TED2011
Shea Hembrey: How I became 100 artists
เชียร์ เฮมเบรย์: ผมเป็นศิลปินร้อยหน้า
Filmed:
Readability: 3.4
1,615,180 views
คุณจะจัดงานแสดงศิลปะระดับนานาชาติที่มีงานของศิลปินกว่าร้อยแนวได้ยังไง ถ้าคุณเป็นเชียร์ เฮมเบรย์ คุณก็จะเนรมิตสร้างศิลปินและงานทั้งหมดขึ้นมาด้วยตนเอง ตั้งแต่งานประติมากรรมใหญ่ยักษ์นอกอาคารไปจนถึงภาพวาดจิ๋วที่วาดด้วยแปรงขนเส้นเดียว เชิญรับชมความสนุก ระเบิดไอเดียและความสามารถหลากหลายที่ศิลปินคนนี้ทำได้กัน
Shea Hembrey - Artist and curator
Shea Hembrey explores patterns from nature and myth. A childhood love of nature, and especially birdlife, informs his vision. Full bio
Shea Hembrey explores patterns from nature and myth. A childhood love of nature, and especially birdlife, informs his vision. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:15
I'm a contemporary artist
0
0
2000
ผมเป็นศิลปินแนวร่วมสมัย
00:17
with a bit of an unexpected background.
1
2000
2000
ที่มีพื้นฐานที่ค่อนข้างคาดไม่ถึง
00:19
I was in my 20s before I ever went to an art museum.
2
4000
3000
กว่าผมจะเคยเข้าหอศิลป์ก็อายุราวๆ20เห็นจะได้
00:22
I grew up in the middle of nowhere
3
7000
2000
ผมเติบโตในที่ไกลปืนเที่ยง
00:24
on a dirt road in rural Arkansas,
4
9000
2000
บนถนนฝุ่นตลบของชนบทรัฐอาคันซอส์
00:26
an hour from the nearest movie theater.
5
11000
2000
โรงหนังที่ใกล้ที่สุดห่างไปประมาณราวชั่วโมงได้
00:28
And I think it was a great place to grow up as an artist
6
13000
3000
และในความคิดของผมมันเป็นสถานที่ที่ดีมากสำหรับการเติบโตเป็นศิลปิน
00:31
because I grew up around quirky, colorful characters
7
16000
3000
เพราะผมได้เติบโตท่ามกลางเหล่าผู้คนที่มีสีสันหลากหลายแปลกตา
00:34
who were great at making with their hands.
8
19000
3000
เป็นผู้คนที่เก่งในงานฝีมือ
00:37
And my childhood is more hick
9
22000
2000
และในวัยเด็กผมมีความบ้านนอก
00:39
than I could ever possibly relate to you,
10
24000
2000
มากจนผมไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับพวกคุณได้เลย
00:41
and also more intellectual than you would ever expect.
11
26000
3000
และยังจะเฉลียวฉลาดมากกว่าที่คุณคาดไว้แน่ๆ
00:44
For instance, me and my sister, when we were little,
12
29000
2000
ยกตัวอย่างสั้นๆนะครับ ผมกับพี่สาวเมื่อตอนยังเล็ก
00:46
we would compete to see who could eat the most squirrel brains.
13
31000
3000
พวกเราจะแข่งกันว่าใครกินสมองกระรอกได้เยอะที่สุด
00:49
(Laughter)
14
34000
2000
(เสียงหัวเราะ)
00:51
But on the other side of that, though,
15
36000
2000
แต่ในอีกด้านนึง
00:53
we were big readers in our house.
16
38000
2000
พวกเราก็เป็นนักอ่านตัวยงประจำบ้านด้วย
00:55
And if the TV was on, we were watching a documentary.
17
40000
3000
แต่ถ้าเปิดทีวี พวกเราก็จะดูสารคดีกันครับ
00:59
And my dad is the most voracious reader I know.
18
44000
3000
ส่วนพ่อผมเป็นหนอนหนังสือที่ตะกละที่สุดเท่าที่ผมรู้จัก
01:02
He can read a novel or two a day.
19
47000
2000
เขาสามารถอ่านนิยายเล่มหรือสองเล่มในวันเดียว
01:04
But when I was little, I remember,
20
49000
2000
แต่ เมื่อตอนผมเป็นเด็ก ผมจำได้ว่า
01:06
he would kill flies in our house with my BB gun.
21
51000
3000
พ่อสามารถสอยแมลงวันในบ้านได้ด้วยปืน บีบี กันของผม
01:09
And what was so amazing to me about that --
22
54000
2000
และสิ่งที่มหัศจรรย์มากสำหรับผมเกี่ยวกับเรื่องนี้คือ
01:11
well he would be in his recliner, would holler for me to fetch the BB gun,
23
56000
3000
พ่อจะนอนเอนกาย ตะโกนเรียกผมให้ไปหยิบปืน บีบีกันมาให้
01:14
and I'd go get it.
24
59000
2000
แล้วผมก็จะไปหยิบมาให้
01:16
And what was amazing to me --
25
61000
2000
และสิ่งมหัศจรรย์สำหรับผมคือ
01:18
well it was pretty kickass; he was killing a fly in the house with a gun --
26
63000
3000
เออ มันเจ๋งมากครับ ที่พ่อฆ่าแมลงวันในบ้านด้วยปืน
01:21
but what was so amazing to me
27
66000
2000
แต่ที่น่าประหลาดใจ
01:23
was that he knew just enough how to pump it.
28
68000
2000
คือพ่อรู้ว่าจะปั๊มลมแค่ไหน
01:25
And he could shoot it from two rooms away
29
70000
3000
แล้วพ่อก็ยิงในระยะห่างออกไปสองห้องได้
01:28
and not damage what it was on
30
73000
3000
โดยไม่ทำลายของที่แมลงวันเกาะอยู่
01:31
because he knew how to pump it just enough to kill the fly
31
76000
2000
เพราะพ่อรู้ว่าจะปั๊มลมแค่ไหนสำหรับการฆ่าแมลงวันโดยเฉพาะ
01:33
and not damage what it landed on.
32
78000
3000
โดยไม่ทำลายของที่มันเกาะอยู่
01:38
So I should talk about art.
33
83000
2000
เออ ผมควรจะพูดเรื่องศิลปะซินะ
01:40
(Laughter)
34
85000
2000
(เสียงหัวเราะ)
01:42
Or we'll be here all day with my childhood stories.
35
87000
3000
ไม่งั้นพวกเราคงอยู่กับเรื่องราววัยเด็กของผมทั้งวันแน่
01:46
I love contemporary art,
36
91000
2000
ผมรักศิลปะร่วมสมัยครับ
01:48
but I'm often really frustrated with the contemporary art world
37
93000
2000
แต่ผมก็มักจะหงุดหงิดกับโลกของศิลปะร่วมสมัย
01:50
and the contemporary art scene.
38
95000
2000
และเวทีแสดงงานศิลปะร่วมสมัยพวกนี้อยู่บ่อยๆ
01:52
A few years ago,
39
97000
2000
เมื่อสองสามปีก่อน
01:54
I spent months in Europe
40
99000
2000
ผมใช้เวลาหลายเดือนในยุโรป
01:56
to see the major international art exhibitions
41
101000
3000
เพื่อชมงานแสดงศิลปะระดับโลกใหญ่ๆ
01:59
that have the pulse
42
104000
2000
ซึ่งมีจังหวะ
02:01
of what is supposed to be going on in the art world.
43
106000
2000
ของสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้นในโลกศิลปะนี้
02:03
And I was struck
44
108000
2000
และผมก็หลงติดใจ
02:05
by going to so many, one after the other,
45
110000
3000
โดยไปชมหลายๆที่ ที่แล้วที่เล่า
02:08
with some clarity of what it was
46
113000
2000
ด้วยความกระจ่างว่ามันคือสิ่ง
02:10
that I was longing for.
47
115000
2000
ที่ผมเสาะหามานาน
02:12
And I was longing for several things that I wasn't getting,
48
117000
2000
ผมพยายามเสาะแสวงหาหลายอย่าง แต่ก็ยังไม่ได้
02:14
or not getting enough of.
49
119000
2000
หรืออาจจะได้ไม่มากพอ
02:16
But two of the main things:
50
121000
2000
แต่มีสองสิ่งหลักๆ คือ
02:18
one of it, I was longing for more work
51
123000
2000
อย่างแรก ผมแสวงหางานศิลปะมากกว่านี้
02:20
that was appealing to a broad public,
52
125000
2000
ที่เป็นที่สนใจในวงกว้าง
02:22
that was accessible.
53
127000
2000
ที่ผู้คนเข้าถึงได้
02:24
And the second thing that I was longing for
54
129000
2000
และอย่างที่สองที่ผมตามหา
02:26
was some more exquisite craftsmanship
55
131000
2000
คือ งานที่มีฝีมือวิจิตรประณีต
02:28
and technique.
56
133000
3000
และเทคนิคชั้นสูง
02:31
So I started thinking and listing
57
136000
3000
ดังนั้นผมจึงเริ่มคิดและทำรายการ
02:34
what all it was that I thought would make a perfect biennial.
58
139000
3000
สิ่งที่ผมคิดน่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้งานแสดงทุกๆสองปีสมบูรณ์แบบ
02:37
So I decided,
59
142000
2000
ผมจึงตัดสินใจ
02:39
I'm going to start my own biennial.
60
144000
2000
ว่าผมจะเริ่มจัดงานแสดงทุกๆสองปีของตัวเอง
02:41
I'm going to organize it and direct it
61
146000
2000
ผมจะเป็นคนจัดแจงและควบคุมงานเอง
02:43
and get it going in the world.
62
148000
3000
แล้วนำเสนอสู่โลก
02:46
So I thought, okay,
63
151000
2000
ผมก็เริ่มคิดว่า โอเค
02:48
I have to have some criteria of how to choose work.
64
153000
3000
ผมต้องมีเกณฑ์การเลือกงาน
02:51
So amongst all the criteria I have,
65
156000
2000
ในบรรดาเกณฑ์ต่างๆที่ผมมี
02:53
there's two main things.
66
158000
2000
มีอยู่สองสิ่งหลักคือ
02:55
One of them, I call my Mimaw's Test.
67
160000
2000
อย่างแรก ผมเรียกว่า Mimaw's Test
02:57
And what that is
68
162000
2000
มันก็คือ
02:59
is I imagine explaining a work of art
69
164000
2000
ผมสมมุติว่ากำลังอธิบายงานศิลปะชิ้นหนึ่ง
03:01
to my grandmother in five minutes,
70
166000
2000
ให้คุณยายของผมเข้าใจได้ในเวลาห้านาที
03:03
and if I can't explain it in five minutes,
71
168000
2000
และถ้าผมสามารถอธิบายได้ภายในห้านาที
03:05
then it's too obtuse
72
170000
2000
ก็เท่ากับมันทื่อเกินไป
03:07
or esoteric
73
172000
2000
หรือซับซ้อนเกินไป
03:09
and it hasn't been refined enough yet.
74
174000
2000
และก็ยังไม่ประณีตพอ
03:11
It needs to worked on
75
176000
2000
มันต้องได้รับการพัฒนา
03:13
until it can speak fluently.
76
178000
3000
จนมันสามารถพูดด้วยตัวมันเองได้
03:16
And then my other second set of rules --
77
181000
2000
และในกฎข้อที่สองคือ
03:18
I hate to say "rules" because it's art --
78
183000
2000
ผมไม่ชอบใช้คำว่า"กฎ"เลย เพราะมันเป็นงานศิลปะ
03:20
my criteria would be
79
185000
2000
เกณฑ์ของผมคือ
03:22
the three H's,
80
187000
2000
สาม "ห"
03:24
which is head, heart and hands.
81
189000
2000
นั่นก็คือ หัว หัวใจ หัตถ์
03:26
And great art would have "head":
82
191000
3000
งานศิลปะที่ดีควรมี หัว:
03:29
it would have interesting intellectual ideas
83
194000
2000
คือมันควรมีความคิดทางปัญญา
03:31
and concepts.
84
196000
2000
และแนวคิดที่น่าสนใจ
03:33
It would have "heart" in that it would have passion
85
198000
3000
มันควรมีหัวใจซึ่งก็คือแรงบันดาลใจ
03:36
and heart and soul.
86
201000
2000
หัวใจและจิตวิญญาณ
03:38
And it would have "hand" in that it would be greatly crafted.
87
203000
3000
และมีหัตถ์คือมีการใช้ฝีมือชั้นยอด
03:41
So I started thinking about
88
206000
2000
ดังนั้นผมจึงเริ่มคิดว่า
03:43
how am I going to do this biennial,
89
208000
2000
ผมจะทำงานแสดงทุกๆสองปีนี้ให้สำเร็จได้ยังไง
03:45
how am I going to travel the world
90
210000
2000
ผมจะเดินทางไปทั่วโลก
03:47
and find these artists?
91
212000
2000
เพื่อตามหาศิลปินเหล่านี้ได้ยังไง
03:49
And then I realized one day, there's an easier solution to this.
92
214000
3000
และในวันนึง ผมก็พบกับคำตอบที่ง่ายกว่าของเรื่องนี้
03:52
I'm just going to make the whole thing myself.
93
217000
2000
ว่า งั้นผมก็จะทำทุกอย่างเองก็หมดเรื่อง
03:54
(Laughter)
94
219000
2000
(เสียงหัวเราะ)
03:56
And so this is what I did.
95
221000
3000
และนั้นก็เป็นสิ่งที่ผมทำครับ
03:59
So I thought, a biennial needs artists.
96
224000
2000
โอเค ผมก็เริ่มคิดว่า งานแสดงทุกสองปีนี้ต้องการเหล่าศิลปิน
04:01
I'm going to do an international biennial; I need artists from all around the world.
97
226000
3000
แล้วผมก็อยากทำงานนี้ในระดับอินเตอร์ด้วย ดังนั้นผมต้องการศิลปินจากทั่วโลก
04:04
So what I did was
98
229000
2000
สิ่งที่ผมทำคือ
04:06
I invented a hundred artists from around the world.
99
231000
3000
ผมสร้างศิลปินกว่าร้อยคนจากทั่วโลกเอง
04:09
I figured out their bios, their passions in life
100
234000
3000
คิดสร้างประวัติและความชอบบันดาลใจในชีวิตของพวกเขา
04:12
and their art styles,
101
237000
2000
แล้วก็แนวศิลปะของพวกเขา
04:14
and I started making their work.
102
239000
3000
แล้วผมก็เริ่มสร้างผลงานของพวกเขา
04:17
(Laughter)
103
242000
2000
(หัวเราะ)
04:19
(Applause)
104
244000
3000
(เสียงปรบมือ)
04:22
I felt, oh this is the kind of project that I could spend my whole life doing.
105
247000
3000
ผมรู้สึกว่า โอ้ นี่เหมือนกับโปรเจคที่ผมคงต้องใช้เวลาทั้งชีวิตทำแน่เลย
04:25
So I decided, I'm going to make this a real biennial.
106
250000
2000
ดังนั้นผมตัดสินใจว่า ผมจะทำให้มันเป็นงานแสดงทุกสองปีจริงๆ
04:27
It's going to be two years of studio work.
107
252000
2000
มันจะเป็นงานในสตูดิโอสองปี
04:29
And I'm going to create this in two years,
108
254000
2000
และผมจะทำงานเหล่านี้ในเวลาสองปี
04:31
and I have.
109
256000
2000
และผมก็ทำ
04:35
So I should start to talk about these guys.
110
260000
3000
งั้น ผมขอเริ่มพูดเกี่ยวกับบุคคลเหล่านี้
04:38
Well the range is quite a bit.
111
263000
2000
รูปแบบของงานก็ไม่ใช่น้อยเลย
04:40
And I'm such a technician, so I loved this project,
112
265000
2000
และผมก็เป็นพวกบ้าเทคนิค ชอบโปรเจค
04:42
getting to play with all the techniques.
113
267000
3000
แล้วก็ชอบเล่นกับเทคนิคต่างๆเสียด้วย
04:45
So for example, in realist paintings,
114
270000
2000
ตัวอย่างเช่น ในภาพวาดเสมือนจริง
04:47
it ranges from this,
115
272000
2000
มีรูปแบบตั้งแต่เท่านี้
04:49
which is kind of old masters style,
116
274000
2000
ซึ่งเป็นลักษณะของเหล่าศิลปินชั้นครูรุ่นเก่า
04:51
to really realistic still-life,
117
276000
3000
ไปจนกระทั่งรูปแบบภาพนิ่งเสมือนจริง
04:54
to this type of painting where I'm painting with a single hair.
118
279000
3000
จนถึงภาพวาดแบบนี้ที่ผมต้องระบายด้วยแปรงเส้นเดียว
04:57
And then at the other end, there's performance and short films
119
282000
3000
และสุดมุมของอีกด้านนึง มีงานการแสดงและหนังสั้น
05:00
and indoor installations
120
285000
2000
และงานประติมากรรมในอาคาร
05:02
like this indoor installation
121
287000
2000
เหมือนกับงานประติมากรรมในอาคารชิ้นนี้
05:04
and this one,
122
289000
3000
และนี่
05:07
and outdoor installations like this one
123
292000
4000
ส่วนงานประติมากรรมกลางแจ้งเช่นอันนี้
05:11
and this one.
124
296000
2000
และอันนี้
05:13
I know I should mention: I'm making all these things.
125
298000
2000
ผมรู้ว่าผมควรบอกว่า ผมทำพวกนี้เองทั้งหมด
05:15
This isn't Photoshopped.
126
300000
2000
ไม่ได้ใช้ โฟโต้ช๊อป
05:17
I'm under the river with those fish.
127
302000
2000
ผมดำในแม่น้ำกับปลาพวกนั้นจริงๆ
05:19
So now let me introduce some of my fictional artists to you.
128
304000
3000
ตอนนี้ผมขอเล่าเรื่องเหล่าศิลปินสมมติต่างๆของผมให้คุณฟังแหล่ะกัน
05:22
This is Nell Remmel.
129
307000
2000
นี่คือ เนลล์ เรมเมิล
05:24
Nell is interested in agricultural processes,
130
309000
2000
เนลล์สนใจในกระบวนการทางเกษตรกรรม
05:26
and her work is based in these practices.
131
311000
3000
และงานของเธอมีพื้นฐานมาจากหลักปฎิบัติเหล่านั้น
05:29
This piece, which is called "Flipped Earth" --
132
314000
2000
งานชิ้นนี้ เรียกว่า "โลกพลิกกลับ"
05:31
she was interested in taking the sky
133
316000
3000
เธอสนใจที่จะถ่ายถอดภาพท้องฟ้า
05:34
and using it to cleanse barren ground.
134
319000
3000
แล้วใช้มันทำความสะอาดพื้นดินอันแห้งแล้ง
05:37
And by taking giant mirrors --
135
322000
3000
และโดยการใช้กระจกยักษ์ --
05:40
(Applause)
136
325000
2000
(เสียงปรบมือ)
05:42
and here she's taking giant mirrors
137
327000
2000
และนี่เธอเอากระจกขนาดยักษ์ใหญ่มา
05:44
and pulling them into the dirt.
138
329000
3000
และดึงท้องฟ้าลงสู่พื้นดิน
05:47
And this is 22 feet long.
139
332000
2000
นี่ยาวประมาณ22ฟุตได้ครับ
05:49
And what I loved about her work
140
334000
2000
และสิ่งที่ผมชอบในงานเธอ
05:51
is, when I would walk around it
141
336000
2000
คือ ขณะที่ผมเดินไปรอบๆมัน
05:53
and look down into the sky,
142
338000
2000
แล้วมองลงไปยังท้องฟ้า
05:55
looking down to watch the sky,
143
340000
2000
มองท้องฟ้าด้านล่างนั่น
05:57
and it unfolded in a new way.
144
342000
2000
มันเหมือนเปิดมุมมองใหม่
05:59
And probably the best part of this piece
145
344000
2000
และสิ่งที่น่าจะเป็นความเจ๋งที่สุดในงานชิ้นนี้
06:01
is at dusk and dawn
146
346000
2000
คือตอนยามค่ำและยามรุ่งสาง
06:03
when the twilight wedge has fallen and the ground's dark,
147
348000
3000
เมื่อแสงยามโพล้เพล้มืดลงและพื้นเริ่มเป็นสีดำ
06:06
but there's still the light above, bright above.
148
351000
2000
แต่ยังคงมีแสงอยู่ด้านบน สว่างเหนืออยู่บนนั้น
06:08
And so you're standing there and everything else is dark,
149
353000
2000
ดังนั้น คุณก็จะยืนอยู่ตรงนั้น เพียงแต่รอบๆมืดมิดหมด
06:10
but there's this portal that you want to jump in.
150
355000
2000
มันมีเหมือนประตูอะไรสักอย่างที่คุณอยากจะกระโดดเข้าไป
06:12
This piece was great. This is in my parents' backyard in Arkansas.
151
357000
3000
งานชิ้นนี้เยี่ยมมาก นี่เป็นสวนหลังบ้านพ่อแม่ผมในอาคันซอส์ครับ
06:15
And I love to dig a hole.
152
360000
2000
และผมก็ชอบขุดรู
06:17
So this piece was great fun
153
362000
2000
ดังนั้นงานชิ้นนี้สนุกมากครับ
06:19
because it was two days of digging in soft dirt.
154
364000
3000
เพราะใช้เวลาสองวันกับการขุดดินนุ่มๆ
06:23
The next artist is Kay Overstry,
155
368000
2000
ศิลปินคนถัดไปคือ เคย์ โอเวอร์สเตรย์
06:25
and she's interested in ephemerality and transience.
156
370000
3000
เธอสนใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงและความไม่จีรังยั่งยืน
06:28
And in her most recent project,
157
373000
2000
และในงานชิ้นล่าสุดของเธอ
06:30
it's called "Weather I Made."
158
375000
2000
เรียกว่า "อากาศ ฉันสร้าง"
06:32
And she's making weather
159
377000
2000
เธอสร้างอากาศเองครับ
06:34
on her body's scale.
160
379000
2000
โดยใช้ขนาดร่างกายของเธอ
06:36
And this piece is "Frost."
161
381000
2000
และงานนี้เรียกว่า "ไอเย็น"
06:38
And what she did was she went out on a cold, dry night
162
383000
3000
และสิ่งที่เธอทำคือออกไปข้างนอกในคืนที่หนาวแห้ง
06:41
and breathed back and forth on the lawn
163
386000
3000
หายใจเข้าออกหลายครั้งที่สนามหญ้า
06:44
to leave --
164
389000
2000
เพื่อทิ้ง --
06:46
to leave her life's mark,
165
391000
2000
ทิ้งสัญลักษณ์ของชีวิตของเธอไว้
06:48
the mark of her life.
166
393000
2000
สัญลักษณ์ของชีวิตเธอ
06:50
(Applause)
167
395000
5000
(เสียงปรบมือ)
06:55
And so this is five-foot, five-inches of frost
168
400000
2000
เป็นไอเย็นขนาดประมาณห้าฟุต ห้านิ้วได้ครับ
06:57
that she left behind.
169
402000
2000
ที่เธอทิ้งไว้
06:59
The sun rises, and it melts away.
170
404000
3000
พอพระอาทิตย์ขึ้น มันก็ละลายหายไป
07:02
And that was played by my mom.
171
407000
3000
และนั่นก็แสดงโดยแม่ของผมเอง
07:05
So the next artist, this is a group of Japanese artists,
172
410000
2000
ถัดไป เป็นกลุ่มศิลปินชาวญี่ปุ่น
07:07
a collective of Japanese artists --
173
412000
2000
เป็นการรวมตัวของเหล่าศิลปินญี่ปุ่นครับ
07:09
(Laughter)
174
414000
2000
(เสียงหัวเราะ)
07:11
in Tokyo.
175
416000
2000
ในโตเกียว
07:13
And they were interested in developing a new, alternative art space,
176
418000
3000
พวกเขาสนใจพัฒนาทางเลือกและพื้นที่ศิลปะใหม่ๆ
07:16
and they needed funding for it,
177
421000
2000
และพวกเขาก็ต้องการเงินสนับสนุน
07:18
so they decided to come up with some interesting fundraising projects.
178
423000
3000
พวกเขาัจึงตัดสินใจจะทำโปรเจคระดมทุนที่น่าสนใจ
07:21
One of these is scratch-off masterpieces.
179
426000
3000
หนึ่งในนั้นคือ ฉีกผลงานชิ้นเอก
07:24
(Laughter)
180
429000
2000
(เสียงหัวเราะ)
07:26
And so what they're doing --
181
431000
2000
และสิ่งที่พวกเขาทำคือ
07:28
each of these artists on a nine-by-seven-inch card,
182
433000
2000
ศิลปินแต่ละคนกับการ์ดขนาด เก้า คูณ เจ็ดนิ้ว
07:30
which they sell for 10 bucks,
183
435000
2000
ที่พวกเขาขายในราคาสิบเหรียญ
07:32
they drew original works of art.
184
437000
2000
พวกเขาวาดงานชิ้นเอกเหล่านี้
07:34
And you buy one, and maybe you get a real piece, and maybe not.
185
439000
3000
เวลาคุณซื้อชิ้นหนึ่ง คุณอาจจะได้งานจริงบ้างหรือไม่จริงบ้าง
07:37
Well this has sparked a craze in Japan,
186
442000
3000
ซึ่งนี่เป็นอะไรที่ฮืิอฮาในญี่ปุ่นมากครับ
07:40
because everyone's wanting a masterpiece.
187
445000
2000
เพราะทุกคนอยากได้ผลงานระดับครูกัน
07:42
And the ones that are the most sought after
188
447000
2000
ภาพที่ถูกตามล่ามากที่สุด
07:44
are the ones that are only barely scratched off.
189
449000
2000
เห็นจะเป็นภาพที่ไม่ได้ถูกฉีกซักเท่าไร
07:46
And all these works, in some way,
190
451000
3000
และงานต่างๆทั้งหมดนี้ ในแง่หนึ่ง
07:49
talk about luck or fate or chance.
191
454000
3000
ได้กล่าวถึงโชคลาภหรือชะตาหรือโอกาส
07:52
Those first two
192
457000
2000
สองภาพแรกนั้น
07:54
are portraits of mega-jackpot winners years before and after their win.
193
459000
2000
เป็นภาพหน้าตรงของผู้ชนะรางวัลใหญ่ที่สุดในปีก่อนและหลังชัยชนะ
07:56
And in this one it's called "Drawing the Short Stick."
194
461000
3000
ส่วนภาพนี้คือ "ภาพวาดไม้สั้น"
07:59
(Laughter)
195
464000
2000
(เสียงหัวเราะ)
08:01
I love this piece because I have a little cousin at home
196
466000
2000
ผมรักงานชิ้นนี้เพราะผมมีญาติตัวน้อยที่บ้าน
08:03
who introduced me -- which I think is such a great introduction --
197
468000
3000
ซึ่งแนะนำผม ซึ่งผมคิดว่าเป็นการแนะนำตัวผมที่เจ๋งมาก
08:06
to a friend one day as, "This is my cousin Shea.
198
471000
3000
ให้กับเพื่อนในวันนึงว่า "นี่คือญาติผม เชียร์
08:09
He draws sticks real good."
199
474000
2000
เขาวาดภาพไม้พวกนี้ได้เยี่ยมมากเลย"
08:11
(Laughter)
200
476000
2000
(เสียงหัวเราะ)
08:13
Which is one of the best compliments ever.
201
478000
3000
ซึ่งเป็นหนึ่งในคำชมที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้
08:16
This artist is Gus Weinmueller,
202
481000
2000
ศิลปินคนนี้คือ กุส ไวน์มูลเลอร์
08:18
and he's doing a project, a large project, called "Art for the Peoples."
203
483000
3000
เขาทำโปรเจค ชิ้่นโต เรียกว่า "ศิลปะแห่งมวลมนุษย์"
08:21
And within this project, he's doing a smaller project
204
486000
3000
และในงานชิ้นนี้ เขาทำโปรเจคเล็กอีกอัน
08:24
called "Artists in Residence."
205
489000
2000
เรียกว่า "เหล่าศิลปินในที่พัก"
08:26
And what he does is --
206
491000
2000
สิ่งที่เขาทำคือ
08:28
(Laughter)
207
493000
2000
(เสียงหัวเราะ)
08:30
he spends a week at a time with a family.
208
495000
2000
เขาใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์ต่อครั้งกับครอบครัวหนึ่ง
08:32
And he shows up on their porch, their doorstep,
209
497000
4000
เขาโผล่ไปตามระเบียงบ้าง บันไดบ้าง
08:36
with a toothbrush and pajamas,
210
501000
2000
พร้อมกับแปรงสีฟัน และชุดนอน
08:38
and he's ready to spend the week with them.
211
503000
3000
เขาก็พร้อมสำหรับหนึ่งสัปดาห์กับครอบครัวนั้นแล้ว
08:41
And using only what's present,
212
506000
2000
เขาใช้สิ่งของที่มีอยู่ในปัจจุบัน
08:43
he goes in and makes a little abode studio to work out of.
213
508000
3000
เขาเข้าไปอยู่้และสร้างสตูดิโอเล็กๆเพื่อนทำงานชิ้นนี้
08:46
And he spends that week talking to the family
214
511000
2000
และใช้เวลาทั้งสัปดาห์นั้นคุยกับครอบครัวนั้น
08:48
about what do they think great art is.
215
513000
2000
ถกกันว่าอะไรที่เรียกว่างานศิลปะชั้นยอด
08:50
He has all these discussions with their family,
216
515000
2000
เขาคุยถกเรื่องเหล่านี้กับครอบครัวนั้นๆ
08:52
and he digs through everything they have,
217
517000
2000
เขาล้วงลึกในทุกสิ่งที่พวกเขามี
08:54
and he finds materials to make work.
218
519000
2000
เพื่อที่จะเอาสิ่งเหล่านั้นมาสร้างงาน
08:56
And he makes a work
219
521000
2000
และเขาก็สร้างงาน
08:58
that answers what they think great art is.
220
523000
2000
ที่เป็นคำตอบว่าอะไรที่พวกเขาคิดว่าคือศิลปะชั้นยอด
09:00
For this family, he made this still-life painting.
221
525000
2000
สำหรับครอบครัวนี้ เขาได้วาดภาพนิ่งนี้
09:02
And whatever he makes
222
527000
2000
ไม่่ว่าเขาจะสร้างอะไรก็ตาม
09:04
somehow references nesting and space
223
529000
2000
มันได้อ้างอิงถึงถิ่นที่อยู่ และพื้นที่
09:06
and personal property.
224
531000
3000
และทรัพย์สินส่วนบุคคล
09:09
This next project,
225
534000
2000
โปรเจคต่อมา
09:11
this is by Jaochim Parisvega,
226
536000
2000
นี่สร้างโดย โจคิม ปาริสเวกา
09:13
and he's interested in --
227
538000
2000
เขาสนใจใน
09:15
he believes art is everywhere waiting --
228
540000
2000
เขาเชื่อว่าศิลปะรอคอยอยู่ทุกหนแห่ง
09:17
that it just needs a little bit of a push to happen.
229
542000
3000
ต้องการแค่แรงผลักดันเล็กน้อยเพื่อให้เกิดขึ้น
09:20
And he provides this push by harnessing natural forces,
230
545000
3000
เขาได้นำเสนอแรงผลักดันด้วยการควบคุมพลังของธรรมชาติ
09:23
like in his series where he used rain to make paintings.
231
548000
4000
เหมือนกับชุดงานนี้ที่เขาใช้ฝนวาดภาพ
09:27
This project is called "Love Nests."
232
552000
2000
ส่วนโปรเจคนี้เรียกว่า "รังรัก"
09:29
What he did was to get wild birds to make his art for him.
233
554000
3000
สิ่งที่เขาทำคือให้นกป่าสร้างผลงานศิลปะให้เขา
09:32
So he put the material in places where the birds were going to collect them,
234
557000
2000
ดังนั้นเขาจึงเอาวัสดุไปวางในที่ที่นกจะไปเก็บ
09:34
and they crafted his nests for him.
235
559000
2000
และพวกมันก็เอาไปสร้างรังให้เขา
09:36
And this one's called "Lovelock's Nest."
236
561000
2000
และอันนี้เรียกว่า "รังล็อครัก"
09:38
This one's called "Mixtape Love Song's Nest."
237
563000
3000
ส่วนอันนี้เรียกว่า "รังรักเทปเพลงรัก"
09:41
(Laughter)
238
566000
3000
(เสียงหัวเราะ)
09:44
And this one's called "Lovemaking Nest."
239
569000
2000
และอันนี้เรียกว่า "รังร่วมรัก"
09:46
(Laughted)
240
571000
4000
(เสียงหัวเราะ)
09:50
Next is Sylvia Slater.
241
575000
2000
คนต่อไปคือ ซิวเวีย สเลเตอร์
09:52
Sylvia's interested in art training.
242
577000
2000
ซิลเวียมีความสนใจเรื่องฝึกหัดศิลปะ
09:54
She's a very serious Swiss artist.
243
579000
2000
เธอเป็นศิลปินชาวสวิสที่ค่ำเคร่ง
09:56
(Laughter)
244
581000
2000
(เสียงหัวเราะ)
09:58
And she was thinking about her friends and family
245
583000
2000
และเธอก็คิดถึงเพื่อนๆและครอบครัว
10:00
who work in chaos-ridden places and developing countries,
246
585000
3000
ที่ทำงานในที่ที่พยายามกำจัดเรื่องวุ่นวายออกไปและประเทศกำลังพัฒนา
10:03
and she was thinking,
247
588000
2000
และเธอก็คิดว่า
10:05
what can I make that would be of value to them,
248
590000
2000
เธอจะทำอะไรที่มีคุณค่าต่อคนเหล่านั้นได้
10:07
in case something bad happens
249
592000
2000
ถ้าหากเกิดเหตุการณ์เลวร้ายขึ้น
10:09
and they have to buy their way across the border
250
594000
2000
และพวกเขาต้องซื้อหาใบผ่านทางข้ามเขตแดน
10:11
or pay off a gunman?
251
596000
2000
หรือจ่ายค่ามือปืน
10:13
And so she came up with creating
252
598000
2000
เธอจึงได้ไอเดียสร้าง
10:15
these pocket-sized artworks
253
600000
2000
ผลงานศิลปะขนาดพกพานี้ขึ้น
10:17
that are portraits of the person that would carry them.
254
602000
3000
เป็นภาพคนซึ่งจะพกพางานชิ้นนี้ไปกับตัว
10:20
And you would carry this around with you,
255
605000
2000
และคุณก็จะพกพางานชิ้นนี้ไปไหนมาไหนด้วย
10:22
and if everything went to hell, you could make payments
256
607000
2000
เมื่อถึงยามคับขัน ก็ใชัจ่าย
10:24
and buy your life.
257
609000
2000
เพื่อแลกชีวิตได้
10:26
So this life price
258
611000
2000
ดังนั้นราคาของชีวิตชิ้นนี้
10:28
is for an irrigation non-profit director.
259
613000
3000
มีไว้สำหรับผู้อำนวยการชลประทานที่ไม่แสวงหาผลประโยชน์
10:31
So hopefully what happens is you never use it,
260
616000
2000
จึงหวังว่าไม่ว่าอะไรก็ตาม คุณจะไม่ต้องใช้มัน
10:33
and it's an heirloom that you pass down.
261
618000
3000
และเป็นมรดกตกทอดต่อไป
10:36
And she makes them so they could either be broken up into payments,
262
621000
3000
เธอจึงได้สร้างสิ่งนี้ขึ้นเพื่อให้พวกเขาหักเป็นค่าใช้จ่าย
10:39
or they could be like these, which are leaves that can be payments.
263
624000
3000
หรืออาจจะไว้แบบนี้ คือเป็นใบไม้ที่สามารถใช้เป็นค่าใช้จ่าย
10:42
And so they're valuable. This is precious metals and gemstones.
264
627000
3000
และมันก็มีค่า นี่เป็นโลหะมีค่าและหินพลอย
10:45
And this one had to get broken up.
265
630000
2000
และอันนี้ต้องถูกทำให้หักแตก
10:47
He had to break off a piece to get out of Egypt recently.
266
632000
4000
เขาต้องหักออกมาชิ้นหนึ่งเพื่อออกจากอียิปต์เมื่อเร็วๆนี้
10:51
This is by a duo, Michael Abernathy and Bud Holland.
267
636000
3000
งานนี้ทำสองคน มิเคิล อาเบอร์นาที และ บั๊ด ฮอร์แลนด์
10:54
And they're interested in creating culture,
268
639000
2000
พวกเขาสนในการสร้างวัฒนธรรมครับ
10:56
just tradition.
269
641000
2000
แค่ประเพณี
10:58
So what they do is they move into an area
270
643000
2000
ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาทำ คือ พวกเขาย้ายไปในที่หนึ่ง
11:00
and try to establish a new tradition in a small geographic area.
271
645000
3000
และพยายามสร้างประเพณีใหม่ในภูมิลำเนาเล็กๆนั้น
11:03
So this is in Eastern Tennessee,
272
648000
2000
นี่คือ เทนเนสซี่ตะวันออก
11:05
and what they decided was
273
650000
2000
สิ่งที่พวกเขาตกลงใจทำคือ
11:07
that we need a positive tradition
274
652000
2000
พวกเราต้องการประเพณีด้านบวก
11:09
that goes with death.
275
654000
2000
ที่ไปด้วยกันกับความตาย
11:11
So they came up with "dig jigs."
276
656000
2000
พวกเขาคิด ดิ๊ก จิ๊ก ขึ้นมา
11:13
And a dig jig --
277
658000
3000
และดิ๊ก จิ๊ก
11:16
a dig jig is where,
278
661000
2000
ดิ๊ก จิ๊ก คือสถานที่
11:18
for a milestone anniversary or a birthday,
279
663000
2000
สำหรับการรำลึกวันครบรอบหรือวันเกิด
11:20
you gather all your friends and family together
280
665000
3000
เหล่าเพื่อนๆและครอบครัวคุณมารวมกัน
11:23
and you dance on where you're going to be buried.
281
668000
2000
แล้วก็เต้นรำในที่ที่ร่างคุณจะโดนฝัง
11:25
(Laughter)
282
670000
2000
(เสียงหัวเราะ)
11:27
And we got a lot of attention when we did it.
283
672000
3000
แล้วเราได้รับความสนใจมากตอนที่เราทำผลงานชิ้นนี้
11:30
I talked my family into doing this, and they didn't know what I was doing.
284
675000
2000
ผมโน้มน้าวให้ครอบครัวมาร่วมงานนี้ แล้วพวกเขาก็ไม่รู้เลยว่าผมกำลังทำอะไร
11:32
And I was like, "Get dressed for a funeral. We're going to go do some work."
285
677000
3000
ผมก็แค่ "เฮ้ แต่งตัวสำหรับไปงานศพนะ พวกเราจะไปทำงานบางอย่างกัน"
11:35
And so we got to the grave and made this, which was hilarious --
286
680000
3000
และเราก็มาที่สุสานเพื่อทำงานนี้ ซึ่งตลกมากครับ
11:38
the attention that we got.
287
683000
2000
กับความสนใจที่พวกเราได้รับ
11:40
So what happens is you dance on the grave,
288
685000
2000
สิ่งที่เกิดขึ้นคือคุณเต้นบนหลุมศพ
11:42
and after you've done your dance,
289
687000
2000
และหลังจากที่คุณเต้นเสร็จ
11:44
everyone toasts you and tells you how great you are.
290
689000
2000
ทุกคนก็ดื่มฉลองและกล่าวสรรเสริญว่าคุณเป็นคนดีแค่ไหน
11:46
And you in essence have a funeral
291
691000
2000
และสาระสำคัญ คือ คุณมีงานศพของคุณ
11:48
that you get to be present for.
292
693000
2000
ที่คุณมีโอกาสได้เข้าร่วม
11:50
That's my mom and dad.
293
695000
2000
นั่นพ่อกับแม่ผมครับ
11:52
This is by Jason Birdsong.
294
697000
2000
นี่เป็นผลงานของ เจสัน เบิร์ดซอง
11:54
He is interested in how we see as an animal,
295
699000
3000
เขาสนใจว่าพวกเรามองเห็นอย่างไรในฐานะสัตว์
11:57
how we are interested in mimicry and camouflage.
296
702000
3000
คนเรามีความสนใจเรื่องเลียนแบบและพรางตัวอย่างไร
12:00
You know, we look down a dark alley
297
705000
2000
คุณรู้ไหม เวลาพวกเรามองไปยังตรอกมืด
12:02
or a jungle path,
298
707000
2000
หรือทางเดินแถบป่าทึบ
12:04
trying to make out a face or a creature.
299
709000
2000
พยายามมองให้เห็นหน้าหรือสิ่งมีชีวิต
12:06
We just have that natural way of seeing.
300
711000
2000
พวกเรามีการมองเห็นโดยธรรมชาติแบบนั้น
12:08
And he plays with this idea.
301
713000
2000
และเขาก็เล่นกับความคิดนี้
12:10
And this piece: those aren't actually leaves.
302
715000
2000
และผลงานชิ้นนี้ นั่นไม่ใช่ใบไม้จริง
12:12
They're butterfly specimens who have a natural camouflage.
303
717000
2000
เป็นเหล่าฝูงผีเสื้อพันธุ์หนึ่งที่มีความสามารถพลางตัวโดยธรรมชาติ
12:14
So he pairs these up.
304
719000
2000
เขาเลยจับคู่มันซะ
12:16
There's another pile of leaves.
305
721000
2000
นี่เป็นกองใบไ้ม้อีกกอง
12:18
Those are actually all real butterfly specimens.
306
723000
2000
นั่นเป็นผีเสื้อจริงๆ
12:20
And he pairs these up with paintings.
307
725000
3000
แล้วเขาก็เอามาเทียบกับภาพวาด
12:23
Like this is a painting of a snake in a box.
308
728000
3000
นี่เป็นภาพวาดงูในกล่อง
12:26
So you open the box and you think, "Whoa, there's a snake in there."
309
731000
3000
พอคุณเปิดกล่องก็จะคิดว่า "เอ้ย มีงูอยู่ในนี้ด้วย"
12:29
But it's actually a painting.
310
734000
2000
แต่ความจริงแล้วมันแค่ภาพวาด
12:31
So he makes these interesting conversations
311
736000
2000
ดังนั้นเขาจึงได้สร้างบทสนทนาอันน่าสนใจ
12:33
about realism and mimicry
312
738000
2000
เกี่ยวกับความจริงและการลอกเลียนแบบ
12:35
and our drive to be fooled by great camouflage.
313
740000
3000
และแรงผลักดันของเราที่จะถูกหลอกโดยการอำพราง
12:38
(Laughter)
314
743000
2000
(เสียงหัวเราะ)
12:40
The next artist is Hazel Clausen.
315
745000
3000
ศิลปินคนถัดมาคือ ฮาเซล เคลาเซน
12:43
Hazel Clausen is an anthropologist who took a sabbatical
316
748000
3000
ฮาเซล เคลาเซน เป็นนักมนุษยวิทยาที่หยุดพักผ่อนยาว
12:46
and decided, "You know, I would learn a lot about culture
317
751000
2000
แล้วตัดสินใจว่า "รู้ไหม ฉันจะได้เรียนรู้อีกมากเกี่ยวกับวัฒนธรรม
12:48
if I created a culture that doesn't exist from scratch."
318
753000
3000
ถ้าฉันสร้างวัฒนธรรมสักอย่างที่ยังไม่มีขึ้นมาเองตั้งแต่ต้น"
12:51
So that's what she did.
319
756000
2000
และนั่นเป็นสิ่งที่เธอทำ
12:53
She created the Swiss people named the Uvulites,
320
758000
2000
เธอสร้างคนสวิสขึ้นมา เรียกว่า เดอะ อูวูไลทส์
12:55
and they have this distinctive yodeling song
321
760000
3000
และพวกเขามีเพลงลูกทุ่งที่มีเอกลักษณ์
12:58
that they use the uvula for.
322
763000
2000
ซึ่งพวกเขาให้อูวูลาเพื่อการนี้
13:00
And also they reference how the uvula --
323
765000
2000
และพวกเขาได้อ้างอิงถึงอูวูลา --
13:02
everything they say is fallen
324
767000
2000
ทุกสิ่งที่พวกเขาพูดจะตกลงมา
13:04
because of the forbidden fruit.
325
769000
2000
เพราะว่าผลไม้ต้องห้าม
13:06
And that's the symbol of their culture.
326
771000
3000
ซึ่งนั่นเป็นสัญลักษณ์วัฒนธรรมของพวกเขา
13:10
And this is from a documentary
327
775000
2000
และนี่มาจากสารคดี
13:12
called "Sexual Practices and Populations Control
328
777000
3000
ชื่อ "การกระทำทางเพศและการควบคุมประชากร
13:15
Among the Uvulites."
329
780000
2000
ของชาวอูวูไลทส์"
13:17
This is a typical angora embroidery for them.
330
782000
4000
นี่เป็นการเย็บปักทักถอขนสัตว์แบบทั่วไปของพวกเขา
13:21
This is one of their founders, Gert Schaeffer.
331
786000
3000
นี่เป็นผู้ค้นพบ เกิร์ท เชาเฟอร์
13:24
(Laughter)
332
789000
2000
(เสียงหัวเราะ)
13:26
And actually this is my Aunt Irene.
333
791000
2000
และความจริงแล้วนี่คือคุณป้าไอรีนของผมเอง
13:28
It was so funny having a fake person
334
793000
2000
มันเป็นอะไรที่ตลกมากที่มีคนปลอมๆ
13:30
who was making fake things.
335
795000
2000
ที่สร้างของปลอมๆ
13:32
And I crack up at this piece,
336
797000
3000
และผมก็ได้ไอเดียงานนี้
13:35
because when I see it I know that's French angora
337
800000
3000
เพราะตอนที่ผมได้เห็นมัน ผมรู้ว่ามันคือขนแกะฝรั่งเศส
13:38
and all antique German ribbons
338
803000
2000
ริบบิ้นเยอรมันโบราณ
13:40
and wool that I got in a Nebraska mill
339
805000
2000
และขนสัตว์ที่ผมได้มาจากโรงสีในรัฐเนบลาสกา
13:42
and carried around for 10 years
340
807000
2000
แล้วก็หอบไปมากว่า10ปี
13:44
and then antique Chinese skirts.
341
809000
3000
และกระโปรงจีนโบราณนี่ด้วย
13:47
The next is a collective of artists
342
812000
2000
ต่อมาเป็นกลุ่มศิลปิน
13:49
called the Silver Dobermans,
343
814000
2000
ที่ชื่อว่า ดอบเบอร์แมนเงิน
13:51
and their motto is to spread pragmatism
344
816000
2000
และคติประจำใจของพวกเขาคือ กระจายความยุ่ง
13:53
one person at a time.
345
818000
2000
ครั้งละคน
13:55
(Laughter)
346
820000
2000
(เสียงหัวเราะ)
13:57
And they're really interested
347
822000
2000
แล้วพวกเขาสนใจมาก
13:59
in how over-coddled we've become.
348
824000
3000
เกี่ยวกับว่าเราถูกประคบประหงมมากเกินไปได้อย่างไร
14:02
So this is one of their comments on how over-coddled we've become.
349
827000
4000
ดังนั้นนี้เป็นหนึ่งในความเห็นของพวกเขาเกี่ยวกับว่าเราถูกประคบประหงมมากเกินไปได้อย่างไร
14:06
And what they've done
350
831000
2000
และสิ่งที่พวกเขาทำคือ
14:08
is they put a warning sign on every single barb on this fence.
351
833000
2000
พวกเขาเอาป้ายเตือนไปแปะไว้กับทุกๆขมวดของรั้วลวดหนามนี้
14:10
(Laughter)
352
835000
3000
(เสียงหัวเราะ)
14:13
(Applause)
353
838000
6000
(เสียงปรบมือ)
14:19
And this is called "Horse Sense Fence."
354
844000
3000
และผลงานนี้เรียกว่า "ม้ารู้ซึ้งรสชาติรั้ว"
14:22
The next artist is K. M. Yoon,
355
847000
2000
ศิลปินคนถัดมาคือ เค เอ็ม ยูน
14:24
a really interesting South Korean artist.
356
849000
2000
เป็นศิลปินชาวเกาหลีใต้ที่น่าสนใจมากครับ
14:26
And he's reworking a Confucian art tradition
357
851000
2000
แล้วเขาได้สร้างงานขึ้นมาใหม่เกี่ยวกับขนบศิลปะขงจื้อดั้งเดิม
14:28
of scholar stones.
358
853000
2000
จากศิลาจารึก
14:30
Next is Maynard Sipes.
359
855000
2000
ต่อมาคือ เมนาร์ด ไซเพส
14:32
And I love Maynard Sipes,
360
857000
2000
ผมรักเมนาร์ด ไซเพส
14:34
but he's off in his own world,
361
859000
3000
แต่เขาออกจะอยู่ในโลกส่วนตัว
14:37
and, bless his heart, he's so paranoid.
362
862000
3000
และก็ อวยพรให้เขาเถอะ เขาช่างตื่นตระหนกจริงๆ
14:42
Next is Roy Penig,
363
867000
2000
ต่อมาคือ รอย เพนิค
14:44
a really interesting Kentucky artist,
364
869000
2000
ศิลปินชาวเคนทัคกีที่น่าสนใจมาก
14:46
and he's the nicest guy.
365
871000
3000
และเขาก็เป็นคนที่น่ารักที่สุด
14:49
He even once traded a work of art for a block of government cheese
366
874000
3000
ครั้งหนึ่งเขาเคยทำแม้กระทั่งแลกผลงานศิลปะเพื่อชีสของรัฐบาลก้อนหนึ่ง
14:52
because the person wanted it so badly.
367
877000
3000
เพราะเจ้าตัวอยากได้มันมาก
14:56
Next is an Australian artist, Janeen Jackson,
368
881000
3000
ถัดมาคือศิลปินชาวออสเตรเลีย เจนีน แจ๊คสัน
14:59
and this is from a project of hers
369
884000
2000
และนี่มาจากโปรเจคของเธอ
15:01
called "What an Artwork Does When We're Not Watching."
370
886000
3000
ชื่อว่า "งานศิลปะทำอะไรตอนพวกเราไม่มอง"
15:04
(Laughter)
371
889000
2000
(เสียงหัวเราะ)
15:06
Next is by a Lithuanian fortune teller, Jurgi Petrauskas.
372
891000
3000
ถัดมาเป็นหมอดูชาวลิทูเนีย เจอร์กิ เพ็ทเทราคัซ
15:09
Next is Ginger Cheshire.
373
894000
2000
ต่อมาคือ จิงเจอร์ เชสเชียร์
15:11
This is from a short film of hers called "The Last Person."
374
896000
3000
อันนี้มาจากหนังสั้นของเธอ ชื่อว่า "บุคคลสุดท้าย"
15:14
And that's my cousin and my sister's dog, Gabby.
375
899000
3000
และนั้นเป็นญาติของผมกับสุนัขของพี่สาวผม แก็บบี้
15:17
The next, this is by Sam Sandy.
376
902000
2000
ต่อมาเป็นผลงานโดย แซม แซนดี
15:19
He's an Australian Aboriginal elder,
377
904000
2000
เขาเป็นผู้อาวุโสเผ่าอะบอริจินในออสเตรเลีย
15:21
and he's also an artist.
378
906000
2000
และเขาก็เป็นศิลปินด้วย
15:23
And this is from a large traveling sculpture project
379
908000
2000
ผลงานนี้เป็นโปรเจคเดินสายงานปั้นชิ้นโต
15:25
that he's doing.
380
910000
2000
ที่เขาทำอยู่
15:27
This is from Estelle Willoughsby.
381
912000
3000
อันนี้มาจาก เอสเทลล์ วิลลัฟส์บี
15:30
She heals with color.
382
915000
2000
เธอรักษาด้วยสี
15:32
And she's one of the most prolific of all these hundred artists,
383
917000
3000
และเธอก็มีลูกดกที่สุดในบรรดาเหล่าศิลปินร้อยคนด้วย
15:35
even though she's going to be 90 next year.
384
920000
2000
ถึงแม้ว่าเธอจะอายุ90ปีในปีหน้าก็ตาม
15:37
(Laughter)
385
922000
2000
(เสียงหัวเราะ)
15:39
This is by Z. Zhou,
386
924000
2000
นี่คือ ซี เซา
15:41
and he's interested in stasis.
387
926000
3000
เขาสนใจเรื่องการหยุดนิ่ง
15:44
Next is by Hilda Singh,
388
929000
2000
ผลงานต่อมาโดย ฮิลดา ซิงค์
15:46
and she's doing a whole project called "Social Outfits."
389
931000
3000
และเธอทำโปรเจคทั้งหมดที่มีชื่อว่า "ชุดสวมสังคม"
15:49
Next is by Vera Sokolova.
390
934000
2000
ต่อมาโดย เวรา โซโคโลวา
15:51
And I have to say, Vera kind of scares me.
391
936000
2000
ผมต้องบอกว่า เวราทำผมกลัวครับ
15:53
You can't look her directly in the eyes
392
938000
2000
คุณไม่สามารถจ้องตาเธอจังๆได้
15:55
because she's kind of scary.
393
940000
2000
เพราะเธอค่อนข้างน่ากลัวทีเดียว
15:57
And it's good that she's not real;
394
942000
2000
และดีที่เธอไม่มีตัวตนจริง
15:59
she'd be mad that I said that.
395
944000
2000
เธอต้องโกรธผมมากแน่ที่ผมพูดแบบนี้
16:01
(Laughter)
396
946000
2000
(เสียงหัวเราะ)
16:03
And she's an optometrist in St. Petersburg,
397
948000
3000
และเธอก็เป็นผู้เชี่ยวชาญทางสายตาใน เซนท์ ปีเตอร์สเบิร์ก
16:06
and she plays with optics.
398
951000
2000
และเธอก็เล่นกับสายตา
16:08
Next, this is by Thomas Swifton.
399
953000
2000
ต่อมา ผลงานโดย โทมัส สวิฟทอน
16:10
This is from a short film, "Adventures with Skinny."
400
955000
2000
มาจากหนังสั้น "การผจญภัยของไอ้เก้งก้าง"
16:12
(Laughter)
401
957000
3000
(เสียงหัวเราะ)
16:15
And this is by Cicily Bennett,
402
960000
2000
และนี่เป็นฝีมือของ ซิซิลี เบนเน็ท
16:17
and it's from a series of short films.
403
962000
2000
เป็นผลงานจากชุดหนังสั้น
16:19
And after this one, there's 77 other artists.
404
964000
3000
หลังจากอันนี้ไปเป็นเหล่าศิลปินอีก77ท่าน
16:22
And all together with those other 77 you're not seeing,
405
967000
3000
และรวมทั้งหมดของ77คนที่คุณยังไม่ได้ดูนั้น
16:25
that's my biennial.
406
970000
2000
คือผลงานศิลป์ของผมครับ
16:27
Thank you. Thank you.
407
972000
3000
ขอบคุณ ขอบคุณ
16:30
Thanks.
408
975000
2000
ขอบคุณครับ
16:32
(Applause)
409
977000
5000
(เสียงปรบมือ)
16:37
Thank you. Thanks.
410
982000
3000
ขอบคุณครับ ขอบคุณ
16:40
(Applause)
411
985000
2000
(เสียงปรบมือ)
ABOUT THE SPEAKER
Shea Hembrey - Artist and curatorShea Hembrey explores patterns from nature and myth. A childhood love of nature, and especially birdlife, informs his vision.
Why you should listen
Shea Hembrey's art imitates nature’s forms, in an attempt to appreciate how humans have always appropriated and learned from forms in nature. An early fascination with birds (as a teenager, he was a licensed breeder of migratory waterfowl), led to "Mirror Nests," a series of metal replicas of bird nests exhibited at Cornell’s Lab of Ornithology observatory.
Hembrey works with focused concentration on a single project, letting his research into his subject direct the media and methods of the final product. He has produced works on folk and faith healing inspired by his healer grandfather, and his view of art was profoundly changed while studying Maori art while he was a Rotary International Ambassadorial Scholar to New Zealand.
Shea Hembrey | Speaker | TED.com