ABOUT THE SPEAKER
Oliver Sacks - Neurological anthropologist
Since "Awakenings" stormed the bestseller lists (and the silver screen), Oliver Sacks has become an unlikely household name, single-handedly inventing the genre of neurological anthropology.

Why you should listen

Oliver Sacks was a ground-breaking neurologist -- and a gifted storyteller who enriched our knowledge of the infinite variations of human psychology. After his pioneering work with “sleepy sickness” patients (who were in fact survivors of an early-20th-century pandemic), Sacks went on to study the connections between music and the brain, as well as disorders such as Tourette's syndrome, Parkinson's disease, and many other little-understood disorders that often count Sacks as one of their first chroniclers.

Sacks was well known as a writer of such best-selling case histories as HallucinationsThe Man Who Mistook His Wife for a HatAn Anthropologist on Mars, and his memoir of his early work, Awakenings, all of which have breathed new life into the dusty 19th-century tradition of the clinical anecdote. Sacks' writing, compassion and wide-ranging knowledge catapults the genre into the 21st century and brings the far frontiers of neurological experience into the view of millions of readers worldwide. Sacks died at age 82 in August 2015.

Read TED's long, wonderful Q&A with Oliver Sacks >>

More profile about the speaker
Oliver Sacks | Speaker | TED.com
TED2009

Oliver Sacks: What hallucination reveals about our minds

โอลิเวอร์ แซคส์: ภาพหลอนเผยให้เห็นอะไรภายในจิตของเรา

Filmed:
8,482,258 views

โอลิเวอร์ แซคส์ ประสาทแพทย์และนักประพันธ์ พาเราไปรู้จัก Charles Bonnett syndrome -- เมื่อผู้มีปัญหาทางสายตามองเห็นภาพหลอนที่ชัดเจนประดุจภาพจริง คุณหมอได้บรรยายอาการของคนไข้ที่คุณหมอดูแลด้วยความใส่ใจไว้อย่างละเอียด และอธิบายถึงที่มาที่ไปของกลุ่มอาการที่ถูกมองข้ามนี้
- Neurological anthropologist
Since "Awakenings" stormed the bestseller lists (and the silver screen), Oliver Sacks has become an unlikely household name, single-handedly inventing the genre of neurological anthropology. Full bio

Double-click the English transcript below to play the video.

00:12
We see with the eyesตา,
0
0
3000
เรามองด้วยตา
00:15
but we see with the brainสมอง as well.
1
3000
3000
แต่ก็ต้องอาศัยสมองด้วยเช่นกัน
00:18
And seeingเห็น with the brainสมอง is oftenบ่อยครั้ง calledเรียกว่า imaginationจินตนาการ.
2
6000
4000
สิ่งที่มองเห็นด้วยสมอง
มักเรียกกันว่า 'จินตนาการ'
00:22
And we are familiarคุ้นเคย with the landscapesภูมิทัศน์ of our ownด้วยตัวเอง imaginationจินตนาการ,
3
10000
5000
ซึ่งเราต่างคุ้นเคยกับภาพในจินตนาการเรา
00:27
our inscapesinscapes. We'veเราได้ livedอาศัยอยู่ with them all our livesชีวิต.
4
15000
4000
ในทัศนะของเราเอง
เพราะอยู่กับมันมาตลอดชีวิต
00:31
But there are alsoด้วย hallucinationsภาพหลอน as well,
5
19000
4000
แต่มันก็มีสิ่งที่เรียกว่า'ภาพหลอน'ด้วย
00:35
and hallucinationsภาพหลอน are completelyอย่างสมบูรณ์ differentต่าง.
6
23000
3000
และภาพหลอนนี่ต่างจากจินตนาการสุดขั้วเลย
00:38
They don't seemดูเหมือน to be of our creationการสร้าง.
7
26000
2000
มันไม่ใช่อะไรที่เราสร้างข้ึน
00:40
They don't seemดูเหมือน to be underภายใต้ our controlควบคุม.
8
28000
2000
มันอยู่นอกเหนือการควบคุม
00:42
They seemดูเหมือน to come from the outsideด้านนอก,
9
30000
2000
มันเกิดจากอะไรภายนอก
00:44
and to mimicล้อเลียน perceptionความเข้าใจ.
10
32000
3000
มาเลียนแบบการรับรู้ของเรา
00:47
So I am going to be talkingการพูด about hallucinationsภาพหลอน,
11
35000
4000
ผมเลยว่าจะพูดถึงเรื่องภาพหลอน
00:51
and a particularโดยเฉพาะ sortประเภท of visualภาพ hallucinationอาการประสาทหลอน
12
39000
4000
เป็นภาพหลอนชนิดพิเศษชนิดหนึ่ง
00:55
whichที่ I see amongในหมู่ my patientsผู้ป่วย.
13
43000
5000
ที่ผมเจอกับคนไข้ของผมเอง
01:00
A fewน้อย monthsเดือน agoมาแล้ว, I got a phoneโทรศัพท์ call
14
48000
4000
ไม่กี่เดือนก่อน มีสายโทรมาหาผม
01:04
from a nursingพยาบาล home where I work.
15
52000
2000
จากบ้านพักคนชราซึ่งผมทำงานอยู่
01:06
They told me that one of theirของพวกเขา residentsที่อาศัยอยู่ใน, an oldเก่า ladyผู้หญิง in her 90s,
16
54000
5000
เขาบอกผมว่า ผู้อาศัยท่านหนึ่ง
สุภาพสตรีอายุประมาณ 90 ปี
01:11
was seeingเห็น things,
17
59000
2000
มองเห็นนู่นเห็นนี่
01:13
and they wonderedสงสัย if she'dเธอต้องการ goneที่ไปแล้ว bonkersเป็นบ้า
18
61000
3000
เขาสงสัยกันว่าเธอบ๊องส์ไปแล้วรึเปล่า
01:16
or, because she was an oldเก่า ladyผู้หญิง,
19
64000
2000
ไม่ก็คงเพราะอายุเยอะ ไม่งั้นก็
01:18
whetherว่า she'dเธอต้องการ had a strokeลากเส้น, or whetherว่า she had Alzheimer'sอัลไซเม.
20
66000
3000
หลอดเลือดสมองอาจจะตีบ ไม่ก็อัลไซเมอร์
01:21
And so they askedถาม me if I would come and see RosalieRosalie,
21
69000
5000
เลยถามผมว่าช่วยมาดูโรซาลีหน่อยได้ไหม
01:26
the oldเก่า ladyผู้หญิง.
22
74000
2000
หญิงชราท่านนั้นน่ะครับ
01:28
I wentไป in to see her.
23
76000
2000
ผมก็ไปครับ
01:30
It was evidentชัดเจน straightตรง away
24
78000
2000
สิ่งที่ชัดเจนเลยก็คือ
01:32
that she was perfectlyอย่างสมบูรณ์ saneมีสติ
25
80000
3000
สติเธอยังดี
01:35
and lucidสุวิมล and of good intelligenceสติปัญญา,
26
83000
3000
รู้เรื่องรู้ตัวดี แถมยังฉลาดด้วย
01:38
but she'dเธอต้องการ been very startledขวัญหาย and very bewilderedสับสน,
27
86000
4000
แต่เธอกำลังตกใจ และก็กำลังงง
01:42
because she'dเธอต้องการ been seeingเห็น things.
28
90000
3000
ว่าทำไมเธอเห็นนู่นเห็นนี่เต็มไปหมด
01:45
And she told me --
29
93000
3000
เธอบอกผม
01:48
the nursesพยาบาล hadn'tไม่ได้ mentionedกล่าวถึง this --
30
96000
2000
ในสิ่งซึ่งพยาบาลไม่ทันได้บอกผม
01:50
that she was blindตาบอด,
31
98000
2000
คือ เธอตาบอด
01:52
that she had been completelyอย่างสมบูรณ์ blindตาบอด from macularจอประสาทตา degenerationการเสื่อมสภาพ for fiveห้า yearsปี.
32
100000
5000
ตาเธอบอดสนิท
จากใจกลางจอประสาทตาเสื่อมมาได้ห้าปีแล้ว
01:57
But now, for the last fewน้อย daysวัน, she'dเธอต้องการ been seeingเห็น things.
33
105000
3000
แต่สองสามวันมานี้ เธอเกิดเห็นนู่นนี่ขึ้นมา
02:00
So I said, "What sortประเภท of things?"
34
108000
3000
ผมเลยถาม "คุณเห็นอะไรเหรอครับ"
02:03
And she said, "People in Easternทางตะวันออก dressแต่งตัว,
35
111000
3000
เธอบอก "ฉันเห็นคนแต่งตัวห่มผ้าแบบชาวตะวันออก
02:06
in drapesปิดทึบ, walkingที่เดิน up and down stairsบันได.
36
114000
4000
เดินขึ้นๆ ลงๆ บันไดค่ะ
02:10
A man who turnsผลัดกัน towardsไปทาง me and smilesรอยยิ้ม.
37
118000
3000
แล้วชายคนหนึ่งหันมายิ้มให้ฉัน
02:13
But he has hugeใหญ่ teethฟัน on one sideด้าน of his mouthปาก.
38
121000
4000
ฟันข้างหนึ่งของเขาใหญ่มากๆ
02:17
Animalsสัตว์ too.
39
125000
2000
แล้วก็มีสัตว์ด้วยค่ะ
02:19
I see a whiteขาว buildingอาคาร. It's snowingหิมะตก, a softอ่อนนุ่ม snowหิมะ.
40
127000
3000
เห็นตึกสีขาว หิมะนุ่มๆโปรยปราย
02:22
I see this horseม้า with a harnessเทียม, draggingลาก the snowหิมะ away.
41
130000
5000
ฉันเห็นม้าติดเทียม กำลังลากหิมะ
02:27
Then, one night, the sceneฉาก changesการเปลี่ยนแปลง.
42
135000
4000
แล้วคืนนึง ฉากก็เปลี่ยนไป
02:31
I see catsแมว and dogsสุนัข walkingที่เดิน towardsไปทาง me.
43
139000
2000
ทีนี้ฉันเห็นแมวหมาเดินเข้ามาหา
02:33
They come to a certainบาง pointจุด and then stop.
44
141000
3000
มันเดินมาถึงจุดนึง แล้วก็หยุด
02:36
Then it changesการเปลี่ยนแปลง again.
45
144000
2000
แล้วก็เปลี่ยนอีกละ
02:38
I see a lot of childrenเด็ก ๆ. They are walkingที่เดิน up and down stairsบันได.
46
146000
3000
คราวนี้เห็นเป็นเด็กๆ มากมาย
กำลังเดินขึ้นลงบันได
02:41
They wearสวมใส่ brightสดใส colorsสี, roseดอกกุหลาบ and blueสีน้ำเงิน,
47
149000
3000
พวกเขาใส่ชุดสีสด สีชมพูกุหลาบ และสีฟ้า
02:44
like Easternทางตะวันออก dressแต่งตัว."
48
152000
3000
แบบชุดทางตะวันออก
02:47
Sometimesบางครั้ง, she said, before the people come on,
49
155000
3000
บางที เธอว่า ก่อนพวกคนจะโผล่มา
02:50
she mayอาจ hallucinateทำให้เกิดภาพหลอนประสาท pinkสีชมพู and blueสีน้ำเงิน squaresสี่เหลี่ยม on the floorชั้น,
50
158000
4000
เธอเห็นสี่เหลี่ยมจตุรัสสีชมพู สีฟ้าบนพื้น
02:54
whichที่ seemดูเหมือน to go up to the ceilingเพดาน.
51
162000
3000
ทอดขึ้นไปจนถึงเพดาน
02:57
I said, "Is this like a dreamฝัน?"
52
165000
4000
อืม ผมเลยถามว่า "คล้ายๆ กับฝันไปไหมครับ?"
03:01
And she said, "No, it's not like a dreamฝัน. It's like a movieหนัง."
53
169000
3000
เธอบอก "ไม่ค่ะๆ ไม่เหมือนฝันๆ
เหมือนดูหนังมากกว่า"
03:04
She said, "It's got colorสี. It's got motionการเคลื่อนไหว.
54
172000
3000
เธอบอกมันมีสีสัน มันเคลื่อนไปเคลื่อนมา
03:07
But it's completelyอย่างสมบูรณ์ silentเงียบ, like a silentเงียบ movieหนัง."
55
175000
4000
แต่มันเงียบฉี่เลย เหมือนหนังใบ้
03:11
And she said that it's a ratherค่อนข้าง boringน่าเบื่อ movieหนัง.
56
179000
2000
เธอบอก "แต่เป็นหนังที่น่าเบื๊อน่าเบื่อนะ"
03:13
She said, "All these people with Easternทางตะวันออก dressแต่งตัว,
57
181000
3000
เธอบอก "มีแค่คนแต่งตัวแบบชาวตะวันออก
03:16
walkingที่เดิน up and down, very repetitiveซ้ำ, very limitedถูก จำกัด."
58
184000
5000
เดินขึ้นเดินลง ซ้ำไปซ้ำมา อยู่แค่นั้นน่ะ"
03:21
(Laughterเสียงหัวเราะ)
59
189000
2000
(เสียงหัวเราะ)
03:23
And she has a senseความรู้สึก of humorอารมณ์ขัน.
60
191000
2000
แล้วเธอเป็นคนมีอารมณ์ขัน
03:25
She knewรู้ว่า it was a hallucinationอาการประสาทหลอน.
61
193000
2000
เธอรู้ว่ามันเป็นแค่ภาพหลอน
03:27
But she was frightenedตกใจ. She'dเธอต้องการ livedอาศัยอยู่ 95 yearsปี
62
195000
2000
แต่เธอก็กลัว อยู่มาจนอายุ 95 ปีแล้ว
03:29
and she'dเธอต้องการ never had a hallucinationอาการประสาทหลอน before.
63
197000
3000
ไม่เคยเห็นภาพหลอนมาก่อนเลย
03:32
She said that the hallucinationsภาพหลอน were unrelatedไม่เกี่ยวข้องกับ
64
200000
3000
แล้วเธอบอก ภาพหลอนนี่ก็ไม่ปะติดปะต่อเลย
03:35
to anything she was thinkingคิด or feelingความรู้สึก or doing,
65
203000
4000
ไม่เกี่ยวว่ากำลังคิดอะไร รู้สึกยังไงทำอะไร
03:39
that they seemedดูเหมือน to come on by themselvesตัวเอง, or disappearหายไป.
66
207000
4000
บทจะมา มันก็มาของมันเอง บทจะไปก็ไป
03:43
She had no controlควบคุม over them.
67
211000
2000
เธอควบคุมอะไรไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว
03:45
She said she didn't recognizeรับรู้
68
213000
2000
แล้วเธอก็ไม่รู้จัก
03:47
any of the people or placesสถานที่
69
215000
2000
คน หรือสถานที่ต่างๆ
03:49
in the hallucinationsภาพหลอน.
70
217000
2000
ที่เห็นในภาพหลอนเลยสักนิด
03:51
And noneไม่มี of the people or the animalsสัตว์,
71
219000
2000
จะคนหรือสัตว์อะไรก็ตาม
03:53
well, they all seemedดูเหมือน obliviousลบเลือน of her.
72
221000
4000
เธอก็ไม่รู้มันโผล่มาจากไหน ได้ยังไง
03:57
And she didn't know what was going on.
73
225000
2000
แล้วเธอก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
03:59
She wonderedสงสัย if she was going madบ้า
74
227000
2000
เธอสงสัยว่าเธอคงจะเป็นบ้า
04:01
or losingแพ้ her mindใจ.
75
229000
2000
คงเสียสติไปแล้ว
04:03
Well, I examinedการตรวจสอบ her carefullyรอบคอบ.
76
231000
2000
ผมตรวจเธออย่างละเอียด
04:05
She was a brightสดใส oldเก่า ladyผู้หญิง,
77
233000
2000
เธอเป็นหญิงชราที่ทั้งฉลาด
04:07
perfectlyอย่างสมบูรณ์ saneมีสติ. She had no medicalทางการแพทย์ problemsปัญหาที่เกิดขึ้น.
78
235000
4000
และสติสมประกอบทุกอย่าง
ไม่มีโรคประจำตัวอะไร
04:11
She wasn'tก็ไม่ได้ on any medicationsยา whichที่ could produceก่อ hallucinationsภาพหลอน.
79
239000
4000
ไม่ได้ใช้ยาอะไรที่อาจจะทำให้เกิดภาพหลอน
04:15
But she was blindตาบอด.
80
243000
2000
มีแค่ว่า เธอตาบอด
04:17
And I then said to her,
81
245000
2000
ผมบอกเธอว่า
04:19
"I think I know what you have."
82
247000
2000
"ผมว่าผมรู้ครับว่าคุณเป็นอะไร"
04:21
I said, "There is a specialพิเศษ formฟอร์ม of visualภาพ hallucinationอาการประสาทหลอน
83
249000
4000
ผมว่า "นี่เป็นภาวะภาพหลอนแบบชนิดพิเศษ
04:25
whichที่ mayอาจ go with deterioratingทวีความรุนแรงขึ้น visionวิสัยทัศน์ or blindnessการปิดตา.
84
253000
4000
ที่พบในคนที่การมองเห็นแย่ลงหรือตาบอด
04:29
This was originallyแต่เดิม describedอธิบาย," I said,
85
257000
3000
ซึ่งมีคนพูดถึงภาวะนี้ครั้งแรก
04:32
"right back in the 18thTH centuryศตวรรษ,
86
260000
2000
ไว้ตั้งแต่ราวศตวรรษที่ 18
04:34
by a man calledเรียกว่า Charlesชาร์ลส์ Bonnetหมวกผู้หญิงรูปฝาชี.
87
262000
3000
โดยคนที่ชื่อชาร์ลส์ บอนเน (Charles Bonnet)
04:37
And you have Charlesชาร์ลส์ Bonnetหมวกผู้หญิงรูปฝาชี syndromeซินโดรม.
88
265000
3000
และคุณเป็น Charles Bonnet syndrome ครับ
04:40
There is nothing wrongไม่ถูกต้อง with your brainสมอง. There is nothing wrongไม่ถูกต้อง with your mindใจ.
89
268000
2000
ไม่มีอะไรผิดปกติทางสมอง
ไม่มีอะไรผิดปกติทางจิตด้วย
04:42
You have Charlesชาร์ลส์ Bonnetหมวกผู้หญิงรูปฝาชี syndromeซินโดรม."
90
270000
3000
คุณเป็น Charles Bonnet syndrome
04:45
And she was very relievedโล่งใจ at this,
91
273000
3000
ซึ่งทำให้เธอสบายใจขึ้นมาก
04:48
that there was nothing seriouslyอย่างจริงจัง the matterเรื่อง,
92
276000
4000
ว่าไม่มีปัญหาร้ายแรงอะไรทั้งนั้น
04:52
and alsoด้วย ratherค่อนข้าง curiousอยากรู้อยากเห็น.
93
280000
3000
แต่เธอออกจะอยากรู้
04:55
She said, "Who is this Charlesชาร์ลส์ Bonnetหมวกผู้หญิงรูปฝาชี?"
94
283000
2000
เธอว่า "เออ แล้วใครคือชาร์ลส์ บอนเน"
04:57
She said, "Did he have them himselfตัวเขาเอง?"
95
285000
3000
เธอว่า "เขาเป็นเองด้วยรึเปล่า?"
05:00
And she said, "Tell all the nursesพยาบาล
96
288000
3000
เธอบอก "ไปบอกพวกพยาบาลด้วยนะ"
05:03
that I have Charlesชาร์ลส์ Bonnetหมวกผู้หญิงรูปฝาชี syndromeซินโดรม."
97
291000
3000
"ว่าฉันเป็น Charles Bonnet Syndrome"
05:06
(Laughterเสียงหัวเราะ)
98
294000
2000
(เสียงหัวเราะ)
05:08
"I'm not crazyบ้า. I'm not dementedเป็นบ้า. I have Charlesชาร์ลส์ Bonnetหมวกผู้หญิงรูปฝาชี syndromeซินโดรม."
99
296000
4000
"ฉันไม่ได้บ้า สมองฉันไม่ได้เสื่อม
ฉันเป็น Charles Bonnet Syndrome"
05:12
Well, so I did tell the nursesพยาบาล.
100
300000
2000
ผมก็เลยบอกพยาบาลไปตามนั้น
05:14
Now this, for me, is a commonร่วมกัน situationสถานการณ์.
101
302000
3000
ซึ่งผมเจอเรื่องแบบนี้อยู่บ่อยๆ ครับ
05:17
I work in old-ageอายุเยอะ homesบ้าน, largelyส่วนใหญ่.
102
305000
2000
ส่วนมากผมทำงานที่บ้านคนชรา
05:19
I see a lot of elderlyสูงอายุ people
103
307000
2000
ผมเจอคนชราหลายคน
05:21
who are hearingการได้ยิน impairedวิกล or visuallyสายตา impairedวิกล.
104
309000
4000
ที่มีปัญหาเรื่องการได้ยิน ไม่ก็การมองเห็น
05:25
About 10 percentเปอร์เซ็นต์ of the hearingการได้ยิน impairedวิกล people
105
313000
2000
ประมาณ 10% ของคนที่มีปัญหาด้านการได้ยิน
05:27
get musicalดนตรี hallucinationsภาพหลอน.
106
315000
3000
ได้ยินเสียงเพลงทั้งที่ไม่มีอยู่จริง
05:30
And about 10 percentเปอร์เซ็นต์ of the visuallyสายตา impairedวิกล people
107
318000
3000
และประมาณ 10% ของคนที่มีปัญหาการมองเห็น
05:33
get visualภาพ hallucinationsภาพหลอน.
108
321000
2000
มองเห็นอะไรที่ไม่มีอยู่จริง
05:35
You don't have to be completelyอย่างสมบูรณ์ blindตาบอด,
109
323000
2000
ไม่ต้องถึงขั้นตาบอดสนิท
05:37
only sufficientlyพอ impairedวิกล.
110
325000
2000
แค่ผิดปกติประมาณหนึ่งก็พบได้
05:39
Now with the originalเป็นต้นฉบับ descriptionลักษณะ in the 18thTH centuryศตวรรษ,
111
327000
4000
ตามคำบรรยายแรกที่บันทึกไว้ช่วงศตวรรษที่ 18
05:43
Charlesชาร์ลส์ Bonnetหมวกผู้หญิงรูปฝาชี did not have them.
112
331000
2000
ชาร์ลส์ บอนเนไม่ได้เป็นเองครับ
05:45
His grandfatherคุณปู่ had these hallucinationsภาพหลอน.
113
333000
3000
ปู่ของเขาเป็นคนเห็นภาพหลอนพวกนี้
05:48
His grandfatherคุณปู่ was a magistrateผู้พิพากษา, an elderlyสูงอายุ man.
114
336000
3000
ปู่ของเขาเป็นประมาณผู้พิพากษา อายุเยอะแล้ว
05:51
He'dเขาต้องการ had cataractต้อกระจก surgeryศัลยกรรม.
115
339000
3000
เข้ารับการผ่าตัดต้อกระจก
05:54
His visionวิสัยทัศน์ was prettyน่ารัก poorน่าสงสาร.
116
342000
2000
การมองเห็นไม่ค่อยจะดีนัก
05:56
And in 1759, he describedอธิบาย to his grandsonหลานชาย
117
344000
5000
ในปี 1759 เขาเล่าให้หลานชายฟัง
06:01
variousต่างๆ things he was seeingเห็น.
118
349000
2000
ถึงอะไรนู่นนี่ที่เขามองเห็น
06:03
The first thing he said was he saw
119
351000
2000
อย่างแรกเขาว่าเขาเห็น
06:05
a handkerchiefผ้าเช็ดหน้า in midairกลางเวหา.
120
353000
2000
ผ้าเช็ดหน้าลอยอยู่กลางอากาศ
06:07
It was a largeใหญ่ blueสีน้ำเงิน handkerchiefผ้าเช็ดหน้า
121
355000
2000
ผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่สีฟ้า
06:09
with fourสี่ orangeส้ม circlesแวดวง.
122
357000
2000
และวงกลมๆ สีส้มๆ สี่วง
06:11
And he knewรู้ว่า it was a hallucinationอาการประสาทหลอน.
123
359000
3000
แล้วเขาก็รู้ว่ามันเป็นภาพหลอน
06:14
You don't have handkerchiefsผ้าเช็ดหน้า in midairกลางเวหา.
124
362000
2000
เป็นไปได้ไง ผ้าเช็ดหน้าลอยกลางอากาศ
06:16
And then he saw a bigใหญ่ wheelล้อ in midairกลางเวหา.
125
364000
4000
จากนั้นเขาก็เห็นล้อยักษ์ลอยกลางอากาศ
06:20
But sometimesบางครั้ง he wasn'tก็ไม่ได้ sure whetherว่า he was hallucinatingภาพหลอน or not,
126
368000
5000
แต่บางที เขาไม่แน่ใจว่า
นี่มันใช่ภาพหลอนหรือไม่ใช่กันแน่
06:25
because the hallucinationsภาพหลอน would fitพอดี
127
373000
2000
เพราะบางทีมันก็เข้ากับ
06:27
in the contextบริบท of the visionsวิสัยทัศน์.
128
375000
2000
บริบทอะไรอื่นๆ ที่เห็น
06:29
So on one occasionโอกาส, when his granddaughtersหลานสาว were visitingเยี่ยมชม them,
129
377000
3000
มีอยู่คราวนึง ตอนที่หลานสาวมาเยี่ยมเขา
06:32
he said, "And who are these handsomeหล่อ youngหนุ่มสาว menผู้ชาย with you?"
130
380000
5000
เขาถาม"พ่อหนุ่มรูปหล่อที่มาด้วยกันเป็นใคร"
06:37
And they said, "Alasอนิจจา, Grandpapaคุณปู่, there are no handsomeหล่อ youngหนุ่มสาว menผู้ชาย."
131
385000
4000
หลานก็บอก "โธ่ คุณปู่คะ
มีหนุ่มรูปหล่อซะที่ไหนกัน"
06:41
And then the handsomeหล่อ youngหนุ่มสาว menผู้ชาย disappearedหายไป.
132
389000
4000
แล้วพ่อหนุ่มรูปหล่อก็อันตรธานไป
06:45
It's typicalตามแบบฉบับ of these hallucinationsภาพหลอน
133
393000
3000
มันเป็นเรื่องปกติที่ภาพหลอน
06:48
that they mayอาจ come in a flashแฟลช and disappearหายไป in a flashแฟลช.
134
396000
3000
จะมาแบบแว่บมาแล้วก็แว่บหายไป
06:51
They don't usuallyมักจะ fadeจางหาย in and out.
135
399000
2000
มักไม่เป็นแบบค่อยๆ มาค่อยๆ ไป
06:53
They are ratherค่อนข้าง suddenฉับพลัน, and they changeเปลี่ยนแปลง suddenlyทันใดนั้น.
136
401000
3000
ออกจะค่อนข้างฉับพลัน แล้วก็เปลี่ยนปุปปับด้วย
06:56
Charlesชาร์ลส์ LullinLullin, the grandfatherคุณปู่,
137
404000
3000
คุณปู่ชาร์ลส์ ลูแลนด์ (Charles Louland)
06:59
saw hundredsหลายร้อย of differentต่าง figuresตัวเลข,
138
407000
3000
เห็นนั่นนี่ต่างๆ ไป เป็นร้อยๆ ชิ้น
07:02
differentต่าง landscapesภูมิทัศน์ of all sortsทุกประเภท.
139
410000
2000
ภาพสถานที่ต่างๆ ทุกรูปแบบ
07:04
On one occasionโอกาส, he saw a man in a bathrobeเสื้อคลุมอาบน้ำ smokingที่สูบบุหรี่ a pipeท่อ,
140
412000
4000
มีคราวหนึ่ง
เขาเห็นชายนุ่งผ้าอาบน้ำ สูบไปป์
07:08
and realizedตระหนัก it was himselfตัวเขาเอง.
141
416000
3000
แล้วก็นึกได้ว่าเป็นตัวเขาเอง
07:11
That was the only figureรูป he recognizedได้รับการยอมรับ.
142
419000
3000
นั่นเป็นภาพหลอนหนึ่งเดียวที่เขารู้จัก
07:14
On one occasionโอกาส when he was walkingที่เดิน in the streetsถนน of Parisปารีส,
143
422000
4000
มีอีกคราวหนึ่ง
เขากำลังเดินอยู่บนถนนที่ปารีส
07:18
he saw -- this was realจริง -- a scaffoldingนั่งร้าน.
144
426000
3000
เขาเห็นนั่งร้าน ซึ่งอันนี้เห็นจริงๆ
07:21
But when he got back home, he saw a miniatureขนาดเล็ก of the scaffoldingนั่งร้าน
145
429000
3000
พอกลับถึงบ้าน เขาเห็นนั่งร้านแบบจิ๋ว
07:24
sixหก inchesนิ้ว highสูง, on his studyศึกษา tableตาราง.
146
432000
4000
สูงประมาณ 6 นิ้ว อยู่บนโต๊ะทำงานเขา
07:28
This repetitionการทำซ้ำ of perceptionความเข้าใจ
147
436000
3000
การเห็นภาพซ้ำเช่นนี้
07:31
is sometimesบางครั้ง calledเรียกว่า palinopsiapalinopsia.
148
439000
2000
บางทีเราเรียกว่าพาลินอพเซีย (Palinopsia)
07:33
With him and with RosalieRosalie,
149
441000
5000
ในกรณีชาร์ลส์ และโรซาลี
07:38
what seemsดูเหมือนว่า to be going on --
150
446000
2000
สิ่งที่เกิดขึ้น
07:40
and RosalieRosalie said, "What's going on?" --
151
448000
2000
สิ่งที่โรซาลีถามว่า "มันเกิดอะไรขึ้น?"
07:42
and I said that as you loseสูญเสีย visionวิสัยทัศน์,
152
450000
3000
ผมอธิบายว่า
เพราะดวงตาของคุณเสียการมองเห็นไป
07:45
as the visualภาพ partsชิ้นส่วน of the brainสมอง are no longerอีกต่อไป gettingได้รับ any inputอินพุต,
153
453000
3000
สมองส่วนการมองเห็น
เลยไม่ได้รับสัญญาณใดๆ เข้าไป
07:48
they becomeกลายเป็น hyperactiveสมาธิ and excitableถูกปลุกปั่นได้ง่าย,
154
456000
3000
สมองเลยเกิดทำงานมากขึ้น มันตื่นตัวขึ้น
07:51
and they startเริ่มต้น to fireไฟ spontaneouslyเป็นธรรมชาติ.
155
459000
2000
แล้วก็เริ่มจะส่งสัญญาณขึ้นมาเอง
07:53
And you startเริ่มต้น to see things.
156
461000
3000
ทำให้เกิดเห็นเป็นภาพขึ้นมา
07:56
The things you see can be very complicatedซับซ้อน indeedจริง.
157
464000
3000
สิ่งที่เห็นอาจจะเป็นอะไรที่ซับซ้อนมากๆ
07:59
With anotherอื่น patientผู้ป่วย of mineเหมือง,
158
467000
4000
เช่นคนไข้ของผมอีกคนหนึ่ง
08:03
who, alsoด้วย had some visionวิสัยทัศน์,
159
471000
2000
ซึ่งก็มีปัญหาการมองเห็นเช่นกัน
08:05
the visionวิสัยทัศน์ she had could be disturbingรบกวน.
160
473000
4000
สิ่งที่เธอเห็น ค่อนข้างจะรบกวนใจเธอ
08:09
On one occasionโอกาส, she said she saw
161
477000
3000
มีอยู่ครั้งหนึ่ง เธอว่า
08:12
a man in a stripedลาย shirtเสื้อเชิ้ต in a restaurantร้านอาหาร.
162
480000
3000
เธอเห็นชายใส่เสื้อลายทางอยู่ในภัตตาคาร
08:15
And he turnedหัน around. And then
163
483000
2000
แล้วเขาก็หันมา
08:17
he dividedแบ่งแยกออกจากกัน into sixหก figuresตัวเลข in stripedลาย shirtsเสื้อ,
164
485000
3000
แล้วก็แยกร่างออกเป็นหกร่าง
08:20
who startedเริ่มต้น walkingที่เดิน towardsไปทาง her.
165
488000
3000
แล้วก็เดินรี่เข้ามาหาเธอ ฟิ้วฟิ้วฟิ้ว
08:23
And then the sixหก figuresตัวเลข cameมา togetherด้วยกัน again, like a concertinaหีบเพลงชัก.
166
491000
3000
แล้วหกส่วนก็เข้ามารวมร่างกันใหม่
08:26
Onceครั้งหนึ่ง, when she was drivingการขับขี่,
167
494000
2000
มีครั้งหนึ่ง เธอกำลังขับรถ
08:28
or ratherค่อนข้าง, her husbandสามี was drivingการขับขี่,
168
496000
2000
จริงๆ คือ สามีเธอกำลังขับรถอยู่
08:30
the roadถนน dividedแบ่งแยกออกจากกัน into fourสี่
169
498000
2000
อยู่ดีๆ ถนนก็แยกเป็นสี่แฉก
08:32
and she feltรู้สึกว่า herselfตัวเธอเอง going simultaneouslyพร้อมกัน up fourสี่ roadsถนน.
170
500000
4000
แล้วเหมือนเธอกำลังวิ่งอยู่บนสี่ถนนพร้อมๆ กัน
08:36
She had very mobileโทรศัพท์มือถือ hallucinationsภาพหลอน as well.
171
504000
5000
ภาพหลอนของเธอค่อนข้างเป็นแบบเคลื่อนไหวได้
08:41
A lot of them had to do with a carรถ.
172
509000
3000
ส่วนมากมักจะไปเกี่ยวอะไรสักอย่างกับรถ
08:44
Sometimesบางครั้ง she would see a teenageวัยรุ่น boyเด็กผู้ชาย
173
512000
2000
บางทีเธอจะเห็นเด็กหนุ่ม
08:46
sittingนั่ง on the hoodกระโปรงหน้ารถ of the carรถ.
174
514000
3000
นั่งอยู่บนกระโปรงหน้ารถ
08:49
He was very tenaciousหวงแหน and he movedย้าย ratherค่อนข้าง gracefullyอย่างงดงาม
175
517000
2000
ท่าทางเอาเรื่อง
และเอนตัวตามรถได้อย่างเนียนเลย
08:51
when the carรถ turnedหัน.
176
519000
2000
เวลารถเลี้ยว
08:53
And then when they cameมา to a stop,
177
521000
3000
แล้วพอหยุดรถ
08:56
the boyเด็กผู้ชาย would do a suddenฉับพลัน verticalแนวตั้ง takeoffสนามบิน, 100 footเท้า in the airอากาศ,
178
524000
3000
เด็กนั่นก็กระโดดพุ่งขึ้นฟ้าสูงเป็นร้อยฟุต
08:59
and then disappearหายไป.
179
527000
3000
แล้วก็หายไปเลย
09:02
Anotherอื่น patientผู้ป่วย of mineเหมือง had a differentต่าง sortประเภท of hallucinationอาการประสาทหลอน.
180
530000
5000
คนไข้ผมอีกคนมีภาพหลอนแบบอื่น
09:07
This was a womanหญิง who didn't have troubleปัญหา with her eyesตา,
181
535000
3000
คนนี้ไม่มีปัญหาที่ตา
09:10
but the visualภาพ partsชิ้นส่วน of her brainสมอง,
182
538000
2000
แต่เป็นที่สมองส่วนการมองเห็น
09:12
a little tumorเนื้องอก in the occipitalที่เกี่ยวกับด้านหลังของหัว cortexเยื่อหุ้มสมอง.
183
540000
3000
มีเนื้องอกอยู่ตรงนั้น
09:15
And, aboveข้างบน all, she would see cartoonsการ์ตูน.
184
543000
5000
เรื่องก็คือ เธอเห็นภาพการ์ตูน
09:20
These cartoonsการ์ตูน would be transparentโปร่งใส
185
548000
5000
แล้วภาพการ์ตูนเนี่ยมันโปร่งใส
09:25
and would coverปก halfครึ่ง the visualภาพ fieldสนาม, like a screenจอภาพ.
186
553000
3000
อยู่แค่ครึ่งเดียวของลานสายตา
เหมือนเป็นจอ
09:28
And especiallyโดยเฉพาะอย่างยิ่ง she saw cartoonsการ์ตูน of Kermitมิต the Frogกบ.
187
556000
6000
โดยเฉพาะ กบเขียวเคอร์มิต (Kermit) นี่
เห็นบ่อยเลย
09:34
(Laughterเสียงหัวเราะ)
188
562000
1000
(เสียงหัวเราะ)
09:35
Now, I don't watch Sesameงา Streetถนน,
189
563000
3000
ทีนี้ ผมไม่เคยดู Sesame Street
09:38
but she madeทำ a pointจุด of sayingคำพูด,
190
566000
3000
แต่เธอพูดประเด็นน่าสนใจ
09:41
"Why Kermitมิต?" She said, "Kermitมิต the Frogกบ meansวิธี nothing to me.
191
569000
4000
"ทำไมต้องเป็นกบเขียวนี่?" เธอบอก
"กบนั่นไม่ได้มีความหมายอะไรเลยกับฉัน"
09:45
You know, I was wonderingสงสัย about Freudianฟรอยด์ determinantsปัจจัย.
192
573000
3000
ผมกำลังคิดอยู่ว่า มันอธิบายด้วย
ทฤษฎีของฟรอยด์ (Freud) ได้ไหมนะ
09:48
Why Kermitมิต?
193
576000
2000
ทำไม ทำไมต้องกบเขียว
09:50
Kermitมิต the Frogกบ meansวิธี nothing to me."
194
578000
2000
"กบเขียวนี่ไม่ได้สลักสำคัญอะไรกับฉันเลย"
09:52
She didn't mindใจ the cartoonsการ์ตูน too much.
195
580000
2000
เธอไม่ได้สนใจอะไรกับการ์ตูนมากนัก
09:54
But what did disturbรบกวน her was she got very persistentหมั่น
196
582000
4000
แต่ที่ทำให้เธอรำคาญใจคือ ภาพที่เห็นซ้ำๆ
09:58
imagesภาพ or hallucinationsภาพหลอน of facesใบหน้า
197
586000
3000
คือภาพหลอนของใบหน้า
10:01
and as with RosalieRosalie, the facesใบหน้า were oftenบ่อยครั้ง deformedพิการ,
198
589000
3000
เหมือนกรณีของโรซาลี
หน้าที่เห็นมักจะบิดเบี้ยว
10:04
with very largeใหญ่ teethฟัน or very largeใหญ่ eyesตา.
199
592000
4000
ฟันใหญ่เกินไปบ้าง ตาใหญ่เกินไปบ้าง
10:08
And these frightenedตกใจ her.
200
596000
3000
ไอ้นี่แหละที่ทำให้เธอกลัว
10:11
Well, what is going on with these people?
201
599000
4000
ทีนี้ มันเกิดอะไรขึ้นกับคนเหล่านี้
10:15
As a physicianแพทย์, I have to try and defineกำหนด what's going on,
202
603000
3000
ในฐานะแพทย์
ผมต้องพยายามอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น
10:18
and to reassureสร้างความมั่นใจ people,
203
606000
2000
และทำให้พวกเขาสบายใจ
10:20
especiallyโดยเฉพาะอย่างยิ่ง to reassureสร้างความมั่นใจ them that they're not going insaneบ้า.
204
608000
4000
โดยเฉพาะให้ความมั่นใจว่า เขาไม่ได้เป็นบ้า
10:24
Something like 10 percentเปอร์เซ็นต์, as I said,
205
612000
3000
อย่างที่ผมบอก ประมาณ 10%
10:27
of visuallyสายตา impairedวิกล people get these.
206
615000
3000
ของผู้มีปัญหาด้านการมองเห็นจะพบภาวะนี้
10:30
But no more than one percentเปอร์เซ็นต์ of the people acknowledgeรับทราบ them,
207
618000
4000
แต่มีไม่ถึง 1% ยอมเล่าให้คนอื่นฟัง
10:34
because they are afraidเกรงกลัว they will be seenเห็น as insaneบ้า or something.
208
622000
3000
เพราะกลัวว่าคนจะหาว่าเป็นบ้าหรืออะไร
10:37
And if they do mentionกล่าวถึง them to theirของพวกเขา ownด้วยตัวเอง doctorsแพทย์
209
625000
2000
พอเขาตัดสินใจเล่าให้หมอฟัง
10:39
they mayอาจ be misdiagnosedวินิจฉัยผิดพลาด.
210
627000
3000
เขาก็ถูกวินิจฉัยเป็นอย่างอื่นไปอีก
10:42
In particularโดยเฉพาะ, the notionความคิด is that if you see
211
630000
2000
โดยเฉพาะ เมื่อคุณเห็นนั่นนี่
10:44
things or hearได้ยิน things, you're going madบ้า,
212
632000
3000
ได้ยินนู่นนี่ เขาก็จะคิดว่าคุณกำลังเป็นบ้า
10:47
but the psychoticติงต๊อง hallucinationsภาพหลอน are quiteทีเดียว differentต่าง.
213
635000
3000
แต่อาการหลอนที่เกิดในโรคทางจิตเวช
จะแตกต่างไป
10:50
Psychoticติงต๊อง hallucinationsภาพหลอน, whetherว่า they are visualภาพ or vocalเกี่ยวกับเสียงพูด,
214
638000
3000
อาการหลอนจากโรคทางจิตเวช จะภาพหรือเสียง
10:53
they addressที่อยู่ you. They accuseกล่าวโทษ you.
215
641000
2000
มันจะสื่อสารโดยตรง จะมาว่าร้ายคุณ
10:55
They seduceเกลี้ยกล่อม you. They humiliateฉีกหน้า you.
216
643000
2000
หลอกล่อคุณ มันจะมาทำให้รู้สึกอับอาย
10:57
They jeerพูดเยาะเย้ย at you.
217
645000
3000
จะมาทำโวยวายใส่
11:00
You interactปฏิสัมพันธ์ with them.
218
648000
2000
แล้วคุณก็จะมีปฏิกริยาตอบสนองมัน
11:02
There is noneไม่มี of this qualityคุณภาพ of beingกำลัง addressedจ่าหน้า
219
650000
3000
แต่เราจะไม่พบลักษณะที่ว่าไปเหล่านี้
11:05
with these Charlesชาร์ลส์ Bonnetหมวกผู้หญิงรูปฝาชี hallucinationsภาพหลอน.
220
653000
3000
ในภาพหลอนแบบ Charles Bonnet syndrome
11:08
There is a filmฟิล์ม. You're seeingเห็น a filmฟิล์ม whichที่ has nothing to do with you,
221
656000
4000
มันจะเป็นเหมือนหนัง คุณแค่เข้าไปดูหนัง
ที่ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ
11:12
or that's how people think about it.
222
660000
3000
เหมือนคนทั่วไปที่ดูหนังคิดอย่างนั้น
11:15
There is alsoด้วย a rareหายาก thing calledเรียกว่า temporalชั่วขณะ lobeกลีบ epilepsyโรคลมบ้าหมู,
223
663000
4000
อีกโรคคือโรคลมชักจากสมองส่วน temporal
11:19
and sometimesบางครั้ง, if one has this,
224
667000
3000
ซึ่งหาได้ยาก บางครั้งใครที่เป็นโรคนี้
11:22
one mayอาจ feel oneselfตัวเอง transportedการขนส่ง back
225
670000
2000
อาจจะรู้สึกคล้ายกับตัวเองย้อนกลับไป
11:24
to a time and placeสถานที่ in the pastอดีต.
226
672000
3000
ในเวลาหรือสถานที่ในอดีต
11:27
You're at a particularโดยเฉพาะ roadถนน junctionทางแยก.
227
675000
2000
อาจจะเป็นทางแยกสักแห่งในอดีต
11:29
You smellกลิ่น chestnutsเม็ดเกาลัด roastingคั่ว.
228
677000
2000
อาจจะได้กลิ่นคั่วเกาลัด
11:31
You hearได้ยิน the trafficการจราจร. All the sensesความรู้สึก are involvedที่เกี่ยวข้อง.
229
679000
3000
ได้ยินเสียงรถราจราจร
กระทบไปหมดทุกประสาทสัมผัส
11:34
And you're waitingที่รอ for your girlสาว.
230
682000
2000
คุณอาจจะรู้สึกเหมือนกำลังรอแฟน
11:36
And it's that Tuesdayวันอังคาร eveningตอนเย็น back in 1982.
231
684000
4000
ในเย็นวันอังคารวันหนึ่งของปี 1982
11:40
And the temporalชั่วขณะ lobeกลีบ hallucinationsภาพหลอน
232
688000
2000
อาการหลอนที่เกิดจากสมองส่วน temporal นี้
11:42
are all-senseทุกความรู้สึก hallucinationsภาพหลอน,
233
690000
2000
จะเกิดกับทุกประสาทสัมผัส
11:44
fullเต็ม of feelingความรู้สึก, fullเต็ม of familiarityความคุ้นเคย,
234
692000
3000
เปี่ยมไปด้วยความรู้สึก
เปี่ยมไปด้วยความคุ้นเคย
11:47
locatedที่ตั้งอยู่ in spaceช่องว่าง and time,
235
695000
2000
ในช่วงเวลาและสถานที่ ณ จุดใดจุดหนึ่ง
11:49
coherentเชื่อมโยงกัน, dramaticน่าทึ่ง.
236
697000
2000
เชื่อมโยงเป็นเรื่องเป็นราว
ชัดเจนราวกับเป็นจริง
11:51
The Charlesชาร์ลส์ Bonnetหมวกผู้หญิงรูปฝาชี onesคน are quiteทีเดียว differentต่าง.
237
699000
3000
แต่กรณี Charles Bonnet ไม่ได้เป็นแบบนั้น
11:54
So in the Charlesชาร์ลส์ Bonnetหมวกผู้หญิงรูปฝาชี hallucinationsภาพหลอน,
238
702000
4000
ภาพหลอนแบบ Charles Bonnet
11:58
you have all sortsทุกประเภท of levelsระดับ,
239
706000
2000
อาจจะเป็นได้หลายระดับ
12:00
from the geometricalทางเรขาคณิต hallucinationsภาพหลอน --
240
708000
2000
ตั้งแต่เห็นเป็นแค่รูปทรงเรขาคณิตพื้นฐาน
12:02
the pinkสีชมพู and blueสีน้ำเงิน squaresสี่เหลี่ยม the womanหญิง had --
241
710000
3000
เช่น สี่เหลื่ยมจัตุรัสสีชมพู สีน้ำเงิน
แบบที่หญิงชราเห็น
12:05
up to quiteทีเดียว elaborateทำอย่างละเอียด hallucinationsภาพหลอน
242
713000
4000
ไปจนถึงแบบที่มีรายละเอียด
12:09
with figuresตัวเลข and especiallyโดยเฉพาะอย่างยิ่ง facesใบหน้า.
243
717000
3000
เป็นตัวเป็นตน โดยเฉพาะกับส่วนใบหน้า
12:12
Facesใบหน้า, and sometimesบางครั้ง deformedพิการ facesใบหน้า,
244
720000
3000
ใบหน้า ซึ่งบางทีเป็นแบบบิดเบี้ยวด้วย
12:15
are the singleเดียว commonestที่พบมากที่สุด thing
245
723000
3000
เป็นอย่างเดียวที่คนไข้มักเห็นเหมือนๆ กัน
12:18
in these hallucinationsภาพหลอน.
246
726000
2000
ในภาพหลอนชนิดนี้
12:20
And one of the secondที่สอง commonestที่พบมากที่สุด is cartoonsการ์ตูน.
247
728000
3000
ส่วนอันดับรองลงมาคือ ภาพการ์ตูน
12:23
So, what is going on?
248
731000
3000
แล้วจะอธิบายยังไง?
12:26
Fascinatinglyชวนชม, in the last fewน้อย yearsปี,
249
734000
2000
น่าสนใจว่า ในไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้
12:28
it's been possibleเป็นไปได้ to do functionalการทำงาน brainสมอง imageryภาพ,
250
736000
4000
เราสามารถถ่ายภาพการทำงานของสมอง
12:32
to do fMRIfMRI on people as they are hallucinatingภาพหลอน.
251
740000
4000
ด้วยการทำ fMRI คนเหล่านั้น
ขณะที่กำลังเห็นภาพหลอน
12:36
And in factความจริง, to find that differentต่าง partsชิ้นส่วน
252
744000
4000
แล้วพบว่าสมองส่วนต่างๆ
12:40
of the visualภาพ brainสมอง are activatedเปิดใช้งาน
253
748000
3000
ที่ใช้ในการมองเห็น
12:43
as they are hallucinatingภาพหลอน.
254
751000
2000
ถูกกระตุ้นขณะที่เห็นภาพหลอน
12:45
When people have these simpleง่าย geometricalทางเรขาคณิต hallucinationsภาพหลอน,
255
753000
3000
เช่นในคนที่เห็นเป็นแค่รูปทรงพื้นฐาน
12:48
the primaryประถม visualภาพ cortexเยื่อหุ้มสมอง is activatedเปิดใช้งาน.
256
756000
4000
ก็พบว่าสมองส่วนด้านหลังสุดถูกกระตุ้น
12:52
This is the partส่วนหนึ่ง of the brainสมอง whichที่ perceivesรับรู้ edgesขอบ and patternsรูปแบบ.
257
760000
3000
ส่วนที่เวลาปกติมันจะตอบสนอง
ตอนเราเห็นขอบมุมหรือลักษณะของพื้นผิว
12:55
You don't formฟอร์ม imagesภาพ with your primaryประถม visualภาพ cortexเยื่อหุ้มสมอง.
258
763000
4000
คุณยังไม่ได้สร้างภาพเป็นรูปร่าง
ที่สมองส่วนการมองเห็นขั้นต้นนี้
12:59
When imagesภาพ are formedรูปแบบ,
259
767000
3000
แต่จะไปประกอบกัน
13:02
a higherสูงกว่า partส่วนหนึ่ง of the visualภาพ cortexเยื่อหุ้มสมอง
260
770000
2000
ที่สมองส่วนการมองเห็นในลำดับขั้นสูงต่อๆ ไป
13:04
is involvedที่เกี่ยวข้อง in the temporalชั่วขณะ lobeกลีบ.
261
772000
2000
คือ สมองส่วน temporal
13:06
And in particularโดยเฉพาะ, one areaพื้นที่ of the temporalชั่วขณะ lobeกลีบ
262
774000
5000
โดยเฉพาะบริเวณเฉพาะแห่งหนึ่ง
13:11
is calledเรียกว่า the fusiformกระสวย gyrusgyrus.
263
779000
2000
ที่เรียกว่า fusiform gyrus
13:13
And it's knownที่รู้จักกัน that if people have damageความเสียหาย in the fusiformกระสวย gyrusgyrus,
264
781000
4000
เป็นที่ทราบกันว่า ถ้าสมองบริเวณนี้เสียหาย
13:17
they maybe loseสูญเสีย the abilityความสามารถ to recognizeรับรู้ facesใบหน้า.
265
785000
4000
เวลาเห็นหน้าแล้วก็จะจำไม่ได้ว่าเป็นใคร
13:21
But if there is an abnormalผิดปกติ activityกิจกรรม in the fusiformกระสวย gyrusgyrus,
266
789000
4000
พอ fusiform gyrus เกิดทำงานแบบผิดปกติ
13:25
they mayอาจ hallucinateทำให้เกิดภาพหลอนประสาท facesใบหน้า,
267
793000
2000
อาจจะทำให้เห็นภาพหลอนเป็นใบหน้า
13:27
and this is exactlyอย่างแน่นอน what you find in some of these people.
268
795000
3000
ซึ่งเราก็พบว่าเป็นแบบนั้นจริงๆ ในบางราย
13:30
There is an areaพื้นที่ in the anteriorหน้า partส่วนหนึ่ง of this gyrusgyrus
269
798000
4000
ส่วนด้านหน้าของ gyrus นี้ คือบริเวณที่
13:34
where teethฟัน and eyesตา are representedเป็นตัวแทนของ,
270
802000
5000
ประมวลผลภาพของฟันและดวงตา
13:39
and that partส่วนหนึ่ง of the gyrusgyrus is activatedเปิดใช้งาน
271
807000
3000
ซึ่งพบว่า บริเวณนี้ทำงานมากเป็นพิเศษ
13:42
when people get the deformedพิการ hallucinationsภาพหลอน.
272
810000
4000
ในตอนที่คนเห็นภาพหลอนเป็นหน้าบิดเบี้ยว
13:46
There is anotherอื่น partส่วนหนึ่ง of the brainสมอง
273
814000
2000
นอกจากนี้ก็ยังมีส่วนของสมอง
13:48
whichที่ is especiallyโดยเฉพาะอย่างยิ่ง activatedเปิดใช้งาน
274
816000
2000
ที่ทำงานมากเป็นพิเศษ
13:50
when one seesเห็น cartoonsการ์ตูน.
275
818000
2000
เวลาเราดูการ์ตูน
13:52
It's activatedเปิดใช้งาน when one recognizesตระหนักถึงความ cartoonsการ์ตูน,
276
820000
3000
หรือตอนที่เราเห็นการ์ตูนแล้วจำได้
13:55
when one drawsดึง cartoonsการ์ตูน, and when one hallucinateshallucinates them.
277
823000
4000
หรือตอนที่วาดการ์ตูน
และเห็นภาพหลอนเป็นการ์ตูน
13:59
It's very interestingน่าสนใจ that that should be specificโดยเฉพาะ.
278
827000
3000
น่าสนใจว่า มันจะจำเพาะอะไรขนาดนั้น
14:02
There are other partsชิ้นส่วน of the brainสมอง whichที่ are specificallyเฉพาะ involvedที่เกี่ยวข้อง
279
830000
3000
ยังมีสมองบางส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นพิเศษ
14:05
with the recognitionได้รับการยอมรับ and hallucinationอาการประสาทหลอน
280
833000
2000
กับการจำได้หรือการเห็นภาพหลอน
14:07
of buildingsสิ่งปลูกสร้าง and landscapesภูมิทัศน์.
281
835000
3000
ของตึกรามบ้านช่องและภาพวิวทิวทัศน์
14:10
Around 1970, it was foundพบ that there were not only partsชิ้นส่วน of the brainสมอง,
282
838000
3000
ในปี 1970 เราพบว่า ไม่ได้มีแค่
สมองบางส่วนเท่านั้นที่ทำหน้าที่เฉพาะ
14:13
but particularโดยเฉพาะ cellsเซลล์.
283
841000
2000
แต่จะมีกลุ่มเซลล์ที่ประมวลผลเฉพาะบางอย่าง
14:15
"Faceใบหน้า cellsเซลล์" were discoveredค้นพบ around 1970.
284
843000
5000
เซลล์จำเพาะกับใบหน้า พบราวปี 1970
14:20
And now we know that there are hundredsหลายร้อย of other
285
848000
2000
แล้วตอนนี้
14:22
sortsทุกประเภท of cellsเซลล์,
286
850000
2000
เราพบว่ามีเซลล์เฉพาะทางอีกเป็นร้อยๆ ชนิด
14:24
whichที่ can be very, very specificโดยเฉพาะ.
287
852000
2000
ซึ่งอาจจะจำเพาะมากๆๆๆ
14:26
So you mayอาจ not only have
288
854000
2000
เช่นว่า เราอาจจะไม่ได้มีแค่
14:28
"carรถ" cellsเซลล์,
289
856000
2000
เซลล์จำเพาะต่อรถยนต์
14:30
you mayอาจ have "Astonแอสตัน Martinนกนางแอ่น" cellsเซลล์.
290
858000
3000
แต่มีเซลล์สำหรับรับรู้รถ Aston Martin
14:33
(Laughterเสียงหัวเราะ)
291
861000
2000
(เสียงหัวเราะ)
14:35
I saw an Astonแอสตัน Martinนกนางแอ่น this morningตอนเช้า.
292
863000
2000
นี่ผมเห็น Aston Martin เมื่อเช้านี้
14:37
I had to bringนำมาซึ่ง it in.
293
865000
2000
เลยต้องพูดถึงซะหน่อย
14:39
And now it's in there somewhereที่ไหนสักแห่ง.
294
867000
3000
ตอนนี้เลยถูกเก็บไว้ในนี้ละ ที่ไหนสักแห่ง
14:42
(Laughterเสียงหัวเราะ)
295
870000
3000
(เสียงหัวเราะ)
14:45
Now, at this levelชั้น, in what's calledเรียกว่า the inferotemporalinferotemporal cortexเยื่อหุ้มสมอง,
296
873000
4000
พอมาถึงระดับนี้แล้ว
ในสมองส่วน inferotemporal
14:49
there are only visualภาพ imagesภาพ,
297
877000
3000
จะเป็นระดับที่ประกอบกันขึ้นเป็นภาพแล้ว
14:52
or figmentsเศษเสี้ยว or fragmentsเศษ.
298
880000
3000
หรือเป็นเศษเสี้ยว หรือ ชิ้นส่วนของภาพ
14:55
It's only at higherสูงกว่า levelsระดับ
299
883000
3000
ต้องในระดับที่ซับซ้อนขึ้นนี้เท่านั้น
14:58
that the other sensesความรู้สึก joinร่วม in
300
886000
2000
ที่ประสาทสัมผัสต่างๆ จะเริ่มมารวมกัน
15:00
and there are connectionsสัมพันธ์ with memoryหน่วยความจำ and emotionอารมณ์.
301
888000
2000
แล้วเชื่อมต่อกับความทรงจำและอารมณ์
15:02
And in the Charlesชาร์ลส์ Bonnetหมวกผู้หญิงรูปฝาชี syndromeซินโดรม,
302
890000
3000
ซึ่งใน Charles Bonnet syndrome
15:05
you don't go to those higherสูงกว่า levelsระดับ.
303
893000
2000
จะไม่เชื่อมต่อไปไกลถึงระดับนั้น
15:07
You're in these levelsระดับ of inferiorด้อยกว่า visualภาพ cortexเยื่อหุ้มสมอง
304
895000
3000
จะอยู่เพียงระดับของสมองส่วน
inferior visual cortex
15:10
where you have thousandsพัน and tensนับ of thousandsพัน
305
898000
2000
ที่ซึ่งเต็มไปด้วยภาพหลายพันหลายหมื่น
15:12
and millionsล้าน of imagesภาพ,
306
900000
3000
หลายล้านภาพ
15:15
or figmentsเศษเสี้ยว, or fragmentaryไม่เป็นชิ้นเป็นอัน figmentsเศษเสี้ยว,
307
903000
2000
หรือส่วนย่อยของภาพ
หรือเศษของส่วนย่อยของภาพ
15:17
all neurallyneurally encodedเข้ารหัส
308
905000
2000
ทั้งหมดถูกบันทึกอยู่
15:19
in particularโดยเฉพาะ cellsเซลล์ or smallเล็ก clustersกลุ่ม of cellsเซลล์.
309
907000
4000
ในเซล์ หรือกลุ่มเซลล์สมองเล็กๆ
เฉพาะด้านนั้นๆ
15:23
Normallyปกติ these are all partส่วนหนึ่ง of
310
911000
3000
ปกติแล้ว ทุกๆ ส่วน คือส่วนหนึ่งของ
15:26
the integratedแบบบูรณาการ streamกระแส of perceptionความเข้าใจ, or imaginationจินตนาการ,
311
914000
4000
กระบวนการแบบองค์รวมเพื่อการรับรู้โลกภายนอก
หรือจินตนาการโลกภายใน
15:30
and one is not consciousมีสติอยู่ of them.
312
918000
3000
ซึ่งเราไม่รู้สึกตัวหรอก
ว่ามีกระบวนการนี้เกิดขึ้น
15:33
It is only if one is visuallyสายตา impairedวิกล or blindตาบอด
313
921000
4000
เว้นแต่ถ้าเกิดมีปัญหาด้านการมองเห็นขึ้น
15:37
that the processกระบวนการ is interruptedขัดจังหวะ.
314
925000
2000
เมื่อกระบวนการนั้นถูกรบกวน
15:39
And insteadแทน of gettingได้รับ normalปกติ perceptionความเข้าใจ,
315
927000
3000
แทนที่จะเกิดเป็นการรับรู้ตามปกติ
15:42
you're gettingได้รับ an anarchicเกี่ยวกับอนาธิปไตย,
316
930000
2000
จะกลายเป็นความสับสนอลหม่าน
15:44
convulsiveเกี่ยวกับการหดเกร็ง stimulationการกระตุ้น, or releaseปล่อย,
317
932000
3000
ควบคุมไม่ได้ เกิดการกระตุ้นหรือปลดปล่อย
15:47
of all of these visualภาพ cellsเซลล์
318
935000
2000
ของกลุ่มเซลล์ด้านการมองเห็นเหล่านี้
15:49
in the inferotemporalinferotemporal cortexเยื่อหุ้มสมอง.
319
937000
2000
ในสมองส่วน inferotemporal
15:51
So, suddenlyทันใดนั้น you see a faceใบหน้า. Suddenlyทันใดนั้น you see a carรถ.
320
939000
3000
อยู่ๆ ก็เห็นเป็นภาพหน้า อยู่ๆ ก็เป็นภาพรถ
15:54
Suddenlyทันใดนั้น this, and suddenlyทันใดนั้น that.
321
942000
3000
อยู่ๆ ก็เห็นนู่น อยู่ๆ ก็เห็นนี่
15:57
The mindใจ does its bestดีที่สุด to organizeจัดระเบียบ
322
945000
2000
สมองของเราก็จะพยายามจัดการกับข้อมูลเต็มที่
15:59
and to give some sortประเภท of coherenceการเชื่อมโยงกัน to this,
323
947000
3000
ให้สอดรับกับความเป็นไปได้
16:02
but not terriblyชะมัด successfullyประสบความสำเร็จ.
324
950000
2000
แต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ
16:04
When these were first describedอธิบาย,
325
952000
2000
ในช่วงที่ค้นพบปรากฏการณ์นี้แรกๆ
16:06
it was thought that they could be interpretedตีความ like dreamsความฝัน.
326
954000
4000
คนคิดกันว่า
มันอาจจะเป็นอะไรคล้ายๆ กับความฝัน
16:10
But in factความจริง people say,
327
958000
2000
แต่เอาจริงๆ คนบอกว่า
16:12
"I don't recognizeรับรู้ the people. I can't formฟอร์ม any associationsสมาคม."
328
960000
3000
"ฉันไม่รู้จักคนพวกนั้น
ฉันไม่เห็นความเกี่ยวข้องอะไรเลย"
16:15
"Kermitมิต meansวิธี nothing to me."
329
963000
3000
"กบเคอร์มิตไม่เห็นจะมีความหมายอะไรกับฉัน"
16:18
You don't get anywhereทุกแห่ง thinkingคิด of them as dreamsความฝัน.
330
966000
5000
จะว่าเป็นความฝัน ก็คงเห็นจะไม่เข้าที
16:23
Well, I've more or lessน้อยกว่า said what I wanted.
331
971000
5000
ผมว่าผมได้พูดสิ่งที่อยากจะบอก
ตามที่ตั้งใจไว้แล้ว
16:28
I think I just want to recapitulateย้ำ
332
976000
3000
ผมแค่จะขอย้ำว่า
16:31
and say this is commonร่วมกัน.
333
979000
2000
นี่เป็นอะไรที่พบได้บ่อย
16:33
Think of the numberจำนวน of blindตาบอด people.
334
981000
2000
ลองนึกว่ามีคนที่มีปัญหาด้านสายตามากแค่ไหน
16:35
There mustต้อง be hundredsหลายร้อย of thousandsพัน of blindตาบอด people
335
983000
2000
ผมว่าต้องมีถึงหลักแสนคน
16:37
who have these hallucinationsภาพหลอน,
336
985000
2000
ที่เห็นภาพหลอนนี้
16:39
but are too scaredกลัว to mentionกล่าวถึง them.
337
987000
2000
แต่ไม่กล้าที่จะเอ่ยถึง
16:41
So this sortประเภท of thing needsจำเป็น to be broughtนำ into
338
989000
3000
เรื่องนี้ก็เลยจำเป็นที่จะต้อง
16:44
noticeแจ้งให้ทราบ, for patientsผู้ป่วย, for doctorsแพทย์, for the publicสาธารณะ.
339
992000
6000
นำมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อประโยชน์แก่คนไข้
ให้คนเป็นหมอได้รู้ ให้คนทั่วไปได้ทราบ
16:50
Finallyในที่สุด, I think they are
340
998000
2000
ท้ายที่สุด ผมว่าเรื่องนี้
16:52
infinitelyเพียบ interestingน่าสนใจ and valuableมีคุณค่า,
341
1000000
3000
น่าสนใจและมีความหมายอย่างยิ่ง
16:55
for givingให้ one some insightข้อมูลเชิงลึก as to how the brainสมอง worksโรงงาน.
342
1003000
4000
ในแง่ที่ช่วยให้เราเข้าใจการทำงานของสมอง
16:59
Charlesชาร์ลส์ Bonnetหมวกผู้หญิงรูปฝาชี said, 250 yearsปี agoมาแล้ว --
343
1007000
3000
ชาร์ลส์ บอนเนพูดไว้เมื่อ 250 ปีก่อน
17:02
he wonderedสงสัย how, thinkingคิด these hallucinationsภาพหลอน,
344
1010000
4000
เขาสงสัยว่าภาพเหล่านี้เกิดขึ้นได้ยังไง
17:06
how, as he put it, the theaterโรงละคร of the mindใจ
345
1014000
3000
สิ่งที่เขาเรียกว่า 'โรงมหรสพทางวิญญาณ'
17:09
could be generatedสร้าง by the machineryเครื่องจักรกล of the brainสมอง.
346
1017000
3000
ถูกสร้างขึ้นจากการทำงานของสมองได้อย่างไร
17:12
Now, 250 yearsปี laterต่อมา,
347
1020000
3000
ณ ตอนนี้ 250 ปีให้หลัง
17:15
I think we're beginningการเริ่มต้น to glimpseเหลือบ how this is doneเสร็จแล้ว.
348
1023000
3000
ผมว่าเราเริ่มที่จะเข้าใจนิดๆ แล้วว่า
สมองทำได้ยังไง
17:18
Thanksขอบคุณ very much.
349
1026000
2000
ขอบคุณมากครับ
17:20
(Applauseการปรบมือ)
350
1028000
3000
(เสียงปรบมือ)
17:23
Chrisคริส Andersonเดอร์สัน: That was superbดีเยี่ยม. Thank you so much.
351
1031000
3000
คริส แอนเดอร์สัน : สุดยอดมากครับ ขอบคุณมาก
17:26
You speakพูด about these things with so much insightข้อมูลเชิงลึก
352
1034000
2000
คุณเล่าเรื่องนี้ได้อย่างลึกซึ้งมากๆ
17:28
and empathyการเอาใจใส่ for your patientsผู้ป่วย.
353
1036000
3000
แล้วดูจะเข้าใจความรู้สึกคนไข้มากๆ
17:31
Have you yourselfด้วยตัวคุณเอง experiencedมีประสบการณ์ any of the syndromesอาการ you writeเขียน about?
354
1039000
5000
ตัวคุณเองเคยมีอาการนี้เองไหมครับ
17:36
Oliverโอลิเวอร์ Sacksกระสอบ: I was afraidเกรงกลัว you'dคุณควรที่จะ askถาม that.
355
1044000
2000
โอลิเวอร์ แซคส์: ผมกำลังกลัวว่าคุณจะถามอยู่เลยครับ
17:38
(Laughterเสียงหัวเราะ)
356
1046000
1000
(เสียงหัวเราะ)
17:39
Well, yeah, a lot of them.
357
1047000
3000
ใช่ครับ เห็นหลายอย่างเหมือนกัน
17:42
And actuallyแท้จริง I'm a little visuallyสายตา impairedวิกล myselfตนเอง.
358
1050000
3000
จริงๆ ผมก็มีปัญหาการมองเห็นเล็กน้อยด้วย
17:45
I'm blindตาบอด in one eyeตา, and not terriblyชะมัด good in the other.
359
1053000
3000
ตาข้างหนึ่งผมบอด อีกข้างก็ไม่ค่อยจะดี
17:48
And I see the geometricalทางเรขาคณิต hallucinationsภาพหลอน.
360
1056000
4000
ผมเห็นภาพหลอนเป็นแบบรูปทรงพื้นฐาน
17:52
But they stop there.
361
1060000
2000
แต่ไม่มากไปกว่านั้น
17:54
CACA: And they don't disturbรบกวน you?
362
1062000
2000
คริส: แต่มันไม่รบกวนคุณใช่ไหมครับ
17:56
Because you understandเข้าใจ what's doing it, it doesn't make you worriedกลุ้มใจ?
363
1064000
2000
เพราะคุณก็เข้าใจว่ามันคืออะไร คงไม่กังวล
17:58
OSระบบปฏิบัติการ: Well they don't disturbรบกวน me any more than my tinnitusหูอื้อ,
364
1066000
4000
โอลิเวอร์: มันไม่ได้กวนผมมากไปกว่า
เสียงในหูผมหรอกครับ
18:02
whichที่ I ignoreไม่สนใจ.
365
1070000
3000
ซึ่งผมก็ช่างมัน
18:05
They occasionallyเป็นครั้งคราว interestดอกเบี้ย me,
366
1073000
2000
บางคราวมันก็น่าสนใจเหมือนกัน
18:07
and I have manyจำนวนมาก picturesภาพ of them in my notebooksโน๊ตบุ๊ค.
367
1075000
3000
แล้วผมก็มีรูปมันเยอะเลยในสมุดโน๊ตผม
18:10
I've goneที่ไปแล้ว and had an fMRIfMRI myselfตนเอง,
368
1078000
3000
ผมไปทำ fMRI ตัวเองมาด้วย
18:13
to see how my visualภาพ cortexเยื่อหุ้มสมอง is takingการ over.
369
1081000
3000
อยากรู้ว่าสมองส่วนมองเห็นผมทำอะไรอยู่
18:16
And when I see all these hexagonsรูปหกเหลี่ยม
370
1084000
4000
แล้วตอนที่ผมเห็นพวกรูปหกเหลี่ยม
18:20
and complexซับซ้อน things, whichที่ I alsoด้วย have,
371
1088000
2000
และอะไรซับซ้อนๆ ซึ่งผมก็เห็นเหมือนกัน
18:22
in visualภาพ migraineอาการไมเกรน,
372
1090000
2000
ตอนเป็นไมเกรน
18:24
I wonderน่าแปลกใจ whetherว่า everyoneทุกคน seesเห็น things like this,
373
1092000
2000
ผมอยากรู้ว่า
คนอื่นเขาเห็นอย่างที่ผมเห็นไหม
18:26
and whetherว่า things like caveถ้ำ artศิลปะ or ornamentalไม้ประดับ artศิลปะ
374
1094000
3000
และอาจจะเป็นได้ว่า
พวกจิตรกรรมผนังถ้ำหรือเครื่องประดับ
18:29
mayอาจ have been derivedที่ได้มา from them a bitบิต.
375
1097000
3000
อาจประยุกต์มาจากภาพพวกนี้หรือเปล่า
18:32
CACA: That was an utterlyอย่างเต็มที่, utterlyอย่างเต็มที่ fascinatingมโนหร talk.
376
1100000
2000
คริส: เป็นการพูดที่ช่างน่าประทับใจ
สุดจะบรรยายจริงๆ ครับ
18:34
Thank you so much for sharingใช้งานร่วมกัน.
377
1102000
2000
ขอบคุณที่มาร่วมแบ่งปันครับ
18:36
OSระบบปฏิบัติการ: Thank you. Thank you.
378
1104000
2000
โอลิเวอร์: ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ
18:38
(Applauseการปรบมือ)
379
1106000
2000
(เสียงปรบมือ)
Translated by Chaipat Chunharas
Reviewed by Thipnapa Huansuriya

▲Back to top

ABOUT THE SPEAKER
Oliver Sacks - Neurological anthropologist
Since "Awakenings" stormed the bestseller lists (and the silver screen), Oliver Sacks has become an unlikely household name, single-handedly inventing the genre of neurological anthropology.

Why you should listen

Oliver Sacks was a ground-breaking neurologist -- and a gifted storyteller who enriched our knowledge of the infinite variations of human psychology. After his pioneering work with “sleepy sickness” patients (who were in fact survivors of an early-20th-century pandemic), Sacks went on to study the connections between music and the brain, as well as disorders such as Tourette's syndrome, Parkinson's disease, and many other little-understood disorders that often count Sacks as one of their first chroniclers.

Sacks was well known as a writer of such best-selling case histories as HallucinationsThe Man Who Mistook His Wife for a HatAn Anthropologist on Mars, and his memoir of his early work, Awakenings, all of which have breathed new life into the dusty 19th-century tradition of the clinical anecdote. Sacks' writing, compassion and wide-ranging knowledge catapults the genre into the 21st century and brings the far frontiers of neurological experience into the view of millions of readers worldwide. Sacks died at age 82 in August 2015.

Read TED's long, wonderful Q&A with Oliver Sacks >>

More profile about the speaker
Oliver Sacks | Speaker | TED.com