ABOUT THE SPEAKER
Neil Burgess - Neuroscientist
At University College in London, Neil Burgess researches how patterns of electrical activity in brain cells guide us through space.

Why you should listen

Neil Burgessis is deputy director of the Institute of Cognitive Neuroscience at University College London, where he investigates of the role of the hippocampus in spatial navigation and episodic memory. His research is directed at answering questions such as: How are locations represented, stored and used in the brain? What processes and which parts of the brain are involved in remembering the spatial and temporal context of everyday events, and in finding one's way about?

To explore this space, he and his team use a range of methods for gathering data, including pioneering uses of virtual reality, as well as computational modelling and electrophysiological analysis of the function of hippocampal neurons in the rat, functional imaging of human navigation, and neuropsychological experiments on spatial and episodic memory.

A parallel interest: Investigating our human short-term memory for serial order, or how we know our 123s.

More profile about the speaker
Neil Burgess | Speaker | TED.com
TEDSalon London Spring 2011

Neil Burgess: How your brain tells you where you are

นีล เบอร์เกส : สมองของคุณรู้ได้อย่างไรว่าคุณอยู่ที่ไหน

Filmed:
1,458,267 views

คุณจำได้อย่างไรว่าคุณจอดรถอยู่ที่ไหน คุณรู้ได้อย่างไรว่าคุณกำลังเคลื่อนตัวไปถูกทาง คุณนีล เบอร์เกส นักประสาทวิทยา ได้ศึกษากลไกของสมองในการระบุตำแหน่งรอบตัวเรา และเชื่อมโยงกับความจำและจินตนาการของเราอย่างไร
- Neuroscientist
At University College in London, Neil Burgess researches how patterns of electrical activity in brain cells guide us through space. Full bio

Double-click the English transcript below to play the video.

00:15
When we parkจอด in a bigใหญ่ parkingที่จอดรถ lot,
0
0
2000
เมื่อเรานำรถเข้าจอดในลานจอดรถขนาดใหญ่
00:17
how do we rememberจำ where we parkedที่จอดอยู่ our carรถ?
1
2000
2000
เราสามารถจำจุดที่เราจอดรถได้อย่างไร
00:19
Here'sต่อไปนี้คือ the problemปัญหา facingเผชิญ Homerโฮเมอร์.
2
4000
3000
นี่คือปัญหาที่คุณโฮเมอร์(การ์ตูน ซิมป์สัน) กำลังประสบ
00:22
And we're going to try to understandเข้าใจ
3
7000
2000
และเรากำลังพยายามทำความเข้าใจ
00:24
what's happeningสิ่งที่เกิดขึ้น in his brainสมอง.
4
9000
2000
สิ่งที่เกิดขึ้นในสมองของเขา
00:26
So we'llดี startเริ่มต้น with the hippocampusฮิบโป, shownแสดงให้เห็นว่า in yellowสีเหลือง,
5
11000
2000
เราจะเริ่มต้นที่สมองส่วนที่ชื่อว่าฮิปโปแคมปัส(hippocampus)
แสดงด้วยสีเหลืองในรูป
00:28
whichที่ is the organอวัยวะ of memoryหน่วยความจำ.
6
13000
2000
ซึ่งเป็นอวัยวะหน่วยความจำ
00:30
If you have damageความเสียหาย there, like in Alzheimer'sอัลไซเม,
7
15000
2000
ที่หากได้รับความเสียหาย
เช่นในกรณีเป็นโรคความจำเสื่อม (Alzheimer)
00:32
you can't rememberจำ things includingรวมไปถึง where you parkedที่จอดอยู่ your carรถ.
8
17000
2000
คุณจะไม่สามารถจำสิ่งใด รวมทั้งจุดที่คุณจอดรถ
00:34
It's namedชื่อ after Latinละติน for "seahorseม้าน้ำ,"
9
19000
2000
มันมีลักษณะคล้ายม้าน้ำ
00:36
whichที่ it resemblesคล้าย.
10
21000
2000
จึงถูกเรียกว่าฮิปโปแคมปัสซึงแปลว่าม้าน้ำในภาษาละติน
00:38
And like the restส่วนที่เหลือ of the brainสมอง, it's madeทำ of neuronsเซลล์ประสาท.
11
23000
2000
มันประกอบด้วยเซลล์ประสาทเหมือนกับสมองส่วนอื่น ๆ
00:40
So the humanเป็นมนุษย์ brainสมอง
12
25000
2000
สมองของมนุษย์
00:42
has about a hundredร้อย billionพันล้าน neuronsเซลล์ประสาท in it.
13
27000
2000
ประกอบด้วยเซลล์ประสาทประมาณหนึ่งแสนล้านเซลล์
00:44
And the neuronsเซลล์ประสาท communicateสื่อสาร with eachแต่ละ other
14
29000
3000
และเซลล์ประสาทเหล่านี้จะสื่อสารกัน
00:47
by sendingการส่ง little pulsesพัลส์ or spikesแหลม of electricityไฟฟ้า
15
32000
2000
ด้วยการส่งคลื่นไฟฟ้าขนาดเล็ก
00:49
viaผ่านทาง connectionsสัมพันธ์ to eachแต่ละ other.
16
34000
2000
ผ่านส่วนเชื่อมต่อถึงกันและกัน
00:51
The hippocampusฮิบโป is formedรูปแบบ of two sheetsแผ่น of cellsเซลล์,
17
36000
3000
ฮิปโปแคมปัสถูกสร้างด้วยแผ่นเซลล์สมองสองแผ่น
00:54
whichที่ are very denselyหนาแน่น interconnectedที่เชื่อมต่อกัน.
18
39000
2000
ที่เชื่อมต่อกันอย่างหนาแน่นมาก
00:56
And scientistsนักวิทยาศาสตร์ have begunเริ่ม to understandเข้าใจ
19
41000
2000
และนักวิทยาศาสตร์ได้เริ่มเข้าใจ
00:58
how spatialเกี่ยวกับอวกาศ memoryหน่วยความจำ worksโรงงาน
20
43000
2000
ว่าหน่วยความจำส่วนที่จดจำสถานที่และตำแหน่งทำงานอย่างไร
01:00
by recordingการบันทึก from individualรายบุคคล neuronsเซลล์ประสาท
21
45000
2000
โดยการบันทึกแต่ละเซลล์ประสาท
01:02
in ratsหนู or miceหนู
22
47000
2000
ในหนู
01:04
while they forageอาหารสัตว์ or exploreสำรวจ an environmentสิ่งแวดล้อม
23
49000
2000
ขณะที่พวกมันเที่ยวหาหรือสำรวจพื้นที่
01:06
looking for foodอาหาร.
24
51000
2000
เพื่อหาอาหาร
01:08
So we're going to imagineจินตนาการ we're recordingการบันทึก from a singleเดียว neuronเซลล์ประสาท
25
53000
3000
ตอนนี้เราจะจินตนาการว่า
เรากำลังบันทึกจากเซลล์ประสาทหนึ่งเซลล์
01:11
in the hippocampusฮิบโป of this ratหนู here.
26
56000
3000
ที่อยู่ในฮิปโปแคมปัสของหนู
01:14
And when it firesไฟไหม้ a little spikeขัดขวาง of electricityไฟฟ้า,
27
59000
2000
และเมื่อเซลล์ส่งคลื่นไฟฟ้าขนาดเล็กออกมา
01:16
there's going to be a redสีแดง dotจุด and a clickคลิก.
28
61000
3000
ก็จะมีจุดสีแดงปรากฏขึ้นพร้อมกับเสียง คลิก
01:19
So what we see
29
64000
2000
ดังนั้นสิ่งที่เราเห็น
01:21
is that this neuronเซลล์ประสาท knowsรู้
30
66000
2000
ก็คือเซลล์ประสาทรับรู้
01:23
wheneverเมื่อไรก็ตาม the ratหนู has goneที่ไปแล้ว into one particularโดยเฉพาะ placeสถานที่ in its environmentสิ่งแวดล้อม.
31
68000
3000
เมื่อใดก็ตามที่หนูไปยังตำแหน่งหนึ่ง ๆ ภายในพื้นที่
01:26
And it signalsสัญญาณ to the restส่วนที่เหลือ of the brainสมอง
32
71000
2000
และมันจะส่งสัญญาณไปยังสมองส่วนอื่น
01:28
by sendingการส่ง a little electricalไฟฟ้า spikeขัดขวาง.
33
73000
3000
ด้วยการส่งคลื่นไฟฟ้าขนาดเล็ก
01:31
So we could showแสดง the firingยิง rateอัตรา of that neuronเซลล์ประสาท
34
76000
3000
ดังนั้นเราจึงสามารถแสดง
อัตราการส่งสัญญาณของเซลล์ประสาทนี้
01:34
as a functionฟังก์ชัน of the animal'sสัตว์ locationที่ตั้ง.
35
79000
2000
ที่แปรผันตามตำแหน่งของหนูได้
01:36
And if we recordบันทึก from lots of differentต่าง neuronsเซลล์ประสาท,
36
81000
2000
และถ้าเราบันทึกจากหลาย ๆ เซลล์ประสาทที่แตกต่างกัน
01:38
we'llดี see that differentต่าง neuronsเซลล์ประสาท fireไฟ
37
83000
2000
เราจะเห็นว่า
เป็นเซลล์ประสาทที่ต่างกันที่ส่งสัญญาณออกมา
01:40
when the animalสัตว์ goesไป in differentต่าง partsชิ้นส่วน of its environmentสิ่งแวดล้อม,
38
85000
2000
ขณะเมื่อหนูอยู่ในตำแหน่งที่แตกต่างกัน
01:42
like in this squareสี่เหลี่ยม boxกล่อง shownแสดงให้เห็นว่า here.
39
87000
2000
เหมือนในรูปสี่เหลี่ยมแต่ละอันที่คุณเห็นอยู่นี้
01:44
So togetherด้วยกัน they formฟอร์ม a mapแผนที่
40
89000
2000
ซึ่งเมือนำทั้งหมดนี้มารวมกันก็จะเกิดเป็นแผนที่
01:46
for the restส่วนที่เหลือ of the brainสมอง,
41
91000
2000
สำหรับสมองส่วนอื่นๆ
01:48
tellingบอก the brainสมอง continuallyเรื่อย,
42
93000
2000
เพื่อบอกกับสมองอย่างต่อเนื่องว่า
01:50
"Where am I now withinภายใน my environmentสิ่งแวดล้อม?"
43
95000
2000
ขณะนี้ฉันอยู่ในตำแหน่งใดของพื้นที่?
01:52
Placeสถานที่ cellsเซลล์ are alsoด้วย beingกำลัง recordedบันทึก in humansมนุษย์.
44
97000
3000
เพลสเซลล์ (Place Cell) ก็ถูกบันทึกในมนุษย์เช่นเดียวกัน
01:55
So epilepsyโรคลมบ้าหมู patientsผู้ป่วย sometimesบางครั้ง need
45
100000
2000
ผู้ป่วยโรคลมชักบางครั้งต้อง
01:57
the electricalไฟฟ้า activityกิจกรรม in theirของพวกเขา brainสมอง monitoringการตรวจสอบ.
46
102000
3000
เข้ารับการตรวจคลื่นไฟฟ้าในสมองของพวกเขา
02:00
And some of these patientsผู้ป่วย playedเล่น a videoวีดีโอ gameเกม
47
105000
2000
และผู้ป่วยบางคนจะเล่นวิดีโอเกม
02:02
where they driveขับรถ around a smallเล็ก townตัวเมือง.
48
107000
2000
ที่จำลองว่าเขาขับรถไปรอบๆ เมืองเล็กๆ
02:04
And placeสถานที่ cellsเซลล์ in theirของพวกเขา hippocampihippocampi would fireไฟ, becomeกลายเป็น activeคล่องแคล่ว,
49
109000
3000
และเพลสเซลล์ในฮิปโปแคมปัสก็จะตื่นตัว
02:07
startเริ่มต้น sendingการส่ง electricalไฟฟ้า impulsesแรงกระตุ้น
50
112000
3000
และเริ่มส่งคลื่นไฟฟ้าออกมา
02:10
wheneverเมื่อไรก็ตาม they droveฝูง throughตลอด a particularโดยเฉพาะ locationที่ตั้ง in that townตัวเมือง.
51
115000
3000
เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาขับรถผ่านสถานที่ใดสถานที่หนึ่งในเมืองนั้น
02:13
So how does a placeสถานที่ cellเซลล์ know
52
118000
2000
แล้วเพลสเซลล์รู้
02:15
where the ratหนู or personคน is withinภายใน its environmentสิ่งแวดล้อม?
53
120000
3000
ตำแหน่งของหนูหรือบุคคลภายในพื้นที่ได้อย่าง?
02:18
Well these two cellsเซลล์ here
54
123000
2000
เซลล์สองอันที่เห็นอยู่นี้
02:20
showแสดง us that the boundariesขอบเขต of the environmentสิ่งแวดล้อม
55
125000
2000
แสดงให้เราเห็นว่า เส้นขอบเขตของพื้นที่
02:22
are particularlyโดยเฉพาะ importantสำคัญ.
56
127000
2000
คือสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง
02:24
So the one on the topด้านบน
57
129000
2000
เซลล์ที่อยู่ข้างบน
02:26
likesชอบ to fireไฟ sortประเภท of midwayตรงกลาง betweenระหว่าง the wallsผนัง
58
131000
2000
จะส่งสัญญาณ
ขณะที่หนูอยู่ในตำแหน่งแถว ๆ ตรงกลางระหว่างผนัง
02:28
of the boxกล่อง that theirของพวกเขา rat'sหนู in.
59
133000
2000
ของกล่อง
02:30
And when you expandขยายตัว the boxกล่อง, the firingยิง locationที่ตั้ง expandsขยาย.
60
135000
3000
และเมื่อคุณขยายกล่อง
ตำแหน่งที่เกิดการส่งสัญญาณก็จะขยายตาม
02:33
The one belowด้านล่าง likesชอบ to fireไฟ
61
138000
2000
เซลล์ด้านล่างก็จะส่งสัญญาณ
02:35
wheneverเมื่อไรก็ตาม there's a wallผนัง closeปิด by to the southทางทิศใต้.
62
140000
3000
เมื่อใดก็ตามที่มีผนังอยู่ใกล้ ๆ ทางทิศใต้
02:38
And if you put anotherอื่น wallผนัง insideภายใน the boxกล่อง,
63
143000
2000
และถ้าคุณใส่กำแพงอีกอันเข้าไปภายในกล่อง
02:40
then the cellเซลล์ firesไฟไหม้ in bothทั้งสอง placeสถานที่
64
145000
2000
เซลล์ก็จะส่งสัญญาณในทั้งสองตำแหน่ง
02:42
whereverที่ไหนก็ตาม there's a wallผนัง to the southทางทิศใต้
65
147000
2000
ซึ่งมีกำแพงผนังอยู่ใกล้ๆ ทางทิศใต้
02:44
as the animalสัตว์ exploresสำรวจ around in its boxกล่อง.
66
149000
3000
ขณะที่หนูวิ่งสำรวจไปรอบๆ ในกล่องของมัน
02:48
So this predictsคาดการณ์
67
153000
2000
ดังนั้น สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่า
02:50
that sensingการตรวจจับ the distancesระยะทาง and directionsคำสั่ง of boundariesขอบเขต around you --
68
155000
2000
การตรวจจับระยะและทิศทางของกำแพงรอบๆ ตัวคุณ
02:52
extendedขยาย buildingsสิ่งปลูกสร้าง and so on --
69
157000
2000
และอาคารถัดไป ถัดไป
02:54
is particularlyโดยเฉพาะ importantสำคัญ for the hippocampusฮิบโป.
70
159000
3000
เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับฮิปโปแคมปัส
02:57
And indeedจริง, on the inputsปัจจัยการผลิต to the hippocampusฮิบโป,
71
162000
2000
อันที่จริง ณ ขณะที่ส่งข้อมูลเข้าไปที่ฮิปโปแคมปัส
02:59
cellsเซลล์ are foundพบ whichที่ projectโครงการ into the hippocampusฮิบโป,
72
164000
2000
เซลล์จะรู้ว่าอันไหนในฮิปโปแคมปัส
03:01
whichที่ do respondตอบสนอง exactlyอย่างแน่นอน
73
166000
2000
จะตอบสนอง
03:03
to detectingการตรวจสอบ boundariesขอบเขต or edgesขอบ
74
168000
3000
เพื่อการตรวจจับแนวเขตกำแพงหรือขอบ
03:06
at particularโดยเฉพาะ distancesระยะทาง and directionsคำสั่ง
75
171000
2000
ที่มีระยะและทิศทางหนึ่งๆ
03:08
from the ratหนู or mouseเม้าส์
76
173000
2000
จากตัวหนู
03:10
as it's exploringการสำรวจ around.
77
175000
2000
ขณะที่มันสำรวจไปรอบๆ
03:12
So the cellเซลล์ on the left, you can see,
78
177000
2000
ซึ่งคุณจะเห็นว่าเซลล์ด้านซ้ายมือ
03:14
it firesไฟไหม้ wheneverเมื่อไรก็ตาม the animalสัตว์ getsได้รับ nearใกล้
79
179000
2000
จะส่งสัญญาณเมื่อไหร่ก็ตามที่หนูเข้ามาใกล้
03:16
to a wallผนัง or a boundaryเขตแดน to the eastทางทิศตะวันออก,
80
181000
3000
กับกำแพงหรือสุดผนังทางทิศตะวันออก
03:19
whetherว่า it's the edgeขอบ or the wallผนัง of a squareสี่เหลี่ยม boxกล่อง
81
184000
3000
ไม่ว่าจะเป็นสุดขอบหรือสุดผนังของกล่องสี่เหลี่ยม
03:22
or the circularกลม wallผนัง of the circularกลม boxกล่อง
82
187000
2000
หรือผนังของกล่องทรงกลม
03:24
or even the dropหล่น at the edgeขอบ of a tableตาราง, whichที่ the animalsสัตว์ are runningวิ่ง around.
83
189000
3000
หรือแม้แต่หยดน้ำที่ขอบโต๊ะ ซึ่งหนูกำลังวิ่งอยู่รอบๆ
03:27
And the cellเซลล์ on the right there
84
192000
2000
และเซลล์ที่อยู่ด้านขวานั้น
03:29
firesไฟไหม้ wheneverเมื่อไรก็ตาม there's a boundaryเขตแดน to the southทางทิศใต้,
85
194000
2000
จะส่งสัญญาณ เมื่อสุดเขตทางทิศใต้
03:31
whetherว่า it's the dropหล่น at the edgeขอบ of the tableตาราง or a wallผนัง
86
196000
2000
ไม่ว่าจะเป็นหยดน้ำที่ขอบของโต๊ะหรือกำแพง
03:33
or even the gapช่องว่าง betweenระหว่าง two tablesตาราง that are pulledดึง apartต่างหาก.
87
198000
3000
หรือแม้กระทั่งช่องว่างระหว่างโต๊ะสองตัวที่ถูกดึงออกจากกัน
03:36
So that's one way in whichที่ we think
88
201000
2000
ซึ่งนั่นก็คือ วิธีหนึ่งที่เราคิดว่า
03:38
placeสถานที่ cellsเซลล์ determineกำหนด where the animalสัตว์ is as it's exploringการสำรวจ around.
89
203000
3000
เพลสเซลล์ใช้บอกตำแหน่งของหนูขณะมันสำรวจไปรอบๆ
03:41
We can alsoด้วย testทดสอบ where we think objectsวัตถุ are,
90
206000
3000
นอกจากนี้เรายังสามารถทดสอบ
กับกรณีที่เราคิดว่าวัตถุตั้งอยู่ที่ใด
03:44
like this goalเป้าหมาย flagธง, in simpleง่าย environmentsสภาพแวดล้อม --
91
209000
3000
เช่น ธงอันนี้ปักอยู่ตรงไหนของพื้นที่
03:47
or indeedจริง, where your carรถ would be.
92
212000
2000
หรืออาจจะเป็น ตำแหน่งที่รถของคุณจอดอยู่
03:49
So we can have people exploreสำรวจ an environmentสิ่งแวดล้อม
93
214000
3000
ดังนั้นเราจะให้คนสำรวจไปรอบๆ พื้นที่
03:52
and see the locationที่ตั้ง they have to rememberจำ.
94
217000
3000
และดูตำแหน่งที่พวกเขาต้องจดจำ
03:55
And then, if we put them back in the environmentสิ่งแวดล้อม,
95
220000
2000
และจากนั้น ถ้าเราให้พวกเขากลับเข้าไปในพื้นที่
03:57
generallyโดยทั่วไป they're quiteทีเดียว good at puttingวาง a markerเครื่องหมาย down
96
222000
2000
โดยทั่วไปแล้ว พวกสามารถจะระบุตำแหน่ง
03:59
where they thought that flagธง or theirของพวกเขา carรถ was.
97
224000
3000
ที่พวกเขาคิดว่าเคยมีธงหรือรถของพวกเขาเคยจอดอยู่
ได้อย่างถูกต้อง
04:02
But on some trialsการทดลอง,
98
227000
2000
แต่ในการทดลองบางครั้ง
04:04
we could changeเปลี่ยนแปลง the shapeรูปร่าง and sizeขนาด of the environmentสิ่งแวดล้อม
99
229000
2000
เราจะเปลี่ยนรูปร่างและขนาดของพื้นที่
04:06
like we did with the placeสถานที่ cellเซลล์.
100
231000
2000
เหมือนที่เราทำกับเพลสเซลล์
04:08
In that caseกรณี, we can see
101
233000
2000
ในกรณีนี้ เราจะเห็นว่า
04:10
how where they think the flagธง had been changesการเปลี่ยนแปลง
102
235000
3000
การเปลี่ยนตำแหน่งของธงในความคิดของพวกเขา
04:13
as a functionฟังก์ชัน of how you changeเปลี่ยนแปลง the shapeรูปร่าง and sizeขนาด of the environmentสิ่งแวดล้อม.
103
238000
3000
แปรผันตาม
การเปลี่ยนรูปร่างและขนาดของพื้นที่ของคุณอย่างไร
04:16
And what you see, for exampleตัวอย่าง,
104
241000
2000
และสิ่งที่คุณจะเห็น ตัวอย่างเช่น
04:18
if the flagธง was where that crossข้าม was in a smallเล็ก squareสี่เหลี่ยม environmentสิ่งแวดล้อม,
105
243000
3000
ถ้าธงเคยปักอยู่ในตำแหน่งที่ทำเครื่องหมายในพื้นที่สี่เหลี่ยมเล็กนี้
04:21
and then if you askถาม people where it was,
106
246000
2000
แล้วถ้าคุณถามเขาว่าธงเคยปักอยู่ที่ใหน
04:23
but you've madeทำ the environmentสิ่งแวดล้อม biggerที่ใหญ่กว่า,
107
248000
2000
โดยที่คุณได้ขยายพื้นที่ให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม
04:25
where they think the flagธง had been
108
250000
2000
ตำแหน่งที่พวกเขาคิดว่าธงเคยปักอยู่
04:27
stretchesเหยียด out in exactlyอย่างแน่นอน the sameเหมือนกัน way
109
252000
2000
จะเลื่อนออกไปเช่นเดียวกับ
04:29
that the placeสถานที่ cellเซลล์ firingยิง stretchedยืด out.
110
254000
2000
เพลสเซลล์ซึ่งส่งสัญญาณถูกขยายออกไป
04:31
It's as if you rememberจำ where the flagธง was
111
256000
2000
มันเหมือนกับว่าคุณจำว่าธงเคยปักอยู่ที่ตรงไหน
04:33
by storingการเก็บรักษา the patternแบบแผน of firingยิง acrossข้าม all of your placeสถานที่ cellsเซลล์
112
258000
3000
โดยการเก็บบันทึก
รูปแบบการส่งสัญญาณของเพลสเซลล์ทั้งหมดของคุณ
04:36
at that locationที่ตั้ง,
113
261000
2000
ที่ตำแหน่งนั้นไว้
04:38
and then you can get back to that locationที่ตั้ง
114
263000
2000
และคุณสามารถกลับไปยังตำแหน่งเดิม
04:40
by movingการเคลื่อนย้าย around
115
265000
2000
ได้โดยการเคลื่อนที่ไปรอบ ๆ
04:42
so that you bestดีที่สุด matchการจับคู่ the currentปัจจุบัน patternแบบแผน of firingยิง of your placeสถานที่ cellsเซลล์
116
267000
2000
เพื่อให้คุณสามารถสร้างรูปแบบการส่งสัญญาณของเพลสเซลล์
ณ ปัจจุบันของคุณให้ใกล้เคียงกับ
04:44
with that storedเก็บไว้ patternแบบแผน.
117
269000
2000
รูปแบบที่ได้ถูกเก็บบันทึกไว้ก่อนหน้า
04:46
That guidesคำแนะนำ you back to the locationที่ตั้ง that you want to rememberจำ.
118
271000
3000
มันนำทางคุณกลับไปยังตำแหน่งที่คุณต้องการจดจำ
04:49
But we alsoด้วย know where we are throughตลอด movementการเคลื่อนไหว.
119
274000
3000
นอกจากนี้
เรายังทราบตำแหน่งของเราผ่านทางการเคลื่อนที่
04:52
So if we take some outboundออกไปข้างนอก pathเส้นทาง --
120
277000
2000
ถ้าหากเราเคลื่อนที่ในทิศทางออกสู่ข้างนอก
04:54
perhapsบางที we parkจอด and we wanderระเหเร่ร่อน off --
121
279000
2000
เช่น เราจอดรถและเราก็เดินออกไป
04:56
we know because our ownด้วยตัวเอง movementsการเคลื่อนไหว,
122
281000
2000
เรารู้เพราะว่าการเคลื่อนที่ของเรา
04:58
whichที่ we can integrateรวบรวม over this pathเส้นทาง
123
283000
2000
ซึ่งเราสามารถรวมเส้นทางเดินนี้เข้าไป
05:00
roughlyลวก what the headingหัวข้อ directionทิศทาง is to go back.
124
285000
2000
โดยประมาณว่าเราจะต้องเคลื่อนที่ในทิศทางใดในการที่จะกลับมา
05:02
And placeสถานที่ cellsเซลล์ alsoด้วย get this kindชนิด of pathเส้นทาง integrationบูรณาการ inputอินพุต
125
287000
4000
และเพลสเซลล์สามารถรับรู้ข้อมูลเส้นทางเดินนี้
05:06
from a kindชนิด of cellเซลล์ calledเรียกว่า a gridตะแกรง cellเซลล์.
126
291000
3000
จากเซลล์ที่เรียกว่ากริดเซลล์ (Grid Cell)
05:09
Now gridตะแกรง cellsเซลล์ are foundพบ, again,
127
294000
2000
และกริดเซลล์จะถูกค้นพบและดึงออกมา,เช่นกัน,
05:11
on the inputsปัจจัยการผลิต to the hippocampusฮิบโป,
128
296000
2000
ณ ขณะที่ส่งข้อมูลเข้าไปยังฮิปโปแคมปัส
05:13
and they're a bitบิต like placeสถานที่ cellsเซลล์.
129
298000
2000
และพวกมันก็คล้ายกับเพลสเซลล์
05:15
But now as the ratหนู exploresสำรวจ around,
130
300000
2000
แต่ว่า ในขณะที่หนูสำรวจไปรอบๆ
05:17
eachแต่ละ individualรายบุคคล cellเซลล์ firesไฟไหม้
131
302000
2000
แต่ละเซลล์จะส่งสัญญาณออกมา
05:19
in a wholeทั้งหมด arrayแถว of differentต่าง locationsสถานที่
132
304000
3000
ในทุก ๆ ตำแหน่งที่ต่างกัน
05:22
whichที่ are laidได้ปล่อยแล้ว out acrossข้าม the environmentสิ่งแวดล้อม
133
307000
2000
ครอบคลุมพื้นที่ทั่วทั้งหมด
05:24
in an amazinglyที่น่าอัศจรรย์ใจ regularปกติ triangularเป็นรูปสามเหลี่ยม gridตะแกรง.
134
309000
3000
ในรูปแบบตาข่ายของสามเหลี่ยมด้านเท่าอย่างน่าอัศจรรย์
05:29
And if you recordบันทึก from severalหลาย gridตะแกรง cellsเซลล์ --
135
314000
3000
และถ้าคุณบันทึกจากหลายๆ กริดเซลล์
05:32
shownแสดงให้เห็นว่า here in differentต่าง colorsสี --
136
317000
2000
ที่แสดงให้เห็นอยู่นี้ด้วยสีที่แตกต่างกัน
05:34
eachแต่ละ one has a grid-likeตารางเหมือน firingยิง patternแบบแผน acrossข้าม the environmentสิ่งแวดล้อม,
137
319000
3000
แต่ละอัน ก็จะมีรูปแบบการส่งสัญญาณที่คล้ายตาข่าย
ครอบคลุมทั้งพื้นที่
05:37
and eachแต่ละ cell'sเซลล์ grid-likeตารางเหมือน firingยิง patternแบบแผน is shiftedขยับ slightlyเล็กน้อย
138
322000
3000
และรูปแบบการส่งสัญญาณของแต่ละเซลล์ก็จะเหลี่อมกันเล็กน้อย
05:40
relativeญาติ to the other cellsเซลล์.
139
325000
2000
เมื่อเทียบกับเซลล์อื่น ๆ
05:42
So the redสีแดง one firesไฟไหม้ on this gridตะแกรง
140
327000
2000
ดังนั้น เซลล์สีแดงส่งสัญญาณบนตาข่ายนี้
05:44
and the greenสีเขียว one on this one and the blueสีน้ำเงิน on on this one.
141
329000
3000
และสีเขียวบนนี้ และสีฟ้าบนนี้
05:47
So togetherด้วยกัน, it's as if the ratหนู
142
332000
3000
เมื่อรวมทั้งหมดเข้าด้วยกัน ก็จะเหมือนกับว่าหนู
05:50
can put a virtualเสมือน gridตะแกรง of firingยิง locationsสถานที่
143
335000
2000
สามารถสร้างตารางเสมือนของตำแหน่งการส่งสัญญาณ
05:52
acrossข้าม its environmentสิ่งแวดล้อม --
144
337000
2000
ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด
05:54
a bitบิต like the latitudeละติจูด and longitudeลองจิจูด linesเส้น that you'dคุณควรที่จะ find on a mapแผนที่,
145
339000
3000
เหมือนเส้นละติจูดและเส้นลองจิจูดบนแผนที่
05:57
but usingการใช้ trianglesสามเหลี่ยม.
146
342000
2000
แต่เป็นสามเหลี่ยม
05:59
And as it movesการเคลื่อนไหว around,
147
344000
2000
และขณะที่หนูมันเคลื่อนที่ไปรอบๆ
06:01
the electricalไฟฟ้า activityกิจกรรม can passผ่านไป
148
346000
2000
คลื่นไฟฟ้าสามารถวิ่งจาก
06:03
from one of these cellsเซลล์ to the nextต่อไป cellเซลล์
149
348000
2000
เซลล์หนึ่งไปยังเซลล์ถัดไป
06:05
to keep trackลู่ of where it is,
150
350000
2000
เพื่อติดตามตำแหน่งของมัน
06:07
so that it can use its ownด้วยตัวเอง movementsการเคลื่อนไหว
151
352000
2000
เพื่อที่มันจะสามารถใช้การเคลื่อนที่ของตัวมันเอง
06:09
to know where it is in its environmentสิ่งแวดล้อม.
152
354000
2000
บอกให้รู้ตำแหน่งของตัวมันภายในพื้นที่
06:11
Do people have gridตะแกรง cellsเซลล์?
153
356000
2000
แล้วมนุษย์ล่ะ มีกริดเซลล์ใหม?
06:13
Well because all of the grid-likeตารางเหมือน firingยิง patternsรูปแบบ
154
358000
2000
เนื่องจากรูปแบบการส่งสัญญาณคล้ายตาข่ายทั้งหมด
06:15
have the sameเหมือนกัน axesแกน of symmetryสมมาตร,
155
360000
2000
มีสมมาตรของแกนเหมือนกัน
06:17
the sameเหมือนกัน orientationsการหมุน of gridตะแกรง, shownแสดงให้เห็นว่า in orangeส้ม here,
156
362000
3000
มีการเรียงตัวที่เหมือนกันของตาข่าย ดังที่เห็นเป็นสีส้ม
06:20
it meansวิธี that the netสุทธิ activityกิจกรรม
157
365000
2000
ซึ่งหมายความว่าคลื่นไฟฟ้าสุทธิ
06:22
of all of the gridตะแกรง cellsเซลล์ in a particularโดยเฉพาะ partส่วนหนึ่ง of the brainสมอง
158
367000
3000
ของกริดเซลล์ทั้งหมดในส่วนใดส่วนหนึ่งของสมอง
06:25
should changeเปลี่ยนแปลง
159
370000
2000
ควรเปลี่ยน
06:27
accordingตาม to whetherว่า we're runningวิ่ง alongตาม these sixหก directionsคำสั่ง
160
372000
2000
ตามสถานะว่าเราวิ่งไปตามทิศทางทั้งหกนี้
06:29
or runningวิ่ง alongตาม one of the sixหก directionsคำสั่ง in betweenระหว่าง.
161
374000
3000
หรือวิ่งไปตามทิศทางอันใดอันหนึ่ง ในหกอันที่อยู่ระหว่างกลาง
06:32
So we can put people in an MRIMRI scannerสแกนเนอร์
162
377000
2000
ดังนั้น เรานำคนเข้าเครื่องเอ็ม อาร์ ไอ (MRI)
06:34
and have them do a little videoวีดีโอ gameเกม
163
379000
2000
ให้พวกเขาเล่นวิดีโอเกมส์กัน
06:36
like the one I showedแสดงให้เห็นว่า you
164
381000
2000
เหมือนกับที่ผมให้คุณดูก่อนหน้านี้
06:38
and look for this signalสัญญาณ.
165
383000
2000
และมองหาสัญญาณนี้
06:40
And indeedจริง, you do see it in the humanเป็นมนุษย์ entorhinalentorhinal cortexเยื่อหุ้มสมอง,
166
385000
3000
และแน่นอน คุณจะเห็นมันในสมองของมนุษย์
ส่วนเอนโทรีนอล คอร์เท็กซ์(Entorhinal cortex)
06:43
whichที่ is the sameเหมือนกัน partส่วนหนึ่ง of the brainสมอง that you see gridตะแกรง cellsเซลล์ in ratsหนู.
167
388000
3000
ซึ่งเป็นสมองส่วนเดียวกันกับที่คุณเห็นกริดเซลล์ในหนู
06:46
So back to Homerโฮเมอร์.
168
391000
2000
ดังนั้น กลับไปที่โฮเมอร์
06:48
He's probablyอาจ rememberingความทรงจำ where his carรถ was
169
393000
2000
เขาอาจจะจำจุดที่เขาจอดรถได้
06:50
in termsเงื่อนไข of the distancesระยะทาง and directionsคำสั่ง
170
395000
2000
ในแง่ของระยะทางและทิศทาง
06:52
to extendedขยาย buildingsสิ่งปลูกสร้าง and boundariesขอบเขต
171
397000
2000
เที่ยบกับอาคารและขอบเขตของพื้นที่
06:54
around the locationที่ตั้ง where he parkedที่จอดอยู่.
172
399000
2000
รอบๆ สถานที่ที่เขาจอดรถ
06:56
And that would be representedเป็นตัวแทนของ
173
401000
2000
และนั่นจะถูกแสดงด้วย
06:58
by the firingยิง of boundary-detectingขอบเขตการตรวจสอบ cellsเซลล์.
174
403000
2000
การส่งสัญญาณของเซลล์ที่ทำหน้าที่ตรวจจับขอบเขต
07:00
He's alsoด้วย rememberingความทรงจำ the pathเส้นทาง he tookเอา out of the carรถ parkจอด,
175
405000
3000
และเขายังสามารถจดจำเส้นทางที่เขาเดินออกจากที่จอดรถ
07:03
whichที่ would be representedเป็นตัวแทนของ in the firingยิง of gridตะแกรง cellsเซลล์.
176
408000
3000
ซึ่งสามารถแสดงได้ด้วยการส่งสัญญาณของกริดเซลล์
07:06
Now bothทั้งสอง of these kindsชนิด of cellsเซลล์
177
411000
2000
ซึ่งเซลล์ทั้งสองชนิดนี้
07:08
can make the placeสถานที่ cellsเซลล์ fireไฟ.
178
413000
2000
สามารถทำให้เพลสเซลล์ส่งสํญญาณออกมาได้
07:10
And he can returnกลับ to the locationที่ตั้ง where he parkedที่จอดอยู่
179
415000
2000
และเขาสามารถกลับไปยังตำแหน่งที่เขาจอดรถได้
07:12
by movingการเคลื่อนย้าย so as to find where it is
180
417000
3000
โดยการเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ เพื่อหาตำแหน่ง
07:15
that bestดีที่สุด matchesไม้ขีด the firingยิง patternแบบแผน
181
420000
2000
ที่มีรูปแบบการส่งสัญญาณ
07:17
of the placeสถานที่ cellsเซลล์ in his brainสมอง currentlyปัจจุบัน
182
422000
2000
ของเพลสเซลล์ในสมองของเขา ณ ขณะนั้น
07:19
with the storedเก็บไว้ patternแบบแผน where he parkedที่จอดอยู่ his carรถ.
183
424000
3000
ตรงกับรูปแบบการส่งสัญญาณที่ถูกเก็บไว้ขณะที่เขาจอดรถ
07:22
And that guidesคำแนะนำ him back to that locationที่ตั้ง
184
427000
2000
และมันคือสิ่งนำทางให้เขากลับไปยังตำแหน่งเดิมได้
07:24
irrespectiveไม่คำนึงถึง of visualภาพ cuesชี้นำ
185
429000
2000
ไม่ว่าภาพที่ปรากฏต่อสายตาจะเป็นอย่างไร
07:26
like whetherว่า his car'sรถ actuallyแท้จริง there.
186
431000
2000
เช่นไม่ว่ารถของเขาจะอยู่ตรงนั้นหรือไม่
07:28
Maybe it's been towedลาก.
187
433000
2000
บางทีมันอาจจะก็ถูกลากไปแล้วก็ได้
07:30
But he knowsรู้ where it was, so he knowsรู้ to go and get it.
188
435000
3000
แต่เขาก็รู้ว่ามันเคยอยู่ที่ไหน เขารู้เส้นทางที่จะไปเอามัน
07:33
So beyondเกิน spatialเกี่ยวกับอวกาศ memoryหน่วยความจำ,
189
438000
2000
ดังนั้น นอกเหนือจากหน่วยความจำส่วนที่จดจำตำแหน่งและสถานที่
07:35
if we look for this grid-likeตารางเหมือน firingยิง patternแบบแผน
190
440000
2000
ถ้าเรามองหารูปแบบการส่งสัญญาณที่คล้ายตาข่าย
07:37
throughoutตลอด the wholeทั้งหมด brainสมอง,
191
442000
2000
ทั่วทั้งสมอง
07:39
we see it in a wholeทั้งหมด seriesชุด of locationsสถานที่
192
444000
3000
เราพบมันได้หลายแห่ง
07:42
whichที่ are always activeคล่องแคล่ว
193
447000
2000
ซึ่งมันจะทำงานเสมอ
07:44
when we do all kindsชนิด of autobiographicalเกี่ยวกับอัตชีวประวัติ memoryหน่วยความจำ tasksงาน,
194
449000
2000
เมื่อเราย้อนคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต
07:46
like rememberingความทรงจำ the last time you wentไป to a weddingงานแต่งงาน, for exampleตัวอย่าง.
195
451000
3000
เช่นการคิดถึงงานแต่งงานที่คุณไปครั้งล่าสุด
07:49
So it mayอาจ be that the neuralประสาท mechanismsกลไก
196
454000
2000
ดังนั้นจึงอาจเป็นไปได้ว่ากลไกประสาท
07:51
for representingเป็นตัวแทนของ the spaceช่องว่าง around us
197
456000
3000
สำหรับแสดงพื้นที่รอบๆ ตัวเรา
07:54
are alsoด้วย used for generatingที่ก่อให้เกิด visualภาพ imageryภาพ
198
459000
4000
ยังถูกใช้ในการสร้างจินตนาการภาพ
07:58
so that we can recreateสร้างใหม่ the spatialเกี่ยวกับอวกาศ sceneฉาก, at leastน้อยที่สุด,
199
463000
3000
เพื่อให้อย่างน้อยที่สุด
เราสามารถจะสร้างภาพสถานที่ในความทรงจำ
08:01
of the eventsเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น that have happenedที่เกิดขึ้น to us when we want to imagineจินตนาการ them.
200
466000
3000
ของเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นกับเราขึ้นมา
เมื่อเราต้องการที่จะคิดถึงมัน
08:04
So if this was happeningสิ่งที่เกิดขึ้น,
201
469000
2000
ดังนั้น หากสิ่งนี้กำลังเกิดขึ้น(คุณกำลังคิดถึงภาพในอดีต)
08:06
your memoriesความทรงจำ could startเริ่มต้น by placeสถานที่ cellsเซลล์ activatingการเปิดใช้งาน eachแต่ละ other
202
471000
3000
ระบบความจำของคุณจะเริ่มต้นด้วยเพลสเซลล์กระตุ้นซึ่งกันและกัน
08:09
viaผ่านทาง these denseหนาแน่น interconnectionsการเชื่อมโยง
203
474000
2000
ผ่านการเชื่อมโยงที่หนาแน่น
08:11
and then reactivatingเปิดใช้ boundaryเขตแดน cellsเซลล์
204
476000
2000
จากนั้นก็ไปกระตุ้นเซลล์ที่เก็บขอบเขตของพื้นที่ให้ทำงาน
08:13
to createสร้าง the spatialเกี่ยวกับอวกาศ structureโครงสร้าง
205
478000
2000
เพื่อสร้างโครงสร้างของพื้นที่
08:15
of the sceneฉาก around your viewpointมุมมอง.
206
480000
2000
ของภาพรอบๆ มุมมองของคุณ
08:17
And gridตะแกรง cellsเซลล์ could moveย้าย this viewpointมุมมอง throughตลอด that spaceช่องว่าง.
207
482000
2000
และกริดเซลล์จะสามารถย้ายมุมมองนี้ผ่านพื้นที่นั้น
08:19
Anotherอื่น kindชนิด of cellเซลล์, headหัว directionทิศทาง cellsเซลล์,
208
484000
2000
และเซลล์อีกชนิดหนึ่ง คือ เซลล์บอกทิศทาง
08:21
whichที่ I didn't mentionกล่าวถึง yetยัง,
209
486000
2000
ซึ่งผมยังไม่ได้พูดถึง
08:23
they fireไฟ like a compassเข็มทิศ accordingตาม to whichที่ way you're facingเผชิญ.
210
488000
3000
จะส่งสัญญาณเหมือนเข็มทิศ ขึ้นอยู่กับว่าคุณหันหน้าไปทางไหน
08:26
They could defineกำหนด the viewingการดู directionทิศทาง
211
491000
2000
มันจะกำหนดทิศทางของมุมมอง
08:28
from whichที่ you want to generateผลิต an imageภาพ for your visualภาพ imageryภาพ,
212
493000
3000
ที่ซึ่งคุณต้องการสร้างภาพของจินตภาพที่คุณต้องการขึ้นมา
08:31
so you can imagineจินตนาการ what happenedที่เกิดขึ้น when you were at this weddingงานแต่งงาน, for exampleตัวอย่าง.
213
496000
3000
เช่นคุณสามารถจินตนาการสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคุณอยู่ที่งานแต่งงาน
08:34
So this is just one exampleตัวอย่าง
214
499000
2000
นี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่ง
08:36
of a newใหม่ eraยุค really
215
501000
2000
ของยุคใหม่อย่างแท้จริง
08:38
in cognitiveองค์ความรู้ neuroscienceประสาท
216
503000
2000
ของวงการประสาทวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการรับรู้
(Cognitive neuroscience)
08:40
where we're beginningการเริ่มต้น to understandเข้าใจ
217
505000
2000
ที่เรากำลังเริ่มที่จะเข้าใจ
08:42
psychologicalจิตวิทยา processesกระบวนการ
218
507000
2000
กระบวนการทางจิตวิทยา
08:44
like how you rememberจำ or imagineจินตนาการ or even think
219
509000
3000
เช่น คุณ จดจำ หรือ จินตนาการ หรือแม้กระทั่ง คิด ได้อย่างไร
08:47
in termsเงื่อนไข of the actionsการปฏิบัติ
220
512000
2000
ในแง่ของการทำงานของ
08:49
of the billionsพันล้าน of individualรายบุคคล neuronsเซลล์ประสาท that make up our brainsสมอง.
221
514000
3000
แต่ละเซลล์ประสาทจำนวนหลายพันล้านเซลล์
ที่รวมกันเป็นสมองของเรา
08:52
Thank you very much.
222
517000
2000
ขอบคุณมากครับ
08:54
(Applauseการปรบมือ)
223
519000
3000
(ปรบมือ)
Translated by Chana Chananukul
Reviewed by Techaphon Nitisaowaphak

▲Back to top

ABOUT THE SPEAKER
Neil Burgess - Neuroscientist
At University College in London, Neil Burgess researches how patterns of electrical activity in brain cells guide us through space.

Why you should listen

Neil Burgessis is deputy director of the Institute of Cognitive Neuroscience at University College London, where he investigates of the role of the hippocampus in spatial navigation and episodic memory. His research is directed at answering questions such as: How are locations represented, stored and used in the brain? What processes and which parts of the brain are involved in remembering the spatial and temporal context of everyday events, and in finding one's way about?

To explore this space, he and his team use a range of methods for gathering data, including pioneering uses of virtual reality, as well as computational modelling and electrophysiological analysis of the function of hippocampal neurons in the rat, functional imaging of human navigation, and neuropsychological experiments on spatial and episodic memory.

A parallel interest: Investigating our human short-term memory for serial order, or how we know our 123s.

More profile about the speaker
Neil Burgess | Speaker | TED.com

Data provided by TED.

This site was created in May 2015 and the last update was on January 12, 2020. It will no longer be updated.

We are currently creating a new site called "eng.lish.video" and would be grateful if you could access it.

If you have any questions or suggestions, please feel free to write comments in your language on the contact form.

Privacy Policy

Developer's Blog

Buy Me A Coffee