TED2008
Chris Jordan: Turning powerful stats into art
คริส จอร์แดน กับภาพถ่ายแสดงสถิติที่จะทำให้คุณอึ้ง
Filmed:
Readability: 3.6
1,915,736 views
คริส จอร์แดน ศิลปินสาขาภาพถ่าย แสดงภาพโฉมหน้าของวัฒนธรรมตะวันตกที่ทำให้เราต้องตะลึง ภาพถ่ายขนาดใหญ่ยักษ์ของเขาสะท้อนสถิติบางอย่างที่เราแทบจินตนาการไม่ออก -- เช่น ถ้วยกระดาษจำนวนมากมายเหลือเชื่อที่เราใช้กันในแต่ละวัน
Chris Jordan - Artist
Chris Jordan runs the numbers on modern American life -- making large-format, long-zoom artwork from the most mindblowing data about our stuff. Full bio
Chris Jordan runs the numbers on modern American life -- making large-format, long-zoom artwork from the most mindblowing data about our stuff. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:12
My work is about the behaviors that we all engage in unconsciously,
0
0
5000
งานถ่ายภาพของผมก็จะเกี่ยวกับพฤติกรรมที่เราทุกคนทำโดยไม่รู้ตัว
00:17
on a collective level.
1
5000
2000
ในระดับสังคมโดยรวม
00:19
And what I mean by that, it's the behaviors
2
7000
2000
ผมหมายความว่า มันเป็นพฤติกรรม
00:21
that we're in denial about,
3
9000
1000
ที่เราปฏิเสธไม่รับรู้
00:22
and the ones that operate below the surface of our daily awareness.
4
10000
6000
และเกิดขึ้นใต้ระดับการรู้ตัวของเรา
00:29
And as individuals, we all do these things, all the time, everyday.
5
17000
3000
ในระดับบุคคล เราทำสิ่งเหล่านี้ตลอดเวลา ทุกวัน
00:32
It's like when you're mean to your wife
6
20000
2000
เหมือนเวลาที่คุณร้ายใส่ภรรยาของคุณ
00:35
because you're mad at somebody else.
7
23000
1000
เพราะคุณหงุดหงิดคนอื่นมา
00:37
Or when you drink a little too much at a party, just out of anxiety.
8
25000
3000
หรืออย่างเวลาที่คุณดื่มมากเกินไปตอนอยู่ในงานปาร์ตี้เพราะว่าคุณประหม่า
00:40
Or when you overeat because your feelings are hurt, or whatever.
9
28000
5000
หรือเวลาที่คุณกินมากผิดปกติเพราะถูกทำร้ายความรู้สึกมา อะไรทำนองนั้น
00:46
And when we do these kind of things,
10
34000
2000
และเมื่อเราทำพฤติกรรมเหล่านี้
00:48
when 300 million people do unconscious behaviors,
11
36000
4000
เมื่อคนสามร้อยล้านคนทำพฤติกรรมเหล่านี้โดยไม่รู้ตัว
00:52
then it can add up to a catastrophic consequence
12
40000
3000
มันก็บวกทบกันจนนำไปสู่หายนะ
00:55
that nobody wants, and no one intended.
13
43000
2000
ที่ไม่มีใครต้องการ ไม่มีใครตั้งใจให้เกิด
00:57
And that's what I look at with my photographic work.
14
45000
3000
นั่นคือสิ่งที่ผมต้องการสื่อในงานภาพถ่ายของผม
01:00
This is an image I just recently completed, that is --
15
48000
4000
นี่เป็นภาพล่าสุดภาพหนึ่งที่ผมเพิ่งทำเสร็จ
01:04
when you stand back at a distance,
16
52000
1000
ถ้าคุณยืนมองไกลๆ
01:05
it looks like some kind of neo-Gothic, cartoon image
17
53000
3000
มันจะดูเหมือนภาพลายเส้นแบบนีโอโกธิค
01:08
of a factory spewing out pollution.
18
56000
3000
เป็นรูปโรงงานที่กำลังปล่อยมลภาวะออกมา
01:11
And as you get a little bit closer,
19
59000
2000
ถ้าคุณขยับเข้ามาใกล้อีกหน่อย
01:14
it starts looking like lots of pipes, like maybe a chemical plant,
20
62000
4000
มันจะเริ่มดูเหมือนกับท่อมากมาย คล้ายๆ กับโรงงานสารเคมี
01:18
or a refinery, or maybe a hellish freeway interchange.
21
66000
3000
หรือโรงกลั่น หรือถนนฟรีเวย์ที่ตัดพันกันยุ่งเหยิง
01:22
And as you get all the way up close,
22
70000
1000
ถ้าคุณเข้ามามองใกล้ๆ เลย
01:23
you realize that it's actually made of lots and lots of plastic cups.
23
71000
4000
คุณจะเห็นว่าที่จริงมันคือแก้วน้ำพลาสติกจำนวนมากมายมหาศาล
01:28
And in fact, this is one million plastic cups,
24
76000
2000
จริงๆ มันคือแก้วพลาสติกหนึ่งล้านใบ
01:30
which is the number of plastic cups that are used on airline flights
25
78000
4000
ซึ่งเป็นจำนวนของแก้วพลาสติกที่ใช้ในเที่ยวบิน
01:35
in the United States every six hours.
26
83000
1000
ในสหรัฐอเมริกา ในทุกๆ หกชั่วโมง
01:36
We use four million cups a day on airline flights,
27
84000
4000
เราใช้แก้วพลาสติกบนเที่ยวบินทั้งหมดวันละสี่ล้านใบ
01:41
and virtually none of them are reused or recycled.
28
89000
2000
และทั้งหมดนี้ไม่มีการนำกลับมาใช้ซ้ำหรือรีไซเคิลเลย
01:43
They just don't do that in that industry.
29
91000
2000
ในอุตสาหกรรมการบินเขาไม่ทำกัน
01:46
Now, that number is dwarfed
30
94000
2000
ตัวเลขนี้มันจิ๊บจ๊อยไปเลย
01:48
by the number of paper cups we use every day,
31
96000
2000
ถ้าเทียบกับจำนวนแก้วกระดาษที่เราใช้กันทุกวัน
01:51
and that is 40 million cups a day for hot beverages,
32
99000
3000
นั่นคือ 40 ล้านใบต่อวัน สำหรับเครื่องดื่มร้อน
01:54
most of which is coffee.
33
102000
1000
ซึ่งส่วนมากคือกาแฟ
01:55
I couldn't fit 40 million cups on a canvas,
34
103000
3000
ผมไม่สามารถถ่ายภาพแก้ว 40 ล้านใบลงบนผืนผ้าใบได้
01:58
but I was able to put 410,000. That's what 410,000 cups looks like.
35
106000
4000
ผมใส่ลงไปได้แค่ 410,000 ใบ แก้ว 410,000 ใบมันหน้าตาเป็นอย่างนี้ครับ
02:03
That's 15 minutes of our cup consumption.
36
111000
1000
นั่นคือแก้วที่เราใช้ภายในสิบห้านาที
02:04
And if you could actually stack up that many cups in real life,
37
112000
4000
และถ้าในชีวิตจริงคุณสามารถเอาแก้วทั้งหมดนี้เรียงต่อกันขึ้นไป
02:08
that's the size it would be.
38
116000
1000
มันจะมีขนาดเท่านี้ครับ
02:09
And there's an hour's worth of our cups.
39
117000
2000
และนี่ก็เป็นแก้วที่เราใช้ในหนึ่งชั่วโมง
02:12
And there's a day's worth of our cups.
40
120000
1000
นี่คือแก้วที่เราใช้ในหนึ่งวัน
02:13
You can still see the little people way down there.
41
121000
2000
คุณจะเห็นคนตัวเล็กๆ อยู่ข้างล่างนั่น
02:15
That's as high as a 42-story building,
42
123000
2000
แก้วพวกนี้เรียงต่อกันสูงเท่าตึก 42 ชั้นครับ
02:17
and I put the Statue of Liberty in there as a scale reference.
43
125000
4000
ผมเอารูปเทพีเสรีภาพมาวางเทียบให้เห็นสัดส่วนว่ามันใหญ่แค่ไหน
02:23
Speaking of justice, there's another phenomenon going on in our culture
44
131000
3000
พูดถึงความยุติธรรม ตอนนี้ก็มีปรากฏการณ์อันหนึ่งที่กำลังเกิดขึ้นในวัฒนธรรมของเรา
02:26
that I find deeply troubling, and that is that America, right now,
45
134000
3000
ซึ่งผมรู้สึกว่าน่าเป็นห่วงมาก นั่นคือ ประเทศอเมริกาในขณะนี้
02:29
has the largest percentage of its population in prison
46
137000
3000
มีจำนวนประชากรถูกคุมขังคิดเป็นเปอร์เซ็นต์มากที่สุด
02:32
of any country on Earth.
47
140000
2000
ยิ่งกว่าประเทศใดๆ ในโลกนี้
02:35
One out of four people, one out of four humans in prison
48
143000
3000
หนึ่งในสี่ของคนที่ติดคุกในโลกนี้
02:38
are Americans, imprisoned in our country.
49
146000
4000
คือคนอเมริกันที่ถูกขังอยู่ในประเทศของเรานี่เอง
02:43
And I wanted to show the number.
50
151000
1000
ผมอยากแสดงตัวเลขที่ว่าให้ดู
02:44
The number is 2.3 million Americans were incarcerated in 2005.
51
152000
4000
ตัวเลขนั้นคือ ในปี 2005 มีคนอเมริกัน 2.3 ล้านคนถูกจองจำ
02:48
And that's gone up since then, but we don't have the numbers yet.
52
156000
2000
และจำนวนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นับจากนั้น แต่เรายังไม่มีตัวเลขที่ใหม่กว่านี้
02:50
So, I wanted to show 2.3 million prison uniforms,
53
158000
3000
ดังนั้น ผมก็เลยจะแสดงภาพชุดนักโทษ 2.3 ล้านชุด
02:54
and in the actual print of this piece,
54
162000
3000
ในภาพจริงที่พิมพ์ออกมา
02:57
each uniform is the size of a nickel on its edge.
55
165000
3000
เครื่องแบบนักโทษแต่ละชุดมีขนาดเท่าด้านข้างของเหรียญ 5 เซนต์
03:00
They're tiny. They're barely visible as a piece of material,
56
168000
3000
มันเล็กมากจนมองแยกกันเป็นชิ้นๆ แทบไม่ออก
03:03
and to show 2.3 million of them required a canvas
57
171000
3000
และการที่จะแสดงภาพทั้งหมด 2.3 ล้านชุด ต้องใช้ผืนผ้าใบ
03:07
that was larger than any printer in the world would print.
58
175000
2000
ที่ใหญ่กว่าพรินท์เตอร์เครื่องใดๆ ในโลกนี้จะสามารถพิมพ์ออกมาได้
03:09
And so I had to divide it up into multiple panels
59
177000
2000
ผมก็เลยต้องแบ่งมันออกเป็นส่วนๆ
03:11
that are 10 feet tall by 25 feet wide.
60
179000
2000
แต่ละส่วนมีขนาด 10 คูณ 25 ฟุต
03:13
This is that piece installed in a gallery in New York --
61
181000
4000
นี่คืองานชิ้นดังกล่าวที่จัดแสดงในหอศิลป์ที่นิวยอร์ค
03:18
those are my parents looking at the piece.
62
186000
2000
สองคนที่กำลังดูรูปอยู่นั่นคือพ่อกับแม่ผม
03:20
(Laughter)
63
188000
2000
(เสียงหัวเราะ)
03:23
Every time I look at this piece,
64
191000
1000
ทุกครั้งที่ผมมองงานชิ้นนี้
03:24
I always wonder if my mom's whispering to my dad,
65
192000
2000
ผมคิดในใจว่า แม่ผมคงจะกระซิบกับพ่อว่า
03:26
"He finally folded his laundry."
66
194000
2000
"ในที่สุดลูกเราก็รู้จักพับเสื้อผ้าเสียที"
03:28
(Laughter)
67
196000
1000
(เสียงห้วเราะ)
03:31
I want to show you some pieces now that are about addiction.
68
199000
2000
ผมอยากให้คุณดูงานที่เกี่ยวกับการใช้สารเสพติดบ้าง
03:33
And this particular one is about cigarette addiction.
69
201000
4000
งานชิ้นนี้เกี่ยวกับการติดบุหรี่
03:37
I wanted to make a piece that shows the actual number of Americans
70
205000
3000
ผมอยากสร้างงานที่แสดงจำนวนคนอเมริกัน
03:40
who die from cigarette smoking.
71
208000
2000
ที่เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่
03:42
More than 400,000 people die in the United States every year
72
210000
3000
ทุกๆ ปี จะมีคนอเมริกันเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่
03:45
from smoking cigarettes.
73
213000
2000
มากกว่า 400,000 คน
03:47
And so, this piece is made up of lots and lots of boxes of cigarettes.
74
215000
4000
งานชิ้นนี้ประกอบขึ้นจากกล่องบุหรี่มากมายมหาศาล
03:51
And, as you slowly step back,
75
219000
1000
และ ถ้าคุณค่อยๆ ถอยหลังออกไป
03:52
you see that it's a painting by Van Gogh, called "Skull with Cigarette."
76
220000
4000
คุณจะเห็นว่ามันเป็นภาพวาดของแวน โก๊ะ ที่ชื่อ "หัวกะโหลกกับบุหรี่" (Skull with Cigarette)
03:56
It's a strange thing to think about, that on 9/11,
77
224000
4000
น่าแปลกนะครับ เมื่อเรานึกถึงเหตุการณ์ 9/11
04:00
when that tragedy happened, 3,000 Americans died.
78
228000
2000
ตอนที่โศกนาฎกรรมนั้นเกิดขึ้น คนอเมริกันเสียชีวิตไป 3,000 คน
04:02
And do you remember the response?
79
230000
2000
แล้วคุณจำปฏิกิริยาตอบสนองที่เกิดขึ้นได้ไหม
04:05
It reverberated around the world,
80
233000
2000
มันสะเทือนไปทั่วโลก
04:07
and will continue to reverberate through time.
81
235000
3000
และจะยังคงส่งแรงสั่นสะเทือนต่อไปไม่หยุด
04:10
It will be something that we talk about in 100 years.
82
238000
3000
อีก 100 ปีข้างหน้าเราก็จะยังพูดถึงเรื่องนี้
04:13
And yet on that same day, 1,100 Americans died from smoking.
83
241000
5000
แต่ในวันเดียวกันนั้น คนอเมริกัน 1,100 คนเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่
04:18
And the day after that, another 1,100 Americans died from smoking.
84
246000
3000
วันรุ่งขึ้น คนอเมริกันอีก 1,100 คนก็เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่
04:21
And every single day since then, 1,100 Americans have died.
85
249000
3000
และทุกๆ วันนับจากนั้น มีคนอเมริกันเสียชีวิตเพราะบุหรี่ 1,100 คน
04:25
And today, 1,100 Americans are dying from cigarette smoking.
86
253000
2000
วันนี้ก็มีคนอเมริกันอีก 1,100 คนกำลังจะเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่
04:27
And we aren't talking about it -- we dismiss it.
87
255000
4000
แต่เราไม่พูดถึงเรื่องนี้ เราไม่ใส่ใจมันเลย
04:32
The tobacco lobby, it's too strong.
88
260000
2000
การล็อบบี้ของพวกบริษัทบุหรี่มันมีพลังมากเกินไป
04:34
We just dismiss it out of our consciousness.
89
262000
2000
เราก็เลยปัดมันพ้นไปจากจิตสำนึก
04:38
And knowing what we know about the destructive power of cigarettes,
90
266000
6000
แล้วทั้งๆ ที่เราก็รู้ว่าบุหรี่มันอันตราย
04:44
we continue to allow our children, our sons and daughters,
91
272000
4000
เราก็ยังยอมให้ลูกหลานของเรา
04:48
to be in the presence of the influences that start them smoking.
92
276000
3000
ตกอยู่ท่ามกลางอิทธิพลต่างๆ นานาที่กระตุ้นให้เขาเริ่มลองสูบบุหรี่
04:51
And this is what the next piece is about.
93
279000
2000
และงานชิ้นต่อมาของผมก็สื่อเรื่องนี้
04:54
This is just lots and lots of cigarettes: 65,000 cigarettes,
94
282000
3000
นี่คือบุหรี่จำนวน 65,000 มวน
04:57
which is equal to the number of teenagers
95
285000
2000
ซึ่งเท่ากับจำนวนของวัยรุ่นในสหรัฐอเมริกา
05:00
who will start smoking this month, and every month in the U.S.
96
288000
3000
ที่เริ่มสูบบุหรี่ภายในเดือนนี้ และทุกๆ เดือน
05:03
More than 700,000 children in the United States aged 18 and under
97
291000
4000
ทุกๆ ปี เด็กๆ อายุ 18 และต่ำกว่า 18 จำนวนมากกว่า 700,000 คน
05:07
begin smoking every year.
98
295000
2000
ในสหรัฐอเมริกา เริ่มสูบบุหรี่
05:09
One more strange epidemic in the United States
99
297000
5000
โรคระบาดที่ประหลาดอีกอย่างหนึ่งในสหรัฐอเมริกา
05:15
that I want to acquaint you with
100
303000
2000
ที่ผมอยากนำเสนอให้คุณรู้ไว้
05:17
is this phenomenon of abuse and misuse of prescription drugs.
101
305000
5000
คือปรากฏการณ์การใช้ยาตามใบสั่งแพทย์ผิดวิธี
05:23
This is an image I've made out of lots and lots of Vicodin.
102
311000
4000
นี่เป็นภาพที่ผมสร้างจากภาพยาไวโคดินจำนวนมาก
05:27
Well, actually, I only had one Vicodin
103
315000
2000
อ่อ ที่จริงผมมียาไวโคดินเม็ดเดียวแหละครับ
05:29
that I scanned lots and lots of times.
104
317000
2000
แต่ผมสแกนมันซ้ำหลายๆ รอบ
05:31
(Laughter)
105
319000
1000
(เสียงหัวเราะ)
05:32
And so, as you stand back, you see 213,000 Vicodin pills,
106
320000
3000
ถ้าคุณยืนห่างออกไป คุณจะเห็นยาไวโคดิน 213,000 เม็ด
05:35
which is the number of hospital emergency room visits
107
323000
3000
ซึ่งเท่ากับจำนวนผู้ป่วยที่ถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉิน
05:39
yearly in the United States,
108
327000
1000
ในสหรัฐอเมริกาในแต่ละปี
05:40
attributable to abuse and misuse of prescription painkillers
109
328000
5000
โดยมีสาเหตุมาจากการใช้ยาแก้ปวด และยาระงับความวิตกกังวล
05:45
and anti-anxiety medications.
110
333000
1000
ผิดวิธี หรือเกินขนาด
05:46
One-third of all drug overdoses in the U.S. --
111
334000
4000
หนึ่งในสามของผู้ป่วยที่ใช้ยาเกินขนาดในสหรัฐอเมริกา
05:50
and that includes cocaine, heroin, alcohol, everything --
112
338000
3000
ซึ่งนั่นรวมทั้งโคเคน เฮโรอีน แอลกอฮอล์ ทุกอย่าง
05:53
one-third of drug overdoses are prescription medications.
113
341000
4000
หนึ่งในสามของกรณีการใช้ยาเกินขนาด เป็นยาตามใบสั่งแพทย์
05:58
A strange phenomenon.
114
346000
1000
เป็นปรากฏการณ์ที่แปลกมาก
05:59
This is a piece that I just recently completed
115
347000
4000
นี่เป็นงานชิ้นใหม่ที่ผมเพิ่งทำเสร็จ
06:03
about another tragic phenomenon. And that is the phenomenon,
116
351000
3000
มันเกี่ยวกับปรากฏการณ์ที่เป็นโศกนาฏกรรม และปรากฏการณ์นี้
06:06
this growing obsession we have with breast augmentation surgery.
117
354000
4000
คือความคลั่งไคล้ในการทำศัลยกรรมเสริมหน้าอกที่กำลังเพิ่มมากขึ้น
06:12
384,000 women, American women, last year
118
360000
4000
ปีที่แล้ว ผู้หญิงอเมริกัน 384,000 คน
06:16
went in for elective breast augmentation surgery.
119
364000
4000
ไปทำศัลยกรรมเสริมหน้าอก
06:21
It's rapidly becoming the most popular high school graduation gift,
120
369000
4000
มันกำลังกลายเป็นของขวัญวันเรียนจบไฮสคูลที่เป็นที่นิยมที่สุด
06:25
given to young girls who are about to go off to college.
121
373000
4000
สำหรับมอบให้เด็กสาวที่กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย
06:31
So, I made this image out of Barbie dolls,
122
379000
3000
ผมจึงสร้างภาพนี้ขึ้นจากรูปตุ๊กตาบาร์บี้
06:34
and so, as you stand back you see this kind of floral pattern,
123
382000
5000
ถ้าคุณถอยออกไป คุณจะเห็นเหมือนภาพลายดอกไม้
06:39
and as you get all the way back, you see 32,000 Barbie dolls,
124
387000
4000
ถ้าถอยไปไกลสุดๆ คุณจะเห็นตุ๊กตาบาร์บี้ 32,000 ตัว
06:43
which represents the number of breast augmentation surgeries
125
391000
3000
ซึ่งเท่ากับจำนวนการทำศัลกรรมเสริมหน้าอก
06:46
that are performed in the U.S. each month.
126
394000
2000
ที่เกิดขึ้นในอเมริกาในแต่ละเดือน
06:48
The vast majority of those are on women under the age of 21.
127
396000
5000
คนที่เข้ารับการผ่าตัดส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงอายุต่ำกว่า 21 ปี
06:54
And strangely enough, the only plastic surgery
128
402000
2000
ที่ประหลาดกว่านั้น การทำศัลยกรรมอย่างเดียว
06:56
that is more popular than breast augmentation is liposuction,
129
404000
4000
ที่มีคนทำมากกว่าการเสริมหน้าอก คือการดูดไขมัน
07:00
and most of that is being done by men.
130
408000
2000
ซึ่งคนที่ไปทำส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย
07:02
Now, I want to emphasize that these are just examples.
131
410000
4000
ทีนี้ ผมอยากเน้นว่านี่เป็นแค่ตัวอย่าง
07:06
I'm not holding these out as being the biggest issues.
132
414000
3000
ผมไม่ได้บอกว่าประเด็นพวกนี้เป็นเรื่องใหญ่หรือสำคัญที่สุด
07:09
They're just examples.
133
417000
2000
มันเป็นแค่ตัวอย่างส่วนหนึ่ง
07:12
And the reason that I do this, it's because I have this fear
134
420000
4000
เหตุผลที่ผมทำงานพวกนี้ เพราะผมรู้สึกว่ามันน่ากลัว
07:16
that we aren't feeling enough as a culture right now.
135
424000
3000
ที่พวกเราทั้งวัฒนธรรมโดยรวม ไม่รู้สึกรู้สมกับเรื่องต่างๆ มากพอ
07:20
There's this kind of anesthesia in America at the moment.
136
428000
3000
เหมือนมันมีภาวะไร้ความรู้สึกในอเมริกา ณ ขณะนี้
07:23
We've lost our sense of outrage, our anger and our grief
137
431000
8000
เราสูญเสียความรู้สึกเจ็บแค้น โกรธ และเศร้าโศก
07:31
about what's going on in our culture right now,
138
439000
2000
เกี่ยวกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในวัฒนธรรมของเราในขณะนี้
07:33
what's going on in our country,
139
441000
1000
นี่มันเกิดอะไรขึ้นในประเทศของเรา
07:34
the atrocities that are being committed in our names around the world.
140
442000
2000
รวมทั้งกับความโหดร้ายที่เกิดขึ้นทั่วโลกในนามของเรา
07:36
They've gone missing; these feelings have gone missing.
141
444000
3000
ความรู้สึกเหล่านี้มันหายไป
07:40
Our cultural joy, our national joy is nowhere to be seen.
142
448000
3000
เรามองหาความปิติสุขของวัฒนธรรม ของประเทศเราไม่เจอเลย
07:43
And one of the causes of this, I think,
143
451000
3000
และหนึ่งในสาเหตุของภาวะนี้ ผมคิดว่า
07:47
is that as each of us attempts to build this new kind of worldview,
144
455000
4000
มันเป็นเพราะ ขณะที่เราแต่ละคนพยายามสร้างโลกทัศน์ใหม่ขึ้นมา
07:51
this holoptical worldview, this holographic image
145
459000
4000
โลกทัศน์ใหม่ ภาพร่างสามมิติอันนี้
07:55
that we're all trying to create in our mind
146
463000
2000
ที่เราทุกคนกำลังสร้างขึ้นในใจของเรา
07:57
of the interconnection of things: the environmental footprints
147
465000
3000
เกี่ยวกับความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันของสรรพสิ่ง อย่างผลกระทบทางสภาพแวดล้อม
08:00
1,000 miles away of the things that we buy;
148
468000
3000
ต่อสิ่งที่อยู่ไกลออกไปอีก 1,000 ไมล์ จากสินค้าที่เราซื้อ
08:03
the social consequences 10,000 miles away
149
471000
2000
ผลกระทบทางสังคม ต่อที่ไกลออกไปอีก 10,000 ไมล์
08:06
of the daily decisions that we make as consumers.
150
474000
3000
ที่เกิดขึ้นจากการตัดสินใจในแต่ละวันของเราในฐานะผู้บริโภค
08:09
As we try to build this view,
151
477000
2000
ในขณะที่เราสร้างภาพเหล่านี้ขึ้นในใจ
08:11
and try to educate ourselves about the enormity of our culture,
152
479000
3000
และพยายามทำความเข้าใจกับความใหญ่โตมโหฬารของวัฒนธรรมของเรา
08:14
the information that we have to work with is these gigantic numbers:
153
482000
5000
ข้อมูลที่เราต้องเอามาพิจารณานั้น คือตัวเลขมหึมาพวกนี้
08:20
numbers in the millions, in the hundreds of millions,
154
488000
3000
ตัวเลขหลักหลายล้าน หลายร้อยล้าน
08:23
in the billions and now in the trillions.
155
491000
2000
หลายพันล้าน และเดี๋ยวนี้มีถึงเป็นล้านล้าน
08:26
Bush's new budget is in the trillions, and these are numbers
156
494000
2000
อย่างงบประมาณในสมัยรัฐบาลของบุชก็เป็นล้านล้าน
08:28
that our brain just doesn't have the ability to comprehend.
157
496000
3000
ตัวเลขพวกนี้ สมองของเราไม่สามารถเข้าใจได้
08:32
We can't make meaning out of these enormous statistics.
158
500000
4000
เราไม่สามารถทำความเข้าใจความหมายของสถิติที่มากมายมหาศาลเหล่านี้ได้
08:36
And so that's what I'm trying to do with my work,
159
504000
3000
สิ่งที่ผมพยายามทำในงานของผม
08:40
is to take these numbers, these statistics
160
508000
1000
คือเอาตัวเลขพวกนี้ สถิติพวกนี้
08:41
from the raw language of data, and to translate them
161
509000
5000
จากภาษาของข้อมูลดิบ มาแปลเป็น
08:46
into a more universal visual language, that can be felt.
162
514000
3000
ภาษาภาพที่เป็นสากล ที่คนเราสามารถรู้สึกได้ สัมผัสได้
08:49
Because my belief is, if we can feel these issues,
163
517000
4000
เพราะความเชื่อของผมก็คือ ถ้าเรารู้สึกรู้สมกับประเด็นเหล่านี้
08:53
if we can feel these things more deeply,
164
521000
2000
ถ้าเราสัมผัสมันได้อย่างลึกซึ้งมากขึ้น
08:55
then they'll matter to us more than they do now.
165
523000
4000
มันก็จะมีความหมายกับเรามากขึ้นกว่าที่มันเป็นอยู่ตอนนี้
09:00
And if we can find that,
166
528000
1000
และถ้าเราค้นพบความหมายของมันได้
09:01
then we'll be able to find, within each one of us,
167
529000
4000
เราก็จะค้นพบ ข้างในใจเราแต่ละคน
09:06
what it is that we need to find to face the big question,
168
534000
3000
ว่าเราต้องทำอะไรเพื่อเผชิญหน้ากับคำถามสำคัญ
09:09
which is: how do we change?
169
537000
2000
นั่นคือ เราจะเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร
09:12
That, to me, is the big question that we face as a people right now:
170
540000
5000
คำถามนี้ สำหรับผม เป็นคำถามสำคัญที่เราต้องตอบในฐานะที่เป็นประชากรคนหนึ่ง
09:17
how do we change? How do we change as a culture,
171
545000
3000
เราจะเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร เราจะเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมของเราได้อย่างไร
09:21
and how do we each individually take responsibility
172
549000
4000
แล้วเราแต่ละคนจะต้องทำอะไร อย่างไร
09:25
for the one piece of the solution that we are in charge of,
173
553000
3000
กับส่วนหนึ่งของทางออกของปัญหา ที่เราแต่ละคนต้องรับผิดชอบ
09:29
and that is our own behavior?
174
557000
1000
นั่นก็คือพฤติกรรมของเราเอง
09:30
My belief is that you don't have to make yourself bad
175
558000
9000
ในความคิดผมนะครับ คุณไม่ต้องทำให้ตัวเองรู้สึกแย่
09:40
to look at these issues.
176
568000
2000
เวลามองดูประเด็นพวกนี้
09:42
I'm not pointing the finger at America in a blaming way.
177
570000
4000
ผมไม่ได้มาชี้หน้าต่อว่าคนอเมริกัน
09:46
I'm simply saying, this is who we are right now.
178
574000
2000
ผมแค่บอกว่า นี่แหละคือสิ่งที่เราเป็นอยู่ในขณะนี้
09:48
And if there are things that we see
179
576000
2000
และถ้ามีอะไรที่เราเห็นแล้ว
09:50
that we don't like about our culture,
180
578000
1000
เราไม่ชอบเกี่ยวกับวัฒนธรรมของเรา
09:51
then we have a choice.
181
579000
2000
เราก็มีทางเลือก
10:02
The degree of integrity that each of us can bring to the surface,
182
590000
5000
ความจริงใจและมุ่งมั่นที่เราแต่ละคนแสดงออกมา
10:07
to bring to this question, the depth of character that we can summon,
183
595000
5000
ในการจัดการกับปัญหานี้ คุณลักษณะที่อยู่ลึกๆ ในตัวเรา ที่เราสามารถดึงออกมาใช้
10:14
as we show up for the question of how do we change --
184
602000
3000
เมื่อเราลุกขึ้นมาจัดการกับปัญหาว่าเราจะเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร
10:17
it's already defining us as individuals and as a nation,
185
605000
6000
มันกำลังบ่งบอกความเป็นเรา ทั้งในระดับบุคคลและในระดับประเทศ
10:25
and it will continue to do that, on into the future.
186
613000
3000
และจะเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ในอนาคต
10:28
And it will profoundly affect the well-being, the quality of life
187
616000
7000
และมันก็จะส่งผลกระทบอันลึกซึ้งต่อความอยู่ดีมีสุข ต่อคุณภาพชีวิต
10:35
of the billions of people
188
623000
1000
ของคนนับพันล้านคน
10:36
who are going to inherit the results of our decisions.
189
624000
5000
ที่จะมารับผลที่เกิดจากการตัดสินใจของเรา
10:45
I'm not speaking abstractly about this,
190
633000
1000
ผมไม่ได้พูดเรื่องที่เป็นนามธรรม
10:46
I'm speaking -- this is who we are in this room,
191
634000
9000
นี่สิ่งที่เราทุกคนในห้องนี้กำลังเป็นอยู่
10:56
right now, in this moment.
192
644000
2000
เดี๋ยวนี้ ณ วินาทีนี้
10:58
Thank you and good afternoon.
193
646000
4000
ขอบคุณ และสวัสดีครับ
11:03
(Applause)
194
651000
6000
(เสียงปรบมือ)
ABOUT THE SPEAKER
Chris Jordan - ArtistChris Jordan runs the numbers on modern American life -- making large-format, long-zoom artwork from the most mindblowing data about our stuff.
Why you should listen
Photographer Chris Jordan trains his eye on American consumption. His 2003-05 series "Intolerable Beauty" examines the hypnotic allure of the sheer amount of stuff we make and consume every day: cliffs of baled scrap, small cities of shipping containers, endless grids of mass-produced goods.
His 2005 book In Katrina's Wake: Portraits of Loss from an Unnatural Disaster is a chilling, unflinching look at the toll of the storm. And his latest series of photographs, "Running the Numbers," gives dramatic life to statistics of US consumption. Often-heard factoids like "We use 2 million plastic bottles every 5 minutes" become a chilling sea of plastic that stretches beyond our horizon.
In April 2008, Jordan traveled around the world with National Geographic as an international eco-ambassador for Earth Day 2008.
Chris Jordan | Speaker | TED.com