TED2011
Dennis Hong: Making a car for blind drivers
เดนนิส ฮอง: สร้างรถยนต์ให้ผู้พิการทางสายตาขับขี่
Filmed:
Readability: 4.3
923,134 views
ด้วยหุ่นยนต์ กล้องเลเซอร์วัดระยะเอนกประสงค์ ระบบกำหนดตำแหน่งบนโลก (GPS) และเครื่องกลตอบสนองอัตโตมัติ ทำให้เดนนิส ฮอง (Dennis Hong) สร้างรถยนต์สำหรับผู้ขับขี่ที่พิการทางสายตา เขายังได้ย้ำว่ารถนี้ไม่ได้เป็นรถขับเคลื่อนอัตโนมัติ แต่เป็นรถที่ผู้พิการทางสายตาสามารถขับ กำหนดความเร็ว กะระยะห่างและเส้นทางด้วยตนเองได้
Dennis Hong - Roboticist
Dennis Hong is the founder and director of RoMeLa -- a Virginia Tech robotics lab that has pioneered several breakthroughs in robot design and engineering. Full bio
Dennis Hong is the founder and director of RoMeLa -- a Virginia Tech robotics lab that has pioneered several breakthroughs in robot design and engineering. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:15
Many believe driving is an activity
0
0
3000
หลายคนเชื่อว่าการขับขี่เป็นเรื่อง
00:18
solely reserved for those who can see.
1
3000
2000
เฉพาะของคนที่มองเห็นได้เท่านั้น
00:20
A blind person driving a vehicle safely and independently
2
5000
3000
สำหรับผู้พิการทางสายตาที่จะขับขี่อย่างอิสระและปลอดภัยนั้น
00:23
was thought to be an impossible task, until now.
3
8000
3000
เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ จนกระทั่งทุกวันนี้
00:26
Hello, my name is Dennis Hong,
4
11000
2000
สวัสดีครับ ผมชื่อ เดนนิส ฮอง
00:28
and we're bringing freedom and independence to the blind
5
13000
2000
และพวกเราจะนำความอิสระเสรีมาสู่คนตาบอด
00:30
by building a vehicle for the visually impaired.
6
15000
3000
โดยสร้างยานพาหนะสำหรับผู้พิการทางสายตา
00:33
So before I talk about this car for the blind,
7
18000
3000
ก่อนที่ผมจะพูดเกี่ยวกับรถสำหรับคนตาบอดนี้
00:36
let me briefly tell you about another project that I worked on
8
21000
2000
ขอผมเล่าย่อๆเกี่ยวกับผลงานอีกชิ้นหนึ่งที่ผมได้ทำ
00:38
called the DARPA Urban Challenge.
9
23000
2000
ที่เรียกว่า DARPA Urban Challenge
00:40
Now this was about building a robotic car
10
25000
2000
มันเป็นการสร้างรถหุ่นยนต์
00:42
that can drive itself.
11
27000
2000
ที่สามารถขับเคลื่อนด้วยตัวเองได้
00:44
You press start, nobody touches anything,
12
29000
2000
คุณแค่กดปุ่มเริ่ม ไม่มีใครแตะต้องอะไรทั้งนั้น
00:46
and it can reach its destination fully autonomously.
13
31000
3000
แล้วมันก็จะเคลื่อนไปจนถึงจุดหมายอัตโนมัติ
00:49
So in 2007, our team won half a million dollars
14
34000
3000
ในปี 2007 (พ.ศ.2550) ทีมของเราชนะรางวัลกว่าครึ่งล้านดอลล่าร์
00:52
by placing third place in this competition.
15
37000
2000
โดยพวกเราได้อันดับ 3 ในการแข่งขัน
00:54
So about that time,
16
39000
2000
จากการแข่งขันนั้น
00:56
the National Federation of the Blind, or NFB,
17
41000
2000
สมาพันธ์ผู้พิการทางสายตาแห่งชาติ (National Federation of the Blind: NFB)
00:58
challenged the research committee
18
43000
2000
กำหนดโจทย์ให้คณะกรรมการวิจัย
01:00
about who can develop a car
19
45000
2000
หาคนที่จะพัฒนารถ
01:02
that lets a blind person drive safely and independently.
20
47000
2000
สำหรับผู้พิการทางสายตาได้ขับอย่างอิสระและปลอดภัย
01:04
We decided to give it a try,
21
49000
2000
พวกเราเลยตัดสินใจลองดู
01:06
because we thought, "Hey, how hard could it be?"
22
51000
2000
เพราะพวกเราคิดว่า เฮ้ มันจะไปยากอะไร
01:08
We have already an autonomous vehicle.
23
53000
2000
รถขับเครื่องอัตโนมัติ เรายังทำมาแล้วเลย
01:10
We just put a blind person in it and we're done, right?
24
55000
2000
พวกเราแค่จับผู้พิการทางสายตามานั่งและก็เสร็จแล้วจริงไหม?
01:12
(Laughter)
25
57000
2000
(เสียงหัวเราะ)
01:14
We couldn't have been more wrong.
26
59000
2000
ซึ่งพวกเราผิดถนัดเลย
01:16
What NFB wanted
27
61000
2000
สิ่งที่ NFB ต้องการ
01:18
was not a vehicle that can drive a blind person around,
28
63000
3000
ไม่ใช่ยานพาหนะที่พาผู้พิการทางสายตาไปรอบๆ
01:21
but a vehicle where a blind person can make active decisions and drive.
29
66000
3000
แต่เป็นยานพาหนะที่ผู้พิการทางสายตาสามารถตัดสินใจและขับเองได้
01:24
So we had to throw everything out the window
30
69000
2000
ดังนั้นพวกเราเลยต้องโยนตำราทิ้งหมด
01:26
and start from scratch.
31
71000
2000
แล้วเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้น
01:28
So to test this crazy idea,
32
73000
2000
เพื่อทดสอบไอเดียบ้าบิ่นนี้
01:30
we developed a small dune buggy prototype vehicle
33
75000
2000
เราได้พัฒนารถต้นแบบคันเล็กนี้
01:32
to test the feasibility.
34
77000
2000
เพื่อทดสอบความเป็นไปได้
01:34
And in the summer of 2009,
35
79000
2000
และในฤดูร้อนปี 2009 (พ.ศ.2552)
01:36
we invited dozens of blind youth from all over the country
36
81000
3000
พวกเราได้เชิญผู้พิการทางสายตาวัยหนุ่มสาวมากมายจากทั่วประเทศ
01:39
and gave them a chance to take it for a spin.
37
84000
2000
ให้พวกเขาได้ทดลองดู
01:41
It was an absolutely amazing experience.
38
86000
2000
มันเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมากครับ
01:43
But the problem with this car was
39
88000
2000
แต่ปัญหาของรถแบบนี้คือ
01:45
it was designed to only be driven in a very controlled environment,
40
90000
3000
มันถูกออกแบบมาเพื่อขับในสภาพแวดล้อมที่ออกแบบมาให้ควบคุมได้เท่านั้น
01:48
in a flat, closed-off parking lot --
41
93000
2000
เช่นในลานจอดรถแบบปิด
01:50
even the lanes defined by red traffic cones.
42
95000
2000
หรือที่ซึ่งกำหนดโดยกรวยจราจรสีแดง
01:52
So with this success,
43
97000
2000
หลังจากประสบความสำเร็จ
01:54
we decided to take the next big step,
44
99000
2000
พวกเราตัดสินใจที่จะพัฒนาไปอีกก้าว
01:56
to develop a real car that can be driven on real roads.
45
101000
3000
โดยลองทำกับรถจริงๆ ขับบนถนนจริงดู
01:59
So how does it work?
46
104000
2000
เรามาดูกันว่ามันทำงานอย่างไร
02:01
Well, it's a rather complex system,
47
106000
2000
มันออกจะซับซ้อนหน่อยนะครับ
02:03
but let me try to explain it, maybe simplify it.
48
108000
3000
แต่ผมจะพยายามอธิบาย แบบง่ายๆแล้วกันครับ
02:06
So we have three steps.
49
111000
2000
การทำงานแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอน
02:08
We have perception, computation
50
113000
2000
คือ การรับรู้ การคำนวณ
02:10
and non-visual interfaces.
51
115000
2000
และระบบอินเตอร์เฟซที่ไม่ใช้ภาพ
02:12
Now obviously the driver cannot see,
52
117000
2000
แน่นอนว่าคนขับมองไม่เห็น
02:14
so the system needs to perceive the environment
53
119000
2000
ดังนั้นระบบจำเป็นต้องรับรู้สภาพแวดล้อม
02:16
and gather information for the driver.
54
121000
2000
และให้ข้อมูลต่างๆกับคนขับ
02:18
For that, we use an initial measurement unit.
55
123000
3000
ดังนั้นเราจึงใช้หน่วยวัดเริ่มต้น
02:21
So it measures acceleration, angular acceleration --
56
126000
2000
เพื่อวัดความเร่ง อัตราเร่งเชิงมุม
02:23
like a human ear, inner ear.
57
128000
2000
เหมือนกับหูของมนุษย์ หูชั้นใน
02:25
We fuse that information with a GPS unit
58
130000
2000
และเชื่อมข้อมูลเหล่านั้นกับ GPS
02:27
to get an estimate of the location of the car.
59
132000
3000
เพื่อหาค่าประมาณของตำแหน่งรถ
02:30
We also use two cameras to detect the lanes of the road.
60
135000
3000
แล้วก็มีกล้องอีก 2 ตัวเพื่อจับภาพช่องทางบนถนน
02:33
And we also use three laser range finders.
61
138000
2000
นอกจากนั้นก็มีเลเซอร์ค้นหาอีก3ตัว
02:35
The lasers scan the environment to detect obstacles --
62
140000
3000
ซึ่งเลเซอร์ทำหน้าที่เป็นตัวสแกนรอบๆหาสิ่งกีดขวาง
02:38
a car approaching from the front, the back
63
143000
2000
ต่างๆทั้งด้านหน้า ด้านหลัง
02:40
and also any obstacles that run into the roads,
64
145000
3000
รวมทั้งอุปสรรคต่างๆบนท้องถนน
02:43
any obstacles around the vehicle.
65
148000
2000
และรอบๆรถด้วย
02:45
So all this vast amount of information is then fed into the computer,
66
150000
3000
แล้วข้อมูลทั้งหมดเหล่านี้ จะถูกป้อนใส่คอมพิวเตอร์
02:48
and the computer can do two things.
67
153000
2000
แล้วคอมพิวเตอร์ก็จะทำหน้าที่ 2 ประการ
02:50
One is, first of all, process this information
68
155000
3000
สิ่งเรกคือ แปลข้อมูลเหล่านี้
02:53
to have an understanding of the environment --
69
158000
2000
เพื่อที่จะเข้าใจสภาพแวดล้อม
02:55
these are the lanes of the road, there's the obstacles --
70
160000
3000
นี่เป็นทางวิ่งของถนน นั่นเป็นอุปสรรคกีดขวาง
02:58
and convey this information to the driver.
71
163000
2000
และนำเสนอข้อมูลสู่ผู้ขับขี่
03:00
The system is also smart enough
72
165000
2000
ระบบยังฉลาดพอที่จะ
03:02
to figure out the safest way to operate the car.
73
167000
2000
เลือกทางที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับรถด้วย
03:04
So we can also generate instructions
74
169000
2000
ดังนั้นเราจึงสามารถใส่ข้อแนะนำ
03:06
on how to operate the controls of the vehicle.
75
171000
2000
เกี่ยวกับวิธีการควบคุมรถได้ด้วย
03:08
But the problem is this: How do we convey
76
173000
2000
แต่ปัญหามีอยู่ว่า: เราจะอธิบาย
03:10
this information and instructions
77
175000
2000
ข้อมูลเหล่าและข้อแนะนำเหล่านี้
03:12
to a person who cannot see
78
177000
2000
ให้กับคนที่มองไม่เห็นได้
03:14
fast enough and accurate enough so he can drive?
79
179000
3000
เร็วพอและถูกต้องที่สุดได้อย่างไร
03:17
So for this, we developed many different types
80
182000
2000
ด้วยเหตุผลนี้ พวกเราจึงพัฒนาเทคโนโลยี
03:19
of non-visual user interface technology.
81
184000
3000
สำหรับผู้พิการทางสายตาหลายด้าน
03:22
So starting from a three-dimensional ping sound system,
82
187000
2000
โดยเริ่มจากระบบส่งเสียง 3 มิติ
03:24
a vibrating vest,
83
189000
2000
เสื้อกั๊กระบบสั่น
03:26
a click wheel with voice commands, a leg strip,
84
191000
3000
การเปลี่ยนวงล้อด้วยคำสั่งเสียง ด้วยการใช้แถบติดขา
03:29
even a shoe that applies pressure to the foot.
85
194000
2000
หรือแม้แต่รองเท้ารับแรงกดของเท้า
03:31
But today we're going to talk about
86
196000
2000
แต่วันนี้ผมจะพูดถึง
03:33
three of these non-visual user interfaces.
87
198000
2000
ระบบอินเตอร์เฟซสำหรับคนพิการทางสายตา 3 ระบบ
03:35
Now the first interface is called a DriveGrip.
88
200000
3000
ระบบแรกเรียกว่า DriveGrip
03:38
So these are a pair of gloves,
89
203000
2000
นี่เป็นถุงมือ
03:40
and it has vibrating elements on the knuckle part
90
205000
2000
ที่มีระบบสั่นอยู่ที่บริเวณข้อมือ
03:42
so you can convey instructions about how to steer --
91
207000
3000
เพื่อที่คุณจะรับรู้ได้ถึงคำแนะนำว่าจะหัน
03:45
the direction and the intensity.
92
210000
2000
ไปทางทิศใดและเมื่อไหร่
03:47
Another device is called SpeedStrip.
93
212000
2000
อุปกรณ์อีกอันเรียกว่า SpeedStrip
03:49
So this is a chair -- as a matter of fact, it's actually a massage chair.
94
214000
3000
นี่เป็นเก้าอี้ ความจริงแล้วมันเป็นเก้าอี้นวดครับ
03:52
We gut it out, and we rearrange the vibrating elements in different patterns,
95
217000
4000
พวกเราจัดการต่อระบบใหม่ให้ระบบสั่นเปลี่ยนไป
03:56
and we actuate them to convey information about the speed,
96
221000
3000
เพื่อให้มันทำหน้าที่บอกความเร็ว
03:59
and also instructions how to use the gas and the brake pedal.
97
224000
3000
และแนะนำเกี่ยวกับการใช้น้ำมันกับการใช้เบรคด้วย
04:02
So over here, you can see
98
227000
2000
โดยตรงนี้ คุณจะเห็นว่า
04:04
how the computer understands the environment,
99
229000
2000
คอมพิวเตอร์เข้าใจสภาพแวดล้อมได้อย่างไร
04:06
and because you cannot see the vibration,
100
231000
2000
และเพราะคุณไม่สามารถเห็นการสั่นสะเทือน
04:08
we actually put red LED's on the driver so that you can see what's happening.
101
233000
3000
พวกเราเลยใส่หลอดแอลอีดี (LED) สีแดงให้คนขับ เพื่อที่คนขับจะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
04:11
This is the sensory data,
102
236000
2000
นี่เป็นข้อมูลการรับรู้
04:13
and that data is transferred to the devices through the computer.
103
238000
3000
แล้วข้อมูลส่วนนี้จะโอนถ่ายไปยังอุปกรณ์อื่นๆเพื่อเข้าไปสู่คอมพิวเตอร์
04:16
So these two devices, DriveGrip and SpeedStrip,
104
241000
2000
ดังนั้นอุปกรณ์สองอย่างนี้ DriveGrip และ SpeedStrip
04:18
are very effective.
105
243000
2000
มีประสิทธิผลสูงมาก
04:20
But the problem is
106
245000
2000
แต่ปัญหาคือ
04:22
these are instructional cue devices.
107
247000
2000
มันเป็นระบบแบบกำหนดคำสั่ง
04:24
So this is not really freedom, right?
108
249000
2000
ซึ่งมันก็ไม่อิสระจริงไหมครับ
04:26
The computer tells you how to drive --
109
251000
2000
คอมพิวเตอร์บอกคุณว่าคุณจะขับอย่างไร
04:28
turn left, turn right, speed up, stop.
110
253000
2000
ไปซ้าย ไปขวา เร่งความเร็ว หรือหยุด
04:30
We call this the "backseat-driver problem."
111
255000
2000
เราเรียกปัญหานี้ว่า ปัญหาของการเป็นผู้ขับตัวสำรอง
04:32
So we're moving away from the instructional cue devices,
112
257000
3000
พวกเราจึงพยายามเบนตัวออกจากระบบคำสั่งเหล่านี้
04:35
and we're now focusing more
113
260000
2000
แล้วมุ่งไปที่
04:37
on the informational devices.
114
262000
2000
ระบบการให้ข้อมูลมากขึ้น
04:39
A good example for this informational non-visual user interface
115
264000
2000
ตัวอย่างที่ดีสำหรับระบบอินเตอร์เฟซข้อมูลสำหรับผู้พิการทางสายตา
04:41
is called AirPix.
116
266000
2000
คือ AirPix
04:43
So think of it as a monitor for the blind.
117
268000
2000
ลองคิดเสียว่ามันเป็นจอภาพสำหรับคนตาบอด
04:45
So it's a small tablet, has many holes in it,
118
270000
2000
ที่เป็นเหมือนสมุดบันทึกที่เจาะรูไว้มากมาย
04:47
and compressed air comes out,
119
272000
2000
และลมก็ผ่านรูนั้นเข้ามา
04:49
so it can actually draw images.
120
274000
2000
แล้วมันก็สามารถวาดเป็นภาพได้
04:51
So even though you are blind, you can put your hand over it,
121
276000
2000
ดังนั้น ถึงแม้ว่าคุณจะสายตาพิการ คุณเอามือวางบนนั้น
04:53
you can see the lanes of the road and obstacles.
122
278000
2000
แล้วก็จะเห็นช่องทางบนถนนและสิ่งกีดขวางได้
04:55
Actually, you can also change the frequency of the air coming out
123
280000
3000
จริงๆแล้ว คุณสามารถปรับเปลี่ยนความถี่ของลมที่พ่นออกมา
04:58
and possibly the temperature.
124
283000
2000
และก็อาจจะอุณหภูมิด้วย
05:00
So it's actually a multi-dimensional user interface.
125
285000
3000
ซึ่งนี้เป็นระบบอินเตอร์เฟซหลายมิติ
05:03
So here you can see the left camera, the right camera from the vehicle
126
288000
3000
ที่คุณสามารถเห็นกล้องทางซ้าย ทางขวาของรถ
05:06
and how the computer interprets that and sends that information to the AirPix.
127
291000
3000
และได้รู้ว่าคอมพิวเตอร์แปลงและส่งข้อมูลไปยัง AirPix ได้อย่างไร
05:09
For this, we're showing a simulator,
128
294000
2000
ด้วยสิ่งนี้ พวกเรากำลังแสดงภาพจำลอง
05:11
a blind person driving using the AirPix.
129
296000
3000
ผู้พิการทางสายตาขับรถโดยใช้ AirPix
05:14
This simulator was also very useful for training the blind drivers
130
299000
3000
การแสดงภาพจำลองนี้ยังมีประโยชน์ในการฝึกผู้พิการทางสายตาขับรถ
05:17
and also quickly testing different types of ideas
131
302000
2000
และยังเป็นการทดสอบอย่างเร็วให้กับ
05:19
for different types of non-visual user interfaces.
132
304000
2000
ระบบอินเตอร์เฟซผู้พิการทางสายตาหลายประเภทด้วยเช่นกัน
05:21
So basically that's how it works.
133
306000
2000
นี่เป็นการทำงานโดยพพื้นฐานของอุปกรณ์
05:23
So just a month ago,
134
308000
2000
เมื่อเดือนที่แล้ว
05:25
on January 29th,
135
310000
2000
วันที่ 29 มกราคม
05:27
we unveiled this vehicle for the very first time to the public
136
312000
2000
เราได้เปิดตัวรถคันนี้ครั้งแรกต่อสาธารณชน
05:29
at the world-famous Daytona International Speedway
137
314000
3000
ที่สนามแข่งรถชื่อดัง Daytona International Speedway
05:32
during the Rolex 24 racing event.
138
317000
2000
ในงานแข่งขัน Rolex 24
05:34
We also had some surprises. Let's take a look.
139
319000
3000
ที่พวกเราได้รับเรื่องประหลาดใจด้วย มาดูกันครับ
05:37
(Music)
140
322000
10000
(เสียงดนตรี)
05:47
(Video) Announcer: This is an historic day in January.
141
332000
4000
(วิดีโอ) ผู้ประกาศ: วันนี้เป็นวันแห่งประวัติศาสตร์(เสียงพร่า)
05:51
He's coming up to the grandstand, fellow Federationists.
142
336000
4000
ตอนนี้เขาขับถึงอัฒจรรย์แล้วครับ ตามด้วย Federistas
05:55
(Cheering)
143
340000
6000
(เสียงเชียร์)
06:01
(Honking)
144
346000
3000
(เสียงแตร)
06:04
There's the grandstand now.
145
349000
2000
นั่นไงครับอัฒจรรย์
06:06
And he's [unclear] following that van that's out in front of him.
146
351000
4000
และเขา(เสียงพร่า)ขับตามรถแวนข้างหน้าเขามาแล้วครับ
06:10
Well there comes the first box.
147
355000
2000
มาแล้วครับ กล่องใบแรก
06:12
Now let's see if Mark avoids it.
148
357000
3000
มาดูกันครับว่ามาร์คจะหลบได้ไหม
06:15
He does. He passes it on the right.
149
360000
3000
เขาทำได้ครับ เขาเบียงผ่านออกทางขวา
06:20
Third box is out. The fourth box is out.
150
365000
3000
กล่องใบที่สามมาแล้วครับ ตามด้วยใบที่สี่
06:23
And he's perfectly making his way between the two.
151
368000
3000
และเขาขับผ่านทั้งสองกล่องได้อย่างสวยงามครับ
06:26
He's closing in on the van
152
371000
2000
เขาไล่รถแวนเข้ามาแล้วครับ
06:28
to make the moving pass.
153
373000
3000
ขับผ่านไปแล้วครับ
06:32
Well this is what it's all about,
154
377000
2000
นี่คือความฉลาด
06:34
this kind of dynamic display of audacity and ingenuity.
155
379000
4000
ของระบบไดนามิกนี้เลย
06:39
He's approaching the end of the run,
156
384000
3000
เขากำลังเข้าสู่เส้นชัยแล้วครับ
06:42
makes his way between the barrels that are set up there.
157
387000
5000
โดยผ่านแผงกั้นอย่างสวยงาม
06:47
(Honking)
158
392000
3000
(เสียงแตร)
06:50
(Applause)
159
395000
3000
(เสียงปรบมือ)
06:56
Dennis Hong: I'm so happy for you.
160
401000
2000
เดนนิส ฮอง: ผมดีใจไปกับคุณอย่างมากเลยครับ
06:58
Mark's going to give me a ride back to the hotel.
161
403000
2000
มาร์คจะขับไปส่งผมที่โรงแรม
07:00
Mark Riccobono: Yes.
162
405000
2000
มาร์ก ริโคโบโน: แน่นอนครับ
07:05
(Applause)
163
410000
9000
(เสียงปรบมือ)
07:14
DH: So since we started this project,
164
419000
2000
เดนนิส: ตั้งแต่เราเริ่มงานนี้
07:16
we've been getting hundreds of letters, emails, phone calls
165
421000
3000
พวกเราได้รับจดหมาย อีเมลล์ โทรศัพท์มากมาย
07:19
from people from all around the world.
166
424000
2000
จากคนทั่วโลก
07:21
Letters thanking us, but sometimes you also get funny letters like this one:
167
426000
3000
มีทั้งจดหมายขอบคุณ แต่บางครั้งก็มีจดหมายขำๆเหมือนกัน อย่างเช่นฉบับนี้:
07:24
"Now I understand why there is Braille on a drive-up ATM machine."
168
429000
4000
"ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมมีอักษรเบรลล์อยู่บนตู้ ATM ที่ตั้งไว้บริการผู้ขับขี่"
07:28
(Laughter)
169
433000
2000
(เสียงหัวเราะ)
07:30
But sometimes --
170
435000
2000
แต่บางครั้ง
07:32
(Laughter)
171
437000
2000
(เสียงหัวเราะ)
07:34
But sometimes I also do get --
172
439000
2000
แต่บางครั้งผมก็ได้รับ
07:36
I wouldn't call it hate mail --
173
441000
2000
ผมไม่อยากเรียกว่าเมลล์ว่าร้าย
07:38
but letters of really strong concern:
174
443000
2000
แต่น่าจะเป็นข้อท้วงติงมากกว่า
07:40
"Dr. Hong, are you insane,
175
445000
2000
"ดร.ฮอง คุณบ้าไปแล้ว
07:42
trying to put blind people on the road?
176
447000
2000
พยายามให้คนตาบอดอยู่บนถนนเนี่ยนะ
07:44
You must be out of your mind."
177
449000
2000
คุณเสียสติไปแล้วแน่ๆ"
07:46
But this vehicle is a prototype vehicle,
178
451000
2000
แต่รถนี้เป็นแค่แบบจำลอง
07:48
and it's not going to be on the road
179
453000
2000
และมันจะไม่ออกสู่ท้องถนนแน่
07:50
until it's proven as safe as, or safer than, today's vehicle.
180
455000
2000
จนกว่าจะถูกทดสอบว่าปลอดภัย หรือปลอดภัยกว่ารถทั่วไปแล้วเท่านั้น
07:52
And I truly believe that this can happen.
181
457000
3000
และผมเชื่อจริงๆว่ามันจะต้องเป็นไปได้
07:55
But still, will the society,
182
460000
2000
แต่ยังมีข้อกังขาว่าสังคม
07:57
would they accept such a radical idea?
183
462000
2000
จะยอมรับไอเดียนี้ได้หรือไม่
07:59
How are we going to handle insurance?
184
464000
2000
แล้วพวกเราจะรับมือกับประกันอย่างไร
08:01
How are we going to issue driver's licenses?
185
466000
2000
แล้วเราจะออกใบขับขี่ให้ได้อย่างไร
08:03
There's many of these different kinds of hurdles besides technology challenges
186
468000
3000
ยังมีอีกหลายอย่าง นอกเหนือจากความท้าทายทางเทคโนโลยี
08:06
that we need to address before this becomes a reality.
187
471000
3000
ที่พวกเราต้องขบคิดกันก่อนที่เรื่องนี้จะเป็นจริง
08:09
Of course, the main goal of this project
188
474000
2000
แน่นอนว่าจุดมุ่งหมายของโปรเจคนี้
08:11
is to develop a car for the blind.
189
476000
2000
คือพัฒนารถให้ผู้พิการทางสายตา
08:13
But potentially more important than this
190
478000
2000
แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ
08:15
is the tremendous value of the spin-off technology
191
480000
3000
เทคโนโลยีมูลค่ามหาศาล
08:18
that can come from this project.
192
483000
2000
ที่ได้จากโปรเจคนี้ต่างหาก
08:20
The sensors that are used can see through the dark,
193
485000
2000
เซนเซอร์เหล่านี้สามารถมองเห็นในที่มืด
08:22
the fog and rain.
194
487000
2000
หมอกควัน และฝนได้
08:24
And together with this new type of interfaces,
195
489000
2000
ประกอบกับระบบอินเตอร์เฟซแบบใหม่
08:26
we can use these technologies
196
491000
2000
พวกเราสามารถใช้เทคโนโลยีเหล่านี้
08:28
and apply them to safer cars for sighted people.
197
493000
2000
ปรับใช้ได้กับรถของคนสายตาปกติ
08:30
Or for the blind, everyday home appliances --
198
495000
3000
หรือกับผู้พิการทางสายตา หรือกับเครื่องใช้ในบ้าน
08:33
in the educational setting, in the office setting.
199
498000
2000
ใช้สำหรับการศึกษา หรือที่ทำงาน
08:35
Just imagine, in a classroom a teacher writes on the blackboard
200
500000
3000
ลองคิดดูซิครับ ในห้องเรียนที่ครูเขียนกระดานดำ
08:38
and a blind student can see what's written and read
201
503000
3000
และนักเรียนที่สายตาพิการสามารถเห็นและอ่านได้ว่าครูเขียนอะไร
08:41
using these non-visual interfaces.
202
506000
2000
โดยใช้ระบบอินเตอร์เฟซที่ไม่ใช้ภาพนี้
08:43
This is priceless.
203
508000
3000
มีค่าอันประมาณมิได้ครับ
08:46
So today, the things I've showed you today, is just the beginning.
204
511000
3000
ดังนั้นวันนี้ สิ่งที่ผมได้นำเสนอไป มันแค่การเริ่มต้นเท่านั้นครับ
08:49
Thank you very much.
205
514000
2000
ขอบคุณมากครับ
08:51
(Applause)
206
516000
11000
(เสียงปรบมือ)
ABOUT THE SPEAKER
Dennis Hong - RoboticistDennis Hong is the founder and director of RoMeLa -- a Virginia Tech robotics lab that has pioneered several breakthroughs in robot design and engineering.
Why you should listen
As director of a groundbreaking robotics lab, Dennis Hong guides his team of students through projects on robot locomotion and mechanism design, creating award-winning humanoid robots like DARwIn (Dynamic Anthropomorphic Robot with Intelligence). His team is known as RoMeLa (Robotics & Mechanisms Laboratory) and operates at Virginia Tech.
Hong has also pioneered various innovations in soft-body robots, using a “whole-skin locomotion” as inspired by amoebae. Marrying robotics with biochemistry, he has been able to generate new types of motion with these ingenious forms. For his contributions to the field, Hong was selected as a NASA Summer Faculty Fellow in 2005, given the CAREER award by the National Science Foundation in 2007 and in 2009, named as one of Popular Science's Brilliant 10. He is also a gourmet chef and a magician, performing shows for charity and lecturing on the science of magic.
Dennis Hong | Speaker | TED.com