TEDxToronto 2010
Neil Pasricha: The 3 A's of awesome
นีล พาส์ริชา: 3 เคล็ดลับของความเจ๋ง
Filmed:
Readability: 3
3,207,333 views
เว็บไซต์ที่เขียนเรื่องราวบันทึกส่วนตัวของ นีล พาส์ริชา ที่มีชื่อว่า 1000 Awesome Things ได้ช่วยให้ชีวิตที่ราบเรียบของใครหลายๆคน มีรสชาติมากขึ้น ตั้งแต่การเติมน้ำได้ฟรี เรื่อยไปจนถึงฝ้าปูที่นอนสะอาดๆ จากการบรรยายอย่างจริงใจใน TEDxToronto เขาได้เผยให้เห็นถึงความลับสามประการสำหรับการดำเนินชีวิตได้อย่างยอดเยี่ยมและมีความสุข
Neil Pasricha - Director, The Institute for Global Happiness
Neil Pasricha is the New York Times bestselling author of The Happiness Equation and serves as the Director of the Institute for Global Happiness after a decade running leadership development inside Walmart. He is one the world's leading authorities on happiness and positivity. Full bio
Neil Pasricha is the New York Times bestselling author of The Happiness Equation and serves as the Director of the Institute for Global Happiness after a decade running leadership development inside Walmart. He is one the world's leading authorities on happiness and positivity. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:15
So the Awesome story:
0
0
2000
เรื่องที่ว่าด้วยความยอดเยี่ยมนั้น
00:17
It begins about 40 years ago,
1
2000
2000
ได้เริ่มขึ้นเมื่อสี่สิบปีก่อนหน้านี้
00:19
when my mom and my dad came to Canada.
2
4000
3000
เมื่อครั้งที่พ่อแม่ของผมย้ายมาอยู่ที่แคนาดา
00:22
My mom left Nairobi, Kenya.
3
7000
2000
แม่ของผมลาจากบ้านเกิด เมือง ในโรบิ ประเทศเคนย่า
00:24
My dad left a small village outside of Amritsar, India.
4
9000
3000
พ่อของผมย้ายมาจากหมูบ้านเล็กๆนอกเมือง อัมริทสาร์ ประเทศอินเดีย
00:27
And they got here in the late 1960s.
5
12000
3000
และพวกเขามาถึงที่นี่ในช่วงท้ายของยุค 1960
00:30
They settled in a shady suburb about an hour east of Toronto,
6
15000
3000
พวกเขาลงหลักปักฐาน ณ ชานเมืองที่ห่างจากโตรอนโต ทางทิศตะวันออกไปประมาณ1ชั่วโมง
00:33
and they settled into a new life.
7
18000
2000
และก็ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่
00:35
They saw their first dentist,
8
20000
2000
พวกเขาได้พบทันตแพทย์เป็นครั้งแรก
00:37
they ate their first hamburger,
9
22000
2000
ได้ทานแฮมเบอร์เกอร์เป็นครั้งแรก
00:39
and they had their first kids.
10
24000
2000
และมีลูกๆเป็นครั้งแรก
00:41
My sister and I
11
26000
2000
พี่สาว และผม
00:43
grew up here,
12
28000
2000
เติบโตที่นั่น
00:45
and we had quiet, happy childhoods.
13
30000
3000
เราก็มีชีวิตในวัยเด็กที่สงบ และมีความสุข
00:48
We had close family,
14
33000
2000
เรามีครอบครัวที่ใกล้ชิดกัน
00:50
good friends, a quiet street.
15
35000
2000
เพื่อนที่ดี และซอยถนนที่สงบเงียบ
00:52
We grew up taking for granted
16
37000
2000
เราเติบโตขึ้นโดยที่ไม่ได้คิดเลยว่า
00:54
a lot of the things that my parents couldn't take for granted
17
39000
2000
มีหลายสิ่งหลายอย่างที่พ่อแม่ไม่เคยแม้แต่จะคิดว่า จะมีสิ่งเหล่านี้
00:56
when they grew up --
18
41000
2000
เมื่อครั้งที่พวกท่านเติบโตขึ้นมา
00:58
things like power always on
19
43000
2000
สิ่งเช่นว่า การไฟฟ้าที่มีให้ใช้ได้ตลอดเวลา
01:00
in our houses,
20
45000
2000
ในบ้านของเราทุกคน
01:02
things like schools across the street
21
47000
2000
หรือโรงเรียนในระเเวกบ้าน
01:04
and hospitals down the road
22
49000
2000
โรงพยาบาลที่อยู่สุดถนน
01:06
and popsicles in the backyard.
23
51000
2000
ไอติมหวานเย็นในสวนหลังบ้าน
01:08
We grew up, and we grew older.
24
53000
2000
เราเติบโตขึ้น และมีอายุเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
01:10
I went to high school.
25
55000
2000
ผมไปโรงเรียนมัธยม
01:12
I graduated.
26
57000
2000
แล้วผมก็เรียนจบ
01:14
I moved out of the house, I got a job,
27
59000
2000
ย้ายออกจากบ้าน, ได้งานทำ
01:16
I found a girl, I settled down --
28
61000
3000
ผมได้พบหญิงสาว, ตั้งหลักแหล่ง
01:19
and I realize it sounds like a bad sitcom or a Cat Stevens' song --
29
64000
3000
และผมก็รู้สึกว่านี่มันทำท่าจะกลายเป็นซิตคอมแย่ๆเรื่องนึง หรือไม่ก็เพลงของ แคท สตีเฟ่น
01:22
(Laughter)
30
67000
2000
(เสียงหัวเราะ)
01:24
but life was pretty good.
31
69000
2000
อย่างไรก็ตาม ชีวิตดำเนินมาได้ด้วยดี
01:26
Life was pretty good.
32
71000
2000
ชีวิตดำเนินมาได้ด้วยดี
01:28
2006 was a great year.
33
73000
3000
ปี 2006 เป็นปีที่ดีมาก
01:31
Under clear blue skies in July in the wine region of Ontario,
34
76000
3000
ภายใต้ท้องฟ้าสีครามในเดือนกรกฏาคม ณ เขตแห่งไวน์ของออนทาริโอ
01:34
I got married,
35
79000
2000
ผมแต่งงาน
01:36
surrounded by 150 family and friends.
36
81000
3000
มีแขกร่วมงานที่เป็นทั้งครอบครัว ญาติและเพื่อนๆกว่า 150 คน
01:40
2007 was a great year.
37
85000
3000
ปี 2007 เป็นปีที่ดีมาก
01:43
I graduated from school,
38
88000
2000
ผมสำเร็จการศึกษา
01:45
and I went on a road trip with two of my closest friends.
39
90000
3000
และออกท่องเที่ยวไปกับเพื่อนที่สนิทที่สุดของผมอีกสองคน
01:48
Here's a picture of me and my friend, Chris,
40
93000
3000
นี่ครับ คือภาพของงผมและเพื่อนที่ชื่อคริส
01:51
on the coast of the Pacific Ocean.
41
96000
2000
บนชายฝั่งของทะเลแปซิฟิก
01:53
We actually saw seals out of our car window,
42
98000
2000
พวกเรามองเห็นแมวน้ำจากทางหน้าต่างรถของเรา
01:55
and we pulled over to take a quick picture of them
43
100000
2000
และก็เลยตัดสินใจออกไปถ่ายรูปกับมันสักหน่อย
01:57
and then blocked them with our giant heads.
44
102000
3000
แล้วก็บังเจ้าแมวน้ำด้วยหัวใหญ่ๆของเราทั้งคู่
02:00
(Laughter)
45
105000
2000
(เสียงหัวเราะ)
02:02
So you can't actually see them,
46
107000
2000
ดังนั้น คุณก็เลยไม่สามารถเห็นพวกมันได้
02:04
but it was breathtaking,
47
109000
2000
แต่มันเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมากเลยทีเดียว
02:06
believe me.
48
111000
2000
เชื่อผมเถอะครับ
02:08
(Laughter)
49
113000
2000
(เสียงหัวเราะ)
02:10
2008 and 2009 were a little tougher.
50
115000
3000
ปี 2008 และ 2009 นั้นมันยากขึ้นนิดหน่อย
02:13
I know that they were tougher for a lot of people,
51
118000
2000
ผมรู้ว่าสำหรับหลายๆคนแล้ว มันยากกว่านั้นมาก
02:15
not just me.
52
120000
2000
ไม่ใช่แค่กับผมเพียงคนเดียว
02:17
First of all, the news was so heavy.
53
122000
2000
อย่างแรกที่สุดคือ ข่าวส่วนมากทำให้น่าหนักใจ
02:19
It's still heavy now, and it was heavy before that,
54
124000
3000
มันยังคงเป็นเช่นนั้นอยู่จนกระทั่งปัจจุบัน และก่อนหน้านั้น
02:22
but when you flipped open a newspaper, when you turned on the TV,
55
127000
3000
เมื่อคุณเปิดหน้าหนังสือพิมพ์ หรือเปิดโทรทัศน์
02:25
it was about ice caps melting,
56
130000
2000
มันมีเรื่องราวเกี่ยวกับน้ำแข็งขั้วโลกละลาย
02:27
wars going on around the world,
57
132000
2000
สงครามที่เกิดขึ้นในที่ต่างๆ
02:29
earthquakes, hurricanes
58
134000
3000
แผ่นดินไหว, พายุเฮอร์ริเคน
02:32
and an economy that was wobbling on the brink of collapse,
59
137000
3000
สถานการณ์เศรษฐกิจที่โคลงเคลง และดูท่าจะแย่
02:35
and then eventually did collapse,
60
140000
3000
แล้วมันก็ล่มจริงๆ
02:38
and so many of us losing our homes,
61
143000
2000
ผลที่ตามมาก็ทำให้หลายๆคนเสียบ้าน
02:40
or our jobs,
62
145000
2000
หรือ ถูกปลดออกจากงาน
02:42
or our retirements,
63
147000
2000
และ การปลดเกษียร
02:44
or our livelihoods.
64
149000
2000
หรือ เส้นทางการดำรงชีพของเรา
02:46
2008, 2009 were heavy years for me for another reason, too.
65
151000
3000
ปี 2008 และ 2009 ยังเป็นปีที่แย่มากสำหรับผมเพราะอีกเหตุผลหนึ่งด้วย
02:49
I was going through a lot of personal problems at the time.
66
154000
3000
ในตอนนั้นผมต้องผ่านมรสุมแห่งชีวิต
02:53
My marriage wasn't going well,
67
158000
3000
ชีวิตแต่งงานของผมไม่ราบรื่นนัก
02:56
and we just were growing further and further apart.
68
161000
4000
พวกเรามีระยะห่างต่อกันมากขึ้นเรื่อยๆ
03:00
One day my wife came home from work
69
165000
2000
วันหนึ่ง ภรรยาของผมกลับมาถึงบ้าน
03:02
and summoned the courage, through a lot of tears,
70
167000
3000
เธอรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มี พร้อมน้ำตา
03:05
to have a very honest conversation.
71
170000
3000
เพื่อที่จะคุยกับผมอย่างตรงไปตรงมา
03:08
And she said, "I don't love you anymore,"
72
173000
3000
และเธอพูดว่า "ฉันไม่ได้รักคุณแล้ว"
03:11
and it was one of the most painful things I'd ever heard
73
176000
4000
นั่นเป็นสิ่งที่ฟังแล้วทำให้ผมเจ็บปวดที่สุดตั้งแต่เคยได้ยินมา
03:15
and certainly the most heartbreaking thing I'd ever heard,
74
180000
3000
และแน่นอนที่สุดมันทำให้ผมใจสลาย
03:18
until only a month later,
75
183000
2000
เพียงแค่หนึ่งเดือนหลังจากนั้น
03:20
when I heard something even more heartbreaking.
76
185000
3000
ผมได้ยินเรื่องที่ทำให้ผมต้องใจสลายมากขึ้นไปอีก
03:23
My friend Chris, who I just showed you a picture of,
77
188000
2000
คริส เพื่อนของผมซึ่งอยู่ในรูปที่ผมพึ่งให้คุณดูไปเมื่อครู่นี้
03:25
had been battling mental illness for some time.
78
190000
2000
ได้ต่อสู้กับโรคทางด้านสุขภาพจิตมาระยะหนึ่งแล้ว
03:27
And for those of you
79
192000
2000
และสำหรับคุณที่เคย
03:29
whose lives have been touched by mental illness,
80
194000
2000
เคยได้ผ่านประสบการณ์ด้านนี้มาบ้าง
03:31
you know how challenging it can be.
81
196000
3000
คุณจะรู้ได้เลยว่ามันเป็นสิ่งที่ท้าทายขนาดไหน
03:34
I spoke to him on the phone at 10:30 p.m.
82
199000
2000
ผมคุยโทรศัพท์กับคริสตอนสี่ทุ่มครึ่ง
03:36
on a Sunday night.
83
201000
2000
ในคืนวันอาทิตย์
03:38
We talked about the TV show we watched that evening.
84
203000
3000
เราคุยกันเรื่องรายการโทรทัศน์ที่เราดูกันตอนค่ำวันนั้น
03:41
And Monday morning, I found out that he disappeared.
85
206000
3000
วันจันทร์ตอนเช้า ผมพบว่าคริสหายไป
03:44
Very sadly, he took his own life.
86
209000
3000
มันน่าเศร้ามากที่คริสตัดสินใจปลิดชีพตัวเอง
03:48
And it was a really heavy time.
87
213000
3000
และมันเป็นช่วงเวลาที่ยากมากๆสำหรับผม
03:51
And as these dark clouds were circling me,
88
216000
2000
ราวกับว่ามีแต่เมฆดำลอยวน และปกคลุมอยู่รอบตัวผม
03:53
and I was finding it really, really difficult
89
218000
3000
ผมพบว่ามันเป็นสิ่งที่ยากอย่างมาก ยากมากๆ
03:56
to think of anything good,
90
221000
2000
ที่จะคิดถึงสิ่งดีๆ
03:58
I said to myself that I really needed a way
91
223000
3000
ผมบอกกับตัวเองว่า ผมต้องหาทาง
04:01
to focus on the positive somehow.
92
226000
3000
ที่จะให้ความสนใจกับสิ่งที่เป็นบวก ด้วยวิธิใดวิธีหนึ่ง
04:04
So I came home from work one night,
93
229000
2000
คืนวันหนึ่ง ผมกลับมาถึงบ้าน
04:06
and I logged onto the computer,
94
231000
2000
ผมเปิดคอมพิวเตอร์
04:08
and I started up a tiny website
95
233000
2000
และได้เริ่มสร้างเว็ปไซต์เล็กๆ
04:10
called 1000awesomethings.com.
96
235000
3000
ที่เรียกว่า 1000awesomethings.com
04:14
I was trying to remind myself
97
239000
2000
ผมพยายามที่จะเตือนตัวเองถึง
04:16
of the simple, universal, little pleasures that we all love,
98
241000
2000
สิ่งง่ายๆ ทั่วๆไป ความพอใจเล็กๆน้อยๆกับทุกสิ่งที่เรารัก
04:18
but we just don't talk about enough --
99
243000
2000
แต่ไม่ได้พูดถึงเท่าไหรนัก
04:20
things like waiters and waitresses
100
245000
2000
อย่างเช่นเวลาที่พนักงานในร้านอาหาร
04:22
who bring you free refills without asking,
101
247000
2000
มาเติมน้ำให้คุณโดยที่คุณยังไม่ได้ขอ
04:24
being the first table to get called up
102
249000
2000
เป็นโต๊ะแรกที่ถูกเรียก
04:26
to the dinner buffet at a wedding,
103
251000
2000
ให้ไปร่วมสังสรรค์ในงานแต่งงาน
04:28
wearing warm underwear from just out of the dryer,
104
253000
2000
ใส่กางเกงในอุ่นๆ ที่พึ่งจะเอาออกมาจากเครื่องอบผ้า
04:30
or when cashiers open up a new check-out lane at the grocery store
105
255000
2000
หรือตอนที่คุณกำลังต่อแถวจ่ายเงินที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตแล้วมีช่องจ่ายเงินเปิดเพิ่มขึ้น
04:32
and you get to be first in line --
106
257000
2000
แล้วคุณได้เข้าไปจ่ายเงินเป็นคนแรก
04:34
even if you were last at the other line, swoop right in there.
107
259000
3000
ถึงแม้ว่าจริงๆแล้วคุณเป็นคนสุดท้ายในอีกช่องนะฮะ โฉบเข้าไปเลยครับ
04:37
(Laughter)
108
262000
3000
(เสียงหัวเราะ)
04:40
And slowly over time,
109
265000
2000
เมื่อเวลาผ่านไป
04:42
I started putting myself in a better mood.
110
267000
3000
ผมเริ่มที่จะเห็นตัวเองอารมณ์ดีขึ้น
04:45
I mean, 50,000 blogs
111
270000
3000
ผมหมายถึง มันมี 50,000 บล๊อค
04:48
are started a day,
112
273000
3000
เกิดใหม่ขึ้นทุกวัน
04:51
and so my blog was just one of those 50,000.
113
276000
3000
ดั้งนั้นบล๊อกของผมก็เป็นเพียงหนึ่งให้ห้าหมื่นบล๊อกเท่านั้นเอง
04:54
And nobody read it except for my mom.
114
279000
3000
ไม่มีใครอ่านหรอกฮะ นอกจากแม่ของผม
04:57
Although I should say that my traffic did skyrocket
115
282000
2000
ถึงแม้มันพอจะที่จะพูดได้ว่า สถิติการเข้าชมในหน้าของผมพุ่งกระฉูด
04:59
and go up by 100 percent
116
284000
2000
จนไปถึงหนึ่งร้อยเปอร์เซนต์
05:01
when she forwarded it to my dad.
117
286000
2000
ในตอนที่แม่ได้ส่งต่อหน้าบล๊อกนั้นให้พ่อของผมอ่าน
05:03
(Laughter)
118
288000
2000
(เสียงหัวเราะ)
05:05
And then I got excited
119
290000
2000
ผมตื่นเต้น
05:07
when it started getting tens of hits,
120
292000
2000
พอเห็นว่ามีคนเข้ามาอ่านมากขึ้นเรื่อยๆ
05:09
and then I started getting excited when it started getting dozens
121
294000
3000
และยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก เมื่อมันไปถึงหลายสิบครั้ง
05:12
and then hundreds and then thousands
122
297000
3000
แล้วเพิ่มขึ้นไปเป็นร้อย เป็นพันครั้งการเข้าชม
05:15
and then millions.
123
300000
2000
แล้วก็เป็นล้านๆครั้ง
05:17
It started getting bigger and bigger and bigger.
124
302000
2000
มันได้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ และขยายเป็นวงกว้างออกไป
05:19
And then I got a phone call,
125
304000
2000
ต่อจากนั้น ผมก็ได้รับโทรศัพท์
05:21
and the voice at the other end of the line said,
126
306000
2000
เสียงจากอีกฝั่งของสายพูดว่า
05:23
"You've just won the Best Blog In the World award."
127
308000
4000
"คุณพึ่งได้รับรางวัลบล๊อกที่ดีที่สุดในโลก"
05:27
I was like, that sounds totally fake.
128
312000
2000
ผมรู้สึกว่า นั่นมันฟังดูไม่มีความน่าเชื่อถือเอาเสียเลย
05:29
(Laughter)
129
314000
3000
(เสียงหัวเราะ)
05:32
(Applause)
130
317000
5000
(ปรบมือ)
05:37
Which African country do you want me to wire all my money to?
131
322000
3000
คุณจะให้ผมโอนเงินไปที่ประเทศไหนในแอฟริกาเหรอครับ?
05:40
(Laughter)
132
325000
3000
(เสียงหัวเราะ)
05:43
But it turns out, I jumped on a plane,
133
328000
2000
แต่กลับกลายเป็นว่า ผมกระโดดขึ้นเครื่องบินไป
05:45
and I ended up walking a red carpet
134
330000
2000
และไปเดินอยู่บนพรมแดง
05:47
between Sarah Silverman and Jimmy Fallon and Martha Stewart.
135
332000
3000
ระหว่าง ซาร่าห์ ซิลเว่อร์เเมน, จิมมี่ ฟัลลอน และ มาร์ธ่า สจ๊วต
05:50
And I went onstage to accept a Webby award for Best Blog.
136
335000
3000
แล้วผมก็ได้ขึ้นไปรับรางวัล เว็บบี้ สำหรับ บล๊อกดีเด่น
05:53
And the surprise
137
338000
2000
และความน่าประหลาดใจ
05:55
and just the amazement of that
138
340000
2000
และความมหัศจรรย์ของเหตุการณ์นั้น
05:57
was only overshadowed by my return to Toronto,
139
342000
3000
ถูกบดบังรัศมีไปเมื่อตอนที่ผลกลับมาถึงโตรอนโต
06:00
when, in my inbox,
140
345000
2000
เมื่อในกล่องข้อความขาเข้าของผม
06:02
10 literary agents were waiting for me
141
347000
2000
มีสิบเอเจนซี่กำลังรอผมอยู่
06:04
to talk about putting this into a book.
142
349000
3000
ที่จะคุยกับผมถึงการที่จะตีพิมพ์บล๊อกของผมเป็นหนังสือ
06:07
Flash-forward to the next year
143
352000
2000
ในปีต่อมา
06:09
and "The Book of Awesome" has now been
144
354000
2000
"หนังสือ แห่งความยอดเยี่ยม" ก็ได้เป็น
06:11
number one on the bestseller list for 20 straight weeks.
145
356000
2000
หนังสือที่ขายดีที่สุดเป็นอันดับหนึ่งติดต่อกันนานถึง ยี่สิบอาทิตย์
06:13
(Applause)
146
358000
8000
(ปรบมือ)
06:21
But look, I said I wanted to do three things with you today.
147
366000
2000
แต่เดี๋ยวก่อน ผมบอกว่าวันนี้ผมอยากจะนำเสนอสามสิ่งกับคุณ
06:23
I said I wanted to tell you the Awesome story,
148
368000
2000
ผมอยากจะเล่าเรื่องที่ยอดเยี่ยมให้คุณฟัง
06:25
I wanted to share with you the three As of Awesome,
149
370000
2000
ผมอยากที่จะแบ่งปันสามสิ่งของความยอดเยี่ยม
06:27
and I wanted to leave you with a closing thought.
150
372000
2000
และ ผมอยากที่จะทิ้งท้ายด้วยความคิดที่คุณสามารถนำไปคิดต่อได้
06:29
So let's talk about those three As.
151
374000
2000
ถ้าอย่างนั้น เรามาพูดถึงเจ้าสามสิ่งแห่งความยอดเยี่ยมนี้เลยนะครับ
06:31
Over the last few years,
152
376000
2000
ในหลายปีที่ผ่านมา
06:33
I haven't had that much time to really think.
153
378000
2000
ผมไม่ค่อยมีเวลาที่จะมานั่งไตร่ตรองเท่าไรนัก
06:35
But lately I have had the opportunity to take a step back
154
380000
3000
แต่ช่วงหลังมานี้ผมมีโอกาสสำหรับการถอยหลังกลับมาสักก้าว
06:38
and ask myself: "What is it over the last few years
155
383000
3000
แล้วถามตัวเองว่า อะไรกันในหลายปีที่ผ่านมา
06:41
that helped me grow my website,
156
386000
2000
ที่ได้ช่วยทำให้ผมตั้งใจสร้างเว็บไซต์นั้น
06:43
but also grow myself?"
157
388000
2000
และยังช่วยให้ "ผม" เติบโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นอีกด้วย
06:45
And I've summarized those things, for me personally,
158
390000
2000
ผมได้สรุปเรื่องราวต่างๆ เป็นการส่วนตัว
06:47
as three As.
159
392000
2000
ออกมาเป็น "สามสิ่ง" ดังต่อไปนี้
06:49
They are Attitude, Awareness
160
394000
3000
ทัศนะคติ, ความตระหนัก
06:52
and Authenticity.
161
397000
2000
และ ความเป็นของแท้ ลักษณะที่เป็นจริง
06:54
I'd love to just talk about each one briefly.
162
399000
3000
ผมขอที่จะพูดถึงแต่ละหัวข้ออย่างคร่าวๆนะครับ
06:58
So Attitude:
163
403000
2000
เริ่มกันที่สิ่งแรก ทัศนะคติ
07:00
Look, we're all going to get lumps,
164
405000
2000
ดูสิครับ พวกเราทุกคนต้องเจออะไรบางอย่างที่ทำให้เราต้องอดทน อดกลั้น
07:02
and we're all going to get bumps.
165
407000
2000
และเราก็จะต้องเจอกับเส้นทางที่มีอุปสรรค์ อาจทำให้ต้องล้มลง
07:04
None of us can predict the future, but we do know one thing about it
166
409000
3000
ไม่มีใครสามารถบอกอนาคตได้ แต่เราทุกคนรู้อยู่หนึ่งอย่างเกี่ยวกับมัน
07:07
and that's that it ain't gonna go according to plan.
167
412000
3000
นั่นก็คือ มันจะไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้
07:10
We will all have high highs
168
415000
2000
เราจะพบกับความสำเร็จ
07:12
and big days and proud moments
169
417000
2000
วันที่มีความสำคัญ และช่วงเวลาที่น่าภูมิใจ
07:14
of smiles on graduation stages,
170
419000
2000
รอยยิ้มบนเวทีที่ขึ้นไปรับปริญญาบัตร
07:16
father-daughter dances at weddings
171
421000
2000
พ่อลูกเต้นรำด้วยกันในงานแต่งงาน
07:18
and healthy babies screeching in the delivery room,
172
423000
3000
และลูกตัวน้อยที่แข็งแรง
07:21
but between those high highs,
173
426000
2000
แต่ระหว่างช่วงเวลาแห่งความสำเร็จและ ความสุขนั้น
07:23
we may also have some lumps and some bumps too.
174
428000
3000
เราอาจจะต้องพบกับความอัดอั้น หรือสิ่งอื่นๆที่เข้ามาปะทะด้วยเช่นกัน
07:26
It's sad, and it's not pleasant to talk about,
175
431000
3000
มันน่าเศร้า และมันไม่ค่อยสนุกนักที่จะพูดถึง
07:29
but your husband might leave you,
176
434000
3000
แต่สามีอาจทิ้งคุณ
07:32
your girlfriend could cheat,
177
437000
2000
แฟนสาวอาจนอกใจคุณ
07:34
your headaches might be more serious than you thought,
178
439000
3000
สิ่งที่ทำให้คุณปวดหัวอาจจะหนักหนาสาหัสกว่าที่คุณเคยคิดไว้
07:37
or your dog could get hit by a car on the street.
179
442000
4000
สุนัขของคุณอาจถูกรถชน
07:41
It's not a happy thought,
180
446000
2000
มันไม่ใช่ความคิดที่จะทำให้มีความสุข
07:43
but your kids could get mixed up in gangs
181
448000
3000
แต่ลูกๆของคุณอาจจะเข้าไปร่วมอยู่ในแก๊งบางอย่าง
07:46
or bad scenes.
182
451000
2000
หรือสถานการณ์แย่ๆ
07:48
Your mom could get cancer,
183
453000
2000
แม่ของคุณอาจเป็นมะเร็ง
07:50
your dad could get mean.
184
455000
2000
พ่อของคุณอาจจะใจร้ายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
07:52
And there are times in life
185
457000
2000
และมันก็ยังมีบางช่วงเวลาในชีวิต
07:54
when you will be tossed in the well, too,
186
459000
2000
ที่จะโยนคุณลงไปอยู่ที่ก้นเหว
07:56
with twists in your stomach and with holes in your heart,
187
461000
2000
พร้อมกับอาการมวลในท้อง และบาดแผลในใจคุณ
07:58
and when that bad news washes over you,
188
463000
2000
ในเวลาที่ข่าวร้ายเหล่านั้นประดังเข้ามาหาคุณ
08:00
and when that pain sponges and soaks in,
189
465000
3000
และเมื่อความเจ็บปวดทิ่มแทงคุณ
08:03
I just really hope you feel
190
468000
2000
ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า คุณจะรู้สึก
08:05
like you've always got two choices.
191
470000
2000
ว่าคุณมีสองทางเลือกเสมอ
08:07
One, you can swirl and twirl
192
472000
2000
ทางเลือกเเรก คุณหมุนไปอย่างเคว้งคว้าง
08:09
and gloom and doom forever,
193
474000
2000
และกลายเป็นคนหดหู่ไปตลอดกาล
08:11
or two, you can grieve
194
476000
2000
หรือ ทางเลือกที่สอง คุณเศร้า คุณเป็นทุกข์
08:13
and then face the future
195
478000
2000
แล้วจากนั้น เลือกที่จะมองไปข้างหน้า
08:15
with newly sober eyes.
196
480000
2000
ด้วยสายตาที่สร่างจากความเศร้าหมอง
08:17
Having a great attitude is about choosing option number two,
197
482000
3000
พร้อมกับทัศนะคติที่เยี่ยมยอด นั่นคือการเลือกทางเลือกที่สอง
08:20
and choosing, no matter how difficult it is,
198
485000
2000
การเลือกนี้ ไม่ว่ามันจะยากแค่ไหนก็ตาม
08:22
no matter what pain hits you,
199
487000
2000
ไม่ว่าด้วยความเจ็บปวดอะไรที่ประดังเข้าใส่คุณ
08:24
choosing to move forward and move on
200
489000
2000
เลือกที่จะก้าวต่อไป
08:26
and take baby steps into the future.
201
491000
2000
จากการก้าวเล็กๆไปสู่อนาคตนะครับ
08:31
The second "A" is Awareness.
202
496000
3000
สิ่งที่สองคือ การตระหนักรู้
08:35
I love hanging out with three year-olds.
203
500000
3000
ผมชอบมากเลยที่จะไปอยู่กับพวกเด็กๆสามขวบนะครับ
08:38
I love the way that they see the world,
204
503000
2000
ผมชอบวิธีที่เด็กๆเหล่านั้นมองเห็นโลกรอบๆตัวพวกเขา
08:40
because they're seeing the world for the first time.
205
505000
2000
นั่นเพราะว่า พวกเขาเห็นอะไรต่อมิอะไรเป็นครั้งแรกในชีวิต
08:42
I love the way that they can stare at a bug crossing the sidewalk.
206
507000
3000
ผมชอบเวลาที่พวกเขาสามารถจ้องมองแมลงที่เดินอยู่บนทางเท้าข้างๆ
08:45
I love the way that they'll stare slack-jawed
207
510000
2000
ผมชอบเวลาที่พวกเขาทึ่งจนอ้าปากค้าง
08:47
at their first baseball game
208
512000
2000
เมื่อตอนที่ดูเบสบอลเป็นครั้งแรก
08:49
with wide eyes and a mitt on their hand,
209
514000
2000
พร้อมกับสาตาที่เบิกกว้าง และนวมใส่มือที่พวกเข้าใส่เอาไว้
08:51
soaking in the crack of the bat and the crunch of the peanuts
210
516000
2000
สนุกสนานไปกับเกม และเสียงหวดลูกเบสบอล เสียงของถั่วกรอบๆ
08:53
and the smell of the hotdogs.
211
518000
2000
และกลิ่นหอมๆของฮ๊อตดอก
08:55
I love the way that they'll spend hours picking dandelions in the backyard
212
520000
3000
ผมชอบเวลาที่พวกเขาใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆ ไปกับการเก็บดอกแดนดีไลอ้อนที่สวนหลังบ้าน
08:58
and putting them into a nice centerpiece
213
523000
2000
แล้วเอามันจัดเรียงกันสวยๆ
09:00
for Thanksgiving dinner.
214
525000
2000
สำหรับวันขอบคุณพระเจ้า
09:02
I love the way that they see the world,
215
527000
2000
ผมชอบวิธีที่พวกเขามองโลกใบนี้
09:04
because they're seeing the world
216
529000
2000
เพราะพวกเขากำลังเห็นโลก
09:06
for the first time.
217
531000
2000
เป็นครั้งแรก
09:09
Having a sense of awareness
218
534000
2000
การมีความตระหนักรู้
09:11
is just about embracing your inner three year-old.
219
536000
3000
ก็คือการนำเด็กสามขวบในตัวคุณออกมาเป็นส่วนหนึ่งของคุณในปัจจุบัน
09:14
Because you all used to be three years old.
220
539000
2000
พวกเราทุกคนเคยเป็นเด็กสามขวบมาก่อนนะครับ
09:16
That three-year-old boy is still part of you.
221
541000
2000
หนุ่มน้อยสามขวบคนนั้น ก็ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของคุณ
09:18
That three-year-old girl is still part of you.
222
543000
2000
สาวน้อยสามขวบคนนั้น ก็ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของคุณ
09:20
They're in there.
223
545000
2000
พวกเขายังอยู่ตรงนั้นครับ
09:22
And being aware is just about remembering
224
547000
3000
และการตระหนักรู้ ก็เป็นแค่เพียงการที่ได้นึกถึง
09:25
that you saw everything you've seen
225
550000
2000
ว่าคุณเคยเห็นสิ่งเหล่านั้นมาแล้ว
09:27
for the first time once, too.
226
552000
2000
เป็นครั้งแรกเช่นกัน
09:29
So there was a time when it was your first time ever
227
554000
3000
ดังนั้นมันมีครั้งแรก ที่มันเป็นครั้งแรกของคุณจริงๆ
09:32
hitting a string of green lights on the way home from work.
228
557000
2000
ที่คุณขับรถเจอไฟเขียวผ่านตลอดจนถึงบ้าน จากที่ทำงานของคุณ
09:34
There was the first time you walked by the open door of a bakery
229
559000
3000
มันมีครั้งแรกที่คุณเดินผ่านประตูเข้าร้านขายขนมปัง
09:37
and smelt the bakery air,
230
562000
2000
แล้วได้กลิ่นหอมฟุ้งของขนมปังที่อบมาใหม่ๆ
09:39
or the first time you pulled a 20-dollar bill out of your old jacket pocket
231
564000
3000
หรือ ครั้งแรกที่คุณดึงแบงค์ใบละยี่สิบออกมาจากเสื้อคลุมตัวเก่า
09:42
and said, "Found money."
232
567000
3000
แล้วอุทานออกมาว่า "เจอตัง" ด้วย
09:46
The last "A" is Authenticity.
233
571000
3000
สิ่งสุดท้ายนั้นก็คือ ความแท้จริง
09:49
And for this one, I want to tell you a quick story.
234
574000
3000
และสำหรับสิ่งนี้ ผมอยากจะเล่าเรื่องสั้นๆให้คุณฟังเรื่องนึงนะครับ
09:53
Let's go all the way back to 1932
235
578000
2000
เรามาย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ. 1932
09:55
when, on a peanut farm in Georgia,
236
580000
3000
ในครั้งนั้น ณ ไร่ถั่วลิสง ที่ประเทศจอร์เจีย
09:58
a little baby boy named Roosevelt Grier was born.
237
583000
3000
เด็กชายตัวน้อยที่ชื่อ รูสเวลท์ เกลีย ได้ลืมตาขึ้นมาดูโลก
10:02
Roosevelt Grier, or Rosey Grier, as people used to call him,
238
587000
3000
รูสเวลท์ เกลีย หรือ รอเซ่ย์ เกลีย ที่คนเคยเรียกเขา
10:05
grew up and grew into
239
590000
2000
เติบโตขึ้น และ โตขึ้นมาเป็น
10:07
a 300-pound, six-foot-five linebacker in the NFL.
240
592000
4000
ผู้เล่น เอ็นเอฟแอล ที่สูงหกฟุต และหนักสามร้อยปอนด์
10:11
He's number 76 in the picture.
241
596000
3000
เค้าคือ หมายเลข 76 ในรูปนะครับ
10:14
Here he is pictured with the "fearsome foursome."
242
599000
3000
และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งรูป
10:17
These were four guys on the L.A. Rams in the 1960s
243
602000
2000
พวกเขาทั้งสี่คนอยู่ในแอลเอ แรมส์ ในช่วงปี 1960
10:19
you did not want to go up against.
244
604000
2000
คุณไม่อยากมีเรื่องกับพวกเขาหรอกนะฮะ
10:21
They were tough football players doing what they love,
245
606000
3000
พวกเขาเป็นนักอเมริกันฟุตบอล ที่ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก
10:24
which was crushing skulls
246
609000
2000
ซึ่งก็คือ การบดขยี้กะโหลก
10:26
and separating shoulders on the football field.
247
611000
2000
และทำหัวไหล่หลุดบนสนามแข่ง
10:28
But Rosey Grier also had
248
613000
2000
แต่ รูสเวลท์ เกลีย ก็ยังมี
10:30
another passion.
249
615000
2000
ความหลงไหลอีกอย่าง
10:32
In his deeply authentic self,
250
617000
3000
ในตัวเขา ที่เป็นตัวเองอย่างแท้จริงนั้น
10:35
he also loved needlepoint. (Laughter)
251
620000
3000
เขาชอบปลายเข็มครับ
10:39
He loved knitting.
252
624000
2000
เขาชอบการเย็บปักถักร้อย
10:41
He said that it calmed him down, it relaxed him,
253
626000
2000
เขาบอกว่ามันทำให้เขาใจเย็น และผ่อนคลาย
10:43
it took away his fear of flying and helped him meet chicks.
254
628000
3000
มันช่วยทำให้เขาหายกลัวการขึ้นเครื่องบิน และยังช่วยให้เขาพบสาวๆอีกต่างหาก
10:46
That's what he said.
255
631000
2000
นั่นคือสิ่งที่เขาบอกมานะครับ
10:49
I mean, he loved it so much that, after he retired from the NFL,
256
634000
2000
ผมหมายถึง เขาชอบมันมาก มากจนถึงขนาดที่ว่า เมื่อเขาไม่ได้เล่นให้กับเอ็นเอฟแอลเเล้วนั้น
10:51
he started joining clubs.
257
636000
2000
เขาเริ่มเข้าร่วมในชมรม
10:53
And he even put out a book
258
638000
2000
และถึงกับเขียนหนังสือออกมา
10:55
called "Rosey Grier's Needlepoint for Men."
259
640000
2000
ที่มีชื่อว่า "รูสเวลท์ เกลีย การเย็บปักถักร้อย สำหรับผู้ชาย"
10:57
(Laughter)
260
642000
2000
(เสียงหัวเราะ)
10:59
(Applause)
261
644000
3000
(ปรบมือ)
11:02
It's a great cover.
262
647000
2000
ปกสวยมากเลยนะฮะ
11:04
If you notice, he's actually needlepointing his own face.
263
649000
3000
ถ้าคุณสังเกตเห็น เค้าปักเป็นรูปหน้าตัวเองออกมาเลยล่ะครับ
11:07
(Laughter)
264
652000
2000
(เสียงหัวเราะ)
11:09
And so what I love about this story
265
654000
3000
สิ่งที่ทำให้ผมชอบเรื่องราวนี้ก็คือ
11:12
is that Rosey Grier
266
657000
2000
รูสเวลท์ เกลีย
11:14
is just such an authentic person,
267
659000
2000
เป็นคนที่ เป็นตัวของตัวเองอย่างสัตย์จริง
11:16
and that's what authenticity is all about.
268
661000
2000
และนั่นคือความหมายของ สิ่งที่สาม "ความแท้จริง" ที่ผมพูดถึง
11:18
It's just about being you and being cool with that.
269
663000
3000
มันคือการที่คุณเป็นตัวของคุณเอง และรู้สึกดีไปกับมัน
11:21
And I think when you're authentic,
270
666000
2000
และผมคิดว่า เวลาที่คุณเป็นตัวของตัวเอง
11:23
you end up following your heart,
271
668000
2000
คุณจะทำให้สิ่งที่ตัวเองรักอย่างแท้จริง
11:25
and you put yourself in places
272
670000
2000
และเลือกที่จะไปอยู่ในที่
11:27
and situations and in conversations
273
672000
2000
ในเหตการณ์ ในวงสนทนา
11:29
that you love and that you enjoy.
274
674000
2000
ที่คุณรัก และมีความสุขไปกับมัน
11:31
You meet people that you like talking to.
275
676000
2000
คุณเจอผู้คนที่คุณชอบที่จะคุยด้วย
11:33
You go places you've dreamt about.
276
678000
2000
คุณไปในที่ๆฝันเอาไว้ว่าจะต้องไป
11:35
And you end you end up following your heart
277
680000
2000
และคุณได้ทำตามสิ่งที่ใจของคุณเรียกร้อง
11:37
and feeling very fulfilled.
278
682000
3000
แล้วรู้สึกอิ่มเอมอย่างแท้จริง
11:40
So those are the three A's.
279
685000
3000
ทั้งหมดนั่นก็คือสามสิ่งที่ผมพูดถึงครับ
11:43
For the closing thought, I want to take you all the way back
280
688000
2000
สำหรับความคิดทิ้งท้าย ที่ผมอยากมอบให้คุณนั้น
11:45
to my parents coming to Canada.
281
690000
3000
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ของผมที่มาแคนาดา
11:48
I don't know what it would feel like
282
693000
2000
ผมไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามันรู้สึกอย่างไร
11:50
coming to a new country when you're in your mid-20s.
283
695000
3000
กับการที่ย้ายมาอยู่ในอีกประเทศตอนช่วงอายุยี่สิบกว่าๆ
11:53
I don't know, because I never did it,
284
698000
2000
ผมไม่รู้ เพราะผมไม่เคยได้ลองทำเลยครับ
11:55
but I would imagine that it would take a great attitude.
285
700000
3000
แต่ผมคิดว่า การกระทำในครั้งนั้น มันต้องมาพร้อมกับทัศนะคติที่ยอดเยี่ยม
11:58
I would imagine that you'd have to be pretty aware of your surroundings
286
703000
3000
ผมคิดว่า ท่านคงจะต้องตระหนักรู้ถึงสิ่งรอบๆตัว และสภาพแวดล้อมต่างๆ
12:01
and appreciating the small wonders
287
706000
2000
และ เห็นคุณค่าของความรู้สึกพิศวงเล็กๆน้อยๆ
12:03
that you're starting to see in your new world.
288
708000
3000
ที่ได้เห็นโลกใบใหม่
12:06
And I think you'd have to be really authentic,
289
711000
2000
และผมยังคิดอีกว่า พวกท่านเป็นตัวของตัวเองอย่างแท้จริง
12:08
you'd have to be really true to yourself
290
713000
2000
พ่อและแม่คงต้องซื่อสัตย์กับตัวเองเป็นอย่างมาก
12:10
in order to get through what you're being exposed to.
291
715000
3000
ในการที่จะฝ่าฟันทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านต้องผ่าน ต้องเจอมา
12:14
I'd like to pause my TEDTalk
292
719000
2000
ผมขอหยุดการบรรยายของผม
12:16
for about 10 seconds right now,
293
721000
2000
สักประมาณสิบวินาทีในตอนนี้นะครับ
12:18
because you don't get many opportunities in life to do something like this,
294
723000
2000
เพราะคงจะหาโอกาศแบบนี้ได้ไม่ง่ายนัก ที่จะทำอะไรแบบนี้ครับ
12:20
and my parents are sitting in the front row.
295
725000
2000
คุณพ่อคุณแม่ของผม นั่งอยู่ที่แถวหน้าสุดนี้
12:22
So I wanted to ask them to, if they don't mind, stand up.
296
727000
2000
ผมอยากที่จะขอให้พวกท่าน ว่าไม่ติดขัดอะไรนะครับ ให้ช่วยลุกขึ้นยืนด้วยครับ
12:24
And I just wanted to say thank you to you guys.
297
729000
2000
ผมแค่อยากจะขอบคุณพ่อกับแม่ครับ
12:26
(Applause)
298
731000
19000
(ปรบมือ)
12:45
When I was growing up, my dad used to love telling the story
299
750000
3000
ในระหว่างที่ผมเติบโตขึ้น พ่อของผมชอบเล่าเรื่องราว
12:48
of his first day in Canada.
300
753000
2000
ของวันแรกที่ท่านมาถึงแดนาดาให้ผมฟัง
12:50
And it's a great story, because what happened was
301
755000
3000
มันเป็นเรื่องที่เยี่ยมมากเลยครับ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นคือ
12:53
he got off the plane at the Toronto airport,
302
758000
3000
พ่อลงมาจากเครื่องบิน ที่สนามบินโตรอนโต
12:56
and he was welcomed by a non-profit group,
303
761000
2000
และได้รับการต้อนรับจากกลุ่มไม่หวังผลกำไร (เอ็นจีโอ)
12:58
which I'm sure someone in this room runs.
304
763000
2000
ซึ่งผมมั่นใจว่าใครบางคนที่ห้องสัมมนานี้เป็นส่วนหนึ่งด้วย
13:00
(Laughter)
305
765000
2000
(เสียงหัวเราะ)
13:02
And this non-profit group had a big welcoming lunch
306
767000
3000
มีการเลี้ยงอาหารกลางวันเป็นการต้อนรับ
13:05
for all the new immigrants to Canada.
307
770000
3000
สำหรับผู้ที่พึ่งจะย้ายเข้ามาอยู่ในแคนาดา
13:08
And my dad says he got off the plane and he went to this lunch
308
773000
3000
พ่อผมเล่าว่าพอลงจากเครื่องก็ได้ไปรับประทานอาหารเที่ยงที่ว่ามานั่นล่ะครับ
13:11
and there was this huge spread.
309
776000
2000
มันน่าตื่นตาตื่นใจมากทีเดียว
13:13
There was bread, there was those little, mini dill pickles,
310
778000
3000
มีขนมปัง แล้วก็ผักชีลาวดองเล็กจิ๋ว
13:16
there was olives, those little white onions.
311
781000
2000
มีผลมะกอก แล้วก็หอมใหญ่สีขาวๆนั่น
13:18
There was rolled up turkey cold cuts,
312
783000
2000
แล้วยังมีไก่งวง
13:20
rolled up ham cold cuts, rolled up roast beef cold cuts
313
785000
2000
แฮม แล้วก็เนื้อย่าง
13:22
and little cubes of cheese.
314
787000
2000
ชีสที่หั่นเอาไว้เป็นลูกเต๋าชิ้นน้อย
13:24
There was tuna salad sandwiches and egg salad sandwiches
315
789000
3000
แซนวิชสลัดทูน่า แล้วก็แซนวิชสลัดไข่
13:27
and salmon salad sandwiches.
316
792000
2000
แซนวิชสลัดแซลม่อน
13:29
There was lasagna, there was casseroles,
317
794000
2000
มี ลาซานย่า ชามเล็กๆสำหรับอบอาหาร
13:31
there was brownies, there was butter tarts,
318
796000
3000
บราวน์นี่ ทาร์ตเนยสด
13:34
and there was pies, lots and lots of pies.
319
799000
3000
พาย มีพายเยอะเเยะจริงๆฮะ
13:37
And when my dad tells the story, he says,
320
802000
2000
และในเวลาที่พ่อผมเล่าเรื่องนี้ ท่านจะพูดว่า
13:39
"The craziest thing was, I'd never seen any of that before, except bread.
321
804000
4000
สิ่งที่บ้าที่สุดคือ พ่อผมไม่เคยเห็นอะไรบนโต๊ะนั่นมาก่อนเลย...นอกจาก ขนมปัง
13:43
(Laughter)
322
808000
2000
(เสียงหัวเราะ)
13:45
I didn't know what was meat, what was vegetarian.
323
810000
2000
พ่อไม่รู้ว่าเมนูไหนทำจากเนื้อ เมนูไหนทำจากผัก
13:47
I was eating olives with pie.
324
812000
2000
ในตอนนั้นพ่อกิน พายกับมะกอกฮะ
13:49
(Laughter)
325
814000
3000
(เสียงหัวเราะ)
13:52
I just couldn't believe how many things you can get here."
326
817000
3000
"ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะสามารถหาอะไรได้มากมายเหลือเกินที่นี่"
13:55
(Laughter)
327
820000
2000
(เสียงหัวเราะ)
13:57
When I was five years old,
328
822000
2000
ในตอนที่ผมอายุห้าขวบ
13:59
my dad used to take me grocery shopping,
329
824000
2000
พ่อเคยพาผมไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต
14:01
and he would stare in wonder
330
826000
2000
แล้วพ่อก็จะจ้องมองด้วยความพิศวง
14:03
at the little stickers that are on the fruits and vegetables.
331
828000
3000
ไปยังสติ๊กเกอร์ที่ติดอยู่บนผลไม้
14:06
He would say, "Look, can you believe they have a mango here from Mexico?
332
831000
3000
พ่อจะพูดว่า "ดูนี่สิ ลูกเชื่อมั๊ยว่าเค้ามีมะม่วงจากแมกซิโกด้วย?"
14:09
They've got an apple here from South Africa.
333
834000
3000
แล้วยังมีแอปเปิ้ลจากแอฟริกา
14:12
Can you believe they've got a date from Morocco?"
334
837000
3000
เชื่อมั๊ยว่าเค้ามีผลอินทผลัมจากโมร็อคโคด้วยนะ
14:15
He's like, "Do you know where Morocco even is?"
335
840000
3000
พ่อก็พูดต่อไปว่า "ลูกรู้ไหมว่าโมร็อคโคอยู่ตรงไหน?"
14:18
And I'd say, "I'm five. I don't even know where I am.
336
843000
3000
ผมก็ตอบไปว่า "ผมห้าขวบนะฮะ ผมยังไม่รู้เลยล่ะว่าผมอยู่ไหนตอนนี้"
14:21
Is this A&P?"
337
846000
3000
นี่คือ เอ แอนด์ พี รึเปล่าฮะ
14:24
And he'd say, "I don't know where Morocco is either, but let's find out."
338
849000
3000
พ่อตอบกลับมาว่า "พ่อก็ไม่รู้เหมือนกันว่าโมร็อคโคอยู่ตรงไหน แต่เราไปหาคำตอบกันเถอะ"
14:27
And so we'd buy the date, and we'd go home.
339
852000
2000
เราซื้อผลอินทผลัม และกลับบ้าน
14:29
And we'd actually take an atlas off the shelf,
340
854000
2000
พวกเราไปหยิบสมุดแผนที่ออกมาจากชั้นวางหนังสือ
14:31
and we'd flip through until we found this mysterious country.
341
856000
3000
แล้วก็เปิดมันไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเจอโมร็อคโคในที่สุด
14:34
And when we did, my dad would say,
342
859000
2000
พอเราหาเจอ พ่อก็พูดว่า
14:36
"Can you believe someone climbed a tree over there,
343
861000
2000
"ลูกเชื่อมั๊ยว่ามีใครบางคนปีนต้นไม้อยู่ที่นั่น"
14:38
picked this thing off it, put it in a truck,
344
863000
2000
"เด็ดเจ้าลูกนี้ออกมาจากต้น แล้วใส่รถบรรทุก"
14:40
drove it all the way to the docks
345
865000
3000
"ขับรถบรรทุกนั่นไปที่ท่าเรือ"
14:43
and then sailed it all the way
346
868000
2000
"แล้วเดินเรือมา"
14:45
across the Atlantic Ocean
347
870000
2000
"ผ่านมหาสมุทรแอตเเลนติก"
14:47
and then put it in another truck
348
872000
2000
"แล้วบรรจุเจ้าผลอินทผลัมเหล่านี้ลงไปบนรถบรรทุกอีกคัน"
14:49
and drove that all the way to a tiny grocery store just outside our house,
349
874000
3000
"ขับเรื่อยมาจนถึงซุปเปอร์มาร์เก็ตเล็กๆแห่งนี้ ใกล้ๆบ้านเรานี่"
14:52
so they could sell it to us for 25 cents?"
350
877000
3000
"แล้วขายให้กับเราในราคายี่สิบห้าเซ็นต์?"
14:55
And I'd say, "I don't believe that."
351
880000
2000
แล้วผมก็จะพูดว่า "ผมไม่เชื่อฮะ"
14:57
And he's like, "I don't believe it either.
352
882000
2000
แล้วพ่อก็จะพูดด้วยว่า "พ่อก็ไม่เชื่อเหมือนกัน"
14:59
Things are amazing. There's just so many things to be happy about."
353
884000
3000
มันเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ มันมีเรื่องราวอยู่มากมายเหลือเกินที่เราสามารถมีความสุขไปกับมันได้
15:02
When I stop to think about it, he's absolutely right.
354
887000
2000
เมื่อผมลองคิดดู พ่อพูดถูกมากเลยครับ
15:04
There are so many things to be happy about.
355
889000
2000
มันมีเรื่องราวอยู่มากมายเหลือเกินที่เราสามารถมีความสุขไปกับมันได้
15:06
We are the only species
356
891000
3000
พวกเราเป็นสิ่งมีชีวิตจำพวกเดียว
15:09
on the only life-giving rock
357
894000
3000
บนโลกใบนี้
15:12
in the entire universe that we've ever seen,
358
897000
3000
ในจักรวาลนี้ เท่าที่เราเคยเห็น
15:15
capable of experiencing
359
900000
2000
มีความสามารถที่จะประสบกับ
15:17
so many of these things.
360
902000
2000
สิ่งหลายๆสิ่งนั้น
15:19
I mean, we're the only ones with architecture and agriculture.
361
904000
3000
ผมหมายถึง เราเป็นพวกเดียวที่มีสถาปัตยกรรม การเกษตร
15:22
We're the only ones with jewelry and democracy.
362
907000
3000
เครื่องเพชร เครื่องประดับ ประชาธิปไตย
15:25
We've got airplanes, highway lanes,
363
910000
3000
เรามีเครื่องบิน ทางด่วน
15:28
interior design and horoscope signs.
364
913000
2000
การออกแบบตกแต่งภายใน สัญลักษณ์ดวงชะตาราศี
15:30
We've got fashion magazines, house party scenes.
365
915000
3000
นิตยสารแฟชั่น งานปาร์ตี้สังสรรค์ต่างๆ
15:33
You can watch a horror movie with monsters.
366
918000
2000
คุณสามารถดูหนังสยองขวัญที่มีสัตว์ประหลาด
15:35
You can go to a concert and hear guitars jamming.
367
920000
3000
คุณสามารถไปดูคอนเสิร์ทและได้ยินเสียงกีต้าร์
15:38
We've got books, buffets and radio waves,
368
923000
2000
เรามีหนังสือ บุฟเฟ่ท์ คลื่นวิทยุ
15:40
wedding brides and rollercoaster rides.
369
925000
2000
เจ้าสาว และเครื่องเล่นรถไฟเหาะตีลังกา
15:42
You can sleep in clean sheets.
370
927000
2000
คุณนอนในที่นอนสะอาดๆ
15:44
You can go to the movies and get good seats.
371
929000
2000
คุณสามารถไปดูหนัง และได้ที่นั่งดีๆ
15:46
You can smell bakery air, walk around with rain hair,
372
931000
3000
คุณสามารถได้กลิ่นขนมปังอบใหม่ๆ
15:49
pop bubble wrap or take an illegal nap.
373
934000
3000
หรือแม้กระทั่งแอบนอนหลับ
15:52
We've got all that,
374
937000
2000
เรามีทุกสิ่งทุกอย่าง
15:54
but we've only got 100 years to enjoy it.
375
939000
3000
แต่เรามีเพียงหนึ่งร้อยปีที่จะได้อยู่ที่จะได้เพลิดเพลินไปกับสิ่งเหล่านั้น
15:58
And that's the sad part.
376
943000
2000
และนั่นเป็นส่วนที่น่าเศร้า
16:02
The cashiers at your grocery store,
377
947000
3000
พนักงานเก็บเงินที่ร้านสะดวกซื้อ
16:05
the foreman at your plant,
378
950000
3000
หัวหน้าคนงานที่โรงงาน
16:08
the guy tailgating you home on the highway,
379
953000
3000
คนที่ขับรถจี้หลังคนมาบนทางด่วน
16:11
the telemarketer calling you during dinner,
380
956000
3000
คนที่โทรมาพยายามจะขายของทางโทรศัพท์หลังมื้ออาหารค่ำของคุณ
16:14
every teacher you've ever had,
381
959000
2000
คุณครูทุกท่านที่เคยสอนคุณมา
16:16
everyone that's ever woken up beside you,
382
961000
3000
ทุกๆคนที่เคยตื่นมาข้างๆคุณ
16:19
every politician in every country,
383
964000
2000
นักการเมืองทุกคนในทุกประเทศ
16:21
every actor in every movie,
384
966000
2000
นักแสดงทุกคนในหนังทุกเรื่อง
16:23
every single person in your family, everyone you love,
385
968000
3000
ทุกๆคนในครอบครัวคุณ ทุกๆคนที่คุณรัก
16:26
everyone in this room and you
386
971000
3000
ทุกๆคนในห้องนี้ และคุณ
16:29
will be dead in a hundred years.
387
974000
3000
จะจากโลกนี้ไปภายในเวลาหนึ่งร้อยปี
16:32
Life is so great that we only get such a short time
388
977000
3000
ชีวิตมันช่างแสนมีคุณค่าและเราก็ได้เวลามาอย่างจำกัด
16:35
to experience and enjoy
389
980000
2000
ที่จะได้อยู่ ได้มีประสบการณ์ และได้เพลิดเพลิน
16:37
all those tiny little moments that make it so sweet.
390
982000
2000
กับช่วงเวลาเล็กๆน้อยๆที่ทำให้ชีวิตให้เเสนหวาน
16:39
And that moment is right now,
391
984000
2000
ช่วงเวลาเหล่านั้นคือตอนนี้
16:41
and those moments are counting down,
392
986000
3000
และมันก็กำลังนับถอยหลังลงไปเรื่อยๆ
16:44
and those moments are always, always, always fleeting.
393
989000
3000
และช่วงเวลาเหล่านั้นมันกำลังเคลื่อนไปอย่างรวดเร็ว
16:49
You will never be as young as you are right now.
394
994000
4000
คุณไม่มีวันอ่อนวัยเท่ากับตัวคุณเองในชั่วขณะนี้
16:54
And that's why I believe that if you live your life
395
999000
3000
และนั่นทำให้ผมเชื่อว่า ถ้าคุณใช้ชีวิตของคุณ
16:57
with a great attitude,
396
1002000
2000
ด้วยทัศนะคติที่ดีเลิศ
16:59
choosing to move forward and move on
397
1004000
2000
เลือกที่จะก้าวเดินไปข้างหน้า
17:01
whenever life deals you a blow,
398
1006000
2000
ไม่ว่าชีวิตจะหยิบยื่นอะไรให้คุณ
17:03
living with a sense of awareness of the world around you,
399
1008000
3000
อยู่ไปพร้อมกับการตระหนักรู้ถึงสิ่งรอบตัวคุณ
17:06
embracing your inner three year-old
400
1011000
2000
อยู่ไปพร้อมกับเด็กวัยสามขวบที่ซ่อนอยู่ในตัวคุณ
17:08
and seeing the tiny joys that make life so sweet
401
1013000
3000
มองเห็นความสุขเล็กๆที่ทำให้ชีวิตช่างหอมหวาน
17:11
and being authentic to yourself,
402
1016000
2000
เป็นตัวตนที่แท้จริงของคุณ
17:13
being you and being cool with that,
403
1018000
2000
และมีความสุขอย่างแท้จริง
17:15
letting your heart lead you and putting yourself in experiences that satisfy you,
404
1020000
3000
ปล่อยให้จิตใจพาคุณไปพบกับประสบการณ์ที่จะทำให้คุณพึงพอใจ
17:18
then I think you'll live a life
405
1023000
2000
เช่นนั้นเเล้ว ผมคิดว่า คุณได้ใช้ชีวิต
17:20
that is rich and is satisfying,
406
1025000
2000
อย่างมั่งคั่ง และน่าพึงพอใจ
17:22
and I think you'll live a life that is truly awesome.
407
1027000
2000
และผมคิดว่า นั่นคุณได้ใช้ชีวิตอย่างยอดเยี่ยมที่สุด
17:24
Thank you.
408
1029000
2000
ขอบคุณครับ
ABOUT THE SPEAKER
Neil Pasricha - Director, The Institute for Global HappinessNeil Pasricha is the New York Times bestselling author of The Happiness Equation and serves as the Director of the Institute for Global Happiness after a decade running leadership development inside Walmart. He is one the world's leading authorities on happiness and positivity.
Why you should listen
In 2008, Neil Pasricha's world fell apart after a sudden divorce and death of a close friend. He channeled his energies into his blog 1000 Awesome Things, which counted down one small pleasure -- like snow days, bakery air or finding money in your coat pocket -- every single day for 1000 straight days. While writing his blog, Neil was working as Director of Leadership Development inside Walmart, the world's largest company. He continued working there when his books The Book of Awesome, The Book of (Even More) Awesome and Awesome is Everywhere were published and started climbing bestseller lists and shipping millions of copies.
Years later, he fell in love again and got married. On the airplane home from his honeymoon, his wife told him she was pregnant, and Neil began writing again. The result was a 300-page letter written to his unborn son sharing the nine secrets to finding true happiness. That letter has evolved into The Happiness Equation.
Neil Pasricha | Speaker | TED.com