TEDGlobal 2011
Malcolm Gladwell: The strange tale of the Norden bombsight
มัลคอล์ม แกลดเวลล์ (Malcolm Gladwell): เรื่องประหลาดของเครื่องเล็งเป้าระเบิดนอร์เด็น
Filmed:
Readability: 4.3
2,152,234 views
ปรมาจารย์นักเล่าเรื่อง มัลคอล์ม แกลดเวลล์ จะมาเล่าเรื่องราวของเครื่องเล็งเป้าระเบิดนอร์เด็น เทคโนโลยีชิ้นสำคัญที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนในสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งก่อให้เกิดผลอันไม่คาดฝันอย่างใหญ่หลวง
Malcolm Gladwell - Writer
Detective of fads and emerging subcultures, chronicler of jobs-you-never-knew-existed, Malcolm Gladwell's work is toppling the popular understanding of bias, crime, food, marketing, race, consumers and intelligence. Full bio
Detective of fads and emerging subcultures, chronicler of jobs-you-never-knew-existed, Malcolm Gladwell's work is toppling the popular understanding of bias, crime, food, marketing, race, consumers and intelligence. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:15
Thank you.
0
0
2000
ขอบคุณครับ
00:17
It's a real pleasure to be here.
1
2000
2000
มันช่างเป็นความรู้สึกที่ดี ที่ได้ยืนอยู่ตรงนี้
00:19
I last did a TEDTalk
2
4000
2000
ผมได้พูดที่ TEDTalk ครั้งล่าสุด
00:21
I think about seven years ago or so.
3
6000
4000
คิดว่าซักราวๆเจ็ดปีที่แล้วหรือไงนี่แหละ
00:25
I talked about spaghetti sauce.
4
10000
3000
ผมพูดเกี่ยวกับเรื่องซอสสปาเก็ตตี้
00:28
And so many people, I guess, watch those videos.
5
13000
3000
และมีคนจำนวนมาก, เดาเอานะ, ได้ดูวิดีโอตอนนั้น
00:31
People have been coming up to me ever since
6
16000
2000
มีคนมากมายเข้ามาหาผมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
00:33
to ask me questions about spaghetti sauce,
7
18000
2000
เพื่อที่จะถามคำถามเกี่ยวกับซอสที่ว่านั่น
00:35
which is a wonderful thing in the short term --
8
20000
3000
ซี่งก็เป็นเรื่องที่เจ๋งมาก ในระยะเวลาสั้นๆ
00:38
(Laughter)
9
23000
2000
(เสียงหัวเราะ)
00:40
but it's proven to be less than ideal
10
25000
2000
แต่ก็กลายเป็นว่ามันไม่ได้ดีเลิศ
00:42
over seven years.
11
27000
2000
ในช่วงเจ็ดปีที่ผ่านมา
00:44
And so I though I would come
12
29000
2000
ดังนั้นผมก็เลยคิดว่าผมควรจะมา
00:46
and try and put spaghetti sauce behind me.
13
31000
3000
แล้วลองทำให้คนลืมเรื่องสปาเก็ตตี้ซอสนั่นซะ
00:49
(Laughter)
14
34000
2000
(เสียงหัวเราะ)
00:51
The theme of this morning's session is Things We Make.
15
36000
3000
ประเด็นหลักของเช้านี้คือสิ่งที่เราประดิษฐ์ขึ้น
00:54
And so I thought I would tell a story
16
39000
2000
ดังนั้นผมเลยคิดว่าจะเล่าเรื่อง
00:56
about someone
17
41000
2000
เกี่ยวกับคนคนหนึ่ง
00:58
who made one of the most precious objects
18
43000
2000
ที่ประดิษฐ์วัตถุที่มีค่าที่สุดชิ้นหนึ่ง
01:00
of his era.
19
45000
2000
ในยุคของเขา
01:02
And the man's name is Carl Norden.
20
47000
3000
และชื่อของเขาก็คือ คาร์ล นอร์เด็น
01:05
Carl Norden was born in 1880.
21
50000
2000
คาร์ล นอร์เด็นเกิดในปี พศ.2423
01:07
And he was Swiss.
22
52000
2000
เป็นคนสวิส
01:09
And of course, the Swiss can be divided
23
54000
2000
และแน่นอน คนสวิสสามารถแบ่งออกได้
01:11
into two general categories:
24
56000
2000
เป็นสองประเภทใหญ่ๆ
01:13
those who make small, exquisite,
25
58000
2000
คือคนที่สร้างวัตถุชิ้นเล็กๆที่สวยงาม
01:15
expensive objects
26
60000
2000
และมีราคาแพง
01:17
and those who handle the money
27
62000
2000
กับคนที่ถือเงินไว้
01:19
of those who buy small, exquisite,
28
64000
3000
ให้กับคนที่ซื้อวัตถุเล็กๆที่สวยงาม
01:22
expensive objects.
29
67000
2000
และมีราคาแพง
01:24
And Carl Norden is very firmly in the former camp.
30
69000
3000
และคาร์ล นอร์เด็นเป็นคนในพวกกลุ่มแรก
01:27
He's an engineer.
31
72000
2000
เขาเป็นวิศวกร
01:29
He goes to the Federal Polytech in Zurich.
32
74000
3000
เขาเข้าโรงเรียนช่างกลของรัฐในซูริค
01:32
In fact, one of his classmates is a young man named Lenin
33
77000
3000
ความจริงแล้ว เขามีเพื่อนร่วมชั้นเป็นคนหนุ่มคนหนึ่งที่ชื่อ เลนิน
01:35
who would go on
34
80000
2000
ผู้ซึ่งต่อไปจะ
01:37
to break small, expensive, exquisite objects.
35
82000
4000
เป็นผู้ทำลายวัตถุชิ้นเล็กๆที่สวยงามและมีราคาแพง
01:41
And he's a Swiss engineer, Carl.
36
86000
3000
คาร์ลเป็นวิศวกรชาวสวิส
01:44
And I mean that in its fullest sense of the word.
37
89000
3000
และผมหมายความตามที่ว่านี้จริงๆ
01:47
He wears three-piece suits;
38
92000
2000
เขาสวมสูทสามชิ้น
01:49
and he has a very, very small, important mustache;
39
94000
5000
และเขามีหนวดเล็กๆที่เด่นมาก
01:54
and he is domineering
40
99000
2000
และเขาเป็นผู้ครอบงำผู้อื่น
01:56
and narcissistic
41
101000
2000
และหลงตัวเอง
01:58
and driven
42
103000
2000
และถูกขับดัน
02:00
and has an extraordinary ego;
43
105000
2000
และมีอีโก้ที่แรงกล้า
02:02
and he works 16-hour days;
44
107000
3000
เขาทำงานวันละ 16 ชั่วโมง
02:05
and he has very strong feelings about alternating current;
45
110000
3000
และเขามีความรู้สึกแรงกล้าต่อกระแสที่แตกต่าง
02:08
and he feels like a suntan is a sign of moral weakness;
46
113000
4000
เขารู้สึกประหนึ่งว่าผิวหนังเกรียมแดด เป็นเครื่องหมายของความอ่อนแอด้านศีลธรรม
02:12
and he drinks lots of coffee;
47
117000
2000
เขาดื่มกาแฟจัด
02:14
and he does his best work
48
119000
2000
และทำดีที่สุด
02:16
sitting in his mother's kitchen in Zurich for hours
49
121000
2000
ในการนั่งเป็นชั่วโมงๆในครัวของแม่ที่ซูริค
02:18
in complete silence
50
123000
2000
ท่ามกลางความเงียบ
02:20
with nothing but a slide rule.
51
125000
2000
กับไม้บรรทัดคำนวณ (สไลด์รูล) แค่อันเดียว
02:22
In any case,
52
127000
2000
จะอย่างไรก็ตาม
02:24
Carl Norden emigrates to the United States
53
129000
3000
คาร์ล นอร์เด็น อพยพมายังสหรัฐอเมริกา
02:27
just before the First World War
54
132000
2000
ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 เพียงไม่นาน
02:29
and sets up shop on Lafayette Street
55
134000
2000
และเปิดร้านที่ถนนลาฟาแยต
02:31
in downtown Manhattan.
56
136000
2000
ในตัวเมืองแมนฮัตตัน
02:33
And he becomes obsessed with the question
57
138000
2000
และเขาก็เริ่มหมกมุ่นกับคำถาม
02:35
of how to drop bombs from an airplane.
58
140000
3000
เกี่ยวกับวิธีการทิ้งระเบิดจากเครื่องบิน
02:38
Now if you think about it,
59
143000
2000
และถ้าคุณคิดซักหน่อย
02:40
in the age before GPS and radar,
60
145000
3000
ในยุคก่อนที่จะมี GPS และ เรดาร์
02:43
that was obviously a really difficult problem.
61
148000
2000
มันเป็นปัญหาที่ยากมากๆจริงๆ
02:45
It's a complicated physics problem.
62
150000
2000
มันเป็นปัญหาทางฟิสิกส์ที่ซับซ้อน
02:47
You've got a plane that's thousands of feet up in the air,
63
152000
3000
คุณมีเครื่องบินที่อยู่สูงขึ้นไปในอากาศเป็นพันฟุต
02:50
going at hundreds of miles an hour,
64
155000
2000
เดินทางไปด้วยความเร็วนับร้อยไมล์ต่อชั่วโมง
02:52
and you're trying to drop an object, a bomb,
65
157000
3000
และคุณพยายามที่จะทิ้งวัตถุชิ้นหนึ่ง ในที่นี้คือลูกระเบิด
02:55
towards some stationary target
66
160000
2000
ไปยังสถานีเป้าหมายบางแห่ง
02:57
in the face of all kinds of winds and cloud cover
67
162000
3000
ท่างกลางลมและเมฆทุกชนิดที่ขวางอยู่
03:00
and all kinds of other impediments.
68
165000
2000
และสิ่งกีดขวางอื่นๆด้วย
03:02
And all sorts of people,
69
167000
2000
และคนหลากหลาย
03:04
moving up to the First World War and between the wars,
70
169000
2000
เข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 1 และในระหว่างช่วงสงคราม
03:06
tried to solve this problem,
71
171000
2000
ได้พยายามจะแก้ปัญหานี้
03:08
and nearly everybody came up short.
72
173000
2000
แต่แทบไม่มีใครที่ทำได้ใกล้เคียงกับที่หวังไว้
03:10
The bombsights that were available
73
175000
2000
เครื่องเล็งเป้าระเบิดที่มีอยู่
03:12
were incredibly crude.
74
177000
2000
ล้าหลังอย่างไม่น่าเชื่อ
03:14
But Carl Norden is really the one who cracks the code.
75
179000
3000
แต่คาร์ล นอร์เด็น เป็นคนที่แก้ปัญหานี้ได้
03:17
And he comes up with this incredibly complicated device.
76
182000
3000
และเขามาพร้อมกับเครื่องมืออันซับซ้อนเหลือประมาณ
03:20
It weighs about 50 lbs.
77
185000
2000
มันหนักราวๆ 23 กิโลกรัม
03:22
It's called the Norden Mark 15 bombsight.
78
187000
4000
มันมีชื่อว่า เครื่องเล็งเป้าระเบิดรุ่น นอร์เด็น มาร์ค 15
03:26
And it has all kinds of levers and ball-bearings
79
191000
2000
และมันมีคานงัดทุกประเภท และลูกปืน
03:28
and gadgets and gauges.
80
193000
3000
และกลไกจุกจิก และหน้าปัด
03:31
And he makes this complicated thing.
81
196000
3000
และเขาสร้างสิ่งที่ซับซ้อนนี้ขึ้นมา
03:34
And what he allows people to do
82
199000
2000
และสิ่งที่เขากำหนดให้ผู้ใช้ต้องทำ
03:36
is he makes the bombardier take this particular object,
83
201000
4000
ก็คือเขาทำให้มือระเบิดนำเจ้าเครื่องนี้ไป
03:40
visually sight the target,
84
205000
2000
กำหนดเป้าด้วยสายตา
03:42
because they're in the Plexiglas cone of the bomber,
85
207000
4000
เพราะพวกเขาอยู่ในโคนกระจกนิรภัยสำหรับมือระเบิด
03:46
and then they plug in the altitude of the plane,
86
211000
3000
จากนั้นเขาจะใส่ระดับความสูงของเครื่องบิน
03:49
the speed of the plane, the speed of the wind
87
214000
3000
ความเร็วของเครื่อง ความเร็วลม
03:52
and the coordinates
88
217000
2000
และพิกัด
03:54
of the target.
89
219000
2000
ของเป้าหมาย
03:56
And the bombsight will tell him when to drop the bomb.
90
221000
4000
จากนั้นเครื่องเล็งเป้าระเบิดจะบอกเขาว่า เมื่อใดที่ต้องทิ้งระเบิด
04:00
And as Norden famously says,
91
225000
3000
และดังคำกล่าวที่มีชื่อเสียงของนอร์เด็นว่า
04:03
"Before that bombsight came along,
92
228000
2000
"ก่อนจะมีเครื่องเล็งเป้าระเบิดนั่น
04:05
bombs would routinely miss their target
93
230000
2000
ระเบิดมักจะพลาดเป้าหมาย
04:07
by a mile or more."
94
232000
2000
อย่างน้อยก็เป็นกิโลๆ"
04:09
But he said, with the Mark 15 Norden bombsight,
95
234000
3000
แต่เขาคุยว่า ด้วยเครื่องเล็งเป้าระเบิด นอร์เด็น มาร์ค 15 นี่
04:12
he could drop a bomb into a pickle barrel
96
237000
2000
เขาสามารถทิ้งระเบิดลงถังดองผักได้
04:14
at 20,000 ft.
97
239000
2000
ในระยะความสูง 20,000 ฟุต
04:16
Now I cannot tell you
98
241000
2000
ตอนนี้ผมไม่สามารถบอกคุณได้ว่า
04:18
how incredibly excited
99
243000
2000
กองทัพสหรัฐนั้น
04:20
the U.S. military was
100
245000
2000
รู้สึกตื่นเต้นมากแค่ไหน
04:22
by the news of the Norden bombsight.
101
247000
3000
จากข่าวเครื่องเล็งเป้าระเบิดนี้
04:25
It was like manna from heaven.
102
250000
2000
มันคล้ายดั่งอาหารทิพย์จากสรวงสวรรค์
04:27
Here was an army
103
252000
2000
นี่คือกองทัพ
04:29
that had just had experience in the First World War,
104
254000
2000
ซึ่งเพิ่งจะผ่านประสบการณ์ในสงครามโลกครั้งที่ 1
04:31
where millions of men
105
256000
2000
ซึ่งมีคนเป็นล้าน
04:33
fought each other in the trenches,
106
258000
2000
ต่อสู้กันในคูขุด
04:35
getting nowhere, making no progress,
107
260000
2000
ไปไหนไม่ได้ ไม่มีความคืบหน้า
04:37
and here someone had come up with a device
108
262000
4000
แล้วมีคนโผล่มาพร้อมกับเครื่องมือ
04:41
that allowed them to fly up in the skies
109
266000
2000
ที่สามารถทำให้พวกเขาบินขึ้นไปบนฟ้า
04:43
high above enemy territory
110
268000
2000
สูงเหนือดินแดนของศัตรู
04:45
and destroy whatever they wanted
111
270000
2000
แล้วทำลายสิ่งใดก็ได้ที่เขาต้องการ
04:47
with pinpoint accuracy.
112
272000
2000
ด้วยความแม่นยำระดับปลายเข็ม
04:49
And the U.S. military
113
274000
2000
และกองทัพสหรัฐฯ
04:51
spends 1.5 billion dollars --
114
276000
2000
ใช้เงินไป 1.5 พันล้านเหรียญ
04:53
billion dollars in 1940 dollars --
115
278000
3000
พันล้านเหรียญในปีพ.ศ. 2483 นะครับ
04:56
developing the Norden bombsight.
116
281000
2000
เพื่อพัฒนาเครื่องเล็งเป้าระเบิดนอร์เด็น
04:58
And to put that in perspective,
117
283000
3000
แล้วติดตั้งใช้งาน
05:01
the total cost of the Manhattan project
118
286000
2000
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดสำหรับโครงการแมนฮัตตัน
05:03
was three billion dollars.
119
288000
2000
อยู่ที่ประมาณสามล้านเหรียญ
05:05
Half as much money was spent on this Norden bombsight
120
290000
3000
เงินมากถึงครึ่งหนึ่ง ของเงินที่ใช้ในโครงการทางอุตสาหกรรมทหาร
05:08
as was spent on the most famous military-industrial project
121
293000
4000
ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในยุคปัจจุบัน
05:12
of the modern era.
122
297000
2000
ถูกใช้ในเครื่องเล็งเป้าระเบิดนอร์เด็นนี่
05:14
And there were people, strategists, within the U.S. military
123
299000
3000
และมีผู้คน พวกนักวางแผน ในกองทัพสหรัฐฯ
05:17
who genuinely thought that this single device
124
302000
2000
ผู้ซึ่งคิดเอาจริงๆจังๆว่า เจ้าเครื่องมือเครื่องเดียวนี้
05:19
was going to spell the difference
125
304000
2000
จะสะกดความแตกต่างของคำว่า
05:21
between defeat and victory
126
306000
2000
ชัยชนะ และความพ่ายแพ้ได้
05:23
when it came to the battle against the Nazis
127
308000
2000
เมื่อเวลาที่ต้องรบกับพวกนาซีมาถึง
05:25
and against the Japanese.
128
310000
2000
และเมื่อต้องรบกับพวกญี่ปุ่น
05:27
And for Norden as well,
129
312000
2000
สำหรับนอร์เด็นแล้ว
05:29
this device had incredible moral importance,
130
314000
3000
เครื่องมีอนี้มีผลกระทบทางศีลธรรมอย่างยิ่งยวด
05:32
because Norden was a committed Christian.
131
317000
2000
เพราะนอร์เด็นเป็นคริสเตียนที่เคร่งครัด
05:34
In fact, he would always get upset
132
319000
2000
ความจริงแล้ว เขาจะหัวเสียเสมอ
05:36
when people referred to the bombsight as his invention,
133
321000
3000
เมื่อผู้คนพูดถึงเครื่องเล็งเป้าระเบิดว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์ของเขา
05:39
because in his eyes,
134
324000
2000
เพราะในสายตาของเขา
05:41
only God could invent things.
135
326000
2000
พระเจ้าเท่านั้นที่สร้างทุกสิ่ง
05:43
He was simple the instrument of God's will.
136
328000
2000
และเขาเป็นเพียงเครื่องมือตามความต้องการของพระเจ้าเท่านั้น
05:45
And what was God's will?
137
330000
2000
แล้วอะไรคือความต้องการของพระเจ้าล่ะ?
05:47
Well God's will was that the amount of suffering in any kind of war
138
332000
3000
อืม ความต้องการนั้นคือปริมาณความทรมานในสงครามใดๆ
05:50
be reduced to as small an amount as possible.
139
335000
3000
ควรจะลดลงเหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
05:53
And what did the Norden bombsight do?
140
338000
2000
แล้วเครื่องเล็งเป้าระเบิดนอร์เด็นทำอะไรล่ะ?
05:55
Well it allowed you to do that.
141
340000
2000
อืม มันทำให้คุณทำยังงั้นได้ยังไงล่ะ
05:57
It allowed you to bomb only those things
142
342000
2000
มันทำให้คุณทิ้งระเบิดใส่แค่บางสิ่ง
05:59
that you absolutely needed and wanted to bomb.
143
344000
4000
ที่คุณต้องการจะระเบิดมันเท่านั้นจริงๆ
06:03
So in the years leading up to the Second World War,
144
348000
3000
ดังนั้นในช่วงปีก่อนหน้าสงครามโลกครั้งที่ 2
06:06
the U.S. military buys 90,000
145
351000
3000
กองทัพสหรัฐฯ ซึ้อเครื่องเล็งเป้าระเบิดนอร์เด็นนี้
06:09
of these Norden bombsights
146
354000
2000
ถึง 90,000 เครื่องด้วยกัน
06:11
at a cost of $14,000 each --
147
356000
2000
ที่ราคาเครื่องละ 14,000 เหรียญ
06:13
again, in 1940 dollars, that's a lot of money.
148
358000
3000
อีกทีนะ เป็นเหรียญในพ.ศ.2483 ซึ่งเป็นเงินมหาศาล
06:16
And they trained 50,000 bombardiers on how to use them --
149
361000
3000
และพวกเขาฝึกมือทิ้งระเบิด 50,000 คนให้ใช้มัน
06:19
long extensive, months-long training sessions --
150
364000
4000
การฝึกที่ยาวนานหลายเดือน
06:23
because these things are essentially analog computers;
151
368000
2000
เพราะเจ้าสิ่งนี้คือคอมพิวเตอร์ที่คำนวณและแสดงผลทางหน้าปัด
06:25
they're not easy to use.
152
370000
2000
มันใช้งานไม่ง่าย
06:27
And they make everyone of those bombardiers take an oath,
153
372000
3000
และพวกเขาบังคับให้มือทิ้งระเบิดทุกคนสาบาน
06:30
to swear that if they're ever captured,
154
375000
3000
ว่าถ้าพวกเขาถูกจับ
06:33
they will not divulge a single detail
155
378000
2000
พวกเขาจะไม่เปิดเผยความลับแม้จะเล็กน้อย
06:35
of this particular device to the enemy,
156
380000
2000
เกี่ยวกับเครื่องมือชิ้นนี้แก่ศัตรู
06:37
because it's imperative the enemy not get their hands
157
382000
3000
เพราะมันจำเป็นที่จะต้องไม่ให้ศัตรูยื่นมือเข้ามา
06:40
on this absolutely essential piece of technology.
158
385000
2000
แตะต้องเทคโนโลยีชิ้นสำคัญยิ่งยวดชิ้นนี้
06:42
And whenever the Norden bombsight is taken onto a plane,
159
387000
3000
และเมื่อใดก็ตามที่เครื่องเล็งเป้าระเบิดนอร์เด็นถูกนำไปกับเครื่องบิน
06:45
it's escorted there by a series of armed guards.
160
390000
3000
มันถูกคุ้มครองไปยังที่นั่นโดยกองทหารติดอาวุธ
06:48
And it's carried in a box with a canvas shroud over it.
161
393000
3000
และมันถูกนำไปในกล่องที่มีผ้าใบคลุมอยู่
06:51
And the box is handcuffed to one of the guards.
162
396000
3000
และกล่องจะถูกคล้องกุญแจมือไว้กับผู้คุมคนหนึ่ง
06:54
It's never allowed to be photographed.
163
399000
2000
มันไม่เคยถูกอนุญาตให้ถ่ายภาพ
06:56
And there's a little incendiary device inside of it,
164
401000
3000
และมีระเบิดเล็กๆอยู่ภายใน
06:59
so that, if the plane ever crashes, it will be destroyed
165
404000
3000
ดังนั้น ถ้าเครื่องบินตก มันจะถูกทำลาย
07:02
and there's no way the enemy can ever get their hands on it.
166
407000
3000
และไม่มีทางที่ศัตรูจะเอื้อมมือมาถึงมันได้
07:05
The Norden bombsight
167
410000
2000
เครื่องเล็งเป้าระเบิดนอร์เด็น
07:07
is the Holy Grail.
168
412000
3000
คือจอกศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้า
07:10
So what happens during the Second World War?
169
415000
3000
งั้นเกิดอะไรขึ้นระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ล่ะ?
07:13
Well, it turns out it's not the Holy Grail.
170
418000
3000
เอ่อ กลายเป็นว่ามันไม่ใช่จอกศักดิ์สิทธิ์อย่างที่คิดไว้แฮะ
07:16
In practice, the Norden bombsight
171
421000
2000
ในทางปฏิบัติ เครื่องเล็งเป้าระเบิดนอร์เด็น
07:18
can drop a bomb into a pickle barrel at 20,000 ft.,
172
423000
3000
สามารถปล่อยระเบิดลงในถังได้จากระยะ 20,000 ฟุต
07:21
but that's under perfect conditions.
173
426000
2000
แต่เฉพาะในสภาวะที่สมบูรณ์แบบเท่านั้น
07:23
And of course, in wartime,
174
428000
2000
และแน่นอนว่า ในเวลาที่รบกัน
07:25
conditions aren't perfect.
175
430000
2000
สภาวะต่างๆไม่มีวันสมบูรณ์แบบ
07:27
First of all, it's really hard to use -- really hard to use.
176
432000
3000
อย่างแรกเลยคือ มันใช้งานยาก ใช้ยากจริงๆ
07:30
And not all of the people
177
435000
2000
และไม่ใช่ทุกคน
07:32
who are of those 50,000 men who are bombardiers
178
437000
2000
ในกลุ่มมือทิ้งระเบิดห้าหมื่นคนที่ว่า
07:34
have the ability to properly program an analog computer.
179
439000
4000
จะมีความสามารถที่จะทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้อย่างเหมาะสม
07:38
Secondly, it breaks down a lot.
180
443000
2000
อย่างที่สอง มันพังบ่อยมาก
07:40
It's full of all kinds of gyroscopes and pulleys
181
445000
2000
มันเต็มไปด้วยเครื่องวัดการหมุนทุกชนิด และรอก
07:42
and gadgets and ball-bearings,
182
447000
2000
และกลไกยิบย่อย และลูกปืน
07:44
and they don't work as well as they ought to
183
449000
2000
และมันไม่ทำงานอย่างที่มันควรจะทำ
07:46
in the heat of battle.
184
451000
2000
ในระหว่างที่การต่อสู้ดำเนินไปอย่างร้อนแรง
07:48
Thirdly, when Norden was making his calculations,
185
453000
3000
อย่างที่สาม เมื่อนอร์เด็นสร้างสูตรคำนวณของเขา
07:51
he assumed that a plane would be flying
186
456000
2000
เขาคะเนว่าเครื่องบินจะบิน
07:53
at a relatively slow speed at low altitudes.
187
458000
3000
ที่ความเร็วต่ำ และในระดับความสูงไม่มากนัก
07:56
Well in a real war, you can't do that;
188
461000
2000
ในสงครามจริงๆ คุณทำอย่างนั้นไม่ได้
07:58
you'll get shot down.
189
463000
2000
คุณจะถูกยิงร่วง
08:00
So they started flying them at high altitudes at incredibly high speeds.
190
465000
3000
ดังนั้นพวกเขาจึงบินที่ระดับสูงขึ้นไป ด้วยความเร็วสูงจนไม่น่าเชื่อ
08:03
And the Norden bombsight doesn't work as well
191
468000
2000
และเครื่องเล็งเป้าระเบิดนอร์เด็นก็ทำงานไม่ได้ดีนัก
08:05
under those conditions.
192
470000
2000
ในสภาวะแบบนั้น
08:07
But most of all,
193
472000
2000
และท้ายที่สุด
08:09
the Norden bombsight required the bombardier
194
474000
2000
เครื่องเล็งเป้าระเบิดนอร์เด็นต้องมีมือทิ้งระเบิด
08:11
to make visual contact with the target.
195
476000
3000
เพื่อที่จะมองหาเป้าด้วยตา
08:14
But of course, what happens in real life?
196
479000
2000
แต่แน่ล่ะ สิ่งทีเกิดขึ้นในชีวิตจริงคืออะไร?
08:16
There are clouds, right.
197
481000
3000
มีเมฆมาบัง ใช่
08:19
It needs cloudless sky to be really accurate.
198
484000
3000
มันต้องการท้องฟ้าที่ไร้เมฆเพื่อให้แม่นยำ
08:22
Well how many cloudless skies
199
487000
2000
เอ่อ มีฟ้าไร้เมฆกี่แห่ง
08:24
do you think there were above Central Europe
200
489000
2000
ที่คุณคิดว่าจะมีเหนือน่านฟ้ายุโรป
08:26
between 1940 and 1945?
201
491000
3000
ในช่วงปีพ.ศ.2483 ถึง 2488?
08:29
Not a lot.
202
494000
2000
ไม่ค่อยจะมีนะ
08:31
And then to give you a sense
203
496000
2000
และเพื่อให้คุณได้รู้สึกถึง
08:33
of just how inaccurate the Norden bombsight was,
204
498000
2000
ความไม่แม่นยำของเครื่องเล็งเป้าระเบิดนอร์เด็นนี้
08:35
there was a famous case in 1944
205
500000
2000
มีเหตุการณ์อันโด่งดังในปีพ.ศ.2487
08:37
where the Allies bombed a chemical plant in Leuna, Germany.
206
502000
4000
เมื่อฝ่ายสัมพันธมิตรทิ้งระเบิดโรงงานเคมีในเมืองลูนา ที่เยอรมัน
08:41
And the chemical plant comprised
207
506000
2000
และโรงงานเคมีมีเนื้อที่ถึง
08:43
757 acres.
208
508000
2000
ราว 1900 ไร่
08:45
And over the course of 22 bombing missions,
209
510000
3000
และด้วยการปฏิบัติการทิ้งระเบิดมากกว่า 22 ครั้ง
08:48
the Allies dropped 85,000 bombs
210
513000
5000
ฝ่ายสัมพันธมิตรทิ้งระเบิด 85,000 ลูก
08:53
on this 757 acre chemical plant,
211
518000
4000
ลงบนโรงงานเคมีขนาด 1900 ไร่ที่ว่านี่
08:57
using the Norden bombsight.
212
522000
3000
ด้วยการใช้เครื่องเล็งเป้าระเบิดนอร์เด็น
09:00
Well what percentage of those bombs
213
525000
2000
คุณคิดว่ากี่เปอร์เซ็นต์ของระเบิดเหล่านั้น
09:02
do you think actually landed
214
527000
2000
ที่ทิ้งได้ลงตรงเป้าหมาย
09:04
inside the 700-acre perimeter of the plant?
215
529000
3000
ภายในพื้นที่ 1900 ไร่ของโรงงานครับ?
09:07
10 percent. 10 percent.
216
532000
3000
10 เปอร์เซ็นต์ 10 เปอร์เซ็นต์
09:10
And of those 10 percent that landed,
217
535000
2000
และใน 10 เปอร์เซ็นต์ที่ลงนั้น
09:12
16 percent didn't even go off; they were duds.
218
537000
3000
มี 16 เปอร์เซ็นต์ที่ไม่ได้ระเบิด พวกมันด้าน
09:15
The Leuna chemical plant,
219
540000
2000
โรงงานเคมีที่ลูนา
09:17
after one of the most extensive bombings in the history of the war,
220
542000
3000
ภายหลังจากการทิ้งระเบิดที่หนาแน่นที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาตร์ของสงคราม
09:20
was up and running within weeks.
221
545000
3000
กลับคืนมาทำงานได้ภายในไม่กี่สัปดาห์
09:23
And by the way, all those precautions
222
548000
2000
และยังไงก็ตาม การปริวิตกทั้งมวล
09:25
to keep the Norden bombsight out of the hands of the Nazis?
223
550000
3000
ที่จะปกป้องเครื่องเล็งเป้าระเบิดนอร์เด็นไว้จากมือของนาซีน่ะหรอ?
09:28
Well it turns out
224
553000
2000
อืม เรื่องกลายเป็นว่า
09:30
that Carl Norden, as a proper Swiss,
225
555000
2000
คาร์ล นอร์เด็น ผู้เป็นชาวสวิส
09:32
was very enamored of German engineers.
226
557000
3000
เป็นผู้ลุ่มหลงในวิศวกรชาวเยอรมัน
09:35
So in the 1930s, he hired a whole bunch of them,
227
560000
2000
ดังนั้นในปีพ.ศ.2473 เขาว่าจ้างพวกนั้นจำนวนมาก
09:37
including a man named Hermann Long
228
562000
2000
รวมถึงชายที่มีนามว่า เฮอมันน์ ลอง
09:39
who, in 1938,
229
564000
2000
ผู้ซึ่งในปีพ.ศ.2481
09:41
gave a complete set of the plans for the Norden bombsight to the Nazis.
230
566000
3000
ได้มอบแผนผังชุดสมบูรณ์ของเครื่องเล็งเป้าระเบิดนอร์เด็นให้กับนาซี
09:44
So they had their own Norden bombsight throughout the entire war --
231
569000
3000
ดังนั้นพวกเขาก็มีเครื่องเล็งเป้าระเบิดนอร์เด็นของเขาเองตลอดช่วงสงคราม
09:47
which also, by the way, didn't work very well.
232
572000
3000
ซึ่งก็ เอ่อ.. ไม่ค่อยจะเวิร์คเช่นกัน
09:50
(Laughter)
233
575000
2000
(เสียงหัวเราะ)
09:52
So why do we talk about the Norden bombsight?
234
577000
3000
งั้นทำไมเราต้องมาพูดถึงเจ้าเครื่องเล็งเป้าระเบิดนอร์เด็นนี้ด้วยล่ะ?
09:55
Well because we live in an age
235
580000
2000
ก็เพราะว่า เรากำลังอยู่ในยุค
09:57
where there are lots and lots
236
582000
2000
ที่มีเจ้าเครื่องเล็งเป้าระเบิดนอร์เด็นนี่
09:59
of Norden bombsights.
237
584000
2000
เป็นจำนวนมากๆๆเลยน่ะสิ
10:01
We live in a time where there are all kinds
238
586000
2000
เราอาศัยอยู่ในช่วงเวลาที่มี
10:03
of really, really smart people
239
588000
2000
คนฉลาดๆ แทบทุกสาขาประเภท
10:05
running around, saying that they've invented gadgets
240
590000
2000
วิ่่งวุ่นไปมา คอยบอกเราว่าพวกเขาคิดค้นสิ่งต่างๆ
10:07
that will forever change our world.
241
592000
2000
ที่จะเปลี่ยนโลกของเราไปตลอดกาล
10:09
They've invented websites that will allow people to be free.
242
594000
3000
พวกเขาประดิษฐ์เว็บไซต์ที่ช่วยให้ผู้คนเป็นอิสระ
10:12
They've invented some kind of this thing, or this thing, or this thing
243
597000
4000
พวกเขาประดิษฐ์ของอย่างนั้น อย่างนี้ หรืออย่างโน้น
10:16
that will make our world forever better.
244
601000
3000
ที่จะทำให้โลกของเราดีขึ้นไปตลอด
10:19
If you go into the military,
245
604000
2000
ถ้าคุณเข้าไปในกองทหาร
10:21
you'll find lots of Carl Nordens as well.
246
606000
2000
คุณก็จะพบกับคาร์ล นอร์เด็นจำนวนมากเช่นกัน
10:23
If you go to the Pentagon, they will say,
247
608000
2000
ถ้าคุณไปที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ พวกเขาจะบอกว่า
10:25
"You know what, now we really can
248
610000
2000
"คุณรู้มั้ย ตอนนี้เราสามารถที่จะ
10:27
put a bomb inside a pickle barrel
249
612000
2000
ทิ้งระเบิดลงไปในถังผักดอง
10:29
at 20,000 ft."
250
614000
2000
ได้จากความสูง 20,000 ฟุตแล้วนะ"
10:31
And you know what, it's true; they actually can do that now.
251
616000
3000
และคุณรู้มั้ย มันเป็นเรื่องจริง ตอนนี้พวกเขาทำมันได้แล้ว
10:34
But we need to be very clear
252
619000
2000
แต่เราต้องทำให้กระจ่างมากขึ้นว่า
10:36
about how little that means.
253
621000
3000
มันมีความหมายน้อยเพียงใด
10:39
In the Iraq War, at the beginning of the first Iraq War,
254
624000
3000
ในสงครามอิรัก ในช่วงต้นของสงครามอิรัก
10:42
the U.S. military, the air force,
255
627000
2000
กองทัพสหรัฐฯ กองทัพอากาศ
10:44
sent two squadrons of F-15E Fighter Eagles
256
629000
3000
ส่งฝูงบินรบ F-15E สองฝูง
10:47
to the Iraqi desert
257
632000
2000
ไปยังทะเลทรายอิรัก
10:49
equipped with these five million dollar cameras
258
634000
2000
ติดตั้งกล้องราคาห้าล้านเหรียญ
10:51
that allowed them to see the entire desert floor.
259
636000
3000
ซึ่งทำให้พวกเขาเห็นพื้นทะเลทรายทั้งหมด
10:54
And their mission was to find and to destroy --
260
639000
3000
และปฏิบัติการของเขาคือการค้นหาและทำลาย
10:57
remember the Scud missile launchers,
261
642000
2000
จำเครื่องยิงขีปนาวุธสกั๊ดได้มั้ย
10:59
those surface-to-air missiles
262
644000
2000
เครื่องยิงขีปนาวุธจากพื้นดินสู่อากาศนั่นแหละ
11:01
that the Iraqis were launching at the Israelis?
263
646000
2000
ที่ชาวอิรักยิงใส่ชาวอิสราเอล?
11:03
The mission of the two squadrons
264
648000
2000
ปฏิบัติการของสองฝูงบิน
11:05
was to get rid of all the Scud missile launchers.
265
650000
3000
คือการกำจัดเครื่องยิงขีปนาวุธสกั๊ดทั้งหมด
11:08
And so they flew missions day and night,
266
653000
2000
ดังนั้นพวกเขาบินปฏิบัติการทั้งวันทั้งคืน
11:10
and they dropped thousands of bombs,
267
655000
2000
และทิ้งระเบิดเป็นพันๆลูก
11:12
and they fired thousands of missiles
268
657000
3000
และเขายิงขีปนาวุธเป็นพันๆลูก
11:15
in an attempt to get rid of this particular scourge.
269
660000
3000
พยายามที่จะกำจัดอาวุธทำลายล้างนี้
11:18
And after the war was over, there was an audit done --
270
663000
2000
และเมื่อสงครามจบลง มันมีการตรวจสอบ
11:20
as the army always does, the air force always does --
271
665000
2000
ดั่งที่กองทัพทำเป็นประจำ และกองทัพอากาศทำเป็นประจำ
11:22
and they asked the question:
272
667000
2000
พวกเขาตั้งคำถาม
11:24
how many Scuds did we actually destroy?
273
669000
2000
ว่ามีสกั๊ดกี่ลูกที่พวกเขาทำลายได้?
11:26
You know what the answer was?
274
671000
2000
คุณรู้มั้ยว่าคำตอบคืออะไร?
11:28
Zero, not a single one.
275
673000
2000
ศูนย์ ไม่มีแม้แต่ลูกเดียว
11:30
Now why is that?
276
675000
2000
อ้าว ทำไมเป็นอย่างนั้นล่ะ?
11:32
Is it because their weapons weren't accurate?
277
677000
2000
เป็นเพราะว่าอาวุธเหล่านั้นไม่แม่นยำหรือเปล่า?
11:34
Oh no, they were brilliantly accurate.
278
679000
3000
ไม่ใช่เลย มันแม่นยังกับจับวางด้วยซ้ำ
11:37
They could have destroyed this little thing right here
279
682000
2000
มันสามารถจะทำลายเจ้าสิ่งเล็กๆตรงนี้
11:39
from 25,000 ft.
280
684000
2000
ได้จากระยะความสูง 25,000 ฟุต
11:41
The issue was they didn't know where the Scud launchers were.
281
686000
4000
ปัญหาก็คือ พวกเขาไม่รู้ว่าเครื่องยิงขีปนาวุธสกั๊ดอยู่ที่ไหนน่ะสิ
11:45
The problem with bombs and pickle barrels
282
690000
3000
ปัญหาเกี่ยวกับลูกระเบิดและถัง
11:48
is not getting the bomb inside the pickle barrel,
283
693000
2000
ไม่ใช่การนำลูกระเบิดไปลงถัง
11:50
it's knowing how to find the pickle barrel.
284
695000
3000
แต่เป็นว่าจะหาถังพบได้ยังไงต่างหาก
11:53
That's always been the harder problem
285
698000
2000
นั่นเป็นปัญหาที่ยากกว่า
11:55
when it comes to fighting wars.
286
700000
2000
เมื่อถึงเวลาสงครามที่ต้องสู้รบกัน
11:57
Or take the battle in Afghanistan.
287
702000
3000
หรือลองดูการต่อสู้ในอัฟกานิสถานสิ
12:00
What is the signature weapon
288
705000
2000
อะไรคืออาวุธที่เป็นสัญลักษณ์
12:02
of the CIA's war in Northwest Pakistan?
289
707000
2000
ของสงครามของหน่วย CIA ทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน?
12:04
It's the drone. What is the drone?
290
709000
3000
มันคือเครื่องบินไร้คนขับ อะไรคือเครื่องบินไร้คนขับ?
12:07
Well it is the grandson of the Norden Mark 15 bombsight.
291
712000
4000
เอ่อ มันคือเหลนของเครื่องเล็งเป้าระเบิดนอร์เด็นมาร์ค 15 นั่นเอง
12:11
It is this weapon of devastating accuracy and precision.
292
716000
4000
มันคือศาสตราวุธที่แม่นยำในการทำลายล้าง
12:15
And over the course of the last six years
293
720000
2000
และในการฝึกกว่าหกปีที่ผ่านมา
12:17
in Northwest Pakistan,
294
722000
3000
ในทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน
12:20
the CIA has flown hundreds of drone missiles,
295
725000
3000
CIA ยิงขีปนาวุธจากเครื่องบินไร้คนขับเป็นร้อยๆลูก
12:23
and it's used those drones
296
728000
2000
และใช้เครื่องบินไร้คนขับนั้น
12:25
to kill 2,000 suspected
297
730000
2000
ในการสังหารผู้ต้องสงสัย
12:27
Pakistani and Taliban militants.
298
732000
4000
ชาวปากีสถานและกลุ่มกบฎตาลีบันถึง 2,000 คน
12:31
Now what is the accuracy of those drones?
299
736000
3000
ความแม่นยำของเครื่องบินไร้คนขับเหล่านั้นเป็นอย่างไร?
12:34
Well it's extraordinary.
300
739000
2000
อืม มันค่อนข้างน่าตกใจ
12:36
We think we're now at 95 percent accuracy
301
741000
3000
เราคิดว่าเรามาถึงจุดที่มีความแม่นยำถึง 95 เปอร์เซ็นต์
12:39
when it comes to drone strikes.
302
744000
2000
เมื่อใช้ปฏิบัตการเครื่องบินไร้คนขับ
12:41
95 percent of the people we kill need to be killed, right?
303
746000
3000
ผู้คน 95 เปอร์เซ็นต์ของคนที่โดนสังหาร ต้องถูกกำจัด ใช่มั้ย?
12:44
That is one of the most extraordinary records
304
749000
2000
มันเป็นสถิติที่น่าประทับใจมาก
12:46
in the history of modern warfare.
305
751000
2000
ในประวัติศาสาตร์ของการรบยุคใหม่
12:48
But do you know what the crucial thing is?
306
753000
2000
แต่คุณรู้มั้ยว่าอะไรคือสิ่งสำคัญที่สุด?
12:50
In that exact same period
307
755000
2000
ในช่วงระยะเวลาเดียวกันนั้น
12:52
that we've been using these drones
308
757000
2000
ที่เราใช้เครื่องบินไร้คนขับ
12:54
with devastating accuracy,
309
759000
2000
ที่มีความแม่นยำในการทำลายล้าง
12:56
the number of attacks, of suicide attacks and terrorist attacks,
310
761000
3000
จำนวนของการโจมตี ของมือระเบิดพลีชีพ และการโจมตีของผู้ก่อการร้าย
12:59
against American forces in Afghanistan
311
764000
2000
ต่อกองทัพสหรัฐฯในอัฟกานิสถาน
13:01
has increased tenfold.
312
766000
3000
ได้เพิ่มขึ้นถึง 10 เท่า
13:04
As we have gotten more and more efficient
313
769000
2000
เมื่อเราเพิ่มพูนประสิทธิภาพ
13:06
in killing them,
314
771000
2000
ในการสังหารพวกเขา
13:08
they have become angrier and angrier
315
773000
3000
พวกเขาก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเรื่อยๆ
13:11
and more and more motivated to kill us.
316
776000
3000
และถูกกระตุ้นมากยิ่งขึ้นให้สังหารเรา
13:14
I have not described to you a success story.
317
779000
3000
ผมไม่ได้บรรยายให้พวกคุณฟังถึงเรื่องราวแห่งความสำเร็จ
13:17
I've described to you
318
782000
2000
ผมบรรยายให้คุณฟัง
13:19
the opposite of a success story.
319
784000
2000
ถึงเรื่องราวที่ตรงกันข้ามกับความสำเร็จ
13:21
And this is the problem
320
786000
2000
และนี่คือปัญหา
13:23
with our infatuation with the things we make.
321
788000
2000
กับความหลงไหลในสิ่งที่เราประดิษฐ์ขึ้น
13:25
We think the things we make can solve our problems,
322
790000
3000
เราคิดว่าสิ่งที่เราสร้างจะช่วยแก้ปัญหาของเรา
13:28
but our problems are much more complex than that.
323
793000
3000
แต่ปัญหาของเรามีความซับซ้อนยิ่งกว่านั้น
13:31
The issue isn't the accuracy of the bombs you have,
324
796000
3000
ประเด็นไม่ใช่ความแม่นยำของระเบิดที่คุณมี
13:34
it's how you use the bombs you have,
325
799000
2000
แต่เป็นว่าคุณจะใช้ระเบิดที่มีนั้นอย่างไรมากกว่า
13:36
and more importantly,
326
801000
2000
และที่สำคัญไปกว่านั้น
13:38
whether you ought to use bombs at all.
327
803000
3000
ก็คือเมื่อใดที่คุณควรจะใช้ระเบิดเหล่านั้นนั่นเอง
13:42
There's a postscript
328
807000
2000
มีภาคผนวก
13:44
to the Norden story
329
809000
2000
ของเรื่องราวของนอร์เด็น
13:46
of Carl Norden and his fabulous bombsight.
330
811000
3000
เกี่ยวกับคาร์ล นอร์เด็นและเครื่องเล็งเป้าระเบิดอันยอดเยี่ยมของเขา
13:49
And that is, on August 6th, 1945,
331
814000
3000
นั่นคือในวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ.2488
13:52
a B-29 bomber called the Enola Gay
332
817000
3000
เครื่องบินทิ้งระเบิด B-29 ที่มีชื่อว่า อีโนลา เกย์
13:55
flew over Japan
333
820000
2000
บินเหนือน่านฟ้าญี่ปุ่น
13:57
and, using a Norden bombsight,
334
822000
2000
และใช้เครื่องเล็งเป้าระเบิดนอร์เด็น
13:59
dropped a very large thermonuclear device
335
824000
3000
ทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ขนาดใหญ่
14:02
on the city of Hiroshima.
336
827000
3000
ลงบนเมืองฮิโรชิมา
14:05
And as was typical with the Norden bombsight,
337
830000
3000
และดังเช่นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นประจำกับเครื่องเล็งเป้าระเบิดนอร์เด็น
14:08
the bomb actually missed its target by 800 ft.
338
833000
3000
ระเบิดผิดเป้าที่แท้จริงไปราว 800 ฟุต
14:11
But of course, it didn't matter.
339
836000
3000
แต่แน่นอน นั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่
14:14
And that's the greatest irony of all
340
839000
2000
และนั่นคือเรื่องตลกที่ร้ายที่สุด
14:16
when it comes to the Norden bombsight.
341
841000
3000
เมื่อพูดถึงเครื่องเล็งเป้าระเบิดนอร์เด็น
14:19
the air force's 1.5 billion dollar bombsight
342
844000
4000
เครื่องเล็งเป้าระเบิดราคาหนึ่งพันห้าร้อยล้านเหรียญของกองทัพอากาศ
14:23
was used to drop its three billion dollar bomb,
343
848000
4000
ถูกใช้เพื่อทิ้งระเบิดราคาสามพันล้านเหรียญ
14:27
which didn't need a bombsight at all.
344
852000
3000
ซึ่งไม่ต้องการเครื่องเล็งเป้าระเบิดซักนิด
14:30
Meanwhile, back in New York,
345
855000
2000
ในขณะเดียวกัน ในนิวยอร์ค
14:32
no one told Carl Norden
346
857000
2000
ไม่มีใครบอกคาร์ล นอร์เด็น
14:34
that his bombsight was used over Hiroshima.
347
859000
3000
ว่าเครื่องเล็งเป้าระเบิดของเขาถูกใช้ที่ฮิโรชิมา
14:37
He was a committed Christian.
348
862000
2000
เขาเป็นชาวคริสต์ผู้เคร่งครัด
14:39
He thought he had designed something
349
864000
2000
เขาคิดว่าเขาได้ออกแบบบางสิ่ง
14:41
that would reduce the toll of suffering in war.
350
866000
3000
ที่จะช่วยลดความทรมานในสงคราม
14:44
It would have broken his heart.
351
869000
3000
มันคงจะทำให้เขาหัวใจสลาย หากได้รู้ความจริง
14:47
(Applause)
352
872000
7000
(เสียงปรบมือ)
ABOUT THE SPEAKER
Malcolm Gladwell - WriterDetective of fads and emerging subcultures, chronicler of jobs-you-never-knew-existed, Malcolm Gladwell's work is toppling the popular understanding of bias, crime, food, marketing, race, consumers and intelligence.
Why you should listen
Malcolm Gladwell searches for the counterintuitive in what we all take to be the mundane: cookies, sneakers, pasta sauce. A New Yorker staff writer since 1996, he visits obscure laboratories and infomercial set kitchens as often as the hangouts of freelance cool-hunters -- a sort of pop-R&D gumshoe -- and for that has become a star lecturer and bestselling author.
Sparkling with curiosity, undaunted by difficult research (yet an eloquent, accessible writer), his work uncovers truths hidden in strange data. His always-delightful blog tackles topics from serial killers to steroids in sports, while provocative recent work in the New Yorker sheds new light on the Flynn effect -- the decades-spanning rise in I.Q. scores.
Gladwell has written four books. The Tipping Point, which began as a New Yorker piece, applies the principles of epidemiology to crime (and sneaker sales), while Blink examines the unconscious processes that allow the mind to "thin slice" reality -- and make decisions in the blink of an eye. His third book, Outliers, questions the inevitabilities of success and identifies the relation of success to nature versus nurture. The newest work, What the Dog Saw and Other Adventures, is an anthology of his New Yorker contributions.
He says: "There is more going on beneath the surface than we think, and more going on in little, finite moments of time than we would guess."
Malcolm Gladwell | Speaker | TED.com