TED2010
Catherine Mohr: The tradeoffs of building green
แคทเธอรีน มอห์ร์ ปลูกบ้านที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
Filmed:
Readability: 3.7
869,389 views
ในการบรรยายสั้นๆที่สนุกสนานและอัดแน่นด้วยข้อมูลที่ TED U แคทเธอรีน มอห์ร์ (Catherine Mohr) พาเราก้าวผ่านไปยังการตัดสินใจแบบโก๊ะหัวหมอที่เธอใช้ในการปลูกบ้านหลังใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยวิิเคราะห์ตัวเลขพลังงานที่ใช้อย่างแท้จริง ไม่มีอะไรซ่อนเร้น ตัวเลือกไหนที่สำคัญที่สุด ไม่ใช่ตัวเลือกที่คุณคิดแน่ๆ
Catherine Mohr - Roboticist
Catherine Mohr loves what she does -- she's just not ever sure what it will be next. Full bio
Catherine Mohr loves what she does -- she's just not ever sure what it will be next. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:16
First of all, I'm a geek.
0
1000
3000
ก่อนอื่นเลยนะคะ ดิฉันเป็นคนโก๊ะๆหัวหมอๆค่ะ
00:19
I'm an organic food-eating,
1
4000
2000
ดิฉันเป็นพวกชีวจิตรักอาหารปลอดสาร
00:21
carbon footprint-minimizing, robotic surgery geek.
2
6000
3000
จำกัดปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (carbon footprint) และถ้วนถี่กับทุกสิ่งอัน
00:24
And I really want to build green,
3
9000
3000
และดิฉันก็อยากจะสร้างอะไรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมค่ะ
00:27
but I'm very suspicious
4
12000
2000
แต่ดิฉันเป็นคนช่างสงสัยอย่างมาก
00:29
of all of these well-meaning articles,
5
14000
2000
กับพวกบทความที่มีคุณค่าประโยชน์อะไรทั้งหลาย
00:31
people long on moral authority
6
16000
2000
คนเราอยากมีอำนาจสั่งว่าอะไรดีไม่ดี
00:33
and short on data,
7
18000
2000
แต่กลับมีข้อมูลน้อยเหลือเกิน
00:35
telling me how to do these kinds of things.
8
20000
2000
ที่จะบอกดิฉันว่าจะทำอะไรพวกนั้นได้ยังไง
00:37
And so I have to figure this out for myself.
9
22000
2000
และเพราะอย่างนั้น ดิฉันก็เลยต้องมาหาวิธีเอาเองค่ะ
00:39
For example: Is this evil?
10
24000
3000
ยกตัวอย่างนะคะ: เช่นว่า อันเนี่ยเป็นเรื่องเลวร้ายหรือเปล่า?
00:42
I have dropped a blob of organic yogurt
11
27000
3000
ดิฉันเผลอทำโยเกิร์ตอินทรีย์หล่นก้อนนึง
00:45
from happy self-actualized local cows
12
30000
2000
เป็นโยเกิร์ตที่ได้มาจากวัวท้องถิ่นที่รู้จักตัวเองและมีความสุข
00:47
on my counter top,
13
32000
2000
หล่นอยู่บนเคาน์เตอร์
00:49
and I grab a paper towel and I want to wipe it up.
14
34000
3000
ดิฉันก็เลยไปหยิบกระดาษเช็ดมือ (paper towel) และก็จะเช็ดออก
00:52
But can I use a paper towel? (Laughter)
15
37000
3000
แต่ว่า ดิฉันจะใช้กระดาษเช็ดมือนี่ได้หรือเปล่านะ? (เสียงหัวเราะ)
00:55
The answer to this can be found in embodied energy.
16
40000
3000
คำตอบอยู่ที่ปริมาณพลังงานแฝงค่ะ
00:58
This is the amount of energy that goes into
17
43000
2000
มันคือปริมาณของพลังงานที่ใช้ไปกว่าที่จะได้เป็น
01:00
any paper towel or embodied water,
18
45000
2000
กระดาษเช็ดมือ หรือปริมาณน้ำที่แฝงอยู่ในกระดาษ
01:02
and every time I use a paper towel,
19
47000
2000
ทุกๆครั้งที่ดิฉันใช้กระดาษเช็ดมือ
01:04
I am using this much
20
49000
2000
ดิฉันใช้
01:06
virtual energy and water.
21
51000
2000
พลังงานแฝงและปริมาณน้ำแฝงมากเท่านี้
01:08
Wipe it up, throw it away.
22
53000
2000
เช็ดเสร็จ ขว้างทิ้ง
01:10
Now, if I compare that to a cotton towel
23
55000
3000
ตอนนี้ถ้าดิฉันลองเปรียบเทียบกับผ้าขนหนูเนื้อฝ้าย
01:13
that I can use a thousand times,
24
58000
2000
ซึ่งดิฉันใช้ซ้ำได้เป็นพันครั้ง
01:15
I don't have a whole lot of embodied energy
25
60000
3000
ดิฉันไม่ใช้พลังงานแฝงเยอะเท่าไหร่
01:18
until I wash that yogurty towel.
26
63000
2000
จนกระทั่งดิฉันนำผ้าผืนที่เปื้อนโยเกิร์ตนั้นไปซัก
01:20
This is now operating energy.
27
65000
3000
ส่วนนี้เป็นพลังงานในการซักล้าง
01:23
So if I throw my towel in the washing machine,
28
68000
2000
ดังนั้น ถ้าเกิดดิฉันโยนผ้านี่เข้าไปในเครื่องซักผ้า
01:25
I've now put energy and water
29
70000
2000
ก็หมายความว่าดิฉันได้ใส่พลังงานกับน้ำ
01:27
back into that towel ...
30
72000
2000
กลับเข้าไปในผ้าผืนนี้
01:29
unless I use a front-loading, high-efficiency washing machine, (Laughter)
31
74000
2000
ยกเว้นเสียแต่ว่าดิฉันใช้เครื่องซักผ้าประสิทธิภาพสูงแบบที่มีประตูเปิดด้านหน้า
01:31
and then it looks a little bit better.
32
76000
3000
ซึ่งก็ทำให้ดูดีขึ้นมานิดนึง
01:34
But what about a recycled paper towel
33
79000
2000
แล้วถ้าเป็นกระดาษเช็ดมือที่ทำมาด้วยกรรมวิธีนำกลับมาใช้ใหม่ (recycle)
01:36
that comes in those little half sheets?
34
81000
2000
ที่มาแบบความยาวครึ่งแผ่นปรกติ
01:38
Well, now a paper towel looks better.
35
83000
2000
ตอนนี้กลายเป็นว่ากระดาษเช็ดมือแบบนี้ดูดีกว่า
01:40
Screw the paper towels. Let's go to a sponge.
36
85000
2000
ลืมๆกระดาษเช็ดมือไปดีกว่า ไปดูฟองน้ำกัน
01:42
I wipe it up with a sponge, and I put it under the running water,
37
87000
3000
ดิฉันเช็ดด้วยฟองน้ำ แล้วเปิดน้ำก๊อกล้างออกแบบนี้
01:45
and I have a lot less energy and a lot more water.
38
90000
2000
ดิฉันใช้พลังงานน้อยกว่ามากโขอยู่ แต่ก็ใช้น้ำมากกว่าจมเลย
01:47
Unless you're like me and you leave the handle
39
92000
2000
ยกเว้นว่าคุณจะทำอะไรคล้ายๆดิฉัน คือ เปิดก๊อกน้ำทิ้งไว้
01:49
in the position of hot even when you turn it on,
40
94000
2000
โดยบิดมาทางฝั่งน้ำร้อนตอนที่คุณเปิดก๊อก
01:51
and then you start to use more energy.
41
96000
2000
ถ้าเป็นแบบนี้คือคุณใช้พลังงานมากกว่า
01:53
Or worse, you let it run until it's warm
42
98000
2000
แย่กว่านั้นถ้าคุณเปิดน้ำร้อนทิ้งไว้รอมันอุ่น
01:55
to rinse out your towel.
43
100000
2000
เพื่อชะล้างผ้าที่สกปรก
01:57
And now all bets are off.
44
102000
2000
ตอนนี้อะไรๆก็เอาไม่อยู่แล้วค่ะ
01:59
(Laughter)
45
104000
2000
(เสียงหัวเราะ)
02:01
So what this says is that
46
106000
2000
ที่พูดมานี่ก็คือว่า
02:03
sometimes the things that you least expect --
47
108000
3000
บางครั้งอะไรที่เราไม่คาดคิด
02:06
the position in which you put the handle --
48
111000
2000
ตำแหน่งที่เราบิดหัวก๊อกน้ำ
02:08
have a bigger effect than any of those other things
49
113000
2000
มีผลกระทบมากกว่าอะไรอย่างอื่นทั้งหมด
02:10
that you were trying to optimize.
50
115000
2000
ที่เราพยายามจำกัดจำเขี่ย
02:12
Now imagine someone as twisted as me
51
117000
2000
ตอนนี้ลองมาคิดดูว่าคนพิลึกๆอย่างดิฉันเนี่ย
02:14
trying to build a house.
52
119000
2000
พยายามจะปลูกบ้านขึ้นมาสักหลัง
02:16
(Laughter)
53
121000
3000
(เสียงหัวเราะ)
02:19
That's what my husband and I are doing right now.
54
124000
3000
นั่นคือสิ่งที่สามีกับดิฉันกำัลังทำอยู่ตอนนี้ค่ะ
02:22
And so, we wanted to know, how green could we be?
55
127000
2000
ถ้างั้น ดิฉันกับสามีก็เลยอยากรู้ว่าเราจะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้มากน้อยอย่างไร
02:24
And there's a thousand and one articles out there
56
129000
2000
และก็มีบทความอยู่ร้อยแปด
02:26
telling us how to make all these green trade-offs.
57
131000
2000
ที่สอนเราว่าเราจะได้อย่างเสียอย่างกับความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมยังไงบ้าง
02:28
And they are just as suspect
58
133000
2000
บทความพวกนั้นก็อย่างที่คาดไว้
02:30
in telling us to optimize these little things around the edges
59
135000
3000
ว่าจะบอกเราให้จำกัดจำเขี่ยกับสิ่งละอันพันละน้อยให้ได้ประโยชน์สูงสุด
02:33
and missing the elephant in the living room.
60
138000
2000
แต่กลับเป็นว่า ถี่ลอดตาช้าง ห่างลอดตาเล็น
02:35
Now, the average house
61
140000
2000
บ้านทั่วๆไป
02:37
has about 300 megawatt hours
62
142000
3000
จะใช้พลังงานประมาณ 300 เมกกะวัตต์-ชั่วโมง
02:40
of embodied energy in it;
63
145000
2000
เป็นพลังงานแฝง
02:42
this is the energy it takes to make it --
64
147000
2000
นี่เป็นพลังงานที่ใช้ในการปลูกบ้านขึ้นมาทั้งหมดนะคะ
02:44
millions and millions of paper towels.
65
149000
2000
เท่ากับกระดาษเช็ดมือเป็นล้านๆแผ่น
02:46
We wanted to know how much better we could do.
66
151000
3000
ดิฉันกับสามีก็อยากรู้ว่าพวกเราจะทำให้ดีขึ้นได้สักขนาดไหน
02:49
And so, like many people,
67
154000
2000
ดังนั้น ก็เหมือนคนอื่นๆมากมายนั่นแหละค่ะ
02:51
we start with a house on a lot,
68
156000
2000
เราสองคนเริ่มจากบ้านหลังหนึ่งในที่ดินผืนหนึ่ง
02:53
and I'm going to show you a typical construction on the top
69
158000
2000
ดิฉันจะเสนอให้คุณชมโดยให้การก่อสร้างแบบทั่วไปอยู่ด้านบน
02:55
and what we're doing on the bottom.
70
160000
2000
แล้วก็ที่พวกเราทำอยู่ด้านล่างนี้นะคะ
02:57
So first, we demolish it.
71
162000
2000
ตอนแรก เราก็ทุบบ้านทิ้งก่อน
02:59
It takes some energy, but if you deconstruct it --
72
164000
3000
ซึ่งก็ใช้พลังงาน แต่ถ้าเราใช้วิธีรื้อถอน
03:02
you take it all apart, you use the bits --
73
167000
2000
ถอดออกมาเป็นชิ้นๆ แล้วก็เอาชิ้นพวกนี้ไปใช้
03:04
you can get some of that energy back.
74
169000
2000
เราก็จะได้พลังงานคืนกลับมา
03:06
We then dug a big hole
75
171000
2000
ต่อจากนั้น ดิฉันกับสามีก็ขุดหลุมใหญ่ๆ
03:08
to put in a rainwater catchment tank
76
173000
2000
สำหรับใ่ส่ถังเก็บน้ำฝน
03:10
to take our yard water independent.
77
175000
2000
เพื่อจะได้มีน้ำรดสวนโดยไม่ต้องใช้ประปาค่ะ
03:12
And then we poured a big foundation
78
177000
2000
จากนั้นเราก็วางฐานราก
03:14
for passive solar.
79
179000
2000
ไว้สำหรับการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ทางอ้อม
03:16
Now, you can reduce the embodied energy
80
181000
2000
มาถึงตอนนี้ เราสามารถลดพลังงานแฝง
03:18
by about 25 percent
81
183000
2000
ได้ประมาณร้อยละ 25
03:20
by using high fly ash concrete.
82
185000
3000
โดยใช้คอนกรีตผสมขี้เถ้าลอยสูง (high fly ash concrete)
03:23
We then put in framing.
83
188000
2000
จากนั้นก็ขึ้นโครงบ้าน
03:25
And so this is framing -- lumber,
84
190000
2000
อันนี้คือโครง แผ่นไม้
03:27
composite materials --
85
192000
2000
วัสดุคอมโพสิต
03:29
and it's kind of hard to get the embodied energy out of that,
86
194000
3000
ซึ่งค่อนข้างยากที่จะรู้ว่าพลังงานแฝงเป็นเท่าไหร่
03:32
but it can be a sustainable resource
87
197000
2000
แต่ว่าพวกนี้ก็สามารถเป็นทรัพยากรที่ยั่งยืน
03:34
if you use FSC-certified lumber.
88
199000
3000
ถ้าเราใช้แผ่นไม้ที่รับรองโดยเอฟเอสซี (F.S.C. certified lumber) อะนะคะ
03:37
We then go on to
89
202000
2000
ต่อจากนั้น พวกเราก็มาเจอ
03:39
the first thing that was very surprising.
90
204000
2000
อะไรอย่างแรกเลยที่ทำให้เราต้องแปลกใจ
03:41
If we put aluminum windows in this house,
91
206000
3000
ถ้าเราใช้หน้าต่างอลูมิเนียมกับบ้านนี้
03:44
we would double the energy use right there.
92
209000
3000
เราจะใช้พลังงานถึงสองเท่าเลยค่ะ
03:47
Now, PVC is a little bit better,
93
212000
2000
ขั้นตอนนี้ ผลิตภัณฑ์พีวีซี (PVC) ดูเหมือนจะดีกว่านิดนึง
03:49
but still not as good as the wood that we chose.
94
214000
3000
แต่ก็ยังไม่ดีเท่ากับไม้ที่พวกเราเลือกไว้ค่ะ
03:52
We then put in plumbing,
95
217000
2000
จากนั้นเราก็ติดตั้งระบบท่อส่งน้ำ
03:54
electrical and HVAC,
96
219000
2000
ระบบไฟฟ้า และ ระบบความร้อนความเย็นและระบายอากาศ (HVAC)
03:56
and insulate.
97
221000
2000
และฉนวน
03:58
Now, spray foam is an excellent insulator -- it fills in all the cracks --
98
223000
3000
โฟมแบบฉีดนี่เป็นฉนวนชั้นเยี่ยม มันซึมเข้าไปในรอยแตกได้ด้วย
04:01
but it is pretty high embodied energy,
99
226000
3000
แต่ว่ามันมีพลังงานแฝงค่อนข้างจะสูงมาก
04:04
and, sprayed-in cellulose or blue jeans
100
229000
3000
เซลลูโลสแบบฉีด หรือพวกเศษผ้ายีนส์สีน้ำเงิน
04:07
is a much lower energy alternative to that.
101
232000
2000
เป็นทางเลือกที่ใช้พลังงานต่ำกว่ามากเลย
04:09
We also used straw bale
102
234000
2000
พวกเราใช้ฟางก้อนสี่เหลี่ยม
04:11
infill for our library,
103
236000
2000
มาใส่ตรงที่จะเป็นห้องสมุดของเราด้วย
04:13
which has zero embodied energy.
104
238000
2000
ซึ่งถือว่าไร้พลังงานแฝงค่ะ
04:15
When it comes time to sheetrock,
105
240000
2000
พอมาถึงเรื่องของผนังสำเร็จรูป
04:17
if you use EcoRock it's about a quarter
106
242000
2000
ถ้าเราใช้ อิโคร๊อค (EcoRock) ก็จะมี
04:19
of the embodied energy of standard sheetrock.
107
244000
3000
พลังงานแฝงอยู่หนึ่งในสี่ของผนังสำเร็จรูปชนิดมาตรฐาน
04:22
And then you get to the finishes,
108
247000
2000
ทีนี้ก็มาถึงขั้นตอนของการเก็บงาน
04:24
the subject of all of those "go green" articles,
109
249000
3000
ซึ่งเป็นหัวข้อของบทความพวกเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทั้งหมด
04:27
and on the scale of a house
110
252000
1000
พอต้องมาทำอะไรที่ขนาดใหญ่อย่างบ้านเนี่ย
04:28
they almost make no difference at all.
111
253000
3000
ดูจะไม่สร้างความแตกต่างอะไรขึ้นมาเลยค่ะ
04:31
And yet, all the press is focused on that.
112
256000
2000
แต่สื่อกลับมามุ่งประเด็นเอากับเรื่องพวกนี้
04:33
Except for flooring.
113
258000
2000
ยกเว้นพื้นบ้านนะคะ
04:35
If you put carpeting in your house,
114
260000
2000
ถ้าเราใส่พื้นพรมทั่วบ้าน
04:37
it's about a tenth of the embodied energy of the entire house,
115
262000
3000
จะมีพลังงานแฝงประมาณ 1/10 ของพลังงานทั้งบ้าน
04:40
unless you use concrete or wood
116
265000
2000
ยกเว้นว่าเราใช้คอนกรีตหรือไม้
04:42
for a much lower embodied energy.
117
267000
2000
พลังงานแฝงจะต่ำกว่ามากเลย
04:44
So now we add in the final construction energy, we add it all up,
118
269000
3000
เอาหล่ะค่ะ ตอนนี้เราก็บวกพลังงานที่ใช้ในขั้นตอนการก่อสร้างเข้าไปแล้วรวมยอดให้หมด
04:47
and we've built a house for less than half
119
272000
2000
เราได้ปลูกบ้านที่มีพลังงานแฝงน้อยกว่าครึ่งหนึ่ง
04:49
of the typical embodied energy for building a house like this.
120
274000
3000
ของการปลูกบ้านแบบเดียวกันนี้อย่างที่ทำกันทั่วไป
04:52
But before we pat ourselves
121
277000
2000
แต่ก่อนที่เราจะลูบ
04:54
too much on the back,
122
279000
2000
หลังชื่นชมตัวเองมากเกินไป
04:56
we have poured 151 megawatt hours
123
281000
3000
เราได้ใช้พลังงานเข้าไป 151 เมกกะวัตต์-ชั่วโมง
04:59
of energy into constructing this house
124
284000
2000
ไปในขั้นตอนการก่อสร้างบ้านหลังนี้
05:01
when there was a house there before.
125
286000
2000
เทียบกับการที่ว่าเรามีบ้านหลังเก่าอยู่ตรงนี้มาก่อนแล้ว
05:03
And so the question is:
126
288000
2000
ดังนั้น คำถามก็คือ
05:05
How could we make that back?
127
290000
2000
เราจะเอาพลังงานตรงนั้นทดแทนกลับคืนมาได้ยังไง
05:07
And so if I run my new energy-efficient house forward,
128
292000
3000
ถ้างั้น ดิฉันก็จะทดเวลาการอยู่ในบ้านประหยัดพลังงานหลังใหม่นี้ไปในอนาคต
05:10
compared with the old, non-energy-efficient house,
129
295000
3000
เทียบกับถ้าอยู่บ้านหลังเก่าที่ไม่ใช่บ้านประหยัดพลังงาน
05:13
we make it back in about six years.
130
298000
3000
ปรากฏว่าเราจะได้พลังงานกลับมาทดแทนกันได้ใน 6 ปี
05:16
Now, I probably would have upgraded the old house
131
301000
2000
แต่เกิดว่าดิฉันเลือกปรับปรุงบ้านหลังเก่า
05:18
to be more energy-efficient,
132
303000
2000
ให้มีประสิทธิภาพพลังงานมากขึ้น
05:20
and in that case,
133
305000
2000
ถ้าเป็นกรณีนั้น
05:22
it would take me more about 20 years to break even.
134
307000
3000
ก็จะใช้เวลาราวๆ 20 ปีถึงจะคุ้มทุนทางพลังงาน
05:26
Now, if I hadn't paid attention to embodied energy,
135
311000
2000
แต่ว่าถ้าหากดิฉันไม่นับพลังงานแฝง
05:28
it would have taken us
136
313000
2000
ก็จะทำให้เราต้องใช้เวลา
05:30
over 50 years to break even
137
315000
2000
กว่า 50 ปีจึงจะถึงจุดคุ้มทุนทางพลังงาน
05:32
compared to the upgraded house.
138
317000
2000
เทียบกับบ้านหลังเก่าที่ได้รับการปรับปรุงอะนะคะ
05:34
So what does this mean?
139
319000
2000
ถ้างั้น มันหมายความว่าไงล่ะ?
05:36
On the scale of my portion of the house,
140
321000
3000
ถ้านับตามสัดส่วนพลังงานในบ้านหลังนี้ที่เป็นของดิฉัน
05:39
this is equivalent to about
141
324000
2000
ก็จะเท่ากับประมาณ
05:41
as much as I drive in a year,
142
326000
2000
ที่ดิฉันขับรถในหนึ่งปี
05:43
it's about five times as much
143
328000
2000
จะเท่ากับประมาณห้าเท่า
05:45
as if I went entirely vegetarian.
144
330000
2000
ถ้าหากว่าดิฉันกินมังสวิรัติตลอดปี
05:47
But my elephant in the living room flies.
145
332000
3000
แต่ว่าเจ้าช้างในห้องนั่งเล่นที่ ถี่ลอดตาข้าง ของดิฉันหน่ะมันบินได้ค่ะ
05:50
Clearly, I need to walk home from TED.
146
335000
3000
พูดกันชัดๆก็คือ ดิฉันต้องเดินจากงาน TED นี่กลับบ้านหละ
05:53
But all the calculations
147
338000
3000
แต่การคำนวณทั้งหมดนี้
05:56
for embodied energy are on the blog.
148
341000
2000
ที่ใช้คำนวณพลังงานแฝงอยู่บนเว็บบล๊อกอันนี้
05:58
And, remember, it's sometimes the things that you are not expecting
149
343000
3000
และจำไว้นะคะว่า บางครั้งสิ่งที่เราไม่ได้คาดคิด
06:01
to be the biggest changes that are.
150
346000
3000
ว่าจะทำอะไรได้กลับกลายเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงอะไรๆได้มากที่สุด
06:04
Thank you. (Applause)
151
349000
2000
ขอบคุณค่ะ (เสียงปรบมือ)
ABOUT THE SPEAKER
Catherine Mohr - RoboticistCatherine Mohr loves what she does -- she's just not ever sure what it will be next.
Why you should listen
An engineer turned surgeon turned strategist, Catherine Mohr is always on the lookout for new technologies to help improve patient outcomes while trying to stay in her sweet spot -- the steep part of the learning curve.
As VP of Strategy for Intuitive Surgical in Silicon Valley, faculty at Singularity University and advisor to med-tech startups in the UK, the US and her native New Zealand, Mohr follows her self-admittedly geeky passions wherever they lead her, as she designs, makes, writes, tinkers, plays and travels all over the world.
Catherine Mohr | Speaker | TED.com