TED2003
Don Norman: 3 ways good design makes you happy
ดอน นอร์แมน (Don Norman) กับสามวิธี ที่ออกแบบทำให้คุณมีความสุข
Filmed:
Readability: 3.3
1,860,477 views
ในการปาฐกถาปี 2003 นักวิจารณ์การออกแบบ ดอน นอร์แมน ได้เปลี่ยนแนวคิดของเขาไปสู่ความสวยงาม ความสนุก ความพึงพอใจ และอารมณ์ความรู้สึก เมื่อเขามองลึกลงไปในการออกแบบที่ทำให้คนมีความสุข เขาได้ตั้งตัวชี้นำทางอารมณ์ 3 อย่าง ที่จะทำให้มันสำเร็จลงได้
Don Norman - Cognitive scientist and design critic
Don Norman studies how real people interact with design, exploring the gulf between what a designer intends and what a regular person actually wants. His work has resulted in some classic books, including "The Design of Everyday Things." Full bio
Don Norman studies how real people interact with design, exploring the gulf between what a designer intends and what a regular person actually wants. His work has resulted in some classic books, including "The Design of Everyday Things." Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:12
The new me is beauty.
0
0
2000
ผมคนใหม่คือความสวยงาม
00:14
(Laughter)
1
2000
1000
(เสียงหัวเราะ)
00:15
Yeah, people used to say, "Norman's OK,
2
3000
5000
คุณรู้มั้ย คนชอบพูดว่า นอร์แมน ก็โอเคนะ
00:20
but if you followed what he said, everything would be usable
3
8000
2000
แต่ถ้าเชื่อสิ่งที่เขากล่าวว่าทุกอย่างจะสามารถใช้ได้
00:22
but it would be ugly."
4
10000
2000
แต่มันจะดูน่าเกลียดทีเดียว
00:24
Well, I didn't have that in mind, so ...
5
12000
2000
ก็นะ ผมไม่เคยคิดถึงเรื่องนั้นมาก่อน
00:29
This is neat.
6
17000
2000
นี่มันเจ๋งมากๆ
00:31
Thank you for setting up my display.
7
19000
2000
ขอบคุณที่จัดฉากทั้งหมดให้ผม
00:33
I mean, it's just wonderful.
8
21000
2000
ผมหมายถึงว่า นี่มันยอดไปเลย
00:35
And I haven't the slightest idea of what it does or what it's good for,
9
23000
3000
และผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกมันไว้ใช้ทำอะไร
00:38
but I want it.
10
26000
2000
ผมแค่อยากได้
00:40
And that's my new life.
11
28000
2000
และนั่นแหละคือชีวิตใหม่ของผม
00:42
My new life is trying to understand what beauty is about,
12
30000
4000
ขีวิคใหม่ของผมคือการพยายามเข้าใจว่า
ความสวยงาม คืออะไร
ความสวยงาม คืออะไร
00:46
and "pretty," and "emotions."
13
34000
2000
รวมไปถึง ความน่ารัก และ อารมณ์ ต่างๆ
00:48
The new me is all about making things kind of neat and fun.
14
36000
4000
ผมคนใหม่จะทำของที่เนี๊ยบๆ สนุกๆ
00:52
And so this is a Philippe Starck juicer, produced by Alessi.
15
40000
4000
นี่คือที่คั้นน้ำผลไม้โดย ฟิลิปเป้ สตาร์ค (Philippe Starck)
ผลิตโดยอะเลสซี่ (Alessi)
ผลิตโดยอะเลสซี่ (Alessi)
00:56
It's just neat; it's fun. It's so much fun I have it in my house --
16
44000
2000
มันแค่ดูเจ๋ง ดูสนุก จนผมต้องมีมันอยู่ในบ้าน
00:58
but I have it in the entryway, I don't use it to make juice.
17
46000
3000
ผมวางมันตรงทางเข้าบ้านนะ
เพราะผมคงไม่ได้ใช้มันทำน้ำอะไรหรอก
เพราะผมคงไม่ได้ใช้มันทำน้ำอะไรหรอก
01:01
(Laughter)
18
49000
2000
(เสียงหัวเราะ)
01:03
In fact, I bought the gold-plated special edition
19
51000
4000
ที่จริง ผมซื้อรุ่นพิเศษแบบชุบทองซะด้วยซ้ำ
01:07
and it comes with a little slip of paper
20
55000
2000
ที่มาพร้อมกับกระดาษเล็กๆ
01:09
that says, "Don't use this juicer to make juice."
21
57000
3000
เขียนว่า กรุณาอย่าใช้คั้นน้ำผลไม้
01:12
The acid will ruin the gold plating.
22
60000
3000
เพราะกรดจะทำลายสีทองได้
01:15
(Laughter)
23
63000
1000
(เสียงหัวเราะ)
01:16
So actually, I took a carton of orange juice
24
64000
2000
ที่จริง ผมเอาน้ำส้มจากกล่อง
01:18
and I poured it in the glass to take this picture.
25
66000
2000
เทลงในแก้วเพื่อถ่ายรูปนี้
01:20
(Laughter)
26
68000
3000
(เสียงหัวเราะ)
01:23
Beneath it is a wonderful knife.
27
71000
2000
ที่เห็นด้านล่างนั่นคือมีดคุณภาพเยี่ยม
01:25
It's a Global cutting knife made in Japan.
28
73000
3000
ของโกลบอล (Global) จากญี่ปุ่น
01:28
First of all, look at the shape -- it's just wonderful to look at.
29
76000
2000
อย่างแรกเลย ลองดูรูปร่างที่ชวนมองของมัน
01:30
Second of all, it's really beautifully balanced:
30
78000
3000
อย่างที่สอง มันมีสมดุลที่ยอดเยี่ยม
01:33
it holds well, it feels well.
31
81000
2000
ถือได้เหมาะมือ สัมผัสก็เยี่ยม
01:35
And third of all, it's so sharp, it just cuts.
32
83000
2000
และอย่างที่สาม มันคมมาก ตัดได้แทบทุกอย่าง
01:37
It's a delight to use.
33
85000
2000
น่าใช้งานสุดๆ
01:39
And so it's got everything, right?
34
87000
2000
คุณสมบัติครบถ้วนเลยใช่มั้ยครับ
01:41
It's beautiful and it's functional.
35
89000
2000
ทั้งสวย ทั้งใช้งานได้จริง
01:43
And I can tell you stories about it,
36
91000
2000
และผมสามารถเล่าเรื่องราวมากมาย
01:45
which makes it reflective,
37
93000
2000
ที่จะช่วยสะท้อน
01:47
and so you'll see I have a theory of emotion.
38
95000
2000
ให้คุณเห็นถึงทฤษฎีทางอารมณ์ของผม
01:49
And those are the three components.
39
97000
2000
ที่ประกอบด้วย สามส่วนด้วยกัน
01:51
Hiroshi Ishii and his group at the MIT Media Lab
40
99000
3000
ฮิโรชิ อิชิอิ (Hiroshi Ishii) กับทีมของเขา
ที่ห้องปฏิบัติการทางสื่อของ MIT
ที่ห้องปฏิบัติการทางสื่อของ MIT
01:54
took a ping-pong table and placed a projector above it,
41
102000
3000
ติดตั้งเครื่องฉายภาพไว้ด้านบนโต๊ะปิงปอง
01:57
and on the ping-pong table they projected an image of water
42
105000
3000
แล้วฉายภาพน้ำบนโต๊ะปิงปอง
02:00
with fish swimming in it.
43
108000
2000
กับปลาที่ว่ายอยู่ในนั้น
02:02
And as you play ping-pong, whenever the ball hits part of the table,
44
110000
3000
เวลาคุณเล่นปิงปอง เมื่อไหร่ที่ลูกแตะโต๊ะ
02:05
the ripples spread out and the fish run away.
45
113000
2000
ระลอกคลื่นจะทำให้ปลาว่ายหนีไป
02:07
But of course, then the ball hits the other side,
46
115000
2000
แน่นอน พอลูกถูกตีไปอีกฝั่ง
02:09
the ripples hit the -- poor fish, they can't find any peace and quiet.
47
117000
3000
ระลอกคลื่นก็เกิดขึ้นอีก น่าสงสารเจ้าปลา
มันคงไม่ได้อยู่อย่างเป็นสุขแน่ๆ
มันคงไม่ได้อยู่อย่างเป็นสุขแน่ๆ
02:12
(Laughter)
48
120000
1000
(เสียงหัวเราะ)
02:13
Is that a good way to play ping-pong?
49
121000
2000
มันเป็นวิธีปิงปองเล่นที่ดีมั้ยน่ะเรอะ
02:15
No. But is it fun?
50
123000
2000
ก็คงไม่ แต่มันสนุกหรือเปล่าล่ะ
02:17
Yeah! Yeah.
51
125000
3000
แน่นอน
02:20
Or look at Google.
52
128000
2000
หรือดูกูเกิ้ล (Google) เป็นตัวอย่าง
02:22
If you type in, oh say, "emotion and design,"
53
130000
5000
ถ้าคุณพิมพ์พร้อม อารมณ์กับการออกแบบ
02:27
you get 10 pages of results.
54
135000
2000
แล้วได้ผลลัพธ์ 10 หน้า
02:29
So Google just took their logo and they spread it out.
55
137000
3000
กูเกิ้ลยืดโลโก้ให้ตัวอักษรยาวออก
02:32
Instead of saying, "You got 73,000 results.
56
140000
2000
แทนที่จะบอกว่า คุณได้ผลลัพธ์ 73,000 รายการ
02:34
This is one through 20. Next,"
57
142000
2000
นี่คือรายการที่ 1 ถึง 20 กดเพื่อดูรายการต่อไป
02:36
they just give you as many o's as there are pages.
58
144000
3000
พวกเค้าใช้การเพิ่มตัวโอตามจำนวนหน้าแทน
02:39
It's really simple and subtle.
59
147000
2000
มันดูง่ายและฉลาดมาก
02:41
I bet a lot of you have seen it and never noticed it.
60
149000
3000
พนันว่าหลายคนเคยเห็น แต่ไม่ได้สังเกต
02:44
That's the subconscious mind
61
152000
2000
และคงเป็นจิตใต้สำนึก
02:46
that sort of notices it -- it probably is kind of pleasant
62
154000
2000
ทำให้เห็น และพบว่ามันน่ามอง
02:48
and you didn't know why.
63
156000
2000
โดยที่คุณไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร
02:50
And it's just clever.
64
158000
2000
มันเพี่ยงแค่แยบยลเท่านั้น
02:52
And of course, what's especially good is,
65
160000
2000
แน่นอน อีกสิ่งที่เยี่ยมก็คือ
02:54
if you type "design and emotion,"
66
162000
2000
ถ้าคุณพิมพ์ การออกแบบกับอารมณ์
02:56
the first response out of those 10 pages is my website.
67
164000
4000
ผลลัพธ์อันแรกที่เจอคือสิบหน้าเว็บไซต์ของผม
03:00
(Laughter)
68
168000
2000
(เสียงหัวเราะ)
03:02
Now, the weird thing is Google lies,
69
170000
3000
ที่แปลกก็คือกูเกิ้ลมันโกหก
03:05
because if I type "design and emotion,"
70
173000
2000
เพราะถ้าพิมพ์ การออกแบบกับอารมณ์
03:07
it says, "You don't need the 'and.' We do it anyway."
71
175000
3000
มันจะคิดว่า คุณไม่ต้องใช้คำว่า กับ เราเพิ่มมันให้อยู่แล้ว
03:10
So, OK.
72
178000
2000
โอเค
03:12
So I type "design emotion"
73
180000
2000
ผมเลยพิมพ์ว่า การออกแบบ อารมณ์
03:14
and my website wasn't first again.
74
182000
2000
และเว็บไซต์ผมก็ร่วงจากที่หน้าแรก
03:16
It was third.
75
184000
2000
มาเป็นที่หน้าที่สาม
03:18
Oh well, different story.
76
186000
2000
ผมออกนอกเรื่องซะแล้ว
03:22
There was this wonderful review in The New York Times
77
190000
3000
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ (The New York Times)
ได้เขียนบทความวิจารณ์ที่ยอดเยี่ยมมากอยู่ฉบับหนึ่ง
ได้เขียนบทความวิจารณ์ที่ยอดเยี่ยมมากอยู่ฉบับหนึ่ง
03:25
about the MINI Cooper automobile.
78
193000
2000
เกี่ยวกับรถมินิคูเปอร์ (MINI Cooper)
03:27
It said, "You know, this is a car that has lots of faults.
79
195000
4000
บอกว่า คุณรู้มั้ย รถคันนี้มีข้อเสียเยอะมากทีเดียว
03:31
Buy it anyway.
80
199000
2000
ยังไงก็ตามจงซื้อมันซะ
03:33
It's so much fun to drive."
81
201000
2000
เพราะมันขับได้สนุกมาก
03:35
And if you look at the inside of the car --
82
203000
3000
และถ้าคุณมองเข้าไปในข้างในรถ
03:38
I mean, I loved it, I wanted to see it, I rented it,
83
206000
2000
ผมตกหลุมรักมัน ผมอยากเห็นมัน เลยเช่ามันมา
03:40
this is me taking a picture while my son is driving --
84
208000
3000
นี่คือรูปที่ผมถ่าย ตอนลูกผมขับรถ
03:43
and the inside of the car, the whole design is fun.
85
211000
3000
และภายในตัวรถ ทุกอย่างมันดูสนุกมาก
03:46
It's round, it's neat.
86
214000
2000
ดูโค้งมน ดูเนี๊ยบ
03:48
The controls work wonderfully.
87
216000
2000
ระบบควบคุมก็ทำงานได้ยอดเยี่ยมมาก
03:50
So that's my new life; it's all about fun.
88
218000
3000
นั่นแหละผมชีวิตใหม่ ทุกอย่างต้องสนุก
03:53
I really have the feeling that pleasant things work better,
89
221000
3000
ผมรู้สึกจริงๆ ว่าของที่ดูดีจะทำงานได้ดีกว่า
03:56
and that never made any sense to me
90
224000
3000
และผมไม่เคยมีความรู้สึกเช่นนั้น
03:59
until I finally figured out -- look ...
91
227000
2000
แล้วผมก็คิดออก เอาล่ะ
04:03
I'm going to put a plank on the ground.
92
231000
2000
ผมจะวางแผ่นไม้ไว้บนพื้น
04:05
So, imagine I have a plank about two feet wide and 30 feet long
93
233000
3000
ลองนึกภาพ ไม้หน้ากว้างซัก 2 ฟุต และยาว 30 ฟุต
04:08
and I'm going to walk on it, and you see I can walk on it without looking,
94
236000
3000
ผมจะเดินอยู่ข้างบน
และอย่างที่เห็นผมเดินได้โดยไม่ต้องมอง
และอย่างที่เห็นผมเดินได้โดยไม่ต้องมอง
04:11
I can go back and forth and I can jump up and down.
95
239000
2000
เดินไป เดินมา กระโดดขึ้นๆ ลงๆ
04:13
No problem.
96
241000
2000
ไม่มีปัญหา
04:15
Now I'm going to put the plank 300 feet in the air --
97
243000
4000
แต่ถ้าแผ่นไม้มันอยู่สูงขึ้นไป 300 ฟุตในอากาศล่ะ
04:19
and I'm not going to go near it, thank you.
98
247000
3000
ผมไม่กล้าที่จะยืนใกล้ ขอบคุณมาก
04:25
Intense fear paralyzes you.
99
253000
2000
ความกลัวทำให้คุณชาไปหมด
04:27
It actually affects the way the brain works.
100
255000
3000
มันส่งผลกระทบกับการทำงานของสมอง
04:30
So, Paul Saffo, before his talk said that he didn't really have it down
101
258000
4000
พอล แซฟโฟ (Paul Saffo)
กล่าวว่าตัวเขาไม่เคยเตรียมบทพูดเอาไว้ก่อน
กล่าวว่าตัวเขาไม่เคยเตรียมบทพูดเอาไว้ก่อน
04:34
until just a few days or hours before the talk,
102
262000
2000
จนกว่าเหลือเวลาแค่ไม่กี่วัน หรือไม่กี่ชั่วโมงก่อนต้องพูดจริง
04:36
and that anxiety was really helpful in causing him to focus.
103
264000
4000
และความกระวนกระวายนั้นช่วยให้เค้ามีสมาธิ
04:40
That's what fear and anxiety does;
104
268000
2000
นั่นแหละคือผลของความกลัวและความกังวล
04:42
it causes you to be -- what's called depth-first processing --
105
270000
3000
มันทำให้คุณเป็นคนที่
ประมวลผลในเชิงลึก (Depth-first processing)
ประมวลผลในเชิงลึก (Depth-first processing)
04:45
to focus, not be distracted.
106
273000
3000
ทำให้เกิดสมาธิ ไม่วอกแวก
04:48
And I couldn't force myself across that.
107
276000
3000
และผมผลักตัวเองให้ข้ามจุดนั้นไปไม่ได้
04:51
Now some people can -- circus workers, steel workers.
108
279000
3000
บางคนก็ทำได้ เช่น นักกายกรรม พนักงานเชื่อมโครงสร้าง
04:54
But it really changes the way you think.
109
282000
2000
แต่มันเปลี่ยนความคิดของคุณไปโดยสิ้นเชิง
04:56
And then, a psychologist, Alice Isen,
110
284000
3000
นักจิตวิทยาอลิซ อิเซน (Alice Isen)
04:59
did this wonderful experiment.
111
287000
2000
ได้ทำการทดลองที่น่าทึ่ง
05:01
She brought students in to solve problems.
112
289000
2000
โดยให้นักเรียนแก้ปริศนา
05:03
So, she'd bring people into the room,
113
291000
2000
เธอจะนำคนเข้ามาในห้อง
05:05
and there'd be a string hanging down here
114
293000
2000
ที่มีเชือกห้อยลงมาตรงนี้
05:07
and a string hanging down here.
115
295000
2000
และตรงนี้
05:09
It was an empty room, except for a table with a bunch of crap on it --
116
297000
3000
มันเป็นห้องว่างๆ กับโต๊ะที่มีของเกะกะอยู่เต็มไปหมด
05:12
some papers and scissors and stuff.
117
300000
2000
กระดาษเอย กรรไกรเอย
05:14
And she'd bring them in,
118
302000
2000
และเธอจะนำคนเข้ามา
05:16
and she'd say,
119
304000
2000
และบอกว่า
05:18
"This is an IQ test and it determines how well you do in life.
120
306000
3000
นี่เป็นการทดสอบไอคิว มันจะช่วยบอกว่า
คุณจะประสบความสำเร็จในชีวิตมากแค่ไหน
คุณจะประสบความสำเร็จในชีวิตมากแค่ไหน
05:21
Would you tie those two strings together?"
121
309000
3000
คุณช่วยผูกเชือก สองเส้นนั่น เข้าด้วยกันได้มั้ย
05:24
So they'd take one string and they'd pull it over here
122
312000
3000
พวกเขาจึงดึงเชือกเข้าหากัน
05:27
and they couldn't reach the other string.
123
315000
3000
แต่ไม่ว่าจะทำยังไง
05:30
Still can't reach it.
124
318000
2000
ก็ดึงไม่ถึงซะที
05:32
And, basically, none of them could solve it.
125
320000
3000
และแน่นอน ไม่มีใครที่แก้ปริศนานี้ได้
05:35
You bring in a second group of people,
126
323000
3000
พอนำคนกลุ่มที่สองเข้ามา
05:38
and you say, "Oh, before we start,
127
326000
3000
และบอกพวกเขาว่า เอาล่ะก่อนที่เราจะเริ่ม
05:41
I got this box of candy, and I don't eat candy.
128
329000
3000
ฉันมีกล่องขนมอยู่ตรงนี้ และฉันไม่ชอบกินมันเท่าไหร่
05:44
Would you like the box of candy?"
129
332000
2000
คุณจะกินมันมั้ย
05:46
And turns out they liked it, and it made them happy --
130
334000
3000
พวกเขาชอบมัน และนั่นมันทำให้พวกเขาอารมณ์ดี
05:49
not very happy, but a little bit of happy.
131
337000
2000
อาจจะไม่มาก แค่นิดๆ หน่อย
05:51
And guess what -- they solved the problem.
132
339000
2000
และรู้อะไรมั้ย พวกเขาแก้ปริศนานั้นได้
05:53
And it turns out that when you're anxious
133
341000
3000
สิ่งที่เกิดขึ้นคือเมื่อคุณกระวนกระวายใจ
05:56
you squirt neural transmitters in the brain, which focuses you
134
344000
3000
ระดับของสารนำประสาทจะเพิ่มขึ้นในสมอง ทำให้คุณมีสมาธิ
05:59
makes you depth-first.
135
347000
2000
ทำให้คุณคิดในเชิงลึกได้
06:01
And when you're happy -- what we call positive valence --
136
349000
3000
และเมื่อคุณมีความสุข หรือเพิ่มตัวกระตุ้นทางบวก
(Positive valence) เข้าไป
(Positive valence) เข้าไป
06:04
you squirt dopamine into the prefrontal lobes,
137
352000
2000
ระดับของโดพามีน (dopamine) จะเพิ่มขึ้นในสมองส่วนหน้า
06:06
which makes you a breadth-first problem solver:
138
354000
2000
ทำให้คุณแก้ปัญหาในเชิงกว้างได้ดี
06:08
you're more susceptible to interruption; you do out-of-the-box thinking.
139
356000
3000
คุณจะไวต่อสิ่งกระตุ้นมากขึ้น คุณจะคิดนอกกรอบ
06:11
That's what brainstorming is about, right?
140
359000
3000
และนั่นคือเรื่องเกี่ยวกับของการระดมสมองอยู่แล้ว ใช่มั้ย
06:14
With brainstorming we make you happy, we play games,
141
362000
3000
การระดมสมองทำให้คุณอารมณ์ดี เหมือนการเล่นเกมส์
06:17
and we say, "No criticism,"
142
365000
2000
เราพูดว่า ห้ามวิพากษ์ วิจารณ์
06:19
and you get all these weird, neat ideas.
143
367000
2000
เราจึงได้ความคิดแบบแปลกๆ เจ๋งๆ มา
06:21
But in fact, if that's how you always were you'd never get any work done
144
369000
3000
แต่ในความจริง ถ้านั่นคือสิ่งที่คุณเป็น
คุณคงไม่มีทางทำอะไรสำเร็จได้
คุณคงไม่มีทางทำอะไรสำเร็จได้
06:24
because you'd be working along and say, "Oh, I got a new way of doing it."
145
372000
3000
เพราะคุณจะมัวแต่พูดว่า
โอ้วพระเจ้า ฉันเจอวิธีใหม่ๆ อีกแล้ว
โอ้วพระเจ้า ฉันเจอวิธีใหม่ๆ อีกแล้ว
06:27
So to get work done, you've got to set a deadline, right?
146
375000
4000
เพื่อที่จะให้งานสำเร็จ คุณต้องกำหนดเส้นตายใช่มั้ย
06:31
You've got be anxious.
147
379000
2000
คุณจะได้กระวนกระวาย
06:33
The brain works differently
148
381000
2000
สมองจึงทำงานต่างออกไป
06:35
if you're happy. Things work better because you're more creative.
149
383000
3000
ถ้าคุณอารมณ์ดี คุณจะมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น
06:38
You get a little problem, you say, "Ah, I'll figure it out."
150
386000
3000
เมื่อพบกับปัญหาคุณจะพูดว่า เดี๋ยวก็คิดออกน่า
06:41
No big deal.
151
389000
2000
ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
06:43
There's something I call the visceral level of processing, and there will be visceral-level design.
152
391000
2000
มันมีบางอย่างที่ผมเรียกว่าการประมวลผลแบบสัญชาตญาณ
คู่กันไปกับการออกแบบที่เน้นสัญชาตญาณเป็นหลัก
คู่กันไปกับการออกแบบที่เน้นสัญชาตญาณเป็นหลัก
06:45
Biology -- we have co-adapted through biology to like bright colors.
153
393000
4000
อย่างที่พบในวิชาชีววิทยา
เราถูกวิวัฒนาการมาให้ชอบสีสันที่สดใส
เราถูกวิวัฒนาการมาให้ชอบสีสันที่สดใส
06:49
That's especially good that mammals and primates like fruits
154
397000
4000
มันเป็นสิ่งที่ดีที่พวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
และสัตว์จำพวกลิงที่ชอบผลไม้
และสัตว์จำพวกลิงที่ชอบผลไม้
06:53
and bright plants, because you eat the fruit
155
401000
2000
และผักที่สีสันสดใส เพราะเมื่อคุณกินมัน
06:55
and you thereby spread the seed.
156
403000
2000
คุณก็ช่วยกระจายเมล็ดพันธุ์ของมันไปในตัว
06:57
There's an amazing amount of stuff that's built into the brain.
157
405000
3000
มีข้อมูลตั้งมากมายที่ถูกฝังเข้าไปในสมองของเรา
07:00
We dislike bitter tastes, we dislike loud sounds,
158
408000
3000
เราไม่ชอบรสขม เราเกลียดเสียงดัง
07:03
we dislike hot temperatures, cold temperatures.
159
411000
2000
เราไม่ชอบให้อากาศร้อนหรือเย็นเกินไป
07:05
We dislike scolding voices. We dislike frowning faces;
160
413000
4000
เราไม่ชอบเสียงตะโกนหรือหน้าตาที่บึ้งตึง
07:09
we like symmetrical faces, etc., etc.
161
417000
2000
เราชอบหน้าสมส่วน และอื่นๆ อีกมากมาย
07:12
So that's the visceral level.
162
420000
2000
และนั่นแหละคือสัญชาตญาณ
07:14
In design, you can express visceral in lots of ways,
163
422000
3000
ในการออกแบบ คุณสามารถพบเห็นสิ่งนี้ได้อยู่ทั่วไป
07:17
like the choice of type fonts and the red for hot, exciting.
164
425000
5000
อย่างเช่นการเลือกตัวอักษรและสีแดงเพื่อสื่อถึงความร้อนแรง และน่าตื่นเต้น
07:22
Or the 1963 Jaguar:
165
430000
2000
หรือรถจากัวร์ปี 1963
07:24
It's actually a crummy car, falls apart all the time,
166
432000
3000
รถแย่ๆ คันหนึ่ง ที่เสียอยู่ตลอดเวลา
07:27
but the owners love it.
167
435000
2000
แต่เจ้าของก็ยังรักมัน
07:29
And it's beautiful -- it's in the Museum of Modern Art.
168
437000
2000
และมันสวยงามมาก
ซึ่งตอนนี้ถูกรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่
ซึ่งตอนนี้ถูกรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่
07:31
A water bottle:
169
439000
2000
ขวดน้ำ
07:33
You buy it because of the bottle, not because of the water.
170
441000
3000
คุณซื้อมันเพราะขวด ไม่ใช่เพราะน้ำ
07:36
And when people are finished, they don't throw it away.
171
444000
3000
เพราะเมื่อดื่มเสร็จ พวกเขาไม่ได้ทิ้งมันในทันที
07:39
They keep it for -- you know, it's like the old wine bottles, you keep it for decoration
172
447000
3000
เขาเก็บมันไว้ เหมือนขวดไวน์เก่าๆ เป็นของแต่งบ้าน
07:42
or maybe fill it with water again, which proves it's not the water.
173
450000
3000
หรือไม่ก็ไว้เติมน้ำอีกครั้ง
ซึ่งพิสูจน์ว่าพวกเขาไม่ได้ต้องการซื้อน้ำเลย
ซึ่งพิสูจน์ว่าพวกเขาไม่ได้ต้องการซื้อน้ำเลย
07:45
It's all about the visceral experience.
174
453000
4000
ทั้งหมดมันเกี่ยวกับสัญชาตญาณที่ผ่านมา
07:50
The middle level of processing is the behavioral level
175
458000
4000
ระดับที่สองต่อมา คือการประมวลผลเชิงพฤติกรรม
07:54
and that's actually where most of our stuff gets done.
176
462000
2000
และนั่นเป็นที่ๆ การทำงานส่วนใหญ่เกิดขึ้น
07:56
Visceral is subconscious, you're unaware of it.
177
464000
2000
สัญชาตญาณนั้นอยู่ในจิตใต้สำนึก
คุณไม่เคยรับรู้การมีอยู่ของมัน
คุณไม่เคยรับรู้การมีอยู่ของมัน
07:58
Behavioral is subconscious, you're unaware of it.
178
466000
3000
เช่นเดียวกับพฤติกรรม คุณไม่รู้
08:01
Almost everything we do is subconscious.
179
469000
2000
แทบทุกอย่างที่เราทำนั้นอยู่ในจิตใต้สำนึก
08:03
I'm walking around the stage -- I'm not attending to the control of my legs.
180
471000
4000
ผมกำลังเดินอยู่บนเวที
แต่ผมแทบไม่ต้องควบคุมขาของผมซะด้วยซ้ำ
แต่ผมแทบไม่ต้องควบคุมขาของผมซะด้วยซ้ำ
08:07
I'm doing a lot; most of my talk is subconscious;
181
475000
3000
การพูดครั้งนี้ของผมก็อยู่ในจิตใต้สำนึก
08:10
it has been rehearsed and thought about a lot.
182
478000
2000
มันถูกซ้อมและถูกคิดมาอย่างถี่ถ้วน
08:12
Most of what we do is subconscious.
183
480000
2000
ทุกๆ อย่างที่เราทำล้วนแล้วแต่อยู่ภายใต้จิตใต้สำนึก
08:14
Automatic behavior -- skilled behavior -- is subconscious,
184
482000
3000
เป็นการกระทำอัตโนมัติ ภายใต้จิตใต้สำนึก
08:17
controlled by the behavioral side.
185
485000
2000
ซึ่งถูกควบคุมโดยพฤติกรรม
08:19
And behavioral design is all about feeling in control,
186
487000
4000
และการออกแบบเชิงพฤติกรรม
เป็นเรื่องเกี่ยวกับความรู้สึกในการควบคุม
เป็นเรื่องเกี่ยวกับความรู้สึกในการควบคุม
08:23
which includes usability, understanding --
187
491000
3000
เกี่ยวกับการใช้งาน การเข้าใจ
08:26
but also the feel and heft.
188
494000
2000
การสัมผัส และน้ำหนัก ควบคู่กันไป
08:28
That's why the Global knives are so neat.
189
496000
2000
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมีดของโกลบอลถึงได้เจ๋งนัก
08:30
They're so nicely balanced, so sharp,
190
498000
2000
เพราะมันมีสมดุลที่ยอดเยี่ยม กับความคมที่เป็นเลิศ
08:32
that you really feel you're in control of the cutting.
191
500000
2000
ทำให้คุณรู้สึกว่าสามารถควบคุมการหั่นได้เป็นอย่างดี
08:34
Or, just driving a high-performance sports car
192
502000
4000
หรือแค่การขับรถสปอร์ตแรงๆ ซักคัน
08:38
over a demanding curb --
193
506000
2000
ทิ้งตัวเข้าทางโค้ง
08:40
again, feeling that you are in complete control of the environment.
194
508000
3000
อีกครั้งเป็นความรู้สึกว่าคุณ
สามารถควบคุมองค์ประกอบทุกอย่างได้
สามารถควบคุมองค์ประกอบทุกอย่างได้
08:43
Or the sensual feeling.
195
511000
2000
พร้อมๆ ไปกับสัมผัสที่เร้าอารมณ์
08:45
This is a Kohler shower, a waterfall shower,
196
513000
2000
นี่คือฝักบัวน้ำตกของโคเลอร์ (Kohler)
08:47
and actually, all those knobs beneath are also showerheads.
197
515000
3000
และปุ่มทั้งหมดนั่นก็เป็นหัวฝักบัวด้วยเช่นกัน
08:50
It will squirt you all around
198
518000
2000
มันจะฉีดไปรอบๆ ตัวคุณ
08:52
and you can stay in that shower for hours --
199
520000
2000
ทำให้คุณอาบน้ำอยู่ได้เป็นชั่วโมง
08:54
and not waste water, by the way,
200
522000
2000
โดยที่ไม่เปลืองน้ำ โดยมีวิธี
08:56
because it recirculates the same dirty water.
201
524000
2000
เพราะมันจะนำน้ำสกปรกที่ใช้แล้ว มาใช้ใหม่เรื่อยๆ
08:58
(Laughter)
202
526000
3000
(เสียงหัวเราะ)
09:01
Or this -- this is a really neat teapot I found
203
529000
2000
หรือไม่ก็ของชิ้นนี้ กาน้ำชาสุดแจ๋วที่ผมพบ
09:03
at high tea at The Four Seasons Hotel in Chicago.
204
531000
4000
ที่โรงแรมโฟร์ ซีซั่น (Four Seasons) ที่ชิคาโก
09:07
It's a Ronnefeldt tilting teapot.
205
535000
2000
มันคือกาน้ำชาแบบเอียงของรอนเนเฟลท์ (Ronnefeldt tilting teapot)
09:09
That's kind of what the teapot looks like
206
537000
2000
รูปร่างมันก็คล้ายๆ กับกาน้ำชาทั่วไปน่ะแหละ
09:11
but the way you use it is you lay it on its back,
207
539000
3000
แต่คุณต้องวางมันหงายหลัง
09:14
and you put tea in,
208
542000
2000
แล้วจึงค่อยใส่ใบชาลงไป
09:16
and then you fill it with water.
209
544000
2000
จากนั้นจึงเติมน้ำ
09:18
The water then seeps over the tea.
210
546000
3000
ให้น้ำได้ซึมทั่วใบชา
09:21
And the tea is sitting in this stuff to the right --
211
549000
3000
ใบชาจะกองอยู่ทางด้านขวา
09:24
the tea is to the right of this line.
212
552000
2000
ของเส้นกาน้ำชานั้น
09:26
There's a little ledge inside, so the tea is sitting there
213
554000
2000
โดยที่ภายในมีที่กั้น แบ่งให้ใบชาอยู่ในฝั่งของมัน
09:28
and the water is filling it up like that.
214
556000
2000
แล้วคุณก็เติมน้ำลงไปทั้งอย่างนั้นเลย
09:30
And when the tea is ready, or almost ready, you tilt it.
215
558000
3000
พอเกือบได้ที่ คุณก็เอียงมัน
09:33
And that means the tea is partially covered
216
561000
3000
และมันทำให้ใบชาแช่น้ำอยู่เพียงบางส่วน
09:36
while it completes the brewing.
217
564000
2000
จนมันได้ที่
09:38
And when it's finished, you put it vertically,
218
566000
2000
คุณก็ตั้งมันให้ตรง
09:40
and now the tea is -- you remember -- above this line
219
568000
2000
และนี้การทำน้ำชา จำใว้ว่า ให้ใบชาเหนือเส้นนี้
09:42
and the water only comes to here --
220
570000
3000
น้ำชาอยู่เหนือเส้น
09:45
and so it keeps the tea out.
221
573000
2000
และใบชาแยกออกมา
09:47
On top of that, it communicates,
222
575000
2000
ที่มากไปกว่านั้น คือมันช่วยสื่อสาร
09:49
which is what emotion does.
223
577000
2000
ซึ่งเป็นหน้าที่ของอารมณ์อยู่แล้ว
09:51
Emotion is all about acting; emotion is really about acting.
224
579000
3000
อารมณ์คือการแสดงออก เป็นการแสดงอกจริงๆ
09:54
It's being safe in the world.
225
582000
2000
เป็นเรื่องของการเอาตัวรอดในโลก
09:56
Cognition is about understanding the world, emotion is about interpreting it --
226
584000
4000
เมื่อการรับรู้ทำความเข้าใจ อารมณ์มีหน้าที่ตีความมัน
10:00
saying good, bad, safe, dangerous,
227
588000
2000
ช่วยบอกว่ามันดี แย่ ปลอดภัย หรืออันตราย
10:02
and getting us ready to act, which is why the muscles tense or relax.
228
590000
3000
ช่วยให้เราเตรียมพร้อม
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมกล้ามเนื้อถึงเกร็งและผ่อน
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมกล้ามเนื้อถึงเกร็งและผ่อน
10:05
And that's why we can tell the emotion of somebody else --
229
593000
4000
และเป็นเหตุผลว่าทำไมเราเข้าถึงอารมณ์ของผู้อื่นได้
10:09
because their muscles are acting, subconsciously,
230
597000
2000
เพราะกล้ามเนื้อกำลังแสดงออก ผ่านจิตใต้สำนึก
10:11
except that we've evolved to make the facial muscles really rich with emotion.
231
599000
6000
และเราได้วิวัฒนาการมันจนตีความหมายได้มากมาย
10:17
Well, this has emotions if you like,
232
605000
2000
อย่างเช่นอารมณ์พวกนี้
10:19
because it signals the waiter that, "Hey, I'm finished. See -- upright."
233
607000
4000
เพราะมันช่วยส่งสัญญาณบอกบริกรว่า
คุณ ฉันกินเสร็จแล้วนะ มองฉันสิ
คุณ ฉันกินเสร็จแล้วนะ มองฉันสิ
10:23
And the waiter can come by and say, "Would you like more water?"
234
611000
3000
บริกรก็จะมาหาและพูดว่า คุณต้องการน้ำเพิ่มหรือเปล่าครับ
10:26
It's kind of neat. What a wonderful design.
235
614000
2000
มันเจ๋งมาก เป็นการออกแบบที่เยี่ยมยอด
10:28
And the third level is reflective,
236
616000
4000
ระดับที่สามคือการสะท้อน
10:32
which is, if you like the superego,
237
620000
4000
นั่นคือถ้าหากคุณมีเชื่อมั่นสูง
10:36
it's a little part of the brain that has no control over what you do,
238
624000
3000
มันคือส่วนเล็กๆ ในสมองที่ไม่สามารถควบคุมสิ่งที่คุณทำได้
10:39
no control over the -- doesn't see the senses,
239
627000
4000
ไม่มีการควบคุม ไม่รับรู้ความมีสติ
10:43
doesn't control the muscles.
240
631000
2000
ไม่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อได้
10:45
It looks over what's going on.
241
633000
2000
มันแค่ช่วยดูว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
10:47
It's that little voice in your head
242
635000
2000
มันคือเสียงเล็กๆ ในหัวของคุณ
10:49
that's watching and saying, "That's good. That's bad."
243
637000
2000
ที่คอยจ้องมองและบอกว่า นั่นมันดี นั่นมันแย่
10:51
Or, "Why are you doing that? I don't understand."
244
639000
2000
หรือไม่ก็ ทำไมคุณทำอย่างนั้นล่ะ ฉันไม่เข้าใจ
10:53
It's that little voice in your head that's the seat of consciousness.
245
641000
2000
มันเป็นเสียงเล็กๆ ในหัว จากจิตสำนึกของคุณ
10:55
Here's a great reflective product.
246
643000
3000
นี่คือตัวอย่างผลิตภัณฑ์ของการออกแบบระดับในนี้
10:58
Owners of the Hummer have said, "You know I've owned many cars in my life --
247
646000
4000
เจ้าของรถฮัมเมอร์ (Hummer) พูดว่า
ผมได้ซื้อรถมาหลายคันแล้ว
ผมได้ซื้อรถมาหลายคันแล้ว
11:02
all sorts of exotic cars,
248
650000
2000
รถหรูๆ มากมาย
11:04
but never have I had a car that attracted so much attention."
249
652000
3000
แต่ผมไม่เคยซื้อรถที่ดึงดูดความสนใจได้มากขนาดนี้มาก่อน
11:07
It's about attention. It's about their image,
250
655000
2000
มันเกี่ยวกับการดึงดูดความสนใจ เกี่ยวกับภาพพจน์
11:09
not about the car.
251
657000
2000
ไม่ได้เกี่ยวกับรถ
11:11
If you want a more positive model --
252
659000
2000
ถ้าคุณต้องการตัวอย่างที่ดีกว่านี้ล่ะก็
11:13
this is the GM car.
253
661000
2000
ลองรถจากจีเอ็ม (GM)
11:15
And the reason you might buy it now is because you care about the environment.
254
663000
2000
เหตุผลที่คุณอาจซื้อมันในตอนนี้
ก็เพราะคุณเป็นคนที่ห่วงสิ่งแวดล้อม
ก็เพราะคุณเป็นคนที่ห่วงสิ่งแวดล้อม
11:17
And you'll buy it to protect the environment,
255
665000
2000
และคุณจะซื้อมันเพื่อปกป้องธรรมชาติเอาไว้
11:19
even though the first few cars are going to be really expensive
256
667000
3000
แม้ว่ารถคันแรกๆ จะมีราคาค่อนข้างสูง
11:22
and not perfected.
257
670000
2000
และมีข้อบกพร่องบ้างก็ตาม
11:24
But that's reflective design as well.
258
672000
2000
แต่นั่นก็นับเป็นการออกแบบเชิงสะท้อนได้เช่นเดียวกัน
11:26
Or an expensive watch, so you can impress people --
259
674000
2000
หรือไม่ก็นาฬิการาคาแพง เพื่อสร้างความประทับใจ
11:28
"Oh gee, I didn't know you had that watch."
260
676000
3000
ว้าว ฉันไม่รู้นะเนี่ยว่าคุณมีนาฬิกาเรือนนั้นด้วย
11:31
As opposed to this one,
261
679000
2000
ต่างจากนาฬิกาเรือนนี้
11:33
which is a pure behavioral watch,
262
681000
2000
ที่เน้นการใช้งานเป็นหลัก
11:35
which probably keeps better time than the $13,000 watch I just showed you.
263
683000
3000
ที่ไม่แน่อาจรักษาเวลาได้ดีกว่าเจ้าเรือนละ 13,000 ดอลล่าร์
ที่ผมเพิ่งอวดคุณเห็นซะอีก
ที่ผมเพิ่งอวดคุณเห็นซะอีก
11:38
But it's ugly.
264
686000
2000
แต่หน้าตามันอาจน่าเกลียดอยู่ซักหน่อย
11:40
This is a clear Don Norman watch.
265
688000
2000
เจ้านาฬิกาเรือนนี้มันมีชื่อผมเขียนอยู่ขัดเจน
11:42
And what's neat is sometimes you pit one emotion against the other,
266
690000
3000
และบางครั้งคุณพยายามเจ๋ง พรางความรูสึกต้านผู้อื่น
11:45
the visceral fear of falling
267
693000
3000
เพราะรู้สึกกลัวอยู่ลึกๆ
11:48
against the reflective state saying, "It's OK. It's OK. It's safe. It's safe."
268
696000
5000
ระหว่างเสียงสะท้อนที่บอกว่า มันโอเคๆ มันปลอดภัยๆ
11:53
If that amusement park were rusty and falling apart, you'd never go on the ride.
269
701000
4000
ลองนึกสวนสนุกที่ขึ้นสนิม และกำลังหลุดเป็นชิ้นๆ
คุณคงไม่อยากจะไปนั่งบนเครื่องเล่นแน่ๆ
คุณคงไม่อยากจะไปนั่งบนเครื่องเล่นแน่ๆ
11:57
So, it's pitting one against the other.
270
705000
3000
เพราะฉะนั้นมันคือการพรางซึ่งกันและกัน
12:00
The other neat thing ...
271
708000
3000
อีกอย่างที่เนี๊ยบมากๆ
12:03
(Laughter)
272
711000
4000
(เสียงหัวเราะ)
12:07
So Jake Cress is this furniture maker,
273
715000
3000
คนทำเฟอร์นิเจอร์ที่ชื่อว่า เจค เคลส (Jake Cress)
12:10
and he makes this unbelievable set of furniture.
274
718000
3000
ได้ทำเฟอร์นิเจอร์ที่ดูน่าทึ่งเหล่านี้
12:13
And this is his chair with claw,
275
721000
2000
และนี่คือเก้าอี้ที่มีกรงเล็บ
12:15
and the poor little chair has lost its ball
276
723000
3000
และเจ้าเก้าอี้ที่น่าสงสารตัวนี้ทำอัณฑะหายไป
12:18
and it's trying to get it back before anybody notices.
277
726000
3000
มันเลยพยายามหามันให้เจอก่อนที่ใครจะรู้เข้า
12:22
And what's so neat about it is how you accept that story.
278
730000
4000
สิ่งที่เจ๋งก็คือคุณเชื่อเรื่องราวพวกนั้นอย่างไร
12:26
And that's what's nice about emotion.
279
734000
3000
นั่นแหละคืออารมณ์ความรู้สึก
12:29
So that's the new me.
280
737000
2000
และนั่นแหละผมคนใหม่
12:31
I'm only saying positive things from now on.
281
739000
2000
จากนี้เป็นต้นไปผมจะพูดถึงแต่สิ่งดีๆ
12:33
(Laughter)
282
741000
1000
(เสียงหัวเราะ)
12:34
(Applause)
283
742000
3000
(เสียงปรบมือ)
ABOUT THE SPEAKER
Don Norman - Cognitive scientist and design criticDon Norman studies how real people interact with design, exploring the gulf between what a designer intends and what a regular person actually wants. His work has resulted in some classic books, including "The Design of Everyday Things."
Why you should listen
Don Norman is an anthropologist of modern life, studying the way we humans interact with our designed world. Though he has a slight reputation as a grumpy critic, his work is generous and insightful -- he wants nothing less than to close the gap between products and their users. If you've ever fought with an automatic faucet in an airport bathroom, or wondered which button to press in the anonymous row on top of your printer, it's good to know that Norman is in your corner. He's the author of a raft of books on design and the way we humans interact with it, including the classic "Design of Everyday Things." His next book, says his website, will be about sociable design.
Norman began his career as an academic, working in psychology and then cognitive science at UCSD. In the mid-'90s, he joined Apple and ended up in their Advanced Technology Group, and later worked for HP, before returning to university life. He's now the co-director of an innovative combined MBA and MEM program (called MMM) at Northwestern University. He's also a cofounder of the usability consultancy Nielsen Norman Group.
Don Norman | Speaker | TED.com