TED2012
Marco Tempest: A magical tale (with augmented reality)
มาร์โค เทมเพสท์ กับ นิทานเวทย์มนตร์ (ด้วยโลกเสมือนผสานโลกจริง)
Filmed:
Readability: 4.6
1,467,228 views
มาร์โค เทมเพสท์ พริ้วผ่านเรื่องราวแห่งมนตรา, แสดงให้เห็นว่ามันให้ความบันเทิงและตอกย้ำความเป็นมนุษย์ของเราได้อย่างไร - ทั้งหมดด้วยการผสานกันอย่างลงตัวของการลวงตาด้วยมือของเขา และเครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับสร้างโลกเสมือนผสานโลกจริง
Marco Tempest - Techno-illusionist
Marco Tempest is a cyber illusionist, combining magic and technology to produce astonishing illusions. Full bio
Marco Tempest is a cyber illusionist, combining magic and technology to produce astonishing illusions. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:15
Marco Tempest: What I'd like to show you today
0
0
2000
มาร์โค เทมเพสต์: สิ่งที่ผมจะแสดงให้คุณดูในวันนี้
00:17
is something in the way of an experiment.
1
2000
3000
ยังอยู่ในระยะทดสอบ
00:20
Today's its debut.
2
5000
2000
วันนี้คือวันเปิดตัวเป็นครั้งแรก
00:22
It's a demonstration of augmented reality.
3
7000
3000
ของโลกเสมือนผสานโลกจริง
00:25
And the visuals you're about to see are not prerecorded.
4
10000
3000
ภาพที่คุณจะได้เห็น ไม่ได้ถูกบันทึกไว้ล่วงหน้า
00:28
They are live
5
13000
2000
มันเป็นการแสดงสด
00:30
and reacting to me in real time.
6
15000
2000
ที่โต้ตอบกับผมสดๆ
00:32
I like to think of it as a kind of technological magic.
7
17000
5000
ผมชอบคิดว่ามันเป็นเวทย์มนตร์แห่งเทคโนโลยี
00:37
So fingers crossed.
8
22000
3000
เอาหล่ะ ช่วยภาวนาว่าจะไม่เกิดข้อผิดพลาด
00:40
And keep your eyes on the big screen.
9
25000
4000
แล้วก็อย่าละสายตาไปจากจอก็แล้วกัน
00:44
Augmented reality
10
29000
2000
โลกเสมือนผสานโลกจริง
00:46
is the melding of the real world
11
31000
3000
คือการผสานกันของโลกแห่งความจริง
00:49
with computer-generated imagery.
12
34000
3000
กับโลกแห่งจินตนาการที่สร้างโดยคอมพิวเตอร์
00:52
It seems the perfect medium
13
37000
2000
ดูเหมือนว่ามันจะเป็นสื่อกลางที่เยี่ยมยอด
00:54
to investigate magic
14
39000
2000
ในการสร้างโลกแห่งเวทมนตร์
00:56
and ask, why, in a technological age,
15
41000
3000
และตั้งคำถามว่า ทำไม ในยุคเทคโนฯนี้
00:59
we continue to have
16
44000
2000
เรายังคงมี
01:01
this magical sense of wonder.
17
46000
3000
ความอัศจรรย์ใจในเวทย์มนตร์อยู่อีก
01:04
Magic is deception,
18
49000
3000
เวทย์มนตร์ คือภาพลวงตา
01:07
but it is a deception we enjoy.
19
52000
3000
แต่เป็นภาพลวงตาที่น่าอภิรมณ์
01:10
To enjoy being deceived,
20
55000
2000
สุขใจที่ได้ถูกหลอก
01:12
an audience must first
21
57000
2000
แต่ก่อนอื่นผู้ชมจะต้อง
01:14
suspend its disbelief.
22
59000
2000
ละทิ้งความไม่เชื่อเสียก่อน
01:16
It was the poet Samuel Taylor Coleridge
23
61000
3000
มีกวีขื่อ ซามูเอล เทเลอร์ โคลริดจ์
01:19
who first suggested this receptive state of mind.
24
64000
3000
เป็นผู้ซึ่งนำเสนอสภาวะตอบรับของจิตนี้เป็นคนแรก
01:22
Samuel Taylor Coleridge: I try to convey a semblance of truth in my writing
25
67000
4000
ซามูเอล: ผมพยายามสร้างสถานการณ์เหมือนจริงในงานของผม
01:26
to produce for these shadows of the imagination
26
71000
3000
เพื่อก่อให้เกิดเงื่อนเงาแห่งจินตนาการ
01:29
a willing suspension of disbelief
27
74000
3000
การตั้งใจที่จะละความไม่เชื่อ
01:32
that, for a moment,
28
77000
2000
และ ในตอนนั้นเอง
01:34
constitutes poetic faith.
29
79000
2000
ได้ก่อให้เกิดความเชื่อในบทกวี
01:36
MT: This faith in the fictional is essential
30
81000
3000
มาร์โค: ความเชื่อในการเดินเรื่องเป็นเรื่องจำเป็น
01:39
for any kind of theatrical experience.
31
84000
3000
สำหรับประสบการณ์มหรสพใดๆ
01:42
Without it,
32
87000
2000
ถ้าไม่มีมัน
01:44
a script is just words.
33
89000
2000
บทก็เป็นแค่คำมาร้อยเรียงกัน
01:46
Augmented reality
34
91000
2000
โลกเสมือนผสานโลกจริง
01:48
is just the latest technology.
35
93000
2000
เป็นแค่เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด
01:50
And sleight of hand
36
95000
2000
และความคล่องแคล่วของมือ
01:52
is just an artful demonstration
37
97000
2000
เป็นเพียงแค่การแสดงทีมีศิลปะ
01:54
of dexterity.
38
99000
2000
แห่งความว่องไว
01:56
We are all very good at suspending our disbelief.
39
101000
2000
เราทุกคนเก่งในเรื่องละทิ้งความเชื่อ
01:58
We do it every day,
40
103000
2000
เราทำมันทุกวัน
02:00
while reading novels,
41
105000
2000
ในขณะที่อ่านนวนิยาย
02:02
watching television
42
107000
2000
ดูทีวี
02:04
or going to the movies.
43
109000
2000
หรือตอนที่ไปดูหนัง
02:06
We willingly enter fictional worlds
44
111000
2000
เราเข้าไปสู่โลกแห่งเรื่องราวอย่างเต็มอกเต็มใจ
02:08
where we cheer our heroes
45
113000
2000
ในที่ซึ่งเราเชียร์ตัวเอกอย่างออกนอกหน้า
02:10
and cry for friends we never had.
46
115000
3000
และร้องไห้ไปกับเพื่อซึ่งเราไม่เคยมี
02:13
Without this ability
47
118000
2000
ถ้าไร้ซึ่งความสามารถนี้
02:15
there is no magic.
48
120000
2000
ก็ไร้ซึ่งมนตรา
02:17
It was Jean Robert-Houdin,
49
122000
2000
มีคนชื่อ ฌอง โรแบร์ ฮูดิน
02:19
France's greatest illusionist,
50
124000
2000
นักมายากลผู้โดดเด่นชาวฝรั่งเศส
02:21
who first recognized the role of the magician
51
126000
2000
เป็นผู้ซึ่งรับรู้ได้ถึงบทบาทของนักมายากล
02:23
as a storyteller.
52
128000
2000
ในฐานะผู้เล่าเรื่อง
02:25
He said something that I've posted on the wall of my studio.
53
130000
3000
เขาพูดบางอย่างซึ่งผมได้ปะไว้บนผนังในห้องทำงานของผม
02:28
Jean Robert-Houdin: A conjurer is not a juggler.
54
133000
2000
ฌอง: นักมายากลไม่ใช่นักเล่นปาหี่
02:30
He is an actor playing the part of a magician.
55
135000
4000
เขาเป็นนักแสดงซึ่งเล่นเป็นนักมายากล
02:34
MT: Which means magic is theater
56
139000
2000
มาร์โค: ซึ่งหมายความว่า เวทย์มนตร์คือการแสดง
02:36
and every trick
57
141000
2000
และทุกๆกล
02:38
is a story.
58
143000
2000
คือเรื่องราว
02:40
The tricks of magic
59
145000
2000
เรื่องราวของเวทย์มนตร์
02:42
follow the archetypes of narrative fiction.
60
147000
2000
ซึ่งเลียนแบบต้นแบบของเรื่องราวที่เล่าขาน
02:44
There are tales of creation and loss,
61
149000
4000
มีเรื่องราวของการสร้างและสูญเสีย
02:48
death and resurrection,
62
153000
3000
ความตายและการกลับฟื้นคืนชีพ
02:51
and obstacles that must be overcome.
63
156000
4000
และอุปสรรคที่ต้องข้ามผ่านพ้นไป
02:55
Now many of them are intensely dramatic.
64
160000
3000
หลายสิ่งหลายอย่างที่ตื่นเต้นเร้าใจอย่างมาก
02:58
Magicians play with fire and steel,
65
163000
2000
นักมายากลเล่นกับไฟและโลหะ
03:00
defy the fury of the buzzsaw,
66
165000
2000
ท้าทายความเกรี้ยวกราดของเลื่อยยนตร์
03:02
dare to catch a bullet
67
167000
2000
กล้าที่จะคว้าลูกปืน
03:04
or attempt a deadly escape.
68
169000
4000
หรือพยายามจะหลบหนีความตาย
03:08
But audiences don't come to see the magician die,
69
173000
3000
แต่ผู้ชมไม่ได้มาชมความตายของนักมายากล
03:11
they come to see him live.
70
176000
2000
พวกเขามาดูเขารอด
03:13
Because the best stories
71
178000
2000
เพราะเรื่องราวที่เยี่ยมที่สุด
03:15
always have a happy ending.
72
180000
2000
มักจะจบอย่างสวยงาม
03:17
The tricks of magic have one special element.
73
182000
3000
เคล็ดลับของมายากลมีความพิเศษอย่างหนึ่ง
03:20
They are stories with a twist.
74
185000
3000
พวกมันเป็นเรื่องราวที่หักมุม
03:23
Now Edward de Bono argued
75
188000
2000
เอ็ดเวิร์ด เดอ โบโน คงจะเถียง
03:25
that our brains are pattern matching machines.
76
190000
3000
ว่าสมองของเราเป็นเครื่องจับคู่ที่มีแบบแผน
03:28
He said that magicians deliberately exploit
77
193000
3000
เขากล่าวว่านักมายากลใช้ประโยชน์จาก
03:31
the way their audiences think.
78
196000
3000
วิธีการคิดของผู้ชมได้อย่างแยบยล
03:34
Edward de Bono: Stage magic relies almost wholly
79
199000
2000
โบโน: มายากลบนเวที พึ่งพาอย่างยิ่งยวด
03:36
on the momentum error.
80
201000
2000
กับความผิดพลาดที่ต่อเนื่อง
03:38
The audience is led to make assumptions or elaborations
81
203000
3000
ผู้ชมจะถูกหลอกล่อให้ตั้งสมมุติฐาน หรือคิดอย่างรอบคอบ
03:41
that are perfectly reasonable,
82
206000
2000
ซึ่งดูสมเหตุสมผลที่สุด
03:43
but do not, in fact, match
83
208000
2000
แต่ในความจริงแล้ว ไม่ลงตัว
03:45
what is being done in front of them.
84
210000
2000
กับสิ่งที่เกิดขึั้นต่อหน้าพวกเขา
03:47
MT: In that respect,
85
212000
2000
มาร์โค: ลำดับต่อไป
03:49
magic tricks are like jokes.
86
214000
2000
มายากลเหมือนกับเรื่องตลก
03:51
Jokes lead us down a path
87
216000
3000
ตลกที่พาเราไปยัง
03:54
to an expected destination.
88
219000
2000
จุดหมายปลายทางที่ไม่คาดคิด
03:56
But when the scenario we have imagined suddenly flips
89
221000
3000
แต่เมื่อสถานการณ์ที่เราจินตนาการไว้ เปลี่ยนไปกระทันหัน
03:59
into something entirely unexpected,
90
224000
2000
กลายเป็นสิ่งที่เราไม่ได้คาดไว้เลย
04:01
we laugh.
91
226000
2000
เราหัวเราะ
04:03
The same thing happens
92
228000
2000
เมื่อสิ่งเดียวกันเกิดขึ้น
04:05
when people watch magic tricks.
93
230000
2000
เมื่อผู้คนดูกลเม็ดมายากล
04:07
The finale
94
232000
3000
ตอนจบ
04:10
defies logic,
95
235000
2000
ที่ฝ่าฝืนกฏเกณฑ์
04:12
gives new insight into the problem,
96
237000
2000
ทำให้เกิดความเข้าใจใหม่ในปัญหา
04:14
and audiences express their amazement
97
239000
3000
และผู้ชมแสดงออกถึงความประหลาดใจ
04:17
with laughter.
98
242000
2000
ด้วยการหัวเราะ
04:19
It's fun to be fooled.
99
244000
2000
มันสนุกที่จะถูกปั่นหัว
04:21
One of the key qualities of all stories
100
246000
2000
คุณลักษณะสำคัญประการหนึ่งของทุกๆเรื่องราว
04:23
is that they're made to be shared.
101
248000
2000
คือมันถูกสร้างให้บอกต่อ
04:25
We feel compelled to tell them.
102
250000
2000
เรารู้สึกถูกผลักดันให้เล่ามัน
04:27
When I do a trick at a party --
103
252000
3000
เมื่อผมเล่นกลในงานเลี้ยงหนึ่ง
04:30
(Laughter)
104
255000
2000
(เสียงหัวเราะ)
04:32
that person will immediately pull their friend over
105
257000
2000
ซึ่งจะมีคนดึงเพื่อนของเขามาร่วมวงทันที
04:34
and ask me to do it again.
106
259000
2000
และขอให้ผมแสดงมันอีกครั้ง
04:36
They want to share the experience.
107
261000
2000
พวกเขาต้องการแบ่งปันประสบการณ์
04:38
That makes my job more difficult,
108
263000
2000
นั่นทำให้งานของผมยากขึ้น
04:40
because, if I want to surprise them,
109
265000
2000
เพราะ ถ้าผมต้องการที่จะทำให้เขาตะลึง
04:42
I need to tell a story that starts the same,
110
267000
2000
ผมคงจะต้องเล่าเรื่องที่เริ่มต้นเหมือนเดิม
04:44
but ends differently --
111
269000
2000
แต่ลงท้ายต่างกันออกไป
04:46
a trick with a twist
112
271000
2000
กลที่บิดไป
04:48
on a twist.
113
273000
2000
จากที่เคยบิดไปแล้วอีกที
04:50
It keeps me busy.
114
275000
2000
มันทำให้ผมไม่ว่าง
04:52
Now experts believe
115
277000
2000
ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า
04:54
that stories go beyond our capacity for keeping us entertained.
116
279000
4000
เรื่องราวนั้นเกินไปกว่าการรับรู้ได้สำหรับการทำให้เราสนุก
04:58
We think in narrative structures.
117
283000
2000
เราคิดเป็นตุเป็นตะ
05:00
We connect events and emotions
118
285000
4000
เราเชื่อมเหตุการณ์และอารมณ์เข้าหากัน
05:04
and instinctively transform them
119
289000
3000
และเปลี่ยนแปลงมันโดยสัญชาติญาณ
05:07
into a sequence that can be easily understood.
120
292000
3000
ไปเป็นลำดับขั้นที่ง่ายต่อความเข้าใจ
05:10
It's a uniquely human achievement.
121
295000
2000
มันเป็นความสำเร็จที่โดดเด่นของมนุษย์
05:12
We all want to share our stories,
122
297000
2000
พวกเราทั้งหลายต้องการแบ่งปันเรื่องราว
05:14
whether it is the trick we saw at the party,
123
299000
3000
ไม่ว่าจะเป็นกลที่เราได้เห็นในงานเลี้ยง
05:17
the bad day at the office
124
302000
2000
หรือวันแย่ๆที่ออฟฟิศ
05:19
or the beautiful sunset we saw on vacation.
125
304000
3000
หรือยามเย็นที่สวยงามในตอนที่เราไปพักผ่อน
05:22
Today, thanks to technology,
126
307000
3000
วันนี้ ต้องขอบคุณเทคโนโลยี
05:25
we can share those stories as never before,
127
310000
3000
เราสามารถแบ่งปันเรื่องราวเหล่านั้นได้ อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
05:28
by email, Facebook,
128
313000
3000
ด้วยอีเมล เฟสบุ๊ค
05:31
blogs, tweets,
129
316000
2000
บล็อก ทวีต
05:33
on TED.com.
130
318000
2000
บน TED.com
05:35
The tools of social networking,
131
320000
3000
เครื่องมือของเครือข่ายสังคม
05:38
these are the digital campfires
132
323000
2000
มันเป็นแคมป์ไฟดิจิตอล
05:40
around which the audience gathers
133
325000
2000
ที่ผู้ชมต่างล้อมวงกันเข้ามา
05:42
to hear our story.
134
327000
2000
เพื่อรับฟังเรื่องของเรา
05:44
We turn facts into similes and metaphors,
135
329000
3000
เราเปลี่ยนข้อเท็จจริงเป็นการเปรียบเทียบและเปรียบเปรย
05:47
and even fantasies.
136
332000
2000
หรือแม้กระทั่งเรื่องราวในฝัน
05:49
We polish the rough edges of our lives
137
334000
2000
เราขัดเกลาขอบขรุขระของชีวิต
05:51
so that they feel whole.
138
336000
2000
ให้เราได้รู้สึกสมบูรณ์
05:53
Our stories make us the people we are
139
338000
3000
เรื่องราวของเราทำให้เราเป็นอย่างที่เป็น
05:56
and, sometimes, the people we want to be.
140
341000
3000
และบางครั้ง เป็นคนแบบที่เราอยากจะเป็น
05:59
They give us our identity
141
344000
2000
พวกมันสร้างตัวตนให้กับเรา
06:01
and a sense of community.
142
346000
3000
และสร้างความรู้สึกเป็นกลุ่มก้อนสังคม
06:04
And if the story is a good one,
143
349000
3000
และถ้าเรื่องนั้นเป็นเรื่องที่ดี
06:07
it might even make us smile.
144
352000
6000
มันอาจจะทำให้เรายิ้มได้ด้วย
06:13
Thank you.
145
358000
2000
ขอบคุณครับ
06:15
(Applause)
146
360000
4000
(เสียงปรบมือ)
06:19
Thank you.
147
364000
2000
ขอบคุณ
06:21
(Applause)
148
366000
4000
(เสียงปรบมือ)
ABOUT THE SPEAKER
Marco Tempest - Techno-illusionistMarco Tempest is a cyber illusionist, combining magic and technology to produce astonishing illusions.
Why you should listen
The Swiss magician began his performing career as a stage magician and manipulator, winning awards and establishing an international reputation. His interest in computer-generated imageryled him to incorporate video and digital technology in his work — and eventually to the development of a new form of contemporary illusion. The expansion of the Internet and social media provided more opportunities for digital illusions and ways of interacting with audiences and creating magically augmented realities. Tempest is a keen advocate of the open source community, working with artists, writers and technologists to create new experiences and research the practical uses of the technology of illusion. He is a Director’s Fellow at the MIT Media Lab.
Marco Tempest | Speaker | TED.com