TEDWomen 2010
Madeleine Albright: On being a woman and a diplomat
เมเดลีน อัลไบรท์ (Madeleine Albright): การเป็นผู้หญิงภายใต้หมวกนักการฑูต
Filmed:
Readability: 3.4
828,183 views
เมเดลีน อัลไบรท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหญิงคนแรกของสหรัฐอเมริกา เปิดเผยถึงการเมืองและการฑูต ในการที่จะทำให้เรื่องบทบาทสตรีได้รับพื้นที่บนหน้านโยบายการต่างประเทศอย่างจริงจัง เมื่อถูกมองว่าเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย อัลไบรท์กลับกล่าวว่า เรื่องของสตรีเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง ซึ่งเกี่ยวกับความเป็นความตาย นี่คือการสัมภาษณ์ที่ทั้งตรงไปตรงมาและสนุกสนานโดย พิธีกรหญิง แพท มิตเชล จาก เดอะ พาเลย์ เซ็นเตอร์
Madeleine Albright - Former US Secretary of State
Since leaving office as US Secretary of State in 2001, Madeleine Albright has continued her distinguished career in foreign affairs as a businesswoman, political adviser and professor. Full bio
Since leaving office as US Secretary of State in 2001, Madeleine Albright has continued her distinguished career in foreign affairs as a businesswoman, political adviser and professor. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:15
Pat Mitchell: What is the story of this pin?
0
0
2000
แพท : เข็มกลัดนี่ สื่ออะไรคะ
00:17
Madeleine Albright: This is "Breaking the Glass Ceiling."
1
2000
2000
เมเดลีน : การเอาชนะขีดจำกัดค่ะ
00:19
PM: Oh.
2
4000
2000
แพท : โอ้ว
00:22
That was well chosen, I would say, for TEDWomen.
3
7000
3000
เลือกได้เหมาะมากกับผู้หญิง TED เลยค่ะ
00:25
MA: Most of the time I spend when I get up in the morning
4
10000
2000
เมดีลีน : ฉันมักใช้เวลาช่วงเช้าเลือกเข็มกลัด
00:27
is trying to figure out what is going to happen.
5
12000
2000
ให้เข้ากับว่าวันนี้จะมีเหตุการณ์อะไรบ้าง
00:29
And none of this pin stuff would have happened
6
14000
2000
ที่ฉันใช้เข็มกลัดพวกนี้จะไม่เกิดขึ้นเลย
00:31
if it hadn't been for Saddam Hussein.
7
16000
2000
ถ้าไม่เป็นเพราะซัดดัม ฮุดเซน
00:33
I'll tell you what happened.
8
18000
2000
ฉันขอเล่าหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้น
00:35
I went to the United Nations as an ambassador,
9
20000
3000
ฉันเข้าสู่สหประชาชาติในฐานะทูต
00:38
and it was after the Gulf War,
10
23000
2000
ตอนนั้นสงครามอ่าวเปอร์เซียเพิ่งสงบ
00:40
and I was an instructed ambassador.
11
25000
2000
แล้วฉันก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นทูตยูเอ็น
00:42
And the cease-fire had been translated
12
27000
2000
ข้อตกลงหยุดยิงก็ถูกเปลี่ยนแปลง
00:44
into a series of sanctions resolutions,
13
29000
3000
กลายเป็นกระบวนการคว่ำบาตร
00:47
and my instructions
14
32000
2000
และฉันก็ได้รับคำสั่ง
00:49
were to say perfectly terrible things about Saddam Hussein constantly,
15
34000
3000
ให้พูดถึงซัดดัม ฮุดเซน ในทางลบเท่านั้น
00:52
which he deserved -- he had invaded another country.
16
37000
3000
ซึ่งก็สมควรแล้วเพราะเขาโจมตีประเทศอื่น ๆ
00:55
And so all of a sudden, a poem appeared in the papers in Baghdad
17
40000
3000
มีสื่อสิ่งพิมพ์โจมตีฉันมากมาย
ในแบกแดดแทบจะทันทีทันควัน
ในแบกแดดแทบจะทันทีทันควัน
00:58
comparing me to many things,
18
43000
2000
เปรียบเทียบฉันต่าง ๆ นานา
01:00
but among them an "unparalleled serpent."
19
45000
3000
หนึ่งในฉายาเหล่านั้นคือฉันเป็น "อสรพิษ"
01:03
And so I happened to have a snake pin.
20
48000
2000
แล้วฉันก็มีเข็มกลัดรูปงูอยู่พอดี
01:05
So I wore it when we talked about Iraq.
21
50000
2000
ฉันจึงติดมันทุกครั้งที่ต้องพูดถึงอิรัก
01:07
(Laughter)
22
52000
2000
(เสียงหัวเราะ)
01:09
And when I went out to meet the press,
23
54000
2000
และเมื่อต้องไปพบกับสื่อ
01:11
they zeroed in, said, "Why are you wearing that snake pin?"
24
56000
2000
พวกเขาถามว่าทำไมต้องติดเข็มกลัดงู
01:13
I said, "Because Saddam Hussein compared me to an unparalleled serpent."
25
58000
3000
ฉันตอบว่า "เพราะซัดดัม ฮุสเซ็น
เปรียบเปรยฉันเป็นอสรพิษร้าย "
เปรียบเปรยฉันเป็นอสรพิษร้าย "
01:16
And then I thought, well this is fun.
26
61000
2000
ฉันก็เลยคิดว่า มันก็น่าสนุกดี
01:18
So I went out and I bought a lot of pins
27
63000
3000
ฉันเลยซื้อเข็มกลัดมาอีกเยอะเลยค่ะ
01:21
that would, in fact, reflect
28
66000
2000
ซึ่งจริง ๆ แล้ว นั่นสะท้อน
01:23
what I thought we were going to do on any given day.
29
68000
2000
สิ่งที่เราทำในแต่ละวันได้ดีมากค่ะ
01:25
So that's how it all started.
30
70000
2000
นั่นคือที่มาค่ะ
01:27
PM: So how large is the collection?
31
72000
2000
แพท : มีเข็มกลัดเยอะไหมค่ะ
01:29
MA: Pretty big.
32
74000
2000
เมเดลีน : เยอะทีเดียวค่ะ
01:31
It's now traveling.
33
76000
2000
ตอนนี้มันกำลังเดินทาง
01:33
At the moment it's in Indianapolis,
34
78000
2000
ขณะนี้อยู่ในอินเดียนาโปลิส
01:35
but it was at the Smithsonian.
35
80000
2000
แต่มันอยู่ที่สมิธโซเนี่ยน
01:37
And it goes with a book that says, "Read My Pins."
36
82000
3000
และไปพร้อมกับหนังสือชื่อ "อ่านเข็มกลัดฉันซิ"
01:40
(Laughter)
37
85000
2000
(เสียงหัวเราะ)
01:42
PM: So is this a good idea.
38
87000
3000
แพท : ค่ะ นี่ถือเป็นไอเดียที่ดีถูกมั้ยคะ
01:45
I remember when you were the first woman
39
90000
2000
ฉันจำได้ว่า ตอนที่คุณเป็นผู้หญิงคนแรก
01:47
as Secretary of State,
40
92000
2000
ที่ว่าการรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ
01:49
and there was a lot of conversation always
41
94000
2000
มีคำวิพากษ์วิจารณ์สารพัด
01:51
about what you were wearing,
42
96000
2000
เกี่ยวกับสิ่งที่คุณสวมใส่
01:53
how you looked --
43
98000
2000
คุณดูเป็นยังไง --
01:55
the thing that happens to a lot of women,
44
100000
2000
มันก็เป็นเรื่องที่เกิดกับผู้หญิงหลาย ๆ คน
01:57
especially if they're the first in a position.
45
102000
3000
โดยเฉพาะเมื่อเป็นผู้หญิงคนแรก
ในตำแหน่งนั้น ๆ
ในตำแหน่งนั้น ๆ
02:00
So how do you feel about that -- the whole --
46
105000
3000
แล้วคุณรู้สึกอย่างไรกับ อะไรพวกนั้น--
02:03
MA: Well, it's pretty irritating actually
47
108000
2000
เมเดลีน: จริง ๆ มันน่าหงุดหงิดค่ะ
02:05
because nobody ever describes what a man is wearing.
48
110000
3000
เพราะไม่ค่อยมีใครสนใจว่าผู้ชายใส่ชุดอะไร
02:08
But people did pay attention to what clothes I had.
49
113000
3000
แต่ผู้คนกลับสนใจว่าฉันใส่ชุดอะไร
02:11
What was interesting was that,
50
116000
2000
แต่ที่น่าสนใจคือ
02:13
before I went up to New York as U.N. ambassador,
51
118000
2000
ก่อนฉันไปที่นิวยอร์คในฐานะทูตสหประชาชาติ
02:15
I talked to Jeane Kirkpatrick, who'd been ambassador before me,
52
120000
3000
ฉันได้พูดคุยกับ จีน เคิร์กแพทริก
ซึ่งเธอรับตำแหน่งก่อนฉัน
ซึ่งเธอรับตำแหน่งก่อนฉัน
02:18
and she said, "You've got to get rid of your professor clothes.
53
123000
3000
เธอพูดว่า "คุณน่าจะทิ้งชุดคุณครูพวกนั้นซะ
02:21
Go out and look like a diplomat."
54
126000
2000
แล้วแต่งตัวให้เป็นนักการฑูตหน่อย"
02:23
So that did give me a lot of opportunities to go shopping.
55
128000
3000
นั่นทำให้ฉันมีข้ออ้างไปช๊อปปิ้งได้บ่อย ๆ
02:26
But still, there were all kinds of questions
56
131000
3000
แต่ก็ยังมีคำถามแปลก ๆ มากมาย
02:29
about -- "did you wear a hat?" "How short was your skirt?"
57
134000
3000
เกี่ยวกับ--"คุณสวมหมวกรึเปล่า"
"กระโปรงคุณยาวเท่าไหร่"
"กระโปรงคุณยาวเท่าไหร่"
02:32
And one of the things --
58
137000
2000
และมีอีกอย่าง --
02:34
if you remember Condoleezza Rice was at some event and she wore boots,
59
139000
3000
ถ้าคุณจำ คอนโดลีซซา ไรซ์ ได้
บางงานเธอก็สวมรองเท้าบูทออกงาน
บางงานเธอก็สวมรองเท้าบูทออกงาน
02:37
and she got criticized over that.
60
142000
2000
และเธอถูกวิจารณ์อย่างหนัก
02:39
And no guy ever gets criticized. But that's the least of it.
61
144000
3000
แต่ไม่มีผู้ชายคนไหนโดนแแบบนั้น
แต่ก็เป็นส่วนน้อยค่ะ
แต่ก็เป็นส่วนน้อยค่ะ
02:42
PM: It is, for all of us, men and women,
62
147000
3000
แพท: ใช่ค่ะ แล้วสำหรับเราทั้งชายและหญิง
02:45
finding our ways of defining our roles,
63
150000
3000
ที่หาทางกำหนดบทบาทของเราเอง
02:48
and doing them in ways that make a difference in the world
64
153000
3000
และพยายามหาทางสร้างสิ่งที่แตกต่างแก่โลก
02:51
and shape the future.
65
156000
2000
และสร้างอนาคต
02:53
How did you handle that balance
66
158000
3000
คุณรักษาสมดุลได้ยังไง
02:56
between being the tough diplomatic
67
161000
3000
ระหว่างตัวตนของนักการฑูตที่เป็นงานยาก
02:59
and strong voice of this country
68
164000
3000
และเป็นกระบอกเสียงสำคัญของชาติ
03:02
to the rest of the world
69
167000
2000
เพื่อสันติสุขของโลก
03:04
and also how you felt about yourself
70
169000
2000
และคุณรู้สึกอย่างไรกับตัวเอง
03:06
as a mother, a grandmother, nurturing ...
71
171000
3000
ในฐานะเป็นแม่ เป็นยาย ต้องดูแลลูก ๆ หลาน ๆ
03:09
and so how did you handle that?
72
174000
2000
คุณรับมือกับมันได้ยังไงค่ะ
03:11
MA: Well the interesting part was I was asked
73
176000
2000
เมเดลีน: ที่น่าสนใจคือดิฉันถูกถามว่า
03:13
what it was like to be the first woman Secretary of State
74
178000
2000
รู้สึกอย่างไรที่เป็นผู้หญิงคนแรก
ที่เป็นรมต
ที่เป็นรมต
03:15
a few minutes after I'd been named.
75
180000
2000
หลังจากไม่กี่นาทีที่ได้ตำแหน่ง
03:17
And I said, "Well I've been a woman for 60 years,
76
182000
2000
ฉันตอบว่า "ฉันก็เป็นผู้หญิงมา 60 ปี
03:19
but I've only been Secretary of State for a few minutes."
77
184000
3000
แต่เพิ่งเป็นรมต.ต่างประเทศไม่กี่นาทีนี้เอง"
03:22
So it evolved.
78
187000
2000
มันคือวิวัฒนาการ
03:24
(Laughter)
79
189000
2000
(เสียงหัวเราะ)
03:26
But basically I love being a woman.
80
191000
2000
แต่ฉันชอบในความเป็นผู้หญิงค่ะ
03:28
And so what happened --
81
193000
2000
รู้ไหมค่ะว่าเกิดอะไรขึ้น --
03:30
and I think there will probably be some people in the audience
82
195000
2000
ฉันคิดว่าผู้ฟังในที่นี้หลายท่าน
03:32
that will identify with this --
83
197000
2000
น่าจะเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ --
03:34
I went to my first meeting, first at the U.N.,
84
199000
3000
ฉันเข้าไปประชุมที่ยูเอ็นครั้งแรก
03:37
and that's when this all started,
85
202000
2000
ซึ่งนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง
03:39
because that is a very male organization.
86
204000
3000
เพราะเป็นองค์กรที่เต็มไปด้วยผู้ชาย
03:42
And I'm sitting there -- there are 15 members of the Security Council --
87
207000
3000
ฉันนั่งอยู่ตรงนั้น--มีสมาชิก 15 ท่าน
03:45
so 14 men sat there staring at me,
88
210000
4000
ดังนั้น มีผู้ชาย 14 คนจ้องมาที่ฉัน
03:49
and I thought -- well you know how we all are.
89
214000
2000
ฉันก็ได้แต่คิดว่า--คุณนึกออกใช่มั้ยค่ะ
03:51
You want to get the feeling of the room,
90
216000
2000
เราอยากจะเป็นส่วนหนึ่งของที่ประชุม
03:53
and "do people like me?"
91
218000
2000
และ "พวกเค้าชอบฉันไหม"
03:55
and "will I really say something intelligent?"
92
220000
2000
หรือ "ต้องพูดอะไรที่ดูฉลาดดีไหม"
03:57
And all of a sudden I thought, "Well, wait a minute.
93
222000
3000
แต่ฉันคิดขึ้นมาได้ทันทีว่า"เอาล่ะ เดี๋ยวนะ
04:00
I am sitting behind a sign that says 'The United States,'
94
225000
3000
ฉันกำลังนั่งอยู่หลังป้ายของ 'สหรัฐอเมริกา'
04:03
and if I don't speak today
95
228000
2000
แล้วถ้าวันนี้ฉันไม่กล้าส่งเสียง
04:05
then the voice of the United States will not be heard,"
96
230000
3000
เสียงของสหรัฐอเมริกาก็จะไม่มีใครได้ยิน"
04:08
and it was the first time that I had that feeling
97
233000
2000
นั่นคือครั้งแรกที่ฉันรู้สึกแบบนั้น
04:10
that I had to step out of myself
98
235000
2000
ฉันต้องลบภาพของตัวเองออกไปก่อน
04:12
in my normal, reluctant female mode
99
237000
4000
จากธรรมดาที่อึกอักเพราะเป็นผู้หญิง
04:16
and decide that I had to speak on behalf of our country.
100
241000
3000
แต่ต้องพูดในฐานะที่
เป็นตัวแทนของประเทศต่างหาก
เป็นตัวแทนของประเทศต่างหาก
04:19
And so that happened more at various times,
101
244000
3000
ซึ่งการตั้งแง่แบบนั้นก็มีมาเรื่อย ๆ
04:22
but I really think that there was a great advantage in many ways
102
247000
4000
แต่ฉันคิดว่ามีข้อได้เปรียบหลาย ๆ อย่าง
04:26
to being a woman.
103
251000
2000
ในความเป็นผู้หญิง
04:28
I think we are a lot better
104
253000
2000
ดิฉันคิดว่าเราได้เปรียบ
04:30
at personal relationships,
105
255000
2000
ในเชิงการสร้างมนุษยสัมพันธ์
04:32
and then have the capability obviously
106
257000
2000
แต่ก็มีความสามารถพอ
04:34
of telling it like it is when it's necessary.
107
259000
3000
ที่จะตรงไปตรงมา เมื่อจำเป็น
04:37
But I have to tell you, I have my youngest granddaughter,
108
262000
2000
ฉันต้องเล่าว่า หลานสาวคนเล็กของฉัน
04:39
when she turned seven last year,
109
264000
2000
ตอนเธอเจ็ดขวบเมื่อปีก่อน
04:41
said to her mother, my daughter,
110
266000
2000
เธอบอกแม่ ซึ่งคือลูกสาวฉันว่า
04:43
"So what's the big deal about Grandma Maddie being Secretary of State?
111
268000
3000
"มันแปลกตรงไหนที่คุณยายแม็ดดี้เป็น
รมต.ต่างประเทศ
รมต.ต่างประเทศ
04:46
Only girls are Secretary of State."
112
271000
2000
ก็มีแต่ผู้หญิงที่เป็นรมต.ต่างประเทศ"
04:48
(Laughter)
113
273000
2000
(เสียงหัวเราะ)
04:50
(Applause)
114
275000
9000
(เสียงปรบมือ)
04:59
PM: Because in her lifetime -- MA: That would be so.
115
284000
3000
แพท: เพราะตลอดชีวิตที่เธอเห็น --
เมเดลีน: ก็อาจจะอย่างนั้นค่ะ
เมเดลีน: ก็อาจจะอย่างนั้นค่ะ
05:03
PM: What a change that is.
116
288000
2000
แพท: นั่นเป็นจุดเปลี่ยนเลยค่ะ
05:05
As you travel now all over the world,
117
290000
3000
แล้ว ตอนนี้คุณได้เดินทางทั่วโลก
05:08
which you do frequently,
118
293000
2000
ค่อนข้างบ่อย
05:10
how do you assess
119
295000
2000
คุณมองอย่างไรค่ะ
05:12
this global narrative around the story of women and girls?
120
297000
3000
บทบาทของผู้หญิงในโลกใบนี้เป็นอย่างไรบ้าง
05:15
Where are we?
121
300000
2000
เราอยู่ตรงไหน
05:17
MA: I think we're slowly changing,
122
302000
2000
แมเดลีน: ฉันคิดว่าเรากำลังค่อย ๆ เปลี่ยนไป
05:19
but obviously there are whole pockets
123
304000
2000
แต่ให้ชัดแล้วเรายังต้องมองในภาพรวม
05:21
in countries where nothing is different.
124
306000
2000
ในประเทศที่ทุกอย่างเท่าเทียมกัน
05:23
And therefore it means that we have to remember
125
308000
3000
สิ่งที่ตามมาเราต้องจำไว้ว่า
05:26
that, while many of us have had huge opportunities --
126
311000
3000
ขณะที่เราได้รับโอกาสมากมาย--
05:29
and Pat, you have been a real leader in your field --
127
314000
3000
และแพท คุณก็เป็นผู้หญิงแนวหน้าในสายงาน
05:32
is that there are a lot of women
128
317000
2000
ซึ่งก็มีผู้หญิงอีกมากมาย
05:34
that are not capable
129
319000
2000
ที่ยังไม่มีความสามารถ
05:36
of worrying and taking care of themselves
130
321000
2000
เพียงพอที่จะดูแลตัวเองได้
05:38
and understanding that women have to help other women.
131
323000
3000
และต้องเข้าใจว่า
ผู้หญิงต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
ผู้หญิงต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
05:41
And so what I have felt --
132
326000
2000
ซึ่งฉันรู้สึกว่า--
05:43
and I have looked at this
133
328000
2000
ฉันได้มองประเด็นนี้
05:45
from a national security issue --
134
330000
2000
ผ่านประเด็นความมั่นคงของชาติ--
05:47
when I was Secretary of State, I decided
135
332000
3000
ตอนเป็นรัฐมนตรี ฉันตัดสินใจว่า
05:50
that women's issues had to be central to American foreign policy,
136
335000
3000
เรื่องบทบาทสตรีต้องอยู่ในนโยบายต่างประเทศ
05:53
not just because I'm a feminist,
137
338000
2000
ไม่ใช่เพราะฉันเป็นผู้หญิงเท่านั้น
05:55
but because I believe that societies are better off
138
340000
4000
แต่เพราะฉันเชื่อว่าสังคมจะดีขึ้น
05:59
when women are politically and economically empowered,
139
344000
3000
เมื่อผู้หญิงมีอำนาจและบทบาท
ในทางการเมืองและเศรษฐกิจ
ในทางการเมืองและเศรษฐกิจ
06:02
that values are passed down,
140
347000
2000
คุณค่าจะถูกส่งต่อลงไป
06:04
the health situation is better,
141
349000
3000
ระบบสาธารณสุขดีขึ้น
06:07
education is better,
142
352000
2000
การศึกษาดีขึ้น
06:09
there is greater economic prosperity.
143
354000
2000
เกิดความเจริญมากกว่าเศรษฐกิจเฉพาะด้าน
06:11
So I think that it behooves us --
144
356000
3000
ดังนั้นมันจึงจำเป็นค่ะ --
06:14
those of us that live in various countries
145
359000
3000
พวกเราที่อยู่ในหลายประเทศ
06:17
where we do have economic and political voice --
146
362000
3000
ที่ซึ่งเรามีสิทธิ์มีเสียงด้านเศรษฐกิจและการเมือง
06:20
that we need to help other women.
147
365000
2000
จึงต้องช่วยเหลือผู้หญิงในประเทศอื่น ๆ
06:22
And I really dedicated myself to that,
148
367000
2000
ซึ่งฉันเองอุทิศตัวในเรื่องนี้
06:24
both at the U.N. and then as Secretary of State.
149
369000
3000
ทั้งตอนที่อยู่ที่ยูเอ็นและในบทบาทรัฐมนตรี
06:27
PM: And did you get pushback
150
372000
2000
แพท: แล้วคุณโดนคัดค้านบ้างไหมคะ
06:29
from making that a central tenant of foreign policy?
151
374000
3000
ในการผลักดันเรื่องนี้ในนโยบายต่างประเทศ
06:32
MA: From some people.
152
377000
2000
แมเดลีน: ก็มีบ้างบางคนค่ะ
06:34
I think that they thought that it was a soft issue.
153
379000
3000
คิดว่าพวกเขามองมันเป็นเรื่องเล็กน้อย
06:37
The bottom line that I decided
154
382000
2000
แต่ท้ายที่สุดฉันตัดสินใจแล้ว
06:39
was actually women's issues are the hardest issues,
155
384000
3000
ว่าเรื่องของสตรีเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง
06:42
because they are the ones that have to do with life and death
156
387000
3000
เพราะนโยบายเหล่านั้นเกี่ยวพันกับ
ความเป็นความตาย
ความเป็นความตาย
06:45
in so many aspects,
157
390000
2000
จากในหลายแง่มุม
06:47
and because, as I said,
158
392000
2000
อย่างที่ฉันเล่าไป
06:49
it is really central to the way that we think about things.
159
394000
3000
ใจความหลักมันคือวิธีคิดต่อสิ่งต่าง ๆ
06:52
Now for instance,
160
397000
2000
อย่างเช่น
06:54
some of the wars that took place
161
399000
2000
ช่วงที่มีสงครามหลายแห่ง
06:56
when I was in office,
162
401000
2000
ตอนที่ฉันยังทำงานอยู่
06:58
a lot of them, the women were the main victims of it.
163
403000
3000
เหยื่อส่วนมากแล้วเป็นผู้หญิงค่ะ
07:01
For instance, when I started,
164
406000
2000
อย่างตอนรับตำแหน่งใหม่ ๆ
07:03
there were wars in the Balkans.
165
408000
3000
มีสงครามคาบสมุทรบัลข่าน
07:06
The women in Bosnia were being raped.
166
411000
3000
ผู้หญิงในบอสเนียถูกข่มขืน
07:09
We then managed to set up a war crimes tribunal
167
414000
3000
เราจึงตั้งศาลอาชญากรสงคราม
07:12
to deal specifically with those kinds of issues.
168
417000
3000
เพื่อจัดการกับเรื่องดังกล่าวนี้โดยเฉพาะค่ะ
07:15
And by the way, one of the things that I did at that stage
169
420000
3000
หนึ่งในหลาย ๆ อย่างที่ฉันทำในตอนนั้น
07:18
was, I had just arrived at the U.N.,
170
423000
3000
ตอนที่ฉันเพิ่งทำงานที่ยูเอ็น
07:21
and when I was there, there were 183 countries in the U.N.
171
426000
3000
ขณะนั้นมีประเทศสมาชิก 183 ประเทศ
07:24
Now there are 192.
172
429000
2000
ปัจจุบันมี 192
07:26
But it was one of the first times that I didn't have to cook lunch myself.
173
431000
3000
เป็นครั้งแรกที่ฉันไม่ต้องทำอาหารกลางวันเอง
07:29
So I said to my assistant,
174
434000
2000
ฉันบอกผู้ช่วยว่า
07:31
"Invite the other women permanent representatives."
175
436000
3000
"เชิญตัวแทนจากชาติสมาชิกอื่น
ที่เป็นผู้หญิงมาทานอาหารร่วมกันหน่อย"
ที่เป็นผู้หญิงมาทานอาหารร่วมกันหน่อย"
07:34
And I thought when I'd get to my apartment
176
439000
2000
ฉันคิดเองว่าเมื่อถึงอพาร์ทเมนท์
07:36
that there'd be a lot of women there.
177
441000
2000
ต้องมีผู้หญิงมาเยอะแน่ ๆ
07:38
I get there, and there are six other women, out of 183.
178
443000
3000
แต่ฉันไปถึงมีผู้หญิงแค่ 6 คนจาก 183 ประเทศ
07:41
So the countries that had women representatives
179
446000
3000
ดังนั้น ประเทศที่ตัวแทนเป็นผู้หญิงคือ
07:44
were Canada, Kazakhstan, Philippines,
180
449000
2000
แคนาดา คาซัคสถาน ฟิลิปปินส์
07:46
Trinidad Tobago, Jamaica,
181
451000
2000
ตรินิแดดโตเบโก จาไมก้า
07:48
Lichtenstein and me.
182
453000
3000
ลิกเตนสไตน์ แล้วก็ฉัน
07:51
So being an American, I decided to set up a caucus.
183
456000
3000
ในฐานะอเมริกันชน ฉันเลยประชุมพรรคเสียเลย
07:54
(Laughter)
184
459000
2000
(เสียงหัวเราะ)
07:56
And so we set it up,
185
461000
2000
นั่นล่ะค่ะ เรารวมตัวกัน
07:58
and we called ourselves the G7.
186
463000
2000
แล้วเรียกตัวเองว่ากลุ่มจี 7
08:00
(Laughter)
187
465000
2000
(เสียงหัวเราะ)
08:02
PM: Is that "Girl 7?" MA: Girl 7.
188
467000
2000
แพท: มาจาก "สตรี 7"
แมเดลีน: ค่ะ สตรี 7
แมเดลีน: ค่ะ สตรี 7
08:04
And we lobbied
189
469000
2000
แล้วเราก็ล็อบบี้
08:06
on behalf of women's issues.
190
471000
2000
ในเรื่องเกี่ยวกับสตรี
08:08
So we managed to get two women judges
191
473000
3000
เราจัดการหาผู้พิพากษาผู้หญิง 2 ท่าน
08:11
on this war crimes tribunal.
192
476000
2000
ให้อยู่ในศาลอาญากรสงคราม
08:13
And then what happened
193
478000
2000
สิ่งที่เกิดขึ้นคือ
08:15
was that they were able to declare that rape was a weapon of war,
194
480000
3000
พวกเธอตัดสินว่าการข่มขืนถือเป็นอาวุธสงคราม
08:18
that it was against humanity.
195
483000
2000
ที่เป็นภัยต่อมนุษยชาติ
08:20
(Applause)
196
485000
5000
(เสียงปรบมือ)
08:25
PM: So when you look around the world
197
490000
2000
แพท: ในหลายประเทศทั่วโลก
08:27
and you see that, in many cases --
198
492000
2000
ถ้าคุณมองจะเห็นว่ามีหลายกรณี--
08:29
certainly in the Western world --
199
494000
2000
โดยเฉพาะในโลกตะวันตก--
08:31
women are evolving into more leadership positions,
200
496000
3000
ผู้หญิงขึ้นมายืนบนตำแหน่งผู้นำมากขึ้น
08:34
and even other places
201
499000
2000
และที่อื่น ๆ ก็เหมือนกัน
08:36
some barriers are being brought down,
202
501000
3000
อุปสรรคต่าง ๆ ลดลงไปมาก
08:39
but there's still so much violence,
203
504000
3000
แต่ก็ยังมีความรุนแรง
08:42
still so many problems,
204
507000
2000
ยังมีปัญหาอีกเยอะ
08:44
and yet we hear there are more women
205
509000
2000
ทั้งที่เราได้ยินบ่อย ๆ ว่ามีผู้หญิง
08:46
at the negotiating tables.
206
511000
2000
ได้ร่วมบนโต๊ะเจรจาต่าง ๆ
08:48
Now you were at those negotiating tables
207
513000
2000
คุณเองมีโอกาสเข้าร่วมการเจรจา
08:50
when they weren't, when there was maybe you --
208
515000
3000
ในขณะที่พวกเธอไม่มีโอกาส ตอนนั้นเรามีคุณ
08:53
one voice, maybe one or two others.
209
518000
2000
1 เสียง หรืออาจจะมากกว่านั้น
08:55
Do you believe, and can you tell us why,
210
520000
3000
คุณยังเชื่ออยู่เปล่า แล้วบอกเราได้ไหมค่ะ
08:58
there is going to be a significant shift
211
523000
3000
ว่าเมื่อไหร่จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน
09:01
in things like violence
212
526000
2000
ในเรื่องอย่างเช่น ความรุนแรง
09:03
and peace and conflict and resolution
213
528000
3000
สันติภาพ ความขัดแย้ง และข้อยุติ
09:06
on a sustainable basis?
214
531000
2000
อย่างยั่งยืนจริง ๆ
09:08
MA: Well I do think, when there are more women,
215
533000
3000
แมเดลีน: ที่ฉันคิดก็ต่อเมื่อมีผู้หญิงมากขึ้น
09:11
that the tone of the conversation changes,
216
536000
4000
และอารมณ์ในการพูดคุยก็จะเปลี่ยน
09:15
and also the goals of the conversation change.
217
540000
3000
รวมถึงเป้าหมายในการเจรจาต่าง ๆ ก็จะเปลี่ยน
09:18
But it doesn't mean that the whole world
218
543000
2000
แต่ไม่ได้แปลว่าโลกทั้งโลก
09:20
would be a lot better
219
545000
2000
จะดีขึ้นเสียทีเดียว
09:22
if it were totally run by women.
220
547000
2000
ถ้าให้ผู้หญิงเป็นผู้ควบคุมทุกอย่าง
09:24
If you think that, you've forgotten high school.
221
549000
3000
ถ้าคุณคิดแบบนั้นคุณคงลืมนึกถึงช่วงมัธยมไป
09:27
(Laughter)
222
552000
3000
(เสียงหัวเราะ)
09:30
But the bottom line
223
555000
2000
แต่ที่ประเด็นหลักคือ
09:32
is that there is a way,
224
557000
2000
มันเป็นหนทางหนึ่งค่ะ
09:34
when there are more women at the table,
225
559000
3000
เมื่อมีผู้หญิงบนเวทีการพูดคุย
09:37
that there's an attempt
226
562000
2000
ก็จะทำให้มีความพยายาม
09:39
to develop some understanding.
227
564000
2000
ในการสร้างความเข้าใจได้ดีขึ้น
09:41
So for instance, what I did when I went to Burundi,
228
566000
3000
ตัวอย่างเช่นตอนฉันไปบูรุนดี
09:44
we'd got Tutsi and Hutu women together
229
569000
3000
เรามีผู้หญิงมาจากทั้งเผ่าตุดซี่และฮูตู
09:47
to talk about some of the problems
230
572000
2000
มาการถกกันถึงปัญหา
09:49
that had taken place in Rwanda.
231
574000
2000
ที่เกิดขึ้นในรวันดา
09:51
And so I think the capability of women
232
576000
3000
ซึ่งฉันได้เห็นความสามารถของผู้หญิง
09:54
to put themselves --
233
579000
2000
ในการมีส่วนร่วม --
09:56
I think we're better about putting ourselves into the other guy's shoes
234
581000
3000
ฉันคิดว่าเราทำได้มากกว่าคิดไว้แต่แรก
09:59
and having more empathy.
235
584000
2000
เรามองได้ลึกซึ้งกว่า
10:01
I think it helps in terms of the support
236
586000
3000
ฉันคิดว่ามันช่วยสนับสนุนซึ่งกันและกัน
10:04
if there are other women in the room.
237
589000
2000
ถ้ามีผู้หญิงอีกซักคนอยู่ในห้องนั้นกับคุณ
10:06
When I was Secretary of State,
238
591000
2000
ตอนที่ฉันเป็นรมต.ต่างประเทศ
10:08
there were only 13 other women foreign ministers.
239
593000
3000
มีแค่ 13 ท่านที่เป็นรมต.ต่างประเทศหญิง
10:11
And so it was nice when one of them would show up.
240
596000
3000
มันดีมาก ๆ เมื่อหนึ่งในพวกเธอแสดงออก
10:14
For instance, she is now the president of Finland,
241
599000
3000
ยกตัวอย่าง
ตอนนี้เธอเป็นประธานาธิบดีฟินแลนด์ค่ะ
ตอนนี้เธอเป็นประธานาธิบดีฟินแลนด์ค่ะ
10:17
but Tarja Halonen was the foreign minister of Finland
242
602000
3000
แต่ทาเรีย ฮาโลเน่น
เป็นรมต.ต่างประเทศของฟินแลนด์
เป็นรมต.ต่างประเทศของฟินแลนด์
10:20
and, at a certain stage, head of the European Union.
243
605000
3000
รวมทั้งเป็นประธานกลุ่มสหภาพยุโรปด้วย
10:23
And it was really terrific.
244
608000
2000
ซึ่งมันยอดเยี่ยมมาก
10:25
Because one of the things I think you'll understand.
245
610000
2000
เพราะมีเรื่องหนึ่งที่จะช่วยให้คุณเข้าใจค่ะ
10:27
We went to a meeting,
246
612000
2000
เราเข้าร่วมประชุม
10:29
and the men in my delegation,
247
614000
2000
ซึ่งมีผู้แทนที่เป็นผู้ชาย
10:31
when I would say, "Well I feel we should do something about this,"
248
616000
3000
ฉันพูดขึ้นว่า "ฉันรู้สึกว่า
เราควรทำบางอย่างในเรื่องนี้"
เราควรทำบางอย่างในเรื่องนี้"
10:34
and they'd say, "What do you mean, you feel?"
249
619000
3000
พวกเขาพูดว่า"หมายถึงอะไรที่ว่ารู้สึกน่ะ"
10:37
And so then Tarja was sitting across the table from me.
250
622000
3000
แล้ว เอ่อ ทาเรีย นั่งอยู่ตรงข้ามฉัน
10:40
And all of a sudden we were talking about arms control,
251
625000
3000
ที่เรากำลังพูดถึงคือเรื่องการควบคุมอาวุธ
10:43
and she said, "Well I feel we should do this."
252
628000
2000
เธอพูดว่า "ฉันรู้สึกว่า เราต้องทำค่ะ"
10:45
And my male colleagues kind of got it all of a sudden.
253
630000
3000
นั่นแหละค่ะเพื่อนร่วมงานชายของดิฉัน
ก็ดูเข้าใจอะไร ๆ ได้ทันที
ก็ดูเข้าใจอะไร ๆ ได้ทันที
10:48
But I think it really does help
254
633000
2000
แต่ฉันคิดว่ามันช่วยจริง ๆ นะคะ
10:50
to have a critical mass of women
255
635000
3000
ถ้ามีผู้หญิงจำนวนมากพอ
10:53
in a series of foreign policy positions.
256
638000
3000
ในตำแหน่งเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศ
10:56
The other thing that I think is really important:
257
641000
3000
และอีกสิ่งที่ฉันคิดว่าสำคัญมากคือ
10:59
A lot of national security policy
258
644000
2000
นโยบายเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ
11:01
isn't just about foreign policy,
259
646000
2000
ไม่ใช่แต่เฉพาะนโยบายต่างประเทศ
11:03
but it's about budgets, military budgets,
260
648000
3000
แต่มันเกี่ยวกับงบประมาณ งบด้านการทหาร
11:06
and how the debts of countries work out.
261
651000
3000
การบริหารหนี้ของประเทศต่าง ๆ
11:09
So if you have women
262
654000
2000
ถ้าคุณมีสุภาพสตรี
11:11
in a variety of foreign policy posts,
263
656000
3000
ร่วมในการออกนโยบายต่างประเทศด้านต่าง ๆ
11:14
they can support each other
264
659000
2000
พวกเธอจะสนับสนุนกัน
11:16
when there are budget decisions being made in their own countries.
265
661000
3000
เมื่อมีการจัดตั้งงบประมาณในแต่ละประเทศ
11:19
PM: So how do we get
266
664000
2000
แพท: แล้วเราจะทำยังไงค่ะ
11:21
this balance we're looking for, then, in the world?
267
666000
3000
ถึงจะเกิดสมดุลแบบที่คุณบอกบนโลกนี้
11:24
More women's voices at the table?
268
669000
2000
สตรีที่มีสิทธิ์มีเสียงเพิ่มขึ้น
11:26
More men who believe
269
671000
2000
มีผู้ชายที่ยอมเชื่อว่า
11:28
that the balance is best?
270
673000
2000
การมีสมดุลแบบนั้นดีที่สุด
11:30
MA: Well I think one of the things --
271
675000
2000
แมเดลีน: คือฉันว่าสิ่งหนึ่งทั้งหมดนะคะ--
11:32
I'm chairman of the board of an organization
272
677000
2000
ฉันเองก็เป็นกรรมการบริหารขององค์กร
11:34
called the National Democratic Institute
273
679000
2000
ที่ชื่อว่าสถาบันส่งเสริมประชาธิปไตย (NDI)
11:36
that works to support women candidates.
274
681000
3000
ซึ่งทำงานเพื่อสนับสนุนผู้แทนสตรี
11:39
I think that we need
275
684000
2000
ฉันคิดว่าเราจำเป็น
11:41
to help in other countries
276
686000
2000
จะต้องช่วยเหลือประเทศอื่น ๆ
11:43
to train women
277
688000
2000
ในการสร้างผู้หญิง
11:45
to be in political office,
278
690000
2000
ให้เข้าสู่การเมือง
11:47
to figure out how they can in fact
279
692000
2000
เพื่อแสดงให้เห็นว่าจริง ๆ แล้วพวกเธอ
11:49
develop political voices.
280
694000
2000
พัฒนาเสียงทางการเมืองได้
11:51
I think we also need to be supportive
281
696000
3000
และฉันคิดว่าต้องคอยสนับสนุน
11:54
when businesses are being created
282
699000
3000
เมื่อมีการจัดตั้งองค์กรใด ๆ ขึ้นมา
11:57
and just make sure that women help each other.
283
702000
2000
และต้องแน่ใจว่าผู้หญิงคอยช่วยเหลือกัน
11:59
Now I have a saying
284
704000
2000
ฉันต้องบอกว่า
12:01
that I feel very strongly about,
285
706000
2000
ฉันเข้าใจเรื่องนี้อย่างมาก
12:03
because I am of a certain age
286
708000
2000
เพราะฉันอยู่ในวัยนี้แล้ว
12:05
where, when I started in my career,
287
710000
2000
เมื่อตอนที่เริ่มทำงาน
12:07
believe it or not, there were other women who criticized me:
288
712000
3000
เชื่อมั้ยค่ะ มีผู้หญิงหลายคนตำหนิฉัน
12:10
"Why aren't you in the carpool line?"
289
715000
3000
"ทำไมคุณถึงไม่ใช้ช่องทางถนนร่วมกัน"
12:13
or "Aren't your children suffering
290
718000
2000
หรือ "ลูก ๆ คุณเสียใจไหม
12:15
because you're not there all the time?"
291
720000
2000
เพราะคุณไม่เคยอยู่กับพวกเขาเลยนี่"
12:17
And I think we have a tendency to make each other feel guilty.
292
722000
3000
ซึ่งฉันคิดว่าคนเรามักจะชอบทำให้คนอื่น
รู้สึกว่าผิด
รู้สึกว่าผิด
12:20
In fact, I think "guilt" is every woman's middle name.
293
725000
4000
จริง ๆ แล้วฉันคิดว่า "ความรู้สึกว่าผิด"
เป็นชื่อกลางของผู้หญิงไปแล้ว
เป็นชื่อกลางของผู้หญิงไปแล้ว
12:24
And so I think what needs to happen
294
729000
2000
นั้นแหละค่ะฉันถึงคิดว่ามันจำเป็น
12:26
is we need to help each other.
295
731000
3000
ที่เราต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
12:29
And my motto is that there's a special place in hell
296
734000
2000
ฉันมีคติว่านรกมีขุมพิเศษค่ะ
12:31
for women who don't help each other.
297
736000
3000
สำหรับผู้หญิงที่ไม่รู้จักช่วยผู้หญิงด้วยกัน
12:34
(Applause)
298
739000
8000
(เสียงปรบมือ)
12:42
PM: Well Secretary Albright, I guess you'll be going to heaven.
299
747000
3000
แพท: คะ ท่านอัลไบรท์ค่ะ
ฉันเดาว่าคุณได้ไปสวรรค์แน่ ๆ
ฉันเดาว่าคุณได้ไปสวรรค์แน่ ๆ
12:46
Thank you for joining us today.
300
751000
2000
ขอบคุณสำหรับวันนี้ค่ะ
12:48
MA: Thank you all. Thanks Pat.
301
753000
3000
แมเดลีน: ขอบคุณทุกคนค่ะ ขอบคุณค่ะ แพท
12:51
(Applause)
302
756000
2000
(เสียงปรบมือ)
Translated by Dussadee Suebsangin
ABOUT THE SPEAKER
Madeleine Albright - Former US Secretary of StateSince leaving office as US Secretary of State in 2001, Madeleine Albright has continued her distinguished career in foreign affairs as a businesswoman, political adviser and professor.
Why you should listen
Madeleine Albright is one of America’s leading authorities on foreign affairs. Unanimously confirmed as the first female Secretary of State in 1997, she became the highest-ranking woman in U.S. government history. During her four-year tenure, Albright reinforced U.S. alliances, advocated for democracy and human rights, and promoted American trade, business, labor and environmental standards abroad.
Since then, Albright has continued her distinguished career as a businesswoman, political adviser and professor. She is chair of Albright Stonebridge Group, a global strategy firm, and Albright Capital Management LLC, an investment advisory firm focused on emerging markets. Albright also chairs the National Democratic Institute for International Affairs and the Pew Global Attitudes Project and serves on the boards of the Council on Foreign Relations, the Aspen Institute and the Center for a New American Security. She also teaches diplomacy at Georgetown’s School of Foreign Service.
Madeleine Albright | Speaker | TED.com