ABOUT THE SPEAKER
Kary Mullis - Biochemist
Kary Mullis won the Nobel Prize in Chemistry for developing a way to copy a strand of DNA. (His technique, called PCR, jump-started the 1990s' biorevolution.) He's known for his wide-ranging interests -- and strong opinions.

Why you should listen

In the early 1980s, Kary Mullis developed the polymerase chain reaction, an elegant way to make copies of a DNA strand using the enzyme polymerase and some basic DNA "building blocks." The process opened the door to more in-depth study of DNA -- like the Human Genome Project. Mullis shared the 1993 Nobel Prize in Chemistry for developing this technique.

As he tells it, after winning the Nobel Prize, his next career move was to learn how to surf. It's typical of Mullis, whose scientific method is to get deeply curious about a topic, work it out from first principles, and then imagine the next giant leap forward. As he puts it in his Nobel autobiography, revised several times since 1993, "I read a lot, and think a lot, and I can talk about almost anything. Being a Nobel laureate is a license to be an expert in lots of things as long as you do your homework."

Most recently, he's been taking a hard look at immunity; a recent patent from his company Altermune describes the redirection of an existing immune response to a new pathogen.

More profile about the speaker
Kary Mullis | Speaker | TED.com
TED2009

Kary Mullis: A next-gen cure for killer infections

แครี่ มัลลิส (Kary Mullis): ปฏิวัติวิธีการรักษาโรคติดเชื้อร้ายแรงยุคใหม่

Filmed:
691,090 views

แบคทีเรียที่ดื้อยาอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้แม้จะรักษาในโรงพยาบาลชั้นนำ แต่โรคติดเชื้อร้ายแรงเช่นสแตฟิโลคอคคัสหรือแอนแทรกซ์อาจจะต้องถึงคราวประหลาดใจบ้าง เมื่อแครี่ มัลลิส นักเคมีผู้ได้รับรางวัลโนเบล ซึ่งเคยต้องเห็นเพื่อนตายไปต่อหน้าต่อตาเพราะยาปฏิชีวนะที่ทรงพลังใช้ไม่ได้ผล จะมาเปิดเผยวิธีรักษาแบบใหม่ล่าสุดที่น่าจะให้ความหวังกับเราได้มากเป็นพิเศษ
- Biochemist
Kary Mullis won the Nobel Prize in Chemistry for developing a way to copy a strand of DNA. (His technique, called PCR, jump-started the 1990s' biorevolution.) He's known for his wide-ranging interests -- and strong opinions. Full bio

Double-click the English transcript below to play the video.

00:18
So it was about fourสี่ yearsปี agoมาแล้ว, fiveห้า yearsปี agoมาแล้ว,
0
0
3000
เหตุเกิดเมื่อราว ๆ สี่ห้าปีก่อน
00:21
I was sittingนั่ง on a stageเวที in Philadelphiaนครฟิลาเดลเฟีย, I think it was,
1
3000
2000
ผมกำลังนั่งอยู่บนเวทีที่ฟิลาเดลเีฟีย คิดว่า...
00:23
with a bagถุง similarคล้ายคลึงกัน to this.
2
5000
3000
พร้อมกับถุงอันหนึ่งคล้าย ๆ ใบนี้
00:26
And I was pullingการดึง a moleculeอณู out of this bagถุง.
3
8000
3000
ตอนนั้นผมดึงแบบจำลองโมเลกุลอันหนึ่งออกมาจากถุง
00:29
And I was sayingคำพูด, you don't know this moleculeอณู really well,
4
11000
3000
แล้วผมก็พูดว่า คุณไม่รู้จักโมเลกุลนี้ดีพอหรอก
00:32
but your bodyร่างกาย knowsรู้ it extremelyอย่างมาก well.
5
14000
3000
แต่ร่างกายของคุณรู้ัจักดีมากเลย
00:35
And I was thinkingคิด that your bodyร่างกาย hatedเกลียด it, at the time,
6
17000
4000
ตอนนั้นผมคิดว่า
ร่างกายของเราต้องเกลียดโมเลกุลชนิดนี้
00:39
because we are very immuneภูมิคุ้มกัน to this. This is calledเรียกว่า alpha-galอัลฟาแกลลอน epitopeepitope.
7
21000
3000
เพราะเรามีภูมิคุ้มกันต่อมัน
โมเลกุลนี้มีชื่อว่าอัลฟา-แกล เอพิโทป
00:42
And the factความจริง that pigหมู heartหัวใจ valvesวาล์ว have lots of these on them
8
24000
4000
และความจริงที่ว่า
บนลิ้นหัวใจของหมูมีโมเลกุลชนิดนี้จำนวนมาก
00:46
is the reasonเหตุผล that you can't transplantถ่ายเท a pigหมู heartหัวใจ valveวาล์ว into a personคน easilyอย่างง่ายดาย.
9
28000
4000
เป็นเหตุผลว่า ทำไมเราถึงไม่สามารถปลูกถ่ายลิ้นหัวใจหมู
มาสู่คนได้โดยง่าย
00:50
Actuallyแท้จริง our bodyร่างกาย doesn't hateเกลียด these.
10
32000
2000
แต่ที่จริงร่างกายของเรา
ไม่ได้เกลียดโมเลกุลพวกนี้หรอก
00:52
Our bodyร่างกาย lovesรัก these. It eatsมื้ออาหาร them.
11
34000
3000
ร่างกายของเราชอบ แล้วก็กินพวกมันด้วย
00:55
I mean, the cellsเซลล์ in our immuneภูมิคุ้มกัน systemระบบ are always hungryหิว.
12
37000
3000
คือว่าเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมันหิวอยู่เสมอ
00:58
And if an antibodyแอนติบอดี is stuckติดอยู่ to one of these things
13
40000
4000
และถ้ามีแอนติบอดีเกาะอยู่ที่โมเลกุลพวกนี้
01:02
on the cellเซลล์, it meansวิธี "that's foodอาหาร."
14
44000
3000
บนเซลล์ของเรา มันหมายความว่า "นั่นคืออาหาร"
01:05
Now, I was thinkingคิด about that and I said, you know, we'veเราได้ got this
15
47000
2000
ผมก็เลยนึกถึงเรื่องนั้นแล้วก็บอกว่า รู้ไหมว่าเรามี...
01:07
immuneภูมิคุ้มกัน responseคำตอบ to this ridiculousไร้สาระ moleculeอณู
16
49000
3000
ภูมิคุ้มกันต่อเจ้าโมเลกุลตัวแสบนี้
01:10
that we don't make, and we see it a lot in other animalsสัตว์ and stuffสิ่ง.
17
52000
4000
ที่ร่างกายเราไม่ได้สร้างขึ้น
และเราก็พบในสัตว์อื่น ๆ มากมาย
01:14
But I said we can't get ridกำจัด of it,
18
56000
3000
แต่เราก็กำจัดมันไม่ได้
01:17
because all the people who triedพยายาม to transplantถ่ายเท heartหัวใจ valvesวาล์ว
19
59000
2000
เพราะว่าทุกคนที่ได้ลองพยายามปลูกถ่ายลิ้นหัวใจ
01:19
foundพบ out you can't get ridกำจัด of that immunityภูมิคุ้มกัน.
20
61000
2000
พบว่าเราไม่สามารถกำจัดภูมิคุ้มกันนี้ออกไปได้
01:21
And I said, why don't you use that?
21
63000
2000
ผมก็เลยบอกว่า งั้นทำไมไม่ใช้ประโยชน์มันเสียเลย
01:23
What if I could stickติด this moleculeอณู,
22
65000
3000
สมมติว่าเราสามารถแปะโมเลกุลนี้
01:26
slapตบ it ontoไปยัง a bacteriaแบคทีเรีย
23
68000
2000
ลงไปบนตัวแบคทีเรีย
01:28
that was pathogenicเป็นเชื้อโรค to me, that had just invadedบุกเข้ามา my lungsปอด?
24
70000
4000
ที่ก่อโรคในตัวเรา ที่บุกรุกเข้ามาในปอดของเรา
01:32
I mean I could immediatelyทันที tapแตะเบา ๆ into
25
74000
2000
ถ้าสำเร็จ ก็หมายความว่าเราสามารถใช้ประโยชน์
01:34
an immuneภูมิคุ้มกัน responseคำตอบ that was alreadyแล้ว there,
26
76000
2000
จากระบบภูมิคุ้มกันที่มีอยู่แล้วในตัวเราได้ทันที
01:36
where it was not going to take fiveห้า or sixหก daysวัน to developพัฒนา it --
27
78000
3000
ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาถึงห้า
หรือหกวันเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันใหม่
01:39
it was going to immediatelyทันที attackโจมตี whateverอะไรก็ตาม this thing was on.
28
81000
3000
ภูมิคุ้มกันจะโจมตีทุกอย่างที่โมเลกุลนี้เกาะอยู่
01:42
It was kindชนิด of like the sameเหมือนกัน thing that happensที่เกิดขึ้น when you,
29
84000
2000
คล้าย ๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้นเวลาที่...
01:44
like when you're gettingได้รับ stoppedหยุด for a trafficการจราจร ticketตั๋ว in L.A.,
30
86000
4000
คุณถูกตำรวจเรียกเพราะฝ่าไฟแดงในแอลเอ
01:48
and the copตำรวจ dropsยาหยอด a bagถุง of marijuanaกัญชา in the back of your carรถ,
31
90000
3000
แล้วตำรวจแอบเอาถุงกัญชาหย่อนลงหลังรถคุณ
01:51
and then chargesค่าใช้จ่าย you for possessionสมบัติ of marijuanaกัญชา.
32
93000
3000
แล้วจับคุณข้อหามีกัญชาในครอบครอง
01:54
It's like this very fastรวดเร็ว, very efficientที่มีประสิทธิภาพ way to get people off the streetถนน.
33
96000
4000
ซึ่งเป็นวิธีที่เร็วมาก
และได้ผลมากในการจับคนบริสุทธิ์ออกไปจากถนน
01:58
(Laughterเสียงหัวเราะ)
34
100000
2000
(เสียงหัวเราะ)
02:00
So you can take a bacteriaแบคทีเรีย
35
102000
2000
คุณแค่เอาแบคทีเรีย
02:02
that really doesn't make these things at all,
36
104000
2000
ที่ไม่ได้สร้างโมเลกุลพวกนี้เลย
02:04
and if you could clampที่หนีบ these on it really well
37
106000
2000
แล้วถ้าเอาโมเลกุลนี้แปะลงไปบนหลังของม้ันดี ๆ
02:06
you have it takenยึด off the streetถนน.
38
108000
2000
เราก็สามารถกำจัดมันออกไปจากถนนได้แล้ว
02:08
And for certainบาง bacteriaแบคทีเรีย
39
110000
2000
และสำหรับแบคทีเรียบางชนิด
02:10
we don't have really efficientที่มีประสิทธิภาพ waysวิธี to do that anymoreอีกต่อไป.
40
112000
2000
เราไม่มีวิธีที่อื่นที่จะกำจัดมันอย่างได้ผลอีกต่อไปแล้ว
02:12
Our antibioticsยาปฏิชีวนะ are runningวิ่ง out.
41
114000
2000
เรากำลังจะไม่มียาปฏิชีวนะเหลือให้ใช้แล้ว
02:14
And, I mean, the worldโลก apparentlyเด่นชัด is runningวิ่ง out too.
42
116000
3000
และโลก... ก็เหลือเวลาอีกน้อยเต็มทีเหมือนกัน
02:17
So probablyอาจ it doesn't matterเรื่อง 50 yearsปี from now --
43
119000
3000
ฉะนั้นอย่าแปลกใจถ้าหากในอีก 50 ปีข้างหน้า
02:20
streptococcusเชื่อแป็คที่เรียรูปทรงกลม and stuffสิ่ง like that will be rampantแผลงฤทธิ์ --
44
122000
3000
พวกแบคทีเรียอย่างสเตร็ปโตคอคคัสจะแพร่หลายไปทั่ว
02:23
because we won'tเคยชิน be here. But if we are --
45
125000
2000
เพราะจะไม่มีมนุษย์เหลืออยู่แล้ว
แต่ถ้าเรายังจะรอดอยู่...
02:25
(Laughterเสียงหัวเราะ)
46
127000
2000
(เสียงหัวเราะ)
02:27
we're going to need something to do with the bacteriaแบคทีเรีย.
47
129000
2000
เราจำเป็นต้องมีวิธีการบางอย่าง
ที่จะจัดการกับแบคทีเรีย
02:29
So I startedเริ่มต้น workingการทำงาน with this thing,
48
131000
4000
ผมก็เลยเริ่มทำงานเรื่องนี้
02:33
with a bunchพวง of collaboratorsทำงานร่วมกัน.
49
135000
2000
กับเพื่อนร่วมงานอีกจำนวนหนึ่ง
02:35
And tryingพยายาม to attachแนบ this to things that were
50
137000
3000
และพยายามแปะเจ้าโมเลกุลนี้ลงไป
บนบางสิ่งบางอย่าง (ตัวกลาง)
02:38
themselvesตัวเอง attachedแนบมาด้วย to certainบาง specificโดยเฉพาะ targetเป้า zonesโซน,
51
140000
4000
ที่มักไปเกาะกับเป้าหมายเฉพาะอีกทีหนึ่ง
02:42
bacteriaแบคทีเรีย that we don't like.
52
144000
2000
อย่างเช่นแบคทีเรียที่เราไม่ชอบ
02:44
And I feel now like Georgeจอร์จ Bushพุ่มไม้.
53
146000
4000
และตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนกับจอร์จ บุช
02:48
It's like "missionหน้าที่ accomplishedคล่องแคล่ว."
54
150000
2000
คล้ายกับว่า "ภารกิจสำเร็จแล้ว"
02:50
So I mightอาจ be doing something dumbโง่, just like he was doing at the time.
55
152000
3000
คือผมอาจจะกำลังทำสิ่งที่โง่ ๆ อยู่ก็ได้
เหมือนกับที่เขาทำตอนนั้น
02:53
But basicallyเป็นพื้น what I was talkingการพูด about there we'veเราได้ now gottenอากาศ to work.
56
155000
4000
แต่หลัก ๆ แล้วสิ่งที่ผมพูดถึงตอนนั้น
มาถึงตอนนี้เราทำให้มันใช้งานได้แล้ว
02:57
And it's killingที่ฆ่า bacteriaแบคทีเรีย. It's eatingการรับประทานอาหาร them.
57
159000
4000
และมันก็ฆ่าแบคทีเรียได้ มันกินแบคทีเรีย
03:01
This thing can be stuckติดอยู่, like that little greenสีเขียว triangleสามเหลี่ยม up there,
58
163000
4000
เจ้าโมเลกุลนี้ คือสามเหลี่ยมเล็ก ๆ สีเขียวในรูป
03:05
sortประเภท of symbolizingสัญลักษณ์ this right now.
59
167000
3000
ตอนนี้ผมขอใช้สัญญลักษณ์เป็นรูปแทนมันไปก่อน
03:08
You can stickติด this to something calledเรียกว่า a DNAดีเอ็นเอ aptameraptamer.
60
170000
3000
เราสามารถยึดติดโมเลกุลนี้เข้ากับสิ่งที่เรียกว่า
ดีเอ็นเอแอปทาเมอร์
03:11
And that DNAดีเอ็นเอ aptameraptamer will attachแนบ specificallyเฉพาะ
61
173000
2000
แล้วเจ้าดีเอ็นเอแอปทาเมอร์นี้ ก็จะมุ่งไปเกาะเข้ากับ...
03:13
to a targetเป้า that you have selectedเลือก for it.
62
175000
2000
เป้าหมายที่เราเลือกมาให้มัน
03:15
So you can find a little featureลักษณะ on a bacteriumแบคทีเรีย that you don't like,
63
177000
4000
ดังนั้นเราสามารถเลือกลักษณะบางอย่าง
บนตัวของแบคทีเรียที่เราไม่ชอบ
03:19
like StaphylococcusStaphylococcus -- I don't like it in particularโดยเฉพาะ,
64
181000
3000
เช่นสแตฟฟิโลคอคคัส ผมไม่ชอบมันเป็นพิเศษ
03:22
because it killedถูกฆ่าตาย a professorศาสตราจารย์ friendเพื่อน of mineเหมือง last yearปี.
65
184000
3000
เพราะมันได้คร่าชีวิตเพื่อนศาสตราจารย์คนหนึ่งของผม
เมื่อปีที่แล้ว
03:25
It doesn't respondตอบสนอง to antibioticsยาปฏิชีวนะ. So I don't like it.
66
187000
3000
มันไม่ตอบสนองต่อยาปฏิชีวนะ ผมจึงไม่ชอบมัน
03:28
And I'm makingการทำ an aptameraptamer that will have this attachedแนบมาด้วย to it.
67
190000
3000
และผมกำลังทำแอปตาเมอร์ที่มีโมเลกุึลนี้ติดอยู่
03:31
That will know how to find StaphStaph when it's in your bodyร่างกาย,
68
193000
3000
ซึ่งจะสามารถค้นหาสตัฟฟิโลคอคคัส
เมื่อมันเข้ามาอยู่ในร่างกาย
03:34
and will alertเตือนภัย your immuneภูมิคุ้มกัน systemระบบ to go after it.
69
196000
3000
และจะปลุกระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายขึ้น
เพื่อไล่ล่ามัน
03:37
Here'sต่อไปนี้คือ what happenedที่เกิดขึ้น. See that lineเส้น on the very topด้านบน
70
199000
3000
นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น เห็นเส้นด้านบนสุดนั้นไหมครับ
03:40
with the little dotsจุด?
71
202000
2000
ที่มีจุดเล็ก ๆ เรียงกัน
03:42
That's a bunchพวง of miceหนู that had been poisonedวางยาพิษ
72
204000
3000
นั่นคือบรรดาหนูทดลองที่ถูกวางยา
03:45
by our scientistนักวิทยาศาสตร์ friendsเพื่อน down in Texasเท็กซัส,
73
207000
2000
โดยเพื่อนนักวิทยาศาสตร์ของเราที่เท็กซัส
03:47
at Brooksบรูคส์ Airอากาศ Baseฐาน, with anthraxโรคระบาดสัตว์.
74
209000
3000
ที่ฐานทัพอากาศบรูคส์ ยาพิษก็คือเชื้อแอนแทรกซ์
03:50
And they had alsoด้วย been treatedได้รับการรักษา with a drugยา that we madeทำ
75
212000
3000
และพวกมันก็ไดัรับยาที่เราสร้างขึ้นด้วยเช่นกัน
03:53
that would attackโจมตี anthraxโรคระบาดสัตว์ in particularโดยเฉพาะ,
76
215000
3000
เพื่อให้เข้าไปสู้กับเชื้อแอนแทรกซ์โดยเฉพาะ
03:56
and directโดยตรง your immuneภูมิคุ้มกัน systemระบบ to it.
77
218000
2000
โดยชี้นำระบบภูมิคุ้มกันให้วิ่งเข้าไปหามัน
03:58
You'llคุณจะ noticeแจ้งให้ทราบ they all livedอาศัยอยู่, the onesคน on the topด้านบน lineเส้น --
78
220000
2000
คุณจะเห็นว่าพวกมันมีชีวิตรอดทั้งหมด
หมายถึงพวกที่อยู่เส้นบนสุดนะครับ
04:00
that's a 100 percentเปอร์เซ็นต์ survivalการอยู่รอด rateอัตรา.
79
222000
2000
อัตรารอดชีวิตคือร้อยละ 100
04:02
And they actuallyแท้จริง livedอาศัยอยู่ anotherอื่น 14 daysวัน,
80
224000
3000
และมันก็รอดชีวิตมาอีก 14 วัน
04:05
or 28 when we finallyในที่สุด killedถูกฆ่าตาย them,
81
227000
2000
หรือ 28 วัน ก่อนที่พวกเราจะฆ่ามันในที่สุด
04:07
and tookเอา them apartต่างหาก and figuredคิด out what wentไป wrongไม่ถูกต้อง.
82
229000
3000
และชำแหละออกมาดูเพื่อหาว่า
เหตุใดจึงเป็นอย่างนี้
04:10
Why did they not dieตาย?
83
232000
2000
ทำไมพวกมันถึงไม่ตาย
04:12
And they didn't dieตาย because they didn't have anthraxโรคระบาดสัตว์ anymoreอีกต่อไป.
84
234000
3000
พวกมันไม่ตายก็เพราะมันไม่มีเชื้อแอนแทรกซ์
อยู่ในตัวอีกแล้ว
04:15
So we did it. Okay?
85
237000
2000
เราทำสำเร็จ ใช่ไหม?
04:17
(Applauseการปรบมือ)
86
239000
2000
(เสียงปรบมือ)
04:19
Missionหน้าที่ accomplishedคล่องแคล่ว!
87
241000
2000
ภารกิจสำเร็จแล้ว!
04:21
(Applauseการปรบมือ)
88
243000
7000
(เสียงปรบมือ)

▲Back to top

ABOUT THE SPEAKER
Kary Mullis - Biochemist
Kary Mullis won the Nobel Prize in Chemistry for developing a way to copy a strand of DNA. (His technique, called PCR, jump-started the 1990s' biorevolution.) He's known for his wide-ranging interests -- and strong opinions.

Why you should listen

In the early 1980s, Kary Mullis developed the polymerase chain reaction, an elegant way to make copies of a DNA strand using the enzyme polymerase and some basic DNA "building blocks." The process opened the door to more in-depth study of DNA -- like the Human Genome Project. Mullis shared the 1993 Nobel Prize in Chemistry for developing this technique.

As he tells it, after winning the Nobel Prize, his next career move was to learn how to surf. It's typical of Mullis, whose scientific method is to get deeply curious about a topic, work it out from first principles, and then imagine the next giant leap forward. As he puts it in his Nobel autobiography, revised several times since 1993, "I read a lot, and think a lot, and I can talk about almost anything. Being a Nobel laureate is a license to be an expert in lots of things as long as you do your homework."

Most recently, he's been taking a hard look at immunity; a recent patent from his company Altermune describes the redirection of an existing immune response to a new pathogen.

More profile about the speaker
Kary Mullis | Speaker | TED.com

Data provided by TED.

This site was created in May 2015 and the last update was on January 12, 2020. It will no longer be updated.

We are currently creating a new site called "eng.lish.video" and would be grateful if you could access it.

If you have any questions or suggestions, please feel free to write comments in your language on the contact form.

Privacy Policy

Developer's Blog

Buy Me A Coffee