TED@State
Paul Collier: New rules for rebuilding a broken nation
กฎใหม่ของ Paul Collier เพื่อการกอบกู้ความแตกแยกในชาติ
Filmed:
Readability: 4.9
458,202 views
ความขัดแย้งที่ยาวนานจะส่งผลให้ประเทศล่มจม โดยจะหลงเหลือแค่ความยากจนและความวุ่นวายเอาไว้ แล้วอะไรคือแนวทางที่ถูกต้องในการกอบกู้ชาติ? ที่ TED@State Paul Collier ได้อธิบายถึงปัญหาของแผนฟื้นฟูประเทศภายหลังความขัดแย้ง และนำเสนอแนวคิดใหม่ 3 ประการเพื่อการแก้ไขปัญหาที่ดีกว่า
Paul Collier - Economist
Paul Collier’s book The Bottom Billion shows what is happening to the poorest people in the world, and offers ideas for opening up opportunities to all. Full bio
Paul Collier’s book The Bottom Billion shows what is happening to the poorest people in the world, and offers ideas for opening up opportunities to all. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:16
I'm going to talk about post-conflict recovery
0
0
6000
ผมจะขอพูดถึงการฟื้นฟูประเทศภายหลังความขัดแย้ง
00:22
and how we might do post-conflict recovery better.
1
6000
5000
และเราจะทำให้การฟื้นฟูดังกล่าวดีขึ้นได้อย่างไร
00:27
The record on post-conflict recovery is not very impressive.
2
11000
5000
ข้อมูลที่ผ่านมาของการฟื้นฟูประเทศภายหลังความขัดแย้งอาจดูไม่ค่อยดีนัก
00:32
40 percent of all post-conflict situations,
3
16000
4000
ร้อยละ 40 ของสถานการณ์ภายหลังความขัดแย้ง
00:36
historically, have reverted back to conflict within a decade.
4
20000
4000
โดยประวัติศาสตร์แล้ว ก็จะกลับสู่ความขัดแย้งอีกครั้งภายในระยะเวลา 10 ปี
00:40
In fact, they've accounted for half of all civil wars.
5
24000
5000
ตามข้อเท็จจริงแล้ว ประมาณครึ่งหนึ่งจะกลายเป็นสงครามกลางเมือง
00:45
Why has the record been so poor?
6
29000
3000
ทำไมข้อมูลที่ผ่านมาถึงได้ดูเลวร้ายนัก?
00:48
Well, the conventional approach
7
32000
3000
เอาล่ะ ตามแนวคิดดั้งเดิม
00:51
to post-conflict situations
8
35000
2000
ที่อธิบายถึงสถานการณ์ภายหลังความขัดแย้ง
00:53
has rested on, on kind of, three principles.
9
37000
4000
ตั้งอยู่บนหลักการ 3 ข้อ
00:57
The first principle is: it's the politics that matters.
10
41000
5000
หลักการข้อแรก ภาคการเมืองมีความสำคัญ
01:02
So, the first thing that is prioritized is politics.
11
46000
3000
ดังนั้น สิ่งแรกที่จะได้รับความสำคัญคือ การเมือง
01:05
Try and build a political settlement first.
12
49000
5000
จึงต้องพยายามและสร้างภาคการเมืองให้มั่นคง
01:10
And then the second step is to say,
13
54000
3000
จากนั้น ขั้นตอนต่อมาก็คือ
01:13
"The situation is admittedly dangerous, but only for a short time."
14
57000
3000
"สถานการณ์ที่ถูกมองว่าอันตราย แต่ก็แค่ช่วงเวลาสั้นๆ"
01:16
So get peacekeepers there, but get them home as soon as possible.
15
60000
5000
ก็ส่งเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงเข้าไปดูแล แล้วให้พวกเขากลับเข้ากรมกองโดยเร็วที่สุด
01:21
So, short-term peacekeepers.
16
65000
3000
ดังนั้น เจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงจะทำงานแค่ช่วงสั้นๆ ด้วยเช่นกัน
01:24
And thirdly, what is the exit strategy for the peacekeepers?
17
68000
4000
และขั้นตอนที่สาม อะไรคือจุดยุติของการรักษาความมั่นคง
01:28
It's an election.
18
72000
2000
ก็คือจัดการเลือกตั้ง
01:30
That will produce a legitimate and accountable government.
19
74000
5000
ซึ่งจะทำให้ประเทศมีรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมายและได้รับความเห็นชอบจากประชาชน
01:35
So that's the conventional approach.
20
79000
3000
ทั้งหมดนั้นคือ แนวคิดแบบดั้งเดิม
01:38
I think that approach denies reality.
21
82000
4000
ผมคิดว่า แนวคิดนี้ปฏิเสธความจริง
01:42
We see that there is no quick fix.
22
86000
4000
เราต้องยอมรับว่าไม่มีทางแก้ไขที่รวดเร็ว
01:46
There's certainly no quick security fix.
23
90000
3000
พูดตรงๆ ก็คือ ความมั่นคงไม่ได้แก้ได้รวดเร็วขนาดนั้นแน่ๆ
01:49
I've tried to look at the risks of reversion to conflict,
24
93000
3000
ผมพยายามเน้นไปที่โอกาสของการเกิดความขัดแย้งซ้ำอีก
01:52
during our post-conflict decade.
25
96000
2000
ภายในช่วงทศวรรษที่เกิดความขัดแย้งไปแล้ว
01:54
And the risks stay high throughout the decade.
26
98000
4000
และโอกาสดังกล่าวก็จะยังสูงอยู่ตลอดช่วงทศวรรษ
01:58
And they stay high regardless of the political innovations.
27
102000
7000
และมันก็จะยังสูงอยู่ แม้ว่าจะมีการพัฒนาทางการเมือง
02:05
Does an election produce an accountable and legitimate government?
28
109000
5000
แล้วการเลือกตั้งจะทำให้เราได้รัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมายและได้รับความเห็นชอบจากประชาชนจริงหรือ?
02:10
What an election produces is a winner and a loser.
29
114000
5000
สิ่งที่การเลือกตั้งมอบให้ก็แค่ความเป็นผู้ชนะและผู้แพ้
02:15
And the loser is unreconciled.
30
119000
5000
และผู้แพ้ก็จะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง
02:20
The reality is that we need to reverse the sequence.
31
124000
4000
ในความจริงแล้ว เราต้องสลับขั้นตอนกัน
02:24
It's not the politics first;
32
128000
2000
ไม่ใช่ว่าต้องแก้การเมืองก่อน
02:26
it's actually the politics last.
33
130000
3000
แต่ต้องแก้ทีหลังต่างหาก
02:29
The politics become easier as the decade progresses
34
133000
3000
เมื่อเวลาผ่านไป ภาคการเมืองจะถูกแก้ไขได้ง่ายกว่า
02:32
if you're building on a foundation
35
136000
3000
ถ้าคุณเริ่มจากการสร้างรากฐาน
02:35
of security and economic development --
36
139000
5000
ของความมั่นคงและการพัฒนาเศรษฐกิจ
02:40
the rebuilding of prosperity.
37
144000
2000
นั่นคือ ต้องสร้างความสำเร็จเหล่านี้ขึ้นมาก่อน
02:42
Why does the politics get easier?
38
146000
2000
ทำไมการเมืองถึงแก้ไขได้ง่ายขึ้น?
02:44
And why is it so difficult initially?
39
148000
2000
และทำไมการเมืองถึงแก้ได้ยากในตอนแรก?
02:46
Because after years of stagnation and decline,
40
150000
4000
เพราะหลังจากการตกต่ำทางเศรษฐกิจมายาวนาน
02:50
the mentality of politics is that it's a zero-sum game.
41
154000
6000
แนวคิดเกี่ยวกับการเมืองจะเป็นเรื่องของการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ (Zero-sum Game)
02:56
If the reality is stagnation,
42
160000
2000
ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำนั้น
02:58
I can only go up if you go down.
43
162000
3000
ฉันจะดีขึ้นก็ต่อเมื่อคุณเลวลง
03:01
And that doesn't produce a productive politics.
44
165000
5000
และแนวคิดเช่นนี้จะไม่ทำให้การเมืองพัฒนา
03:06
And so the mentality has to shift from
45
170000
3000
ดังนั้น แนวคิดจะต้องขยับจาก
03:09
zero-sum to positive-sum
46
173000
2000
ผลรวมที่เป็นศูนย์ (Zero-sum) กลายเป็นผลรวมที่เป็นบวก (Positive-sum)
03:11
before you can get a productive politics.
47
175000
4000
เพื่อให้การเมืองพัฒนาได้
03:15
You can only get positive, that mental shift,
48
179000
2000
แนวคิดของคุณสามารถยอมรับการเมืองที่มีผลรวมเป็นบวกได้
03:17
if the reality is that prosperity is being built.
49
181000
4000
ถ้าความเป็นจริงอยู่ในสถานการณ์ที่ดีขึ้น
03:21
And in order to build prosperity, we need security in place.
50
185000
5000
และก่อนที่สถานการณ์จะดีขึ้น เราต้องการความมั่นคงในพื้นที่
03:26
So that is what you get when you face reality.
51
190000
2000
นั่นคือความเป็นจริงที่ต้องเผชิญ
03:28
But the objective of facing reality
52
192000
2000
แต่วัตถุประสงค์ของการเผชิญความจริง
03:30
is to change reality.
53
194000
2000
ก็คือเปลี่ยนความเป็นจริง
03:32
And so now let me suggest
54
196000
2000
ถึงเวลานี้ ขอผมนำเสนอ
03:34
two complimentary approaches
55
198000
4000
แนวคิดที่ประกอบกันสองแนวคิด
03:38
to changing the reality of the situations.
56
202000
3000
เพื่อเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ที่เป็นจริง
03:41
The first is to recognize the interdependence
57
205000
4000
แนวคิดแรกคือต้องตระหนักถึงความเชื่อมโยงกัน
03:45
of three key actors, who are different actors,
58
209000
5000
ของผู้เกี่ยวข้องสามราย ที่แตกต่างกัน
03:50
and at the moment are uncoordinated.
59
214000
3000
ในสถานการณ์ปกติ พวกเขาไม่ได้ร่วมมือกัน
03:53
The first actor is the Security Council.
60
217000
3000
ผู้เกี่ยวข้องรายแรกคือ หน่วยงานความมั่นคง
03:56
The Security Council typically has the responsibility
61
220000
4000
หน่วยงานความมั่นคง โดยปกติแล้วจะมีความรับผิดชอบ
04:00
for providing the peacekeepers
62
224000
2000
ต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่
04:02
who build the security.
63
226000
3000
ที่รักษาความมั่นคง
04:05
And that needs to be recognized,
64
229000
2000
และเมื่อเราตระหนักในเรื่องนี้
04:07
first of all, that peacekeeping works.
65
231000
3000
สิ่งแรกที่ต้องนึกถึง หากเจ้าหน้าที่ความมั่นคงออกทำงาน
04:10
It is a cost-effective approach.
66
234000
2000
มันมีต้นทุนและประสิทธิผลมาเกี่ยวข้อง
04:12
It does increase security.
67
236000
3000
มันก่อให้เกิดความมั่นคงก็จริง
04:15
But it needs to be done long-term.
68
239000
2000
แต่ความมั่นคงต้องใช้เวลายาวนานจึงจะสำเร็จ
04:17
It needs to be a decade-long approach,
69
241000
2000
มันอาจจะต้องใช้เวลาเป็นทศวรรษ
04:19
rather than just a couple of years.
70
243000
2000
มากกว่าแค่สองสามปี
04:21
That's one actor, the Security Council.
71
245000
3000
นั่นคือผู้เกี่ยวข้องรายแรก หน่วยงานความมั่นคง
04:24
The second actor, different cast of guys,
72
248000
3000
ผู้เกี่ยวข้องรายที่สองคือ
04:27
is the donors.
73
251000
2000
ผู้บริจาคเงิน
04:29
The donors provide post-conflict aid.
74
253000
3000
ผู้บริจาคเงินจะให้เงินสนับสนุนภายหลังความขัดแย้ง
04:32
Typically in the past,
75
256000
3000
โดยปกติแล้ว ในอดีต
04:35
the donors have been interested in the first couple of years,
76
259000
3000
ผู้บริจาคเงินจะให้ความสนใจเฉพาะในช่วงสองสามปีแรก
04:38
and then they got bored.
77
262000
2000
จากนั้น พวกเขาจะเริ่มเบื่อ
04:40
They moved on to some other situation.
78
264000
3000
แล้วก็จะย้ายไปสู่สถานการณ์อื่น
04:43
Post-conflict economic recovery
79
267000
2000
การฟื้นฟูประเทศภายหลังความขัดแย้ง
04:45
is a slow process.
80
269000
2000
เป็นกระบวนการที่ค่อยเป็นค่อยไป
04:47
There are no quick processes in economics
81
271000
3000
ไม่มีกระบวนการที่รวดเร็วในทางเศรษฐศาสตร์
04:50
except decline.
82
274000
2000
ยกเว้น จะทำให้มันเลวร้ายลง
04:52
You can do that quite fast.
83
276000
2000
ซึ่งคุณสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว
04:54
(Laughter)
84
278000
1000
(เสียงหัวเราะ)
04:55
So the donors have to stick with this situation
85
279000
5000
ดังนั้น ผู้บริจาคเงินจะต้องอยู่กับปัญหา
05:00
for at least a decade.
86
284000
4000
อย่างน้อยก็เป็นทศวรรษ
05:04
And then the third key actor
87
288000
2000
และผู้เกี่ยวข้องรายที่สาม
05:06
is the post-conflict government.
88
290000
3000
คือรัฐบาลที่จัดตั้งขึ้นภายหลังความขัดแย้ง
05:09
And there are two key things it's got to do.
89
293000
2000
มีสองเรื่องใหญ่ๆ ที่จำเป็นต้องทำ
05:11
One is it's got to do economic reform,
90
295000
4000
หนึ่งคือต้องปฏิรูปเศรษฐกิจ
05:15
not fuss about the political constitution.
91
299000
3000
และอย่าไปกังวลมากเกินไปกับรัฐธรรมนูญ
05:18
It's got to reform economic policy.
92
302000
2000
ต้องเร่งปฏิรูปนโยบายเศรษฐกิจก่อน
05:20
Why? Because during conflict
93
304000
3000
ทำไม? เพราะระหว่างที่เกิดความขัดแย้ง
05:23
economic policy typically deteriorates.
94
307000
3000
นโยบายเศรษฐกิจจะสร้างความเสียหายไว้มาก
05:26
Governments snatch short-term opportunities
95
310000
4000
รัฐบาลที่ผ่านมามักจะฉวยเอาแต่โอกาสในระยะสั้น
05:30
and, by the end of the conflict, the chickens have come home to roost.
96
314000
4000
และเมื่อความขัดแย้งสิ้นสุดลง สิ่งที่รัฐบาลในเวลานั้นเคยทำอย่างไรประเทศก็จะได้อย่างนั้น
05:34
So this legacy of conflict is really bad economic policy.
97
318000
3000
ดังนั้น มรดกของความขัดแย้งก็คือนโยบายเศรษฐกิจที่ไม่มีประสิทธิภาพ
05:37
So there is a reform agenda, and there is an inclusion agenda.
98
321000
4000
ดังนั้น มีวาระของการปฏิรูป และก็มีวาระอื่นๆ รวมอยู่ด้วย
05:41
The inclusion agenda doesn't come from elections.
99
325000
3000
ซึ่งวาระอื่นๆ ที่ว่า ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง
05:44
Elections produce a loser, who is then excluded.
100
328000
5000
การเลือกตั้งก่อให้เกิดผู้แพ้ ที่ถูกกีดกันออกไป
05:49
So the inclusion agenda means genuinely
101
333000
3000
ดังนั้น วาระที่มีหลายๆ ประเด็นรวมอยู่ แท้จริงแล้ว หมายถึง
05:52
bringing people inside the tent.
102
336000
3000
วาระของคนบางกลุ่ม
05:55
So those three actors.
103
339000
2000
อย่างไรก็ตาม ผู้เกี่ยวข้องสามรายนี้
05:57
And they are interdependent
104
341000
2000
ต้องทำงานร่วมกัน
05:59
over a long term.
105
343000
3000
เป็นเวลานาน
06:02
If the Security Council doesn't commit to security
106
346000
4000
ถ้าหน่วยงานความมั่นคงรักษาความมั่นคงไม่ได้
06:06
over the course of a decade,
107
350000
2000
ตลอดช่วงทศวรรษที่ว่า
06:08
you don't get the reassurance which produces private investment.
108
352000
4000
การลงทุนใหม่ของภาคเอกชนก็จะไม่เกิด
06:12
If you don't get the policy reform and the aid,
109
356000
4000
หรือถ้าคุณไม่ได้ปฏิรูปนโยบายและได้รับเงินช่วยเหลือ
06:16
you don't get the economic recovery,
110
360000
2000
การฟื้นฟูเศรษฐกิจก็จะเกิดขึ้นไม่ได้เช่นกัน
06:18
which is the true exit strategy for the peacekeepers.
111
362000
4000
ซึ่งเหล่านี้คือทางออกที่แท้จริงของการฟื้นฟูประเทศ
06:22
So we should recognize that interdependence,
112
366000
4000
ดังนั้น พวกเราควรจะตระหนักถึง
06:26
by formal, mutual commitments.
113
370000
3000
พันธกิจร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นทางการ
06:29
The United Nations actually has a language
114
373000
3000
ที่จริงแล้ว สหประชาชาติมีข้อกำหนด
06:32
for these mutual commitments, the recognition of mutual commitments;
115
376000
3000
สำหรับพันธกิจร่วมกันของผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงข้อควรตระหนักของพันธกิจเหล่านั้น
06:35
it's called the language of compact.
116
379000
4000
มันถูกเรียกว่า language of compact
06:39
And so we need a post-conflict compact.
117
383000
3000
ดังนั้น เราต้องการ post-conflict compact
06:42
The United Nations even has an agency which could broker these compacts;
118
386000
3000
สหประชาชาติยังมีหน่วยงานที่ดูแล compacts เหล่านี้
06:45
it's called the Peace Building Commission.
119
389000
4000
นั่นก็คือ คณะกรรมการสร้างสันติภาพ (Peace Building Commission)
06:49
It would be ideal to have a standard set of norms
120
393000
5000
แนวคิดก็คือควรจะมีแนวทางที่ชัดเจน
06:54
where, when we got to a post-conflict situation,
121
398000
3000
ว่าที่ไหนและเมื่อไหร่ก็ตามที่เราเกิดสถานการณ์ภายหลังความขัดแย้ง
06:57
there was an expectation of these mutual commitments
122
401000
4000
จะต้องมีความคาดหวังต่อพันธกิจเหล่านี้ร่วมกัน
07:01
from the three parties.
123
405000
3000
จากผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งสามราย
07:04
So that's idea one:
124
408000
3000
และนั่นคือแนวคิดแรก
07:07
recognize interdependence.
125
411000
3000
ต้องร่วมมือกัน
07:10
And now let me turn to the second approach, which is complimentary.
126
414000
4000
ถึงตอนนี้ ผมจะขอพูดถึงแนวคิดที่สอง ซึ่งเสริมกันกับแนวคิดแรก
07:14
And that is to focus on a few critical objectives.
127
418000
9000
โดยจะเน้นไปที่วัตถุประสงค์สำคัญสองสามประการ
07:23
Typical post-conflict situation is a zoo
128
427000
3000
ปกติแล้ว สถานการณ์ภายหลังความขัดแย้งจะคล้ายๆ กับสวนสัตว์
07:26
of different actors with different priorities.
129
430000
4000
ที่มีผู้เกี่ยวข้องหลายรายและมีความสำคัญที่แตกต่างกัน
07:30
And indeed, unfortunately, if you navigate by needs
130
434000
4000
และโชคไม่ดีด้วยว่า หากคุณพยายามตอบสนองทุกๆ ความต้องการ
07:34
you get a very unfocused agenda,
131
438000
3000
วาระของประเทศก็จะกระจัดกระจายมากๆ
07:37
because in these situations, needs are everywhere,
132
441000
3000
เพราะในสถานการณ์เหล่านี้ ความต้องการมีอยู่ทุกหนแห่ง
07:40
but the capacity to implement change is very limited.
133
444000
4000
แต่ความสามารถในการตอบสนองกลับมีอยู่อย่างจำกัด
07:44
So we have to be disciplined and focus on things that are critical.
134
448000
5000
ดังนั้น พวกเราต้องมีวินัยและเน้นไปที่สิ่งสำคัญจริงๆ เท่านั้น
07:49
And I want to suggest that in the typical post-conflict situation
135
453000
3000
ผมต้องการแนะนำว่า โดยปกติแล้ว ในสถานการณ์ภายหลังความขัดแย้ง
07:52
three things are critical.
136
456000
3000
มีสามสิ่งที่สำคัญ
07:55
One is jobs.
137
459000
2000
หนึ่งคืองาน
07:57
One is improvements in basic services --
138
461000
2000
สองคือการปรับปรุงบริการขั้นพื้นฐาน
07:59
especially health, which is a disaster during conflict.
139
463000
4000
โดยเฉพาะการสาธารณสุข ซึ่งมีปัญหามากในช่วงที่มีความขัดแย้ง
08:03
So jobs, health, and clean government.
140
467000
5000
และสามคือรัฐบาลที่ขาวสะอาด
08:08
Those are the three critical priorities.
141
472000
4000
สิ่งเหล่านี้คือสามสิ่งที่สำคัญที่สุด
08:12
So I'm going to talk a little about each of them.
142
476000
2000
ผมจะขอกล่าวถึงแต่ละสิ่งแบบสั้นๆ
08:14
Jobs.
143
478000
2000
งาน
08:16
What is a distinctive approach
144
480000
3000
อะไรเป็นแนวคิดที่ต่างออกไป
08:19
to generating jobs in post-conflict situations?
145
483000
3000
เพื่อสร้างงานในสถานการณ์ภายหลังความขัดแย้ง?
08:22
And why are jobs so important?
146
486000
2000
และทำไมงานถึงสำคัญ?
08:24
Jobs for whom? Especially jobs for young men.
147
488000
5000
งานสำหรับใคร? ที่เน้นก็คือต้องสร้างงานสำหรับคนหนุ่ม
08:29
In post-conflict situations,
148
493000
2000
ในสถานการณ์ภายหลังความขัดแย้ง
08:31
the reason that they so often revert to conflict,
149
495000
4000
เหตุผลที่ความขัดแย้งจะกลับมาอีก
08:35
is not because elderly women get upset.
150
499000
3000
ไม่ใช่เป็นเพราะผู้หญิงแก่รู้สึกแย่
08:38
It's because young men get upset.
151
502000
3000
แต่เป็นเพราะชายหนุ่มรู้สึกแย่
08:41
And why are they upset? Because they have nothing to do.
152
505000
3000
แล้วทำไมพวกเขาถึงรู้สึกแย่? นั่นก็เพราะพวกเขาไม่มีอะไรจะทำ
08:44
And so we need a process of generating jobs,
153
508000
6000
ดังนั้น พวกเราจึงต้องสร้างงาน
08:50
for ordinary young men, fast.
154
514000
3000
สำหรับชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว
08:53
Now, that is difficult.
155
517000
3000
ณ ตอนนี้เป็นสิ่งที่ยาก
08:56
Governments in post-conflict situation
156
520000
2000
รัฐบาลในสถานการณ์ภายหลังความขัดแย้ง
08:58
often respond by puffing up the civil service.
157
522000
4000
มักจะเพิ่มรายจ่ายสาธารณะมากเกินไป
09:02
That is not a good idea.
158
526000
2000
ซึ่งไม่ใช่ความคิดที่ดี
09:04
It's not sustainable.
159
528000
2000
มันไม่ยั่งยืน
09:06
In fact, you're building a long-term liability
160
530000
3000
เพราะเท่ากับว่าคุณกำลังสร้างหนี้สินในระยะยาว
09:09
by inflating civil service.
161
533000
2000
จากการเพิ่มรายจ่ายสาธารณะ
09:11
But getting the private sector to expand is also difficult,
162
535000
4000
แต่การจะสนับสนุนให้ภาคเอกชนขยายตัวก็อาจจะไม่ง่าย
09:15
because any activity which is open to international trade
163
539000
5000
เพราะกิจกรรมบางอย่างต้องอาศัยการค้าระหว่างประเทศ
09:20
is basically going to be uncompetitive
164
544000
2000
ที่ประเทศอาจจะสูญเสียความได้เปรียบในการแข่งขันไปแล้ว
09:22
in a post-conflict situation.
165
546000
2000
ในสถานการณ์ภายหลังความขัดแย้ง
09:24
These are not environments where you can build export manufacturing.
166
548000
5000
และสิ่งแวดล้อมเหล่านี้ไม่ได้เอื้อต่อการสนับสนุนอุตสาหกรรมการส่งออกมากนัก
09:29
There's one sector which isn't exposed to international trade,
167
553000
5000
แต่ก็มีอยู่สาขาหนึ่งที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างประเทศ
09:34
and which can generate a lot of jobs,
168
558000
3000
และสามารถสร้างงานได้มากด้วย
09:37
and which is, in any case, a sensible sector
169
561000
2000
และในบางครั้งก็ยังเป็นสาขาที่อ่อนไหว
09:39
to expand, post-conflict,
170
563000
2000
ต่อการขยายตัวในช่วงหลังความขัดแย้ง
09:41
and that is the construction sector.
171
565000
4000
นั่นก็คือสาขาก่อสร้าง
09:45
The construction sector has a vital role,
172
569000
3000
ภาคการก่อสร้างมีบทบาทสำคัญมาก
09:48
obviously, in reconstruction.
173
572000
3000
ชัดเจนที่สุดก็คือเพื่อก่อสร้างสิ่งที่เสียหายไปแล้ว
09:51
But typically that sector has withered away during conflict.
174
575000
5000
โดยปกติแล้ว สาขานี้จะซบเซาลงระหว่างความขัดแย้ง
09:56
During conflict people are doing destruction.
175
580000
2000
ระหว่างที่มีความขัดแย้ง ประชาชนจะทำลายสิ่งปลูกสร้าง
09:58
There isn't any construction going on. And so the sector shrivels away.
176
582000
4000
และไม่มีการก่อสร้างใดใดเกิดขึ้น จนสาขานี้ซบเซาอย่างหนัก
10:02
And then when you try and expand it,
177
586000
2000
และเมื่อคุณพยายามทำให้มันขยายตัว
10:04
because it's shriveled away,
178
588000
2000
จากการที่มันเคยซบเซาอย่างหนัก
10:06
you encounter a lot of bottlenecks.
179
590000
3000
คุณจะประสบปัญหาสภาวะคอขวด
10:09
Basically, prices soar
180
593000
2000
โดยพื้นฐานแล้ว ราคาจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
10:11
and crooked politicians then milk the rents from the sector,
181
595000
4000
และนักการเมืองก็จะเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์จากสาขานี้
10:15
but it doesn't generate any jobs.
182
599000
2000
และมันก็จะไม่ได้สร้างงาน
10:17
And so the policy priority is to break the bottlenecks
183
601000
3000
ดังนั้น นโยบายจึงต้องให้ความสำคัญเพื่อแก้ปัญหาคอขวด
10:20
in expanding the construction sector.
184
604000
3000
ในการขยายตัวของสาขาก่อสร้าง
10:23
What might the bottlenecks be?
185
607000
2000
อะไรคือปัญหาคอขวด?
10:25
Just think what you have to do
186
609000
3000
ลองนึกถึงว่าอะไรก็ตามที่คุณต้องทำ
10:28
successfully to build a structure, using a lot of labor.
187
612000
3000
ให้สำเร็จเพื่อสร้างโครงสร้าง และใช้แรงงานจำนวนมากๆ
10:31
First you need access to land.
188
615000
2000
ก่อนอื่น คุณต้องกว้านซื้อที่ดิน
10:33
Often the legal system is broken down
189
617000
2000
ระบบกฎหมายที่ไม่มีประสิทธิภาพ
10:35
so you can't even get access to land.
190
619000
2000
อาจจะทำให้คุณกว้านซื้อที่ดินไม่ได้
10:37
Secondly you need skills,
191
621000
2000
สอง คุณต้องการทักษะ
10:39
the mundane skills of the construction sector.
192
623000
4000
ทักษะเฉพาะที่ใช้งานได้จริงในสาขาก่อสร้าง
10:43
In post-conflict situations we don't just need Doctors Without Borders,
193
627000
4000
ในสถานการณ์ภายหลังความขัดแย้ง เราไม่ได้ต้องการแค่หมอที่ทำงานร่วมกันเองได้้
10:47
we need Bricklayers Without Borders,
194
631000
2000
เราต้องการช่างก่อสร้างที่มาจากหลากหลายกลุ่มและเข้ากันได้ด้วย
10:49
to rebuild the skill set.
195
633000
3000
เพื่อสร้างทักษะร่วมกัน
10:52
We need firms. The firms have gone away.
196
636000
3000
เราต้องการบริษัทเอกชน เพราะพวกเขาถอนตัวออกไป
10:55
So we need to encourage the growth of local firms.
197
639000
3000
ดังนั้น เราต้องการสนับสนุนบริษัทเอกชนให้กลับมาลงทุน
10:58
If we do that, we not only get the jobs,
198
642000
3000
ถ้าพวกเราทำได้ ไม่ใช่ว่าเราจะได้แค่งาน
11:01
we get the improvements in public infrastructure,
199
645000
3000
แต่เราจะได้การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะด้วย
11:04
the restoration of public infrastructure.
200
648000
3000
โครงสร้างพื้นฐานสาธารณะก็จะดีขึ้นตามมา
11:07
Let me turn from jobs to the second objective,
201
651000
6000
ผมจะขอเปลี่ยนจากเรื่องงานไปสู่วัตถุประสงค์ที่สอง
11:13
which is improving basic social services.
202
657000
4000
ซึ่งก็คือการปรับปรุงบริการพื้นฐาน
11:17
And to date, there has been a sort of a schizophrenia
203
661000
4000
มาถึงตอนนี้ มีประเด็นที่ขัดแย้งกันอยู่
11:21
in the donor community,
204
665000
2000
ในสังคมของการบริจาคเงินช่วยเหลือ
11:23
as to how to build basic services
205
667000
3000
อันเนื่องมาจากวิธีการสร้างบริการพื้นฐาน
11:26
in post-conflict sectors.
206
670000
2000
ในช่วงหลังความขัดแย้ง
11:28
On the one hand it pays lip service
207
672000
2000
ในด้านหนึ่ง ผู้บริจาคจ่ายเงินเพื่อสร้างบริการต่างๆ
11:30
to the idea of rebuild an effective state
208
674000
4000
ตามแนวคิดเพื่อสร้างรัฐที่มีประสิทธิภาพ
11:34
in the image of Scandinavia in the 1950s.
209
678000
3000
อย่างที่เคยเกิดในแถบสแกนดิเนเวียช่วงทศวรรษ 1950s
11:37
Lets develop line ministries of this, that, and the other,
210
681000
3000
โดยปล่อยให้หน่วยงานราชการต่างๆ
11:40
that deliver these services.
211
684000
3000
ดำเนินการไป
11:43
And it's schizophrenic because in their hearts
212
687000
3000
แต่มันเป็นประเด็นที่ขัดแย้งก็เพราะลึกๆ แล้ว
11:46
donors know that's not a realistic agenda,
213
690000
3000
ผู้บริจาคไม่ได้รู้สถานการณ์ที่แท้จริง
11:49
and so what they also do is the total bypass:
214
693000
3000
และสิ่งที่พวกเขาทำก็คือข้ามขั้นตอนของการตรวจสอบความต้องการไปสู่การจ่ายเงินไปเลย
11:52
just fund NGOs.
215
696000
4000
จริงๆ แล้ว ก็แค่ให้เงินสนุบสนุน NGOs
11:56
Neither of those approaches is sensible.
216
700000
3000
ไม่มีแนวคิดไหนที่สมเหตุสมผลเพียงพอในการทำเอง
11:59
And so what I'd suggest
217
703000
4000
และสิ่งที่ผมขอเสนอแนะ
12:03
is what I call Independent Service Authorities.
218
707000
3000
ก็คือ องค์กรอิสระ
12:06
It's to split the functions of a monopoly line ministry up into three.
219
710000
5000
มันจะต้องแบ่งอำนาจหน้าที่ที่ผูกขาดของหน่วยงานราชการออกเป็นสามส่วน
12:11
The planning function and policy function stays with the ministry;
220
715000
4000
หน้าที่ในการวางแผนและกำกับนโยบายเป็นของหน่วยงานราชการ
12:15
the delivery of services on the ground,
221
719000
3000
ส่วนหน้าที่ในการผลิตบริการ
12:18
you should use whatever works --
222
722000
2000
คุณควรจะใช้
12:20
churches, NGOs, local communities,
223
724000
3000
โบสถ์, NGOs หรือหน่วยงานท้องถิ่น
12:23
whatever works.
224
727000
2000
หน่วยงานไหนก็ได้ที่ทำได้ดี
12:25
And in between, there should be a public agency,
225
729000
3000
และระหว่างนั้น ควรจะมีหน่วยงานสาธารณะ
12:28
the Independent Service Authority,
226
732000
2000
นั่นคือ องค์กรอิสระ
12:30
which channels public money,
227
734000
2000
มาเป็นผู้ใช้จ่ายเงินสาธารณะ
12:32
and especially donor money,
228
736000
2000
โดยเฉพาะเงินบริจาค
12:34
to the retail providers.
229
738000
3000
ให้กับผู้ดำเนินการรายย่อยๆ
12:37
So the NGOs become part of a public government system,
230
741000
5000
ดังนั้น NGOs จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบรัฐบาล
12:42
rather than independent of it.
231
746000
3000
มากกว่าที่จะแค่เป็นองค์กรอิสระ
12:45
One advantage of that is that you can allocate money coherently.
232
749000
4000
ข้อดีประการหนึ่งก็คือคุณสามารถจัดสรรเงินได้อย่างเหมาะสม
12:49
Another is, you can make NGOs accountable.
233
753000
3000
อีกประการหนึ่งก็คือ NGOs จะเข้ามาร่วมตรวจสอบด้วย
12:52
You can use yardstick competition,
234
756000
2000
โดยคุณสามารถใช้การแข่งขันเป็นมาตรฐานในการตัดสินคุณภาพ
12:54
so they have to compete against each other
235
758000
3000
ดังนั้น พวกเขาต้องเข้ามาแข่งขันกัน
12:57
for the resources.
236
761000
2000
เพื่อเข้าถึงทรัพยากร
12:59
The good NGOs, like Oxfam, are very keen on this idea.
237
763000
3000
NGOs ที่ดี อย่างเช่น Oxfam มีความหลักแหลมในความคิดนี้
13:02
They want to have the discipline and accountability.
238
766000
6000
พวกเขาต้องการให้มีระเบียบและความรับผิดชอบ
13:08
So that's a way to get basic services scaled up.
239
772000
3000
นั่นคือหนทางของการขยายบริการขั้นพื้นฐาน
13:11
And because the government would be funding it,
240
775000
3000
และรัฐบาลบางประเทศที่มีส่วนในการให้เงินสนับสนุน
13:14
it would be co-branding these services.
241
778000
2000
ก็ควรได้รับการใช้ชื่อร่วมด้วย
13:16
So they wouldn't be provided thanks to
242
780000
4000
โดยไม่ควรจะแยกกันว่าเป็น
13:20
the United States government and some NGO.
243
784000
4000
รัฐบาลสหรัฐและ NGOs
13:24
They would be co-branded
244
788000
2000
มันควรจะเป็นชื่อร่วมกัน
13:26
as being done by the post-conflict government, in the country.
245
790000
5000
ตลอดการดำเนินการของรัฐบาลที่จัดตั้งขึ้นภายหลังความขัดแย้ง ในประเทศนั้นๆ
13:31
So, jobs, basic services, finally, clean government.
246
795000
6000
ดังนั้น งาน บริการขั้นพื้นฐาน และสุดท้าย รัฐบาลที่ขาวสะอาด
13:37
Clean means follow their money.
247
801000
3000
ขาวสะอาดในที่นี้ หมายถึงตรวจสอบการใช้เงินได้
13:40
The typical post-conflict government is so short of money
248
804000
5000
ปกติแล้ว รัฐบาลภายหลังความขัดแย้งจะขาดแคลนเงิน
13:45
that it needs our money
249
809000
2000
ดังนั้น พวกเขาต้องการเงินจากพวกเรา
13:47
just to be on a life-support system.
250
811000
3000
เพื่อสนับสนุนต่อการดำเนินการต่างๆ ของพวกเขา
13:50
You can't get the basic functions of the state done
251
814000
3000
คุณไม่สามารถดำเนินการตามหน้าที่พื้นฐานของรัฐได้
13:53
unless we put money into the core budget of these countries.
252
817000
4000
ถ้าพวกเราไม่ได้ให้เงินสนับสนุนไปยังงบประมาณส่วนที่สำคัญของประเทศเหล่านี้
13:57
But, if we put money into the core budget,
253
821000
4000
แต่ถ้าพวกเราอัดฉีดเงินเข้าไปยังงบประมาณ
14:01
we know that there aren't the budget systems with integrity
254
825000
7000
พวกเรารู้ดีว่าระบบงบประมาณไม่โปร่งใส
14:08
that mean that money will be well spent.
255
832000
3000
นั่นหมายความว่าเงินจะไม่ถูกใช้จ่ายอย่างเหมาะสม
14:11
And if all we do is put money in and close our eyes
256
835000
4000
และถ้าพวกเราเอาแต่ใส่เงินเข้าไปแล้วก็ปิดตาซะ
14:15
it's not just that the money is wasted --
257
839000
2000
เงินเหล่านั้นก็จะถูกผลาญ
14:17
that's the least of the problems --
258
841000
2000
และนั่นอาจจะเป็นปัญหาที่เลวร้ายน้อยที่สุด
14:19
it's that the money is captured.
259
843000
3000
เงินจะเย้ายวน
14:22
It's captured by the crooks who are at the heart of the political problem.
260
846000
6000
เย้ายวนต่อคนคดโกงที่เป็นหัวใจของปัญหาทางการเมือง
14:28
And so inadvertently we empower the people who are the problem.
261
852000
5000
และเรากำลังก่อปัญหาให้เพิ่มขึ้น โดยไม่ได้ตั้งใจ
14:33
So building clean government means, yes, provide money
262
857000
3000
ดังนั้น การสร้างรัฐบาลที่ขาวสะอาดก็คือ, ใช่แล้ว, การแบ่งสรรเงิน
14:36
to the budget,
263
860000
2000
ในงบประมาณ
14:38
but also provide a lot of scrutiny,
264
862000
5000
พร้อมๆ กับต้องแบ่งสรรการตรวจสอบอย่างละเอียดด้วย
14:43
which means a lot of technical assistance that follows the money.
265
867000
3000
สิ่งนี้หมายถึงเจ้าหน้าที่ทางเทคนิคจำนวนมากที่ทำหน้าที่ติดตามเงิน
14:46
Paddy Ashdown, who was the grand high nabob of Bosnia
266
870000
5000
Paddy Ashdown ผู้ซึ่งมีอำนาจมากของบอสเนีย
14:51
to the United Nations,
267
875000
2000
ในสหประชาชาติ
14:53
in his book about his experience, he said,
268
877000
2000
เขียนหนังสือจากประสบการณ์ของเขา โดยเขากล่าวว่า
14:55
"I realize what I needed
269
879000
3000
"ผมเข้าใจดีว่าสิ่งที่ผมต้องการ
14:58
was accountants without borders,
270
882000
4000
คือนักบัญชีที่ร่วมมือกัน
15:02
to follow that money."
271
886000
2000
เพื่อติดตามเงิน"
15:04
So that's the -- let me wrap up,
272
888000
3000
ให้ผมสรุปก็คือ
15:07
this is the package.
273
891000
3000
นี่คือแพคเกจ
15:10
What's the goal?
274
894000
2000
อะไรคือเป้าหมาย?
15:12
If we follow this, what would we hope to achieve?
275
896000
4000
ถ้าเราติดตามเงิน เราหวังอะไรจากการกระทำเช่นนั้น?
15:16
That after 10 years,
276
900000
3000
หลังจากเวลาผ่านไป 10 ปี
15:19
the focus on the construction sector
277
903000
3000
การให้ความสำคัญกับสาขาก่อสร้าง
15:22
would have produced both jobs
278
906000
2000
ควรจะผลิตทั้งงาน
15:24
and, hence, security --
279
908000
2000
และความมั่นคง
15:26
because young people would have jobs --
280
910000
2000
เพราะชายหนุ่มมีงานทำ
15:28
and it would have reconstructed the infrastructure.
281
912000
4000
และโครงสร้างพื้นฐานถูกสร้างขึ้นใหม่
15:32
So that's the focus on the construction sector.
282
916000
3000
ดังนั้น เราจึงมุ่งไปที่ภาคการก่อสร้าง
15:35
The focus on the basic service delivery
283
919000
2000
การมุ่งไปที่การสร้างบริการพื้นฐาน
15:37
through these independent service authorities
284
921000
3000
ผ่านองค์กรอิสระต่างๆ
15:40
would have rescued basic services
285
924000
3000
ที่ควรจะช่วยฟื้นฟูบริการขั้นพื้นฐาน
15:43
from their catastrophic levels,
286
927000
3000
จากความหายนะที่เกิดขึ้น
15:46
and it would have given ordinary people
287
930000
3000
และประชาชนธรรมดาเอง
15:49
the sense that the government was doing something useful.
288
933000
4000
ก็ควรแน่ใจว่ารัฐบาลกำลังทำในสิ่งที่มีประโยชน์
15:53
The emphasis on clean government
289
937000
3000
เราจึงมุ่งไปที่รัฐบาลที่ขาวสะอาด
15:56
would have gradually squeezed out the political crooks,
290
940000
3000
ที่นักการเมืองฉ้อฉลจะค่อยๆ ลดจำนวนลง
15:59
because there wouldn't be any money
291
943000
4000
เพราะจะไม่มีเงินส่วนใด
16:03
in taking part in the politics.
292
947000
2000
ไปเข้ากระเป๋านักการเมือง
16:05
And so gradually the selection,
293
949000
2000
กระบวนการคัดสรรจะค่อยๆ เปลี่ยนไป
16:07
the composition of politicians,
294
951000
2000
ตามสัดส่วนของนักการเมือง
16:09
would shift from the crooked to the honest.
295
953000
5000
ที่คนฉ้อฉลจะเริ่มออกไป แทนที่ด้วยคนที่ซื่อตรง
16:14
Where would that leave us?
296
958000
3000
สิ่งนี้จะนำเราไปไหน?
16:17
Gradually it would shift
297
961000
2000
การเปลี่ยนแปลงที่ค่อยเป็นค่อยไป
16:19
from a politics of plunder
298
963000
3000
จากการเมืองแห่งความฉ้อฉล
16:22
to a politics of hope. Thank you.
299
966000
3000
ไปสู่การเมืองแห่งความหวัง ขอบคุณ
16:25
(Applause)
300
969000
5000
(เสียงปรบมือ)
ABOUT THE SPEAKER
Paul Collier - EconomistPaul Collier’s book The Bottom Billion shows what is happening to the poorest people in the world, and offers ideas for opening up opportunities to all.
Why you should listen
Paul Collier studies the political and economic problems of the very poorest countries: 50 societies, many in sub-Saharan Africa, that are stagnating or in decline, and taking a billion people down with them. His book The Bottom Billion identifies the four traps that keep such countries mired in poverty, and outlines ways to help them escape, with a mix of direct aid and external support for internal change.
From 1998 to 2003, Collier was the director of the World Bank's Development Research Group; he now directs the Centre for the Study of African Economies at Oxford, where he continues to advise policymakers.
Paul Collier | Speaker | TED.com