TEDGlobal 2013
Uri Alon: Why science demands a leap into the unknown
ยูริ เอลอน (Uri Alon): ทำไมวิทยาศาสร์แนวนวัตกรรมจริงๆ จึงต้องกระโจนเข้าสู่ความไม่รู้
Filmed:
Readability: 4.3
1,123,668 views
ระหว่างการศึกษาระดับปริญญาเอกสาขาฟิสิกส์ ยูริ เอลอน คิดว่าเขาเป็นผู้ล้มเหลว เพราะทุกงานวิจัยของเขานำไปสู่ทางตัน แต่ด้วยความช่วยเหลือจากละครเวทีแบบด้นสด เขาก็ได้ตระหนักว่า เรายังหาความสุขใจได้อยู่ แม้ในยามหลงทาง การเรียกร้องต่อนักวิทยาศาสตร์เพื่อให้หยุดคิดถึงการวิจัยว่าเป็นแค่ทางตรง จากคำถามสู่คำตอบ แต่เป็นอะไรที่สร้างสรรค์กว่านั้น มันเป็นข้อความที่เสนาะกังวาน ไม่ว่าคุณจะทำงานอยู่ในสายวิชาใด
Uri Alon - Systems biologist
Uri Alon studies how cells work, using an array of tools (including improv theater) to understand the biological circuits that perform the functions of life. Full bio
Uri Alon studies how cells work, using an array of tools (including improv theater) to understand the biological circuits that perform the functions of life. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:12
In the middle of my Ph.D.,
0
325
2063
ตอนที่ผมเรียนปริญญาเอกนั้น
00:14
I was hopelessly stuck.
1
2388
3462
ผมติดแหงกเลยครับ
00:17
Every research direction that I tried
2
5850
1780
ทุกหนทางการวิจัยที่ผมได้ลอง
00:19
led to a dead end.
3
7630
1616
นำไปสู่ทางตัน
00:21
It seemed like my basic assumptions
4
9246
1902
มันเหมือนกับว่าความเชื่อพื้นฐานของผม
00:23
just stopped working.
5
11148
1928
หยุดทำงาน
00:25
I felt like a pilot flying through the mist,
6
13076
2999
ผมรู้สึกเหมือนนักบินที่บินผ่านหมอก
00:28
and I lost all sense of direction.
7
16075
2795
แล้วหลงทิศทาง
00:30
I stopped shaving.
8
18870
1481
ผมเลิกโกนหนวด
00:32
I couldn't get out of bed in the morning.
9
20351
2741
ผมไม่ยอมลุกออกจากเตียงในตอนเช้า
00:35
I felt unworthy
10
23092
1733
ผมรู้สึกไม่คู่ควร
00:36
of stepping across the gates of the university,
11
24825
3153
กับการเดินเข้าประตูมหาวิทยาลัย
00:39
because I wasn't like Einstein or Newton
12
27978
2148
เพราะผมไม่ใช่ไอสไตน์ หรือนิวตัน
00:42
or any other scientist whose results
13
30126
2153
หรือนักวิทยาศาสตร์ท่านใด
00:44
I had learned about, because in science,
14
32279
1531
ที่ผมได้เรียนรู้ผลงานของพวกท่าน
เพราะในวิทยาศาสตร์
เพราะในวิทยาศาสตร์
00:45
we just learn about the results, not the process.
15
33810
3382
เราเรียนเกี่ยวกับผลลัพธ์เท่านั้น
ไม่ใช่กระบวนการ
ไม่ใช่กระบวนการ
00:49
And so obviously, I couldn't be a scientist.
16
37192
4701
และเห็นชัดๆ เลยว่า
ผมเป็นนักวิทยาศาสตร์ไม่ได้
ผมเป็นนักวิทยาศาสตร์ไม่ได้
00:53
But I had enough support
17
41893
1664
แต่ผมมีแรงสนับสนุนมากพอ
00:55
and I made it through
18
43557
1397
และผมก็ผ่านมันไปได้
00:56
and discovered something new about nature.
19
44954
2220
และค้นพบความรู้ใหม่เกี่ยวกับธรรมชาติ
00:59
This is an amazing feeling of calmness,
20
47174
2743
มันเป็นความรู้สึกสงบอันน่าทึ่ง
01:01
being the only person in the world
21
49917
1332
ที่เป็นบุคคลเดียวในโลก
01:03
who knows a new law of nature.
22
51249
2225
ที่รู้ถึงกฎใหม่แห่งธรรมชาติ
01:05
And I started the second project in my Ph.D,
23
53474
3042
และผมเริ่มโครงงานที่สอง
ในการเรียนปริญญาเอก
ในการเรียนปริญญาเอก
01:08
and it happened again.
24
56516
1364
และมันก็เกิดขึ้นอีกครั้ง
01:09
I got stuck and I made it through.
25
57880
2289
ผมเจออุปสรรค์ แล้วก็ผ่านมันไปได้
01:12
And I started thinking,
26
60169
1386
และผมก็เริ่มคิด
01:13
maybe there's a pattern here.
27
61555
1157
บางที มันอาจมีรูปแบบอยู่ก็เป็นได้
01:14
I asked the other graduate students, and they said,
28
62712
1841
ผมถามบัณฑิตทั้งหลาย แล้วพวกเขาก็บอกว่า
01:16
"Yeah, that's exactly what happened to us,
29
64553
2043
"ใช่เลย เกิดอย่างนั้นกับพวกเขาเป๊ะๆ เลย
01:18
except nobody told us about it."
30
66596
2349
เว้นแต่ว่าไม่มีใครบอกเรา"
01:20
We'd all studied science as if it's a series
31
68945
1950
พวกเราอาจเรียนวิทยาศาสตร์อย่างกับว่า
01:22
of logical steps between question and answer,
32
70895
3576
มันเป็นชุดขั้นตอนเชิงตรรกะ
ระหว่างคำถามและคำตอบ
ระหว่างคำถามและคำตอบ
01:26
but doing research is nothing like that.
33
74471
2746
แต่การทำวิจัยไม่ได้เป็นอะไรแบบนั้น
01:29
At the same time, I was also studying
34
77217
2334
ในเวลาเดียวกัน ผมยังได้เรียน
01:31
to be an improvisation theater actor.
35
79551
2087
การแสดงละครเวทีแบบด้นสด
01:33
So physics by day,
36
81638
1434
ฉะนั้น กลางวันเรียนฟิสิกส์
01:35
and by night, laughing, jumping, singing,
37
83072
2018
และกลางคืน หัวเราะ กระโดด ร้องเพลง
01:37
playing my guitar.
38
85090
1312
เล่นกีต้าร์ของผม
01:38
Improvisation theater,
39
86402
1479
ละครเวทีแบบด้นสด
01:39
just like science, goes into the unknown,
40
87881
3009
ก็เหมือนกับวิทยาศาสตร์
คือ การเข้าหาสิ่งที่ไม่รู้
คือ การเข้าหาสิ่งที่ไม่รู้
01:42
because you have to make a scene onstage
41
90890
1412
เพราะคุณต้องเล่นกันบนเวที
01:44
without a director, without a script,
42
92302
1703
โดยปราศจากผู้กำกับ ปราศจากบทละคร
01:46
without having any idea what you'll portray
43
94005
2278
ไม่รู้เลยว่า คุณจะเล่นเป็นอะไร
01:48
or what the other characters will do.
44
96283
2406
หรือตัวละครอื่นจะทำอะไร
01:50
But unlike science,
45
98689
1849
แต่ไม่เหมือนวิทยาศาสตร์
01:52
in improvisation theater, they tell you from day one
46
100538
3023
ในละครเวทีด้นสด
พวกเขาบอกคุณแต่วันแรกว่า
พวกเขาบอกคุณแต่วันแรกว่า
01:55
what's going to happen to
you when you get onstage.
you when you get onstage.
47
103561
2215
อะไรจะเกิดขึ้นกับคุณเมื่อคุณอยู่บนเวที
01:57
You're going to fail miserably.
48
105776
2772
คุณจะทำพลาดไม่เป็นท่า
02:00
You're going to get stuck.
49
108548
1177
คุณจะเจออุปสรรค
02:01
And we would practice staying creative
50
109725
2118
และเราก็จะฝึกฝนให้มีความคิดสร้างสรรค์อยู่เสมอ
02:03
inside that stuck place.
51
111843
1203
ในสถานการณ์ที่เจออุปสรรค
02:05
For example, we had an exercise
52
113046
1905
ตัวอย่างเช่น เรามีแบบฝึกหัด
02:06
where we all stood in a circle,
53
114951
1142
ที่เราทุกคนยืนเป็นวงกลม
02:08
and each person had to do
the world's worst tap dance,
the world's worst tap dance,
54
116093
2965
และแต่ละคนต้องเต้นแท๊ปให้แย่สุดๆ
02:11
and everybody else applauded
55
119058
1586
และคนอื่นๆ ปรบมือ
02:12
and cheered you on,
56
120644
1242
และเชียร์คุณ
02:13
supporting you onstage.
57
121886
2763
ให้กำลังใจคุณบนเวที
02:16
When I became a professor
58
124649
1908
เมื่อผมเป็นศาสตราจารย์
02:18
and had to guide my own students
59
126557
1381
และต้องแนะแนวนักเรียนของผม
02:19
through their research projects,
60
127938
1973
ผ่านโครงงานวิจัยของพวกเขา
02:21
I realized again,
61
129911
1367
ผมตระหนักอีกครั้งว่า
02:23
I don't know what to do.
62
131278
1712
ผมไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร
02:24
I'd studied thousands of hours of physics,
63
132990
1994
ผมอาจเรียนฟิสิกส์ ชีววิทยา เคมี
02:26
biology, chemistry,
64
134984
1614
มาหลายพันชั่วโมง
02:28
but not one hour, not one concept
65
136598
2372
แต่ไม่มีสักชั่วโมง ไม่มีสักแนวคิดเดียว
ที่จะสอนผมว่า
ที่จะสอนผมว่า
02:30
on how to mentor, how to guide someone
66
138970
2586
จะให้คำปรึกษาอย่างไร แนะแนวใครสักคนอย่างไร
02:33
to go together into the unknown,
67
141556
1737
เพื่อให้เดินไปด้วยกันสู่สิ่งที่ไม่รู้
02:35
about motivation.
68
143293
1921
เพื่อสร้างแรงผลักดัน
02:37
So I turned to improvisation theater,
69
145214
1930
ผมจึงหันไปพึ่งละครเวทีด้นสด
02:39
and I told my students from day one
70
147144
2173
และผมบอกนักเรียนตั้งแต่วันแรกว่า
02:41
what's going to happen when you start research,
71
149317
2901
อะไรกำลังจะเกิดขึ้นเมื่อคุณเริ่มทำงานวิจัย
02:44
and this has to do with our mental schema
72
152218
1726
เรื่องนี้เกี่ยวกับมโนภาพที่เราคาดหวัง (schema)
02:45
of what research will be like.
73
153944
2012
ว่างานวิจัยจะเป็นเช่นไร
02:47
Because you see, whenever people do anything,
74
155956
2278
เพราะว่า เมื่อคนเราทำอะไรก็ตามแต่
02:50
for example if I want to touch this blackboard,
75
158234
2642
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าผมต้องการจะจับกระดานดำนี้
02:52
my brain first builds up a schema,
76
160876
1660
สมองของผมจะคาดมโนภาพขึ้นก่อน
02:54
a prediction of exactly what my muscles will do
77
162536
1859
ทำนายว่ากล้ามเนื้อของผมจะทำอะไร
02:56
before I even start moving my hand,
78
164395
2156
ก่อนที่ผมจะเริ่มขยับมือเสียอีก
02:58
and if I get blocked,
79
166551
1848
และถ้าผมถูกขัดขวาง
03:00
if my schema doesn't match reality,
80
168399
1875
ถ้ามโนภาพของผมไม่เข้ากับความเป็นจริง
03:02
that causes extra stress called cognitive dissonance.
81
170274
2284
จะเกิดความเครียดขึ้น เรียกว่า
การรับรู้ไม่ลงรอยกัน (cognitive dissonance)
การรับรู้ไม่ลงรอยกัน (cognitive dissonance)
03:04
That's why your schemas had better match reality.
82
172558
2909
จึงเป็นการดีกว่า
ถ้ามโนภาพของคุณ ตรงกับความเป็นจริง
ถ้ามโนภาพของคุณ ตรงกับความเป็นจริง
03:07
But if you believe the way science is taught,
83
175467
3155
แต่ถ้าคุณเชื่อในวิทยาศาสตร์แบบที่ถูกสอนกันมา
03:10
and if you believe textbooks, you're liable
84
178622
1897
และถ้าคุณเชื่อตามตำรา ก็มีแนวโน้ม
03:12
to have the following schema of research.
85
180519
6294
ว่าคุณน่าจะมีมโนภาพของงานวิจัย ตามนี้ครับ
03:18
If A is the question,
86
186813
3318
ถ้า เอ เป็นคำถาม
03:22
and B is the answer,
87
190131
3400
และ บี เป็นคำตอบ
03:25
then research is a direct path.
88
193531
4593
ดังนั้นแล้ว งานวิจัยก็เป็นทางตรง
03:30
The problem is that if an experiment doesn't work,
89
198127
3115
ปัญหาคือว่า ถ้าการทดลองไม่สำเร็จ
03:33
or a student gets depressed,
90
201242
3662
หรือนักเรียนเกิดความเครียด
03:36
it's perceived as something utterly wrong
91
204904
2086
เรื่องแบบนี้ จะถูกมองว่าผิดปกติอย่างยิ่ง
03:38
and causes tremendous stress.
92
206990
3030
และทำให้เกิดความเครียดอย่างมาก
03:42
And that's why I teach my students
93
210020
1783
ด้วยเหตุนี้ ผมจึงสอนให้นักเรียนของผม
03:43
a more realistic schema.
94
211803
3862
สร้างมโนภาพที่ยึดความเป็นจริงมากกว่า
03:50
Here's an example
95
218860
1524
นี่คือตัวอย่าง
03:52
where things don't match your schema.
96
220384
3136
เวลาที่อะไรๆ ไม่เป็นไปตามมโนภาพของคุณครับ
03:58
(Laughter)
97
226379
3262
(เสียงหัวเราะ)
04:01
(Applause)
98
229641
3199
(เสียงปรบมือ)
04:13
So I teach my students a different schema.
99
241564
3446
ผมจึงสอนมโนภาพแบบใหม่ ให้นักเรียนของผม
04:17
If A is the question,
100
245010
2194
ถ้า เอ เป็นคำถาม
04:19
B is the answer,
101
247204
2181
บี เป็นคำตอบ
04:25
stay creative in the cloud,
102
253320
1535
คิดสร้างสรรค์ฝันฟุ้งในเมฆไปเรื่อยๆ
04:26
and you start going,
103
254855
1975
และคุณก็เริ่มลงมือ
04:28
and experiments don't work, experiments don't work,
104
256830
2363
และการทดลองมันไม่ได้ผล และก็ไม่ได้ผล
04:31
experiments don't work, experiments don't work,
105
259193
2535
และก็ไม่ได้ผล และก็ไม่ได้ผล
04:33
until you reach a place linked
with negative emotions
with negative emotions
106
261728
2676
จนคุณไปถึงดินแดนที่เชื่อมกับอารมณ์ด้านลบ
04:36
where it seems like your basic assumptions
107
264404
2278
ที่ซึ่งกระทั่ง ความเชื่อพื้นฐานของคุณ
04:38
have stopped making sense,
108
266682
1116
ยังดูไม่เป็นเหตุเป็นผล
04:39
like somebody yanked the carpet beneath your feet.
109
267798
3055
เหมือนมีใครมากระชากพรมใต้เท้าคุณ
04:42
And I call this place the cloud.
110
270853
3328
และผมเรียกที่นั่นว่า เมฆ
04:59
Now you can be lost in the cloud
111
287685
2678
คุณอาจหลงอยู่ในเมฆนี้
05:02
for a day, a week, a month, a year,
112
290363
2508
สักวัน สัปดาห์ เดือน ปี
05:04
a whole career,
113
292871
1498
หรือชั่วชีวิตทำงานของคุณ
05:06
but sometimes, if you're lucky enough
114
294369
2162
แต่บางที ถ้าคุณโชคดีพอ
05:08
and you have enough support,
115
296531
1856
และคุณได้แรงสนับสนุนพอ
05:10
you can see in the materials at hand,
116
298387
1990
คุณจะเห็นได้ เมื่อดูสิ่งที่อยู่ในมือ
05:12
or perhaps meditating on the shape of the cloud,
117
300377
3248
หรือ ตั้งสติศึกษารูปร่างของเมฆ
05:15
a new answer,
118
303625
2002
ถึงคำตอบแบบใหม่
05:19
C, and you decide to go for it.
119
307285
3684
นั่นคือ ซี แล้วตกลงใจลองทางใหม่ดู
05:22
And experiments don't work, experiments don't work,
120
310969
2369
และการทดลองก็ไม่ได้ผล การทดลองไม่ได้ผล
05:25
but you get there,
121
313338
1469
แต่คุณก็ถึงในที่สุด
05:26
and then you tell everyone about it
122
314807
1220
จากนั้น คุณก็บอกเรื่องนี้กับทุกคน
05:28
by publishing a paper that reads A arrow C,
123
316027
3502
โดยตีพิมพ์ผลงานที่บอกว่า เอ ไปยัง ซี
05:31
which is a great way to communicate,
124
319529
1959
ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสื่อสาร
05:33
but as long as you don't forget the path
125
321488
2344
ตราบใดที่คุณยังไม่ลืมหนทาง
05:35
that brought you there.
126
323832
1799
ที่นำคุณไปตรงนั้น
05:37
Now this cloud is an inherent part
127
325631
1975
ทีนี้ เมฆที่ว่านี้มีอยู่ตามปกติวิสัย
05:39
of research, an inherent part of our craft,
128
327606
2604
ของการวิจัย ตามปกติวิสัยของงานประดิษฐ์
05:42
because the cloud stands guard at the boundary.
129
330210
3210
เพราะว่า เมฆจะลอยขวาง ตรงพรมแดน
05:49
It stands guard at the boundary
130
337721
2269
มันจะอยู่ตรงพรมแดน
05:51
between the known
131
339990
2972
ระหว่าง ความรู้
05:57
and the unknown,
132
345795
3604
และความไม่รู้
06:05
because in order to discover something truly new,
133
353110
2275
เพราะถ้าอยากค้นพบบางอย่างที่ใหม่จริงๆ นั้น
06:07
at least one of your basic
assumptions has to change,
assumptions has to change,
134
355385
3577
อย่างน้อย ความเชื่อพื้นฐานสักอย่างของคุณ
จะต้องเปลี่ยนไป
จะต้องเปลี่ยนไป
06:10
and that means that in science,
135
358962
1254
ฉะนั้น การศึกษาวิทยาศาสตร์
06:12
we do something quite heroic.
136
360216
1962
จึงเป็นเรื่องกล้าหาญชาญชัยทีเดียว
06:14
Every day, we try to bring ourselves
137
362178
1821
ทุกๆ วัน เราพยายามเดินทาง
06:15
to the boundary between
the known and the unknown
the known and the unknown
138
363999
1812
สู่พรมแดนระหว่างความรู้ และความไม่รู้
06:17
and face the cloud.
139
365811
1821
และเผชิญหน้ากับเมฆ
06:19
Now notice that I put B
140
367632
1705
ทีนี้ สังเกตว่าผมเขียน บี
06:21
in the land of the known,
141
369337
743
ไว้ในดินแดนของความรู้
06:22
because we knew about it in the beginning,
142
370080
1811
เพราะเรารู้จักมันตั้งแต่แรกแล้ว
06:23
but C is always more interesting
143
371891
3649
แต่ ซี นั้น น่าสนใจยิ่งกว่า
06:27
and more important than B.
144
375540
2723
และสำคัญเสียยิ่งกว่า บี
06:30
So B is essential in order to get going,
145
378263
2193
บี ก็สำคัญสำหรับการดำเนินงานวิจัย
06:32
but C is much more profound,
146
380456
1818
แต่ ซี เป็นอะไรที่ลึกซึ้งกว่า
06:34
and that's the amazing thing about resesarch.
147
382274
4497
และนั่นคือสิ่งมหัศจรรย์เกี่ยวกับงานวิจัย
06:38
Now just knowing that word, the cloud,
148
386771
2188
ทีนี้ แค่รู้จักคำนั้น 'เมฆ'
06:40
has been transformational in my research group,
149
388959
2555
มันทำให้กลุ่มวิจัยของผมเปลี่ยนไปเลย
06:43
because students come to me and say,
150
391514
1870
เพราะนักเรียนเข้ามาหาผม แล้วบอกว่า
06:45
"Uri, I'm in the cloud,"
151
393384
1598
"ยูริ ผมติดอยู่ในเมฆ"
06:46
and I say, "Great, you must be feeling miserable."
152
394982
3166
และผมก็บอกว่า
"ยอดเลย รู้สึกเศร้าระทมเลยล่ะสิตอนนี้"
"ยอดเลย รู้สึกเศร้าระทมเลยล่ะสิตอนนี้"
06:50
(Laughter)
153
398148
2142
(เสียงหัวเราะ)
06:52
But I'm kind of happy,
154
400290
1913
แต่ผมมีความสุขนะครับ
06:54
because we might be close to the boundary
155
402203
1678
เพราะเราอาจใกล้ถึงพรมแดน
06:55
between the known and the unknown,
156
403881
1896
ระหว่างความรู้และความไม่รู้
06:57
and we stand a chance of discovering
157
405777
1546
และเรายังมีโอกาสในการค้นพบ
06:59
something truly new,
158
407323
1861
อะไรบางอย่างที่ใหม่จริงๆ
07:01
since the way our mind works,
159
409184
1342
เพราะวิธีที่สมองของเราทำงานนั้น
07:02
it's just knowing that the cloud
160
410526
3148
พอสมองรู้แล้วว่า เมฆนั้น
07:05
is normal, it's essential,
161
413674
4426
เป็นเรื่องปกติ เป็นสิ่งจำเป็น
07:10
and in fact beautiful,
162
418100
1205
และอันที่จริงสวยงาม
07:11
we can join the Cloud Appreciation Society,
163
419305
3623
เราก็จะได้เข้าร่วมชมรมคนรักมวลเมฆ
07:14
and it detoxifies the feeling that something
164
422928
1918
และบำบัดความรู้สึกที่ว่า
07:16
is deeply wrong with me.
165
424846
2562
ฉันมีอะไรที่ผิดปกติมากๆ
07:19
And as a mentor, I know what to do,
166
427408
2450
และในฐานะผู้เป็นอาจารย์ ผมรู้ว่าต้องทำอย่างไร
07:21
which is to step up my support for the student,
167
429858
2202
นั่นคือ เพิ่มกำลังใจให้นักเรียนของผม
07:24
because research in psychology shows
168
432060
1481
เพราะการวิจัยทางจิตวิทยาแสดงว่า
07:25
that if you're feeling fear and despair,
169
433541
3559
ถ้าคุณรู้สึกกลัว หรือหมดหวัง
07:29
your mind narrows down
170
437100
997
จิตใจคุณจะตีกรอบ
07:30
to very safe and conservative ways of thinking.
171
438097
2831
กลับไปใช้วิธีคิดแบบปลอดภัย และระมัดระวัง
07:32
If you'd like to explore the risky paths
172
440928
1575
ถ้าคุณอยากสำรวจหนทางที่เสี่ยงกว่า
07:34
needed to get out of the cloud,
173
442503
1388
ถ้าจะหนีออกจากเมฆ
07:35
you need other emotions --
174
443891
1761
คุณต้องพึ่งอารมณ์แบบอื่นด้วย
07:37
solidarity, support, hope —
175
445652
2201
ความสามัคคี กำลังใจ ความหวัง
07:39
that come with your connection from somebody else,
176
447853
1737
ซึ่งได้จากความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ
07:41
so like in improvisation theater,
177
449590
1550
มันก็เหมือนกับละครเวทีด้นสด
07:43
in science, it's best to walk into the unknown
178
451140
2301
ในวิทยาศาสตร์
มันดีที่สุดที่จะเดินทางสู่ความไม่รู้
มันดีที่สุดที่จะเดินทางสู่ความไม่รู้
07:45
together.
179
453441
1969
ไปด้วยกัน
07:47
So knowing about the cloud,
180
455410
2442
การที่รู้ถึงเรื่องเมฆ
07:49
you also learn from improvisation theater
181
457852
3324
คุณยังได้เรียนรู้จากละครเวทีด้นสด
07:53
a very effective way to have conversations
182
461176
2602
ถึงวิธีการสนทนาอย่างมีประสิทธิภาพ
07:55
inside the cloud.
183
463778
1760
เมื่ออยู่ในเมฆ
07:57
It's based on the central principle
184
465538
1977
มันตั้งอยู่บนหลักการสำคัญ
07:59
of improvisation theater,
185
467515
1767
ของละครเวทีด้นสด
08:01
so here improvisation theater
186
469282
1093
ตรงนี้ ละครเวทีด้นสด
08:02
came to my help again.
187
470375
1296
ได้ช่วยผมไว้อีกครั้ง
08:03
It's called saying "Yes, and"
188
471671
2291
เป็นการตอบว่า "ใช่ แล้วก็"
08:05
to the offers made by other actors.
189
473962
3465
กับสิ่งที่นักแสดงคนอื่นเสนอมาให้
08:16
That means accepting the offers
190
484297
2894
ความหมายของมันคือ การรับคำเสนอ
08:19
and building on them, saying, "Yes, and."
191
487191
2511
และต่อยอดจากนั้น โดยบอกว่า "ใช่ แล้วก็"
08:21
For example, if one actor says,
192
489702
1239
ตัวอย่างเช่น ถ้านักแสดงคนหนึ่งบอกว่า
08:22
"Here is a pool of water,"
193
490941
1155
"นี่คือสระนำ้"
08:24
and the other actor says,
194
492096
1045
และอีกคนบอกว่า
08:25
"No, that's just a stage,"
195
493141
1869
"ไม่หนิ นี่มันเวที"
08:27
the improvisation is over.
196
495010
1738
การด้นสดก็จบ
08:28
It's dead, and everybody feels frustrated.
197
496748
3772
มันตายสนิท และทุกคนก็จะสับสนหงุดหงิด
08:32
That's called blocking.
198
500520
1348
มันเรียกว่า ติดทางตัน
08:33
If you're not mindful of communications,
199
501868
1607
ถ้าคุณไม่ใส่ใจเรื่องวิธีสนทนาแล้ว
08:35
scientific conversations can have a lot of blocking.
200
503475
2937
การสนทนาทางวิทยาศาสตร์
ก็จะติดทางตันได้ง่ายมากครับ
ก็จะติดทางตันได้ง่ายมากครับ
08:38
Saying "Yes, and" sounds like this.
201
506412
2236
การตอบ "ใช่ แล้วก็" เป็นแบบนี้ครับ
08:40
"Here is a pool of water."
"Yeah, let's jump in."
"Yeah, let's jump in."
202
508648
2508
"นี่คือบ่อน้ำ"
"ช่าย โดดลงไปกันเหอะ"
"ช่าย โดดลงไปกันเหอะ"
08:43
"Look, there's a whale! Let's grab it by its tail.
203
511156
3009
"ดูสิ มีปลาวาฬด้วย จับหางมันเลย
08:46
It's pulling us to the moon!"
204
514165
2101
มันดึงเราไปดวงจันทร์แล้ว"
08:48
So saying "Yes, and" bypasses our inner critic.
205
516266
3020
การบอกว่า "ใช่ แล้วก็"
จึงข้ามผ่านการวิพากษ์ในใจเรา
จึงข้ามผ่านการวิพากษ์ในใจเรา
08:51
We all have an inner critic
206
519286
1694
เราทุกคนมีข้อวิพากษ์ในใจ
08:52
that kind of guards what we say,
207
520980
1241
ซึ่งคอยจับผิด ว่าเราจะพูดอะไร
08:54
so people don't think that we're obscene
208
522221
1923
คนอื่นจะได้ไม่คิดว่า เราน่ารังเกียจ
08:56
or crazy or unoriginal,
209
524144
1115
หรือบ้า หรือซ้ำซาก
08:57
and science is full of the fear
210
525259
1260
และในวิทยาศาสตร์ ใครๆ ก็กลัว
08:58
of appearing unoriginal.
211
526519
1557
ว่าตัวเองจะดูซ้ำซาก
09:00
Saying "Yes, and" bypasses the critic
212
528076
2167
การบอกว่า "ใช่ แล้วก็"
ก้าวผ่านการวิพากษ์วิจารณ์
ก้าวผ่านการวิพากษ์วิจารณ์
09:02
and unlocks hidden voices of creativity
213
530243
2612
และปลดปล่อยความสร้างสรรค์แอบแฝง
09:04
you didn't even know that you had,
214
532855
1525
ที่คุณไม่อาจรู้ด้วยซ้ำว่าคุณมี
09:06
and they often carry the answer
215
534380
2030
และพวกมันมักให้คำตอบ
09:08
about the cloud.
216
536410
2405
เกี่ยวกับเมฆด้วย
09:10
So you see, knowing about the cloud
217
538815
2601
ครับ การรู้เกี่ยวกับเมฆ
09:13
and about saying "Yes, and"
218
541416
1404
และการพูดว่า "ใช่ แล้วก็"
09:14
made my lab very creative.
219
542820
2859
ทำให้ห้องทดลองของผมมีความคิดสร้างสรรค์มาก
09:17
Students started playing off of each others' ideas,
220
545679
2528
นักเรียนเริ่มเล่นกับความคิดของคนอื่นๆ
09:20
and we made surprising discoveries
221
548207
2114
จนค้นพบความรู้ใหม่อันน่าประหลาดใจ
09:22
in the interface between physics and biology.
222
550321
2869
ในส่วนเชื่อมต่อระหว่างฟิสิกส์กับชีววิทยา
09:25
For example, we were stuck for a year
223
553190
2950
ตัวอย่างเช่น เราง่วนอยู่เป็นปี
09:28
trying to understand the intricate
224
556140
1149
ในการทำความเข้าใจ
09:29
biochemical networks inside our cells,
225
557289
2693
เครือข่ายชีวเคมีอันซับซ้อนในเซลล์ของเรา
09:31
and we said, "We are deeply in the cloud,"
226
559982
2457
และพวกเราบอกว่า "เราอยู่ในกลุ่มเมฆทึบ"
09:34
and we had a playful conversation
227
562439
1980
แล้วก็คุยกันสนุกๆ ไปเรื่อย
09:36
where my student Shai Shen Orr said,
228
564419
1788
จนนักเรียนของผม
ไช เชน ออร์ (Shai Shen Orr) พูดขึ้นว่า
ไช เชน ออร์ (Shai Shen Orr) พูดขึ้นว่า
09:38
"Let's just draw this on a
piece of paper, this network,"
piece of paper, this network,"
229
566207
2843
"มาวาดเครือข่ายที่ว่าบนกระดาษกันเหอะ"
09:41
and instead of saying,
230
569050
1453
และแทนที่จะบอกว่า
09:42
"But we've done that so many times
231
570503
2151
"แต่เราทำอย่างนั้นมาตั้งหลายครั้งแล้ว
09:44
and it doesn't work,"
232
572654
1034
และมันก็ไม่เห็นจะได้อะไรเลย"
09:45
I said, "Yes, and
233
573688
2943
ผมกลับบอกว่า "เอาสิ แล้วก็
09:48
let's use a very big piece of paper,"
234
576631
2041
ใช้กระดาษใหญ่ๆ นะ"
09:50
and then Ron Milo said,
235
578672
1092
จากนั้น รอน ไมโล (Ron Milo) ก็บอกว่า
09:51
"Let's use a gigantic architect's
236
579764
2220
"เอากระดาษใหญ่ๆ
09:53
blueprint kind of paper, and I know where to print it,"
237
581984
1796
แบบที่นักออกแบบใช้ทำพิมพ์เขียวดีกว่า
ผมรู้ว่าจะเอาไปพิมพ์ได้ที่ไหน"
ผมรู้ว่าจะเอาไปพิมพ์ได้ที่ไหน"
09:55
and we printed out the network and looked at it,
238
583780
2500
และพวกเราก็พิมพ์เครือข่าย และมองดูมัน
09:58
and that's where we made
our most important discovery,
our most important discovery,
239
586280
2509
ตอนนั้นเอง ที่เราค้นพบความรู้ข้อสำคัญที่สุด
10:00
that this complicated network is just made
240
588789
2201
ซึ่งก็คือ เครือข่ายอันซับซ้อนนี้มันก็แค่
10:02
of a handful of simple, repeating interaction patterns
241
590990
3463
เครือข่ายรูปแบบง่ายๆ จำนวนมากซ้ำๆ กัน
10:06
like motifs in a stained glass window.
242
594453
3163
เหมือนกับแม่ลายของกระจกสี (motif)
10:09
We call them network motifs,
243
597616
2048
พวกเราเรียกมันว่า เครือข่ายแม่ลาย (network motifs)
10:11
and they're the elementary circuits
244
599664
2152
และพวกมันเป็นวงจรพื้นฐาน
10:13
that help us understand
245
601816
1385
ที่ช่วยให้เราเข้าใจ
10:15
the logic of the way cells make decisions
246
603201
2700
ตรรกะของการตัดสินใจของเซลล์
10:17
in all organisms, including our body.
247
605901
2849
ในทุกสิ่งมีชีวิต รวมถึงร่างกายของคุณ
10:20
Soon enough, after this,
248
608750
1925
ไม่นาน หลังจากนั้น
10:22
I started being invited to give talks
249
610675
1620
ผมเริ่มได้รับเชิญไปบรรยาย
10:24
to thousands of scientists across the world,
250
612295
3011
ให้กับนักวิทยาศาสตร์หลายพันทั่วโลก
10:27
but the knowledge about the cloud
251
615306
1833
แต่ความรู้เกี่ยวกับเมฆ
10:29
and saying "Yes, and"
252
617139
1132
และการพูดว่า "ใช่ แล้วก็"
10:30
just stayed within my own lab,
253
618271
1839
ยังคงอยู่แต่ในห้องทดลองของผม
10:32
because you see, in science,
we don't talk about the process,
we don't talk about the process,
254
620110
2131
เพราะว่า ในวิทยาศาสตร์
เราไม่พูดกันถึงกระบวนการ
เราไม่พูดกันถึงกระบวนการ
10:34
anything subjective or emotional.
255
622241
2433
สิ่งที่เกี่ยวกับความรู้สึก หรืออารมณ์
10:36
We talk about the results.
256
624674
1863
เราพูดถึงผลลัพธ์
10:38
So there was no way to talk about it in conferences.
257
626537
2069
จึงไม่มีทางจะได้พูดถึงมันในงานสัมมนา
10:40
That was unthinkable.
258
628606
1924
นึกภาพไม่ออกเลยครับ
10:42
And I saw scientists in other groups get stuck
259
630530
2076
และผมเห็นนักวิทยาศาสตร์กลุ่มอื่นๆ
ติดอยู่ที่ทางตัน
ติดอยู่ที่ทางตัน
10:44
without even having a word to describe
260
632606
1774
หาคำมาบรรยายไม่ได้ด้วยซ้ำ
10:46
what they're seeing,
261
634380
1321
ถึงสิ่งที่พวกเขาเผชิญ
10:47
and their ways of thinking
262
635701
1355
และวิธีการที่พวกเขาคิด
10:49
narrowed down to very safe paths,
263
637056
1528
ก็บีบแคบลงมาที่ทางปลอดภัย
10:50
their science didn't reach its full potential,
264
638584
1660
วิทยาศาสตร์ของพวกเขาไม่อาจไปถึงศักยภาพสูงสุด
10:52
and they were miserable.
265
640244
1753
จนพวกเขาดูซึมกันมากๆ
10:53
I thought, that's the way it is.
266
641997
1939
ผมคิดว่า มันก็ธรรมดาอย่างนี้แหละ
10:55
I'll try to make my lab as creative as possible,
267
643936
2021
ผมจะพยายามทำให้ห้องทดลองของผม
มีความสร้างสรรค์มากเท่าที่จะทำได้
มีความสร้างสรรค์มากเท่าที่จะทำได้
10:57
and if everybody else does the same,
268
645957
1680
และถ้าคนอื่นๆ ทำอย่างนี้เช่นกัน
10:59
science will eventually become
269
647637
2190
ถึงวันหนึ่ง วิทยาศาสตร์
11:01
more and more better and better.
270
649827
2214
ก็จะดีขึ้นกว่าเดิมในที่สุด
11:04
That way of thinking got turned on its head
271
652041
2920
แต่ความคิดนั้น เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
11:06
when by chance I went to hear Evelyn Fox Keller
272
654961
2339
เมื่อผมได้ฟัง เอวลิน ฟ๊อกส์ เคลเลอร์
(Evelyn Fox Keller) โดยบังเอิญ
(Evelyn Fox Keller) โดยบังเอิญ
11:09
give a talk about her experiences
273
657300
1358
ตอนเธอพูดถึงประสบการณ์ของเธอ
11:10
as a woman in science.
274
658658
1691
ในฐานะผู้หญิงในวงการวิทยาศาสตร์
11:12
And she asked,
275
660349
1823
และเธอถามคำถามว่า
11:14
"Why is it that we don't talk about the subjective
276
662172
1948
"ทำไมเราไม่พูดถึงการทำงานทางวิทยาศาตร์
11:16
and emotional aspects of doing science?
277
664120
2186
ในแง่มุมเชิงความรู้สึก และอารมณ์กันบ้าง?"
11:18
It's not by chance. It's a matter of values."
278
666306
3992
ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเลย นี่เป็นเรื่องของค่านิยม"
11:22
You see, science seeks knowledge
279
670298
2178
คืออย่างนี้ครับ วิทยาศาสตร์ค้นหาความรู้
11:24
that's objective and rational.
280
672476
1795
ซึ่งมีรากฐานจากหลักเหตุผล และข้อเท็จจริง
11:26
That's the beautiful thing about science.
281
674271
2198
นั่นคือความงดงามของวิทยาศาสตร์
11:28
But we also have a cultural myth
282
676469
1956
แต่เรายังมีมายาคติอีกด้วยว่า
11:30
that the doing of science,
283
678425
1254
การทำงานทางวิทยาศาสตร์
11:31
what we do every day to get that knowledge,
284
679679
2300
สิ่งที่เราทำกันทุกวัน เพื่อเสาะหาความรู้
11:33
is also only objective and rational,
285
681979
2440
ก็ใช้แค่หลักเหตุผล และข้อเท็จจริงเช่นกัน
11:36
like Mr. Spock.
286
684419
2432
เหมือน มิสเตอร์ สป๊อค (Mr. Spock)
11:38
And when you label something
287
686851
1414
พอคุณตีตราอะไรก็ตาม
11:40
as objective and rational,
288
688265
1813
ว่ามีแค่ข้อเท็จจริง และหลักเหตุผล
11:42
automatically, the other side,
289
690078
1642
โดยอัตโนมัติ ขั้วตรงข้าม
11:43
the subjective and emotional,
290
691720
1457
คือความรู้สึก และอารมณ์
11:45
become labeled as non-science
291
693177
2102
ย่อมถูกตีตราว่า 'ไม่เป็นวิทยาศาสตร์'
11:47
or anti-science or threatening to science,
292
695279
1971
หรือต่อต้านวิทยาศาสตร์
หรือเป็นภัยต่อวิทยาศาสตร์
หรือเป็นภัยต่อวิทยาศาสตร์
11:49
and we just don't talk about it.
293
697250
1811
เราก็เลยไม่พูดถึงมันกัน
11:51
And when I heard that,
294
699061
1954
และเมื่อผมได้ยินอย่างนั้น
11:53
that science has a culture,
295
701015
2167
ว่าวิทยาศาสตร์มีวัฒนธรรม
11:55
everything clicked into place for me,
296
703182
1547
ทุกอย่างเข้าล๊อคสำหรับผม
11:56
because if science has a culture,
297
704729
1664
เพราะว่า ถ้าวิทยาศาสตร์มีวัฒนธรรมแล้ว
11:58
culture can be changed,
298
706393
1256
วัฒนธรรมก็สามารถเปลี่ยนได้
11:59
and I can be a change agent
299
707649
1593
โดยมีผมเป็นตัวกระตุ้น
12:01
working to change the culture
of science wherever I could.
of science wherever I could.
300
709242
2712
ให้วัฒนธรรมของวิทยาศาสตร์เปลี่ยนไป
ในที่ๆ ผมทำได้
ในที่ๆ ผมทำได้
12:03
And so the very next lecture I gave in a conference,
301
711954
3069
พอถึงการบรรยายถัดไปที่งานสัมมนา
12:07
I talked about my science,
302
715023
1612
ผมจึงพูดเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ของผม
12:08
and then I talked about the importance
303
716635
1512
และเมื่อผมพูดถึงความสำคัญ
12:10
of the subjective and emotional
aspects of doing science
aspects of doing science
304
718147
2182
ของแง่มุมด้านอารมณ์ และความรู้สึกของวิทยาศาสตร์
12:12
and how we should talk about them,
305
720329
1120
และวิธีการที่เราควรพูดถึงมัน
12:13
and I looked at the audience,
306
721449
1234
และผมก็มองไปยังผู้ชม
12:14
and they were cold.
307
722683
2360
พวกเขาดูด้านชา
12:17
They couldn't hear what I was saying
308
725043
3291
พวกเขาไม่ได้ยินว่าผมกำลังพูดอะไร
12:20
in the context of a 10 back-to-back
309
728334
1251
ในบริบทของ การบรรยายผ่านเพาเวอร์พอยท์
12:21
PowerPoint presentation conference.
310
729585
1839
10 สไลด์ต่อกัน
12:23
And I tried again and again,
conference after conference,
conference after conference,
311
731424
2482
และผมลองอีกครั้ง และอีกครั้ง
สัมมนาครั้งแล้วครั้งเล่า
สัมมนาครั้งแล้วครั้งเล่า
12:25
but I wasn't getting through.
312
733906
2373
แต่ผมก็ยังคงติดชะงัก
12:28
I was in the cloud.
313
736279
2906
ผมติดอยู่ในเมฆ
12:31
And eventually I managed to get out the cloud
314
739185
3514
แต่ในที่สุด ผมก็หลุดออกมาจากเมฆได้
12:34
using improvisation and music.
315
742699
2811
โดยใช้การด้นสดและดนตรี
12:37
Since then, every conference I go to,
316
745510
2739
ตั้งแต่นั้น ทุกงานสัมมนาที่ผมไป
12:40
I give a science talk and a second, special talk
317
748249
2862
ผมจะบรรยายทางวิทยาศาสตร์
และแถมด้วยการบรรยายพิเศษ
และแถมด้วยการบรรยายพิเศษ
12:43
called "Love and fear in the lab,"
318
751111
1993
ชื่อว่า "ความรักและความกลัวในห้องทดลอง"
12:45
and I start it off by doing a song
319
753104
2217
ผมจะเริ่มต้นด้วยเพลง
12:47
about scientists' greatest fear,
320
755321
2572
เกี่ยวกับสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์กลัวที่สุด
12:49
which is that we work hard,
321
757893
2912
ซึ่งคือ การที่เราทำงานอย่างหนัก
12:52
we discover something new,
322
760805
2342
เราค้นพบสิ่งใหม่บางอย่าง
12:55
and somebody else publishes it before we do.
323
763147
3357
แต่ดันมีคนอื่น ชิงตีพิมพ์มันไปก่อนเราเสีย
12:58
We call it being scooped,
324
766504
2616
เราเรียกมันว่า โดนงาบไปรับประทาน
13:01
and being scooped feels horrible.
325
769120
3214
และการโดนงาบไปรับประทานนั้น รู้สึกแย่มากๆ
13:04
It makes us afraid to talk to each other,
326
772334
2213
ทำให้เราไม่กล้าคุยกัน
13:06
which is no fun,
327
774547
833
ซึ่งไม่สนุกเลย
13:07
because we came to science to share our ideas
328
775380
2760
เพราะเราเข้าวงการวิทยาศาสตร์มา
เพื่อแบ่งปันความคิด
เพื่อแบ่งปันความคิด
13:10
and to learn from each other,
329
778140
1311
และเรียนรู้จากกันและกัน
13:11
and so I do a blues song,
330
779451
3489
และผมก็เลยเล่นเพลงบลู
13:17
which — (Applause) —
331
785040
5504
ซึ่งมันก็ - (เสียงปรบมือ) -
13:22
called "Scooped Again,"
332
790544
3223
เรียกว่า "โดนงาบไปอีกแล้ว"
13:25
and I ask the audience to be my backup singers,
333
793767
2658
และผมก็ขอผู้ชมเป็นนักร้องลูกคู่ให้ผม
13:28
and I tell them, "Your text is 'Scoop, Scoop.'"
334
796425
3980
และผมพวกบอกพวกเขาว่า
"เนื้อร้องคือ 'งาบ งาบ'"
"เนื้อร้องคือ 'งาบ งาบ'"
13:32
It sounds like this: "Scoop, scoop!"
335
800405
2645
ทำนองประมาณนี้ครับ
"งาบ งาบ"
"งาบ งาบ"
13:35
Sounds like this.
336
803050
963
มันออกมาแบบนี้ครับ
13:36
♪ I've been scooped again ♪
337
804013
2219
♪ โดนงาบไปอีกแล้ว ♪
13:38
♪ Scoop! Scoop! ♪
338
806232
1743
♪ งาบ งาบ ♪
13:39
And then we go for it.
339
807975
1278
และเมื่อผมร้อง
13:41
♪ I've been scooped again ♪
340
809253
2045
♪ โดนงาบไปอีกแล้ว ♪
13:43
♪ Scoop! Scoop! ♪
341
811298
1286
♪ งาบ งาบ ♪
13:44
♪ I've been scooped again ♪
342
812584
1895
♪ โดนงาบไปอีกแล้ว ♪
13:46
♪ Scoop! Scoop! ♪
343
814479
1306
♪ งาบ งาบ ♪
13:47
♪ I've been scooped again ♪
344
815785
1783
♪ โดนงาบไปอีกแล้ว ♪
13:49
♪ Scoop! Scoop! ♪
345
817568
1639
♪ งาบ งาบ ♪
13:51
♪ I've been scooped again ♪
346
819207
1668
♪ โดนงาบไปอีกแล้ว ♪
13:52
♪ Scoop! Scoop! ♪
347
820875
1762
♪ งาบ งาบ ♪
13:54
♪ Oh mama, can't you feel my pain ♪
348
822637
3275
♪ โอ้แม่จ๋า รู้ไหมว่ามันเจ็บ ♪
13:57
♪ Heavens help me, I've been scooped again ♪
349
825912
3786
♪ สวรรค์ช่วยลูกด้วย โดนงาบอีกแล้ว ♪
14:02
(Applause)
350
830925
6391
(เสียงปรบมือ)
14:09
Thank you.
351
837735
1230
ขอบคุณครับ
14:10
Thank you for your backup singing.
352
838965
1499
ขอบคุณที่ช่วยเป็นนักร้องลูกคู่นะครับ
14:12
So everybody starts laughing, starts breathing,
353
840464
2084
ทุกคนก็เริ่มหัวเราะ และหายใจ
14:14
notices that there's other scientists around them
354
842548
2012
รู้สึกตัวกันว่า ยังมีนักวิทยาศาสตร์คนอื่นรอบๆ ตัว
14:16
with shared issues,
355
844560
1307
ที่เจอเรื่องอย่างเดียวกันมา
14:17
and we start talking about the emotional
356
845867
1805
และเราก็เริ่มพูดถึงเรื่องอารมณ์
14:19
and subjective things that go on in research.
357
847672
1850
และความรู้สึก ที่เกิดขึ้นในงานวิจัย
14:21
It feels like a huge taboo has been lifted.
358
849522
2184
มันรู้สึกเหมือนกับเรื่องแน่นอกถูกยกออก
14:23
Finally, we can talk about
this in a scientific conference.
this in a scientific conference.
359
851706
2799
แล้วเราก็พูดถึงเรื่องนี้
ในงานสัมมนาวิทยาศาสตร์ได้เสียที
ในงานสัมมนาวิทยาศาสตร์ได้เสียที
14:26
And scientists have gone on to form peer groups
360
854505
2186
และนักวิทยาศาสตร์ก็ดำเนินการต่อ
เพื่อก่อตั้งกลุ่มเพื่อนวิจัย
เพื่อก่อตั้งกลุ่มเพื่อนวิจัย
14:28
where they meet regularly
361
856691
1610
ที่พวกเขามาพบปะกันเป็นประจำ
14:30
and create a space to talk about the emotional
362
858301
1629
และได้มีพื้นที่มาพูดคุยกันเรื่องอารมณ์
14:31
and subjective things that
happen as they're mentoring,
happen as they're mentoring,
363
859930
2301
และความรู้สึกที่เกิดขึ้น ตอนที่พวกเขาได้สอน
14:34
as they're going into the unknown,
364
862231
1363
ตอนที่พวกเขาเดินทางสู่ความไม่รู้
14:35
and even started courses
365
863594
1570
และแม้กระทั่งเปิดหลักสูตร
14:37
about the process of doing science,
366
865164
1675
เกี่ยวกับกระบวนการในการทำงานทางวิทยาศาสตร์
14:38
about going into the unknown together,
367
866839
1895
เกี่ยวกับการเดินทางสู่ความไม่รู้ไปด้วยกัน
14:40
and many other things.
368
868734
1416
และสิ่งอื่นๆ อีกมากมาย
14:42
So my vision is that,
369
870150
1334
วิสัยทัศน์ของผมก็คือ
14:43
just like every scientist knows the word "atom,"
370
871484
3462
ก็เหมือนที่นักวิทยาศาสตร์ทุกคนรู้จักคำว่า
"อะตอม"
"อะตอม"
14:46
that matter is made out of atoms,
371
874946
1967
รู้ว่าสสารประกอบด้วยอะตอม
14:48
every scientist would know the words
372
876913
1484
นักวิทยาศาสตร์ทุกคนจะรู้จักคำศัพท์อย่าง
14:50
like "the cloud," saying "Yes, and,"
373
878397
2344
"เมฆ"
การพูดว่า "ใช่ แล้วก็"
การพูดว่า "ใช่ แล้วก็"
14:52
and science will become much more creative,
374
880741
3079
และวิทยาศาสตร์จะสร้างสรรค์ขึ้นกว่านี้มาก
14:55
make many, many more unexpected discoveries
375
883820
3004
จะมีการค้นพบที่ไม่คาดฝันอีกมากมาย
14:58
for the benefit of us all,
376
886824
2536
เพื่อประโยชน์สำหรับเราทุกคน
15:01
and would also be much more playful.
377
889360
2216
และมันจะมีความสนุกขึ้นอีกมากด้วย
15:03
And what I might ask you to remember from this talk
378
891576
2590
และที่ผมจะขอจากพวกคุณให้จำไปจากการบรรยายนี้
15:06
is that next time you face
379
894166
2696
ก็คือ ครั้งหน้าที่คุณได้เผชิญ
15:08
a problem you can't solve
380
896862
1726
กับปัญหาที่คุณไม่สามารถแก้ได้
15:10
in work or in life,
381
898588
2592
ในการงาน หรือในชีวิต
15:13
there's a word for what you're going to see:
382
901180
1876
คุณใช้คำนี้ เรียกสิ่งที่คุณจะเจอได้:
15:15
the cloud.
383
903056
1177
เมฆ
15:16
And you can go through the cloud
384
904233
1533
และคุณสามารถผ่านเข้าไปในเมฆ
15:17
not alone but together
385
905766
1408
ไม่ใช่ตัวคนเดียว แต่ไปด้วยกัน
15:19
with someone who is your source of support
386
907174
2038
กับใครสักคนที่คอยสนับสนุน
15:21
to say "Yes, and" to your ideas,
387
909212
2048
และพูดว่า "ใช่ แล้วก็" ต่อความคิดของคุณ
15:23
to help you say "Yes, and" to your own ideas,
388
911260
2317
และช่วยคุณพูดว่า "ใช่ แล้วก็"
ต่อความคิดของคุณเอง
ต่อความคิดของคุณเอง
15:25
to increase the chance that,
389
913577
1887
เพื่อที่จะเพิ่มโอกาส
15:27
through the wisps of the cloud,
390
915464
1726
เมื่อผ่านก้อนปุยเมฆแล้ว
15:29
you'll find that moment of calmness
391
917190
1498
คุณจะพบกับวินาทีแห่งความสงบ
15:30
where you get your first glimpse
392
918688
1803
ที่ซึ่งคุณได้เห็นแสงแวบแรก
15:32
of your unexpected discovery,
393
920491
3250
จากการค้นพบเหนือความคาดฝัน
15:35
your C.
394
923741
2724
ซี ของคุณ
15:38
Thank you.
395
926465
2320
ขอบคุณครับ
15:40
(Applause)
396
928785
4000
(เสียงปรบมือ)
ABOUT THE SPEAKER
Uri Alon - Systems biologistUri Alon studies how cells work, using an array of tools (including improv theater) to understand the biological circuits that perform the functions of life.
Why you should listen
First trained as a physicist, Uri Alon found a passion for biological systems. At the Weizmann Institute of Science in Israel, he and his lab investigate the protein circuits within a cell (they focus on E. coli), looking for basic interaction patterns that recur throughout biological networks. It's a field full of cross-disciplinary thinking habits and interesting problems. And in fact, Alon is the author of a classic paper on lab behavior called "How to Choose a Good Scientific Problem," which takes a step back from the rush to get grants and publish papers to ask: How can a good lab foster growth and self-motivated research?
In Alon's lab, students use tools from physics, neurobiology and computer science -- and concepts from improv theatre -- to study basic principles of interactions. Using a theater practice called the "mirror game," they showed that two people can create complex novel motion together without a designated leader or follower. He also works on an addicting site called BioNumbers -- all the measurements you need to know about biology. The characteristic heart rate of a pond mussel? Why it's 4-6 beats per minute.
More profile about the speakerIn Alon's lab, students use tools from physics, neurobiology and computer science -- and concepts from improv theatre -- to study basic principles of interactions. Using a theater practice called the "mirror game," they showed that two people can create complex novel motion together without a designated leader or follower. He also works on an addicting site called BioNumbers -- all the measurements you need to know about biology. The characteristic heart rate of a pond mussel? Why it's 4-6 beats per minute.
Uri Alon | Speaker | TED.com