TEDActive 2011
Mick Ebeling: The invention that unlocked a locked-in artist
ไมค์ เอเบลลิง:สิ่งประดิษฐ์ปลดล็อกความเป็นศิลปิน
Filmed:
Readability: 3.6
1,038,911 views
โรคประสาท ALS ทำให้ศิลปินกราฟิติอย่าง TEMPT เป็นอัมพาตตั้งแต่หัวจรดเท้า ได้แต่สื่อสารด้วยการกระพริบตา ไมค์ เอเบลลิ่งได้แบ่งปันและเล่าเรื่องอันน่าทึ่งในTEDActive เกี่ยวกับความร่วมมือและวิธีการสร้างสิ่งประดิษฐ์ให้กับศิลปิน--ให้กับผู้อื่น--ได้ทำงานศิลปะที่มีความหมายอีกครั้ง
Mick Ebeling - Entrepreneur
Mick Ebeling founded the Not Impossible Foundation, a nonprofit that develops creative solutions to real-world problems. Full bio
Mick Ebeling founded the Not Impossible Foundation, a nonprofit that develops creative solutions to real-world problems. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:15
I have had the distinct blessing in my life
0
0
3000
ผมมีความสุขในชีวิต
00:18
to have worked on a bunch of amazing projects.
1
3000
2000
ที่ได้ทำงานในโครงการที่น่าทึ่งหลายโครงการ
00:20
But the coolest I ever worked on
2
5000
2000
แต่สิ่งที่เจ๋งที่สุดที่ผมได้ทำ
00:22
was around this guy.
3
7000
2000
คือทำงานร่วมกับคนคนนี้
00:24
This guy's name is TEMPT.
4
9000
2000
คนๆนั้นชื่อTEMPT
00:26
TEMPT was one of the foremost graffiti artists in the 80s.
5
11000
3000
TEMPTเป็นศิลปินกราฟิติที่สำคัญที่สุดคนหนึ่งในยุค80s
00:29
And he came up home from a run one day
6
14000
2000
และวันนึงเขากลับบ้านหลังจากวิ่งออกกำลังกาย
00:31
and said, "Dad, my legs are tingling."
7
16000
2000
แล้วพูดว่า"พ่อ ผมรู้สึกเสียวๆขาทั้งสองข้าง"
00:33
And that was the onset of ALS.
8
18000
2000
และนั่นก็เป็นอาการในระยะเริ่มต้นของโรคALS
00:35
So TEMPT is now completely paralyzed.
9
20000
2000
ดังนั้นตอนนี้TEMPTเป็นอัมพาตไปแล้ว
00:37
He only has use of his eyes.
10
22000
3000
เขาใช้ได้แค่ตาทั้งคู่ของเขา
00:40
I was exposed to him.
11
25000
2000
ผมได้สัมผัสตัวตนของเขา
00:42
I have a company that does design and animation,
12
27000
2000
ผมมีบริษัทที่ทำงานออกแบบและแอนิเมชัน
00:44
so obviously graffiti is definitely an intricate part
13
29000
2000
ดังนั้นแน่นอนว่ากราฟิติก็เป็นส่วนนึงใน
00:46
of what we admire and respect in the art world.
14
31000
3000
สิ่งที่เราชื่นชมและให้ความเคารพกับโลกศิลปะด้วย
00:49
And so we decided that we were going to sponsor
15
34000
3000
และพวกเราได้ตัดสินใจที่จะสนับสนุน
00:52
Tony, TEMPT, and his cause.
16
37000
2000
โทนี่ TEMPT และความมุ่งมั่นของเขา
00:54
So I went and met with his brother and father
17
39000
2000
ดังนั้นผมจึงไปพบกับพี่ชายและพ่อของเขา
00:56
and said, "We're going to give you this money.
18
41000
2000
และพูดว่า"ถ้าพวกเราให้เงินกับคุณ
00:58
What are you going to do with it?"
19
43000
2000
คุณจะเอาไปทำอะไร"
01:00
And his brother said, "I just want to be able to talk to Tony again.
20
45000
3000
แล้วพี่ชายเขาก็พูดว่า"ผมแค่อยากพูดคุยกับโทนี่ได้อีกครั้ง"
01:03
I just want to be able to communicate with him
21
48000
2000
ผมแค่ต้องการที่จะสื่อสารกับเขาได้
01:05
and him to be able to communicate with me."
22
50000
2000
และเขาสามารถสนทนากับผมได้
01:07
And I said, "Wait a second, isn't that -- I've seen Stephen Hawking --
23
52000
2000
และผมพูดว่า "เดี๋ยวก่อน ไม่ใช่ว่า ผมเคยเห็นสตีเฟน ฮอร์กิน
01:09
don't all paralyzed people have the ability to communicate
24
54000
3000
ไม่ใช่ว่าคนที่เป็นอัมพาตสามารถสนทนาได้หรอ
01:12
via these devices?"
25
57000
2000
ผ่านทางอุปกรณ์เหล่านี้"
01:14
And he said, "No, unless you're in the upper echelon and
26
59000
3000
พี่เขาตอบว่า" ไม่ ถ้าคุณไม่ใช่คนรวย
01:17
you've got really amazing insurance,
27
62000
2000
และมีประกันชั้นดี
01:19
you can't actually do that.
28
64000
2000
คุณไม่สามารถทำได้
01:21
These devices aren't accessible to people."
29
66000
2000
อุปกรณ์เหล่านี้ไม่สามารถเข้าถึงประชาชนได้"
01:23
And I said, "Well, how do you actually communicate?"
30
68000
2000
ผมเลยถามว่า"ถ้างั้น คุณสื่อสารกันอย่างไรละ"
01:25
Has everyone seen the movie "The Diving Bell and the Butterfly?"
31
70000
2000
พวกคุณเคยดูหนังเรื่อง "The Diving Bell and the Butterfly" ไหมครับ
01:27
That's how they communicate --
32
72000
2000
นั่นเป็นวิธีที่พวกเขาสื่อสารกัน
01:29
so run their finger along.
33
74000
2000
ใช้นิ้วชี้ตามตัวหนังสือต่างๆ
01:31
I said, "That's archaic. How can that be?"
34
76000
3000
ผมพูดขึ้นว่า "นั่นมันล้าสมัยมากนะ ทำไมมันถึงเป็นเช่นนั้นได้"
01:34
So I showed up with the desire to just write a check,
35
79000
4000
ผมเลยแสดงความตั้งใจด้วยการเขียนเช็ค
01:38
and instead, I wrote a check
36
83000
2000
และแทนที่ผมจะเขียนเช็ค
01:40
that I had no freaking idea how I was going to cash.
37
85000
3000
ที่ผมไม่รู้เลยว่าจะต้องเขียนสักกี่ตังค์
01:43
I committed to his brother and his father right then and there --
38
88000
2000
ผมสัญญากับพี่ชายและพ่อของเขาว่า
01:45
I'm like, "All right, here's the deal:
39
90000
2000
"เอาละ" นี่คือข้อตกลง
01:47
Tony's going to speak, we're going to get him a machine,
40
92000
2000
โทนี่จะพูดได้อีกครั้ง พวกเราจะหาเครื่องช่วยให้เขา
01:49
and we're going to figure out a way for him to do his art again.
41
94000
3000
และพวกเราจะหาวิธีทำให้เขาได้ทำงานศิลปะอีกครั้ง
01:52
Because it's a travesty that someone who still has all of that in him
42
97000
3000
เพราะนี่มันเหมือนเป็นการล้อเลียนคนที่มีหลายสิ่งหลายอย่างในตัวเขา
01:55
isn't able to communicate it."
43
100000
2000
แต่ไม่สามารถถ่ายทอดมันออกมาได้"
01:57
So I spoke at a conference a couple months after that.
44
102000
2000
ประมาณสองเดือนหลังจากนั้นผมได้ไปพูดในสัมมนา
01:59
I met these guys called GRL,
45
104000
2000
แล้วพบกับกลุ่มคนหนึ่งชื่อGRL
02:01
Graffiti Research Lab,
46
106000
2000
Graffiti Research Lab
02:03
and they have a technology
47
108000
2000
และพวกเขาก็มีเทคโนโลยี
02:05
that allows them to project a light onto any surface
48
110000
2000
ที่สามารถฉายแสงลงบนพื้นผิวต่างๆได้
02:07
and then, with a laser pointer, draw on it,
49
112000
2000
ดังนั้น ด้วยเลเซอร์ พ้อยเตอร์ วาดลงบนนั้น
02:09
and it just registers the negative space.
50
114000
2000
และบันทึกลงบนพื้นผิว
02:11
So they go around and do art installations like this.
51
116000
3000
มันก็จะไปรอบๆและสร้างงานศิลปะขึ้นแบบนี้
02:14
All the things that go up there, they said there's a life cycle.
52
119000
3000
สิ่งต่างๆเหล่านี้ พวกเขาบอกว่ามันเป็นวงจรชีวิต
02:17
First it starts with the sexual organs,
53
122000
3000
เริ่มจากอวัยวะเพศ
02:20
then it starts with cuss words,
54
125000
2000
ตามด้วยคำโง่ๆ
02:22
then it was Bush slanders
55
127000
2000
ตามมาด้วยคำนินทาเกี่ยวกับบุช
02:24
and then people actually got to art.
56
129000
2000
และจากนั้นผู้คนก็เข้าถึงศิลปะ
02:26
But there was always a life cycle to their presentations.
57
131000
3000
แต่ตลอดที่พวกเขานำเสนอมันคือวงจรชีวิต
02:29
So I went home and was having dinner with my wife
58
134000
2000
ผมกลับบ้านและทานมื้อค่ำกับภรรยา
02:31
and was telling her about this,
59
136000
2000
เล่าเรื่องราวต่างๆให้เธอฟัง
02:33
and we were like, "Well wait a second. If we know that this technology exists
60
138000
3000
แล้วพวกเราก็ "เดี๋ยวก่อน ถ้าพวกเรารู้ว่าเทคโนโลยีที่มีอยู่
02:36
where you can use your eyes to control things,
61
141000
2000
สามารถใช้ดวงตาควบคุมได้
02:38
why don't we figure out a way for TEMPT to control a laser
62
143000
3000
ทำไมเราไม่หาทางทำให้TEMPTบังคับเลเซอร์ได้ล่ะ
02:41
and he could do graf again? Well that would be awesome."
63
146000
3000
และเขาก็จะได้ทำกราฟิติอีกครั้ง นั่นคงจะดีไม่น้อยเลยสินะ"
02:44
So that started the journey.
64
149000
2000
นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทาง
02:46
And about two years later, about a year later,
65
151000
3000
และประมาณสองปีให้หลัง หรือปีนึงหลังจากนั้น
02:49
after a bunch of organization
66
154000
2000
หลังจากจัดระเบียบอยู่สักพัก
02:51
and a bunch of moving things around,
67
156000
2000
และเครื่องย้ายสิ่งต่างๆ
02:53
we'd accomplished a couple things.
68
158000
2000
เราได้บรรลุเป้าหมายสองสามอย่าง
02:55
One, we battered down the doors of the insurance companies,
69
160000
2000
อย่างนึง เราได้ทำลายกำแพงของบริษัทประกันลง
02:57
and we actually got TEMPT a machine
70
162000
2000
และพวกเราได้เครื่องมือให้TEMPT
02:59
that let him communicate -- a Stephen Hawking machine.
71
164000
3000
ที่เขาสามารถใช้สื่อสาร เหมือนกับเครื่องมือของสตีเฟน ฮอร์กิน
03:02
(Applause)
72
167000
2000
(ปรบมือ)
03:04
Which was awesome.
73
169000
2000
ซึ่งมันเยี่ยมมาก
03:06
And he's seriously one of the funniest -- I call him Yoda,
74
171000
2000
และเขาก็เป็นคนที่ตลกคนนึงเลยทีเดียว ผมเรียกเขาว่าโยดา
03:08
because you talk to the guy, you get an email from him,
75
173000
2000
เพราะคุณพูดกับเขา แต่คุณกลับได้อีเมลล์เป็นคำตอบ
03:10
and you're like, "I'm not worthy. This guy's so amazing."
76
175000
3000
แล้วผมก็แบบว่า "ฉันมันไม่มีค่า คนพวกนี้ช่างน่าทึ่งจริงๆ"
03:13
The other thing we did
77
178000
2000
อีกอย่างที่พวกเราทำ
03:15
is we flew seven programmers from all over the world --
78
180000
2000
คือเราได้7โปรแกรมเมอร์จากทั่วโลก
03:17
literally every corner of the world --
79
182000
2000
จากทั่วทุกมุมโลกจริงๆ
03:19
into our house.
80
184000
2000
มาอาศัยที่บ้านเรา
03:21
My wife and kids and I moved to our back garage,
81
186000
3000
ภรรยา ลูกๆและผมย้ายไปอยู่ที่ในโรงรถ
03:24
and these hackers and programmers
82
189000
2000
และพวกแฮกเกอร์กับโปรแกรมเมอร์เหล่านี้
03:26
and conspiracy theorists and anarchists took over our house.
83
191000
3000
แล้วยังพวกนักฤษฎีกับพวกอนาธิปไตยเหล่านี้ยึดครองบ้านผม
03:29
A lot of our friends thought we were absolutely stupid to do that
84
194000
3000
เพื่อนของเราหลายคนคิดว่าเราบ้าไปแล้วที่ทำแบบนี้
03:32
and that we were going to come back
85
197000
2000
แล้วเมื่อพวกเรากลับเข้าบ้าน
03:34
and all the pictures on the wall would be removed and graf on the walls.
86
199000
3000
เราเอารูปบนฝาผนังออกหมด แล้วเอารูปกราฟิติขึ้นแทน
03:37
But for over two weeks,
87
202000
2000
แต่กว่าสองสัปดาห์
03:39
we programmed,
88
204000
2000
ที่เราทำโปรแกรม
03:41
we went to the Venice boardwalk,
89
206000
2000
เราได้ไปที่ทางเดินของเวนิซ
03:43
my kids got involved,
90
208000
3000
ลูกๆผมได้มีส่วนร่วม
03:46
my dog got involved,
91
211000
2000
สุนัขของผมก็มีส่วนร่วมด้วย
03:48
and we created this.
92
213000
2000
พวกเราได้สร้างนี่ขึ้น
03:50
This is called the EyeWriter,
93
215000
2000
มันเรียกว่าEyeWriter
03:52
and you can see the description.
94
217000
2000
พวกคุณสามารถเห็นคำอธิบายการใช้งานได้
03:54
This is a cheap pair of sunglasses
95
219000
2000
นี่เป็นแว่นกันแดดราขาถูก
03:56
that we bought at the Venice Beach boardwalk,
96
221000
2000
ที่พวกเราซื้อจากถนนVenice Beach
03:58
some copper wire
97
223000
2000
มีลวดทองแดงสองสามเส้น
04:00
and some stuff from Home Depot and Radio Shack.
98
225000
2000
และมีพวกเครื่องใช้ในบ้านกับอุปกรณ์วิทยุ
04:02
We took a PS3 camera, hacked it open,
99
227000
3000
เราเอากล้องPS3 เปิดมันขึ้น
04:05
mounted it to an LED light,
100
230000
2000
ติดตั้งกับไฟLED
04:07
and now there's a device that is free --
101
232000
3000
และตอนนี้เราก็ได้ช่องที่ฟรี
04:10
you build this yourself, we publish the code for free,
102
235000
2000
คุณสร้างมันขึ้นด้วยตัวเอง พิมพ์โคดฟรี
04:12
you download the software for free.
103
237000
2000
คุณดาวโหลดซอฟแวร์ฟรี
04:14
And now we've created a device
104
239000
2000
และตอนนี้พวกเราได้ผลิืตช่องทาง
04:16
that has absolutely no limitations.
105
241000
3000
ที่ไร้ขีดจำกัด
04:19
There's no insurance company that can say "No."
106
244000
2000
จะไม่มีบริษัทประกันไหนพูดว่า"ไม่"
04:21
There's no hospital that can say "No."
107
246000
3000
จะไม่มีโรงพยาบาลไหนพูดว่า"ไม่"
04:24
Anybody who's paralyzed now has access
108
249000
2000
ทุกคนที่เป็นอัมพาตตอนนี้มีโอกาส
04:26
to actually draw or communicate using only their eyes.
109
251000
3000
ที่จะวาด หรือสื่อสารโดยใช้แค่ดวงตาของพวกเขาได้
04:29
(Applause)
110
254000
9000
(ปรบมือ)
04:38
Thank you.
111
263000
2000
ขอบคุณครับ
04:43
Thank you guys very much. That was awesome.
112
268000
2000
ขอบคุณพวกคุณมาก มันเยี่ยมมาก
04:47
So at the end of the two weeks,
113
272000
3000
ดังนั้น ในที่สุดของสองสัปดาห์
04:50
we went back to TEMPT's room.
114
275000
2000
พวกเรากลับไปที่ห้องของTEMPT
04:52
I love this picture, because this is someone else's room
115
277000
2000
ผมชอบรูปนี้ เพราะว่านี่เป็นห้องของคนอื่น
04:54
and that's his room.
116
279000
2000
และนี่เป็นของเขา
04:56
So there's all this hustle and bustle going on for the big unveiling.
117
281000
3000
แล้วก็มีเรื่องยุ่งวุ่นวายมากมายก่อนการเปิดตัว
04:59
And after over a year of planning,
118
284000
2000
และหลังจากวางแผนมาหนึ่งปี
05:01
two weeks of programming,
119
286000
2000
สองสัปดาห์สำหรับสร้างโปรแกรม
05:03
carb-fest and all-night sessions,
120
288000
2000
อดหลับอดนอนมานาน
05:05
Tony drew again for the first time in seven years.
121
290000
3000
โทนี่ก็วาดรูปเป็นครั้งในรอบเจ็ดปี
05:08
And this is an amazing picture,
122
293000
2000
และนี่เป็นรูปภาพอันน่าทึ่ง
05:10
because this is his life support system,
123
295000
2000
เพราะนี่คือการสนับสนุนในชีวิตเขา
05:12
and he's looking over his life support system.
124
297000
2000
เขามองข้ามมันไป
05:14
We kicked his bed so that he could see out.
125
299000
2000
พวกเราช่วยยกเตียงเขาขึ้นเพื่อเขาจะได้เห็น
05:16
And we set up a projector
126
301000
2000
และพวกเราก็ตั้งโปรเจ็คเตอร์
05:18
on a wall out in the parking lot outside of his hospital.
127
303000
3000
บนกำแพงในลานจอดรถของโรงพยาบาล
05:21
And he drew again for the first time,
128
306000
2000
และเขาก็ได้เริ่มต้นวาดอีกครั้ง
05:23
in front of his family and friends --
129
308000
2000
ต่อหน้าครอบครัวและเพื่อนๆ
05:25
and you can only imagine
130
310000
2000
พวกคุณคงได้แต่จินตนาการ
05:27
what the feeling in the parking lot was.
131
312000
2000
ว่าความรู้สึกตอนอยู่ที่ลานจอดรถเป็นอย่างไร
05:29
The funny thing was, we had to break into the parking lot too,
132
314000
3000
เรื่องตลกอย่างนึงคือ พวกเราต้องแอบเข้าไปในลานจอดรถด้วย
05:32
so we totally felt like we were legit in the whole graf scene too.
133
317000
2000
ดังนั้นเราจึงรู้สึกเหมือนมีส่วนร่วมในฉากกราฟิติเช่นกัน
05:34
(Laughter)
134
319000
2000
(หัวเราะ)
05:36
So at the end of this, he sent us an email,
135
321000
3000
หลังจากรูปเสร็จ เขาก็ส่งเมลล์หาเรา
05:39
and this is what the email said:
136
324000
2000
และนี่คือสิ่งที่เขาตอบ
05:41
"That was the first time I've drawn anything for seven years.
137
326000
3000
"นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้วาดรูปในรอบเจ็ดปี"
05:44
I feel like I had been held underwater,
138
329000
2000
ผมรู้เหมือนกับผมอยู่ใต้น้ำ
05:46
and someone finally reached down
139
331000
2000
และในที่สุดมีใครบางคนเอื้อมลงมา
05:48
and pulled my head up so I could breathe."
140
333000
3000
แล้วดึงผมขึ้นมาได้หายใจ
05:51
Isn't that awesome?
141
336000
2000
มันเยี่ยมมากว่าไหม
05:53
(Applause)
142
338000
3000
(ปรบมือ)
05:56
So that's kind of our battle cry.
143
341000
3000
ดังนั้นนี้คือการต่อสู้ของเรา
05:59
That's what keeps us going and keeps us developing.
144
344000
2000
ที่พวกเราไม่หยุดนิ่ง พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง
06:01
And we've got such a long way to go with this.
145
346000
2000
และพวกเรากับสิ่งนี้มาได้เดินทางมาไกลถึงจุดนี้
06:03
This is an amazing device,
146
348000
2000
นี่คือช่องทางที่น่าทึ่ง
06:05
but it's the equivalent of an Etch A Sketch.
147
350000
2000
แต่มันก็เทียบเท่ากับEtch A Sketch
06:07
And someone who has that kind of artistic potential deserves so much more.
148
352000
3000
และคนที่มีความสามารถทางศิลปะนั้นสมควรได้รับอะไรมากกว่านั้น
06:10
So we're in the process of trying to figure out
149
355000
2000
พวกเราจึงอยู่ในช่วงปรับปรุง
06:12
how to make it better, faster, stronger.
150
357000
2000
เครื่องมือให้ทำงานดีขึ้น เร็วขึ้น แข็งแรงขึ้น
06:14
Since that time, we've had all kinds of acknowledgment.
151
359000
3000
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พวกเราก็ได้การยอมรับ
06:17
We've won a bunch of awards.
152
362000
2000
เราชนะหลายรางวัล
06:19
Remember, it's free; none of us are making any money on this thing.
153
364000
2000
อย่าลืมว่า ทั้งหมดนี่ฟรี ไม่มีพวกเราคนไหนเลยได้เงินจากสิ่งนี้
06:21
It's all coming out of our own pockets.
154
366000
2000
มันมาจากเงินส่วนตัวพวกเราล้วนๆ
06:23
So the awards were like, "Oh, this is fantastic."
155
368000
2000
พอได้รางวัลก็เลยเหมือนกับ "โอ้ นี่มันเจ๋งมาก"
06:25
Armstrong Twittered about us,
156
370000
2000
อาร์มสตรอง ทวิตเตอร์เกี่ยวกับเรา
06:27
and then in December, Time magazine honored us
157
372000
2000
และในเดือนธันวา นิตยสารTimeให้ยกย่องเรา
06:29
as one of the top 50 inventions of 2010, which was really cool.
158
374000
3000
ว่าเป็นหนึ่งใน50สิ่งประดิษฐ์ยอดเยี่ยมแห่งปี2010, ซึ่งเป็นอะไรที่เจ๋งมาก
06:32
(Applause)
159
377000
2000
(ปรบมือ)
06:34
The coolest thing about this --
160
379000
2000
สิ่งที่เจ๋งที่สุดสำหรับเรื่องนี้คือ
06:36
and this is what's completing the whole circle --
161
381000
3000
และนี่เป็นสิ่งที่ทำให้วงจรสมบูรณ์
06:39
is that in April of this year,
162
384000
2000
น่าจะเป็นช่วงเดือนเมษาของปี
06:41
at the Geffen MOCA in downtown Los Angeles,
163
386000
3000
ที่the Geffen MOCAในใจกลางเมืองLos Angeles
06:44
there's going to be an exhibition called "Art of the Streets."
164
389000
2000
ซึ่งจะมีงานนิทรรศการเรียกว่า"Art of the Streets"
06:46
And "Art of the Streets" is going to have
165
391000
2000
และใน"Art of the Streets"ก็จะมี
06:48
pretty much the bad-asses of the street art scene --
166
393000
2000
พวกstreet artเจ๋งๆมากมาย
06:50
Banksy, Shepard Fairey, KAWS --
167
395000
3000
อย่างBanksy, Shepard Fairey, CAWs
06:53
all of these guys will be there.
168
398000
2000
พวกเขาเหล่านี้จะไปที่นั่น
06:55
TEMPT's going to be in the show,
169
400000
2000
TEMPTก็จะไปร่วมงานด้วยเช่นกัน
06:57
which is pretty awesome.
170
402000
2000
เป็นอะไรที่เยี่ยมมาก
06:59
(Applause)
171
404000
2000
(ปรบมือ)
07:01
So basically this is my point:
172
406000
3000
นี่คือจุดประสงค์ของผมที่จะบอกว่า
07:05
If you see something that's not possible,
173
410000
2000
ถ้าคุณเห็นอะไรที่มันเป็นไปไม่ได้
07:07
make it possible.
174
412000
2000
ทำให้มันเป็นไปได้ซะ
07:09
Everything in this room wasn't possible --
175
414000
2000
ทุกสิ่งในห้องนี้เคยเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้มาก่อน
07:11
this stage, this computer, this mic, the EyeWriter --
176
416000
3000
เวทีนี้ คอมพิวเตอร์เครื่องนี้ ไมค์โครโฟน หรือthe EyeWriter
07:14
wasn't possible at one point.
177
419000
2000
เคยเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้มาก่อน
07:16
Make it possible, everyone in this room.
178
421000
2000
ทุกคนในที่นี้ทำให้มันเป็นไปได้
07:18
I'm not a programmer,
179
423000
2000
ผมไม่ใช่โปรแกรมเมอร์
07:20
never done anything with ocular recognition technology,
180
425000
2000
ไม่เคยทำอะไรเกี่ยวกับโทคโนโลยีการรีบรู้ของดวงตา
07:22
but I just recognized something and associated myself with amazing people
181
427000
3000
แต่ผมได้รับรู้บางอย่างและร่วมงานกับเหล่าบุคคลน่าทึ่งพวกนี้
07:25
so that we could make something happen.
182
430000
2000
เราจึงได้ทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้น
07:27
And this is the question I want everyone to ask yourself
183
432000
2000
และนี่คือคำถามที่ผมอยากทิ้งให้ทุกคนถามตัวเอง
07:29
every single day
184
434000
2000
ทุกๆวันว่า
07:31
when you come up with something you feel that needs to be done:
185
436000
3000
เมื่อคุณคิดอะไรได้และคิดว่ามันควรจะต้องทำให้สำเร็จ
07:34
if not now, then when? And if not me, then who?
186
439000
3000
ถ้าไม่ใช่ตอนนี้ แล้วเมื่อไหร่ละ และถ้าไม่ใช่ตัวเรา แล้วจะเป็นใคร
07:37
Thank you guys.
187
442000
2000
ขอบคุณครับ
07:39
(Applause)
188
444000
4000
(ปรบมือ)
ABOUT THE SPEAKER
Mick Ebeling - EntrepreneurMick Ebeling founded the Not Impossible Foundation, a nonprofit that develops creative solutions to real-world problems.
Why you should listen
Raised in a family of entrepreneurs and philanthropists, Mick Ebeling is founder of the Not Impossible Foundation, an organization comprised of thinkers, dreamers, and doers, with a mission to take ideas that once seemed impossible to possible, when the right people are connected and empowered.
After befriending ALS patient and renowned street artist Tempt, he and a team of programmers, hackers, artists and inventors developed the EyeWriter -- a low-cost eye-tracking device that allows artists with the nerve disease ALS to draw using only their eyes. Through his latest initiative, Project Daniel, he helped create a 3D-printed prosthetic lab in Sudan. His new book is Not Impossible: The Art and Joy of Doing What Couldn't Be Done.
He is also the founder of The Ebeling Group, an international production company and creative think tank, representing some of the world's leading design and directing collectives.
He says: "If not now, then when? If not me, then who?"
Mick Ebeling | Speaker | TED.com