TEDxOhioStateUniversity
Tanya Menon: The secret to great opportunities? The person you haven't met yet
ทันยา มาน่อน (Tanya Menon): ความลับสู่โอกาสอันยิ่งใหญ่น่ะหรือ ก็คนที่คุณยังไม่ได้พบไงล่ะ
Filmed:
Readability: 3.4
1,913,723 views
เรามักพบว่าตัวเราเองติดอยู่ในวงสังคมแคบ ๆ ที่มีคนที่คล้าย ๆ กัน พฤติกรรมอะไรที่จำกัดความเป็นตัวเรา และเราจะฝ่าข้อจำกัดนั้นเช่นไร ทันยา มาน่อน นักจิตวิทยาระดับองค์กร พิจารณาว่าเราจะพยายามขยายอาณาจักรทางสังคมของเราออกไปได้อย่างไร และมันจะนำเราไปสู่แนวคิดและโอกาสใหม่ได้อย่างไร
Tanya Menon - Organizational psychologist
Tanya Menon speaks, writes and consults on collaboration. Her research focuses on how people think about their relationships and the habits that allow them to build positive connections with other people. Full bio
Tanya Menon speaks, writes and consults on collaboration. Her research focuses on how people think about their relationships and the habits that allow them to build positive connections with other people. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
ฉันเริ่มสอนนักศึกษา
ปริญญาโทบริหารธุรกิจ
ปริญญาโทบริหารธุรกิจ
00:12
I started teaching MBA students
0
769
2827
00:15
17 years ago.
1
3620
1808
เมื่อ 17 ปีก่อน
00:17
Sometimes I run into
my students years later.
my students years later.
2
5452
3460
หลายปีต่อมาบางครั้งก็พบนักศึกษาโดยบังเอิญ
00:20
And when I run into them,
a funny thing happens.
a funny thing happens.
3
8936
2620
และเมื่อฉันพบพวกเขา
เรื่องขำ ๆ ก็เกิดขึ้น
เรื่องขำ ๆ ก็เกิดขึ้น
00:23
I don't remember just their faces;
4
11580
2252
ฉันไม่ได้แค่จำหน้าพวกเขาได้เท่านั้น
00:25
I also remember where exactly
in the classroom they were sitting.
in the classroom they were sitting.
5
13856
4640
แต่ยังจำได้อีกว่า
พวกเขาเคยนั่งตรงส่วนไหนของห้อง
พวกเขาเคยนั่งตรงส่วนไหนของห้อง
00:30
And I remember who
they were sitting with as well.
they were sitting with as well.
6
18520
3321
และฉันจำได้ด้วยว่าใครนั่งกับใคร
00:33
This is not because I have
any special superpowers of memory.
any special superpowers of memory.
7
21865
4694
นั่นไม่ใช่เพราะว่า
ฉันมีความทรงจำเป็นเลิศหรอกนะคะ
ฉันมีความทรงจำเป็นเลิศหรอกนะคะ
00:38
The reason I can remember them
8
26583
1860
เหตุผลที่ฉันสามารถจำพวกเขาได้ก็คือ
00:40
is because they are creatures of habit.
9
28467
2667
พวกเขาเป็นผู้ที่มีอุปนิสัยน่ะสิคะ
00:43
They are sitting with their
favorite people in their favorite seats.
favorite people in their favorite seats.
10
31158
4111
พวกเขานั่งกับคนที่ชอบในที่ที่พวกเขาชอบ
00:47
They find their twins,
they stay with them for the whole year.
they stay with them for the whole year.
11
35293
4179
พวกเขาพบกับแฝดของพวกเขา
พวกเขาอยู่ด้วยกันไปทั้งปี
พวกเขาอยู่ด้วยกันไปทั้งปี
00:51
Now, the danger of this
for my students is they're at risk
for my students is they're at risk
12
39976
4850
ค่ะ มันเป็นอันตรายต่อนักเรียนของฉัน
เพราะว่าพวกเขาอยู่ในความเสี่ยง
เพราะว่าพวกเขาอยู่ในความเสี่ยง
00:56
of leaving the university
with just a few people
with just a few people
13
44850
3546
ที่จะจบออกไปจากมหาวิทยาลัยนี้
โดยรู้จักคนเพียงไม่กี่คน
โดยรู้จักคนเพียงไม่กี่คน
01:00
who are exactly like them.
14
48420
1321
ที่มีความคล้ายคลึงกับพวกเขา
01:01
They're going to squander their chance
for an international, diverse network.
for an international, diverse network.
15
49765
4418
พวกเขากำลังจะสูญเสียโอกาส
การมีเครือข่ายนานาชาติที่แตกต่างหลากหลาย
การมีเครือข่ายนานาชาติที่แตกต่างหลากหลาย
01:06
How could this happen to them?
16
54207
1612
เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
01:07
My students are open-minded.
17
55843
1619
นักเรียนของฉันเป็นคนใจกว้าง
01:09
They come to business school precisely
so that they can get great networks.
so that they can get great networks.
18
57486
4387
พวกเขามาเรียนที่คณะเศรษฐศาสตร์
ก็เพราะว่าพวกเขาต้องการเครือข่ายที่กว้าง
ก็เพราะว่าพวกเขาต้องการเครือข่ายที่กว้าง
01:14
Now, all of us socially narrow
in our lives, in our school, in work,
in our lives, in our school, in work,
19
62212
6181
เอาล่ะค่ะ เราทุกคนมีวงสังคมแคบ ๆ
ในชีวิต ในโรงเรียน ในที่ทำงาน
ในชีวิต ในโรงเรียน ในที่ทำงาน
01:20
and so I want you to think about this one.
20
68417
2545
และฉันก็อยากให้คุณลองนึกถึงสิ่งหนึ่งนะคะ
01:22
How many of you here
brought a friend along for this talk?
brought a friend along for this talk?
21
70986
4517
มีใครบ้างคะที่พาเพื่อนมาฟังบรรยายด้วยกัน
01:27
I want you to look
at your friend a little bit.
at your friend a little bit.
22
75527
2676
ฉันอยากให้คุณมองไปที่เพื่อนคุณหน่อยค่ะ
01:31
Are they of the same nationality as you?
23
79036
3055
พวกเขามีสัญชาติเดียวกันคุณหรือเปล่าคะ
01:34
Are they of the same gender as you?
24
82601
2407
พวกเขาเป็นเพศเดียวกับคุณหรือเปล่าคะ
01:37
Are they of the same race?
25
85032
1665
พวกเขามีเชื้อชาติเดียวกับคุณไหมคะ
01:38
Really look at them closely.
26
86721
2425
มองพวกเขาดี ๆ ค่ะ
01:41
Don't they kind of look like you as well?
27
89170
2116
พวกเขาหน้าตาคล้าย ๆ คุณด้วยไหมเนี่ย
01:43
(Laughter)
28
91310
1013
(เสียงหัวเราะ)
01:44
The muscle people are together,
29
92347
1555
คนสายล่ำอยู่ด้วยกัน
01:45
and the people with the same hairstyles
30
93926
2017
และคนที่มีทรงผมเดียวกัน
01:47
and the checked shirts.
31
95967
1227
และใส่กระโปรงลายหมากรุกเหมือนกัน
01:50
We all do this in life.
32
98069
1817
พวกเราทุกคนทำอย่างนี้กันประจำ
01:51
We all do it in life, and in fact,
there's nothing wrong with this.
there's nothing wrong with this.
33
99910
3712
พวกเราทำกันเช่นนี้ และอันที่จริง
มันก็ไม่ได้ผิดอะไรเลย
มันก็ไม่ได้ผิดอะไรเลย
01:55
It makes us comfortable to be
around people who are similar.
around people who are similar.
34
103646
3848
มันทำให้เราสบายใจ
ที่จะอยู่กับคนที่เราคุ้นเคย
ที่จะอยู่กับคนที่เราคุ้นเคย
01:59
The problem is when
we're on a precipice, right?
we're on a precipice, right?
35
107518
3075
ปัญหาก็คือ เมื่อเราพบกับวิกฤติการณ์
02:02
When we're in trouble,
when we need new ideas,
when we need new ideas,
36
110617
2264
เมื่อเราตกอยู่ในปัญหา
เมื่อเราต้องการแนวคิด
เมื่อเราต้องการแนวคิด
02:04
when we need new jobs,
when we need new resources --
when we need new resources --
37
112905
3808
เมื่อเราต้องการงานใหม่
เมื่อเราต้องการที่พึ่งใหม่
เมื่อเราต้องการที่พึ่งใหม่
02:08
this is when we really pay a price
for living in a clique.
for living in a clique.
38
116737
4079
นี่แหละคือตอนที่เราได้รับบทเรียน
จากการอยู่ในวัฏจักรจำเจ
จากการอยู่ในวัฏจักรจำเจ
02:13
Mark Granovetter, the sociologist,
had a famous paper
had a famous paper
39
121294
4695
นักสังคมวิทยา มาร์ค กราโนเวทเทอร์
ตีพิมพ์ผลงานวิชาการที่โด่งดัง
ตีพิมพ์ผลงานวิชาการที่โด่งดัง
02:18
"The Strength of Weak Ties,"
40
126013
2060
"ความแข็งแกร่งของสัมพันธ์อย่างผิวเผิน"
02:20
and what he did in this paper
is he asked people
is he asked people
41
128097
2699
และในเอกสารวิชาการนี้
เขาได้ทำการศึกษาโดยถามผู้คนว่า
เขาได้ทำการศึกษาโดยถามผู้คนว่า
02:22
how they got their jobs.
42
130820
1901
ว่าพวกเขาได้มาทำงานนี้ได้อย่างไร
02:24
And what he learned was that
most people don't get their jobs
most people don't get their jobs
43
132745
3155
และสิ่งที่เขาได้เรียนรู้ก็คือ
คนส่วนใหญ่ไม่ได้หางานได้
คนส่วนใหญ่ไม่ได้หางานได้
02:27
through their strong ties -- their father,
their mother, their significant other.
their mother, their significant other.
44
135924
3911
ผ่านสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นที่สุด อย่างพ่อ
แม่ หรือแฟนของพวกเขา
แม่ หรือแฟนของพวกเขา
02:31
They instead get jobs through weak ties,
people who they just met.
people who they just met.
45
139859
4663
พวกเขาได้งานผ่านสัมพันธ์อย่างผิวเผิน
จากคนที่พวกเขาเพิ่งได้พบ
จากคนที่พวกเขาเพิ่งได้พบ
02:36
So if you think about what
the problem is with your strong ties,
the problem is with your strong ties,
46
144546
3131
แล้วถ้าคุณลองคิดดูว่า อะไรที่เป็นปัญหา
ในสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของคุณ
ในสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของคุณ
02:39
think about your
significant other, for example.
significant other, for example.
47
147701
2332
ให้ลองคิดถึงแฟนของคุณก็ได้ เป็นตัวอย่าง
02:42
The network is redundant.
48
150057
1646
วงสังคมเครือข่ายนั้นเหมือน ๆ กัน
02:43
Everybody that they know, you know.
49
151727
2889
ทุกคนที่เขารู้จัก คุณก็รู้จัก
02:46
Or I hope you know them. Right?
50
154640
2342
ฉันหวังใจว่าคุณจะรู้จักพวกเขาใช่ไหมคะ
02:49
Your weak ties --
people you just met today --
people you just met today --
51
157006
2555
สัมพันธ์อย่างผิวเผินของคุณ
อย่างคนที่คุณเพิ่งได้พบวันนี้
อย่างคนที่คุณเพิ่งได้พบวันนี้
02:51
they are your ticket
to a whole new social world.
to a whole new social world.
52
159585
3817
พวกเขาคือตั๋วที่จะพาคุณ
ไปยังโลกใหม่สังคมใหม่
ไปยังโลกใหม่สังคมใหม่
02:55
The thing is that we have this amazing
ticket to travel our social worlds,
ticket to travel our social worlds,
53
163900
4440
ประเด็นก็คือ พวกเรามีตั๋วสุดพิเศษ
ที่จะใช้เดินทางไปในสังคมของเรา
ที่จะใช้เดินทางไปในสังคมของเรา
03:00
but we don't use it very well.
54
168364
1477
แต่เราใช้มันได้ไม่เก่งนัก
03:01
Sometimes we stay awfully close to home.
55
169865
2836
บางครั้งเราจับเจ่าอยู่ติดกับบ้านมากเกินไป
03:04
And today, what I want to talk about is:
56
172725
2085
และวันนี้ เรื่องที่ฉันอยากจะพูดก็คือ
03:06
What are those habits that keep
human beings so close to home,
human beings so close to home,
57
174834
3654
นิสัยอะไรที่ทำให้มนุษย์เราอยู่ติดบ้านนัก
03:10
and how can we be
a little bit more intentional
a little bit more intentional
58
178512
2632
แล้วเราจะทำให้ตัวเอง
มีความตั้งใจมากขึ้นอีกนิด
มีความตั้งใจมากขึ้นอีกนิด
03:13
about traveling our social universe?
59
181168
2281
ในการออกไปท่อง
อาณาจักรทางสังคมของเราได้อย่างไร
อาณาจักรทางสังคมของเราได้อย่างไร
03:15
So let's look at the first strategy.
60
183854
2060
เอาล่ะ ลองมาดูแผนการแรกก่อน
03:18
The first strategy is to use
a more imperfect social search engine.
a more imperfect social search engine.
61
186223
6336
แผนการแรกคือการใช้อุปกรณ์การค้นหา
ที่ไม่สมบูรณ์แบบมากกว่า
ที่ไม่สมบูรณ์แบบมากกว่า
03:24
What I mean by a social search engine
62
192583
2111
เมื่อพูดถึงอุปกรณ์การค้นหา ฉันหมายถึง
03:26
is how you are finding
and filtering your friends.
and filtering your friends.
63
194718
3941
การหาและการกรองเพื่อนของคุณ
03:31
And so people always tell me,
64
199555
1745
และคนก็มักถามฉันเสมอว่า
03:33
"I want to get lucky through the network.
65
201324
2040
"ฉันอยากจะมีโชคดีจากคนรู้จักบ้าง
03:35
I want to get a new job.
I want to get a great opportunity."
I want to get a great opportunity."
66
203388
2911
ฉันอยากจะได้งานใหม่
ฉันอยากจะได้โอกาสดี ๆ "
ฉันอยากจะได้โอกาสดี ๆ "
03:38
And I say, "Well, that's really hard,
67
206323
1981
และฉันก็บอกว่า "อืม นั่นมันยากมากเลยนะ
03:40
because your networks
are so fundamentally predictable."
are so fundamentally predictable."
68
208328
3252
เพราะว่าเครือข่ายสังคมของคุณ
สามารถคาดเดาได้ตามหลักการเลย"
สามารถคาดเดาได้ตามหลักการเลย"
03:43
Map out your habitual daily footpath,
69
211604
3122
ลองทำแผนที่
การเดินทางประจำวันของคุณดูสิ
การเดินทางประจำวันของคุณดูสิ
03:46
and what you'll probably discover
is that you start at home,
is that you start at home,
70
214750
3521
และคุณอาจจะพบว่าคุณเริ่มจากที่บ้าน
03:50
you go to your school or your workplace,
71
218295
2436
ไปโรงเรียน หรือไปทำงาน
03:52
you maybe go up
the same staircase or elevator,
the same staircase or elevator,
72
220755
2770
คุณอาจขึ้นบันไดเดิมหรือขึ้นลิฟต์ตัวเดิม
03:55
you go to the bathroom --
the same bathroom --
the same bathroom --
73
223549
2705
คุณไปห้องน้ำ ก็ห้องน้ำเดิม
03:58
and the same stall in that bathroom,
74
226278
1773
และนั่งที่เดิม ๆ ในห้องน้ำ
04:00
you end up in the gym,
75
228075
1613
แล้วคุณก็ไปยิม
04:01
then you come right back home.
76
229712
1460
จากนั้นก็มุ่งหน้ากลับบ้าน
04:03
It's like stops on a train schedule.
77
231196
2200
มันเหมือนกับรถไฟที่จอดที่สถานีตามเวลา
04:05
It's that predictable.
78
233420
1326
สามารถคาดเดาได้เช่นนั้นเลย
04:06
It's efficient, but the problem is,
you're seeing exactly the same people.
you're seeing exactly the same people.
79
234770
5843
มันมีประสิทธิภาพดี แต่ปัญหาก็คือ
คุณกำลังเห็นคนกลุ่มเดิม ๆ
คุณกำลังเห็นคนกลุ่มเดิม ๆ
04:12
Make your network
slightly more inefficient.
slightly more inefficient.
80
240637
3123
ทำให้เครือข่ายของคุณ
ค่อนข้างที่จะไม่มีประสิทธิภาพ
ค่อนข้างที่จะไม่มีประสิทธิภาพ
04:15
Go to a bathroom on a different floor.
81
243784
2353
ไปห้องน้ำที่อยู่อีกชั้น
04:18
You encounter a whole new
network of people.
network of people.
82
246161
3137
คุณก็จะได้เจอเครือข่ายคนกลุ่มใหม่
04:21
The other side of it is how
we are actually filtering.
we are actually filtering.
83
249791
4537
อีกแง่มุมหนึ่งก็คือ
เราทำการคัดกรองอย่างไร
เราทำการคัดกรองอย่างไร
04:26
And we do this automatically.
84
254352
1633
และเราก็ทำสิ่งนี้อย่างอัตโนมัติ
04:28
The minute we meet someone,
we are looking at them, we meet them,
we are looking at them, we meet them,
85
256009
3104
ในนาทีที่เราพบกับใครบางคน
เรามองดูพวกเขา เราพบพวกเขา
เรามองดูพวกเขา เราพบพวกเขา
04:31
we are initially seeing,
86
259137
1579
เราจะเริ่มเห็นว่า
04:32
"You're interesting."
87
260740
1152
"คุณน่าสนใจดีนะ"
04:33
"You're not interesting."
"You're relevant."
"You're relevant."
88
261916
2099
"คุณไม่น่าสนใจเลย"
"คุณก็เข้ากับเราได้นะ"
"คุณก็เข้ากับเราได้นะ"
04:36
We do this automatically.
We can't even help it.
We can't even help it.
89
264039
2399
เราทำเช่นนี้อัตโนมัติ
และอดไม่ได้ที่จะทำ
และอดไม่ได้ที่จะทำ
04:38
And what I want to encourage you
to do instead is to fight your filters.
to do instead is to fight your filters.
90
266462
3995
และฉันอยากจะสนับสนุน
ให้คุณทำตรงข้ามเพื่อต้านการคัดกรองนี้
ให้คุณทำตรงข้ามเพื่อต้านการคัดกรองนี้
04:42
I want you to take a look
around this room,
around this room,
91
270481
2533
ฉันอยากจะให้คุณมองไปรอบ ๆ ห้อง
04:45
and I want you to identify
the least interesting person that you see,
the least interesting person that you see,
92
273038
4200
และฉันอยากจะให้คุณหาคนที่น่าสนใจ
อย่างน้อยสักคนหนึ่งที่คุณเห็น
อย่างน้อยสักคนหนึ่งที่คุณเห็น
04:49
and I want you to connect with them
over the next coffee break.
over the next coffee break.
93
277262
3176
และอยากให้คุณเข้าไปทำความรู้จัก
ในช่วงพักทานกาแฟช่วงถัดไป
ในช่วงพักทานกาแฟช่วงถัดไป
04:52
And I want you to go
even further than that.
even further than that.
94
280462
2441
และอยากให้คุณทำอะไรให้มากกว่านั้น
04:54
What I want you to do is find
the most irritating person you see as well
the most irritating person you see as well
95
282927
4757
อยากจะให้คุณ
มองหาคนที่ดูน่ารำคาญที่สุด
มองหาคนที่ดูน่ารำคาญที่สุด
04:59
and connect with them.
96
287708
1605
และทำความรู้จักกับพวกเขา
05:01
What you are doing with this exercise
is you are forcing yourself
is you are forcing yourself
97
289337
6658
เมื่อทำแบบทดสอบนี้
คุณกำลังบังคับตัวเอง
คุณกำลังบังคับตัวเอง
05:08
to see what you don't want to see,
98
296019
2625
ให้เห็นในสิ่งที่คุณไม่อยากเห็น
05:10
to connect with who
you don't want to connect with,
you don't want to connect with,
99
298668
2666
เพื่อที่จะทำความรู้จัก
กับคนที่คุณไม่ได้อยากจะรู้จัก
กับคนที่คุณไม่ได้อยากจะรู้จัก
05:13
to widen your social world.
100
301358
2197
เพื่อที่จะขยายวงสังคมของคุณออกไป
05:15
To truly widen, what we have to do is,
101
303579
3019
เพื่อที่จะทำให้มันขยายออกไปจริง ๆ
เราจะต้องทำอย่างนี้
เราจะต้องทำอย่างนี้
05:18
we've got to fight our sense of choice.
102
306622
2315
เราจะต้องสู้กับความรู้สึกที่มีต่อทางเลือก
05:20
We've got to fight our choices.
103
308961
1551
เราจะต้องสู้กับทางเลือก
05:22
And my students hate this,
but you know what I do?
but you know what I do?
104
310536
2409
นักศึกษาของฉันไม่ชอบเลย
และคุณรู้ไหมว่าฉันทำอย่างไร
และคุณรู้ไหมว่าฉันทำอย่างไร
05:24
I won't let them sit
in their favorite seats.
in their favorite seats.
105
312969
2191
ฉันไม่ยอมให้พวกเขานั่ง
ในที่ที่พวกเขาชอบ
ในที่ที่พวกเขาชอบ
05:27
I move them around from seat to seat.
106
315184
1819
ฉันให้พวกเขาย้ายที่นั่งไปเรื่อย ๆ
05:29
I force them to work with different people
107
317027
2367
ฉันบังคับให้พวกเขาทำงาน
กับกลุ่มคนที่แตกต่างกัน
กับกลุ่มคนที่แตกต่างกัน
05:31
so there are more accidental
bumps in the network
bumps in the network
108
319418
2725
ฉะนั้น มันจึงมีโอกาสที่
จะบังเอิญพบกับเครือข่าย
จะบังเอิญพบกับเครือข่าย
05:34
where people get a chance
to connect with each other.
to connect with each other.
109
322167
2699
และได้ทำความรู้จักกันและกัน
05:36
And we studied exactly this kind
of an intervention at Harvard University.
of an intervention at Harvard University.
110
324890
4634
และเราก็ทำการศึกษาการแทรกแซงในลักษณะนี้
ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
05:41
At Harvard, when you look at
the rooming groups,
the rooming groups,
111
329548
3103
ที่ฮาร์วาร์ด ถ้าคุณพิจารณา
การจัดเพื่อนร่วมห้อง
การจัดเพื่อนร่วมห้อง
05:44
there's freshman rooming groups,
people are not choosing those roommates.
people are not choosing those roommates.
112
332675
3815
นักศึกษาปีหนึ่งกลุ่มนี้
จะไม่ได้เลือกเพื่อนร่วมห้อง
จะไม่ได้เลือกเพื่อนร่วมห้อง
05:48
They're of all different races,
all different ethnicities.
all different ethnicities.
113
336514
2769
พวกเขามีเชื้อชาติ
และชาติพันธุ์ที่แตกต่างกัน
และชาติพันธุ์ที่แตกต่างกัน
05:51
Maybe people are initially uncomfortable
with those roommates,
with those roommates,
114
339307
3004
บางทีคนพวกนี้อาจไม่ค่อยสบายใจ
กับเพื่อนร่วมห้องในตอนแรก
กับเพื่อนร่วมห้องในตอนแรก
05:54
but the amazing thing is,
115
342335
1232
แต่เรื่องอัศจรรย์ก็เกิดขึ้น
05:55
at the end of a year with those students,
116
343591
2026
ในช่วงท้ายของปี
05:57
they're able to overcome
that initial discomfort.
that initial discomfort.
117
345641
3427
นักศีกษาเหล่านี้สามารถก้าวข้าม
ความไม่สบายใจในตอนแรกได้
ความไม่สบายใจในตอนแรกได้
06:01
They're able to find deep-level
commonalities with people.
commonalities with people.
118
349092
3864
พวกเขาสามารถที่จะมีความสนใจร่วมกัน
ในระดับที่ลึกซึ้งกับผู้คนได้
ในระดับที่ลึกซึ้งกับผู้คนได้
06:04
So the takeaway here is not just
"take someone out to coffee."
"take someone out to coffee."
119
352980
5284
ใจความสำคัญตรงนี้ก็คือ ไม่ใช่เพียง
"การชวนใครสักคนไปทานกาแฟ"
"การชวนใครสักคนไปทานกาแฟ"
06:10
It's a little more subtle.
120
358288
1294
มันลึกซึ้งกว่านั้น
06:11
It's "go to the coffee room."
121
359606
2649
มันคือ "การชวนกันไปห้องกาแฟ"
06:14
When researchers talk about social hubs,
122
362279
2399
เมื่อนักวิจัยพูดถึงศูนย์รวมทางสังคม
06:16
what makes a social hub so special
is you can't choose;
is you can't choose;
123
364702
3811
สิ่งที่ทำให้ศูนย์รวมทางสังคมพิเศษก็คือ
คุณไม่สามารถเลือกได้
คุณไม่สามารถเลือกได้
06:20
you can't predict who
you're going to meet in that place.
you're going to meet in that place.
124
368537
3730
คุณไม่สามารถคาดคะเนได้ว่า
คุณกำลังจะได้พบใครที่นั่น
คุณกำลังจะได้พบใครที่นั่น
06:24
And so with these social hubs,
the paradox is, interestingly enough,
the paradox is, interestingly enough,
125
372291
5346
และความขัดแย้งที่น่าสนใจ
จากศูนย์รวมทางสังคมเหล่านี้
จากศูนย์รวมทางสังคมเหล่านี้
06:29
to get randomness,
126
377661
1499
คือการได้มาซึ่งความไม่มีแบบแผน
06:31
it requires, actually, some planning.
127
379184
2061
อันที่จริงแล้ว มันต้องการการวางแผนบ้าง
06:33
In one university that I worked at,
128
381269
2849
ในมหาวิทยาลัยหนึ่งที่ฉันทำงาน
06:36
there was a mail room
on every single floor.
on every single floor.
129
384142
2503
มีห้องจดหมายทุก ๆ ชั้น
06:38
What that meant is that the only people
who would bump into each other
who would bump into each other
130
386669
3655
นั่นก็หมายความว่า คนที่จะบังเอิญมาพบกัน
06:42
are those who are actually on that floor
131
390348
1959
ก็คือคนที่ทำงานอยู่บนชั้นเดียวกัน
06:44
and who are bumping
into each other anyway.
into each other anyway.
132
392331
2014
ซึ่งอย่างไรซะก็จะต้องเจอกันอยู่แล้ว
06:46
At another university I worked at,
there was only one mail room,
there was only one mail room,
133
394369
3064
ที่อีกมหาวิทยาลัยที่ฉันทำงาน
มีห้องจดหมายเพียงห้องเดียว
มีห้องจดหมายเพียงห้องเดียว
06:49
so all the faculty
from all over that building
from all over that building
134
397457
3406
ฉะนั้น ทุกแผนกจากทุกส่วนของตึก
06:52
would run into each other
in that social hub.
in that social hub.
135
400887
2604
อาจมาพบปะกันในศูนย์รวมทางสังคมนั้น
06:56
A simple change in planning,
136
404098
2974
เป็นการเปลี่ยนแปลงง่าย ๆ
ตามแผนที่วางเอาไว้
ตามแผนที่วางเอาไว้
06:59
a huge difference in the traffic of people
137
407096
3115
ทำให้เกิดความแตกต่างอย่างมาก
ในการสัญจรของผู้คน
ในการสัญจรของผู้คน
07:02
and the accidental bumps in the network.
138
410235
2070
และการมาพบปะกันในวงสังคมโดยบังเอิญ
07:04
Here's my question for you:
139
412329
2306
คำถามจากฉันก็คือ
07:06
What are you doing that breaks you
from your social habits?
from your social habits?
140
414659
3514
คุณทำอะไรเพื่อที่จะฝ่าออกไป
จากนิสัยทางสังคมเดิม ๆ ของคุณ
จากนิสัยทางสังคมเดิม ๆ ของคุณ
07:10
Where do you find yourself
141
418197
1595
ที่ไหนที่ทำให้คุณพบว่าตัวคุณเอง
07:11
in places where you get injections
of unpredictable diversity?
of unpredictable diversity?
142
419816
4906
อยู่ในที่ที่จะได้รับความหลากหลาย
ที่ไม่อาจคาดเดาได้
ที่ไม่อาจคาดเดาได้
07:17
And my students give me
some wonderful examples.
some wonderful examples.
143
425165
2671
และนักศึกษาของฉัน ก็ยกตัวอย่างเจ๋ง ๆ
07:19
They tell me when they're doing
pickup basketball games,
pickup basketball games,
144
427860
2834
พวกเขาบอกกับฉันว่า
เมื่อพวกเขาเล่นบาสเก็ตบอล
เมื่อพวกเขาเล่นบาสเก็ตบอล
07:22
or my favorite example
is when they go to a dog park.
is when they go to a dog park.
145
430718
2889
หรือตัวอย่างที่ฉันชอบก็คือ
เมื่อพวกเขาพาสุนัขไปเดินเล่น
เมื่อพวกเขาพาสุนัขไปเดินเล่น
07:25
They tell me it's even better
than online dating when they're there.
than online dating when they're there.
146
433631
3593
พวกเขาบอกกับฉันว่า
มันดีกว่าการหาคู่ออนไลน์อีกนะ
มันดีกว่าการหาคู่ออนไลน์อีกนะ
07:29
So the real thing that
I want you to think about
I want you to think about
147
437248
4030
ฉะนั้น เรื่องที่ฉันอยากให้คุณระลึกไว้ก็คือ
07:33
is we've got to fight our filters.
148
441302
2057
เราจะต้องต้านการคัดกรองของเรา
07:35
We've got to make ourselves
a little more inefficient,
a little more inefficient,
149
443383
3217
เราจะต้องทำให้ตัวเอง
ขาดประสิทธิภาพลงนิดหน่อย
ขาดประสิทธิภาพลงนิดหน่อย
07:38
and by doing so, we are creating
a more imprecise social search engine.
a more imprecise social search engine.
150
446624
4978
และการทำเช่นนั้น เรากำลังสร้าง
เครื่องมือค้นหาทางสังคมที่ไม่แม่นตรงมากนัก
เครื่องมือค้นหาทางสังคมที่ไม่แม่นตรงมากนัก
07:43
And you're creating that randomness,
151
451626
2360
และคุณกำลังสร้างความไม่แน่นอนขึ้น
07:46
that luck that is going to cause you
to widen your travels,
to widen your travels,
152
454010
2863
โชคที่จะทำให้คุณขยายวงการเดินทางออกไป
07:48
through your social universe.
153
456897
1460
สู่อาณาจักรทางสังคมอันกว้างใหญ่
07:50
But in fact, there's more to it than that.
154
458812
2422
แต่อันที่จริง มันมีอะไรมากกว่านั้น
07:53
Sometimes we actually buy ourselves
a second-class ticket
a second-class ticket
155
461258
4743
บางครั้ง เราซื้อตั๋วชั้นสอง
07:58
to travel our social universe.
156
466025
1670
เพื่อเดินทางไปในอาณาจักรทางสังคม
08:00
We are not courageous
when we reach out to people.
when we reach out to people.
157
468337
3710
เราไม่ได้มีจิตใจกล้าหาญ
เมื่อออกไปหาผู้คน
เมื่อออกไปหาผู้คน
08:04
Let me give you an example of that.
158
472071
2268
ให้ฉันได้ยกตัวอย่างให้คุณฟังนะคะ
08:06
A few years ago, I had
a very eventful year.
a very eventful year.
159
474363
2994
หลายปีก่อน ฉันยุ่งมาก ๆ
08:09
That year, I managed to lose a job,
160
477381
3202
ในปีนั้น ฉันตกงาน
08:12
I managed to get a dream job
overseas and accept it,
overseas and accept it,
161
480607
3245
ฉันได้งานในฝันในต่างประเทศ
และฉันก็ตกลงเข้าทำงาน
และฉันก็ตกลงเข้าทำงาน
08:15
I had a baby the next month,
162
483876
1582
ฉันคลอดลูกในอีกเดือนถัดมา
08:17
I got very sick,
163
485482
1190
ฉันป่วยหนัก
08:18
I was unable to take the dream job.
164
486696
2174
ฉันไม่สามารถที่จะทำงานที่ฉันรักได้
08:21
And so in a few weeks,
what ended up happening was,
what ended up happening was,
165
489319
2759
และในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์
สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ
สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ
08:24
I lost my identity as a faculty member,
166
492102
2928
ฉันเสียตัวตนในฐานะสมาชิกของคณะ
08:27
and I got a very stressful
new identity as a mother.
new identity as a mother.
167
495054
2998
และฉันก็อยู่ในฐานะใหม่ที่เครียดมาก
นั้นก็คือการเป็นแม่
นั้นก็คือการเป็นแม่
08:30
What I also got was tons
of advice from people.
of advice from people.
168
498076
3144
อีกสิ่งที่ฉันได้รับก็คือคำแนะนำมากมาย
08:33
And the advice I despised
more than any other advice was,
more than any other advice was,
169
501244
3105
และคำแนะนำที่ฉันดูแคลนมากที่สุด
ในบรรดาคำแนะนำที่ได้ทั้งหมดก็คือ
ในบรรดาคำแนะนำที่ได้ทั้งหมดก็คือ
08:36
"You've got to go network with everybody."
170
504373
2267
"คุณต้องออกไปพบปะสร้างเครือข่ายกับทุกคน"
08:38
When your psychological world
is breaking down,
is breaking down,
171
506664
3241
เมื่อโลกทางด้านจิตใจของคุณพังทลาย
08:41
the hardest thing to do
is to try and reach out
is to try and reach out
172
509929
2882
สิ่งที่ยากที่สุดก็คือการพยายาม
และการพาตัวเองออกไป
และการพาตัวเองออกไป
08:44
and build up your social world.
173
512835
1812
และสร้างโลกในทางสังคมขึ้นใหม่
08:46
And so we studied exactly this idea
on a much larger scale.
on a much larger scale.
174
514671
4672
และเราได้ศึกษาแนวคิดนี้
ในระดับที่ใหญ่กว่านี้มาก
ในระดับที่ใหญ่กว่านี้มาก
08:51
What we did was we looked at high
and low socioeconomic status people,
and low socioeconomic status people,
175
519367
5908
เราพิจารณาฐานะทางการเงินในสังคมของผู้คน
08:57
and we looked at them in two situations.
176
525299
2370
และเราสังเกตพวกเขาในสองกรณี
08:59
We looked at them first
in a baseline condition,
in a baseline condition,
177
527693
2453
ประการแรก เราสังเกตพวกเขาในสภาวะพื้นฐาน
09:02
when they were quite comfortable.
178
530170
1952
เมื่อพวกเขาค่อนข้างสบายใจ
09:04
And what we found was that
our lower socioeconomic status people,
our lower socioeconomic status people,
179
532146
3641
และเราก็พบว่าคนที่
มีสถานะการเงินทางสังคมที่ต่ำกว่า
มีสถานะการเงินทางสังคมที่ต่ำกว่า
09:07
when they were comfortable,
were actually reaching out to more people.
were actually reaching out to more people.
180
535811
3442
เมื่อพวกเขาสบายใจ
พวกเขาจะพาตัวเองออกไปพบกับคนมากกว่า
พวกเขาจะพาตัวเองออกไปพบกับคนมากกว่า
09:11
They thought of more people.
181
539277
1424
พวกเขาคิดถึงกลุ่มผู้คนได้มากกว่า
09:12
They were also less constrained
in how they were networking.
in how they were networking.
182
540725
2847
พวกเขายังมีข้อจำกัดน้อยกว่า
ในการพบปะเข้าสังคมของตัวเอง
ในการพบปะเข้าสังคมของตัวเอง
09:15
They were thinking of more diverse people
183
543596
2037
พวกเขาคิดถึงผู้คนได้หลากหลายกว่า
09:17
than the higher-status people.
184
545657
1462
มากกว่าคนที่มีสถานะการเงินที่สูงกว่า
09:19
Then we asked them
to think about maybe losing a job.
to think about maybe losing a job.
185
547143
3121
เมื่อเราขอให้พวกเขานึกดูว่า
จะเป็นอย่างไรถ้าตกงาน
จะเป็นอย่างไรถ้าตกงาน
09:22
We threatened them.
186
550288
1216
มันเหมือนเราขู่พวกเขา
09:23
And once they thought about that,
187
551528
2071
และเมื่อพวกเขาคิดเช่นนั้น
09:25
the networks they generated
completely differed.
completely differed.
188
553623
2696
เครือข่ายที่พวกเขาได้มาก็แตกต่างออกไป
09:28
The lower socioeconomic status
people reached inwards.
people reached inwards.
189
556651
3529
คนที่มีสถานะการเงินทางสังคมต่ำกว่า
จะพาตัวเองเข้าสู่วงใน
จะพาตัวเองเข้าสู่วงใน
09:32
They thought of fewer people.
190
560204
1560
พวกเขาคิดถึงผู้คนได้ไม่มากนัก
09:33
They thought of less-diverse people.
191
561788
2357
พวกเขาคิดถึงผู้คนได้หลากหลายน้อยลง
09:36
The higher socioeconomic status
people thought of more people,
people thought of more people,
192
564169
3629
คนที่มีสถานะทางการเงินที่สูงกว่า
จะคิดถึงผู้คนได้มากกว่า
จะคิดถึงผู้คนได้มากกว่า
09:39
they thought of a broader network,
193
567822
1667
พวกเขาคิดถึงเครือข่ายที่กว้างกว่า
09:41
they were positioning themselves
to bounce back from that setback.
to bounce back from that setback.
194
569513
4184
พวกเขาจัดวางตัวเองที่อยู่ในระยะถดถอย
ให้พร้อมที่จะฟื้นคืน
ให้พร้อมที่จะฟื้นคืน
09:46
Let's consider what this actually means.
195
574101
2986
ลองพิจารณาดูว่านี่หมายความว่าอย่างไร
09:49
Imagine that you were being
spontaneously unfriended
spontaneously unfriended
196
577524
4421
ลองสมมติว่าอยู่ดี ๆ คุณโดนเลิกคบ
09:53
by everyone in your network
197
581969
2721
จากทุกคนในเครือข่ายวงสังคมของคุณ
09:56
other than your mom,
your dad and your dog.
your dad and your dog.
198
584714
3575
ยกเว้นแม่ พ่อ และหมาของคุณ
10:00
(Laughter)
199
588313
1021
(เสียงหัวเราะ)
10:01
This is essentially what we are doing
200
589358
2555
นี่คือสิ่งพื้นฐานที่เราทำ
10:03
at these moments when
we need our networks the most.
we need our networks the most.
201
591937
3156
ณ วินาทีนั้น คือตอนที่
คุณต้องการเครือข่ายมากที่สุด
คุณต้องการเครือข่ายมากที่สุด
10:08
Imagine -- this is what we're doing.
We're doing it to ourselves.
We're doing it to ourselves.
202
596193
3084
สมมติว่า นี่คือสิ่งที่เราทำ
เราทำแบบนี้กับตัวเอง
เราทำแบบนี้กับตัวเอง
10:11
We are mentally compressing our networks
203
599301
1970
ลดขนาดเครือข่ายสังคมของเราในทางจิตวิทยา
10:13
when we are being harassed,
when we are being bullied,
when we are being bullied,
204
601295
2619
เมื่อเรากำลังถูกรังควาน
เมื่อเรากำลังถูกรังแก
เมื่อเรากำลังถูกรังแก
10:15
when we are threatened about losing a job,
205
603938
2214
เมื่อเรากำลังถูกข่มขู่ว่ากำลังจะเสียงานไป
10:18
when we feel down and weak.
206
606176
2376
เมื่อเรารู้สึกเศร้าและอ่อนแอ
10:20
We are closing ourselves off,
isolating ourselves,
isolating ourselves,
207
608576
2925
เรากำลังกั้นตัวเองให้แยกห่างออกมา
10:23
creating a blind spot where we actually
don't see our resources.
don't see our resources.
208
611525
3744
เป็นการสร้างจุดบอด
ที่ทำให้เราไม่เห็นที่พึ่งของเรา
ที่ทำให้เราไม่เห็นที่พึ่งของเรา
10:27
We don't see our allies,
we don't see our opportunities.
we don't see our opportunities.
209
615293
2897
เราไม่เหมือนพวกพ้อง เราไมเ่ห็นโอกาส
10:30
How can we overcome this?
210
618214
1501
เราจะก้าวข้ามสิ่งนี้ได้อย่างไร
10:32
Two simple strategies.
211
620136
1397
แผนการง่าย ๆ สองประการค่ะ
10:33
One strategy is simply to look
at your list of Facebook friends
at your list of Facebook friends
212
621557
3738
แผนการแรกง่าย ๆ คือ
ลองดูรายการเพื่อนในเฟสบุ๊ก
ลองดูรายการเพื่อนในเฟสบุ๊ก
10:37
and LinkedIn friends
213
625319
1156
และในลิงก์อิน
10:38
just so you remind yourself
of people who are there
of people who are there
214
626499
3057
เพื่อที่คุณจะได้ระลึกถึงคนที่อยู่ตรงนั้น
10:41
beyond those that
automatically come to mind.
automatically come to mind.
215
629580
2520
นอกเหนือจากคนที่คุณนึกได้โดยอัตโนมัติ
10:44
And in our own research,
one of the things we did was,
one of the things we did was,
216
632415
2833
และในการวิจัยของเรา
สิ่งหนึ่งที่เราได้ทำก็คือ
สิ่งหนึ่งที่เราได้ทำก็คือ
10:47
we considered Claude Steele's
research on self-affirmation:
research on self-affirmation:
217
635272
3611
เราพิจารณาการวิจัยของคล็อด สตีล
เรื่องการยอมรับตนเอง
เรื่องการยอมรับตนเอง
10:50
simply thinking about your own values,
218
638907
2523
ลองคิดคำนึงถึงคุณค่าของตัวคุณเอง
10:53
networking from a place of strength.
219
641454
1835
เริ่มสร้างเครือข่ายจากจุดแข็งของเรา
10:55
What Leigh Thompson, Hoon-Seok Choi
and I were able to do is,
and I were able to do is,
220
643313
2910
สิ่งที่ ลีห์ ทอมป์สัน, ฮูน ซ๊อค ฉ่อย
และฉันสามารถทำได้ก็คือ
และฉันสามารถทำได้ก็คือ
10:58
we found that people
who had affirmed themselves first
who had affirmed themselves first
221
646247
3052
เราพบว่าคนที่ยอมรับตนเองก่อน
11:01
were able to take advice from people
222
649323
1831
สามารถที่จะยอมรับฟังคำแนะนำจากผู้คน
11:03
who would otherwise
be threatening to them.
be threatening to them.
223
651178
2137
ที่ไม่เช่นนั้นแล้ว
อาจเป็นผู้ที่ทำให้พวกเขากลัว
อาจเป็นผู้ที่ทำให้พวกเขากลัว
11:06
Here's a last exercise.
224
654778
1846
และนี่เป็นแบบฝึกหัดสุดท้าย
11:09
I want you to look in your email in-box,
225
657245
3240
ฉันอยากให้คูณดูอีเมลของคุณ
11:12
and I want you to look at the last time
you asked somebody for a favor.
you asked somebody for a favor.
226
660509
3727
ฉันอยากให้คุณลองดูว่านานแค่ไหนแล้ว
ที่คุณขอความช่วยเหลือจากคนอื่น
ที่คุณขอความช่วยเหลือจากคนอื่น
11:16
And I want you to look
at the language that you used.
at the language that you used.
227
664260
2540
และฉันอยากให้คุณดูภาษาที่คุณใช้
11:18
Did you say things like,
228
666824
1863
คุณพูดอะไรบางอย่างเช่น
11:20
"Oh, you're a great resource,"
229
668711
1460
"ว้าว คุณเป็นที่พึ่งที่ดีจริง ๆ "
11:22
or "I owe you one,"
230
670195
1476
หรือ "ฉันเป็นหนี้คุณแล้วล่ะ"
11:23
"I'm obligated to you."
231
671695
1679
"เป็นพระคุณเหลือเกิน"
11:25
All of this language
represents a metaphor.
represents a metaphor.
232
673398
3241
การใช้คำต่าง ๆ เหล่านี้
เป็นตัวแทนของการอุปมา
เป็นตัวแทนของการอุปมา
11:28
It's a metaphor of economics,
233
676663
1854
มันคือการอุปมาทางเศรษฐศาสตร์
11:30
of a balance sheet, of accounting,
234
678541
2235
ของสมดุลรายรับรายจ่าย ของการทำบัญชี
11:32
of transactions.
235
680800
1282
ของการโอนถ่าย
11:34
And when we think about human relations
in a transactional way,
in a transactional way,
236
682106
3051
และเมื่อเราคิดถึงความสัมพันธ์ของมนุษย์
ในรูปแบบการถ่ายโอน
ในรูปแบบการถ่ายโอน
11:37
it is fundamentally uncomfortable
to us as human beings.
to us as human beings.
237
685181
3754
โดยพื้นฐานแล้ว
มันไม่น่าสบายใจเลยสำหรับมนุษย์เรา
มันไม่น่าสบายใจเลยสำหรับมนุษย์เรา
11:41
We must think about human relations
and reaching out to people
and reaching out to people
238
689399
3726
เราจะต้องคิดถึงความสัมพันธ์ของมนุษย์
และพาตัวออกไปหาผู้อื่น
และพาตัวออกไปหาผู้อื่น
11:45
in more humane ways.
239
693149
1384
ในแบบที่ดูมีมนุษยธรรมกว่า
11:47
Here's an idea as to how to do so.
240
695160
2813
นี่คือแนวคิดว่าจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร
11:49
Look at words like "please," "thank you,"
"you're welcome" in other languages.
"you're welcome" in other languages.
241
697997
5129
ลองดูคำว่า "กรุณา" "ขอบคุณ"
"ด้วยความยินดี" ในภาษาอื่น ๆ สิคะ
"ด้วยความยินดี" ในภาษาอื่น ๆ สิคะ
11:55
Look at the literal
translation of these words.
translation of these words.
242
703150
2246
ลองดูความหมายตามตัวอักษรของมัน
11:57
Each of these words is a word
that helps us impose upon other people
that helps us impose upon other people
243
705420
3712
คำเหล่านี้แต่ละคำ คือคำที่จะช่วยเรา
ในการร้องขอจากผู้คน
ในการร้องขอจากผู้คน
12:01
in our social networks.
244
709156
1622
ในเครือข่ายสังคมของเรา
12:02
And so, the word "thank you,"
245
710802
1852
และคำว่า "ขอบคุณ"
12:04
if you look at it in Spanish,
Italian, French,
Italian, French,
246
712678
2456
ถ้าคุณลองดูคำนี้ในภาษาสเปน อิตาลี ฝรั่งเศส
12:07
"gracias," "grazie," "merci" in French.
247
715158
3471
"กราเซียส" "กราเซีย"
และ "แม็กซิ" ในภาษาฝรั่งเศส
และ "แม็กซิ" ในภาษาฝรั่งเศส
12:10
Each of them are "grace" and "mercy."
248
718653
1763
แต่ละคำหมายถึง "ความกรุณา"
และ "ความเมตตา"
และ "ความเมตตา"
12:12
They are godly words.
249
720440
1888
คำเหล่านี้เต็มไปด้วยความเลื่อมใส
12:14
There's nothing economic
or transactional about those words.
or transactional about those words.
250
722352
3362
ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐศาสตร์
หรือการแลกเปลี่ยนในคำเหล่านี้
หรือการแลกเปลี่ยนในคำเหล่านี้
12:18
The word "you're welcome" is interesting.
251
726194
2139
"ด้วยความยินดี" เป็นคำที่น่าสนใจ
12:20
The great persuasion theorist
Robert Cialdini says
Robert Cialdini says
252
728357
2719
นักทฤษฎีการโน้มน้าวใจผู้ยิ่งใหญ่
โรเบิร์ต บี ชาลดินี กล่าวว่า
โรเบิร์ต บี ชาลดินี กล่าวว่า
12:23
we've got to get our favors back.
253
731100
1597
เราจะต้องได้รับการตอบแทน
12:24
So we need to emphasize
the transaction a little bit more.
the transaction a little bit more.
254
732721
2752
ฉะนั้น เราต้องเน้นการแลกเปลี่ยน
ให้มากกว่านี้สักหน่อย
ให้มากกว่านี้สักหน่อย
12:27
He says, "Let's not say 'You're welcome.'
255
735497
1984
เขาบอกว่า "อย่าได้พูดว่า 'ด้วยความยินดี'
12:29
Instead say, 'I know you'd
do the same for me.'"
do the same for me.'"
256
737505
2895
ให้พูดว่า 'ถ้าเป็นคุณ
คุณก็คงทำเพื่อฉันเช่นนี้แหละ'"
คุณก็คงทำเพื่อฉันเช่นนี้แหละ'"
12:32
But sometimes it may be helpful
to not think in transactional ways,
to not think in transactional ways,
257
740424
4481
แต่บางครั้ง มันอาจมีประโยชน์
ที่จะไม่คิดในเชิงการแลกเปลี่ยน
ที่จะไม่คิดในเชิงการแลกเปลี่ยน
12:36
to eliminate the transaction,
to make it a little bit more invisible.
to make it a little bit more invisible.
258
744929
3653
เพื่อกำจัดการแลกเปลี่ยน
เพื่อทำให้มันโปร่งใสมากขึ้น
เพื่อทำให้มันโปร่งใสมากขึ้น
12:40
And in fact, if you look in Chinese,
259
748606
2147
และอันที่จริง ถ้าคุณดูในภาษาจีน
12:42
the word "bú kè qì" in Chinese,
"You're welcome," means,
"You're welcome," means,
260
750777
3159
คำว่า "ปู๋ เค่อ ชี่" ในภาษาจีน
"ด้วยความยินดี" หมายถึง
"ด้วยความยินดี" หมายถึง
12:45
"Don't be formal; we're family. We don't
need to go through those formalities."
need to go through those formalities."
261
753960
3850
"ไม่ต้องเกรงใจ, เราก็ญาติกัน
ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรหรอก"
ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรหรอก"
12:49
And "kembali" in Indonesian
is "Come back to me."
is "Come back to me."
262
757834
3280
และคำว่า "เกิมบาลี" ในภาษาอินโดนีเซีย
แปลได้ว่า "แล้วให้ช่วยอีกนะ"
แปลได้ว่า "แล้วให้ช่วยอีกนะ"
12:53
When you say "You're welcome" next time,
263
761592
2032
ครั้งหน้า เมื่อคุณพูดคำว่า
"ด้วยความยินดี"
"ด้วยความยินดี"
12:55
think about how you can maybe
eliminate the transaction
eliminate the transaction
264
763648
2952
ลองพยายามนึกถึงว่า
คุณจะกำจัดการแลกเปลี่ยนนั้นอย่างไร
คุณจะกำจัดการแลกเปลี่ยนนั้นอย่างไร
12:58
and instead strengthen that social tie.
265
766624
2545
และสร้างความแข็งแกร่ง
ให้กับสัมพันธ์ทางสังคม
ให้กับสัมพันธ์ทางสังคม
13:01
Maybe "It's great to collaborate,"
or "That's what friends are for."
or "That's what friends are for."
266
769193
4355
อาจใช้คำว่า "เป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่ง"
หรือ "เพื่อนไม่ทิ้งกัน"
หรือ "เพื่อนไม่ทิ้งกัน"
13:06
I want you to think about how
you think about this ticket that you have
you think about this ticket that you have
267
774771
4632
ฉันอยากให้คุณคิดดูว่า
คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับตั๋วที่คุณมี
คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับตั๋วที่คุณมี
13:11
to travel your social universe.
268
779427
2234
เพื่อใช้ท่องเที่ยว
ในอาณาจักรทางสังคมของคุณ
ในอาณาจักรทางสังคมของคุณ
13:13
Here's one metaphor.
269
781685
1357
มีอุปมาหนึ่ง
13:15
It's a common metaphor:
"Life is a journey." Right?
"Life is a journey." Right?
270
783066
2475
มันเป็นอุปมาที่เราคุ้นเคย
"ชีวิตคือการเดินทาง"
13:17
It's a train ride,
271
785565
1186
มันเป็นเหมือนการนั่งรถไฟ
13:18
and you're a passenger on the train,
272
786775
2362
และคุณคือผู้โดยสารที่อยู่รถไฟขบวนนั้น
13:21
and there are certain people with you.
273
789161
1872
และก็มีคนจำนวนหนึ่งอยู่กับคุณ
13:23
Certain people get on this train,
274
791057
2145
คนบางคนขึ้นมาบนรถไฟขบวนนี้
13:25
and some stay with you,
some leave at different stops,
some leave at different stops,
275
793226
2577
และบางคนก็อยู่กับคุณ
บางคนก็ลงที่สถานีอื่น
บางคนก็ลงที่สถานีอื่น
13:27
new ones may enter.
276
795827
1413
แล้วก็มีคนใหม่ขึ้นมา
13:29
I love this metaphor,
it's a beautiful one.
it's a beautiful one.
277
797264
2038
ฉันชอบการอุปมานี้ มันสวยงามดีค่ะ
13:31
But I want you to consider
a different metaphor.
a different metaphor.
278
799326
3014
แต่ฉันอยากให้คุณพิจารณา
อีกอุปมาหนึ่ง
อีกอุปมาหนึ่ง
13:34
This one is passive,
being a passenger on that train,
being a passenger on that train,
279
802364
3558
อุปมานี้เรื่อย ๆ เฉื่อย ๆ
เป็นผู้โดยสารบนรถไฟ
เป็นผู้โดยสารบนรถไฟ
13:37
and it's quite linear.
280
805946
1176
และค่อนข้างจะตรง ๆ เรียบ ๆ
13:39
You're off to some particular destination.
281
807146
2521
คุณกำลังเดินทางไปยังเป้าหมายที่ไหนสักแห่ง
13:42
Why not instead think of yourself
282
810045
2582
ทำไมไม่ลองสมมติดูว่า
13:44
as an atom,
283
812651
1325
คุณเป็นอะตอม
13:46
bumping up against other atoms,
284
814000
2341
ที่กำลังปะทะกับอะตอมอื่น ๆ
13:48
maybe transferring energy with them,
285
816365
1757
อาจถ่ายทอดพลังงานให้กันและกัน
13:50
bonding with them a little
286
818146
1430
เกิดพันธะกันนิดหน่อย
13:51
and maybe creating something new
287
819600
1898
และอาจสร้างสรรค์อะไรใหม่ ๆ
13:53
on your travels
through the social universe.
through the social universe.
288
821522
2504
ระหว่างการเดินทาง
ไปในอาณาจักรทางสังคมของคุณ
ไปในอาณาจักรทางสังคมของคุณ
13:56
Thank you so much.
289
824375
1403
ของคุณมาก ๆ ค่ะ
13:57
And I hope we bump into each other again.
290
825802
2094
และฉันก็หวังว่า เราจะได้มาพบปะกันอีก
13:59
(Applause)
291
827920
4951
(เสียงปรบมือ)
ABOUT THE SPEAKER
Tanya Menon - Organizational psychologistTanya Menon speaks, writes and consults on collaboration. Her research focuses on how people think about their relationships and the habits that allow them to build positive connections with other people.
Why you should listen
Tanya Menon is fascinated that in a time when we can instantaneously connect with nearly the whole world, we often instead filter our relationships even more narrowly. As such, we often get stuck in dead ends, missing out on new people, ideas and opportunities. Menon and her collaborators have studied the often mundane feelings and innocuous daily habits that cause people to remain in their social comfort zone and produce this polarization. And they have also explored ways that we can be more intentional about navigating the social world.
Menon is Associate Professor at the Ohio State University’s Fisher College of Business. Her research has been cited in the Wall Street Journal, Boston Globe, Chicago Tribune and The Financial Times. She is Associate Editor at Management Science journal, an award-winning teacher, and she has done keynotes, consulting and training for organizations all over the world. Her book with Dr. Leigh Thompson, Stop Spending, Start Managing: Strategies to Transform Wasteful Habits (2016, Harvard Business Review Press) explores various social traps people face in business, and how to overcome them.
Menon earned a bachelor's degree in sociology from Harvard University in 1995 and her Ph.D. from the Stanford Graduate School of Business. Her goal as a researcher, educator, consultant and parent is to create new ways for people to connect with each other so that they can live richer and more creative lives. She hopes that her work will help people intentionally create new habits to live a wider life and also share them widely.
Tanya Menon | Speaker | TED.com