Suzanne Simard: How trees talk to each other
ซูซาน ซิมาร์ด (Suzanne Simard): ป่าพูดกันได้อย่างไร
Suzanne Simard studies the complex, symbiotic networks in our forests. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
of a collection of trees,
คุณกำลังคิดถึงแมกไม้นานาพันธุ์
and their beautiful crowns.
และเรือนยอดไม้ที่งดงาม
than what you see,
the way you think about forests.
ที่คุณมีต่อป่า
there is this other world,
มีโลกอีกโลกหนึ่ง
and allow them to communicate
และทำให้พวกมันสื่อสารกันได้
as though it's a single organism.
มันเป็นสิ่งมีชีวิตตัวหนึ่งที่มีขนาดใหญ่
of a sort of intelligence.
ถึงความชาญฉลาด
of British Columbia.
and stare up at the tree crowns.
และมองขึ้นไปบนเรือนยอดของต้นไม้
cedar poles from the inland rainforest.
จากป่าฝนลึกที่อยู่ลึกเข้าไปในแผ่นดิน
and cohesive ways of the woods,
และการยึดเหนี่ยวเกี่ยวพันกับป่าไม้
ผูกพันกับมันอย่างไร
had slipped and fallen into the pit.
ลื่นตกลงไปในหลุม
to rescue the poor dog.
เพื่อที่จะช่วยเจ้าหมาผู้น่าสงสารนั่น
through that forest floor,
was the white mycelium
ก็คือราไมซีเลียมสีขาว
and yellow mineral horizons.
rescued the poor dog,
ก็ช่วยเจ้าหมาผู้น่าสงสารออกมาได้
alongside the powerful people
ตัวเองทำงานกับคนใหญ่คนโต
conflicted by my part in it.
ในบทบาทของฉัน
and hacking of the aspens and birches
แอสเพินและเบิร์ช
valuable planted pines and firs
ที่มีค่าในเชิงพานิชย์มากกว่า
this relentless industrial machine.
จักรกลอุตสาหกรรมที่ไม่เคยหลับนี้ได้
in the laboratory in vitro
จากการทดลองในหลอดทดลอง
to another pine seedling root.
could this happen in real forests?
มันจะเกิดขึ้นจริงในป่าหรือเปล่า
share information below ground.
อาจยังแบ่งปันข้อมูลทางใต้ดิน
getting research funding.
some experiments deep in the forest,
and western red cedar.
และซีดาร์แดงตะวันตก
would be connected in a belowground web,
ในเครือข่ายใต้ดิน
so I had to do it on the cheap.
ฉันก็เลยต้องทำทุกอย่างในราคาประหยัด
and duct tape and shade cloth,
และเรสไปเรเตอร์
high-tech stuff from my university:
จากมหาวิทยาลัยของฉัน
a mass spectrometer, microscopes.
แมส สเปกโตรมิเตอร์, กล้องจุลทรรศน์
really dangerous stuff:
carbon-14 carbon dioxide gas
ก๊าซคาร์บอน-14 คาร์บอนไดออกไซด์
carbon-13 carbon dioxide gas.
ของก๊าซคาร์บอน-13 คาร์บอนไดออกไซด์
the filters for my respirator.
สำหรับเรสไปเรเตอร์ของฉัน
we got out to our plot
ฉันออกไปยังแปลงของเรา
chased us off.
forest research in Canada goes.
นั่นเป็นงานวิจัยในป่าในแบบแคนาดาน่ะค่ะ
carbon dioxide gases,
ของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ก๊าซซึ่งมีกัมมันตรังสี
carbon-13 carbon dioxide gas.
ของก๊าซคาร์บอน-13 คาร์บอนไดออกไซด์
going on between these species.
ระหว่างสายพันธุ์เหล่านี้หรือไม่
mama grizzly showed up again.
and I jumped into the truck,
ทำการทดลองกันในห้องทดลอง"
มันต้องใช้เวลานานขนาดนี้
the CO2 through photosynthesis,
โดยกระบวนการสังเคราะห์แสง
send it down into their roots,
และส่งมันกลับลงมายังราก
to their neighbors.
ให้เพื่อนบ้านของมัน
eating her huckleberries.
อยู่ทางนั้นแล้ว
and I got to work.
I pulled the bag off.
the radioactive gas.
"Hey, can I help you?"
can you send me some of your carbon?
ส่งคาร์บอนมาให้หน่อยได้ไหม
threw a shade cloth over me."
the Geiger counter over its leaves,
ตรวจใบของมัน
interlinking birch and fir.
ที่เกี่ยวพันกันของเบิร์ชและเฟอร์
and I checked all 80 replicates.
และตรวจดูพืชทั้งหมดอีก 80 ต้น
were in a lively two-way conversation.
กำลังถ่ายทอดสดการสนทนาสองทาง
than fir was sending back to birch,
มากกว่าที่เฟอร์ส่งมาให้เบิร์ช
we found the opposite,
เราพบสิ่งที่ตรงข้าม
than birch was sending to fir,
มากกว่าที่เบิร์ชส่งให้เฟอร์
growing while the birch was leafless.
ในขณะที่เบิร์ชไม่มีใบเลย
were interdependent,
พึ่งพากันและกัน
everything came into focus for me.
ทุกอย่างเข้ามายังจุดนใจของฉัน
we look at how trees interact in forests,
ในเรื่องปฏิสัมพันธ์ของต้นไม้ในป่า
communications network,
how we practice forestry,
ที่เรามีต่อการดูแลรักษาป่า
and more practical.
in complex systems like forests?
ระบบที่ซับซ้อนอย่างป่านี้ได้อย่างไร
we have to do our research in the forests,
ฉันจะต้องทำงานวิจัยในป่า
as I've shown you.
at running from bears.
stacked against us.
and our experiences
และประสบการณ์ของเรา
and then go verify.
และนำมาประมวลผล
hundreds of experiments in the forest.
และตีพิมพ์ผลงานมากมายในป่า
are now over 30 years old.
ตอนนี้มีอายุกว่า 30 ปีแล้ว
ในสาขาวนศาสตน์
and Douglas fir communicating?
สื่อสารกันได้อย่างไร
not only in the language of carbon
ไม่เพียงแต่ในภาษาคาร์บอนเท่านั้น
and allele chemicals and hormones --
และสารเคมีและฮอร์โมนอื่น ๆ --
before me, scientists had thought
นักวิทยาศาสตร์เข้าใจว่า
mutualistic symbiosis called a mycorrhiza
ที่เรียกกันว่า ไมคอร์ไรซา
"รากฟังกัส"
when you walk through the forest.
เมื่อคุณเดินผ่านป่า
are just the tip of the iceberg,
are fungal threads that form a mycelium,
คือสายฟังกัสที่ก่อตัวเป็นไมซิเลียม
infects and colonizes the roots
ก็บุกและตั้งอาณานิคมในราก
interact with the root cells,
มีปฏิสัมพันธ์กับเซลล์ราก
เพื่อสารอาหาร
by growing through the soil
hundreds of kilometers of mycelium
จนมันอาจมีไมซิเลียมยาวหลายร้อยกิโลเมตร
different individuals in the forest,
ยังเชื่อมต่อสิ่งต่าง ๆ ในป่า
but between species, like birch and fir,
แต่ยังมีหลายสายพันธุ์ อย่างเบิร์ช และเฟอร์
ที่มีจุดเชื่อมและการเชื่อมต่อ
the short sequences of DNA
in a patch of Douglas fir forest.
ในพื้นที่ของป่าดักลาส เฟอร์
the Douglas fir, or the nodes,
หรือจุดเชื่อมต่อ
fungal highways, or the links.
ของเส้นทางฟังกัส หรือว่าการเชื่อมต่อ
are the busiest nodes.
that those hub trees nurture their young,
ดูแลต้นที่อ่อนกว่า
that have established within the network
connected to hundreds of other trees.
กับต้นไม้อื่น ๆ ได้หลายร้อยต้น
through the mycorrhizal network
ผ่านเครือข่ายไมคอร์ไรซา
with increased seedling survival
ต่อการอยู่รอดของต้นอ่อนที่เพิ่มขึ้น
favor our own children,
recognize its own kin,
จะจำพวกเดียวกันได้หรือเปล่า
with kin and stranger's seedlings.
และต้นอ่อนต่างสายพันธุ์
they do recognize their kin.
with bigger mycorrhizal networks.
ด้วยเครือข่ายไมคอร์ไรซาที่ใหญ่กว่าเดิม
their own root competition
on to the next generation of seedlings.
ไปยังต้นอ่อนรุ่นถัดไป
from an injured mother tree
จากต้นแม่ที่ติดเชื้อ
into the mycorrhizal network
ลงไปยังเครือข่ายไมคอร์ไรซา
of those seedlings to future stresses.
ต่อความเครียดที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
of the whole community.
of our own social communities,
collections of trees,
with hubs and networks
ที่มีจุดเชื่อมต่อและเครือข่าย
and allow them to communicate,
และยอมให้พวกมันสื่อสารกัน
for feedbacks and adaptation,
สำหรับการส่งผลตอบรับและการปรับเปลี่ยน
and many overlapping networks.
และเครือข่ายที่มีการซ้อนทับกันมาก
to natural disturbances
ต่อการแปรปรวนทางธรรมชาติ
attack big old trees
ที่เลือกโจมตีต้นไม้ใหญ่อายุมาก
and clear-cut logging.
และการถางป่าอีกด้วย
one or two hub trees,
ออกไปหนึ่งหรือสองต้น
unlike rivets in an airplane.
ไม่ได้ต่างอะไรกับหมุดบนเครื่องบิน
and the plane still flies,
เครื่องบินก็ยังใช้การได้
about forests? Differently?
ต่างไปจากเดิมหรือเปล่า
that I hoped that my research,
ก่อนหน้านี้ฉันหวังว่างานวิจัยของฉัน
the way we practice forestry.
วิธีที่เราปฏิบัติต่อป่า
30 years later here in western Canada.
ในอีก 30 ปี ที่นี่ในแคนาดาตะวันตก
to the west of us,
ประมาณ 100 กิโลเมตร
reported that Canada in the past decade
รายงานว่าแคนาดาในทศวรรษที่ผ่านมา
rate of any country worldwide,
กว่าประเทศใด ๆ ทั่วโลก
ว่าคุณจะคิดว่าเป็นบราซิล
3.6 เปอร์เซ็นต์ต่อปี
four times the rate that is sustainable.
มันมากกว่าสี่เท่าของอัตราที่ยั่งยืน
is known to affect hydrological cycles,
เป็นที่รู้กันว่ามันรบกวนต่อวัฏจักรไฮโดรเจน
back into the atmosphere,
กลับออกไปยังบรรยากาศ
and more tree diebacks.
และทำให้ต้นไม้ตายมากขึ้น
to plant one or two species
สองสามสายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง
ขาดความซับซ้อน
to infections and bugs.
ต่อการติดเชื้อและการโจมตึของแมลง
mountain pine beetle outbreak
การระบาดหนักของแมลงปีกแข็งสนภูเขา
couple months in Alberta.
ในอัลเบอร์ตา
to my final question:
กลับไปยังคำถามสุดท้ายของฉัน
แทนที่จะทำให้ป่าของเราอ่อนแอลง
and help them deal with climate change?
รับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
about forests as complex systems
capacity to self-heal.
ในการเยียวยาตัวเองได้มาก
and retention of hub trees
และการคงต้นชุมสายเอาไว้
of species and genes and genotypes
ของสายพันธุ์และยีนและจีโนไทป์
they recover really rapidly.
พวกมันฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
with four simple solutions.
เอาไว้ให้คุณคิด
that these are too complicated to act on.
นั่นมันซับซ้อนเกินกว่าที่เราจะทำได้
to get out in the forest.
local involvement in our own forests.
ในป่าของเราขึ้นมาใหม่
a one-size-fits-all approach,
วิธีการแบบที่ปรับใช้กับทุกอย่าง
requires knowledge of local conditions.
ในเรื่องสภาพพื้นที่จำเพาะ
our old-growth forests.
ป่าที่มีอยู่มานานแล้ว
and mother trees and mycorrhizal networks.
และเครือข่ายไมคอร์ไรซา
แต่เราต้องลดการตัดไม้ลง
onto the next generation of trees
ไปยังต้นไม้รุ่นถุดไป
the future stresses coming down the road.
ต่อความเครียดในอนาคตที่กำลังจะมาถึง
with a diversity of species
ด้วยความหลากหลายทางสายพันธุ์
natural regeneration.
ฟื้นฟูขึ้นใหม่อย่างเป็นธรรมชาติ
the tools she needs
ในการรักษาเยียวยาตนเอง
that forests aren't just a bunch of trees
ป่าไม่ใช่แค่กลุ่มของต้นไม้
showed me this other world,
ทำให้ฉันเห็นโลกอีกใบ
how you think about forests.
ที่ต่างออกไป
ABOUT THE SPEAKER
Suzanne Simard - Forest ecologistSuzanne Simard studies the complex, symbiotic networks in our forests.
Why you should listen
A professor of forest ecology at the University of British Columbia's Department of Forest and Conservation Sciences in Vancouver, Suzanne Simard studies the surprising and delicate complexity in nature. Her main focus is on the below-ground fungal networks that connect trees and facilitate underground inter-tree communication and interaction. Her team's analysis revealed that the fungi networks move water, carbon and nutrients such as nitrogen between and among trees as well as across species. The research has demonstrated that these complex, symbiotic networks in our forests -- at the hub of which stand what she calls the "mother trees" -- mimic our own neural and social networks. This groundbreaking work on symbiotic plant communication has far-reaching implications in both the forestry and agricultural industries, in particular concerning sustainable stewardship of forests and the plant’s resistance to pathogens. She works primarily in forests, but also grasslands, wetlands, tundra and alpine ecosystems.
Suzanne Simard | Speaker | TED.com