ABOUT THE SPEAKER
Dan Dennett - Philosopher, cognitive scientist
Dan Dennett thinks that human consciousness and free will are the result of physical processes.

Why you should listen

One of our most important living philosophers, Dan Dennett is best known for his provocative and controversial arguments that human consciousness and free will are the result of physical processes in the brain. He argues that the brain's computational circuitry fools us into thinking we know more than we do, and that what we call consciousness — isn't. His 2003 book "Freedom Evolves" explores how our brains evolved to give us -- and only us -- the kind of freedom that matters, while 2006's "Breaking the Spell" examines belief through the lens of biology.

This mind-shifting perspective on the mind itself has distinguished Dennett's career as a philosopher and cognitive scientist. And while the philosophy community has never quite known what to make of Dennett (he defies easy categorization, and refuses to affiliate himself with accepted schools of thought), his computational approach to understanding the brain has made him, as Edge's John Brockman writes, “the philosopher of choice of the AI community.”

“It's tempting to say that Dennett has never met a robot he didn't like, and that what he likes most about them is that they are philosophical experiments,” Harry Blume wrote in the Atlantic Monthly in 1998. “To the question of whether machines can attain high-order intelligence, Dennett makes this provocative answer: ‘The best reason for believing that robots might some day become conscious is that we human beings are conscious, and we are a sort of robot ourselves.'"

In recent years, Dennett has become outspoken in his atheism, and his 2006 book Breaking the Spell calls for religion to be studied through the scientific lens of evolutionary biology. Dennett regards religion as a natural -- rather than supernatural -- phenomenon, and urges schools to break the taboo against empirical examination of religion. He argues that religion's influence over human behavior is precisely what makes gaining a rational understanding of it so necessary: “If we don't understand religion, we're going to miss our chance to improve the world in the 21st century.”

Dennett's landmark books include The Mind's I, co-edited with Douglas Hofstaedter, Consciousness Explained, and Darwin's Dangerous Idea. Read an excerpt from his 2013 book, Intuition Pumps, in the Guardian >>

More profile about the speaker
Dan Dennett | Speaker | TED.com
TED2009

Dan Dennett: Cute, sexy, sweet, funny

แดน เดนเน็ตต์ : น่ารัก - เซ็กซี่ - หวาน - ตลก

Filmed:
3,553,924 views

ทำไมเด็กเล็กๆ ถึงได้ดูน่ารัก? ทำไมเค้กจึงหวาน? แดน เดนเน็ตต์ (Dan Dennett) นักปรัชญา มีคำตอบที่เราไม่คาดคิดมาก่อนเมื่อเขามาเล่าให้เราฟังถึงเหตุถึงผลที่ผิดแปลกไปจากสัญชาตญาณของเราในเรื่องของความน่ารัก ความหวาน และความเซ็กซี่ (พร้อมกับทฤษฎีใหม่ของแมทธิว เฮอร์ลีย์ (Matthew Hurley) ที่ว่า ทำไมเรื่องตลกจึงตลกได้)
- Philosopher, cognitive scientist
Dan Dennett thinks that human consciousness and free will are the result of physical processes. Full bio

Double-click the English transcript below to play the video.

00:12
I’m going around the worldโลก givingให้ talksการเจรจา about Darwinดาร์วิน,
0
0
3000
ผมกำลังจะออกเดินทางทั่วโลกเพื่อไปบรรยายเรื่องเกี่ยวกับ (ชาร์ลส์) ดาร์วิน
00:15
and usuallyมักจะ what I’m talkingการพูด about
1
3000
2000
และปกติสิ่งที่ผมจะบรรยาย
00:17
is Darwinดาร์วิน’s strangeแปลก inversionการผกผัน of reasoningเหตุผล.
2
5000
3000
ก็คือ การที่ดาร์วิน "ให้เหตุให้ผลกลับทิศกลับทางอย่างประหลาด"
00:20
Now that titleหัวข้อ, that phraseวลี, comesมา from a criticนักวิจารณ์, an earlyตอนต้น criticนักวิจารณ์,
3
8000
5000
ฉายานั้น วลีนั้น มาจากนักวิจารณ์ครับ นักวิจารณ์ในยุคต้นๆ
00:25
and this is a passageทางเดิน that I just love, and would like to readอ่าน for you.
4
13000
4000
และนี่เป็นข้อความที่ผมชอบมากและอยากจะอ่านให้คุณฟัง
00:29
"In the theoryทฤษฎี with whichที่ we have to dealจัดการ, Absoluteแน่นอน Ignoranceความไม่รู้ is the artificerผู้ใช้อุบาย;
5
17000
5000
"ในทฤษฎีที่เราจะต้องทำความเข้าใจนี้ "อวิชชาสูงสุด (Absolute Ignorance)" ถือเป็นผู้สร้าง
00:34
so that we mayอาจ enunciateแถลง as the fundamentalพื้นฐาน principleหลัก of the wholeทั้งหมด systemระบบ,
6
22000
5000
เพื่อที่เราจะกล่าวอย่างชัดเจนได้ถึงหลักการที่เป็นฐานรากของทั้งระบบ
00:39
that, in orderใบสั่ง to make a perfectสมบูรณ์ and beautifulสวย machineเครื่อง,
7
27000
3000
ว่า ในการที่จะสร้างเครื่องจักรกลให้สวยงามสมบูรณ์แบบ
00:42
it is not requisiteจำเป็น to know how to make it.
8
30000
3000
ไม่มีความจำเป็นจะต้องรู้วิธีการสร้างมันขึ้นมา
00:45
This propositionเรื่อง will be foundพบ on carefulระมัดระวัง examinationการตรวจสอบ to expressด่วน,
9
33000
4000
ข้อสรุปนี้สามารถพบได้ด้วยการตรวจสอบอย่างระมัดระวัง เพื่อนำเสนอ
00:49
in condensedย่อ formฟอร์ม, the essentialสำคัญ purportความหมาย of the Theoryทฤษฎี,
10
37000
4000
ในรูปแบบกระชับของใจความหลักที่เป็นแก่นของทฤษฎี
00:53
and to expressด่วน in a fewน้อย wordsคำ all Mrนาย. Darwinดาร์วิน’s meaningความหมาย;
11
41000
4000
และในการนำเสนอด้วยคำเพียงสองสามคำในสิ่งที่คุณดาร์วินหมายความทั้งหมด
00:57
who, by a strangeแปลก inversionการผกผัน of reasoningเหตุผล,
12
45000
4000
ด้วยการให้เหตุให้ผลกลับทิศกลับทางอย่างประหลาดเช่นนี้ ดาร์วิน
01:01
seemsดูเหมือนว่า to think Absoluteแน่นอน Ignoranceความไม่รู้ fullyอย่างเต็มที่ qualifiedมีคุณสมบัติ
13
49000
3000
ดูเหมือนจะคิดว่า อวิชชาสูงสุด มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะก้าวขึ้นไปอยู่
01:04
to take the placeสถานที่ of Absoluteแน่นอน Wisdomความฉลาด in the achievementsความสำเร็จ of creativeความคิดสร้างสรรค์ skillความสามารถ."
14
52000
6000
ในตำแหน่งของ "ปัญญาสูงสุด (Absolute Wisdom)" ในการบรรลุผลของทักษะที่สร้างสรรค์"
01:10
Exactlyเผง. Exactlyเผง. And it is a strangeแปลก inversionการผกผัน.
15
58000
7000
ใช่เลยครับ ใช่เลย และนี่คือการกลับทิศกลับทางอย่างประหลาด
01:17
A creationistผู้สร้าง pamphletหนังสือเล่มเล็ก ๆ has this wonderfulยอดเยี่ยม pageหน้า in it:
16
65000
4000
จุลสารของพวกที่เชื่อในทฤษฎีผู้สร้างมีอยู่หน้านึงที่เด็ดดวงมาก:
01:21
"Testทดสอบ Two:
17
69000
2000
"ข้อทดสอบอันดับ 2:
01:23
Do you know of any buildingอาคาร that didndidn’t have a builderผู้ก่อสร้าง? Yes/No.
18
71000
4000
คุณรู้จักอาคารไหนบ้างไหมที่ไม่มีผู้สร้างมันขึ้นมา? เคย ไม่เคย
01:27
Do you know of any paintingจิตรกรรม that didndidn’t have a painterจิตรกร? Yes/No.
19
75000
3000
คุณรู้จักภาพเขียนภาพไหนบ้างไหมที่ไม่มีผู้เขียนมันขึ้นมา? เคย ไม่เคย
01:30
Do you know of any carรถ that didndidn’t have a makerผู้สร้าง? Yes/No.
20
78000
4000
คุณรู้จักรถคันไหนไหมที่ไม่มีผู้ผลิตมันขึ้นมา? เคย ไม่เคย
01:34
If you answeredตอบ 'Yes''ใช่' for any of the aboveข้างบน, give detailsรายละเอียด."
21
82000
5000
ถ้าคำตอบของคุณคือ "เคย" กับคำถามข้อใดก็ได้บนนี้ โปรดระบุรายละเอียดมา"
01:39
A-haA-ฮ่า! I mean, it really is a strangeแปลก inversionการผกผัน of reasoningเหตุผล.
22
87000
6000
เอาเข้าแล้ว ผมว่ามันเป็นการให้เหตุให้ผลกลับทิศกลับทางอย่างประหลาดจริงๆ นั่นแหละครับ
01:45
You would have thought it standsยืน to reasonเหตุผล
23
93000
4000
เราคิดกันมาก่อนหน้านั้นว่า ด้วยเหตุด้วยผลแล้ว
01:49
that designออกแบบ requiresต้องมี an intelligentฉลาด designerนักออกแบบ.
24
97000
4000
ผลงานออกแบบจะต้องมาจากผู้ออกแบบผู้ฉลาดปราดเปรื่อง
01:53
But Darwinดาร์วิน showsแสดงให้เห็นว่า that it’s just falseเท็จ.
25
101000
2000
แต่ดาร์วินแสดงให้เห็นว่า ผิดถนัด
01:55
Todayในวันนี้, thoughแม้, I’m going to talk about Darwinดาร์วิน’s other strangeแปลก inversionการผกผัน,
26
103000
5000
แต่วันนี้ผมจะมาพูดเรื่อง การให้เหตุให้ผลกลับทิศกลับทางอย่างประหลาดอีกอันหนึ่งของดาร์วิน
02:00
whichที่ is equallyพอ ๆ กัน puzzlingทำให้งง at first, but in some waysวิธี just as importantสำคัญ.
27
108000
6000
ที่สร้างความสับสนงงงันไม่แพ้กันในตอนแรก แต่ก็ดูจะมีความสำคัญไม่แพ้กันเช่นกัน
02:06
It standsยืน to reasonเหตุผล that we love chocolateช็อคโกแลต cakeเค้ก because it is sweetหวาน.
28
114000
7000
นับกันว่าเป็นเหตุเป็นผลที่ว่า เราชอบกินเค้กช็อกโกแลตก็เพราะว่ามันหวานดี
02:13
Guys go for girlsสาว ๆ like this because they are sexyเซ็กซี่.
29
121000
6000
หนุ่มๆจะสนใจสาวๆ รูปร่างแบบนี้เพราะว่าพวกเธอดูเซ็กซี่ดี
02:19
We adoreรัก babiesทารก because they’reอีกครั้ง so cuteน่ารัก.
30
127000
4000
เราชอบเรารักเด็กเล็กๆ ก็เพราะว่าพวกเขาดูน่ารักน่าชัง
02:23
And, of courseหลักสูตร, we are amusedขบขัน by jokesเรื่องตลก because they are funnyตลก.
31
131000
9000
และ แน่นอนที่สุด เรามีอารมณ์ขันกับเรื่องตลกก็เพราะว่ามันตลกขบขัน
02:32
This is all backwardsย้อนกลับ. It is. And Darwinดาร์วิน showsแสดงให้เห็นว่า us why.
32
140000
7000
ทั้งหมดนี่กลับทิศกลับทางกันไปหมด จริงๆ ครับ และดาร์วินเสนอให้เรารู้ว่าทำไม
02:39
Let’s startเริ่มต้น with sweetหวาน. Our sweetหวาน toothฟัน is basicallyเป็นพื้น an evolvedการพัฒนา sugarน้ำตาล detectorเครื่องตรวจจับ,
33
147000
8000
เริ่มจากความหวานก่อน การที่เราชอบกินหวาน จริงๆ แล้วมาจากตัวตรวจจับน้ำตาลที่วิวัฒนาการขึ้นมา
02:47
because sugarน้ำตาล is highสูง energyพลังงาน, and it’s just been wiredแบบใช้สาย up to the prefererpreferer,
34
155000
4000
เพราะว่าน้ำตาลให้พลังงานสูงมาก ก็เลยถูกดึงไปรวมอยู่ในกลุ่มของโปรด
02:51
to put it very crudelyหยาบ, and that’s why we like sugarน้ำตาล.
35
159000
5000
พูดอย่างคร่าวๆ นะครับ และนั่นก็เป็นเหตุผลว่าทำไมเราชอบน้ำตาล
02:56
Honeyน้ำผึ้ง is sweetหวาน because we like it, not "we like it because honeyน้ำผึ้ง is sweetหวาน."
36
164000
7000
น้ำผึ้งหวานได้เพราะเราชอบกิน แต่ไม่ใช่ "เราชอบกินน้ำผึ้งเพราะมันหวาน"
03:03
There’s nothing intrinsicallyภายใน sweetหวาน about honeyน้ำผึ้ง.
37
171000
5000
น้ำผึ้งไม่ได้มีความหวานอะไรที่เป็นธรรมชาติโดยเนื้อแท้
03:08
If you lookedมอง at glucoseกลูโคส moleculesโมเลกุล tillจนถึง you were blindตาบอด,
38
176000
4000
ถ้าเราจ้องดูโมเลกุลกลูโคสจนเราตาบอดไปเลย
03:12
you wouldnwouldn’t see why they tastedลิ้มรส sweetหวาน.
39
180000
3000
เราก็จะไม่มีทางรู้ว่าทำไมมันถึงรสหวาน
03:15
You have to look in our brainsสมอง to understandเข้าใจ why they’reอีกครั้ง sweetหวาน.
40
183000
6000
เราต้องไปดูที่สมองของเราในการทำความเข้าใจว่าทำไมมันรสหวาน
03:21
So if you think first there was sweetnessความหวาน,
41
189000
2000
ถ้างั้น ถ้าเราคิดว่าความหวานมีมาแต่แรก
03:23
and then we evolvedการพัฒนา to like sweetnessความหวาน,
42
191000
2000
จากนั้นเราจึงมีวิวัฒนาการที่จะชอบความหวาน
03:25
you’veve got it backwardsย้อนกลับ; that’s just wrongไม่ถูกต้อง. It’s the other way roundรอบ.
43
193000
4000
นั่นเป็นการคิดกลับทิศกลับทางครับ นั่นผิดอย่างแรงครับ มันเป็นอีกแบบหนึ่งต่างหาก
03:29
Sweetnessความหวาน was bornโดยกำเนิด with the wiringการเดินสายไฟ whichที่ evolvedการพัฒนา.
44
197000
4000
ความหวานก่อเกิดขึ้นมาจากความต้องการที่ผ่านวิวัฒนาการ
03:33
And there’s nothing intrinsicallyภายใน sexyเซ็กซี่ about these youngหนุ่มสาว ladiesผู้หญิง.
45
201000
4000
และพวกสาวๆ นี่ก็ไม่ได้มีความเซ็กซี่อะไรที่เป็นธรรมชาติโดยเนื้อแท้
03:37
And it’s a good thing that there isnISN’t, because if there were,
46
205000
5000
ซึ่งก็เป็นเรื่องดีที่ไม่ได้มีแบบนั้น เพราะถ้าเกิดว่าเป็น
03:42
then Motherแม่ Natureธรรมชาติ would have a problemปัญหา:
47
210000
4000
ก็หมายถึงว่าธรรมชาติมีปัญหาแล้วหละ
03:46
How on earthโลก do you get chimpsชิมแปนซี to mateเพื่อน?
48
214000
5000
จะทำอย่างไรล่ะครับที่จะให้ลิงชิมแปนซีผสมพันธุ์กัน?
03:53
Now you mightอาจ think, ahอา, there’s a solutionวิธีการแก้: hallucinationsภาพหลอน.
49
221000
8000
คราวนี้เราอาจจะคิดว่า นั่นไง มีทางออกสิ: การเห็นภาพหลอนไง
04:01
That would be one way of doing it, but there’s a quickerได้เร็วขึ้น way.
50
229000
4000
นั่นเป็นวิธีหนึ่งครับ แต่มีวิธีที่เร็วกว่านั้น
04:05
Just wireลวด the chimpsชิมแปนซี up to love that look,
51
233000
3000
ก็แค่ทำให้ลิงชิมแปนซีชอบลักษณะแบบนั้น
04:08
and apparentlyเด่นชัด they do.
52
236000
3000
และอย่างที่เห็น มันก็ชอบแบบนั้น
04:11
That’s all there is to it.
53
239000
4000
เท่านั้นเองครับ
04:16
Over sixหก millionล้าน yearsปี, we and the chimpsชิมแปนซี evolvedการพัฒนา our differentต่าง waysวิธี.
54
244000
4000
กว่าหกล้านปีที่พวกเรากับลิงชิมแปนซีมีวิวัฒนาการมาทางใครทางมัน
04:20
We becameกลายเป็น bald-bodiedหัวล้านฉกรรจ์, oddlyอย่างผิดปกติ enoughพอ;
55
248000
3000
เรามีร่างกายปราศจากขนยาว ซึ่งแปลกเอาการ
04:23
for one reasonเหตุผล or anotherอื่น, they didndidn’t.
56
251000
4000
เพราะเหตุใดเหตุหนึ่งนี่แหละ พวกมันกลับไม่เป็นอย่างเรา
04:27
If we hadnhadn’t, then probablyอาจ this would be the heightความสูง of sexinessเซ็กซี่.
57
255000
12000
ถ้าวิวัฒนาการเราไม่เป็นแบบนั้น ความเซ็กซี่สุดยอดของเราอาจจะหน้าตาออกมาแบบนี้
04:39
Our sweetหวาน toothฟัน is an evolvedการพัฒนา and instinctualสัญชาตญาน preferenceการตั้งค่า for high-energyพลังงานสูง foodอาหาร.
58
267000
5000
เราชอบของหวานๆ ก็เป็นวิวัฒนาการของความพึงใจตามสัญชาตญาณที่ต้องการอาหารพลังงานสูง
04:44
It wasnwasn’t designedได้รับการออกแบบ for chocolateช็อคโกแลต cakeเค้ก.
59
272000
3000
แต่ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ชอบเค้กช็อกโกแลต
04:47
Chocolateช็อคโกแลต cakeเค้ก is a supernormalsupernormal stimulusแรงบันดาลใจ.
60
275000
3000
เค้กช็อกโกแลตเป็น 'ตัวกระตุ้นเกินขีดธรรมชาติ'
04:50
The termวาระ is owedหนี้ที่ค้างชำระ to Nikoนิโก้ Tinbergenเบอร์เกน,
61
278000
2000
ศัพท์คำนี้เป็นของ นิโค ทินเบอร์เจน (Niko Tinbergen)
04:52
who did his famousมีชื่อเสียง experimentsการทดลอง with gullsนางนวล,
62
280000
2000
ผู้ทำการทดลองที่เป็นที่รู้จัก กับนกนางนวล
04:54
where he foundพบ that that orangeส้ม spotจุด on the gullนางนวล’s beakจะงอยปาก --
63
282000
4000
ซึ่งเขาค้นพบว่าจุดสีส้มที่จงอยปากนกนางนวล --
04:58
if he madeทำ a biggerที่ใหญ่กว่า, orangerOranger spotจุด
64
286000
2000
ถ้าเขาทำจุดสีส้มเข้มขึ้นใหญ่ขึ้น
05:00
the gullนางนวล chicksลูกไก่ would peckถากถาง at it even harderยาก.
65
288000
2000
นกนางนวลสาวๆ จะจิกตรงจุดนั้นแรงขึ้น
05:02
It was a hyperstimulushyperstimulus for them, and they lovedรัก it.
66
290000
3000
มันเป็นตัวกระตุ้นระดับสูงมากสำหรับนกสาวๆ และนกสาวๆ ก็ชอบจุดนี้
05:05
What we see with, say, chocolateช็อคโกแลต cakeเค้ก
67
293000
4000
สิ่งที่เราเห็นในกรณีอย่างเค้กช็อกโกแลต
05:09
is it’s a supernormalsupernormal stimulusแรงบันดาลใจ to tweakบิด our designออกแบบ wiringการเดินสายไฟ.
68
297000
5000
คือตัวกระตุ้นเกินขีดธรรมชาติที่บิดกระตุกธรรมชาติของเรา
05:14
And there are lots of supernormalsupernormal stimuliสิ่งเร้า; chocolateช็อคโกแลต cakeเค้ก is one.
69
302000
3000
และมีตัวกระตุ้นเกินขีดธรรมชาติมากมาย เค้กช็อกโกแลตเป็นหนึ่งในนั้น
05:17
There's lots of supernormalsupernormal stimuliสิ่งเร้า for sexinessเซ็กซี่.
70
305000
3000
มีตัวกระตุ้นเกินขีดธรรมชาติสำหรับความเซ็กซี่อยู่มากมาย
05:20
And there's even supernormalsupernormal stimuliสิ่งเร้า for cutenessความน่ารัก. Here’s a prettyน่ารัก good exampleตัวอย่าง.
71
308000
6000
แล้วก็ยังมีตัวกระตุ้นเกินขีดธรรมชาติสำหรับความน่ารักด้วย ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างที่เข้าท่า
05:26
It’s importantสำคัญ that we love babiesทารก, and that we not be put off by, say, messyยุ่ง diapersผ้าอ้อมเด็ก.
72
314000
5000
เป็นเรื่องสำคัญมากที่เรารักเด็ก และเราก็ไม่รังเกียจอะไรอย่างเช่นผ้าอ้อมเลอะเทอะ
05:31
So babiesทารก have to attractดึงดูดใจ our affectionความรัก and our nurturingบำรุง, and they do.
73
319000
6000
เด็กเล็กๆ จำเป็นจะต้องได้รับความรักและการเลี้ยงดูจากพวกเรา และเขาก็ได้รับตามนั้น
05:37
And, by the way, a recentเมื่อเร็ว ๆ นี้ studyศึกษา showsแสดงให้เห็นว่า that mothersมารดา
74
325000
4000
เอ้อ มีอีกอย่างครับ การศึกษาล่าสุดพบว่า คนเป็นแม่
05:41
preferชอบ the smellกลิ่น of the dirtyสกปรก diapersผ้าอ้อมเด็ก of theirของพวกเขา ownด้วยตัวเอง babyทารก.
75
329000
3000
ชอบใจกลิ่นผ้าอ้อมเลอะเทอะของลูกตัวเอง
05:44
So natureธรรมชาติ worksโรงงาน on manyจำนวนมาก levelsระดับ here.
76
332000
3000
ธรรมชาติทำงานในหลายๆ ระดับ
05:47
But now, if babiesทารก didndidn’t look the way they do -- if babiesทารก lookedมอง like this,
77
335000
5000
ถ้าเด็กเล็กๆ หน้าตาไม่เหมือนที่เป็นอยู่ ถ้าหน้าตาพวกเขาเป็นแบบนี้ล่ะ
05:52
that’s what we would find adorableน่ารัก, that’s what we would find --
78
340000
4000
เราก็จะรักใคร่ชอบใจอยู่ดี นั่นจะเป็นอะไรที่เราเห็นว่า
05:56
we would think, oh my goodnessความดี, do I ever want to hugกอด that.
79
344000
6000
ที่เราคิดว่า อื้อหือ ตัวเล็กนี่น่ารักน่ากอดชะมัดเลย
06:02
This is the strangeแปลก inversionการผกผัน.
80
350000
2000
นี่เป็นการกลับทิศกลับทางอย่างประหลาด
06:04
Well now, finallyในที่สุด what about funnyตลก. My answerตอบ is, it’s the sameเหมือนกัน storyเรื่องราว, the sameเหมือนกัน storyเรื่องราว.
81
352000
7000
มาคราวนี้ เรื่องสุดท้ายก็เกี่ยวกับความตลกขบขัน คำตอบก็คือมันเป็นเรื่องคือๆ กัน เหมือนๆ กัน
06:11
This is the hardยาก one, the one that isnISN’t obviousชัดเจน. That’s why I leaveออกจาก it to the endปลาย.
82
359000
4000
แต่เรื่องนี้เป็นอันที่ยาก ไม่ชัดเจนออกมาให้เห็น นั่นเป็นเหตุให้ผมทิ้งไว้ในตอนท้ายสุด
06:15
And I wonวอน’t be ableสามารถ to say too much about it.
83
363000
2000
และผมก็ไม่สามารถจะอธิบายเรื่องนี้ได้มากนัก
06:17
But you have to think evolutionarilyวิวัฒนาการ, you have to think, what hardยาก jobงาน that has to be doneเสร็จแล้ว --
84
365000
6000
แต่เราต้องคิดในแง่วิวัฒนาการ เราจะต้องคิด งานยากที่จะต้องทำ
06:23
it’s dirtyสกปรก work, somebodyบางคน’s got to do it --
85
371000
3000
มันเป็นงานเลอะเทอะน่าเบื่อที่ใครสักคนจะต้องทำ
06:26
is so importantสำคัญ to give us suchอย่างเช่น a powerfulมีอำนาจ, inbuiltinbuilt rewardรางวัล for it when we succeedประสบความสำเร็จ.
86
374000
8000
มีความสำคัญมากที่จะต้องตบรางวัลขนานใหญ่ที่ฝังอยู่แล้วในตัวเราเมื่อเราทำอะไรได้สำเร็จ
06:34
Now, I think we'veเราได้ foundพบ the answerตอบ -- I and a fewน้อย of my colleaguesเพื่อนร่วมงาน.
87
382000
4000
เอาล่ะ ผมคิดว่าเราค้นพบคำตอบแล้ว ผมกับเพื่อนร่วมทีมวิจัยอีกสองสามคน
06:38
It’s a neuralประสาท systemระบบ that’s wiredแบบใช้สาย up to rewardรางวัล the brainสมอง
88
386000
4000
มันเป็นเพราะระบบประสาทที่ต่อเชื่อมกับการให้รางวัลสมอง
06:42
for doing a grubbyสกปรก clericalเกี่ยวกับพระ jobงาน.
89
390000
5000
สำหรับการทำงานที่น่าเบื่อจำเจ
06:48
Our bumperกันชน stickerสติ๊กเกอร์ for this viewดู is
90
396000
4000
ถ้าเป็นสติ๊กเกอร์ติดรถก็จะบอกทำนองว่า
06:52
that this is the joyความปิติยินดี of debuggingแก้จุดบกพร่อง.
91
400000
3000
มันเป็นความสนุกสนานของการแก้ไขจุดบกพร่อง
06:55
Now I’m not going to have time to spellสะกด it all out,
92
403000
2000
ผมคงไม่มีเวลาอธิบายได้หมด
06:57
but I’llLL just say that only some kindsชนิด of debuggingแก้จุดบกพร่อง get the rewardรางวัล.
93
405000
5000
แต่ผมอยากจะพูดแค่ว่ามีเพียงการแก้ไขจุดบกพร่องบางประเภทที่จะได้รับรางวัล
07:02
And what we’reอีกครั้ง doing is we’reอีกครั้ง usingการใช้ humorอารมณ์ขัน as a sortประเภท of neuroscientificneuroscientific probeการสอบสวน
94
410000
8000
และสิ่งที่เราทำก็คือ เราใช้เรื่องตลกเป็นทำนองเครื่องตรวจสอบทางประสาทวิทยา
07:10
by switchingสลับ humorอารมณ์ขัน on and off, by turningการหมุน the knobลูกบิด on a jokeเรื่องตลก --
95
418000
4000
โดยเปิดปิดสวิตช์อารมณ์ขัน โดยบิดเร่งอัตราความขบขันของเรื่องตลก
07:14
now it’s not funnyตลก ... oh, now it’s funnierสนุกสนาน ...
96
422000
2000
อื๊อ ตอนนี้อันนี้ไม่เห็นจะตลก ... อ่ะ ตอนนี้ มันตลกขึ้นอีกนิดนึง
07:16
now we’llLL turnกลับ a little bitบิต more ... now it’s not funnyตลก --
97
424000
2000
คราวนี้ เราเร่งอัตราขึ้นอีกเพียงนิดเดียว ... ตอนนี้ ไม่ตลกซะแล้ว
07:18
in this way, we can actuallyแท้จริง learnเรียน something
98
426000
3000
ด้วยวิธีนี้ เราสามารถเรียนรู้บางสิ่งบางอย่าง
07:21
about the architectureสถาปัตยกรรม of the brainสมอง,
99
429000
2000
ในเรื่องสถาปัตยกรรมของสมอง
07:23
the functionalการทำงาน architectureสถาปัตยกรรม of the brainสมอง.
100
431000
2000
สถาปัตยกรรมด้านการทำงานของสมอง
07:25
Matthewแมทธิว Hurleyเฮอร์ลีย์ is the first authorผู้เขียน of this. We call it the Hurleyเฮอร์ลีย์ Modelแบบ.
101
433000
5000
แมทธิว เฮอร์ลีย์ เป็นคนแรกที่เขียนเรื่องนี้ไว้ เราเรียกว่า แบบจำลองเฮอร์ลีย์ (Hurley Model)
07:30
He’s a computerคอมพิวเตอร์ scientistนักวิทยาศาสตร์, Reginaldเรจินัล Adamsอดัมส์ a psychologistนักจิตวิทยา, and there I am,
102
438000
4000
เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ เรจินัลด์ อดัมส์ (Reginal Adams) เป็นนักจิตวิทยา และนี่ก็ผม
07:34
and we’reอีกครั้ง puttingวาง this togetherด้วยกัน into a bookหนังสือ.
103
442000
2000
และพวกเราได้บรรจุเนื้อหาพวกนี้ไว้ในหนังสือ
07:36
Thank you very much.
104
444000
3000
ขอบคุณมากๆครับ
Translated by Heartfelt Grace
Reviewed by Thanee Chaiwat

▲Back to top

ABOUT THE SPEAKER
Dan Dennett - Philosopher, cognitive scientist
Dan Dennett thinks that human consciousness and free will are the result of physical processes.

Why you should listen

One of our most important living philosophers, Dan Dennett is best known for his provocative and controversial arguments that human consciousness and free will are the result of physical processes in the brain. He argues that the brain's computational circuitry fools us into thinking we know more than we do, and that what we call consciousness — isn't. His 2003 book "Freedom Evolves" explores how our brains evolved to give us -- and only us -- the kind of freedom that matters, while 2006's "Breaking the Spell" examines belief through the lens of biology.

This mind-shifting perspective on the mind itself has distinguished Dennett's career as a philosopher and cognitive scientist. And while the philosophy community has never quite known what to make of Dennett (he defies easy categorization, and refuses to affiliate himself with accepted schools of thought), his computational approach to understanding the brain has made him, as Edge's John Brockman writes, “the philosopher of choice of the AI community.”

“It's tempting to say that Dennett has never met a robot he didn't like, and that what he likes most about them is that they are philosophical experiments,” Harry Blume wrote in the Atlantic Monthly in 1998. “To the question of whether machines can attain high-order intelligence, Dennett makes this provocative answer: ‘The best reason for believing that robots might some day become conscious is that we human beings are conscious, and we are a sort of robot ourselves.'"

In recent years, Dennett has become outspoken in his atheism, and his 2006 book Breaking the Spell calls for religion to be studied through the scientific lens of evolutionary biology. Dennett regards religion as a natural -- rather than supernatural -- phenomenon, and urges schools to break the taboo against empirical examination of religion. He argues that religion's influence over human behavior is precisely what makes gaining a rational understanding of it so necessary: “If we don't understand religion, we're going to miss our chance to improve the world in the 21st century.”

Dennett's landmark books include The Mind's I, co-edited with Douglas Hofstaedter, Consciousness Explained, and Darwin's Dangerous Idea. Read an excerpt from his 2013 book, Intuition Pumps, in the Guardian >>

More profile about the speaker
Dan Dennett | Speaker | TED.com

Data provided by TED.

This site was created in May 2015 and the last update was on January 12, 2020. It will no longer be updated.

We are currently creating a new site called "eng.lish.video" and would be grateful if you could access it.

If you have any questions or suggestions, please feel free to write comments in your language on the contact form.

Privacy Policy

Developer's Blog

Buy Me A Coffee