TEDGlobal 2010
Stefano Mancuso: The roots of plant intelligence
สเตฟาโน แมนคูโซ (Stefano Mancuso): รากฐานของอัฉริยภาพในพืช
Filmed:
Readability: 3.6
1,305,118 views
พืชมีพฤติกรรมที่ชาญฉลาดน่าทึ่งหลายรูปแบบ อย่างเช่น การต่อสู้ให้พ้นจากผู้ล่า การเพิ่มโอกาสในการหาอาหาร แต่เราจะสามารถคิดถึงพืชในรูปแบบของสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาของตนเองได้หรือไม่? นักพฤกษศาสตร์ชาวอิตาเลียน สเตฟาโน แมนคูโซจะมาเสนอหลักฐานที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้
Stefano Mancuso - Plant neurobiologist
Stefano Mancuso is a founder of the study of plant neurobiology, which explores signaling and communication at all levels of biological organization, from genetics to molecules, cells and ecological communities. Full bio
Stefano Mancuso is a founder of the study of plant neurobiology, which explores signaling and communication at all levels of biological organization, from genetics to molecules, cells and ecological communities. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:15
Sometimes I go browsing
0
0
3000
บางครั้งผมก็พลิกๆ
00:18
[through] a very old magazine.
1
3000
2000
นิตยสารเก่าๆ อ่านเล่น
00:20
I found this observation test
2
5000
3000
ครั้งหนึ่งผมบังเอิญเจอเกมจับผิดภาพ
00:23
about the story of the ark.
3
8000
3000
ที่มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับเรือโนอาห์
00:26
And the artist that drew this observation test
4
11000
3000
ศิลปินที่วาดภาพให้จับผิดนี้
00:29
did some errors, had some mistakes --
5
14000
2000
ตั้งใจวาดผิด หรือ วาดไม่ตรงกับเนื้อหาหลายอย่าง
00:31
there are more or less 12 mistakes.
6
16000
2000
ที่ผิดนั้นมีราวๆ 12 ที่
00:33
Some of them are very easy.
7
18000
2000
บางอย่างก็ง่ายๆ
00:35
There is a funnel, an aerial part,
8
20000
3000
อย่างตรงปล่องระบายลมที่ชูขึ้นบนอากาศนี่
00:38
a lamp and clockwork key on the ark.
9
23000
2000
หรือว่าตะเกียง หรือ เครื่องกลไกนาฬิกาบนเรือ
00:40
Some of them are about the animals, the number.
10
25000
3000
บางอย่างก็เกี่ยวกับจำนวนของสัตว์ที่ขึ้นไป
00:43
But there is a much more fundamental mistake
11
28000
3000
แต่ว่าภาพนี้มีข้อผิดพลาดพื้นฐานที่ใหญ่กว่านั้น
00:46
in the overall story of the ark
12
31000
3000
ก็คือเนื้อเรื่องของเรือโนอาห์
00:49
that's not reported here.
13
34000
2000
ที่ไม่ได้กล่าวถึงในภาพนี้
00:51
And this problem is: where are the plants?
14
36000
3000
และปัญหานั้นก็คือ แล้วพืชล่ะอยู่ที่ไหน
00:54
So now we have God
15
39000
2000
เอาล่ะครับ ตอนนี้เรามีพระเจ้า
00:56
that is going to submerge Earth permanently
16
41000
3000
ที่กำลังจะบันดาลให้เกิดน้ำท่วมโลกอย่างถาวร
00:59
or at least for a very long period,
17
44000
3000
หรืออย่างน้อยก็เป็นเวลานานๆ ล่ะ
01:02
and no one is taking care of plants.
18
47000
3000
แต่ไม่เห็นมีใครมาสนใจต้นไม้เลย
01:05
Noah needed to take two of every kind of bird,
19
50000
2000
โนอาห์ต้องพานกทุกชนิดอย่างละสองตัวขึ้นเรือ
01:07
of every kind of animal,
20
52000
2000
แล้วก็สัตว์ทุกชนิด
01:09
of every kind of creature that moves,
21
54000
2000
ต้องเก็บทุกสิ่งมีชีวิตที่เคลื่อนไหวได้
01:11
but no mention about plants.
22
56000
3000
แต่ไม่มีการกล่าวถึงต้นไม้เลย
01:14
Why?
23
59000
2000
ทำไมล่ะ?
01:16
In another part of the same story,
24
61000
2000
ในส่วนอื่นของเรื่องเดียวกันนี้
01:18
all the living creatures
25
63000
2000
กล่าวว่าสิ่งมีชีวิตทุกสิ่งในโลกขณะนี้
01:20
are just the living creatures
26
65000
2000
เป็นสิ่งมีชีวิต
01:22
that came out from the ark,
27
67000
2000
ที่มาจากเรือโนอาห์ทั้งนั้น
01:24
so birds, livestock and wild animals.
28
69000
3000
ซึ่งก็คือพวก นก ปศุสัตว์ และสัตว์ป่าต่างๆ
01:27
Plants are not living creatures --
29
72000
2000
อ้าว งั้นพืชไม่ใช่สิ่งมีชีวิตหรือ
01:29
this is the point.
30
74000
2000
นี่เป็นแนวคิด
01:31
That is a point that is not
31
76000
2000
แนวคิดที่ไม่ใช่แค่
01:33
coming out from the Bible,
32
78000
2000
มีอยู่ในพระคำภีร์
01:35
but it's something that
33
80000
2000
แต่ยังเป็นแนวคิดที่
01:37
really accompanied humanity.
34
82000
3000
อยู่คู่กับมนุษยชาติมาเนิ่นนาน
01:40
Let's have a look at this nice code
35
85000
3000
ลองดูภาพเขียนมืออันสวยงาม
01:43
that is coming from a Renaissance book.
36
88000
3000
ที่มาจากหนังสือในยุคฟื้นฟูศิลปะกัน
01:46
Here we have the description
37
91000
2000
ตรงนี้มีคำบรรยาย
01:48
of the order of nature.
38
93000
2000
ถึงลำดับของธรรมชาติ
01:50
It's a nice description because it's starting from left --
39
95000
3000
คำบรรยายดูดีทีเดียวเพราะเริ่มจากทางซ้าย
01:53
you have the stones --
40
98000
2000
(ต่ำสุด) มีก้อนหิน
01:55
immediately after the stones, the plants
41
100000
2000
แล้วถัดจากก้อนหิน ก็คือพืช
01:57
that are just able to live.
42
102000
3000
ซึ่งเป็นแค่สิ่งที่มีชีวิต
02:00
We have the animals that are able to live and to sense,
43
105000
3000
จากนั้นก็เป็นสัตว์ ซึ่งมีชีวิตและมีความรู้สึก
02:03
and on the top of the pyramid,
44
108000
2000
แล้วก็ บนยอดสูงสุดของพีรามิด
02:05
there is the man.
45
110000
2000
ก็มีมนุษย์
02:07
This is not the common man.
46
112000
2000
ไม่ใช่แค่มนุษย์ธรรมดาๆ
02:09
The "Homo studiosus" -- the studying man.
47
114000
3000
เป็น "โฮโม สตูดิโอซุส" มนุษย์ที่กำลังศึกษาค้นคว้า
02:12
This is quite comforting
48
117000
3000
แหม นี่ผมรู้สึกสบายใจจัง
02:15
for people like me -- I'm a professor --
49
120000
3000
ก็ผมเป็นศาสตราจารย์ (สอนหนังสือ) นี่นา
02:18
this to be over there on the top of creation.
50
123000
3000
ถูกจัดให้อยู่บนสุด เหนือกว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหมดเลย
02:21
But it's something completely wrong.
51
126000
3000
แต่มันมีบางอย่างในนี้ที่ผิดพลาดอย่างมหันต์
02:24
You know very well about professors.
52
129000
3000
เรื่องศาสตราจารย์นี่คุณรู้กันอยู่แล้ว (ว่าไม่ได้อยู่บนสุด)
02:27
But it's also wrong about plants,
53
132000
3000
แต่ที่ผิดอีกอย่างก็คือเกี่ยวกับพืช
02:30
because plants are not just able to live;
54
135000
2000
เพราะจริงๆ แล้วพืชไม่ได้แต่มีชีวิต
02:32
they are able to sense.
55
137000
2000
แต่สามารถรู้สึกได้ด้วย
02:34
They are much more sophisticated
56
139000
2000
การรับความรู้สึกของพืชนั้นมีความละเอียดอ่อน
02:36
in sensing than animals.
57
141000
2000
ยิ่งกว่าการรับรู้ในสัตว์เสียอีก
02:38
Just to give you an example,
58
143000
2000
ผมจะลองยกตัวอย่างให้ดูนะครับ
02:40
every single root apex
59
145000
2000
ปลายรากพืชทุกๆ อัน
02:42
is able to detect and to monitor
60
147000
3000
สามารถที่จะตรวจจับและตรวจวัด
02:45
concurrently and continuously
61
150000
2000
ได้พร้อมๆกันและต่อเนื่อง
02:47
at least 15 different chemical
62
152000
2000
ทั้งสารเคมีและตัวแปรทางกายภาพ
02:49
and physical parameters.
63
154000
3000
ได้ไม่ต่ำกว่า สิบห้าอย่างเลยทีเดียว
02:52
And they also are able to show and to exhibit
64
157000
3000
แถมรากพืชยังสามารถที่แสดง
02:55
such a wonderful and complex behavior
65
160000
3000
พฤติกรรมที่มีความละเอียดซับซ้อนและน่าทึ่ง
02:58
that can be described just with the term of intelligence.
66
163000
3000
ซึ่งกล่าวได้แต่เพียงว่า ช่างอัจฉริยะ
03:01
Well, but this is something --
67
166000
3000
แต่ก็นะ เรื่องอย่างนี้
03:04
this underestimation of plants is something
68
169000
2000
พวกเราก็มักจะตีค่าต้นไม้
03:06
that is always with us.
69
171000
3000
ต่ำกว่าความเป็นจริงอยู่เสมอ
03:09
Let's have a look at this short movie now.
70
174000
3000
เอาล่ะ ลองมาดูหนังสั้นนี้กันหน่อย
03:12
We have David Attenborough.
71
177000
2000
ในภาพก็มี เดวิด แอทเต็นเบิร์ก
03:14
Now David Attenborough is really a plant lover;
72
179000
2000
เดวิด แอทเต็นเบิร์กเป็นคนรักต้นไม้
03:16
he did some of the most beautiful movies
73
181000
3000
เขาสร้างหนังสั้นหลายเรื่องที่ดีมากๆ
03:19
about plant behavior.
74
184000
2000
เกี่ยวกับพฤติกรรมของพืช
03:21
Now, when he speaks about plants,
75
186000
2000
เมื่อเวลาเขาพูดเกี่ยวกับพืช
03:23
everything is correct.
76
188000
2000
ทุกอย่างก็ดูถูกต้องดีนะ
03:25
When he speaks about animals,
77
190000
2000
แต่พอเขามาพูดเกี่ยวกับสัตว์
03:27
[he] tends to remove the fact
78
192000
2000
ดูเหมือนเขาจะจงใจลืมข้อเท็จจริงที่ว่า
03:29
that plants exist.
79
194000
2000
โลกเรามีต้นไม้อยู่ด้วย
03:31
The blue whale,
80
196000
2000
อย่างนี่ ปลาวาฬสีน้ำเงิน
03:33
the biggest creature that exists on the planet --
81
198000
2000
"สิ่งมีชีวิต" ที่ใหญ่ที่สุดในโลกใบนี้
03:35
that is wrong, completely wrong.
82
200000
3000
นี่มันผิด ผิดอย่างมหันต์
03:38
The blue whale, it's a dwarf
83
203000
3000
เจ้าปลาวาฬสีน้ำเงินนี่เป็นคนแคระไปเลย
03:41
if compared with the real biggest creature
84
206000
2000
ถ้าคุณมาเทียบกับ "สิ่งมีชีวิต" ที่ใหญ่ที่สุดจริงๆ
03:43
that exists on the planet --
85
208000
2000
ในโลกใบนี้
03:45
that is, this wonderful,
86
210000
2000
นั่้นก็คือ ต้นไม้สุดมหัศจรรย์นี้
03:47
magnificent Sequoiadendron giganteum.
87
212000
4000
ซีควาเอียเด็นดรอน กิกันติอุม
03:51
(Applause)
88
216000
2000
(เสียงปรบมือ)
03:53
And this is a living organism
89
218000
3000
เจ้าสิ่งมีชีวิตยักษ์นี่
03:56
that has a mass of at least 2,000 tons.
90
221000
3000
หนักไม่น้อยกว่า 2,000 ตัน
03:59
Now, the story
91
224000
2000
เอาล่ะ มาพูดถึงเรื่อง
04:01
that plants are some low-level organisms
92
226000
3000
ที่พวกเราชอบคิดกันว่าพืชเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำ
04:04
has been formalized
93
229000
3000
ถูกปลูกฝังในความคิดของเรา
04:07
many times ago by Aristotle,
94
232000
3000
มานานมากแล้วโดย อริสโตเติล
04:10
that in "De Anima" --
95
235000
2000
ในหนังสือชื่อ ดิ เอนิม่า
04:12
that is a very influential book for the Western civilization --
96
237000
3000
ซึ่งเป็นหนังสือที่มีอิทธิพลต่ออารยธรรมตะวันตกอย่างมาก
04:15
wrote that the plants are on the edge
97
240000
3000
เขียนกล่าวไว้ว่าพืชนั้นอยู่ตรงรอยต่อ
04:18
between living and not living.
98
243000
3000
ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับไม่มีชีวิต
04:21
They have just a kind of very low-level soul.
99
246000
3000
เป็นสิ่งที่มีชีวิตมีวิญญาณระดับต่ำมากๆ
04:24
It's called the vegetative soul,
100
249000
3000
ที่เรียกว่าวิญญาณที่ไร้ความรู้สึกนึกคิด
04:27
because they lack movement,
101
252000
3000
เนื่องจากว่าพืชไม่มีการเคลื่อนไหว
04:30
and so they don't need to sense.
102
255000
2000
ดังนั้นพืชจึงไม่ต้องการประสาทสัมผัส
04:32
Let's see.
103
257000
2000
เอาละ ทีนี้มาดู
04:34
Okay, some of the movements of the plants are very well-known.
104
259000
3000
การเคลื่อนไหวบางอย่างของพืชที่เรารู้จักกันดี
04:37
This is a very fast movement.
105
262000
2000
นี่เป็นการเคลื่อนไหวที่เร็วมากๆด้วย
04:39
This is a Dionaea, a Venus fly trap
106
264000
3000
ต้นพืชนี่คือ ดิโอเนีย หรือ ต้นกาบหอยแครง
04:42
hunting snails --
107
267000
2000
ที่กำลังจับทาก
04:44
sorry for the snail.
108
269000
2000
โอ้ เสียใจด้วยนะเจ้าทาก
04:46
This has been something that has been refused for centuries,
109
271000
3000
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่ได้รับการยอมรับมาเป็นศตวรรษ
04:49
despite the evidence.
110
274000
3000
แม้ว่าจะมีหลักฐานชัดแจ้ง
04:52
No one can say that the plants were able to eat an animal,
111
277000
3000
แต่ก่อนไม่มีใครกล้าพูดว่าต้นไม้สามารถกินสัตว์ได้
04:55
because it was against the order of nature.
112
280000
3000
เพราะนั่นมันผิดหลักธรรมชาติ
04:58
But plants are also able
113
283000
2000
แต่ไม่เพียงเท่านี้ พืชยังสามารถ
05:00
to show a lot of movement.
114
285000
3000
เคลื่อนไหวได้อีกหลายอย่าง
05:03
Some of them are very well known, like the flowering.
115
288000
3000
บางอย่างพวกเราก็รู้จักกันดี อย่างการบานของดอกไม้
05:06
It's just a question to use some techniques
116
291000
3000
ซึ่งเราก็จะเห็นได้ หากอาศัยเทคโนโลยี
05:09
like the time lapse.
117
294000
2000
อย่างการฉายภาพอย่างเร็ว
05:11
Some of them are much more sophisticated.
118
296000
3000
บางอย่างก็มีความละเอียดอ่อนมากกว่านั้น
05:14
Look at this young bean
119
299000
2000
อย่างเช่นต้นกล้าถั่วเหล่านี้
05:16
that is moving to catch the light every time.
120
301000
3000
ที่เคลื่อนไหวเพื่อรับแสงตลอดเวลา
05:19
And it's really so graceful;
121
304000
2000
และมันก็ช่างน่าชมมาก
05:21
it's like a dancing angel.
122
306000
3000
เหมือนกับเทพยดาร่ายรำเลย
05:24
They are also able to play --
123
309000
3000
นอกจากนั้นพืชยังสามารถ"เล่น"
05:27
they are really playing.
124
312000
2000
พูดจริงๆ นะ "เล่น"
05:29
These are young sunflowers,
125
314000
3000
ลองดูต้นอ่อนทานตะวันพวกนี้สิ
05:32
and what they are doing
126
317000
2000
ดูว่าพวกมันกำลังทำอะไร
05:34
cannot be described
127
319000
2000
ภาพที่เห็นนี่ไม่สามารถบรรยาย
05:36
with any other terms than playing.
128
321000
2000
ด้วยคำอื่นนอกจาก" การละเล่น"ได้เลย
05:38
They are training themselves,
129
323000
2000
เจ้าพวกนี้กำลังฝึกฝนตัวเอง
05:40
as many young animals do,
130
325000
2000
เหมือนๆ กับลูกสัตว์ต่างๆ ทำ
05:42
to the adult life
131
327000
2000
เพื่อที่ในเวลาที่โตเต็มวัย
05:44
where they will be called to track the sun
132
329000
3000
พวกมันสามารถที่จะหมุนไปมาเพื่อรับแสงแดด
05:47
all the day.
133
332000
2000
ได้ตลอดทั้งวัน
05:49
They are able to respond to gravity, of course,
134
334000
3000
อีกอย่างก็ นี่ละ การตอบสนองต่อแรงดึงดูด
05:52
so the shoots are growing
135
337000
2000
เห็นได้ชัดว่าปลายยอดเจริญ
05:54
against the vector of gravity
136
339000
2000
หนีแรงดึงดูด
05:56
and the roots toward the vector of gravity.
137
341000
3000
ส่วนรากเจริญตามแรงดึงดูด
05:59
But they are also able to sleep.
138
344000
3000
แล้วนี่ พืชแสดงการนอนหลับ
06:02
This is one, Mimosa pudica.
139
347000
2000
ในต้น มิโมซา พูดิกา (ไมยราบ)นี้
06:04
So during the night,
140
349000
2000
ในตอนกลางคืน
06:06
they curl the leaves
141
351000
2000
มันม้วนใบเก็บ
06:08
and reduce the movement,
142
353000
2000
และลดการเคลื่อนไหว
06:10
and during the day, you have the opening of the leaves --
143
355000
2000
ส่วนตอนกลางวัน เห็นเลยว่าคลี่ใบออก
06:12
there is much more movement.
144
357000
2000
และมีการเคลื่อนไหวมากกว่ามาก
06:14
This is interesting
145
359000
2000
นี่มันน่าสนใจมาก
06:16
because this sleeping machinery,
146
361000
2000
เพราะว่ากลไกการนอนหลับนี้
06:18
it's perfectly conserved.
147
363000
2000
มีอยู่ทั่วไป
06:20
It's the same in plants, in insects
148
365000
2000
เหมือนกันหมดทั้งในพืช แมลง
06:22
and in animals.
149
367000
2000
และสัตว์
06:24
And so if you need to study this sleeping problem,
150
369000
3000
ดังนั้น ถ้าคุณจะศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนอนไม่หลับละก็
06:27
it's easy to study on plants, for example,
151
372000
3000
ง่ายกว่านะ ถ้าจะมาศึกษาในพืช
06:30
than in animals
152
375000
2000
ง่ายกว่าในสัตว์เยอะ
06:32
and it's much more easy even ethically.
153
377000
3000
แถมยังไม่มีปัญหาเรื่องจริยธรรมด้วย
06:35
It's a kind of vegetarian
154
380000
3000
น่าจะเรียกว่า การทดลอง
06:38
experimentation.
155
383000
2000
มังสวิรัติคงได้นะครับ
06:40
Plants are even able to communicate --
156
385000
3000
พืชยังสามารถสื่อสารได้ด้วย
06:43
they are extraordinary communicators.
157
388000
2000
พวกมันเป็นนักสือสารชั้นยอด
06:45
They communicate with other plants.
158
390000
2000
พืชสามารถสื่อสารกับพืชอื่นๆ ได้
06:47
They are able to distinguish kin and non-kin.
159
392000
3000
พวกมันแยกได้ว่าใครเป็นญาติ ใครไ่่ม่ใช่
06:50
They communicate
160
395000
2000
พวกมันสื่อสารกับพืชกันเอง
06:52
with plants of other species
161
397000
2000
สื่อสารกับสิ่งมีชีวิตอื่น
06:54
and they communicate with animals
162
399000
2000
และสื่อสารกับสัตว์ด้วย
06:56
by producing chemical volatiles,
163
401000
3000
โดยการสร้างสารเคมีที่ระเหยได้ง่าย
06:59
for example, during the pollination.
164
404000
2000
อย่างเช่น เพื่อการถ่ายละอองเรณู
07:01
Now with the pollination, it's a very serious issue for plants,
165
406000
3000
เรื่องการถ่ายละอองเรณูนี่เป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับพืชนะ
07:04
because they move the pollen from one flower to the other,
166
409000
3000
เพราะแพร่ละอองเรณูจากดอกไม้หนึ่งไปดอกไม้อื่น
07:07
yet they cannot move from one flower to the other.
167
412000
2000
เมื่อมันไม่สามารถย้ายจากดอกไม้หนึ่งไปอีกดอกได้เอง
07:09
So they need a vector --
168
414000
2000
ดังนั้นพืชต้องการตัวช่วยขนส่ง
07:11
and this vector,
169
416000
2000
และพาหะที่ว่าก็คือ
07:13
it's normally an animal.
170
418000
2000
สัตว์นั่นเอง
07:15
Many insects
171
420000
2000
แมลงหลายชนิด
07:17
have been used by plants as vectors
172
422000
3000
ถูกใช้เป็นพาหะ
07:20
for the transport of the pollination,
173
425000
2000
ในกระบวนการถ่ายละอองเรณู
07:22
but not just insects; even birds, reptiles,
174
427000
3000
ไม่เพียงแต่แมลงเท่านั้น แม้แต่นก สัตว์เลื้อยคลาน
07:25
and mammals like bats rats
175
430000
3000
หรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอย่างค้างคาวหรือหนู
07:28
are normally used for the transportation of the pollen.
176
433000
3000
ก็ถูกใช้เพื่อนกระบวนการถ่ายละอองเรณูเช่นกัน
07:31
This is a serious business.
177
436000
2000
สำหรับพืชนี่เป็นเรื่องสำคัญมาก
07:33
We have the plants that are giving to the animals
178
438000
3000
พืชบางพวกก็ใช้วิธีล่อสัตว์
07:36
a kind of sweet substance --
179
441000
3000
ด้วยสารที่มีความหวาน
07:39
very energizing --
180
444000
2000
ให้พลังงานสูง
07:41
having in change this transportation of the pollen.
181
446000
3000
เป็นค่าตอบแทนในการขนส่งละอองเรณู
07:44
But some plants are manipulating animals,
182
449000
3000
แต่พืชบางกลุ่มก็ใช้วิธีล่อหลอก
07:47
like in the case of orchids
183
452000
2000
อย่างในกรณีของกล้วยไม้
07:49
that promise sex and nectar
184
454000
2000
ที่สัญญาว่า จะให้ผสมพันธ์ หรือน้ำหวาน
07:51
and give in change nothing
185
456000
2000
แต่ กลับไม่ได้ตอบแทนอะไรเลย
07:53
for the transportation of the pollen.
186
458000
3000
กับแมลงที่มาเป็นพาหะถ่ายละอองเรณู
07:56
Now, there is a big problem
187
461000
3000
ตอนนี้ก็มาถึงคำถามแล้ว
07:59
behind all this behavior that we have seen.
188
464000
3000
ว่าพฤติกรรมต่างๆ ที่เราเห็นมาทั้งหมดนี้
08:02
How is it possible to do this without a brain?
189
467000
3000
มันเกิดขึ้นได้อย่างไร โดยที่ไม่ต้องมีสมองมาสั่งงาน
08:05
We need to wait until 1880,
190
470000
3000
เราต้องรอจนกระทั่งราวปี 1880
08:08
when this big man,
191
473000
2000
เมื่อชายที่มีผู้ยิ่งใหญ่คนนี้
08:10
Charles Darwin,
192
475000
2000
ชาร์ลส ดาร์วิน
08:12
publishes a wonderful, astonishing book
193
477000
3000
ตีพิมพ์หนังสือที่น่าสนใจและน่าทึ่ง
08:15
that starts a revolution.
194
480000
3000
ที่จะเริ่มการปฏิวัติความคิด
08:18
The title is "The Power of Movement in Plants."
195
483000
3000
หนังสือนี้ชื่อ ความสามารถในการเคลื่อนไหวของพืช
08:21
No one was allowed to speak about movement in plants
196
486000
2000
ไม่มีใครกล้าพูดเกี่ยวกับเรื่องการเคลื่อนไหวของพืช
08:23
before Charles Darwin.
197
488000
2000
ก่อนหน้า ชาร์ลส ดาร์วิน มาก่อน
08:25
In his book,
198
490000
2000
ในหนังสือของเขา
08:27
assisted by his son, Francis --
199
492000
2000
ซึ่งช่วยเขียนโดยลูกชายของเขาเอง ฟรานซิส
08:29
who was the first professor of plant physiology in the world, in Cambridge --
200
494000
3000
ซึ่งเป็นศาสตราจารย์ด้านสรีรวิทยาพืชคนแรกของโลก ในเคมบริดจ์
08:32
they took into consideration every single movement
201
497000
3000
ได้บันทึกเรื่องราวของการเคลื่อนไหวทุกแบบของพืช
08:35
for 500 pages.
202
500000
2000
ความยาวถึง 500 หน้า
08:37
And in the last paragraph of the book,
203
502000
3000
และในย่อหน้าสุดท้ายของหนังสือ
08:40
it's a kind of stylistic mark,
204
505000
2000
ตามแนวการเขียนของเขา
08:42
because normally Charles Darwin stored,
205
507000
3000
โดยปรกติ ชาร์ลส ดาร์วิน มักจะเก็บ
08:45
in the last paragraph of a book,
206
510000
2000
ย่อหน้าท้ายที่สุดของหนังสือ
08:47
the most important message.
207
512000
2000
ไว้สำหรับข้อความที่สำคัญที่สุด
08:49
He wrote that,
208
514000
2000
เขาเขียนไว้ว่า
08:51
"It's hardly an exaggeration
209
516000
2000
" มันคงไม่เป็นการเกินเลยที่จะกล่าว
08:53
to say that the tip of the radical
210
518000
3000
ว่าปลายรากแก้วนั้น
08:56
acts like the brain
211
521000
2000
ทำหน้าที่คล้ายกับสมอง
08:58
of one of the lower animals."
212
523000
2000
แบบเดียวกับในสัตว์ชั้นต่ำ"
09:00
This is not a metaphor.
213
525000
2000
และนี่ไม่ใช่คำอุปมาอุปไมยใดๆ
09:02
He wrote some very interesting letters to one of his friends
214
527000
3000
เขายังได้เขียนจดหมายที่สนใจบางฉบับถึงเพื่อนของเขาคนหนึ่ง
09:05
who was J.D. Hooker, or at that time, president of the Royal Society,
215
530000
4000
ซึ่งคือ เจ ดี ฮุกเกอร์ ซึ่ง ณ ขณะนั้น เป็นหัวหน้าสถาบัน เดอะ รอยัล โซไซตี
09:09
so the maximum scientific authority in Britain
216
534000
3000
ดังนั้น สถาบันวิทยาศาสตร์ที่มีอำนาจสูงสุดในอังกฤษ
09:12
speaking about the brain in the plants.
217
537000
3000
ถึงได้พูดถึงเรื่องสมองในพืช
09:15
Now, this is a root apex
218
540000
2000
ส่วนนี่คือภาพของปลายรากฝอย
09:17
growing against a slope.
219
542000
2000
ที่เจริญไปตามทางชัน
09:19
So you can recognize this kind of movement,
220
544000
3000
พวกคุณจะคุ้นเคยกับการเคลื่อนที่แบบนี้
09:22
the same movement that worms, snakes
221
547000
3000
เพราะมันเป็นการเคลื่อนที่แบบเดียวกับหนอน งู
09:25
and every animal
222
550000
2000
และสัตว์ทุกชนิด
09:27
that are moving on the ground without legs
223
552000
3000
ที่เคลื่อนที่ไปบนพื้นโดยที่มีระยางค์
09:30
is able to display.
224
555000
2000
ที่เห็นเด่นชัด
09:32
And it's not an easy movement
225
557000
2000
การเคลื่อนที่เหล่านี้ไม่ใช่การเคลื่อนไหวง่ายๆ
09:34
because, to have this kind of movement,
226
559000
3000
เพราะจะเคลื่อนที่เช่นนี้ได้
09:37
you need to move different regions of the root
227
562000
3000
พืชจะต้องขยับส่วนต่างๆ ของราก
09:40
and to synchronize these different regions
228
565000
2000
และต้องทำให้ส่วนต่างๆทำงานสัมพันธ์กัน
09:42
without having a brain.
229
567000
2000
โดยไม่อาศัยสมอง
09:44
So we studied the root apex
230
569000
3000
ที่นี้เรามาศึกษาส่วนปลายรากกัน
09:47
and we found that there is a specific region
231
572000
2000
เราจะพบว่าจะมีส่วนของรากที่จำเพาะ
09:49
that is here, depicted in blue --
232
574000
3000
ตรงนี้ ที่เป็นแนวสีน้ำเงิน
09:52
that is called the "transition zone."
233
577000
2000
เรียกว่า ทรานสิชันโซน
09:54
And this region, it's a very small region --
234
579000
3000
ส่วนนี้เป็นส่วนที่เล็กมาก
09:57
it's less than one millimeter.
235
582000
3000
ขนาดเล็กกว่าหนึ่งมิลลิเมตร
10:00
And in this small region
236
585000
2000
และเจ้าส่วนที่เล็กๆ นี้เอง
10:02
you have the highest consumption
237
587000
2000
เราจะพบว่าเป็นส่วนที่มีการใช้
10:04
of oxygen in the plants
238
589000
2000
ออกซิเจนสูงที่สุดในพืช
10:06
and more important,
239
591000
2000
และที่สำคัญก็คือ
10:08
you have these kinds of signals here.
240
593000
2000
คุณจะตรวจพบสัญญาณแบบนี้
10:10
The signals that you are seeing here are action potential,
241
595000
3000
สัญญาณที่คุณกำลังเห็น เป็นสัญญาณของการทำงาน
10:13
are the same signals
242
598000
2000
สัญญาณแบบเดียว
10:15
that the neurons of my brain, of our brain,
243
600000
3000
กับที่จะตรวจพบในเส้นใยประสาทในสมอง
10:18
use to exchange information.
244
603000
3000
ของคุณและผมที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนข้อมูล
10:21
Now we know that a root apex
245
606000
3000
ในรากฝอยหนึ่งเส้น เรารู้ดีว่า
10:24
has just a few hundred cells
246
609000
2000
มีเซลล์ประเภทนี้แค่ไม่กี่ร้อยเซลล์
10:26
that show this kind of feature,
247
611000
2000
ที่แสดงสัญญาณออกมา
10:28
but we know how big
248
613000
2000
แต่พวกเราก็รู้ดีว่า รากฝอยมีมากแค่ไหน
10:30
the root apparatus of a small plant, like a plant of rye.
249
615000
3000
แค่พืชต้นเล็กๆ อย่างข้าวไรย์
10:33
We have almost
250
618000
2000
จะมีราก
10:35
14 million roots.
251
620000
2000
เกือบๆ 14ล้านเส้น
10:37
We have 11 and a half million
252
622000
3000
ดังนั้นเราจะมีปลายรากฝอย
10:40
root apex
253
625000
2000
เกือบๆ 11.5 ล้านเส้น และนั่นคิดเป็น
10:42
and a total length of 600 or more kilometers
254
627000
3000
ความยาวราวๆ 600 กว่ากิโลเมตร
10:45
and a very high surface area.
255
630000
2000
แถมยังมีพื้นที่ผิวจำนวนมาก
10:47
Now let's imagine
256
632000
2000
ที่นี้เรามาลองคิดเล่นๆ
10:49
that each single root apex
257
634000
2000
ว่ารากฝอยแต่ละเส้นนั้นทำงาน
10:51
is working in network with all the others.
258
636000
3000
เหมือนกับเป็นเครือข่าย ร่วมกับรากฝอยอื่นๆ
10:54
Here were have on the left, the Internet
259
639000
3000
จากนั้นเรามาดู ทางซ้าย เครือข่ายอินเตอร์เน็ต
10:57
and on the right, the root apparatus.
260
642000
3000
ทางขวา ระบบราก
11:00
They work in the same way.
261
645000
2000
มันทำงานแบบเดียวกันเลย
11:02
They are a network
262
647000
2000
เป็นการทำงานแบบเครือข่าย
11:04
of small computing machines,
263
649000
2000
ของเครื่องคำนวนเล็กๆ หลายเครื่อง
11:06
working in networks.
264
651000
2000
ที่ทำงานร่วมกัน
11:08
And why are they so similar?
265
653000
2000
แล้วทำไมหน้าตามันคล้ายคลึงกัน
11:10
Because they evolved
266
655000
2000
นั่นเป็นเพราะ ลักษณะเช่นนี้วิวัฒนาการ
11:12
for the same reason:
267
657000
2000
เพื่อจุดประสงค์เดียวกัน คือ
11:14
to survive predation.
268
659000
3000
เพื่อรอดพ้นการถูกล่า
11:17
They work in the same way.
269
662000
2000
จึงได้ทำงานแบบเดียวกัน
11:19
So you can remove 90 percent of the root apparatus
270
664000
3000
ถ้าคุณตัดระบบรากออกไปราว 90 เปอร์เซ็นต์
11:22
and the plants [continue] to work.
271
667000
2000
พืชก็ยังทำงานต่อไปได้
11:24
You can remove 90 percent of the Internet
272
669000
3000
และถ้าคุณตัดระบบอินเตอร์เน็ตออกไปราว 90 เปอร์เซ็นต์
11:27
and it is [continuing] to work.
273
672000
3000
มันก็ยังทำงานต่อไปได้เหมือนกัน
11:30
So, a suggestion
274
675000
2000
ดังนั้น ข้อเสนอแนะ
11:32
for the people working with networks:
275
677000
3000
สำหรับคนทำงานเกี่ยวกับเครือข่ายนะครับ
11:35
plants are able
276
680000
3000
พืชสามารถ
11:38
to give you good suggestions
277
683000
2000
จะให้คำแนะนำดีๆ ในการ
11:40
about how to evolve networks.
278
685000
3000
พัฒนาเครือข่ายของคุณ
11:43
And another possibility
279
688000
3000
ความเป็นไปได้อีกอย่าง
11:46
is a technological possibility.
280
691000
3000
คือการพัฒนาเทคโนโลยี
11:49
Let's imagine
281
694000
2000
คุณลองนึกภาพดูนะครับ
11:51
that we can build robots
282
696000
2000
ว่าเราสามารสร้างหุ่นยนต์
11:53
and robots that are inspired by plants.
283
698000
3000
ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากพืช
11:56
Until now,
284
701000
2000
จนกระทั่งบัดนี้
11:58
the man was inspired
285
703000
3000
มนุษยชาติได้รับแรงบันดาลใจ
12:01
just by man or the animals
286
706000
2000
จากมนุษย์หรือสัตว์
12:03
in producing a robot.
287
708000
2000
ในการสร้างหุ่นยนต์
12:05
We have the animaloid --
288
710000
3000
เรามีหุ่นยนต์คล้ายสัตว์
12:08
and the normal robots inspired by animals,
289
713000
2000
ซึ่งโครงสร้างได้รับแรงบรรดาลใจจากสัตว์
12:10
insectoid, so on.
290
715000
2000
และหุ่นยนต์คล้ายแมลง กันแล้ว
12:12
We have the androids
291
717000
2000
เรามีหุ่นยนต์เลียนแบบมนุษย์
12:14
that are inspired by man.
292
719000
3000
ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากพวกเรากันเอง
12:17
But why have we not any plantoid?
293
722000
3000
แต่ทำไมไม่มีหุ่นยนต์คล้ายพืชล่ะ
12:20
Well, if you want to fly,
294
725000
2000
ก็ ถ้าคุณอยากบิน
12:22
it's good that you look at birds --
295
727000
2000
มันก็ดีที่คุณคิดถึงนก
12:24
to be inspired by birds.
296
729000
2000
เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ
12:26
But if you want to explore soils,
297
731000
3000
แต่ถ้าคุณอยากจะสำรวจพื้นดิน
12:29
or if you want to colonize
298
734000
3000
หรือถ้าคุณอยากจะบุกเบิกอาณานิคม
12:32
new territory,
299
737000
2000
ในดินแดนใหม่
12:34
to best thing that you can do is to be inspired by plants
300
739000
3000
สิ่งที่ดีที่สุดที่จะให้แรงบันดาลใจคุณได้คือพืช
12:37
that are masters in doing this.
301
742000
3000
เพราะพืชชำนาญที่สุดในเรื่องเหล่านี้
12:40
We have another possibility
302
745000
2000
ความเป็นไปได้อีกอย่างที่พวกเราคิด
12:42
we are working [on] in our lab,
303
747000
2000
และกำลังพยายามให้เกิดขึ้นในห้องทดลองของเรา
12:44
[which] is to build hybrids.
304
749000
2000
นั่นคือ การสร้างหุ่นยนต์แบบผสม
12:46
It's much more easy to build hybrids.
305
751000
3000
มันง่ายกว่าเยอะที่จะสร้างหุ่นแบบผสม
12:49
Hybrid means it's something
306
754000
2000
หุ่นยนต์แบบผสมหมายถึง
12:51
that's half living and half machine.
307
756000
3000
สิ่งที่มีส่วนหนึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตแต่อีกส่วนเป็นเครื่องจักร
12:54
It's much more easy to work with plants
308
759000
2000
ซึ่งการทำงานกับพืช
12:56
than with animals.
309
761000
2000
ง่ายกว่าในสัตว์มาก
12:58
They have computing power,
310
763000
2000
พืชมีความสามารถในการคำนวน
13:00
they have electrical signals.
311
765000
2000
สามารถสื่อสารแบบไฟฟ้าได้
13:02
The connection with the machine is much more easy,
312
767000
3000
ดังนั้นการเชื่อมต่อกับเครื่องจักรก็จะง่ายกว่ามาก
13:05
much more even ethically possible.
313
770000
4000
และมีปัญหาเรื่องจริยธรรมน้อยกว่า
13:10
And these are three possibilities
314
775000
2000
และนี่คือความเป็นไปได้สามรูปแบบ
13:12
that we are working on
315
777000
3000
ที่พวกเรากำลังพยายามอยู่
13:15
to build hybrids,
316
780000
2000
ในการสร้างหุ่นแบบผสม
13:17
driven by algae
317
782000
2000
ที่ขับเคลื่อนโดยใช้สาหร่าย
13:19
or by the leaves at the end,
318
784000
3000
หรือโดยใช้ยอดใบจากกิ่ง
13:22
by the most, most powerful parts of the plants,
319
787000
2000
หรือจากส่วนที่มีพลังมากที่สุดในพืช
13:24
by the roots.
320
789000
2000
นั่นคือราก
13:26
Well, thank you for your attention.
321
791000
2000
และขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสนใจ
13:28
And before I finish,
322
793000
3000
และก่อนจะจบการบรรยาย
13:31
I would like to reassure that no snails were harmed
323
796000
3000
ผมขอยืนยันว่าไม่มีทากตัวใดได้รับอันตราย
13:34
in making this presentation.
324
799000
2000
จากการผลิตสื่อผสมนี้นะครับ
13:36
Thank you.
325
801000
2000
ขอบคุณมากครับ
13:38
(Applause)
326
803000
5000
(เสียงปรบมือ)
ABOUT THE SPEAKER
Stefano Mancuso - Plant neurobiologistStefano Mancuso is a founder of the study of plant neurobiology, which explores signaling and communication at all levels of biological organization, from genetics to molecules, cells and ecological communities.
Why you should listen
Does the Boston fern you're dutifully misting each morning appreciate your care? Or can the spreading oak in your local park take umbrage at the kids climbing its knotted branches? Not likely, says Italian researcher Stefano Mancuso, but that doesn't mean that these same living organisms aren't capable of incredibly sophisticated and dynamic forms of awareness and communication.
From his laboratory near Florence, Mancuso and his team explore how plants communicate, or "signal," with each other, using a complex internal analysis system to find nutrients, spread their species and even defend themselves against predators. Their research continues to transform our view of plants from simple organisms to complex ecological structures and communities that can gather, process and -- most incredibly -- share important information.
Stefano Mancuso | Speaker | TED.com