TEDWomen 2010
Hans Rosling: The magic washing machine
ฮานส์ รอสลิ่ง กับเครื่องซักผ้ามหัศจรรย์
Filmed:
Readability: 2.9
2,973,428 views
อะไรคือสิ่งประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรม? ฮานส์ รอสลิ่ง ให้เหตุผลสำหรับเครื่องซักผ้า ด้วยงานกราฟฟิคชิ้นใหม่จาก Gapminder รอสลิ่งแสดงให้ผู้ชมเห็นถึงเวทย์มนต์ที่เกิดขึ้น เมื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและไฟฟ้า ได้เปลี่ยนวันซักผ้าที่น่าเบื่อหน่าย ให้กลายเป็นวันแห่งการอ่านเสริมปัญญา
Hans Rosling - Global health expert; data visionary
In Hans Rosling’s hands, data sings. Global trends in health and economics come to vivid life. And the big picture of global development—with some surprisingly good news—snaps into sharp focus. Full bio
In Hans Rosling’s hands, data sings. Global trends in health and economics come to vivid life. And the big picture of global development—with some surprisingly good news—snaps into sharp focus. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:15
I was only four years old
0
0
2000
ผมเพิ่งอายุ 4 ขวบเอง
00:17
when I saw my mother load a washing machine
1
2000
3000
ตอนที่ผมเห็นแม่ของผม ยัดเสื้อผ้าเข้าไปในเครื่องซักผ้า
00:20
for the very first time in her life.
2
5000
3000
เป็นครั้งแรกในชีวิตของเธอ
00:23
That was a great day for my mother.
3
8000
2000
มันเป็นวันที่สำคัญมากสำหรับแม่ของผม
00:25
My mother and father had been saving money for years
4
10000
3000
พ่อและแม่ของผมเก็บเงินมาตั้งหลายปีแน่ะ
00:28
to be able to buy that machine,
5
13000
2000
เพื่อจะซื้อเจ้าเครื่องนี้
00:30
and the first day it was going to be used,
6
15000
2000
และในวันแรกที่เราจะได้ใช้มัน
00:32
even Grandma was invited
7
17000
2000
แม้กระทั่งคุณย่า ก็ถูกเชิญมา
00:34
to see the machine.
8
19000
2000
เพื่อดูเจ้าสิ่งนี้ทำงาน
00:36
And Grandma was even more excited.
9
21000
3000
และคุณย่าของผม ท่าทางจะตื่นเต้นที่สุด
00:39
Throughout her life
10
24000
2000
ตลอดชีวิตของเธอ
00:41
she had been heating water with firewood,
11
26000
2000
เธอต้องต้มน้ำด้วยฟืน
00:43
and she had hand washed laundry
12
28000
2000
และต้องซักผ้าด้วยมือ
00:45
for seven children.
13
30000
2000
ให้ลูกๆ ทั้งเจ็ดคนของเธอ
00:47
And now she was going to watch
14
32000
3000
และตอนนี้เธอกำลังจะได้ดู
00:50
electricity do that work.
15
35000
3000
ไฟฟ้า ที่จะรับหน้าที่ทั้งหมดนั้นไป
00:53
My mother carefully opened the door,
16
38000
4000
แม่ผมค่อยๆ เปิดฝาเครื่องออก
00:57
and she loaded the laundry
17
42000
2000
แล้วเธอก็ยัดเสื้อผ้าเข้าไป
00:59
into the machine,
18
44000
2000
ในเครื่องซักผ้านั้น
01:01
like this.
19
46000
2000
แบบนี้ครับ
01:03
And then, when she closed the door,
20
48000
2000
และเมื่อเธอปิดฝาเครื่อง
01:05
Grandma said, "No, no, no, no.
21
50000
2000
คุณย่าของผมพูดว่า "ไม่ ไม่ ไม่ ไม่
01:07
Let me, let me push the button."
22
52000
3000
ให้ฉันกดปุ่มเถอะนะ"
01:11
And Grandma pushed the button,
23
56000
2000
แล้วคุณย่าผมก็กดปุ่มเดินเครื่อง
01:13
and she said, "Oh, fantastic!
24
58000
3000
และเธอก็พูดว่า "โอ้ พระเจ้า มันยอดมาก
01:16
I want to see this! Give me a chair!
25
61000
2000
ฉันต้องการดูมันทำงาน เอาเก้าอี้มาให้ฉันหน่อย
01:18
Give me a chair! I want to see it,"
26
63000
2000
ขอเก้าอี้หน่อย ฉันอยากจะดูมันทำงาน"
01:20
and she sat down in front of the machine,
27
65000
3000
แล้วเธอก็นั่งลงหน้าเครื่องซักผ้า
01:23
and she watched the entire washing program.
28
68000
4000
และนั่งดูตลอดการทำงานของมัน
01:27
She was mesmerized.
29
72000
2000
เธอเหมือนโดนเครื่องสะกดจิตเข้าให้แล้ว
01:29
To my grandmother,
30
74000
3000
สำหรับคุณย่าของฉัน
01:32
the washing machine was a miracle.
31
77000
3000
เครื่องซักผ้าเป็นความมหัศจรรย์
01:35
Today, in Sweden and other rich countries,
32
80000
3000
ทุกวันนี้ ในสวีเดน และประเทศที่ร่ำรวยทั้งหลาย
01:38
people are using
33
83000
2000
ผู้คนต่างใช้
01:40
so many different machines.
34
85000
2000
เครื่องนู่นเครื่องนี่มากมาย
01:42
Look, the homes are full of machines.
35
87000
2000
ดูสิ บ้านเต็มไปด้วยเครื่องโน้นนี้
01:44
I can't even name them all.
36
89000
2000
ผมจำชื่อมันได้ไม่หมดด้วยซ้ำ
01:46
And they also, when they want to travel,
37
91000
3000
และเวลาที่เขาต้องการเดินทาง
01:49
they use flying machines
38
94000
3000
เขาก็ใช้เครื่องจักรบินได้
01:52
that can take them to remote destinations.
39
97000
2000
นำพาพวกเขาไปยังดินแดนห่างไกล
01:54
And yet, in the world, there are so many people
40
99000
2000
และในโลกใบเดียวกัน มีผู้คนอีกมากมาย
01:56
who still heat the water on fire,
41
101000
3000
ที่ยังต้องจุดฟืนต้มน้ำ
01:59
and they cook their food on fire.
42
104000
3000
และทำอาหารด้วยฟืน
02:02
Sometimes they don't even have enough food,
43
107000
2000
บางทีพวกเขาไม่มีอาหารจะกินด้วยซ้ำ
02:04
and they live below the poverty line.
44
109000
3000
และเขาอาศัยอยู่ภายใต้เส้นความยากจน (Poverty Line)
02:07
There are two billion fellow human beings
45
112000
3000
มีเพื่อนมนุษย์กว่า 2 พันล้านคน
02:10
who live on less than two dollars a day.
46
115000
2000
ที่ยังต้องใช้ชีวิตด้วยเงินน้อยกว่า 2 ดอลล่าร์ต่อวัน
02:12
And the richest people over there --
47
117000
2000
และผู้คนร่ำรวยตรงนั้น --
02:14
there's one billion people --
48
119000
2000
มีประมาณ 1 พันล้านคน --
02:16
and they live above what I call the "air line,"
49
121000
4000
ที่ใช้ชีวิตอยู่เหนือ สิ่งที่ผมเรียกว่า เส้นลอยฟ้า (Air Line)
02:20
because they spend more than $80 a day
50
125000
3000
เพราะเขาจับจ่ายมากกว่า 80 ดอลลาร์ต่อวัน
02:23
on their consumption.
51
128000
2000
เพื่อการบริโภค
02:25
But this is just one, two, three billion people,
52
130000
3000
แต่นี่เป็นเพียงแค่หนึ่ง สอง สามพันล้านคน
02:28
and obviously there are seven billion people in the world,
53
133000
3000
และแน่นอนว่าเรามีประชากร 7 พันล้านคนบนโลก
02:31
so there must be one, two, three, four billion people more
54
136000
3000
เพราะฉะนั้น ยังมีคนอีกหนึ่ง สอง สาม สี่พันล้านคนที่เหลือ
02:34
who live in between the poverty and the air line.
55
139000
3000
ที่ดำรงชีวิตอยู่ระหว่างเส้นความยากจน กับเส้นลอยฟ้า
02:37
They have electricity,
56
142000
3000
พวกเขามีไฟฟ้าใช้
02:40
but the question is, how many have washing machines?
57
145000
3000
แต่คำถามก็คือ มีกี่คนที่มีเครื่องซักผ้า
02:43
I've done the scrutiny of market data,
58
148000
3000
ผมได้ตรวจสอบข้อมูลตลาดอย่างละเอียด
02:46
and I've found that, indeed,
59
151000
2000
ผมพบว่า จริงๆ แล้ว
02:48
the washing machine has penetrated below the air line,
60
153000
3000
เครื่องซักผ้าก็เข้าถึงผู้คนใต้เส้นลอยฟ้า
02:51
and today there's an additional one billion people out there
61
156000
3000
และทุกวันนี้มีอีกประมาณ 1 พันล้านคน
02:54
who live above the "wash line."
62
159000
3000
ที่ดำรงชีวิตอยู่เหนือเส้นซักล้าง (Wash Line)
02:57
(Laughter)
63
162000
2000
(เสียงหัวเราะ)
02:59
And they consume more than $40 per day.
64
164000
4000
และพวกเขาดำรงชีวิตด้วยเงินมากกว่า 40 เหรียญต่อวัน
03:03
So two billion have access to washing machines.
65
168000
3000
ดังนั้น มีประชากร 2 พันล้านคน ที่เข้าถึงเครื่องซักผ้าได้
03:06
And the remaining five billion,
66
171000
2000
และอีก 5 พันล้านคนที่เหลือ
03:08
how do they wash?
67
173000
2000
เขาซักผ้ากันอย่างไร?
03:10
Or, to be more precise,
68
175000
2000
หรือจะให้แม่นยำกว่านี้
03:12
how do most of the women in the world wash?
69
177000
3000
ผู้หญิงเหล่านั้นซักผ้ากันอย่างไร?
03:15
Because it remains hard work for women to wash.
70
180000
4000
เพราะมันยังคงเป็นหน้าที่ของสตรี
03:19
They wash like this: by hand.
71
184000
3000
พวกเธอซักด้วยมือ
03:22
It's a hard, time-consuming labor,
72
187000
4000
มันเป็นงานกรรมกรที่หนัก และใช้เวลามาก
03:26
which they have to do for hours every week.
73
191000
3000
พวกเธอต้องทำเป็นเวลาหลายๆ ชั่วโมงต่อสัปดาห์
03:29
And sometimes they also have to bring water from far away
74
194000
3000
และบางทีก็ต้องหาบน้ำมาจากที่ไกลๆ
03:32
to do the laundry at home,
75
197000
2000
เพื่อกลับมาซักผ้าที่บ้าน
03:34
or they have to bring the laundry away to a stream far off.
76
199000
4000
หรือไม่ก็ต้องขนผ้าไปซักที่ไกลๆ
03:38
And they want the washing machine.
77
203000
3000
และพวกเธอต้องการเครื่องซักผ้า
03:41
They don't want to spend such a large part of their life
78
206000
3000
พวกเธอไม่ต้องการใช้เวลาส่วนใหญ่ของชีวิต
03:44
doing this hard work
79
209000
2000
ไปกับงานกรรมกร
03:46
with so relatively low productivity.
80
211000
2000
ที่ได้ผลผลิตแสนต่ำนี้
03:48
And there's nothing different in their wish
81
213000
2000
และไม่มีสิ่งใดที่แตกต่างระหว่าง
03:50
than it was for my grandma.
82
215000
2000
ฝันของคุณย่าผม กับพวกเธอ
03:52
Look here, two generations ago in Sweden --
83
217000
3000
ดูนี่สิ ย้อนกลับไปสองชั่วคน ที่สวีเดน
03:55
picking water from the stream,
84
220000
2000
ตักน้ำจากลำธาร
03:57
heating with firewood and washing like that.
85
222000
3000
อุ่นน้ำด้วยฟืน แล้วซักตรงนั้น
04:00
They want the washing machine in exactly the same way.
86
225000
3000
พวกเขาต้องการเครื่องซักผ้าเหมือนกัน
04:03
But when I lecture to environmentally-concerned students,
87
228000
3000
แต่เมื่อผมบรรยายให้นักเรียนที่เป็นห่วงเรื่องสิ่งแวดล้อมฟัง
04:06
they tell me, "No, everybody in the world cannot have cars and washing machines."
88
231000
4000
พวกเขาบอกผมว่า "ไม่ได้ ทุกคนบนโลกจะมีรถและเครื่องซักผ้าไม่ได้"
04:11
How can we tell this woman
89
236000
2000
เราบอกคนเหล่านี้ได้อย่างไร
04:13
that she ain't going to have a washing machine?
90
238000
2000
ว่าพวกเขาไม่ควรมีเครื่องซักผ้า
04:15
And then I ask my students,
91
240000
2000
ผมจึงถามลูกศิษย์ของผม
04:17
I've asked them -- over the last two years I've asked,
92
242000
2000
ตลอดเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ผมถามว่า
04:19
"How many of you doesn't use a car?"
93
244000
2000
"มีใครบ้างที่ไม่ขับรถ?"
04:21
And some of them proudly raise their hand
94
246000
2000
บางส่วนยกมืออย่างภูมิใจ
04:23
and say, "I don't use a car."
95
248000
2000
และพูดว่า "ผมไม่ขับรถ"
04:25
And then I put the really tough question:
96
250000
2000
แต่แล้วผมก็ยิงคำถามอีกคำถาม
04:27
"How many of you
97
252000
2000
"มีใครบ้าง
04:29
hand-wash your jeans and your bed sheets?"
98
254000
2000
ที่ซักกางเกงยีน และผ้าปูที่นอนด้วยมือ?"
04:31
And no one raised their hand.
99
256000
3000
และไม่มีใครยกเลย
04:34
Even the hardcore in the green movement
100
259000
3000
แม้กระทั่งกลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติอย่างสุดขั้ว
04:37
use washing machines.
101
262000
2000
ก็ใช้เครื่องซักผ้า
04:39
(Laughter)
102
264000
4000
(เสียงหัวเราะ)
04:43
So how come [this is] something that everyone uses
103
268000
2000
มันเป็นไปได้อย่างไร อะไรที่ทุกคนใช้
04:45
and they think others will not stop it? What is special with this?
104
270000
3000
แต่เขากลับคิดกันว่าคนอื่นไม่ควรใช้ ทำไมล่ะ?
04:48
I had to do an analysis about the energy used in the world.
105
273000
3000
ผมก็เลยวิเคราะห์เกี่ยวกับการใช้พลังงานในโลกนี้
04:51
Here we are.
106
276000
2000
จะอธิบายให้ฟังนะครับ
04:53
Look here, you see the seven billion people up there:
107
278000
2000
ดูนี่สิ คุณเห็นคน 7 พันล้านคนไหม
04:55
the air people, the wash people,
108
280000
2000
มีมนุษย์บินได้ มนุษย์ซักล้าง
04:57
the bulb people and the fire people.
109
282000
3000
มนุษย์หลอดไฟ และมนุษย์ฟืน
05:00
One unit like this
110
285000
2000
ถ้าลองคิดเป็นหน่วย
05:02
is an energy unit of fossil fuel --
111
287000
3000
นี่คือหนึ่งหน่วยของการใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล
05:05
oil, coal or gas.
112
290000
2000
น้ำมัน ถ่านหิน หรือก๊าซธรรมชาติ
05:07
That's what most of electricity and the energy in the world is.
113
292000
3000
นั่นคือสิ่งที่ผลิตไฟฟ้าและพลังงานส่วนใหญ่ของโลก
05:11
And it's 12 units used in the entire world,
114
296000
3000
เรามีทั้งหมด 12 หน่วยบนโลกนี้
05:14
and the richest one billion, they use six of them.
115
299000
3000
กลุ่มคนที่รวยที่สุด 1 พันล้านคน ใช้ถึง 6 หน่วย
05:17
Half of the energy is used by one seventh of the world's population.
116
302000
3000
เพียงครึ่งหน่วยถูกใช้โดย 1 ใน 7 ของประชากรโลก
05:20
And these ones who have washing machines,
117
305000
2000
และนี่คือพวกที่มีเครื่องซักผ้า
05:22
but not a house full of other machines,
118
307000
2000
แต่ไม่ได้มีเครื่องใช้ไฟฟ้าเต็มบ้านนะ
05:24
they use two.
119
309000
2000
พวกเขาใช้ 2 หน่วย
05:26
This group uses three, one each.
120
311000
2000
กลุ่มนี้ใช้ 3 หน่วย คนละ 1 หน่วย
05:28
And they also have electricity.
121
313000
2000
และพวกเขาก็มีไฟฟ้าใช้
05:30
And over there they don't even use one each.
122
315000
3000
และตรงนั้น ใช้ไม่ถึง 1 หน่วยต่อคนด้วยซ้ำ
05:33
That makes 12 of them.
123
318000
2000
นั่นรวมกันเป็น 12 หน่วย
05:35
But the main concern
124
320000
2000
แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วง
05:37
for the environmentally-interested students -- and they are right --
125
322000
3000
สำหรับนักเรียนผู้รักสิ่งแวดล้อม -- พวกเขาก็ถูกนะ --
05:40
is about the future.
126
325000
2000
ก็คืออนาคตของเรา
05:42
What are the trends? If we just prolong the trends,
127
327000
3000
ตอนนี้แนวโน้มของเรา ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป
05:45
without any real advanced analysis, to 2050,
128
330000
3000
โดยไม่ต้องวิเคราะห์อย่างละเอียด ไปจนถึงปี 2050
05:48
there are two things that can increase the energy use.
129
333000
3000
มีสองปัจจัยที่จะเพิ่มการใช้พลังงาน
05:51
First, population growth.
130
336000
2000
หนึ่ง การเติบโตของประชากร
05:53
Second, economic growth.
131
338000
2000
สอง การเติบโตของเศรษฐกิจ
05:55
Population growth will mainly occur among the poorest people here
132
340000
3000
การเติบโตของประชากรจะอยู่ที่กลุ่มที่ยากจนที่สุด
05:58
because they have high child mortality
133
343000
2000
เพราะมีอัตราการตายของทารกสูง
06:00
and they have many children per woman.
134
345000
2000
และพวกเขามีเด็กหลายคนต่อผู้หญิงหนึ่งคน
06:02
And [with] that you will get two extra,
135
347000
2000
เพราะฉะนั้น คุณจะมีเพิ่มขึ้น 2 หน่วย
06:04
but that won't change the energy use very much.
136
349000
2000
แต่มันก็ไม่เปลี่ยนแปลงการใช้พลังงานมากนัก
06:06
What will happen is economic growth.
137
351000
3000
สิ่งที่จะเกิดขึ้น คือการเติบโตทางเศรษฐกิจ
06:09
The best of here in the emerging economies --
138
354000
2000
โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา --
06:11
I call them the New East --
139
356000
2000
ผมจะเรียกว่า ประเทศตะวันออกใหม่ --
06:13
they will jump the air line.
140
358000
2000
พวกเขาจะกระโดดข้ามไปเส้นลอยฟ้า
06:15
"Wopp!" they will say.
141
360000
2000
ดึ๋ง!
06:17
And they will start to use as much as the Old West are doing already.
142
362000
3000
พวกเขาจะเริ่มใช้พลังงานมาก พอๆกับเหล่าตะวันตกเก่า
06:20
And these people, they want the washing machine.
143
365000
3000
และคนเหล่านี้ ต้องการใช้เครื่องซักผ้า
06:23
I told you. They'll go there.
144
368000
2000
ผมบอกแล้ว พวกเขากำลังไปจุดนั้น
06:25
And they will double their energy use.
145
370000
2000
และพวกเขาจะเพิ่มการใช้พลังงานเป็นสองเท่า
06:27
And we hope that the poor people will get into the electric light.
146
372000
3000
และเราหวังว่าคนยากจน จะมีหลอดไฟให้แสงสว่าง
06:30
And they'll get a two-child family without a stop in population growth.
147
375000
2000
และเขาจะมีครอบครัวลูกสองคน มีประชากรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
06:32
But the total energy consumption
148
377000
2000
แต่การบริโภคพลังงานโดยรวมแล้ว
06:34
will increase to 22 units.
149
379000
2000
จะเพิ่มขึ้นเป็น 22 หน่วย
06:36
And these 22 units --
150
381000
3000
และใน 22 หน่วยนี้
06:39
still the richest people use most of it.
151
384000
3000
กลุ่มคนที่รวยที่สุด ยังใช้เป็นสัดส่วนมากที่สุดอยู่
06:43
So what needs to be done?
152
388000
2000
เราควรจะทำยังไงล่ะ?
06:45
Because the risk,
153
390000
2000
เพราะความเสี่ยง
06:47
the high probability of climate change is real.
154
392000
3000
ความเป็นไปได้ของสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง
06:50
It's real.
155
395000
2000
มีอยู่สูงมาก
06:52
Of course they must be more energy-efficient.
156
397000
3000
แน่นอนว่าพวกเขาต้องรู้จักใช้พลังงานมากขึ้น
06:55
They must change behavior in some way.
157
400000
2000
จะต้องเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่าง
06:57
They must also start to produce green energy,
158
402000
2000
เขาจะต้องเริ่มสร้างพลังงานสีเขียว
06:59
much more green energy.
159
404000
2000
ที่ต้องเขียวกว่าปัจจุบันนี้มากๆ
07:01
But until they have the same energy consumption per person,
160
406000
3000
แต่จนกว่าที่พวกเขาจะใช้พลังงานเท่าคนกลุ่มอื่นได้
07:04
they shouldn't give advice to others --
161
409000
2000
เขาก็ไม่ควรไปบอกคนอื่น --
07:06
what to do and what not to do.
162
411000
2000
ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ
07:08
(Applause)
163
413000
2000
(เสียงปรบมือ)
07:10
Here we can get more green energy all over.
164
415000
4000
เราสามารถหาพลังงานสีเขียวได้มากขึ้น
07:14
This is what we hope may happen.
165
419000
2000
นี่คือสิ่งที่เราคาดหวังว่าจะเกิดขึ้น
07:16
It's a real challenge in the future.
166
421000
3000
มันเป็นความท้าท้ายในอนาคต
07:19
But I can assure you that this woman in the favela in Rio,
167
424000
3000
แต่ผมบอกคุณได้เลยว่า สตรีคนนี้ ในสลัมของริโอ
07:22
she wants a washing machine.
168
427000
2000
เธอต้องการเครื่องซักผ้า
07:24
She's very happy about her minister of energy
169
429000
3000
เธอชอบรัฐมนตรีพลังงานของเธอ
07:27
that provided electricity to everyone --
170
432000
2000
ที่แจกจ่ายพลังงานให้กับทุกคน --
07:29
so happy that she even voted for her.
171
434000
3000
ชอบมาก จนต้องลงคะแนนให้กับเธอ
07:32
And she became Dilma Rousseff,
172
437000
2000
และเธอคนนั้นก็คือ ดิลมา รูสเซฟ
07:34
the president-elect
173
439000
2000
ประธานาธิบดีที่มาจากการเลือกตั้ง
07:36
of one of the biggest democracies in the world --
174
441000
2000
ของหนึ่งในประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุดในโลก
07:38
moving from minister of energy to president.
175
443000
3000
ย้ายจากรัฐมนตรีพลังงาน มาเป็นประธานาธิบดี
07:41
If you have democracy,
176
446000
2000
ถ้าคุณมีประชาธิปไตย
07:43
people will vote for washing machines.
177
448000
2000
ผู้คนจะลงคะแนนให้กับเครื่องซักผ้า
07:45
They love them.
178
450000
2000
พวกเขารักมัน
07:49
And what's the magic with them?
179
454000
2000
อะไรคือมนตราของมันน่ะหรือ
07:51
My mother explained the magic with this machine
180
456000
3000
แม่ของผมอธิบายเวทย์มนต์ของเครื่องนี้
07:54
the very, very first day.
181
459000
2000
ในวันแรกสุด
07:56
She said, "Now Hans,
182
461000
2000
เธอบอกกับผมว่า "ฮานส์
07:58
we have loaded the laundry.
183
463000
2000
เรายัดเสื้อผ้าใส่เครื่องแล้ว
08:00
The machine will make the work.
184
465000
2000
เครื่องจะทำงานให้เรา
08:02
And now we can go to the library."
185
467000
2000
ทีนี้เราก็ไปห้องสมุดได้แล้ว"
08:04
Because this is the magic:
186
469000
2000
เพราะนี่คือเวทย์มนต์
08:06
you load the laundry,
187
471000
2000
คุณยัดเสื้อผ้าใส่เครื่อง
08:08
and what do you get out of the machine?
188
473000
2000
คุณได้อะไรกลับมาน่ะหรือ?
08:10
You get books out of the machines,
189
475000
3000
คุณได้หนังสือ
08:13
children's books.
190
478000
2000
หนังสือเด็ก
08:15
And mother got time to read for me.
191
480000
2000
และแม่ก็มีเวลาอ่านหนังสือให้ผม
08:17
She loved this. I got the "ABC's" --
192
482000
2000
เธอชอบมันมาก ผมได้เรียน "เอบีซี"
08:19
this is where I started my career as a professor,
193
484000
3000
และนี่คือจุดเริ่มต้นในความเป็นศาสตราจารย์ของผม
08:22
when my mother had time to read for me.
194
487000
2000
เมื่อแม่ผมมีเวลาอ่านหนังสือให้ฟัง
08:24
And she also got books for herself.
195
489000
2000
และเธอก็มีหนังสือสำหรับตัวเธอเองด้วย
08:26
She managed to study English
196
491000
2000
เธอได้เรียนภาษาอังกฤษ
08:28
and learn that as a foreign language.
197
493000
2000
เป็นภาษาที่สองของเธอ
08:30
And she read so many novels,
198
495000
2000
ได้อ่านนวนิยายมากมาย
08:32
so many different novels here.
199
497000
3000
นิยายจำนวนมากจริงๆ
08:35
And we really, we really loved this machine.
200
500000
3000
และเรา พวกเรารักเครื่องซักผ้านี้มากๆ
08:39
And what we said, my mother and me,
201
504000
3000
และเราสองคนแม่ลูก พูดได้อย่างเต็มปากว่า
08:42
"Thank you industrialization.
202
507000
3000
"ขอบคุณอุตสาหกรรม
08:45
Thank you steel mill.
203
510000
2000
ขอบคุณโรงงานเหล็ก
08:47
Thank you power station.
204
512000
2000
ขอบคุณโรงไฟฟ้า
08:49
And thank you chemical processing industry
205
514000
3000
และขอบคุณโรงงานผลิตสารเคมี
08:52
that gave us time to read books."
206
517000
2000
ที่ทำให้พวกเรามีเวลาอ่านหนังสือ"
08:54
Thank you very much.
207
519000
2000
ขอบคุณมากๆครับ
08:56
(Applause)
208
521000
13000
(เสียงปรบมือ)
ABOUT THE SPEAKER
Hans Rosling - Global health expert; data visionaryIn Hans Rosling’s hands, data sings. Global trends in health and economics come to vivid life. And the big picture of global development—with some surprisingly good news—snaps into sharp focus.
Why you should listen
Even the most worldly and well-traveled among us have had their perspectives shifted by Hans Rosling. A professor of global health at Sweden's Karolinska Institute, his work focused on dispelling common myths about the so-called developing world, which (as he pointed out) is no longer worlds away from the West. In fact, most of the Third World is on the same trajectory toward health and prosperity, and many countries are moving twice as fast as the west did.
What set Rosling apart wasn't just his apt observations of broad social and economic trends, but the stunning way he presented them. Guaranteed: You've never seen data presented like this. A presentation that tracks global health and poverty trends should be, in a word: boring. But in Rosling's hands, data sings. Trends come to life. And the big picture — usually hazy at best — snaps into sharp focus.
Rosling's presentations were grounded in solid statistics (often drawn from United Nations and World Bank data), illustrated by the visualization software he developed. The animations transform development statistics into moving bubbles and flowing curves that make global trends clear, intuitive and even playful. During his legendary presentations, Rosling took this one step farther, narrating the animations with a sportscaster's flair.
Rosling developed the breakthrough software behind his visualizations through his nonprofit Gapminder, founded with his son and daughter-in-law. The free software — which can be loaded with any data — was purchased by Google in March 2007. (Rosling met the Google founders at TED.)
Rosling began his wide-ranging career as a physician, spending many years in rural Africa tracking a rare paralytic disease (which he named konzo) and discovering its cause: hunger and badly processed cassava. He co-founded Médecins sans Frontièrs (Doctors without Borders) Sweden, wrote a textbook on global health, and as a professor at the Karolinska Institut in Stockholm initiated key international research collaborations. He's also personally argued with many heads of state, including Fidel Castro.
Hans Rosling passed away in February 2017. He is greatly missed.
Hans Rosling | Speaker | TED.com