ABOUT THE SPEAKER
Steven Johnson - Writer
Steven Berlin Johnson examines the intersection of science, technology and personal experience.

Why you should listen

Steven Johnson is a leading light of today's interdisciplinary and collaborative approach to innovation. His writings have influenced everything from cutting-edge ideas in urban planning to the battle against 21st-century terrorism. Johnson was chosen by Prospect magazine as one of the top ten brains of the digital future, and The Wall Street Journal calls him "one of the most persuasive advocates for the role of collaboration in innovation."

Johnson's work on the history of innovation inspired the Emmy-nominated six-part series on PBS, "How We Got To Now with Steven Johnson," which aired in the fall of 2014. The book version of How We Got To Now was a finalist for the PEN/E.O. Wilson Literary Science Writing Award. His new book, Wonderland: How Play Made the Modern World, revolves around the creative power of play and delight: ideas and innovations that set into motion many momentous changes in science, technology, politics and society. 

Johnson is also the author of the bestselling Where Good Ideas Come From: The Natural History of Innovation, one of his many books celebrating progress and innovation. Others include The Invention of Air and The Ghost Map. Everything Bad Is Good For You, one of the most discussed books of 2005, argued that the increasing complexity of modern media is training us to think in more complex ways. Emergence and Future Perfect explore the power of bottom-up intelligence in both nature and contemporary society.

An innovator himself, Johnson has co-created three influential sites: the pioneering online magazine FEED, the Webby-Award-winning community site, Plastic.com, and the hyperlocal media site outside.in, which was acquired by AOL in 2011.

Johnson is a regular contributor to WIRED magazine, as well as the New York Times, The Wall Street Journal and many other periodicals. He has appeared on many high-profile television programs, including "The Charlie Rose Show," "The Daily Show with Jon Stewart" and "The NewsHour with Jim Lehrer."


More profile about the speaker
Steven Johnson | Speaker | TED.com
TEDSalon 2006

Steven Johnson: How the "ghost map" helped end a killer disease

สตีเวน จอห์นสัน (Steven Johnson): "แผนที่คนตาย"ช่วยในการหยุดยั้งโรคมรณะได้อย่างไร

Filmed:
845,548 views

นักเขียน สตีเวน จอห์นสัน กับการบรรยาย10 นาที ที่พาคุณไปทำความรู้จักกับแผนที่คนตาย (The Ghost Map) หนังสือของเขาที่เกี่ยวกับการระบาดของอหิวาตกโรคในปี ค.ศ.1854 ที่กรุงลอนดอน และผลกระทบของมันที่มีต่อวิทยาศาสตร์ เมืองต่าง ๆ และ สังคมสมัยใหม่
- Writer
Steven Berlin Johnson examines the intersection of science, technology and personal experience. Full bio

Double-click the English transcript below to play the video.

00:25
If you haven'tยังไม่ได้ orderedสั่งซื้อ yetยัง, I generallyโดยทั่วไป find the rigatoniRigatoni with the spicyรสจัด tomatoมะเขือเทศ sauceซอส
0
0
7000
ถ้าคุณยังไม่ได้สั่งอาหาร ผมพบว่าริกาโทนี
กับซอสมะเขือเทศรสจัดจ้าน
00:32
goesไป bestดีที่สุด with diseasesโรค of the smallเล็ก intestineลำไส้.
1
7000
3000
เข้ากันได้ดีที่สุดกับโรคในลำไส้เล็ก
00:35
(Laughterเสียงหัวเราะ)
2
10000
2000
(เสียงหัวเราะ)
00:37
So, sorry -- it just feelsรู้สึก like I should be doing stand-upยืนขึ้น up here because of the settingการตั้งค่า.
3
12000
4000
ขอโทษที -- พอดีอยู่ ๆ ผมก็อยากเล่นมุขนี้
เพราะบรรยากาศมันให้
00:41
No, what I want to do is take you back to 1854
4
16000
5000
จริง ๆ สิ่งที่ผมอยากทำก็คือ
พาคุณกลับไปยังปี ค.ศ.1854
00:46
in Londonกรุงลอนดอน for the nextต่อไป fewน้อย minutesนาที, and tell the storyเรื่องราว --
5
21000
4000
ที่กรุงลอนดอน
ในอีกซักครู่ เพื่อจะเล่าเรื่อง--
00:50
in briefสั้น -- of this outbreakการระบาดของโรค,
6
25000
3000
อย่างย่อ--เกี่ยวกับการระบาดของโรคนี้
00:53
whichที่ in manyจำนวนมาก waysวิธี, I think, helpedช่วย createสร้าง the worldโลก that we liveมีชีวิต in todayในวันนี้,
7
28000
4000
ซึ่งในหลาย ๆ แง่มุม มันมีส่วนช่วย
ให้เกิดโลกในแบบที่เราอยู่ทุกวันนี้
00:57
and particularlyโดยเฉพาะ the kindชนิด of cityเมือง that we liveมีชีวิต in todayในวันนี้.
8
32000
2000
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ในเมืองแบบที่เราอยู่กันทุกวันนี้
00:59
This periodระยะเวลา in 1854, in the middleกลาง partส่วนหนึ่ง of the 19thTH centuryศตวรรษ,
9
34000
4000
ในช่วงปี ค.ศ.1854 กลางศตวรรษที่ 19
01:03
in London'sของกรุงลอนดอน historyประวัติศาสตร์, is incrediblyเหลือเชื่อ interestingน่าสนใจ for a numberจำนวน of reasonsเหตุผล.
10
38000
4000
ตามประวัติศาสตร์ของลอนดอน
มันน่าสนใจมาก ๆ ด้วยเหตุผลหลายประการ
01:07
But I think the mostมากที่สุด importantสำคัญ one is that
11
42000
3000
แต่ที่ผมคิดว่าสำคัญที่สุดก็คือ
01:10
Londonกรุงลอนดอน was this cityเมือง of 2.5 millionล้าน people,
12
45000
3000
ลอนดอนเป็นเมืองที่มีประชากรถึง 2.5 ล้านคน
01:13
and it was the largestใหญ่ที่สุด cityเมือง on the faceใบหน้า of the planetดาวเคราะห์ at that pointจุด.
13
48000
5000
ถือเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลกในเวลานั้น
01:18
But it was alsoด้วย the largestใหญ่ที่สุด cityเมือง that had ever been builtสร้างขึ้น.
14
53000
2000
แถมยังใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีการสร้างมา
01:20
And so the Victoriansวิกตอเรีย were tryingพยายาม to liveมีชีวิต throughตลอด
15
55000
3000
ชาววิคตอเรียนในยุคนั้นได้พยายามเอาชีวิตรอด
01:23
and simultaneouslyพร้อมกัน inventคิดค้น a wholeทั้งหมด newใหม่ scaleขนาด of livingการดำรงชีวิต:
16
58000
4000
ขณะเดียวกันก็ได้ยกระดับการใช้ชีวิต
ไปอีกระดับหนึ่ง
01:27
this scaleขนาด of livingการดำรงชีวิต that we, you know, now call "metropolitanนครบาล livingการดำรงชีวิต."
17
62000
4000
ไปสู่สิ่งที่ปัจจุบันเราเรียกมันว่า
"การใช้ชีวิตในมหานคร"
01:32
And it was in manyจำนวนมาก waysวิธี, at this pointจุด in the mid-กลาง1850s, a completeสมบูรณ์ disasterภัยพิบัติ.
18
67000
6000
และในหลาย ๆ มุมมอง วิถีชีวิตแบบนี้
ถือเป็นหายนะอย่างแท้จริงในกลางยุค 1850
01:38
They were basicallyเป็นพื้น a cityเมือง livingการดำรงชีวิต with a modernทันสมัย kindชนิด of industrialด้านอุตสาหกรรม metropolisมหานคร
19
73000
4000
โดยพื้นฐานแล้ว พวกมันคือเมืองที่อยู่คู่ขนาน
กับเมืองอุตสาหกรรมสมัยใหม่
01:42
with an Elizabethanลิซาเบ ธ publicสาธารณะ infrastructureโครงสร้างพื้นฐาน.
20
77000
3000
ที่มีระบบสาธารณูปโภคในแบบยุคอลิซาเบธ
01:45
So people, for instanceตัวอย่าง, just to grossทั้งหมด you out for a secondที่สอง,
21
80000
5000
ผู้คนเหล่านั้น
ออกจะน่าขยะแขยงสักหน่อยนะครับ
01:50
had cesspoolscesspools of humanเป็นมนุษย์ wasteของเสีย in theirของพวกเขา basementชั้นใต้ดิน. Like, a footเท้า to two feetฟุต deepลึก.
22
85000
6000
ชาวเมืองจะมีส้วมซึมสำหรับสิ่งปฏิกูล
ที่ใต้ถุนบ้าน ลึกลงไป 1-2ฟุต
01:56
And they would just kindชนิด of throwโยน the bucketsบุ้งกี๋ down there
23
91000
3000
พวกเขาก็เทของเสียลงไปตรงนั้น
01:59
and hopeหวัง that it would somehowอย่างใด go away,
24
94000
2000
แล้วหวังว่ามันจะสลายไปเอง
02:01
and of courseหลักสูตร it never really would go away.
25
96000
3000
แน่นอนว่า มันไม่หายไปไหนหรอก
02:04
And all of this stuffสิ่ง, basicallyเป็นพื้น, had accumulatedสะสม to the pointจุด
26
99000
3000
ของเสียเหล่านั้นได้สะสมจนถึงจุดที่
02:07
where the cityเมือง was incrediblyเหลือเชื่อ offensiveน่ารังเกียจ to just walkเดิน around in.
27
102000
4000
แค่เดินอยู่ในเมืองก็รู้สึกขยะแขยงแล้ว
02:11
It was an amazinglyที่น่าอัศจรรย์ใจ smellyเหม็น cityเมือง. Not just because of the cesspoolscesspools,
28
106000
4000
มันเป็นเมืองที่เน่าเหม็นสุด ๆ
ไม่เพียงแค่จากส้วมซึมพวกนั้น
02:15
but alsoด้วย the sheerเลี่ยง numberจำนวน of livestockปศุสัตว์ in the cityเมือง would shockช็อก people.
29
110000
3000
แต่ยังมีสัตว์เลี้ยงจำนวนมาก
ที่อาจจะทำให้ผู้คนตะลึง
02:18
Not just the horsesม้า, but people had cowsวัว in theirของพวกเขา atticsห้องใต้หลังคา that they would use for milkนม,
30
113000
4000
ไม่เพียงแค่ม้า
แต่ยังมีวัวสำหรับรีดนมในห้องใต้หลังคา
02:22
that they would hoistชัก up there and keep them in the atticห้องเพดาน
31
117000
3000
ที่ถูกพาขึ้นไปเลี้ยงไว้บนนั้น
02:25
untilจนกระทั่ง literallyอย่างแท้จริง theirของพวกเขา milkนม ranวิ่ง out and they diedเสียชีวิต,
32
120000
2000
จนกว่านมมันจะหมดและตาย
02:27
and then they would dragลาก them off to the boneกระดูก boilersหม้อไอน้ำ down the streetถนน.
33
122000
6000
จากนั้นพวกเขาก็จะลากมัน
ไปส่งไปให้โรงงานต้มกระดูกที่อยู่ใกล้ ๆ
02:33
So, you would just walkเดิน around Londonกรุงลอนดอน at this pointจุด
34
128000
3000
ถ้าคุณได้ไปเดินในลอนดอน ณ ตอนนั้น
02:36
and just be overwhelmedจม with this stenchกลิ่นเหม็น.
35
131000
3000
ก็จะถูกรุมล้อมด้วยกลิ่นเหม็นตลบอบอวนไปหมด
02:39
And what endedสิ้นสุดวันที่ up happeningสิ่งที่เกิดขึ้น is that an entireทั้งหมด emergingฉุกเฉิน publicสาธารณะ healthสุขภาพ systemระบบ
36
134000
5000
สิ่งที่ตามมาก็คือ
ระบบสาธารณะสุขที่เพิ่งถือกำเนิด
02:44
becameกลายเป็น convincedมั่นใจ that it was the smellกลิ่น that was killingที่ฆ่า everybodyทุกคน,
37
139000
4000
เชื่อว่า มันเป็นเพราะกลิ่นนี่แหละ
ที่ทำให้ผู้คนล้มตาย
02:48
that was creatingการสร้าง these diseasesโรค
38
143000
2000
ที่เป็นต้นเหตุของโรคภัยต่าง ๆ
02:50
that would wipeเช็ด throughตลอด the cityเมือง everyทุกๆ threeสาม or fourสี่ yearsปี.
39
145000
3000
ซึ่งระบาดไปทั่วเป็นประจำทุก ๆ 3 หรือ 4 ปี
02:53
And choleraอหิวาตกโรค was really the great killerนักฆ่า of this periodระยะเวลา.
40
148000
2000
และอหิวาตกโรคคือพญามัจจุราชในยุคนั้น
02:55
It arrivedมาถึง in Londonกรุงลอนดอน in 1832, and everyทุกๆ fourสี่ or fiveห้า yearsปี
41
150000
5000
มันมาเยือนกรุงลอนดอนในปีค.ศ.1832
และทุก ๆ 4 หรือ 5 ปี
03:00
anotherอื่น epidemicที่ระบาด would take 10,000, 20,000 people in Londonกรุงลอนดอน
42
155000
4000
การระบาดคร่าชีวิตผู้คน
คราวละ 10,000 หรือ 20,000 คน ในลอนดอน
03:04
and throughoutตลอด the U.K.
43
159000
2000
และทั่วทั้งสหราชอาณาจักร
03:06
And so the authoritiesเจ้าหน้าที่ becameกลายเป็น convincedมั่นใจ that this smellกลิ่น was this problemปัญหา.
44
161000
4000
และในตอนนั้น เจ้าหน้าที่สาธารณสุขก็เชื่อกันจริงจัง
ว่ากลิ่นคือต้นตอของปัญหา
03:10
We had to get ridกำจัด of the smellกลิ่น.
45
165000
2000
และจำเป็นต้องกำจัดกลิ่นให้หมดไป
03:12
And so, in factความจริง, they concoctedconcocted a coupleคู่ of earlyตอนต้น, you know,
46
167000
3000
และ อันที่จริงพวกเขาได้ริเริ่ม
03:15
foundingคำวินิจฉัย public-healthสาธารณสุข interventionsการแทรกแซง in the systemระบบ of the cityเมือง,
47
170000
4000
มาตรการทางสาธารณสุขขึ้น
สำหรับใช้จัดการในเมือง
03:19
one of whichที่ was calledเรียกว่า the "Nuisancesแสบ Actการกระทำ,"
48
174000
2000
หนึ่งในนั้นเรียกว่า "พรบ.เหตุก่อความรำคาญ"
03:21
whichที่ they got everybodyทุกคน as farห่างไกล as they could
49
176000
2000
ที่พยายามให้ชาวเมืองทุกคน
03:23
to emptyว่างเปล่า out theirของพวกเขา cesspoolscesspools and just pourเท all that wasteของเสีย into the riverแม่น้ำ.
50
178000
5000
กำจัดสิ่งปฏิกูลในส้วมซึมของแต่ละบ้าน
โดยนำไปทิ้งในแม่น้ำ
03:28
Because if we get it out of the streetsถนน, it'llมันจะ smellกลิ่น much better,
51
183000
4000
เพราะถ้าเรากำจัดมันออกไปจากถนนได้
ปัญหาเรื่องกลิ่นก็จะดีขึ้น
03:32
and -- oh right, we drinkดื่ม from the riverแม่น้ำ.
52
187000
4000
แล้วก็--ใช่เลย เราดื่มน้ำจากแม่น้ำ
03:36
So what endedสิ้นสุดวันที่ up happeningสิ่งที่เกิดขึ้น, actuallyแท้จริง,
53
191000
2000
ดังนั้นผลที่เกิดขึ้นจริง ๆ ก็คือ
03:38
is they endedสิ้นสุดวันที่ up increasingที่เพิ่มขึ้น the outbreaksการระบาดของโรค of choleraอหิวาตกโรค
54
193000
2000
การระบาดที่เพิ่มมากขึ้นของอหิวาตกโรค
03:40
because, as we now know, choleraอหิวาตกโรค is actuallyแท้จริง in the waterน้ำ.
55
195000
4000
เพราะว่า อหิวาตกโรคนั้น จริง ๆ แล้วมากับน้ำ
03:44
It's a waterborneน้ำ diseaseโรค, not something that's in the airอากาศ.
56
199000
3000
มันเป็นโรคติดต่อทางน้ำ
ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับกลิ่นเลย
03:47
It's not something you smellกลิ่น or inhaleหายใจเข้า; it's something you ingestนำเข้าไปในร่างกาย.
57
202000
3000
มันไม่ได้มากับสิ่งที่คุณสูดดมหรือหายใจ
แต่มันมากับสิ่งที่คุณกิน
03:50
And so one of the foundingคำวินิจฉัย momentsช่วงเวลา of publicสาธารณะ healthสุขภาพ in the 19thTH centuryศตวรรษ
58
205000
4000
ดังนั้นหนึ่งในการวางรากฐานระบบสาธารณสุข
ในศตวรรษที่ 19
03:54
effectivelyมีประสิทธิภาพ poisonedวางยาพิษ the waterน้ำ supplyจัดหา of Londonกรุงลอนดอน much more effectivelyมีประสิทธิภาพ
59
209000
4000
จึงกลายเป็นการวางยาพิษ
ในแหล่งน้ำของลอนดอนอย่างได้ผลชะงัดนัก
03:58
than any modernทันสมัย day bioterroristชีวภาพ could have ever dreamedฝัน of doing.
60
213000
3000
มากกว่าที่ผู้ก่อการร้ายใด ๆ ในยุคปัจจุบัน
เคยคิดฝันว่าจะทำได้
04:01
So this was the stateสถานะ of Londonกรุงลอนดอน in 1854,
61
216000
4000
และนี่ก็คือ มหานครลอนดอนในปี ค.ศ.1854
04:05
and in the middleกลาง of all this carnageการสังหาร and offensiveน่ารังเกียจ conditionsเงื่อนไข,
62
220000
6000
และท่ามกลางสภาพอันเลวร้ายและน่าขยะแขยง
04:11
and in the midstท่ามกลาง of all this scientificวิทยาศาสตร์ confusionความสับสน
63
226000
3000
และท่ามกลางความไม่รู้และสับสน
04:14
about what was actuallyแท้จริง killingที่ฆ่า people,
64
229000
3000
ว่าอะไรกันแน่เป็นสาเหตุที่คร่าชีวิตผู้คน
04:17
it was a very talentedมีความสามารถ classicคลาสสิก 19thTH centuryศตวรรษ multi-disciplinarianหลายวินัย namedชื่อ Johnจอห์น Snowหิมะ,
65
232000
6000
ก็ได้มีชายผู้มากความสามารถที่รอบรู้ในหลาย
สาขาวิชาแบบคนในยุคนั้น ชื่อ จอห์น สโนว์
04:23
who was a localในประเทศ doctorคุณหมอ in Sohoโซโห in Londonกรุงลอนดอน,
66
238000
3000
ซึ่งทำงานเป็นแพทย์ในย่านโซโห กรุงลอนดอน
04:26
who had been arguingการโต้เถียง for about fourสี่ or fiveห้า yearsปี
67
241000
2000
ผู้ซึ่งได้โต้แย้งต่อเนื่องมาตลอดสี่หรือห้าปี
04:28
that choleraอหิวาตกโรค was, in factความจริง, a waterborneน้ำ diseaseโรค,
68
243000
3000
ว่าจริง ๆ แล้ว อหิวาตกโรค
เป็นโรคติดต่อทางน้ำ
04:31
and had basicallyเป็นพื้น convincedมั่นใจ nobodyไม่มีใคร of this.
69
246000
3000
แต่ก็แทบจะไม่มีใครฟังเขาเลย
04:34
The publicสาธารณะ healthสุขภาพ authoritiesเจ้าหน้าที่ had largelyส่วนใหญ่ ignoredละเว้น what he had to say.
70
249000
4000
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพิกเฉย
ต่อสิ่งที่เขาเสนอ
04:38
And he'dเขาต้องการ madeทำ the caseกรณี in a numberจำนวน of papersเอกสาร and doneเสร็จแล้ว a numberจำนวน of studiesการศึกษา,
71
253000
4000
เขาได้พยายามพิสูจน์ด้วยเอกสารหลายชิ้น
ทั้งได้ลงมือทำการศึกษาหลายครั้ง
04:42
but nothing had really stuckติดอยู่.
72
257000
2000
แต่ก็ไม่ได้อะไรได้เป็นชิ้นเป็นอัน
04:44
And partส่วนหนึ่ง of -- what's so interestingน่าสนใจ about this storyเรื่องราว to me
73
259000
2000
สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คือ
04:46
is that in some waysวิธี, it's a great caseกรณี studyศึกษา in how culturalด้านวัฒนธรรม changeเปลี่ยนแปลง happensที่เกิดขึ้น,
74
261000
5000
มันตัวอย่างชั้นดีที่แสดงถึง
การเกิดการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรม
04:51
how a good ideaความคิด eventuallyในที่สุด comesมา to winชนะ out over much worseแย่ลง ideasความคิด.
75
266000
5000
การที่แนวคิดดี ๆได้กลายมาเป็นที่ยอมรับ
และเอาชนะแนวคิดแย่ ๆ
04:56
And Snowหิมะ laboredลำบาก for a long time with this great insightข้อมูลเชิงลึก that everybodyทุกคน ignoredละเว้น.
76
271000
4000
และความอุตสาหะอย่างไม่ลดละ กอปรกับวิสัยทัศน์
ของสโนว์ที่ไม่มีใครเห็นคุณค่าในเวลานั้น
05:00
And then on one day, Augustสิงหาคม 28thTH of 1854,
77
275000
5000
และแล้วในวันที่ 28 สิงหาคม ค.ศ.1854
05:05
a youngหนุ่มสาว childเด็ก, a five-month-oldห้าเดือนเก่า girlสาว whoseใคร first nameชื่อ we don't know,
78
280000
4000
เด็กหญิงวัยห้าเดือนคนหนึ่งที่เราไม่ทราบชื่อจริง
05:09
we know her only as Babyทารก Lewisลูอิส, somehowอย่างใด contractedกิ่ว choleraอหิวาตกโรค,
79
284000
4000
เรารู้จักกันแต่ในชื่อ เบบี้ ลูอิส
ได้ติดเชื้ออหิวาตกโรค
05:13
cameมา down with choleraอหิวาตกโรค at 40 Broadกว้าง Streetถนน.
80
288000
3000
และล้มป่วยอยู่ที่บ้านเลขที่ 40
ถนนบรอดสตรีท
05:16
You can't really see it in this mapแผนที่, but this is the mapแผนที่
81
291000
3000
คุณอาจมองไม่เห็นในแผนที่นี้หรอก
แต่มันก็เป็นแผนที่
05:19
that becomesกลายเป็น the centralศูนย์กลาง focusโฟกัส in the secondที่สอง halfครึ่ง of my bookหนังสือ.
82
294000
5000
ที่ได้กลายมาเป็นศูนย์กลางของเรื่อง
ในครึ่งหลังของหนังสือผม
05:24
It's in the middleกลาง of Sohoโซโห, in this workingการทำงาน classชั้น neighborhoodย่าน,
83
299000
2000
มันอยู่ในย่านผู้ใช้แรงงาน กลางโซโห
05:26
this little girlสาว becomesกลายเป็น sickป่วย and it turnsผลัดกัน out that the cesspoolส้วมซึม,
84
301000
4000
เด็กหญิงตัวน้อยได้ล้มป่วยลง
และปรากฏว่าส้วมซึมนั้น
05:30
that they still continueต่อ to have, despiteแม้จะมี the Nuisancesแสบ Actการกระทำ,
85
305000
3000
ซึ่งยังคงมีใช้กันอยู่
แม้ว่าจะมี พรบ.เหตุก่อความรำคาญ
05:33
borderedเป้ on an extremelyอย่างมาก popularเป็นที่นิยม waterน้ำ pumpปั๊ม,
86
308000
4000
ตั้งอยู่รอบปั๊มน้ำที่มีคนมาใช้มากมาย
05:37
localในประเทศ wateringการรดน้ำ holeรู that was well knownที่รู้จักกัน for the bestดีที่สุด waterน้ำ in all of Sohoโซโห,
87
312000
4000
บ่อน้ำท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อว่าดีที่สุด
ในย่านโซโหนั้น
05:41
that all the residentsที่อาศัยอยู่ใน from Sohoโซโห and the surroundingที่ล้อมรอบ neighborhoodsละแวกใกล้เคียง would go to.
88
316000
4000
ผู้อยู่อาศัยแถบนั้นทั้งจากย่านโซโห
และท้องที่ข้างเคียงมักมาใช้บริการ
05:45
And so this little girlสาว inadvertentlyโดยไม่ตั้งใจ endedสิ้นสุดวันที่ up
89
320000
3000
และโดยไม่ได้ตั้งใจ
เด็กหญิงผู้นี้จึงลงเอย
05:48
contaminatingการปนเปื้อน the waterน้ำ in this popularเป็นที่นิยม pumpปั๊ม,
90
323000
2000
ด้วยการทำให้น้ำในบ่อปนเปื้อน
05:50
and one of the mostมากที่สุด terrifyingน่าสะพรึงกลัว outbreaksการระบาดของโรค in the historyประวัติศาสตร์ of Englandอังกฤษ
91
325000
6000
และการระบาดที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่ง
ในประวัติศาสตร์อังกฤษ
05:56
eruptedปะทุขึ้น about two or threeสาม daysวัน laterต่อมา.
92
331000
2000
จึงเกิดขึ้นสองหรือสามวันหลังจากนั้น
05:58
Literallyอย่างแท้จริง, 10 percentเปอร์เซ็นต์ of the neighborhoodย่าน diedเสียชีวิต in sevenเจ็ด daysวัน,
93
333000
4000
ราว 10% ของผู้อาศัยแถบนั้นตายภายใน 7 วัน
06:02
and much more would have diedเสียชีวิต if people hadn'tไม่ได้ fledหนี
94
337000
2000
และอาจจะมากกว่านี้อีก
ถ้าผู้คนไม่ได้อพยพหนีไปซะก่อน
06:04
after the initialแรกเริ่ม outbreakการระบาดของโรค kickedเตะ in.
95
339000
3000
หลังจากการระบาดระลอกแรก
06:07
So it was this incrediblyเหลือเชื่อ terrifyingน่าสะพรึงกลัว eventเหตุการณ์.
96
342000
2000
มันเป็นเหตุการณ์น่าสยดสยองจริง ๆ
06:09
You had these scenesฉาก of entireทั้งหมด familiesครอบครัว dyingเฮือกสุดท้าย
97
344000
3000
คุณจะเห็นฉากที่คนทั้งครอบครัว
ตายเนื่องด้วยอหิวาตกโรค
06:12
over the courseหลักสูตร of 48 hoursชั่วโมง of choleraอหิวาตกโรค,
98
347000
2000
ภายในเวลาแค่ 48 ชั่วโมง
06:14
aloneคนเดียว in theirของพวกเขา one-roomหนึ่งห้อง apartmentsพาร์ทเมนท์, in theirของพวกเขา little flatsแฟลต.
99
349000
5000
ตายอย่างโดดเดี่ยวในอพาร์ทเมนส์ห้องเดี่ยว
ในแฟลตเล็ก ๆ ของพวกเขา
06:19
Just an extraordinaryวิสามัญ, terrifyingน่าสะพรึงกลัว sceneฉาก.
100
354000
3000
มันเป็นภาพที่น่าสยดสยองจริง ๆ
06:22
Snowหิมะ livedอาศัยอยู่ nearใกล้ there, heardได้ยิน about the outbreakการระบาดของโรค,
101
357000
4000
สโนว์ที่พักอาศัยอยู่ใกล้ ๆ บริเวณนั้น
ได้ยินเรื่องเกี่ยวกับการระบาด
06:26
and in this amazingน่าอัศจรรย์ actการกระทำ of courageความกล้าหาญ wentไป directlyโดยตรง into the bellyท้อง of the beastสัตว์ป่า
102
361000
3000
และด้วยความกล้าหาญที่น่านับถือ
เขาได้รีบรุดไปยังศูนย์กลางการแพร่ระบาด
06:29
because he thought an outbreakการระบาดของโรค that concentratedจดจ่อ
103
364000
3000
เพราะคิดว่าการแพร่ระบาดที่กระจุกตัวอยู่
06:32
could actuallyแท้จริง potentiallyที่อาจเกิดขึ้น endปลาย up convincingน่าเชื่อ people that,
104
367000
4000
อาจจะทำให้ผู้คนหันมาเชื่อว่า
06:36
in factความจริง, the realจริง menaceการคุกคาม of choleraอหิวาตกโรค was in the waterน้ำ supplyจัดหา and not in the airอากาศ.
105
371000
6000
อันที่จริงแล้ว อันตรายที่แท้จริงนั้น
อยู่ที่แหล่งน้ำกินน้ำใช้ ไม่ใช่ในอากาศ
06:42
He suspectedสงสัยว่า an outbreakการระบาดของโรค that concentratedจดจ่อ
106
377000
2000
เขาสงสัยว่าการแพร่ระบาดลักษณะกระจุกตัวนี้
06:44
would probablyอาจ involveรวมถึง a singleเดียว pointจุด sourceแหล่ง.
107
379000
4000
อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับแหล่งกำเนิดเพียงจุดเดียว
06:48
One singleเดียว thing that everybodyทุกคน was going to
108
383000
2000
ที่หนึ่งที่ทุก ๆ คนจะต้องไป
06:50
because it didn't have the traditionalแบบดั้งเดิม slowerช้าลง pathเส้นทาง
109
385000
3000
เพราะการติดเชื้อไม่ได้มีลักษณะค่อยเป็นค่อยไป
06:53
of infectionsการติดเชื้อ that you mightอาจ expectคาดหวัง.
110
388000
3000
ตามแบบดั้งเดิมอย่างที่คุณคิด
06:56
And so he wentไป right in there and startedเริ่มต้น interviewingสัมภาษณ์ people.
111
391000
3000
เขาจึงไปที่นั่นและเริ่มซักถามผู้คน
06:59
He eventuallyในที่สุด enlistedที่เกณฑ์ the help of this amazingน่าอัศจรรย์ other figureรูป,
112
394000
4000
เขาได้ไปขอความช่วยเหลือจากคนสำคัญคนหนึ่ง
07:03
who'sใคร kindชนิด of the other protagonistตัวเอก of the bookหนังสือ --
113
398000
2000
ซึ่งถือเป็นตัวเอกอีกคนในหนังสือผม
07:05
this guy, Henryเฮนรี่ Whiteheadเฮด, who was a localในประเทศ ministerรัฐมนตรี,
114
400000
3000
ชายคนนี้คือ เฮนรี ไวท์เฮด
ซึ่งเป็นผู้นำศาสนาระดับท้องถิ่น
07:08
who was not at all a man of scienceวิทยาศาสตร์, but was incrediblyเหลือเชื่อ sociallyสังคม connectedเกี่ยวข้อง;
115
403000
3000
ผู้ซึ่งไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์
แต่ว่ารู้จักผู้คนอย่างกว้างขวาง
07:11
he knewรู้ว่า everybodyทุกคน in the neighborhoodย่าน.
116
406000
2000
เขารู้จักทุกคนในท้องที่แถบนั้น
07:13
And he managedการบริหารจัดการ to trackลู่ down, Whiteheadเฮด did,
117
408000
2000
ไวท์เฮดสืบสาวไปจนรู้ว่า
07:15
manyจำนวนมาก of the casesกรณี of people who had drunkเมา waterน้ำ from the pumpปั๊ม,
118
410000
3000
ใครบ้างที่ได้ดื่มน้ำจากปั๊ม
07:18
or who hadn'tไม่ได้ drunkเมา waterน้ำ from the pumpปั๊ม.
119
413000
2000
และ ใครบ้างที่ไม่ได้ดื่มจากปั๊ม
07:20
And eventuallyในที่สุด Snowหิมะ madeทำ a mapแผนที่ of the outbreakการระบาดของโรค.
120
415000
5000
ซึ่งในที่สุด สโนว์ก็ทำแผนที่
การแพร่ระบาดของโรค ได้เป็นผลสำเร็จ
07:25
He foundพบ increasinglyขึ้น that people who drankดื่ม from the pumpปั๊ม were gettingได้รับ sickป่วย.
121
420000
3000
เขาพบว่ามีคนจำนวนมาก
ที่ได้ดื่มน้ำจากปั๊มแล้วล้มป่วย
07:28
People who hadn'tไม่ได้ drunkเมา from the pumpปั๊ม were not gettingได้รับ sickป่วย.
122
423000
3000
ส่วนคนที่ไม่ได้ดื่มจากปั๊มกลับไม่เป็นไร
07:31
And he thought about representingเป็นตัวแทนของ that
123
426000
2000
และเขาคิดจะแสดงสิ่งที่พบนั้นออกมา
07:33
as a kindชนิด of a tableตาราง of statisticsสถิติ of people livingการดำรงชีวิต in differentต่าง neighborhoodsละแวกใกล้เคียง,
124
428000
3000
ในรูปแบบตารางสถิติ
ตามท้องที่ที่คนเหล่านั้นอาศัยอยู่
07:36
people who hadn'tไม่ได้, you know, percentagesเปอร์เซ็นต์ of people who hadn'tไม่ได้,
125
431000
2000
ใครบ้างที่ไม่ได้ดื่ม
เปอร์เซ็นต์ของคนที่ไม่ได้ดื่ม
07:38
but eventuallyในที่สุด he hitตี uponเมื่อ the ideaความคิด
126
433000
2000
แต่แล้วเขาก็ได้ความคิดว่า
07:40
that what he neededจำเป็น was something that you could see.
127
435000
2000
สิ่งที่เขาต้องการก็คือ
สิ่งที่สามารถมองเห็นได้ชัด
07:42
Something that would take in a senseความรู้สึก a higher-levelระดับที่สูงขึ้น viewดู
128
437000
2000
สิ่งที่จะทำให้เห็นถึงภาพรวม
07:44
of all this activityกิจกรรม that had been happeningสิ่งที่เกิดขึ้น in the neighborhoodย่าน.
129
439000
3000
ของเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในชุมชนนั้น
07:47
And so he createdสร้าง this mapแผนที่,
130
442000
3000
และเขาก็ได้สร้างแผนที่นี้ขึ้นมา
07:50
whichที่ basicallyเป็นพื้น endedสิ้นสุดวันที่ up representingเป็นตัวแทนของ all the deathsการเสียชีวิต in the neighborhoodsละแวกใกล้เคียง
131
445000
4000
ซึ่งก็เป็นการแสดง
จำนวนคนตายทั้งหมดในท้องที่นั้น
07:54
as blackสีดำ barsราว at eachแต่ละ addressที่อยู่.
132
449000
3000
ด้วยแถบสีดำในแต่ละบ้าน
07:57
And you can see in this mapแผนที่, the pumpปั๊ม right at the centerศูนย์ of it
133
452000
3000
ในแผนที่นี้ จะเห็นได้ว่ามีปั๊มน้ำนั้นอยู่ตรงกลาง
08:00
and you can see that one of the residencesที่อยู่อาศัย down the way
134
455000
2000
และจะเห็นว่าบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ใกล้ ๆ
08:02
had about 15 people deadตาย.
135
457000
2000
มีคนตายไป 15 ราย
08:04
And the mapแผนที่ is actuallyแท้จริง a little bitบิต biggerที่ใหญ่กว่า.
136
459000
2000
แผนที่นี้จริง ๆ แล้วมีขนาดใหญ่กว่านี้นิดหน่อย
08:06
As you get furtherต่อไป and furtherต่อไป away from the pumpปั๊ม,
137
461000
2000
ยิ่งห่างออกไปจากปั๊มน้ำมากเท่าไร
08:08
the deathsการเสียชีวิต beginเริ่ม to growเจริญ lessน้อยกว่า and lessน้อยกว่า frequentบ่อย.
138
463000
3000
จำนวนคนตายก็จะค่อย ๆ ลดลงไปเรื่อย ๆ
08:11
And so you can see this something poisonousเป็นพิษ
139
466000
3000
คุณจะเห็นได้ว่ามีอะไรบางอย่างที่เป็นพิษ
08:14
emanatingเล็ดลอดออกมา out of this pumpปั๊ม that you could see in a glanceเหลือบมอง.
140
469000
4000
แพร่กระจายออกมาจากปั๊มน้ำนั่นอย่างที่คุณเห็น
08:18
And so, with the help of this mapแผนที่,
141
473000
2000
และด้วยความช่วยเหลือจากแผนที่อันนี้
08:20
and with the help of more evangelizingประกาศข่าวประเสริฐ
142
475000
2000
ด้วยการช่วยโน้มน้าวมากขึ้น
08:22
that he did over the nextต่อไป fewน้อย yearsปี
143
477000
2000
ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาทำต่อไปอีกในสองสามปีถัดจากนั้น
08:24
and that Whiteheadเฮด did, eventuallyในที่สุด, actuallyแท้จริง,
144
479000
2000
รวมทั้งไวท์เฮดก็ด้วย ในท้ายที่สุด
08:26
the authoritiesเจ้าหน้าที่ slowlyช้า startedเริ่มต้น to come around.
145
481000
2000
เจ้าหน้าที่สาธารณสุข
ก็ค่อย ๆ เริ่มเปลี่ยนความคิด
08:28
It tookเอา much longerอีกต่อไป than sometimesบางครั้ง we like to think in this storyเรื่องราว,
146
483000
3000
เรื่องนี้ มันใช้เวลานานกว่าที่คิด
08:31
but by 1866, when the nextต่อไป bigใหญ่ choleraอหิวาตกโรค outbreakการระบาดของโรค cameมา to Londonกรุงลอนดอน,
147
486000
5000
แต่ในปี ค.ศ.1866 เมื่อเกิดการระบาด
ของอหิวาตกโรคครั้งใหญ่อีกครั้งในลอนดอน
08:36
the authoritiesเจ้าหน้าที่ had been convincedมั่นใจ -- in partส่วนหนึ่ง because of this storyเรื่องราว,
148
491000
4000
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ถูกทำให้เชื่อ --
บางส่วนเพราะเรื่องนี้
08:40
in partส่วนหนึ่ง because of this mapแผนที่ -- that in factความจริง the waterน้ำ was the problemปัญหา.
149
495000
4000
บางส่วนก็เพราะแผนที่นี้ --
ว่าจริง ๆ แล้วน้ำคือตัวปัญหา
08:44
And they had alreadyแล้ว startedเริ่มต้น buildingอาคาร the sewersท่อระบายน้ำ in Londonกรุงลอนดอน,
150
499000
2000
และพวกเขาได้เริ่มสร้างท่อระบายน้ำในลอนดอน
เอาไว้แล้ว
08:46
and they immediatelyทันที wentไป to this outbreakการระบาดของโรค
151
501000
2000
แล้วทันทีที่เกิดการระบาดนี้ขึ้นมา
08:48
and they told everybodyทุกคน to startเริ่มต้น boilingการต้ม theirของพวกเขา waterน้ำ.
152
503000
2000
พวกเขาแจ้งให้ชาวบ้านทุกคนต้มน้ำที่ใช้
08:50
And that was the last time that Londonกรุงลอนดอน has seenเห็น a choleraอหิวาตกโรค outbreakการระบาดของโรค sinceตั้งแต่.
153
505000
5000
และนั่นก็เป็นครั้งสุดท้ายที่ลอนดอน
ต้องพบกับการระบาดของอหิวาตกโรค
08:55
So, partส่วนหนึ่ง of this storyเรื่องราว, I think -- well, it's a terrifyingน่าสะพรึงกลัว storyเรื่องราว,
154
510000
3000
ผมว่าบางส่วนของเรื่องนี้ -- ก็ดูน่ากลัว
08:58
it's a very darkมืด storyเรื่องราว and it's a storyเรื่องราว
155
513000
2000
เต็มไปด้วยความมืดมน แต่มันก็เป็นเรื่องราว
09:00
that continuesอย่างต่อเนื่อง on in manyจำนวนมาก of the developingที่กำลังพัฒนา citiesเมือง of the worldโลก.
156
515000
4000
ที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในเมืองที่กำลังพัฒนาหลายแห่งในโลก
09:04
It's alsoด้วย a storyเรื่องราว really that is fundamentallyลึกซึ้ง optimisticในแง่ดี,
157
519000
3000
มันยังเป็นเรื่องที่โดยพื้นฐานแล้ว
เป็นการมองโลกในแง่ดี
09:07
whichที่ is to say that it's possibleเป็นไปได้ to solveแก้ these problemsปัญหาที่เกิดขึ้น
158
522000
3000
ซึ่งเป็นการบอกว่า
มันมีทางที่จะแก้ปัญหาเหล่านี้เสมอ
09:10
if we listen to reasonเหตุผล, if we listen to the kindชนิด of wisdomความฉลาด of these kindsชนิด of mapsแผนที่,
159
525000
4000
ถ้าเรารับฟังเหตุผล
ถ้าเราฟังสิ่งที่แผนที่นี้ได้สื่อออกมา
09:14
if we listen to people like Snowหิมะ and Whiteheadเฮด,
160
529000
2000
ถ้าเราฟังคนอย่าง สโนว์ และ ไวท์เฮด
09:16
if we listen to the localsชาวบ้าน who understandเข้าใจ
161
531000
2000
ถ้าเราฟังคนในท้องที่ผู้ซึ่งเข้าใจว่า
09:18
what's going on in these kindsชนิด of situationsสถานการณ์.
162
533000
3000
ว่ามันกำลังเกิดอะไรขึ้นในเหตุการณ์แบบนี้
09:21
And what it endedสิ้นสุดวันที่ up doing is makingการทำ the ideaความคิด
163
536000
3000
และท้ายที่สุดเรื่องนี้ทำให้เกิดแนวคิด
09:24
of large-scaleขนาดใหญ่ metropolitanนครบาล livingการดำรงชีวิต a sustainableที่ยั่งยืน one.
164
539000
4000
เกี่ยวกับการทำให้มหานครขนาดใหญ่นั้น
มีความยั่งยืน
09:28
When people were looking at 10 percentเปอร์เซ็นต์ of theirของพวกเขา neighborhoodsละแวกใกล้เคียง dyingเฮือกสุดท้าย
165
543000
3000
เมื่อผู้คนเห็นกับตาว่าคนในชุมชน
กว่า 10% ล้มตายลง
09:31
in the spaceช่องว่าง of sevenเจ็ด daysวัน,
166
546000
2000
ในชั่วเวลาแค่เจ็ดวัน
09:33
there was a widespreadแพร่หลาย consensusเอกฉันท์ that this couldn'tไม่สามารถ go on,
167
548000
3000
มันก็เกิดความเห็นพ้องต้องกันว่า
สิ่งนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นอีก
09:36
that people weren'tเขาไม่ได้ meantความหมาย to liveมีชีวิต in citiesเมือง of 2.5 millionล้าน people.
168
551000
4000
ผู้คนไม่ควรจะต้องอยู่อาศัยในเมือง
ที่มีประชากรกว่า 2.5 ล้านคน
09:40
But because of what Snowหิมะ did, because of this mapแผนที่,
169
555000
2000
แต่เพราะสิ่งที่สโนว์ทำ เพราะแผนที่อันนี้
09:42
because of the wholeทั้งหมด seriesชุด of reformsการปฏิรูป
170
557000
2000
เพราะการปรับปรุงแก้ไขทั้งหมดทั้งมวลนี้
09:44
that happenedที่เกิดขึ้น in the wakeปลุก of this mapแผนที่,
171
559000
2000
ที่เป็นผลจากการเกิดแผนที่อันนี้
09:46
we now take for grantedรับ that citiesเมือง have 10 millionล้าน people,
172
561000
4000
ทำให้ตอนนี้พวกเราอยู่ในเมือง
ที่มีประชากรถึง10 ล้านคน ได้อย่างไม่ต้องคิดมาก
09:50
citiesเมือง like this one are in factความจริง sustainableที่ยั่งยืน things.
173
565000
2000
เมืองที่คล้ายกันนี้ จริง ๆ แล้ว เป็นเมืองที่ยั่งยืน
09:52
We don't worryกังวล that Newใหม่ Yorkนิวยอร์ก Cityเมือง is going to collapseล่มสลาย in on itselfตัวเอง
174
567000
3000
พวกเราไม่กังวลว่านครนิวยอร์กจะล่มสลายไปเอง
09:55
quiteทีเดียว the way that, you know, Romeกรุงโรม did,
175
570000
2000
เหมือนแบบที่เกิดกับกรุงโรมโบราณ
09:57
and be 10 percentเปอร์เซ็นต์ of its sizeขนาด in 100 yearsปี or 200 yearsปี.
176
572000
3000
และมีขนาดเพียง 10 เปอร์เซ็นต์
ในอีก 100 หรือ 200 ปีจากนี้
10:00
And so that in a way is the ultimateที่สุด legacyมรดก of this mapแผนที่.
177
575000
3000
และในแง่มุมหนึ่ง
นั่นเป็นมรดกที่สำคัญจากแผนที่อันนี้
10:03
It's a mapแผนที่ of deathsการเสียชีวิต that endedสิ้นสุดวันที่ up creatingการสร้าง a wholeทั้งหมด newใหม่ way of life,
178
578000
5000
มันเป็นแผนที่คนตาย
ที่ให้กำเนิดวิถีชีวิตแบบใหม่ขึ้นมา
10:08
the life that we're enjoyingเพลิดเพลินกับ here todayในวันนี้. Thank you very much.
179
583000
3000
ชีวิตในแบบที่เราดำเนินกันอยู่ในปัจจุบัน
ขอบคุณมากครับ

▲Back to top

ABOUT THE SPEAKER
Steven Johnson - Writer
Steven Berlin Johnson examines the intersection of science, technology and personal experience.

Why you should listen

Steven Johnson is a leading light of today's interdisciplinary and collaborative approach to innovation. His writings have influenced everything from cutting-edge ideas in urban planning to the battle against 21st-century terrorism. Johnson was chosen by Prospect magazine as one of the top ten brains of the digital future, and The Wall Street Journal calls him "one of the most persuasive advocates for the role of collaboration in innovation."

Johnson's work on the history of innovation inspired the Emmy-nominated six-part series on PBS, "How We Got To Now with Steven Johnson," which aired in the fall of 2014. The book version of How We Got To Now was a finalist for the PEN/E.O. Wilson Literary Science Writing Award. His new book, Wonderland: How Play Made the Modern World, revolves around the creative power of play and delight: ideas and innovations that set into motion many momentous changes in science, technology, politics and society. 

Johnson is also the author of the bestselling Where Good Ideas Come From: The Natural History of Innovation, one of his many books celebrating progress and innovation. Others include The Invention of Air and The Ghost Map. Everything Bad Is Good For You, one of the most discussed books of 2005, argued that the increasing complexity of modern media is training us to think in more complex ways. Emergence and Future Perfect explore the power of bottom-up intelligence in both nature and contemporary society.

An innovator himself, Johnson has co-created three influential sites: the pioneering online magazine FEED, the Webby-Award-winning community site, Plastic.com, and the hyperlocal media site outside.in, which was acquired by AOL in 2011.

Johnson is a regular contributor to WIRED magazine, as well as the New York Times, The Wall Street Journal and many other periodicals. He has appeared on many high-profile television programs, including "The Charlie Rose Show," "The Daily Show with Jon Stewart" and "The NewsHour with Jim Lehrer."


More profile about the speaker
Steven Johnson | Speaker | TED.com

Data provided by TED.

This site was created in May 2015 and the last update was on January 12, 2020. It will no longer be updated.

We are currently creating a new site called "eng.lish.video" and would be grateful if you could access it.

If you have any questions or suggestions, please feel free to write comments in your language on the contact form.

Privacy Policy

Developer's Blog

Buy Me A Coffee