INK Conference
Arvind Gupta: Turning trash into toys for learning
อาร์วิน คุปตะ: เปลี่ยนขยะเป็นของเล่นเพื่อการเรียนรู้
Filmed:
Readability: 2.8
1,714,028 views
ที่งานสัมมนา INK อาร์วิน คุปตะ แบ่งบันแผนการที่น่าพิศวง แต่เรียบง่าย ในการเปลี่ยนขยะให้เป็นของเล่นที่ถูกออกแบบมาอย่างดี และให้ความสนุกสนานอย่างแรง ซึ่งเด็กๆสามารถทำได้ด้วยตนเอง ในขณะที่เราจะได้เรียนรู้หลักการพื้นฐานของวิทยาศาสตร์และการออกแบบไปพร้อมกัน
Double-click the English transcript below to play the video.
00:15
My name is Arvind Gupta, and I'm a toymaker.
0
0
3000
ผมชื่ออาร์วิน คุปตะ เป็นนักประดิษฐ์ของเล่น
00:18
I've been making toys for the last 30 years.
1
3000
3000
ผมทำของเล่นมา 30 ปีแล้ว
00:21
The early '70s, I was in college.
2
6000
2000
ในช่วงแรกของยุค 70s (ราวปี พ.ศ.2513) ผมกำลังเรียนมหาวิทยาลัย
00:23
It was a very revolutionary time.
3
8000
2000
มันเป็นช่วงเวลาแห่งการปฏิวัติ
00:25
It was a political ferment, so to say --
4
10000
3000
มันเป็นความวุ่นวายทางการเมือง บอกได้ว่า
00:28
students out in the streets of Paris,
5
13000
2000
นักศึกษาออกมาตามท้องถนนในปารีส
00:30
revolting against authority.
6
15000
2000
ต่อต้านผู้มีอำนาจ
00:32
America was jolted
7
17000
2000
อเมริกาตื่นตระหนก
00:34
by the anti-Vietnam movement, the Civil Rights movement.
8
19000
3000
กับการเคลื่อนไหวต่อต้านเวียดนาม และสิทธิพลเมือง
00:37
In India, we had the Naxalite movement,
9
22000
3000
ในอินเดีย เรามีการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักซัลไลท์
00:40
the [unclear] movement.
10
25000
2000
เป็นการเคลื่อนไหวที่ ...
00:42
But you know, when there is a political churning of society,
11
27000
2000
แต่รู้ไหม เมื่อการเมืองทำให้สังคมป่วน
00:44
it unleashes a lot of energy.
12
29000
3000
มันได้คายพลังงานออกมามากมาย
00:47
The National Movement of India
13
32000
2000
การเคลื่อนไหวระดับชาติของอินเดีย
00:49
was testimony to that.
14
34000
2000
เป็นหลักฐานยืนยันเรื่องนั้น
00:51
Lots of people resigned from well-paid jobs
15
36000
4000
คนมากมายออกจากงานที่มีรายได้ดี
00:55
and jumped into the National Movement.
16
40000
2000
แล้วเข้าร่วมการเคลื่อนไหวดังกล่าว
00:57
Now in the early '70s,
17
42000
2000
แล้วในช่วงต้นของปี 70s
00:59
one of the great programs in India
18
44000
2000
หนึ่งในแผนงานที่ดีที่สุดในอินเดีย
01:01
was to revitalize
19
46000
2000
คือการฟื้นฟูสภาพให้กับ
01:03
primary science in village schools.
20
48000
2000
วิทยศาสตร์พื้นฐานในโรงเรียนประจำหมู่บ้าน
01:05
There was a person, Anil Sadgopal, did a Ph.D. from Caltech
21
50000
3000
มีคนนึง อนิล แซดโกพัล ผู้ที่ได้ปริญญาเอกจากวิทยาลัย Caltech
01:08
and returned back as a molecular biologist
22
53000
2000
และกลับมาในฐานะนักชีววิทยาโมเลกุล
01:10
in India's cutting-edge research institute, the TIFR.
23
55000
3000
แห่งสถาบันสุดล้ำของอินเดียที่ชื่อ TIFR
01:13
At 31, he was not able
24
58000
2000
ตอนอายุ 31 เขาไม่สามารถ
01:15
to relate the kind of [unclear] research,
25
60000
2000
ที่จะเชื่อมโยงงานวิจัยบางอย่าง...
01:17
which he was doing with the lives of the ordinary people.
26
62000
3000
ซึ่งเขาทดลองกับชีวิตผู้คนได้
01:20
So he designed and went and started a village science program.
27
65000
3000
ดังนั้นเขาจึงออกแบบ และริเริ่มแผนงานวิทยาศาตร์หมู่บ้านขึ้น
01:23
Many people were inspired by this.
28
68000
2000
หลายคนได้แรงบันดาลใจจากเรื่องนี้
01:25
The slogan of the early '70s
29
70000
2000
สโลแกนของช่วงต้นยุค 70s
01:27
was "Go to the people.
30
72000
2000
จึงเป็น "ไปหาผู้คน
01:29
Live with them; love them.
31
74000
2000
อยู่กับพวกเขา รักพวกเขา
01:31
Start from what they know. Build on what they have."
32
76000
3000
เริ่มจากสิ่งที่เขารู้ สร้างจากสิ่งที่เขามี"
01:34
This was kind of the defining slogan.
33
79000
2000
สโลแกนอะไรประมาณนี้แหละ
01:36
Well I took one year.
34
81000
2000
อืม ผมใช้เวลาประมาณหนึ่งปี
01:38
I joined Telco, made TATA trucks, pretty close to Pune.
35
83000
3000
เข้าร่วมกับเทลโค สร้างรถบรรทุกทาทา ใกล้ๆเมืองปูเน่
01:41
I worked there for two years,
36
86000
2000
ทำงานอยู่ที่นั่นสองปี
01:43
and I realized that I was not born to make trucks.
37
88000
3000
แล้วเลยคิดได้ว่า ผมไม่เหมาะกับงานนี้เลย
01:46
Often one doesn't know what one wants to do,
38
91000
2000
บ่อยครั้งที่คนเราไม่รู้ว่าเราต้องการจะทำอะไรกันแน่
01:48
but it's good enough to know what you don't want to do.
39
93000
2000
แต่ก็ยังดีที่คนเรารู้ว่าเราไม่อยากจะทำอะไร
01:50
So I took one year off, and I went to this village science program.
40
95000
3000
เพราะงั้นผมเลยหยุดงานปีนึง แล้วไปที่หมู่บ้าน
01:53
And it was a turning point.
41
98000
2000
และนั่นเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตผม
01:55
It was a very small village --
42
100000
2000
มันเป็นหมู่บ้านเล็กๆ
01:57
a weekly bazaar
43
102000
2000
มีตลาดนัดทุกอาทิตย์
01:59
where people, just once in a week, they put in all the vats.
44
104000
3000
ที่ซึ่งคนมารวมกัน ทุกสัปดาห์ เอาภาชนะทั้งหมดมารวมกัน
02:02
So I said, "I'm going to spend a year over here."
45
107000
2000
ผมบอกคุณแล้วว่า "ผมจะมาอยู่ที่นี่ซักปีนึง"
02:04
So I just bought one specimen
46
109000
2000
ผมเลยซึ้อของตัวอย่างมาหนึ่งชิ้น
02:06
of everything which was sold on the roadside.
47
111000
2000
สำหรับทุกอย่างที่ขายอยู่ริมถนน
02:08
And one thing which I found
48
113000
2000
และสิ่งหนึ่งที่ผมค้นพบ
02:10
was this black rubber.
49
115000
2000
คือยางสีดำ
02:12
This is called a cycle valve tube.
50
117000
2000
นี่เรียกว่าท่อวาล์ววงกลม
02:14
When you pump in air in a bicycle, you use a bit of this.
51
119000
3000
ตอนที่คุณเติมลมจักรยาน คุณต้องใช้มันนิดหน่อย
02:17
And some of these models --
52
122000
2000
และของตัวอย่างบางชิ้น
02:19
so you take a bit of this cycle valve tube,
53
124000
2000
คุณเอาเจ้ายางนี่นิดหน่อย
02:21
you can put two matchsticks inside this, and you make a flexible joint.
54
126000
3000
คุณใส่ไม้ขีดเข้าไปสองก้านด้านใน แล้วทำข้อต่อที่หมุนได้
02:24
It's a joint of tubes. You start by teaching angles --
55
129000
3000
มันกลายเป็นจุดรวมท่อ คุณเริ่มโดยสอนเรื่องมุม
02:27
an acute angle, a right angle, an obtuse angle, a straight angle.
56
132000
2000
มุมแหลม มุมขวา มุมป้าน มุมตรง
02:29
It's like its own little coupling.
57
134000
2000
มันคล้ายคู่ชิ้นเล็กๆของมันเอง
02:31
If you have three of them, and you loop them together,
58
136000
2000
ถ้าคุณมีสามอัน แล้วประกบเข้าด้วยกัน
02:33
well you make a triangle.
59
138000
2000
คุณจะได้สามเหลี่ยม
02:35
With four, you make a square,
60
140000
2000
ถ้าสี่ คุณจะได้สี่เหลี่ยม
02:37
you make a pentagon, you make a hexagon,
61
142000
2000
คุณทำห้าเหลี่ยม หกเหลี่ยม
02:39
you make all these kind of polygons.
62
144000
2000
คุณทำรูปหลายเหลี่ยมได้ทุกแบบ
02:41
And they have some wonderful properties.
63
146000
2000
และพวกมันมีคุณสมบัติที่มหัศจรรย์
02:43
If you look at the hexagon, for instance,
64
148000
2000
ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณดูที่หกเหลี่ยม
02:45
it's like an amoeba, which is constantly changing its own profile.
65
150000
3000
มันคล้ายๆตัวอมีบา ซึ่งเปลี่ยนรูปแบบตัวมันเองไปเรื่อยๆ
02:48
You can just pull this out, this becomes a rectangle.
66
153000
2000
คุณแค่ดึงตรงนี้ มันกลายเป็นสี่เหลี่ยม
02:50
You give it a push, this becomes a parallelogram.
67
155000
2000
ถ้าคุณผลัก มันจะกลายเป็นสี่เหลี่ยมรูปขนาน
02:52
But this is very shaky.
68
157000
2000
และนี่น่าตัวสั่นมาก
02:54
Look at the pentagon, for instance,
69
159000
2000
ตัวอย่างเช่น ดูที่ห้าเหลี่ยม
02:56
pull this out -- it becomes a boat shape trapezium.
70
161000
2000
ดึงนี่ออก มักลายเป็นสี่เหลี่ยมคางหมูทรงเรือ
02:58
Push it and it becomes house shaped.
71
163000
2000
ผลักมัน แล้วมันจะกลายเป็นรูปบ้าน
03:00
This becomes an isosceles triangle --
72
165000
2000
นี่กลายเป็นสามเหลี่ยมด้านเท่า
03:02
again, very shaky.
73
167000
2000
อีกครั้ง น่าตัวสั่นมาก
03:04
This square might look very square and prim.
74
169000
2000
สี่เหลี่ยมนี่ดูเท่ากันและเรียบร้อย
03:06
Give it a little push -- this becomes a rhombus.
75
171000
2000
ผลักมันนิดหน่อย มันก็กลายเป็นสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน
03:08
It becomes kite-shaped.
76
173000
2000
มันกลายเป็นทรงว่าว
03:10
But give a child a triangle,
77
175000
2000
แต่ถ้าให้สามเหลี่ยมกับเด็ก
03:12
he can't do a thing to it.
78
177000
2000
เขาจะทำอะไรกับมันไม่ได้
03:14
Why use triangles?
79
179000
2000
ทำไมต้องสามเหลี่ยมล่ะ?
03:16
Because triangles are the only rigid structures.
80
181000
2000
เพราะสามเหลี่ยมเป็นโครงสร้างเดียวที่ไม่ยืดหยุ่น
03:18
We can't make a bridge with squares
81
183000
2000
เราไม่สามารถสร้างสะพานด้วยสี่เหลี่ยม
03:20
because the train would come, it would start doing a jig.
82
185000
3000
เพราะเมื่อรถไฟมา มันจะส่ายไปมา
03:23
Ordinary people know about this
83
188000
2000
คนทั่วไปรู้เรื่องนี้
03:25
because if you go to a village in India,
84
190000
2000
เพราะถ้าคุณไปตามหมู่บ้านในอินเดีย
03:27
they might not have gone to engineering college,
85
192000
2000
พวกเขาอาจจะไม่ได้ไปเรียนวิทยาลัยที่สอนวิศวกรรม
03:29
but no one makes a roof placed like this.
86
194000
2000
แต่ก็ไม่มีใครสร้างหลังคาตามรูปแบบนี้
03:31
Because if they put tiles on top, it's just going to crash.
87
196000
3000
เพราะถ้าเขาเอากระเบื้องวางข้างบน มันก็จะพังลงมา
03:34
They always make a triangular roof.
88
199000
2000
พวกเขาจะทำหลังคาสามเหลี่ยมเสมอ
03:36
Now this is people science.
89
201000
2000
ตอนนี้มันคือศาสตร์ของคน
03:38
And if you were to just poke a hole over here
90
203000
2000
และถ้าคุณแค่เจาะรูตรงนี้
03:40
and put a third matchstick,
91
205000
2000
และใส่ไม่ขีดก้านที่สามเข้าไป
03:42
you'll get a T joint.
92
207000
2000
คุณจะได้ข้อต่อรูปตัว T
03:44
And if I were to poke all the three legs of this
93
209000
2000
แล้วถ้าผมจิ้มขาทั้งสามของมัน
03:46
in the three vertices of this triangle,
94
211000
2000
ไปยังจุดตัดทั้งสามของสามเหลี่ยม
03:48
I would make a tetrahedron.
95
213000
2000
ผมก็จะได้ทรงสี่หน้า
03:50
So you make all these 3D shapes.
96
215000
2000
ดังนั้นคุณสร้างทรงสามมิติทั้งหมดนี่
03:52
You make a tetrahedron like this.
97
217000
3000
คุณสร้างทรงสี่หน้าเหมือนอย่างนี้
03:55
And once you make these,
98
220000
4000
และเมื่อคุณสร้างนี่
03:59
you make a little house.
99
224000
2000
คุณได้สร้างบ้านหลังเล็กๆหลังหนึ่งขึ้นมา
04:03
Put this on top.
100
228000
2000
วางนี่ลงข้างบน
04:05
You can make a joint of four. You can make a joint of six.
101
230000
2000
คุณสามารถสร้างจุดร่วมของสี่ชิ้น หกชิ้น
04:07
You just need a ton.
102
232000
3000
คุณแค่ต้องการมากๆ
04:10
Now this was -- you make a joint of six,
103
235000
2000
ตอนนี้คือ คุณสร้างจุดร่วมของหกชิ้น
04:12
you make an icosahedron.
104
237000
2000
คุณจะได้ทรงยี่สิบหน้า
04:14
You can play around with it.
105
239000
2000
คุณเล่นกับมันไปได้เรื่อย
04:16
This makes an igloo.
106
241000
2000
นี่คือกระท่อมน้ำแข็ง
04:18
Now this is in 1978.
107
243000
2000
ตอนนั้นปี 1978
04:20
I was a 24-year-old young engineer.
108
245000
3000
ผมเป็นวิศวกรหนุ่ม อายุแค่ 24
04:23
And I thought this was so much better than making trucks.
109
248000
4000
และผมก็คิดว่านี่มันเจ๊งกว่าการสร้างรถบรรทุกมาก
04:27
(Applause)
110
252000
5000
(เสียงปรบมือ)
04:32
If you, as a matter of fact, put four marbles inside,
111
257000
3000
ความจริง ถ้าคุณใส่ลูกหินเข้าไปข้างใน
04:35
you simulate the molecular structure of methane, CH4.
112
260000
3000
คุณกระตุ้นโครงสร้างโมเลกุลของมีเธน CH4
04:38
Four atoms of hydrogen, the four points of the tetrahedron,
113
263000
2000
อะตอมจากไฮโดรเจน 4 แทน 4 จุดในทรงสี่หน้า
04:40
which means the little carbon atom.
114
265000
2000
หมายความถึงอะตอมของคาร์บอนเล็กๆ
04:42
Well since then,
115
267000
2000
ตั้งแต่นั้นมา
04:44
I just thought that I've been really privileged
116
269000
3000
ผมคิดว่าผมมีอภิสิทธิ์จริงๆ
04:47
to go to over 2,000 schools in my country --
117
272000
4000
ที่ได้ไปยังโรงเรียนกว่าสองพันโรงทั่วประเทศ
04:51
village schools, government schools,
118
276000
2000
โรงเรียนหมู่บ้าน โรงเรียนรัฐ
04:53
municipal schools, Ivy League schools --
119
278000
2000
โรงเรียนเทศบาล โรงเรียนชั้นนำ
04:55
I've been invited by most of them.
120
280000
2000
โดยมากผมจะได้รับเชิญ
04:57
And every time I go to a school,
121
282000
2000
ทุกครั้งที่ผมไปโรงเรียน
04:59
I see a gleam in the eyes of the children.
122
284000
2000
ผมเห็นเด็กๆตาเป็นประกาย
05:01
I see hope. I see happiness in their faces.
123
286000
3000
ผมเห็นความหวัง ความสุขบนใบหน้าของพวกเขา
05:04
Children want to make things. Children want to do things.
124
289000
3000
เด็กๆต้องการสร้างบางสิ่ง ต้องการทำบางสิ่ง
05:07
Now this, we make lots and lots of pumps.
125
292000
3000
เราทำปั๊มลมจำนวนมาก
05:10
Now this is a little pump
126
295000
2000
นี่คือปั๊มลมเล็กๆ
05:12
with which you could inflate a balloon.
127
297000
2000
ซึ่งคุณใช้เติมลมลูกโป่งได้
05:14
It's a real pump. You could actually pop the balloon.
128
299000
3000
มันเป็นปั๊มจริงๆ คุณใช้เติมลมลูกโป่งได้จริง
05:17
And we have a slogan
129
302000
2000
และเรามีสโลแกนว่า
05:19
that the best thing a child can do with a toy is to break it.
130
304000
3000
สิ่งที่ดีที่สุดที่เด็กทำได้กับของเล่นก็คือ ทำมันพัง
05:22
So all you do is --
131
307000
2000
ดังนั้นสิ่งที่คุณทำคือ
05:24
it's a very kind of provocative statement --
132
309000
2000
มันค่อนข้างจะเป็นประโยคที่กวนโทสะหน่อยนะ
05:26
this old bicycle tube and this old plastic [unclear]
133
311000
2000
ท่อจักรยานเก่า และพลาสติกเก่านี่
05:28
This filling cap will go very snugly into an old bicycle tube.
134
313000
3000
ฝาครอบนี้น่าจะพอดีกับท่อจักรยาน
05:31
And this is how you make a valve.
135
316000
2000
และนี่คือวิธีที่คุณทำวาล์ว
05:33
You put a little sticky tape.
136
318000
2000
คุณใช้เทปกาวเล็กน้อย
05:37
This is one-way traffic.
137
322000
3000
มันเป็นวิธีเดียว
05:41
Well we make lots and lots of pumps.
138
326000
2000
เราทำปั๊มลมจำนวนมาก
05:43
And this is the other one --
139
328000
2000
และนี่คืออีกอันหนึ่ง
05:45
that you just take a straw, and you just put a stick inside
140
330000
2000
ที่คุณแค่เอาหลอดมา เอาแท่งไม้ใส่ด้านใน
05:47
and you make two half-cuts.
141
332000
2000
ตัดครึ่งสองส่วน
05:49
Now this is what you do,
142
334000
2000
และนี่คือวิธีที่คุณเล่น
05:51
is you bend both these legs into a triangle,
143
336000
2000
คือคุณพับสองขานี้เข้าด้วยกันเป็นสามเหลี่ยม
05:53
and you just wrap some tape around.
144
338000
2000
แล้วคุณก็พันเทปรอบๆ
05:55
And this is the pump.
145
340000
2000
และนี่คือปั๊ม
05:57
And now, if you have this pump,
146
342000
3000
ตอนนี้คุณมีปั๊มนี่
06:00
it's like a great, great sprinkler.
147
345000
3000
มันคล้ายกับที่พ่นน้ำเจ๋งๆอันนึง
06:03
It's like a centrifuge.
148
348000
2000
มันคล้ายกับเครื่องรดน้ำต้นไม้
06:05
If you spin something, it tends to fly out.
149
350000
3000
ถ้าคุณปั่นบางอย่าง มันมักจะบินออกไป
06:08
(Applause)
150
353000
2000
(เสียงปรบมือ)
06:10
Well in terms of -- if you were in Andhra Pradesh,
151
355000
2000
เรื่องเกี่ยวกับ ถ้าคุณอยู่ในรัฐอานธรประเทศ
06:12
you would make this with the palmyra leaf.
152
357000
2000
คุณจะทำสิ่งนี้ด้วยใบปาล์มรูปพัด
06:14
Many of our folk toys
153
359000
2000
ของเล่นประจำถิ่นของเราหลายชิ้น
06:16
have great science principles.
154
361000
2000
เป็นไปตามหลักวิทยาศาตร์ที่ยอดเยี่ยม
06:18
If you spin-top something, it tends to fly out.
155
363000
2000
ถ้าคุณปั่นบางสิ่ง มันมักจะบินออกไป
06:20
If I do it with both hands, you can see this fun Mr. Flying Man.
156
365000
3000
ถ้าคุณปั่นมันด้วยสองมือ คุณจะได้สนุกไปกับ คนบิน!
06:25
Right.
157
370000
2000
ช่าย
06:29
This is a toy which is made from paper. It's amazing.
158
374000
3000
ของเล่นนี่ทำจากกระดาษ เจ๋งมากใช่ไหมล่ะ
06:32
There are four pictures.
159
377000
2000
มีภาพสี่ภาพ
06:34
You see insects,
160
379000
2000
คุณเห็นแมลง
06:36
you see frogs, snakes, eagles, butterflies,
161
381000
2000
คุณเห็นกบ งู อินทรี ผีเสื้อ
06:38
frogs, snakes, eagles.
162
383000
2000
กบ งู อินทรี
06:40
Here's a paper which you could [unclear] --
163
385000
2000
นี่เป็นกระดาษที่คุณสามารถ...[ไม่ชัด]
06:42
designed by a mathematician at Harvard in 1928,
164
387000
2000
ออกแบบโดยนักคณิตศาสตร์จากฮาวาร์ดในปี 1928
06:44
Arthur Stone,
165
389000
2000
อาเธอร์ สโตน
06:46
documented by Martin Gardner in many of his many books.
166
391000
3000
บันทึกโดยมาร์ติน การ์ดเนอร์ในหนังสือหลายเล่มของเขา
06:49
But this is great fun for children.
167
394000
2000
แต่นี่คือความสนุกสุดยอดของเด็กๆ
06:51
They all study about the food chain.
168
396000
2000
พวกเขาทั้งหมดได้เรียนรู้เกี่ยวกับห่วงโซ่อาหาร
06:53
The insects are eaten by the frogs; the frogs are eaten by the snakes;
169
398000
2000
แมลงถูกกินโดยกบ กบถูกกินโดยงู
06:55
the snakes are eaten by the eagles.
170
400000
2000
งูถูกกินโดยอินทรี
06:57
And this can be, if you had a whole photocopy paper --
171
402000
2000
และนี่เป็นไปได้ เพียงแค่คุณมีกระดาษถ่ายเอกสาร
06:59
A4 size paper --
172
404000
2000
ขนาด A4
07:01
you could be in a municipal school, you could be in a government school --
173
406000
3000
คุณอาจจะอยู่ในโรงเรียนเทศบาล คุณอาจจะอยู่ในโรงเรียนรัฐ
07:04
a paper, a scale and a pencil -- no glue, no scissors.
174
409000
3000
กระดาษ ไม้บรรทัด และดินสอ กาวไม่ต้อง กรรไกรไม่ต้อง
07:07
In three minutes, you just fold this up.
175
412000
3000
ในสามนาที คุณแค่พับนี่
07:10
And what you could use it for is just limited by your imagination.
176
415000
3000
และวิธีที่คุณจะใช้มันก็ขึ้นอยู่กับจินตนาการของคุณ
07:13
If you take a smaller paper, you make a smaller flexagon.
177
418000
3000
ถ้าคุณใช้กระดาษเล็กหน่อย คุณก็จะได้ทรงหกเหลี่ยมที่ขนาดเล็กลง
07:16
With a bigger one, you make a bigger one.
178
421000
3000
ถ้าใช้กระดาษใหญ่ คุณก็จะได้อันใหญ่
07:21
Now this is a pencil with a few slots over here.
179
426000
2000
นี่คือดินสอที่มีช่องนิดหน่อยตรงนี้
07:23
And you put a little fan here.
180
428000
2000
และคุณใส่พัดลมเล็กๆที่นี่
07:25
And this is a hundred-year-old toy.
181
430000
2000
และนี่คือของเล่นอายุร้อยปี
07:27
There have been six major research papers on this.
182
432000
3000
มีคนทำงานวิจัยสำคัญถึงหกฉบับเกี่ยวกับมัน
07:30
There's some grooves over here, you can see.
183
435000
2000
มีร่องตรงนี้ คุณเห็นได้
07:32
And if I take a reed -- if I rub this,
184
437000
2000
และถ้าผมใช้ไม้รวก ถ้าผมถูตรงนี้
07:34
something very amazing happens.
185
439000
2000
สิ่งมหัศจรรย์มากๆจะเกิดขึ้น
07:36
Six major research papers on this.
186
441000
2000
มีงานวิจัยสำคัญหกเรื่องเกี่ยวกับสิ่งนี้
07:38
As a matter of fact, Feynman, as a child, was very fascinated by this.
187
443000
2000
ที่จริงแล้ว เฟย์นแมน เมื่อตอนเป็นเด็ก ก็หลงไหลด้วยสิ่งนี้เช่นกัน
07:40
He wrote a paper on this.
188
445000
2000
เขาเขียนงานเกี่ยวกับมัน
07:42
And you don't need the three billion-dollar Hadron Collider
189
447000
2000
คุณไม่ต้องการเครื่องเร่งความเร็วอนุภาคราคาแพง
07:44
for doing this. (Laughter) (Applause)
190
449000
2000
เพื่อทำสิ่งนี้
07:46
This is there for every child,
191
451000
2000
มันอยู่ที่นั่นเพื่อเด็กทุกคน
07:48
and every child can enjoy this.
192
453000
2000
และเด็กทุกคนสามารถสนุกกับมันได้
07:50
If you want to put a colored disk,
193
455000
3000
ถ้าคุณต้องการเพิ่มจานสี
07:53
well all these seven colors coalesce.
194
458000
2000
ทั้งหมดเจ็ดสีนี้เชื่อมต่อกัน
07:55
And this is what Newton talked about 400 years back,
195
460000
3000
และนี่คือสิ่งที่นิวตันพูดถึงเมื่อสี่ร้อยปีที่แล้ว
07:58
that white light's made of seven colors,
196
463000
2000
ที่ว่าแสงประกอบด้วยสีทั้งเจ็ด
08:00
just by spinning this around.
197
465000
2000
แค่เพียงหมุนนี่ไปเรื่อยๆ
08:02
This is a straw.
198
467000
3000
นี่คือหลอด
08:05
What we've done, we've just sealed both the ends with tape,
199
470000
3000
ที่เราทำคือ ปิดปลายทั้งสองด้วยเทป
08:08
nipped the right corner and the bottom left corner,
200
473000
2000
หนีบตรงมุมขวา และมุมล่างซ้าย
08:10
so there's holes in the opposite corners, there's a little hole over here.
201
475000
3000
แล้วจะมีรูตรงมุมตรงข้าม มีรูเล็กๆตรงนี้
08:13
This is a kind of a blowing straw.
202
478000
2000
นี่เป็นหลอดหมุนได้ชนิดหนึ่ง
08:15
I just put this inside this.
203
480000
2000
ผมแค่เอามันใส่ลงไปในนี้
08:17
There's a hole here, and I shut this.
204
482000
3000
มีรูตรงนี้ ผมปิดตรงนี้
08:25
And this costs very little money to make --
205
490000
2000
และนี่เสียเงินนิดเดียวในการทำ
08:27
great fun for children to do.
206
492000
2000
เด็กๆสนุกสุดๆที่จะทำมัน
08:29
What we do
207
494000
2000
สิ่งที่เราทำ
08:31
is make a very simple electric motor.
208
496000
2000
คือการสร้างมอเตอร์ไฟฟ้าง่ายๆ
08:33
Now this is the simplest motor on Earth.
209
498000
3000
และนี่คือมอเตอร์ที่พื้นฐานที่สุดในโลก
08:37
The most expensive thing is the battery inside this.
210
502000
3000
สิ่งที่แพงที่สุดคือถ่านที่อยู่ด้านใน
08:40
If you have a battery, it costs five cents to make it.
211
505000
3000
ถ้าคุณมีถ่าน ก็สร้างมันได้แค่ไม่กี่บาท
08:43
This is an old bicycle tube,
212
508000
2000
นี่คือยางจักรยานเก่า
08:45
which gives you a broad rubber band, two safety pins.
213
510000
2000
ซึ้งกลายเป็นแผ่นยางกว้าง มีหมุดยึดสองจุด
08:47
This is a permanent magnet.
214
512000
2000
นี่คือแม่เหล็ก
08:49
Whenever current flows through the coil, this becomes an electromagnet.
215
514000
3000
เมื่อไรก็ตามที่มีกระแสผ่านขดลวด มันจะกลายเป็นแม่เหล็กไฟฟ้า
08:52
It's the interaction of both these magnets
216
517000
2000
มันเป็นปฏิกริยาระหว่างแม่เหล็กสองชิ้นนี้
08:54
which makes this motor spin.
217
519000
2000
ที่ทำให้มอเตอร์หมุน
08:56
We made 30,000.
218
521000
2000
เราทำมันสามหมื่นชิ้น
08:58
Teachers who have been teaching science for donkey years,
219
523000
3000
ครูผู้สอนวิทยาศาสตร์มานานหลายปี
09:01
they just muck up the definition and they spit it out.
220
526000
3000
ได้ทำให้คำนิยามเสียไป พวกเขาพ่นมันออกมา
09:04
When teachers make it, children make it.
221
529000
2000
เมื่อครูทำมัน เด็กๆก็ทำมัน
09:06
You can see a gleam in their eye.
222
531000
2000
คุณจะได้เห็นประกายในตาพวกเขา
09:08
They get a thrill
223
533000
3000
พวกเขาตื่นเต้น
09:11
of what science is all about.
224
536000
2000
เกี่ยวกับสิ่งที่วิทยาศาสตร์บอก
09:13
And this science is not a rich man's game.
225
538000
2000
และวิทยาศาสตร์นี้ไม่ใช่เรื่องของคนรวย
09:15
In a democratic country,
226
540000
2000
ในประเทศประชาธิปไตย
09:17
science must reach to our most oppressed,
227
542000
3000
วิทยาศาสตร์ต้องเข้าถึงเด็กที่ถูกกดขี่
09:20
to the most marginalized children.
228
545000
2000
ไปจนถึงเด็กที่ถูกละเลยที่สุด
09:22
This program started with 16 schools
229
547000
3000
แผนงานนี้เริ่มจากโรงเรียน 16 แห่ง
09:25
and spread to 1,500 government schools.
230
550000
3000
และขยายไปยังโรงเรียนรัฐบาลถึง 1,500 แห่ง
09:28
Over 100,000 children learn science this way.
231
553000
4000
เด็กกว่าแสนคนเรียนวิทยาศาสตร์ด้วยวิธีนี้
09:32
And we're just trying to see possibilities.
232
557000
2000
และเราแค่อยากลองเพื่อให้เห็นความเป็นไปได้
09:34
Look, this is the tetrapak --
233
559000
2000
ดูสิ นี่คือ Tetra Pak
09:36
awful materials from the point of view of the environment.
234
561000
3000
วัสดุที่แย่มากในมุมมองของสิ่งแวดล้อม
09:39
There are six layers -- three layers of plastic, aluminum --
235
564000
3000
มีทั้งหมดหกชั้น พลาสติกสามชั้น อลูมิเนียม
09:42
which are are sealed together.
236
567000
2000
ที่ปิดผนึกเข้าด้วยกัน
09:44
They are fused together, so you can't separate them.
237
569000
2000
มันรวมเข้าด้วยกัน ดังนั้นคุณจะแยกมันไม่ได้
09:46
Now you can just make a little network like this
238
571000
2000
ตอนนี้คุณแค่ทำแผ่นพับอย่างนี้
09:48
and fold them and stick them together
239
573000
2000
แล้วพับมัน และติดมันเข้าด้วยกัน
09:50
and make an icosahedron.
240
575000
2000
แล้วสร้างทรงยี่สิบหน้าขึ้นมา
09:52
So something which is trash,
241
577000
2000
ดังนั้นบางอย่างที่เป็นขยะ
09:54
which is choking all the seabirds,
242
579000
3000
ซึ่งทำให้นกทะเลหายใจไม่ออก
09:57
you could just recycle this into a very, very joyous --
243
582000
3000
คุณสามารถนำกลับมาใช้ได้อีกด้วยวิธีที่น่าสนุกมากๆ
10:00
all the platonic solids can be made with things like this.
244
585000
3000
สิ่งนี้สามารถสร้างทรงตันเพลโตทั้งหมดในวิทยาศาสตร์ได้เช่นนี้
10:03
This is a little straw,
245
588000
3000
นี่ืคือหลอดขนาดเล็ก
10:06
and what you do is you just nip two corners here,
246
591000
4000
สิ่งที่คุณทำคือคุณแค่หนีบมุมทั้งสองตรงนี้
10:10
and this becomes like a baby crocodile's mouth.
247
595000
4000
แล้วมันจะกลายเป็นรูปคล้ายปากจระเข้เด็กๆ
10:14
You put this in your mouth, and you blow.
248
599000
2000
คุณประกบมันที่ปาก แล้วเป่า
10:16
(Honk)
249
601000
2000
(เสียงเหมือนห่านร้อง)
10:18
It's children's delight, a teacher's envy, as they say.
250
603000
4000
มันเป็นความสุขของเด็ก ความอิจฉาของครู อย่างที่เขาว่า
10:22
You're not able to see how the sound is produced,
251
607000
2000
คุณจะไม่เห็นว่าเสียงออกมาได้อย่างไร
10:24
because the thing which is vibrating goes inside my mouth.
252
609000
3000
เพราะสิ่งที่สั่นอยู่ภายในปากของผม
10:27
I'm going to keep this outside, to blow out. I'm going to suck in air.
253
612000
3000
ผมจะเอามันออกมาข้างนอก เป่า ผมกำลังดูดอากาศ
10:30
(Honk)
254
615000
2000
(เสียงเหมือนห่านร้อง)
10:32
So no one actually needs to muck up the production of sound
255
617000
3000
ไม่จำเป็นที่ใครจะต้องผลิตเสียง
10:35
with wire vibrations.
256
620000
2000
ด้วยการสั่นสาย
10:37
The other is that you keep blowing at it,
257
622000
2000
สิ่งอื่นก็คือคุณเป่ามัน
10:39
keep making the sound,
258
624000
2000
คอยทำให้เกิดเสียงขึ้น
10:41
and you keep cutting it.
259
626000
2000
และคอยตัดมันเรื่อยๆ
10:43
And something very, very nice happens.
260
628000
2000
และสิ่งที่ดีมากๆจะเกิดขึ้น
10:45
(Honk)
261
630000
12000
(เสียงเหมือนห่านร้อง)
10:57
(Applause)
262
642000
3000
(เสียงปรบมือ)
11:00
And when you get a very small one --
263
645000
2000
และเมื่อคุณได้อันที่เล็กมากๆ
11:02
(Honk)
264
647000
3000
(เสียงเหมือนห่านร้อง)
11:05
This is what the kids teach you. You can also do this.
265
650000
3000
นี่คือสิ่งที่เด็กๆสอนคุณ คุณก็ทำได้
11:08
Well before I go any further,
266
653000
2000
ก่อนที่ผมจะพูดต่อ
11:10
this is something worth sharing.
267
655000
2000
มีบางส่ิงที่คุ้มที่จะแบ่งปัน
11:12
This is a touching slate meant for blind children.
268
657000
2000
นี่คือแผ่นจับสำหรับเด็กตาพิการ
11:14
This is strips of Velcro, this is my drawing slate,
269
659000
3000
นี่คือแถบเวลโคร(Velcro), ส่วนนี่คือแผ่นวาดเขียน
11:17
and this is my drawing pen,
270
662000
2000
และนี่คือปากกาสำหรับวาด
11:19
which is basically a film box.
271
664000
2000
ซึ่งโดยพื้นฐานคือกล่องฟิล์ม
11:21
It's basically like a fisherman's line,
272
666000
4000
โดยพื้นฐานมันคล้ายเอ็นตกปลา
11:25
a fishing line.
273
670000
2000
สายเอ็นตกปลา
11:27
And this is wool over here.
274
672000
2000
และมีขนแกะตรงนี้
11:29
If I crank the handle, all the wool goes inside.
275
674000
3000
ถ้าผมหมุนที่จับ ขนทั้งหมดจะถูกเก็บเข้าด้านใน
11:32
And what a blind child can do is to just draw this.
276
677000
3000
และสิ่งที่เด็กตาพิการทำได้คือแค่วาดมัน
11:36
Wool sticks on Velcro.
277
681000
2000
ขนแกะติดอยู่กับเวลโคร
11:40
There are 12 million blind children in our country --
278
685000
3000
มีเด็กตาพิการ 12 ล้านคนในประเทศ
11:43
(Applause)
279
688000
2000
(เสียงปรบมือ)
11:45
who live in a world of darkness.
280
690000
2000
ที่อยู่ในโลกมืด
11:47
And this has come as a great boon to them.
281
692000
3000
และนี่กลายเป็นสิ่งที่มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับพวกเขา
11:50
There's a factory out there making our children blind,
282
695000
3000
มีโรงงานที่ทำให้เด็กตาพิการ
11:53
not able to provide them with food,
283
698000
2000
ไม่สามารถให้อาหารพวกเขา
11:55
not able to provide them with vitamin A.
284
700000
2000
ไม่สามารถให้วิตามินเอกับพวกเขา
11:57
But this has come as a great boon for them.
285
702000
2000
แต่นี่กลายเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากสำหรับเด็กๆ
11:59
There are no patents. Anyone can make it.
286
704000
3000
ไม่มีสิทธิบัตร ใครก็สร้างมันได้
12:03
This is very, very simple.
287
708000
2000
มันง่ายมากๆ
12:05
You can see, this is the generator. It's a crank generator.
288
710000
3000
คุณดูนี่ นี่คือเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบมือหมุน
12:08
These are two magnets.
289
713000
2000
มีแม่เหล็กสองชิ้น
12:10
This is a large pulley made by sandwiching rubber between two old CDs.
290
715000
3000
นี่คือรอกขนาดใหญ่ สร้างโดยการประกบยางเข้าด้วยกันระหว่างซีดีเก่าสองแผ่น
12:13
Small pulley and two strong magnets.
291
718000
2000
รอกเล็กๆ และแม่เหล็กสองชิ้น
12:15
And this fiber turns a wire attached to an LED.
292
720000
3000
และเส้นใยนี้กลายเป็นสายไฟที่ติดกับหลอด LED
12:18
If I spin this pulley, the small one's going to spin much faster.
293
723000
2000
ถ้าผมปั่นรอกนี่ รอกเล็กจะปั่นเร็วขึ้นมาก
12:20
There will be a spinning magnetic field.
294
725000
2000
มันจะเกิดสนามแม่เหล็กหมุนไป
12:22
Lines, of course, would be cut, the force will be generated.
295
727000
3000
แน่นอนเส้นจะถูกตัด พลังงานจะถูกสร้างขึ้น
12:25
And you can see, this LED is going to glow.
296
730000
2000
และคุณจะได้เห็น หลอด LED ค่อยๆสว่างขึ้น
12:27
So this is a small crank generator.
297
732000
3000
ดังนั้นนี่คือเครื่องกำเนิดไฟฟ้ามือหมุนขนาดเล็ก
12:31
Well, this is, again,
298
736000
3000
และ นี่ อีกที
12:34
it's just a ring, a steel ring with steel nuts.
299
739000
3000
มันคือแหวน แหวนโลหะและแหวนสกรูโลหะ
12:37
And what you can do
300
742000
2000
และสิ่งที่คุณทำได้
12:39
is just, if you give it a twirl,
301
744000
3000
ก็แค่ ถ้าคุณหมุนมัน
12:42
well they just keep going on.
302
747000
3000
มันก็จะไปต่อไปเรื่อยๆ
12:48
And imagine a bunch of kids
303
753000
2000
ลองนึกถึงกลุ่มเด็กๆ
12:50
standing in a circle
304
755000
2000
ยืนอยู่ในวงกลม
12:52
and just waiting for the steel ring to be passed on.
305
757000
2000
และคอยให้แหวนโลหะส่งไปรอบๆ
12:54
And they'd be absolutely joyous playing with this.
306
759000
4000
และพวกเขาเล่นมันอย่างสนุกสนานจริงๆ
12:59
Well in the end, what we can also do:
307
764000
2000
และสุดท้าย สิ่งที่เราก็ทำได้
13:01
we use a lot of old newspapers
308
766000
3000
เราใช้หนังสือพิมพ์เก่าๆจำนวนมาก
13:04
to make caps.
309
769000
2000
เพื่อสร้างหมวก
13:06
This is worthy of Sachin Tendulkar.
310
771000
2000
นี่ควรเรียกว่า ซาชิน เทนดุลกา (นักคริกเก็ตระดับตำนาน)
13:08
It's a great cricket cap. (Laughter) (Applause)
311
773000
3000
มันเป็นหมวกคริกเก็ตที่เจ๋งมาก
13:11
When first you see Nehru and Gandhi,
312
776000
2000
ครั้งแรกที่คุณเห็น เนรู และ คานธี
13:13
this is the Nehru cap -- just half a newspaper.
313
778000
3000
นี่คือหมวกของเนรู แค่ครึ่งหนังสือพิมพ์
13:16
We make lots of toys with newspapers,
314
781000
2000
เราสร้างของเล่นจำนวนมากจากหนังสือพิมพ์
13:18
and this is one of them.
315
783000
2000
และนี่คือหนึ่งในนั้น
13:20
And this is -- you can see --
316
785000
2000
และนี่คือ เห็นไหม
13:22
this is a flapping bird.
317
787000
3000
นี่คือนกกระพือปีก
13:25
All of our old newspapers, we cut them into little squares.
318
790000
3000
หนังสือพิมพ์เก่าๆทั้งหมด เราตัดมันเป็นสี่เหลี่ยมเล็กๆ
13:28
And if you have one of these birds --
319
793000
2000
และถ้าคุณมีนกซักตัวในนี้
13:30
children in Japan have been making this bird for many, many years.
320
795000
4000
เด็กๆในญี่ปุ่นพับนกนี่มาหลายปีแล้ว
13:35
And you can see,
321
800000
2000
ดูนี่
13:37
this is a little fantail bird.
322
802000
3000
นี่คือนกบินไปรอบๆเหมือนพัดลม
13:41
Well in the end, I'll just end with a story.
323
806000
3000
ท้ายที่สุดนี้ ผมจะปิดท้ายด้วยเรื่องเล่า
13:44
This is called "The Captain's Hat Story."
324
809000
2000
มันมีชื่อว่า "เรื่องหมวกของกัปตัน"
13:46
The captain was a captain of a sea-going ship.
325
811000
2000
กัปตันเป็นกัปตันของเรือเดินทะเล
13:48
It goes very slowly.
326
813000
2000
มันแล่นช้าๆ
13:50
And there were lots of passengers on the ship,
327
815000
2000
และมีผู้โดยสารจำนวนมากบนเรือ
13:52
and they were getting bored, so the captain invited them on the deck.
328
817000
2000
และพวกเขาก็เบื่อ ดังนั้นกัปตันเลยเชิญเขาไปที่ดาดฟ้าเรือ
13:54
"Wear all your colorful clothes and sing and dance,
329
819000
2000
"สวมเสื้อสวยๆ ร้องเพลง และเต้นรำ
13:56
and I'll provide you with good food and drinks."
330
821000
2000
ผมจะเลี้ยงอาหารและเครื่องดื่มรสเลิศแก่คุณ"
13:58
And the captain would wear a cap everyday
331
823000
2000
กัปตันจะสวมหมวกทุกวัน
14:00
and join in the regalia.
332
825000
2000
และสวมเครื่องราชกกุธภัณฑ์
14:02
The first day, it was a huge umbrella cap,
333
827000
2000
ในวันแรก มันเป็นหมวกปีกกว้างขนาดใหญ่
14:04
like a captain's cap.
334
829000
2000
เหมือนกับหมวกกัปตัน
14:06
That night, when the passengers would be sleeping,
335
831000
3000
คืนนั้น เมื่อผู้โดยสารเข้านอน
14:09
he would give it one more fold,
336
834000
2000
เขาจะพับมันครั้งหนึ่ง
14:11
and the second day, he would be wearing a fireman's cap --
337
836000
2000
และในวันที่สอง เขาจะสวมหมวกของนักดับเพลิง
14:13
with a little shoot just like a designer cap,
338
838000
2000
มีส่วนงอกเล็กๆคล้ายกับหมวกของดีไซเนอร์
14:15
because it protects the spinal cord.
339
840000
3000
เพราะมันป้องกันเส้นประสาทไขสันหลัง
14:18
And the second night, he would take the same cap
340
843000
2000
และในคืนที่สอง เขาเอาหมวกใบเดิม
14:20
and give it another fold.
341
845000
2000
มาพับอีกครั้ง
14:22
And the third day, it would be a Shikari cap --
342
847000
2000
และวันที่สาม มันกลายเป็นหมวก ชิคาริ
14:24
just like an adventurer's cap.
343
849000
3000
คล้ายๆกับหมวกของนักผจญภัย
14:27
And the third night, he would give it two more folds --
344
852000
3000
และในคืนที่สาม เขาพับมันอีกสองครั้ง
14:30
and this is a very, very famous cap.
345
855000
2000
และนึ่คือหมวกที่มีชื่อเสียงมากๆ
14:32
If you've seen any of our Bollywood films,
346
857000
2000
ถ้าคุณเคยดูหนังบอลลิวูดของเรา
14:34
this is what the policeman wears,
347
859000
2000
นี่คือหมวกที่ตำรวจใส่
14:36
it's called a zapalu cap.
348
861000
2000
มันเรียกว่าหมวกซาปาลู
14:38
It's been catapulted to international glory.
349
863000
3000
มันถูกยกให้มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ
14:41
And we must not forget that he was the captain of the ship.
350
866000
3000
และเราต้องไม่ลืมว่าเขาเป็นกัปตันเรือ
14:44
So that's a ship.
351
869000
2000
ดังนั้นมันคือเรือ
14:46
And now the end:
352
871000
2000
และในตอบจบ
14:48
everyone was enjoying the journey very much.
353
873000
2000
ทุกคนสนุกสนานไปกับการเดินทางมาก
14:50
They were singing and dancing.
354
875000
2000
พวกเขาร้องเพลงและเต้นรำ
14:52
Suddenly there was a storm and huge waves.
355
877000
3000
ทันใดนั้นก็มีพายุและคลื่นยักษ์
14:55
And all the ship can do is to dance and pitch along with the waves.
356
880000
3000
และเรือทั้งหมดก็ทำได้แค่เต้นและเอียงไปตามคลื่น
14:58
A huge wave comes and slaps the front
357
883000
2000
คลื่นยักษ์คลื่นหนึ่งปะทะเข้าที่หัวเรือ
15:00
and knocks it down.
358
885000
2000
และทำมันพัง
15:02
And another one comes and slaps the aft and knocks it down.
359
887000
3000
อีกคลื่นหนึ่งมาปะทะทางท้ายเรือและทำมันพัง
15:05
And there's a third one over here.
360
890000
2000
และมีคลื่นที่สามอีกคลื่นตรงนั้น
15:07
This swallows the bridge and knocks it down.
361
892000
2000
มันกลืนสะพานเรือและพังมันลง
15:09
And the ship sinks,
362
894000
2000
แล้วเรือก็จม
15:11
and the captain has lost everything,
363
896000
2000
และกัปตันสูญเสียทุกอย่าง
15:13
but for a life jacket.
364
898000
3000
นอกจากเสื้อชูชีพ
15:16
Thank you so much.
365
901000
2000
ขอบคุณมากครับ
15:18
(Applause)
366
903000
6000
(เสียงปรบมือ)
ABOUT THE SPEAKER
Arvind Gupta - ToymakerScience educator Arvind Gupta uses simple toys to teach.
Why you should listen
Arvind Gupta is an Indian toy inventor and popularizer of science for kids. Creating simple toys out of trash and everyday goods, he illustrates principles of science and design in a memorably hands-on fashion. He works at the Children's Science Centre in Pune, India.
He's the author of numerous books available in English, Hindi and other Indian languages, including Little Toys, Amazing Activities, Science from Scrap, and Science Skills & Thrills: The Best of Arvind Gupta. His Low-Cost Equipment for Science and Technology Eduction is available as a PDF download through UNESCO. Many of his toy designs are explained in one-minute films >>
Arvind Gupta | Speaker | TED.com