TED2011
David Brooks: The social animal
เดวิด บรู๊คส์: สัตว์สังคม
Filmed:
Readability: 4.6
1,363,457 views
จากการค้นพบในหนังสือเล่มล่าสุดของเขา นักเขียนคอลัมน์ของนิวยอร์คไทม์ เดวิด บรู๊คส์ (David Brooks) เปิดประตูสู่ความเข้าใจใหม่ๆเกี่ยวกับธรรมชาติของมนุษย์ ผ่านทางศาสตร์เกี่ยวกับระบบการเรียนรู้ -- เป็นความเข้าใจที่จะส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์ การเมือง และรวมไปถึงความเข้าใจถึงตัวตนของเราด้วย ในการบรรยายที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขัน เดวิดแสดงให้เห็นว่า มุมมองการศึกษามนุษย์เป็นหน่วยบุคคลที่ตัดสินใจทำอะไรๆตามเหตุผลนั้น ไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด
David Brooks - Op-ed columnist
Writer and thinker David Brooks has covered business, crime and politics over a long career in journalism. Full bio
Writer and thinker David Brooks has covered business, crime and politics over a long career in journalism. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:15
When I got my current job, I was given a good piece of advice,
0
0
3000
ตอนที่ผมตอบรับงานปัจจุบัน มีคนให้คำแนะนำไว้ว่า
00:18
which was to interview three politicians every day.
1
3000
3000
ผมควรสัมภาษณ์นักการเมืองวันละ 3 คน
00:21
And from that much contact with politicians,
2
6000
2000
และเพราะผมได้เจอกับนักการเมืองมากขนาดนั้น
00:23
I can tell you they're all emotional freaks of one sort or another.
3
8000
3000
ผมบอกคุณได้ว่า เขาเป็นโรคจิตวิตถารกันหมด
00:27
They have what I called "logorrhea dementia,"
4
12000
2000
เป็นพวกที่ผมเรียกว่า 'พวกวาจาไหลย้อนเข้าจิต' (logorrhea dementia)
00:29
which is they talk so much they drive themselves insane.
5
14000
3000
ซึ่งแปลว่า เขาพูดมากจนทำให้ตัวเองเป็นบ้า
00:32
(Laughter)
6
17000
2000
(หัวเราะ)
00:34
But what they do have is incredible social skills.
7
19000
3000
แต่สิ่งที่พวกเขามี คือทักษะทางสังคมที่ดีมาก
00:37
When you meet them, they lock into you,
8
22000
2000
เวลาที่คุณเจอเขา เขาจะเข้ามาประกบ
00:39
they look you in the eye,
9
24000
2000
มองตาคุณ
00:41
they invade your personal space,
10
26000
2000
บุกรุกพื้นที่ส่วนตัวของคุณ
00:43
they massage the back of your head.
11
28000
2000
พวกเขานวดท้ายทอยให้คุณ
00:45
I had dinner with a Republican senator several months ago
12
30000
2000
ผมทานข้าวกับ ส.ว. พรรครีพับลิกัน (Republican) เมื่อ 2-3 เดือนก่อน
00:47
who kept his hand on my inner thigh
13
32000
2000
เขาวางมือไว้บนขาอ่อนผม
00:49
throughout the whole meal -- squeezing it.
14
34000
3000
ตลอดมื้ออาหารเลยครับ -- บีบนวดไปเรื่อย
00:52
I once -- this was years ago --
15
37000
2000
มีอยู่ครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน
00:54
I saw Ted Kennedy and Dan Quayle meet in the well of the Senate.
16
39000
2000
ผมเห็น เท็ด เคนนาดี้ (Ted Kennedy) กับ แดน เควล์ (Dan Quayle) เจอกันที่ห้องสภาสูง
00:56
And they were friends, and they hugged each other
17
41000
2000
เขาเป็นเพื่อนกัน ก็เลยกอดกัน
00:58
and they were laughing, and their faces were like this far apart.
18
43000
3000
แล้วก็หัวเราะกัน หน้าเขาสองคนใกล้กันเท่านี้
01:01
And they were moving and grinding
19
46000
2000
เขาโยกย้ายไปมา ถูไถกัน
01:03
and moving their arms up and down each other.
20
48000
2000
และเอามือลูบคลำไปทั่ว
01:05
And I was like, "Get a room. I don't want to see this."
21
50000
3000
จนผมคิดในใจว่า"ไปหาห้องไป๊ ผมไม่อยากเห็น"
01:08
But they have those social skills.
22
53000
2000
แต่พวกเขามีทักษะทางสังคม
01:10
Another case:
23
55000
2000
อีกตัวอย่างนึง
01:12
Last election cycle,
24
57000
2000
การเลือกตั้งครั้งที่แล้ว
01:14
I was following Mitt Romney around New Hampshire,
25
59000
2000
ผมตาม มิตต์ รอมนี่ (Mitt Romney) ไปทั่วรัฐนิวแฮมพ์เชอร์
01:16
and he was campaigning with his five perfect sons:
26
61000
3000
เขากำลังหาเสียงพร้อมๆกับลูกชายผู้สมบูรณ์แบบทั้ง 5
01:19
Bip, Chip, Rip, Zip, Lip and Dip.
27
64000
2000
บิ๊พ ชิพ ริพ ซิพ ลิพ และ ดิ๊พ
01:21
(Laughter)
28
66000
2000
(หัวเราะ)
01:23
And he's going into a diner.
29
68000
2000
พอทีนี้เขากำลังจะเข้าไปในร้านอาหาร
01:25
And he goes into the diner, introduces himself to a family
30
70000
3000
พอเขาเข้าไปในร้าน เขาก็เข้าไปแนะนำตัวกับครอบครัวนึง
01:28
and says, "What village are you from in New Hampshire?"
31
73000
2000
แล้วถามว่า "คุณมาจากหมู่บ้านไหนในนิวแฮมพ์เชอร์"
01:30
And then he describes the home he owned in their village.
32
75000
3000
แล้วเขาก็พูดถึงบ้านของเขาในหมู่บ้านนั้น
01:34
And so he goes around the room,
33
79000
3000
เขาทำอย่างนั้นไปทั่วร้าน
01:37
and then as he's leaving the diner,
34
82000
2000
และก่อนที่เขาจะออกจากร้าน
01:39
he first-names almost everybody he's just met.
35
84000
3000
เขาเรียกชื่อคนเกือบทุกคนที่เพิ่งเจอได้หมด
01:42
I was like, "Okay, that's social skill."
36
87000
2000
ผมก็เลยแบบว่า "โอเค นั่นแหละ ทักษะทางสังคมของแท้"
01:44
But the paradox is,
37
89000
2000
แต่สิ่งที่น่าแปลกคือ
01:46
when a lot of these people slip into the policy-making mode,
38
91000
4000
เมื่อพวกเขาเหล่านี้ต้องไปวางแผนทำนโยบาย
01:50
that social awareness vanishes
39
95000
2000
ความเข้าใจด้านสังคมหายหมด
01:52
and they start talking like accountants.
40
97000
2000
พวกเขาพูดจากันเหมือนนักบัญชี
01:54
So in the course of my career,
41
99000
2000
ดังนั้น ในช่วงการทำงานของผม
01:56
I have covered a series of failures.
42
101000
2000
ก็ได้เขียนถึงความล้มเหลวหลายอย่าง
01:58
We sent economists in the Soviet Union
43
103000
2000
เราส่งนักเศรษฐศาสตร์ไปโซเวียต
02:00
with privatization plans when it broke up,
44
105000
2000
เพื่อส่งเสริมแผนแปรรูปรัฐวิสาหกิจหลังสหภาพล่มสลาย
02:02
and what they really lacked was social trust.
45
107000
3000
แต่สิ่งที่พวกเขาขาด คือความไว้วางใจต่อสังคม
02:05
We invaded Iraq with a military
46
110000
2000
เราบุกรุกอิรักด้วยกองทัพ
02:07
oblivious to the cultural and psychological realities.
47
112000
3000
โดยไม่รู้ถึงความเป็นจริงทางวัฒนธรรมและสภาพจิตวิทยา
02:10
We had a financial regulatory regime
48
115000
2000
เรามีนโยบายกำกับการเงินการธนาคาร
02:12
based on the assumptions
49
117000
2000
บนสมมติฐานที่ว่า
02:14
that traders were rational creatures
50
119000
2000
นักลงทุนใช้ตรรกะใช้เหตุผล
02:16
who wouldn't do anything stupid.
51
121000
2000
พอที่จะไม่ทำอะไรโง่ๆ
02:18
For 30 years, I've been covering school reform
52
123000
3000
30 ปี ที่ผมตามข่าวการปฏิรูประบบการศึกษาพื้นฐาน
02:21
and we've basically reorganized the bureaucratic boxes --
53
126000
3000
สิ่งที่เราทำ ก็แค่เอาระบบราชการแบบเดิมๆมาปะแป้งแต่งตัวใหม่ --
02:24
charters, private schools, vouchers --
54
129000
3000
ให้เป็นโรงเรียนในกำกับของรัฐ โรงเรียนเอกชน โรงเรียนในการรับรองของรัฐ --
02:27
but we've had disappointing results year after year.
55
132000
4000
ผลก็ออกมาทำให้ผิดหวังทุกปี
02:31
And the fact is, people learn from people they love.
56
136000
3000
ความจริงแล้ว คนเราเรียนรู้จากคนที่เรารัก
02:34
And if you're not talking about the individual relationship
57
139000
2000
และคุณไม่ได้พูดถึงความสัมพันธ์ระหว่าง
02:36
between a teacher and a student,
58
141000
2000
ครูกับนักเรียนแต่ละคนแล้ว
02:38
you're not talking about that reality.
59
143000
2000
คุณไม่ได้พูดถึงความเป็นจริง
02:40
But that reality is expunged
60
145000
2000
ความจริงถูกลบออกไป
02:42
from our policy-making process.
61
147000
2000
จากกระบวนการทางการทำนโยบายของเรา
02:44
And so that's led to a question for me:
62
149000
3000
นี่คือจุดเริ่มต้นของคำถามของผม
02:47
Why are the most socially-attuned people on earth
63
152000
3000
ทำไมกลุ่มคนที่ชำนาญด้านสังคมที่สุดในโลก
02:50
completely dehumanized
64
155000
2000
ถึงไร้ความเป็นมนุษย์
02:52
when they think about policy?
65
157000
3000
เมื่อพวกเขาพูดถึงนโยบาย
02:55
And I came to the conclusion,
66
160000
2000
และผมก็สรุปได้ว่า
02:57
this is a symptom of a larger problem.
67
162000
3000
นี่เป็นแค่ส่วนนึงของปัญหาที่ใหญ่กว่านี้
03:00
That, for centuries, we've inherited a view of human nature
68
165000
3000
ซึ่งก็คือ มุมมองที่เรามีต่อธรรมชาติของมนุษย์
03:03
based on the notion
69
168000
2000
บนพื้นฐานที่ว่า
03:05
that we're divided selves,
70
170000
2000
เราแต่ละคนแยกจากกัน
03:07
that reason is separated from the emotions
71
172000
3000
ว่าเหตุผลแยกจากอารมณ์
03:10
and that society progresses
72
175000
2000
และว่าสังคมพัฒนา
03:12
to the extent that reason can suppress the passions.
73
177000
3000
จนถึงขั้นที่เหตุผลกดข่มความรู้สึก
03:15
And it's led to a view of human nature
74
180000
3000
ซึ่งนำมาซึ่งมุมมองถึงธรรมชาติมนุษย์
03:18
that we're rational individuals
75
183000
2000
ว่ามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีตรรกะเหตุผล
03:20
who respond in straightforward ways to incentives,
76
185000
3000
ตอบสนองกับแรงจูงใจอย่างตรงไปตรงมา
03:23
and it's led to ways of seeing the world
77
188000
3000
และสร้างวิธีการมองโลก
03:26
where people try to use the assumptions of physics
78
191000
3000
ที่มีคนพยายามใช้กฏเกณฑ์ทางฟิสิกส์
03:29
to measure how human behavior is.
79
194000
4000
เพื่อวัดพฤติกรรมมนุษย์
03:34
And it's produced a great amputation,
80
199000
2000
นี่คือความสูญเสียครั้งใหญ่
03:36
a shallow view of human nature.
81
201000
3000
เป็นมุมมองอันตื้นเขินต่อธรรมชาติของมนุษย์
03:39
We're really good at talking about material things,
82
204000
2000
พวกเราเก่งเรื่องการพูดถึงเรื่องทางวัตถุ
03:41
but we're really bad at talking about emotions.
83
206000
3000
แต่ไม่ได้เรื่องเลยในการพูดถึงอารมณ์
03:44
We're really good at talking about skills
84
209000
2000
เราเก่งเรื่องการพูดถึงทักษะ
03:46
and safety and health;
85
211000
2000
ความปลอดภัย และสุขภาพ
03:48
we're really bad at talking about character.
86
213000
3000
แต่พูดถึงคุณลักษณะไม่เป็นเอาเสียเลย
03:51
Alasdair MacIntyre, the famous philosopher,
87
216000
3000
แอลอัสแดร์ แม็คอินไทร์ (Alasdair MacIntyre) นักปราชญ์ชื่อดัง
03:54
said that, "We have the concepts of the ancient morality
88
219000
3000
กล่าวว่า "เรารู้จักหลักจรรยาบรรณเก่าแก่
03:57
of virtue, honor, goodness,
89
222000
2000
ว่าด้วยคุณธรรม เกียรติยศ คุณความดี
03:59
but we no longer have a system
90
224000
2000
แต่เราไม่มีระบบ
04:01
by which to connect them."
91
226000
2000
ที่เชื่อมต่อมันแล้ว"
04:03
And so this has led to a shallow path in politics,
92
228000
3000
นี่คือต้นเหตุของแนวทางตื้นๆทางการเมือง
04:06
but also in a whole range of human endeavors.
93
231000
4000
และในสาขาอื่นๆของมนุษย์ด้วย
04:10
You can see it in the way we raise our young kids.
94
235000
3000
มองเห็นได้ในวิธีการเลี้ยงเด็กเล็กๆ
04:13
You go to an elementary school at three in the afternoon
95
238000
3000
ถ้าคุณไปโรงเรียนประถมตอนบ่าย 3
04:16
and you watch the kids come out,
96
241000
2000
แล้วดูเด็กที่เพิ่งเลิกเรียนออกมา
04:18
and they're wearing these 80-pound backpacks.
97
243000
3000
พวกเขาแบกเป้หนัก 80ปอนด์ (36 กิโลกรัม) กันทั้งนั้น
04:21
If the wind blows them over, they're like beetles stuck there on the ground.
98
246000
4000
ถ้าถูกลมพัดล้ม พวกเขาก็เป็นเหมือนตัวด้วงหงายท้อง
04:25
You see these cars that drive up --
99
250000
2000
คุณจะเห็นรถที่มารับ
04:27
usually it's Saabs and Audis and Volvos,
100
252000
3000
ซึ่งมักจะเป็นยี่ห้อซาบ ออดี้ และวอลโว่
04:30
because in certain neighborhoods it's socially acceptable to have a luxury car,
101
255000
3000
เพราะบางย่านนั้น การมีรถหรูๆเป็นที่ยอมรับทางสังคม
04:33
so long as it comes from a country hostile to U.S. foreign policy --
102
258000
3000
ถ้าหากว่านำเข้ามาจากประเทศที่เป็นปรปักษ์กับนโยบายต่างประเทศของเรา
04:36
that's fine.
103
261000
2000
ก็โอเค
04:38
They get picked up by these creatures I've called uber-moms,
104
263000
3000
ผมเรียกคนที่มารับเด็กๆว่า ซูเปอร์แม่
04:41
who are highly successful career women
105
266000
2000
ซึ่งเป็นผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จทางการงานมากๆ
04:43
who have taken time off to make sure all their kids get into Harvard.
106
268000
3000
แต่ตอนนี้ออกจากงาน เพื่อมาเลี้ยงลูกให้ได้เข้าเรียนที่ฮาร์วาร์ดให้ได้
04:46
And you can usually tell the uber-moms
107
271000
2000
คุณดูรู้ว่าใครเป็น ซูเปอร์แม่
04:48
because they actually weigh less than their own children.
108
273000
2000
เพราะพวกเธอน้ำหนักน้อยกว่าลูกๆของตัวเอง
04:50
(Laughter)
109
275000
2000
(หัวเราะ)
04:52
So at the moment of conception,
110
277000
2000
ในตอนแรก
04:54
they're doing little butt exercises.
111
279000
2000
พวกเธอออกกำลังกายบั้นท้ายนิดหน่อย
04:56
Babies flop out,
112
281000
2000
แล้วเด็กก็ร่วงออกมา
04:58
they're flashing Mandarin flashcards at the things.
113
283000
3000
พวกเธอพกแผ่นคำศัพท์ภาษาจีนกลางติดตัวไปทั่ว
05:01
Driving them home, and they want them to be enlightened,
114
286000
3000
ตอนขับรถกลับบ้าน พวกเธออยากให้ลูกมีความสุขสดชื่น
05:04
so they take them to Ben & Jerry's ice cream company
115
289000
2000
ก็เลยพาไปบริษัทไอติม เบ็น แอนด์ แจรี่ (ฺBen & Jerry's)
05:06
with its own foreign policy.
116
291000
2000
ที่มีนโยบายต่างประเทศของตัวเอง
05:08
In one of my books,
117
293000
2000
ในหนังสือเล่มนึงของผม
05:10
I joke that Ben & Jerry's should make a pacifist toothpaste --
118
295000
2000
ผมล้อ เบ็น แอนด์ แจรี่ ว่าน่าจะผลิตยาสีฟันเพื่อสันติ
05:12
doesn't kill germs, just asks them to leave.
119
297000
2000
ที่ไม่ฆ่าพวกเชื้อโรค แต่ขอร้องให้มันออกไปแทน
05:14
It would be a big seller.
120
299000
2000
คงขายดีพิลึก
05:16
(Laughter)
121
301000
2000
(หัวเราะ)
05:18
And they go to Whole Foods to get their baby formula,
122
303000
3000
แล้วพวกเธอก็ไปร้านโฮล์ฟู้ดส์เพื่อซื้ออาหารเด็ก
05:21
and Whole Foods is one of those progressive grocery stores
123
306000
2000
และโฮล์ฟู้ดส์ก็เป็นหนึ่งในร้านขายของชำก้าวหน้า
05:23
where all the cashiers look like they're on loan from Amnesty International.
124
308000
3000
ที่เหมือนว่ายืมพนักงานมาจากองค์กรแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นเนล (Amnesty International)
05:26
(Laughter)
125
311000
2000
(หัวเราะ)
05:28
They buy these seaweed-based snacks there
126
313000
2000
พวกเธอซื้อขนมที่ทำมาจากสาหร่าย
05:30
called Veggie Booty with Kale,
127
315000
2000
เรียกว่า เวจี้ บู้ตี้ (Veggie Booty) แบบใบกระหล่ำเคล (kale)
05:32
which is for kids who come home and say,
128
317000
2000
เพื่อที่จะให้เด็กๆกลับมาบ้านแล้วบอกว่า
05:34
"Mom, mom, I want a snack that'll help prevent colon-rectal cancer."
129
319000
3000
"แม่ๆ อยากกินขนมที่ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักน่ะ"
05:37
(Laughter)
130
322000
2000
(หัวเราะ)
05:39
And so the kids are raised in a certain way,
131
324000
2000
เด็กๆพวกนี้ถูกเลี้ยงมาในรูปแบบนึง
05:41
jumping through achievement hoops of the things we can measure --
132
326000
3000
ผ่านกระบวนการคัดเลือกด้วยสิ่งที่เราวัดได้
05:44
SAT prep, oboe, soccer practice.
133
329000
3000
เรียนเตรียมสอบเอสเอที (SAT) เป่าปี่โอโบ ซ้อมฟุตบอล
05:47
They get into competitive colleges, they get good jobs,
134
332000
3000
พวกเขาเข้ามหาวิทยาลัยยากๆได้ ได้งานดี
05:50
and sometimes they make a success of themselves
135
335000
2000
และบางครั้งก็ประสบความสำเร็จในชีวิต
05:52
in a superficial manner, and they make a ton of money.
136
337000
3000
ในแบบผิวเผิน และได้เงินเยอะ
05:55
And sometimes you can see them at vacation places
137
340000
2000
บางทีก็เห็นพวกเขาในที่พักตากอากาศ
05:57
like Jackson Hole or Aspen.
138
342000
2000
อย่างแจ็คสัน โฮล์ (Jackson Hole) หรือ แอสเพ็น (Aspen)
05:59
And they've become elegant and slender --
139
344000
2000
พวกเขาจะดูสง่าระหง
06:01
they don't really have thighs;
140
346000
2000
จนเรียกว่าไม่มีต้นขา
06:03
they just have one elegant calve on top of another.
141
348000
3000
พวกเขามีน่องงามๆซ้อนกัน
06:06
(Laughter)
142
351000
2000
(หัวเราะ)
06:08
They have kids of their own,
143
353000
2000
พวกเขามีลูกๆของตัวเอง
06:10
and they've achieved a genetic miracle by marrying beautiful people,
144
355000
3000
พวกเขาสร้างปาฏิหาริย์ทางพันธุกรรม ด้วยการแต่งงานกับคนที่หน้าตาดี
06:13
so their grandmoms look like Gertrude Stein,
145
358000
3000
ย่ายายหน้าตาเหมือนเกอร์ทรูด สไตน์ (Gertrude Stein)
06:16
their daughters looks like Halle Berry -- I don't know how they've done that.
146
361000
3000
แต่ลูกๆหน้าเหมือนเฮลลี่ แบรี่ (Halle Berry) -- ไม่รู้ว่าทำได้ไง
06:19
They get there and they realize
147
364000
3000
พวกเขามาถึงจุดนี้แล้วจึงรู้ว่า
06:22
it's fashionable now to have dogs a third as tall as your ceiling heights.
148
367000
4000
การเลี้ยงหมาที่สูง 1 ใน 3 ของเพดานบ้าน เป็นสิ่งที่ทันสมัย
06:26
So they've got these furry 160-pound dogs --
149
371000
3000
พวกเขาก็เลยมีหมาที่หนัก 160 ปอนด์
06:29
all look like velociraptors,
150
374000
3000
รูปร่างเหมือนไดโนเสาร์พันธุ์เวโลซีแรปเตอร์
06:32
all named after Jane Austen characters.
151
377000
3000
ที่ตั้งชื่อตามตัวละครจากนิยายของเจน ออสติน (Jane Austen)
06:35
And then when they get old, they haven't really developed a philosophy of life,
152
380000
3000
และเมื่อพวกเขาแก่ พวกเขาก็ยังจะไม่เข้าใจปรัชญาของชีวิต
06:38
but they've decided, "I've been successful at everything;
153
383000
2000
แต่เขาก็ตัดสินเองว่า "ชั้นประสบความสำเร็จในทุกเรื่อง
06:40
I'm just not going to die."
154
385000
2000
แล้วชั้นก็จะไม่ยอมตายหรอก"
06:42
And so they hire personal trainers;
155
387000
3000
พวกเขาก็เลยจ้างครูฝึกออกกำลังกาย
06:45
they're popping Cialis like breath mints.
156
390000
2000
กินยาเสริมสมรรถภาพทางเพศเป็นว่าเล่นอย่างกับอมลูกอมงั้น
06:47
You see them on the mountains up there.
157
392000
2000
คุณจะพบพวกนี้ได้บนยอดเขา
06:49
They're cross-country skiing up the mountain
158
394000
2000
สกีวิบากขึ้นเขากัน
06:51
with these grim expressions
159
396000
2000
หน้าตาซีเรียส
06:53
that make Dick Cheney look like Jerry Lewis.
160
398000
2000
จนทำให้ ดิ๊ก เชนี่ (Dick Cheney) ดูเหมือนตลกอย่าง เจรี่ ลูวิส (Jerry Lewis)
06:55
(Laughter)
161
400000
2000
(หัวเราะ)
06:57
And as they whiz by you,
162
402000
2000
พวกเขาสกีฉิวผ่านคุณไป
06:59
it's like being passed by a little iron Raisinet
163
404000
2000
ดูเหมือนลูกเกดเคลือบช็อคโกแล็ตยี่ห้อเรซิเน็ตอันแข็งแกร่ง
07:01
going up the hill.
164
406000
2000
ขึ้นไปบนเขา
07:03
(Laughter)
165
408000
2000
(หัวเราะ)
07:05
And so this is part of what life is,
166
410000
3000
นี่คือส่วนนึงของชีวิต
07:08
but it's not all of what life is.
167
413000
3000
แต่ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต
07:11
And over the past few years,
168
416000
2000
ตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา
07:13
I think we've been given a deeper view of human nature
169
418000
4000
ผมคิดว่าเราได้เห็นมุมมองที่ลึกซึ้งขึ้นของธรรมชาติมนุษย์
07:17
and a deeper view of who we are.
170
422000
2000
มุมมองที่ลึกซึ้งขึ้นของตัวเราเอง
07:19
And it's not based on theology or philosophy,
171
424000
2000
ที่ไม่ได้มาจากศาสตร์ทางศาสนาหรือปรัชญาอะไร
07:21
it's in the study of the mind,
172
426000
2000
แต่เป็นการศึกษาเกี่ยวกับจิตใจ
07:23
across all these spheres of research,
173
428000
2000
ในงานวิจัยหลากหลายสาขา
07:25
from neuroscience to the cognitive scientists,
174
430000
2000
ทั้ง วิทยาศาสตร์ทางประสาท ไปจนถึง วิทยาศาสตร์ทางปัญญา
07:27
behavioral economists, psychologists,
175
432000
2000
เศรษฐศาสตร์เชิงพฤติกรรม จิตวิทยา
07:29
sociology,
176
434000
2000
สังคมศาสตร์
07:31
we're developing a revolution in consciousness.
177
436000
3000
เรากำลังสร้างการปฏิวัติด้านจิตสำนึก
07:34
And when you synthesize it all,
178
439000
2000
และเมื่อเราสังเคราะห์ความรู้พวกนี้แล้ว
07:36
it's giving us a new view of human nature.
179
441000
2000
ก็จะทำให้เรามีมุมมองใหม่ๆเกี่ยวกับธรรมชาติมนุษย์
07:38
And far from being a coldly materialistic view of nature,
180
443000
3000
ที่ห่างไกลจากมุมมองทางวัตถุนิยมที่เย็นชาต่อธรรมชาติ
07:41
it's a new humanism, it's a new enchantment.
181
446000
3000
มันคือมานุษยวิทยาแบบใหม่ที่น่าหลงใหล
07:44
And I think when you synthesize this research,
182
449000
2000
ผมคิดว่าเมื่อคุณสังเคราะห์งานวิจัยพวกนี้
07:46
you start with three key insights.
183
451000
2000
คุณจะได้ความเข้าใจอย่างลึกซึ่ง 3 อย่าง
07:48
The first insight is
184
453000
2000
อย่างแรกคือ
07:50
that while the conscious mind writes the autobiography of our species,
185
455000
3000
ระหว่างการที่จิตสำนึกเขียนประวัติศาสตร์ของสายพันธุ์ของเรา
07:53
the unconscious mind does most of the work.
186
458000
4000
จิตใต้สำนึกเป็นฝ่ายทำงานหนักกว่า
07:57
And so one way to formulate that is
187
462000
2000
หรือพูดอีกอย่างได้ว่า
07:59
the human mind can take in millions of pieces of information a minute,
188
464000
3000
เราสามารถรับข้อมูลเป็นล้านๆชิ้นต่อนาที
08:02
of which it can be consciously aware of about 40.
189
467000
3000
แต่เรารู้สึกเหมือนแค่รับไปสัก 40 ชิ้นเท่านั้น
08:05
And this leads to oddities.
190
470000
2000
และสิ่งนี้ก็ส่งผลที่น่าประหลาด
08:07
One of my favorite is that people named Dennis
191
472000
2000
ตัวอย่างนึงที่ผมชอบมากๆ คือคนชื่อ เดนนิส (Dennis)
08:09
are disproportionately likely to become dentists,
192
474000
3000
เป็นทันตแพทย์(หมอฟัน)กันมากกว่าคนชื่ออื่น
08:12
people named Lawrence become lawyers,
193
477000
2000
ส่วนคนชื่อลอว์เร้นซ์ (Lawrence) ก็เหมือนจะพากันไปเป็นนักกฏหมาย
08:14
because unconsciously we gravitate toward things
194
479000
2000
เพราะแรงดึงดูดใต้สำนึกที่ทำให้พวกเขา
08:16
that sound familiar,
195
481000
2000
เข้าหาสิ่งที่ฟังดูคุ้นเคย
08:18
which is why I named my daughter President of the United States Brooks.
196
483000
3000
ผมเลยตั้งชื่อลูกสาวว่า "ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา บรู๊คส์"
08:21
(Laughter)
197
486000
3000
(หัวเราะ)
08:24
Another finding is that the unconscious,
198
489000
3000
สิ่งที่ค้นพบอีกอย่าง คือจิตใต้สำนึก
08:27
far from being dumb and sexualized,
199
492000
2000
ไม่ได้โง่หรือลามก
08:29
is actually quite smart.
200
494000
2000
แต่จริงๆแล้วค่อนข้างฉลาด
08:31
So one of the most cognitively demanding things we do is buy furniture.
201
496000
3000
หนึ่งในสิ่งที่ท้าทายภูมิปัญญาของเรามากที่สุด คือการซื้อเฟอร์นิเจอร์
08:34
It's really hard to imagine a sofa, how it's going to look in your house.
202
499000
3000
การจินตนาการว่า โซฟาตัวนี้ จะดูเป็นยังไงในบ้านคุณ
08:37
And the way you should do that
203
502000
2000
และวิธีที่คุณควรใช้คือ
08:39
is study the furniture,
204
504000
2000
การศึกษาเฟอร์นิเจอร์นั้นๆ
08:41
let it marinate in your mind, distract yourself,
205
506000
2000
อย่าตั้งใจคิดถึงมัน แต่ให้มันอยู่ในจิตใต้สำนึกของคุณ
08:43
and then a few days later, go with your gut,
206
508000
2000
แล้วอีก 2-3 วันค่อยตัดสินใจตามความรู้สึก
08:45
because unconsciously you've figured it out.
207
510000
2000
เพราะจิตใต้สำนึกของคุณรู้คำตอบแล้ว
08:47
The second insight
208
512000
2000
ความเข้าใจลึกซึ้งอย่างที่สอง
08:49
is that emotions are at the center of our thinking.
209
514000
3000
คือ อารมณ์เป็นศูนย์กลางทางความคิดของคน
08:52
People with strokes and lesions
210
517000
2000
คนที่เคยมีเส้นเลือดอุดตันหรือมีบาดแผลในสมอง
08:54
in the emotion-processing parts of the brain
211
519000
2000
ในส่วนที่รับหน้าที่เกี่ยวกับอารมณ์
08:56
are not super smart,
212
521000
2000
มักจะไม่ฉลาดนัก
08:58
they're actually sometimes quite helpless.
213
523000
2000
ส่วนใหญ่แล้ว ถึงกับช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำ
09:00
And the "giant" in the field is in the room tonight
214
525000
2000
และผู้เชี่ยวชาญสาขานี้ก็อยู่ในห้องกับพวกเราด้วย
09:02
and is speaking tomorrow morning -- Antonio Damasio.
215
527000
3000
เขาจะบรรยายพรุ่งนี้เช้า -- อันโตนิโอ้ ดามาสิโอ้ (Antonio Damasio)
09:05
And one of the things he's really shown us
216
530000
2000
สิ่งนึงที่เขาจะแสดงให้เราเห็น
09:07
is that emotions are not separate from reason,
217
532000
3000
คือ อารมณ์ไม่ได้แยกจากเหตุผล
09:10
but they are the foundation of reason
218
535000
2000
แต่อารมณ์พื้นฐานของเหตุผลต่างหาก
09:12
because they tell us what to value.
219
537000
2000
เพราะอารมณ์บอกเราว่าอะไรสำคัญ
09:14
And so reading and educating your emotions
220
539000
2000
ดังนั้น การศึกษาเข้าใจอารมณ์ของเรานั้น
09:16
is one of the central activities of wisdom.
221
541000
3000
จึงเป็นหนึ่งวิธีหลักของการสร้างปัญญา
09:19
Now I'm a middle-aged guy.
222
544000
2000
ผมน่ะเป็นชายวัยกลางคน
09:21
I'm not exactly comfortable with emotions.
223
546000
2000
ที่ไม่ชอบพูดถึงเรื่องอารมณ์เท่าไหร่
09:23
One of my favorite brain stories described these middle-aged guys.
224
548000
3000
เรื่องเล่าที่ผมชอบมากเรื่องนึง เล่าถึงพวกผู้ชายวัยกลางคน
09:26
They put them into a brain scan machine --
225
551000
3000
ที่ถูกส่งไปตรวจสมอง
09:29
this is apocryphal by the way, but I don't care --
226
554000
3000
นี่เป็นเรื่องแต่งนะครับ แต่ผมก็ยังชอบ
09:32
and they had them watch a horror movie,
227
557000
3000
ระหว่างที่สแกนสมอง ตอนแรกก็ให้พวกเขาดูหนังสยองก่อน
09:35
and then they had them describe their feelings toward their wives.
228
560000
4000
เสร็จแล้วก็ให้พวกเขาบรรยายความรู้สึกถึงเมียของตัวเองต่อ
09:39
And the brain scans were identical in both activities.
229
564000
3000
ปรากฏว่าผลออกมาเหมือนกันเปี๊ยบ
09:42
It was just sheer terror.
230
567000
2000
คือเป็นความหวาดกลัวครับ
09:44
So me talking about emotion
231
569000
2000
ดังนั้น การที่ผมพูดถึงอารมณ์
09:46
is like Gandhi talking about gluttony,
232
571000
2000
ก็เหมือนท่านมหาตมะคานธีพูดถึงความตะกละ
09:48
but it is the central organizing process
233
573000
2000
แต่อารมณ์นี่แหละ คือหัวใจสำคัญ
09:50
of the way we think.
234
575000
2000
ของวิธีคิดของเราๆ
09:52
It tells us what to imprint.
235
577000
2000
มันบอกเราว่าอะไรควรจดจำ
09:54
The brain is the record of the feelings of a life.
236
579000
2000
สมองคือที่บันทึกของความรู้สึกต่างๆในชีวิต
09:56
And the third insight
237
581000
2000
และความเข้าใจลึกซึ้งอย่างที่สาม
09:58
is that we're not primarily self-contained individuals.
238
583000
4000
คือ เราแต่ละคนไม่ได้อยู่โดยลำพัง
10:02
We're social animals, not rational animals.
239
587000
3000
เราเป็นสัตว์สังคม ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตแห่งตรรกะเหตุผล
10:05
We emerge out of relationships,
240
590000
2000
เราเกิดมาจากความสัมพันธ์ของมนุษย์
10:07
and we are deeply interpenetrated, one with another.
241
592000
3000
และเราทุกคนก็เกี่ยวโยงกันในเครือข่ายซับซ้อน
10:10
And so when we see another person,
242
595000
2000
เมื่อเราเห็นคนอื่น
10:12
we reenact in our own minds
243
597000
2000
เราจินตนาการในหัว
10:14
what we see in their minds.
244
599000
2000
ว่าเขาคิดเห็นอะไรอยู่
10:16
When we watch a car chase in a movie,
245
601000
2000
เมื่อเราเห็นฉากขับรถไล่ล่ากันในหนัง
10:18
it's almost as if we are subtly having a car chase.
246
603000
3000
มันคล้ายกับว่าเราเองก็ไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นเองด้วย
10:21
When we watch pornography,
247
606000
2000
เมื่อเราดูหนังโป๊
10:23
it's a little like having sex,
248
608000
2000
ก็เหมือนกับการมีเซ็กส์
10:25
though probably not as good.
249
610000
2000
แต่อาจจะไม่ดีเท่า
10:27
And we see this when lovers walk down the street,
250
612000
3000
และเมื่อเห็นคู่รักเดินบนถนน
10:30
when a crowd in Egypt or Tunisia
251
615000
2000
เมื่อกลุ่มคนในอียิปต์ หรือ ตูนีเซีย
10:32
gets caught up in an emotional contagion,
252
617000
2000
อยู่กลางการแพร่กระจายทางอารมณ์
10:34
the deep interpenetration.
253
619000
2000
เป็นการเกี่ยวพันที่ล้ำลึก
10:36
And this revolution in who we are
254
621000
3000
เป็นการปฏิวัติการมองตัวเราใหม่
10:39
gives us a different way of seeing, I think, politics,
255
624000
3000
ผมว่า ทำให้เราเห็นการเมือง
10:42
a different way, most importantly,
256
627000
2000
ในแบบที่ต่างไป และที่สำคัญที่สุด
10:44
of seeing human capital.
257
629000
2000
เห็นค่าเพื่อนมนุษย์มากขึ้นด้วย
10:46
We are now children of the French Enlightenment.
258
631000
4000
ตอนนี้เราเป็นสาวกของสำนักรู้แจ้งแห่งฝรั่งเศส (French Enlightenment)
10:50
We believe that reason is the highest of the faculties.
259
635000
3000
ที่เชื่อว่าตรรกะอยู่เหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด
10:53
But I think this research shows
260
638000
2000
แต่ผมคิดว่าผลการวิจัยนี้
10:55
that the British Enlightenment, or the Scottish Enlightenment,
261
640000
2000
แสดงให้เห็นว่า แนวคิดการรู้แจ้งแบบอังกฤษหรือสก็อต
10:57
with David Hume, Adam Smith,
262
642000
2000
ของ เดวิด ฮูม (David Hume) และ อดัม สมิธ (Adam Smith)
10:59
actually had a better handle on who we are --
263
644000
3000
ตรงกับความจริงของตัวตนมนุษย์มากกว่า
11:02
that reason is often weak, our sentiments are strong,
264
647000
3000
ที่ว่าเหตุผลมักจะแพ้อารมณ์
11:05
and our sentiments are often trustworthy.
265
650000
3000
และความรู้สึกของเรามักจะเชื่อถึอได้
11:08
And this work corrects that bias in our culture,
266
653000
3000
ผลงานชิ้นนี้แก้ไขอคติ
11:11
that dehumanizing bias.
267
656000
2000
ที่หยั่งรากลึกในสังคมของเรา
11:13
It gives us a deeper sense
268
658000
2000
มันทำให้เราเข้าใจ
11:15
of what it actually takes
269
660000
2000
ถึงปัจจัยที่แท้จริง
11:17
for us to thrive in this life.
270
662000
2000
ในการที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต
11:19
When we think about human capital
271
664000
2000
เวลาที่เราพูดถึงคุณภาพของคน
11:21
we think about the things we can measure easily --
272
666000
3000
เรามักจะคิดถึงสิ่งที่วัดได้ง่ายๆ
11:24
things like grades, SAT's, degrees,
273
669000
3000
อย่างเช่น เกรด คะแนนSAT ปริญญา
11:27
the number of years in schooling.
274
672000
2000
จำนวนปีที่ได้รับการศึกษา
11:29
What it really takes to do well, to lead a meaningful life,
275
674000
3000
แต่สิ่งที่สำคัญจริงๆ ในการมีชีวิตที่ดีและมีความหมาย
11:32
are things that are deeper,
276
677000
2000
เป็นสิ่งที่ล้ำลึกกว่านั้น
11:34
things we don't really even have words for.
277
679000
3000
สิ่งที่เราไม่มีคำพูดบรรยาย
11:37
And so let me list just a couple of the things
278
682000
2000
ผมจึงอยากยกตัวอย่างซัก 2-3 อัน
11:39
I think this research points us toward trying to understand.
279
684000
4000
ที่ผมคิดว่างานวิจัยชิ้นนี้ ชี้นำให้เราพยายามทำความเข้าใจ
11:43
The first gift, or talent, is mindsight --
280
688000
3000
พรสวรรค์หรือความสามารถอย่างแรก คือทัศนะทางจิต
11:46
the ability to enter into other people's minds
281
691000
4000
ทักษะการเข้าถึงจิตใจคนอื่น
11:50
and learn what they have to offer.
282
695000
2000
และเรียนรู้ในสิ่งที่เขามีให้
11:52
Babies come with this ability.
283
697000
2000
เด็กทารกเกิดมาพร้อมกับทักษะนี้
11:54
Meltzoff, who's at the University of Washington,
284
699000
2000
เมล์ทซอฟฟ์ (Meltzoff) จาก มหาวิทยาลัยวอชิงตั้น
11:56
leaned over a baby who was 43 minutes old.
285
701000
3000
ก้มดูเด็กทารกอายุ 43 นาที
11:59
He wagged his tongue at the baby.
286
704000
2000
เขาแลบลิ้นใส่เด็ก
12:01
The baby wagged her tongue back.
287
706000
3000
เด็กก็แลบลิ้นตอบ
12:04
Babies are born to interpenetrate into Mom's mind
288
709000
3000
เด็กทารกเกิดมาเพื่อเข้าถึงจิตใจของแม่
12:07
and to download what they find --
289
712000
2000
แล้วเก็บเกี่ยวสิ่งที่ค้นพบ
12:09
their models of how to understand reality.
290
714000
2000
มาใช้ในกระบวนการเรียนรู้ความเป็นจริง
12:11
In the United States, 55 percent of babies
291
716000
3000
ในอเมริกา เด็กทารกร้อยละ 55
12:14
have a deep two-way conversation with Mom
292
719000
2000
สื่อสารลึกซึ้งได้ระหว่างแม่เค้ากับตัวเค้า
12:16
and they learn models to how to relate to other people.
293
721000
3000
ซึ่งทำให้พวกเขาเรียนรู้วิธีสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ
12:19
And those people who have models of how to relate
294
724000
2000
และคนที่มีแม่เป็นตัวอย่าง
12:21
have a huge head start in life.
295
726000
2000
ได้เปรียบกว่าคนอื่นๆในชีวิตมาก
12:23
Scientists at the University of Minnesota did a study
296
728000
2000
นักวิทยาศาตร์ ณ มหาวิทยาลัยมินเนโซต้าได้ทำวิจัย
12:25
in which they could predict
297
730000
2000
ที่ทำให้พวกเขาสามารถพยากรณ์ได้
12:27
with 77 percent accuracy, at age 18 months,
298
732000
3000
ด้วยอัตราความสำเร็จร้อยละ 77 ว่าในเด็กอายุ 18 เดือน
12:30
who was going to graduate from high school,
299
735000
2000
ใครจะเรียนจบมัธยมปลายบ้าง
12:32
based on who had good attachment with mom.
300
737000
3000
โดยดูจากความผูกพันระหว่างแม่กับเด็ก
12:35
Twenty percent of kids do not have those relationships.
301
740000
3000
มีเด็กร้อยละ 20 ที่ไม่มีความสัมพันธ์แบบนี้
12:38
They are what we call avoidantly attached.
302
743000
2000
เราเรียกว่า ความสัมพันธ์ที่ไม่ได้รับการตอบสนอง
12:40
They have trouble relating to other people.
303
745000
2000
พวกเขามีปัญหาในการสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่น
12:42
They go through life
304
747000
2000
เขามีชีวิต
12:44
like sailboats tacking into the wind --
305
749000
2000
เหมือนเรือใบที่พยายามต้านลม
12:46
wanting to get close to people,
306
751000
2000
อยากจะใกล้ชิดกับคนอื่น
12:48
but not really having the models of how to do that.
307
753000
3000
แต่ไม่เคยเห็นตัวอย่างว่าต้องทำยังไง
12:51
And so this is one skill
308
756000
2000
ดังนั้น นี่คือทักษะนึง
12:53
of how to hoover up knowledge, one from another.
309
758000
2000
ของการดูดซับความรู้ จากคนนึงสู่อีกคน
12:55
A second skill is equal poise,
310
760000
3000
ทักษะที่ 2 ก็สำคัญไม่แพ้กัน
12:58
the ability to have the serenity
311
763000
2000
คือความสามารถในการมองเห็น
13:00
to read the biases and failures in your own mind.
312
765000
3000
อคติและความล้มเหลวของตัวเองอย่างมีแท้จริง
13:03
So for example, we are overconfidence machines.
313
768000
3000
เพราะพวกเราเป็นเครื่องจักรที่ทะนงตน
13:06
Ninety-five percent of our professors report
314
771000
3000
อาจารย์มหาวิทยาลัยร้อยละ 95 บอกว่า
13:09
that they are above-average teachers.
315
774000
2000
ตัวเองเป็นอาจารย์ที่ดีกว่าเกณฑ์เฉลี่ย
13:11
Ninety-six percent of college students
316
776000
2000
นักศึกษาปริญญาตรีร้อยละ 96
13:13
say they have above-average social skills.
317
778000
3000
บอกว่าตนมีทักษะทางสังคมที่ดีกว่าเกณฑ์เฉลี่ย
13:16
Time magazine asked Americans, "Are you in the top one percent of earners?"
318
781000
3000
นิตยสารไทม์ถามชาวอเมริกันว่า "คุณมีรายได้สูงสุดในกลุ่ม1% ของประเทศรึเปล่า"
13:19
Nineteen percent of Americans are in the top one percent of earners.
319
784000
3000
ร้อยละ 19 ตอบว่า ตัวเองอยู่ใน1%ที่รวยที่สุด
13:22
(Laughter)
320
787000
2000
(หัวเราะ)
13:24
This is a gender-linked trait, by the way.
321
789000
2000
แต่นิสัยนี้ขึ้นอยู่กับเพศด้วย
13:26
Men drown at twice the rate of women,
322
791000
2000
ผู้ชายจมน้ำบ่อยกว่าผู้หญิง 2 เท่า
13:28
because men think they can swim across that lake.
323
793000
3000
เพราะผู้ชายคิดว่าตัวเองว่ายน้ำข้ามทะเลสาปได้
13:31
But some people have the ability and awareness
324
796000
3000
แต่คนบางคนมีความสามารถและความเข้าใจ
13:34
of their own biases, their own overconfidence.
325
799000
3000
ถึงความลำเอียงและความทะนงตนของตัวเอง
13:37
They have epistemological modesty.
326
802000
2000
พวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความถ่อมตน
13:39
They are open-minded in the face of ambiguity.
327
804000
3000
พวกเขายอมรับฟังในภาวะที่คลุมเครือ
13:42
They are able to adjust strength of the conclusions
328
807000
2000
พวกเขาสามารถปรับระดับความมั่นใจในการตัดสินใจ
13:44
to the strength of their evidence.
329
809000
2000
ให้เหมาะกับความน่าเชื่อถือของหลักฐาน
13:46
They are curious.
330
811000
2000
พวกเขามีนิสัยอยากรู้อยากเห็น
13:48
And these traits are often unrelated and uncorrelated with IQ.
331
813000
3000
ซึ่งมักจะไม่เกี่ยวข้องกับไอคิว (IQ)
13:51
The third trait is metis,
332
816000
2000
และนิสัยอีกอย่างนึงคือ 'มิดิส'
13:53
what we might call street smarts -- it's a Greek word.
333
818000
3000
ซึ่งเป็นภาษากรีก แปลว่า มีไหวพริบ
13:56
It's a sensitivity to the physical environment,
334
821000
2000
เป็นความไวต่อสภาพแวดล้อม
13:58
the ability to pick out patterns in an environment --
335
823000
2000
ความสามารถในการมองเห็นแบบแผนในสภาพแวดล้อม
14:00
derive a gist.
336
825000
2000
หาแก่นสำคัญ
14:02
One of my colleagues at the Times
337
827000
2000
เพื่อนร่วมงานของผมที่ไทม์คนนึง
14:04
did a great story about soldiers in Iraq
338
829000
2000
เขียนบทความเกี่ยวกับทหารในอิรัก
14:06
who could look down a street and detect somehow
339
831000
3000
ที่แค่มองถนนก็รู้
14:09
whether there was an IED, a landmine, in the street.
340
834000
2000
ว่ามี ไออีดี (IED) หรือกับระเบิด ฝังอยู่รึเปล่า
14:11
They couldn't tell you how they did it,
341
836000
2000
พวกเขาเองก็ไม่รู้ว่าทำได้ยังไง
14:13
but they could feel cold, they felt a coldness,
342
838000
3000
แต่พวกเขารู้สึกถึงไอเย็น รู้สึกหนาว
14:16
and they were more often right than wrong.
343
841000
3000
และการคาดเดาของพวกเขาก็ค่อนข้างแม่นยำ
14:19
The third is what you might call sympathy,
344
844000
2000
ทักษะสำคัญอย่างที่ 3 คือความเห็นอกเห็นใจ
14:21
the ability to work within groups.
345
846000
3000
ความสามารถในการทำงานเป็นกลุ่ม
14:24
And that comes in tremendously handy,
346
849000
3000
ซึ่งมีประโยชน์มาก
14:27
because groups are smarter than individuals.
347
852000
2000
เพราะคนเป็นกลุ่มรวมกันฉลาดกว่าคนๆเดียว
14:29
And face-to-face groups are much smarter
348
854000
2000
และกลุ่มคนที่เจอกันในชีวิตจริงก็ฉลาดกว่า
14:31
than groups that communicate electronically,
349
856000
3000
กลุ่มคนที่สื่อสารกันด้วยเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์
14:34
because 90 percent of our communication is non-verbal.
350
859000
3000
เพราะ การสื่อสารของมนุษย์ร้อยละ 90 ไม่ผ่านทางภาษา
14:37
And the effectiveness of a group
351
862000
2000
และประสิทธิภาพของกลุ่ม
14:39
is not determined by the IQ of the group;
352
864000
3000
ไม่ได้ขึ้นอยู่กับไอคิว
14:42
it's determined by how well they communicate,
353
867000
3000
แต่ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาสื่อสารกันได้ดีแค่ไหน
14:45
how often they take turns in conversation.
354
870000
3000
เขาแบ่งกันพูดโดยทั่วถึงรึเปล่า
14:48
Then you could talk about a trait like blending.
355
873000
3000
คุณอาจจะพูดถึงความสามารถ เช่น การกลมกลืน
14:51
Any child can say, "I'm a tiger," pretend to be a tiger.
356
876000
3000
เด็กๆสามารถบอกว่า "ชั้นเป็นเสือ" แล้วทำท่าเป็นเสือกันได้ทั้งนั้น
14:54
It seems so elementary.
357
879000
2000
มันอาจจะดูง่าย
14:56
But in fact, it's phenomenally complicated
358
881000
2000
แต่ที่จริงๆแล้วมันเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน
14:58
to take a concept "I" and a concept "tiger"
359
883000
2000
ซึ่งเอานิยามของ"ชั้น"กับ"เสือ"
15:00
and blend them together.
360
885000
2000
มาผสมเข้าด้วยกัน
15:02
But this is the source of innovation.
361
887000
2000
แต่นี่คือที่มาของนวัตกรรม
15:04
What Picasso did, for example,
362
889000
2000
อย่างสิ่งที่ปิกัสโซ่ (Picasso) ทำ
15:06
was take the concept "Western art"
363
891000
2000
เป็นการเอานิยามของศิลปะทางตะวันตก
15:08
and the concept "African masks"
364
893000
2000
มาผสมกับหน้ากากแบบอัฟริกา
15:10
and blend them together --
365
895000
2000
แล้วหลอมรวมกัน
15:12
not only the geometry,
366
897000
2000
ไม่ใช่แค่ทางรูปทรงเท่านั้น
15:14
but the moral systems entailed in them.
367
899000
2000
แต่รวมถึงระบบศีลธรรมของมันด้วย
15:16
And these are skills, again, we can't count and measure.
368
901000
2000
ทักษะเหล่านี้ เราไม่สามารถนับหรือวัดได้
15:18
And then the final thing I'll mention
369
903000
2000
และสิ่งสุดท้ายที่ผมจะเสริม
15:20
is something you might call limerence.
370
905000
2000
คือสิ่งที่คุณอาจเรียกว่าการตกหลุมรัก
15:22
And this is not an ability;
371
907000
2000
นี่ไม่ใช่ทักษะ
15:24
it's a drive and a motivation.
372
909000
3000
แต่เป็นแรงกระตุ้นใจ
15:27
The conscious mind hungers for success and prestige.
373
912000
3000
จิตสำนึกโหยหาความสำเร็จและเกียรติยศ
15:30
The unconscious mind hungers
374
915000
2000
จิตใต้สำนึกต้องการ
15:32
for those moments of transcendence,
375
917000
2000
ช่วงเวลาของการหลุดพ้น
15:34
when the skull line disappears
376
919000
2000
ที่เส้นแบ่งตัวตนของเราหายไป
15:36
and we are lost in a challenge or a task --
377
921000
3000
ทำให้เราอยู่ในงานหรือสิ่งท้าทายอย่างเต็มตัว
15:39
when a craftsman feels lost in his craft,
378
924000
3000
เมื่อช่างรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งในงานฝีมือ
15:42
when a naturalist feels at one with nature,
379
927000
3000
เมื่อนักชีววิทยาเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ
15:45
when a believer feels at one with God's love.
380
930000
3000
เมื่อผู้นับถือกลายเป็นส่วนหนึ่งของความรักของพระเจ้า
15:48
That is what the unconscious mind hungers for.
381
933000
3000
นี่คือสิ่งที่จิตใต้สำนึกกระหาย
15:51
And many of us feel it in love
382
936000
2000
และพวกเราหลายคนรู้สึกถึงสิ่งนี้ในความรัก
15:53
when lovers feel fused.
383
938000
2000
เวลาที่คู่รักรู้สึกเป็นหนึ่งเดียว
15:55
And one of the most beautiful descriptions
384
940000
2000
และหนึ่งในคำบรรยายที่สวยงามที่สุด
15:57
I've come across in this research
385
942000
3000
ที่ผมเจอในงานวิจัยชิ้นนี้
16:00
of how minds interpenetrate
386
945000
2000
เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของจิตใจ
16:02
was written by a great theorist and scientist
387
947000
2000
เป็นผลงานเขียนของนักทฤษฎีและนักวิทยาศาสตร์ชื่อดัง
16:04
named Douglas Hofstadter at the University of Indiana.
388
949000
3000
ชื่อ ดักลาส ฮอฟแสตดเตอร์ (Douglas Hofstadter) จากมหาวิทยาลัยอินเดียน่า
16:07
He was married to a woman named Carol,
389
952000
2000
เขาแต่งงานกับผู้หญิงชื่อแครอล
16:09
and they had a wonderful relationship.
390
954000
2000
พวกเขารักกันมาก
16:11
When their kids were five and two,
391
956000
2000
เมื่อลูกของพวกเขา คนนึงอายุได้ 5 ขวบและอีกคน 2 ขวบ
16:13
Carol had a stroke and a brain tumor and died suddenly.
392
958000
4000
แครอลก็เกิดเส้นเลือดอุดตันและเนื้องอกในสมอง เสียชีวิตกระทันหัน
16:17
And Hofstadter wrote a book
393
962000
2000
ฮอฟแสตดเตอร์ จึงเขียนหนังสือ
16:19
called "I Am a Strange Loop."
394
964000
2000
ชื่อว่า "ผมเป็นวงแหวนอันแสนประหลาด (I Am a Strange Loop)"
16:21
In the course of that book, he describes a moment --
395
966000
2000
ในหนังสือเล่มนั้น เขาบรรยายถึงเหตุการณ์นึง
16:23
just months after Carol has died --
396
968000
3000
หลังจากที่ภรรยาเสียไปเมื่อไม่กี่เดือน
16:26
he comes across her picture on the mantel,
397
971000
2000
เขาเห็นรูปเธอเหนือเตาผิง
16:28
or on a bureau in his bedroom.
398
973000
2000
หรือที่โต๊ะข้างเตียง
16:30
And here's what he wrote:
399
975000
2000
และนี่คือสิ่งที่เขาเขียน
16:32
"I looked at her face,
400
977000
2000
"ผมมองหน้าเธอ
16:34
and I looked so deeply
401
979000
2000
มองลึกลงไปมากๆ
16:36
that I felt I was behind her eyes.
402
981000
2000
จนผมรู้สึกว่าผมอยู่ในตาของเธอ
16:38
And all at once I found myself saying
403
983000
2000
แล้วอยู่ๆผมก็พูดออกมา
16:40
as tears flowed,
404
985000
2000
พร้อมกับน้ำตาที่ไหล
16:42
'That's me. That's me.'
405
987000
2000
'นั่นผมเอง ผมเอง'
16:44
And those simple words
406
989000
2000
และคำพูดเพียงเท่านั้น
16:46
brought back many thoughts that I had had before,
407
991000
2000
ทำให้ผมคิดถึงความเชื่อมากมายที่ผมมีมาก่อน
16:48
about the fusion of our souls
408
993000
2000
เกี่ยวกับการผสมผสานทางวิญญาณของเรา
16:50
into one higher-level entity,
409
995000
2000
จนเป็นหนึ่งเดียวกันที่ดีกว่า
16:52
about the fact that at the core of both our souls
410
997000
3000
เกี่ยวกับความจริงที่ว่า แกนกลางของเราทั้งคู่
16:55
lay our identical hopes and dreams for our children,
411
1000000
4000
มีความหวังและความฝันเดียวกันสำหรับลูกๆ
16:59
about the notion that those hopes
412
1004000
2000
เกี่ยวกับความที่ว่าความหวังนั้น
17:01
were not separate or distinct hopes,
413
1006000
2000
ไม่ได้แตกต่างกัน หรือเป็นคนละอย่าง
17:03
but were just one hope,
414
1008000
2000
แต่เป็นความหวังเดียว
17:05
one clear thing that defined us both,
415
1010000
2000
สิ่งเดียวที่ให้นิยามเราทั้งคู่
17:07
that welded us into a unit --
416
1012000
2000
ที่หลอมให้เราเป็นหนึ่งเดียว
17:09
the kind of unit I had but dimly imagined
417
1014000
3000
ความเป็นหนึ่งเดียวที่ผมเคยแต่จินตนาการลางๆ
17:12
before being married and having children.
418
1017000
3000
ก่อนที่จะแต่งงานแล้วมีลูก
17:15
I realized that, though Carol had died,
419
1020000
2000
ผมเข้าใจแล้วว่า ถึงแม้แครอลจะตายไปแล้ว
17:17
that core piece of her had not died at all,
420
1022000
3000
แก่นแท้ของเธอยังไม่จากไปไหน
17:20
but had lived on very determinedly in my brain."
421
1025000
4000
ยังมีชีวิตอยู่ดีในสมองของผมนั่นเอง"
17:24
The Greeks say we suffer our way to wisdom.
422
1029000
3000
ชาวกรีกบอกว่า เราต้องทุกข์เพื่อเรียนรู้
17:27
Through his suffering, Hofstadter understood
423
1032000
2000
จากความสูญเสีย ฮอฟแสตดเตอร์จึงเข้าใจ
17:29
how deeply interpenetrated we are.
424
1034000
3000
ว่าคนเราผูกพันกันแค่ไหน
17:32
Through the policy failures of the last 30 years,
425
1037000
3000
หากมองดูความล้มเหลวทางการเมืองตลอด 30 ปีที่ผ่านมา
17:35
we have come to acknowledge, I think,
426
1040000
3000
ผมว่า เราก็คงต้องยอมรับแล้ว
17:38
how shallow our view of human nature has been.
427
1043000
3000
ว่ามุมมองที่เรามีเกี่ยวธรรมชาติของมนุษย์มันตื้นเขินแค่ไหน
17:41
And now as we confront that shallowness
428
1046000
3000
เวลานี้ ที่เราได้มาเผชิญกับความตื้นเขิน
17:44
and the failures that derive from our inability
429
1049000
2000
และความล้มเหลวที่เกิดจากการขาดความสามารถ
17:46
to get the depths of who we are,
430
1051000
2000
ในการทำความเข้าใจถึงตัวตนที่แท้จริงของเรา
17:48
comes this revolution in consciousness --
431
1053000
2000
ได้นำมาสู่การปฏิวัติด้านจิตสำนึก
17:50
these people in so many fields
432
1055000
3000
ผู้คนในหลากหลายสาขาวิชา
17:53
exploring the depth of our nature
433
1058000
2000
ที่ศึกษาธรรมชาติมนุษย์
17:55
and coming away with this enchanted,
434
1060000
2000
และได้ค้นพบถึงความมหัศจรรย์
17:57
this new humanism.
435
1062000
2000
ของธรรมชาติมนุษย์แบบใหม่
17:59
And when Freud discovered his sense of the unconscious,
436
1064000
2000
เมื่อสมัยที่ฟรอยด์ (Freud) ค้นพบแนวคิดด้านจิตใต้สำนึกของเขา
18:01
it had a vast effect on the climate of the times.
437
1066000
3000
มันส่งผลกระทบต่อสังคมในเวลานั้นอย่างมาก
18:04
Now we are discovering a more accurate vision
438
1069000
3000
ตอนนี้เราค้นพบแนวคิดที่ใกล้เคียงความจริงมากขึ้น
18:07
of the unconscious, of who we are deep inside,
439
1072000
3000
เกี่ยวกับจิตใต้สำนึก เกี่ยวตัวตนลึกๆของเรา
18:10
and it's going to have a wonderful and profound
440
1075000
2000
มันจะก่อให้เกิดอิทธิพลที่พิเศษลึกซึ้ง
18:12
and humanizing effect on our culture.
441
1077000
2000
และสร้างความเป็นมนุษย์ในสังคมของเรา
18:14
Thank you.
442
1079000
2000
ขอบคุณครับ
18:16
(Applause)
443
1081000
20000
(ปรบมือ)
ABOUT THE SPEAKER
David Brooks - Op-ed columnistWriter and thinker David Brooks has covered business, crime and politics over a long career in journalism.
Why you should listen
David Brooks became an Op-Ed columnist for The New York Times in September 2003. He is currently a commentator on "The PBS Newshour," NPR’s "All Things Considered" and NBC's "Meet the Press."
He is the author of Bobos in Paradise and The Social Animal. In April 2015, he released with his fourth book, The Road to Character, which was a #1 New York Times bestseller.
Brooks also teaches at Yale University, and is a member of the American Academy of Arts & Sciences.
Born on August 11, 1961 in Toronto, Canada, Brooks graduated a bachelor of history from the University of Chicago in 1983. He became a police reporter for the City News Bureau, a wire service owned jointly by the Chicago Tribune and Sun-Times.
He worked at The Washington Times and then The Wall Street Journal for nine years. His last post at the Journal was as Op-ed Editor. Prior to that, he was posted in Brussels, covering Russia, the Middle East, South Africa and European affairs. His first post at the Journal was as editor of the book review section, and he filled in as the Journal's movie critic.
He also served as a senior editor at The Weekly Standard for 9 years, as well as contributing editor for The Atlantic and Newsweek.
David Brooks | Speaker | TED.com