TED2014
Jeremy Kasdin: The flower-shaped starshade that might help us detect Earth-like planets
เจเรมี คาสดิน: ที่บังดาวทรงดอกไม้ที่อาจช่วยเราหาดาวเคราะห์คล้ายโลก
Filmed:
Readability: 3.4
1,421,022 views
นักดาราศาสตร์เชื่อว่าดาวฤกษ์ทุกดวงในดาราจักรมีดาวเคราะห์ หนึ่งในห้าของมันอาจเป็นแหล่งพึ่งพิงของสิ่งมีชีวิต เพียงแต่เรายังไม่เคยเห็นพวกมันเลย เจเรมี คาสดินและกลุ่มของเขากำลังหาทางเปลี่ยนสิ่งนั้นด้วยการออกแบบและวิศวกรรมชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่ไม่ธรรมดา "ที่บังดาว" ทรงกลีบดอกไม้ ที่จะทำให้กล้องโทรทัศน์ที่ห่างออกไป 50,000 กิโลเมตร ถ่ายภาพดาวเคราะห์ได้ เขาบอกว่า มันคือ "วิทยาศาสตร์ที่เป็นไปได้ที่เจ๋งที่สุด"
Jeremy Kasdin - Planet finder
Using innovative orbiting instruments, aerospace engineer Jeremy Kasdin hunts for the universe’s most elusive objects — potentially habitable worlds. Full bio
Using innovative orbiting instruments, aerospace engineer Jeremy Kasdin hunts for the universe’s most elusive objects — potentially habitable worlds. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:12
The universe is teeming with planets.
0
515
3603
เอกภพนั้น เต็มไปด้วยดาวเคราะห์
00:16
I want us, in the next decade,
1
4118
1876
ผมอยากให้พวกเราในทศวรรษหน้า
00:17
to build a space telescope that'll be able to image
2
5994
2393
สร้างกล้องโทรทรรศน์ในอวกาศ ที่สามารถจับภาพ
00:20
an Earth about another star
3
8387
2101
โลกบนดาวฤกษ์ดวงอื่น
00:22
and figure out whether it can harbor life.
4
10488
2744
และค้นหาว่าค้ำจุนชีวิตได้หรือไม่
00:25
My colleagues at the NASA
Jet Propulsion Laboratory
Jet Propulsion Laboratory
5
13232
2160
เพื่อนร่วมงานของผมที่ห้องปฏิบัติการเจ็ท โพรเพาชั่น
(Jet Propulsion Laboratory) ของนาซ่า
(Jet Propulsion Laboratory) ของนาซ่า
00:27
at Princeton and I are working on technology
6
15392
2861
ที่พรินซ์ตันและผมกำลังทำงานกับเทคโนโลยี
00:30
that will be able to do just that in the coming years.
7
18253
3538
ที่จะสามารถที่จะทำสิ่งนั้นได้ในไม่กี่ปีนี้
00:33
Astronomers now believe that every star
8
21791
1985
ในปัจจุบัน นักดาราศาสตร์เชื่อว่าดาวทุกดวง
00:35
in the galaxy has a planet,
9
23776
1940
ในดาราจักร มีดาวเคราะห์อยู่
00:37
and they speculate that up to one fifth of them
10
25716
2276
และพวกเขาคาดว่าหนึ่งในห้าของพวกมัน
00:39
have an Earth-like planet
11
27992
1076
มีดาวเคราะห์คล้ายโลก
00:41
that might be able to harbor life,
12
29068
1692
ที่อาจเป็นที่อยู่ของสิ่งมีชีวิต
00:42
but we haven't seen any of them.
13
30760
1762
แต่เรายังไม่ได้เห็นมันเลย
00:44
We've only detected them indirectly.
14
32522
2738
เราได้แต่ตรวจจับมันทางอ้อม
00:47
This is NASA's famous picture of the pale blue dot.
15
35260
3233
นี่คือภาพจุดสีฟ้าจางๆ อันโด่งดังของนาซ่า
00:50
It was taken by the Voyager spacecraft in 1990,
16
38493
2797
มันถูกถ่ายไว้โดยยาน โวยาร์ดเจอร์ (Voyager)
ใน ค.ศ. 1990
ใน ค.ศ. 1990
00:53
when they turned it around as
it was exiting the solar system
it was exiting the solar system
17
41290
2758
เมื่อพวกเขาหันยานกลับ
ในขณะที่มันกำลังออกไปนอกระบบสุริยะ
ในขณะที่มันกำลังออกไปนอกระบบสุริยะ
00:56
to take a picture of the Earth
18
44048
1712
เพื่อถ่ายภาพของโลก
00:57
from six billion kilometers away.
19
45760
2322
จากที่ที่ไกลออกไป หกพันล้านกิโลเมตร
01:00
I want to take that
20
48082
1568
ผมอยากจะถ่ายรูปแบบนั้น
01:01
of an Earth-like planet about another star.
21
49650
2582
กับดาวเคราะห์คล้ายโลกของดาวฤกษ์อื่น
01:04
Why haven't we done that? Why is that hard?
22
52232
2400
ทำไมเรายังไม่ทำแบบนั้นกัน ทำไมมันถึงยากนัก
01:06
Well to see, let's imagine we take
23
54632
1422
เพื่อจะให้เห็นภาพ ลองจินตนาการว่าเรา
01:08
the Hubble Space Telescope
24
56054
1946
เอากล้องโทรทัศน์อวกาศฮับเบิล
01:10
and we turn it around and we move it out
25
58000
1698
หันมันกล้บและถอยหลังมา
01:11
to the orbit of Mars.
26
59698
1534
ที่วงโครจรของดาวอังคาร
01:13
We'll see something like that,
27
61232
1208
เราจะเห็นอะไรแบบนี้
01:14
a slightly blurry picture of the Earth,
28
62440
2068
ภาพของโลกที่มัวลงนิดหน่อย
01:16
because we're a fairly small telescope
29
64508
2321
เพราะเรามีกล้องที่ค่อนข้างเล็ก
01:18
out at the orbit of Mars.
30
66829
1539
อยู่ที่วงโคจรของดาวอังคาร
01:20
Now let's move ten times further away.
31
68368
2016
ทีนี้ ลองห่างออกมาสิบเท่า
01:22
Here we are at the orbit of Uranus.
32
70384
1936
เราจะอยู่ที่วงโคจรของดาวยูเรนัส
01:24
It's gotten smaller, it's got less detail, less resolve.
33
72320
2486
มันดูเล็กลง รายละเอียดน้อยลง ความคมลดลง
01:26
We can still see the little moon,
34
74806
1785
เรายังคงเห็นดวงจันทร์เล็กๆ
01:28
but let's go ten times further away again.
35
76591
2113
ลองออกห่างไปอีก สิบเท่าอีกครั้ง
01:30
Here we are at the edge of the solar system,
36
78704
1731
ทีนี้เราอยู่ที่ขอบระบบสุริยจักรวาล
01:32
out at the Kuiper Belt.
37
80435
1298
ที่เคเปอร์ เบลท์ (Kuiper Belt)
01:33
Now it's not resolved at all.
38
81733
1706
ทีนี้แยกอะไรไม่ออกเลย
01:35
It's that pale blue dot of Carl Sagan's.
39
83439
2664
มันคือจุดสีฟ้าจางๆ ของคาล เซเกน (Carl Sagan)
01:38
But let's move yet again ten times further away.
40
86103
2200
แต่ลองเคลื่อนห่างออกไปอีกเป็นสิบเท่า
01:40
Here we are out at the Oort Cloud,
41
88303
1624
ทีนี้เราอยู่ที่เมฆออร์ต (Oort Cloud)
01:41
outside the solar system,
42
89927
1560
นอกระบบสุริยจักรวาล
01:43
and we're starting to see the sun
43
91487
1616
และเราก็เริ่มที่จะเห็นดวงอาทิตย์
01:45
move into the field of view
44
93103
1312
เคลื่อนเข้าไปในขอบเขตการมอง
01:46
and get into where the planet is.
45
94415
1464
และบังจุดที่ดาวเคราะห์อยู่
01:47
One more time, ten times further away.
46
95879
2131
อีกทีนึง ห่างออกไปสิบเท่า
01:50
Now we're at Alpha Centauri,
47
98010
1653
ทีนี้เราอยู่ที่ อัลฟา เซนทูริ (Alpha Centauri)
01:51
our nearest neighbor star,
48
99663
1240
ดาวฤกษ์เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เราที่สุด
01:52
and the planet is gone.
49
100903
1349
และดาวเคราะห์ก็หายไป
01:54
All we're seeing is the big beaming image of the star
50
102252
2608
ที่เราเห็นนั้นเป็นภาพขนาดใหญ่
ของดาวฤกษ์ที่ส่องสว่าง
ของดาวฤกษ์ที่ส่องสว่าง
01:56
that's ten billion times brighter than the planet,
51
104860
2957
ที่สว่างกว่าดาวเคราะห์ถึงสิบเท่า
01:59
which should be in that little red circle.
52
107817
1806
ซึ่งอยู่ในส่วนวงกลมเล็กๆ
02:01
That's what we want to see. That's why it's hard.
53
109623
2200
ที่มีสิ่งที่เราอยากเห็น
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมมันยาก
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมมันยาก
02:03
The light from the star is diffracting.
54
111823
2320
แสงจากดาวฤกษ์นั้นมีการเลี้ยวเบน
02:06
It's scattering inside the telescope,
55
114143
1741
มันกระจายอยู่ภายในกล้องโทรทัศน์
02:07
creating that very bright image
56
115884
1504
สร้างภาพที่สว่างมากๆ
02:09
that washes out the planet.
57
117388
1752
ที่ล้างภาพของดาวเคราะห์
02:11
So to see the planet,
58
119140
1271
ดังนั้น เพื่อที่จะเห็นดาวเคราะห์
02:12
we have to do something about all of that light.
59
120411
2260
เราต้องทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับแสงนั้น
02:14
We have to get rid of it.
60
122671
1231
เราต้องกำจัดมัน
02:15
I have a lot of colleagues working on
61
123902
1445
ผมมีผู้ร่วมงานมากมาย
02:17
really amazing technologies to do that,
62
125347
2015
ที่ทำงานกับเทคโนโลยีอันน่าทึ่ง ที่จะทำสิ่งนี้
02:19
but I want to tell you about one today
63
127362
1815
แต่ผมอยากจะบอกคุณถึงงานชิ้นหนึ่ง
02:21
that I think is the coolest,
64
129177
1497
ที่ผมคิดว่ามันเจ๋งมาก
02:22
and probably the most likely to get us an Earth
65
130674
2200
และบางที อาจมีความเป็นไปได้มากที่สุด
02:24
in the next decade.
66
132874
1536
ที่จะเกิดขึ้นในสิบปีข้างหน้า
02:26
It was first suggested by Lyman Spitzer,
67
134410
2072
มันถูกแนะนำเป็นครั้งแรก
โดยลินแมน สปิทเซอร์
โดยลินแมน สปิทเซอร์
02:28
the father of the space telescope, in 1962,
68
136482
3160
บิดาแห่งกล้องโทรทัศน์ ใน ค.ศ. 1962
02:31
and he took his inspiration from an eclipse.
69
139642
2116
และเขาได้แรงบันดาลใจจากสุริยุปราคา
02:33
You've all seen that. That's a solar eclipse.
70
141758
2183
เราเคยเห็นกันมาแล้ว
นั่นคือสุริยุปราคา
นั่นคือสุริยุปราคา
02:35
The moon has moved in front of the sun.
71
143941
2040
ดวงจันทร์เคลื่อนที่
ไปทางด้านหน้าของดวงอาทิตย์
ไปทางด้านหน้าของดวงอาทิตย์
02:37
It blocks out most of the light
72
145981
1760
มันบดบังแสงเกือบทั้งหมด
02:39
so we can see that dim corona around it.
73
147741
2376
ฉะนั้นเราจึงเห็นโคโรน่า เรื่อๆ รอบๆ มัน
02:42
It would be the same thing if I put my thumb up
74
150117
1663
มันอาจเป็นเหมือนกัน ถ้าผมเอานิ้วหัวแม่มือ
02:43
and blocked that spotlight
that's getting right in my eye,
that's getting right in my eye,
75
151780
2585
บังจุดแสงนั่นที่ส่งตรงมายังตาผม
02:46
I can see you in the back row.
76
154365
1912
ผมก็จะเห็นคุณที่นั่งอยู่แถวหลัง
02:48
Well, what's going on?
77
156277
1302
เอาล่ะ มันเกิดอะไรขึ้น
02:49
Well the moon
78
157579
1945
ดวงจันทร์
02:51
is casting a shadow down on the Earth.
79
159524
2415
ฉายเงาลงมายังโลก
02:53
We put a telescope or a camera in that shadow,
80
161939
3235
เรานำกล้องโทรทัศน์หรือกล้องถ่ายรูปไว้ในเงา
02:57
we look back at the sun,
81
165174
1511
เรามองกลับไปยังดวงอาทิตย์
02:58
and most of the light's been removed
82
166685
1640
และแสงส่วนใหญ่ก็จะถูกกำจัดออกไป
03:00
and we can see that dim, fine structure
83
168325
2090
และเราก็สามารถเห็นโครงสร้างเรื่อๆ
03:02
in the corona.
84
170415
1275
ในโคโรน่า
03:03
Spitzer's suggestion was we do this in space.
85
171690
2667
คำแนะนำของสปิทเซอร์ คือ
เราควรทำสิ่งนี้ในอวกาศ
เราควรทำสิ่งนี้ในอวกาศ
03:06
We build a big screen, we fly it in space,
86
174357
2777
เราสร้างจอขนาดใหญ่ เราบินไปอวกาศ
03:09
we put it up in front of the star,
87
177134
2047
เรานำมันขึ้นไปวางด้านหน้าดาวฤกษ์
03:11
we block out most of the light,
88
179181
1784
เราบังแสงส่วนใหญ่
03:12
we fly a space telescope in
that shadow that's created,
that shadow that's created,
89
180965
3016
เราส่งกล้องโทรทัศน์อวกาศ
ไปอยู่ใต้เงาที่เราสร้างไว้
ไปอยู่ใต้เงาที่เราสร้างไว้
03:15
and boom, we get to see planets.
90
183981
1777
และบรู๊ม เราจะได้เห็นดาวเคราะห์
03:17
Well that would look something like this.
91
185758
2663
มันน่าจะมีหน้าตาแบบนี้
03:20
So there's that big screen,
92
188421
1589
นั่นคือจอขนาดใหญ่
03:22
and there's no planets,
93
190010
875
และมันก็ไม่มีดาวเคราะห์
03:22
because unfortunately it doesn't
actually work very well,
actually work very well,
94
190885
2504
เพราะว่า โชคร้าย มันทำงานไม่ดีสักเท่าไร
03:25
because the light waves of the light and waves
95
193389
2920
เพราะว่าคลื่นแสง
03:28
diffracts around that screen
96
196309
1680
และคลื่นที่สะท้อนเลี้ยวเบนอ้อมจอ
03:29
the same way it did in the telescope.
97
197989
1784
แบบเดียวกับที่มันทำในกล้องโทรทัศน์
03:31
It's like water bending around a rock in a stream,
98
199773
3137
มันเหมือนกับน้ำที่โค้งไปรอบหินในลำธาร
03:34
and all that light just destroys the shadow.
99
202910
1790
และแสงนั้นก็ทำลายเงา
03:36
It's a terrible shadow. And we can't see planets.
100
204700
2673
มันเป็นเงาที่แย่
และเราก็ไม่อาจเห็นดาวเคราะห์ได้
และเราก็ไม่อาจเห็นดาวเคราะห์ได้
03:39
But Spitzer actually knew the answer.
101
207373
1767
แต่สปิทเซอร์รู้คำตอบ
03:41
If we can feather the edges, soften those edges
102
209140
2505
ถ้าเราทำให้ขอบนุ่มนวลมากกว่านี้
03:43
so we can control diffraction,
103
211645
1766
เราก็จะสามารถควบคุมการเลี้ยวเบนได้
03:45
well then we can see a planet,
104
213411
1715
แล้วเราก็จะเห็นดาวเคราะห์
03:47
and in the last 10 years or so we've come up
105
215126
1799
และประมาณใน 10 ปีที่ผ่านมา
เราได้พบหนทางเลือก
เราได้พบหนทางเลือก
03:48
with optimal solutions for doing that.
106
216925
2044
ที่เป็นทางออกของสิ่งนั้น
03:50
It looks something like that.
107
218969
3532
มันหน้าตาประมาณนี้ครับ
03:54
We call that our flower petal starshade.
108
222501
2345
เราเรียกมันว่า กลีบดอกไม้บังดาว
03:56
If we make the edges of those petals exactly right,
109
224846
2960
ถ้าเราปรับขอบของมันให้ถูกต้อง
03:59
if we control their shape,
110
227806
1424
ถ้าเราควบคุณรูปร่างของพวกมัน
04:01
we can control diffraction,
111
229230
1558
เราจะสามารถควบคุมการเลี้ยวเบน
04:02
and now we have a great shadow.
112
230788
1446
และทีนี้ เราจะได้เงาขนาดใหญ่
04:04
It's about 10 billion times dimmer than it was before,
113
232234
2644
เงาจะมัวกว่าเดิมหมื่นล้านเท่า
04:06
and we can see the planets beam out just like that.
114
234878
3446
และเราจะเห็นลำแสงดาวเคราะห์
ออกมาแบบนั้น
ออกมาแบบนั้น
04:10
That, of course, has to be bigger than my thumb.
115
238324
1858
แน่นอนว่านั่นต้องใหญ่กว่านิ้วหัวแม่มือผม
04:12
That starshade is about
116
240182
1458
ที่บังดาวมีขนาด
04:13
the size of half a football field
117
241640
1576
ประมาณครึ่งสนามฟุตบอล
04:15
and it has to fly 50,000 kilometers
away from the telescope
away from the telescope
118
243216
3590
และมันต้องถูกส่งห่างออกไป
จากกล้องโทรทัศน์ 50,000 กม.
จากกล้องโทรทัศน์ 50,000 กม.
04:18
that has to be held right in its shadow,
119
246806
2060
เพื่อให้กล้องที่อยู่ในเงานั้น
04:20
and then we can see those planets.
120
248866
1964
และจากนั้นเราจะเห็นดาวเคราะห์
04:22
This sounds formidable,
121
250830
1408
มันฟังดูค่อนข้างยาก
04:24
but brilliant engineers, colleagues of mine at JPL,
122
252238
3008
แต่นักวิศวกรรมอันชาญฉลาด
เพื่อนร่วมงานของผมที่ เจพีแอล
เพื่อนร่วมงานของผมที่ เจพีแอล
04:27
came up with a fabulous design for how to do that
123
255246
2880
ได้ความคิดการออกแบบที่ยอดเยี่ยม
ว่าจะทำอย่างไร
ว่าจะทำอย่างไร
04:30
and it looks like this.
124
258126
1074
และมันก็ออกมาเป็นแบบนี้
04:31
It starts wrapped around a hub.
125
259200
1788
มันเริ่มพันรอบแกนกลาง
04:32
It separates from the telescope.
126
260988
1979
มันแยกจากกล้องโทรทัศน์
04:34
The petals unfurl, they open up,
127
262967
2271
กลีบพวกนั้นคลี่ออก พวกมันเปิดออก
04:37
the telescope turns around.
128
265238
1760
กล้องโทรทัศน์หันกลับ
04:38
Then you'll see it flip and fly out
129
266998
2144
จากนั้นคุณจะเห็นมันพลิกและเคลื่อนออกไป
04:41
that 50,000 kilometers away from the telescope.
130
269142
3215
50,000 กิโลเมตร จากกล้องโทรทัศน์
04:44
It's going to move in front of the star
131
272357
2470
มันกำลังจะเคลื่อนไปด้านหน้าดาวฤกษ์
04:46
just like that, creates a wonderful shadow.
132
274827
3283
อะไรแบบนั้น สร้างเงาอันน่าทึ่ง
04:50
Boom, we get planets orbiting about it.
133
278110
3804
บรู๊ม เราได้เห็นดาวเคราะห์ที่โคจรรอบมัน
04:53
(Applause)
134
281914
1724
(เสียงปรบมือ)
04:55
Thank you.
135
283638
2359
ขอบคุณครับ
04:57
That's not science fiction.
136
285997
1953
มันไม่ใช่นิยายวิทยาศาสตร์
04:59
We've been working on this
for the last five or six years.
for the last five or six years.
137
287950
2563
พวกเราได้ทำงานนี้ตลอดห้าหรือหกปีที่ผ่านมา
05:02
Last summer, we did a really cool test
138
290513
2603
ฤดูร้อนที่ผ่านมา เราได้ทำการทดสอบที่เจ๋งมากๆ
05:05
out in California at Northrop Grumman.
139
293116
2439
ในแคลิฟอเนีย ที่ นอร์ทรอพ กวัมแมน
05:07
So those are four petals.
140
295555
1583
นั่นคือกลีบทั้งสี่
05:09
This is a sub-scale star shade.
141
297138
1712
นี่เป็นขนาดย่อของที่บังดาว
05:10
It's about half the size of the one you just saw.
142
298850
2497
มันมีขนาดประมาณครึ่งหนึ่งของอันที่คุณเพิ่งเห็น
05:13
You'll see the petals unfurl.
143
301347
1460
คุณจะเห็นกลีบกางออก
05:14
Those four petals were built by four undergraduates
144
302807
2067
กลีบทั้งสี่ถูกสร้างขึ้น
โดยนักเรียนระดับปริญญาตรีสี่คน
โดยนักเรียนระดับปริญญาตรีสี่คน
05:16
doing a summer internship at JPL.
145
304874
2415
ที่มาฝึกงานช่วงฤดูร้อนที่ เจพีแอล
05:19
Now you're seeing it deploy.
146
307289
1246
ทีนี้คุณจะเห็นมันแปรกระบวนท่า
05:20
Those petals have to rotate into place.
147
308535
1982
กลีบเหล่านี้ต้องหมุนให้เข้าที่
05:22
The base of those petals
148
310517
1170
ฐานของกลีบ
05:23
has to go to the same place every time
149
311687
2373
ต้องไปอยู่ในจุดเดิมทุกครั้ง
05:26
to within a tenth of a millimeter.
150
314060
1623
ในช่วงหนึ่งในสิบของมิลลิเมตร
05:27
We ran this test 16 times,
151
315683
1760
เราทำการทดสอบ 16 ครั้ง
05:29
and 16 times it went into the exact same place
152
317443
2839
และทั้ง 16 ครั้งนั้น มันเข้าที่เดิมทุกครั้ง
05:32
to a tenth of a millimeter.
153
320282
1441
ในช่วงหนึ่งในสิบของมิลลิเมตร
05:33
This has to be done very precisely,
154
321723
1932
มันจะต้องแม่นยำมากๆ
05:35
but if we can do this, if we can build this technology,
155
323655
2508
แต่ถ้าเราทำสิ่งนี้ ถ้าเราสร้างเทคโนโลยีนี้
05:38
if we can get it into space,
156
326163
1484
ถ้าเราสามารถนำมันไปยังอวกาศ
05:39
you might see something like this.
157
327647
1801
คุณอาจเห็นอะไรแบบนี้
05:41
That's a picture of one our nearest neighbor stars
158
329448
2272
นั่นคือภาพของหนึ่งในดาวฤกษ์เพื่อนบ้าน
ที่ใกล้เรามากที่สุด
ที่ใกล้เรามากที่สุด
05:43
taken with the Hubble Space Telescope.
159
331720
2594
ที่ถ่ายโดยกล้องโทรทัศน์อวกาศฮับเบอร์
05:46
If we can take a similar space telescope,
160
334314
2384
ถ้าเราลองใช้กล้องโทรทัศน์คล้ายๆ กัน
05:48
slightly larger,
161
336698
1258
ที่ใหญ่กว่าเล็กน้อย
05:49
put it out there,
162
337956
1422
นำมันไปไว้ข้างนอก
05:51
fly an occulter in front of it,
163
339378
1386
ให้สิ่งบดบังผ่านมาด้านหน้า
05:52
what we might see is something like that --
164
340764
2190
ที่เราอาจเห็นคงเป็นอะไรแบบนี้
05:54
that's a family portrait of our
solar system -- but not ours.
solar system -- but not ours.
165
342954
2936
นั่นคือรูปถ่ายครอบครัวของระบบสุริยจักรวาล
แต่ไม่ใช่ของเรา
แต่ไม่ใช่ของเรา
05:57
We're hoping it'll be someone else's solar system
166
345890
2522
เราหวังว่ามันคือ
ระบบสุริยจักรวาลของสิ่งมีชีวิตอื่น
ระบบสุริยจักรวาลของสิ่งมีชีวิตอื่น
06:00
as seen through an occulter,
167
348412
1632
เมื่อมองผ่านสิ่งบดบัง
06:02
through a starshade like that.
168
350044
1070
ผ่านเงาของดวงดาวแบบนั้น
06:03
You can see Jupiter, you can see Saturn,
169
351114
2025
คุณสามารถเห็นดาวพฤหัส ดาวเสาร์
06:05
Uranus, Neptune, and right there in the center,
170
353139
2623
ยูเรนัส เนปจูล และที่ตรงกลางนี้
06:07
next to the residual light
171
355762
1340
ถัดไปจากแสดงอ่อนๆ
06:09
is that pale blue dot. That's Earth.
172
357102
1905
คือจุดสีฟ้าจางๆ นั่นคือโลก
06:11
We want to see that, see if there's water,
173
359007
2374
เราต้องการที่จะเห็น ว่าถ้ามีน้ำ
06:13
oxygen, ozone,
174
361381
1405
ออกซิเจน โอโซน
06:14
the things that might tell us that it could harbor life.
175
362786
2523
สิ่งที่จะบอกเราวามันอาจมีสิ่งมีชีวิต
06:17
I think this is the coolest possible science.
176
365309
2409
ผมคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในโลกวิทยาศาสตร์
06:19
That's why I got into doing this,
177
367718
1653
นั่นเป็นเหตุว่าทำไมผมถึงมาทำสิ่งนี้
06:21
because I think that will change the world.
178
369371
1970
เพราะผมคิดว่า มันจะเปลี่ยนโลก
06:23
That will change everything when we see that.
179
371341
2438
มันจะเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่าง เมื่อคุณเห็นมัน
06:25
Thank you.
180
373779
1586
ขอบคุณครับ
06:27
(Applause)
181
375365
4000
เสียงปรบมือ
ABOUT THE SPEAKER
Jeremy Kasdin - Planet finderUsing innovative orbiting instruments, aerospace engineer Jeremy Kasdin hunts for the universe’s most elusive objects — potentially habitable worlds.
Why you should listen
At Princeton’s High Contrast Imaging Laboratory, Jeremy Kasdin is collaborating on a revolutionary space-based observatory that will unveil previously unseen (and possibly Earth-like) planets in other solar systems.
One of the observatory’s startling innovations is the starshade, an orbiting "occulter" that blocks light from distant stars that ordinarily outshine their dim planets, making a clear view impossible. When paired with a space telescope, the starshade adds a new and powerful instrument to NASA’s cosmic detection toolkit.
More profile about the speakerOne of the observatory’s startling innovations is the starshade, an orbiting "occulter" that blocks light from distant stars that ordinarily outshine their dim planets, making a clear view impossible. When paired with a space telescope, the starshade adds a new and powerful instrument to NASA’s cosmic detection toolkit.
Jeremy Kasdin | Speaker | TED.com