TEDGlobal 2011
Charles Hazlewood: Trusting the ensemble
ชาลส์ ฮาเซลวูด: การเชื่อใจหมู่คณะ
Filmed:
Readability: 3.8
570,578 views
คอนดักเตอร์ ชาลส์ ฮาเซลวูด พูดเกี่ยวกับความเชื่อใจในบทบาทของคนคุมวงดนตรี-- จากนั้นแสดงให้พวกเราเห็นว่าจะทำได้อย่างไร โดยเขาได้คุมวง สก๊อตติช เอสเซมเบิล บนเวที ชาลส์ยังได้แชร์คลิปวิดีโอจากผลงานเพลงสองชิ้น คือ เดอะ โอเปรา "U-Carmen eKhayelitsha" และ the ParaOrchestra
Charles Hazlewood - Conductor
Charles Hazlewood dusts off and invigorates classical music, adding a youthful energy and modern twists to centuries-old masterworks. At TEDGlobal, he conducts the Scottish Ensemble. Full bio
Charles Hazlewood dusts off and invigorates classical music, adding a youthful energy and modern twists to centuries-old masterworks. At TEDGlobal, he conducts the Scottish Ensemble. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:15
I am a conductor,
0
0
2000
ผมเป็นคอนดักเตอร์ครับ
00:17
and I'm here today
1
2000
2000
และผมมาที่นี่ในวันนี้
00:19
to talk to you about trust.
2
4000
2000
เพื่อพูดกับคุณเกี่ยวกับเรื่องของการเชื่อใจ
00:21
My job depends upon it.
3
6000
3000
และงานของผมก็ต้องพึ่งสิ่งนี้
00:24
There has to be, between me and the orchestra,
4
9000
2000
เป็นความเชื่อระหว่าง ตัวผมและวงออเครสตา
00:26
an unshakable bond of trust,
5
11000
2000
การเชื่อใจที่ไม่สั่นคลอน
00:28
born out of mutual respect,
6
13000
3000
ที่เกิดจากการให้ความเคารพซึ่งกันและกัน
00:31
through which we can spin a musical narrative
7
16000
3000
เพื่อที่พวกเราจะบรรเลงดนตรี
00:34
that we all believe in.
8
19000
2000
ที่เราเชื่อมั่นนั้นออกมา
00:36
Now in the old days, conducting, music making,
9
21000
3000
ในอดีต การคุมวงดนตรี การสร้างบทเพลง
00:39
was less about trust and more, frankly, about coercion.
10
24000
3000
มีเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อใจน้อย แต่มากในเรื่องของแรงกดดันมากกว่า
00:42
Up to and around about the Second World War,
11
27000
2000
หลังจากนั้น ประมาณช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
00:44
conductors were invariably dictators --
12
29000
2000
คอนดักเตอร์หลายคนเป็นพวกเผด็จการ มาเรื่อยๆ
00:46
these tyrannical figures
13
31000
2000
เหล่าตัวอย่างเผด็จการนี้
00:48
who would rehearse, not just the orchestra as a whole, but individuals within it,
14
33000
3000
ผู้ซึ่งฝึกซ้อม ไม่ใช่แค่กับวงออเครสต้าเท่านั้น แต่ฝึกแต่ละบุคคลด้วย
00:51
within an inch of their lives.
15
36000
3000
สิ่งเหล่านี้เป็นเศษเสี้ยวหนึ่งในชีวิตพวกเขา
00:54
But I'm happy to say now that the world has moved on,
16
39000
2000
แต่ผมมีความยินดีที่จะพูดว่าโลกเราได้เปลี่ยนไปแล้ว
00:56
music has moved on with it.
17
41000
2000
และดนตรีเองก็เช่นกัน
00:58
We now have a more democratic view and way of making music --
18
43000
3000
ดนตรีมีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้นทั้งทางความคิดและการสร้างดนตรี
01:01
a two-way street.
19
46000
2000
มีสองหนทางคือ
01:03
I, as the conductor, have to come to the rehearsal with a cast-iron sense
20
48000
3000
ผม ซึ่งเป็นคอนดักเตอร์ ต้องมาฝึกซ้อมด้วยวินัยเข้มแข็ง
01:06
of the outer architecture of that music,
21
51000
3000
เพื่อก่อร่างดนตรี
01:09
within which there is then immense personal freedom
22
54000
3000
ที่ประกอบไปด้วยเสรีภาพของแต่ละบุคคล
01:12
for the members of the orchestra to shine.
23
57000
2000
จากสมาชิกให้วงออเครสต้าเจิดจรัสได้
01:14
For myself, of course,
24
59000
2000
สำหรับผมแล้ว แน่นอนว่า
01:16
I have to completely trust my body language.
25
61000
4000
ผมต้องเชื่อมั่นในภาษากายของตัวเอง
01:20
That's all I have at the point of sale.
26
65000
2000
เช่นเวลาที่ผมชี้ไม้ขึ้น
01:22
It's silent gesture.
27
67000
2000
คือสัญญาณให้เงียบ
01:24
I can hardly bark out instructions while we're playing.
28
69000
3000
ผมไม่สามารถตะโกนกำกับขณะที่พวกเราเล่นดนตรีได้
01:29
(Music)
29
74000
10000
(เสียงดนตรี)
02:51
Ladies and gentlemen, the Scottish Ensemble.
30
156000
2000
ท่านสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษครับ เดอะ สก๊อตทิช เอนเซมเบิล
02:53
(Applause)
31
158000
7000
(เสียงปรบมือ)
03:00
So in order for all this to work,
32
165000
2000
ดังนั้น การที่จะทำงานนี้ให้ออกมาดี
03:02
obviously I have got to be in a position of trust.
33
167000
2000
แน่นอนว่าผม ต้องอยู่ในตำแหน่งที่ต้องไว้ใจ
03:04
I have to trust the orchestra,
34
169000
2000
ผมต้องเชื่อใจออเครสต้า
03:06
and, even more crucially, I have to trust myself.
35
171000
2000
และ ยิ่งไปกว่านั้น ผมต้องเชื่อใจตนเอง
03:08
Think about it: when you're in a position of not trusting,
36
173000
2000
ลองคิดดูนะครับ: ว่าถ้าคุณอยู่ในสถานะที่ไม่เชื่อมั่นตนเอง
03:10
what do you do?
37
175000
2000
คุณจะทำอย่างไร?
03:12
You overcompensate.
38
177000
2000
คุณจะเริ่มทำอะไรมากมาย
03:14
And in my game, that means you overgesticulate.
39
179000
2000
และในตำแหน่งของผมหมายถึงการออกท่าทางมากไป
03:16
You end up like some kind of rabid windmill.
40
181000
2000
แล้วคุณก็จะลงเอยทำตัวเป็นกังหันลมบ้าคลั่ง
03:18
And the bigger your gesture gets,
41
183000
2000
และการแสดงท่าทางเยอะมากขึ้น
03:20
the more ill-defined, blurry
42
185000
2000
จะยิ่งสื่อสารได้ไม่ชัดเจน
03:22
and, frankly, useless it is to the orchestra.
43
187000
2000
และจริงๆ แล้วมันจะไร้ประโยชน์มากในวงออเครสต้า
03:24
You become a figure of fun. There's no trust anymore, only ridicule.
44
189000
3000
คุณจะกลายเป็นตัวตลกไปเลย จะไม่ได้รับความเชื่อถือจากใคร แค่ดูตลกเท่านั้น
03:27
And I remember at the beginning of my career,
45
192000
2000
และผมจำตอนช่วงแรกๆของอาชีพผมได้
03:29
again and again, on these dismal outings with orchestras,
46
194000
2000
หลายๆครั้ง ผมตกที่นั่งลำบากในการคุมวงออเครสต้า
03:31
I would be going completely insane on the podium,
47
196000
3000
ผมจะกลายเป็นบ้ากลางโพเดียม
03:34
trying to engender a small scale crescendo really,
48
199000
2000
พยายามทำให้เรื่องเล็กๆ
03:36
just a little upsurge in volume.
49
201000
2000
เป็นเรื่องใหญ่โต
03:38
Bugger me, they wouldn't give it to me.
50
203000
2000
ผมรู้สึกแย่มากในช่วงนั้น
03:40
I spent a lot of time in those early years
51
205000
2000
ใช้เวลามากมายในช่วงปีแรกๆกับการ
03:42
weeping silently in dressing rooms.
52
207000
2000
ร้องไห้เงียบๆในห้องแต่งตัว
03:44
And how futile seemed the words of advice to me
53
209000
3000
แม้แต่คำแนะนำต่างๆจากคอนดักเตอร์ชื่อดังชาวอังกฤษอย่าง
03:47
from great British veteran conductor Sir Colin Davis
54
212000
2000
เซอร์ โคลิน เดวิส ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ผลสำหรับผมเลย
03:49
who said, "Conducting, Charles,
55
214000
2000
เขาบอกผมว่า "การคุมวงนะ ชาร์ล
03:51
is like holding a small bird in your hand.
56
216000
2000
เหมือนกับมีนกอยู่ในมือของเธอ
03:53
If you hold it too tightly, you crush it.
57
218000
3000
ถ้าคุณจับเอาไว้แน่นเกินไป มันก็แบนคามือ
03:56
If you hold it too loosely, it flies away."
58
221000
3000
ถ้าจับไว้หลวมๆ นกก็จะบินหนึคุณไป
03:59
I have to say, in those days, I couldn't really even find the bird.
59
224000
3000
ผมอยากบอกว่า ในช่วงเวลานั้น ผมไม่มีแม้แต่นกที่จะคุม
04:02
Now a fundamental
60
227000
2000
พื้นฐานในขณะนี้
04:04
and really viscerally important experience for me, in terms of music,
61
229000
3000
และประสบการณ์ที่สำคัญสำหรับผมทางด้านการดนตรีนั้น
04:07
has been my adventures in South Africa,
62
232000
2000
เกิดขึ้นตอนผมผจญภัยในแอฟริกาใต้
04:09
the most dizzyingly musical country on the planet in my view,
63
234000
3000
ที่ซึ่งในความเห็นของผมแล้วมีดนตรีชวนงงงวงที่สุดแห่งหนึ่ง
04:12
but a country which, through its musical culture,
64
237000
2000
แต่ในขณะเดียวกันก้เป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมทางดนตรีด้วย
04:14
has taught me one fundamental lesson:
65
239000
3000
ซึ่งเป็นที่สอนดินตรีขั้นต้นให้กับผม
04:17
that through music making
66
242000
2000
ว่าการทำดนตรีนั้น
04:19
can come deep levels
67
244000
2000
สามารถลงลึกได้หลายขึ้น
04:21
of fundamental life-giving trust.
68
246000
3000
ในการให้ความเชื่อใจเบื้องต้น
04:24
Back in 2000, I had the opportunity to go to South Africa
69
249000
3000
ย้อนไปในปี 2000 ผมมีโอกาสได้ไปที่แอฟริกาใต้
04:27
to form a new opera company.
70
252000
2000
เพื่อตั้งบริษัทโอเปร่าใหม่ที่หนึ่ง
04:29
So I went out there, and I auditioned,
71
254000
2000
ดังนั้นผมก็ไปเพื่อที่จะช่วยคัดเลือกคน
04:31
mainly in rural township locations, right around the country.
72
256000
2000
ไปในที่ชนบทของประเทศ
04:33
I heard about 2,000 singers
73
258000
2000
ผมนั่งฟังนักร้องกว่า 2000คน
04:35
and pulled together a company
74
260000
2000
แล้วก็จัดตั้งวงขึ้น
04:37
of 40 of the most jaw-droppingly amazing young performers,
75
262000
3000
จากเหล่าคนดนตรีที่น่าทึ่งกว่า 40 คน
04:40
the majority of whom were black,
76
265000
2000
คนส่วนใหญ่แล้วเป็นคนผิวสี
04:42
but there were a handful of white performers.
77
267000
2000
แต่ก็มีคนผิวขาวอีกมากพอดูเช่นกัน
04:44
Now it emerged early on in the first rehearsal period
78
269000
2000
และสิ่งหนึ่งก้เกิดขึ้นในระหว่างที่กำลังซ้อมช่วงแรก
04:46
that one of those white performers
79
271000
2000
ที่มีคนผิวขาวคนนึง
04:48
had, in his previous incarnation,
80
273000
2000
ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเป็นสมาชิกของ
04:50
been a member of the South African police force.
81
275000
2000
กลุ่มตำรวจแอฟริกาใต้
04:52
And in the last years of the old regime,
82
277000
2000
และช่วงปีก่อนหน้านั้นเขา
04:54
he would routinely be detailed to go into the township
83
279000
3000
ใช้ชีวิตประจำวันในเมืองไปกับการ
04:57
to aggress the community.
84
282000
2000
อยู่ในเหตุการรุนแรงของชุมชน
04:59
Now you can imagine what this knowledge did to the temperature in the room,
85
284000
3000
ตอนนี้คุณคงนึกภาพออกว่าเรื่องนี้จะส่งผลกระทบทำให้บรรยากาศในห้อง
05:02
the general atmosphere.
86
287000
2000
โดยรวมเป็นอย่างไร
05:04
Let's be under no illusions.
87
289000
2000
ตอนนี้ไม่ต้องนึกภาพนั้นก่อนนะครับ
05:06
In South Africa, the relationship most devoid of trust
88
291000
3000
ในแอฟริกาใต้นั้นความสัมพันธ์ระหว่างตำรวจผิวขาว
05:09
is that between a white policeman
89
294000
2000
กับกลุ่มคนในชุมชนที่เป็นผิวสีนั้น
05:11
and the black community.
90
296000
2000
ไม่ค่อยจะไว้ใจกันเท่าไหร่
05:13
So how do we recover from that, ladies and gentlemen?
91
298000
2000
แล้วเราจะแก้ไขสิ่งเหล่านี้ยังไงกันละ ท่านทั้งหลาย?
05:15
Simply through singing.
92
300000
2000
ง่ายๆ โดยการร้องเพลง
05:17
We sang, we sang,
93
302000
3000
พวกเราร้อง และร้อง
05:20
we sang,
94
305000
2000
และร้อง
05:22
and amazingly new trust grew,
95
307000
2000
และน่าอัศจรรย์ที่ความเชื่อเริ่มก่อเกิด
05:24
and indeed friendship blossomed.
96
309000
2000
และความเป็นเพื่อนเริ่มผลิบาน
05:26
And that showed me such a fundamental truth,
97
311000
2000
และด้วยสิ่งนี้เองที่แสดงให้ผมเห็นถึงพื้นฐานการเชื่อใจ
05:28
that music making and other forms of creativity
98
313000
3000
ที่ดนตรีได้สร้างขึ้นและสิ่งอื่นๆได้สรรค์สร้าง
05:31
can so often go to places
99
316000
2000
บ่อยครั้งจากที่หนึ่ง
05:33
where mere words cannot.
100
318000
3000
สามารถเกิดขึ้นด้วยคำพูดเพียงเล็กน้อย
05:36
So we got some shows off the ground. We started touring them internationally.
101
321000
2000
หลังจากนั้นพวกเราก็มีการแสดงนอกสถานที่ เริ่มการแสดงแบบทั่วโลกเลย
05:38
One of them was "Carmen."
102
323000
2000
เรื่องหนึ่งที่ทำคือ "คาร์เมน"
05:40
We then thought we'd make a movie of "Carmen,"
103
325000
2000
พวกเราก็นึกถึงว่าจะสร้างหนังเรื่อง "คาร์เมน"กัน
05:42
which we recorded and shot outside on location
104
327000
2000
ซึ่งพวกเราอัดเสียงและตะโกนกันนอกสถานที่
05:44
in the township outside Cape Town called Khayelitsha.
105
329000
2000
ในพื้นที่นอกเมืองเคปทาว ชื่อว่า คาเยลิชา
05:46
The piece was sung entirely in Xhosa,
106
331000
2000
แต่โดยรวมทั้งหมดเราร้องกันที่ โชห์ซา
05:48
which is a beautifully musical language, if you don't know it.
107
333000
3000
ซึ่งเป้นภาษาดนตรีที่ไพเราะมาก ถ้าคุณไม่รู้จักภาษานี้นะครับ
05:51
It's called "U-Carmen e-Khayelitsha" --
108
336000
2000
เรื่องนี้เลยชื่อว่า "ยู-คาร์เมน เอ-คาเยลิชา"--
05:53
literally "Carmen of Khayelitsha."
109
338000
2000
ซึ่งแปลว่า "คาร์เมนของคาเยลิชา"
05:55
I want to play you a tiny clip of it now
110
340000
2000
ผมขอโชว์คลิปวิดีโอเล็กน้อยในตอนนี้
05:57
for no other reason than to give you proof positive
111
342000
2000
เพื่อเป็นข้อพิสูจน์ด้านบวกของเรื่องนี้
05:59
that there is nothing tiny about South African music making.
112
344000
3000
ว่าไม่มีอะไรเล็กเกี่ยวกับการทำดนตรีในแอฟริกาใต้
06:03
(Music)
113
348000
10000
(เสียงดนตรี)
07:15
(Applause)
114
420000
7000
(ปรบมือ)
07:22
Something which I find utterly enchanting
115
427000
3000
บางสิ่งบางอย่างที่ผมพบว่าเป็นมนสเน่ห์
07:25
about South African music making
116
430000
2000
เกี่ยวกับการทำดนตรีในแอฟริกาใต้
07:27
is that it's so free.
117
432000
2000
คือมันช่างอิสระ
07:29
South Africans just make music really freely.
118
434000
2000
ชาวแอฟริกาใต้สร้างงานดนตรีอย่างอิสระมาก
07:31
And I think, in no small way,
119
436000
2000
และผมคิดว่ามันไม่มีทางเป็นเรื่องง่าย
07:33
that's due to one fundamental fact:
120
438000
2000
ที่พื้นฐานความเป็นจริง:
07:35
they're not bound to a system of notation.
121
440000
2000
พวกเขาไม่ยึดติดกับหลักการอ่านโน้ต
07:37
They don't read music.
122
442000
2000
พวกเขาไม่อ่านโน้ตดนตรี
07:39
They trust their ears.
123
444000
2000
พวกเขาเชื่อหูตัวเอง
07:41
You can teach a bunch of South Africans a tune in about five seconds flat.
124
446000
3000
คุณสามารถสอนโทนเสียงให้กลุ่มชาวแอฟริกาใต้ได้โดยใช้เวลาแค่ 5 วินาที
07:44
And then, as if by magic,
125
449000
2000
และหลังจากนั้น เหมือนกับเวทมนต์
07:46
they will spontaneously improvise a load of harmony around that tune
126
451000
3000
พวกเขาสามารถตอบรับ พัฒนาประสารเสียงขยายวงกว้างออกไปหลายโทนเสียง
07:49
because they can.
127
454000
2000
เพราะพวกเขาสามารถทำได้
07:51
Now those of us that live in the West, if I can use that term,
128
456000
3000
สำหรับพวกเราที่อาศัยทางฝั่งตะวันตก ถ้าผมสามารถใช้คำจำกัดความนี้ได้
07:54
I think have a much more hidebound attitude or sense of music --
129
459000
3000
ผมคิดว่าพวกเรามีทัศนคติและความรู้สึกทางดนตรีที่ซ่อนอยู่
07:57
that somehow it's all about skill and systems.
130
462000
3000
ที่บางทีเป้นทักษะและระบบต่างๆ
08:00
Therefore it's the exclusive preserve
131
465000
3000
ดังนั้นมันเป็นสิ่งสำคัญที่ความสามารถ
08:03
of an elite, talented body.
132
468000
2000
นั้นจะถูกเก็บไว้ในร่างกาย
08:05
And yet, ladies and gentlemen, every single one of us on this planet
133
470000
3000
และดังน้น สุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ พวกเราทุกคนบนโลกใบนี้
08:08
probably engages with music on a daily basis.
134
473000
3000
เชื่อมต่อกับดนตรีในพื้นฐานของชีวิตประจำวัน
08:11
And if I can broaden this out for a second,
135
476000
2000
และถ้าผมสามาถขยายความในเวลาอันสั้นนี้
08:13
I'm willing to bet that every single one of you sitting in this room
136
478000
3000
ผมพนันได้ว่า ทุกๆคนที่นั่งอยู่ในที่นี้
08:16
would be happy to speak with acuity, with total confidence,
137
481000
2000
อยากพูดได้เต็มปากเต็มคำ มั่นใจว่า
08:18
about movies, probably about literature.
138
483000
3000
รู้เกี่ยวกับหนัง หรือนิยายเป็นแน่
08:21
But how many of you would be able to make a confident assertion
139
486000
3000
แต่มีพวกคุณสักกี่คนที่สามารถยืนยันด้วยความมั่นใจ
08:24
about a piece of classical music?
140
489000
3000
เกี่ยวกับดนตรีคราสิกได้?
08:27
Why is this?
141
492000
2000
ทำไมนะหรือ?
08:29
And what I'm going to say to you now
142
494000
2000
และในสิ่งที่ผมกำลังจะบอกกับคุณนี้
08:31
is I'm just urging you to get over
143
496000
2000
คือผมแค่กระตุ้นพวกคุณเพื่อเอาชนะ
08:33
this supreme lack of self-confidence,
144
498000
2000
ความไม่มั่นใจ
08:35
to take the plunge, to believe that you can trust your ears,
145
500000
3000
เชื่อมั่นในการฟังของตัวเอง
08:38
you can hear some of the fundamental muscle tissue,
146
503000
2000
ว่าคุณสามารถฟังเสียงพื้นฐาน
08:40
fiber, DNA,
147
505000
2000
ต่างๆ
08:42
what makes a great piece of music great.
148
507000
3000
ที่สามารถสร้างเพลงที่ดีได้
08:45
I've got a little experiment I want to try with you.
149
510000
2000
ผมมีการทดลองเล็กน้อยที่อยากลองกับพวกคุณ
08:47
Did you know
150
512000
2000
คุณร้ไหมว่า
08:49
that TED is a tune?
151
514000
2000
TED มีโทนเสียง
08:51
A very simple tune based on three notes -- T, E, D.
152
516000
3000
โทนเสียงง่ายๆ 3 โน้ต T, E, D
08:54
Now hang on a minute.
153
519000
2000
โอเค เด๊่ยวก่อนครับ
08:56
I know you're going to say to me, "T doesn't exist in music."
154
521000
3000
ผมรู้ว่าคุณกำลังจะเถียงผมว่า T ไม่มีในโน้ตดนตรีหนิ
08:59
Well ladies and gentlemen, there's a time-honored system,
155
524000
2000
เอาหละ สุภาพสตรีและบุรุษครับ นานมาแล้วที่ระบบอันทรงเกียรติ
09:01
which composers have been using for hundreds of years,
156
526000
2000
ซึ่งผู้แต่งได้ใช้มากกว่าร้อยปีแล้ว
09:03
which proves actually that it does.
157
528000
3000
ได้พิสูจน์ว่ามันมีจริงๆนะครับ
09:06
If I sing you a musical scale: A, B, C, D, E, F, G --
158
531000
4000
ถ้าผมร้องโน้ตไล่สเกล A,B,C,D,E,F,G--
09:10
and I just carry on with the next set of letters in the alphabet, same scale:
159
535000
3000
แล้วก็ต่อๆไปเรื่อยๆ กับเซ็ทตัวหนังสือ ในสเกลเดียวกัน
09:13
H, I, J, K, L, M, N,
160
538000
3000
H,I,J,K,L,M,N
09:16
O, P, Q, R, S, T -- there you go.
161
541000
2000
O,P,Q,R,S,T--- นั่้นไงมีแล้วเห็นไหม
09:18
T, see it's the same as F in music.
162
543000
2000
T เห็นไหมครับว่ามันโทนเสียงเดียวกับF เลย
09:20
So T is F.
163
545000
2000
ดังนั้น T ก็คือ F
09:22
So T, E, D is the same as F, E, D.
164
547000
2000
ซึ่ง T, E, D ก็เหมือนกับ F, E, D
09:24
Now that piece of music that we played at the start of this session
165
549000
3000
ตอนนี้ เรามีโน้ตดนตรีไว้บันเลงกันแล้ว
09:27
had enshrined in its heart
166
552000
2000
จำไว้ในใจได้เลยครับ
09:29
the theme, which is TED.
167
554000
2000
ซึ่งนั่นคือโน้ต TED
09:31
Have a listen.
168
556000
2000
ลองฟังดูนะครับ
09:34
(Music)
169
559000
7000
(เสียงดนตรี)
09:41
Do you hear it?
170
566000
2000
คุณได้ยินไหมครับ
09:43
Or do I smell some doubt in the room?
171
568000
2000
เอ หรือผมได้กลิ่นความไม่มั่นใจในห้องนะ ?
09:45
Okay, we'll play it for you again now,
172
570000
2000
โอเค เดี๋ยวพวกเราจะเล่นให้ฟังอีกรอบ
09:47
and we're going to highlight, we're going to poke out the T, E, D.
173
572000
3000
และพวกเราจะเน้น พวกเราจะส่งโน้ต T, E,D ให้คุณ
09:50
If you'll pardon the expression.
174
575000
3000
ถ้าคุณยังมีความสงสัยอีกนะครับ
09:53
(Music)
175
578000
7000
(เสียงดนตรี)
10:00
Oh my goodness me, there it was loud and clear, surely.
176
585000
3000
ให้ตายเหอะ ให้ดังและชัดเลย
10:03
I think we should make this even more explicit.
177
588000
1000
ผมว่าเราควรทำให้มันชัดเจนกว่านี้
10:04
Ladies and gentlemen, it's nearly time for tea.
178
589000
2000
เอาละครับทุกท่าน เกือบจะถึงเวลาน้ำชาแล้ว
10:06
Would you reckon you need to sing for your tea, I think?
179
591000
2000
ผมแนะนำว่าคุณควรจะร้องเพลงสำหรับเวลาน้ำชาคุณนะครับ
10:08
I think we need to sing for our tea.
180
593000
2000
ผมคิดว่าเป็นความคิดที่ดีในการร้องเพลงสำหรับเวลาน้ำชา
10:10
We're going to sing those three wonderful notes: T, E, D.
181
595000
3000
เราจะร้องตัวโน้ต 3 ตัว นั่นก็คือ T, E, D
10:13
Will you have a go for me?
182
598000
2000
พวกคุณจะร้องให้ผมได้ไหมครับ?
10:15
Audience: T, E, D.
183
600000
2000
ผู้ฟัง: T, E, D
10:17
Charles Hazlewood: Yeah, you sound a bit more like cows really than human beings.
184
602000
3000
ชาร์ลส ฮาเซลวูด: ใช่ พวกคุณฟังดูเหมือนวัวมากกว่าคนนะเนี่ย
10:20
Shall we try that one again?
185
605000
2000
ลองอีกครั้งได้ไหมครับ ?
10:22
And look, if you're adventurous, you go up the octave.
186
607000
2000
และฟังนะครับ ผจญภัยอีกนิด ขึ้นไปอีกขั้นครับ
10:24
T, E, D.
187
609000
2000
T, E, D
10:26
Audience: T, E, D.
188
611000
2000
ผู้ฟัง: T, E, D
10:28
CH: Once more with vim. (Audience: T, E, D.)
189
613000
3000
ชาร์ลส: อีกครั้งครับ (ผู้ฟัง: T, E, D)
10:31
There I am like a bloody windmill again, you see.
190
616000
2000
โอเค ผมเริ่มเหมือนกังหันบ้าครั้งอีกแล้ว คุณเห็นไหม
10:33
Now we're going to put that in the context of the music.
191
618000
3000
เอาละครับตอนนี้ผมจะใส่โน้ตพวกนี้ลงในเพลง
10:36
The music will start, and then at a signal from me, you will sing that.
192
621000
3000
เพลงจะเริ่ม แล้วเมื่อผมให้สัญญาณ พวกคุณก็ร้องนะครับ
10:41
(Music)
193
626000
4000
(เสียงดนตรี)
10:53
One more time,
194
638000
2000
อีกครั้งครับ
10:55
with feeling, ladies and gentlemen.
195
640000
2000
ใส่อารมณ์หน่อยครับทุกคน
10:57
You won't make the key otherwise.
196
642000
3000
คุณยังไม่ได้ร้องจริงๆเลย
11:00
Well done, ladies and gentlemen.
197
645000
2000
ดีครับทุกคน
11:02
It wasn't a bad debut for the TED choir,
198
647000
3000
ไม่เลวเลยสำหรับวงประสานเสียง TED
11:05
not a bad debut at all.
199
650000
3000
ใช้ได้เลยทีเดียว
11:08
Now there's a project that I'm initiating at the moment
200
653000
2000
และในตอนนี้ ผมมีโปรเจคที่กำลังเริ่มสร้าง
11:10
that I'm very excited about and wanted to share with you,
201
655000
2000
ที่ผมตื่นเต้นมากและอยากแชร์ให้พวกคุณรู้
11:12
because it is all about changing perceptions,
202
657000
2000
เพราะมันเกี่ยวกับการเปลี่ยนทัศนคติ
11:14
and, indeed, building a new level of trust.
203
659000
3000
และแน่นอนว่าสร้างความเชื่อมั่นในอีกระดับ
11:17
The youngest of my children was born with cerebral palsy,
204
662000
3000
ลูกคนเล็กของผมเกิดมาเป็นอัมพาตทางสมอง
11:20
which as you can imagine,
205
665000
2000
ซึ่งคุณคงพอนึกออก
11:22
if you don't have an experience of it yourself,
206
667000
2000
ถ้าคุณไม่เคยประสบกับคุณเอง
11:24
is quite a big thing to take on board.
207
669000
2000
มันค่อนข้างเป็นเรื่องใหญ่
11:26
But the gift that my gorgeous daughter has given me,
208
671000
3000
แต่ของขวัญที่ลูกสาวที่น่ารักของผมให้ผมมา
11:29
aside from her very existence,
209
674000
2000
เท่าที่เธอเป็นอยู่นั่น
11:31
is that it's opened my eyes to a whole stretch of the community
210
676000
3000
คือการเปิดกว้างให้ผมเห็นชุมชน
11:34
that was hitherto hidden,
211
679000
2000
ที่ถูกซ่อนอยู่
11:36
the community of disabled people.
212
681000
2000
ของเหล่าคนพิการ
11:38
And I found myself looking at the Paralympics and thinking how incredible
213
683000
3000
และผมได้รู้จักกับกีฬาโอลิมปิกคนพิการและคิดว่ามันช่างน่าอัศจรรย์
11:41
how technology's been harnessed to prove beyond doubt
214
686000
3000
ที่เทคโนโลยีแสดงให้เห็นว่าความพิการ
11:44
that disability is no barrier
215
689000
2000
ไม่ได้เป็นสิ่งขวางกั้น
11:46
to the highest levels of sporting achievement.
216
691000
2000
ในการประสบความสำเร็จทางการกีฬาเลย
11:48
Of course there's a grimmer side to that truth,
217
693000
2000
แน่นอนว่ามีด้านเศร้าของเรื่องจริง
11:50
which is that it's actually taken decades for the world at large
218
695000
3000
นั่นคือการใช้เวลานานมากกว่าที่โลกเราจะ
11:53
to come to a position of trust,
219
698000
3000
ยอมรับในสิ่งเหล่านี้
11:56
to really believe that disability and sports can go together
220
701000
3000
และเชื่อว่าคนพิการและกีฬานั้นสามารถไปด้วยกันได้
11:59
in a convincing and interesting fashion.
221
704000
3000
มันต้องใช้การจูงใจและเทรนความสนใจ
12:02
So I find myself asking:
222
707000
2000
ผมเลยถามตัวเองว่า
12:04
where is music in all of this?
223
709000
2000
แล้วดนตรีกับเรื่องนี้ละ
12:06
You can't tell me that there aren't millions of disabled people,
224
711000
2000
คุณปฏิเสธผมไม่ได้หรอกว่าแค่ในอังกฤษนี้ มีคนพิการ
12:08
in the U.K. alone,
225
713000
2000
มากกว่า 1 ล้านคน
12:10
with massive musical potential.
226
715000
3000
ที่มีความสามารถทางดนตรี
12:13
So I decided to create a platform for that potential.
227
718000
3000
ดังนั้นผมเลยตั้งใจสร้างโอกาสนั้นขึั้นมา
12:16
It's going to be Britain's first ever
228
721000
2000
มันจะเป็นวงออเครสต้า
12:18
national disabled orchestra.
229
723000
2000
ของคนพิการวงแรกในอังกฤษ
12:20
It's called Paraorchestra.
230
725000
2000
เรียกว่า พาราออเครสต้า
12:22
I'm going to show you a clip now
231
727000
2000
ผมจะโชว์คลิปวิดีโอให้ดูเดียว
12:24
of the very first improvisation session that we had.
232
729000
2000
นี้ของการแสดงสดที่เรามีครับ
12:26
It was a really extraordinary moment.
233
731000
2000
มันเป็นช่วงเวลาที่เหลือเชื่อจริงๆ
12:28
Just me and four astonishingly gifted disabled musicians.
234
733000
3000
แค่ผมกับคนพิการที่มีความสามาระทางดนตรี
12:31
Normally when you improvise --
235
736000
3000
โดยทั่วไปแล้วเวลาที่คุณแสดงสด
12:34
and I do it all the time around the world --
236
739000
2000
และผม
12:36
there's this initial period of horror,
237
741000
2000
มันเป็นช่วงเวลาที่มีเกียรติ
12:38
like everyone's too frightened to throw the hat into the ring,
238
743000
2000
เหมือนกับเวลาที่ทุกคนกลัวที่จะโยนหมวกขึ้นบนเวที
12:40
an awful pregnant silence.
239
745000
2000
เป็นเวลาที่เงียบอย่างน่ากลัว
12:42
Then suddenly, as if by magic, bang! We're all in there
240
747000
2000
และแล้ว ดนตรีเริ่ม และพวกเราก็อยู่ที่นั่น
12:44
and it's complete bedlam. You can't hear anything.
241
749000
2000
มันเหมือนอยู่ในโรงพยาบาลบ้า คุณไม่ได้ยินอะไรเลย
12:46
No one's listening. No one's trusting.
242
751000
2000
ไม่มีใครฟัง ไม่มีใครเชื่อ
12:48
No one's responding to each other.
243
753000
3000
ไม่มีใครตอบสนองกลับ
12:51
Now in this room with these four disabled musicians,
244
756000
2000
และในห้องที่มีนักดนตรีพิการ4คนนี้
12:53
within five minutes
245
758000
2000
ในเวลา 5 นาที
12:55
a rapt listening, a rapt response
246
760000
2000
คนนั่งฟังอย่างใจจดใจจ่อ
12:57
and some really insanely beautiful music.
247
762000
3000
และดนตรีที่ไพเราะอย่างมากก็เริ่มขึ้น
13:02
(Video) (Music)
248
767000
8000
(วิดีโอ) (เสียงดนตรี)
13:10
Nicholas:: My name's Nicholas McCarthy.
249
775000
2000
นิโคลัส: ผมชื่อ นิโคลัส แม็คคาที
13:12
I'm 22, and I'm a left-handed pianist.
250
777000
2000
ผมอายุ 22 ผมเป็นนักเปียโนมือซ้ายครับ
13:14
And I was born without my left hand -- right hand.
251
779000
3000
ผมเกิดมาไม่มีมือซ้าย --- มือขวา
13:17
Can I do that one again?
252
782000
3000
ผมจะสามาระเล่นได้ไหม?
13:20
(Music)
253
785000
7000
(เสียงดนตรี)
13:27
Lyn: When I'm making music,
254
792000
2000
ลิน: เวลาที่ฉันเล่นดนตรี
13:29
I feel like a pilot in the cockpit flying an airplane.
255
794000
3000
ฉันรู้สึกเหมือนกับนักบินที่คุมเครื่องบิน
13:32
I become alive.
256
797000
2000
ฉันรู้สึกเบิกบาน
13:34
(Music)
257
799000
11000
(เสียงดนตรี)
13:45
Clarence: I would rather be able to play an instrument again
258
810000
3000
แคร์เรน: ฉันอยากเล่นเครื่องดนตรีได้อีกครั้งมากกว่า
13:48
than walk.
259
813000
2000
เดิน
13:50
There's so much joy and things
260
815000
2000
มันมีความสุขและให้มากมาย
13:52
I could get from playing an instrument and performing.
261
817000
4000
ที่ได้จากการเล่นดนตรีและการแสดง
13:56
It's removed some of my paralysis.
262
821000
4000
ฉันได้ออกจากโลกแห่งอัมพาตนี้
14:00
(Music)
263
825000
15000
(เสียงดนตรี)
14:15
(Applause)
264
840000
7000
(เสียงปรบมือ)
14:22
CH: I only wish that some of those musicians were here with us today,
265
847000
3000
ชาร์ลส: ผมหวังอยากให้หนึ่งในนักดนตรีเหล่านี้อยู่ที่นี่
14:25
so you could see at firsthand how utterly extraordinary they are.
266
850000
3000
เพื่อที่พวกคุณจะได้ประจักว่าพวกเขาน่าทึ่งแค่ไหน
14:28
Paraorchestra is the name of that project.
267
853000
2000
พาราออเครสต้าเป็นชื่อของโปรเจค
14:30
If any of you thinks you want to help me in any way
268
855000
2000
ถ้าคุณบางคนคิดว่า คุณอยากช่วยผม
14:32
to achieve what is a fairly impossible and implausible dream still at this point,
269
857000
3000
ในความฝันที่ดูจะไม่มีจุดหมายและหนทางเป็นไปได้
14:35
please let me know.
270
860000
2000
บอกผมได้เลยครับ
14:37
Now my parting shot
271
862000
2000
โอเค
14:39
comes courtesy of the great Joseph Haydn,
272
864000
2000
มาถึงโจเซฟ ไฮเดิน
14:41
wonderful Austrian composer in the second half of the 18th century --
273
866000
3000
นักประพันธ์ชาวออสเตรียในช่วงที่สองของทศวรรษที่18
14:44
spent the bulk of his life
274
869000
2000
ใช่เวลากว่าค่อนชีวิต
14:46
in the employ of Prince Nikolaus Esterhazy, along with his orchestra.
275
871000
3000
เพื่อทำงานให้เจ้าชาย นิโคลัส เอสฮาซี กับวงออเครสต้า
14:49
Now this prince loved his music,
276
874000
3000
เจ้าชายพระองค์นี้ชอบดนตรีมาก
14:52
but he also loved the country castle that he tended to reside in most of the time,
277
877000
3000
แต่เขาก็รักในปราสาทที่ซึ่งปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ตามการเวลา
14:55
which is just on the Austro-Hungarian border,
278
880000
2000
ในบริเวณ ออสโตร-ฮังการี
14:57
a place called Esterhazy --
279
882000
2000
ในสถานที่ที่เรียกว่า เอสฮาซี
14:59
a long way from the big city of Vienna.
280
884000
2000
ห่างจากตัวเมืองเวียนนา
15:01
Now one day in 1772,
281
886000
2000
ในวันหนึ่งของปี 1772
15:03
the prince decreed that the musicians' families,
282
888000
2000
เจ้าชายไม่อนุญาตให้ครอบครัวนักดนตรี
15:05
the orchestral musicians' families,
283
890000
2000
ของวงออเครสต้า
15:07
were no longer welcome in the castle.
284
892000
2000
เข้าปราสาทอีกต่อไป
15:09
They weren't allowed to stay there anymore; they had to be returned to Vienna --
285
894000
3000
พวกเขาถูกสั่งห้ามเข้าวัง ให้กลับไปอยู่เวียนนา
15:12
as I say, an unfeasibly long way away in those days.
286
897000
3000
อย่างที่ผมบอกไปว่าห่างไกลมากในสมัยก่อน
15:15
You can imagine, the musicians were disconsolate.
287
900000
4000
คุณอาจจะพอนึกภาพออกว่า นักดนตรีจะสลดแค่ไหน
15:19
Haydn remonstrated with the prince, but to no avail.
288
904000
3000
ไฮเดิน พยายามแย้งเรื่องนี้กับเจ้าชาย แต่ก็ไม่เป็นผล
15:22
So given the prince loved his music,
289
907000
2000
อย่างที่บอกว่าเจ้าชายชอบดนตรี
15:24
Haydn thought he'd write a symphony to make the point.
290
909000
3000
ไฮเดินเลยคิดว่าจะแต่งซิมโฟนีเพื่อจูงใจ
15:27
And we're going to play just the very tail end of this symphony now.
291
912000
3000
แล้วพวกเราจะเล่นส่วนท้ายของซิมโฟนีในเวลานี้
15:30
And you'll see the orchestra in a kind of sullen revolt.
292
915000
3000
แล้วคุณจะเห็นว่าออกเครสด้าดูเหมือนก่อกบฏ
15:33
I'm pleased to say, the prince did take the tip
293
918000
2000
ผมยินดีที่จะพูดว่าเจ้าชายก็รับฟังคำแนะนำ
15:35
from the orchestral performance,
294
920000
2000
จากการแสดงออเครสต้านี้
15:37
and the musicians were reunited with their families.
295
922000
2000
และแล้วนักดนตรีก็ได้กลับมาอยู่กับครอบครัวอีกครั้ง
15:39
But I think it sums up my talk rather well, this,
296
924000
3000
ซึ่งเป็นการสรุปการพูดของผมได้ว่า
15:42
that where there is trust,
297
927000
2000
ที่ซึ่งมีความเชื่อใจ
15:44
there is music -- by extension life.
298
929000
3000
ก็มีดนตรี ซึ่งทำให้ชีวิตยืนยาว
15:47
Where there is no trust,
299
932000
2000
เมื่อที่ใดไม่มีความเชื่อใจแล้ว
15:49
the music quite simply withers away.
300
934000
3000
ดนตรีก็จะหนีหายจากไป
15:56
(Music)
301
941000
10000
(เสียงดนตรี)
19:06
(Applause)
302
1131000
23000
(ปรบมือ)
ABOUT THE SPEAKER
Charles Hazlewood - ConductorCharles Hazlewood dusts off and invigorates classical music, adding a youthful energy and modern twists to centuries-old masterworks. At TEDGlobal, he conducts the Scottish Ensemble.
Why you should listen
Charles Hazlewood's fresh presentations of classical music shake up the traditional settings of the form -- in one performance he’ll engage in a conversation with the audience, while in another he’ll blend film or sculpture into a piece -- but his goal is always the same: exposing the deep, always-modern joy of the classics. He's a familiar face on British TV, notably in the 2009 series The Birth of British Music on BBC2. He conducts the BBC Orchestras and guest-conducts orchestras around the world.
Together with Mark Dornford-May, he founded a lyric-theatre company in South Africa called Dimpho Di Kopane (which means "combined talents") after auditioning in the townships and villages of South Africa. Of the 40 members, only three had professional training. They debuted with Bizet's Carmen, which was later transposed into a movie version called U-Carmen eKhayelitsha, spoken and sung in Xhosa, that was honored at the Berlin Flim Festival. He regularly involves children in his projects and curates his own music festival, Play the Field, on his farm in Somerset. His latest project: the ParaOrchestra.
He says: "I have loads of issues with the way classical music is presented. It has been too reverential, too 'high art' -- if you're not in the club, they're not going to let you join. It's like The Turin Shroud: don't touch it because it might fall apart."
Charles Hazlewood | Speaker | TED.com