TED2007
Theo Jansen: My creations, a new form of life
ธีโอ แจนเซ็น สรรสร้างประติมากรรมมีชีวิตรูปแบบใหม่
Filmed:
Readability: 2.3
5,281,069 views
ศิลปิน ธีโอ แจนเซ็น (Theo Jansen) สาธิตถึงงานประติมากรรมมหัศจรรย์ที่เคลื่อนไหวได้ราวกับสิ่งมีชีวิต เขาสร้างเจ้าพวกนี้ขึ้นมาด้วยท่อพลาสติกกับขวดน้ำมะนาว งานสรรสร้างประติมากรรมมีชีวิตของเขาได้รับการออกแบบมาให้เคลื่อนไหวได้ -- และแม้กระทั่งดำรงชีพ -- ด้วยตัวของมันเอง
Theo Jansen - Artist
Theo Jansen is a Dutch artist who builds walking kinetic sculptures that he calls a new form of life. His "Strandbeests" walk the coastline of Holland, feeding on wind and fleeing from water. Full bio
Theo Jansen is a Dutch artist who builds walking kinetic sculptures that he calls a new form of life. His "Strandbeests" walk the coastline of Holland, feeding on wind and fleeing from water. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:25
I would like to tell you about a project
0
0
4000
ผมอยากนำเสนอให้คุณฟังถึงโครงการหนึ่ง
00:29
which I started about 16 years ago,
1
4000
4000
ที่ผมเริ่มทำมาราว 16 ปีก่อน
00:33
and it's about making new forms of life.
2
8000
4000
และเป็นโครงการเกี่ยวกับการสร้างสิ่งมีชีวิตรูปแบบใหม่
00:37
And these are made of this kind of tube --
3
12000
4000
และมันทำมาจากท่อประเภทนี้ --
00:41
electricity tube, we call it in Holland.
4
16000
3000
เป็นท่อสอดสายไฟ (electricity tube) เราเรียกกันแบบนั้นในฮอล์แลนด์
00:44
And we can start a film about that,
5
19000
4000
และเรามาเริ่มชมภาพยนต์เกี่ยวกับงานนี้กัน
00:48
and we can see a little bit backwards in time.
6
23000
4000
แล้วเราก็จะเห็นย้อนกลับไปถึงงานในช่วงที่ผ่านมา
00:52
(Video) Narrator: Eventually, these beasts are going to live in herds on the beaches.
7
27000
5000
ผู้บรรยาย: ในท้ายที่สุด เจ้าสัตว์ประหลาดพวกนี้จะอยู่อาศัยกันเป็นฝูงอยู่บนชายหาด
00:57
Theo Jansen is working hard on this evolution.
8
32000
5000
ธีโอ แจนเซ็น ทำงานหนักมากกับวิวัฒนาการนี้ค่ะ
01:02
Theo Jansen: I want to put these forms of life on the beaches.
9
37000
7000
ธีโอ แจนเซ็น: ผมอยากจะเพิ่มสิ่งมีชีวิตรูปแบบนี้เข้าไปบนชายหาดครับ
01:09
And they should survive over there,
10
44000
3000
และพวกมันน่าจะอยู่รอดที่นั่น
01:12
on their own, in the future.
11
47000
4000
ด้วยตัวมันเองในอนาคต
01:16
Learning to live on their own --
12
51000
3000
เรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตของมันเอง
01:19
and it'll take couple of more years to let them walk on their own.
13
54000
11000
และจะใช้เวลาอีก 2-3 ปีกว่าที่จะให้พวกมันออกเดินไปได้เองตามลำพัง
01:30
Narrator: The mechanical beasts will not get their energy from food, but from the wind.
14
65000
5000
ผู้บรรยาย: สัตว์ประหลาดที่มีกลไกพวกนี้จะไม่ใช้อาหารเป็นแหล่งพลังงานแต่จะใช้ลม
01:35
The wind will move feathers on their back, which will drive their feet.
15
70000
3000
ลมจะพัดปีกที่อยู่บนหลังของพวกมันซึ่งทำให้เท้าพวกมันเคลื่อนไหวไปได้
01:38
The beast walks sideways on the wet sand of the beach,
16
73000
4000
เจ้าสัตว์ประหลาดพวกนี้เดินด้านข้างไปบนหาดทรายเปียกชื้น
01:42
with its nose pointed into the wind.
17
77000
5000
พร้อมกับจมูกของมันที่ยื่นไปในทิศทางลม
01:47
As soon as it walks into either the rolling surf or the dry sand, it stops,
18
82000
5000
พอมันเดินไปเจอเข้ากับคลื่นทะเลที่ม้วนเป็นเกลียวหรือทรายแห้ง มันจะหยุดทันที
01:52
and walks in the opposite direction.
19
87000
5000
แล้วเดินไปทิศตรงกันข้าม
01:57
Evolution has generated many species.
20
92000
17000
วิวัฒนาการก่อให้เกิดชีวิตหลากหลายสายพันธุ์
02:14
This is the Animaris Currens Ventosa.
21
109000
13000
นี่คือสายพันธุ์ แอนนิมารีส เคอเรนส์ เวนโตซา (Animaris Currens Ventosa)
02:27
(Applause)
22
122000
8000
(เสียงปรบมือ)
02:35
TJ: This is a herd, and it is built according to genetical codes.
23
130000
7000
แจนเซ็น: นี่ พวกมันเป็นฝูงครับ และมันก็ถูกสร้างมาตามรหัสพันธุกรรม
02:42
And it is a sort of race, and each and every animal is different,
24
137000
4000
แล้วมันก็คล้ายๆกับเป็นเผ่าพันธุ์ และ แต่ละตัวมีความแตกต่างกัน
02:46
and the winning codes will multiply.
25
141000
3000
รหัสพันธุกรรมที่ดีกว่าใครเพื่อนก็จะเพิ่มเท่าทวีคูณ
02:49
This is the wave, going from left to right. You can see this one.
26
144000
9000
ตรงนี้คือคลื่น พัดจากซ้ายไปขวา เราจะเห็นเจ้าตัวนี้
02:58
And now it goes from -- yes, now it goes from left to right.
27
153000
3000
และตอนนี้ มันเดินจาก -- ใช่ครับ ตอนนี้มันเดินจากซ้ายไปขวา
03:01
This is a new generation, a new family,
28
156000
3000
ตัวนี้เป็นสายพันธุ์ใหม่ เป็นวงศ์วานใหม่
03:04
which is able to store the winds.
29
159000
3000
ที่สามารถกักเก็บลมไว้ได้
03:07
So, the wings pump up air in lemonade bottles,
30
162000
3000
ปีกนี้สูบเอาลมเข้าไปไว้ในขวดน้ำมะนาว
03:10
which are on top of that.
31
165000
2000
ซึ่งอยู่ตรงบนสุดนั่น --
03:12
And they can use that energy in case the wind falls away,
32
167000
6000
และพวกมันสามารถใช้พลังงานนั่นในกรณีลมอ่อนแรงลงไป
03:18
and the tide is coming up, and there is still a little bit of energy
33
173000
3000
และน้ำทะเลหนุนขึ้นมา ก็ยังมีพลังงานเหลืออยู่บ้างนิดหน่อย
03:21
to reach the dunes and save their lives, because they are drowned very easily.
34
176000
6000
พอให้ไปถึงหาดทรายและรักษาชีวิตไว้ เพราะว่าพวกมันจมน้ำง่ายมากครับ
03:27
(Laughter)
35
182000
6000
(เสียงหัวเราะ)
03:33
I could show you this animal.
36
188000
11000
ผมจะแสดงเจ้าตัวนี้ให้ดูนะครับ
03:44
(Applause) Thank you.
37
199000
7000
(เสียงปรบมือ) ขอบคุณครับ
03:51
So, the proportion of the tubes in this animal is very important for the walking.
38
206000
7000
สัดส่วนของท่อในเจ้าตัวนี้มีความสำคัญมากๆสำหรับการเดิน
03:58
There are 11 numbers, which I call the 11 holy numbers.
39
213000
3000
มีตัวเลข 11 ตัว ซึ่งผมเรียกมันว่าเป็นตัวเลขศักดิ์สิทธิ์
04:01
These are the distances of the tubes which make it walk that way.
40
216000
5000
ซึ่งนี้เป็นระยะห่างของท่อซึ่งทำให้มันเดินไปทางนั้น
04:06
In fact, it's a new invention of the wheel.
41
221000
3000
ในความเป็นจริงแล้ว นี่เป็นการประดิษฐ์กงล้อแบบใหม่ครับ
04:09
It works the same as a wheel.
42
224000
2000
ทำงานเหมือนกับกงล้อเลยครับ
04:11
The axis of a wheel is staying on the same level,
43
226000
4000
แกนของกงล้ออยู่ในระดับเดียวกัน
04:15
and this hip is staying on the same level as well.
44
230000
3000
และสะโพกนี่ก็อยู่ในระดับเดียวกันด้วยเช่นกัน
04:18
In fact, this is better than a wheel, because
45
233000
3000
จริงๆแล้ว แบบนี้ดีกว่ากงล้ออีกนะครับเพราะว่า
04:21
when you try to drive with your bicycle on the beach,
46
236000
4000
เมื่อเราพยายามปั่นจักรยานบนชายหาด
04:25
you will notice it's very hard to do.
47
240000
4000
เราจะรู้สึกได้ว่าช่างเป็นเรื่องยากเย็น
04:29
And the feet just step over the sand,
48
244000
5000
แต่นี่มีแค่เท้าที่ก้าวเหยียบไปบนพื้นทราย
04:34
and the wheel has to touch every piece of the ground in between.
49
249000
4000
ในขณะที่ล้อจักรยานต้องไปโดนอะไรต่อมิอะไรตลอดแนว
04:38
So, 5,000 years after the invention of the wheel,
50
253000
4000
ฉะนั้น 5,000 ปีภายหลังการประดิษฐ์คิดค้นกงล้อ
04:42
we have a new wheel. And I will show you, in the next video
51
257000
4000
เราได้กงล้อแบบใหม่ครับ และผมจะนำเสนอวีดีโอถัดไปนะครับ
04:46
-- can you start it, please? --
52
261000
4000
-- รบกวนเริ่มฉายได้เลยครับ --
04:50
that very heavy loads can be moved.
53
265000
5000
เจ้าตัวหนักอึ้งนั่นเคลื่อนไหวได้
04:55
There's a guy pushing there, behind,
54
270000
4000
มีผู้ชายคนนึงผลักมันอยู่ข้างหลัง
04:59
but can also walk on the wind very well.
55
274000
3000
แต่มันก็เดินด้วยพลังงานลมเป็นอย่างดี
05:02
It's 3.2 tons.
56
277000
2000
เ้จ้านี่หนัก 3.2 ตัน
05:04
And this is working on the stored winds in the bottles.
57
279000
10000
และนี่ก็กำลังทำงานด้วยลมที่กักเก็บไว้ในขวด
05:14
It has a feeler, where it can feel obstacles and turn around.
58
289000
4000
มันมีัตัวตอบรับสัมผัสที่ทำให้มันรู้สึกถึงสิ่งกีดขวางแล้วหันหลังกลับได้
05:18
And that stuff, you see, is going to it the other way.
59
293000
2000
แล้วอันที่เราเห็นนั่นก็พลิกกลับไปอีกด้าน
05:31
Can I have the feeler here?
60
306000
3000
ขอตัวตอบรับสัมผัสหน่อยครับผม
05:38
OK. Good.
61
313000
3000
เอาหละ ดีละ
05:43
So, they have to survive all the dangers of the beach,
62
318000
5000
เ้จ้าพวกนี้ต้องเอาตัวรอดจากภยันอันตรายที่ชายหาด
05:48
and one of the big dangers is the sea. This is the sea.
63
323000
3000
และหนึ่งในอันตรายร้ายแรงก็คือ ทะเล นี่ทะเลนะครับ
05:51
And it must feel the water of the sea.
64
326000
5000
แล้วมันก็ต้องรู้สึกถึงน้ำทะเล
05:56
And this is the water feeler.
65
331000
2000
และอันนี้เป็นตัวตอบรับสัมผัสน้ำครับ
05:58
And what's very important is this tube. It sucks in air normally,
66
333000
7000
สิ่งที่สำคัญมากก็คือหลอดนี่ ตามปรกติมันจะดูดเอาอากาศเข้าไป
06:05
but when it swallows water, it feels the resistance of it.
67
340000
5000
แต่พอมันดูดเอาน้ำเข้าไป มันก็จะรู้ึสึกถึงแรงต้าน
06:10
So imagine that the animal is walking towards the sea.
68
345000
8000
ดังนั้น ลองนึกภาพว่าเจ้าสัตว์ตัวนี้กำลังเดินตรงไปยังทะเล
06:18
As soon as it touches the water, you should hear a sort of sound of running air.
69
353000
10000
พอมันแตะน้ำปุ๊บ เราก็น่าจะได้ยินเหมือนเสียงอากาศผ่านเข้าออก
06:32
Yes! So if it doesn't feel, it will be drowned, OK?
70
367000
11000
ใช่เลย ดังนั้นถ้าเิกิดว่ามันไม่รู้สึกถึง มันก็จะจมน้ำ นะครับ
06:47
Here, we have the brain of the animal.
71
382000
4000
นี่ก็คือเรามีสมองของเจ้าสัตว์ตัวนี้
06:51
In fact, it is a step counter, and it counts the steps.
72
386000
4000
จริงๆแล้ว มันเป็นตัวนับเลขแบบขั้น และมันนับเลขเป็นขั้นๆไปครับ
06:55
It's a binary step counter.
73
390000
2000
มันเป็นตัวนับขั้นแบบเลขฐานคู่
06:57
So as soon it has been to the sea,
74
392000
3000
พอมันลงไปในทะเล
07:00
it changes the pattern of zeroes and ones here,
75
395000
7000
มันจะเปลี่ยนรูปแบบเป็นเลขศูนย์กับหนึ่งตรงนี้
07:07
and it knows always where it is on the beach. So it's very simple brain.
76
402000
7000
แล้วมันก็รู้เสมอว่ามันอยู่ตรงไหนของชายหาด เป็นสมองแบบง่ายมากครับ
07:14
It says, well, there's the sea, there are dunes, and I'm here.
77
409000
4000
มันบอกว่า เอาหละ นี่ทะเลนะ นี่หาดทรายนะ แล้วตัวเราอยู่นี่
07:18
So it's a sort of imagination of the simple world of the beach animal.
78
413000
5000
ก็เหมือนจินตนภาพของโลกง่ายๆของสัตว์ตามชายหาด
07:23
Thank you.
79
418000
2000
ขอบคุณครับ
07:26
One of the biggest enemies are the storms.
80
421000
8000
ศัตรูตัวร้ายอีกอย่างก็คือพายุ
07:34
This is a part of the nose of the Animaris Percipiere,
81
429000
5000
นี่เป็นส่วนหนึ่งของจมูกของ แอนิมารีส เปอร์ซิเปียร์
07:39
and when the nose is fixed -- of the animal -- the whole animal is fixed.
82
434000
7000
และเมื่อจมูกของเจ้าตัวนี้ตอกตรึงเข้ากับที่ เจ้านี่ก็จะตรึงอยู่กับที่ไปด้วย
07:46
So when the storm is coming up,
83
441000
8000
ฉะนั้นเมื่อพายุเข้า
07:54
it drives a pin into the ground. (Laughter)
84
449000
6000
มันจะตอกเสานี่เข้ากับพื้น (เสียงหัวเราะ)
08:00
And the nose is fixed, the whole animal is fixed.
85
455000
2000
แล้วจมูกก็จะตรึงอยู่กับที่ เจ้าตัวนี้ก็ถูกตรึงไปด้วย
08:02
The wind may turn, but the animal will turn always its nose into the wind.
86
457000
8000
ลมอาจเปลี่ยนทิศ แต่เจ้าตัวนี้ก็จะหันจมูกมันตามทิศทางลมไปด้วยเสมอ
08:10
Now, another couple of years, and these animals will survive on their own.
87
465000
5000
พออีกสักสองปี เจ้าพวกนี้ก็จะใช้ชีวิตอยู่ได้ด้วยตัวของมันเอง
08:15
I still have to help them a lot.
88
470000
2000
ตอนนี้ผมยังคงต้องช่วยเหลือมันมากเอาการ
08:17
Thank you very much, ladies and gentlemen.
89
472000
2000
ขอบพระคุณมากครับท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีทุกท่าน
08:19
(Applause).
90
474000
2000
(เสียงปรบมือ)
ABOUT THE SPEAKER
Theo Jansen - ArtistTheo Jansen is a Dutch artist who builds walking kinetic sculptures that he calls a new form of life. His "Strandbeests" walk the coastline of Holland, feeding on wind and fleeing from water.
Why you should listen
Dutch artist Theo Jansen has been working for 16 years to create sculptures that move on their own in eerily lifelike ways. Each generation of his "Strandbeests" is subject to the forces of evolution, with successful forms moving forward into new designs. Jansen's vision and long-term commitment to his wooden menagerie is as fascinating to observe as the beasts themselves.
His newest creatures walk without assistance on the beaches of Holland, powered by wind, captured by gossamer wings that flap and pump air into old lemonade bottles that in turn power the creatures' many plastic spindly legs. The walking sculptures look alive as they move, each leg articulating in such a way that the body is steady and level. They even incorporate primitive logic gates that are used to reverse the machine's direction if it senses dangerous water or loose sand where it might get stuck.
Theo Jansen | Speaker | TED.com