ABOUT THE SPEAKER
Uri Alon - Systems biologist
Uri Alon studies how cells work, using an array of tools (including improv theater) to understand the biological circuits that perform the functions of life.

Why you should listen
First trained as a physicist, Uri Alon found a passion for biological systems. At the Weizmann Institute of Science in Israel, he and his lab investigate the protein circuits within a cell (they focus on E. coli), looking for basic interaction patterns that recur throughout biological networks. It's a field full of cross-disciplinary thinking habits and interesting problems. And in fact, Alon is the author of a classic paper on lab behavior called "How to Choose a Good Scientific Problem," which takes a step back from the rush to get grants and publish papers to ask: How can a good lab foster growth and self-motivated research?
 
In Alon's lab, students use tools from physics, neurobiology and computer science -- and concepts from improv theatre -- to study basic principles of interactions. Using a theater practice called the "mirror game," they showed that two people can create complex novel motion together without a designated leader or follower. He also works on an addicting site called BioNumbers -- all the measurements you need to know about biology. The characteristic heart rate of a pond mussel? Why it's 4-6 beats per minute.
More profile about the speaker
Uri Alon | Speaker | TED.com
TEDGlobal 2013

Uri Alon: Why science demands a leap into the unknown

ยูริ เอลอน (Uri Alon): ทำไมวิทยาศาสร์แนวนวัตกรรมจริงๆ จึงต้องกระโจนเข้าสู่ความไม่รู้

Filmed:
1,123,668 views

ระหว่างการศึกษาระดับปริญญาเอกสาขาฟิสิกส์ ยูริ เอลอน คิดว่าเขาเป็นผู้ล้มเหลว เพราะทุกงานวิจัยของเขานำไปสู่ทางตัน แต่ด้วยความช่วยเหลือจากละครเวทีแบบด้นสด เขาก็ได้ตระหนักว่า เรายังหาความสุขใจได้อยู่ แม้ในยามหลงทาง การเรียกร้องต่อนักวิทยาศาสตร์เพื่อให้หยุดคิดถึงการวิจัยว่าเป็นแค่ทางตรง จากคำถามสู่คำตอบ แต่เป็นอะไรที่สร้างสรรค์กว่านั้น มันเป็นข้อความที่เสนาะกังวาน ไม่ว่าคุณจะทำงานอยู่ในสายวิชาใด
- Systems biologist
Uri Alon studies how cells work, using an array of tools (including improv theater) to understand the biological circuits that perform the functions of life. Full bio

Double-click the English transcript below to play the video.

00:12
In the middleกลาง of my PhPh.D.,
0
325
2063
ตอนที่ผมเรียนปริญญาเอกนั้น
00:14
I was hopelesslyอย่างไร้ความหวัง stuckติดอยู่.
1
2388
3462
ผมติดแหงกเลยครับ
00:17
Everyทุกๆ researchการวิจัย directionทิศทาง that I triedพยายาม
2
5850
1780
ทุกหนทางการวิจัยที่ผมได้ลอง
00:19
led to a deadตาย endปลาย.
3
7630
1616
นำไปสู่ทางตัน
00:21
It seemedดูเหมือน like my basicขั้นพื้นฐาน assumptionsสมมติฐาน
4
9246
1902
มันเหมือนกับว่าความเชื่อพื้นฐานของผม
00:23
just stoppedหยุด workingการทำงาน.
5
11148
1928
หยุดทำงาน
00:25
I feltรู้สึกว่า like a pilotนักบิน flyingการบิน throughตลอด the mistหมอก,
6
13076
2999
ผมรู้สึกเหมือนนักบินที่บินผ่านหมอก
00:28
and I lostสูญหาย all senseความรู้สึก of directionทิศทาง.
7
16075
2795
แล้วหลงทิศทาง
00:30
I stoppedหยุด shavingการโกน.
8
18870
1481
ผมเลิกโกนหนวด
00:32
I couldn'tไม่สามารถ get out of bedเตียง in the morningตอนเช้า.
9
20351
2741
ผมไม่ยอมลุกออกจากเตียงในตอนเช้า
00:35
I feltรู้สึกว่า unworthyไม่คู่ควร
10
23092
1733
ผมรู้สึกไม่คู่ควร
00:36
of steppingก้าว acrossข้าม the gatesประตู of the universityมหาวิทยาลัย,
11
24825
3153
กับการเดินเข้าประตูมหาวิทยาลัย
00:39
because I wasn'tก็ไม่ได้ like Einsteinไอน์สไต or Newtonนิวตัน
12
27978
2148
เพราะผมไม่ใช่ไอสไตน์ หรือนิวตัน
00:42
or any other scientistนักวิทยาศาสตร์ whoseใคร resultsผล
13
30126
2153
หรือนักวิทยาศาสตร์ท่านใด
00:44
I had learnedได้เรียนรู้ about, because in scienceวิทยาศาสตร์,
14
32279
1531
ที่ผมได้เรียนรู้ผลงานของพวกท่าน
เพราะในวิทยาศาสตร์
00:45
we just learnเรียน about the resultsผล, not the processกระบวนการ.
15
33810
3382
เราเรียนเกี่ยวกับผลลัพธ์เท่านั้น
ไม่ใช่กระบวนการ
00:49
And so obviouslyอย่างชัดเจน, I couldn'tไม่สามารถ be a scientistนักวิทยาศาสตร์.
16
37192
4701
และเห็นชัดๆ เลยว่า
ผมเป็นนักวิทยาศาสตร์ไม่ได้
00:53
But I had enoughพอ supportสนับสนุน
17
41893
1664
แต่ผมมีแรงสนับสนุนมากพอ
00:55
and I madeทำ it throughตลอด
18
43557
1397
และผมก็ผ่านมันไปได้
00:56
and discoveredค้นพบ something newใหม่ about natureธรรมชาติ.
19
44954
2220
และค้นพบความรู้ใหม่เกี่ยวกับธรรมชาติ
00:59
This is an amazingน่าอัศจรรย์ feelingความรู้สึก of calmnessความสงบ,
20
47174
2743
มันเป็นความรู้สึกสงบอันน่าทึ่ง
01:01
beingกำลัง the only personคน in the worldโลก
21
49917
1332
ที่เป็นบุคคลเดียวในโลก
01:03
who knowsรู้ a newใหม่ lawกฎหมาย of natureธรรมชาติ.
22
51249
2225
ที่รู้ถึงกฎใหม่แห่งธรรมชาติ
01:05
And I startedเริ่มต้น the secondที่สอง projectโครงการ in my PhPh.D,
23
53474
3042
และผมเริ่มโครงงานที่สอง
ในการเรียนปริญญาเอก
01:08
and it happenedที่เกิดขึ้น again.
24
56516
1364
และมันก็เกิดขึ้นอีกครั้ง
01:09
I got stuckติดอยู่ and I madeทำ it throughตลอด.
25
57880
2289
ผมเจออุปสรรค์ แล้วก็ผ่านมันไปได้
01:12
And I startedเริ่มต้น thinkingคิด,
26
60169
1386
และผมก็เริ่มคิด
01:13
maybe there's a patternแบบแผน here.
27
61555
1157
บางที มันอาจมีรูปแบบอยู่ก็เป็นได้
01:14
I askedถาม the other graduateจบการศึกษา studentsนักเรียน, and they said,
28
62712
1841
ผมถามบัณฑิตทั้งหลาย แล้วพวกเขาก็บอกว่า
01:16
"Yeah, that's exactlyอย่างแน่นอน what happenedที่เกิดขึ้น to us,
29
64553
2043
"ใช่เลย เกิดอย่างนั้นกับพวกเขาเป๊ะๆ เลย
01:18
exceptยกเว้น nobodyไม่มีใคร told us about it."
30
66596
2349
เว้นแต่ว่าไม่มีใครบอกเรา"
01:20
We'dพุธ all studiedมีการศึกษา scienceวิทยาศาสตร์ as if it's a seriesชุด
31
68945
1950
พวกเราอาจเรียนวิทยาศาสตร์อย่างกับว่า
01:22
of logicalตรรกะ stepsขั้นตอน betweenระหว่าง questionคำถาม and answerตอบ,
32
70895
3576
มันเป็นชุดขั้นตอนเชิงตรรกะ
ระหว่างคำถามและคำตอบ
01:26
but doing researchการวิจัย is nothing like that.
33
74471
2746
แต่การทำวิจัยไม่ได้เป็นอะไรแบบนั้น
01:29
At the sameเหมือนกัน time, I was alsoด้วย studyingการศึกษา
34
77217
2334
ในเวลาเดียวกัน ผมยังได้เรียน
01:31
to be an improvisationปฏิภาณโวหาร theaterโรงละคร actorนักแสดงชาย.
35
79551
2087
การแสดงละครเวทีแบบด้นสด
01:33
So physicsฟิสิกส์ by day,
36
81638
1434
ฉะนั้น กลางวันเรียนฟิสิกส์
01:35
and by night, laughingที่หัวเราะ, jumpingที่กระโดด, singingการร้องเพลง,
37
83072
2018
และกลางคืน หัวเราะ กระโดด ร้องเพลง
01:37
playingเล่น my guitarกีตาร์.
38
85090
1312
เล่นกีต้าร์ของผม
01:38
Improvisationปฏิภาณโวหาร theaterโรงละคร,
39
86402
1479
ละครเวทีแบบด้นสด
01:39
just like scienceวิทยาศาสตร์, goesไป into the unknownไม่ทราบ,
40
87881
3009
ก็เหมือนกับวิทยาศาสตร์
คือ การเข้าหาสิ่งที่ไม่รู้
01:42
because you have to make a sceneฉาก onstageบนเวที
41
90890
1412
เพราะคุณต้องเล่นกันบนเวที
01:44
withoutไม่มี a directorผู้อำนวยการ, withoutไม่มี a scriptต้นฉบับ,
42
92302
1703
โดยปราศจากผู้กำกับ ปราศจากบทละคร
01:46
withoutไม่มี havingมี any ideaความคิด what you'llคุณจะ portrayวาดภาพ
43
94005
2278
ไม่รู้เลยว่า คุณจะเล่นเป็นอะไร
01:48
or what the other charactersตัวละคร will do.
44
96283
2406
หรือตัวละครอื่นจะทำอะไร
01:50
But unlikeแตกต่าง scienceวิทยาศาสตร์,
45
98689
1849
แต่ไม่เหมือนวิทยาศาสตร์
01:52
in improvisationปฏิภาณโวหาร theaterโรงละคร, they tell you from day one
46
100538
3023
ในละครเวทีด้นสด
พวกเขาบอกคุณแต่วันแรกว่า
01:55
what's going to happenเกิดขึ้น to
you when you get onstageบนเวที.
47
103561
2215
อะไรจะเกิดขึ้นกับคุณเมื่อคุณอยู่บนเวที
01:57
You're going to failล้มเหลว miserablyเข็ญใจ.
48
105776
2772
คุณจะทำพลาดไม่เป็นท่า
02:00
You're going to get stuckติดอยู่.
49
108548
1177
คุณจะเจออุปสรรค
02:01
And we would practiceการปฏิบัติ stayingการเข้าพัก creativeความคิดสร้างสรรค์
50
109725
2118
และเราก็จะฝึกฝนให้มีความคิดสร้างสรรค์อยู่เสมอ
02:03
insideภายใน that stuckติดอยู่ placeสถานที่.
51
111843
1203
ในสถานการณ์ที่เจออุปสรรค
02:05
For exampleตัวอย่าง, we had an exerciseการออกกำลังกาย
52
113046
1905
ตัวอย่างเช่น เรามีแบบฝึกหัด
02:06
where we all stoodยืนอยู่ in a circleวงกลม,
53
114951
1142
ที่เราทุกคนยืนเป็นวงกลม
02:08
and eachแต่ละ personคน had to do
the world'sโลก worstแย่ที่สุด tapแตะเบา ๆ danceเต้นรำ,
54
116093
2965
และแต่ละคนต้องเต้นแท๊ปให้แย่สุดๆ
02:11
and everybodyทุกคน elseอื่น applaudedปรบมือ
55
119058
1586
และคนอื่นๆ ปรบมือ
02:12
and cheeredกำลังใจ you on,
56
120644
1242
และเชียร์คุณ
02:13
supportingที่สนับสนุน you onstageบนเวที.
57
121886
2763
ให้กำลังใจคุณบนเวที
02:16
When I becameกลายเป็น a professorศาสตราจารย์
58
124649
1908
เมื่อผมเป็นศาสตราจารย์
02:18
and had to guideแนะนำ my ownด้วยตัวเอง studentsนักเรียน
59
126557
1381
และต้องแนะแนวนักเรียนของผม
02:19
throughตลอด theirของพวกเขา researchการวิจัย projectsโครงการ,
60
127938
1973
ผ่านโครงงานวิจัยของพวกเขา
02:21
I realizedตระหนัก again,
61
129911
1367
ผมตระหนักอีกครั้งว่า
02:23
I don't know what to do.
62
131278
1712
ผมไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร
02:24
I'd studiedมีการศึกษา thousandsพัน of hoursชั่วโมง of physicsฟิสิกส์,
63
132990
1994
ผมอาจเรียนฟิสิกส์ ชีววิทยา เคมี
02:26
biologyชีววิทยา, chemistryเคมี,
64
134984
1614
มาหลายพันชั่วโมง
02:28
but not one hourชั่วโมง, not one conceptแนวคิด
65
136598
2372
แต่ไม่มีสักชั่วโมง ไม่มีสักแนวคิดเดียว
ที่จะสอนผมว่า
02:30
on how to mentorที่ปรึกษา, how to guideแนะนำ someoneบางคน
66
138970
2586
จะให้คำปรึกษาอย่างไร แนะแนวใครสักคนอย่างไร
02:33
to go togetherด้วยกัน into the unknownไม่ทราบ,
67
141556
1737
เพื่อให้เดินไปด้วยกันสู่สิ่งที่ไม่รู้
02:35
about motivationแรงจูงใจ.
68
143293
1921
เพื่อสร้างแรงผลักดัน
02:37
So I turnedหัน to improvisationปฏิภาณโวหาร theaterโรงละคร,
69
145214
1930
ผมจึงหันไปพึ่งละครเวทีด้นสด
02:39
and I told my studentsนักเรียน from day one
70
147144
2173
และผมบอกนักเรียนตั้งแต่วันแรกว่า
02:41
what's going to happenเกิดขึ้น when you startเริ่มต้น researchการวิจัย,
71
149317
2901
อะไรกำลังจะเกิดขึ้นเมื่อคุณเริ่มทำงานวิจัย
02:44
and this has to do with our mentalทางใจ schemaสคี
72
152218
1726
เรื่องนี้เกี่ยวกับมโนภาพที่เราคาดหวัง (schema)
02:45
of what researchการวิจัย will be like.
73
153944
2012
ว่างานวิจัยจะเป็นเช่นไร
02:47
Because you see, wheneverเมื่อไรก็ตาม people do anything,
74
155956
2278
เพราะว่า เมื่อคนเราทำอะไรก็ตามแต่
02:50
for exampleตัวอย่าง if I want to touchแตะ this blackboardกระดานดำ,
75
158234
2642
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าผมต้องการจะจับกระดานดำนี้
02:52
my brainสมอง first buildsสร้าง up a schemaสคี,
76
160876
1660
สมองของผมจะคาดมโนภาพขึ้นก่อน
02:54
a predictionคาดการณ์ of exactlyอย่างแน่นอน what my musclesกล้ามเนื้อ will do
77
162536
1859
ทำนายว่ากล้ามเนื้อของผมจะทำอะไร
02:56
before I even startเริ่มต้น movingการเคลื่อนย้าย my handมือ,
78
164395
2156
ก่อนที่ผมจะเริ่มขยับมือเสียอีก
02:58
and if I get blockedอุดตัน,
79
166551
1848
และถ้าผมถูกขัดขวาง
03:00
if my schemaสคี doesn't matchการจับคู่ realityความจริง,
80
168399
1875
ถ้ามโนภาพของผมไม่เข้ากับความเป็นจริง
03:02
that causesสาเหตุ extraพิเศษ stressความตึงเครียด calledเรียกว่า cognitiveองค์ความรู้ dissonanceความไม่สอดคล้องกัน.
81
170274
2284
จะเกิดความเครียดขึ้น เรียกว่า
การรับรู้ไม่ลงรอยกัน (cognitive dissonance)
03:04
That's why your schemasสกีมา had better matchการจับคู่ realityความจริง.
82
172558
2909
จึงเป็นการดีกว่า
ถ้ามโนภาพของคุณ ตรงกับความเป็นจริง
03:07
But if you believe the way scienceวิทยาศาสตร์ is taughtสอน,
83
175467
3155
แต่ถ้าคุณเชื่อในวิทยาศาสตร์แบบที่ถูกสอนกันมา
03:10
and if you believe textbooksตำรา, you're liableรับผิดชอบ
84
178622
1897
และถ้าคุณเชื่อตามตำรา ก็มีแนวโน้ม
03:12
to have the followingดังต่อไปนี้ schemaสคี of researchการวิจัย.
85
180519
6294
ว่าคุณน่าจะมีมโนภาพของงานวิจัย ตามนี้ครับ
03:18
If A is the questionคำถาม,
86
186813
3318
ถ้า เอ เป็นคำถาม
03:22
and B is the answerตอบ,
87
190131
3400
และ บี เป็นคำตอบ
03:25
then researchการวิจัย is a directโดยตรง pathเส้นทาง.
88
193531
4593
ดังนั้นแล้ว งานวิจัยก็เป็นทางตรง
03:30
The problemปัญหา is that if an experimentการทดลอง doesn't work,
89
198127
3115
ปัญหาคือว่า ถ้าการทดลองไม่สำเร็จ
03:33
or a studentนักเรียน getsได้รับ depressedตกต่ำ,
90
201242
3662
หรือนักเรียนเกิดความเครียด
03:36
it's perceivedที่รับรู้ as something utterlyอย่างเต็มที่ wrongไม่ถูกต้อง
91
204904
2086
เรื่องแบบนี้ จะถูกมองว่าผิดปกติอย่างยิ่ง
03:38
and causesสาเหตุ tremendousมหึมา stressความตึงเครียด.
92
206990
3030
และทำให้เกิดความเครียดอย่างมาก
03:42
And that's why I teachสอน my studentsนักเรียน
93
210020
1783
ด้วยเหตุนี้ ผมจึงสอนให้นักเรียนของผม
03:43
a more realisticเหมือนจริง schemaสคี.
94
211803
3862
สร้างมโนภาพที่ยึดความเป็นจริงมากกว่า
03:50
Here'sต่อไปนี้คือ an exampleตัวอย่าง
95
218860
1524
นี่คือตัวอย่าง
03:52
where things don't matchการจับคู่ your schemaสคี.
96
220384
3136
เวลาที่อะไรๆ ไม่เป็นไปตามมโนภาพของคุณครับ
03:58
(Laughterเสียงหัวเราะ)
97
226379
3262
(เสียงหัวเราะ)
04:01
(Applauseการปรบมือ)
98
229641
3199
(เสียงปรบมือ)
04:13
So I teachสอน my studentsนักเรียน a differentต่าง schemaสคี.
99
241564
3446
ผมจึงสอนมโนภาพแบบใหม่ ให้นักเรียนของผม
04:17
If A is the questionคำถาม,
100
245010
2194
ถ้า เอ เป็นคำถาม
04:19
B is the answerตอบ,
101
247204
2181
บี เป็นคำตอบ
04:25
stayพักอยู่ creativeความคิดสร้างสรรค์ in the cloudเมฆ,
102
253320
1535
คิดสร้างสรรค์ฝันฟุ้งในเมฆไปเรื่อยๆ
04:26
and you startเริ่มต้น going,
103
254855
1975
และคุณก็เริ่มลงมือ
04:28
and experimentsการทดลอง don't work, experimentsการทดลอง don't work,
104
256830
2363
และการทดลองมันไม่ได้ผล และก็ไม่ได้ผล
04:31
experimentsการทดลอง don't work, experimentsการทดลอง don't work,
105
259193
2535
และก็ไม่ได้ผล และก็ไม่ได้ผล
04:33
untilจนกระทั่ง you reachมาถึง a placeสถานที่ linkedเชื่อมโยง
with negativeเชิงลบ emotionsอารมณ์
106
261728
2676
จนคุณไปถึงดินแดนที่เชื่อมกับอารมณ์ด้านลบ
04:36
where it seemsดูเหมือนว่า like your basicขั้นพื้นฐาน assumptionsสมมติฐาน
107
264404
2278
ที่ซึ่งกระทั่ง ความเชื่อพื้นฐานของคุณ
04:38
have stoppedหยุด makingการทำ senseความรู้สึก,
108
266682
1116
ยังดูไม่เป็นเหตุเป็นผล
04:39
like somebodyบางคน yankedกระชาก the carpetพรม beneathใต้ your feetฟุต.
109
267798
3055
เหมือนมีใครมากระชากพรมใต้เท้าคุณ
04:42
And I call this placeสถานที่ the cloudเมฆ.
110
270853
3328
และผมเรียกที่นั่นว่า เมฆ
04:59
Now you can be lostสูญหาย in the cloudเมฆ
111
287685
2678
คุณอาจหลงอยู่ในเมฆนี้
05:02
for a day, a weekสัปดาห์, a monthเดือน, a yearปี,
112
290363
2508
สักวัน สัปดาห์ เดือน ปี
05:04
a wholeทั้งหมด careerอาชีพ,
113
292871
1498
หรือชั่วชีวิตทำงานของคุณ
05:06
but sometimesบางครั้ง, if you're luckyโชคดี enoughพอ
114
294369
2162
แต่บางที ถ้าคุณโชคดีพอ
05:08
and you have enoughพอ supportสนับสนุน,
115
296531
1856
และคุณได้แรงสนับสนุนพอ
05:10
you can see in the materialsวัสดุ at handมือ,
116
298387
1990
คุณจะเห็นได้ เมื่อดูสิ่งที่อยู่ในมือ
05:12
or perhapsบางที meditatingการนั่งสมาธิ on the shapeรูปร่าง of the cloudเมฆ,
117
300377
3248
หรือ ตั้งสติศึกษารูปร่างของเมฆ
05:15
a newใหม่ answerตอบ,
118
303625
2002
ถึงคำตอบแบบใหม่
05:19
C, and you decideตัดสิน to go for it.
119
307285
3684
นั่นคือ ซี แล้วตกลงใจลองทางใหม่ดู
05:22
And experimentsการทดลอง don't work, experimentsการทดลอง don't work,
120
310969
2369
และการทดลองก็ไม่ได้ผล การทดลองไม่ได้ผล
05:25
but you get there,
121
313338
1469
แต่คุณก็ถึงในที่สุด
05:26
and then you tell everyoneทุกคน about it
122
314807
1220
จากนั้น คุณก็บอกเรื่องนี้กับทุกคน
05:28
by publishingการประกาศ a paperกระดาษ that readsอ่าน A arrowลูกศร C,
123
316027
3502
โดยตีพิมพ์ผลงานที่บอกว่า เอ ไปยัง ซี
05:31
whichที่ is a great way to communicateสื่อสาร,
124
319529
1959
ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสื่อสาร
05:33
but as long as you don't forgetลืม the pathเส้นทาง
125
321488
2344
ตราบใดที่คุณยังไม่ลืมหนทาง
05:35
that broughtนำ you there.
126
323832
1799
ที่นำคุณไปตรงนั้น
05:37
Now this cloudเมฆ is an inherentโดยธรรมชาติ partส่วนหนึ่ง
127
325631
1975
ทีนี้ เมฆที่ว่านี้มีอยู่ตามปกติวิสัย
05:39
of researchการวิจัย, an inherentโดยธรรมชาติ partส่วนหนึ่ง of our craftงานฝีมือ,
128
327606
2604
ของการวิจัย ตามปกติวิสัยของงานประดิษฐ์
05:42
because the cloudเมฆ standsยืน guardยาม at the boundaryเขตแดน.
129
330210
3210
เพราะว่า เมฆจะลอยขวาง ตรงพรมแดน
05:49
It standsยืน guardยาม at the boundaryเขตแดน
130
337721
2269
มันจะอยู่ตรงพรมแดน
05:51
betweenระหว่าง the knownที่รู้จักกัน
131
339990
2972
ระหว่าง ความรู้
05:57
and the unknownไม่ทราบ,
132
345795
3604
และความไม่รู้
06:05
because in orderใบสั่ง to discoverค้นพบ something trulyอย่างแท้จริง newใหม่,
133
353110
2275
เพราะถ้าอยากค้นพบบางอย่างที่ใหม่จริงๆ นั้น
06:07
at leastน้อยที่สุด one of your basicขั้นพื้นฐาน
assumptionsสมมติฐาน has to changeเปลี่ยนแปลง,
134
355385
3577
อย่างน้อย ความเชื่อพื้นฐานสักอย่างของคุณ
จะต้องเปลี่ยนไป
06:10
and that meansวิธี that in scienceวิทยาศาสตร์,
135
358962
1254
ฉะนั้น การศึกษาวิทยาศาสตร์
06:12
we do something quiteทีเดียว heroicกล้าหาญ.
136
360216
1962
จึงเป็นเรื่องกล้าหาญชาญชัยทีเดียว
06:14
Everyทุกๆ day, we try to bringนำมาซึ่ง ourselvesตัวเรา
137
362178
1821
ทุกๆ วัน เราพยายามเดินทาง
06:15
to the boundaryเขตแดน betweenระหว่าง
the knownที่รู้จักกัน and the unknownไม่ทราบ
138
363999
1812
สู่พรมแดนระหว่างความรู้ และความไม่รู้
06:17
and faceใบหน้า the cloudเมฆ.
139
365811
1821
และเผชิญหน้ากับเมฆ
06:19
Now noticeแจ้งให้ทราบ that I put B
140
367632
1705
ทีนี้ สังเกตว่าผมเขียน บี
06:21
in the landที่ดิน of the knownที่รู้จักกัน,
141
369337
743
ไว้ในดินแดนของความรู้
06:22
because we knewรู้ว่า about it in the beginningการเริ่มต้น,
142
370080
1811
เพราะเรารู้จักมันตั้งแต่แรกแล้ว
06:23
but C is always more interestingน่าสนใจ
143
371891
3649
แต่ ซี นั้น น่าสนใจยิ่งกว่า
06:27
and more importantสำคัญ than B.
144
375540
2723
และสำคัญเสียยิ่งกว่า บี
06:30
So B is essentialสำคัญ in orderใบสั่ง to get going,
145
378263
2193
บี ก็สำคัญสำหรับการดำเนินงานวิจัย
06:32
but C is much more profoundลึกซึ้ง,
146
380456
1818
แต่ ซี เป็นอะไรที่ลึกซึ้งกว่า
06:34
and that's the amazingน่าอัศจรรย์ thing about resesarchresesarch.
147
382274
4497
และนั่นคือสิ่งมหัศจรรย์เกี่ยวกับงานวิจัย
06:38
Now just knowingรู้ดี that wordคำ, the cloudเมฆ,
148
386771
2188
ทีนี้ แค่รู้จักคำนั้น 'เมฆ'
06:40
has been transformationalการเปลี่ยนแปลง in my researchการวิจัย groupกลุ่ม,
149
388959
2555
มันทำให้กลุ่มวิจัยของผมเปลี่ยนไปเลย
06:43
because studentsนักเรียน come to me and say,
150
391514
1870
เพราะนักเรียนเข้ามาหาผม แล้วบอกว่า
06:45
"Uriยูริ, I'm in the cloudเมฆ,"
151
393384
1598
"ยูริ ผมติดอยู่ในเมฆ"
06:46
and I say, "Great, you mustต้อง be feelingความรู้สึก miserableอนาถ."
152
394982
3166
และผมก็บอกว่า
"ยอดเลย รู้สึกเศร้าระทมเลยล่ะสิตอนนี้"
06:50
(Laughterเสียงหัวเราะ)
153
398148
2142
(เสียงหัวเราะ)
06:52
But I'm kindชนิด of happyมีความสุข,
154
400290
1913
แต่ผมมีความสุขนะครับ
06:54
because we mightอาจ be closeปิด to the boundaryเขตแดน
155
402203
1678
เพราะเราอาจใกล้ถึงพรมแดน
06:55
betweenระหว่าง the knownที่รู้จักกัน and the unknownไม่ทราบ,
156
403881
1896
ระหว่างความรู้และความไม่รู้
06:57
and we standยืน a chanceโอกาส of discoveringการค้นพบ
157
405777
1546
และเรายังมีโอกาสในการค้นพบ
06:59
something trulyอย่างแท้จริง newใหม่,
158
407323
1861
อะไรบางอย่างที่ใหม่จริงๆ
07:01
sinceตั้งแต่ the way our mindใจ worksโรงงาน,
159
409184
1342
เพราะวิธีที่สมองของเราทำงานนั้น
07:02
it's just knowingรู้ดี that the cloudเมฆ
160
410526
3148
พอสมองรู้แล้วว่า เมฆนั้น
07:05
is normalปกติ, it's essentialสำคัญ,
161
413674
4426
เป็นเรื่องปกติ เป็นสิ่งจำเป็น
07:10
and in factความจริง beautifulสวย,
162
418100
1205
และอันที่จริงสวยงาม
07:11
we can joinร่วม the Cloudเมฆ Appreciationจักษ์ Societyสังคม,
163
419305
3623
เราก็จะได้เข้าร่วมชมรมคนรักมวลเมฆ
07:14
and it detoxifiesขับสารพิษ the feelingความรู้สึก that something
164
422928
1918
และบำบัดความรู้สึกที่ว่า
07:16
is deeplyลึก wrongไม่ถูกต้อง with me.
165
424846
2562
ฉันมีอะไรที่ผิดปกติมากๆ
07:19
And as a mentorที่ปรึกษา, I know what to do,
166
427408
2450
และในฐานะผู้เป็นอาจารย์ ผมรู้ว่าต้องทำอย่างไร
07:21
whichที่ is to stepขั้นตอน up my supportสนับสนุน for the studentนักเรียน,
167
429858
2202
นั่นคือ เพิ่มกำลังใจให้นักเรียนของผม
07:24
because researchการวิจัย in psychologyจิตวิทยา showsแสดงให้เห็นว่า
168
432060
1481
เพราะการวิจัยทางจิตวิทยาแสดงว่า
07:25
that if you're feelingความรู้สึก fearกลัว and despairสิ้นหวัง,
169
433541
3559
ถ้าคุณรู้สึกกลัว หรือหมดหวัง
07:29
your mindใจ narrowsแคบ down
170
437100
997
จิตใจคุณจะตีกรอบ
07:30
to very safeปลอดภัย and conservativeอนุรักษนิยม waysวิธี of thinkingคิด.
171
438097
2831
กลับไปใช้วิธีคิดแบบปลอดภัย และระมัดระวัง
07:32
If you'dคุณควรที่จะ like to exploreสำรวจ the riskyเสี่ยง pathsเส้นทาง
172
440928
1575
ถ้าคุณอยากสำรวจหนทางที่เสี่ยงกว่า
07:34
neededจำเป็น to get out of the cloudเมฆ,
173
442503
1388
ถ้าจะหนีออกจากเมฆ
07:35
you need other emotionsอารมณ์ --
174
443891
1761
คุณต้องพึ่งอารมณ์แบบอื่นด้วย
07:37
solidarityความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน, supportสนับสนุน, hopeหวัง
175
445652
2201
ความสามัคคี กำลังใจ ความหวัง
07:39
that come with your connectionสัมพันธ์ from somebodyบางคน elseอื่น,
176
447853
1737
ซึ่งได้จากความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ
07:41
so like in improvisationปฏิภาณโวหาร theaterโรงละคร,
177
449590
1550
มันก็เหมือนกับละครเวทีด้นสด
07:43
in scienceวิทยาศาสตร์, it's bestดีที่สุด to walkเดิน into the unknownไม่ทราบ
178
451140
2301
ในวิทยาศาสตร์
มันดีที่สุดที่จะเดินทางสู่ความไม่รู้
07:45
togetherด้วยกัน.
179
453441
1969
ไปด้วยกัน
07:47
So knowingรู้ดี about the cloudเมฆ,
180
455410
2442
การที่รู้ถึงเรื่องเมฆ
07:49
you alsoด้วย learnเรียน from improvisationปฏิภาณโวหาร theaterโรงละคร
181
457852
3324
คุณยังได้เรียนรู้จากละครเวทีด้นสด
07:53
a very effectiveมีประสิทธิภาพ way to have conversationsการสนทนา
182
461176
2602
ถึงวิธีการสนทนาอย่างมีประสิทธิภาพ
07:55
insideภายใน the cloudเมฆ.
183
463778
1760
เมื่ออยู่ในเมฆ
07:57
It's basedซึ่งเป็นรากฐาน on the centralศูนย์กลาง principleหลัก
184
465538
1977
มันตั้งอยู่บนหลักการสำคัญ
07:59
of improvisationปฏิภาณโวหาร theaterโรงละคร,
185
467515
1767
ของละครเวทีด้นสด
08:01
so here improvisationปฏิภาณโวหาร theaterโรงละคร
186
469282
1093
ตรงนี้ ละครเวทีด้นสด
08:02
cameมา to my help again.
187
470375
1296
ได้ช่วยผมไว้อีกครั้ง
08:03
It's calledเรียกว่า sayingคำพูด "Yes, and"
188
471671
2291
เป็นการตอบว่า "ใช่ แล้วก็"
08:05
to the offersข้อเสนอ madeทำ by other actorsนักแสดง.
189
473962
3465
กับสิ่งที่นักแสดงคนอื่นเสนอมาให้
08:16
That meansวิธี acceptingยอมรับ the offersข้อเสนอ
190
484297
2894
ความหมายของมันคือ การรับคำเสนอ
08:19
and buildingอาคาร on them, sayingคำพูด, "Yes, and."
191
487191
2511
และต่อยอดจากนั้น โดยบอกว่า "ใช่ แล้วก็"
08:21
For exampleตัวอย่าง, if one actorนักแสดงชาย saysกล่าวว่า,
192
489702
1239
ตัวอย่างเช่น ถ้านักแสดงคนหนึ่งบอกว่า
08:22
"Here is a poolสระ of waterน้ำ,"
193
490941
1155
"นี่คือสระนำ้"
08:24
and the other actorนักแสดงชาย saysกล่าวว่า,
194
492096
1045
และอีกคนบอกว่า
08:25
"No, that's just a stageเวที,"
195
493141
1869
"ไม่หนิ นี่มันเวที"
08:27
the improvisationปฏิภาณโวหาร is over.
196
495010
1738
การด้นสดก็จบ
08:28
It's deadตาย, and everybodyทุกคน feelsรู้สึก frustratedผิดหวัง.
197
496748
3772
มันตายสนิท และทุกคนก็จะสับสนหงุดหงิด
08:32
That's calledเรียกว่า blockingการปิดกั้น.
198
500520
1348
มันเรียกว่า ติดทางตัน
08:33
If you're not mindfulระวัง of communicationsคมนาคม,
199
501868
1607
ถ้าคุณไม่ใส่ใจเรื่องวิธีสนทนาแล้ว
08:35
scientificวิทยาศาสตร์ conversationsการสนทนา can have a lot of blockingการปิดกั้น.
200
503475
2937
การสนทนาทางวิทยาศาสตร์
ก็จะติดทางตันได้ง่ายมากครับ
08:38
Sayingคำพูด "Yes, and" soundsเสียง like this.
201
506412
2236
การตอบ "ใช่ แล้วก็" เป็นแบบนี้ครับ
08:40
"Here is a poolสระ of waterน้ำ."
"Yeah, let's jumpกระโดด in."
202
508648
2508
"นี่คือบ่อน้ำ"
"ช่าย โดดลงไปกันเหอะ"
08:43
"Look, there's a whaleวาฬ! Let's grabคว้า it by its tailหาง.
203
511156
3009
"ดูสิ มีปลาวาฬด้วย จับหางมันเลย
08:46
It's pullingการดึง us to the moonดวงจันทร์!"
204
514165
2101
มันดึงเราไปดวงจันทร์แล้ว"
08:48
So sayingคำพูด "Yes, and" bypassesทะลุ our innerภายใน criticนักวิจารณ์.
205
516266
3020
การบอกว่า "ใช่ แล้วก็"
จึงข้ามผ่านการวิพากษ์ในใจเรา
08:51
We all have an innerภายใน criticนักวิจารณ์
206
519286
1694
เราทุกคนมีข้อวิพากษ์ในใจ
08:52
that kindชนิด of guardsยาม what we say,
207
520980
1241
ซึ่งคอยจับผิด ว่าเราจะพูดอะไร
08:54
so people don't think that we're obsceneลามก
208
522221
1923
คนอื่นจะได้ไม่คิดว่า เราน่ารังเกียจ
08:56
or crazyบ้า or unoriginalไม่เป็นมูล,
209
524144
1115
หรือบ้า หรือซ้ำซาก
08:57
and scienceวิทยาศาสตร์ is fullเต็ม of the fearกลัว
210
525259
1260
และในวิทยาศาสตร์ ใครๆ ก็กลัว
08:58
of appearingปรากฏ unoriginalไม่เป็นมูล.
211
526519
1557
ว่าตัวเองจะดูซ้ำซาก
09:00
Sayingคำพูด "Yes, and" bypassesทะลุ the criticนักวิจารณ์
212
528076
2167
การบอกว่า "ใช่ แล้วก็"
ก้าวผ่านการวิพากษ์วิจารณ์
09:02
and unlocksปลดล็อค hiddenซ่อนเร้น voicesเสียง of creativityความคิดสร้างสรรค์
213
530243
2612
และปลดปล่อยความสร้างสรรค์แอบแฝง
09:04
you didn't even know that you had,
214
532855
1525
ที่คุณไม่อาจรู้ด้วยซ้ำว่าคุณมี
09:06
and they oftenบ่อยครั้ง carryพกพา the answerตอบ
215
534380
2030
และพวกมันมักให้คำตอบ
09:08
about the cloudเมฆ.
216
536410
2405
เกี่ยวกับเมฆด้วย
09:10
So you see, knowingรู้ดี about the cloudเมฆ
217
538815
2601
ครับ การรู้เกี่ยวกับเมฆ
09:13
and about sayingคำพูด "Yes, and"
218
541416
1404
และการพูดว่า "ใช่ แล้วก็"
09:14
madeทำ my labห้องปฏิบัติการ very creativeความคิดสร้างสรรค์.
219
542820
2859
ทำให้ห้องทดลองของผมมีความคิดสร้างสรรค์มาก
09:17
Studentsนักเรียน startedเริ่มต้น playingเล่น off of eachแต่ละ others'คนอื่น ๆ ideasความคิด,
220
545679
2528
นักเรียนเริ่มเล่นกับความคิดของคนอื่นๆ
09:20
and we madeทำ surprisingน่าแปลกใจ discoveriesการค้นพบ
221
548207
2114
จนค้นพบความรู้ใหม่อันน่าประหลาดใจ
09:22
in the interfaceอินเตอร์เฟซ betweenระหว่าง physicsฟิสิกส์ and biologyชีววิทยา.
222
550321
2869
ในส่วนเชื่อมต่อระหว่างฟิสิกส์กับชีววิทยา
09:25
For exampleตัวอย่าง, we were stuckติดอยู่ for a yearปี
223
553190
2950
ตัวอย่างเช่น เราง่วนอยู่เป็นปี
09:28
tryingพยายาม to understandเข้าใจ the intricateสลับซับซ้อน
224
556140
1149
ในการทำความเข้าใจ
09:29
biochemicalเกี่ยวกับชีวเคมี networksเครือข่าย insideภายใน our cellsเซลล์,
225
557289
2693
เครือข่ายชีวเคมีอันซับซ้อนในเซลล์ของเรา
09:31
and we said, "We are deeplyลึก in the cloudเมฆ,"
226
559982
2457
และพวกเราบอกว่า "เราอยู่ในกลุ่มเมฆทึบ"
09:34
and we had a playfulขี้เล่น conversationการสนทนา
227
562439
1980
แล้วก็คุยกันสนุกๆ ไปเรื่อย
09:36
where my studentนักเรียน ShaiShai ShenShen Orrอ้อ said,
228
564419
1788
จนนักเรียนของผม
ไช เชน ออร์ (Shai Shen Orr) พูดขึ้นว่า
09:38
"Let's just drawวาด this on a
pieceชิ้น of paperกระดาษ, this networkเครือข่าย,"
229
566207
2843
"มาวาดเครือข่ายที่ว่าบนกระดาษกันเหอะ"
09:41
and insteadแทน of sayingคำพูด,
230
569050
1453
และแทนที่จะบอกว่า
09:42
"But we'veเราได้ doneเสร็จแล้ว that so manyจำนวนมาก timesครั้ง
231
570503
2151
"แต่เราทำอย่างนั้นมาตั้งหลายครั้งแล้ว
09:44
and it doesn't work,"
232
572654
1034
และมันก็ไม่เห็นจะได้อะไรเลย"
09:45
I said, "Yes, and
233
573688
2943
ผมกลับบอกว่า "เอาสิ แล้วก็
09:48
let's use a very bigใหญ่ pieceชิ้น of paperกระดาษ,"
234
576631
2041
ใช้กระดาษใหญ่ๆ นะ"
09:50
and then Ronรอน Miloไมโล said,
235
578672
1092
จากนั้น รอน ไมโล (Ron Milo) ก็บอกว่า
09:51
"Let's use a giganticมโหฬาร architect'sสถาปนิก
236
579764
2220
"เอากระดาษใหญ่ๆ
09:53
blueprintพิมพ์เขียว kindชนิด of paperกระดาษ, and I know where to printพิมพ์ it,"
237
581984
1796
แบบที่นักออกแบบใช้ทำพิมพ์เขียวดีกว่า
ผมรู้ว่าจะเอาไปพิมพ์ได้ที่ไหน"
09:55
and we printedถูกพิมพ์ out the networkเครือข่าย and lookedมอง at it,
238
583780
2500
และพวกเราก็พิมพ์เครือข่าย และมองดูมัน
09:58
and that's where we madeทำ
our mostมากที่สุด importantสำคัญ discoveryการค้นพบ,
239
586280
2509
ตอนนั้นเอง ที่เราค้นพบความรู้ข้อสำคัญที่สุด
10:00
that this complicatedซับซ้อน networkเครือข่าย is just madeทำ
240
588789
2201
ซึ่งก็คือ เครือข่ายอันซับซ้อนนี้มันก็แค่
10:02
of a handfulกำมือ of simpleง่าย, repeatingการทำซ้ำ interactionปฏิสัมพันธ์ patternsรูปแบบ
241
590990
3463
เครือข่ายรูปแบบง่ายๆ จำนวนมากซ้ำๆ กัน
10:06
like motifsลวดลาย in a stainedเลอะ glassกระจก windowหน้าต่าง.
242
594453
3163
เหมือนกับแม่ลายของกระจกสี (motif)
10:09
We call them networkเครือข่าย motifsลวดลาย,
243
597616
2048
พวกเราเรียกมันว่า เครือข่ายแม่ลาย (network motifs)
10:11
and they're the elementaryเบื้องต้น circuitsวงจร
244
599664
2152
และพวกมันเป็นวงจรพื้นฐาน
10:13
that help us understandเข้าใจ
245
601816
1385
ที่ช่วยให้เราเข้าใจ
10:15
the logicตรรกะ of the way cellsเซลล์ make decisionsการตัดสินใจ
246
603201
2700
ตรรกะของการตัดสินใจของเซลล์
10:17
in all organismsสิ่งมีชีวิต, includingรวมไปถึง our bodyร่างกาย.
247
605901
2849
ในทุกสิ่งมีชีวิต รวมถึงร่างกายของคุณ
10:20
Soonในไม่ช้า enoughพอ, after this,
248
608750
1925
ไม่นาน หลังจากนั้น
10:22
I startedเริ่มต้น beingกำลัง invitedได้รับเชิญ to give talksการเจรจา
249
610675
1620
ผมเริ่มได้รับเชิญไปบรรยาย
10:24
to thousandsพัน of scientistsนักวิทยาศาสตร์ acrossข้าม the worldโลก,
250
612295
3011
ให้กับนักวิทยาศาสตร์หลายพันทั่วโลก
10:27
but the knowledgeความรู้ about the cloudเมฆ
251
615306
1833
แต่ความรู้เกี่ยวกับเมฆ
10:29
and sayingคำพูด "Yes, and"
252
617139
1132
และการพูดว่า "ใช่ แล้วก็"
10:30
just stayedอยู่ withinภายใน my ownด้วยตัวเอง labห้องปฏิบัติการ,
253
618271
1839
ยังคงอยู่แต่ในห้องทดลองของผม
10:32
because you see, in scienceวิทยาศาสตร์,
we don't talk about the processกระบวนการ,
254
620110
2131
เพราะว่า ในวิทยาศาสตร์
เราไม่พูดกันถึงกระบวนการ
10:34
anything subjectiveอัตนัย or emotionalอารมณ์.
255
622241
2433
สิ่งที่เกี่ยวกับความรู้สึก หรืออารมณ์
10:36
We talk about the resultsผล.
256
624674
1863
เราพูดถึงผลลัพธ์
10:38
So there was no way to talk about it in conferencesการประชุม.
257
626537
2069
จึงไม่มีทางจะได้พูดถึงมันในงานสัมมนา
10:40
That was unthinkableคิดไม่ถึง.
258
628606
1924
นึกภาพไม่ออกเลยครับ
10:42
And I saw scientistsนักวิทยาศาสตร์ in other groupsกลุ่ม get stuckติดอยู่
259
630530
2076
และผมเห็นนักวิทยาศาสตร์กลุ่มอื่นๆ
ติดอยู่ที่ทางตัน
10:44
withoutไม่มี even havingมี a wordคำ to describeอธิบาย
260
632606
1774
หาคำมาบรรยายไม่ได้ด้วยซ้ำ
10:46
what they're seeingเห็น,
261
634380
1321
ถึงสิ่งที่พวกเขาเผชิญ
10:47
and theirของพวกเขา waysวิธี of thinkingคิด
262
635701
1355
และวิธีการที่พวกเขาคิด
10:49
narrowedคอด down to very safeปลอดภัย pathsเส้นทาง,
263
637056
1528
ก็บีบแคบลงมาที่ทางปลอดภัย
10:50
theirของพวกเขา scienceวิทยาศาสตร์ didn't reachมาถึง its fullเต็ม potentialที่อาจเกิดขึ้น,
264
638584
1660
วิทยาศาสตร์ของพวกเขาไม่อาจไปถึงศักยภาพสูงสุด
10:52
and they were miserableอนาถ.
265
640244
1753
จนพวกเขาดูซึมกันมากๆ
10:53
I thought, that's the way it is.
266
641997
1939
ผมคิดว่า มันก็ธรรมดาอย่างนี้แหละ
10:55
I'll try to make my labห้องปฏิบัติการ as creativeความคิดสร้างสรรค์ as possibleเป็นไปได้,
267
643936
2021
ผมจะพยายามทำให้ห้องทดลองของผม
มีความสร้างสรรค์มากเท่าที่จะทำได้
10:57
and if everybodyทุกคน elseอื่น does the sameเหมือนกัน,
268
645957
1680
และถ้าคนอื่นๆ ทำอย่างนี้เช่นกัน
10:59
scienceวิทยาศาสตร์ will eventuallyในที่สุด becomeกลายเป็น
269
647637
2190
ถึงวันหนึ่ง วิทยาศาสตร์
11:01
more and more better and better.
270
649827
2214
ก็จะดีขึ้นกว่าเดิมในที่สุด
11:04
That way of thinkingคิด got turnedหัน on its headหัว
271
652041
2920
แต่ความคิดนั้น เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
11:06
when by chanceโอกาส I wentไป to hearได้ยิน EvelynEvelyn Foxจิ้งจอก Kellerเคลเลอร์
272
654961
2339
เมื่อผมได้ฟัง เอวลิน ฟ๊อกส์ เคลเลอร์
(Evelyn Fox Keller) โดยบังเอิญ
11:09
give a talk about her experiencesประสบการณ์
273
657300
1358
ตอนเธอพูดถึงประสบการณ์ของเธอ
11:10
as a womanหญิง in scienceวิทยาศาสตร์.
274
658658
1691
ในฐานะผู้หญิงในวงการวิทยาศาสตร์
11:12
And she askedถาม,
275
660349
1823
และเธอถามคำถามว่า
11:14
"Why is it that we don't talk about the subjectiveอัตนัย
276
662172
1948
"ทำไมเราไม่พูดถึงการทำงานทางวิทยาศาตร์
11:16
and emotionalอารมณ์ aspectsด้าน of doing scienceวิทยาศาสตร์?
277
664120
2186
ในแง่มุมเชิงความรู้สึก และอารมณ์กันบ้าง?"
11:18
It's not by chanceโอกาส. It's a matterเรื่อง of valuesค่า."
278
666306
3992
ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเลย นี่เป็นเรื่องของค่านิยม"
11:22
You see, scienceวิทยาศาสตร์ seeksพยายาม knowledgeความรู้
279
670298
2178
คืออย่างนี้ครับ วิทยาศาสตร์ค้นหาความรู้
11:24
that's objectiveวัตถุประสงค์ and rationalมีเหตุผล.
280
672476
1795
ซึ่งมีรากฐานจากหลักเหตุผล และข้อเท็จจริง
11:26
That's the beautifulสวย thing about scienceวิทยาศาสตร์.
281
674271
2198
นั่นคือความงดงามของวิทยาศาสตร์
11:28
But we alsoด้วย have a culturalด้านวัฒนธรรม mythตำนาน
282
676469
1956
แต่เรายังมีมายาคติอีกด้วยว่า
11:30
that the doing of scienceวิทยาศาสตร์,
283
678425
1254
การทำงานทางวิทยาศาสตร์
11:31
what we do everyทุกๆ day to get that knowledgeความรู้,
284
679679
2300
สิ่งที่เราทำกันทุกวัน เพื่อเสาะหาความรู้
11:33
is alsoด้วย only objectiveวัตถุประสงค์ and rationalมีเหตุผล,
285
681979
2440
ก็ใช้แค่หลักเหตุผล และข้อเท็จจริงเช่นกัน
11:36
like Mrนาย. Spockสป็อค.
286
684419
2432
เหมือน มิสเตอร์ สป๊อค (Mr. Spock)
11:38
And when you labelฉลาก something
287
686851
1414
พอคุณตีตราอะไรก็ตาม
11:40
as objectiveวัตถุประสงค์ and rationalมีเหตุผล,
288
688265
1813
ว่ามีแค่ข้อเท็จจริง และหลักเหตุผล
11:42
automaticallyอัตโนมัติ, the other sideด้าน,
289
690078
1642
โดยอัตโนมัติ ขั้วตรงข้าม
11:43
the subjectiveอัตนัย and emotionalอารมณ์,
290
691720
1457
คือความรู้สึก และอารมณ์
11:45
becomeกลายเป็น labeledป้ายกำกับ as non-scienceไม่ใช่วิทยาศาสตร์
291
693177
2102
ย่อมถูกตีตราว่า 'ไม่เป็นวิทยาศาสตร์'
11:47
or anti-scienceต่อต้านวิทยาศาสตร์ or threateningคุกคาม to scienceวิทยาศาสตร์,
292
695279
1971
หรือต่อต้านวิทยาศาสตร์
หรือเป็นภัยต่อวิทยาศาสตร์
11:49
and we just don't talk about it.
293
697250
1811
เราก็เลยไม่พูดถึงมันกัน
11:51
And when I heardได้ยิน that,
294
699061
1954
และเมื่อผมได้ยินอย่างนั้น
11:53
that scienceวิทยาศาสตร์ has a cultureวัฒนธรรม,
295
701015
2167
ว่าวิทยาศาสตร์มีวัฒนธรรม
11:55
everything clickedคลิก into placeสถานที่ for me,
296
703182
1547
ทุกอย่างเข้าล๊อคสำหรับผม
11:56
because if scienceวิทยาศาสตร์ has a cultureวัฒนธรรม,
297
704729
1664
เพราะว่า ถ้าวิทยาศาสตร์มีวัฒนธรรมแล้ว
11:58
cultureวัฒนธรรม can be changedการเปลี่ยนแปลง,
298
706393
1256
วัฒนธรรมก็สามารถเปลี่ยนได้
11:59
and I can be a changeเปลี่ยนแปลง agentตัวแทน
299
707649
1593
โดยมีผมเป็นตัวกระตุ้น
12:01
workingการทำงาน to changeเปลี่ยนแปลง the cultureวัฒนธรรม
of scienceวิทยาศาสตร์ whereverที่ไหนก็ตาม I could.
300
709242
2712
ให้วัฒนธรรมของวิทยาศาสตร์เปลี่ยนไป
ในที่ๆ ผมทำได้
12:03
And so the very nextต่อไป lectureคำบรรยาย I gaveให้ in a conferenceการประชุม,
301
711954
3069
พอถึงการบรรยายถัดไปที่งานสัมมนา
12:07
I talkedพูดคุย about my scienceวิทยาศาสตร์,
302
715023
1612
ผมจึงพูดเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ของผม
12:08
and then I talkedพูดคุย about the importanceความสำคัญ
303
716635
1512
และเมื่อผมพูดถึงความสำคัญ
12:10
of the subjectiveอัตนัย and emotionalอารมณ์
aspectsด้าน of doing scienceวิทยาศาสตร์
304
718147
2182
ของแง่มุมด้านอารมณ์ และความรู้สึกของวิทยาศาสตร์
12:12
and how we should talk about them,
305
720329
1120
และวิธีการที่เราควรพูดถึงมัน
12:13
and I lookedมอง at the audienceผู้ชม,
306
721449
1234
และผมก็มองไปยังผู้ชม
12:14
and they were coldหนาว.
307
722683
2360
พวกเขาดูด้านชา
12:17
They couldn'tไม่สามารถ hearได้ยิน what I was sayingคำพูด
308
725043
3291
พวกเขาไม่ได้ยินว่าผมกำลังพูดอะไร
12:20
in the contextบริบท of a 10 back-to-backอย่างต่อเนื่อง, ติดๆกัน
309
728334
1251
ในบริบทของ การบรรยายผ่านเพาเวอร์พอยท์
12:21
PowerPointPowerPoint presentationการเสนอ conferenceการประชุม.
310
729585
1839
10 สไลด์ต่อกัน
12:23
And I triedพยายาม again and again,
conferenceการประชุม after conferenceการประชุม,
311
731424
2482
และผมลองอีกครั้ง และอีกครั้ง
สัมมนาครั้งแล้วครั้งเล่า
12:25
but I wasn'tก็ไม่ได้ gettingได้รับ throughตลอด.
312
733906
2373
แต่ผมก็ยังคงติดชะงัก
12:28
I was in the cloudเมฆ.
313
736279
2906
ผมติดอยู่ในเมฆ
12:31
And eventuallyในที่สุด I managedการบริหารจัดการ to get out the cloudเมฆ
314
739185
3514
แต่ในที่สุด ผมก็หลุดออกมาจากเมฆได้
12:34
usingการใช้ improvisationปฏิภาณโวหาร and musicเพลง.
315
742699
2811
โดยใช้การด้นสดและดนตรี
12:37
Sinceตั้งแต่ then, everyทุกๆ conferenceการประชุม I go to,
316
745510
2739
ตั้งแต่นั้น ทุกงานสัมมนาที่ผมไป
12:40
I give a scienceวิทยาศาสตร์ talk and a secondที่สอง, specialพิเศษ talk
317
748249
2862
ผมจะบรรยายทางวิทยาศาสตร์
และแถมด้วยการบรรยายพิเศษ
12:43
calledเรียกว่า "Love and fearกลัว in the labห้องปฏิบัติการ,"
318
751111
1993
ชื่อว่า "ความรักและความกลัวในห้องทดลอง"
12:45
and I startเริ่มต้น it off by doing a songเพลง
319
753104
2217
ผมจะเริ่มต้นด้วยเพลง
12:47
about scientists'นักวิทยาศาสตร์ greatestใหญ่ที่สุด fearกลัว,
320
755321
2572
เกี่ยวกับสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์กลัวที่สุด
12:49
whichที่ is that we work hardยาก,
321
757893
2912
ซึ่งคือ การที่เราทำงานอย่างหนัก
12:52
we discoverค้นพบ something newใหม่,
322
760805
2342
เราค้นพบสิ่งใหม่บางอย่าง
12:55
and somebodyบางคน elseอื่น publishesเผยแพร่ it before we do.
323
763147
3357
แต่ดันมีคนอื่น ชิงตีพิมพ์มันไปก่อนเราเสีย
12:58
We call it beingกำลัง scoopedอุ้ม,
324
766504
2616
เราเรียกมันว่า โดนงาบไปรับประทาน
13:01
and beingกำลัง scoopedอุ้ม feelsรู้สึก horribleน่ากลัว.
325
769120
3214
และการโดนงาบไปรับประทานนั้น รู้สึกแย่มากๆ
13:04
It makesยี่ห้อ us afraidเกรงกลัว to talk to eachแต่ละ other,
326
772334
2213
ทำให้เราไม่กล้าคุยกัน
13:06
whichที่ is no funสนุก,
327
774547
833
ซึ่งไม่สนุกเลย
13:07
because we cameมา to scienceวิทยาศาสตร์ to shareหุ้น our ideasความคิด
328
775380
2760
เพราะเราเข้าวงการวิทยาศาสตร์มา
เพื่อแบ่งปันความคิด
13:10
and to learnเรียน from eachแต่ละ other,
329
778140
1311
และเรียนรู้จากกันและกัน
13:11
and so I do a bluesเพลงบลูส songเพลง,
330
779451
3489
และผมก็เลยเล่นเพลงบลู
13:17
whichที่ — (Applauseการปรบมือ) —
331
785040
5504
ซึ่งมันก็ - (เสียงปรบมือ) -
13:22
calledเรียกว่า "Scoopedอุ้ม Again,"
332
790544
3223
เรียกว่า "โดนงาบไปอีกแล้ว"
13:25
and I askถาม the audienceผู้ชม to be my backupการสำรองข้อมูล singersนักร้อง,
333
793767
2658
และผมก็ขอผู้ชมเป็นนักร้องลูกคู่ให้ผม
13:28
and I tell them, "Your textข้อความ is 'Scoop'ตัก, Scoopตัก.'"
334
796425
3980
และผมพวกบอกพวกเขาว่า
"เนื้อร้องคือ 'งาบ งาบ'"
13:32
It soundsเสียง like this: "Scoopตัก, scoopตัก!"
335
800405
2645
ทำนองประมาณนี้ครับ
"งาบ งาบ"
13:35
Soundsเสียง like this.
336
803050
963
มันออกมาแบบนี้ครับ
13:36
♪ I've been scoopedอุ้ม again ♪
337
804013
2219
♪ โดนงาบไปอีกแล้ว ♪
13:38
Scoopตัก! Scoopตัก! ♪
338
806232
1743
♪ งาบ งาบ ♪
13:39
And then we go for it.
339
807975
1278
และเมื่อผมร้อง
13:41
♪ I've been scoopedอุ้ม again ♪
340
809253
2045
♪ โดนงาบไปอีกแล้ว ♪
13:43
Scoopตัก! Scoopตัก! ♪
341
811298
1286
♪ งาบ งาบ ♪
13:44
♪ I've been scoopedอุ้ม again ♪
342
812584
1895
♪ โดนงาบไปอีกแล้ว ♪
13:46
Scoopตัก! Scoopตัก! ♪
343
814479
1306
♪ งาบ งาบ ♪
13:47
♪ I've been scoopedอุ้ม again ♪
344
815785
1783
♪ โดนงาบไปอีกแล้ว ♪
13:49
Scoopตัก! Scoopตัก! ♪
345
817568
1639
♪ งาบ งาบ ♪
13:51
♪ I've been scoopedอุ้ม again ♪
346
819207
1668
♪ โดนงาบไปอีกแล้ว ♪
13:52
Scoopตัก! Scoopตัก! ♪
347
820875
1762
♪ งาบ งาบ ♪
13:54
♪ Oh mamaแม่, can't you feel my painความเจ็บปวด
348
822637
3275
♪ โอ้แม่จ๋า รู้ไหมว่ามันเจ็บ ♪
13:57
Heavensสวรรค์ help me, I've been scoopedอุ้ม again ♪
349
825912
3786
♪ สวรรค์ช่วยลูกด้วย โดนงาบอีกแล้ว ♪
14:02
(Applauseการปรบมือ)
350
830925
6391
(เสียงปรบมือ)
14:09
Thank you.
351
837735
1230
ขอบคุณครับ
14:10
Thank you for your backupการสำรองข้อมูล singingการร้องเพลง.
352
838965
1499
ขอบคุณที่ช่วยเป็นนักร้องลูกคู่นะครับ
14:12
So everybodyทุกคน startsเริ่มต้น laughingที่หัวเราะ, startsเริ่มต้น breathingการหายใจ,
353
840464
2084
ทุกคนก็เริ่มหัวเราะ และหายใจ
14:14
noticesประกาศ that there's other scientistsนักวิทยาศาสตร์ around them
354
842548
2012
รู้สึกตัวกันว่า ยังมีนักวิทยาศาสตร์คนอื่นรอบๆ ตัว
14:16
with sharedที่ใช้ร่วมกัน issuesปัญหา,
355
844560
1307
ที่เจอเรื่องอย่างเดียวกันมา
14:17
and we startเริ่มต้น talkingการพูด about the emotionalอารมณ์
356
845867
1805
และเราก็เริ่มพูดถึงเรื่องอารมณ์
14:19
and subjectiveอัตนัย things that go on in researchการวิจัย.
357
847672
1850
และความรู้สึก ที่เกิดขึ้นในงานวิจัย
14:21
It feelsรู้สึก like a hugeใหญ่ tabooข้อห้าม has been liftedยก.
358
849522
2184
มันรู้สึกเหมือนกับเรื่องแน่นอกถูกยกออก
14:23
Finallyในที่สุด, we can talk about
this in a scientificวิทยาศาสตร์ conferenceการประชุม.
359
851706
2799
แล้วเราก็พูดถึงเรื่องนี้
ในงานสัมมนาวิทยาศาสตร์ได้เสียที
14:26
And scientistsนักวิทยาศาสตร์ have goneที่ไปแล้ว on to formฟอร์ม peerมองดู groupsกลุ่ม
360
854505
2186
และนักวิทยาศาสตร์ก็ดำเนินการต่อ
เพื่อก่อตั้งกลุ่มเพื่อนวิจัย
14:28
where they meetพบกัน regularlyสม่ำเสมอ
361
856691
1610
ที่พวกเขามาพบปะกันเป็นประจำ
14:30
and createสร้าง a spaceช่องว่าง to talk about the emotionalอารมณ์
362
858301
1629
และได้มีพื้นที่มาพูดคุยกันเรื่องอารมณ์
14:31
and subjectiveอัตนัย things that
happenเกิดขึ้น as they're mentoringการให้คำปรึกษา,
363
859930
2301
และความรู้สึกที่เกิดขึ้น ตอนที่พวกเขาได้สอน
14:34
as they're going into the unknownไม่ทราบ,
364
862231
1363
ตอนที่พวกเขาเดินทางสู่ความไม่รู้
14:35
and even startedเริ่มต้น coursesหลักสูตร
365
863594
1570
และแม้กระทั่งเปิดหลักสูตร
14:37
about the processกระบวนการ of doing scienceวิทยาศาสตร์,
366
865164
1675
เกี่ยวกับกระบวนการในการทำงานทางวิทยาศาสตร์
14:38
about going into the unknownไม่ทราบ togetherด้วยกัน,
367
866839
1895
เกี่ยวกับการเดินทางสู่ความไม่รู้ไปด้วยกัน
14:40
and manyจำนวนมาก other things.
368
868734
1416
และสิ่งอื่นๆ อีกมากมาย
14:42
So my visionวิสัยทัศน์ is that,
369
870150
1334
วิสัยทัศน์ของผมก็คือ
14:43
just like everyทุกๆ scientistนักวิทยาศาสตร์ knowsรู้ the wordคำ "atomอะตอม,"
370
871484
3462
ก็เหมือนที่นักวิทยาศาสตร์ทุกคนรู้จักคำว่า
"อะตอม"
14:46
that matterเรื่อง is madeทำ out of atomsอะตอม,
371
874946
1967
รู้ว่าสสารประกอบด้วยอะตอม
14:48
everyทุกๆ scientistนักวิทยาศาสตร์ would know the wordsคำ
372
876913
1484
นักวิทยาศาสตร์ทุกคนจะรู้จักคำศัพท์อย่าง
14:50
like "the cloudเมฆ," sayingคำพูด "Yes, and,"
373
878397
2344
"เมฆ"
การพูดว่า "ใช่ แล้วก็"
14:52
and scienceวิทยาศาสตร์ will becomeกลายเป็น much more creativeความคิดสร้างสรรค์,
374
880741
3079
และวิทยาศาสตร์จะสร้างสรรค์ขึ้นกว่านี้มาก
14:55
make manyจำนวนมาก, manyจำนวนมาก more unexpectedไม่คาดฝัน discoveriesการค้นพบ
375
883820
3004
จะมีการค้นพบที่ไม่คาดฝันอีกมากมาย
14:58
for the benefitประโยชน์ of us all,
376
886824
2536
เพื่อประโยชน์สำหรับเราทุกคน
15:01
and would alsoด้วย be much more playfulขี้เล่น.
377
889360
2216
และมันจะมีความสนุกขึ้นอีกมากด้วย
15:03
And what I mightอาจ askถาม you to rememberจำ from this talk
378
891576
2590
และที่ผมจะขอจากพวกคุณให้จำไปจากการบรรยายนี้
15:06
is that nextต่อไป time you faceใบหน้า
379
894166
2696
ก็คือ ครั้งหน้าที่คุณได้เผชิญ
15:08
a problemปัญหา you can't solveแก้
380
896862
1726
กับปัญหาที่คุณไม่สามารถแก้ได้
15:10
in work or in life,
381
898588
2592
ในการงาน หรือในชีวิต
15:13
there's a wordคำ for what you're going to see:
382
901180
1876
คุณใช้คำนี้ เรียกสิ่งที่คุณจะเจอได้:
15:15
the cloudเมฆ.
383
903056
1177
เมฆ
15:16
And you can go throughตลอด the cloudเมฆ
384
904233
1533
และคุณสามารถผ่านเข้าไปในเมฆ
15:17
not aloneคนเดียว but togetherด้วยกัน
385
905766
1408
ไม่ใช่ตัวคนเดียว แต่ไปด้วยกัน
15:19
with someoneบางคน who is your sourceแหล่ง of supportสนับสนุน
386
907174
2038
กับใครสักคนที่คอยสนับสนุน
15:21
to say "Yes, and" to your ideasความคิด,
387
909212
2048
และพูดว่า "ใช่ แล้วก็" ต่อความคิดของคุณ
15:23
to help you say "Yes, and" to your ownด้วยตัวเอง ideasความคิด,
388
911260
2317
และช่วยคุณพูดว่า "ใช่ แล้วก็"
ต่อความคิดของคุณเอง
15:25
to increaseเพิ่ม the chanceโอกาส that,
389
913577
1887
เพื่อที่จะเพิ่มโอกาส
15:27
throughตลอด the wispsปอย of the cloudเมฆ,
390
915464
1726
เมื่อผ่านก้อนปุยเมฆแล้ว
15:29
you'llคุณจะ find that momentขณะ of calmnessความสงบ
391
917190
1498
คุณจะพบกับวินาทีแห่งความสงบ
15:30
where you get your first glimpseเหลือบ
392
918688
1803
ที่ซึ่งคุณได้เห็นแสงแวบแรก
15:32
of your unexpectedไม่คาดฝัน discoveryการค้นพบ,
393
920491
3250
จากการค้นพบเหนือความคาดฝัน
15:35
your C.
394
923741
2724
ซี ของคุณ
15:38
Thank you.
395
926465
2320
ขอบคุณครับ
15:40
(Applauseการปรบมือ)
396
928785
4000
(เสียงปรบมือ)

▲Back to top

ABOUT THE SPEAKER
Uri Alon - Systems biologist
Uri Alon studies how cells work, using an array of tools (including improv theater) to understand the biological circuits that perform the functions of life.

Why you should listen
First trained as a physicist, Uri Alon found a passion for biological systems. At the Weizmann Institute of Science in Israel, he and his lab investigate the protein circuits within a cell (they focus on E. coli), looking for basic interaction patterns that recur throughout biological networks. It's a field full of cross-disciplinary thinking habits and interesting problems. And in fact, Alon is the author of a classic paper on lab behavior called "How to Choose a Good Scientific Problem," which takes a step back from the rush to get grants and publish papers to ask: How can a good lab foster growth and self-motivated research?
 
In Alon's lab, students use tools from physics, neurobiology and computer science -- and concepts from improv theatre -- to study basic principles of interactions. Using a theater practice called the "mirror game," they showed that two people can create complex novel motion together without a designated leader or follower. He also works on an addicting site called BioNumbers -- all the measurements you need to know about biology. The characteristic heart rate of a pond mussel? Why it's 4-6 beats per minute.
More profile about the speaker
Uri Alon | Speaker | TED.com