TEDxWomen 2011
Laura Carstensen: Older people are happier
ลอร่า คาร์สเตนเซ่น (Laura Carstensen): ยิ่งสูงอายุ ยิ่งมีความสุข
Filmed:
Readability: 4.8
1,414,570 views
ในศตวรรษที่ 20 เรามีอายุขัยที่ยืนยาวขึ้นมาก แต่คุณภาพชีวิตนั้นได้ดีมากขึ้นตามหรือไม่? น่าแปลกที่คำตอบคือใช่ ที่ TEDxWoman นักจิตวิทยา ลอร่า คาร์สเตนเซ่น ได้แสดงผลวิจัยที่แสดงให้เห็นว่ายิ่งเราสูงอายุขึ้น เรายิ่งมีความสุข ยิ่งพึงพอใจ และสามารถมองโลกในทางบวกได้มากยิ่งขึ้น
Laura Carstensen - Psychologist
Laura Carstensen is the director of the Stanford Center on Longevity, and has extensively studied the effects on wellbeing of extended lifetimes. Full bio
Laura Carstensen is the director of the Stanford Center on Longevity, and has extensively studied the effects on wellbeing of extended lifetimes. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:15
People are living longer
0
0
2000
พวกเราอายุยืนมากขึ้น
00:17
and societies are getting grayer.
1
2000
2000
และสังคมก็เริ่มที่จะเต็มไปด้วยคนหัวสีเทาๆ
00:19
You hear about it all the time.
2
4000
2000
คุณได้ยินมันอยู่ตลอดน่ะแหละ
00:21
You read about it in your newspapers.
3
6000
2000
คุณอ่านเจอมันในหนังสือพิมพ์
00:23
You hear about it on your television sets.
4
8000
2000
จากโทรทัศน์
00:25
Sometimes I'm concerned
5
10000
2000
บางครั้งฉันก็เป็นห่วงนะ
00:27
that we hear about it so much
6
12000
2000
ว่าเราได้ยินมันบ่อยมาก
00:29
that we've come to accept longer lives
7
14000
3000
ซะจนเรายินดี
00:32
with a kind of a complacency,
8
17000
2000
แล้วก็สบายใจ
00:34
even ease.
9
19000
2000
กับการมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้นนี้
00:36
But make no mistake,
10
21000
3000
แต่อย่าเข้าใจผิดไปนะ
00:39
longer lives can
11
24000
2000
การมีชีวิตยืนยาวขึ้น สามารถ
00:41
and, I believe, will
12
26000
2000
และฉันเชื่อว่า มันจะ
00:43
improve quality of life
13
28000
2000
ข่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต
00:45
at all ages.
14
30000
2000
ของทุกๆ ช่วงชีวิตได้
00:47
Now to put this in perspective,
15
32000
2000
เอาล่ะและเพื่อให้เราได้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น
00:49
let me just zoom out for a minute.
16
34000
3000
ขอฉันพูดถึงเรื่องอื่นซักแป๊บนึง
00:52
More years were added
17
37000
3000
จำนวนปีที่ถูกเพิ่ม
00:55
to average life expectancy
18
40000
2000
ในค่าเฉลี่ยอายุขัยของเรา
00:57
in the 20th century
19
42000
2000
ในศตวรรษที่ 20 นี้
00:59
than all years added
20
44000
3000
ยังมากกว่าจำนวนที่ถูกเพิ่ม
01:02
across all prior millennia
21
47000
4000
ตลอดช่วงพันปีก่อนหน้า
01:06
of human evolution combined.
22
51000
3000
ของมนุษย์รวมกันซะอีก
01:09
In the blink of an eye,
23
54000
2000
ในช่วงเวลาแค่พริบตาเดียว
01:11
we nearly doubled the length of time
24
56000
3000
เราเกือบได้เบิ้ลช่วงเวลา
01:14
that we're living.
25
59000
2000
ที่เราจะมีชีวิตอยู่ได้เป็น 2 เท่า
01:16
So if you ever feel like you don't have this aging thing quite pegged,
26
61000
3000
เพราะฉะนั้นถ้ายังไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้ซักเท่าไหร่
01:19
don't kick yourself.
27
64000
2000
อย่าโทษตัวเองไปเลย
01:21
It's brand new.
28
66000
2000
เพราะมันใหม่มาก
01:23
And because fertility rates fell
29
68000
2000
และเพราะว่าอัตราการเกิดของเราต่ำลง
01:25
across that very same period
30
70000
2000
ในช่วงเวลาเดียวกันกับ
01:27
that life expectancy was going up,
31
72000
4000
ที่อายุขัยของเราสูงขึ้น
01:31
that pyramid
32
76000
2000
รูปพีรามิด
01:33
that has always represented the distribution of age in the population,
33
78000
3000
ที่แสดงถึงการกระจายตัวของกลุ่มอายุต่างๆ ในประชากร
01:36
with many young ones at the bottom
34
81000
3000
ที่มีพวกเด็กๆ อยู่ที่ฐาน
01:39
winnowed to a tiny peak of older people
35
84000
3000
ไล่ขึ้นไปจนถึงยอดแหลมๆ ที่แทนด้วยผู้สูงอายุ
01:42
who make it and survive to old age
36
87000
2000
ที่อยู่ไปได้จนแก่เฒ่านั้น
01:44
is being reshaped
37
89000
2000
กำลังที่จะถูกเปลี่ยนแปลง
01:46
into a rectangle.
38
91000
3000
ไปเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า
01:49
And now, if you're the kind of person
39
94000
2000
และตอนนี้ ถ้าคุณประเภทที่
01:51
who can get chills from population statistics,
40
96000
4000
จะขนลุกกับสถิติของประชากร
01:55
these are the ones that should do it.
41
100000
2000
เรื่องนี้มันจะทำให้คุณรู้สึกอย่างนั้นได้แน่
01:57
Because what that means
42
102000
2000
เพราะนั่นมันหมายความว่า
01:59
is that for the first time in the history of the species,
43
104000
3000
นี่มันเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์
02:02
the majority of babies born
44
107000
2000
ทารกส่วนใหญ่ที่เกิด
02:04
in the Developed World
45
109000
2000
ในประเทศที่พัฒนาแล้ว
02:06
are having the opportunity
46
111000
3000
จะมีโอกาส
02:09
to grow old.
47
114000
2000
ที่จะได้แก่เฒ่า
02:11
How did this happen?
48
116000
3000
สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไรน่ะเหรอ?
02:14
Well we're no genetically hardier than our ancestors were
49
119000
2000
เราเองก็ไม่ได้มียีนส์ที่แข็งแรงกว่าบรรพบุรุษของเรา
02:16
10,000 years ago.
50
121000
2000
เมื่อ 10,000 ปีก่อน
02:18
This increase in life expectancy
51
123000
2000
อายุขัยที่เพิ่มขึ้นนี้
02:20
is the remarkable product of culture --
52
125000
3000
เป็นผลจากความน่าทึ่งทางวัฒนธรรม
02:23
the crucible
53
128000
2000
การหลอมรวมกัน
02:25
that holds science and technology
54
130000
2000
ของวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
02:27
and wide-scale changes in behavior
55
132000
3000
และการเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมในวงกว้าง
02:30
that improve health and well-being.
56
135000
3000
ที่ช่วยดูแลสุขภาพและการเป็นอยู่ให้ดีขึ้นได้
02:33
Through cultural changes,
57
138000
2000
ผ่านการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม
02:35
our ancestors
58
140000
2000
บรรพบุรุษของเรา
02:37
largely eliminated early death
59
142000
3000
จากที่ส่วนใหญ่จะเสียชีวิตในวัยเยาว์
02:40
so that people can now live out their full lives.
60
145000
3000
ตอนนี้พวกเราสามารถที่จะมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้นอย่างเต็มเปี่ยมได้
02:44
Now there are problems associated with aging --
61
149000
3000
เอาล่ะ ปัญหาบางอย่างมันก็มาพร้อมกับการสูงวัยขึ้น
02:47
diseases, poverty, loss of social status.
62
152000
3000
โรคเอย, ความยากจนเอย, การสูญเสียสถานะทางสังคมเอย
02:50
It's hardly time to rest on our laurels.
63
155000
2000
และมันก็ยากมากที่จะอยู่แค่กับความสำเร็จในอดีต
02:52
But the more we learn about aging,
64
157000
2000
แต่ยิ่งเราได้ศึกษาเกี่ยวกับการสูงวัยมากขึ้นเท่าไหร่
02:54
the clearer it becomes
65
159000
2000
มันก็ยิ่งเด่นชัดขึ้น
02:56
that a sweeping downward course
66
161000
2000
ว่าเส้นทางดิ่งลงเหวนี้
02:58
is grossly inaccurate.
67
163000
3000
ก็ไม่ได้ถูกต้องไปซะหมด
03:01
Aging brings some rather remarkable improvements --
68
166000
4000
การแก่ตัวลงได้นำสิ่งที่น่าเหลือเชื่อมากมายมาให้เรา
03:05
increased knowledge, expertise --
69
170000
3000
ความรู้ ความชำนาญ
03:08
and emotional aspects of life improve.
70
173000
6000
และการเติบโตขึ้นทางอารมณ์
03:14
That's right,
71
179000
2000
ถูกต้อง
03:16
older people are happy.
72
181000
3000
ผู้สูงอายุนั้นมีความสุข
03:19
They're happier than middle-aged people,
73
184000
2000
พวกเค้ามีความสุขมากกว่าพวกวัยกลางคน
03:21
and younger people certainly.
74
186000
2000
และพวกเด็กๆ มากนัก
03:23
Study after study
75
188000
2000
การศึกษานับไม่ถ้วน
03:25
is coming to the same conclusion.
76
190000
2000
ได้ข้อสรุปเดียวกัน
03:27
The CDC recently conducted a survey
77
192000
3000
กรมควบคุมโรคติดต่อ (CDC) ได้ทำการทดสอบอย่างหนึ่ง
03:30
where they asked respondents simply to tell them
78
195000
3000
พวกเขาถามผู้ถูกสำรวจ
03:33
whether they experienced significant psychological distress
79
198000
2000
ว่าพวกเค้าได้รับความเครียดทางจิตใจหรือไม่
03:35
in the previous week.
80
200000
2000
ในอาทิตย์ที่ผ่านมา
03:37
And fewer older people answered affirmatively to that question
81
202000
3000
เราพบว่ากลุ่มคนอายุมากที่ตอบว่ามี มีจำนวนน้อยกว่า
03:40
than middle-aged people,
82
205000
2000
กลุ่มตัวอย่างวัยกลางคน
03:42
and younger people as well.
83
207000
2000
และเด็ก
03:44
And a recent Gallup poll
84
209000
2000
การสำรวจโดยแกลลอป (Gallop)
03:46
asked participants
85
211000
2000
ได้ทำการทดสอบผู้ถูกสำรวจ
03:48
how much stress and worry and anger
86
213000
2000
ว่าพวกเค้าได้รับความเครียด ความกังวลใจ และความโกรธ
03:50
they had experienced the previous day.
87
215000
2000
มากเพียงใดเมื่อวาน
03:52
And stress, worry, anger
88
217000
4000
และพวกเขาพบว่าความเครียด ความกังวล และความโกรธ
03:56
all decrease with age.
89
221000
3000
ต่างลดลงเมื่อมีอายุมากขึ้น
04:00
Now social scientists call this the paradox of aging.
90
225000
3000
นักสังคมศาสตร์เรียกสิ่งนี้ว่า "ความผิดแผกของการสูงวัย" (Paradox of aging)
04:03
After all, aging is not a piece of cake.
91
228000
3000
เพราะยังไงก็ตาม การแก่ตัวลงนี่มันไม่ใช่เรื่องง่าย
04:06
So we've asked all sorts of questions
92
231000
2000
พวกเราได้ลองตั้งคำถามหลายๆ อย่าง
04:08
to see if we could undo this finding.
93
233000
4000
เพื่อดูว่าเราสามารถจะได้ข้อสรุปที่แตกต่างออกไปได้หรือไม่
04:12
We've asked whether it may be
94
237000
2000
พวกเราคิดว่าบางที
04:14
that the current generations of older people
95
239000
3000
ผู้สูงวัยในยุคนี้
04:17
are and always have been
96
242000
2000
อาจเป็น
04:19
the greatest generations.
97
244000
2000
ยุคของผู้สูงวัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดการณ์
04:21
That is that younger people today
98
246000
2000
และมันทำให้คนในกลุ่มที่อายุน้อยกว่า
04:23
may not typically experience these improvements
99
248000
3000
อาจไม่ได้ประสบกับความรู้สึกเหล่านี้
04:26
as they grow older.
100
251000
2000
เมื่อพวกเขาแก่ตัวลง
04:28
We've asked,
101
253000
2000
เราตั้งคำถามว่าบางที
04:30
well maybe older people are just trying to put a positive spin
102
255000
3000
ผู้สูงอายุอาจพยายามพูดในเชิงบวก
04:33
on an otherwise depressing existence.
103
258000
2000
ทั้งๆ ที่ความจริงอาจกำลังประสบกับความเครียดอยู่ก็ได้
04:35
(Laughter)
104
260000
2000
(เสียงหัวเราะ)
04:37
But the more we've tried to disavow this finding,
105
262000
3000
แต่ยิ่งเราหาข้อเท็จจริงมาโต้แย้งมากเท่าไหร่
04:40
the more evidence we find
106
265000
2000
เรากลับยิ่งได้หลักฐานที่มาสนับสนุน
04:42
to support it.
107
267000
2000
มันมากเท่านั้น
04:44
Years ago, my colleagues and I embarked on a study
108
269000
2000
หลายปีกว่า ฉันและเพื่อนร่วมงานได้ทำการศึกษา
04:46
where we followed the same group of people over a 10-year period.
109
271000
3000
ที่เราติดตามคนกลุ่มหนึ่งเป็นระยะเวลา 10 ปี
04:49
Originally the sample was aged 18 to 94.
110
274000
4000
โดยมีกลุ่มตัวอย่างตั้งต้นตั้งแต่ 18 ถึง 94 ปี
04:53
And we studied whether and how their emotional experiences changed
111
278000
3000
และเราศึกษาว่าความรู้สึกของพวกเค้าเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
04:56
as they grew older.
112
281000
2000
เมื่อพวกเค้าแก่ตัวขึ้น
04:58
Our participants would carry electronic pagers
113
283000
3000
ผู้ถูกสำรวจจะได้รับเครื่องเพจเจอร์
05:01
for a week at a time,
114
286000
2000
ครั้งละ 1 อาทิตย์
05:03
and we'd page them throughout the day and evenings at random times.
115
288000
3000
และเราจะสุ่มการติดต่อกับพวกเค้าทั้งตอนกลางวัน และกลางคืน
05:06
And every time we paged them
116
291000
2000
และทุกๆ ครั้งที่เราติดต่อไป
05:08
we'd ask them to answer several questions --
117
293000
2000
พวกเค้าจะถูกถามคำถามหลายๆ ข้อ
05:10
On a one to seven scale, how happy are you right now?
118
295000
3000
เช่นในระดับ 1 ถึง 7 คุณคิดว่าตอนนี้คุณมีความสุขมากแค่ไหน
05:13
How sad are you right now?
119
298000
2000
หรือตอนนี้คุณรู้สึกเศร้ามากเพียงใด
05:15
How frustrated are you right now? --
120
300000
2000
หรือตอนนี้คุณรู้สึกหงุดหงิดมากเท่าใด
05:17
so that we could get a sense
121
302000
2000
พวกเราจะได้รู้ว่า
05:19
of the kinds of emotions and feelings they were having
122
304000
2000
ตอนนี้พวกเค้ากำลังมีความรู้สึกอย่างไรบ้าง
05:21
in their day-to-day lives.
123
306000
2000
ในการใช้ชีวิตประจำวัน
05:23
And using this intense study
124
308000
2000
และเราทำการศึกษานี้
05:25
of individuals,
125
310000
2000
ในระดับบุคคล
05:27
we find that it's not one particular generation
126
312000
4000
และเราพบว่าไม่ได้มีแค่ยุคใดยุคหนึ่ง
05:31
that's doing better than the others,
127
316000
2000
ที่ทำได้ดีกว่ายุคอื่นๆ
05:33
but the same individuals over time
128
318000
3000
แต่เป็นคนเดิมๆ
05:36
come to report relatively greater
129
321000
2000
ที่รายงานถึงความรู้สึกทางบวก
05:38
positive experience.
130
323000
2000
ที่เพิ่มขึ้น
05:40
Now you see this slight downturn
131
325000
3000
ตอนนี้คุณจะเห็นเส้นโค้งพุ่งลงเล็กน้อย
05:43
at very advanced ages.
132
328000
2000
เมื่อมีอายุมากขึ้น
05:45
And there is a slight downturn.
133
330000
2000
และเจ้าเส้นโค้งลงนี่
05:47
But at no point does it return
134
332000
2000
มันจะไม่กลับมา
05:49
to the levels we see
135
334000
2000
อยู่ในระดับ
05:51
in early adulthood.
136
336000
2000
เดียวกับในช่วงต้นของวัยกลางคน
05:53
Now it's really too simplistic
137
338000
4000
เอาล่ะ มันดูง่ายเกินไป
05:57
to say that older people are "happy."
138
342000
4000
ที่จะบอกว่าผู้สูงอายุนั้นมีความสุข
06:01
In our study, they are more positive,
139
346000
3000
ในการศึกษาของเรา พวกเค้ามีความคิดทางบวกมากขึ้น
06:04
but they're also more likely than younger people
140
349000
2000
แต่พวกเค้าก็มีสิทธิ์มากกว่า
06:06
to experience mixed emotions --
141
351000
3000
ที่จะรู้สึกถึงความรู้สึกที่ปนเปกัน
06:09
sadness at the same time you experience happiness;
142
354000
2000
บางทีก็รู้สึกเศร้า ไปพร้อมๆ กับมีที่ความสุข
06:11
you know, that tear in the eye
143
356000
2000
แบบน้ำตามคลอเบ้า
06:13
when you're smiling at a friend.
144
358000
3000
เวลาที่คุณยิ้มให้เพื่อนอะไรอย่างนั้นแหละ
06:16
And other research has shown
145
361000
2000
และการศึกษาอื่นพบว่า
06:18
that older people seem to engage with sadness
146
363000
2000
ผู้สูงอายุดูจะมีวิธีรับมือกับความเศร้า
06:20
more comfortably.
147
365000
2000
ได้ดีกว่า
06:22
They're more accepting of sadness than younger people are.
148
367000
3000
พวกเขายอมรับในความเศร้าได้มากกว่าคนที่อายุยังน้อย
06:25
And we suspect that this may help to explain
149
370000
3000
และเราคาดว่ามันน่าจะช่วยอธิบาย
06:28
why older people are better than younger people
150
373000
3000
ว่าทำไมผู้สูงอายุถึงเก่ง
06:31
at solving hotly-charged emotional conflicts and debates.
151
376000
5000
ในการแก้ปัญหาเกี่ยวข้องกับความรู้สึกที่รุนแรงได้มากกว่าคนอายุน้อย
06:36
Older people can view injustice
152
381000
3000
ผู้สูงอายุสามารถมองความอยุติธรรม
06:39
with compassion,
153
384000
2000
ด้วยความเห็นอกเห็นใจ
06:41
but not despair.
154
386000
3000
ไม่ใช่ด้วยความโศกเศร้า
06:44
And all things being equal,
155
389000
2000
และสามารถมองเห็นทุกอย่างเท่าเทียมกัน
06:46
older people direct their cognitive resources,
156
391000
2000
ผู้สูงอายุสามารถตั้งสมาธิ
06:48
like attention and memory,
157
393000
2000
เช่นความสนใจ และความจำ
06:50
to positive information more than negative.
158
395000
3000
ไปยังข้อมูลด้านบวกได้มากกว่าด้านลบ
06:53
If we show older, middle-aged, younger people images,
159
398000
3000
ถ้าเราให้คนในช่วงวัยต่างๆ กันดูรูป
06:56
like the ones you see on the screen,
160
401000
3000
อย่างภาพที่คุณเห็นในจอตอนนี้
06:59
and we later ask them
161
404000
2000
และเราถามพวกเขาในภายหลัง
07:01
to recall all the images that they can,
162
406000
3000
ว่าพวกเขาจำอะไรได้บ้างจากภาพเหล่านั้น
07:04
older people, but not younger people,
163
409000
3000
ผู้สูงอายุ
07:07
remember more positive images
164
412000
2000
จะจำภาพในทางบวกได้มากกว่า
07:09
than negative images.
165
414000
2000
ภาพในทางลบ เมื่อเทียบกับคนอายุน้อย
07:11
We've asked older and younger people
166
416000
2000
เราให้คนในช่วงวัยต่างกัน
07:13
to view faces in laboratory studies,
167
418000
2000
ดูภาพในการทดลองของเรา
07:15
some frowning, some smiling.
168
420000
2000
บ้างก็หน้าบึ้ง บ้างก็ยิ้ม
07:17
Older people look toward the smiling faces
169
422000
3000
ผู้สูงอายุจะหันมองภาพหน้ายิ้ม
07:20
and away from the frowning, angry faces.
170
425000
3000
และหันหนีจากภาพหน้าบึ้งตึง หรือหน้าโกรธ
07:23
In day-to-day life,
171
428000
2000
ในชีวิตประจำวัน
07:25
this translates into greater enjoyment
172
430000
2000
นี่มันสามารถแปลงเป็นความรู้สึกสนุก
07:27
and satisfaction.
173
432000
2000
และความพึงพอใจที่มากกว่า
07:31
But as social scientists, we continue to ask
174
436000
2000
แต่ในฐานะของนักสังคมศาสตร์ เราได้ถามต่อไป
07:33
about possible alternatives.
175
438000
2000
เกี่ยวกับการทางเลือกอื่นๆ
07:35
We've said, well maybe older people
176
440000
2000
เราพุดว่าบางทีผู้สูงอายุ
07:37
report more positive emotions
177
442000
2000
รายงานถึงความรู้สึกในด้านบวกมากกว่า
07:39
because they're cognitively impaired.
178
444000
3000
เพราะพวกเขามีความผิดปกติทางการรับรู้ทางสมอง
07:42
(Laughter)
179
447000
3000
(เสียงหัวเราะ)
07:45
We've said, could it be
180
450000
2000
มันเป็นไปได้หรือเปล่า
07:47
that positive emotions are simply easier to process than negative emotions,
181
452000
3000
ว่าความรู้สึกทางบวกจะทำงานได้ง่ายกว่าในสมอง
07:50
and so you switch to the positive emotions?
182
455000
3000
คุณก็เลยรับความรู้สึกทางบวกมากกว่า
07:53
Maybe our neural centers in our brain
183
458000
2000
บางทีจุดศูนย์รวมประสาทในสมองของเรา
07:55
are degraded such
184
460000
2000
ได้ถดถอยขนาดที่ว่า
07:57
that we're unable to process negative emotions anymore.
185
462000
3000
เราไม่สามารถที่จะประมวลผลความรู้สึกทางลบได้อีกแล้ว
08:00
But that's not the case.
186
465000
2000
แต่นั่นก็ยังไม่ใช่
08:02
The most mentally sharp older adults
187
467000
3000
ผู้สูงอายุที่มีสติปัญญาเฉียบแหลมที่สุด
08:05
are the ones who show this positivity effect the most.
188
470000
4000
กลับเป็นคนที่เห็นความรู้สึกด้านบวกได้ดีที่สุดด้วย
08:09
And under conditions where it really matters,
189
474000
3000
และภายใต้เงื่อนไขที่จำเป็น
08:12
older people do process the negative information
190
477000
2000
ผู้สูงอายุก็สามารถที่จะรับข้อมูลทางด้านลบ
08:14
just as well as the positive information.
191
479000
3000
ได้ดีพอๆ กับที่รับข้อมูลด้านบวก
08:17
So how can this be?
192
482000
3000
แล้วมันเป็นไปได้อย่างไร
08:20
Well in our research,
193
485000
2000
ในการวิจัยของเรา
08:22
we've found that these changes
194
487000
2000
เราพบว่าความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้
08:24
are grounded fundamentally
195
489000
2000
ได้ถูกกักเก็บอยู่ใน
08:26
in the uniquely human ability to monitor time --
196
491000
3000
ความสามารถในการรับรู้เวลาของมนุษย์
08:29
not just clock time and calendar time,
197
494000
2000
ไม่ใช่เพียงแค่เวลาจากนาฬิกาหรือปฏิทิน
08:31
but lifetime.
198
496000
3000
แต่เป็นช่วงเวลาของการมีชีวิตอยู่
08:34
And if there's a paradox of aging,
199
499000
2000
และถ้ามันมี ความผิดแผกของการสูงวัย
08:36
it's that recognizing that we won't live forever
200
501000
3000
มันคือการได้รู้ว่าเราไม่สามารถอยู่ได้ตลอดกาล
08:39
changes our perspective on life
201
504000
2000
มันเปลี่ยนมุมมองต่อชีวิตของเรา
08:41
in positive ways.
202
506000
3000
ไปในทางบวก
08:44
When time horizons are long and nebulous,
203
509000
3000
เมื่อช่วงเวลาของชีวิตยังคงยืดยาวและดูเหมือนจะไม่มีวันจบ
08:47
as they typically are in youth,
204
512000
2000
อย่างที่เป็นในช่วงวัยเยาว์
08:49
people are constantly preparing,
205
514000
3000
ผู้คนจะพยายามเตรียมพร้อม
08:52
trying to soak up all the information they possibly can,
206
517000
3000
และพยายามรับรู้ข้อมูลให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้
08:55
taking risks, exploring.
207
520000
2000
ทั้งการลองเสี่ยง ทั้งการสำรวจ
08:57
We might spend time with people we don't even like
208
522000
3000
เราอาจใช้เวลาไปกับคนที่เราไม่ชอบ
09:00
because it's somehow interesting.
209
525000
3000
เพราะบางทีมันก็ดูน่าสนใจ
09:03
We might learn something unexpected.
210
528000
2000
เราอาจได้เรียนรู้บางอย่างที่ไม่คาดคิด
09:05
(Laughter)
211
530000
2000
(เสียงหัวเราะ)
09:07
We go on blind dates.
212
532000
2000
เราไปนัดบอด
09:09
(Laughter)
213
534000
2000
(เสียงหัวเราะ)
09:11
You know, after all,
214
536000
2000
เรารู้ว่า
09:13
if it doesn't work out, there's always tomorrow.
215
538000
3000
ถ้ามันไม่ได้ผล เราก็ยังมีพรุ่งนี้อยู่
09:16
People over 50
216
541000
2000
คนอายุเกิน 50
09:18
don't go on blind dates.
217
543000
3000
ไม่ชอบการนัดบอด
09:21
(Laughter)
218
546000
5000
(เสียงหัวเราะ)
09:26
As we age,
219
551000
2000
เมื่อเราแก่ตัวลง
09:28
our time horizons grow shorter
220
553000
2000
ช่วงเวลาของเราก็ยิ่งสั้นลง
09:30
and our goals change.
221
555000
3000
เป้าหมายของเราก็เปลี่ยนไป
09:33
When we recognize that we don't have all the time in the world,
222
558000
3000
เมื่อได้รู้ว่าเราไม่มีเวลาไปตลอดกาล
09:36
we see our priorities most clearly.
223
561000
2000
เราเห็นความสำคัญของสิ่งต่างๆ ชัดเจนขึ้น
09:38
We take less notice of trivial matters.
224
563000
3000
เราให้ความสำคัญกับสิ่งเล็กๆ น้อยลง
09:41
We savor life.
225
566000
2000
เราเทิดทูนชีวิต
09:43
We're more appreciative,
226
568000
2000
เราเห็นคุณค่าของชีวิต
09:45
more open to reconciliation.
227
570000
3000
และเปิดกว้างต่อการให้อภัยมากขึ้น
09:48
We invest in more emotionally important parts of life,
228
573000
3000
เราใช้เวลากับส่วนที่สำคัญต่อความรู้สึกมากขึ้น
09:51
and life gets better,
229
576000
3000
ชีวิตก็เลยดียิ่งขึ้น
09:54
so we're happier day-to-day.
230
579000
3000
เรามีความสุขมากขึ้นในทุกๆ วัน
09:57
But that same shift in perspective
231
582000
2000
แต่มุมมองที่เปลี่ยนแปลงไปนั้น
09:59
leads us to have less tolerance than ever
232
584000
3000
ยังทำให้เรามีความอดทนต่อความอยุติธรรม
10:02
for injustice.
233
587000
2000
ลดลงด้วย
10:04
By 2015,
234
589000
2000
ภายในปี 2015
10:06
there will be more people in the United States
235
591000
3000
สหรัฐฯ จะมีคนที่อายุ
10:09
over the age of 60
236
594000
2000
มากกว่า 60 ปี
10:11
than under 15.
237
596000
3000
จำนวนมากกว่าเด็กต่ำกว่า 15
10:14
What will happen to societies
238
599000
2000
อะไรจะเกิดขึ้นกับสังคม
10:16
that are top-heavy with older people?
239
601000
3000
ที่เต็มไปด้วยผู้สูงอายุ
10:19
The numbers won't determine
240
604000
3000
ตัวเลขไม่สามารถบอก
10:22
the outcome.
241
607000
2000
ผลลัพธ์ได้
10:24
Culture will.
242
609000
3000
วัฒนธรรมต่างหากทำได้
10:27
If we invest in science and technology
243
612000
3000
ถ้าเราลงทุนกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
10:30
and find solutions for the real problems
244
615000
2000
และหาทางแก้ไขของปัญหาที่แท้จริง
10:32
that older people face
245
617000
3000
ที่ผู้สูงอายุเผชิญ
10:35
and we capitalize
246
620000
2000
และเราใช้ประโยชน์
10:37
on the very real strengths
247
622000
2000
จากส่วนที่แข็งแกร่งของ
10:39
of older people,
248
624000
2000
ของผู้สูงอายุ
10:41
then added years of life
249
626000
2000
การเพิ่มอายุขัย
10:43
can dramatically improve quality of life
250
628000
3000
สามารถเพิ่มคุณภาพชีวิต
10:46
at all ages.
251
631000
2000
ในทุกๆ ช่วงวัยได้
10:48
Societies with millions
252
633000
3000
สังคมที่เต็มไปด้วย
10:51
of talented, emotionally stable citizens
253
636000
2000
คนที่มีพรสวรรค์ และประชาชนทั่วๆ ไปนับล้านๆ
10:53
who are healthier and better educated
254
638000
3000
ที่แข็งแรงและมีการศึกษา
10:56
than any generations before them,
255
641000
2000
กว่าทุกๆ ยุคสมัยก่อนหน้า
10:58
armed with knowledge
256
643000
2000
ใช้ความรู้เป็นอาวุธ
11:00
about the practical matters of life
257
645000
2000
เพื่อแก้ปัญหาที่แท้จริงในชีวิต
11:02
and motivated
258
647000
2000
และมีแรงบันดาลใจ
11:04
to solve the big issues
259
649000
2000
ในการแก้ไขปัญหาใหญ่ๆ
11:06
can be better societies
260
651000
3000
สังคมก็จะดีขึ้นได้
11:09
than we have ever known.
261
654000
4000
กว่าที่เราเคยรู้จัก
11:13
My father, who is 92,
262
658000
3000
พ่อของฉัน อายุ 92
11:16
likes to say,
263
661000
2000
ชอบพูดว่า
11:18
"Let's stop talking only about
264
663000
2000
"เรามาหยุดพูดว่า
11:20
how to save the old folks
265
665000
2000
เราจะช่วยผู้สูงอายุได้อย่างไร
11:22
and start talking about
266
667000
2000
และมาเริ่มพูดว่า
11:24
how to get them to save us all."
267
669000
4000
จะให้พวกเขามาช่วยเราอย่างไร"
11:28
Thank you.
268
673000
2000
ขอบคุณค่ะ
11:30
(Applause)
269
675000
2000
(เสียงปรบมือ)
ABOUT THE SPEAKER
Laura Carstensen - PsychologistLaura Carstensen is the director of the Stanford Center on Longevity, and has extensively studied the effects on wellbeing of extended lifetimes.
Why you should listen
Dr. Carstensen is Professor of Psychology and Public Policy at Stanford University, where she is the founding director of the Stanford Center on Longevity, which explores innovative ways to solve the problems of people over 50 and improve the well-being of people of all ages. She is best known in academia for socioemotional selectivity theory, a life-span theory of motivation. She is also the author of A Long Bright Future: An Action Plan for a Lifetime of Happiness, Health, and Financial Security — an updated edition will be released in 2011.
Laura Carstensen | Speaker | TED.com