Latif Nasser: The amazing story of the man who gave us modern pain relief
ลาติฟ นาสเซอร์ (Latif Nasser): เรื่องน่าประหลาดใจของชายผู้มอบการบรรเทาความเจ็บปวดสมัยใหม่แก่เรา
Latif Nasser is the director of research at Radiolab, where he has reported on such disparate topics as culture-bound illnesses, snowflake photography, sinking islands and 16th-century automata. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
causing crippling, chronic pain.
สร้างความพิการและอาการเจ็บปวดเรื้อรัง
for her to brush her teeth.
เกินกว่าที่เธอจะแปรงฟันเองได้
the history of chronic pain.
ประวัติศาสตร์ของอาการเจ็บปวดเรื้อรัง
history of pain collection
มีหมวดประวัติศาสตร์ความเจ็บปวดโดยเฉพาะ
a fantastic story --
เป็นเรื่องราวที่น่าอัศจรรย์มาก
millions of people from pain;
ผู้คนนับล้านจากความเจ็บปวด
of him, no Hollywood movies.
ไม่มีภาพยนตร์ฮอลีวู๊ดเกี่ยวกับเขาเลย
Johnny "Bull" Walker.
จอห์นนี่ "บูล" วอคเกอร์ มากกว่า
in the tiny town of Brookfield, New York.
ที่ชื่อบรู๊คฟิล์ด มลรัฐนิวยอร์ค
the wire-walkers, the tramp clowns --
ก็จะได้ดูมนุษย์กระสุนปืนใหญ่
Johnny "Bull" Walker,
จอห์นนี่ "บูล" วอคเกอร์
ด้วยเงินเพียงหนึ่งเหรียญ
a voice rang out
in the live animal tent.
with the lion tamer.
inside the lion's mouth.
to the ground, motionless.
mouth-to-mouth, and saved his life.
แบบปากต่อปาก และรักษาชีวิตเขาเอาไว้
a third-year medical student.
during summers to pay tuition,
ในช่วงฤดูร้อนเพื่อหาเงินจ่ายค่าเทอม
to protect his persona.
เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของเขา
a brute, a villain --
know his secret, either.
ไม่มีใครรู้ความลับนี้เช่นกัน
an athlete, you were a dumb dodo."
คุณก็เป็นแค่คนทึ่มคนนึง"
เกี่ยวกับคณะละครสัตว์
on evenings and weekends.
ในช่วงเย็นและวันหยุดสุดสัปดาห์
the Light Heavyweight Champion
lived these parallel lives.
ใช้ชีวิตแบบคู่ขนาน
but over the next five decades,
ว่าอีกห้าสิบปีให้หลัง
อัตลักษณ์ที่ขัดแย้งกันเหล่านี้
to think about pain.
ในการคิดต่อความเจ็บปวด
so much so, that decades later,
ไปอย่างมากในช่วงหลายสิบปีให้หลัง
pain relief's founding father.
บิดาผู้บุกเบิกการบรรเทาความเจ็บปวด
medical school and married Emma,
จากโรงเรียนแพทย์ และแต่งงานกับเอมม่า
at one of his matches years before.
หลายปีก่อนหน้านั้น
เขาจำต้องทำ
St. Vincent's Hospital paid nothing.
ในนิวยอร์ก ไม่ได้จ่ายอะไรให้เลย
he wrestled in big-ticket venues,
Angelo Savoldi.
ซี่โครงหักหลายซี่
scratched a scar like Capone's
สร้างรอยแผลเป็นเหมือนของกาโปเน
he had to wear a surgical mask to hide it.
เขาต้องสวมหน้ากากผ่าตัดเพื่อปกปิดมัน
with one eye so bruised,
ด้วยตาข้างหนึ่งที่ฟกช้ำอย่างหนัก
his mangled cauliflower ears.
หูของเขาที่บวมเหมือนดอกกะหล่ำ
on the sides of his head.
ติดอยู่ที่ข้างหัว
into labor at his hospital.
คลอดลูกที่โรงพยาบาลของเขา
out to the intern on duty
เรียกแพทย์ฝึกหัดที่อยู่ประจำการ
to ease her pain.
เพื่อบรรเทาความเจ็บปวด
just three weeks on the job --
ที่เพิ่งมาทำงานได้สามอาทิตย์
and started to turn blue.
และเริ่มหน้าเขียว
pushed the intern out of the way,
ผลักนักศึกษาฝึกงานให้พ้นทาง
and his unborn daughter.
และลูกสาวในท้องเอาไว้
to devote his life to anesthesiology.
อุทิศชีวิตของเขาแก่วิสัญญีวิทยา
the epidural, for delivering mothers.
เทคนิคการบล็อกหลังสำหรับคุณแม่ที่กำลังจะคลอด
to Madigan Army Medical Center,
army hospitals in America.
ในอเมริกา ด้วยขนาด 7,700 เตียง
of all pain control there.
ความเจ็บปวดทั้งหมดที่นี่
Bonica started noticing cases
โบนิก้าเริ่มสังเกตเห็นกรณี
he had learned.
a kind of alarm bell -- in a good way --
ในทางที่ดี
like a broken arm.
อย่างเช่นแขนหัก
of pain in that nonexistent leg.
ที่ข้างซึ่งไม่มีอยู่แล้ว
would the alarm bell keep ringing?
เหตุใดสัญญาณเตือนยังคงร้องอยู่ล่ะ
was no evidence of an injury whatsoever,
การบาดเจ็บใด ๆ เลย
at his hospital -- surgeons,
ในโรงพยาบาลของเขา ศัลยแพทย์
their opinions on his patients.
จากผู้ป่วยของเขา
group meetings over lunch.
เขาจึงเริ่มที่จะจัดกลุ่มพูดคุยช่วงพักเที่ยง
going up against the patient's pain.
ผู้เชี่ยวชาญเพื่อต่อสู้กับความเจ็บปวดของคนไข้
this way before.
ต่อความเจ็บปวดเช่นนี้มาก่อน
he could get his hands on,
ที่เขาสามารถคว้าได้
of the word "pain."
"ความเจ็บปวด" อย่างละเอียดเลย
on 17 and a half of them.
เพียง 17 หน้าครึ่งเท่านั้น
most frustrating part of being a patient.
ส่วนที่น่ารำคาญที่สุดของการเป็นผู้ป่วย
can you come to there?
กันวะเนี่ย
from the patient's perspective,
Bonica would talk about it.
โบนิก้าได้พูดถึงมัน
those missing pages.
เขาเขียนหน้าที่ขาดหายไปเหล่านั้น
as the Bible of Pain.
เป็นคัมภีร์ของความเจ็บปวด
nerve-block injections.
การฉีดสกัดเส้นประสาท
the Pain Clinic,
คลินิกความเจ็บปวด
about his book
alarm bell for medicine.
ที่มีต่อการแพทย์
to take pain seriously
แพทย์จริงจังต่อความเจ็บปวด
อาการของผู้ป่วยดีขึ้น
in the mid-'70s.
ช่วงกลางทศวรรษที่ 70
all over the world.
เป็นร้อย ๆ แห่งทั่วโลก
caught up to him.
ได้ไล่เขาทันในที่สุด
for over 20 years,
had left a mark on his body.
ทิ้งบาดแผลเขาไว้บนร่างกาย
severe osteoarthritis.
เขาป่วยเป็นโรคข้อกระดูกอักเสบอย่างรุนแรง
he'd have 22 surgeries,
เขาเข้ารับการผ่าตัดถึง 22 ครั้ง
his arm, turn his neck.
became his doctors.
had more nerve-block injections
ถูกฉีดสกัดเส้นประสาท
he worked even more --
เขายิ่งทำงานมากกว่า
than just his job,
form of relief.
ที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดสำหรับเขา
he told a reporter at the time,
เขาบอกกับนักข่าวในตอนนั้น
in the early 1980s,
him to the Hyde Park area in Tampa.
ไปส่งที่เขตไฮด์ปาร์ก ในเมืองเทมปา
and pulled up to an old mansion,
ไปยังคฤหาสน์หลังเก่า
hidden in the garage.
ซ่อนไว้ในโรงจอดรถ
American circus royalty.
เจ้าพ่อละครสัตว์อเมริกัน
โบนิก้าได้ชมการแสดงของพวกเขา
the Human Cannonball.
ซึ่งก็คือ มนุษย์กระสุนปืนใหญ่
now, including Bonica,
รวมทั้งโบนิกาด้วย
what they said that day.
เขาพูดอะไรกันวันนั้น
cannonballs reunited,
และชายผู้แข็งแกร่ง
said in an oral history,
ได้กล่าวไว้ในเรื่องปากเปล่า
and wrestling deeply molded his life.
ได้หล่อหลอมชีวิตของเขาเป็นอย่างมาก
for him to ignore in others.
ที่เขาจะละเลยสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนอื่น
a whole new field,
เขาได้เปิดสนามใหม่
medicine to acknowledge pain
วงการแพทย์ตระหนักต่อความเจ็บปวด
your current life,
ทั้งในอดีต ปัจจุบัน
in waiting rooms.
ในห้องนั่งรอ
that same way.
that my mom's pain holds.
ที่ความเจ็บปวดของแม่ผมอัดอั้นเอาไว้
where she worked.
ที่เธอทำงานอยู่
ABOUT THE SPEAKER
Latif Nasser - Radio researcherLatif Nasser is the director of research at Radiolab, where he has reported on such disparate topics as culture-bound illnesses, snowflake photography, sinking islands and 16th-century automata.
Why you should listen
The history of science is "brimming with tales stranger than fiction," says Latif Nasser, who wrote his PhD dissertation on the Tanganyika Laughter Epidemic of 1962. A writer and researcher, Nasser is now the research director at Radiolab, a job that allows him to dive into archives, talk to interesting people and tell stories as a way to think about science and society.
Latif Nasser | Speaker | TED.com