TED2009
Pattie Maes + Pranav Mistry: Meet the SixthSense interaction
แพทตี้ มาเอส สาธิต "ประสาทสัมผัสที่หก" สิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี
Filmed:
Readability: 4.4
11,289,293 views
เป็นวิดีโอที่ได้รับการกล่าวขวัญอย่างมากจากงานของ TED ทั้งหมด โดยเป็นการสาธิตอุปกรณ์ที่คิดค้นจากห้องวิจัยของแพทตี้ มาเอส จากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ ซึ่งประดิษฐ์โดยปรานาฟ มิสทรี้ เป็นอุปกรณ์ที่สามารถสวมใส่ได้โดยมีเครื่องฉายภาพซึ่งทำหน้าที่โต้ตอบกับสิ่งต่างๆ เหมือนกับอุปกรณ์ในภาพยนตร์เรื่อง Minority Report
Pattie Maes - Researcher
As head of the MIT Media Lab's Fluid Interfaces Group, Pattie Maes researches the tools we use to work with information and connect with one another. Full bioPranav Mistry - Director of research, Samsung Research America
As an MIT grad student, Pranav Mistry invented SixthSense, a wearable device that enables new interactions between the real world and the world of data. Full bio
As head of the MIT Media Lab's Fluid Interfaces Group, Pattie Maes researches the tools we use to work with information and connect with one another. Full bioPranav Mistry - Director of research, Samsung Research America
As an MIT grad student, Pranav Mistry invented SixthSense, a wearable device that enables new interactions between the real world and the world of data. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:12
I've been intrigued by this question
0
0
2000
ที่ผ่านมาดิฉันขบคิดกับคำถามที่ว่า
00:14
of whether we could evolve or develop a sixth sense --
1
2000
3000
มนุษย์จะสามารถคิดค้นและสร้างประสาทสัมผัสที่หกได้หรือไม่
00:17
a sense that would give us seamless access
2
5000
6000
ประสาทสัมผัสที่ทำให้เราเข้าถึงได้อย่างไร้ขอบเขต
00:23
and easy access to meta-information
3
11000
3000
และเข้าถึงความรู้ต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย
00:26
or information that may exist somewhere
4
14000
3000
หรืออาจจะข้อมูลอะไรก็ได้ที่มีอยู่สักแห่ง
00:29
that may be relevant to help us make the right decision
5
17000
3000
ที่เราต้องการเพื่อช่วยให้เราสามารถ ตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง
00:32
about whatever it is that we're coming across.
6
20000
3000
และไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ ตอนนี้เรากำลังพัฒนามันอยู่
00:35
And some of you may argue,
7
23000
3000
หลายคนในที่นี้อาจแย้งว่า
00:38
well, don't today's cell phones do that already?
8
26000
3000
"เอ๊..ทุกวันนี้โทรศัพท์มือถือ ก็สามารถทำอย่างที่ว่าได้แล้วไม่ใช่หรือ"
00:41
But I would say no.
9
29000
2000
แต่ ดิฉันจะขอตอบว่ายังทำไม่ได้
00:43
When you meet someone here at TED --
10
31000
2000
เช่น เมื่อคุณเจอใครซักคนที่งาน TED นี้
00:45
and this is the top networking place, of course, of the year --
11
33000
3000
ซึ่งเป็นงานที่รวมผู้คนที่มีชื่อเสียงของปี
00:48
you don't shake somebody's hand
12
36000
2000
เมื่อคุณจับมือกับใครสักคน
00:50
and then say, "Can you hold on for a moment
13
38000
3000
คุณก็จะบอกว่า "กรุณาช่วยรอสักครู่นะคะ"
00:53
while I take out my phone and Google you?"
14
41000
2000
"ดิฉันขอใช้โทรศัพท์มือถือเข้าเวบกูเกิลหาข้อมูลเกี่ยวกับคุณก่อน"
00:55
Or when you go to the supermarket
15
43000
4000
หรือเช่นเมื่อคุณเข้าร้านซุปเปอร์มาร์เก็ต
00:59
and you're standing there in that huge aisle
16
47000
2000
แล้วยืนอยู่หน้าชั้นวางสินค้าขนาดใหญ่
01:01
of different types of toilet papers,
17
49000
3000
ที่มีกระดาษชำระหลายประเภท
01:04
you don't take out your cell phone, and open a browser,
18
52000
4000
คุณก็ต้องหยิบโทรศัพท์มือถือเปิดอินเตอร์เนต
01:08
and go to a website to try to decide
19
56000
2000
และไปหาข้อมูลในเวบไซต์เพื่อจะตัดสินใจว่า
01:10
which of these different toilet papers
20
58000
3000
กระดาษชำระอันไหน
01:13
is the most ecologically responsible purchase to make.
21
61000
3000
ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด แล้วจึงซื้อ
01:16
So we don't really have easy access
22
64000
3000
สรุปคือเรายังไม่สามารถเข้าถึง
01:19
to all this relevant information
23
67000
2000
ข้อมูลต่างๆ ได้อย่างสะดวก
01:21
that can just help us make optimal decisions
24
69000
3000
ซึ่งช่วยให้เราตัดสินใจได้ดีที่สุด
01:24
about what to do next and what actions to take.
25
72000
3000
ว่าเราจะทำอะไรต่อไปและจะเลือกอันไหน
01:27
And so my research group at the Media Lab
26
75000
4000
ด้วยเหตุนี้ ทีมวิจัยของดิฉันที่มีเดียแล๊ป
01:31
has been developing a series of inventions
27
79000
4000
ได้พัฒนาสิ่งประดิษฐ์หลายอย่าง
01:35
to give us access to this information
28
83000
3000
ที่จะช่วยให้เราเข้าถึงข้อมูล
01:38
in a sort of easy way,
29
86000
2000
ได้อย่างง่ายดายขึ้น
01:40
without requiring that the user changes any of their behavior.
30
88000
5000
โดยไม่ต้องพยายามหรือเปลี่ยนท่าทางเลย
01:45
And I'm here to unveil
31
93000
2000
และดิฉันมาที่งานนี้เพื่อจะแสดง
01:47
our latest effort,
32
95000
3000
สิ่งประดิษฐ์ชิ้นล่าสุด
01:50
and most successful effort so far,
33
98000
2000
และเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดตั้งแต่ทำมา
01:52
which is still very much a work in process.
34
100000
2000
แต่ก็ยังคงต้องปรับปรุงและพัฒนาอีกมาก
01:54
I'm actually wearing the device right now
35
102000
3000
จริงๆ แล้วดิฉันก็ใส่อุปกรณ์ที่ว่านี้อยู่ตอนนี้
01:57
and we've sort of cobbled it together
36
105000
3000
และเรานำอุปกรณ์ต่างๆ นี้มารวมกัน
02:00
with components that are off the shelf --
37
108000
3000
และส่วนประกอบเหล่านี้ก็เอามาจากร้านค้า
02:03
and that, by the way, only cost 350 dollars
38
111000
3000
ที่จริงเมื่อรวมแล้วมันมีต้นทุน เพียง 350 เหรียญเท่านั้น
02:06
at this point in time.
39
114000
2000
สำหรับในขณะนี้
02:08
I'm wearing a camera, just a simple webcam,
40
116000
4000
ดิฉันกำลังสวมกล้องวิดีโอธรรมดา
02:12
a portable, battery-powered projection system with a little mirror.
41
120000
6000
และเครื่องฉายภาพขนาดพกพาที่มีถ่านในตัว กับกระจกเล็กๆ
02:18
These components communicate to my cell phone in my pocket
42
126000
4000
อุปกรณ์ต่างๆ เหล่านี้ จะส่งข้อมูลไปยังโทรศัพท์มือถือของฉันในกระเป๋า
02:22
which acts as the communication and computation device.
43
130000
4000
ซึ่งทำหน้าที่่รับส่งข้อมูลต่อไปยังอินเตอร์เนต และประมวลผล
02:26
And in the video here we see my student Pranav Mistry,
44
134000
4000
และในวิดีโอที่แสดงอยู่นี้ นักเรียนของฉัน ปรานาฟ มิสตรี้
02:30
who's really the genius who's been implementing
45
138000
3000
ซึ่งเป็นอัจฉริยะที่สร้าง
02:33
and designing this whole system.
46
141000
2000
และออกแบบระบบทั้งหมดนี้
02:35
And we see how this system
47
143000
2000
แล้วเราจะมาดูกันว่าระบบนี้ทำงานอย่างไร
02:37
lets him walk up to any surface
48
145000
4000
ลองให้เขาออกไปทดลองกับพื้นผิวต่างๆ
02:41
and start using his hands to interact with the information
49
149000
4000
แล้วใช้มือของเขาโต้ตอบกับข้อมูล
02:45
that is projected in front of him.
50
153000
2000
ซึ่งแสดงอยู่ตรงหน้าของเขา
02:47
The system tracks the four significant fingers.
51
155000
4000
อุปกรณ์จะติดตามการเคลื่อนไหวของนิ้ว 4 นิ้ว
02:51
In this case, he's wearing simple marker caps
52
159000
4000
และในกรณีนี้เขาได้สวมเทปธรรมดาที่มีสีไว้ที่นิ้ว
02:55
that you may recognize.
53
163000
2000
ซึ่งคุณก็หาได้
02:57
But if you want a more stylish version
54
165000
2000
แต่ถ้าคุณต้องการให้มันเท่ห์กว่านี้
02:59
you could also paint your nails in different colors.
55
167000
4000
คุณก็สามารถทาสีที่เล็บด้วยสีที่ต่างกันแทนก็ได้
03:03
And the camera basically tracks these four fingers
56
171000
4000
แล้วกล้องวิดีโอจะติดตามนิ้วทั้ง 4 ของเขา
03:07
and recognizes any gestures that he's making
57
175000
3000
และจดจำท่าทางที่เขากำลังทำอยู่
03:10
so he can just go to, for example, a map of Long Beach,
58
178000
5000
และยกตัวอย่างเช่นเขาอาจจะหา แผนที่ของลองบีช
03:15
zoom in and out, etc.
59
183000
2000
ขยายเข้า ขยายออก เป็นต้น
03:17
The system also recognizes iconic gestures
60
185000
3000
ระบบนี้ก็ยังสามารถจำสัญลักษณ์ท่าทางต่างๆ
03:20
such as the "take a picture" gesture,
61
188000
3000
เช่น ท่าถ่ายภาพ
03:23
and then takes a picture of whatever is in front of you.
62
191000
3000
และระบบก็จะถ่ายภาพอะไรก็ได้ที่อยู่ตรงหน้าคุณ
03:26
And when he then walks back to the Media Lab,
63
194000
4000
และเมื่อเขากลับมาที่ มีเดียแล๊ป
03:30
he can just go up to any wall
64
198000
2000
เขาสามารถที่จะนำรูปไปแสดงบนผนังใดก็ได้
03:32
and project all the pictures that he's taken,
65
200000
3000
และดูรูปที่ได้ถ่ายมาทั้งหมด
03:35
sort through them and organize them,
66
203000
2000
คัดเลือกและจัดเรียงรูปภาพ
03:37
and re-size them, etc.,
67
205000
2000
และปรับขนาดรูปภาพ เป็นต้น
03:39
again using all natural gestures.
68
207000
3000
และ นี่คือการใช้ท่าทางที่เป็นธรรมชาติจริงๆ
03:42
So, some of you most likely were here two years ago
69
210000
4000
เอ่อ สองปีที่แล้ว พวกคุณหลายคนอาจมาที่งานนี้
03:46
and saw the demo by Jeff Han
70
214000
5000
และเห็นการสาธิตโดย เจฟ ฮาน
03:51
or some of you may think, "Well, doesn't this look like the Microsoft Surface Table?"
71
219000
3000
และคุณอาจคิดว่า "อุปกรณ์นี้ก็เหมือนโต๊ะสัมผัส ของไมโครซอฟท์ไม่ใช่หรือ"
03:54
And yes, you also interact using natural gestures,
72
222000
5000
ตอบว่าใช่ คุณก็สามารถโต้ตอบได้ โดยใช้ท่าทางที่เป็นธรรมชาติ
03:59
both hands, etc.
73
227000
2000
เช่นทั้งสองมือ เป็นต้น
04:01
But the difference here is that you can use any surface,
74
229000
3000
แต่สิ่งที่แตกต่างคือ อุปกรณ์นี้สามารถใช้กับพื้นผิวอะไรก็ได้
04:04
you can walk to up to any surface,
75
232000
3000
คุณสามารถใช้กับพื้นผิวไหนก็ได้
04:07
including your hand if nothing else is available
76
235000
3000
ซึ่งแม้แต่มือของคุณถ้ามันไม่มีพื้นผิวใดๆ แล้ว
04:10
and interact with this projected data.
77
238000
3000
และโต้ตอบกับข้อมูลที่เครื่องฉายภาพแสดงออกมา
04:13
The device is completely portable,
78
241000
3000
อุปกรณ์นี้มันสามารถพกพาได้อย่างสมบูรณ์
04:16
and can be ...
79
244000
2000
และก็สามารถ.......
04:18
(Applause)
80
246000
7000
(เสียงปรบมือ)
04:25
So one important difference is that it's totally mobile.
81
253000
4000
ข้อแตกต่างที่สำคัญคือ อุปกรณ์นี้มันสามารถเคลื่อนย้ายไปที่ไหนก็ได้
04:29
Another even more important difference is that in mass production
82
257000
4000
และข้อแตกต่างที่สำคัญอีกอย่างคือ เมื่อผลิตในจำนวนมากแล้ว
04:33
this would not cost more tomorrow than today's cell phones
83
261000
4000
ราคามันก็จะไม่แพงไปกว่า โทรศัพท์มือถือที่ใช้อยู่ในทุกวันนี้เลย
04:37
and would actually not sort of be a bigger packaging --
84
265000
4000
และมันอาจจะไม่ใหญ่เทอะทะ
04:41
could look a lot more stylish
85
269000
2000
และอาจจะทำให้ดูเท่ห์ล้ำสมัย
04:43
than this version that I'm wearing around my neck.
86
271000
3000
กว่ารุ่นที่ฉันกำลังห้อยไว้ที่คอฉันนี่
04:46
But other than letting some of you live out your fantasy
87
274000
6000
และนอกจากนั้นก็ ทำให้คุณเหมือนอยู่ในนิยาย
04:52
of looking as cool as Tom Cruise in "Minority Report,"
88
280000
4000
และดูเท่ห์เหมือน ทอม ครูซ ในภาพยนตร์เรื่อง "Minority Report"
04:56
the reason why we're really excited about this device
89
284000
4000
เหตุผลที่เราตื่นเต้นกับอุปกรณ์นี้
05:00
is that it really can act as one of these sixth-sense devices
90
288000
6000
ก็เพราะว่ามันสามารถทำหน้าที่ เหมือนประสาทสัมผัสที่หก
05:06
that gives you relevant information
91
294000
3000
ที่สามารถทำให้เราเข้าถึงข้อมูลต่างๆ
05:09
about whatever is in front of you.
92
297000
2000
เกี่ยวกับอะไรก็ได้ที่อยู่ตรงหน้าคุณ
05:11
So we see Pranav here going into the supermarket
93
299000
5000
ดังเช่นที่เราเห็น ปรานาฟกำลังไปที่ร้านซุปเปอร์มาร์เก๊ต
05:16
and he's shopping for some paper towels.
94
304000
3000
และเขากำลังเลือกซื้อกระดาษทิชชู
05:19
And, as he picks up a product the system can recognize
95
307000
3000
และระหว่างที่เขาหยิบสินค้า ระบบก็จะจดจำ
05:22
the product that he's picking up,
96
310000
2000
สินค้าที่เขากำลังเลือก
05:24
using either image recognition or marker technology,
97
312000
4000
โดยอาจใช้การจดจำแบบรูปภาพ หรือเทคโนโลยีการจับสีที่นิ้ว
05:28
and give him the green light or an orange light.
98
316000
3000
และตอบกลับเขาด้วยสีเขียวหรือสีส้ม
05:31
He can ask for additional information.
99
319000
3000
เขาก็สามารถถามข้อมูลอื่นๆ เพื่มได้
05:34
So this particular choice here
100
322000
4000
ซึ่งเกณฑ์การเลือกนี้
05:38
is a particularly good choice, given his personal criteria.
101
326000
4000
ก็เป็นเกณฑ์ที่ตั้งตามที่เขาต้องการ
05:42
Some of you may want the toilet paper with the most bleach in it
102
330000
4000
พวกคุณบางคนอาจต้องการ กระดาษชำระชนิดที่ผ่านการฟอกขาว
05:46
rather than the most ecologically-responsible choice.
103
334000
3000
มากกว่าชนิดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
05:49
(Laughter)
104
337000
3000
(หัวเราะ)
05:52
If he picks up a book in the bookstore,
105
340000
3000
และเมื่อเขาหยิบหนังสือในร้าน
05:55
he can get an Amazon rating --
106
343000
2000
เขาก็สามารถหาข้อมููลการจัดอันดับจากเวบไซต์อะแมซอน
05:57
it gets projected right on the cover of the book.
107
345000
2000
โดยจะแสดงที่หน้าปกของหนังสือ
05:59
This is Juan's book, our previous speaker,
108
347000
5000
นี่คือหนังสือที่เขียนโดย คุณฮวน คนที่มาพูดในงาน TED ก่อนหน้านี้
06:04
which gets a great rating, by the way, at Amazon.
109
352000
2000
ซึ่งได้รับการจัดอันดับยอดเยี่ยมโดย อะแมซอน
06:06
And so, Pranav turns the page of the book
110
354000
3000
และ ปรานาฟก็เปิดหน้าหนังสือ
06:09
and can then see additional information about the book --
111
357000
3000
และสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมของหนังสือได้
06:12
reader comments, maybe sort of information by his favorite critic, etc.
112
360000
7000
เช่น ความเห็นของผู้อ่าน และอาจจะเป็นข้อวิจารณ์ จากคนที่เขาชอบ เป็นต้น
06:19
If he turns to a particular page
113
367000
2000
และถ้าเขาเปิดไปที่หน้าใดหน้านึง
06:21
he finds an annotation by maybe an expert of a friend of ours
114
369000
4000
เขาเจอหมายเหตุซึ่งอาจจะเป็นความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญซึ่งเพื่อนของเรา
06:25
that gives him a little bit of additional information
115
373000
2000
ซึ่งจะสามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมบ้าง
06:27
about whatever is on that particular page.
116
375000
3000
เกี่ยวกับอะไรก็ได้ที่อยู่บนหน้านั้น
06:30
Reading the newspaper --
117
378000
2000
แล้วการอ่านหนังสือพิมพ์
06:32
it never has to be outdated.
118
380000
3000
ก็จะไม่เหมือนเดิมเช่นกัน
06:35
(Laughter)
119
383000
2000
(หัวเราะ)
06:37
You can get video annotations of the event that you're reading about
120
385000
4000
คุณสามารถดูวิดีโอเกี่ยวกับเรื่องที่คุณกำลังอ่าน
06:41
You can get the latest sports scores etc.
121
389000
4000
คุณสามารถหาผลล่าสุดของการแข่งกีฬา
06:45
This is a more controversial one.
122
393000
3000
เอ่อ..จริงๆ อันนี้อาจไม่เหมาะสมนักก็ได้
06:48
(Laughter)
123
396000
1000
(หัวเราะ)
06:49
As you interact with someone at TED,
124
397000
3000
และเมื่อคุณพูดคุยกับใครที่งาน TED
06:52
maybe you can see a word cloud of the tags,
125
400000
4000
คุณอาจสามารถมองเห็นข้อมูล
06:56
the words that are associated with that person
126
404000
2000
ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคนคนนั้น
06:58
in their blog and personal web pages.
127
406000
3000
ซึ่งมากจากบล๊อกหรือเวบไซต์ของเขา
07:01
In this case, the student is interested in cameras, etc.
128
409000
5000
เช่นในวิดีโอ นักเรียนคนนี้สนใจเรื่องกล้องถ่ายภาพ เป็นต้น
07:06
On your way to the airport,
129
414000
2000
และระหว่างที่คุณเดินทางไปสนามบิน
07:08
if you pick up your boarding pass, it can tell you that your flight is delayed,
130
416000
4000
เมื่อคุณหยิบบัตรผ่านขึ้นเครื่องมาดู มันก็สามารถบอกได้ว่าเครื่องได้ล่าช้า
07:12
that the gate has changed, etc.
131
420000
3000
และประตูขึ้นเครื่องได้เปลี่ยนไป เป็นต้น
07:15
And, if you need to know what the current time is
132
423000
3000
และถ้าคุณต้องการทราบว่าขณะนี้เวลาเท่าไร
07:18
it's as simple as drawing a watch --
133
426000
4000
ก็ทำได้ง่ายๆ โดยการวาดนาฬิกา
07:22
(Laughter)
134
430000
1000
(หัวเราะ)
07:23
(Applause)
135
431000
1000
(ปรบมือ)
07:24
on your arm.
136
432000
2000
บนแขนของคุณ
07:26
So that's where we're at so far
137
434000
4000
และทั้งหมดนี้คือความก้าวหน้าที่เราได้ทำ
07:30
in developing this sixth sense
138
438000
4000
ในการพัฒนาปราสาทสัมผัสที่หกที่จะ
07:34
that would give us seamless access to all this relevant information
139
442000
4000
ช่วยให้เราเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้อย่างไร้ขอบเขต
07:38
about the things that we may come across.
140
446000
3000
และอะไรที่เราได้เกริ่นไว้ก่อนนี้
07:41
My student Pranav, who's really, like I said, the genius behind this.
141
449000
4000
และนี่คือ ปรานาฟ นักเรียนอัจฉริยะที่คิดค้นอุปกรณ์นี้ขึ้น
07:45
(Applause) (Standing ovation)
142
453000
23000
(ผู้ชมทั้งห้องยืนขึ้นพร้อมกับปรบมือให้เกียรติ)
08:08
He does deserve a lot of applause
143
476000
3000
เขาสมควรที่จะได้รับการปรบมือ เพราะดิฉันคิดว่า
08:11
because I don't think he's slept much in the last three months, actually.
144
479000
4000
เขาคงไม่ได้พักผ่อนมากนักในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา
08:15
And his girlfriend is probably not very happy about him either.
145
483000
3000
ซึ่งแฟนของเขาก็คงไม่ได้ชอบมากนักเช่นกัน
08:18
But it's not perfect yet, it's very much a work in progress.
146
486000
5000
แต่มันก็ยังไม่สมบูรณ์นัก และมันยังต้องปรับปรุงอีกมาก
08:23
And who knows, maybe in another 10 years
147
491000
3000
แต่ใครจะรู้หละ บางทีในอีก 10 ปีข้างหน้า เราอาจจะมาที่นี่พร้อมกับ
08:26
we'll be here with the ultimate sixth sense brain implant.
148
494000
5000
อุปกรณ์ประสาทสัมผัสที่หกที่สามารถสั่งการโดยสมอง
08:31
Thank you.
149
499000
1000
ขอบคุณค่ะ
08:32
(Applause)
150
500000
4000
(ปรบมือ)
ABOUT THE SPEAKERS
Pattie Maes - ResearcherAs head of the MIT Media Lab's Fluid Interfaces Group, Pattie Maes researches the tools we use to work with information and connect with one another.
Why you should listen
Pattie Maes was the key architect behind what was once called "collaborative filtering" and has become a key to Web 2.0: the immense engine of recommendations -- or "things like this" -- fueled by other users. In the 1990s, Maes' Software Agents program at MIT created Firefly, a technology (and then a startup sold to Microsoft) that let users choose songs they liked, and find similar songs they'd never heard of, by taking cues from others with similar taste. This brought a sea change in the way we interact with software, with culture and with one another.
Now Maes is working on a similarly boundary-breaking initiative. She founded Fluid Interfaces Group, also part of the MIT Media Lab, to rethink the ways in which humans and computers interact, partially by redefining both human and computer. In Maes' world (and really, in all of ours), the computer is no longer a distinct object, but a source of intelligence that's embedded in our environment. By outfitting ourselves with digital accessories, we can continually learn from (and teach) our surroundings. The uses of this tech -- from healthcare to home furnishings, warfare to supermarkets -- are powerful and increasingly real.
Pattie Maes | Speaker | TED.com
Pranav Mistry - Director of research, Samsung Research America
As an MIT grad student, Pranav Mistry invented SixthSense, a wearable device that enables new interactions between the real world and the world of data.
Why you should listen
When Pranav Mistry was a PhD student in the Fluid Interfaces Group at MIT's Media Lab, he worked with lab director Pattie Maes to create some of the most entertaining and thought-provoking interfaces the world had ever seen. And not just computer interfaces, mind you -- these are ways to help the digital and the actual worlds interface. Imagine: intelligent sticky notes, Quickies, that can be searched and can send reminders; a pen that draws in 3D; and TaPuMa, a tangible public map that can act as Google of physical world. And of course the legendary SixthSense, which is now open sourced
Before his studies at MIT, he worked with Microsoft as a UX researcher; he's a graduate of IIT. Now, as director of research at Samsung Research America, Mistry heads the Think Tank Team, an interdisciplinary group of researchers that hunts for new ways to mix digital informational with real-world interactions. As an example, Mistry launched the company's smartwatch, the Galaxy Gear, in 2013.
Pranav Mistry | Speaker | TED.com