TEDxToronto 2010
Drew Dudley: Everyday leadership
ดริว ดัดลี่: ความเป็นผู้นำในทุกๆวัน
Filmed:
Readability: 3.1
4,575,243 views
เราได้เคยเปลี่ยนแปลงทุกอย่างในชีวิตของคนบางคน -- และบ่อยครั้งที่พวกเราไม่รู้ตัว ในการบรรยายแบบขำขันนี้ คริว ดัดลี่ (Drew Dudley) ได้เรียกร้องให้พวกเราทุกคน มาเฉลิมฉลองความเป็นผู้นำ ให้เป็นการปฏิบัติที่เกิดขึ้นในทุกๆ วัน ในการปรับปรุงชีวิตของกันและกันให้ดีขึ้น (ถ่ายทำที่ TEDxToronto)
Drew Dudley - Leadership educator
Drew Dudley believes leadership is not a characteristic reserved for the extraordinary. He works to help people discover the leader within themselves. Full bio
Drew Dudley believes leadership is not a characteristic reserved for the extraordinary. He works to help people discover the leader within themselves. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:16
How many of you are completely comfortable
0
176
1758
ในที่นี้ มีใครบ้างที่รู้สึกสบายใจอย่างเต็มที่
00:17
with calling yourselves a leader?
1
1934
2818
ที่จะเรียกตัวเองว่า ผู้นำ
00:20
See, I've asked that question all the way across the country,
2
4752
2869
เห็นไหม ผมได้ถามคำถามนี้ตลอดทั่วประเทศ
00:23
and everywhere I ask it, no matter where,
3
7621
1835
และทุกที่ที่ผมถาม ไม่ว่าที่ไหนก็ตาม
00:25
there's always a huge portion of the audience that won't put up their hand.
4
9456
3104
จะมีผู้ฟังจำนวนมากเสมอ ที่ไม่ยกมือ
00:28
And I've come to realize that we have made leadership
5
12560
2025
และผมถึงได้รู้ว่า พวกเราได้ทำให้ ความเป็นผู้นำ
00:30
into something bigger than us.
6
14585
1401
เป็นสิ่งที่ใหญ่ กว่าตัวพวกเราเอง
00:31
We've made into something beyond us.
7
15986
1569
เราเปลี่ยนมัน ให้เป็นสิ่งที่ไกลออกไปจากพวกเรา
00:33
We've made it about changing the world.
8
17555
1973
ให้มันเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงโลก
00:35
And we've taken this title of leader, and we treat it
9
19528
1882
และเราถือว่าตำแหน่งผู้นำนี้
และเราปฏิบัติกับมัน
และเราปฏิบัติกับมัน
00:37
as if it's something that one day we're going to deserve,
10
21410
3065
ราวกับว่า มันเป็นสิ่งที่สักวันหนึ่ง เราจึงจะคู่ควรกับมัน
00:40
but to give it to ourselves right now
11
24475
1883
แต่การให้ตำแหน่งนี้กับตัวเราเอง
ในตอนนี้
ในตอนนี้
00:42
means a level of arrogance or cockiness that we're not comfortable with.
12
26358
3112
หมายถึง ระดับของความยะโสหรือโอหัง
ที่เราไม่สบายใจกับมันนัก
ที่เราไม่สบายใจกับมันนัก
00:45
And I worry sometimes that we spend so much time
13
29470
2527
และบางทีผมก็กังวลว่า เราใช้เวลาไปมากมายกับ
00:47
celebrating amazing things that hardly anybody can do
14
31997
3437
การยกย่องเชิดชูสิ่งมหัศจรรย์ต่างๆ
ที่น้อยคนนักจะทำได้
ที่น้อยคนนักจะทำได้
00:51
that we've convinced ourselves that those are
15
35434
1054
เราทำให้ตัวเราเองเชื่อว่า สิ่งเหล่านั้นเท่านั้น
00:52
the only things worth celebrating, and we start to
16
36488
2016
ที่ควรค่าแก่การยกย่อง และเราเริ่มที่จะ
00:54
devalue the things that we can do every day, and we start
17
38504
2139
ลดคุณค่า ของสิ่งที่เราสามารถทำได้ในทุกๆวันลง
00:56
to take moments where we truly are a leader
18
40643
2811
และเราเริ่มที่จะ ใช้เวลาช่วงสั้นๆ
ที่เราเป็นผู้นำจริงๆนั้น
ที่เราเป็นผู้นำจริงๆนั้น
00:59
and we don't let ourselves take credit for it,
19
43454
1896
และไม่ยอมให้ตัวเราเอง ได้รับเกียรตินั้น
01:01
and we don't let ourselves feel good about it.
20
45350
1435
และเราไม่ยอมให้ตัวเราเองรู้สึกดี
เกี่ยวกับสิ่งที่ทำนั้น
เกี่ยวกับสิ่งที่ทำนั้น
01:02
And I've been lucky enough over the last
21
46785
1847
และ ผมโชคดีพอควรทีเดียว ที่ผ่านมา
01:04
10 years to work with some amazing people
22
48632
1923
มากกว่า 10 ปี ที่ทำงานกับคนที่น่าอัศจรรย์บางคน
01:06
who have helped me redefine leadership in a way
23
50555
1467
คนที่ช่วยให้ผมตั้งคำนิยามของ ความเป็นผู้นำ
ขึ้นมาใหม่
ขึ้นมาใหม่
01:07
that I think has made me happier.
24
52022
1326
ที่ทำให้ผมคิดว่า รู้สึกมีความสุขมากขึ้น
01:09
And with my short time today, I just want to share with you
25
53348
2549
ด้วยเวลาอันสั้นในวันนี้
ผมเพียงแค่อยากจะแบ่งปันกับคุณ
ผมเพียงแค่อยากจะแบ่งปันกับคุณ
01:11
the one story that is probably most responsible for that redefinition.
26
55897
4399
เรื่องๆหนึ่ง ที่น่าจะเป็นต้นเหตุสำคัญที่สุด
สำหรับการตั้งคำนิยามใหม่นี้
สำหรับการตั้งคำนิยามใหม่นี้
01:16
I went to school in a little school called
27
60296
2195
ตอนที่ผมเรียนที่มหาวิทยาลัยเล็กๆแห่งหนึ่ง ชื่อ
01:18
Mount Allison University in Sackville, New Brunswick,
28
62491
2373
มหาวิทยาลัยเมาท์ อะลิสัน (Mount Allison)
ในเมืองแซ็ควิลล์ รัฐนิวบรันส์วิก
ในเมืองแซ็ควิลล์ รัฐนิวบรันส์วิก
01:20
and on my last day there, a girl came up to me
29
64864
2027
และในวันสุดท้ายของผมที่่นั่น
มีหญิงสาวคนหนึ่งเข้ามาหาผม
มีหญิงสาวคนหนึ่งเข้ามาหาผม
01:22
and she said, "I remember the first time that I met you."
30
66891
3204
เธอบอกว่า "ฉันจำครั้งแรกที่ฉันพบคุณได้นะ"
01:25
And then she told me a story that had happened four years earlier.
31
70095
2409
จากนั้นเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้น เมื่อสี่ปีก่อนให้ผมฟัง
01:28
She said, "On the day before I started university,
32
72504
2946
เธอบอกว่า "ในวันก่อนที่ฉันจะเริ่มเข้าเรียนมหาวิทยาลัย
01:31
I was in the hotel room with my mom and my dad, and
33
75450
2150
ตอนอยู่ในห้องโรงแรมกับคุณพ่อและคุณแม่ของฉัน และ
01:33
I was so scared and so convinced that I couldn't do this,
34
77600
2616
ฉันรู้สึกกลัวมากและแน่ใจอย่างมาก ว่าฉันเรียนไม่ได้
01:36
that I wasn't ready for university, that I just burst into tears.
35
80216
3166
ว่าฉันยังไม่พร้อมสำหรับมหาวิทยาลัย
จนกระทั่งฉันถึงกับร้องไห้โฮออกมา
จนกระทั่งฉันถึงกับร้องไห้โฮออกมา
01:39
And my mom and my dad were amazing. They were like,
36
83382
1619
คุณพ่อคุณแม่ประหลาดใจ พวกเขาพูดประมาณว่า
01:40
'Look, we know you're scared, but let's just go tomorrow.
37
85001
3095
"พวกเรารู้ว่าลูกกลัว แต่พรุ่งนี้ลองไปดูก่อนนะ
01:43
Let's go to the first day, and if at any point
38
88096
1627
ลองไปวันแรกดู และถ้าเมื่อใดก็ตาม
01:45
you feel as if you can't do this, that's fine, just tell us,
39
89723
2592
ลูกรู้สึกเหมือนว่าลูกไม่สามารถทำได้ ก็ไม่เป็นไร
แค่บอกเราก็พอ
แค่บอกเราก็พอ
01:48
we will take you home. We love you no matter what.'"
40
92315
2599
เราจะพาลูกกลับบ้าน ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เราก็รักลูก"
01:50
And she says, "So I went the next day
41
94914
1138
และเธอบอกว่า "ดังนั้น วันต่อมาฉันจึงไป
01:51
and I was standing in line getting ready for registration,
42
96052
2205
ฉันกำลังยืนเข้าแถว พร้อมที่จะลงทะเบียน
01:54
and I looked around and I just knew I couldn't do it.
43
98257
1984
แล้วฉันก็มองไปรอบๆ และฉันรู้เพียงแค่ว่า ฉันทำไม่ได้
01:56
I knew I wasn't ready. I knew I had to quit."
44
100241
2451
ฉันรู้ว่าฉันยังไม่พร้อม ฉันรู้ว่า ฉันต้องล้มเลิก"
01:58
And she says, "I made that decision, and as soon as I made it,
45
102692
1953
เธอบอกอีกว่า "ฉันได้ตัดสินใจอย่างนั้นแล้ว
และทันทีที่ได้ตัดสินใจ
และทันทีที่ได้ตัดสินใจ
02:00
there was this incredible feeling of peace that came over me.
46
104645
2451
ก็มีความรู้สึกสงบสุขอย่างไม่น่าเชื่อนี้ เข้ามาแทน
02:02
And I turned to my mom and my dad to tell them
47
107096
1871
ฉันหันกลับไปหาคุณพ่อและคุณแม่
เพื่อจะบอกท่าน
เพื่อจะบอกท่าน
02:04
that we needed to go home, and just at that moment,
48
108967
2131
ว่าเราต้องกลับบ้านกันแล้วละ และในตอนนั้นเอง
02:06
you came out of the Student Union building
49
111098
1961
คุณก็เดินออกมาจากตึกสโมสรนักศึกษา
02:08
wearing the stupidest hat I have ever seen in my life." (Laughter)
50
113059
3120
ใส่หมวกที่ดูทึ่มที่สุด
เท่าที่ฉันเคยเห็นมาในชีวิตเลย" (เสียงหัวเราะ)
เท่าที่ฉันเคยเห็นมาในชีวิตเลย" (เสียงหัวเราะ)
02:12
"It was awesome.
51
116179
1720
"มันสุดยอดมาก
02:13
And you had a big sign promoting Shinerama,
52
117899
2139
และคุณถือป้ายแผ่นใหญ่ สนับสนุนกลุ่มไชเนอรามา (Shinerama)
02:15
which is Students Fighting Cystic Fibrosis,"
53
120038
1547
ซึ่งก็คือ กลุ่มนักเรียนที่ต่อสู้กับโรคซีสติกไฟโบรซีส (Cystic Fibrosis)"
02:17
— a charity I've worked with for years —
54
121585
1060
งานการกุศลที่ผมทำงานอยู่ด้วย มาหลายปี
02:18
"and you had a bucketful of lollipops.
55
122645
1989
"และคุณก็ถือถังที่เต็มไปด้วยลูกอมยิ้ม
02:20
And you were walking along and you were handing the lollipops out
56
124634
2398
ขณะที่คุณเดินมาเรื่อยๆ และแจกอมยิ้มนั้น
02:22
to people in line and talking about Shinerama.
57
127032
2544
ให้กับคนที่อยู่ในแถว และเล่าเรื่องราว
เกี่ยวกับของไชเนอรามา
เกี่ยวกับของไชเนอรามา
02:25
And all of a sudden, you got to me, and you just stopped,
58
129576
3402
และทันใดนั้น คุณมาถึงฉัน และคุณก็หยุดเดิน
02:28
and you stared. It was creepy." (Laughter)
59
132978
3635
และคุณก็มองจ้องมา มันน่าขนลุกนะ" (เสียงหัวเราะ)
02:32
This girl right here knows exactly what I'm talking about. (Laughter)
60
136613
2802
หนูคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ รู้แน่ๆเลย
ว่าผมกำลังพูดเรื่องอะไร (เสียงหัวเราะ)
ว่าผมกำลังพูดเรื่องอะไร (เสียงหัวเราะ)
02:35
"And then you looked at the guy next to me,
61
139415
2000
"แล้วคุณก็มองมาที่ผู้ชายถัดจากฉันไป
02:37
and you smiled, and you reached in your bucket, and you pulled
62
141415
1618
แล้วคุณก็ยิ้ม คุณล้วงมือเข้าไปในถัง แล้วก็ดึงเอา
02:38
out a lollipop, and you held it out to him, and you said,
63
143033
2085
อมยิ้มแท่งหนึ่งออกมา แล้วคุณก็ยื่นให้กับเขา
และพูดว่า
และพูดว่า
02:41
'You need to give a lollipop to the beautiful woman standing next to you.'"
64
145118
3881
'คุณต้องให้อมยิ้มกับสาวสวยคนที่ยืนข้างๆคุณนะ' "
02:44
And she said, "I have never seen anyone get more embarrassed faster in my life.
65
148999
4197
แล้วเธอบอกว่า "ฉันไม่เคยเห็นใครที่รู้สึกเขินอาย
ได้ง่ายมากกว่านั้นมาก่อน ในชีวิตฉัน"
ได้ง่ายมากกว่านั้นมาก่อน ในชีวิตฉัน"
02:49
He turned beet red, and he wouldn't even look at me.
66
153196
1671
หน้าเขากลายเป็นสีแดงบีทรูท
และเขาไม่มองมาที่ฉันเลย แม้แต่น้อย
และเขาไม่มองมาที่ฉันเลย แม้แต่น้อย
02:50
He just kind of held the lollipop out like this." (Laughter)
67
154867
4134
เขาแค่ยื่นอมยิ้มให้แบบนี้" (เสียงหัวเราะ)
02:54
"And I felt so bad for this dude that I took the lollipop,
68
159001
2441
"และฉันรู้สึกสงสารผู้ชายคนนี้มาก จนต้องรับอมยิ้มมา
02:57
and as soon as I did, you got this incredibly severe look
69
161442
2565
และเมื่อฉันรับอมยิ้มมา คุณก็มีสีหน้าเคร่งขรึมอย่างไม่น่าเชื่อ
02:59
on your face and you looked at my mom and my dad,
70
164007
1516
และคุณก็มองไปที่คุณพ่อกับคุณแม่ของฉัน
03:01
and you said, 'Look at that. Look at that.
71
165523
2319
แล้วคุณก็พูดว่า 'ดูสิ ดูสิ
03:03
First day away from home, and already she's taking candy
72
167842
3242
วันแรกที่ออกมาจากบ้าน เธอก็ยอมรับลูกอมยิ้ม
03:06
from a stranger?!'" (Laughter)
73
171084
2916
จากคนแปลกหน้าแล้วเนี่ยนะ?! (หัวเราะ)
03:09
And she said, "Everybody lost it. Twenty feet in every
74
174000
2402
และเธอบอกว่า "แล้วทุกคนก็หยุดไม่ได้ ห่างออกไปยี่สิบฟุตในทุกทิศทุกทาง
03:12
direction, everyone started to howl.
75
176402
2005
ทุกๆคนเริ่มหัวเราะเสียงดัง
03:14
And I know this is cheesy, and I don't know why I'm telling you this,
76
178407
2656
ฉันรู้ว่ามันฟังดูไม่เข้าท่า แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไม
ฉันถึงเล่าให้คุณฟังเรื่องนี้
ฉันถึงเล่าให้คุณฟังเรื่องนี้
03:16
but in that moment when everyone was laughing,
77
181063
1489
แต่ในชั่วขณะนั้นเอง ตอนที่ทุกคนกำลังหัวเราะ
03:18
I knew that I shouldn't quit.
78
182552
1691
ฉันก็รู้ว่า ฉันไม่ควรที่จะล้มเลิกการเข้าเรียน
03:20
I knew that I was where I was supposed to be,
79
184243
1895
ฉันรู้ว่า ฉันอยู่ในที่ๆฉันควรจะอยู่
03:22
and I knew that I was home, and I haven't spoken to you
80
186138
2665
และฉันรู้ว่า ฉันรู้สึกเหมือนอยู่ที่บ้าน
แต่ฉันก็ยังไม่เคยพูดกับคุณ
แต่ฉันก็ยังไม่เคยพูดกับคุณ
03:24
once in the four years since that day,
81
188803
2107
สักครั้งในรอบสี่ปี หลังจากวันนั้น
03:26
but I heard that you were leaving,
82
190910
1594
แต่ฉันได้ยินมาว่า คุณกำลังจะจากไป
03:28
and I had to come up and tell you that you've been
83
192504
1633
ฉันเลยต้องมาและบอกคุณว่า คุณนั้นเป็น
03:30
an incredibly important person in my life, and I'm going to miss you. Good luck."
84
194137
4312
คนที่สำคัญอย่างเหลือเชื่อในชีวิตของฉัน
และฉันจะคิดถึงคุณ ขอให้โชคดีนะคะ"
และฉันจะคิดถึงคุณ ขอให้โชคดีนะคะ"
03:34
And she walks away, and I'm flattened.
85
198449
2129
แล้วเธอก็เดินจากไป และผมก็ถูกลูกยอ
03:36
And she gets about six feet away, she turns around and smiles, and goes,
86
200578
2679
พอเธอเดินห่างไปประมาณหกฟุต
เธอก็หันกลับมา ยิ้ม แล้วก็บอกว่า
เธอก็หันกลับมา ยิ้ม แล้วก็บอกว่า
03:39
"You should probably know this, too.
87
203257
1411
"คุณก็น่าจะรู้เรื่องนี้ด้วยนะ
03:40
I'm still dating that guy four years later." (Laughter)
88
204668
3487
ฉันยังคงนัดเที่ยวกับผู้ชายคนนั้น
สีปีหลังจากนั้น" (เสียงหัวเราะ)
สีปีหลังจากนั้น" (เสียงหัวเราะ)
03:44
A year and a half after I moved to Toronto,
89
208155
3007
หนึ่งปีครึ่งหลังจากผมย้ายมาที่โตรอนโต้
03:47
I got an invitation to their wedding.
90
211162
3026
ผมได้รับเชิญไปงานแต่งงานของพวกเขา
03:50
Here's the kicker. I don't remember that.
91
214188
2635
และที่คาดไม่ถึงและน่าประหลาดใจก็คือ
ผมจำเรื่องนี้ไม่ได้เลย
ผมจำเรื่องนี้ไม่ได้เลย
03:52
I have no recollection of that moment,
92
216823
1804
ผมไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับช่วงเวลานั้นเลย
03:54
and I've searched my memory banks, because that is funny
93
218627
1908
และผมได้ค้นหาในคลังความจำของผม
เพราะว่ามันตลกนะ
เพราะว่ามันตลกนะ
03:56
and I should remember doing it, and I don't remember it.
94
220535
2609
ผมควรจะจำได้ว่าผมได้ทำ แต่ผมกลับจำไม่ได้
03:59
And that was such an eye-opening, transformative moment
95
223144
2451
และนั่น เป็นช่วงเวลา ของการเปิดหูเปิดตา
และการเปลี่ยนแปลง
และการเปลี่ยนแปลง
04:01
for me to think that maybe the biggest impact I'd ever had
96
225595
2533
สำหรับผมที่คิดได้ว่า นั่นอาจเป็นผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
เท่าที่ผมเคยทำ
เท่าที่ผมเคยทำ
04:04
on anyone's life, a moment that had a woman walk up
97
228128
2344
ให้กับชีวิตของใครคนหนึ่ง
ช่วงเวลาที่ ผู้หญิงคนหนึ่ง เดินเข้ามา
ช่วงเวลาที่ ผู้หญิงคนหนึ่ง เดินเข้ามา
04:06
to a stranger four years later and say,
98
230472
2078
หาคนแปลกหน้าเมื่อสี่ปีให้หลัง และพูดว่า
04:08
"You've been an incredibly important person in my life,"
99
232550
1696
"คุณเป็นคนที่สำคัญอย่างไม่น่าเชื่อ ในชีวิตของฉัน"
04:10
was a moment that I didn't even remember.
100
234246
2578
เป็นช่วงเวลาที่ผมจำไม่ได้เลย
04:12
How many of you guys have a lollipop moment,
101
236824
1468
มีใครบ้างในที่นี้ เคยมีช่วงเวลา ลูกอมยิ้มบ้าง
04:14
a moment where someone said something or did something
102
238292
2276
ช่วงเวลาที่ ใครบางคนพูดอะไรบางอย่าง
หรือทำอะไรบางอย่าง
หรือทำอะไรบางอย่าง
04:16
that you feel fundamentally made your life better?
103
240568
2450
ที่คุณรู้สึกว่า โดยพื้นฐานแล้วมันทำให้ชีวิตคุณดีขึ้น
04:18
All right. How many of you have told that person they did it?
104
243018
4180
งั้น มีใครบ้างที่ได้บอกคนๆนั้นว่า เขาได้ทำอะไรไป?
04:23
See, why not? We celebrate birthdays,
105
247198
2326
เห็นไหม ทำไมถึงไม่บอกล่ะ? เราฉลองงานวันเกิด
04:25
where all you have to do is not die for 365 days — (Laughter) —
106
249524
4412
ซึ่งพวกคุณต้องทำก็คือ การไม่ตายเป็นเวลา 365 วัน (เสียงหัวเราะ)
04:29
and yet we let people who have made our lives better
107
253936
1803
แต่เรากลับปล่อยให้คน ที่ทำให้ชีวิตพวกเราดีขึ้น
04:31
walk around without knowing it.
108
255739
1625
เดินไปทั่ว โดยไม่ทราบเรื่องนั้นเลย
04:33
And every single one of you, every single one of you
109
257364
2465
และพวกคุณแต่ละคน พวกคุณแต่ละคน
04:35
has been the catalyst for a lollipop moment.
110
259829
1435
ได้เคยเป็นผู้ที่ทำให้เกิดช่วงเวลาลูกอมยิ้มขึ้นแล้ว
04:37
You have made someone's life better by something
111
261264
1628
คุณได้ทำให้ชีวิตของบางคนดีขึ้น
04:38
that you said or that you did, and if you think you haven't,
112
262892
2553
จากบางอย่างที่คุณได้พูดหรือได้ทำ
และถ้าคุณคิดว่าคุณไม่เคยทำ
และถ้าคุณคิดว่าคุณไม่เคยทำ
04:41
think about all the hands that didn't go back up when I asked that question.
113
265445
2665
ลองคิดถึง มือทั้งหลายที่ไม่ได้ยกขึ้น
ตอนที่ผมถามคำถามนั้นสิ
ตอนที่ผมถามคำถามนั้นสิ
04:44
You're just one of the people who hasn't been told.
114
268110
1982
คุณก็แค่เป็นคนหนึ่ง ในผู้ที่ไม่มีคนมาบอก
04:45
But it is so scary to think of ourselves as that powerful.
115
270092
2803
แต่ มันน่าตกใจที่จะคิดว่า ตัวเราเองนั้นมีอิทธิพล
04:48
It can be frightening to think that we can matter that much
116
272895
2119
มันอาจน่ากลัวที่จะคิดว่า
เรานั้นสำคัญมากขนาดนั้นต่อคนอื่น
เรานั้นสำคัญมากขนาดนั้นต่อคนอื่น
04:50
to other people, because as long as we make leadership something bigger than us,
117
275014
3422
เพราะว่าตราบใดที่เราทำให้ความเป็นผู้นำ
เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าตัวเรา
เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าตัวเรา
04:54
as long as we keep leadership something beyond us,
118
278436
1872
ตราบใดที่เรา เอาความเป็นผู้นำไปห่างไกลจากเรา
04:56
as long as we make it about changing the world,
119
280308
1740
ตราบใดที่เรา ทำให้มันเรื่องของการเปลี่ยนแปลงโลก
04:57
we give ourselves an excuse not to expect it
120
282048
1963
เราหาข้อแก้ตัวสำหรับตัวเอง
เพื่อที่จะไม่ต้องคาดหวังมัน
เพื่อที่จะไม่ต้องคาดหวังมัน
04:59
every day from ourselves and from each other.
121
284011
2873
ในทุกๆวัน จากตัวเราเอง และจากคนอื่นๆ
05:02
Marianne Williamson said, "Our greatest fear is not that we are inadequate.
122
286884
2744
มาริแอน วิลเลียมสัน พูดว่า "ความกลัวที่สุดของเรานั้น
ไม่ใช่กลัวว่าเราไม่ดีพอ
ไม่ใช่กลัวว่าเราไม่ดีพอ
05:05
Our greatest fear is that we are powerful beyond measure.
123
289628
2359
ความกลัวที่สุดของเรา คือ
กลัวว่าเรามีอำนาจเกินกว่าที่จะประมาณได้
กลัวว่าเรามีอำนาจเกินกว่าที่จะประมาณได้
05:07
It is our light, and not our darkness, that frightens us."
124
291987
2912
ด้านสว่างของเราต่างหาก ไม่ใช่ด้านมืดของเรา
ที่ทำให้เราหวาดกลัว"
ที่ทำให้เราหวาดกลัว"
05:10
And my call to action today is that we need to get over that.
125
294899
2456
และเสียงเรียกร้องของผม ให้ทำในวันนี้ ก็คือ
พวกเราจำต้องข้ามสิ่งเหล่านั้นไป
พวกเราจำต้องข้ามสิ่งเหล่านั้นไป
05:13
We need to get over our fear of how extraordinarily
126
297355
1999
เราต้องข้ามผ่านความกลัวเกี่ยวกับ
อิทธิพลที่มีมากเป็นพิเศษ
อิทธิพลที่มีมากเป็นพิเศษ
05:15
powerful we can be in each other's lives.
127
299354
1543
ที่เราสามารถมีได้ กับชีวิตของกันและกัน
05:16
We need to get over it so we can move beyond it, and our
128
300897
2405
เราจำต้องข้ามผ่านมันไป
เราจึงจะสามารถก้าวพ้นมันไป แล้ว
เราจึงจะสามารถก้าวพ้นมันไป แล้ว
05:19
little brothers and our little sisters, and one day our kids --
129
303302
2888
น้องชายและน้องสาวตัวน้อยของพวกเรา
และในวันหนึ่งข้างหน้า ลูกๆของเรา
และในวันหนึ่งข้างหน้า ลูกๆของเรา
05:22
or our kids right now -- can watch and start to value
130
306190
2322
หรือลูกๆของเราในขณะนี้ -- สามารถที่จะเฝ้าดู
และเริ่มเห็นคุณค่า
และเริ่มเห็นคุณค่า
05:24
the impact we can have on each other's lives
131
308512
2076
ของผลกระทบ ที่เราสามารถทำให้เกิดขึ้นได้
ในชีวิตของกันและกัน
ในชีวิตของกันและกัน
05:26
more than money and power and titles and influence.
132
310588
3252
มากยิ่งกว่าเงินและอำนาจ
และยศฐาบรรดาศักด์และอิทธิพล
และยศฐาบรรดาศักด์และอิทธิพล
05:29
We need to redefine leadership as being about lollipop moments,
133
313840
2635
เราต้องนิยามคำว่า ความเป็นผู้นำ
เสียใหม่ว่า เกี่ยวกับช่วงเวลาของลูกอมยิ้ม
เสียใหม่ว่า เกี่ยวกับช่วงเวลาของลูกอมยิ้ม
05:32
how many of them we create, how many of them we acknowledge,
134
316475
2887
เราสร้างมันขึ้นมากี่ครั้ง
เรายอมรับว่ามันเกิดขึ้นจริงกี่ครั้ง
เรายอมรับว่ามันเกิดขึ้นจริงกี่ครั้ง
05:35
how many of them we pay forward, and how many of them we say thank you for.
135
319362
3433
เราจ่ายไปเพื่อให้ได้มันมากี่ครั้ง
และเรากล่าวคำขอบคุณไปกี่ครั้ง
และเรากล่าวคำขอบคุณไปกี่ครั้ง
05:38
Because we've made leadership about changing the world,
136
322795
2358
เพราะว่า เราได้ทำให้ความเป็นผู้นำ
ไปเป็นเรื่องของ การเปลี่ยนแปลงโลก
ไปเป็นเรื่องของ การเปลี่ยนแปลงโลก
05:41
and there is no world. There's only six billion understandings of it,
137
325153
3335
แต่มันไม่มีโลก มีแต่เพียงความเข้าใจในเรื่องนี้
ของคนหกพันล้านคน
ของคนหกพันล้านคน
05:44
and if you change one person's understanding of it,
138
328488
1811
และถ้าคุณเปลี่ยนความเข้าใจของคนคนหนึ่ง ในเรื่องนี้
05:46
one person's understanding of what they're capable of,
139
330299
2318
ความเข้าใจของคนๆหนึ่ง ในสิ่งที่พวกเขาสามารถทำได้
05:48
one person's understanding of how much people care about them,
140
332617
2385
ความเข้าใจของคนๆหนึ่ง ว่าคนห่วงใยเขาอยู่มากเท่าใด
05:50
one person's understanding of how powerful an agent
141
335002
2464
ความเข้าใจของคนๆหนึ่งว่า
เขาเป็นผู้กระทำที่ทรงพลัง ได้มากแค่ไหน
เขาเป็นผู้กระทำที่ทรงพลัง ได้มากแค่ไหน
05:53
for change they can be in this world, you've changed the whole thing.
142
337466
3464
ต่อการเปลี่ยนแปลงในโลกนี้
เมื่อนั้นคุณได้เปลี่ยนแปลงสิ่งทั้งมวล
เมื่อนั้นคุณได้เปลี่ยนแปลงสิ่งทั้งมวล
05:56
And if we can understand leadership like that,
143
340930
2791
และถ้าเราเข้าใจความเป็นผู้นำ
ในลักษณะที่ว่านั้น
ในลักษณะที่ว่านั้น
05:59
I think if we can redefine leadership like that,
144
343721
2295
ผมคิดว่า ถ้าเราสามารถนิยาม ความเป็นผู้นำ
ขึ้นมาใหม่ ในลักษณะที่ว่านั้น
ขึ้นมาใหม่ ในลักษณะที่ว่านั้น
06:01
I think we can change everything.
145
346016
1973
ผมคิดว่า พวกเราสามารถเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างได้
06:03
And it's a simple idea, but I don't think it's a small one,
146
347989
2696
และนั่นเป็นแนวคิดง่ายๆ
แต่ผมไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องเล็ก
แต่ผมไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องเล็ก
06:06
and I want to thank you all so much for letting me share it with you today.
147
350685
3300
และผมอยากจะขอบคุณทุกท่านเป็นอย่างมาก
ที่ให้ผมมาแบ่งปันเรื่องนี้กับท่านในวันนี้ครับ
ที่ให้ผมมาแบ่งปันเรื่องนี้กับท่านในวันนี้ครับ
ABOUT THE SPEAKER
Drew Dudley - Leadership educatorDrew Dudley believes leadership is not a characteristic reserved for the extraordinary. He works to help people discover the leader within themselves.
Why you should listen
Drew Dudley’s interest in developing people’s leadership began when he was the Leadership Development coordinator at the University of Toronto, Scarborough. In 2010 he founded Nuance Leadership Development Services, a company that creates leadership curricula for communities, organizations and individuals -- a subject on which he also speaks widely.
Drew Dudley | Speaker | TED.com