ABOUT THE SPEAKER
Skylar Tibbits - Inventor
Skylar Tibbits, a TED Fellow, is an artist and computational architect working on "smart" components that can assemble themselves.

Why you should listen

Can we create objects that assemble themselves -- that zip together like a strand of DNA or that have the ability for transformation embedded into them? These are the questions that Skylar Tibbits investigates in his Self-Assembly Lab at MIT, a cross-disciplinary research space where designers, scientists and engineers come together to find ways for disordered parts to become ordered structures. 

A trained architect, designer and computer scientist, Tibbits teaches design studios at MIT’s Department of Architecture and co-teaches the seminar “How to Make (Almost) Anything” at MIT’s Media Lab. Before that, he worked at a number of design offices including Zaha Hadid Architects, Asymptote Architecture, SKIII Space Variations and Point b Design. His work has been shown at the Guggenheim Museum and the Beijing Biennale. 

Tibbits has collaborated with a number of influential people over the years, including Neil Gershenfeld and The Center for Bits and Atoms, Erik and Marty Demaine at MIT, Adam Bly at SEED Media Group and Marc Fornes of THEVERYMANY. In 2007, he and Marc Fornes co-curated Scriptedbypurpose, the first exhibition focused exclusively on scripted processes within design. Also in 2007, he founded SJET, a multifaceted practice and research platform for experimental computation and design. SJET crosses disciplines from architecture and design, fabrication, computer science and robotics.

More profile about the speaker
Skylar Tibbits | Speaker | TED.com
TED2011

Skylar Tibbits: Can we make things that make themselves?

Skylar Tibbits : เราสามารถสร้างสิ่งของที่สามารถสร้างตัวเองได้หรือไม่?

Filmed:
1,072,366 views

Skylar Tibbits นักวิจัยจาก MIT กำลังศึกษาเรื่องสิ่งที่สร้างตัวมันเอง -- แทนที่เราจะสร้างอะไรขึ้นมา (เช่นเก้าอี้ ตึกระฟ้า) เราสามารถสร้างวัสดุที่สร้างตัวมันเองได้ เหมือนกับที่สายรหัสดีเอ็นเอประกอบตัวมันเองเข้าด้วยกัน มันเป็นแนวคิดที่ใหญ่และอยู่ในขั้นเริ่มต้น Tibbits นำเสนองานสามชิ้นจากห้องแล็บของเขา ซึ่งเผยโฉมหน้าว่าอนาคตของสิ่งที่สร้างตัวมันเองได้นั้นหน้าตาเป็นอย่างไร
- Inventor
Skylar Tibbits, a TED Fellow, is an artist and computational architect working on "smart" components that can assemble themselves. Full bio

Double-click the English transcript below to play the video.

00:15
Todayในวันนี้ I'd like to showแสดง you
0
0
2000
วันนี้ผมอยากจะนำเสนอ
00:17
the futureอนาคต of the way we make things.
1
2000
2000
วิธีที่เราจะสร้างสิ่งของต่างๆ ในอนาคต
00:19
I believe that soonในไม่ช้า our buildingsสิ่งปลูกสร้าง and machinesเครื่อง
2
4000
2000
ผมเชื่อว่าอีกไม่นาน ตึก และ เครื่องจักร
00:21
will be self-assemblingตนเองประกอบ,
3
6000
2000
จะสามารถสร้างตัวมันเอง
00:23
replicatingจำลอง and repairingการซ่อมแซม themselvesตัวเอง.
4
8000
2000
ถอดแบบและซ่อมแซมตัวเองได้
00:25
So I'm going to showแสดง you
5
10000
2000
ก่อนอื่นผมจะแสดงให้คุณดู
00:27
what I believe is the currentปัจจุบัน stateสถานะ of manufacturingการผลิต,
6
12000
2000
ว่าวิธีการผลิตที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบันเป็นอย่างไร
00:29
and then compareเปรียบเทียบ that to some naturalโดยธรรมชาติ systemsระบบ.
7
14000
3000
และเปรียบเทียบกระบวนการดังกล่าวกับระบบของธรรมชาติ
00:32
So in the currentปัจจุบัน stateสถานะ of manufacturingการผลิต, we have skyscrapersตึกระฟ้า --
8
17000
3000
วิธีการที่เราใช้สร้างสิ่งต่างๆ ในปัจจุบัน เช่น ตึกระฟ้า
00:35
two and a halfครึ่ง yearsปี [of assemblyการชุมนุม time],
9
20000
2000
ใช้เวลาสร้าง 2 ปีครึ่ง
00:37
500,000 to a millionล้าน partsชิ้นส่วน,
10
22000
2000
มีชิ้นส่วนห้าแสนจนถึงล้านชิ้น
00:39
fairlyอย่างเป็นธรรม complexซับซ้อน,
11
24000
2000
และค่อนข้างซับซ้อน
00:41
newใหม่, excitingน่าตื่นเต้น technologiesเทคโนโลยี in steelเหล็ก, concreteคอนกรีต, glassกระจก.
12
26000
3000
เรามีเทคโนโลยีใหม่ที่น่าตื่นเต้นในงานเหล็ก, คอนกรีต, แก้ว
00:44
We have excitingน่าตื่นเต้น machinesเครื่อง
13
29000
2000
เรามีเครื่องมือที่น่าตื่นตาตื่นใจ
00:46
that can take us into spaceช่องว่าง --
14
31000
2000
ที่สามารถนำเราไปสู่​​อวกาศ
00:48
fiveห้า yearsปี [of assemblyการชุมนุม time], 2.5 millionล้าน partsชิ้นส่วน.
15
33000
3000
ใช้เวลาประกอบห้าปี กับชิ้นส่วน 2.5 ล้านชิ้น
00:51
But on the other sideด้าน, if you look at the naturalโดยธรรมชาติ systemsระบบ,
16
36000
3000
ทีนี้ ถ้าคุณลองดูระบบธรรมชาติ
00:54
we have proteinsโปรตีน
17
39000
2000
เรามีโปรตีน
00:56
that have two millionล้าน typesประเภท,
18
41000
2000
นับสองล้านชนิด
00:58
can foldพับ in 10,000 nanosecondsนาโนวินาที,
19
43000
2000
ที่สามารถพับตัวใน 10,000 นาโนวินาที,
01:00
or DNAดีเอ็นเอ with threeสาม billionพันล้าน baseฐาน pairsคู่
20
45000
2000
หรือ DNA ซึ่งมีสามพันล้านคู่พื้นฐาน
01:02
we can replicateทำซ้ำ in roughlyลวก an hourชั่วโมง.
21
47000
3000
ที่สามารถทำสำเนาตัวเองได้ในประมาณหนึ่งชั่วโมง
01:05
So there's all of this complexityความซับซ้อน
22
50000
2000
มันมีความซับซ้อนมากมายเลยนะ
01:07
in our naturalโดยธรรมชาติ systemsระบบ,
23
52000
2000
ระบบในธรรมชาติเนี่ย
01:09
but they're extremelyอย่างมาก efficientที่มีประสิทธิภาพ,
24
54000
2000
แต่มันก็มีประสิทธิภาพมาก
01:11
farห่างไกล more efficientที่มีประสิทธิภาพ than anything we can buildสร้าง,
25
56000
2000
ยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดที่เราสามารถสร้างได้
01:13
farห่างไกล more complexซับซ้อน than anything we can buildสร้าง.
26
58000
2000
ซับซ้อนมากกว่าสิ่งใดๆ ที่เราสามารถสร้างได้
01:15
They're farห่างไกล more efficientที่มีประสิทธิภาพ in termsเงื่อนไข of energyพลังงาน.
27
60000
2000
และมีประสิทธิภาพมากกว่าในแง่ของการใช้พลังงาน
01:17
They hardlyแทบจะไม่ ever make mistakesข้อผิดพลาด.
28
62000
3000
มันแทบไม่เคยทำผิดพลาด
01:20
And they can repairซ่อมแซม themselvesตัวเอง for longevityอายุยืน.
29
65000
2000
และยังสามารถซ่อมแซมตัวเองเพื่อยืดอายุต่อไปได้
01:22
So there's something superซุปเปอร์ interestingน่าสนใจ about naturalโดยธรรมชาติ systemsระบบ.
30
67000
3000
ดังนั้น ระบบของธรรมชาติจึงน่าสนใจมากๆ
01:25
And if we can translateแปลความ that
31
70000
2000
และถ้าเราสามารถถ่ายทอดความสามารถนี้
01:27
into our builtสร้างขึ้น environmentสิ่งแวดล้อม,
32
72000
2000
มาใส่ในสภาพแวดล้อมที่มนุษย์สร้างขึ้น
01:29
then there's some excitingน่าตื่นเต้น potentialที่อาจเกิดขึ้น for the way that we buildสร้าง things.
33
74000
2000
วิธีการที่เราสร้างสิ่งต่างๆ ก็จะมีศักยภาพที่น่าทึ่ง
01:31
And I think the keyสำคัญ to that is self-assemblyตนเองประกอบ.
34
76000
3000
ซึ่งผมคิดว่ากุญแจสำคัญไปสู่จุดนั้นก็คือ ความสามารถในการสร้างตัวมันเอง
01:34
So if we want to utilizeนำไปใช้ self-assemblyตนเองประกอบ in our physicalกายภาพ environmentสิ่งแวดล้อม,
35
79000
3000
ถ้าเราต้องการนำความสามารถในการสร้างมันตัวเองมาใช้
01:37
I think there's fourสี่ keyสำคัญ factorsปัจจัย.
36
82000
2000
ผมคิดว่า มีปัจจัยหลัก 4 อย่าง
01:39
The first is that we need to decodeถอดรหัส
37
84000
2000
ประการแรก เราจำเป็นต้องถอดรหัส
01:41
all of the complexityความซับซ้อน of what we want to buildสร้าง --
38
86000
2000
ความซับซ้อนทั้งหมดของสิ่งที่เราต้องการจะสร้าง
01:43
so our buildingsสิ่งปลูกสร้าง and machinesเครื่อง.
39
88000
2000
เช่นอาคารและเครื่องจักร
01:45
And we need to decodeถอดรหัส that into simpleง่าย sequencesลำดับ --
40
90000
2000
เราต้องถอดรหัสพวกนี้ออกมาเป็นลำดับขั้นตอนพื้นฐาน
01:47
basicallyเป็นพื้น the DNAดีเอ็นเอ of how our buildingsสิ่งปลูกสร้าง work.
41
92000
2000
เรียกง่ายๆ ว่าถอดรหัส DNA การสร้างอาคารต่างๆ
01:49
Then we need programmableโปรแกรมได้ partsชิ้นส่วน
42
94000
2000
แล้วเราก็ต้องมีชิ้นส่วนที่ตั้งโปรแกรม
01:51
that can take that sequenceลำดับ
43
96000
2000
ให้สามารถทำงานตามลำดับขั้นดังกล่าวได้
01:53
and use that to foldพับ up, or reconfigureกำหนดค่า.
44
98000
3000
แล้วใช้ชิ้นส่วนที่ว่านั้นในการก่อร่างหรือปรับแต่ง
01:56
We need some energyพลังงาน that's going to allowอนุญาต that to activateกระตุ้น,
45
101000
3000
เราต้องการแหล่งพลังงานที่กระตุ้นให้กระบวนการนี้เริ่มทำงาน
01:59
allowอนุญาต our partsชิ้นส่วน to be ableสามารถ to foldพับ up from the programโครงการ.
46
104000
3000
เพื่อให้ชิ้นส่วนของเราสามารถประกอบกันตามโปรแกรม
02:02
And we need some typeชนิด of errorความผิดพลาด correctionการแก้ไข redundancyความฟุ่มเฟือย
47
107000
2000
และเราต้องการโปรแกรมที่มาแก้ไขข้อผิดพลาดบางอย่าง
02:04
to guaranteeรับประกัน that we have successfullyประสบความสำเร็จ builtสร้างขึ้น what we want.
48
109000
3000
เพื่อให้แน่ใจว่าเราจะสร้างสิ่งที่เราต้องการได้สำเร็จสมบูรณ์
02:07
So I'm going to showแสดง you a numberจำนวน of projectsโครงการ
49
112000
2000
ดังนั้น ผมจะให้คุณดูโครงการต่างๆ
02:09
that my colleaguesเพื่อนร่วมงาน and I at MITเอ็มไอที are workingการทำงาน on
50
114000
2000
ที่ผมกับเพื่อนร่วมงานของผมที่ MIT กำลังศึกษาอยู่
02:11
to achieveบรรลุ this self-assemblingตนเองประกอบ futureอนาคต.
51
116000
2000
เพื่อสร้างสิ่งที่สามารถสร้างตัวเองได้ในอนาคต
02:13
The first two are the MacroBotMacroBot and DeciBotDeciBot.
52
118000
3000
สองโครงการแรกคือ MacroBot และ DeciBot
02:16
So these projectsโครงการ are large-scaleขนาดใหญ่ reconfigurablereconfigurable robotsหุ่นยนต์ --
53
121000
4000
มันคือหุ่นยนต์ขนาดใหญ่ที่สามารถปรับโครงสร้างตัวเองได้
02:20
8 ftฟุต., 12 ftฟุต. long proteinsโปรตีน.
54
125000
3000
เหมือนกับห่วงโซ่โปรตีนยาว 8 ฟุต, 12 ฟุต
02:23
They're embeddedที่ฝัง with mechanicalเชิงกล electricalไฟฟ้า devicesอุปกรณ์, sensorsเซ็นเซอร์.
55
128000
3000
ภายในเต็มไปด้วยอุปกรณ์กลไกไฟฟ้าและเซ็นเซอร์
02:26
You decodeถอดรหัส what you want to foldพับ up into,
56
131000
2000
คุณถอดรหัสสิ่งที่คุณต้องการสร้างขึ้นมา
02:28
into a sequenceลำดับ of anglesมุม --
57
133000
2000
เป็นลำดับของการพับตัวเป็นมุมขนาดต่างๆ
02:30
so negativeเชิงลบ 120, negativeเชิงลบ 120, 0, 0,
58
135000
2000
ติดลบ 120, ติดลบ 120, 0, 0,
02:32
120, negativeเชิงลบ 120 -- something like that;
59
137000
3000
120, ลบ 120 -- อะไรประมาณนั้น
02:35
so a sequenceลำดับ of anglesมุม, or turnsผลัดกัน,
60
140000
2000
ลำดับของมุม หรือ จุดเปลี่ยนต่างๆ พวกนี้
02:37
and you sendส่ง that sequenceลำดับ throughตลอด the stringเชือก.
61
142000
3000
ถูกส่งเข้ามาผ่านสายส่งสัญญาณ
02:40
Eachแต่ละ unitหน่วย takes its messageข่าวสาร -- so negativeเชิงลบ 120 --
62
145000
3000
แต่ละหน่วยจะได้ข้อความของมัน-- เช่น ลบ 120
02:43
it rotatesหมุน to that, checksการตรวจสอบ if it got there
63
148000
2000
มันก็จะหมุนไป แล้วตรวจสอบว่าได้มุมที่ต้องการหรือยัง
02:45
and then passesผ่าน it to its neighborเพื่อนบ้าน.
64
150000
3000
แล้วก็ส่งผ่านต่อไปยังใกล้จุดเคียง
02:48
So these are the brilliantสุกใส scientistsนักวิทยาศาสตร์,
65
153000
2000
นี้คือสุดยอดนักวิทยาศาสตร์
02:50
engineersวิศวกร, designersนักออกแบบ that workedทำงาน on this projectโครงการ.
66
155000
2000
วิศวกร, นักออกแบบที่ทำงานในโครงการนี้
02:52
And I think it really bringsนำ to lightเบา:
67
157000
2000
และผมคิดว่ามันทำให้มีคำถามผุดขึ้นมาว่า
02:54
Is this really scalableสามารถปรับขนาดได้?
68
159000
2000
งานนี้ขยายผลออกไปได้จริงหรือเปล่า?
02:56
I mean, thousandsพัน of dollarsดอลลาร์, lots of man hoursชั่วโมง
69
161000
2000
เราใช้เงินหลายพันดอลลาร์ และจำนวนชั่วโมงทำงานมหาศาล
02:58
madeทำ to make this eight-footแปดฟุต robotหุ่นยนต์.
70
163000
3000
เพื่อสร้างเจ้าหุ่นยนต์แปดฟุตตัวนี้
03:01
Can we really scaleขนาด this up? Can we really embedฝัง roboticsหุ่นยนต์ into everyทุกๆ partส่วนหนึ่ง?
71
166000
3000
เราสามารถขยายผลออกไปได้จริงๆ หรือ? จะนำหุ่นยนต์นี้ไปใช้ในทุกๆ เรื่องได้จริงหรือ?
03:04
The nextต่อไป one questionsคำถาม that
72
169000
2000
คำถามถัดไปคือ
03:06
and looksรูปลักษณ์ at passiveอยู่เฉยๆ natureธรรมชาติ,
73
171000
2000
ตอนนี้ธรรมชาติของเจ้าหุ่นนี้
03:08
or passivelyอย่างอดทน tryingพยายาม to have reconfigurationเสียใหม่ programmabilityการเขียนโปรแกรม.
74
173000
3000
ยังทำงานตามโปรแกรมการปรับโครงสร้างตัวเองที่ถูกป้อนเข้าไป
03:11
But it goesไป a stepขั้นตอน furtherต่อไป,
75
176000
2000
แต่มันจะก้าวไปสู่ขั้นต่อไป
03:13
and it triesพยายาม to have actualที่จริง computationการคำนวณ.
76
178000
2000
นั่นคือ การพยายามทำให้มันคิดคำนวณได้เองจริงๆ
03:15
It basicallyเป็นพื้น embedsฝัง the mostมากที่สุด fundamentalพื้นฐาน buildingอาคาร blockกลุ่ม of computingการคำนวณ,
77
180000
2000
มันคือการฝังวงจรที่เป็นองค์ประกอบขั้นพื้นฐานที่สุดของคอมพิวเตอร์
03:17
the digitalดิจิตอล logicตรรกะ gateประตู,
78
182000
2000
นั่นคือดิจิตอล ลอจิกเกต (digital logic gate)
03:19
directlyโดยตรง into your partsชิ้นส่วน.
79
184000
2000
ลงไปในชิ้นส่วนต่างๆ โดยตรง
03:21
So this is a NANDNAND gateประตู.
80
186000
2000
อันนี้คือเกตแบบ NAND (NAND gate)
03:23
You have one tetrahedronจัตุรมุข whichที่ is the gateประตู
81
188000
2000
คุณมีโครงสร้างปิรามิดฐานสามเหลี่ยม
03:25
that's going to do your computingการคำนวณ,
82
190000
2000
ที่จะทำหน้าที่คำนวณให้คุณ
03:27
and you have two inputอินพุต tetrahedronsTetrahedrons.
83
192000
2000
และก็มีปิรามิดฐานสามเหลี่ยม 2 ชิ้นที่ป้อนข้อมูลเข้ามา
03:29
One of them is the inputอินพุต from the userผู้ใช้งาน, as you're buildingอาคาร your bricksอิฐ.
84
194000
3000
อันหนึ่งเป็นข้อมูลมาจากผู้ใช้ เหมือนเวลาคุณกำลังจะก่ออิฐ
03:32
The other one is from the previousก่อน brickอิฐ that was placedวางไว้.
85
197000
3000
ข้อมูลอีกส่วนหนึ่งมาจากอิฐที่เคยก่อไว้ก่อนหน้านี้
03:35
And then it givesจะช่วยให้ you an outputเอาท์พุต in 3D spaceช่องว่าง.
86
200000
3000
แล้วมันสุดท้ายมันจะให้ผลการคำนวณเป็นรูปแบบ 3 สามมิติ
03:38
So what this meansวิธี
87
203000
2000
นั่นหมายถึง
03:40
is that the userผู้ใช้งาน can startเริ่มต้น pluggingเสียบ in what they want the bricksอิฐ to do.
88
205000
3000
ผู้ใช้สามารถใส่ข้อมูลอะไรก็ตามที่พวกเขาอยากให้มันทำ
03:43
It computesคำนวณ on what it was doing before
89
208000
2000
แล้วมันก็จะคำนวณจากสิ่งที่มันเคยทำมาก่อน
03:45
and what you said you wanted it to do.
90
210000
2000
และข้อมูลที่คุณบอกว่าคุณอยากให้มันทำอะไร
03:47
And now it startsเริ่มต้น movingการเคลื่อนย้าย in three-dimensionalสามมิติ spaceช่องว่าง --
91
212000
2000
แล้วมันก็จะเริ่มเคลื่อนไหวในพื้นที่ 3 มิติ
03:49
so up or down.
92
214000
2000
เลื่อนขึ้นหรือเลื่อนลง
03:51
So on the left-handมือซ้าย sideด้าน, [1,1] inputอินพุต equalsเท่ากับ 0 outputเอาท์พุต, whichที่ goesไป down.
93
216000
3000
ทางซ้ายมือนี่ input [1,1] จะได้ output เท่ากับ 0 ซึ่งจะเป็นการเลื่อนลง
03:54
On the right-handมือขวา sideด้าน,
94
219000
2000
ส่วนภาพทางขวานี่
03:56
[0,0] inputอินพุต is a 1 outputเอาท์พุต, whichที่ goesไป up.
95
221000
3000
ข้อมูล input [0,0] ออกมาเป็น output เท่ากับ 1 ซึ่งจะเป็นการเลื่อนขึ้น
03:59
And so what that really meansวิธี
96
224000
2000
ดังนั้น นี่หมายถึงว่า
04:01
is that our structuresโครงสร้าง now containบรรจุ the blueprintsพิมพ์เขียว
97
226000
2000
ไอ้เจ้าโครงสร้างของเรานี้ ตอนนี้มันเก็บพิมพ์เขียว
04:03
of what we want to buildสร้าง.
98
228000
2000
ของสิ่งที่เราต้องการที่จะสร้างไว้
04:05
So they have all of the informationข้อมูล embeddedที่ฝัง in them of what was constructedสร้าง.
99
230000
3000
ดังนั้น มันมีข้อมูลทั้งหมดฝังอยู่ในตัว เกี่ยวกับสิ่งที่มันเคยสร้าง
04:08
So that meansวิธี that we can have some formฟอร์ม of self-replicationจำลองด้วยตนเอง.
100
233000
3000
นั่นหมายความว่า มันสามารถถอดแบบและสร้างตัวมันเองได้
04:11
In this caseกรณี I call it self-guidedแนะนำตัวเอง replicationการทำซ้ำ,
101
236000
3000
ผมเรียกมันว่าการถอดแบบจำลองโดยมีแนวทางในตัวเอง
04:14
because your structureโครงสร้าง containsมี the exactแน่นอน blueprintsพิมพ์เขียว.
102
239000
2000
เพราะโครงสร้างที่ว่านี้มีพิมพ์เขียวที่ชัดเจนอยู่แล้ว
04:16
If you have errorsข้อผิดพลาด, you can replaceแทนที่ a partส่วนหนึ่ง.
103
241000
2000
หากเกิดข้อผิดพลาดขึ้น คุณก็สามารถเปลี่ยนชิ้นส่วนนั้นได้
04:18
All the localในประเทศ informationข้อมูล is embeddedที่ฝัง to tell you how to fixแก้ไขปัญหา it.
104
243000
3000
ข้อมูลวิธีการแก้ไขทั้งหมดถูกฝังไว้ในระบบแล้ว
04:21
So you could have something that climbsปีนขึ้นไป alongตาม and readsอ่าน it
105
246000
2000
ดังนั้นคุณจึงมีโครงสร้างที่ค่อยๆ เคลื่อนไหวและอ่านพิมพ์เขียวนั้น
04:23
and can outputเอาท์พุต at one to one.
106
248000
2000
แล้วส่งข้อมูลออกไปหากันและกัน
04:25
It's directlyโดยตรง embeddedที่ฝัง; there's no externalภายนอก instructionsคำแนะนำ.
107
250000
2000
ระบบนี้ถูกฝังโดยตรงอยู่ภายในโครงสร้าง; มีไม่มีคำสั่งภายนอก
04:27
So the last projectโครงการ I'll showแสดง is calledเรียกว่า Biasedลำเอียง Chainsห่วงโซ่,
108
252000
3000
สุดท้าย โครงการล่าสุดที่ผมจะให้คุณดูเรียกว่า Biased Chains
04:30
and it's probablyอาจ the mostมากที่สุด excitingน่าตื่นเต้น exampleตัวอย่าง that we have right now
109
255000
3000
น่าจะเป็นตัวอย่างที่น่าตื่นเต้นที่สุดที่เรามีในตอนนี้
04:33
of passiveอยู่เฉยๆ self-assemblyตนเองประกอบ systemsระบบ.
110
258000
2000
ของระบบที่สร้างประกอบตัวเองตามโปรแกรมที่ได้รับ
04:35
So it takes the reconfigurabilityreconfigurability
111
260000
2000
ความสามารถในการปรับเปลี่ยนโครงสร้าง
04:37
and programmabilityการเขียนโปรแกรม
112
262000
2000
และการที่เราสามารถตั้งโปรแกรมให้มันได้
04:39
and makesยี่ห้อ it a completelyอย่างสมบูรณ์ passiveอยู่เฉยๆ systemระบบ.
113
264000
3000
ทำให้มันเป็นระบบที่ทำตามคำสั่งได้โดยสมบูรณ์
04:43
So basicallyเป็นพื้น you have a chainโซ่ of elementsองค์ประกอบ.
114
268000
2000
เอาล่ะ อธิบายง่ายๆ คือคุณมีห่วงโซ่ขององค์ประกอบ
04:45
Eachแต่ละ elementธาตุ is completelyอย่างสมบูรณ์ identicalเหมือนกัน,
115
270000
2000
แต่ละองค์ประกอบจะเหมือนกันเป๊ะ
04:47
and they're biasedลำเอียง.
116
272000
2000
แล้วก็มีความโน้มเอียง
04:49
So eachแต่ละ chainโซ่, or eachแต่ละ elementธาตุ, wants to turnกลับ right or left.
117
274000
3000
คือ ห่วงโซ่แต่ห่วงมีความโน้มเอียงที่จะเลี้ยวขวาหรือซ้าย
04:52
So as you assembleรวบรวม the chainโซ่, you're basicallyเป็นพื้น programmingการเขียนโปรแกรม it.
118
277000
3000
ดังนั้นเมื่อคุณประกอบห่วงโซ่ ก็เหมือนคุณเขียนโปรแกรมให้มัน
04:55
You're tellingบอก eachแต่ละ unitหน่วย if it should turnกลับ right or left.
119
280000
3000
คุณบอกแต่ละหน่วยว่ามันควรจะเลี้ยวขวาหรือซ้าย
04:58
So when you shakeเขย่า the chainโซ่,
120
283000
3000
แล้วเมื่อคุณเขย่าห่วงโซ่
05:01
it then foldsเท่า up
121
286000
2000
มันก็พับขึ้น
05:03
into any configurationองค์ประกอบ that you've programmedโปรแกรม in --
122
288000
3000
เป็นรูปแบบตามที่คุณได้ตั้งโปรแกรมไว้
05:06
so in this caseกรณี, a spiralเกลียว,
123
291000
2000
อย่างอันนี้ กลายเป็นเกลียว
05:08
or in this caseกรณี,
124
293000
3000
ส่วนอันนี้
05:11
two cubesลูกบาศก์ nextต่อไป to eachแต่ละ other.
125
296000
3000
เป็นลูกบาศก์สองอันติดกัน
05:14
So you can basicallyเป็นพื้น programโครงการ
126
299000
2000
ดังนั้นคุณจึงสามารถเขียนโปรแกรม
05:16
any three-dimensionalสามมิติ shapeรูปร่าง --
127
301000
2000
รูปร่างสามมิติอะไรก็ได้
05:18
or one-dimensionalหนึ่งมิติ, two-dimensionalสองมิติ -- up into this chainโซ่ completelyอย่างสมบูรณ์ passivelyอย่างอดทน.
128
303000
3000
หรือจะหนึ่งมิติสองมิติก็ได้ เพราะห่วงโซ่นี้มันทำตามคำสั่งที่เราตั้งโปรแกรมให้หมด
05:21
So what does this tell us about the futureอนาคต?
129
306000
2000
เอาล่ะ แล้วสิ่งเหล่านี้บอกอะไรเราเกี่ยวกับอนาคต?
05:23
I think that it's tellingบอก us
130
308000
2000
ผมคิดว่ามันบอกเราว่า
05:25
that there's newใหม่ possibilitiesความเป็นไปได้ for self-assemblyตนเองประกอบ, replicationการทำซ้ำ, repairซ่อมแซม
131
310000
3000
มีความเป็นไปได้ ที่เราจะมีสิ่งที่สร้าง จำลองแบบ และซ่อมแซมตัวเอง
05:28
in our physicalกายภาพ structuresโครงสร้าง, our buildingsสิ่งปลูกสร้าง, machinesเครื่อง.
132
313000
3000
ในโครงสร้างทางกายภาพ อาคาร และเครื่องจักรที่เราใช้
05:31
There's newใหม่ programmabilityการเขียนโปรแกรม in these partsชิ้นส่วน.
133
316000
2000
เราสามารถตั้งโปรแกรมในชิ้นส่วนของสิ่งเหล่านี้ได้มากขึ้น
05:33
And from that you have newใหม่ possibilitiesความเป็นไปได้ for computingการคำนวณ.
134
318000
2000
ซึ่งนั่นทำให้เรามีความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในการคำนวณและประมวลผล
05:35
We'llดี have spatialเกี่ยวกับอวกาศ computingการคำนวณ.
135
320000
2000
เราจะมีการคำนวณเชิงพื้นที่
05:37
Imagineจินตนาการ if our buildingsสิ่งปลูกสร้าง, our bridgesสะพาน, machinesเครื่อง,
136
322000
2000
ลองคิดดูสิ หากอาคาร, สะพาน, เครื่องจักร
05:39
all of our bricksอิฐ could actuallyแท้จริง computeคำนวณ.
137
324000
2000
และก้อนอิฐทั้งหมดสามารถคิดคำนวณเองได้
05:41
That's amazingน่าอัศจรรย์ parallelขนาน and distributedกระจาย computingการคำนวณ powerอำนาจ,
138
326000
2000
นั่นเป็นพลังการคำนวณและประมวลผลที่น่าทึ่ง
05:43
newใหม่ designออกแบบ possibilitiesความเป็นไปได้.
139
328000
2000
มันคือความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในการออกแบบ
05:45
So it's excitingน่าตื่นเต้น potentialที่อาจเกิดขึ้น for this.
140
330000
2000
เป็นศักยภาพที่น่าตื่นเต้นสำหรับงานชิ้นนี้
05:47
So I think these projectsโครงการ I've showedแสดงให้เห็นว่า here
141
332000
2000
ผมคิดว่าโครงการเหล่านี้ที่ผมแสดงให้คุณดู
05:49
are just a tinyขนาดเล็ก stepขั้นตอน towardsไปทาง this futureอนาคต,
142
334000
2000
เป็นเพียงขั้นตอนเล็ก ๆ ไปสู่​​อนาคต
05:51
if we implementการดำเนินการ these newใหม่ technologiesเทคโนโลยี
143
336000
2000
ถ้าเรานำเทคโนโลยีใหม่เหล่านี้ไปใช้
05:53
for a newใหม่ self-assemblingตนเองประกอบ worldโลก.
144
338000
2000
เพื่อสร้างโลกใหม่ที่สร้างตัวมันเองได้ด้วยตัวมันเอง
05:55
Thank you.
145
340000
2000
ขอบคุณครับ
05:57
(Applauseการปรบมือ)
146
342000
2000
(เสียงปรบมือ)

▲Back to top

ABOUT THE SPEAKER
Skylar Tibbits - Inventor
Skylar Tibbits, a TED Fellow, is an artist and computational architect working on "smart" components that can assemble themselves.

Why you should listen

Can we create objects that assemble themselves -- that zip together like a strand of DNA or that have the ability for transformation embedded into them? These are the questions that Skylar Tibbits investigates in his Self-Assembly Lab at MIT, a cross-disciplinary research space where designers, scientists and engineers come together to find ways for disordered parts to become ordered structures. 

A trained architect, designer and computer scientist, Tibbits teaches design studios at MIT’s Department of Architecture and co-teaches the seminar “How to Make (Almost) Anything” at MIT’s Media Lab. Before that, he worked at a number of design offices including Zaha Hadid Architects, Asymptote Architecture, SKIII Space Variations and Point b Design. His work has been shown at the Guggenheim Museum and the Beijing Biennale. 

Tibbits has collaborated with a number of influential people over the years, including Neil Gershenfeld and The Center for Bits and Atoms, Erik and Marty Demaine at MIT, Adam Bly at SEED Media Group and Marc Fornes of THEVERYMANY. In 2007, he and Marc Fornes co-curated Scriptedbypurpose, the first exhibition focused exclusively on scripted processes within design. Also in 2007, he founded SJET, a multifaceted practice and research platform for experimental computation and design. SJET crosses disciplines from architecture and design, fabrication, computer science and robotics.

More profile about the speaker
Skylar Tibbits | Speaker | TED.com

Data provided by TED.

This site was created in May 2015 and the last update was on January 12, 2020. It will no longer be updated.

We are currently creating a new site called "eng.lish.video" and would be grateful if you could access it.

If you have any questions or suggestions, please feel free to write comments in your language on the contact form.

Privacy Policy

Developer's Blog

Buy Me A Coffee