ABOUT THE SPEAKER
Nicholas Christakis - Physician, social scientist
Nicholas Christakis explores how the large-scale, face-to-face social networks in which we are embedded affect our lives, and what we can do to take advantage of this fact.

Why you should listen

People aren't merely social animals in the usual sense, for we don't just live in groups. We live in networks -- and we have done so ever since we emerged from the African savannah. Via intricately branching paths tracing out cascading family connections, friendship ties, and work relationships, we are interconnected to hundreds or even thousands of specific people, most of whom we do not know. We affect them and they affect us.

Nicholas Christakis' work examines the biological, psychological, sociological, and mathematical rules that govern how we form these social networks, and the rules that govern how they shape our lives. His work shows how phenomena as diverse as obesity, smoking, emotions, ideas, germs, and altruism can spread through our social ties, and how genes can partially underlie our creation of social ties to begin with. His work also sheds light on how we might take advantage of an understanding of social networks to make the world a better place.

At Yale, Christakis is a Professor of Social and Natural Science, and he directs a diverse research group in the field of biosocial science, primarily investigating social networks. His popular undergraduate course "Health of the Public" is available as a podcast. His book, Connected, co-authored with James H. Fowler, appeared in 2009, and has been translated into 20 languages. In 2009, he was named by Time magazine to its annual list of the 100 most influential people in the world, and also, in 2009 and 2010, by Foreign Policy magazine to its list of 100 top global thinkers

More profile about the speaker
Nicholas Christakis | Speaker | TED.com
TED2010

Nicholas Christakis: The hidden influence of social networks

นิโคลัส คริสทากิส: อิทธิพลซ้อนเร้นของเครือข่ายทางสังคม

Filmed:
1,674,218 views

พวกเราถูกฝังเข้าไปในโครงข่ายทางสังคมอันยิ่งใหญ่ ของหมู่เพื่อน ครอบครัว เพื่อนร่วมงาน และอีกมากมาย นิโคลัส คริสทากิสได้ติดตามร่องรอยที่หลากหลายเหล่านี้-- จากเรื่องของความสุขไปจนถึงโรคอ้วน -- ที่สามารถแพร่จากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่ง และจะแสดงให้เห็นว่าจุดที่คุณอยู่ในโครงข่ายสังคม มีผลกระทบต่อชีวิตของคุณในหลายๆทาง อย่างที่คุณเองก็ยังไม่รู้มาก่อน
- Physician, social scientist
Nicholas Christakis explores how the large-scale, face-to-face social networks in which we are embedded affect our lives, and what we can do to take advantage of this fact. Full bio

Double-click the English transcript below to play the video.

00:16
For me, this storyเรื่องราว beginsเริ่มต้น about 15 yearsปี agoมาแล้ว,
0
1000
3000
เรื่องของผมนี้ เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 15 ปี ก่อน
00:19
when I was a hospiceบ้านพักรับรองพระธุดงค์ doctorคุณหมอ at the Universityมหาวิทยาลัย of Chicagoเมืองชิคาโก.
1
4000
3000
ตอนที่ผมต้องดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายที่มหาวิทยาลัยชิคาโก
00:22
And I was takingการ careการดูแล of people who were dyingเฮือกสุดท้าย and theirของพวกเขา familiesครอบครัว
2
7000
3000
และผมต้องดูแลคนที่กำลังจะตาย รวมไปถึงครอบครัวของเขา
00:25
in the Southภาคใต้ Sideด้าน of Chicagoเมืองชิคาโก.
3
10000
2000
ทางตอนใต้ของชิคาโก
00:27
And I was observingการสังเกต what happenedที่เกิดขึ้น to people and theirของพวกเขา familiesครอบครัว
4
12000
3000
แล้วผมก็สังเกตเห็นว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับคนเหล่านั้น และครอบครัวของเขา
00:30
over the courseหลักสูตร of theirของพวกเขา terminalสถานีปลายทาง illnessเจ็บป่วย.
5
15000
3000
ตลอดช่วงการป่วยระยะสุดท้ายของพวกเขา
00:33
And in my labห้องปฏิบัติการ, I was studyingการศึกษา the widowerพ่อหม้าย effectผล,
6
18000
2000
และในแลปของผม ผมได้ศึกษาเรื่องผลกระทบของสภาวะแม่ม่าย (widower effect)
00:35
whichที่ is a very oldเก่า ideaความคิด in the socialสังคม sciencesวิทยาศาสตร์,
7
20000
2000
ซึ่งเป็นแนวคิดทางสังคมวิทยาที่เก่ามากๆ
00:37
going back 150 yearsปี,
8
22000
2000
ตั้งกว่า 150 ปี ก่อน
00:39
knownที่รู้จักกัน as "dyingเฮือกสุดท้าย of a brokenแตก heartหัวใจ."
9
24000
2000
หรือที่รู้จักกันว่า "ตรอมใจตาย"
00:41
So, when I dieตาย, my wife'sภรรยา riskอันตราย of deathความตาย can doubleสอง,
10
26000
3000
ก็อย่างเช่น ถ้าผมตาย เมียผมก็มีความเสี่ยงที่จะตายเพิ่มเป็นสองเท่า
00:44
for instanceตัวอย่าง, in the first yearปี.
11
29000
2000
ในปีแรก อย่างนี้เป็นต้น
00:46
And I had goneที่ไปแล้ว to take careการดูแล of one particularโดยเฉพาะ patientผู้ป่วย,
12
31000
3000
และผมเคยได้ดูแลคนไข้พิเศษคนหนึ่ง
00:49
a womanหญิง who was dyingเฮือกสุดท้าย of dementiaการเป็นบ้า.
13
34000
2000
เธอเป็นคนไข้หญิงที่ป่วยด้วยโรคจิตเสื่อม
00:51
And in this caseกรณี, unlikeแตกต่าง this coupleคู่,
14
36000
2000
และในกรณีนี้ ไม่เหมือนกับคู่อื่น
00:53
she was beingกำลัง caredได้รับการดูแล for
15
38000
2000
เธอได้รับการดูแลจาก
00:55
by her daughterลูกสาว.
16
40000
2000
ลูกสาวของเธอ
00:57
And the daughterลูกสาว was exhaustedเหนื่อย from caringดูแล for her motherแม่.
17
42000
3000
และลูกสาวของเธอก็เหน็ดเหนื่อยกับการดูแลแม่ของเธอ
01:00
And the daughter'sลูกสาวของ husbandสามี,
18
45000
2000
และสามีของลูกสาว
01:02
he alsoด้วย was sickป่วย
19
47000
3000
เขาก็พลอยป่วยไปด้วย
01:05
from his wife'sภรรยา exhaustionความอ่อนเพลีย.
20
50000
2000
จากความเหน็ดเหนื่อยของภรรยา
01:07
And I was drivingการขับขี่ home one day,
21
52000
2000
วันหนึ่ง ระหว่างขับรถกลับบ้าน
01:09
and I get a phoneโทรศัพท์ call from the husband'sของสามี friendเพื่อน,
22
54000
3000
ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนของสามี
01:12
callingการเรียกร้อง me because he was depressedตกต่ำ
23
57000
2000
โทรมาหาผมเพราะเขารู้สึกซึมเศร้า
01:14
about what was happeningสิ่งที่เกิดขึ้น to his friendเพื่อน.
24
59000
2000
เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับเพื่อนของเขา
01:16
So here I get this call from this randomสุ่ม guy
25
61000
2000
ดูซิ ผมได้รับโทรศัพท์จากใครก็ไม่รู้
01:18
that's havingมี an experienceประสบการณ์
26
63000
2000
ที่ต้องเผชิญกับ
01:20
that's beingกำลัง influencedอิทธิพล by people
27
65000
2000
อิทธิพลจากคนอื่น
01:22
at some socialสังคม distanceระยะทาง.
28
67000
2000
ที่ไม่ได้ใกล้ชิดกัน
01:24
And so I suddenlyทันใดนั้น realizedตระหนัก two very simpleง่าย things:
29
69000
3000
นี่มันทำให้ผมคิดถึงเรื่องธรรมดาๆ สองเรื่อง
01:27
First, the widowhoodความเป็นม่าย effectผล
30
72000
2000
อย่างแรกก็คือ ผลกระทบของสภาวะแม่ม่าย
01:29
was not restrictedจำกัด to husbandsสามี and wivesภรรยา.
31
74000
3000
ไม่ได้จำกัดอยู่แค่สามีภรรยา
01:32
And secondที่สอง, it was not restrictedจำกัด to pairsคู่ of people.
32
77000
3000
และสอง มันไม่ได้จำกัดให้เป็นคู่ๆ
01:35
And I startedเริ่มต้น to see the worldโลก
33
80000
2000
และผมก็เริ่มมองโลก
01:37
in a wholeทั้งหมด newใหม่ way,
34
82000
2000
ในมุมที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิง
01:39
like pairsคู่ of people connectedเกี่ยวข้อง to eachแต่ละ other.
35
84000
3000
เหมือนกับผู้คนเป็นคู่เชื่อมต่อซึ่งกันและกัน
01:42
And then I realizedตระหนัก that these individualsบุคคล
36
87000
2000
และแล้วจู่ๆ ผมก็ตระหนักได้ว่าผู้คนเหล่านี้
01:44
would be connectedเกี่ยวข้อง into foursomesวา with other pairsคู่ of people nearbyใกล้เคียง.
37
89000
3000
ก็จะเชื่อมต่อกับคู่อื่นที่อยู่ใกล้ๆ กัน กลายเป็นกลุ่มของคนสี่คน
01:47
And then, in factความจริง, these people
38
92000
2000
และในความเป็นจริง คนเหล่านั้น
01:49
were embeddedที่ฝัง in other sortsทุกประเภท of relationshipsสัมพันธ์:
39
94000
2000
ก็จะมีความสัมพันธ์กันในอีกหลายรูปแบบ
01:51
marriageการแต่งงาน and spousalพิธีวิวาห์
40
96000
2000
ชีวิตสมรส และคู่สามีภรรยา
01:53
and friendshipมิตรภาพ and other sortsทุกประเภท of tiesความสัมพันธ์.
41
98000
2000
ความเป็นเพื่อน และความสัมพันธ์อย่างอื่น
01:55
And that, in factความจริง, these connectionsสัมพันธ์ were vastกว้างใหญ่
42
100000
3000
และในความเป็นจริง ความสัมพันธ์เหล่านี้มันกว้างใหญ่
01:58
and that we were all embeddedที่ฝัง in this
43
103000
2000
และพวกเราก็ได้ฝังตัวอยู่ใน
02:00
broadกว้าง setชุด of connectionsสัมพันธ์ with eachแต่ละ other.
44
105000
3000
เครือข่ายของความสัมพันธ์ ของกันและกัน
02:03
So I startedเริ่มต้น to see the worldโลก in a completelyอย่างสมบูรณ์ newใหม่ way
45
108000
3000
ดังนั้น ผมก็เริ่มที่จะเห็นโลกในมุมที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง
02:06
and I becameกลายเป็น obsessedหมกมุ่น with this.
46
111000
2000
และผมก็เริ่มหมกมุ่นอยู่กับเรื่องนี้
02:08
I becameกลายเป็น obsessedหมกมุ่น with how it mightอาจ be
47
113000
2000
ผมเฝ้าคิดว่า มันเป็นไปได้อย่างไร
02:10
that we're embeddedที่ฝัง in these socialสังคม networksเครือข่าย,
48
115000
2000
ที่พวกเราจะถูกผูกติดไปกับเครือข่ายทางสังคมเหล่านี้
02:12
and how they affectมีผลต่อ our livesชีวิต.
49
117000
2000
และมันมีผลต่อชีวิตพวกเราอย่างไร
02:14
So, socialสังคม networksเครือข่าย are these intricateสลับซับซ้อน things of beautyความงาม,
50
119000
3000
ดังนั้น เครือข่ายทางสังคมเป็นความงาม ที่ละเอียดอ่อน
02:17
and they're so elaborateทำอย่างละเอียด and so complexซับซ้อน
51
122000
2000
ที่ลึกซึ้ง และซับซ้อน
02:19
and so ubiquitousแพร่หลาย, in factความจริง,
52
124000
2000
และที่จริง ก็พบเห็นได้ทั่วไป
02:21
that one has to askถาม what purposeวัตถุประสงค์ they serveบริการ.
53
126000
3000
จนมีคนถามว่ามันมีหน้าที่อะไร
02:24
Why are we embeddedที่ฝัง in socialสังคม networksเครือข่าย?
54
129000
2000
แล้วทำไมพวกเราถึงผูกติดไปกับเครือข่ายทางสังคม
02:26
I mean, how do they formฟอร์ม? How do they operateทำงาน?
55
131000
2000
ผมหมายถึงว่ามันก่อตัวขึ้นได้อย่างไร แล้วมันทำงานอย่างไร
02:28
And how do they effectผล us?
56
133000
2000
และมันมีผลอย่างไรกับเรา
02:30
So my first topicหัวข้อเรื่อง with respectเคารพ to this,
57
135000
3000
และดังนั้นหัวข้อแรกของผม ในเรื่องนี้
02:33
was not deathความตาย, but obesityความอ้วน.
58
138000
3000
ก็ไม่ใช่เรื่องการตาย แต่เป็นโรคอ้วน
02:36
It had becomeกลายเป็น trendyอินเทรนด์
59
141000
2000
ที่ทันทีทันใดก็กลายเป็นกระแสนิยม
02:38
to speakพูด about the "obesityความอ้วน epidemicที่ระบาด."
60
143000
2000
ที่ใครๆ ก็พาพูดกันเรื่อง "โรคอ้วนระบาด"
02:40
And, alongตาม with my collaboratorผู้ประสานงาน, Jamesเจมส์ Fowlerฟาวเลอร์,
61
145000
3000
ผม กับเพื่อนร่วมงานชื่อ เจมส์ ฟาวเลอร์
02:43
we beganเริ่ม to wonderน่าแปลกใจ whetherว่า obesityความอ้วน really was epidemicที่ระบาด
62
148000
3000
เราเริ่มจะสงสัยว่าโรคอ้วนมันเป็นโรคระบาดจริงๆ หรือเปล่า
02:46
and could it spreadกระจาย from personคน to personคน
63
151000
2000
แล้วมันสามารถแพร่กระจายจากคนสู่คน
02:48
like the fourสี่ people I discussedกล่าวถึง earlierก่อน.
64
153000
3000
เหมือนกับเรื่องสี่คนที่ผมได้กล่าวมาก่อนหน้านี้
02:51
So this is a slideสไลด์ of some of our initialแรกเริ่ม resultsผล.
65
156000
3000
สไลด์นี่เป็นผลการศึกษาเบื้องต้น
02:54
It's 2,200 people in the yearปี 2000.
66
159000
3000
ในคน 2,200 คน เมื่อปี 2000
02:57
Everyทุกๆ dotจุด is a personคน. We make the dotจุด sizeขนาด
67
162000
2000
แต่ละจุด คือคนแต่ละคน เราใช้ขนาดของจุด
02:59
proportionalสัดส่วน to people'sของผู้คน bodyร่างกาย sizeขนาด;
68
164000
2000
ตามสัดส่วนของขนาดร่างกาย
03:01
so biggerที่ใหญ่กว่า dotsจุด are biggerที่ใหญ่กว่า people.
69
166000
3000
ดังนั้น ถ้าจุดใหญ่ ก็หมายถึงคนตัวใหญ่
03:04
In additionการเพิ่ม, if your bodyร่างกาย sizeขนาด,
70
169000
2000
และถ้าขนาดร่างกายของคุณ
03:06
if your BMIค่าดัชนีมวลกาย, your bodyร่างกาย massมวล indexดัชนี, is aboveข้างบน 30 --
71
171000
2000
เช่นถ้าดัชนีมวลกายของคุณเกิน 30
03:08
if you're clinicallyทางคลินิก obeseอ้วน --
72
173000
2000
ถ้าคุณอยู่ในภาวะอ้วนผิดปกติ
03:10
we alsoด้วย coloredมีสี the dotsจุด yellowสีเหลือง.
73
175000
2000
เราก็ทำจุดเป็นสีเหลือง
03:12
So, if you look at this imageภาพ, right away you mightอาจ be ableสามารถ to see
74
177000
2000
ดังนั้น ถ้าคุณดูภาพนี้ ก็จะเห็นได้ทันทีว่า
03:14
that there are clustersกลุ่ม of obeseอ้วน and
75
179000
2000
มันมีกลุ่มของคนอ้วน และ
03:16
non-obeseไม่อ้วน people in the imageภาพ.
76
181000
2000
กลุ่มของคนไม่อ้วนอยู่ในภาพ
03:18
But the visualภาพ complexityความซับซ้อน is still very highสูง.
77
183000
3000
แต่มันก็ยังดูสับสนมาก
03:21
It's not obviousชัดเจน exactlyอย่างแน่นอน what's going on.
78
186000
3000
เรายังเห็นสภาวะที่เกิดขึ้นได้ไม่ชัดเจนนัก
03:24
In additionการเพิ่ม, some questionsคำถาม are immediatelyทันที raisedยก:
79
189000
2000
ยิ่งไปกว่านั้น เราก็จะเริ่มเกิดคำถาม
03:26
How much clusteringการจัดกลุ่ม is there?
80
191000
2000
มีการเกาะกลุ่มกันมากแค่ไหน
03:28
Is there more clusteringการจัดกลุ่ม than would be dueครบกำหนด to chanceโอกาส aloneคนเดียว?
81
193000
3000
มากกว่าการเกาะกลุ่มที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญมั้ย
03:31
How bigใหญ่ are the clustersกลุ่ม? How farห่างไกล do they reachมาถึง?
82
196000
2000
กลุ่มพวกนี้ใหญ่แค่ไหน แล้วจะกระจายไปถึงไหน
03:33
And, mostมากที่สุด importantlyที่สำคัญ,
83
198000
2000
และที่สำคัญที่สุด
03:35
what causesสาเหตุ the clustersกลุ่ม?
84
200000
2000
กลุ่มก้อนเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
03:37
So we did some mathematicsคณิตศาสตร์ to studyศึกษา the sizeขนาด of these clustersกลุ่ม.
85
202000
3000
เราก็เลยลองคำนวณดู เพื่อศึกษาขนาดของแต่ละกลุ่มนี้
03:40
This here showsแสดงให้เห็นว่า, on the Y-axisแกน Y,
86
205000
2000
ซึ่งก็แสดงไว้บนแกน Y ในรูปนี้
03:42
the increaseเพิ่ม in the probabilityความน่าจะเป็น that a personคน is obeseอ้วน
87
207000
3000
โอกาสที่คนจะเป็นโรคอ้วนที่สูงขึ้น
03:45
givenรับ that a socialสังคม contactติดต่อ of theirsของพวกเขา is obeseอ้วน
88
210000
2000
หากผู้คนที่เขามีปฏิสัมพันธ์ด้วยนั้น เป็นโรคอ้วน
03:47
and, on the X-axisแกน X, the degreesองศา of separationการแยก betweenระหว่าง the two people.
89
212000
3000
และบนแกน X ซึ่งเป็นระยะห่างระหว่างคนสองคน
03:50
On the farห่างไกล left, you see the purpleสีม่วง lineเส้น.
90
215000
2000
บนแกนด้านซ้ายห่างออกไป คุณจะเห็นแท่งสีม่วง
03:52
It saysกล่าวว่า that, if your friendsเพื่อน are obeseอ้วน,
91
217000
2000
ซึ่งบอกเราว่า ถ้าเพื่อนเราอ้วน
03:54
your riskอันตราย of obesityความอ้วน is 45 percentเปอร์เซ็นต์ higherสูงกว่า.
92
219000
3000
ความเสี่ยงที่คุณจะอ้วนก็จะเพิ่มขึ้น 45%
03:57
And the nextต่อไป barบาร์ over, the [redสีแดง] lineเส้น,
93
222000
2000
และแท่งถัดมา อันสีแดง
03:59
saysกล่าวว่า if your friend'sเพื่อน friendsเพื่อน are obeseอ้วน,
94
224000
2000
บอกเราว่าถ้าเพื่อน ของเพื่อน ของคุณเป็นโรคอ้วน
04:01
your riskอันตราย of obesityความอ้วน is 25 percentเปอร์เซ็นต์ higherสูงกว่า.
95
226000
2000
โอกาสที่คุณจะอ้วนก็เพิ่มขึ้นอีก 25%
04:03
And then the nextต่อไป lineเส้น over saysกล่าวว่า
96
228000
2000
และกราฟแท่งถัดมาบอกเราว่า
04:05
if your friend'sเพื่อน friend'sเพื่อน friendเพื่อน, someoneบางคน you probablyอาจ don't even know, is obeseอ้วน,
97
230000
3000
ถ้าเพื่อน ของเพื่อน ของเพื่อน คนที่คุณอาจจะไม่รู้จักด้วยซ้ำ เกิดเป็นโรคอ้วน
04:08
your riskอันตราย of obesityความอ้วน is 10 percentเปอร์เซ็นต์ higherสูงกว่า.
98
233000
3000
คุณก็มีความเสี่ยงที่จะอ้วนเพิ่มขึ้น 10%
04:11
And it's only when you get to your friend'sเพื่อน friend'sเพื่อน friend'sเพื่อน friendsเพื่อน
99
236000
3000
เมื่อถึงเพื่อน ของเพื่อน ของเพื่อน ของเพื่อนเท่านั้น
04:14
that there's no longerอีกต่อไป a relationshipความสัมพันธ์
100
239000
2000
ที่จะไม่มีความสัมพันธ์กันเลย
04:16
betweenระหว่าง that person'sบุคคล bodyร่างกาย sizeขนาด and your ownด้วยตัวเอง bodyร่างกาย sizeขนาด.
101
241000
3000
ระหว่างน้ำหนักของคนๆ นั้น กับน้ำหนักของตัวคุณเอง
04:20
Well, what mightอาจ be causingการก่อให้เกิด this clusteringการจัดกลุ่ม?
102
245000
3000
เอาล่ะ แล้วอะไรเป็นต้นเหตุของการเกาะกลุ่มแบบนี้
04:23
There are at leastน้อยที่สุด threeสาม possibilitiesความเป็นไปได้:
103
248000
2000
ก็มีโอกาสเป็นได้อย่างน้อยสามทาง
04:25
One possibilityความเป็นไปได้ is that, as I gainได้รับ weightน้ำหนัก,
104
250000
2000
ทางแรก พอฉันน้ำหนักขึ้น
04:27
it causesสาเหตุ you to gainได้รับ weightน้ำหนัก.
105
252000
2000
เป็นเหตุให้เธอน้ำหนักขึ้น
04:29
A kindชนิด of inductionอุปนัย, a kindชนิด of spreadกระจาย from personคน to personคน.
106
254000
3000
ก็คล้ายๆ กับการเหนี่ยวนำ หรือการแพร่จากคนหนึ่ง ไปสู่อีกคนหนึ่ง
04:32
Anotherอื่น possibilityความเป็นไปได้, very obviousชัดเจน, is homophilyhomophily,
107
257000
2000
อีกทางที่เป็นไปได้ ที่ค่อนข้างจะชัดเจนคือ ความคล้ายคลึงกันของสมาชิกในสังคม
04:34
or, birdsนก of a featherขน flockฝูง togetherด้วยกัน;
108
259000
2000
หรือ "นกที่มีขนสีเดียวกัน ก็จะอยู่ฝูงเดียวกัน"
04:36
here, I formฟอร์ม my tieผูก to you
109
261000
2000
หรือในกรณีนี้ ฉันสร้างความสัมพันธ์กับคุณ
04:38
because you and I shareหุ้น a similarคล้ายคลึงกัน bodyร่างกาย sizeขนาด.
110
263000
3000
เพราะเรามีขนาดตัวใกล้เคียงกัน
04:41
And the last possibilityความเป็นไปได้ is what is knownที่รู้จักกัน as confoundingรบกวน,
111
266000
2000
และทางสุดท้าย คือสิ่งที่เรียกว่าปัจจัยร่วมซ่อนเร้น
04:43
because it confoundsทำลาย our abilityความสามารถ to figureรูป out what's going on.
112
268000
3000
เพราะมันจะซ่อนเร้น และบดบัง ถึงกับทำให้เรามองไม่ออกว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
04:46
And here, the ideaความคิด is not that my weightน้ำหนัก gainได้รับ
113
271000
2000
และถึงตรงนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องว่าฉันน้ำหนักขึ้น
04:48
is causingการก่อให้เกิด your weightน้ำหนัก gainได้รับ,
114
273000
2000
ก็เลยทำให้เธอน้ำหนักขึ้นไปด้วย
04:50
norไม่ that I preferentiallyอย่างพิเศษ formฟอร์ม a tieผูก with you
115
275000
2000
แล้วก็ไม่ใช่เรื่องว่า ฉันสร้างความสัมพันธ์กับเธอ
04:52
because you and I shareหุ้น the sameเหมือนกัน bodyร่างกาย sizeขนาด,
116
277000
2000
เพราะเรามีขนาดตัวใกล้เคียงกัน
04:54
but ratherค่อนข้าง that we shareหุ้น a commonร่วมกัน exposureการเปิดรับ
117
279000
2000
แต่เป็นเพราะ เราเจออะไรๆ คล้ายๆ กัน
04:56
to something, like a healthสุขภาพ clubสโมสร
118
281000
3000
อย่างเช่นไปออกกำลังที่เดียวกัน
04:59
that makesยี่ห้อ us bothทั้งสอง loseสูญเสีย weightน้ำหนัก at the sameเหมือนกัน time.
119
284000
3000
เพื่อจะลดน้ำหนักไปพร้อมๆ กัน
05:02
When we studiedมีการศึกษา these dataข้อมูล, we foundพบ evidenceหลักฐาน for all of these things,
120
287000
3000
ตอนที่เราศึกษาข้อมูลเหล่านี้ เราก็พบหลักฐานของทุกเรื่องนี้
05:05
includingรวมไปถึง for inductionอุปนัย.
121
290000
2000
รวมไปถึงการเหนี่ยวนำด้วย
05:07
And we foundพบ that if your friendเพื่อน becomesกลายเป็น obeseอ้วน,
122
292000
2000
และเราก็พบว่า ถ้าเพื่อนของเราอ้วน
05:09
it increasesเพิ่มขึ้น your riskอันตราย of obesityความอ้วน by about 57 percentเปอร์เซ็นต์
123
294000
3000
เราจะมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคอ้วนไปด้วยถึง 57%
05:12
in the sameเหมือนกัน givenรับ time periodระยะเวลา.
124
297000
2000
ในช่วงเวลาเดียวกัน
05:14
There can be manyจำนวนมาก mechanismsกลไก for this effectผล:
125
299000
3000
มันก็มีหลายวิธีที่ทำให้เกิดผลเช่นนั้น
05:17
One possibilityความเป็นไปได้ is that your friendsเพื่อน say to you something like --
126
302000
2000
ทางนึงก็อย่างเช่น เพื่อนคุณอาจจะพูดกับคุณว่า --
05:19
you know, they adoptนำมาใช้ a behaviorพฤติกรรม that spreadsการแพร่กระจาย to you --
127
304000
3000
ก็อย่างที่รู้กันล่ะ เพราะเขามีนิสัยที่กำลังจะแพร่มาหาคุณอยู่แล้ว
05:22
like, they say, "Let's go have muffinsมัฟฟิน and beerเบียร์,"
128
307000
3000
อย่างเช่น เขาพูดว่า "ไปกินมัฟฟิน กับเบียร์กันเถอะ"
05:25
whichที่ is a terribleน่ากลัว combinationการรวมกัน. (Laughterเสียงหัวเราะ)
129
310000
3000
ซึ่งเป็นการจับคู่ที่ไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่
05:28
But you adoptนำมาใช้ that combinationการรวมกัน,
130
313000
2000
แต่คุณก็ทำตาม
05:30
and then you startเริ่มต้น gainingดึงดูด weightน้ำหนัก like them.
131
315000
3000
แล้วคุณก็เริ่มจะน้ำหนักเพิ่มตามเขาไป
05:33
Anotherอื่น more subtleบอบบาง possibilityความเป็นไปได้
132
318000
2000
อีกอย่างที่น่าจะเป็นไปได้
05:35
is that they startเริ่มต้น gainingดึงดูด weightน้ำหนัก, and it changesการเปลี่ยนแปลง your ideasความคิด
133
320000
3000
ก็คือ พอเพื่อนคุณน้ำหนักเพิ่ม ก็เลยเปลี่ยนความคิดของคุณ
05:38
of what an acceptableยอมรับได้ bodyร่างกาย sizeขนาด is.
134
323000
2000
เกี่ยวกับขนาดของร่างกายที่ดูเหมาะ
05:40
Here, what's spreadingการแพร่กระจาย from personคน to personคน
135
325000
2000
นี่ก็เป็นสิ่งที่แพร่จากคนหนึ่ง ไปสู่อีกคนหนึ่ง
05:42
is not a behaviorพฤติกรรม, but ratherค่อนข้าง a normบรรทัดฐาน:
136
327000
2000
มันไม่ได้เป็นนิสัย แต่เป็นวิถีปฏิบัติ
05:44
An ideaความคิด is spreadingการแพร่กระจาย.
137
329000
2000
เป็นแนวคิดหนึ่งที่แพร่กระจายออกไป
05:46
Now, headlineพาดหัว writersนักเขียน
138
331000
2000
คราวนี้ คนเขียนพาดหัวข่าว
05:48
had a fieldสนาม day with our studiesการศึกษา.
139
333000
2000
เห็นงานวิจัยของเราเป็นโอกาสทอง
05:50
I think the headlineพาดหัว in The Newใหม่ Yorkนิวยอร์ก Timesไทม์ส was,
140
335000
2000
ผมว่าพาดหัวข่าวของนิวยอร์ค ไทม์ส คงจะเป็น
05:52
"Are you packingการบรรจุ it on?
141
337000
2000
"อ้วน?
05:54
Blameตำหนิ your fatอ้วน friendsเพื่อน." (Laughterเสียงหัวเราะ)
142
339000
3000
โทษเพื่อนอ้วน"
05:57
What was interestingน่าสนใจ to us is that the Europeanชาวยุโรป headlineพาดหัว writersนักเขียน
143
342000
2000
เรื่องที่น่าสนใจคือว่า นักเขียนพาดหัวข่าวทางยุโรป
05:59
had a differentต่าง take: They said,
144
344000
2000
ก็จะมองต่างไป เขาเขียนว่า
06:01
"Are your friendsเพื่อน gainingดึงดูด weightน้ำหนัก? Perhapsบางที you are to blameตำหนิ."
145
346000
3000
"เพื่อนของคุณน้ำหนักขึ้นรึ คุณอาจจะเป็นคนที่ต้องรับผิดชอบ"
06:04
(Laughterเสียงหัวเราะ)
146
349000
5000
(หัวเราะ)
06:09
And we thought this was a very interestingน่าสนใจ commentคิดเห็น on Americaสหรัฐอเมริกา,
147
354000
3000
เราคงจะคิดว่านี่เป็นคำติชมที่น่าสนใจมากสำหรับอเมริกา
06:12
and a kindชนิด of self-servingให้บริการด้วยตนเอง,
148
357000
2000
วิธีคิดที่เอาตัวเองเป็นใหญ่
06:14
"not my responsibilityความรับผิดชอบ" kindชนิด of phenomenonปรากฏการณ์.
149
359000
2000
เป็นปรากฏการณ์แบบ "นี่ไม่ใช่ความผิดชั้น"
06:16
Now, I want to be very clearชัดเจน: We do not think our work
150
361000
2000
คราวนี้ ผมอยากบอกให้ชัดนะครับ ว่าผมไม่คิดว่างานของเรา
06:18
should or could justifyแสดงให้เห็นถึง prejudiceอคติ
151
363000
2000
ควรถูกใช้เป็นข้ออ้างในการมีอคติ
06:20
againstต่อต้าน people of one or anotherอื่น bodyร่างกาย sizeขนาด at all.
152
365000
3000
ต่อบุคคลขนาดตัวแบบใดแบบหนึ่งเลย
06:24
Our nextต่อไป questionsคำถาม was:
153
369000
2000
คำถามต่อมาก็คือ
06:26
Could we actuallyแท้จริง visualizeจินตนาการ this spreadกระจาย?
154
371000
3000
เราจะเห็นการแพร่กระจายนี้ได้หรือไม่
06:29
Was weightน้ำหนัก gainได้รับ in one personคน actuallyแท้จริง spreadingการแพร่กระจาย
155
374000
2000
คนที่น้ำหนักเพิ่ม จะแพร่ไปสู่คนอื่นๆ
06:31
to weightน้ำหนัก gainได้รับ in anotherอื่น personคน?
156
376000
2000
และจะทำให้คนๆ นั้น น้ำหนักขึ้นได้ด้วยหรือ
06:33
And this was complicatedซับซ้อน because
157
378000
2000
เรื่องนี้มันซับซ้อน เพราะ
06:35
we neededจำเป็น to take into accountบัญชี the factความจริง that the networkเครือข่าย structureโครงสร้าง,
158
380000
3000
เราต้องนับปัจจัยที่ว่า โครงสร้างของเครือข่าย
06:38
the architectureสถาปัตยกรรม of the tiesความสัมพันธ์, was changingเปลี่ยนแปลง acrossข้าม time.
159
383000
3000
โครงสร้างของความสัมพันธ์ มันมีการเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา
06:41
In additionการเพิ่ม, because obesityความอ้วน is not a unicentricunicentric epidemicที่ระบาด,
160
386000
3000
ยิ่งไปกว่านั้น โรคอ้วนนี่ก็ไม่ได้แพร่ระบาดจากจุดๆ เดียว
06:44
there's not a Patientผู้ป่วย Zeroศูนย์ of the obesityความอ้วน epidemicที่ระบาด --
161
389000
3000
มันไม่มีคนไข้ "หมายเลขศูนย์" ในการระบาดของโรคอ้วน
06:47
if we find that guy, there was a spreadกระจาย of obesityความอ้วน out from him --
162
392000
3000
ที่หากเราหาตัวเจอ เราจะพบการระบาดออกจากคนๆ นั้น
06:50
it's a multicentricmulticentric epidemicที่ระบาด.
163
395000
2000
แต่มันเป็นการแพร่ระบาดจากหลายแหล่ง
06:52
Lots of people are doing things at the sameเหมือนกัน time.
164
397000
2000
มีผู้คนมากมาย ที่ทำอะไรพร้อมๆ กัน
06:54
And I'm about to showแสดง you a 30 secondที่สอง videoวีดีโอ animationภาพเคลื่อนไหว
165
399000
3000
ผมจะให้คุณดูวิดีโอราว 30 วินาที
06:57
that tookเอา me and Jamesเจมส์ fiveห้า yearsปี of our livesชีวิต to do.
166
402000
3000
ที่ผม และเจมส์ใช้เวลาทำมา 5 ปี
07:00
So, again, everyทุกๆ dotจุด is a personคน.
167
405000
2000
อีกครั้งนะครับ แต่ละจุด คือแต่ละคน
07:02
Everyทุกๆ tieผูก betweenระหว่าง them is a relationshipความสัมพันธ์.
168
407000
2000
เส้นที่โยงกัน คือความสัมพันธ์
07:04
We're going to put this into motionการเคลื่อนไหว now,
169
409000
2000
เราจะปล่อยให้มันเคลื่อนไปนะครับ
07:06
takingการ dailyประจำวัน cutsตัด throughตลอด the networkเครือข่าย for about 30 yearsปี.
170
411000
3000
ดูเป็นรายวัน ไปราวๆ 30 ปี
07:09
The dotจุด sizesขนาด are going to growเจริญ,
171
414000
2000
ขนาดของจุดจะใหญ่ขึ้น
07:11
you're going to see a seaทะเล of yellowสีเหลือง take over.
172
416000
3000
คุณจะได้เห็นคลื่นสีเหลืองที่จะเข้ายึดครอง
07:14
You're going to see people be bornโดยกำเนิด and dieตาย --
173
419000
2000
คุณจะได้เห็นผู้คนตั้งแต่เกิดจนตาย
07:16
dotsจุด will appearปรากฏ and disappearหายไป --
174
421000
2000
จุดจะปรากฎขึ้น และจะดับหายไป
07:18
tiesความสัมพันธ์ will formฟอร์ม and breakหยุด, marriagesการแต่งงาน and divorcesการหย่าร้าง,
175
423000
3000
ความสัมพันธ์จะก่อตัวขึ้น และจะแตกหัก มีการแต่งงาน และการหย่าร้าง
07:21
friendingsfriendings and defriendingsdefriendings.
176
426000
2000
เป็นเพื่อนกัน และตัดขาดกัน
07:23
A lot of complexityความซับซ้อน, a lot is happeningสิ่งที่เกิดขึ้น
177
428000
2000
มีความซับซ้อนมากมาย มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย
07:25
just in this 30-year-ปี periodระยะเวลา
178
430000
2000
นี่แค่เพียงใน 30 ปีนี้เท่านั้น
07:27
that includesรวมถึง the obesityความอ้วน epidemicที่ระบาด.
179
432000
2000
ที่เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคอ้วน
07:29
And, by the endปลาย, you're going to see clustersกลุ่ม
180
434000
2000
และเมื่อถึงตอนจบ คุณก็จะได้เห็นกลุ่มก้อน
07:31
of obeseอ้วน and non-obeseไม่อ้วน individualsบุคคล
181
436000
2000
ของคนที่อ้วน และไม่อ้วน
07:33
withinภายใน the networkเครือข่าย.
182
438000
2000
ในเครือข่ายนี้
07:35
Now, when lookedมอง at this,
183
440000
3000
เมื่อเราดูที่เรื่องนี้
07:38
it changedการเปลี่ยนแปลง the way I see things,
184
443000
3000
มันก็เปลี่ยนวิธีที่ผมมองเห็นสิ่งต่างๆ
07:41
because this thing, this networkเครือข่าย
185
446000
2000
เพราะสิ่งนี้ โครงข่ายนี้
07:43
that's changingเปลี่ยนแปลง acrossข้าม time,
186
448000
2000
มีการเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา
07:45
it has a memoryหน่วยความจำ, it movesการเคลื่อนไหว,
187
450000
3000
มันมีความทรงจำ มันเคลื่อนไหว
07:48
things flowไหล withinภายใน it,
188
453000
2000
มีการเคลื่อนไหวในตัวเอง
07:50
it has a kindชนิด of consistencyความมั่นคง --
189
455000
2000
แล้วก็ดูเหมือนจะมีความสม่ำเสมอ
07:52
people can dieตาย, but it doesn't dieตาย;
190
457000
2000
คนเราตายได้ แต่เครือข่ายไม่ตาย
07:54
it still persistsยังคงมีอยู่ --
191
459000
2000
มันยังอยู่คงทน
07:56
and it has a kindชนิด of resilienceความยืดหยุ่น
192
461000
2000
ดูเหมือนมันจะฟื้นคืนตัวได้
07:58
that allowsช่วยให้ it to persistสู้ acrossข้าม time.
193
463000
2000
ซึ่งก็ทำให้มันคงสภาพอยู่ได้ข้ามกาลเวลา
08:00
And so, I cameมา to see these kindsชนิด of socialสังคม networksเครือข่าย
194
465000
3000
ดังนั้น ผมจึงมองเครือข่ายทางสังคม
08:03
as livingการดำรงชีวิต things,
195
468000
2000
เป็นสิ่งมีชีวิต
08:05
as livingการดำรงชีวิต things that we could put underภายใต้ a kindชนิด of microscopeกล้องจุลทรรศน์
196
470000
3000
เป็นสิ่งมีชีวิต แบบที่เราสามารถจะเอาไปส่องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์
08:08
to studyศึกษา and analyzeวิเคราะห์ and understandเข้าใจ.
197
473000
3000
เพื่อศึกษา และวิเคราะห์ ทำความเข้าใจ
08:11
And we used a varietyความหลากหลาย of techniquesเทคนิค to do this.
198
476000
2000
ซึ่งเราก็ได้ใช้หลายวิธี
08:13
And we startedเริ่มต้น exploringการสำรวจ all kindsชนิด of other phenomenaปรากฏการณ์.
199
478000
3000
และเราก็เริ่มค้นหาปรากฏการณ์อย่างอื่น
08:16
We lookedมอง at smokingที่สูบบุหรี่ and drinkingการดื่ม behaviorพฤติกรรม,
200
481000
2000
เราดูที่พฤติกรรมการสูบบุหรี่ และการดื่ม
08:18
and votingการออกเสียง behaviorพฤติกรรม,
201
483000
2000
รวมถึงพฤติกรรมการลงคะแนน
08:20
and divorceหย่า -- whichที่ can spreadกระจาย --
202
485000
2000
และการหย่า --ซึ่งก็แพร่ได้ด้วย--
08:22
and altruismความบริสุทธิ์ใจ.
203
487000
2000
และการเห็นใจคนอื่น
08:24
And, eventuallyในที่สุด, we becameกลายเป็น interestedสนใจ in emotionsอารมณ์.
204
489000
3000
ในที่สุด เราก็เริ่มสนใจในเรื่องอารมณ์
08:28
Now, when we have emotionsอารมณ์,
205
493000
2000
เดี๋ยวนี้ ถ้าเราเกิดอารมณ์
08:30
we showแสดง them.
206
495000
2000
เราก็แสดงออก
08:32
Why do we showแสดง our emotionsอารมณ์?
207
497000
2000
ทำไมเราถึงแสดงอารมณ์ล่ะ
08:34
I mean, there would be an advantageความได้เปรียบ to experiencingประสบ
208
499000
2000
ผมหมายถึงว่า มันมีความได้เปรียบ ถ้าเราจะรับรู้
08:36
our emotionsอารมณ์ insideภายใน, you know, angerความโกรธ or happinessความสุข.
209
501000
3000
อารมณ์ของเราอยู่ข้างใน คุณก็รู้ใช่มั้ย อย่างความโกรธ หรือความสุข
08:39
But we don't just experienceประสบการณ์ them, we showแสดง them.
210
504000
2000
แต่เราไม่ได้แค่รู้ เราแสดงมันออกมา
08:41
And not only do we showแสดง them, but othersคนอื่น ๆ can readอ่าน them.
211
506000
3000
แล้วเราก็ไม่ได้แสดงออกมาเฉยๆ แต่คนอื่นก็อ่านออกด้วย
08:44
And, not only can they readอ่าน them, but they copyสำเนา them.
212
509000
2000
และก็ไม่ใช่แค่เขาอ่านออกเท่านั้น แต่เขาลอกเลียนแบบด้วย
08:46
There's emotionalอารมณ์ contagionการแพร่กระจาย
213
511000
2000
มันมีการติดต่อกันทางอารมณ์
08:48
that takes placeสถานที่ in humanเป็นมนุษย์ populationsประชากร.
214
513000
3000
ซึ่งเกิดขึ้นในหมู่มนุษย์
08:51
And so this functionฟังก์ชัน of emotionsอารมณ์
215
516000
2000
ดังนั้น การแสดงออกของอารมณ์
08:53
suggestsแสดงให้เห็น that, in additionการเพิ่ม to any other purposeวัตถุประสงค์ they serveบริการ,
216
518000
2000
บอกเราว่า นอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์อื่นที่มันต้องการแล้ว
08:55
they're a kindชนิด of primitiveดั้งเดิม formฟอร์ม of communicationการสื่อสาร.
217
520000
3000
มันเป็นการสื่อสารแบบดั้งเดิม
08:58
And that, in factความจริง, if we really want to understandเข้าใจ humanเป็นมนุษย์ emotionsอารมณ์,
218
523000
3000
และที่จริง ถ้าเราอยากจะเข้าใจอารมณ์ของมนุษย์
09:01
we need to think about them in this way.
219
526000
2000
เราก็ควรจะมองมันแบบนี้
09:03
Now, we're accustomedคุ้นเคย to thinkingคิด about emotionsอารมณ์ in this way,
220
528000
3000
ตอนนี้ เราก็คุ้นชินที่จะมองอารมณ์ในแบบนี้
09:06
in simpleง่าย, sortประเภท of, briefสั้น periodsงวด of time.
221
531000
3000
ในทางง่ายๆ แบบที่ใช้เวลาสั้นๆ
09:09
So, for exampleตัวอย่าง,
222
534000
2000
ตัวอย่างเช่น
09:11
I was givingให้ this talk recentlyเมื่อเร็ว ๆ นี้ in Newใหม่ Yorkนิวยอร์ก Cityเมือง,
223
536000
2000
เมื่อไม่นานมานี้ ผมไปพูดที่นิวยอร์ค
09:13
and I said, "You know when you're on the subwayรถไฟใต้ดิน
224
538000
2000
แล้วผมบอกว่า "คุณก็รู้นี่นา มันก็เหมือนตอนคุณอยู่บนรถไฟฟ้าใต้ดินนะแหละ
09:15
and the other personคน acrossข้าม the subwayรถไฟใต้ดิน carรถ
225
540000
2000
แล้วก็มีคนนึงอยู่ฝั่งตรงข้าม
09:17
smilesรอยยิ้ม at you,
226
542000
2000
ยิ้มให้คุณ,
09:19
and you just instinctivelyโดยสัญชาตญาณ smileยิ้ม back?"
227
544000
2000
แล้วคุณก็ยิ้มตอบ แบบไม่รู้ตัว"
09:21
And they lookedมอง at me and said, "We don't do that in Newใหม่ Yorkนิวยอร์ก Cityเมือง." (Laughterเสียงหัวเราะ)
228
546000
3000
พวกเขาก็มองที่ผม แล้วบอกว่า "เราไม่ทำอย่างนั้นกันที่นิวยอร์ค" (หัวเราะ)
09:24
And I said, "Everywhereทุกที่ elseอื่น in the worldโลก,
229
549000
2000
ผมก็บอกว่า "ที่ไหนๆ ในโลก,
09:26
that's normalปกติ humanเป็นมนุษย์ behaviorพฤติกรรม."
230
551000
2000
ที่มนุษย์มีพฤติกรรมปกติ"
09:28
And so there's a very instinctiveเกี่ยวกับสัญชาตญาณ way
231
553000
2000
ดังนั้น มันก็เลยมีวิธีตามสัญชาตญาณ
09:30
in whichที่ we brieflyสั้น transmitส่งผ่าน emotionsอารมณ์ to eachแต่ละ other.
232
555000
3000
ที่เราจะส่งต่ออารมณ์ระหว่างกันได้
09:33
And, in factความจริง, emotionalอารมณ์ contagionการแพร่กระจาย can be broaderที่กว้างขึ้น still.
233
558000
3000
และที่จริง การติดต่อทางอารมณ์ ก็ยังแพร่กว้างออกไปได้อีก
09:36
Like we could have punctuatedคั่น expressionsการแสดงออก of angerความโกรธ,
234
561000
3000
เหมือนอย่างที่เราแสดงความโกรธแบบเป็นห้วงๆ
09:39
as in riotsการจลาจล.
235
564000
2000
อย่างเวลาที่มีการชุมนุม
09:41
The questionคำถาม that we wanted to askถาม was:
236
566000
2000
ปัญหาที่เราอยากถามคือ
09:43
Could emotionอารมณ์ spreadกระจาย,
237
568000
2000
อารมณ์ มีการแพร่กระจาย
09:45
in a more sustainedอย่างยั่งยืน way than riotsการจลาจล, acrossข้าม time
238
570000
3000
ในแบบที่ยั่งยืนได้มากกว่าในการจลาจล หรืออยู่เหนือกาลเวลา
09:48
and involveรวมถึง largeใหญ่ numbersหมายเลข of people,
239
573000
2000
และเกิดขึ้นในคนหมู่มากได้หรือไม่
09:50
not just this pairคู่ of individualsบุคคล smilingที่ยิ้ม at eachแต่ละ other in the subwayรถไฟใต้ดิน carรถ?
240
575000
3000
ไม่ใช่แค่กับคนเป็นคู่ๆ ที่มองหน้ากันแล้วยิ้มในรถไฟฟ้า
09:53
Maybe there's a kindชนิด of belowด้านล่าง the surfaceพื้นผิว, quietเงียบ riotจลาจล
241
578000
3000
หรือมันอาจจะมีการจลาจลแบบไร้เสียง ที่ซ่อนตัวอยู่
09:56
that animatesanimates us all the time.
242
581000
2000
ที่เป็นแรงบันดาลใจเราอยู่ตลอดเวลา
09:58
Maybe there are emotionalอารมณ์ stampedesStampedes
243
583000
2000
หรืออาจจะมีความโกลาหลทางอารมณ์
10:00
that rippleระลอก throughตลอด socialสังคม networksเครือข่าย.
244
585000
2000
ที่กระเพื่อมอยู่ทั่วโครงข่ายสังคมนี้
10:02
Maybe, in factความจริง, emotionsอารมณ์ have a collectiveโดยรวม existenceการดำรงอยู่,
245
587000
3000
หรือบางที อารมณ์อาจจะอยู่กันเป็นกลุ่มก้อน
10:05
not just an individualรายบุคคล existenceการดำรงอยู่.
246
590000
2000
ไมใช่เป็นของคนใด คนหนึ่ง
10:07
And this is one of the first imagesภาพ we madeทำ to studyศึกษา this phenomenonปรากฏการณ์.
247
592000
3000
และนี่ก็เป็นภาพแรกๆ ที่เราศึกษาปรากฏการณ์นี้
10:10
Again, a socialสังคม networkเครือข่าย,
248
595000
2000
อีกครั้งนะครับ นี่คือเครือข่ายสังคม
10:12
but now we colorสี the people yellowสีเหลือง if they're happyมีความสุข
249
597000
3000
คราวนี้ เราจะใช้สีเหลืองถ้าคนนั้นมีความสุข
10:15
and blueสีน้ำเงิน if they're sadเสียใจ and greenสีเขียว in betweenระหว่าง.
250
600000
3000
ใช้สีฟ้าถ้าเขากำลังเศร้า แล้วก็ใช้สีเขียวถ้าอยู่ตรงกลาง
10:18
And if you look at this imageภาพ, you can right away see
251
603000
2000
และถ้าคุณดูที่รูปนี้ ก็จะเห็นได้ทันที
10:20
clustersกลุ่ม of happyมีความสุข and unhappyไม่มีความสุข people,
252
605000
2000
ว่ามีกลุ่มของคนที่มีความสุข และคนที่ไม่มีความสุข
10:22
again, spreadingการแพร่กระจาย to threeสาม degreesองศา of separationการแยก.
253
607000
2000
และเหมือนกันครับ มีการแพร่กระจายออกไปสามลำดับความสัมพันธ์
10:24
And you mightอาจ formฟอร์ม the intuitionปรีชา
254
609000
2000
และคุณก็อาจจะเกิดสัญชาตญาณว่า
10:26
that the unhappyไม่มีความสุข people
255
611000
2000
คนที่ไม่มีความสุข
10:28
occupyครอบครอง a differentต่าง structuralโครงสร้าง locationที่ตั้ง withinภายใน the networkเครือข่าย.
256
613000
3000
จะยึดพื้นที่ต่างๆ กันไปในเครือข่าย
10:31
There's a middleกลาง and an edgeขอบ to this networkเครือข่าย,
257
616000
2000
จะมีบริเวณตรงกลาง กับที่ขอบๆ ของเครือข่าย
10:33
and the unhappyไม่มีความสุข people seemดูเหมือน to be
258
618000
2000
และคนที่ไม่มีความสุขก็ดูเหมือน
10:35
locatedที่ตั้งอยู่ at the edgesขอบ.
259
620000
2000
จะชอบอยู่ที่ชายขอบ
10:37
So to invokeขอร้อง anotherอื่น metaphorคำอุปมา,
260
622000
2000
ซึ่งก็ก่อให้เกิดคำเปรียบเทียบอีกอย่างหนึ่ง
10:39
if you imagineจินตนาการ socialสังคม networksเครือข่าย as a kindชนิด of
261
624000
2000
ถ้าคิดว่าโครงข่ายทางสังคมเป็น
10:41
vastกว้างใหญ่ fabricผ้า of humanityมนุษยชาติ --
262
626000
2000
เส้นใยของความสัมพันธ์
10:43
I'm connectedเกี่ยวข้อง to you and you to her, on out endlesslyไม่รู้จบ into the distanceระยะทาง --
263
628000
3000
ฉันเชื่อมโยงกับคุณ และคุณก็เชื่อมต่อกับเธอ ต่อเนื่องไกลออกไปเรื่อยๆ ไม่มีวันจบ
10:46
this fabricผ้า is actuallyแท้จริง like
264
631000
2000
เส้นใยเหล่านี้ก็เหมือน
10:48
an old-fashionedหัวโบราณ Americanอเมริกัน quiltผ้าห่ม,
265
633000
2000
การเย็บควิ้ลแบบดั้งเดิมของอเมริกัน
10:50
and it has patchesแพทช์ on it: happyมีความสุข and unhappyไม่มีความสุข patchesแพทช์.
266
635000
3000
แล้วมันก็มีแผ่นๆ มาปะติดปะต่อ มีแผ่นของความสุข แล้วก็มีแผ่นของความเศร้า
10:53
And whetherว่า you becomeกลายเป็น happyมีความสุข or not
267
638000
2000
และโอกาสที่คุณจะมีความสุขหรือไม่
10:55
dependsขึ้นอยู่กับ in partส่วนหนึ่ง on whetherว่า you occupyครอบครอง a happyมีความสุข patchปะ.
268
640000
3000
ส่วนหนึ่งมันขึ้นอยู่กับว่าแผ่นปะที่คุณมีนั่น เป็นแผ่นที่เป็นความสุขหรือเปล่า
10:58
(Laughterเสียงหัวเราะ)
269
643000
2000
(หัวเราะ)
11:00
So, this work with emotionsอารมณ์,
270
645000
3000
ดังนั้น การศึกษาเรื่องอารมณ์นี้
11:03
whichที่ are so fundamentalพื้นฐาน,
271
648000
2000
ซึ่งเป็นเรื่องพื้นฐานอย่างที่สุด
11:05
then got us to thinkingคิด about: Maybe
272
650000
2000
ก็ทำให้เราคิดว่า บางที
11:07
the fundamentalพื้นฐาน causesสาเหตุ of humanเป็นมนุษย์ socialสังคม networksเครือข่าย
273
652000
2000
ปัจจัยพื้นฐานที่ทำให้เกิดเครือข่ายสังคมของมนุษย์
11:09
are somehowอย่างใด encodedเข้ารหัส in our genesยีน.
274
654000
2000
มันอาจจะมีรหัสฝังอยู่ในยีนของเราอยู่แล้ว
11:11
Because humanเป็นมนุษย์ socialสังคม networksเครือข่าย, wheneverเมื่อไรก็ตาม they are mappedแมป,
275
656000
3000
เพราะไม่ว่าเมื่อไหร่ที่เราทำแผนที่ของเครือข่ายสังคม
11:14
always kindชนิด of look like this:
276
659000
2000
มันก็ออกมาหน้าตาคล้ายๆ แบบนี้ทุกที
11:16
the pictureภาพ of the networkเครือข่าย.
277
661000
2000
รูปแบบของเครือข่าย
11:18
But they never look like this.
278
663000
2000
แต่มันไม่ออกมาเป็นแบบนี้
11:20
Why do they not look like this?
279
665000
2000
ทำไมมันไม่ออกมาเป็นแบบนี้ล่ะ
11:22
Why don't we formฟอร์ม humanเป็นมนุษย์ socialสังคม networksเครือข่าย
280
667000
2000
ทำไมเราไม่สร้างเครือข่ายทางสังคม
11:24
that look like a regularปกติ latticeขัดแตะ?
281
669000
2000
ที่มีรูปร่างเหมือนตาข่ายปกติล่ะ
11:26
Well, the strikingโดดเด่น patternsรูปแบบ of humanเป็นมนุษย์ socialสังคม networksเครือข่าย,
282
671000
3000
ใช่ครับ รูปแบบที่โดดเด่นของเครือข่ายทางสังคมของมนุษย์
11:29
theirของพวกเขา ubiquityการแพร่หลาย and theirของพวกเขา apparentเห็นได้ชัด purposeวัตถุประสงค์
283
674000
3000
ที่เห็นได้ทั่วไป และมีวัตถุประสงค์ชัดเจน
11:32
begขอ questionsคำถาม about whetherว่า we evolvedการพัฒนา to have
284
677000
2000
ทำให้เกิดคำถามว่า เราวิวัฒนาการเพื่อให้เกิด
11:34
humanเป็นมนุษย์ socialสังคม networksเครือข่าย in the first placeสถานที่,
285
679000
2000
เครือข่ายทางสังคมมาตั้งแต่แรก
11:36
and whetherว่า we evolvedการพัฒนา to formฟอร์ม networksเครือข่าย
286
681000
2000
หรือเราวิวัฒนาการ เพื่อสร้างเครือข่าย
11:38
with a particularโดยเฉพาะ structureโครงสร้าง.
287
683000
2000
ที่มีรูปแบบที่กำหนดไว้ก่อนแล้ว
11:40
And noticeแจ้งให้ทราบ first of all -- so, to understandเข้าใจ this, thoughแม้,
288
685000
2000
และโปรดสังเกตนะครับ...และเพื่อจะทำความเข้าใจกับเรื่องนี้
11:42
we need to dissectผ่า networkเครือข่าย structureโครงสร้าง a little bitบิต first --
289
687000
3000
เราก็ต้องชำแหละโครงสร้างของเครือข่ายนี่ออกมาซักหน่อยก่อน
11:45
and noticeแจ้งให้ทราบ that everyทุกๆ personคน in this networkเครือข่าย
290
690000
2000
ให้สังเกตนะครับว่า ทุกๆ คนในเครือข่าย
11:47
has exactlyอย่างแน่นอน the sameเหมือนกัน structuralโครงสร้าง locationที่ตั้ง as everyทุกๆ other personคน.
291
692000
3000
มีโครงสร้างที่อยู่ที่เหมือนกันกับคนอื่นๆ
11:50
But that's not the caseกรณี with realจริง networksเครือข่าย.
292
695000
3000
แต่ถ้าเป็นเครือข่ายจริงๆ มันก็จะไม่เป็นแบบนั้น
11:53
So, for exampleตัวอย่าง, here is a realจริง networkเครือข่าย of collegeวิทยาลัย studentsนักเรียน
293
698000
2000
เพื่อเป็นตัวอย่างนะครับ นี่คือเครือข่ายจริงๆ ของนักศึกษา
11:55
at an eliteผู้ลากมากดี northeasternตะวันออกเฉียงเหนือ universityมหาวิทยาลัย.
294
700000
3000
ในมหาวิทยาลัยชั้นนำแห่งหนึ่งทางตะวันออกเฉียงเหนือ
11:58
And now I'm highlightingไฮไลต์ a fewน้อย dotsจุด.
295
703000
2000
แล้วผมก็จะเน้นที่บางจุดนะครับ
12:00
If you look here at the dotsจุด,
296
705000
2000
ถ้าคุณดูที่จุดพวกนี้
12:02
compareเปรียบเทียบ nodeปม B in the upperบน left
297
707000
2000
เปรียบเทียบ จุด B ด้านบนซ้าย
12:04
to nodeปม D in the farห่างไกล right;
298
709000
2000
กับจุด D ที่ด้านขวา
12:06
B has fourสี่ friendsเพื่อน comingมา out from him
299
711000
2000
B มีเพื่อน 4 คน
12:08
and D has sixหก friendsเพื่อน comingมา out from him.
300
713000
3000
ส่วน D มีเพื่อน 6 คน
12:11
And so, those two individualsบุคคล have differentต่าง numbersหมายเลข of friendsเพื่อน.
301
716000
3000
นักศึกษาสองคนนี้ก็มีเพื่อนเป็นจำนวนต่างกัน
12:14
That's very obviousชัดเจน, we all know that.
302
719000
2000
นี่มันชัดเจน เราก็เห็นๆ กัน
12:16
But certainบาง other aspectsด้าน
303
721000
2000
แต่ปัจจัยอื่น
12:18
of socialสังคม networkเครือข่าย structureโครงสร้าง are not so obviousชัดเจน.
304
723000
2000
ของเครือข่ายทางสังคม มันไม่ชัดเจนอย่างนั้น
12:20
Compareเปรียบเทียบ nodeปม B in the upperบน left to nodeปม A in the lowerลดลง left.
305
725000
3000
ลองเปรียบเทียบจุด B ที่ด้านบนซ้าย กับ A ที่มุมล่างซ้าย
12:23
Now, those people bothทั้งสอง have fourสี่ friendsเพื่อน,
306
728000
3000
ทั้งสองคนมีเพื่อน 4 คนเท่ากัน
12:26
but A'sเช่น friendsเพื่อน all know eachแต่ละ other,
307
731000
2000
แต่เพื่อนของ A ต่างก็รู้จักกันเองด้วย
12:28
and B's friendsเพื่อน do not.
308
733000
2000
แต่เพื่อนของ B ไม่
12:30
So the friendเพื่อน of a friendเพื่อน of A'sเช่น
309
735000
2000
ดังนั้น เพื่อนของเพื่อนของ A
12:32
is, back again, a friendเพื่อน of A'sเช่น,
310
737000
2000
ก็จะกลายมาเป็นเพื่อนของ A อีก
12:34
whereasแต่ทว่า the friendเพื่อน of a friendเพื่อน of B's is not a friendเพื่อน of B's,
311
739000
2000
ในขณะที่เพื่อนของเพื่อนของ B จะไม่กลายมาเป็นเพื่อนของ B
12:36
but is fartherไกลออกไป away in the networkเครือข่าย.
312
741000
2000
แต่จะอยู่ไกลออกไปในเครือข่าย
12:38
This is knownที่รู้จักกัน as transitivityกริยา in networksเครือข่าย.
313
743000
3000
ที่เราเรียกกันว่าการส่งต่อกันในเครือข่าย
12:41
And, finallyในที่สุด, compareเปรียบเทียบ nodesโหนด C and D:
314
746000
2000
และสุดท้าย ลองเรียบเทียบจุด C กับจุด D
12:43
C and D bothทั้งสอง have sixหก friendsเพื่อน.
315
748000
3000
C และ D ต่างก็มีเพื่อน 6 คน
12:46
If you talk to them, and you said, "What is your socialสังคม life like?"
316
751000
3000
ถ้าคุณคุยกับเขา แล้วถามว่า "สังคมของคุณเป็นยังไง?"
12:49
they would say, "I've got sixหก friendsเพื่อน.
317
754000
2000
เขาก็คงจะตอบว่า "ผมมีเพื่อน 6 คน
12:51
That's my socialสังคม experienceประสบการณ์."
318
756000
2000
นั่นละสังคมของผม"
12:53
But now we, with a bird'sนก eyeตา viewดู looking at this networkเครือข่าย,
319
758000
3000
แต่ตอนนี้ เรามองเห็นเครือข่ายนี้จากมุมสูง
12:56
can see that they occupyครอบครอง very differentต่าง socialสังคม worldsโลก.
320
761000
3000
เราเลยเห็นว่าแต่ละคนก็มีโลกที่แตกต่างกันไป
12:59
And I can cultivateปลูกฝัง that intuitionปรีชา in you by just askingถาม you:
321
764000
2000
และผมก็ใช้ประโยชน์จากความรู้นี้จากคุณ โดยการแค่ถามว่า
13:01
Who would you ratherค่อนข้าง be
322
766000
2000
คุณอยากจะเป็นใคร
13:03
if a deadlyมฤตยู germเชื้อโรค was spreadingการแพร่กระจาย throughตลอด the networkเครือข่าย?
323
768000
2000
ถ้ามีเชื้อมรณะกำลังแพร่กระจายอยู่ในโครงข่ายนี้
13:05
Would you ratherค่อนข้าง be C or D?
324
770000
3000
คุณอยากจะเป็น C หรือ D
13:08
You'dคุณต้องการ ratherค่อนข้าง be D, on the edgeขอบ of the networkเครือข่าย.
325
773000
2000
คุณคงอยากจะเป็น D ที่อยู่ตรงขอบๆ ของเครือข่าย
13:10
And now who would you ratherค่อนข้าง be
326
775000
2000
แล้วคราวนี้ คุณอยากจะเป็นใคร
13:12
if a juicyฉ่ำ pieceชิ้น of gossipซุบซิบ -- not about you --
327
777000
3000
ถ้ามีเรื่องเม้าท์มันๆ ที่ไม่เกี่ยวกับคุณ
13:15
was spreadingการแพร่กระจาย throughตลอด the networkเครือข่าย? (Laughterเสียงหัวเราะ)
328
780000
2000
กระจายอยู่ในเครือข่ายนี้
13:17
Now, you would ratherค่อนข้าง be C.
329
782000
2000
คราวนี้ คุณคงอยากเป็น C
13:19
So differentต่าง structuralโครงสร้าง locationsสถานที่
330
784000
2000
ดังนั้น ที่อยู่ที่ต่างกันออกไป
13:21
have differentต่าง implicationsผลกระทบ for your life.
331
786000
2000
ก็มีผลต่อชีวิตของคุณต่างกัน
13:23
And, in factความจริง, when we did some experimentsการทดลอง looking at this,
332
788000
3000
และที่จริง ตอนที่เราทดลองเรื่องนี้
13:26
what we foundพบ is that 46 percentเปอร์เซ็นต์ of the variationการเปลี่ยนแปลง
333
791000
3000
เราพบว่า 46% ของความแตกต่าง
13:29
in how manyจำนวนมาก friendsเพื่อน you have
334
794000
2000
ของจำนวนเพื่อนที่คุณมี
13:31
is explainedอธิบาย by your genesยีน.
335
796000
2000
อธิบายได้ด้วยยีนของคุณ
13:33
And this is not surprisingน่าแปลกใจ. We know that some people are bornโดยกำเนิด shyอาย
336
798000
3000
แต่นี่ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ เราก็รู้กันอยู่แล้วว่าบางคนก็เกิดมาขี้อาย
13:36
and some are bornโดยกำเนิด gregariousชอบอยู่เป็นกลุ่ม. That's obviousชัดเจน.
337
801000
3000
แล้วบางคนก็เกิดมาชอบสังคม นั่นมันชัดเจน
13:39
But we alsoด้วย foundพบ some non-obviousไม่ใช่ที่เห็นได้ชัด things.
338
804000
2000
แต่เราได้พบบางอย่างที่มันไม่ชัดเจนอย่างนั้นด้วย
13:41
For instanceตัวอย่าง, 47 percentเปอร์เซ็นต์ in the variationการเปลี่ยนแปลง
339
806000
3000
ตัวอย่างเช่น 47% ของความแตกต่าง
13:44
in whetherว่า your friendsเพื่อน know eachแต่ละ other
340
809000
2000
ในเรื่องที่เพื่อนของคุณจะรู้จักกันเอง
13:46
is attributableเนื่องมาจาก to your genesยีน.
341
811000
2000
ก็อธิบายได้ด้วยยีนของคุณเองด้วย
13:48
Whetherว่า your friendsเพื่อน know eachแต่ละ other
342
813000
2000
การที่เพื่อนของคุณ เขาจะรู้จักกันเองหรือไม่
13:50
has not just to do with theirของพวกเขา genesยีน, but with yoursของคุณ.
343
815000
3000
ไม่ได้เป็นเรื่องที่อยู่ในยีนของเขาเองเท่านั้น แต่มันอยู่ในยีนของคุณด้วย
13:53
And we think the reasonเหตุผล for this is that some people
344
818000
2000
เราคิดว่า เหตุผลของเรื่องนี้ก็คือ บางคน
13:55
like to introduceแนะนำ theirของพวกเขา friendsเพื่อน to eachแต่ละ other -- you know who you are --
345
820000
3000
ก็ชอบแนะนำเพื่อนของตัวเองให้เพื่อนรู้จักด้วย --คุณก็รู้นี่นาว่าคุณเป็นใคร--
13:58
and othersคนอื่น ๆ of you keep them apartต่างหาก and don't introduceแนะนำ your friendsเพื่อน to eachแต่ละ other.
346
823000
3000
และก็มีคนอีกพวกนึงที่อยากจะแยกๆ กันไว้ เขาก็จะไม่แนะนำให้เพื่อนรู้จักกัน
14:01
And so some people knitถัก togetherด้วยกัน the networksเครือข่าย around them,
347
826000
3000
ดังนั้น บางคนก็ถักทอโครงข่ายไว้รอบๆ ตัว
14:04
creatingการสร้าง a kindชนิด of denseหนาแน่น webเว็บ of tiesความสัมพันธ์
348
829000
2000
สร้างเป็นเส้นใยหนาแน่นผูกมัดกัน
14:06
in whichที่ they're comfortablyสะดวกสบาย embeddedที่ฝัง.
349
831000
2000
เป็นที่ๆ เขาฝังตัวอยู่อย่างสบาย
14:08
And finallyในที่สุด, we even foundพบ that
350
833000
2000
และสุดท้าย เราก็ยังพบแม้กระทั่งว่า
14:10
30 percentเปอร์เซ็นต์ of the variationการเปลี่ยนแปลง
351
835000
2000
30% ของความแตกต่าง
14:12
in whetherว่า or not people are in the middleกลาง or on the edgeขอบ of the networkเครือข่าย
352
837000
3000
ที่คนจะอยู่ตรงกลาง หรืออยู่ที่ริมของเครือข่าย
14:15
can alsoด้วย be attributedมาประกอบ to theirของพวกเขา genesยีน.
353
840000
2000
ก็ขึ้นอยู่กับยีนของเขาด้วย
14:17
So whetherว่า you find yourselfด้วยตัวคุณเอง in the middleกลาง or on the edgeขอบ
354
842000
2000
ดังนั้น การทีคุณจะพบว่าตัวเองอยู่ตรงกลาง หรือเป็นคนชายขอบ
14:19
is alsoด้วย partiallyเพียงบางส่วน heritableเป็นมรดกตกทอด.
355
844000
3000
มันเป็นเรื่องที่ได้รับตกทอดมาก่อนแล้ว
14:22
Now, what is the pointจุด of this?
356
847000
3000
เอาละ แล้วประเด็นมันคืออะไร?
14:25
How does this help us understandเข้าใจ?
357
850000
2000
เรื่องนี้จะช่วยให้เราเข้าใจโลกได้ยังไง?
14:27
How does this help us
358
852000
2000
เรื่องนี้จะช่วยเรา
14:29
figureรูป out some of the problemsปัญหาที่เกิดขึ้น that are affectingน่าสงสาร us these daysวัน?
359
854000
3000
ให้ค้นพบทางแก้ปัญหา ที่มีผลต่อเราในทุกวันนี้ได้ยังไง?
14:33
Well, the argumentการโต้เถียง I'd like to make is that networksเครือข่าย have valueความคุ้มค่า.
360
858000
3000
ครับ เรื่องที่ผมอยากจะบอกก็คือ เครือข่ายนั้นมีคุณค่า
14:36
They are a kindชนิด of socialสังคม capitalเมืองหลวง.
361
861000
3000
มันเป็นต้นทุนทางสังคม
14:39
Newใหม่ propertiesคุณสมบัติ emergeออกมา
362
864000
2000
มันมีคุณสมบัติใหม่ๆ เกิดขึ้น
14:41
because of our embeddednessการเติม in socialสังคม networksเครือข่าย,
363
866000
2000
เพราะการที่เราอยู่เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายทางสังคม
14:43
and these propertiesคุณสมบัติ inhereในนี้
364
868000
3000
และคุณสมบัติเหล่านี้ มันจะคงอยู่
14:46
in the structureโครงสร้าง of the networksเครือข่าย,
365
871000
2000
ในโครงสร้างของเครือข่าย
14:48
not just in the individualsบุคคล withinภายใน them.
366
873000
2000
ไม่ใช่แต่เฉพาะในคนแต่ละคนในเครือข่ายนี้เท่านั้น
14:50
So think about these two commonร่วมกัน objectsวัตถุ.
367
875000
2000
ลองคิดถึงของสองอย่างนี้
14:52
They're bothทั้งสอง madeทำ of carbonคาร์บอน,
368
877000
2000
ทั้งคู่ต่างก็มีคาร์บอนเป็นองค์ประกอบ
14:54
and yetยัง one of them has carbonคาร์บอน atomsอะตอม in it
369
879000
3000
แต่ในของอย่างนึงมีอะตอมของคาร์บอน
14:57
that are arrangedจัด in one particularโดยเฉพาะ way -- on the left --
370
882000
3000
ที่เรียงตัวกันแบบนึง อย่างภาพทางซ้าย
15:00
and you get graphiteกราไฟท์, whichที่ is softอ่อนนุ่ม and darkมืด.
371
885000
3000
แล้วคุณก็ได้กราไฟต์ ซึ่งนิ่มและเป็นสีดำ
15:03
But if you take the sameเหมือนกัน carbonคาร์บอน atomsอะตอม
372
888000
2000
แต่ถ้าคุณเอาอะตอมของคาร์บอน
15:05
and interconnectเชื่อมต่อระหว่างกัน them a differentต่าง way,
373
890000
2000
มาเรียงตัวในอีกรูปแบบนึง
15:07
you get diamondเพชร, whichที่ is clearชัดเจน and hardยาก.
374
892000
3000
คุณจะได้เพชร ซึ่งใสและแข็ง
15:10
And those propertiesคุณสมบัติ of softnessความนุ่มนวล and hardnessความแข็ง and darknessความมืด and clearnessความชัดเจน
375
895000
3000
คุณสมบัติที่นิ่ม หรือแข็ง หรือดำ หรือใส
15:13
do not resideสิงสถิต in the carbonคาร์บอน atomsอะตอม;
376
898000
2000
ไม่ได้อยู่ในอะตอมของคาร์บอน
15:15
they resideสิงสถิต in the interconnectionsการเชื่อมโยง betweenระหว่าง the carbonคาร์บอน atomsอะตอม,
377
900000
3000
แต่อยู่ที่การจัดเรียงตัวของมันต่างหาก
15:18
or at leastน้อยที่สุด ariseเกิดขึ้น because of the
378
903000
2000
หรืออย่างน้อย มันก็เกิดขึ้นเพราะ
15:20
interconnectionsการเชื่อมโยง betweenระหว่าง the carbonคาร์บอน atomsอะตอม.
379
905000
2000
การเชื่อมโยงกันของอะตอมคาร์บอน
15:22
So, similarlyเหมือนกับ, the patternแบบแผน of connectionsสัมพันธ์ amongในหมู่ people
380
907000
3000
ก็คล้ายกันนะครับ รูปแบบของความสัมพันธ์ของมนุษย์
15:25
confersฟาโรห์ uponเมื่อ the groupsกลุ่ม of people
381
910000
3000
ก็เกิดขึ้นในกลุ่มคน
15:28
differentต่าง propertiesคุณสมบัติ.
382
913000
2000
ที่มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน
15:30
It is the tiesความสัมพันธ์ betweenระหว่าง people
383
915000
2000
ความยึดโยงระหว่างผู้คนต่างหากเล่า
15:32
that makesยี่ห้อ the wholeทั้งหมด greaterมากขึ้น than the sumรวม of its partsชิ้นส่วน.
384
917000
3000
ที่ทำให้ภาพรวมออกมายิ่งใหญ่กว่าผลบวกของแต่ละคน
15:35
And so it is not just what's happeningสิ่งที่เกิดขึ้น to these people --
385
920000
3000
แล้วนี่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นกับคนเหล่านี้เท่านั้น
15:38
whetherว่า they're losingแพ้ weightน้ำหนัก or gainingดึงดูด weightน้ำหนัก, or becomingการกลาย richรวย or becomingการกลาย poorน่าสงสาร,
386
923000
3000
ว่าเขากำลังลดน้ำหนัก หรือทำน้ำหนัก หรือกำลังรวยขึ้น หรือกำลังจนลง
15:41
or becomingการกลาย happyมีความสุข or not becomingการกลาย happyมีความสุข -- that affectsส่งผลกระทบต่อ us;
387
926000
3000
หรือกำลังมีความสุขหรือว่าไม่มีความสุข--ที่จะส่งผลต่อเรา
15:44
it's alsoด้วย the actualที่จริง architectureสถาปัตยกรรม
388
929000
2000
แต่มันเป็นโครงสร้างจริงๆ
15:46
of the tiesความสัมพันธ์ around us.
389
931000
2000
ที่ยึดโยงล้อมรอบเราไว้
15:48
Our experienceประสบการณ์ of the worldโลก
390
933000
2000
ประสบการณ์ของเราบนโลกใบนี้
15:50
dependsขึ้นอยู่กับ on the actualที่จริง structureโครงสร้าง
391
935000
2000
ขึ้นอยู่กับโครงสร้างจริงๆ
15:52
of the networksเครือข่าย in whichที่ we're residingพำนักอยู่
392
937000
2000
ของเครือข่ายที่เราอาศัยอยู่
15:54
and on all the kindsชนิด of things that rippleระลอก and flowไหล
393
939000
3000
และขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ที่กระเพื่อม และเคลื่อนไหว
15:57
throughตลอด the networkเครือข่าย.
394
942000
2000
ไปทั่วเครือข่าย
16:00
Now, the reasonเหตุผล, I think, that this is the caseกรณี
395
945000
3000
คราวนี้ ผมก็คิดว่า เหตุผลที่เรื่องนี้จะเป็นเรื่อง
16:03
is that humanเป็นมนุษย์ beingsสิ่งมีชีวิต assembleรวบรวม themselvesตัวเอง
396
948000
2000
ก็คือว่า มนุษย์ จะมีการรวมกลุ่มกัน
16:05
and formฟอร์ม a kindชนิด of superorganismอัคร.
397
950000
3000
คล้ายระบบร่างกายขนาดใหญ่
16:09
Now, a superorganismอัคร is a collectionชุด of individualsบุคคล
398
954000
3000
ระบบร่างกายขนาดใหญ่ ซึ่งเกิดขึ้นจากการรวมกลุ่มของคน
16:12
whichที่ showแสดง or evinceแสดงให้เห็น behaviorsพฤติกรรม or phenomenaปรากฏการณ์
399
957000
3000
ที่แสดง หรือเปิดเผยพฤติกรรม หรือปรากฏการณ์
16:15
that are not reducibleซึ้งลดได้ to the studyศึกษา of individualsบุคคล
400
960000
3000
ที่ไม่สามารถแยกออกไปสู่การศึกษาเป็นรายเดี่ยวๆ ได้
16:18
and that mustต้อง be understoodเข้าใจ by referenceการอ้างอิง to,
401
963000
2000
และต้องทำความเข้าใจกับมันในลักษณะ
16:20
and by studyingการศึกษา, the collectiveโดยรวม.
402
965000
2000
ของการศึกษาทั้งกลุ่ม
16:22
Like, for exampleตัวอย่าง, a hiveรัง of beesผึ้ง
403
967000
3000
อย่างเช่นฝูงผึ้ง
16:25
that's findingคำวินิจฉัย a newใหม่ nestingการทำรัง siteเว็บไซต์,
404
970000
3000
ที่มองหาที่สร้างรังใหม่
16:28
or a flockฝูง of birdsนก that's evadingสิง a predatorนักล่า,
405
973000
2000
หรือฝูงนกที่หลบหนีศัตรูนักล่า
16:30
or a flockฝูง of birdsนก that's ableสามารถ to poolสระ its wisdomความฉลาด
406
975000
3000
หรือฝูงนกที่สามารถจะรวมหัวกัน
16:33
and navigateนำทาง and find a tinyขนาดเล็ก speckจุด
407
978000
2000
เพื่อจะกำหนดทิศทาง และหายอดเล็กๆ
16:35
of an islandเกาะ in the middleกลาง of the Pacificแปซิฟิก,
408
980000
2000
ของเกาะกลางมหาสมุทรแปซิฟิค
16:37
or a packซอง of wolvesหมาป่า that's ableสามารถ
409
982000
2000
หรือฝูงหมาป่าที่สามารถ
16:39
to bringนำมาซึ่ง down largerที่มีขนาดใหญ่ preyเหยื่อ.
410
984000
3000
ล่าสัตว์ที่ใหญ่กว่าได้
16:42
SuperorganismsSuperorganisms have propertiesคุณสมบัติ
411
987000
2000
ระบบร่างกายขนาดใหญ่ มีคุณสมบัติ
16:44
that cannotไม่ได้ be understoodเข้าใจ just by studyingการศึกษา the individualsบุคคล.
412
989000
3000
ที่หากเรามองจากแต่ละคนเดี่ยวๆ แล้วก็จะทำความเข้าใจไม่ได้เลย
16:47
I think understandingความเข้าใจ socialสังคม networksเครือข่าย
413
992000
2000
ผมคิดว่า การจะเข้าใจโครงข่ายสังคม
16:49
and how they formฟอร์ม and operateทำงาน
414
994000
2000
การก่อตัว และการทำงานของมัน
16:51
can help us understandเข้าใจ not just healthสุขภาพ and emotionsอารมณ์
415
996000
3000
จะช่วยเราได้ทั้งทางด้านสุขภาพ และทางอารมณ์
16:54
but all kindsชนิด of other phenomenaปรากฏการณ์ --
416
999000
2000
และปรากฏการณ์อื่นๆด้วย
16:56
like crimeอาชญากรรม, and warfareการสู้รบ,
417
1001000
2000
อย่างเช่น อาชญากรรม และสงคราม
16:58
and economicด้านเศรษฐกิจ phenomenaปรากฏการณ์ like bankธนาคาร runsวิ่ง
418
1003000
2000
หรือปรากฏการณ์ทางเศรษฐกิจ อย่างเช่นธนาคารเจ๊ง
17:00
and marketตลาด crashesเกิดความผิดพลาด
419
1005000
2000
หรือตลาดหุ้นถล่ม
17:02
and the adoptionการนำมาใช้ of innovationนวัตกรรม
420
1007000
2000
และการยอมรับเอานวัตกรรมใหม่ๆ
17:04
and the spreadกระจาย of productสินค้า adoptionการนำมาใช้.
421
1009000
2000
หรือการแพร่กระจายของการใช้สินค้า
17:06
Now, look at this.
422
1011000
2000
ลองดูนี่นะครับ
17:09
I think we formฟอร์ม socialสังคม networksเครือข่าย
423
1014000
2000
ผมคิดว่า เราได้สร้างโครงข่ายสังคม
17:11
because the benefitsผลประโยชน์ of a connectedเกี่ยวข้อง life
424
1016000
2000
เพราะมันมีผลประโยชน์ของความสัมพันธ์ในชีวิต
17:13
outweighเกินดุล the costsค่าใช้จ่าย.
425
1018000
3000
สูงกว่าต้นทุน
17:16
If I was always violentรุนแรง towardsไปทาง you
426
1021000
2000
ถ้าผมทำอะไรรุนแรงกับคุณบ่อยๆ
17:18
or gaveให้ you misinformationข้อมูลที่ผิด
427
1023000
2000
หรือให้ข้อมูลคุณผิดๆ เป็นประจำ
17:20
or madeทำ you sadเสียใจ or infectedที่ติดเชื้อ you with deadlyมฤตยู germsเชื้อโรค,
428
1025000
3000
หรือทำให้คุณเศร้า หรือเอาเชื้อมรณะมาแพร่ใส่คุณ
17:23
you would cutตัด the tiesความสัมพันธ์ to me,
429
1028000
2000
คุณก็คงเลิกคบผม
17:25
and the networkเครือข่าย would disintegrateสลายตัว.
430
1030000
2000
และเครือข่ายนั้นก็แยกออกจากกัน
17:27
So the spreadกระจาย of good and valuableมีคุณค่า things
431
1032000
3000
ดังนั้น การส่งต่อเรื่องดีๆ และสิ่งที่มีคุณค่า
17:30
is requiredจำเป็นต้องใช้ to sustainประคับประคอง and nourishหล่อเลี้ยง socialสังคม networksเครือข่าย.
432
1035000
3000
ก็เป็นเรื่องจำเป็นในการที่จะรักษา และฟูมฟักโครงข่ายทางสังคมเอาไว้
17:34
Similarlyเหมือนกับ, socialสังคม networksเครือข่าย are requiredจำเป็นต้องใช้
433
1039000
2000
และก็คล้ายๆ กัน โครงข่ายสังคมก็ต้องการ
17:36
for the spreadกระจาย of good and valuableมีคุณค่า things,
434
1041000
3000
การกระสิ่งดีๆ และมีคุณค่า
17:39
like love and kindnessความเมตตา
435
1044000
2000
อย่างเช่นความรัก และความปรารถนาดี
17:41
and happinessความสุข and altruismความบริสุทธิ์ใจ
436
1046000
2000
ความสุข และการเห็นแก่ประโยชน์ของผู้อื่น
17:43
and ideasความคิด.
437
1048000
2000
และความคิดดีๆ
17:45
I think, in factความจริง, that if we realizedตระหนัก
438
1050000
2000
อันที่จริง ผมคิดว่าถ้าเราตระหนัก
17:47
how valuableมีคุณค่า socialสังคม networksเครือข่าย are,
439
1052000
2000
ว่าโครงข่ายสังคมมีค่าแค่ไหน
17:49
we'dพุธ spendใช้จ่าย a lot more time nourishingที่ถนอม them and sustainingที่สนับสนุน them,
440
1054000
3000
เราก็คงจะใช้เวลามากขึ้นในการดูแล รักษามันไว้
17:52
because I think socialสังคม networksเครือข่าย
441
1057000
2000
เพราะผมคิดว่า โครงข่ายสังคม
17:54
are fundamentallyลึกซึ้ง relatedที่เกี่ยวข้อง to goodnessความดี.
442
1059000
3000
เป็นพื้นฐานของเรื่องดีๆ
17:57
And what I think the worldโลก needsจำเป็น now
443
1062000
2000
และสิ่งที่ผมคิดว่าโลกเรากำลังต้องการก็คือ
17:59
is more connectionsสัมพันธ์.
444
1064000
2000
ความสัมพันธ์ที่มากขึ้น
18:01
Thank you.
445
1066000
2000
ขอบคุณครับ
18:03
(Applauseการปรบมือ)
446
1068000
3000
(ปรบมือ)
Translated by Korawan Kitsommart
Reviewed by Paninya Masrangsan

▲Back to top

ABOUT THE SPEAKER
Nicholas Christakis - Physician, social scientist
Nicholas Christakis explores how the large-scale, face-to-face social networks in which we are embedded affect our lives, and what we can do to take advantage of this fact.

Why you should listen

People aren't merely social animals in the usual sense, for we don't just live in groups. We live in networks -- and we have done so ever since we emerged from the African savannah. Via intricately branching paths tracing out cascading family connections, friendship ties, and work relationships, we are interconnected to hundreds or even thousands of specific people, most of whom we do not know. We affect them and they affect us.

Nicholas Christakis' work examines the biological, psychological, sociological, and mathematical rules that govern how we form these social networks, and the rules that govern how they shape our lives. His work shows how phenomena as diverse as obesity, smoking, emotions, ideas, germs, and altruism can spread through our social ties, and how genes can partially underlie our creation of social ties to begin with. His work also sheds light on how we might take advantage of an understanding of social networks to make the world a better place.

At Yale, Christakis is a Professor of Social and Natural Science, and he directs a diverse research group in the field of biosocial science, primarily investigating social networks. His popular undergraduate course "Health of the Public" is available as a podcast. His book, Connected, co-authored with James H. Fowler, appeared in 2009, and has been translated into 20 languages. In 2009, he was named by Time magazine to its annual list of the 100 most influential people in the world, and also, in 2009 and 2010, by Foreign Policy magazine to its list of 100 top global thinkers

More profile about the speaker
Nicholas Christakis | Speaker | TED.com