TED2010
Richard Sears: Planning for the end of oil
ริชาร์ต เซียร์ส (Richard Sears): การเตรียมตัว ก่อนวันที่น้ำมันหมดโลก
Filmed:
Readability: 3.6
685,133 views
ขณะที่โลกกำลังให้ความสนใจต่อภัยคุมคามจากการสำรวจน้ำมัน เราขอนำเสนอบทความจากเดือนกุมภาพันธ์ 2010 ของริชาร์ต เซียร์ส ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาแหล่งพลังงานใหม่ เขาได้พูดถึงความจำเป็นและสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องจบยุคของน้ำมัน..ไปสู่..อะไรหล่ะ?
Richard Sears - Geophysicist
Richard Sears thinks hard about the post-oil world. He's a visiting scientist at MIT, after a long career as a VP at Shell. Full bio
Richard Sears thinks hard about the post-oil world. He's a visiting scientist at MIT, after a long career as a VP at Shell. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:16
For the next few minutes we're going to talk about energy,
0
1000
2000
ไม่กี่นาทีต่อจากนี้ พวกเราจะพูดถึงเรื่องพลังงาน
00:18
and it's going to be a bit of a varied talk.
1
3000
3000
และมันจะเป็นการพูดที่แตกต่างออกไป
00:21
I'll try to spin a story about energy,
2
6000
2000
ผมจะพยายามพูดถึงพลังงาน
00:23
and oil's a convenient starting place.
3
8000
2000
และน้ำมันดูจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ง่าย
00:25
The talk will be broadly about energy,
4
10000
2000
การพูดนี้จะกล่าวถึงพลังงานอย่างคร่าวๆ
00:27
but oil's a good place to start.
5
12000
2000
แต่น้ำมันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี
00:29
And one of the reasons is this is remarkable stuff.
6
14000
3000
และหนึ่งในเหตุผลก็คือนี่เป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ
00:32
You take about eight or so carbon atoms,
7
17000
2000
คุณใส่อะตอมคาร์บอนประมาณ 8 อะตอม
00:34
about 20 hydrogen atoms,
8
19000
2000
อะตอนไฮโดรเจนประมาณ 20 อะตอม
00:36
you put them together in exactly the right way
9
21000
2000
แล้วคุณผสมมันรวมกันด้วยวิธีการที่ถูกต้อง
00:38
and you get this marvelous liquid:
10
23000
2000
และคุณจะได้ของเหลวที่น่ามหัศจรรย์อันนี้
00:40
very energy-dense and very easy to refine
11
25000
2000
ที่เต็มไปด้วยพลังงาน และง่ายต่อการกลั่น
00:42
into a number of very useful products and fuels.
12
27000
3000
เพื่อเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์มากและเป็นเชื้อเพลิง
00:45
It's great stuff.
13
30000
2000
มันเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม
00:47
Now, as far as it goes,
14
32000
2000
ในปัจจุบัน
00:49
there's a lot of oil out there in the world.
15
34000
2000
มีน้ำมันจำนวนมากในโลกของเรา
00:51
Here's my little pocket map
16
36000
2000
นี่คือแผนที่พกพาขนาดเล็กของผม
00:53
of where it's all located.
17
38000
2000
ที่บอกถึงสถานที่ที่มีมันอยู่ทั้งหมด
00:55
A bigger one for you to look at.
18
40000
2000
นี่เป็นภาพใหญ่ให้พวกคุณได้เห็นมัน
00:57
But this is it, this is the oil in the world.
19
42000
2000
แต่ก็แค่นี้แหละ น้ำมันทั้งหมดในโลกของเรา
00:59
Geologists have a pretty good idea of where the oil is.
20
44000
2000
นักธรณีวิทยารู้ค่อนข้างดีว่ามันอยู่ที่ไหน
01:01
This is about 100 trillion gallons
21
46000
3000
นี่คิดเป็นประมาณ 100 ล้านล้านแกลลอน
01:04
of crude oil
22
49000
2000
ของน้ำมันดิบ ในโลกเรา ณ วันนี้
01:06
still to be developed and produced in the world today.
23
51000
3000
ที่ยังไม่ได้ขุดเจาะ และแปรรูป
01:09
Now, that's just one story about oil,
24
54000
2000
ถึงตอนนี้ นี่ยังคงเป็นแค่เรื่องหนึ่งเกี่ยวกับน้ำมัน
01:11
and we could end it there and say,
25
56000
2000
เราอาจหยุดตรงนี้ แล้วปลอบตัวเองว่า
01:13
"Well, oil's going to last forever
26
58000
2000
"เยี่ยม น้ำมันจะมีอยู่ตลอดไป
01:15
because, well, there's just a lot of it."
27
60000
2000
เพราะ มันมีอยู่เยอะมาก"
01:17
But there's actually more to the story than that.
28
62000
2000
แต่มีจริงๆ แล้วมีเรื่องอีกมากกว่านั้น
01:19
Oh, by the way, if you think you're very far from some of this oil,
29
64000
3000
อ้อ จะว่าไป ถ้าคุณคิดว่าคุณอยู่ห่างไกลจากน้ำมันพวกนี้หละก็
01:22
1000 meters below where you're all sitting
30
67000
3000
1000 เมตรข้างใต้ที่ที่คุณกำลังนั่งอยู่นี้
01:25
is one of the largest producing oil fields in the world.
31
70000
3000
เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ใหญ่ที่สุดในการผลิตน้ำมันในโลก
01:28
Come talk to me about it, I'll fill in some of the details if you want.
32
73000
3000
ไว้ค่อยพูดกับผมในเรื่องนี้ โดยผมจะบอกรายละเอียดบางส่วนถ้าคุณต้องการ
01:31
So, that's one of the stories of oil; there's just a lot of it.
33
76000
3000
นี้คือเรื่องหนึ่งของน้ำมัน มันมีเยอะมาก
01:34
But what about oil? Where is it in the energy system?
34
79000
3000
แล้วน้ำมันหล่ะ มันอยู่ตรงไหนของระบบพลังงาน
01:39
Here's a little snapshot of 150 years of oil,
35
84000
3000
นี้คือภาพรวมใน 150 ปี ตั้งแต่มีการเริ่มใช้น้ำมัน
01:42
and it's been a dominant part of our energy system
36
87000
2000
และมันได้เป็นส่วนสำคัญของระบบพลังงานของเรา
01:44
for most of those 150 years.
37
89000
3000
มากว่า 150 ปี
01:47
Now, here's another little secret I'm going to tell you about:
38
92000
3000
ตรงนี้มีความลับเล็กๆ น้อยๆ อีกอย่างที่ผมจะบอกคุณ
01:51
For the last 25 years,
39
96000
2000
ในช่วง 25 ปีสุดท้าย
01:53
oil has been playing less and less of a role
40
98000
3000
น้ำมันมีความสำคัญน้อยลงเรื่อยๆ
01:56
in global energy systems.
41
101000
2000
ในระบบพลังงานของโลก
01:58
There was one kind of peak oil in 1985,
42
103000
3000
จุดสูงสุดของน้ำมันในมี ค.ศ. 1985
02:01
when oil represented 50 percent of global energy supply.
43
106000
2000
เมื่อน้ำมันเป็น 50 เปอร์เซนต์ในระบบพลังงานของโลก
02:03
Now, it's about 35 percent.
44
108000
2000
ตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 35 เปอร์เซนต์
02:05
It's been declining
45
110000
2000
มันกำลังลดลงเรื่อยมา
02:07
and I believe it will continue to decline.
46
112000
2000
และผมเชื่อว่ามันจะลดลงอย่างต่อเนื่อง
02:09
Gasoline consumption in the U.S. probably peaked in 2007
47
114000
2000
การใช้น้ำมันรถยนต์ในสหรัฐถึงจุดสูงสุดประมาณปี 2007
02:11
and is declining.
48
116000
2000
และกำลังลดลง
02:13
So oil is playing a less significant role
49
118000
3000
ดังนั้นน้ำมันกำลังลดความสำคัญลง
02:16
every year.
50
121000
2000
ทุกๆ ปี
02:18
And so, 25 years ago,
51
123000
2000
และ 25 ปีที่แล้ว
02:20
there was a peak oil;
52
125000
2000
จุดที่สูงสุดของน้ำมัน
02:22
just like, in the 1920s,
53
127000
2000
เหมือนในปี ค.ศ. 1920
02:24
there was a peak coal;
54
129000
2000
ที่เป็นจุดสูงของถ่านหิน
02:26
and a hundred years before that,
55
131000
2000
และ 100 ปีก่อนหน้านั้น
02:28
there was a peak wood.
56
133000
2000
ที่เป็นจุดสูงสุดของไม้
02:30
This is a very important picture of the evolution of energy systems.
57
135000
3000
นี่เป็นภาพที่สำคัญมากเพื่อแสดงถึงวิวัฒนาการของระบบพลังงาน
02:33
And what's been taking up the slack in the last few decades?
58
138000
3000
และเรากำลังจะพูดถึงสิ่งที่ทำให้มันซบเซาลงในรอบหลายทศวรรษนี้
02:36
Well, a lot of natural gas
59
141000
2000
นั่นคือ ก๊าซธรรมชาติจำนวนมาก
02:38
and a little bit of nuclear, for starters.
60
143000
3000
และพลังงานนิวเคลียร์อีกนิดหน่อย
ซึ่งเป็นเพียงแค่ตัวอย่าง
ซึ่งเป็นเพียงแค่ตัวอย่าง
02:41
And what goes on in the future?
61
146000
2000
และอะไรจะเกิดขึ้นต่อในอนาคต
02:43
Well, I think out ahead of us a few decades
62
148000
2000
ผมคิดถึงอีกไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า
02:45
is peak gas,
63
150000
3000
คือจุดสูงสุดของก๊าซธรรมชาติ
02:48
and beyond that,
64
153000
2000
และยิ่งกว่านั้น
02:50
peak renewables.
65
155000
2000
จุดสูดสุดของพลังงานหมุนเวียน
02:52
Now, I'll tell you another little, very important
66
157000
2000
ตอนนี้ ผมบอกคุณถึงเรื่องเล็กๆ ที่สำคัญมาก
02:54
story about this picture.
67
159000
2000
เกี่ยวกับรูปภาพนี้
02:56
Now, I'm not pretending that energy use in total
68
161000
2000
ผมไม่ได้แกล้งว่าพลังงานที่บริโภค
02:58
isn't increasing, it is --
69
163000
2000
ไม่ได้กำลังเพิ่มขึ้น
03:00
that's another part of the story. Come talk to me about it,
70
165000
2000
แต่นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เก็บไว้มาคุยนี้กับผมทีหลัง
03:02
we'll fill in some of the details --
71
167000
2000
เราจะได้คุยกันในรายละเอียด
03:04
but there's a very important message here:
72
169000
2000
แต่มีข้อความที่สำคัญมาก นั่นคือ:
03:06
This is 200 years of history,
73
171000
2000
นี่เป็นเวลา 200 ปีในประวัติศาสตร์
03:08
and for 200 years we've been systematically decarbonizing
74
173000
3000
และในช่วง 200 ปีนี้ พวกเราได้ลดคาร์บอน
03:11
our energy system.
75
176000
2000
ในระบบพลังงานลงอย่างเป็นระบบ
03:13
Energy systems of the world
76
178000
2000
ระบบพลังงานของโลก
03:15
becoming progressively -- year on year,
77
180000
2000
ได้เจริญก้าวหน้าขึ้น ปีต่อปี
03:17
decade on decade, century on century --
78
182000
2000
ทศวรรษต่อทศวรรษ ศตวรรษต่อศตวรรษ
03:19
becoming less carbon intense.
79
184000
3000
กลายเป็นพลังงานที่ใช้คาร์บอนน้อยลง
03:22
And that continues into the future
80
187000
2000
และแนวโน้มนั้น ยังดำเนินต่อไปสู่อนาคต
03:24
with the renewables that we're developing today,
81
189000
2000
กับพลังงานทดแทนที่พวกเรากำลังพัฒนาในทุกวันนี้
03:26
reaching maybe 30 percent of primary energy
82
191000
2000
อาจจะขึ้นไปถึง 30 เปอร์เซนต์ของพลังงานหลัก
03:28
by mid century.
83
193000
2000
ในช่วงกลางศตวรรษ
03:30
Now that might be the end of the story --
84
195000
2000
นี่อาจเป็นตอนจบของเรื่อง
03:32
Okay, we just replace it all with conventional renewables --
85
197000
2000
โอเค เราก็แค่ทดแทนพลังงานทั้งหมดด้วยพลังงานสะอาด
03:34
but I think, actually, there's more to the story than that.
86
199000
2000
แต่ผมคิดว่าจริงๆ แล้วมีเรื่องราวมากกว่านั้น
03:36
And to tell the next part of the story --
87
201000
2000
และเพื่อพูดถึงเรื่องในส่วนต่อไป
03:38
and this is looking out say 2100 and beyond.
88
203000
3000
ดูต่อไปถึงปี 2100 และไกลกว่านั้น
03:41
What is the future
89
206000
2000
อะไรคืออนาคตสำหรับ
03:43
of truly sustainable, carbon-free energy?
90
208000
2000
พลังงานที่ยั่งยืน และปลอดคาร์บอน อย่างแท้จริง
03:45
Well, we have to take a little excursion,
91
210000
2000
พวกเราจะออกนอกเรื่องเล็กน้อย
03:47
and we'll start in central Texas.
92
212000
2000
และพวกเราเริ่มที่ใจกลางของเท็กซัส
03:49
Here's a piece of limestone.
93
214000
2000
นี่คือหินปูนชิ้นหนึ่ง
03:51
I picked it up outside of Marble Falls, Texas.
94
216000
2000
ผมเก็บมาจากนอกเมือง มาร์เบิลฟอลส์ รัฐเท็กซัส
03:53
It's about 400 million years old.
95
218000
2000
มีอายุประมาณ 400 ล้านปี
03:55
And it's just limestone, nothing really special about it.
96
220000
3000
และมันเป็นแค่หินปูน ไม่มีอะไรที่พิเศษเกี่ยวกับมันจริงๆ
03:58
Now, here's a piece of chalk.
97
223000
2000
นี้คือชอล์กชิ้นหนึ่ง
04:00
I picked this up at MIT. It's a little younger.
98
225000
3000
ผมหยิบมันมาจาก MIT มันอายุน้อยกว่านิดหน่อย
04:03
And it's different than this limestone, you can see that.
99
228000
2000
และมันแตกต่างจากหินปูน คุณเห็นมันได้
04:05
You wouldn't build a building out of this stuff,
100
230000
2000
คุณจะไม่ใช้สิ่งนี้ในการก่อสร้าง
04:07
and you wouldn't try to give a lecture and write on the chalkboard with this.
101
232000
3000
และคุณจะไม่พยายามที่จะสอนหรือเขียนกระดานดำด้วยสิ่งนี้
04:10
Yeah, it's very different -- no, it's not different.
102
235000
2000
ใช่ มันต่างกัน ไม่สิ มันไม่ต่างกันเลย
04:12
It's not different, it's the same stuff:
103
237000
2000
มันไม่ต่างกัน มันคือวัสดุเดียวกัน
04:14
calcium carbonate, calcium carbonate.
104
239000
3000
แคลเซียมคาร์บอเนต และแคลเซียมคาร์บอเนต
04:17
What's different is how the molecules are put together.
105
242000
3000
สิ่งที่ต่างกันคือวิธีการที่โมเลกุลรวมตัวกัน
04:20
Now, if you think that's kind of neat,
106
245000
3000
ถ้าคุณคิดว่ามันเจ๋ง
04:23
the story gets really neat right now.
107
248000
3000
ตอนนี้ เรื่องราวกำลังจะเจ๋งขึ้นจริงๆ แล้ว
04:26
Off the coast of California comes this:
108
251000
3000
นอกชายฝั่งของแคลิฟอร์เนีย เราพบสิ่งนี้
04:29
It's an abalone shell.
109
254000
2000
เปลือกของหอยเป๋าฮื้อ
04:31
Now, millions of abalone every year
110
256000
2000
ปัจจุบันนี้ หอยเป๋าฮื้อหนึ่งล้านตัว
04:33
make this shell.
111
258000
2000
สร้างเปลือกของมันทุกๆ ปี
04:35
Oh, by the way, just in case you weren't already guessing,
112
260000
2000
ว่าแต่ว่า ในตอนนี้คุณไม่ต้องเดาเลย
04:37
it's calcium carbonate.
113
262000
2000
มันเป็นแคลเซียมคาร์บอเนต
04:39
It's the same stuff as this
114
264000
2000
มันเป็นวัสดุเดียวกันกับอันนี้
04:41
and the same stuff as this.
115
266000
2000
และเหมือนกับอันนี้
04:43
But it's not the same stuff; it's different.
116
268000
2000
แต่ไม่ใช่วัสดุแบบเดียวกัน มันแตกต่างกัน
04:45
It's thousands of times,
117
270000
2000
มันแข็งแรงกว่าอันนี้
04:47
maybe 3,000 times tougher than this.
118
272000
3000
หนึ่งพันเท่าหรืออาจจะ 3000 เท่า
04:50
And why? Because the lowly abalone
119
275000
3000
ทำไมหล่ะ เพราะว่าหอยเป๋าฮื้อผู้ต้อยต่ำ
04:53
is able to lay down
120
278000
2000
สามารถที่จะวาง
04:55
the calcium carbonate crystals in layers,
121
280000
2000
ผลึกของแคลเซียมคาร์บอนเนตเป็นชั้นๆได้
04:57
making this beautiful, iridescent
122
282000
2000
ทำให้มันสวยงาม แวววาว
04:59
mother of pearl.
123
284000
2000
สวยเหมือนมุก
05:01
Very specialized material
124
286000
2000
วัสดุที่มีความพิเศษมาก
05:03
that the abalone self-assembles,
125
288000
2000
ที่หอยเป๋าฮื้อได้สร้างขึ้นเอง
05:05
millions of abalone,
126
290000
2000
หอยเป๋าฮื้อหนึ่งล้านตัว
05:07
all the time, every day, every year.
127
292000
2000
ตลอดเวลาทุกๆ วัน ทุกๆ ปี
05:09
This is pretty incredible stuff.
128
294000
2000
เป็นวัสดุที่เหลือเชื่อมากๆ
05:11
All the same, what's different?
129
296000
2000
เหมือนกันทั้งหมด ข้อแตกต่างก็คือ
05:13
How the molecules are put together.
130
298000
2000
วิธีที่โมเลกุลรวมตัวกัน
05:15
Now, what does this have to do with energy?
131
300000
3000
เอาหล่ะ แล้วมันจะเอามาทำอะไรกับพลังงาน
05:18
Here's a piece of coal.
132
303000
2000
นี่คือถ่านหินชิ้นหนึ่ง
05:20
And I'll suggest that this coal
133
305000
2000
ผมจะแนะนำว่าถ่านหินนี้
05:22
is about as exciting
134
307000
2000
มีความน่าสนใจพอๆ
05:24
as this chalk.
135
309000
2000
กับชอล์กอันนี้
05:27
Now, whether we're talking about fuels
136
312000
2000
ตอนนี้ไม่ว่าพวกเราจะพูดถึงเชื้อเพลิง
05:29
or energy carriers,
137
314000
2000
หรือที่กักเก็บพลังงาน
05:31
or perhaps novel materials for batteries
138
316000
2000
หรือบางทีจะเป็นวัสดุใหม่ในแบตเตอรี
05:33
or fuel cells,
139
318000
2000
หรือเซลล์เชื้อเพลิง
05:35
nature hasn't ever built those perfect materials yet
140
320000
3000
ธรรมชาติยังไม่เคยสร้างวัสดุเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบ
05:38
because nature didn't need to.
141
323000
2000
เพราะว่าธรรมชาติไม่มีความจำเป็น
05:40
Nature didn't need to because, unlike the abalone shell,
142
325000
3000
ธรรมชาติไม่มีความจำเป็น
ไม่เหมือนกับเปลือกหอยเป๋าฮื้อ
ไม่เหมือนกับเปลือกหอยเป๋าฮื้อ
05:43
the survival of a species didn't depend
143
328000
3000
การอยู่รอดของสายพันธุ์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ
05:46
on building those materials,
144
331000
2000
การสร้างวัสดุเหล่านั้น
05:48
until maybe now when it might just matter.
145
333000
3000
จนมาถึงตอนนี้ ที่ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไป
05:52
So, when we think about the future of energy,
146
337000
3000
เมื่อเราพูดถึงพลังงานในอนาคต
05:55
imagine
147
340000
2000
จิตนาการถึง
05:57
what would it be like
148
342000
2000
สิ่งที่มันจะเป็น
05:59
if instead of this,
149
344000
2000
ถ้าแทนที่สิ่งนี้
06:01
we could build the energy equivalent of this
150
346000
3000
พวกเราสามารถสร้างแหล่งพลังงาน
ที่เปรียบได้กับสิ่งนี้
ที่เปรียบได้กับสิ่งนี้
06:05
just by rearranging the molecules differently.
151
350000
3000
เพียงแค่จัดเรียงโมเลกุลใหม่ให้แตกต่างกัน
06:09
And so that is my story.
152
354000
2000
และนี้คือเรื่องของผม
06:11
The oil will never run out.
153
356000
2000
น้ำมันจะไม่มีวันหมด
06:13
It's not because we have a lot of it.
154
358000
2000
ไม่ใช่เพราะเรามีมันเยอะมาก
06:15
It's not because we're going to build a bajillion windmills.
155
360000
3000
ไม่ใช่เพราะเรากำลังจะสร้างกังหันลมมหึมา
06:18
It's because, well,
156
363000
3000
แต่เป็นเพราะว่า
06:21
thousands of years ago,
157
366000
2000
หนึ่งพันปีก่อน
06:23
people invented ideas --
158
368000
2000
มนุษย์มีไอเดียในการประดิษฐ์
06:25
they had ideas, innovations, technology --
159
370000
2000
พวกเรามีไอเดีย, นวัตกรรม, เทคโนโลยี
06:27
and the Stone Age ended,
160
372000
3000
และยุคหินก็จบลง
06:30
not because we ran out of stones.
161
375000
2000
ไม่ใช่เพราะเราไม่มีก้อนหินให้ใช้
06:32
(Laughter)
162
377000
2000
(เสียงหัวเราะ)
06:34
It's ideas, it's innovation, it's technology
163
379000
3000
มันเป็นไอเดีย มันเป็นนวัตกรรม มันเป็นเทคโนโลยี
06:37
that will end the age of oil, long before we run out of oil.
164
382000
3000
ที่จะจบยุคของน้ำมันก่อนที่เราจะไม่มีน้ำมันใช้
06:40
Thank you very much.
165
385000
2000
ขอบคุณมากครับ
06:42
(Applause)
166
387000
3000
(เสียงปรบมือ)
ABOUT THE SPEAKER
Richard Sears - GeophysicistRichard Sears thinks hard about the post-oil world. He's a visiting scientist at MIT, after a long career as a VP at Shell.
Why you should listen
Richard Sears is a visiting scientist at MIT, after a long career as a geophysicist and executive at Shell. His brief in both places: Think about the world post-oil. It's a corporate-academic crossover that aims to enrich the academic conversation with real-world experience from people like Sears, who is an expert in looking for new energy resources -- both hydrocarbon and the world of options for what's next.
At MIT, Sears is affiliated with the MIT Energy Initiative and the Laboratory for Information and Decision Systems (LIDS). He's also an official "gamechanger" at LeadingEnergyNow.
Richard Sears | Speaker | TED.com