ABOUT THE SPEAKER
Brian Cox - Physicist
Physicist Brian Cox has two jobs: working with the Large Hadron Collider at CERN, and explaining big science to the general public. He's a professor at the University of Manchester.

Why you should listen

Based at the University of Manchester, Brian Cox works at CERN in Geneva on the ATLAS experiment, studying the forward proton detectors for the Large Hadron Collider there. He's a professor at the University of Manchester, working in the High Energy Physics group, and is a research fellow of the Royal Society.

He's also become a vital voice in the UK media for explaining physics to the public. With his rockstar hair and accessible charm, he's the go-to physicist for explaining heady concepts on British TV and radio. (If you're in the UK, watch him on The Big Bang Machine.) He was the science advisor for the 2007 film Sunshine. He answers science questions every Friday on BBC6 radio's Breakfast Show.

More profile about the speaker
Brian Cox | Speaker | TED.com
TEDSalon London 2010

Brian Cox: Why we need the explorers

ไบรอัน ค๊อกส์ (Brian Cox): ทำไมเราต้องการนักสำรวจ

Filmed:
1,935,340 views

ในยุคที่เรามีปัญหาทางเศรษฐกิจ การสำรวจทางวิทยาศาสตร์ของเรา จากอวกาศถึง LHC (Large Hadron Collider) กำลังตกเป็นเป้าหมายแรกของการถูกตัดงบอุดหนุนจากรัฐบาล ไบรอัน ค๊อกส์ อธิบายว่า ความสงสัยใคร่รู้ที่ผลักดันวิทยาศาสตร์สามารถสนับสนุนตัวเองด้านการเงิน ให้พลังกับการพัฒนานวัตกรรมและ ทำให้เราซาบซึ้งกับตัวเรา ได้อย่างไร
- Physicist
Physicist Brian Cox has two jobs: working with the Large Hadron Collider at CERN, and explaining big science to the general public. He's a professor at the University of Manchester. Full bio

Double-click the English transcript below to play the video.

00:16
We liveมีชีวิต in difficultยาก and challengingการท้าทาย
0
1000
2000
เรากำลังอยู่ในช่วงที่สถานะภาพทางการเงิน
00:18
economicด้านเศรษฐกิจ timesครั้ง, of courseหลักสูตร.
1
3000
2000
ได้รับผลกระทบและความท้าทาย แน่ล่ะครับ
00:20
And one of the first victimsผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ
2
5000
3000
ผู้ที่เป็นเหยื่อรายต้นๆ
00:23
of difficultยาก economicด้านเศรษฐกิจ timesครั้ง,
3
8000
2000
ของช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ
00:25
I think, is publicสาธารณะ spendingการใช้จ่าย of any kindชนิด,
4
10000
3000
ที่ผมคิด ก็คือการใช้จ่ายของรัฐทุกประเภท
00:28
but certainlyอย่างแน่นอน in the firingยิง lineเส้น at the momentขณะ
5
13000
2000
แต่ที่กำลังจะถูกปลดออก ณ ขณะนี้แน่ๆ
00:30
is publicสาธารณะ spendingการใช้จ่าย for scienceวิทยาศาสตร์,
6
15000
2000
ก็คือ ค่าใช้จ่ายของรัฐด้านวิทยาศาสตร์
00:32
and particularlyโดยเฉพาะ curiosity-ledอยากรู้อยากเห็นนำ scienceวิทยาศาสตร์
7
17000
2000
และโดยเฉพาะ วิทยาศาสตร์ที่เกิดมาจากความใคร่รู้
00:34
and explorationการสำรวจ.
8
19000
2000
และการสำรวจ
00:36
So I want to try and convinceโน้มน้าวใจ you in about 15 minutesนาที
9
21000
3000
ฉะนั้น ผมอยากที่จะพยายาม
และชักจูงคุณภายใน 15 นาที
00:39
that that's a ridiculousไร้สาระ
10
24000
2000
ว่า นั่นเป็นสิ่งที่ไร้สาระ
00:41
and ludicrousเปิ่น thing to do.
11
26000
2000
และน่าขัน ที่จะปฎิบัติ
00:43
But I think to setชุด the sceneฉาก,
12
28000
2000
แต่ผมคิดว่าเพื่อที่จะสร้างบรรยากาศ
00:45
I want to showแสดง -- the nextต่อไป slideสไลด์ is not my attemptพยายาม
13
30000
2000
ผมอยากที่จะเสนอ-- นี่ไม่ใช่ว่าผมพยายามที่จะ
00:47
to showแสดง the worstแย่ที่สุด TEDTED slideสไลด์ in the historyประวัติศาสตร์ of TEDTED,
14
32000
3000
นำเสนอภาพที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์
การปาถกฐาที่ TED นะครับ
00:50
but it is a bitบิต of a messความยุ่งเหยิง.
15
35000
2000
แต่มันดูยุ่งเหยิงไปนิด
00:52
(Laughterเสียงหัวเราะ)
16
37000
2000
(เสียงหัวเราะ)
00:54
But actuallyแท้จริง, it's not my faultความผิด; it's from the Guardianผู้ปกครอง newspaperหนังสือพิมพ์.
17
39000
3000
แต่จริงๆแล้ว มันไม่ใช่ความผิดผมนะครับ
มันมาจากหนังสือพิมพ์ เดอะ การ์เดียน
00:57
And it's actuallyแท้จริง a beautifulสวย demonstrationสาธิต
18
42000
2000
และจริงๆแล้วมันก็เป็นการนำเสนอที่สวยงาม
00:59
of how much scienceวิทยาศาสตร์ costsค่าใช้จ่าย.
19
44000
2000
ว่าวิทยาศาสตร์มีค่าใช้จ่ายเท่าไร
01:01
Because, if I'm going to make the caseกรณี
20
46000
2000
เพราะว่า ถ้าผมจะร้องเรียน
01:03
for continuingอย่างต่อเนื่อง to spendใช้จ่าย on curiosity-drivenอยากรู้อยากเห็นเป็นตัวขับเคลื่อน scienceวิทยาศาสตร์ and explorationการสำรวจ,
21
48000
3000
เพื่อที่เราจะยังจ่ายเงิน
ให้กับวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับการสำรวจ
01:06
I should tell you how much it costsค่าใช้จ่าย.
22
51000
2000
ผมก็ควรที่จะบอกคุณว่ามันใช้เงินเท่าไร
01:08
So this is a gameเกม calledเรียกว่า "spotจุด the scienceวิทยาศาสตร์ budgetsงบประมาณ."
23
53000
2000
นี่เป็นเกมส์ที่เรียกว่า "งบวิทยาศาสตร์อยู่ตรงไหน"
01:10
This is the U.K. governmentรัฐบาล spendใช้จ่าย.
24
55000
2000
นี่คือรายจ่ายของรัฐบาลสหราชอาณาจักร
01:12
You see there, it's about 620 billionพันล้าน a yearปี.
25
57000
3000
มันมีมูลค่าราวๆ 620 พันล้าน ต่อปี
01:15
The scienceวิทยาศาสตร์ budgetงบ is actuallyแท้จริง --
26
60000
2000
งบทางวิทยาศาสตร์จริงๆแล้ว --
01:17
if you look to your left, there's a purpleสีม่วง setชุด of blobsblobs
27
62000
3000
ถ้าคุณมองทางซ้าย มันจะมีจุดสีม่วงๆเป็นกลุ่ม
01:20
and then yellowสีเหลือง setชุด of blobsblobs.
28
65000
2000
แล้วก็มีจุดสีเหลืองๆเป็นกลุ่ม
01:22
And it's one of the yellowสีเหลือง setชุด of blobsblobs
29
67000
2000
และหนึ่งในจุดเหลืองๆกลุ่มนั้น
01:24
around the bigใหญ่ yellowสีเหลือง blobหยด.
30
69000
2000
รอบๆจุดสีเหลืองอันใหญ่
01:26
It's about 3.3 billionพันล้าน poundsปอนด์ perต่อ yearปี
31
71000
2000
มันมีค่าประมาณ 3.3 พันล้าน ปอด์น ต่อปี
01:28
out of 620 billionพันล้าน.
32
73000
2000
จากทั้งหมด 620 พันล้าน
01:30
That fundsกองทุน everything in the U.K.
33
75000
2000
นั่นคือเงินทุนทั้งหมดในสหราชอาณาจักรที่จ่ายให้
01:32
from medicalทางการแพทย์ researchการวิจัย, spaceช่องว่าง explorationการสำรวจ,
34
77000
3000
ตั้งแต่การวิจัยทางการแพทย์ การสำรวจอวกาศ
01:35
where I work, at CERNเซิร์น in Genevaเหล้ายิน, particleอนุภาค physicsฟิสิกส์,
35
80000
2000
ที่ที่ผมทำงาน ณ CERN ใน เจนิวา ด้านฟิสิกส์อนุภาค
01:37
engineeringวิศวกรรม, even artsศิลปะ and humanitiesมนุษยศาสตร์,
36
82000
3000
วิศวกรรม แม้กระทั่งศิลปะและมานุษยศาสตร์
01:40
fundedได้รับการสนับสนุน from the scienceวิทยาศาสตร์ budgetงบ,
37
85000
2000
ได้รับเงินจากงบทางวิทยาศาสตร์
01:42
whichที่ is that 3.3 billionพันล้าน, that little, tinyขนาดเล็ก yellowสีเหลือง blobหยด
38
87000
3000
ซึ่งมีค่าราวๆ 3.3 พันล้าน จุดเล็กๆ สีเหลืองนั่น
01:45
around the orangeส้ม blobหยด at the topด้านบน left of the screenจอภาพ.
39
90000
3000
รอบๆจุดสีส้มตรงด้านบนซ้ายของจอ
01:48
So that's what we're arguingการโต้เถียง about.
40
93000
2000
นั่นแหละคือสิ่งที่เรากำลังถกเถียงอยู่
01:50
That percentageร้อยละ, by the way, is about the sameเหมือนกัน
41
95000
2000
เปอร์เซ็นต์นั้น ค่อนข้างที่จะใกล้เคียงกับ
01:52
in the U.S. and Germanyประเทศเยอรมัน and Franceฝรั่งเศส.
42
97000
2000
ในประเทศสหรัฐอเมริกา เยอรมันนี ฝรั่งเศส
01:54
R&D in totalทั้งหมด in the economyเศรษฐกิจ,
43
99000
2000
เงินสนับสนุนทั้งหมดสำหรับ การวิจัยและพัฒนา
01:56
publiclyสาธารณชน fundedได้รับการสนับสนุน, is about
44
101000
2000
จากงบของรัฐบาล
01:58
0.6 percentเปอร์เซ็นต์ of GDPจีดีพี.
45
103000
2000
มีค่าประมาณ 0.6 เปอร์เซ็นต์ของ จีดีพี
02:00
So that's what we're arguingการโต้เถียง about.
46
105000
2000
นั่นเป็นสิ่งที่เรากำลังถกเถึยงกันอยู่
02:02
The first thing I want to say,
47
107000
2000
สิ่งแรกที่ผมอยากจะกล่าว
02:04
and this is straightตรง from "Wondersสิ่งมหัศจรรย์ of the Solarแสงอาทิตย์ Systemระบบ,"
48
109000
3000
ซึ่งคัดลอกมาจาก (สารคดี)
"Wonders of the Solar System"
02:07
is that our explorationการสำรวจ of the solarแสงอาทิตย์ systemระบบ and the universeจักรวาล
49
112000
3000
ก็คือ การสำรวจระบบสุริยจักรวาลและเอกภพ
02:10
has shownแสดงให้เห็นว่า us that it is indescribablyอย่างคลุมเครือ beautifulสวย.
50
115000
3000
ได้ทำให้เราเห็นว่ามันสวยงามเกินคำบรรยาย
02:13
This is a pictureภาพ that actuallyแท้จริง was sentส่ง back
51
118000
2000
นี่คือภาพที่ถูกส่งกลับมา
02:15
by the Cassiniแคสสินี spaceช่องว่าง probeการสอบสวน around Saturnดาวเสาร์,
52
120000
2000
จากยานอวกาศคัสซินี่ รอบดาวเสาร์
02:17
after we'dพุธ finishedเสร็จ filmingการถ่ายทำภาพยนตร์ "Wondersสิ่งมหัศจรรย์ of the Solarแสงอาทิตย์ Systemระบบ."
53
122000
2000
หลังจากที่เราถ่ายทำ "Wonders of the Solar System."
เสร็จแล้ว
02:19
So it isn't in the seriesชุด.
54
124000
2000
มันก็เลยไม่ได้อยู่ในสารคดีนั้น
02:21
It's of the moonดวงจันทร์ Enceladusเอนเซลาดั.
55
126000
2000
นี่คือภาพดวงจันทร์ เอนเซลาดัส
02:23
So that bigใหญ่ sweepingการกวาด, whiteขาว
56
128000
2000
รอยแถบสีขาว
02:25
sphereรูปทรงกลม in the cornerมุม is Saturnดาวเสาร์,
57
130000
2000
ทรงกลม ที่มุมนั่นคือดาวเสาร์
02:27
whichที่ is actuallyแท้จริง in the backgroundพื้นหลัง of the pictureภาพ.
58
132000
3000
ซึ่งจริงๆแล้วมันอยู่ที่ฉากหลังของรูป
02:30
And that crescentเสี้ยว there is the moonดวงจันทร์ Enceladusเอนเซลาดั,
59
135000
2000
และเสี้ยววงกลมนั่นก็คือดวงจันทร์ เอนเซลาดัส
02:32
whichที่ is about as bigใหญ่ as the Britishอังกฤษ Islesเกาะ.
60
137000
3000
ซึ่งมีขนาดใหญ่พอๆกับบริติชไอลส์
02:35
It's about 500 kilometersกิโลเมตร in diameterเส้นผ่าศูนย์กลาง.
61
140000
2000
มันมีเส้นผ่านศูนย์ประมาณ 500 กิโลเมตร
02:37
So, tinyขนาดเล็ก moonดวงจันทร์.
62
142000
2000
เป็นดวงจันทร์เล็กๆ
02:39
What's fascinatingมโนหร and beautifulสวย ...
63
144000
2000
ช่างน่าสนใจและสวยงาม...
02:41
this an unprocessedไม่ได้เปลี่ยนแปลง pictureภาพ, by the way, I should say,
64
146000
2000
นี่เป็นภาพไม่ได้ตบแต่งนะครับ ผมต้องบอกไว้หน่อย
02:43
it's blackสีดำ and whiteขาว, straightตรง from Saturnianดาวเสาร์ orbitโคจร.
65
148000
3000
มันเป็นภาพขาวดำ ส่งตรงมาจากวงโคจรของดาวเสาร์
02:46
What's beautifulสวย is, you can probablyอาจ see on the limbกิ่ง there
66
151000
2000
สิ่งที่สวยงามก็คือ คุณน่าจะเห็นแขนมันตรงนั้น
02:48
some faintเป็นลม, sortประเภท of,
67
153000
2000
มีอะไรจางๆ
02:50
wispsปอย of almostเกือบจะ smokeควัน
68
155000
2000
เป็นแนวหมอกบางๆ
02:52
risingที่เพิ่มสูงขึ้น up from the limbกิ่ง.
69
157000
2000
ลอยขึ้นจากช่วงที่เป็นเหมือนแขน
02:54
This is how we visualizeจินตนาการ that in "Wondersสิ่งมหัศจรรย์ of the Solarแสงอาทิตย์ Systemระบบ."
70
159000
3000
นี่คือสิ่งที่เราเห็น จาก "Wonders of the Solar System."
02:57
It's a beautifulสวย graphicกราฟิก.
71
162000
2000
เป็นกราฟฟิกที่สวยดี
02:59
What we foundพบ out were that those faintเป็นลม wispsปอย
72
164000
2000
สิ่งที่เราค้นพบก็คือสายหมอกบางๆนั้น
03:01
are actuallyแท้จริง fountainsน้ำพุ of iceน้ำแข็ง
73
166000
2000
จริงๆแล้วก็คือน้ำพุน้ำแข็ง
03:03
risingที่เพิ่มสูงขึ้น up from the surfaceพื้นผิว of this tinyขนาดเล็ก moonดวงจันทร์.
74
168000
3000
พุ่งขึ้นมากพื้นผิวของดวงจันทร์เล็กๆนี้
03:06
That's fascinatingมโนหร and beautifulสวย in itselfตัวเอง,
75
171000
3000
มันน่าตื่นตาตืนใจและสวยงามในตัวของมัน
03:09
but we think that the mechanismกลไก
76
174000
2000
แต่เราคิดว่าระบบ
03:11
for poweringเปิดเครื่อง those fountainsน้ำพุ
77
176000
2000
ที่ให้พลังงานกับน้ำพุเหล่านี้
03:13
requiresต้องมี there to be lakesชล of liquidของเหลว waterน้ำ
78
178000
3000
ต้องการแหล่งน้ำที่เป็นของเหลว
03:16
beneathใต้ the surfaceพื้นผิว of this moonดวงจันทร์.
79
181000
2000
ภายใต้พื้นผิวของดวงจันทร์นี้
03:18
And what's importantสำคัญ about that
80
183000
2000
และสิ่งที่สำคัญเกี่ยวกับมันก็คือ
03:20
is that, on our planetดาวเคราะห์, on Earthโลก,
81
185000
2000
บนดาวเคราะห์ของเรา บนโลก
03:22
whereverที่ไหนก็ตาม we find liquidของเหลว waterน้ำ,
82
187000
2000
ที่ใดก็ตามที่มี น้ำ
03:24
we find life.
83
189000
2000
เราพบสิ่งมีชีวิต
03:26
So, to find strongแข็งแรง evidenceหลักฐาน
84
191000
3000
ดังนี้ เพื่อที่จะหาหลักฐานชิ้นสำคัญ
03:29
of liquidของเหลว, poolsสระว่ายน้ำ of liquidของเหลว, beneathใต้ the surfaceพื้นผิว of a moonดวงจันทร์
85
194000
3000
เกี่ยวกับของเหลว สระของเหลว ภายใต้พื้นผิวดวงจันทร์
03:32
750 millionล้าน milesไมล์ away from the Earthโลก
86
197000
3000
ห่างจากโลกไป 750 ล้านไมล์
03:35
is really quiteทีเดียว astoundingน่าประหลาดใจ.
87
200000
3000
เป็นอะไรที่ค่อนข้างน่าประทับใจ
03:38
So what we're sayingคำพูด, essentiallyเป็นหลัก,
88
203000
2000
ประเด็นสำคัญที่เรากำลังพูดก็คือ
03:40
is maybe that's a habitatที่อยู่อาศัย for life in the solarแสงอาทิตย์ systemระบบ.
89
205000
3000
นี่อาจเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตในระบบสุริยจักรวาล
03:44
Well, let me just say, that was a graphicกราฟิก. I just want to showแสดง this pictureภาพ.
90
209000
3000
ภาพนั้นเป็นภาพกราฟฟิกนะครับ
ผมอยากจะให้คุณดูภาพนี้
03:47
That's one more pictureภาพ of Enceladusเอนเซลาดั.
91
212000
2000
นี่เป็นอีกภาพของเอนเซลาดัส
03:49
This is when Cassiniแคสสินี flewบิน beneathใต้ Enceladusเอนเซลาดั.
92
214000
3000
นี่เป็นตอนที่แคสซินี่บินอยู่ใต้เอนเซลาดัส
03:52
So it madeทำ a very lowต่ำ passผ่านไป,
93
217000
2000
มันเฉียดเขาไปใกล้มากๆ
03:54
just a fewน้อย hundredร้อย kilometersกิโลเมตร aboveข้างบน the surfaceพื้นผิว.
94
219000
2000
เหนือจากพื้นผิวเพียงแค่ไม่กี่ร้อยกิโลเมตร
03:56
And so this, again, a realจริง pictureภาพ of the iceน้ำแข็ง fountainsน้ำพุ risingที่เพิ่มสูงขึ้น up into spaceช่องว่าง,
95
221000
3000
และนี่ เป็นอีกภาพจริงของนำ้พุน้ำแข็งที่พุ่งขึ้นสู่อวกาศ
03:59
absolutelyอย่างแน่นอน beautifulสวย.
96
224000
2000
สวยงามมากๆ
04:01
But that's not the primeสำคัญ candidateผู้สมัคร for life in the solarแสงอาทิตย์ systemระบบ.
97
226000
3000
แต่นี่ก็ไม่ใช่ตัวเลือกหลักในระบบสุริยจักรวาลสำหรับชีวิต
04:04
That's probablyอาจ this placeสถานที่,
98
229000
2000
นั่นน่าจะเป็นที่นี่
04:06
whichที่ is a moonดวงจันทร์ of Jupiterดาวพฤหัสบดี, Europaยูโรป้า.
99
231000
2000
ซึ่งก็คือดวงจันทร์ของดาวพฤหัสบดี ชื่อว่า ยูโรปา
04:08
And again, we had to flyบิน to the Jovianดาวพฤหัสบดี systemระบบ
100
233000
3000
และอีกครั้ง เราต้องบินไปถึงวงโคจรของดาวพฤหัส
04:11
to get any senseความรู้สึก that this moonดวงจันทร์, as mostมากที่สุด moonsดวงจันทร์,
101
236000
3000
เพื่อที่จะทราบว่าดวงจันทร์นี้ ต่างกับดวงจันทร์อื่นๆ
04:14
was anything other than a deadตาย ballลูกบอล of rockหิน.
102
239000
2000
เป็นอะไรไปมากกว่าลูกบอลหินตายๆ
04:16
It's actuallyแท้จริง an iceน้ำแข็ง moonดวงจันทร์.
103
241000
2000
ที่จริงแล้วมันเป็นดวงจันทร์น้ำแข็ง
04:18
So what you're looking at is the surfaceพื้นผิว of the moonดวงจันทร์ Europaยูโรป้า,
104
243000
3000
ฉะนั้น ที่คุณเห็นก็คือพื้นผิวของดวงจันทร์ยุโรปา
04:21
whichที่ is a thickหนา sheetแผ่น of iceน้ำแข็ง, probablyอาจ a hundredร้อย kilometersกิโลเมตร thickหนา.
105
246000
3000
ที่เป็นแผ่นน้ำแข็งหนา ประมาณร้อยกิโลเมตร
04:24
But by measuringการวัด the way that
106
249000
2000
แต่จากการวัด
04:26
Europaยูโรป้า interactsปฏิสัมพันธ์
107
251000
2000
ปฎิกิริยาที่ยูโรปา
04:28
with the magneticแม่เหล็ก fieldสนาม of Jupiterดาวพฤหัสบดี,
108
253000
2000
มีต่อสนามแม่เหล็กของดาวพฤหัส
04:30
and looking at how those cracksรอยแตก in the iceน้ำแข็ง
109
255000
2000
และดูรอยแตกของน้ำแข็ง
04:32
that you can see there on that graphicกราฟิก moveย้าย around,
110
257000
3000
ที่คุณเห็นในภาพกราฟฟิกเคลือนไปมา
04:35
we'veเราได้ inferredอนุมาน very stronglyเสถียร
111
260000
2000
เราค่อนข้างมั่นใจว่า
04:37
that there's an oceanมหาสมุทร of liquidของเหลว surroundingที่ล้อมรอบ
112
262000
2000
มันมีทะเลของเหลวอยู่รอบๆ
04:39
the entireทั้งหมด surfaceพื้นผิว of Europaยูโรป้า.
113
264000
3000
ทั้งพื้นผิวของยูโรปา
04:42
So belowด้านล่าง the iceน้ำแข็ง, there's an oceanมหาสมุทร of liquidของเหลว around the wholeทั้งหมด moonดวงจันทร์.
114
267000
3000
ดังนั้นภายใต้น้ำแข็ง
มีทะเลของเหลวอยู่รอบทั้งดวงจันทร์
04:45
It could be hundredsหลายร้อย of kilometersกิโลเมตร deepลึก, we think.
115
270000
3000
มันอาจจะลึกถึงร้อยกิโลเมตร เราคิดว่าอย่างนั้น
04:48
We think it's saltwaterน้ำเกลือ, and that would mean that
116
273000
2000
เราคิดว่ามันเป็นน้ำเค็ม และมันอาจหมายถึง
04:50
there's more waterน้ำ on that moonดวงจันทร์ of Jupiterดาวพฤหัสบดี
117
275000
3000
มันน่าจะมีน้ำบนดวงจันทร์ของดาวพฤหัส
04:53
than there is in all the oceansมหาสมุทร of the Earthโลก combinedรวม.
118
278000
3000
มากกว่าน้ำในทะเลทั้งหมดบนโลกรวมกัน
04:56
So that placeสถานที่, a little moonดวงจันทร์ around Jupiterดาวพฤหัสบดี,
119
281000
3000
ฉะนั้น ทีนั่น ดวงจันทร์เล็กๆรอบดาวพฤหัส
04:59
is probablyอาจ the primeสำคัญ candidateผู้สมัคร
120
284000
3000
อาจเป็นตัวเป้าหมายหลัก
05:02
for findingคำวินิจฉัย life on a moonดวงจันทร์
121
287000
2000
ที่จะไปสำรวจหาชีวิตบนดวงจันทร์
05:04
or a bodyร่างกาย outsideด้านนอก the Earthโลก, that we know of.
122
289000
3000
หรือสิ่งนอกโลกที่เรารู้จัก
05:07
Tremendousมหึมา and beautifulสวย discoveryการค้นพบ.
123
292000
3000
ช่างเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่และสวยมาก
05:10
Our explorationการสำรวจ of the solarแสงอาทิตย์ systemระบบ
124
295000
2000
การสำรวจระบบสุริยจักรวาลของเรา
05:12
has taughtสอน us that the solarแสงอาทิตย์ systemระบบ is beautifulสวย.
125
297000
2000
สอนให้เรารู้ว่า ระบบสุริยะจักรวาลนั้นสวยงาม
05:14
It mayอาจ alsoด้วย have pointedแหลม the way to answeringตอบ
126
299000
3000
มันอาจจะชี้นำไปยังหนทางที่จะให้คำตอบ
05:17
one of the mostมากที่สุด profoundลึกซึ้ง questionsคำถาม that you can possiblyอาจ askถาม,
127
302000
3000
ของปัญหาที่ตอบยากที่สุด
05:20
whichที่ is: "Are we aloneคนเดียว in the universeจักรวาล?"
128
305000
3000
ซึ่งก็คือ "เราโดดเดี่ยวในเอกภพนี้หรือ"
05:23
Is there any other use to explorationการสำรวจ and scienceวิทยาศาสตร์,
129
308000
2000
การสำรวจและวิทยาศาสตร์มันมีประโยชน์อะไร
05:25
other than just a senseความรู้สึก of wonderน่าแปลกใจ?
130
310000
2000
มากไปกว่าให้ความรู้สึกอัศจรรย์นี้หรือเปล่า
05:27
Well, there is.
131
312000
2000
มีครับ
05:29
This is a very famousมีชื่อเสียง pictureภาพ
132
314000
2000
นี่เป็นภาพที่โด่งดัง
05:31
takenยึด, actuallyแท้จริง, on my first Christmasคริสต์มาส Eveวันก่อนวันหยุด,
133
316000
2000
ถูกถ่ายไว้ ตอนวันคริสมาสอีฟแรกของผม
05:33
Decemberธันวาคม 24thTH, 1968,
134
318000
3000
24 ธันวาคม 1968
05:36
when I was about eightแปด monthsเดือน oldเก่า.
135
321000
2000
ตอนผมประมาณแปดเดือน
05:38
It was takenยึด by Apolloอพอลโล 8
136
323000
2000
มันถูกถ่ายไว้โดยยานอวกาศ อะพอลโล 8
05:40
as it wentไป around the back of the moonดวงจันทร์.
137
325000
2000
ขณะที่มันผ่านไปด้านหลังของดวงจันทร์
05:42
EarthriseEarthrise from Apolloอพอลโล 8.
138
327000
2000
โลกขึ้น จาก อะพอลโล 8
05:44
A famousมีชื่อเสียง pictureภาพ; manyจำนวนมาก people have said that it's the pictureภาพ
139
329000
2000
เป็นภาพโด่งดัง หลายคนบอกว่า
05:46
that savedที่บันทึกไว้ 1968,
140
331000
2000
ภาพนี้ช่วยปี 1968 ไว้
05:48
whichที่ was a turbulentเชี่ยว yearปี --
141
333000
2000
ซึ่งปีนี้เป็นปีที่มีแค่ความโกลาหล
05:50
the studentนักเรียน riotsการจลาจล in Parisปารีส,
142
335000
2000
นักศึกษาก่อจราจลที่ปารีส
05:52
the heightความสูง of the Vietnamเวียดนาม Warสงคราม.
143
337000
2000
จุดสำคัญของสงครามเวียดนาม
05:54
The reasonเหตุผล manyจำนวนมาก people think that about this pictureภาพ,
144
339000
3000
เหตุผลที่หลายคนคิดอย่างนั้น จากภาพๆนี้
05:57
and Alอัล Goreขวิด has said it manyจำนวนมาก timesครั้ง, actuallyแท้จริง, on the stageเวที at TEDTED,
145
342000
3000
และ อัล กอร์ ได้กล่าวไว้หลายครั้ง
ที่จริง ณ ที่ TED
06:00
is that this pictureภาพ, arguablyเนื้อหาที่, was
146
345000
2000
ว่าน่าจะจริง ที่ภาพนี้
06:02
the beginningการเริ่มต้น of the environmentalสิ่งแวดล้อม movementการเคลื่อนไหว.
147
347000
2000
เป็นจุดเริ่มต้นของ ความเคลื่อนไหวเรื่องสิ่งแวดล้อม
06:04
Because, for the first time,
148
349000
2000
เพราะว่า มันเป็นครั้งแรก
06:06
we saw our worldโลก,
149
351000
2000
ที่เราเห็นโลกของเรา
06:08
not as a solidของแข็ง, immovableคงที่,
150
353000
3000
ในรูปแบบที่ไม่ใช่ของแข็ง แน่นิ่ง
06:11
kindชนิด of indestructibleทำลายไม่ได้ placeสถานที่,
151
356000
2000
เหมือนสถานที่ซึ่งอยู่ยั้งคงทน
06:13
but as a very smallเล็ก, fragile-lookingบอบบางมอง worldโลก
152
358000
3000
แต่ ในมุมมองที่มันช่างเล็ก และดูเป็นโลกที่บอบบาง
06:16
just hangingที่แขวนอยู่ againstต่อต้าน the blacknessความมืด of spaceช่องว่าง.
153
361000
3000
แขวนอยู่บนอวกาศที่มืดมิด
06:19
What's alsoด้วย not oftenบ่อยครั้ง said
154
364000
2000
สิ่งที่ไม่ได้ถูกพูดถึงบ่อยๆ
06:21
about the spaceช่องว่าง explorationการสำรวจ, about the Apolloอพอลโล programโครงการ,
155
366000
3000
เกี่ยวกับการสำรวจอวกาศ เกี่ยวกับโครงการอะพอลโล
06:24
is the economicด้านเศรษฐกิจ contributionการสนับสนุน it madeทำ.
156
369000
2000
ก็คือผลตอบแทนทางการเงินที่มันให้
06:26
I mean while you can make argumentsข้อโต้แย้ง that it was wonderfulยอดเยี่ยม
157
371000
3000
ผมจะสื่อว่า ในขณะที่คุณสามารถเพียงได้ว่า มันสวยงาม
06:29
and a tremendousมหึมา achievementความสำเร็จ
158
374000
2000
และเป็นผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่
06:31
and deliveredส่ง picturesภาพ like this,
159
376000
2000
และส่งรูปแบบนี้มา
06:33
it costราคา a lot, didn't it?
160
378000
2000
มันแพงมากใช่ไหม
06:35
Well, actuallyแท้จริง, manyจำนวนมาก studiesการศึกษา have been doneเสร็จแล้ว
161
380000
2000
มีการศึกษามากมาย
06:37
about the economicด้านเศรษฐกิจ effectivenessประสิทธิผล,
162
382000
2000
เกี่ยวกับ ศักยภาพทางเศรษฐศาสตร์
06:39
the economicด้านเศรษฐกิจ impactส่งผลกระทบ of Apolloอพอลโล.
163
384000
2000
และผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากอะพอลโล
06:41
The biggestที่ใหญ่ที่สุด one was in 1975 by Chaseการไล่ล่า Econometricsเศรษฐมิติ.
164
386000
3000
ที่ใหญ่ที่สุดอันนึงก็คือ ในปี 1975 โดย เชส เอโคโนมิค
06:44
And it showedแสดงให้เห็นว่า that for everyทุกๆ $1 spentการใช้จ่าย on Apolloอพอลโล,
165
389000
3000
และมันได้รายงานว่า ทุกๆ 1 ดอลลาร์ที่ใช้ไปกับอะพอลโล
06:47
14 cameมา back into the U.S. economyเศรษฐกิจ.
166
392000
3000
เงิน 14 ดอลลาร์จะกลับมาในเศรษฐกิจของสหรัฐ
06:50
So the Apolloอพอลโล programโครงการ paidต้องจ่าย for itselfตัวเอง
167
395000
2000
ฉะนั้น โครงการอะพอลโลก็เหมือนให้งบกับตัวเอง
06:52
in inspirationแรงบันดาลใจ,
168
397000
2000
ในเรื่องแรงบันดาลใจ
06:54
in engineeringวิศวกรรม, achievementความสำเร็จ
169
399000
2000
เรื่องวิศวกรรม ความสำเร็จ
06:56
and, I think, in inspiringที่เร้าใจ youngหนุ่มสาว scientistsนักวิทยาศาสตร์ and engineersวิศวกร
170
401000
3000
และ ผมคิดว่า สร้างแรงบันดาลใจ
ให้นักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์และวิศวกร
06:59
14 timesครั้ง over.
171
404000
2000
มากกว่า 14 เท่า
07:01
So explorationการสำรวจ can payจ่ายเงิน for itselfตัวเอง.
172
406000
2000
ดังนั้น โครงการสำรวจสามารถสร้างงบได้เอง
07:03
What about scientificวิทยาศาสตร์ discoveryการค้นพบ?
173
408000
3000
แล้วการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ล่ะ
07:06
What about drivingการขับขี่ innovationนวัตกรรม?
174
411000
2000
แล้วการขับเคลื่อนของสิ่งประดิษฐ์ล่ะ
07:08
Well, this looksรูปลักษณ์ like a pictureภาพ of virtuallyจวน nothing.
175
413000
3000
นี่อาจดูเหมือนภาพที่ไม่มีอะไรเลย
07:11
What it is, is a pictureภาพ of the spectrumคลื่นความถี่
176
416000
2000
แต่ที่จริงแล้วมันคือภาพของสเปคตรัม
07:13
of hydrogenไฮโดรเจน.
177
418000
2000
ของไฮโดรเจน
07:16
See, back in the 1880s, 1890s,
178
421000
3000
ย้อนไปในยุคช่วง 1880 1890
07:19
manyจำนวนมาก scientistsนักวิทยาศาสตร์, manyจำนวนมาก observersผู้สังเกตการณ์,
179
424000
3000
นักวิทยาศาสตร์ นักสำรวจทั้งหลาย
07:22
lookedมอง at the lightเบา givenรับ off from atomsอะตอม.
180
427000
2000
มองไปยังแสงที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากอะตอม
07:24
And they saw strangeแปลก picturesภาพ like this.
181
429000
2000
และพวกเขาก็ได้เห็นภาพประหลาดๆแบบนี้
07:26
What you're seeingเห็น when you put it throughตลอด a prismปริซึม
182
431000
2000
สิ่งที่คุณได้เห็นเมื่อคุณผ่านแสงไปยังแท่งปริซึม
07:28
is that you heatความร้อน hydrogenไฮโดรเจน up and it doesn't just glowเรืองแสง
183
433000
3000
ก็คือ คุณให้ความร้อนกับไฮโดนเจน และมันก็ไม่ใช่แค่มีแสง
07:31
like a whiteขาว lightเบา,
184
436000
2000
เหมือนกับแสงขาว
07:33
it just emitsส่งเสียง lightเบา at particularโดยเฉพาะ colorsสี,
185
438000
2000
มันปล่อยแสงที่มีสีจำเพาะต่างๆ
07:35
a redสีแดง one, a lightเบา blueสีน้ำเงิน one, some darkมืด blueสีน้ำเงิน onesคน.
186
440000
3000
แดง ฟ้าอ่อน หรือฟ้าเข้ม
07:38
Now that led to an understandingความเข้าใจ of atomicอะตอม structureโครงสร้าง
187
443000
3000
นั่นนำไปสู่ความเข้าใจในเรื่องโครงสร้างของอะตอม
07:41
because the way that's explainedอธิบาย
188
446000
2000
เพราะมันเป็นการอธิบายว่า
07:43
is atomsอะตอม are a singleเดียว nucleusนิวเคลียส
189
448000
2000
อะตอมมีอยู่หนึ่งนิวเคลียส
07:45
with electronsอิเล็กตรอน going around them.
190
450000
2000
และมีอิเล็กตรอนวิ่งวนอยู่รอบๆ
07:47
And the electronsอิเล็กตรอน can only be in particularโดยเฉพาะ placesสถานที่.
191
452000
3000
และอิเล็กตรอนนั้นสามารถอยู่ได้ในที่เฉพาะเท่านั้น
07:50
And when they jumpกระโดด up to the nextต่อไป placeสถานที่ they can be,
192
455000
2000
และเมื่อมันกระโดดขึ้นไปยัง
จุดถัดไปที่มันสามารถอยู่ได้
07:52
and fallตก back down again,
193
457000
2000
และตกกลับลงมาอีกครั้ง
07:54
they emitปล่อยออกมา lightเบา at particularโดยเฉพาะ colorsสี.
194
459000
2000
มันจะปล่อยแสงสีจำเพาะออกมา
07:56
And so the factความจริง that atomsอะตอม, when you heatความร้อน them up,
195
461000
2000
และ ข้อเท็จจริงก็ที่ว่า เมื่อคุณให้ความร้อนมัน
07:58
only emitปล่อยออกมา lightเบา at very specificโดยเฉพาะ colorsสี,
196
463000
3000
อะตอมจะให้แสงสีจำเพาะหนึ่ง
08:01
was one of the keyสำคัญ driversไดรเวอร์
197
466000
2000
ก็เป็นหนึ่งในแรงขับสำคัญ
08:03
that led to the developmentพัฒนาการ of the quantumควอนตัม theoryทฤษฎี,
198
468000
2000
ที่นำไปสู่การพัฒนาของทฤษฎีควอนตัม
08:05
the theoryทฤษฎี of the structureโครงสร้าง of atomsอะตอม.
199
470000
3000
และทฤษฎีโครงสร้างของอะตอม
08:08
I just wanted to showแสดง this pictureภาพ because this is remarkableโดดเด่น.
200
473000
3000
ผมแค่อยากที่จะใหัคุณ
ชมรูปภาพนี้เพราะว่ามันยอดเยี่ยม
08:11
This is actuallyแท้จริง a pictureภาพ of the spectrumคลื่นความถี่ of the Sunดวงอาทิตย์.
201
476000
2000
มันเป็นภาพของสเปคตรัมของดวงอาทิตย์
08:13
And now, this is a pictureภาพ of atomsอะตอม in the Sun'sดวงอาทิตย์ atmosphereบรรยากาศ
202
478000
3000
และ นี่เป็นภาพของอะตอม
ในชั้นบรรยากาศของดวงอาทิตย์
08:16
absorbingการดูดซับ lightเบา.
203
481000
2000
กำลังดูดกลืนแสง
08:18
And again, they only absorbซึมซับ lightเบา at particularโดยเฉพาะ colorsสี
204
483000
2000
และอีกครั้งหนึ่ง มันดูดกลืนแสงเป็นเฉพาะสี
08:20
when electronsอิเล็กตรอน jumpกระโดด up and fallตก down,
205
485000
2000
เมื่ออิเล็คตรอนกระโดดขึ้นและตกลงมา
08:22
jumpกระโดด up and fallตก down.
206
487000
2000
กระโดดขึ้นและตกลงมา
08:24
But look at the numberจำนวน of blackสีดำ linesเส้น in that spectrumคลื่นความถี่.
207
489000
3000
แต่ลองนับจำนวนเส้นสีดำในสเปคตรัมสิครับ
08:27
And the elementธาตุ heliumฮีเลียม
208
492000
2000
และ ธาตุฮีเลี่ยม
08:29
was discoveredค้นพบ just by staringที่จ้องมอง at the lightเบา from the Sunดวงอาทิตย์
209
494000
3000
ก็ถูกค้นพบ แค่จากการจ้องมองไปยังแสง
ที่มาจากดวงอาทิตย์
08:32
because some of those blackสีดำ linesเส้น were foundพบ
210
497000
2000
เพราะว่าเส้นสีดำเหล่านี้ มีเป็นบางเส้น
08:34
that correspondedตรง to no knownที่รู้จักกัน elementธาตุ.
211
499000
2000
ที่พบว่ามันไม่ได้สอดคล้องกับธาตุใดๆที่เรารู้มาก่อน
08:36
And that's why helium'sฮีเลียมของ calledเรียกว่า heliumฮีเลียม.
212
501000
2000
และนั่นเป็นสาเหตุที่ฮีเลี่ยน ได้ชื่อนี้
08:38
It's calledเรียกว่า "helioshelios" -- helioshelios from the Sunดวงอาทิตย์.
213
503000
3000
"เฮลิโอส" แปลว่า ดวงอาทิตย์
08:41
Now, that soundsเสียง esotericลึกลับ,
214
506000
2000
ทีนี้ นี่อาจฟังดูซับซ้อน
08:43
and indeedจริง it was an esotericลึกลับ pursuitการแสวงหา,
215
508000
3000
และจริงๆแล้วมันก็เป็นการศึกษาที่ยากยิ่ง
08:46
but the quantumควอนตัม theoryทฤษฎี quicklyอย่างรวดเร็ว led
216
511000
2000
แต่ว่า ทฤษฎีควอนตัม ได้นำเรา
08:48
to an understandingความเข้าใจ of the behaviorsพฤติกรรม of electronsอิเล็กตรอน in materialsวัสดุ
217
513000
3000
ไปสู่ความเข้าใจในพฤติกรรมของอิเล็กตรอนในสารต่างๆ
08:51
like siliconซิลิคอน, for exampleตัวอย่าง.
218
516000
2000
เช่นใน ซิลิคอน
08:53
The way that siliconซิลิคอน behavesพฤติกรรม,
219
518000
2000
พฤติกรรมของซิลิคอนที่เป็นแบบนั้น
08:55
the factความจริง that you can buildสร้าง transistorsทรานซิสเตอร์,
220
520000
2000
และการที่คุณสามารถสร้างทรานซิสเตอร์ได้
08:57
is a purelyหมดจด quantumควอนตัม phenomenonปรากฏการณ์.
221
522000
2000
นั่นเป็นปรากฎการณ์ทางควอนตัมล้วนๆ
08:59
So withoutไม่มี that curiosity-drivenอยากรู้อยากเห็นเป็นตัวขับเคลื่อน
222
524000
2000
ดังนั้น ถ้าปราศจากการขับเคลือนจากความสงสัย
09:01
understandingความเข้าใจ of the structureโครงสร้าง of atomsอะตอม,
223
526000
2000
ความเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้างของอะตอม
09:03
whichที่ led to this ratherค่อนข้าง esotericลึกลับ theoryทฤษฎี, quantumควอนตัม mechanicsกลศาสตร์,
224
528000
3000
ซึ่งนำไปสู่ทฤษฏีที่ซับซ้อน อย่างกลศาสตร์ควอนตัม
09:06
then we wouldn'tจะไม่ have transistorsทรานซิสเตอร์, we wouldn'tจะไม่ have siliconซิลิคอน chipsเงิน,
225
531000
3000
เราก็คงจะไม่มีทรานซิสเตอร์ คงไม่มีแผงซิลิคอน
09:09
we wouldn'tจะไม่ have prettyน่ารัก much the basisรากฐาน
226
534000
3000
เราคงจะไม่มีสิ่งที่เราใช้กันเป็นพื้นฐาน
09:12
of our modernทันสมัย economyเศรษฐกิจ.
227
537000
2000
ของเศรษฐศาสตร์ยุคใหม่ของเรา
09:14
There's one more, I think, wonderfulยอดเยี่ยม twistบิด to that taleนิทาน.
228
539000
3000
มีอีกอย่างหนึ่ง ผมคิดว่า เป็นจุดหักมุมในเรื่องที่น่าสนใจ
09:17
In "Wondersสิ่งมหัศจรรย์ of the Solarแสงอาทิตย์ Systemระบบ,"
229
542000
2000
ใน "Wonders of the Solar System"
09:19
we keptเก็บไว้ emphasizingเน้น the lawsกฎหมาย of physicsฟิสิกส์ are universalสากล.
230
544000
3000
เราพูดเน้นเกี่ยวกับกฎของฟิสิกส์ว่ามันเป็นสากล
09:22
It's one of the mostมากที่สุด incredibleเหลือเชื่อ things about the physicsฟิสิกส์
231
547000
3000
สิ่งที่น่าทึ่งที่สุดเกี่ยวกับฟิสิกส์
09:25
and the understandingความเข้าใจ of natureธรรมชาติ that you get on Earthโลก,
232
550000
3000
และความเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติบนโลกของเรา
09:28
is you can transportขนส่ง it, not only to the planetsดาวเคราะห์,
233
553000
3000
ก็คือ คุณสามารถใช้มัน ไม่ใช่แค่กับดาวเคราะห์
09:31
but to the mostมากที่สุด distantไกล starsดาว and galaxiesกาแลคซี.
234
556000
2000
แต่กับดาวและกาแลกซี่ที่ห่างไกลออกไป
09:33
And one of the astonishingน่าอัศจรรย์ predictionsการคาดการณ์
235
558000
2000
และหนึ่งในการทำนายที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุด
09:35
of quantumควอนตัม mechanicsกลศาสตร์,
236
560000
2000
ในควอนตัมกลศาสตร์
09:37
just by looking at the structureโครงสร้าง of atomsอะตอม --
237
562000
2000
ด้วยเพียงแค่การสังเกตุโครงสร้างของอะตอม
09:39
the sameเหมือนกัน theoryทฤษฎี that describesอธิบาย transistorsทรานซิสเตอร์ --
238
564000
2000
ด้วยทฤษฎีเดียวกับที่ใช้อธิบายเรื่องทรานซิสเตอร์
09:41
is that there can be no starsดาว in the universeจักรวาล
239
566000
3000
ก็คือ มันเป็นไปไม่ได้ที่ดาวในเอกภพ
09:44
that have reachedถึง the endปลาย of theirของพวกเขา life
240
569000
2000
ที่กำลังจะเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของชีวิตมัน
09:46
that are biggerที่ใหญ่กว่า than, quiteทีเดียว specificallyเฉพาะ, 1.4 timesครั้ง the massมวล of the Sunดวงอาทิตย์.
241
571000
3000
จะมีขนาดใหญ่ไปกว่า 1.4 เท่าของมวลดวงอาทิตย์
09:49
That's a limitจำกัด imposedกำหนด on the massมวล of starsดาว.
242
574000
3000
นัั่นเป็นขอบเขตมวลดวงดาวที่มากที่สุดที่จะเป็นไปได้
09:52
You can work it out on a pieceชิ้น of paperกระดาษ in a laboratoryห้องปฏิบัติการ,
243
577000
3000
คุณสามารถลองทำการคำนวณได้บนแผ่นกระดาษ
09:55
get a telescopeกล้องโทรทรรศน์, swingแกว่ง it to the skyท้องฟ้า,
244
580000
2000
คว้ากล้องโทรทัศน์ มองไปบนฟ้า
09:57
and you find that there are no deadตาย starsดาว
245
582000
3000
และคุณจะพบว่ามันไม่มีดาวที่ตายแล้วดวงไหน
10:00
biggerที่ใหญ่กว่า than 1.4 timesครั้ง the massมวล of the Sunดวงอาทิตย์.
246
585000
2000
ใหญ่ไปกว่า 1.4 เท่าของมวลดวงอาทิตย์เลย
10:02
That's quiteทีเดียว an incredibleเหลือเชื่อ predictionคาดการณ์.
247
587000
3000
มันเป็นการทำนายที่ค่อนข้างน่าทึ่งทีเดียว
10:05
What happensที่เกิดขึ้น when you have a starดาว that's right on the edgeขอบ of that massมวล?
248
590000
3000
แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าดาวอยู่ที่สุดขอบของมวลสูงสุดล่ะ
10:08
Well, this is a pictureภาพ of it.
249
593000
2000
ลองคิดแบบนี้นะครับ
10:10
This is the pictureภาพ of a galaxyกาแล็กซี, a commonร่วมกัน "our gardenสวน" galaxyกาแล็กซี
250
595000
3000
นี่คือภาพของดาราจักร แบบปกติ
"ดาราจักรสวนหลังบ้านเรา"
10:13
with, what, 100 billionพันล้าน
251
598000
2000
ที่มีดาวอยู่ประมาณ 100 ล้านดวง
10:15
starsดาว like our Sunดวงอาทิตย์ in it.
252
600000
2000
เช่นดวงอาทิตย์
10:17
It's just one of billionsพันล้าน of galaxiesกาแลคซี in the universeจักรวาล.
253
602000
3000
มันเป็นแค่หนึ่งในพันล้านดาราจักรในเอกภพ
10:20
There are a billionพันล้าน starsดาว in the galacticกาแล็คซี่ coreแกน,
254
605000
2000
มันมีดาวพันล้านดวงในศูนย์กลางดาราจักร
10:22
whichที่ is why it's shiningส่องแสง out so brightlyแจ๊ด.
255
607000
3000
นั่นเป็นเหตุว่าทำไมมันถึงสว่างมาก
10:25
This is about 50 millionล้าน lightเบา yearsปี away,
256
610000
2000
นี่มันห่างไปประมาณ 50 ล้านปีแสง
10:27
so one of our neighboringเพื่อนบ้าน galaxiesกาแลคซี.
257
612000
2000
หนึ่งในเพื่อนบ้านของดาราจักรของเรา
10:29
But that brightสดใส starดาว there
258
614000
2000
แต่ดาวที่สว่างๆนั่น
10:31
is actuallyแท้จริง one of the starsดาว in the galaxyกาแล็กซี.
259
616000
3000
เป็นดาวดวงหนึ่งในดาราจักร
10:34
So that starดาว is alsoด้วย
260
619000
2000
ฉะนั้นดาวดวงนั้น
10:36
50 millionล้าน lightเบา yearsปี away.
261
621000
2000
ก็ห่างจากเราไป 50 ล้านปีแสงด้วย
10:38
It's partส่วนหนึ่ง of that galaxyกาแล็กซี, and it's shiningส่องแสง as brightlyแจ๊ด
262
623000
3000
มันเป็นส่วนหนึ่งของดาราจักร และมันก็มีแสงส่องสว่างมาก
10:41
as the centerศูนย์ of the galaxyกาแล็กซี
263
626000
2000
เหมือนกับใจกลางดาราจักร
10:43
with a billionพันล้าน sunsดวงอาทิตย์ in it.
264
628000
2000
ที่มีดาวอยู่เป็นพันล้านดวง
10:45
That's a Typeชนิด Iaเอีย supernovaซูเปอร์โนวา explosionการระเบิด.
265
630000
3000
นั่นเป็น ซุปเปอร์โนว่าแบบ หนึ่งเอ
10:48
Now that's an incredibleเหลือเชื่อ phenomenaปรากฏการณ์,
266
633000
2000
มันเป็นปรากฎการณ์ที่น่าสนใจมาก
10:50
because it's a starดาว that sitsนั่งอยู่ there.
267
635000
2000
เพราะว่า มันมีดาวที่อยู่ตรงนั้น
10:52
It's calledเรียกว่า a carbon-oxygenคาร์บอนออกซิเจน dwarfแคระ.
268
637000
2000
มันเรียกว่า ดาวแคระ คาร์บอน-ออกซิเจน
10:54
It sitsนั่งอยู่ there about, say, 1.3 timesครั้ง the massมวล of the Sunดวงอาทิตย์.
269
639000
3000
มันอยู่ตรงนั้น มีมวลประมาณ 1.3 เท่าของดวงอาทิตย์
10:57
And it has a binaryเลขฐานสอง companionสหาย that goesไป around it,
270
642000
3000
และมีดาวที่เป็นคู่กับมันวนอยู่รอบๆ
11:00
so a bigใหญ่ starดาว, a bigใหญ่ ballลูกบอล of gasแก๊ส.
271
645000
3000
มันเป็นดาวที่ใหญ่มาก เป็นลูกบอลก๊าซขนาดยักษ์
11:03
And what it does is it sucksดูด gasแก๊ส
272
648000
2000
และสิ่งที่มันทำก็คือมันดูดเอาก๊าซ
11:05
off its companionสหาย starดาว,
273
650000
2000
จากดาวที่เป็นคู่ของมัน
11:07
untilจนกระทั่ง it getsได้รับ to this limitจำกัด calledเรียกว่า the ChandrasekharChandrasekhar limitจำกัด,
274
652000
3000
จนกระทั่งมันเข้าสู่จุดพิกัดที่เรียกว่า ชันดราเซคา (Chandrasekhar)
11:10
and then it explodesระเบิด.
275
655000
2000
และเมื่อมันระเบิด
11:12
And it explodesระเบิด, and it shinesส่อง as brightlyแจ๊ด
276
657000
2000
มันส่องแสงสว่างมาก
11:14
as a billionพันล้าน sunsดวงอาทิตย์ for about two weeksสัปดาห์ที่ผ่านมา,
277
659000
2000
เหมือนกับดาวเป็นพันล้านดวง อยู่ประมาณสองสัปดาห์
11:16
and releasesเผยแพร่, not only energyพลังงาน,
278
661000
3000
และปลดปล่อยไม่ใช่แค่พลังงาน
11:19
but a hugeใหญ่ amountจำนวน of chemicalสารเคมี elementsองค์ประกอบ into the universeจักรวาล.
279
664000
3000
แต่ยังมีสารเคมีมากมาย ออกสู่เอกภพ
11:22
In factความจริง, that one is a carbon-oxygenคาร์บอนออกซิเจน dwarfแคระ.
280
667000
3000
ที่จริงแล้ว นั่นเป็นหนึ่งในดาว แคระ คาร์บอน-ออกซิเจน
11:25
Now, there was no carbonคาร์บอน and oxygenออกซิเจน
281
670000
2000
มันไม่มีคาร์บอนและออกซิเจน
11:27
in the universeจักรวาล at the Bigใหญ่ Bangปัง.
282
672000
2000
ในเอกภพเมื่อเกิดบิ๊กแบง
11:29
And there was no carbonคาร์บอน and oxygenออกซิเจน in the universeจักรวาล
283
674000
2000
และมันก็ไม่มีคาร์บอนและออกซิเจนในเอกภพ
11:31
throughoutตลอด the first generationรุ่น of starsดาว.
284
676000
3000
ตลอดชั่วอายุขัยแรกของดวงดาว
11:34
It was madeทำ in starsดาว like that,
285
679000
2000
มันถูกสร้างขึ้นในดวงดาวแบบนั้น
11:36
lockedล็อค away and then returnedกลับ to the universeจักรวาล
286
681000
2000
ถูกกักเก็บเอาไว้ และถูกปล่อยสู่เอกภพในภายหลัง
11:38
in explosionsระเบิด like that
287
683000
2000
ด้วยการระเบิดออก
11:40
in orderใบสั่ง to recondenserecondense into planetsดาวเคราะห์,
288
685000
2000
เพื่อที่มันจะอัดตัวใหม่เป็นดาวเคราะห์
11:42
starsดาว, newใหม่ solarแสงอาทิตย์ systemsระบบ
289
687000
2000
ดวงดาว และจักรภพใหม่
11:44
and, indeedจริง, people like us.
290
689000
3000
และแน่นอน เป็นพวกเรา
11:47
I think that's a remarkableโดดเด่น demonstrationสาธิต of the powerอำนาจ
291
692000
2000
ผมคิดว่า นั่นเป็นการแสดงที่น่าทึ่งของพลัง
11:49
and beautyความงาม and universalityความเป็นสากล of the lawsกฎหมาย of physicsฟิสิกส์,
292
694000
3000
และความงาม และ ความเป็นสากลของกฎทางฟิสิกส์
11:52
because we understandเข้าใจ that processกระบวนการ,
293
697000
2000
เพราะว่าเราเข้าใจในกระบวนการของมัน
11:54
because we understandเข้าใจ
294
699000
2000
เพราะว่าเราเข้าใจ
11:56
the structureโครงสร้าง of atomsอะตอม here on Earthโลก.
295
701000
2000
โครงสร้างของอะตอมบนโลกนี้
11:58
This is a beautifulสวย quoteอ้างอิง that I foundพบ --
296
703000
2000
นี่คือบทความที่สวยงามที่ผมพบ
12:00
we're talkingการพูด about serendipityบังเอิญ there -- from Alexanderอเล็กซานเด Flemingฟลานเดิส:
297
705000
3000
กล่าวถึงว่าเราโชคดีแค่ไหน เป็นบทความจาก
อเล็กซานเดอร์ เฟลมมิ่ง
12:03
"When I wokeตื่น up just after dawnรุ่งอรุณ
298
708000
2000
"เมื่อผมตื่นขึ้นหลังรุ่งเช้าไปเล็กน้อย
12:05
on Septemberกันยายน 28, 1928,
299
710000
2000
ในวันที่ 28 กันยายน 1928
12:07
I certainlyอย่างแน่นอน didn't planวางแผน to revolutionizeปฏิวัติ all medicineยา
300
712000
2000
ผมไม่ได้วางแผนที่จะปฎิวัติวงการแพทย์
12:09
by discoveringการค้นพบ the world'sโลก first antibioticยาปฏิชีวนะ."
301
714000
3000
ด้วยการค้นพบสารปฎิชีวนะตัวแรกของโลก"
12:12
Now, the explorersสำรวจ of the worldโลก of the atomอะตอม
302
717000
2000
เช่นกัน นักสำรวจแห่งโลกของอะตอม
12:14
did not intendตั้งใจ to inventคิดค้น the transistorทรานซิสเตอร์.
303
719000
2000
ไม่ได้จงใจที่จะสร้างทรานซิสเตอร์
12:16
And they certainlyอย่างแน่นอน didn't intendตั้งใจ to
304
721000
2000
พวกเขาไม่ได้จงใจ
12:18
describeอธิบาย the mechanicsกลศาสตร์ of supernovaซูเปอร์โนวา explosionsระเบิด,
305
723000
3000
ที่จะอธิบายกระบวนการของการเกิดซุปเปอร์โนว่า
12:21
whichที่ eventuallyในที่สุด told us where
306
726000
2000
ซึ่งที่สุดแล้ว ทำให้เรารู้ว่า
12:23
the buildingอาคาร blocksบล็อก of life
307
728000
2000
หน่วยที่เป็นส่วนประกอบของชีวิต
12:25
were synthesizedสังเคราะห์ in the universeจักรวาล.
308
730000
2000
ถูกสร้างขึ้นมาจากที่ใดในเอกภพ
12:28
So, I think scienceวิทยาศาสตร์ can be --
309
733000
2000
ดังนั้น ผมคิดว่า วิทยาศาสตร์
12:30
serendipityบังเอิญ is importantสำคัญ.
310
735000
2000
มีความสำคัญ
12:32
It can be beautifulสวย. It can revealเปิดเผย quiteทีเดียว astonishingน่าอัศจรรย์ things.
311
737000
3000
มันสวยงาม และสามารถเปิดเผยสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจ
12:35
It can alsoด้วย, I think, finallyในที่สุด
312
740000
3000
ที่สุดแล้ว
12:38
revealเปิดเผย the mostมากที่สุด profoundลึกซึ้ง
313
743000
2000
มันยังเปิดเผยความคิด
12:40
ideasความคิด to us
314
745000
2000
ที่ลึกซึ้งที่สุดของเรา
12:42
about our placeสถานที่ in the universeจักรวาล
315
747000
2000
เกี่ยวกับสถานที่ในเอกภพ
12:44
and really the valueความคุ้มค่า of our home planetดาวเคราะห์.
316
749000
2000
และคุณค่าที่แท้จริง
ของดาวเคราะห์ที่เป็นบ้านของเรา
12:46
This is a spectacularน่าตื่นเต้น pictureภาพ of our home planetดาวเคราะห์.
317
751000
3000
นี่เป็นภาพที่น่าประทับใจ
ของดาวเคราะห์ที่เราเรียกว่าบ้าน
12:49
Now, it doesn't look like our home planetดาวเคราะห์.
318
754000
2000
มันอาจจะดูไม่เหมือนโลกที่เราคุ้นเคย
12:51
It looksรูปลักษณ์ like Saturnดาวเสาร์ because, of courseหลักสูตร, it is.
319
756000
3000
เพราะความจริงแล้วมันคือดาวเสาร์
12:54
It was takenยึด by the Cassiniแคสสินี spaceช่องว่าง probeการสอบสวน.
320
759000
2000
ภาพนี้ถูกถ่ายไว้จากยานอวกาศคัสซินี่
12:56
But it's a famousมีชื่อเสียง pictureภาพ, not because of
321
761000
2000
แต่มันเป็นภาพที่โด่งดัง
12:58
the beautyความงาม and majestyสมเด็จ of Saturn'sดาวเสาร์ ringsแหวน,
322
763000
3000
ไม่ใช่เพราะความงามและความยิ่งใหญ่
ของวงแหวนดาวเสาร์
13:01
but actuallyแท้จริง because of a tinyขนาดเล็ก, faintเป็นลม blobหยด
323
766000
3000
แต่แท้จริงแล้วเป็นเพราะจุดเล็กๆแสนเลือนลาง
13:04
just hangingที่แขวนอยู่ underneathภายใต้ one of the ringsแหวน.
324
769000
2000
ที่แขวนอยู่ใต้วงแหวนวงหนึ่ง
13:06
And if I blowระเบิด it up there, you see it.
325
771000
2000
ถ้าขยายเข้าไปคุณก็จะเห็นว่า
13:08
It looksรูปลักษณ์ like a moonดวงจันทร์,
326
773000
2000
มันเหมือนกับดวงจันทร์
13:10
but in factความจริง, it's a pictureภาพ of Earthโลก.
327
775000
2000
แต่จริงๆแล้ว มันคือภาพของโลก
13:12
It was a pictureภาพ of Earthโลก capturedถูกจับกุม in that frameกรอบ of Saturnดาวเสาร์.
328
777000
3000
เป็นภาพของโลกที่ถูกถ่ายผ่านมาจากดาวเสาร์
13:15
That's our planetดาวเคราะห์ from 750 millionล้าน milesไมล์ away.
329
780000
3000
ภาพของดาวเคราะห์ดวงนี้
เมื่อห่างออกไป 750 ล้านไมล์
13:19
I think the Earthโลก has got a strangeแปลก propertyคุณสมบัติ
330
784000
2000
ผมคิดว่า โลก มีคุณสมบัติที่แปลก
13:21
that the fartherไกลออกไป away you get from it,
331
786000
2000
คือ ยิ่งห่างออกไปมากเท่าไร
13:23
the more beautifulสวย it seemsดูเหมือนว่า.
332
788000
2000
มันยิ่งดูงดงามขึ้น
13:25
But that is not the mostมากที่สุด distantไกล or mostมากที่สุด famousมีชื่อเสียง pictureภาพ of our planetดาวเคราะห์.
333
790000
3000
แต่ นี่ไม่ใช่ภาพของโลก ที่ถ่ายมาจากระยะที่ไกลที่สุด
13:28
It was takenยึด by this thing, whichที่ is calledเรียกว่า the Voyagerผู้เดินทาง spacecraftยานอวกาศ.
334
793000
3000
ภาพนั้นถูกถ่ายโดยยานอวกาศวอเอเจอร์
13:31
And that's a pictureภาพ of me in frontด้านหน้า of it for scaleขนาด.
335
796000
3000
และนี่เป็นภาพตัวผมเอง ยืนอยู่ข้างหน้ามันเพื่อเทียบขนาด
13:34
The Voyagerผู้เดินทาง is a tinyขนาดเล็ก machineเครื่อง.
336
799000
2000
วอเอเจอร์เป็นยานที่เล็กมากๆ
13:36
It's currentlyปัจจุบัน 10 billionพันล้าน milesไมล์ away from Earthโลก,
337
801000
3000
ขณะนี้มันห่างไปจากโลกราวๆ 10 พันล้านไมล์
13:39
transmittingส่ง with that dishจาน, with the powerอำนาจ of 20 wattsวัตต์,
338
804000
3000
ส่งข้อมูลผ่านจานส่งสัญญาณด้วยพลังงานแค่ 20 วัตต์
13:42
and we're still in contactติดต่อ with it.
339
807000
2000
และเราก็ยังสามารถติดต่อกับมันได้อยู่
13:44
But it visitedเข้าเยี่ยมชม Jupiterดาวพฤหัสบดี, Saturnดาวเสาร์,
340
809000
2000
มันผ่านไปเยี่ยมดาวพฤหัส ดาวเสาร์
13:46
Uranusดาวมฤตยู and Neptuneเกตุ.
341
811000
2000
ดาวยูเรนัส และเนปจูน
13:48
And after it visitedเข้าเยี่ยมชม all fourสี่ of those planetsดาวเคราะห์,
342
813000
3000
และหลังจากที่มันผ่านดาวเคราะห์ทั้งสี่แล้ว
13:51
Carlคาร์ล Saganเซแกน, who'sใคร one of my great heroesวีรบุรุษ,
343
816000
3000
คาร์ล ซาเกน ผู้ซึ่งเป็นฮีโร่ของผม
13:54
had the wonderfulยอดเยี่ยม ideaความคิด
344
819000
2000
ก็ได้ความคิดดีๆ
13:56
of turningการหมุน Voyagerผู้เดินทาง around
345
821000
2000
ให้ยานวอเอเจอร์หันกลับมา
13:58
and takingการ a pictureภาพ of everyทุกๆ planetดาวเคราะห์ it had visitedเข้าเยี่ยมชม.
346
823000
2000
เพื่อที่จะถ่ายภาพของดาวทั้งหมดที่มันผ่าน
14:00
And it tookเอา this pictureภาพ of Earthโลก.
347
825000
2000
และมันก็ได้ถ่ายภาพของโลก
14:02
Now it's very hardยาก to see the Earthโลก there, it's calledเรียกว่า the "Paleซีด Blueสีน้ำเงิน Dotจุด" pictureภาพ,
348
827000
3000
มันค่อนข้างจะยากที่จะมองเห็นโลก
ภาพนี้จึงมีชื่อว่า "จุดฟ้าสีจาง"
14:05
but Earthโลก is suspendedระงับ in that redสีแดง shaftเพลา of lightเบา.
349
830000
3000
โลกของเราล่องลอยอยู่ในลำแสงสีแดง
14:08
That's Earthโลก from fourสี่ billionพันล้าน milesไมล์ away.
350
833000
3000
นั่นคือโลกของเรา เมื่อเรามองมันห่างออกไปสี่พันล้านไมล์
14:11
And I'd like to readอ่าน you what
351
836000
2000
ผมอยากที่จะอ่าน
14:13
Saganเซแกน wroteเขียน about it, just to finishเสร็จสิ้น,
352
838000
2000
สิ่งที่ซาเกนได้เขียนไว้ เป็นการทิ้งท้าย
14:15
because I cannotไม่ได้ say wordsคำ as beautifulสวย as this
353
840000
3000
เพราะว่าผมไม่อาจจะหาคำใดที่สวยงามเช่นนั้น
14:18
to describeอธิบาย what he saw
354
843000
2000
เพื่อมาบรรยายสิ่งที่ผมได้เห็นได้
14:20
in that pictureภาพ that he had takenยึด.
355
845000
2000
ในภาพนี้ ที่เขาได้ถ่ายไว้ได้
14:22
He said, "Considerพิจารณา again that dotจุด.
356
847000
2000
เขากล่าวว่า "ลองตรึกตรองอีกครั้งถึงจุดนั้น
14:24
That's here. That's home. That's us.
357
849000
3000
ที่นั่นคือที่แห่งนี้ คือบ้าน คือเรา
14:27
On it, everyoneทุกคน you love,
358
852000
2000
บนนั้น ทุกคนที่คุณรัก
14:29
everyoneทุกคน you know, everyoneทุกคน you've ever heardได้ยิน of,
359
854000
3000
ทุกคนที่คุณรู้จัก ทุกคนที่คุณเคยได้ยิน
14:32
everyทุกๆ humanเป็นมนุษย์ beingกำลัง who ever was
360
857000
2000
มนุษย์ทุกคนที่เคยอยู่
14:34
livedอาศัยอยู่ out theirของพวกเขา livesชีวิต.
361
859000
2000
ใช้ชีวิตของพวกเขา
14:36
The aggregatesมวลรวม of joyความปิติยินดี and sufferingความทุกข์ทรมาน
362
861000
2000
ทั้งหมดของความสุขและความทุกข์
14:38
thousandsพัน of confidentมั่นใจ religionsศาสนา,
363
863000
2000
กว่าพันศาสนาที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ
14:40
ideologiesอุดมการณ์ and economicด้านเศรษฐกิจ doctrinesหลักคำสอน,
364
865000
3000
อุดมการณ์ และผู้ยึดถือหลักเศรษฐศาสตร์
14:43
everyทุกๆ hunterผู้ล่า and foragerผู้ปล้นสะดม, everyทุกๆ heroพระเอก and cowardคนขี้ขลาดตาขาว,
365
868000
3000
ผู้ล่า นักปล้น ทุกราย
เหล่า วีรชน และผู้ขลาดเขลา
14:46
everyทุกๆ creatorผู้สร้าง and destroyerผู้ทำลาย of civilizationอารยธรรม,
366
871000
3000
ผู้สร้างสรรค์ และผู้ทำลายล้างอารยธรรม
14:49
everyทุกๆ kingกษัตริย์ and peasantชาวนา, everyทุกๆ youngหนุ่มสาว coupleคู่ in love,
367
874000
3000
กษัตริย์ทุกประองค์ ประชาชนทั่วไป
คู่รักเยาว์วัยในห้วงรัก
14:52
everyทุกๆ motherแม่ and fatherพ่อ, hopefulมีความหวัง childเด็ก,
368
877000
2000
มารดา บิดา เด็กตาดำๆแรกเกิด
14:54
inventorนักประดิษฐ์ and explorerสำรวจ,
369
879000
2000
นักประดิษฐ์ และนักสำรวจ
14:56
everyทุกๆ teacherครู of moralsธรรมะ, everyทุกๆ corruptทุจริต politicianนักการเมือง,
370
881000
3000
ครูแห่งธรรมะทุกราย นักการเมืองโกงกินทุกคน
14:59
everyทุกๆ superstarดาราที่ยิ่งใหญ่, everyทุกๆ supremeสูงสุด leaderผู้นำ,
371
884000
3000
เหล่าดาราค้างฟ้า นักปกครองมหาอำนาจ
15:02
everyทุกๆ saintนักบุญ and sinnerเจ้ากรรม in the historyประวัติศาสตร์ of our speciesสายพันธุ์,
372
887000
3000
นักบุญทุกองค์ คนบาปทุกราย
ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ
15:05
livedอาศัยอยู่ there, on a moteมลทิน of dustฝุ่น,
373
890000
2000
อาศัยอยู่ที่นั่น บนผงธุลี
15:07
suspendedระงับ in a sunbeamแสงแดด.
374
892000
2000
ที่ลอยเคว้งคว้างในลำแสงตะวัน
15:09
It's been said that astronomy'sดาราศาสตร์ของ a humblingอ่อนน้อมถ่อมตน
375
894000
2000
มีคนกล่าวว่า ดาราศาสตร์ คือประสบการณ์
15:11
and character-buildingตัวละครที่สร้าง experienceประสบการณ์.
376
896000
2000
ที่ถ่อมตน และสร้างบุคลิก
15:13
There is perhapsบางที no better demonstrationสาธิต
377
898000
2000
บางที มันไม่มีทางใดที่จะแสดงถึง
15:15
of the follyความเขลา of humanเป็นมนุษย์ conceitsconceits
378
900000
2000
ความไม่รู้ในความทะนงตน ของมนุษย์
15:17
than this distantไกล imageภาพ of our tinyขนาดเล็ก worldโลก.
379
902000
2000
ไปได้ดีกว่า ภาพของโลกเล็กๆของเรา จากระยะไกล
15:19
To me, it underscoresขีด our responsibilityความรับผิดชอบ
380
904000
2000
สำหรับผมแล้ว มันเน้นย้ำความรับผิดชอบ
15:21
to dealจัดการ more kindlyกรุณา with one anotherอื่น
381
906000
3000
ที่เราจะต้องปฎิบัติต่อผู้อื่นอย่างสุภาพกว่านี้
15:24
and to preserveอนุรักษ์ and cherishหวงแหน the paleซีด blueสีน้ำเงิน dotจุด,
382
909000
3000
และเพื่อที่จะพิทักษ์และทะนุบำรุง จุดฟ้าสีจางๆ
15:27
the only home we'veเราได้ ever knownที่รู้จักกัน."
383
912000
2000
บ้านเพียงแห่งเดียวที่เราเคยรู้จัก"
15:29
Beautifulสวย wordsคำ about
384
914000
2000
เป็นคำที่ไพเราะสำหรับ
15:31
the powerอำนาจ of scienceวิทยาศาสตร์ and explorationการสำรวจ.
385
916000
2000
พลังของวิทยาศาสตร์และการสำรวจ
15:33
The argumentการโต้เถียง has always been madeทำ, and it will always be madeทำ,
386
918000
2000
การถกเถียงมีอยู่เรื่อยมาและมันก็จะคงมีอีกเรื่อยๆ
15:35
that we know enoughพอ about the universeจักรวาล.
387
920000
2000
ว่าเรารู้จักเอกภพดีพอแล้ว
15:37
You could have madeทำ it in the 1920s; you wouldn'tจะไม่ have had penicillinยาปฏิชีวนะ.
388
922000
3000
ถ้าเราคิดอย่างนั้นในยุค 1920 เราคงไม่มีเพนิซิลิน
15:40
You could have madeทำ it in the 1890s; you wouldn'tจะไม่ have the transistorทรานซิสเตอร์.
389
925000
3000
ถ้าเราคิดอย่างนั้นในยุค 1890 เราคงไม่มีทรานซิสเตอร์
15:43
And it's madeทำ todayในวันนี้ in these difficultยาก economicด้านเศรษฐกิจ timesครั้ง.
390
928000
3000
และมันทำให้เราอยู่ในยุคที่มีความยากลำบากทางการเงิน
15:46
Surelyอย่างแน่นอน, we know enoughพอ.
391
931000
2000
แน่ล่ะ เรารู้มากพอแล้ว
15:48
We don't need to discoverค้นพบ anything elseอื่น about our universeจักรวาล.
392
933000
2000
เราไม่ต้องการที่จะสำรวจอะไรอีกแล้วสำหรับเอกภพนี้
15:50
Let me leaveออกจาก the last wordsคำ to someoneบางคน
393
935000
2000
ให้ผมฝากคำพูดก่อนจบการบรรยาย
15:52
who'sใคร rapidlyอย่างรวดเร็ว becomingการกลาย a heroพระเอก of mineเหมือง,
394
937000
2000
ให้กับผู้ที่กลายมาเป็นฮีโร่ของผม
15:54
Humphreyฮัมฟรีย์ Davyเดวี่, who did his scienceวิทยาศาสตร์ at the turnกลับ of the 19thTH centuryศตวรรษ.
395
939000
3000
ฮัมฟรี เดวี่ ผู้ทำงานด้านวิทยาศาสตร์ในช่วงหักเหของศตวรรษที่ 19
15:57
He was clearlyอย่างเห็นได้ชัด underภายใต้ assaultโจมตี all the time.
396
942000
3000
เขาถูกโจมตีตลอดเวลา
16:00
"We know enoughพอ at the turnกลับ of the 19thTH centuryศตวรรษ.
397
945000
3000
"เราทราบเป็นอย่างดี ณ จุดหักเหของศตวรรษที่ 19
16:03
Just exploitเอาเปรียบ it; just buildสร้าง things."
398
948000
2000
แค่หาประโยชน์ แค่สร้างสิ่งต่างๆ"
16:05
He said this, he said, "Nothing is more fatalร้ายแรง
399
950000
2000
เขาบอกว่า "ไม่มีอะไรที่จะเป็นเรื่องหายนะ
16:07
to the progressความคืบหน้า of the humanเป็นมนุษย์ mindใจ
400
952000
2000
ต่อความก้าวหน้าของความคิดมนุษย์
16:09
than to presumeเข้าใจ that our viewsมุมมอง of scienceวิทยาศาสตร์
401
954000
2000
ไปกว่าการคิดเอาว่า มุมมองด้านวิทยาศาสตร์ของเรานั้น
16:11
are ultimateที่สุด,
402
956000
2000
พัฒนาถึงที่สุดแล้ว
16:13
that our triumphsชัยชนะ are completeสมบูรณ์,
403
958000
2000
ชัยชนะเราเสร็จสมบูรณ์แล้ว
16:15
that there are no mysteriesลึกลับ in natureธรรมชาติ,
404
960000
2000
ไม่มีปริศนาใดอีกแล้วในธรรมชาติ
16:17
and that there are no newใหม่ worldsโลก to conquerพิชิต."
405
962000
2000
และไม่มีโลกใหม่ใดอีกแล้วให้เราพิชิต"
16:19
Thank you.
406
964000
2000
ขอบคุณครับ
16:21
(Applauseการปรบมือ)
407
966000
2000
(เสียงปรบมือ)

▲Back to top

ABOUT THE SPEAKER
Brian Cox - Physicist
Physicist Brian Cox has two jobs: working with the Large Hadron Collider at CERN, and explaining big science to the general public. He's a professor at the University of Manchester.

Why you should listen

Based at the University of Manchester, Brian Cox works at CERN in Geneva on the ATLAS experiment, studying the forward proton detectors for the Large Hadron Collider there. He's a professor at the University of Manchester, working in the High Energy Physics group, and is a research fellow of the Royal Society.

He's also become a vital voice in the UK media for explaining physics to the public. With his rockstar hair and accessible charm, he's the go-to physicist for explaining heady concepts on British TV and radio. (If you're in the UK, watch him on The Big Bang Machine.) He was the science advisor for the 2007 film Sunshine. He answers science questions every Friday on BBC6 radio's Breakfast Show.

More profile about the speaker
Brian Cox | Speaker | TED.com

Data provided by TED.

This site was created in May 2015 and the last update was on January 12, 2020. It will no longer be updated.

We are currently creating a new site called "eng.lish.video" and would be grateful if you could access it.

If you have any questions or suggestions, please feel free to write comments in your language on the contact form.

Privacy Policy

Developer's Blog

Buy Me A Coffee