ดอลลาร์"
09:34
A thirdที่สาม of the people, when they finishedเสร็จ shreddingย่อย the pieceชิ้น of paperกระดาษ,
203
559000
3000
และอีกหนึ่งในสามของคนที่เราให้ฉีกกระดาษคำตอบทิ้ง
09:37
they cameมา to us and said,
204
562000
2000
ให้เขามาหาเราแล้วบอกว่า
09:39
"Mrนาย Experimenterทดลอง, I solvedแก้ไข X problemsปัญหาที่เกิดขึ้น. Give me X tokensราชสกุล."
205
564000
6000
"คุณนักวิจัยครับ ผมแก้โจทย์ได้ X ข้อ จ่ายชิปผมมา X อัน"
09:45
We did not payจ่ายเงิน them with dollarsดอลลาร์; we paidต้องจ่าย them with something elseอื่น.
206
570000
3000
เราไม่ได้จ่ายเป็นเงิน เราจ่ายเป็นอย่างอื่น
09:48
And then they tookเอา the something elseอื่น, they walkedเดิน 12 feetฟุต to the sideด้าน,
207
573000
3000
แล้วเมื่อพวกเขาได้รับอย่างอื่นที่ว่า เขาต้องเดินไปด้านข้างอีกสิบสองฟุต
09:51
and exchangedแลกเปลี่ยน it for dollarsดอลลาร์.
208
576000
2000
แล้วค่อยแลกเป็นเงิน
09:53
Think about the followingดังต่อไปนี้ intuitionปรีชา.
209
578000
2000
ลองนึกดูสิครับ
09:55
How badไม่ดี would you feel about takingการ a pencilดินสอ from work home,
210
580000
3000
คุณจะรู้สึกแย่แค่ไหน ถ้าจิ๊กดินสอจากที่ทำงานกลับบ้าน
09:58
comparedเมื่อเทียบกับ to how badไม่ดี would you feel
211
583000
2000
เปรียบเทียบกับ
10:00
about takingการ 10 centsเซ็นต์ from a pettyจิ๊บจ๊อย cashเงินสด boxกล่อง?
212
585000
2000
การหยิบเงินสิบเซนต์จากกล่องใส่เงิน?
10:02
These things feel very differentlyต่างกัน.
213
587000
3000
ความรู้สึกพวกนี้ต่างกันมาก
10:05
Would beingกำลัง a stepขั้นตอน removedลบออก from cashเงินสด for a fewน้อย secondsวินาที
214
590000
3000
การเพิ่มขั้นตอนที่ทำให้คุณอยู่ห่างจากเงินสดไปอีกไม่กี่วินาที
10:08
by beingกำลัง paidต้องจ่าย by tokenเหรียญ make a differenceข้อแตกต่าง?
215
593000
3000
โดยการได้รับชิปแทนนั้นมันมีผลอะไรไหม?
10:11
Our subjectsอาสาสมัคร doubledสองเท่า theirของพวกเขา cheatingการโกง.
216
596000
2000
ปรากฏว่าผู้ร่วมการทดลองของเราโกหกเพิ่มเป็นสองเท่า
10:13
I'll tell you what I think
217
598000
2000
ผมจะบอกคุณว่าผมคิดยังไง
10:15
about this and the stockหุ้น marketตลาด in a minuteนาที.
218
600000
2000
เกี่ยวกับเรื่องนี้และตลาดหุ้นในไม่กี่นาทีข้างหน้า
10:18
But this did not solveแก้ the bigใหญ่ problemปัญหา I had with EnronEnron yetยัง,
219
603000
4000
แต่นี่ก็ยังไม่ช่วยอธิบายเรื่องเอนรอนได้อยู่ดี
10:22
because in EnronEnron, there's alsoด้วย a socialสังคม elementธาตุ.
220
607000
3000
เพราะในเอนรอน มันมีประเด็นทางสังคมด้วย
10:25
People see eachแต่ละ other behavingพฤติกรรม.
221
610000
1000
คนเราสังเกตว่าคนอื่นทำอะไร
10:26
In factความจริง, everyทุกๆ day when we openเปิด the newsข่าว
222
611000
2000
ในความเป็นจริงแล้ว ทุกๆ วันเมื่อเราดูข่าว
10:28
we see examplesตัวอย่าง of people cheatingการโกง.
223
613000
2000
เราเห็นตัวอย่างของคนที่โกง
10:30
What does this causeสาเหตุ us?
224
615000
3000
แล้วมันมีผลอย่างไรกับเรา?
10:33
So, we did anotherอื่น experimentการทดลอง.
225
618000
1000
เราก็เลยลองทำการทดลองอีกแบบหนึ่ง
10:34
We got a bigใหญ่ groupกลุ่ม of studentsนักเรียน to be in the experimentการทดลอง,
226
619000
3000
ให้นักเรียนกลุ่มใหญ่มาร่วมการทดลอง
10:37
and we prepaidชำระเงินล่วงหน้า them.
227
622000
1000
และพวกเราก็จ่ายพวกเขาล่วงหน้า
10:38
So everybodyทุกคน got an envelopeซองจดหมาย with all the moneyเงิน for the experimentการทดลอง,
228
623000
3000
ทุกๆ คนได้รับซองที่มีเงินทั้งหมดที่เขาจะได้จากการทดลอง
10:41
and we told them that at the endปลาย, we askedถาม them
229
626000
2000
แล้วเราก็บอกพวกเขาในตอนท้ายว่า
10:43
to payจ่ายเงิน us back the moneyเงิน they didn't make. OK?
230
628000
4000
ขอให้เขาจ่ายคืนเราเท่าจำนวนข้อที่เขาทำไม่ได้ ตกลงไหม?
10:47
The sameเหมือนกัน thing happensที่เกิดขึ้น.
231
632000
1000
ผลที่ได้ก็เหมือนเดิม
10:48
When we give people the opportunityโอกาส to cheatโกง, they cheatโกง.
232
633000
2000
ถ้าเราให้โอกาสเขาโกง เขาก็โกง
10:50
They cheatโกง just by a little bitบิต, all the sameเหมือนกัน.
233
635000
3000
พวกเขาโกงเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็โกงเหมือนกันหมด
10:53
But in this experimentการทดลอง we alsoด้วย hiredที่จ้าง an actingการแสดง studentนักเรียน.
234
638000
3000
แต่ว่าในการทดลองนี้ เราจ้างนักศึกษามาเป็นหน้าม้า
10:56
This actingการแสดง studentนักเรียน stoodยืนอยู่ up after 30 secondsวินาที, and said,
235
641000
4000
หน้าม้าของเรายืนขึ้นหลังจากสามสิบวินาที แล้วพูดว่า
11:00
"I solvedแก้ไข everything. What do I do now?"
236
645000
3000
"ผมทำได้ครบทุกข้อแล้ว ผมต้องทำอะไรต่อ?"
11:03
And the experimenterทดลอง said, "If you've finishedเสร็จ everything, go home.
237
648000
4000
ผู้วิจัยก็จะพูดว่า "ถ้าคุณทำเสร็จแล้ว กลับบ้านได้เลย"
11:07
That's it. The taskงาน is finishedเสร็จ."
238
652000
1000
ก็เท่านั้น จบภารกิจ
11:08
So, now we had a studentนักเรียน -- an actingการแสดง studentนักเรียน --
239
653000
4000
ดังนั้น คราวนี้เรามีนักศึกษาหน้าม้า
11:12
that was a partส่วนหนึ่ง of the groupกลุ่ม.
240
657000
2000
เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม
11:14
Nobodyไม่มีใคร knewรู้ว่า it was an actorนักแสดงชาย.
241
659000
2000
ไม่มีใครรู้ว่าเขาคือหน้าม้า
11:16
And they clearlyอย่างเห็นได้ชัด cheatedโกง in a very, very seriousจริงจัง way.
242
661000
4000
และเขาก็โกงกันเห็นๆ แบบที่ไม่น่ายอมรับได้
11:20
What would happenเกิดขึ้น to the other people in the groupกลุ่ม?
243
665000
3000
จะเกิดอะไรขึ้นกับคนอื่นๆ ในกลุ่ม?
11:23
Will they cheatโกง more, or will they cheatโกง lessน้อยกว่า?
244
668000
3000
เขาจะโกงเพิ่มขึ้นหรือลดลง?
11:26
Here is what happensที่เกิดขึ้น.
245
671000
2000
นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น
11:28
It turnsผลัดกัน out it dependsขึ้นอยู่กับ on what kindชนิด of sweatshirtเสื้อสวมหัว they're wearingการสวมใส่.
246
673000
4000
น่าสนใจมากครับ เพราะมันขึ้นอยู่กับว่า เขาใส่เสื้ออะไร
11:32
Here is the thing.
247
677000
2000
รายละเอียดเป็นอย่างนี้
11:34
We ranวิ่ง this at Carnegieคาร์เนกี Mellonเมลลอน and Pittsburghพิตส์เบิร์ก.
248
679000
3000
เราทำการทดลองนี้ที่คาร์เนกี้ เมลลอน และพิตต์สเบอร์ก
11:37
And at Pittsburghพิตส์เบิร์ก there are two bigใหญ่ universitiesมหาวิทยาลัย,
249
682000
2000
ที่พิตต์สเบอร์กมีมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่อยู่สองแห่ง
11:39
Carnegieคาร์เนกี Mellonเมลลอน and Universityมหาวิทยาลัย of Pittsburghพิตส์เบิร์ก.
250
684000
3000
คือคาร์เนกี้ เมลลอน และพิตต์สเบอร์ก
11:42
All of the subjectsอาสาสมัคร sittingนั่ง in the experimentการทดลอง
251
687000
2000
เมื่อผู้เข้าร่วมการทดลองทุกคน
11:44
were Carnegieคาร์เนกี Mellonเมลลอน studentsนักเรียน.
252
689000
2000
เป็นนักศึกษาของคาร์เนกี้ เมลลอน
11:46
When the actorนักแสดงชาย who was gettingได้รับ up was a Carnegieคาร์เนกี Mellonเมลลอน studentนักเรียน --
253
691000
4000
ถ้าหน้าม้ายืนที่ขึ้นเป็นนักศึกษาของคาร์เนกี้ เมลลอน --
11:50
he was actuallyแท้จริง a Carnegieคาร์เนกี Mellonเมลลอน studentนักเรียน --
254
695000
2000
ซึ่งเขาก็เป็นนักศึกษาของคาร์เนกี้ เมลลอนจริงๆ --
11:52
but he was a partส่วนหนึ่ง of theirของพวกเขา groupกลุ่ม, cheatingการโกง wentไป up.
255
697000
4000
เขาก็เลยเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม การโกงก็เลยเพิ่มขึ้น
11:56
But when he actuallyแท้จริง had a Universityมหาวิทยาลัย of Pittsburghพิตส์เบิร์ก sweatshirtเสื้อสวมหัว,
256
701000
4000
แต่ถ้าหน้าม้าใส่เสื้อพิตต์เบอร์ก
12:00
cheatingการโกง wentไป down.
257
705000
2000
การโกงจะลดลง
12:02
(Laughterเสียงหัวเราะ)
258
707000
3000
(เสียงหัวเราะ)
12:05
Now, this is importantสำคัญ, because rememberจำ,
259
710000
3000
เรื่องนี้สำคัญนะครับ
12:08
when the momentขณะ the studentนักเรียน stoodยืนอยู่ up,
260
713000
2000
เพราะเมื่อนักศึกษาที่เป็นหน้าม้ายืนขึ้น
12:10
it madeทำ it clearชัดเจน to everybodyทุกคน that they could get away with cheatingการโกง,
261
715000
3000
มันบอกกับทุกคนอย่างชัดเจนเลยว่าคุณสามารถโกงได้
12:13
because the experimenterทดลอง said,
262
718000
2000
เพราะผู้วิจัยบอกว่า
12:15
"You've finishedเสร็จ everything. Go home," and they wentไป with the moneyเงิน.
263
720000
2000
"คุณทำทุกอย่างเสร็จแล้ว กลับบ้านได้" และพวกเขาก็กลับไปพร้อมกับเงินที่โกง
12:17
So it wasn'tก็ไม่ได้ so much about the probabilityความน่าจะเป็น of beingกำลัง caughtจับ again.
264
722000
3000
มันไม่เกี่ยวกับโอกาสที่จะถูกจับได้แล้ว
12:20
It was about the normsบรรทัดฐาน for cheatingการโกง.
265
725000
3000
แต่มันเป็นเรื่องบรรทัดฐานของการโกง
12:23
If somebodyบางคน from our in-groupในกลุ่ม cheatsกลโกง and we see them cheatingการโกง,
266
728000
3000
ถ้าบางคนในกลุ่มของพวกเราโกง และเราเห็นเขาโกง
12:26
we feel it's more appropriateเหมาะสม, as a groupกลุ่ม, to behaveประพฤติ this way.
267
731000
4000
เราจะรู้สึกว่ามันเป็นพฤติกรรมที่กลุ่มเราทำได้
12:30
But if it's somebodyบางคน from anotherอื่น groupกลุ่ม, these terribleน่ากลัว people --
268
735000
2000
แต่ถ้าคนๆ นั้นมาจากกลุ่มอื่น บุคคลที่เลวร้ายพวกนี้ --
12:32
I mean, not terribleน่ากลัว in this --
269
737000
2000
ผมไม่ได้หมายความว่าเขานิสัยเลวร้าย --
12:34
but somebodyบางคน we don't want to associateภาคี ourselvesตัวเรา with,
270
739000
2000
แต่หมายถึงบางคนที่เราไม่อยากเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
12:36
from anotherอื่น universityมหาวิทยาลัย, anotherอื่น groupกลุ่ม,
271
741000
2000
เพราะเขามาจากมหาวิทยาลัยอื่น จากกลุ่มอื่น
12:38
all of a suddenฉับพลัน people'sของผู้คน awarenessความตระหนัก of honestyความสุจริต goesไป up --
272
743000
3000
คนก็ตระหนักเรื่องความซื่อสัตย์เพิ่มขึ้นทันที
12:41
a little bitบิต like The Tenสิบ Commandmentsประการ experimentการทดลอง --
273
746000
2000
คล้ายกับกรณีเรื่องบัญญัติสิบประการ
12:43
and people cheatโกง even lessน้อยกว่า.
274
748000
4000
แล้วคนก็โกงน้อยลง
12:47
So, what have we learnedได้เรียนรู้ from this about cheatingการโกง?
275
752000
4000
เอาล่ะ เราเรียนรู้อะไรเกี่ยวกับการโกงจากเรื่องนี้?
12:51
We'veเราได้ learnedได้เรียนรู้ that a lot of people can cheatโกง.
276
756000
3000
เราเรียนรู้ว่าคนจำนวนมากโกง
12:54
They cheatโกง just by a little bitบิต.
277
759000
3000
โดยโกงเล็กๆ น้อยๆ
12:57
When we remindเตือน people about theirของพวกเขา moralityศีลธรรม, they cheatโกง lessน้อยกว่า.
278
762000
4000
เมื่อพวกเราเตือนเขาเรื่องคุณธรรม เขาจะโกงน้อยลง
13:01
When we get biggerที่ใหญ่กว่า distanceระยะทาง from cheatingการโกง,
279
766000
3000
เมื่อการโกงนั้นทำกับวัตถุอื่นที่ไม่ใช่เงินโดยตรง
13:04
from the objectวัตถุ of moneyเงิน, for exampleตัวอย่าง, people cheatโกง more.
280
769000
4000
เช่น วัตถุที่ใช้แทนเงิน คนก็จะโกงมากขึ้นไปอีก
13:08
And when we see cheatingการโกง around us,
281
773000
2000
และเมื่อพวกเราเห็นการโกงรอบๆ ตัวเรา
13:10
particularlyโดยเฉพาะ if it's a partส่วนหนึ่ง of our in-groupในกลุ่ม, cheatingการโกง goesไป up.
282
775000
4000
โดยเฉพาะถ้าเป็นคนกลุ่มเดียวกับเรา การโกงก็จะมากขึ้น
13:14
Now, if we think about this in termsเงื่อนไข of the stockหุ้น marketตลาด,
283
779000
3000
ทีนี้ลองมาดูกรณีของตลาดหลักทรัพย์บ้าง
13:17
think about what happensที่เกิดขึ้น.
284
782000
1000
นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
13:18
What happensที่เกิดขึ้น in a situationสถานการณ์ when you createสร้าง something
285
783000
3000
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราสร้างสถานการณ์ที่
13:21
where you payจ่ายเงิน people a lot of moneyเงิน
286
786000
2000
คุณจ่ายเงินจำนวนมากให้ผู้คน
13:23
to see realityความจริง in a slightlyเล็กน้อย distortedบิดเบี้ยว way?
287
788000
3000
เพื่อให้เขามองเห็นความจริงในมุมที่บิดเบือนไป?
13:26
Would they not be ableสามารถ to see it this way?
288
791000
3000
พวกเขาจะไม่รู้ไต๋คุณเหรอ?
13:29
Of courseหลักสูตร they would.
289
794000
1000
แน่นอน เขาต้องรู้แน่
13:30
What happensที่เกิดขึ้น when you do other things,
290
795000
1000
จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเราลองทำอีกแบบหนึ่ง
13:31
like you removeเอาออก things from moneyเงิน?
291
796000
2000
โดยไม่เอาสิ่งนั้นไปผูกกับเงิน?
13:33
You call them stockหุ้น, or stockหุ้น optionsตัวเลือก, derivativesสัญญาซื้อขายล่วงหน้า,
292
798000
3000
คุณอาจเรียกมันว่าหุ้น ออพชั่น อนุพันธ์
13:36
mortgage-backedจำนอง securitiesหลักทรัพย์.
293
801000
1000
หลักทรัพย์ที่มีทรัพย์สินจำนองหนุนหลัง
13:37
Could it be that with those more distantไกล things,
294
802000
3000
ถ้าเป็นอะไรที่ดูห่างไกลจากเงินออกไป
13:40
it's not a tokenเหรียญ for one secondที่สอง,
295
805000
2000
มันไม่ใช่ชิปที่แลกเป็นเงินได้ในหนึ่งวินาที
13:42
it's something that is manyจำนวนมาก stepsขั้นตอน removedลบออก from moneyเงิน
296
807000
2000
แต่เป็นสิ่งที่มีขั้นตอนจำนวนมากกว่าจะแปลงเป็นเงินได้
13:44
for a much longerอีกต่อไป time -- could it be that people will cheatโกง even more?
297
809000
4000
และใช้เวลานานด้วย -- คนจะโกงมากขึ้นไหม?
13:48
And what happensที่เกิดขึ้น to the socialสังคม environmentสิ่งแวดล้อม
298
813000
2000
แล้วอะไรจะเกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมทางสังคม
13:50
when people see other people behaveประพฤติ around them?
299
815000
3000
เมื่อเราเห็นคนอื่นๆ ทำแบบนั้น?
13:53
I think all of those forcesกองกำลัง workedทำงาน in a very badไม่ดี way
300
818000
4000
ผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นแรงผลักดันที่เลวร้าย
13:57
in the stockหุ้น marketตลาด.
301
822000
2000
ในตลาดหลักทรัพย์
13:59
More generallyโดยทั่วไป, I want to tell you something
302
824000
3000
ในภาพกว้างกว่านั้น ผมอยากจะบอกคุณบางอย่าง
14:02
about behavioralเกี่ยวกับพฤติกรรม economicsเศรษฐศาสตร์.
303
827000
3000
เกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์พฤติกรรม
14:05
We have manyจำนวนมาก intuitionsสัญชาติญาณ in our life,
304
830000
4000
เรามีความเชื่อลึกๆ มากมายที่มาจากสัญชาตญาณ
14:09
and the pointจุด is that manyจำนวนมาก of these intuitionsสัญชาติญาณ are wrongไม่ถูกต้อง.
305
834000
3000
ประเด็นก็คือ ความเชื่อพวกนี้จำนวนมากมันผิด
14:12
The questionคำถาม is, are we going to testทดสอบ those intuitionsสัญชาติญาณ?
306
837000
3000
คำถามก็คือ แล้วเราจะทดสอบความเชื่อนี้กันหรือไม่?
14:15
We can think about how we're going to testทดสอบ this intuitionปรีชา
307
840000
2000
เราสามารถหาวิธีว่าจะทดสอบความเชื่อพวกนี้ได้อย่างไร
14:17
in our privateเอกชน life, in our businessธุรกิจ life,
308
842000
2000
ในชีวิตส่วนตัว ในหน้าที่การงาน
14:19
and mostมากที่สุด particularlyโดยเฉพาะ when it goesไป to policyนโยบาย,
309
844000
3000
และที่สำคัญที่สุด เมื่อมันกลายเป็นนโยบาย
14:22
when we think about things like No Childเด็ก Left Behindหลัง,
310
847000
3000
อย่างนโนบาย "No Child Left Behind" (นโยบายการศึกษาของสหรัฐ)
14:25
when you createสร้าง newใหม่ stockหุ้น marketsตลาด, when you createสร้าง other policiesนโยบาย --
311
850000
3000
เวลาคุณสร้างตลาดหลักทรัพย์ใหม่ สร้างนโยบายใหม่
14:28
taxationการเก็บภาษี, healthสุขภาพ careการดูแล and so on.
312
853000
3000
ไม่ว่าจะเป็นด้านภาษี สุขภาพ และอื่นๆ
14:31
And the difficultyความยาก of testingการทดสอบ our intuitionปรีชา
313
856000
2000
การทดสอบความเชื่อของตัวเองนั้นมันยากมาก
14:33
was the bigใหญ่ lessonบทเรียน I learnedได้เรียนรู้
314
858000
2000
นั่นเป็นบทเรียนสำคัญที่ผมได้เรียนรู้
14:35
when I wentไป back to the nursesพยาบาล to talk to them.
315
860000
2000
เมื่อผมกลับไปหาพยาบาลทั้งหลายที่เคยดูแลผม
14:37
So I wentไป back to talk to them
316
862000
2000
ผมกลับไปเพื่อบอกเขา
14:39
and tell them what I foundพบ out about removingลบ bandagesผ้าพันแผล.
317
864000
3000
ว่าผมมีข้อค้นพบบางอย่างเกี่ยวกับการดึงผ้าพันแผลออก
14:42
And I learnedได้เรียนรู้ two interestingน่าสนใจ things.
318
867000
2000
แล้วผมก็ได้เรียนรู้สิ่งที่น่าสนใจอยู่สองอย่าง
14:44
One was that my favoriteที่ชื่นชอบ nurseพยาบาล, EttieEttie,
319
869000
2000
หนึ่งคือ พยาบาลที่น่ารักของผม เอตตี้
14:46
told me that I did not take her painความเจ็บปวด into considerationการพิจารณา.
320
871000
4000
บอกผมว่า ผมไม่ได้เอาความเจ็บปวดของเธอเข้าไปวิเคราะห์ด้วย
14:50
She said, "Of courseหลักสูตร, you know, it was very painfulเจ็บปวด for you.
321
875000
2000
เธอบอกว่า "แน่นอน อย่างที่คุณรู้ มันเจ็บสำหรับคุณ
14:52
But think about me as a nurseพยาบาล,
322
877000
2000
แต่ลองมาเป็นพยาบาลสิ
14:54
takingการ, removingลบ the bandagesผ้าพันแผล of somebodyบางคน I likedชอบ,
323
879000
2000
ต้องพันแผลและดึงผ้าพันแผลออกให้คนมากมาย
14:56
and had to do it repeatedlyซ้ำแล้วซ้ำเล่า over a long periodระยะเวลา of time.
324
881000
3000
แล้วก็ทำแต่แบบนี้ซ้ำๆ เป็นเวลานาน
14:59
Creatingการสร้าง so much tortureการทรมาน was not something that was good for me, too."
325
884000
3000
การทำให้คนอื่นเจ็บปวดทรมานก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีสำหรับฉันเหมือนกัน"
15:02
And she said maybe partส่วนหนึ่ง of the reasonเหตุผล was it was difficultยาก for her.
326
887000
5000
เธอบอกว่า บางทีส่วนหนึ่งก็เพราะมันยากเกินไปสำหรับเธอ
15:07
But it was actuallyแท้จริง more interestingน่าสนใจ than that, because she said,
327
892000
3000
แต่มันน่าสนใจมากกว่า ตอนที่เธอบอกว่า
15:10
"I did not think that your intuitionปรีชา was right.
328
895000
5000
"ฉันคิดว่าความเชื่อของคุณไม่ถูก
15:15
I feltรู้สึกว่า my intuitionปรีชา was correctแก้ไข."
329
900000
1000
ฉันรู้สึกว่าความเชื่อของฉันถูกแล้ว"
15:16
So, if you think about all of your intuitionsสัญชาติญาณ,
330
901000
2000
ดังนั้น ถ้าคุณลองนึกถึงความเชื่อทั้งหลายของคุณเอง
15:18
it's very hardยาก to believe that your intuitionปรีชา is wrongไม่ถูกต้อง.
331
903000
4000
มันยากนะครับที่คุณจะเชื่อว่าความเชื่อของคุณผิด
15:22
And she said, "Givenป.ร. ให้ไว้ the factความจริง that I thought my intuitionปรีชา was right ..." --
332
907000
3000
แล้วเธอก็พูดว่า "และเพราะฉันเชื่อว่าความเชื่อของฉันถูก ..." --
15:25
she thought her intuitionปรีชา was right --
333
910000
2000
คือ เธอคิดว่าเธอถูกนะครับ --
15:27
it was very difficultยาก for her to acceptยอมรับ doing a difficultยาก experimentการทดลอง
334
912000
5000
มันก็เลยยากมากสำหรับเธอที่จะยอมรับการทดลองที่โหดร้าย
15:32
to try and checkตรวจสอบ whetherว่า she was wrongไม่ถูกต้อง.
335
917000
2000
เพื่อลองตรวจสอบว่าเธอผิดหรือเปล่า
15:34
But in factความจริง, this is the situationสถานการณ์ we're all in all the time.
336
919000
4000
ที่จริง เราทุกคนล้วนอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ตลอดเวลา
15:38
We have very strongแข็งแรง intuitionsสัญชาติญาณ about all kindsชนิด of things --
337
923000
3000
เรามีความเชื่อที่มั่นคงในทุกเรื่อง --
15:41
our ownด้วยตัวเอง abilityความสามารถ, how the economyเศรษฐกิจ worksโรงงาน,
338
926000
3000
ความสามารถของเรา กลไกการทำงานของเศรษฐกิจ
15:44
how we should payจ่ายเงิน schoolโรงเรียน teachersครู.
339
929000
2000
เราควรจะจ่ายเงินเดือนครูอย่างไร
15:46
But unlessเว้นแต่ we startเริ่มต้น testingการทดสอบ those intuitionsสัญชาติญาณ,
340
931000
3000
แต่ถ้าเราไม่ได้เริ่มทดสอบความเชื่อเหล่านั้น
15:49
we're not going to do better.
341
934000
2000
เราก็จะไม่มีวันทำให้อะไรมันดีขึ้นได้
15:51
And just think about how better my life would have been
342
936000
2000
ลองนึกดูสิครับว่าชีวิตผมจะดีขึ้นขนาดไหน
15:53
if these nursesพยาบาล would have been willingเต็มใจ to checkตรวจสอบ theirของพวกเขา intuitionปรีชา,
343
938000
2000
ถ้าพยาบาลเหล่านี้ยอมตรวจสอบสิ่งที่เขาเชื่ออยู่
15:55
and how everything would have been better
344
940000
1000
และทุกสิ่งจะดีขึ้นขนาดไหน
15:56
if we just startเริ่มต้น doing more systematicเป็นระบบ experimentationการทดลอง of our intuitionsสัญชาติญาณ.
345
941000
5000
ถ้าเราเริ่มทำการทดลองอย่างเป็นระบบเพื่อตรวจสอบความเชื่อทั้งหลายของเรา
16:01
Thank you very much.
346
946000
2000
ขอบคุณมากครับ
Translated by Thanee Chaiwat
Reviewed by Thipnapa Huansuriya

▲Back to top

ABOUT THE SPEAKER
Dan Ariely - Behavioral economist
The dismal science of economics is not as firmly grounded in actual behavior as was once supposed. In "Predictably Irrational," Dan Ariely told us why.

Why you should listen

Dan Ariely is a professor of psychology and behavioral economics at Duke University and a founding member of the Center for Advanced Hindsight. He is the author of the bestsellers Predictably IrrationalThe Upside of Irrationality, and The Honest Truth About Dishonesty -- as well as the TED Book Payoff: The Hidden Logic that Shapes Our Motivations.

Through his research and his (often amusing and unorthodox) experiments, he questions the forces that influence human behavior and the irrational ways in which we often all behave.

More profile about the speaker
Dan Ariely | Speaker | TED.com