Reed Hastings: How Netflix changed entertainment -- and where it's headed
รีด ฮาสติ้งส์: เน็ตฟลิกซ์เปลี่ยนวงการบันเทิงไปอย่างไร และกำลังมุ่งหน้าไปทางไหน
As co-founder and CEO of Netflix, Reed Hastings is revolutionizing the world of entertainment. Full bioChris Anderson - TED Curator
After a long career in journalism and publishing, Chris Anderson became the curator of the TED Conference in 2002 and has developed it as a platform for identifying and disseminating ideas worth spreading. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
so fascinated and amazed
ที่ผมทั้งหลงใหลและประหลาดใจ
ผมขอพูดอย่างนั้น
I think about six years ago.
ผมคิดว่าเมื่อประมาณ 6 ปีมาแล้ว
was doing really well,
that you were right
ว่าคุณมาถูกทาง
away from just sending people DVDs,
จากการส่งแค่แผ่นดีวีดี
and healthy growth rates,
และมีการเติบโตที่แข็งแกร่ง
really, a bet-the-company decision.
ชนิดเอาบริษัทเป็นเดิมพัน
and what motivated it?
และอะไรเป็นแรงจูงใจให้ทำอย่างนั้นครับ
cable networks from all time
เครือข่ายเคเบิลทีวีในยุคที่ผ่านมา
their own originals.
ผลิตเนื้อหาของตนเอง
for quite a while.
original content back in 2005,
ของเราเองตั้งแต่ปี 2005
and buying films at Sundance --
เราซื้อภาพยนตร์จาก Sundance
we published on DVD --
คือสิ่งที่นำเสนอด้วยดีวีดี
because we were subscale.
ในปี 2011
who runs content,
ซึ่งดูแลเนื้อหา
it was 100 million dollars,
มันใช้ทุนสร้าง 100 ล้านเหรียญ
that he picked right upfront.
ที่เขาทำได้อย่างถูกต้องพอดี
of the revenue of the company
ให้กับบริษัทเลยทีเดียว
that that was actually worth doing?
ว่านั่นคือสิ่งที่คุ้มค่า
devastating for the company.
เสียหายอย่างหนักได้เลย
I mean, that's the whole tension of it.
เป็นความกดดันอย่างใหญ่หลวง
I can't say that.
producing new content.
if I understand right,
การรับชมอย่างไม่หยุดพัก
these episodes and build excitement" --
แบบนั้นยังไม่เคยถูกทดสอบ
hadn't really been tested.
we had grown up shipping DVDs.
box sets, on DVD.
watching some of the great HBO content
สุดยอดเนื้อหาจากเอชบีโอ
next episode, next episode.
to make us think,
especially serialized,
โดยเฉพาะซีรีส์
all the episodes at once.
หากรับชมได้ทั้งหมดในคราวเดียว
that linear TV can't do.
made it really positive.
การตอบรับดีมาก
pretty much straight away,
ชัดเจนทันทีเลยไหมครับ
"House of Cards," say,
เนื้อหาที่ผลิตเอง เช่น "เฮ้าออฟคาร์ดส์"
someone else's licensed content?
we don't have to track it at that level.
จึงไม่ได้เก็บข้อมูลลึกขนาดนั้น
making the brand stronger,
ตราสินค้าให้แข็งแกร่งขึ้น
would talk about it
great show, AMC show --
สุดยอดซีรีย์ของค่าย ACM ที่เรานำมาฉาย
all these other remarkable series,
"Orange is the New Black," "The Crown,"
"ออเรนจ์อีสเดอะนิวแบล็ก" "เดอะคราวน์"
to make in new content
ในการสร้างเนื้อหาใหม่
around the world.
on other networks.
บนเครือข่ายอื่น ๆ
content commissioner at this point?
รายอื่น ๆ อยู่แล้วใช่ไหมครับ
ดิสนีย์ยังเงินหนากว่านั้น
they're even bigger.
ดิสนีย์ก็จะยิ่งใหญ่ขึ้นอีก
and others in the media business,
และอีกหลายคนในธุรกิจสื่อ
really revolutionized the business.
ที่ได้รับความนิยมถล่มทลาย"
was as big as Disney.
บล็อกบัสเตอร์ก็ใหญ่เทียบเท่าดิสนีย์
have happened, and yet it did.
แทบเป็นไปไม่ได้ แต่กลับเป็นไปได้
it moves fast, you know?
ซึ่งก้าวหน้าเร็วมาก
unusual about Netflix's culture
จะต้องมีอะไรที่ไม่ธรรมดา
bold -- I won't say "reckless" --
ซึ่งผมจะไม่เรียกว่า "บ้าระห่ำ"
และไตร่ตรองดีแล้ว
นั่นคือเราเกิดและเติบโตมากับดีวีดี
which is we were born on DVD,
เป็นแค่เรื่องชั่วคราว
was going to be temporary.
mailing discs for 100 years.
ทางไปรษณีย์ได้เป็นร้อยปี
about what's coming next,
ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร
ของแนวคิดพื้นฐานของเรา
about what's coming next.
ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป
and responsibility.
และความรับผิดชอบ
as possible in a quarter.
ให้ตัดสินใจน้อยมากในไตรมาสหนึ่ง
and better at that.
I can go a whole quarter
surprising things about your people.
เกี่ยวกับพนักงานของคุณ
compared to your peers',
ได้รับเงินเดือนสูงสุด
for equivalent jobs.
ที่มีตำแหน่งใกล้เคียงกัน
the Netflix culture deck,
ว่าวัฒนธรรมองค์กรของเน็ตฟลิกซ์มีอะไรบ้าง
admonitions to your employees.
ที่มีต่อพนักงาน
we were very process obsessed.
ค่อนข้างหมกมุ่นกับกระบวนการ
ขึ้นมาควบคุม
didn't happen again --
จะไม่เกิดขึ้นอีก
to dummy-proof the system.
ที่ป้องกันความไม่ฉลาดของผู้คน
only dummies wanted to work there.
ที่อยากทำงานกับเรา
in that case, it was C++ to Java.
ในกรณีนี้คือจากภาษา C++ ไปเป็น Java
การเปลี่ยนแปลงบางอย่าง
by our largest competitor.
โดยคู่แข่งรายใหญ่สุด
on how to run with no process
กับการทำงานโดยไม่มีกระบวนการ
all these mechanisms,
การเห็นสอดคล้องกัน
การแบ่งปันข้อมูล
at how much information --
กับข้อมูลมหาศาลที่แบ่งปันกัน
you know how they compartmentalize?
รู้ไหมว่าเขาแบ่งฝ่ายงานอย่างไร
everybody gets all the information.
ทุกคนจะได้รับข้อมูลทุกอย่าง
a sense of responsibility in people
รับผิดชอบให้กับผู้คน
that are made all the time,
ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้
which is great.
ซึ่งดีมาก
การตัดสินใจเหล่านั้นเกิดเป็นผลดี
แล้วมาอ่านเจอทางอินเทอร์เน็ต
and read them on the internet.
เรากำลังบุกตลาดจีน
their own vacation time, and ...
กำหนดวันลาพักร้อนเอง
symbolic one, vacation,
คือสัญลักษณ์สำคัญอย่างหนึ่ง
do that, anyway.
คนส่วนใหญ่ก็จะทำอย่างนั้นอยู่ดี
of that freedom.
as a fundamental value.
เป็นคุณค่าพื้นฐานขององค์กร
to speak the truth.
silently is disloyal."
คือการไม่ซื่อสัตย์"
go through without saying your piece,
โดยที่ไม่ได้แสดงความเห็นของคุณออกมา
โดยที่ไม่ได้เขียนบันทึกไว้
on trying to get to good decisions
กับการตัดสินใจได้อย่างดี
ที่เกิดเป็นประจำ
like yelling at each other --
เช่น ตะโกนด่ากัน
drawing people out.
ทำให้ผู้คนแสดงความเห็น
secret weapon at Netflix, it seems,
ที่เน็ตฟลิกซ์
a certain amount about this week.
really surprising stances
algorithms at Netflix.
อันชาญฉลาดที่เน็ตฟลิกซ์
your algorithm to the world
ให้ผู้คนทั่วโลกได้เห็น
than this recommendation we've got?
สร้างระบบแนะนำเนื้อหาได้ดีกว่าเรา
better than yours.
ที่ดีกว่าของคุณ 10 เปอร์เซ็นต์
Would you do that again?
จะทำอีกหรือเปล่า
at the time; this was about 2007.
ออกแบบเป็นพิเศษมาก ๆ
a lucky break of good timing,
on the algorithms,
to the right people
กับแต่ละคน
and easy to explore.
like a really interesting shift,
การเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ
"Here are 10 movies. What do you think?
"คุณคิดอย่างไรกับภาพยนตร์ 10 เรื่องนี้"
are your best movies?"
with recommendations for what was coming.
กับคำแนะนำภาพยนตร์เรื่องใหม่
"Schindler's List" five stars,
ในระดับ 5 ดาว
"The Do-Over" three stars.
ของอดัม แซนด์เลอร์ แค่ 3 ดาว
at what they watched,
ในช่วงสุดสัปดาห์
and we're metacognitive about quality,
to please people
that they make,
เลือกจริง ๆ
by how much they enjoy simple pleasures.
ชื่นชอบความบันเทิงในแบบง่าย ๆ
for a couple of minutes about this,
พูดถึงเรื่องนี้
not just for Netflix,
ไม่ใช่กับแค่เน็ตฟลิกซ์
ในอุดมคติ
attention to what people said,
กับสิ่งที่ผู้คนพูดมากนัก
and then found the stuff that,
จนค้นพบสิ่งนั้น
a show about making horrible recipes,
รายการทำอาหารแนวใหม่
have even thought of that.
จากพฤติกรรมคนดูมากเกินไป
approach is taken too far?
from making people happy,
and watch a show like "Nailed It!"
และดูรายการอย่าง "เนลด์อิต"
to watch very intensive film.
ชิงออสการ์
20 million hours of viewing on "Mudbound,"
20 ล้านชั่วโมง
than it would have been in the theaters
กว่าการฉายในโรงภาพยนตร์
but we have lots of broccoli.
แต่ก็มีรายการที่เป็นผักมีประโยชน์มากมาย
you get to a healthy diet.
คุณก็ได้บริโภคถูกหลักโภชนาการ
tend to point you away from the broccoli
จะพาคนดูออกไปจากผักมีประโยชน์
on YouTube, somehow algorithms
หรือจำเพาะเจาะจงมากขึ้น
more radical or specific content.
that Netflix algorithms,
ว่ากลไกคำนวณของเน็ตฟลิกซ์
would gradually --
ที่ระบบค้นพบ จะค่อย ๆ
violent pornography or something.
เนื้อหาวาบหวิวที่มีความรุนแรง
I don't even think about these things.
ไม่เคยแม้แต่จะคิดถึงเรื่องพวกนี้
that you can't just rely on algorithms.
ที่เราไม่ควรอิงตามกลไกคำนวณอย่างเดียว
อย่างเฟซบุ๊คหรือยูทิวบ์
like Facebook and YouTube,
films and series that we acquire?
ที่เราจะได้มา
the algorithm is a tool.
about measuring what matters.
การประเมินสิ่งที่ควรประเมิน
เป็นข้อได้เปรียบที่แตกต่างของคุณ
the more time they spend watching Netflix,
ที่เขาใช้ไปกับเน็ตฟลิกซ์หรือเปล่า
ยังคงใช้บริการต่อหรือไม่
of "Nailed It!" or whatever?
"เนลด์อิต" จบทั้งชุด หรืออะไรก็ตาม
they just think,
พวกเขาอาจจะคิดว่า
that was extraordinary,
เรื่องนั้นมันสุดยอด
that with my family."
ร่วมกับครอบครัว"
of the business model
ของรูปแบบธุรกิจหรือไม่
but more awesome content,
แต่ได้รับอรรถรสมากกว่า
that uplifting content.
เนื้อหาที่จรรโลงใจ
when people talk about Netflix,
คือเมื่อผู้คนพูดถึงเน็ตฟลิกซ์
ที่ทำให้เขาฉุกคิด
and positive impact,
อย่างมากมาย
that you talked about
ของฐานผู้ใช้บริการที่คุณพูดถึง
คือการนำเสนอความหลากหลาย
every night, as much as you like it;
ต่อให้เป็นเนื้อหาที่คุณชอบก็ตาม
violent pornography kind of examples.
across a whole range --
เนื้อหาที่หลากหลาย
we're filming season five now.
when it was only in the BBC.
ตอนที่ยังฉายทางบีบีซีเท่านั้น
ใหญ่กว่ามาก ๆ ได้
humans can get addicted
สามารถเสพติดได้
not to think about it in addiction terms,
เราพยายามไม่คิดถึงคำว่าเสพติด
with your time and when you want to relax?
video games, you can do YouTube,
หรือดูยูทิวบ์
and we have a variety of moods,
ซึ่งเรามีเนื้อหาที่หลากหลาย
in the organization
ก็มีคน
at the actual impacts
ถึงผลกระทบ
that you've created.
ที่คุณสร้างขึ้น
is the direction we want to go?"
ที่เราอยากไป"
"Look, there's no perfect tool."
"เห็นมั้ย ไม่มีเครื่องมือที่สมบูรณ์แบบ"
the way we commission the content,
มีเรื่องวิธีการผลิตเนื้อหาต่าง ๆ
กับสังคมต่าง ๆ
that we have to look at it.
ที่เราต้องพิจารณา
"Let's just increase viewing"
กับการ "เพิ่มยอดรับชม"
and be the great company you want to be.
หรือเป็นบริษัทยิ่งใหญ่อย่างที่ต้องการ
multiple measures of success.
ประเมินได้จากหลากปัจจัย
that have raised questions:
ที่เป็นประเด็นขึ้นมา
you've done some mentoring for him.
that people don't know?
มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ที่ผู้คนยังไม่รู้
or have seen him.
whether that's YouTube or Facebook,
หรือเฟซบุ๊ค
ที่จะเติบโตอย่างรวดเร็ว
about printed DNA,
ดีเอ็นเอที่พิมพ์ออกมาได้
or could be horrific.
in the 1960s in the US,
ในยุคปี 2500 เศษ ๆ
the minds of everybody.
or, I think of it as --
we're just figuring that out.
เราเพิ่งเข้าใจมัน
is it for the board of Facebook
ให้ความสำคัญแค่ไหน
unfairly criticized?
อย่างเกินเลยไปทั้งหมด
on fixing Facebook.
ปรับปรุงเฟซบุ๊ค
at another passion of yours.
อีกด้านของคุณ
with Netflix, you're a billionaire,
คุณเป็นมหาเศรษฐี
and indeed, money, on education.
ไปกับการศึกษา
and what are you doing about it?
และตอนนี้คุณทำอะไรอยู่บ้าง
I was a high school math teacher.
ผมไปเป็นครูสอนคณิตศาสตร์ ม.ปลาย
and became a philanthropist,
และกลายมาเป็นนักสังคมสงเคราะห์
ให้เกิดขึ้น
with other great educators
กับนักการศึกษาคนอื่น ๆ ที่มีฝีมือ
unique environments for kids.
ในหลายด้านให้กับเยาวชน
variety in the system
educator-centric organizations.
ที่เน้นนักการศึกษามากกว่านี้
right now in the US,
by a local school board.
ถูกบริหารโดยคณะกรรมการท้องถิ่น
in the community,
ที่หลากหลายในชุมชน
is a lot more variety.
ความหลากหลายยิ่ง ๆ ขึ้นไป
of public school
อยู่รูปแบบหนึ่งที่เรียกว่า
that are run by nonprofits.
ซึ่งบริหารโดยองค์กรไม่แสวงกำไร
โรงเรียนลักษณะนี้มาก
run by nonprofits,
ที่บริหารโดยองค์กรไม่แสวงกำไร
they support the educators well.
และดูแลนักการศึกษาได้ดี
ที่เป็นอิสระ KIPP
getting very stimulating education.
ที่กระตุ้นการเรียนรู้อย่างมาก
a school should look like.
ว่าโรงเรียนควรเป็นอย่างไร
kids, there's all different needs
ก็มีความต้องการที่หลากลาย
เพียงอย่างเดียว
and what you think they need.
สิ่งที่คุณคิดว่าเด็กจะต้องการ
and curious and stimulating
รวมถึงการตั้งคำถามและกระตุ้นให้เรียนรู้
of 30 kids in fifth grade,
กว่า 30 คน
at the same time,
ในเวลาเดียวกัน
an industrial throwback.
ชัดขึ้นมาทันที
the current government structure,
โครงสร้างรัฐบาลปัจจุบัน
schools are doing is pushing the bounds,
ก็กำลังผลักดัน
the governance reform,
การกำกับดูแล
ทางการศึกษาได้
that charter schools,
ว่าโรงเรียนแบบนี้
from the public school system.
ออกไปจากระบบการศึกษาภาครัฐ
of public schools.
มีโรงเรียนรัฐหลายรูปแบบ
ของโรงเรียนรัฐที่เป็นอิสระ
ให้เด็กที่บ้านรายได้น้อย
get in trouble,
เกิดปัญหาในการเรียน
to a private school
โรงเรียนเอกชน
don't have those choices.
ไม่มีทางเลือกนี้
low-income kids, free and reduced lunch.
กว่าร้อยละ 80 มีอาหารกลางวันฟรีหรือราคาต่ำ
for KIPP is fantastic.
ในระดับอุดมศึกษาน่าทึ่งมาก
the Giving Pledge a few years ago,
คุณสัญญาว่าจะบริจาค
more than half of your fortune
you've invested in education
ไปแล้วแค่ไหน
I don't know exactly how many hundreds,
ผมไม่แน่ใจว่ากี่ร้อยล้านเหรียญ
I tried to do politics full-time,
ผมลองเข้าวงการการเมืองแบบเต็มตัว
I just didn't thrive on politics.
เส้นทางการเมืองของผมไม่รุ่งนัก
increase Netflix's value,
more checks to schools.
เพื่อโรงเรียนได้มากขึ้น
ผมคิดว่ามันเป็นชีวิตที่สมบูรณ์แบบ
you've changed all of our lives
คุณได้เปลี่ยนชีวิตของพวกเราทุกคน
ABOUT THE SPEAKERS
Reed Hastings - Entrepreneur, philanthropistAs co-founder and CEO of Netflix, Reed Hastings is revolutionizing the world of entertainment.
Why you should listen
Reed Hastings co-founded Netflix in 1997. Today the company develops, licenses and delivers entertainment across a wide variety of genres and languages to hundreds of millions of people in 190 countries. In 1991, he founded Pure Software, which made tools for software developers. After a 1995 IPO and several acquisitions, Pure was acquired by Rational Software in 1997.
Hastings is an active educational philanthropist and served on the California State Board of Education from 2000 to 2004. He is on the board of several educational organizations including DreamBox Learning, KIPP and Pahara. He's also a board member of Facebook and was on the board of Microsoft from 2007 to 2012. He received a BA from Bowdoin College in 1983 and an MSCS in artificial intelligence from Stanford University in 1988. Between Bowdoin and Stanford, he served in the Peace Corps as a high school math teacher in Swaziland.
Reed Hastings | Speaker | TED.com
Chris Anderson - TED Curator
After a long career in journalism and publishing, Chris Anderson became the curator of the TED Conference in 2002 and has developed it as a platform for identifying and disseminating ideas worth spreading.
Why you should listen
Chris Anderson is the Curator of TED, a nonprofit devoted to sharing valuable ideas, primarily through the medium of 'TED Talks' -- short talks that are offered free online to a global audience.
Chris was born in a remote village in Pakistan in 1957. He spent his early years in India, Pakistan and Afghanistan, where his parents worked as medical missionaries, and he attended an American school in the Himalayas for his early education. After boarding school in Bath, England, he went on to Oxford University, graduating in 1978 with a degree in philosophy, politics and economics.
Chris then trained as a journalist, working in newspapers and radio, including two years producing a world news service in the Seychelles Islands.
Back in the UK in 1984, Chris was captivated by the personal computer revolution and became an editor at one of the UK's early computer magazines. A year later he founded Future Publishing with a $25,000 bank loan. The new company initially focused on specialist computer publications but eventually expanded into other areas such as cycling, music, video games, technology and design, doubling in size every year for seven years. In 1994, Chris moved to the United States where he built Imagine Media, publisher of Business 2.0 magazine and creator of the popular video game users website IGN. Chris eventually merged Imagine and Future, taking the combined entity public in London in 1999, under the Future name. At its peak, it published 150 magazines and websites and employed 2,000 people.
This success allowed Chris to create a private nonprofit organization, the Sapling Foundation, with the hope of finding new ways to tackle tough global issues through media, technology, entrepreneurship and, most of all, ideas. In 2001, the foundation acquired the TED Conference, then an annual meeting of luminaries in the fields of Technology, Entertainment and Design held in Monterey, California, and Chris left Future to work full time on TED.
He expanded the conference's remit to cover all topics, including science, business and key global issues, while adding a Fellows program, which now has some 300 alumni, and the TED Prize, which grants its recipients "one wish to change the world." The TED stage has become a place for thinkers and doers from all fields to share their ideas and their work, capturing imaginations, sparking conversation and encouraging discovery along the way.
In 2006, TED experimented with posting some of its talks on the Internet. Their viral success encouraged Chris to begin positioning the organization as a global media initiative devoted to 'ideas worth spreading,' part of a new era of information dissemination using the power of online video. In June 2015, the organization posted its 2,000th talk online. The talks are free to view, and they have been translated into more than 100 languages with the help of volunteers from around the world. Viewership has grown to approximately one billion views per year.
Continuing a strategy of 'radical openness,' in 2009 Chris introduced the TEDx initiative, allowing free licenses to local organizers who wished to organize their own TED-like events. More than 8,000 such events have been held, generating an archive of 60,000 TEDx talks. And three years later, the TED-Ed program was launched, offering free educational videos and tools to students and teachers.
Chris Anderson | Speaker | TED.com