TEDSalon NY2013
Bruce Feiler: Agile programming -- for your family
บรูซ เฟเลอร์ (Bruce Feiler): การพัฒนาแบบอไจล์ สำหรับครอบครัวของคุณ
Filmed:
Readability: 3.7
1,650,791 views
บรูซ เฟเลอร์มีไอเดียแหวกแนว เพื่อรับมือกับความเครียดในครอบครัวสมัยใหม่ ใช้อไจล์ ได้แรงบันดาลใจจากการพัฒนาซอฟต์แวร์ เฟเลอร์แนะนำเทคนิคในครอบครัวที่ส่งเสริมความยืดหยุ่น เปิดรับไอเดียรอบด้าน และการให้คำติชมและความรับผิดชอบสม่ำเสมอ แถมเซอร์ไพรส์ เด็กๆ เลือกการลงโทษได้เองด้วย
Bruce Feiler - Writer
Bruce Feiler is the author of "The Secrets of Happy Families," and the writer/presenter of the PBS miniseries "Walking the Bible." Full bio
Bruce Feiler is the author of "The Secrets of Happy Families," and the writer/presenter of the PBS miniseries "Walking the Bible." Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:16
So here's the good news about families.
0
732
2887
ข่าวดีเกี่ยวกับเรื่องครอบครัวก็คือ
00:19
The last 50 years have seen a revolution
1
3619
2249
ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก
00:21
in what it means to be a family.
2
5868
2056
ในความหมายของครอบครัว ใน 50 ปีที่ผ่านมา
00:23
We have blended families, adopted families,
3
7924
2295
เรามีครอบครัวผสม ครอบครัวบุญธรรม
00:26
we have nuclear families living in separate houses
4
10219
2305
เรามีครอบครัวเดี่ยวที่แยกกันอยู่คนละบ้าน
00:28
and divorced families living in the same house.
5
12524
2879
และก็มีครอบครัวที่หย่าร้างกันแล้ว
แต่อยู่รวมกันในบ้านเดียว
แต่อยู่รวมกันในบ้านเดียว
00:31
But through it all, the family has grown stronger.
6
15403
3059
แต่โดยรวมๆ แล้ว สถาบันครอบครัวเข้มแข็งมากขึ้น
00:34
Eight in 10 say the family they have today
7
18462
2549
คน 8 ใน 10 คนบอกว่า ครอบครัวที่มีในวันนี้
00:36
is as strong or stronger than the family they grew up in.
8
21011
4537
มีความเข้มแข็งเท่ากัน หรือมากกว่าครอบครัวที่เขาเติบโตมา
ทีนี้ก็มาถึงข่าวร้ายบ้าง
00:41
Now, here's the bad news.
9
25548
1984
แทบทุกคนต่างก็เผชิญปัญหามากมาย เกินรับไหว
00:43
Nearly everyone is completely overwhelmed
10
27532
2398
00:45
by the chaos of family life.
11
29930
2311
กับความวุ่นวายยุ่งเหยิงในชีวิตครอบครัว
00:48
Every parent I know, myself included,
12
32241
2058
ผู้ปกครองทุกคนที่ผมรู้จัก รวมถึงตัวผมเองด้วย
00:50
feels like we're constantly playing defense.
13
34299
2596
รู้สึกว่าเราต้องเล่นเกมรับอยู่ตลอดเวลา
00:52
Just when our kids stop teething, they start having tantrums.
14
36895
3053
พอลูกๆ หมดปัญหาเรื่องฟัน ก็เริ่มมีปัญหาเรื่องเจ้าอารมณ์
00:55
Just when they stop needing our help taking a bath,
15
39948
2040
พอเด็กๆ พอจะช่วยตัวเองได้แล้วเรื่องการอาบน้ำ
ก็จะเริ่มต้องการความช่วยเหลือเรื่องการถูกรังแกทางเน็ต
00:57
they need our help dealing with cyberstalking or bullying.
16
41988
3200
และข่าวร้ายที่สุดก็คือ
01:01
And here's the worst news of all.
17
45188
2690
ลูกๆ ของพวกเราก็รับรู้ได้ว่า เราเริ่มคุมเกมไม่อยู่แล้ว
01:03
Our children sense we're out of control.
18
47878
2926
เอลเลน กาลินสกี้ แห่งสถาบันครอบครัวและอาชีพ
01:06
Ellen Galinsky of the Families and Work Institute
19
50804
3065
ได้สำรวจเด็กๆ 1,000 คน โดยถามว่า
"ถ้าหนูมีพรวิเศษ
"ถ้าหนูมีพรวิเศษ
01:09
asked 1,000 children, "If you were granted
20
53869
2279
01:12
one wish about your parents, what would it be?"
21
56148
3433
ขอได้หนึ่งอย่างเกี่ยวกับพ่อแม่ หนูจะขออะไร?"
01:15
The parents predicted the kids would say,
22
59581
2318
พวกผู้ใหญ่ก็คาดเดากันว่า เด็กๆ น่าจะขอ
01:17
spending more time with them.
23
61899
2866
ให้ผู้ใหญ่ใช้เวลากับพวกเขามากขึ้น
01:20
They were wrong. The kids' number one wish?
24
64765
2845
ผิดครับ ความปรารถนาอันดับแรกของเด็กๆ ก็คือ
01:23
That their parents be less tired and less stressed.
25
67610
4346
ขอให้พ่อแม่ของพวกเขา เหนื่อยและเครียดน้อยกว่านี้
01:27
So how can we change this dynamic?
26
71956
2101
แล้วเราจะเปลี่ยนสถานการณ์นี้ได้อย่างไร?
01:29
Are there concrete things we can do to reduce stress,
27
74057
3218
มีวิธีไหนที่ได้ผลบ้างไหม ที่เราจะลดความเครียด
นำพาให้ครอบครัวใกล้ชิดกันมากขึ้น
01:33
draw our family closer,
28
77275
1866
และยังช่วยเตรียมความพร้อมให้ลูกๆ ของเราที่จะเผชิญโลกต่อไป
01:35
and generally prepare our children to enter the world?
29
79141
4856
01:39
I spent the last few years trying to answer that question,
30
83997
3196
ผมใช้เวลาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พยายามหาคำตอบ
01:43
traveling around, meeting families, talking to scholars,
31
87193
3025
เดินทางพบปะหลากหลายครอบครัว
พูดคุยกับนักวิชาการ
พูดคุยกับนักวิชาการ
01:46
experts ranging from elite peace negotiators
32
90218
3058
ผู้เชี่ยวชาญหลายสาขาตั้งแต่ ผู้แทนเจรจาสันติภาพ
01:49
to Warren Buffett's bankers to the Green Berets.
33
93276
4047
ไปจนถึงนักธนาคารของวอเร็น บัฟเฟต
รวมไปถึงพวกกรีนแบร์เร่
รวมไปถึงพวกกรีนแบร์เร่
ผมพยายามที่จะค้นหาว่า ครอบครัวที่มีความสุข
ทำกันได้อย่างไร
ทำกันได้อย่างไร
01:53
I was trying to figure out, what do happy families do right
34
97323
3366
01:56
and what can I learn from them to make my family happier?
35
100689
4986
และผมสามารถเรียนรู้อะไรบ้าง
เพื่อทำให้ครอบครัวมีความสุขมากขึ้น
เพื่อทำให้ครอบครัวมีความสุขมากขึ้น
ผมอยากเล่าให้ฟังถึงครอบครัวหนึ่งที่ผมพบ
02:01
I want to tell you about one family that I met,
36
105675
1865
02:03
and why I think they offer clues.
37
107540
2624
และทำไมผมถึงคิดว่า พวกเขาชี้ทางสว่างให้ได้
02:06
At 7 p.m. on a Sunday in Hidden Springs, Idaho,
38
110164
2987
ในเมืองฮิดเดนสปริงส์ รัฐไอดาโฮ หนึ่งทุ่มวันอาทิตย์
02:09
where the six members of the Starr family are sitting down
39
113151
2308
สมาชิกทั้งหกคนของครอบครัวสตารร์ นั่งลงพร้อมกัน
02:11
to the highlight of their week: the family meeting.
40
115459
3238
เข้าสู่ช่วงสำคัญของสัปดาห์ คือการประชุมครอบครัว
02:14
The Starrs are a regular American family
41
118697
2225
ครอบครัวสตารร์เป็นครอบครัวอเมริกันธรรมดา
02:16
with their share of regular American family problems.
42
120922
2751
และก็มีปัญหาเหมือนๆ กับครอบครัวอเมริกันอื่นๆ
เดวิดเป็นวิศวกรซอฟต์แวร์ ส่วนเอเลนอร์ก็ดูแล
02:19
David is a software engineer. Eleanor takes care
43
123673
2792
ลูกๆ ทั้งสี่คน อายุตั้งแต่ 10 ถึง 15 ขวบ
02:22
of their four children, ages 10 to 15.
44
126465
2792
02:25
One of those kids tutors math on the far side of town.
45
129257
3024
เด็กคนหนึ่งต้องกวดวิชาเลข ที่ฝั่งตรงข้ามของเมือง
02:28
One has lacrosse on the near side of town.
46
132281
2505
อีกคนหนึ่งต้องซ้อมกีฬาลาครอสที่อีกด้านของเมือง
คนหนึ่งมีอาการแอสเพอร์เกอร์ซินโดรม และมีคนหนึ่งเป็นโรคสมาธิสั้น
02:30
One has Asperger syndrome. One has ADHD.
47
134786
3511
02:34
"We were living in complete chaos," Eleanor said.
48
138297
3328
เอเลนอร์บอกว่า "เราเคยมีชีวิตอยู่อย่างวุ่นวายโกลาหล"
สิ่งที่ครอบครัวสตาร์ทำต่อจากนั้น เป็นเรื่องน่าแปลกใจ
02:37
What the Starrs did next, though, was surprising.
49
141625
3344
แทนที่จะขอคำปรึกษาจากเพื่อนหรือญาติ
02:40
Instead of turning to friends or relatives,
50
144969
2768
02:43
they looked to David's workplace.
51
147737
2712
พวกเขากลับมองไปที่ที่ทำงานของเดวิด
02:46
They turned to a cutting-edge program called agile development
52
150449
2778
แล้วหันไปใช้วิธีการพัฒนาซอฟต์แวร์แบบใหม่ เรียกว่า อไจล์
02:49
that was just spreading from manufacturers in Japan
53
153227
3070
วิธีการนี้เริ่มมาจากกลุ่มผู้ผลิตในญี่ปุ่น
แพร่หลายมาสู่เหล่าบริษัทหน้าใหม่ในซิลิคอนวัลเลย์
02:52
to startups in Silicon Valley.
54
156297
2976
การทำงานแบบอไจล์ สมาชิกจะแบ่งเป็นกลุ่มย่อยๆ
02:55
In agile, workers are organized into small groups
55
159273
2868
02:58
and do things in very short spans of time.
56
162141
2686
และทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยเวลาที่สั้นมากๆ
ดังนั้นแทนที่จะต้องมีการสั่งการจากผู้บริหารมาเป็นทางการ
03:00
So instead of having executives issue grand proclamations,
57
164827
2942
แต่จะทีมต่างก็บริหารงานกันเอง
03:03
the team in effect manages itself.
58
167769
3200
มีการให้คำติชมกันเป็นประจำ มีการรายงานความคืบหน้าทุกวัน
03:06
You have constant feedback. You have daily update sessions.
59
170969
2631
มีการทบทวนประจำสัปดาห์ มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
03:09
You have weekly reviews. You're constantly changing.
60
173600
3617
เดวิดเล่าว่า เมื่อนำระบบแบบนี้มาใช้ในบ้าน
03:13
David said when they brought this system into their home,
61
177217
3200
เกิดการสื่อสารกันมากขึ้น โดยเฉพาะในการประชุมครอบครัว
03:16
the family meetings in particular increased communication,
62
180417
3416
03:19
decreased stress, and made everybody
63
183833
2376
ความเครียดลดลง และทำให้ทุกคน
03:22
happier to be part of the family team.
64
186209
3104
มีความสุขมากขึ้น กับการเป็นส่วนหนึ่งของทีมครอบครัว
03:25
When my wife and I adopted these family meetings and other techniques
65
189313
2983
เมื่อผมและภรรยา เริ่มนำการประชุมครอบครัวและเทคนิคอื่นๆ
03:28
into the lives of our then-five-year-old twin daughters,
66
192296
3513
มาลองใช้กับชีวิตเรา ที่มีลูกสาวฝาแฝดอายุตอนนั้น 5 ขวบ
03:31
it was the biggest single change we made since our daughters were born.
67
195809
4064
มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่ลูกสาวของพวกเราเกิดมา
03:35
And these meetings had this effect
68
199873
2189
และการประชุมเหล่านั้นก็สร้างผลกระทบเป็นอย่างมาก
03:37
while taking under 20 minutes.
69
202062
2499
ทั้งๆ ที่มันใช้เวลาแต่ละครั้งแค่ 20 นาทีเท่านั้น
03:40
So what is Agile, and why can it help
70
204561
2152
อไจล์คืออะไร แล้วมันจะมาช่วยอะไร
03:42
with something that seems so different, like families?
71
206713
2728
กับบางอย่างที่แตกต่างไปอย่างชีวิตครอบครัวได้
03:45
In 1983, Jeff Sutherland was a technologist
72
209441
2349
ในปี 1983 เจฟฟ์ ซัสเตอแลนด์ เป็นนักเทคโนโลยี
03:47
at a financial firm in New England.
73
211790
2317
ในบริษัทการเงินแห่งหนึ่งในนิวอิงแลนด์
03:50
He was very frustrated with how software got designed.
74
214107
3018
เขาหงุดหงิดเป็นอย่างมากกับวิธีการออกแบบซอฟต์แวร์
ตอนนี้บริษัทต่างใช้วิธีการแบบน้ำตก
03:53
Companies followed the waterfall method, right,
75
217125
2752
03:55
in which executives issued orders that slowly trickled down
76
219877
3058
ซึ่งผู้บริการออกคำสั่งที่จะถูกส่งผ่านลงมาเป็นขั้นๆ
03:58
to programmers below,
77
222935
1619
ไหลมาอย่างช้าๆ สู่เหล่าโปรแกรมเมอร์ด้านล่าง
04:00
and no one had ever consulted the programmers.
78
224554
2648
และไม่เคยมีใครได้ปรึกษาเหล่าโปรแกรมเมอร์เลย
04:03
Eighty-three percent of projects failed.
79
227202
2579
โครงการต่างๆ ล้มเหลวถึง 83 เปอร์เซ็นต์
04:05
They were too bloated or too out of date
80
229781
2397
ผลลัพธ์ที่ได้เทอะทะ และล้าสมัย
04:08
by the time they were done.
81
232178
2682
ไปในทันทีที่พัฒนาเสร็จ
ซัตเตอแลนด์ต้องการสร้างระบบที่
04:10
Sutherland wanted to create a system where
82
234860
2444
ไอเดียต่างๆ ไม่ได้เพียงมาจากเบื้องบน แต่สามารถมาจากด้านล่างได้ด้วย
04:13
ideas didn't just percolate down but could percolate up from the bottom
83
237304
4178
และสามารถปรับเปลี่ยนได้ในทันทีทันใด
04:17
and be adjusted in real time.
84
241482
2545
เขาอ่านบทความต่างๆ ในฮาร์วาร์ดบิสิเนสรีวิวย้อนหลังไป 30 ปี
04:19
He read 30 years of Harvard Business Review
85
244027
3063
04:22
before stumbling upon an article in 1986
86
247090
2792
ก่อนจะสะดุดใจเข้ากับบทความหนึ่งในปี 1986
ชื่อ "วิธีการใหม่ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่"
04:25
called "The New New Product Development Game."
87
249882
3079
บทความกล่าวถึงสภาพธุรกิจที่เร่งเร็วขึ้น
04:28
It said that the pace of business was quickening --
88
252961
2251
นั่นเป็นเรื่องที่พูดกันเมื่อปี 1986 --
04:31
and by the way, this was in 1986 --
89
255212
2129
และบริษัทที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด มีความยืดหยุ่นสูง
04:33
and the most successful companies were flexible.
90
257341
3965
04:37
It highlighted Toyota and Canon
91
261306
1784
มีการอ้างถึงโตโยต้าและแคนอน
04:38
and likened their adaptable, tight-knit teams to rugby scrums.
92
263090
4304
และเปรียบลักษณะทีมงานที่คล่องตัวเหมือนกับทีมสกรัมรักบี้
ซัสเตอแลนด์บอกผมว่า พอเราเจอบทความนั่น
04:43
As Sutherland told me, we got to that article,
93
267394
2365
เรารู้ว่า "นี่แหละ ใช่เลย"
04:45
and said, "That's it."
94
269759
2165
ในระบบของซัสเตอแลนด์ บริษัทต่างๆ จะไม่ใช้
04:47
In Sutherland's system, companies don't use
95
271924
2717
04:50
large, massive projects that take two years.
96
274641
3001
การทำโครงการขนาดใหญ่ ที่ต้องใช้เวลาถึงสองปี
04:53
They do things in small chunks.
97
277642
1228
พวกเขาทำสิ่งต่างๆ เป็นงานย่อยๆ
04:54
Nothing takes longer than two weeks.
98
278870
2449
ไม่มีงานไหนที่ใช้เวลานานกว่าสองสัปดาห์
04:57
So instead of saying, "You guys go off into that bunker
99
281319
2066
แทนที่จะบอกว่า "เอาละ คุณไปกักตัวซุ่มพัฒนางานมา
04:59
and come back with a cell phone or a social network,"
100
283385
3001
แล้วกลับมาพร้อมกับโทรศัพท์หรือเครือข่ายสังคมที่เสร็จสมบูรณ์"
เรากลับบอกว่า "ไปพัฒนามาแค่ส่วนเดียวก่อน"
05:02
you say, "You go off and come up with one element,
101
286386
2432
05:04
then bring it back. Let's talk about it. Let's adapt."
102
288818
2520
แล้วเอากลับมาคุยกัน เราจะปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์
05:07
You succeed or fail quickly.
103
291338
3608
คุณจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวอย่างรวดเร็ว
มาถึงวันนี้ แนวทางอไจล์ถูกใช้ในกว่าร้อยประเทศ
05:10
Today, agile is used in a hundred countries,
104
294946
3168
05:14
and it's sweeping into management suites.
105
298114
2938
และเริ่มแพร่หลายเข้าไปสู่กลุ่มผู้บริหารระดับสูง
ผู้คนต่างก็เริ่มใช้เทคนิคเหล่านี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
05:16
Inevitably, people began taking some of these techniques
106
301052
2510
05:19
and applying it to their families.
107
303562
2275
และนำมาประยุกต์ใช้ในครอบครัว
05:21
You had blogs pop up, and some manuals were written.
108
305837
2573
มีการเขียนบล็อก มีการเขียนคู่มือ
ครอบครัวซัสเตอแลนด์ถึงกับมีการ
05:24
Even the Sutherlands told me that they had
109
308410
1896
จัดเทศกาลขอบคุณพระเจ้าด้วยเทคนิคอไจล์
05:26
an Agile Thanksgiving,
110
310306
1510
05:27
where you had one group of people working on the food,
111
311816
2511
โดยมีกลุ่มหนึ่งรับผิดชอบเรื่องอาหาร
กลุ่มหนึ่งจัดโต๊ะ และอีกพวกคอยต้อนรับแขกหน้าบ้าน
05:30
one setting the table, and one greeting visitors at the door.
112
314327
3331
ซัสเตอแลนด์เล่าว่า มันเป็นวันขอบคุณพระเจ้าที่ดีที่สุด
05:33
Sutherland said it was the best Thanksgiving ever.
113
317658
3520
05:37
So let's take one problem that families face,
114
321178
2680
เอาละ ลองมาดูปัญหาหนึ่งที่หลายครอบครัวมักเจอ
05:39
crazy mornings, and talk about how agile can help.
115
323858
3017
คือความโกลาหลในยามเช้า และดูซิว่าอไจล์จะช่วยได้อย่างไร
05:42
A key plank is accountability,
116
326875
2166
พื้นฐานสำคัญคือความรับผิดชอบ
05:44
so teams use information radiators,
117
329041
1799
แต่ละทีมต่างก็ใช้บอร์ดแสดงข้อมูล
05:46
these large boards in which everybody is accountable.
118
330840
3763
บอร์ดใหญ่เหล่านี้แสดงความรับผิดชอบของแต่ละคน
ครอบครัวสตารร์ ก็นำเอาแนวคิดนี้มาใช้ในบ้าน
05:50
So the Starrs, in adapting this to their home,
119
334603
1936
05:52
created a morning checklist
120
336539
1661
โดยการสร้างรายการที่ต้องทำยามเช้า
05:54
in which each child is expected to tick off chores.
121
338200
3588
โดยที่เด็กๆ แต่ละคนถูกคาดหมายให้ทำงานบ้านแต่ละอย่าง
เช้าวันที่ผมไปแวะไปเยี่ยม เอเลนอร์ลงบันไดมา
05:57
So on the morning I visited, Eleanor came downstairs,
122
341788
2380
06:00
poured herself a cup of coffee, sat in a reclining chair,
123
344168
2710
รินกาแฟให้ตัวเองแก้วหนึ่ง แล้วนั่งบนเก้าอี้โยก
ระหว่างที่นั่งอยู่นั่น
06:02
and she sat there,
124
346878
1508
06:04
kind of amiably talking to each of her children
125
348386
2998
เธอก็คุยกับเด็กๆ แต่ละคน
06:07
as one after the other they came downstairs,
126
351384
1991
ตอนที่เด็กๆ พากันลงบันไดมาทีละคน
06:09
checked the list, made themselves breakfast,
127
353375
2369
เช็คที่รายการ ทำอาหารเช้าของตัวเอง
06:11
checked the list again, put the dishes in the dishwasher,
128
355744
2783
ติ๊กรายการอีกที เอาจานไปใส่เครื่องล้างจาน
06:14
rechecked the list, fed the pets or whatever chores they had,
129
358527
3120
ติ๊กรายการ ให้อาหารสัตว์เลี้ยง หรือทำกิจวัตรอื่นๆ ที่ต้องทำ
06:17
checked the list once more, gathered their belongings,
130
361647
2424
ติ๊กรายการอีกที เก็บข้าวของเตรียมตัว
06:19
and made their way to the bus.
131
364071
2637
แล้วก็ออกไปขึ้นรถโรงเรียนที่มารับ
06:22
It was one of the most astonishing family dynamics I have ever seen.
132
366708
4077
มันเป็นฉากครอบครัวยามเช้าที่น่าอัศจรรย์ที่สุดที่ผมเคยเห็นมา
06:26
And when I strenuously objected this would never work in our house,
133
370785
3142
และเมื่อผมโต้แย้งว่า แบบนี้คงไม่เวิร์คที่บ้านผมแน่
06:29
our kids needed way too much monitoring,
134
373927
2183
ลูกๆ ของพวกเราต้องคอยกำกับดูแลมากกว่านี้มาก
06:32
Eleanor looked at me.
135
376110
1300
เอเลนอร์มองมาที่ผม
06:33
"That's what I thought," she said.
136
377410
1168
เธอว่า "นั่นเป็นสิ่งที่ฉันเคยคิดเหมือนกัน"
06:34
"I told David, 'keep your work out of my kitchen.'
137
378578
2320
"ฉันบอกเดวิดว่า 'อย่าเอางานของเธอมาในครัวฉัน'
06:36
But I was wrong."
138
380898
1621
แต่ฉันเป็นฝ่ายผิด"
06:38
So I turned to David: "So why does it work?"
139
382519
2104
ผมเลยหันไปหาเดวิด "ทำไมมันถึงได้ผล?"
06:40
He said, "You can't underestimate the power of doing this."
140
384623
2936
เขาบอกว่า "อย่าได้ดูถูกพลังของการทำแบบนี้"
แล้วเขาก็เขียนเครื่องหมายถูก
06:43
And he made a checkmark.
141
387559
1534
06:44
He said, "In the workplace, adults love it.
142
389093
2136
เขาบอกว่า "ในที่ทำงาน ผู้ใหญ่ต่างก็ชอบติ๊กถูก"
06:47
With kids, it's heaven."
143
391229
2476
กับเด็กๆ มันเป็นสวรรค์เลยละ
สัปดาห์ที่เราเอารายการเช็คลิสต์ตอนเช้ามาใช้ที่บ้าน
06:49
The week we introduced a morning checklist into our house,
144
393705
2837
06:52
it cut parental screaming in half. (Laughter)
145
396542
4147
มันลดการกรีดร้องของผู้ใหญ่ลงไปได้ตั้งครึ่งนึง
(เสียงหัวเราะ)
(เสียงหัวเราะ)
06:56
But the real change didn't come until we had these family meetings.
146
400689
3085
แต่การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง ยังไม่เกิดขึ้น
จนเมื่อเรามีการประชุมครอบครัว
จนเมื่อเรามีการประชุมครอบครัว
06:59
So following the agile model, we ask three questions:
147
403774
3321
โดยการใช้โมเดลอไจล์ เราถามสามคำถาม
07:02
What worked well in our family this week,
148
407095
1922
อะไรเป็นไปได้ดีในครอบครัวเราสัปดาห์นี้
07:04
what didn't work well, and what will we agree to work on in the week ahead?
149
409017
4160
อะไรที่ไปได้ไม่ค่อยสวยนัก และอะไรที่เราตกลงกัน
ว่าจะปรับปรุงในสัปดาห์หน้า
ว่าจะปรับปรุงในสัปดาห์หน้า
07:09
Everyone throws out suggestions
150
413177
1587
ทุกคนต่างก็ออกคำแนะนำ
07:10
and then we pick two to focus on.
151
414764
2732
แล้วเราก็เลือกมาสองข้อเพื่อเน้นความสำคัญ
และทันใดนั้น สิ่งวิเศษหลายอย่างก็เริ่มพรั่งพรู
ออกจากปากลูกสาวเรา
ออกจากปากลูกสาวเรา
07:13
And suddenly the most amazing things started coming out of our daughters' mouths.
152
417496
3902
อะไรที่เป็นไปได้ดีสัปดาห์นี้?
07:17
What worked well this week?
153
421398
2120
เอาชนะความกลัวขี่จักรยาน จัดเตียงของตัวเอง
07:19
Getting over our fear of riding bikes. Making our beds.
154
423518
2920
อะไรไม่ค่อยดีนัก? การบ้านเลขของพวกเรา
07:22
What didn't work well? Our math sheets,
155
426438
2912
07:25
or greeting visitors at the door.
156
429350
3187
หรือการต้อนรับแขกหน้าบ้าน
07:28
Like a lot of parents, our kids are something like Bermuda Triangles.
157
432537
3428
คงไม่ต่างจากพ่อแม่ทั้งหลาย ลูกๆ ของพวกเรา
ก็เหมือนสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา
ก็เหมือนสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา
07:31
Like, thoughts and ideas go in, but none ever comes out,
158
435965
2545
คือ ความคิดและไอเดียต่างๆ ไหลเข้าไป
แต่ไม่เคยออกมาได้เลย
แต่ไม่เคยออกมาได้เลย
07:34
I mean at least not that are revealing.
159
438510
1534
ผมหมายถึงอย่างน้อยก็ไม่ค่อยเปิดเผยเท่าไหร่
07:35
This gave us access suddenly to their innermost thoughts.
160
440044
3763
วิธีนี้ช่วยให้เราเข้าถึงความคิดของเด็กๆ ได้อย่างรวดเร็ว
แต่ช่วงที่น่าประหลาดใจที่สุดคือตอนที่เราถามว่า
07:39
But the most surprising part was when we turned to,
161
443807
1787
07:41
what are we going to work on in the week ahead?
162
445594
2654
เราจะทำอะไรในสัปดาห์ที่จะถึงนี้
07:44
You know, the key idea of agile is that
163
448248
2017
แนวคิดหลักของอไจล์ก็คือว่า
07:46
teams essentially manage themselves,
164
450265
1805
แต่ละทีมต่างก็บริหารจัดการตัวเอง
07:47
and it works in software and it turns out that it works with kids.
165
452070
3344
มันได้ผลในการทำซอฟต์แวร์ และปรากฎว่า
มันก็ได้ผลกับพวกเด็กๆ ด้วยเช่นกัน
มันก็ได้ผลกับพวกเด็กๆ ด้วยเช่นกัน
ลูกๆ ของพวกเราชอบกระบวนการนี้
07:51
Our kids love this process.
166
455414
1691
07:53
So they would come up with all these ideas.
167
457105
2189
พวกเขาต่างออกไอเดียต่างๆ มากมาย
07:55
You know, greet five visitors at the door this week,
168
459294
2046
อย่างเช่น เปิดประตูต้อนรับแขกห้ารายสัปดาห์นี้
07:57
get an extra 10 minutes of reading before bed.
169
461340
2563
อ่านหนังสือเพิ่มอีกสิบนาทีก่อนนอน
07:59
Kick someone, lose desserts for a month.
170
463903
2812
เตะใครบางคน งดของหวานทั้งเดือน
08:02
It turns out, by the way, our girls are little Stalins.
171
466715
2167
กลายเป็นว่า ลูกๆ ของเราเฉียบขาดอย่างกับสตาลิน
08:04
We constantly have to kind of dial them back.
172
468882
2945
เราต้องคอยดึงให้เพลาๆ ลงหน่อยอยู่เสมอ
08:07
Now look, naturally there's a gap between
173
471827
1992
ทีนะ เป็นเรื่องปกติที่มักจะมีความแตกต่าง
08:09
their kind of conduct in these meetings and their behavior the rest of the week,
174
473819
3368
ระหว่างการแสดงออกในการประชุม
กับพฤติกรรมที่เด็กๆ ทำตลอดทั้งสัปดาห์
กับพฤติกรรมที่เด็กๆ ทำตลอดทั้งสัปดาห์
08:13
but the truth is it didn't really bother us.
175
477187
2114
แต่เรื่องนั้นไม่ได้ทำให้เรากังวลใจเลย
08:15
It felt like we were kind of laying these underground cables
176
479301
2350
มันให้ความรู้สึกเหมือนกับว่า เรากำลังวางรากฐานที่สำคัญ
08:17
that wouldn't light up their world for many years to come.
177
481651
3330
ที่จะยังไม่ได้แสดงออกจนกระทั่งในอีกหลายปีต่อมา
08:20
Three years later -- our girls are almost eight now --
178
484981
2430
เวลาผ่านไปสามปี ตอนนี้ลูกของเราเกือบแปดขวบแล้ว
08:23
We're still holding these meetings.
179
487411
2437
เรายังจัดประชุมแบบนี้อยู่
08:25
My wife counts them among her most treasured moments as a mom.
180
489848
4732
ภรรยาผมถือว่าการประชุมเหล่านี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด
ในฐานะแม่
ในฐานะแม่
แล้วเราได้เรียนรู้อะไรบ้าง?
08:30
So what did we learn?
181
494580
2383
08:32
The word "agile" entered the lexicon in 2001
182
496963
2501
คำว่า "อไจล์" บรรจุเข้าพจนานุกรมในปี 2001
08:35
when Jeff Sutherland and a group of designers
183
499464
2200
เมื่อเจฟฟ์ ซัสเตอแลนด์และนักออกแบบกลุ่มหนึ่ง
08:37
met in Utah and wrote a 12-point Agile Manifesto.
184
501664
4132
พบกันในรัฐยูท่าห์ และเขียนแถลงการอไจล์ 12 ข้อ
08:41
I think the time is right for an Agile Family Manifesto.
185
505796
3531
ผมคิดว่า ตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะ
ที่จะเขียนแถลงการครอบครัวอไจล์
ที่จะเขียนแถลงการครอบครัวอไจล์
08:45
I've taken some ideas from the Starrs and from many other families I met.
186
509327
3375
ผมรับเอาไอเดียบางอย่างจากสตารร์และครอบครัวอื่นๆ ที่ได้พบ
08:48
I'm proposing three planks.
187
512702
2759
ผมขอเสนอแถลงการ 3 ข้อ
08:51
Plank number one: Adapt all the time.
188
515461
3568
ข้อที่หนึ่ง ปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา
08:54
When I became a parent, I figured, you know what?
189
519029
1786
เมื่อผมกลายเป็นพ่อแม่ ผมได้พบว่า
เราจะกำหนดกฎเกณฑ์บางอย่างขึ้นมา แล้วก็ยึดอยู่กับมัน
08:56
We'll set a few rules and we'll stick to them.
190
520815
3099
ซึ่งนั่นสมมติเอาว่า ในฐานะพ่อแม่ เราสามารถ
คาดการณ์ปัญหาทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นได้
คาดการณ์ปัญหาทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นได้
08:59
That assumes, as parents, we can anticipate every problem that's going to arise.
191
523914
3649
09:03
We can't. What's great about the agile system
192
527563
3434
แต่เราคาดการณ์ไม่ได้หรอก ข้อดีอย่างยิ่งสำหรับระบบอไจล์คือ
09:06
is you build in a system of change
193
530997
1866
คุณจะสร้างระบบที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
09:08
so that you can react to what's happening to you in real time.
194
532863
3031
ดังนั้นคุณจึงสามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ต่างๆ ตอนที่เกิดขึ้นได้
09:11
It's like they say in the Internet world:
195
535894
1444
เหมือนกับที่ว่ากันไว้ในโลกอินเตอร์เน็ต
09:13
if you're doing the same thing today you were doing six months ago,
196
537338
2744
ถ้าคุณทำอะไรบางอย่างวันนี้เหมือนที่เคยทำมาเมื่อหกเดือนที่แล้ว
09:15
you're doing the wrong thing.
197
540082
1658
คุณกำลังทำอะไรบางอย่างผิดๆ อยู่
09:17
Parents can learn a lot from that.
198
541740
2908
พ่อแม่ทั้งหลายสามารถเรียนรู้จากสิ่งนี้ได้
แต่สำหรับผมแล้ว "ปรับเปลี่ยนตลอดเวลา"
มีความหมายมากไปกว่านั้น
มีความหมายมากไปกว่านั้น
09:20
But to me, "adapt all the time" means something deeper, too.
199
544648
3312
09:23
We have to break parents out of this straitjacket
200
547960
2376
เราต้องปลดปล่อยเหล่าพ่อแม่ออกจากความเชื่อบ้าๆ ที่ว่า
09:26
that the only ideas we can try at home
201
550336
2337
ไอเดียต่างๆ ที่เราสามารถลองทำได้ที่บ้านนั้น
09:28
are ones that come from shrinks or self-help gurus
202
552673
3367
จะต้องมีที่มาจากจิตแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญการพัฒนาตัวเอง
09:31
or other family experts.
203
556040
2320
หรือไม่ก็ผู้เชี่ยวชาญด้านครอบครัวเท่านั้น
ความจริงก็คือ แนวคิดเหล่านั้นล้าสมัยไปเสียแล้ว
09:34
The truth is, their ideas are stale,
204
558360
2272
ในแวดวงสังคมอื่นๆ มีความคิดใหม่ๆ ผุดขึ้นมากมาย
09:36
whereas in all these other worlds there are these new ideas
205
560632
2296
09:38
to make groups and teams work effectively.
206
562928
3325
ที่จะทำให้กลุ่มคนและทีมงานทำงานมีประสิทธิภาพ
ลองดูตัวอย่างเหล่านี้ดู
09:42
Let's just take a few examples.
207
566253
1135
09:43
Let's take the biggest issue of all: family dinner.
208
567388
3220
ลองดูปัญหาที่ใหญ่ที่สุดดู มื้อค่ำของครอบครัว
ใครๆ ต่างก็รู้ว่า การทานอาหารค่ำร่วมกันในครอบครัว
09:46
Everybody knows that having family dinner
209
570608
2057
09:48
with your children is good for the kids.
210
572665
2328
พร้อมกับเด็กๆ เป็นเรื่องที่ดีสำหรับเด็ก
09:50
But for so many of us, it doesn't work in our lives.
211
574993
2959
แต่สำหรับพวกเราหลายคน มันไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่
ผมเคยพบกับเชฟชื่อดังในนิวออร์ลีนส์ ผู้ซึ่งบอกว่า
09:53
I met a celebrity chef in New Orleans who said,
212
577952
2272
09:56
"No problem, I'll just time-shift family dinner.
213
580224
2379
"ไม่มีปัญหา ผมแค่เปลี่ยนเวลาทานอาหารร่วมกันของครอบครัว
09:58
I'm not home, can't make family dinner?
214
582603
2136
ผมไม่อยู่บ้าน ไม่สามารถกลับมากินข้าวเย็นพร้อมหน้ากันได้หรือ?
10:00
We'll have family breakfast. We'll meet for a bedtime snack.
215
584739
2992
เราก็กินข้าวเช้าพร้อมกันทั้งครอบครัว
หรือไม่ก็นั่งกินของว่างยามดึกก่อนนอนด้วยกัน
หรือไม่ก็นั่งกินของว่างยามดึกก่อนนอนด้วยกัน
10:03
We'll make Sunday meals more important."
216
587731
2866
เราแค่ทำให้มื้ออาหารวันอาทิตย์มีความสำคัญมากยิ่งขึ้น"
10:06
And the truth is, recent research backs him up.
217
590597
3550
และความจริงก็คือ มีผลการวิจัยเร็วๆ นี้สนับสนุนเขา
กลายเป็นว่า ตลอดช่วงการทานอาหารร่วมกันในครอบครัว
10:10
It turns out there's only 10 minutes of productive time
218
594147
2912
มีช่วงเวลาเพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้นที่มีความหมาย
10:12
in any family meal.
219
597059
1837
ส่วนเวลาที่เหลือหมดไปกับเรื่องอย่างเช่น
"เอาศอกลงจากโต๊ะ" หรือ "ส่งซอสมาหน่อย"
"เอาศอกลงจากโต๊ะ" หรือ "ส่งซอสมาหน่อย"
10:14
The rest of it's taken up with "take your elbows off the table" and "pass the ketchup."
220
598896
3918
10:18
You can take that 10 minutes and move it
221
602814
2037
คุณสามารถเอาเวลา 10 นาทีนั้น แล้วย้ายมันไป
10:20
to any part of the day and have the same benefit.
222
604851
3280
ยังส่วนใดก็ได้ของวัน แล้วยังคงได้รับประโยชน์เหมือนเดิม
แค่ย้ายเวลาทานข้าวร่วมกันของครอบครัว นั่นคือการปรับเปลี่ยน
10:24
So time-shift family dinner. That's adaptability.
223
608131
2825
10:26
An environmental psychologist told me,
224
610956
2290
นักจิตวิทยาสิ่งแวดล้อมคนหนึ่ง บอกผมว่า
10:29
"If you're sitting in a hard chair on a rigid surface,
225
613246
3335
"ถ้าคุณนั่งอยู่บนเก้าอี้หลังตรง บนพื้นแข็ง
คุณจะเข้มงวดมากกว่า
10:32
you'll be more rigid.
226
616581
1450
10:33
If you're sitting on a cushioned chair, you'll be more open."
227
618031
3903
การที่คุณนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่มีนวม คุณจะเปิดกว้างมากกว่า"
เธอบอกผมว่า "ถ้าคุณกำลังอบรมวินัยให้กับลูกๆ
10:37
She told me, "When you're discipling your children,
228
621934
1607
10:39
sit in an upright chair with a cushioned surface.
229
623541
2398
ให้นั่งบนเก้าอี้หลังตรงที่มีเบาะรอง
10:41
The conversation will go better."
230
625939
2554
จะทำให้การสนทนาราบรื่นกว่า"
ผมและภรรยาย้ายที่นั่งกัน เมื่อเราต้องพูดคุยเรื่องที่ลำบากใจ
10:44
My wife and I actually moved where we sit for difficult conversations
231
628493
3617
10:48
because I was sitting above in the power position.
232
632110
2820
เพราะว่า ผมนั่งอยู่ในตำแหน่งที่มีอำนาจ
10:50
So move where you sit. That's adaptability.
233
634930
3040
ดังนั้นย้ายตำแหน่งในการนั่ง นั่นก็เป็นการปรับเปลี่ยนเช่นกัน
10:53
The point is there are all these new ideas out there.
234
637970
3354
ประเด็นก็คือ แนวคิดใหม่ๆ เหล่านี้เริ่มแพร่หลายมากขึ้น
10:57
We've got to hook them up with parents.
235
641324
2387
เราจำเป็นต้องให้เหล่าพ่อแม่นำมาใช้บ้าง
10:59
So plank number one: Adapt all the time.
236
643711
2427
ดังนั้นข้อแรก ปรับเปลี่ยนตลอดเวลา
11:02
Be flexible, be open-minded, let the best ideas win.
237
646138
4440
หยืดหยุ่น เปิดกว้าง แล้วปล่อยให้ความคิดดีๆ
เข้ามามีบทบาท
เข้ามามีบทบาท
11:06
Plank number two: Empower your children.
238
650578
4096
ประเด็นที่สอง มอบอำนาจให้เด็กๆ ของคุณ
สัญชาตญาณพ่อแม่บอกว่า เราต้องสั่งเด็กๆ เท่านั้น
11:10
Our instinct as parents is to order our kids around.
239
654674
3014
มันง่ายกว่า และเอาจริงๆ นะ เราถูกอยู่เสมอแหละ
11:13
It's easier, and frankly, we're usually right.
240
657688
2594
มันมีเหตุผลอยู่นะ ที่มีเพียงไม่กี่ระบบเท่านั้นที่มีลักษณะ
11:16
There's a reason that few systems have been more
241
660282
2063
11:18
waterfall over time than the family.
242
662345
3052
เป็นน้ำตกมากไปกว่า สถาบันครอบครัว
แต่บทเรียนสำคัญที่สุดที่เราได้เรียนรู้ก็คือ
11:21
But the single biggest lesson we learned
243
665397
1817
11:23
is to reverse the waterfall as much as possible.
244
667214
2887
ให้พยายามกลับทิศทางของน้ำตกให้มากที่สุด
11:26
Enlist the children in their own upbringing.
245
670101
3865
ให้เด็กๆ มีส่วนร่วมในการอบรมสั่งสอนพวกเขาเอง
เมื่อวานนี้เอง เรากำลังมีการประชุมครอบครัวอยู่
11:29
Just yesterday, we were having our family meeting,
246
673966
1888
11:31
and we had voted to work on overreacting.
247
675854
2879
และเราโหวตกันว่า เราจะแก้ปัญหา
การแสดงออกที่ "เยอะ" เกินไป
การแสดงออกที่ "เยอะ" เกินไป
11:34
So we said, "Okay, give us a reward and give us a punishment. Okay?"
248
678733
3296
เราบอกว่า "เอาละ มากำหนดรางวัล
และบทลงโทษกันดีกว่า โอเคมั้ย"
และบทลงโทษกันดีกว่า โอเคมั้ย"
ลูกสาวเราคนหนึ่งเสนอว่า ให้แต่ละคน
มีเวลาวีนแตกไม่เกินห้านาทีต่อสัปดาห์
มีเวลาวีนแตกไม่เกินห้านาทีต่อสัปดาห์
11:37
So one of my daughters threw out, you get five minutes of overreacting time all week.
249
682029
4576
11:42
So we kind of liked that.
250
686605
1758
เราชอบไอเดียนั้น
11:44
But then her sister started working the system.
251
688363
1639
แล้วลูกสาวอีกคนก็เริ่มลองคิดให้ละเอียดขึ้น
11:45
She said, "Do I get one five-minute overreaction
252
690002
3137
เธอถามว่า "หนูจะได้วีนแตกหนึ่งครั้ง นานห้านาที
11:49
or can I get 10 30-second overreactions?"
253
693139
3470
หรือจะเป็นวีนแตกได้สิบครั้ง ครั้งละ 30 วินาที?"
11:52
I loved that. Spend the time however you want.
254
696609
2228
ผมชอบมาก ใช้เวลายังไงก็ได้ตามที่เธอต้องการ
11:54
Now give us a punishment. Okay.
255
698837
2272
เอาละ เราจะลงโทษกันยังไงดี
11:57
If we get 15 minutes of overreaction time, that's the limit.
256
701109
4904
ถ้าเรากำหนดให้ลิมิตอยู่ที่ 15 นาทีของการออกอาการวีนแตก
12:01
Every minute above that, we have to do one pushup.
257
706013
3424
ทุกนาทีที่วีนเกิน เราต้องวิดพื้นหนึ่งที
12:05
So you see, this is working. Now look, this system isn't lax.
258
709437
3384
คุณจะเห็นได้ว่า มันได้ผล ระบบแบบนี้ไม่ได้หย่อนยานนะครับ
12:08
There's plenty of parental authority going on.
259
712821
2728
ผู้ปกครองยังคงมีอำนาจในการชี้นำอยู่
12:11
But we're giving them practice becoming independent,
260
715549
2715
แต่เราให้โอกาสเด็กๆ ได้ฝึกการดูแลตัวเองเป็นอิสระ
12:14
which of course is our ultimate goal.
261
718264
2567
ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเป้าหมายสูงสุดของพวกเรา
ก่อนที่ผมจะออกมาพูดที่นี่ค่ำนี้เอง
12:16
Just as I was leaving to come here tonight,
262
720831
2318
12:19
one of my daughters started screaming.
263
723149
1824
ลูกสาวของเราคนหนึ่งเริ่มส่งเสียงกรีดร้อง
12:20
The other one said, "Overreaction! Overreaction!"
264
724973
2515
อีกคนหนึ่งก็พูดเลยว่า "วีนแตกแล้ว! วีนแตกแล้ว!"
12:23
and started counting, and within 10 seconds it had ended.
265
727488
2929
แล้วเริ่มต้นนับ ภายในแค่ 10 วินาที มันก็หยุดลง
12:26
To me that is a certified agile miracle.
266
730417
3509
สำหรับผมแล้ว นี่คือมหัศจรรย์ของอไจย์ที่ผ่านการรับรองแล้ว
12:29
(Laughter) (Applause)
267
733926
2207
12:32
And by the way, research backs this up too.
268
736133
4736
(หัวเราะ) (ปรบมือ)
แล้วก็นะ มีผลวิจัยรองรับด้วย
12:36
Children who plan their own goals, set weekly schedules,
269
740869
3576
เด็กๆ ที่่มีการวางแผนเป้าหมายของตัวเอง
กำหนดตารางสัปดาห์เอง
กำหนดตารางสัปดาห์เอง
12:40
evaluate their own work build up their frontal cortex
270
744445
3925
ประเมินผลงานของตัวเอง จะมีการพัฒนาสมองส่วนหน้ามากกว่า
12:44
and take more control over their lives.
271
748370
4227
และสามารถควบคุมชีวิตของตัวเองได้ดีกว่า
12:48
The point is, we have to let our children succeed on their own terms,
272
752597
3152
ประเด็นก็คือ เราต้องปล่อยให้เด็กๆ ของเรา
ประสบความสำเร็จในแบบของเขาเอง
ประสบความสำเร็จในแบบของเขาเอง
12:51
and yes, on occasion, fail on their own terms.
273
755749
3104
และใช่ครับ ในบางครั้ง ก็ปล่อยให้ล้มเหลวเองด้วยเช่นกัน
12:54
I was talking to Warren Buffett's banker,
274
758853
1748
ผมเคยพูดคุยกับนักธนาคารของวอร์เรน บัฟเฟ็ตต์
12:56
and he was chiding me for not letting my children
275
760601
2242
เขาต่อว่าผม เรื่องที่ไม่ยอมให้ลูกๆ
ได้ทำอะไรผิดพลาดเสียบ้างกับการใช้จ่ายเงินค่าขนม
12:58
make mistakes with their allowance.
276
762843
2669
ผมก็บอกว่า "แล้วถ้าพวกเขาทำพลาดแบบดิ่งเหวไปเลยละ?"
13:01
And I said, "But what if they drive into a ditch?"
277
765512
1976
13:03
He said, "It's much better to drive into a ditch
278
767488
2141
เขาว่า "มันดีกว่านะ ที่จะปล่อยให้เขาพลาดกับ
เงินเบี้ยเลี้ยง 6 เหรียญ ดีกว่าผิดพลาด
กับเงินเดือนปีละ 60,000 เหรียญ
กับเงินเดือนปีละ 60,000 เหรียญ
13:05
with a $6 allowance than a $60,000-a-year salary
279
769629
3432
13:08
or a $6 million inheritance."
280
773061
2672
หรือกับมรดกมูลค่า หกล้าน เหรียญ"
ดังนั้น ประเด็นสำคัญคือ การให้อำนาจเด็กๆ ของพวกคุณ
13:11
So the bottom line is, empower your children.
281
775733
2480
13:14
Plank number three: Tell your story.
282
778213
4786
ข้อที่สาม เล่าเรื่องราวของคุณ
13:18
Adaptability is fine, but we also need bedrock.
283
782999
3963
ความหยืดหยุ่นปรับตัวได้เป็นเรื่องดี
แต่เราก็จำเป็นต้องมีรากฐานที่ดีด้วย
แต่เราก็จำเป็นต้องมีรากฐานที่ดีด้วย
จิม คอลลินส์ ผู้แต่งหนังสือ "Good To Great"
13:22
Jim Collins, the author of "Good To Great,"
284
786962
1940
บอกผมว่า องค์กรของมนุษย์ ไม่ว่าแบบใดก็ตาม ที่ประสบความสำเร็จ
13:24
told me that successful human organizations of any kind
285
788902
2703
13:27
have two things in common:
286
791605
1514
มีสองสิ่งที่เหมือนกัน
13:29
they preserve the core, they stimulate progress.
287
793119
3295
คือพวกเรารักษาแก่นแท้ไว้ และพวกเขากระตุ้นให้เกิดความก้าวหน้า
ดังนั้นอไจล์เป็นวิธีการที่ดีที่กระตุ้นให้เกิดความก้าวหน้า
13:32
So agile is great for stimulating progress,
288
796414
2205
แต่ผมมักจะได้ยินอยู่เสมอว่า เราจำเป็นต้องรักษาแก่นแท้เอาไว้
13:34
but I kept hearing time and again, you need to preserve the core.
289
798619
3282
13:37
So how do you do that?
290
801901
2054
แล้วคุณจะทำอย่างนั้นได้อย่างไรละ
13:39
Collins coached us on doing something
291
803955
2207
คอลลินส์แนะนำให้พวกเราทำบางอย่างเหมือนกับ
13:42
that businesses do, which is define your mission
292
806162
2787
ที่องค์กรธุรกิจทำ นั่นคือการกำหนดพันธกิจ
13:44
and identify your core values.
293
808949
2394
และนิยามแก่นคุณค่าขององค์กร
13:47
So he led us through the process of creating a family mission statement.
294
811343
3558
เขาสอนเราถึงกระบวนการสร้างพันธกิจของครอบครัว
13:50
We did the family equivalent of a corporate retreat.
295
814901
2264
เราสร้างกระบวนการคล้ายการออกไปสัมนาของบริษัท
13:53
We had a pajama party.
296
817165
2304
แต่ในครอบครัว เรามีปาร์ตี้ชุดนอนกัน
ผมทำข้าวโพดคั่ว ความจริงแล้ว
ทำไหม้ไปอันหนึ่ง เลยทำสองอัน
ทำไหม้ไปอันหนึ่ง เลยทำสองอัน
13:55
I made popcorn. Actually, I burned one, so I made two.
297
819469
3560
ภรรยาผมเอากระดานฟลิปชาร์ทออกมาวาง
13:58
My wife bought a flip chart.
298
823029
872
13:59
And we had this great conversation, like, what's important to us?
299
823901
2617
แล้วเราก็นั่งสนทนากัน ในเรื่องอย่างเช่น
อะไรเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเรา?
อะไรเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเรา?
14:02
What values do we most uphold?
300
826518
2125
ค่านิยมอะไร ที่เรายึดถือมากที่สุด?
14:04
And we ended up with 10 statements.
301
828643
1756
ท้ายที่สุด เราสร้างคำแถลงการณ์ 10 ข้อ
14:06
We are travelers, not tourists.
302
830399
1971
เราเป็นนักเดินทาง ไม่ใช่นักท่องเที่ยว
14:08
We don't like dilemmas. We like solutions.
303
832370
3675
เราไม่ชอบภาวะยุ่งยากใจ เราชอบทางแก้ปัญหา
อีกครั้งที่มีผลวิจัย แสดงว่าพ่อแม่ควรใช้เวลาให้น้อยลง
14:11
Again, research shows that parents should spend less time
304
836045
3231
14:15
worrying about what they do wrong
305
839276
2339
ในการมัวกังวลว่าทำอะไรผิดไปบ้าง
14:17
and more time focusing on what they do right,
306
841615
3157
และใช้เวลามากขึ้น ในการเน้นว่า ทำอะไรถูกต้องบ้าง
14:20
worry less about the bad times and build up the good times.
307
844772
4111
วิตกกังวลเกี่ยวกับช่วงเวลาแย่ๆ ให้น้อยลง
และสร้างช่วงเวลาดีๆ ให้มากขึ้น
และสร้างช่วงเวลาดีๆ ให้มากขึ้น
คำแถลงพันธกิจครอบครัวนี้เป็นวิธีที่ดีเยี่ยมในการ
14:24
This family mission statement is a great way to identify
308
848883
2736
ระบุว่า อะไรบ้างที่เราทำได้ถูกต้อง
14:27
what it is that you do right.
309
851619
2520
14:30
A few weeks later, we got a call from the school.
310
854139
2290
ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา เราได้รับโทรศัพท์จากโรงเรียน
14:32
One of our daughters had gotten into a spat.
311
856429
1988
ลูกสาวเราคนหนึ่ง มีเรื่องทะเลาะวิวาทในโรงเรียน
14:34
And suddenly we were worried, like, do we have a mean girl on our hands?
312
858417
2356
ทันใดนั้นเราก็เริ่มกังวล หรือว่าลูกเรา
จะกลายเป็นเด็กเกเรขึ้นมาแล้ว?
จะกลายเป็นเด็กเกเรขึ้นมาแล้ว?
14:36
And we didn't really know what to do,
313
860773
1254
และเราก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี
14:37
so we called her into my office.
314
862027
1428
เราเลยเรียกลูกสาวเข้าไปผมในห้องทำงานผม
14:39
The family mission statement was on the wall,
315
863455
1657
คำแถลงพันธกิจครอบครัวติดอยู่บนผนัง
14:41
and my wife said, "So, anything up there seem to apply?"
316
865112
3111
ภรรยาผมพูดว่า "มีอะไรบ้างบนนี้ที่ดูเหมือนจะใช้ได้"
14:44
And she kind of looked down the list, and she said,
317
868223
2876
เธอมองดูรายการ แล้วก็บอกว่า
"ให้ทุกคนมีส่วนร่วม?"
14:46
"Bring people together?"
318
871099
1728
14:48
Suddenly we had a way into the conversation.
319
872827
3456
ทันใดนั้น เราก็มีหนทางที่จะเริ่มการสนทนาได้
วิธียอดเยี่ยมอีกอย่างหนึ่งในการเล่าเรื่อง
14:52
Another great way to tell your story
320
876283
1332
14:53
is to tell your children where they came from.
321
877615
3295
คือการบอกเด็กๆ ว่า พวกเขามาจากที่ไหนบ้าง
14:56
Researchers at Emory gave children a simple
322
880910
2701
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอีมอรี่ ให้เด็กๆ
ทำการทดสอบง่ายๆ ชื่อ "เธอรู้ไหม"
14:59
"what do you know" test.
323
883611
2082
รู้หรือไม่ว่าปู่ย่าตายายเกิดที่ไหน?
15:01
Do you know where your grandparents were born?
324
885693
2078
รู้หรือไม่ว่าพ่อแม่เรียนมัธยมที่ไหน?
15:03
Do you know where your parents went to high school?
325
887771
2464
15:06
Do you know anybody in your family
326
890235
1785
เธอรู้จักใครในครอบครัวบ้างไหม
15:07
who had a difficult situation, an illness, and they overcame it?
327
892020
3999
ที่ตกอยู่ในสภาพแย่ เช่นป่วยหนัก
แล้วก็สามารถเอาชนะมันมาได้?
แล้วก็สามารถเอาชนะมันมาได้?
เด็กๆ ที่ได้คะแนนสูงที่สุดในแบบทดสอบ "เธอรู้ไหม" นี้
15:11
The children who scored highest on this "do you know" scale
328
896019
3570
15:15
had the highest self-esteem and a greater sense they could control their lives.
329
899589
4566
เป็นเด็กที่มีความภูมิใจในตัวเองสูง และตระหนักว่า
พวกเขาสามารถควบคุมชีวิตตัวเองได้
พวกเขาสามารถควบคุมชีวิตตัวเองได้
15:20
The "do you know" test was the single biggest predictor
330
904155
3256
แบบทดสอบ "เธอรู้ไหม" กลายเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่สุด
15:23
of emotional health and happiness.
331
907411
2704
ของสุขภาพจิตและความสุขของเด็กๆ
15:26
As the author of the study told me,
332
910115
2176
ผู้เขียนแบบทดสอบบอกผมว่า
เด็กๆ ที่รู้สึกว่า พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องเล่าอันยาวนาน
15:28
children who have a sense of -- they're part of a larger narrative
333
912291
3854
15:32
have greater self-confidence.
334
916145
2954
จะมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงกว่าเด็กอื่น
15:34
So my final plank is, tell your story.
335
919099
2976
ดังนั้นประเด็นสุดท้ายของผมก็คือ เล่าเรื่องของคุณ
15:37
Spend time retelling the story of your family's positive moments
336
922075
3991
ใช้เวลาเล่าซ้ำแล้วซ้ำอีก
เกี่ยวกับช่วงเวลาดีๆ ของครอบครัว
เกี่ยวกับช่วงเวลาดีๆ ของครอบครัว
และวิธีการที่จะผ่านพ้นปัญหาและอุปสรรคในช่วงเวลาแย่ๆ
15:41
and how you overcame the negative ones.
337
926066
2841
15:44
If you give children this happy narrative,
338
928907
2456
ถ้าคุณเล่าเรื่องที่มีความสุขให้เด็กๆ ฟัง
15:47
you give them the tools to make themselves happier.
339
931363
5711
คุณกำลังให้เครื่องมือที่จะทำให้พวกเขา
มีความสุขมากยิ่งขึ้น
มีความสุขมากยิ่งขึ้น
ผมอ่านนิยายเรื่อง "คาเรนิน่า" ครั้งแรก
เมื่อครั้งยังเป็นวัยรุ่น
เมื่อครั้งยังเป็นวัยรุ่น
15:52
I was a teenager when I first read "Anna Karenina"
340
937074
2423
15:55
and its famous opening sentence,
341
939497
1752
15:57
"All happy families are alike.
342
941249
1959
และประโยคเปิดที่มีชื่อเสียงก็คือ
"ครอบครัวแสนสุขทั้งหลายต่างคล้ายคลึงกัน
15:59
Each unhappy family is unhappy in its own way."
343
943208
4091
แต่ละครอบครัวทุกข์ยาก ล้วนลำเค็ญในแบบของตัวเอง"
16:03
When I first read that, I thought, "That sentence is inane.
344
947299
3224
ผมอ่านครั้งแรก ผมก็คิดว่า "ประโยคนี้ช่างโง่จริงๆ"
16:06
Of course all happy families aren't alike."
345
950523
3123
แน่นอนอยู่แล้วว่า ครอบครัวทั้งหลาย
ที่มีความสุข แตกต่างกัน"
ที่มีความสุข แตกต่างกัน"
16:09
But as I began working on this project,
346
953646
2341
แต่เมื่อผมเริ่มต้นทำงานในโครงการนี้
16:11
I began changing my mind.
347
955987
2712
ผมเริ่มเปลี่ยนความคิดไป
16:14
Recent scholarship has allowed us, for the first time,
348
958699
2552
ผลงานวิชาการเร็วๆ นี้ ช่วยให้เราสามารถ
16:17
to identify the building blocks
349
961251
2736
เข้าใจถึงปัจจัยพื้นฐาน
16:19
that successful families have.
350
963987
2976
ที่ครอบครัวต่างๆ ที่ประสบความสำเร็จมีร่วมกัน
16:22
I've mentioned just three here today:
351
966963
2144
ผมแค่พูดถึงปัจจัยเหล่านั้นแค่สามประเด็นเท่านั้นในวันนี้
16:25
Adapt all the time, empower the children, tell your story.
352
969107
5167
ปรับเปลี่ยนตลอดเวลา ให้อำนาจแก่เด็กๆ
และเล่าเรื่องราวของคุณ
และเล่าเรื่องราวของคุณ
16:30
Is it possible, all these years later, to say Tolstoy was right?
353
974289
4371
เป็นไปได้ไหมว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมา
ทอลสตอยเป็นฝ่ายถูกมาตลอด?
ทอลสตอยเป็นฝ่ายถูกมาตลอด?
16:34
The answer, I believe, is yes.
354
978660
3376
ผมเชื่อว่า คำตอบคือ ใช่
16:37
When Leo Tolstoy was five years old,
355
982036
2712
เมื่อลีโอ ทอลสตอยมีอายุห้าขวบ
16:40
his brother Nikolay came to him
356
984748
1742
พี่ชายของเขา นิโคเลย์ มาหา
16:42
and said he had engraved the secret to universal happiness
357
986490
2974
แล้วก็บอกว่า เขาได้สลักความลับ
ของความสุขครอบจักรวาล
ของความสุขครอบจักรวาล
16:45
on a little green stick, which he had hidden
358
989464
2780
ลงในแท่งไม้สีเขียวเล็ก ซึ่งเขาเอาไปซ่อนไว้
16:48
in a ravine on the family's estate in Russia.
359
992244
3116
ในหุบเขาแห่งหนึ่งที่เป็นที่ของครอบครัวในรัสเซีย
16:51
If the stick were ever found, all humankind would be happy.
360
995360
4433
ถ้าแท่งไม้นี้ถูกค้นพบ มนุษยชาติทั้งหมดจะมีความสุข
ทอลสตอยหมกหมุ่นอยู่กับไม้แท่งนี้ แต่เขาก็ไม่เคยหามันพบ
16:55
Tolstoy became consumed with that stick, but he never found it.
361
999793
5496
17:01
In fact, he asked to be buried in that ravine where he thought it was hidden.
362
1005289
4351
เขาถึงกับขอให้ฝังร่างของเขาไว้ในหุบเขา
ที่เขาเชื่อว่าแท่งไม้นี้ถูกซ่อนอยู่
ที่เขาเชื่อว่าแท่งไม้นี้ถูกซ่อนอยู่
17:05
He still lies there today, covered in a layer of green grass.
363
1009640
4545
ร่างของเขายังอยู่ที่นั่นทุกวันนี้ ปกคลุมด้วยหญ้าเขียว
17:10
That story perfectly captures for me
364
1014185
2551
เรื่องนั้นเป็นเรื่องที่เหมาะมากสำหรับผม
17:12
the final lesson that I learned:
365
1016736
2208
บทเรียนสุดท้ายที่ผมได้เรียนรู้
17:14
Happiness is not something we find,
366
1018944
2664
ความสุขไม่ใช่เป็นอะไรที่เราค้นหา
17:17
it's something we make.
367
1021608
2896
มันเป็นสิ่งที่เราต้องสร้างขึ้น
แทบทุกคนที่พิจารณาดูองค์กรที่ทำงานได้ดี
17:20
Almost anybody who's looked at well-run organizations
368
1024504
3270
ต่างก็ได้ข้อสรุปคล้ายๆ กัน
17:23
has come to pretty much the same conclusion.
369
1027774
2981
17:26
Greatness is not a matter of circumstance.
370
1030755
2389
ความยิ่งใหญ่ไม่ได้เกิดขึ้นมาเพราะโชคช่วย
17:29
It's a matter of choice.
371
1033144
2864
แต่มันเป็นเรื่องของการเลือก
คุณไม่จำเป็นต้องมีแผนการที่ยิ่งใหญ่
คุณไม่ต้องมีสายบังคับบัญชา
คุณไม่ต้องมีสายบังคับบัญชา
17:31
You don't need some grand plan. You don't need a waterfall.
372
1036008
3464
17:35
You just need to take small steps,
373
1039472
2184
คุณเพียงแค่ต้องก้าวไปทีละก้าวเล็กๆ
17:37
accumulate small wins,
374
1041656
2192
เก็บสะสมชัยชนะเล็กๆ ไปเรื่อยๆ
17:39
keep reaching for that green stick.
375
1043848
2824
คอยมองหาแท่งไม้สีเขียวแท่งนั้นไว้
ท้ายที่สุดแล้ว นี่อาจจะเป็นบทเรียนสำคัญที่สุดก็ได้
17:42
In the end, this may be the greatest lesson of all.
376
1046672
3649
อะไรคือความลับสู่ครอบครัวที่มีความสุขน่ะหรือ?
ความพยายามไง
ความพยายามไง
17:46
What's the secret to a happy family? Try.
377
1050321
4167
17:50
(Applause)
378
1054488
4000
(เสียงปรบมือ)
ABOUT THE SPEAKER
Bruce Feiler - WriterBruce Feiler is the author of "The Secrets of Happy Families," and the writer/presenter of the PBS miniseries "Walking the Bible."
Why you should listen
Bruce Feiler is the author of nine books, including Walking the Bible, Abraham, and America’s Prophet. He is also the writer/presenter of the PBS miniseries Walking the Bible. His book The Council of Dads tells the uplifting story of how friendship and community can help one survive life’s greatest challenges. Most recently Feiler published The Secrets of Happy Families, in which he calls for a new approach to family dynamics, inspired by cutting-edge techniques gathered from experts in the disciplines of science, business, sports and the military.
Feiler’s early books involve immersing himself in different cultures and bringing other worlds vividly to life. These include Learning to Bow, an account of the year he spent teaching in rural Japan; Looking for Class, about life inside Oxford and Cambridge; and Under the Big Top, which depicts the year he spent performing as a clown in the Clyde Beatty-Cole Bros. Circus.
Walking the Bible describes his perilous, 10,000-mile journey retracing the Five Books of Moses through the desert. The book was hailed as an “instant classic” by the Washington Post and “thoughtful, informed, and perceptive” by the New York Times.
Bruce Feiler | Speaker | TED.com