TED2009
Ray Anderson: The business logic of sustainability
เรย์ แอนเดอร์สัน พูดถึงตรรกะทางธุรกิจของความยั่งยืน
Filmed:
Readability: 5.1
1,098,554 views
เรย์ แอนเดอร์สัน เพิ่มยอดขายและสร้างกำไรสุทธิสองเท่าให้กับบริษัทพรมของเขา ขณะที่เปลี่ยนระบบอุตสาหกรรมแบบ "โกย/ทำ/ทิ้ง" จากหน้ามือเป็นหลังมือ เขาแบ่งปันวิสัยทัศน์อันทรงพลังว่าด้วยการพาณิชย์ที่ยั่งยืนในสุนทรพจน์ที่อ่อนโยนและถ่อมตนบทนี้
Ray Anderson - Sustainable-business pioneer
Ray Anderson founded the company that makes covetable Flor carpeting. But behind the fresh design is a decades-deep commitment to sustainable ways of doing business -- culminating in the Mission Zero plan. Full bio
Ray Anderson founded the company that makes covetable Flor carpeting. But behind the fresh design is a decades-deep commitment to sustainable ways of doing business -- culminating in the Mission Zero plan. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:18
Believe me or not, I come offering a solution
0
0
4000
เชื่อไหมครับว่า ผมมาเสนอวิธีแก้ปัญหา
00:22
to a very important part of this larger problem,
1
4000
4000
ปัญหาที่สำคัญมากข้อหนึ่งในปัญหาที่ใหญ่กว่า
00:26
with the requisite focus on climate.
2
8000
2000
แน่นอนว่าต้องรวมเรื่องสภาพภูมิอากาศ
00:28
And the solution I offer
3
10000
2000
วิธีแก้ที่ผมมาเสนอนั้น
00:30
is to the biggest culprit
4
12000
2000
พุ่งเป้าไปที่ตัวการที่ใหญ่ที่สุด
00:32
in this massive mistreatment of the earth
5
14000
4000
ในการปฏิบัติต่อโลกเราอย่างเลวร้ายมหาศาล
00:36
by humankind,
6
18000
2000
ด้วยน้ำมือมนุษย์
00:38
and the resulting decline of the biosphere.
7
20000
3000
ซึ่งทำให้โลกชีวมณฑลเสื่อมโทรม
00:41
That culprit is business and industry,
8
23000
3000
ตัวการที่ว่านั้นคือธุรกิจและอุตสาหกรรมครับ
00:44
which happens to be where I have spent the last 52 years
9
26000
3000
ซึ่งก็บังเอิญเป็นโลกที่ผมใช้ชีวิต 52 ปีที่ผ่านมา
00:47
since my graduation from Georgia Tech in 1956.
10
29000
4000
ตั้งแต่จบปริญญาจากจอร์เจีย เทค ในปี 1956
00:51
As an industrial engineer,
11
33000
2000
ในฐานะวิศวกรอุตสาหการ
00:53
cum aspiring and then successful entrepreneur.
12
35000
4000
ที่อยากเป็นผู้ประกอบการ แล้วก็ประสบความสำเร็จ
00:57
After founding my company, Interface, from scratch
13
39000
3000
หลังจากที่ผมก่อตั้งบริษัท อินเทอร์เฟซ ขึ้นมาจากศูนย์
01:00
in 1973, 36 years ago,
14
42000
3000
ในปี 1973 ซึ่งก็คือ 36 ปีที่แล้ว
01:03
to produce carpet tiles in America
15
45000
2000
เพื่อผลิตพรมในอเมริกา
01:05
for the business and institution markets,
16
47000
3000
สำหรับตลาดธุรกิจและสถาบัน
01:08
and shepherding it through start-up and survival
17
50000
3000
ผมนำบริษัทนี้ผ่านช่วงตั้งไข่และเอาตัวรอด
01:11
to prosperity and global dominance in its field,
18
53000
3000
ทำให้มันรุ่งเรืองและเป็นผู้นำระดับโลก
01:14
I read Paul Hawken's book,
19
56000
2000
ผมอ่านหนังสือของ พอล ฮอว์เคน
01:16
"The Ecology of Commerce,"
20
58000
2000
ชื่อ นิเวศวิทยาของการพาณิชย์ (Ecology of Commerce)
01:18
the summer of 1994.
21
60000
3000
ในฤดูร้อนปี 1994
01:21
In his book, Paul charges business and industry
22
63000
3000
ในหนังสือของเขา พอล ฮอว์เคน บอกว่าธุรกิจกับอุตสาหกรรม
01:24
as, one, the major culprit
23
66000
3000
คือตัวการหมายเลขหนึ่ง
01:27
in causing the decline of the biosphere,
24
69000
2000
ที่ทำให้โลกชีวมณฑลเสื่อมโทรม
01:29
and, two, the only institution that is large enough,
25
71000
3000
และสอง เขาบอกว่ามันเป็นสถาบันเดียวที่ใหญ่พอ
01:32
and pervasive enough, and powerful enough,
26
74000
2000
แพร่หลายมากพอ และมีอิทธิพลมากพอ
01:34
to really lead humankind out of this mess.
27
76000
4000
ที่จะนำมนุษยชาติออกจากปัญหานี้จริงๆ
01:38
And by the way he convicted me
28
80000
3000
ระหว่างทางเขาก็ปรักปรำผม
01:41
as a plunderer of the earth.
29
83000
2000
ว่าเป็นโจรปล้นโลกธรรมชาติ
01:43
And I then challenged the people of Interface, my company,
30
85000
3000
ผมเลยไปท้าทายคนในอินเทอร์เฟซ บริษัทของผม
01:46
to lead our company and the entire industrial world to sustainability,
31
88000
4000
ให้นำบริษัทของเราและโลกอุตสาหกรรมทั้งใบไปสู่ความยั่งยืน
01:50
which we defined as eventually operating
32
92000
2000
ซึ่งเรานิยามว่า หมายถึงการดำเนินธุรกิจ
01:52
our petroleum-intensive company in such a way
33
94000
3000
ที่ใช้ปิโตรเลียมมหาศาลของเรา ในทางที่
01:55
as to take from the earth
34
97000
2000
ตักตวงจากธรรมชาติเฉพาะ
01:57
only what can be renewed by the earth, naturally and rapidly --
35
99000
4000
สิ่งที่ธรรมชาติฟื้นฟูเองได้อย่างรวดเร็ว
02:01
not another fresh drop of oil --
36
103000
2000
เราจะไม่ใช้น้ำมันอีกแม้แต่หยดเดียว
02:03
and to do no harm to the biosphere.
37
105000
4000
และไม่ทำร้ายโลกชีวมณฑล
02:07
Take nothing: do no harm.
38
109000
2000
ไม่ตักตวงอะไรเลย ไม่ทำร้ายโลก
02:09
I simply said, "If Hawken is right
39
111000
2000
ผมบอกแค่ว่า "ถ้าหากฮอว์เคนพูดถูก
02:11
and business and industry must lead,
40
113000
2000
และธุรกิจกับอุตสาหกรรมจะต้องนำจริงๆ
02:13
who will lead business and industry?
41
115000
2000
แล้วใครจะนำธุรกิจกับอุตสาหกรรมล่ะ?
02:15
Unless somebody leads, nobody will."
42
117000
3000
ถ้าไม่มีคนเริ่มก่อน ก็จะไม่มีใครทำ"
02:18
It's axiomatic. Why not us?
43
120000
3000
เป็นสัจพจน์เลยครับ แล้วทำไมเราไม่นำล่ะ?
02:21
And thanks to the people of Interface,
44
123000
2000
ผมต้องขอบคุณเพื่อนร่วมงานที่อินเทอร์เฟซ
02:23
I have become a recovering plunderer.
45
125000
3000
ที่ทำให้ผมกลายเป็นโจรที่ผ่านการบำบัด
02:26
(Laughter)
46
128000
1000
(เสียงหัวเราะ)
02:27
(Applause)
47
129000
5000
(ปรบมือ)
02:32
I once told a Fortune Magazine writer
48
134000
4000
ผมเคยบอกกับนักเขียนนิตยสารฟอร์จูนว่า
02:36
that someday people like me would go to jail.
49
138000
3000
วันหนึ่งคนอย่างผมจะต้องติดคุก
02:39
And that became the headline of a Fortune article.
50
141000
2000
ประโยคนั้นกลายเป็นพาดหัวบทความในฟอร์จูน
02:41
They went on to describe me as America's greenest CEO.
51
143000
4000
พวกเขาอธิบายว่าผมเป็นซีอีโอที่เขียวที่สุดของอเมริกา
02:45
From plunderer to recovering plunderer,
52
147000
3000
จากโจร เป็นโจรที่ผ่านการบำบัด
02:48
to America's greenest CEO in five years --
53
150000
3000
เป็นซีอีโอที่เขียวที่สุดของอเมริกา ในห้าปี
02:51
that, frankly, was a pretty sad commentary
54
153000
2000
ผมคิดว่านั่นคือคำวิจารณ์ซีอีโออเมริกันปี 1999
02:53
on American CEOs in 1999.
55
155000
5000
ที่เศร้าพอดู
02:58
Asked later in the Canadian documentary, "The Corporation,"
56
160000
3000
ต่อมาในหนังสารคดีแคนาดาเรื่อง เดอะ คอร์ปอเรชั่น
03:01
what I meant by the "go to jail" remark,
57
163000
3000
ผู้กำกับถามว่า "ติดคุก" ของผมหมายถึงอะไร
03:04
I offered that theft is a crime.
58
166000
4000
ผมอธิบายว่าการขโมยนั้นเป็นอาชญากรรม
03:08
And theft of our children's future would someday be a crime.
59
170000
5000
และการขโมยโลกอนาคตของเด็กๆ วันหนึ่งก็จะเป็นอาชญากรรม
03:13
But I realized, for that to be true --
60
175000
2000
แต่ผมตระหนักว่าถ้ามันจะเป็นจริงได้
03:15
for theft of our children's future to be a crime --
61
177000
3000
ก่อนที่การขโมยอนาคตของลูกหลานเราจะเป็นอาชญากรรมได้
03:18
there must be a clear, demonstrable alternative
62
180000
3000
คนก็จะต้องเห็นก่อนว่ามีทางเลือกที่สาธิตให้เห็นได้ชัดเจน
03:21
to the take-make-waste industrial system
63
183000
3000
ทางเลือกออกจากระบบอุตสาหกรรมแบบโกย-ทำ-ทิ้ง
03:24
that so dominates our civilization,
64
186000
3000
ซึ่งครอบงำอารยธรรมของเราอย่างราบคาบ
03:27
and is the major culprit, stealing our children's future,
65
189000
3000
ระบบนี้คือตัวการใหญ่ที่ขโมยอนาคตลูกหลานของเรา
03:30
by digging up the earth
66
192000
2000
ด้วยการตักตวงผืนดิน
03:32
and converting it to products that quickly become waste
67
194000
4000
แปลงมันเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่นานก็กลายเป็นขยะ
03:36
in a landfill or an incinerator --
68
198000
2000
ในกองขยะหรือเตาเผาขยะ
03:38
in short, digging up the earth and converting it to pollution.
69
200000
5000
พูดง่ายๆ คือ มันตักตวงผืนดินและแปลงมันเป็นมลพิษ
03:43
According to Paul and Anne Ehrlich
70
205000
2000
ในคำพูดของ พอล กับ แอนน์ เออร์ลิช
03:45
and a well-known environmental impact equation,
71
207000
3000
ในสมการผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่คนรู้จักดี
03:48
impact -- a bad thing --
72
210000
2000
ผลกระทบ -- ผลเชิงลบ --
03:50
is the product of population, affluence and technology.
73
212000
4000
เกิดจากประชากร ความมั่งคั่ง และเทคโนโลยี
03:54
That is, impact is generated by people,
74
216000
4000
พูดอีกอย่างคือ ผลกระทบเกิดจากคน
03:58
what they consume in their affluence,
75
220000
2000
สิ่งที่พวกเขาบริโภคเมื่อมีความมั่งคั่ง
04:00
and how it is produced.
76
222000
3000
และวิธีที่เราผลิตสิ่งเหล่านั้นขึ้นมา
04:03
And though the equation is largely subjective,
77
225000
2000
และถึงแม้ว่าสมการนี้จะเป็นอัตวิสัยค่อนข้างมาก
04:05
you can perhaps quantify people, and perhaps quantify affluence,
78
227000
4000
คือคุณอาจนับจำนวนคนได้ บางทีอาจนับความมั่งคั่งได้
04:09
but technology is abusive in too many ways to quantify.
79
231000
4000
แต่เทคโนโลยีนั้นทำลายล้างหลายทางจนคำนวณไม่ได้
04:13
So the equation is conceptual.
80
235000
2000
ดังนั้นสมการนี้จึงเป็นแค่แนวคิด
04:15
Still it works to help us understand the problem.
81
237000
3000
แต่มันก็ใช้ได้ เพราะช่วยให้เราเข้าใจปัญหา
04:18
So we set out at Interface, in 1994,
82
240000
5000
ทีนี้ ในปี 1994 ที่อินเทอร์เฟซ เราเริ่มออกเดินทาง
04:23
to create an example:
83
245000
2000
เพื่อสร้างตัวอย่าง
04:25
to transform the way we made carpet,
84
247000
2000
เพื่อปฏิรูปวิธีที่เราผลิตพรม
04:27
a petroleum-intensive product for materials as well as energy,
85
249000
4000
ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ปิโตรเลียมและพลังงานมหาศาลในวัตถุดิบ
04:31
and to transform our technologies
86
253000
2000
และเพื่อปฏิรูปเทคโนโลยีของเรา
04:33
so they diminished environmental impact,
87
255000
3000
ให้มันสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลง
04:36
rather than multiplied it.
88
258000
3000
ไม่ใช่มากขึ้น
04:39
Paul and Anne Ehrlich's environmental impact equation:
89
261000
3000
สมการผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมของ พอล กับ แอนน์ เออร์ลิช
04:42
I is equal to P times A times T:
90
264000
3000
คือ I (impact /ผลกระทบ) = P (people /คน) คูณ A (affluence /ความมั่งคั่ง) คูณ T (technology /เทคโนโลยี)
04:45
population, affluence and technology.
91
267000
3000
ประชากร ความมั่งคั่ง และเทคโนโลยี
04:48
I wanted Interface to rewrite that equation so that it read
92
270000
6000
ผมอยากให้อินเทอร์เฟซเขียนสมการนี้ใหม่ ให้มันกลายเป็น
04:54
I equals P times A divided by T.
93
276000
3000
I (impact /ผลกระทบ) = P (people /คน) คูณ A (affluence /ความมั่งคั่ง) แล้วหารด้วย T (technology /เทคโนโลยี)
04:57
Now, the mathematically-minded will see immediately
94
279000
3000
ใครที่เก่งเลขคงเห็นทันทีนะครับว่า
05:00
that T in the numerator increases impact -- a bad thing --
95
282000
3000
ถ้าเทคโนโลยีเป็นตัวคูณ มันจะเพิ่มผลกระทบ -- ซึ่งแย่
05:03
but T in the denominator decreases impact.
96
285000
4000
แต่ถ้าเทคโนโลยีเป็นตัวหาร มันจะช่วยลดผลกระทบ
05:07
So I ask, "What would move T, technology,
97
289000
4000
ผมจึงถามว่า "อะไรกันที่จะย้าย T, เทคโนโลยี
05:11
from the numerator -- call it T1 --
98
293000
2000
จากตัวบน ซึ่งเราเรียกมันว่า T1
05:13
where it increases impact,
99
295000
2000
ซึ่งเป็นตัวเพิ่มผลกระทบ
05:15
to the denominator -- call it T2 --
100
297000
3000
ไปเป็นตัวหาร ซึ่งเราเรียกมันว่า T2
05:18
where it reduces impact?
101
300000
3000
ซึ่งจะลดผลกระทบ?
05:21
I thought about the characteristics
102
303000
4000
ผมคิดถึงลักษณะสำคัญๆ
05:25
of first industrial revolution,
103
307000
2000
ของการปฏิวัติอุตสาหกรรมยุคแรก
05:27
T1, as we practiced it at Interface,
104
309000
3000
นั่นคือ T1 ที่เราใช้ในอินเทอร์เฟซ
05:30
and it had the following characteristics.
105
312000
4000
มันมีลักษณะดังต่อไปนี้ครับ
05:34
Extractive: taking raw materials from the earth.
106
316000
4000
ตักตวง - กอบโกยวัตถุดิบจากโลกธรรมชาติ
05:38
Linear: take, make, waste.
107
320000
3000
เส้นตรง - โกย, ทำ, ทิ้ง
05:41
Powered by fossil fuel-derived energy.
108
323000
2000
ใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล
05:43
Wasteful: abusive and focused on labor productivity.
109
325000
4000
สิ้นเปลือง - กดขี่คนและเน้นผลิตภาพของแรงงาน
05:47
More carpet per man-hour.
110
329000
3000
ผลิตพรมต่อชั่วโมงแรงงานให้ได้มากที่สุด
05:50
Thinking it through, I realized that all those attributes
111
332000
3000
เมื่อคิดตลอดแล้ว ผมก็ตระหนักว่าเราต้องเปลี่ยนลักษณะเหล่านี้
05:53
must be changed to move T to the denominator.
112
335000
5000
เพื่อย้ายเทคโนโลยีจากตัวคูณไปเป็นตัวหาร
05:58
In the new industrial revolution extractive must be replaced by renewable;
113
340000
5000
ในการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งใหม่ เราต้องแทนที่การตักตวงด้วยการทดแทน
06:03
linear by cyclical;
114
345000
2000
วงกลมแทนที่เส้นตรง
06:05
fossil fuel energy by renewable energy, sunlight;
115
347000
4000
พลังงานหมุนเวียน แสงอาทิตย์ แทนที่พลังงานฟอสซิล
06:09
wasteful by waste-free;
116
351000
2000
ปลอดของเสียแทนที่สิ้นเปลือง
06:11
and abusive by benign;
117
353000
2000
และอ่อนโยนแทนที่กดขี่
06:13
and labor productivity by resource productivity.
118
355000
4000
ผลิตภาพทรัพยากรแทนที่ผลิตภาพแรงงาน
06:17
And I reasoned that if we could make those transformative changes,
119
359000
4000
ผมให้เหตุผลว่า ถ้าหากเราเปลี่ยนเชิงปฏิรูปทั้งหมดนี้ได้
06:21
and get rid of T1 altogether,
120
363000
2000
กำจัด T1 ไปเลย
06:23
we could reduce our impact to zero,
121
365000
3000
เราก็จะสามารถลดผลกระทบของเราลงเหลือศูนย์
06:26
including our impact on the climate.
122
368000
3000
รวมทั้งผลกระทบของเราต่อสภาพภูมิอากาศด้วย
06:29
And that became the Interface plan in 1995,
123
371000
3000
นั่นกลายเป็นแผนของอินเทอร์เฟซในปี 1995
06:32
and has been the plan ever since.
124
374000
3000
และก็เป็นแผนของเราตลอดมา
06:35
We have measured our progress very rigorously.
125
377000
4000
เราได้วัดความคืบหน้าของเราอย่างเคร่งครัด
06:39
So I can tell you how far we have come in the ensuing 12 years.
126
381000
4000
ผมก็เลยบอกคุณได้ว่า ในช่วงเวลา 12 ปีที่ผ่านมา
06:43
Net greenhouse gas emissions
127
385000
2000
เราลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อย
06:45
down 82 percent in absolute tonnage.
128
387000
4000
ลดปริมาณรวม ลงได้ร้อยละ 82
06:49
(Applause)
129
391000
4000
(เสียงปรบมือ)
06:53
Over the same span of time
130
395000
2000
ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น
06:55
sales have increased by two-thirds and profits have doubled.
131
397000
3000
ยอดขายของเราเพิ่มขึ้นสองในสาม และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นสองเท่า
06:58
So an 82 percent absolute reduction
132
400000
3000
ดังนั้นการลดก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ 82
07:01
translates into a 90 percent reduction
133
403000
2000
จึงเท่ากับลดความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจก
07:03
in greenhouse gas intensity relative to sales.
134
405000
4000
ลงได้ถึงร้อยละ 90 เทียบกับยอดขาย
07:07
This is the magnitude
135
409000
2000
นี่คือระดับที่
07:09
of the reduction the entire global technosphere
136
411000
3000
โลกธุรกิจทั้งใบจะต้องลดให้ได้
07:12
must realize by 2050
137
414000
3000
ภายในปี 2050
07:15
to avoid catastrophic climate disruption --
138
417000
3000
เพื่อหลีกเลี่ยงหายนะรุนแรงทางสภาพภูมิอากาศ
07:18
so the scientists are telling us.
139
420000
3000
นี่คือสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์กำลังบอกเรา
07:21
Fossil fuel usage is down 60 percent per unit of production,
140
423000
4000
ในขณะเดียวกัน อินเทอร์เฟซใช้พลังงานฟอสซิลน้อยลงร้อยละ 60 ต่อการผลิตหนึ่งหน่วย
07:25
due to efficiencies in renewables.
141
427000
2000
เนื่องมาจากประสิทธิภาพของพลังงานหมุนเวียน
07:27
The cheapest, most secure barrel of oil there is
142
429000
3000
น้ำมันถังที่ถูกที่สุดและมั่นคงที่สุดในโลก
07:30
is the one not used through efficiencies.
143
432000
3000
คือถังที่เราไม่ต้องใช้เพราะมีประสิทธิภาพดีมาก
07:33
Water usage is down 75 percent
144
435000
3000
เราลดปริมาณการใช้น้ำลงได้ร้อยละ 75
07:36
in our worldwide carpet tile business.
145
438000
2000
ในธุรกิจพรมแผ่นทั่วโลกของเรา
07:38
Down 40 percent in our broadloom carpet business,
146
440000
3000
ลดได้ร้อยละ 40 ในธุรกิจพรมทอของเรา
07:41
which we acquired in 1993
147
443000
2000
ที่เราซื้อกิจการมาในปี 1993
07:43
right here in California, City of Industry,
148
445000
2000
ลดได้ในรัฐแคลิฟอร์เนียนี่เลยครับ ในเมืองแห่งอุตสาหกรรม
07:45
where water is so precious.
149
447000
3000
ซึ่งน้ำมีค่าเหลือคณานับ
07:48
Renewable or recyclable materials are 25 percent of the total, and growing rapidly.
150
450000
4000
วัสดุที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้มีสัดส่วนร้อยละ 25 และเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
07:52
Renewable energy is 27 percent of our total,
151
454000
3000
เราใช้พลังงานหมุนเวียนร้อยละ 27 ของพลังงานทั้งหมด
07:55
going for 100 percent.
152
457000
2000
ตั้งเป้าจะไปให้ถึงร้อยละ 100
07:57
We have diverted 148 million pounds --
153
459000
3000
เราได้กู้คืนพรมใช้แล้วกว่า 148 ล้านปอนด์ --
08:00
that's 74,000 tons --
154
462000
2000
นั่นคือเท่ากับ 74,000 ตัน ---
08:02
of used carpet from landfills,
155
464000
3000
เก็บมาจากกองขยะ
08:05
closing the loop on material flows
156
467000
2000
ปิดวงจรไหลเวียนของวัสดุให้เป็นวงกลม
08:07
through reverse logistics
157
469000
2000
ผ่านการใช้โลจิสติกส์มุมย้อน (reverse logistics)
08:09
and post-consumer recycling technologies
158
471000
3000
และเทคโนโลยีรีไซเคิลหลังการบริโภค
08:12
that did not exist when we started 14 years ago.
159
474000
4000
ซึ่งตอนที่เราเริ่มเมื่อ 14 ปีก่อนยังไม่มีเลย
08:16
Those new cyclical technologies
160
478000
2000
เทคโนโลยีวงกลมใหม่ๆ เหล่านี้
08:18
have contributed mightily to the fact that we have produced and sold
161
480000
3000
มีส่วนอย่างมากในการทำให้เราสามารถผลิตและขาย
08:21
85 million square yards of climate-neutral carpet
162
483000
4000
พรมที่ปล่อยคาร์บอนสุทธิเท่ากับศูนย์ 85 ล้านตารางหลา
08:25
since 2004,
163
487000
2000
ตั้งแต่ปี 2004
08:27
meaning no net contribution to global climate disruption
164
489000
4000
นั่นแปลว่าเราไม่ได้ก่อผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศโลกเลย
08:31
in producing the carpet throughout the supply chain,
165
493000
2000
เวลาที่เราผลิตพรม ตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทานของเรา
08:33
from mine and well head clear to end-of-life reclamation --
166
495000
5000
ตั้งแต่เหมืองและแท่นหลุมผลิต ไปจนถึงการกู้คืน ณ จุดจบวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์
08:38
independent third-party certified.
167
500000
2000
กระบวนการทั้งหมดนี้มีผู้ตรวจสอบอิสระรับรอง
08:40
We call it Cool Carpet.
168
502000
3000
เราเรียกมันว่า คูล คาร์เพ็ท
08:43
And it has been a powerful marketplace differentiator,
169
505000
3000
ซึ่งมันก็สร้างความแตกต่างอันทรงพลังให้กับเราในตลาด
08:46
increasing sales and profits.
170
508000
2000
ช่วยเพิ่มยอดขายและผลกำไร
08:48
Three years ago we launched carpet tile for the home,
171
510000
4000
เมื่อสามปีก่อน เราออกผลิตภัณฑ์พรมแผ่นสำหรับบ้าน
08:52
under the brand Flor,
172
514000
2000
ภายใต้ยี่ห้อ Flor
08:54
misspelled F-L-O-R.
173
516000
3000
ตั้งใจสะกดผิดว่า F-L-O-R (แทนที่ Floor ซึ่งแปลว่า พื้น-ผู้แปล)
08:57
You can point and click today at Flor.com
174
519000
2000
วันนี้คุณเข้าไปดูได้ครับที่เว็บไซต์ Flor.com
08:59
and have Cool Carpet delivered to your front door in five days.
175
521000
4000
แล้วเราจะส่ง คูล คาร์เพ็ท ถึงประตูบ้านคุณภายในห้าวัน
09:03
It is practical, and pretty too.
176
525000
3000
มันใช้ได้ดี แล้วก็ดูดีด้วยครับ
09:06
(Laughter)
177
528000
1000
(เสียงหัวเราะ)
09:07
(Applause)
178
529000
6000
(ปรบมือ)
09:13
We reckon that we are a bit over halfway
179
535000
2000
ตอนนี้เรามองว่าเรามาถึงครึ่งทางแล้ว
09:15
to our goal: zero impact, zero footprint.
180
537000
5000
ครึ่งทางสู่จุดหมาย -- ผลกระทบเหลือศูนย์ รอยเท้าเหลือศูนย์
09:20
We've set 2020 as our target year for zero,
181
542000
3000
เราตั้งเป้าว่าจะทำให้ถึงศูนย์ภายในปี 2020
09:23
for reaching the top, the summit of Mount Sustainability.
182
545000
5000
นั่นคือเป้าหมายสูงสุด ยอดเขาความยั่งยืน
09:28
We call this Mission Zero.
183
550000
2000
เราเรียกพันธกิจนี้ว่า ปฏิบัติการศูนย์ (Mission Zero)
09:30
And this is perhaps the most important facet:
184
552000
3000
ทีนี้ผมอยากพูดถึงมิติที่อาจจะสำคัญที่สุด
09:33
we have found Mission Zero to be incredibly good for business.
185
555000
4000
คือเราพบว่า ปฏิบัติการศูนย์นี้ดีมากๆ เลยสำหรับธุรกิจเรา
09:37
A better business model,
186
559000
3000
มันเป็นโมเดลธุรกิจที่ดีกว่าเดิม
09:40
a better way to bigger profits.
187
562000
2000
เป็นวิธีเพิ่มกำไรที่ดีกว่าเดิม
09:42
Here is the business case for sustainability.
188
564000
3000
ต่อไปนี้เป็นเหตุผลทางธุรกิจของความยั่งยืนครับ --
09:45
From real life experience, costs are down, not up,
189
567000
4000
จากประสบการณ์จริงของผม พบว่าต้นทุนเราลดลง ไม่ได้เพิ่มขึ้น
09:49
reflecting some 400 million dollars
190
571000
2000
เราประหยัดเงินได้ประมาณ 400 ล้านเหรียญ
09:51
of avoided costs in pursuit of zero waste --
191
573000
4000
ประหยัดค่าใช้จ่าย ระหว่างการพยายามลดของเสียจนเหลือศูนย์
09:55
the first face of Mount Sustainability.
192
577000
3000
ซึ่งเป็นชะง่อนแรกของภูเขาความยั่งยืน
09:58
This has paid all the costs for the transformation of Interface.
193
580000
4000
เงินจำนวนนี้จ่ายค่าใช้จ่ายที่เราใช้ปฏิรูปอินเทอร์เฟซได้ทั้งหมด
10:02
And this dispels a myth too,
194
584000
2000
และมันก็กำจัดมายาคติด้วย
10:04
this false choice between the environment and the economy.
195
586000
4000
ที่บอกว่าเราต้องเลือกระหว่างสิ่งแวดล้อมกับเศรษฐกิจ
10:08
Our products are the best they've ever been,
196
590000
2000
ผลิตภัณฑ์ของเราดีที่สุดเท่าที่เคยเป็นมา
10:10
inspired by design for sustainability,
197
592000
2000
ได้รับแรงบันดาลใจจากการออกแบบเพื่อความยั่งยืน
10:12
an unexpected wellspring of innovation.
198
594000
4000
อันเป็นบ่อเกิดนวัตกรรมที่เราไม่คาดคิด
10:16
Our people are galvanized around this shared higher purpose.
199
598000
3000
พนักงานของเราร่วมแรงร่วมใจกันรอบๆ เป้าหมายสูงส่งกว่าเดิมข้อนี้
10:19
You cannot beat it for attracting the best people
200
601000
2000
ไม่มีอะไรสู้เป้าแบบนี้ได้หรอกครับ ในการดึงดูดคนที่เก่งที่สุด
10:21
and bringing them together.
201
603000
3000
สร้างแรงบันดาลใจให้พวกเขาร่วมงานกัน
10:24
And the goodwill of the marketplace is astonishing.
202
606000
3000
และไมตรีจิตที่เราได้รับจากตลาดนี้ก็น่าทึ่งมาก
10:27
No amount of advertising, no clever marketing campaign,
203
609000
4000
จะโฆษณาขนาดไหน ไม่ว่าแคมเปญโฆษณาจะฉลาดแค่ไหน
10:31
at any price, could have produced or created
204
613000
3000
ไม่ว่าจะแพงแค่ไหน ก็ไม่มีทางผลิตหรือสร้าง
10:34
this much goodwill.
205
616000
3000
ไมตรีจิตมหาศาลที่เราได้รับ
10:37
Costs, products, people, marketplaces --
206
619000
2000
ต้นทุน ผลิตภัณฑ์ พนักงาน ตลาด
10:39
what else is there?
207
621000
2000
มีอะไรอีกล่ะครับ?
10:41
It is a better business model.
208
623000
2000
นี่คือโมเดลธุรกิจที่ดีกว่าเก่า
10:43
And here is our 14-year record of sales and profits.
209
625000
5000
และนี่ก็คือสถิติยอดขายและผลกำไร 14 ปีของเรา
10:48
There is a dip there, from 2001 to 2003:
210
630000
3000
ตรงนี้ยุบลงไปนิดนะครับ ระหว่างปี 2001-2003
10:51
a dip when our sales, over a three-year period,
211
633000
2000
ตรงที่ยุบนี่ยอดขายของเราช่วง 3 ปีนั้น
10:53
were down 17 percent.
212
635000
2000
ตกลงไปร้อยละ 17
10:55
But the marketplace was down 36 percent.
213
637000
3000
แต่ตอนนั้นตลาดหดลงร้อยละ 36
10:58
We literally gained market share.
214
640000
2000
เท่ากับว่าเราได้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น
11:00
We might not have survived that recession
215
642000
3000
เราอาจจะรอดพ้นช่วงเศรษฐกิจถดถอยตอนนั้นมาไม่ได้
11:03
but for the advantages of sustainability.
216
645000
3000
ถ้าหากว่าไม่มีข้อได้เปรียบจากความยั่งยืน
11:06
If every business were pursuing Interface plans,
217
648000
4000
ถ้าหากธุรกิจทุกแห่งทำตามแผนของอินเทอร์เฟซ
11:10
would that solve all our problems?
218
652000
2000
มันจะกำจัดปัญหาทั้งหมดของเราได้หรือไม่?
11:12
I don't think so.
219
654000
2000
ผมไม่คิดว่าได้
11:14
I remain troubled by the revised Ehrlich equation,
220
656000
3000
ผมยังรู้สึกไม่สบายใจกับสมการเออร์ลิชที่แก้ใหม่
11:17
I equals P times A divided by T2.
221
659000
4000
I เท่ากับ P คูณ A หารด้วย T2
11:21
That A is a capital A,
222
663000
2000
เจ้า A (Affluence) ในนี้คือ A ตัวใหญ่ครับ
11:23
suggesting that affluence is an end in itself.
223
665000
5000
มันเสนอว่าความมั่งคั่งคือเป้าหมายในตัวมันเอง
11:28
But what if we reframed Ehrlich further?
224
670000
4000
แต่ถ้าหากเราปรับสมการเออร์ลิชอีกหน่อยล่ะ?
11:32
And what if we made A a lowercase 'a,'
225
674000
3000
สมมุติว่าเราทำให้ A กลายเป็น a ตัวเล็ก
11:35
suggesting that it is a means to an end,
226
677000
2000
เพื่อเสนอว่ามันเป็นเพียงวิถีทางสู่เป้าหมาย
11:37
and that end is happiness --
227
679000
3000
และเป้าหมายนั้นก็คือ ความสุข
11:40
more happiness with less stuff.
228
682000
3000
มีความสุขมากขึ้นด้วยข้าวของที่น้อยลง
11:43
You know that would reframe civilization itself --
229
685000
3000
คุณรู้ครับว่าถ้าทำอย่างนั้น มันก็จะเปลี่ยนอารยธรรม --
11:46
(Applause) --
230
688000
8000
(ปรบมือ)
11:54
and our whole system of economics,
231
696000
3000
และเปลี่ยนระบบเศรษฐศาสตร์ทั้งหมดของเรา
11:57
if not for our species, then perhaps for the one that succeeds us:
232
699000
6000
บางทีถ้าไม่เปลี่ยนเพื่อมนุษย์ ก็อาจเปลี่ยนเพื่อเผ่าพันธุ์ในอนาคต
12:03
the sustainable species, living on a finite earth,
233
705000
3000
เผ่าพันธุ์ที่ยั่งยืน ที่จะใช้ชีวิตอยู่บนโลกที่มีจำกัด
12:06
ethically, happily and ecologically
234
708000
3000
ใช้ชีวิตอย่างมีศีลธรรม อย่างมีความสุข และเป็นมิตรต่อระบบนิเวศ
12:09
in balance with nature
235
711000
2000
อยู่อย่างสมดุลกับธรรมชาติ
12:11
and all her natural systems for a thousand generations,
236
713000
3000
และระบบธรรมชาติทั้งหมดของเธอ อยู่ไปอีกหลายพันชั่วคน
12:14
or 10,000 generations --
237
716000
2000
หรือ 10,000 ชั่วคน
12:16
that is to say, into the indefinite future.
238
718000
3000
นั่นคือ อยู่ไปตราบนานเท่านาน
12:19
But does the earth have to wait for our extinction as a species?
239
721000
5000
แต่โลกธรรมชาติจะต้องรอให้มนุษย์เราสูญพันธุ์ก่อนหรือเปล่า?
12:24
Well maybe so. But I don't think so.
240
726000
3000
บางทีอาจเป็นอย่างนั้น แต่ผมไม่คิดเช่นนั้น
12:27
At Interface we really intend to bring this prototypical
241
729000
3000
ที่อินเทอร์เฟซ เราพยายามจริงๆ ครับที่จะนำบริษัทต้นแบบ
12:30
sustainable, zero-footprint industrial company
242
732000
3000
บริษัทอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน มีรอยเท้าเท่ากับศูนย์
12:33
fully into existence by 2020.
243
735000
3000
ให้มันเกิดขึ้นจริงภายในปี 2020
12:36
We can see our way now,
244
738000
2000
เรามองเห็นเส้นทางของเราแล้วครับ
12:38
clear to the top of that mountain.
245
740000
2000
มองเห็นชัดไปถึงยอดเขาลูกนั้น
12:40
And now the challenge is in execution.
246
742000
3000
ตอนนี้ความท้าทายอยู่ในการลงมือทำ
12:43
And as my good friend and adviser Amory Lovins says,
247
745000
3000
อย่างที่ เอมอรี ลอวินส์ เพื่อนและที่ปรึกษาของผม พูดว่า
12:46
"If something exists, it must be possible."
248
748000
4000
"ถ้าอะไรมีอยู่จริง มันก็ต้องเป็นไปได้จริง"
12:50
(Laughter)
249
752000
3000
(เสียงหัวเราะ)
12:53
If we can actually do it, it must be possible.
250
755000
3000
ถ้าเราทำได้จริงๆ มันก็ย่อมเป็นไปได้
12:56
If we, a petro-intensive company can do it, anybody can.
251
758000
4000
ถ้าเรา บริษัทที่ใช้ปิโตรเลียมมหาศาล ทำได้ ใครคนอื่นก็ทำได้
13:00
And if anybody can, it follows that everybody can.
252
762000
4000
และถ้าใครคนอื่นทำได้ ก็แปลว่าทุกคนต้องทำได้
13:04
Hawken fulfilled business and industry,
253
766000
3000
ฮอว์เคนช่วยเติมเต็มธุรกิจและอุตสาหกรรม
13:07
leading humankind away from the abyss
254
769000
4000
นำมนุษยชาติถอยห่างมาจากปากเหว
13:11
because, with continued unchecked decline of the biosphere,
255
773000
5000
เพราะการที่โลกชีวมณฑลเสื่อมโทรมลงเรื่อยๆ อย่างไร้การควบคุม
13:16
a very dear person is at risk here --
256
778000
3000
ทำให้คนที่เรารักมากตกอยู่ในความเสี่ยง
13:19
frankly, an unacceptable risk.
257
781000
2000
ความเสี่ยงที่เรารับไม่ได้ครับ
13:21
Who is that person?
258
783000
2000
คนคนนั้นคือใคร?
13:23
Not you. Not I.
259
785000
2000
ไม่ใช่คุณ ไม่ใช่ผม
13:25
But let me introduce you to the one who is most at risk here.
260
787000
3000
ผมขอแนะนำให้คุณรู้จักกับคนที่ตกอยู่ในความเสี่ยงที่สุด
13:28
And I myself met this person in the early days of this mountain climb.
261
790000
4000
ผมเองได้พบกับเขาตอนที่เราเริ่มปีนเขาความยั่งยืนไม่นาน
13:32
On a Tuesday morning in March of 1996,
262
794000
4000
พบกันในเช้าวันอังคารวันหนึ่ง เดือนมีนาคม ปี 1996
13:36
I was talking to people, as I did at every opportunity back then,
263
798000
3000
ผมกำลังคุยกับคน ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ผมทำทุกโอกาสที่ตอนนั้นมี
13:39
bringing them along and often not knowing whether I was connecting.
264
801000
4000
พยายามชักนำผู้คนมาทำเรื่องนี้ ส่วนใหญ่ผมไม่รู้หรอกว่าเข้าถึงเขาหรือเปล่า
13:43
But about five days later back in Atlanta,
265
805000
3000
แต่ประมาณห้าวันหลังจากนั้น เมื่อผมกลับถึงแอตแลนตาแล้ว
13:46
I received an email from Glenn Thomas,
266
808000
3000
ผมก็ได้รับอีเมลจาก เกล็น ธอมัส
13:49
one of my people in the California meeting.
267
811000
2000
พนักงานของผมคนหนึ่งที่อยู่ในที่ประชุมแคลิฟอร์เนีย
13:51
He was sending me an original poem
268
813000
2000
เขาส่งบทกวีมาให้ผมชิ้นหนึ่ง
13:53
that he had composed after our Tuesday morning together.
269
815000
3000
แต่งเองหลังเช้าวันอังคารที่เราคุยกัน
13:56
And when I read it it was one of the most uplifting moments of my life.
270
818000
4000
ตอนที่ผมอ่านบทกวีชิ้นนั้น ผมรู้สึกอิ่มเอมใจที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต
14:00
Because it told me, by God, one person got it.
271
822000
4000
เพราะมันบอกผมว่า ให้ตายเถอะ มีคนหนึ่งคนที่เข้าใจ
14:04
Here is what Glenn wrote. And here is that person, most at risk.
272
826000
4000
เกล็นแต่งว่าอย่างนี้ครับ และนี่ก็คือคนที่พบกับความเสี่ยงสูงสุด
14:08
Please meet "Tomorrow's Child."
273
830000
4000
ขอเชิญพบกับ "เด็กแห่งวันพรุ่ง"
14:12
"Without a name, an unseen face, and knowing not your time or place,
274
834000
4000
"เจ้าคือผู้ไร้หน้าและไร้นาม ไร้โมงยามปราศที่ทางที่วางแผน
14:16
Tomorrow's child, though yet unborn,
275
838000
3000
เป็นเด็กของวันพรุ่งในดินแดน ทว่า-แม้นเจ้ายังไม่เกิดมา
14:19
I met you first last Tuesday morn.
276
841000
3000
ข้าพบเจ้าเช้าอังคารที่ผ่านพ้น
14:22
A wise friend introduced us two.
277
844000
2000
มิตรผู้ดลจิตใจใฝ่ปัญหา
14:24
And through his sobering point of view
278
846000
2000
พาให้เราพบกันผ่านปัญญา
14:26
I saw a day that you would see, a day for you but not for me.
279
848000
5000
ให้ข้าเห็นวันของเจ้า-จึงเข้าใจ
14:31
Knowing you has changed my thinking.
280
853000
2000
เมื่อพบเจ้าข้าครั่นคร้าม เปลี่ยนความคิด
14:33
For I never had an inkling
281
855000
2000
ทีละนิดได้ตระหนักปนสงสัย
14:35
that perhaps the things I do might someday,
282
857000
3000
ว่าบางทีสิ่งที่ข้าทำลงไป
14:38
somehow threaten you.
283
860000
3000
อาจทำให้เจ้าเสี่ยงภัยพ้นวัยเยาว์
14:41
Tomorrow's child, my daughter, son,
284
863000
2000
เด็กน้อยของวันพรุ่ง ลูกชาย-หญิง
14:43
I'm afraid I've just begun to think of you and of your good,
285
865000
2000
ข้ากริ่งเกรงว่าเพิ่งคิดประโยชน์เจ้า
14:45
though always having known I should.
286
867000
4000
ทั้งที่รู้-ที่เคยทำเพียงทำเนา
14:49
Begin, I will.
287
871000
2000
จะเลิกดูลาดเลาเริ่มเอาจริง
14:51
The way the cost of what I squander, what is lost,
288
873000
3000
คิดต้นทุนของสิ่งที่ข้าปล้น ที่ทุกคนถลุงสิ้นสรรพสิ่ง
14:54
if ever I forget that you
289
876000
2000
ไม่ลืมว่าวันหนึ่งเจ้าจะชิง
14:56
will someday come and live here too."
290
878000
4000
เกิดมาพักพึ่งพิงโลกเดียวกัน"
15:00
Well, every day of my life since,
291
882000
2000
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทุกวันของชีวิตผม
15:02
"Tomorrow's Child" has spoken to me
292
884000
2000
"เด็กของวันพรุ่ง" ก็ได้พูดกับผม
15:04
with one simple but profound message,
293
886000
2000
สื่อสารที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้งสารเดียว
15:06
which I presume to share with you.
294
888000
2000
ที่ผมอยากแบ่งปันให้กับทุกคนในที่นี้
15:08
We are, each and every one,
295
890000
2000
พวกเราทุกคน แต่ละคน
15:10
a part of the web of life.
296
892000
3000
เป็นส่วนหนึ่งของสายใยชีวิต
15:13
The continuum of humanity, sure, but in a larger sense, the web of life itself.
297
895000
4000
สายธารแห่งมนุษยชาติ แต่สายใยของชีวิตในความหมายที่ใหญ่กว่าด้วย
15:17
And we have a choice to make
298
899000
2000
และเราก็ต้องตัดสินใจ
15:19
during our brief, brief visit
299
901000
2000
ระหว่างที่ใช้ชีวิตอันแสนสั้น
15:21
to this beautiful blue and green living planet:
300
903000
4000
เป็นผู้มาเยือนโลกสีฟ้าและเขียว โลกอันสวยงามและมีชีวิต
15:25
to hurt it or to help it.
301
907000
3000
ว่าเราจะทำร้ายมัน หรือจะช่วยเหลือมัน
15:28
For you, it's your call.
302
910000
3000
เป็นเรื่องที่คุณต้องตัดสินใจ
15:31
Thank you.
303
913000
2000
ขอบคุณครับ
15:33
(Applause)
304
915000
15000
(ปรบมือ)
ABOUT THE SPEAKER
Ray Anderson - Sustainable-business pioneerRay Anderson founded the company that makes covetable Flor carpeting. But behind the fresh design is a decades-deep commitment to sustainable ways of doing business -- culminating in the Mission Zero plan.
Why you should listen
Ray Anderson founded Interface, the company that makes those adorable Flor carpet tiles (as well as lots of less whizzy but equally useful flooring and fabric). He was a serious carpet guy, focused on building his company and making great products. Then he read Paul Hawken's book The Ecology of Commerce. Something clicked: with his company's global reach and manufacturing footprint, he was in a position to do something very real, very important, in building a sustainable world.
Anderson focused the company's attention on sustainable decisionmaking, taking a hard look at suppliers, manufacturing processes, and the beginning-to-end life cycle of all its products. (For example: If you can't find a place to recycle a worn or damaged Flor tile, Interface invites you to send it back to them and they'll do it for you.) They call this drive Mission Zero: "our promise to eliminate any negative impact our company may have on the environment by the year 2020."
Anderson, who died in August 2011, estimated that since 2001 he'd given more than 1,000 speeches making the business case for sustainability. He often ended his talks with the poem "Tomorrow's Child," written by an Interface employee, Glenn Thomas.
Ray Anderson | Speaker | TED.com